1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ......

35
1 กําหนดการฝกอบรม หลักสูตร การขยายพันธุพืช วันที13,15,๒๗ ธันวาคม 2560 08.30 - 09.00 น. ลงทะเบียน/พิธีเปด/ทดสอบความรูกอนอบรม 09.00 - 10.00 น บรรยายหัวขอ ความสําคัญของการขยายพันธุพืช โดย นางธัญชนก กาศสกุล นักวิชาการสงเสริมการเกษตรชํานาญการ ศูนยสงเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ 10.15 - 12.00 น. การขยายพันธุพืชแบบตางๆ โดย นางธัญชนก กาศสกุล นักวิชาการสงเสริมการเกษตรชํานาญการ ศูนยสงเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ 12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน 13.00 - 15.00 น. ฝกปฏิบัติการขยายพันธุพืชแบบตางๆ โดย นายสุรวิทย รักษวิศิษฏกุล นักวิชาการสงเสริมการเกษตรชํานาญการ ศูนยสงเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ 15.15 - 16.30 น. -สรุปประเมินการฝกอบรม /ทดสอบความรูหลังการอบรม -ปดการฝกอบรม หมายเหตุ 10.00 - 10.15 น. พักรับประทานอาหารวาง (ชวงเชา) 15.00 - 15.15 น. พักรับประทานอาหารวาง (ชวงบาย)

Upload: others

Post on 08-Jul-2020

5 views

Category:

Documents


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

1

กําหนดการฝกอบรม

หลักสูตร การขยายพันธุพืช

วันที่ 13,15,๒๗ ธันวาคม 2560

08.30 - 09.00 น. ลงทะเบียน/พิธีเปด/ทดสอบความรูกอนอบรม

09.00 - 10.00 น บรรยายหัวขอ ความสําคัญของการขยายพันธุพืช โดย นางธัญชนก กาศสกุล

นักวิชาการสงเสริมการเกษตรชํานาญการ

ศูนยสงเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ

10.15 - 12.00 น. การขยายพันธุพืชแบบตางๆ โดย นางธัญชนก กาศสกุล

นักวิชาการสงเสริมการเกษตรชํานาญการ

ศูนยสงเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ

12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน

13.00 - 15.00 น. ฝกปฏิบัติการขยายพันธุพืชแบบตางๆ โดย นายสุรวิทย รักษวิศิษฏกุล

นักวิชาการสงเสริมการเกษตรชํานาญการ

ศูนยสงเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ

15.15 - 16.30 น. -สรุปประเมินการฝกอบรม /ทดสอบความรูหลังการอบรม

-ปดการฝกอบรม

หมายเหตุ 10.00 - 10.15 น. พักรับประทานอาหารวาง (ชวงเชา)

15.00 - 15.15 น. พักรับประทานอาหารวาง (ชวงบาย)

Page 2: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

2

หลักสูตร การขยายพันธุพืช

1. วัตถุประสงค เพื่อใหผูเขารับการฝกอบรม(เกษตรกรทั่วไป)

1 เพื่อใหเกษตรกรตระหนักถึงความสําคัญของงานขยายพันธุพืช

2 เพื่อใหเกษตรกรมีความรูเรื่องการขยายพันธุพืช

ระยะเวลา 1 วัน

2.เนื้อหาวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุพืช (1 ชั่วโมง)

2. การขยายพันธุพืชแบบตางๆ (1 ชั่วโมง 45 นาท)ี

3. ฝกปฏิบัติการขยายพันธุพืช (3 ชั่วโมง )

3.อุปกรณ 1. คอมพิวเตอรโนตบุค

2. เครื่องฉายโปรเจคเตอร

3. กระดานไวทบอรด

4. กระดาษปรูฟ

5. ปากกาเคมี

6. ตนตอไมผล

7. มีดตอนกิ่ง

8. เทปพันกิ่ง

4.วิธีดําเนินการ 1. บรรยาย

2. แบงกลุมฝกปฏิบัติ

3. แจกตนแมพันธุ

4.ประเมินความรูที่ไดรับ

Page 3: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

3

วิชาที่ 1

หลักการขยายพันธุพืช

1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุพืช

2. การขยายพันธุพืชแบบตางๆ

2. แผนการสอน 1. ความสําคัญของการขยายพันธุพืช

2. การขยายพันธุพืชแบบตางๆ

3. powerpoint presentation

Page 4: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

4

เอกสารวิชาการ

หลักการขยายพันธุพืช

ความหมายและความสําคัญของการขยายพันธุพืช

ความหมายของการขยายพันธุพืช (plant propagation) ในทางการเกษตรนัน้ หมายถึง การเพิ่มปริมาณใหตนพืชมีจํานวนมากขึ้น โดยมีจุดมุงหมายเพื่อคงลักษณะพันธุที่ตองการไวใหไดปริมาณมากอยางรวดเร็ว มีผลตอบแทนสูงและดํารงรักษาเผาพันธุไวไมใหสูญพันธุ มีลักษณะทางพันธุกรรมของพอแมไวตรงตามพันธุ สามารถกระทําไดหลายวิธีการโดยมนุษยเปนผูกระทําขึ้น งานขยายพันธุพืชจึงมีบทบาทสําคัญกับงานทางดานพืชสวนเปนอยางมากโดยเฉพาะอยางยิ่งการผลิตตนพันธุสําหรับใชปลูก สามารถนําไปประกอบเปนอาชีพทางดานการขยายพรรณไมจําหนาย ทํารายไดในระยะเวลาสั้น ไมตองลงทุนมากและเสียเวลาปลูกจนผลผลิตถึงระยะเก็บเกี่ยว นักขยายพันธุพืชจะตองเปนผูที่มีความรูทางดานวิทยาศาสตรเกี่ยวกับการขยายพันธุของพืช (science of propagation) ซึ่งไดมาจากพื้นฐานของวิชาการหลายดานในการเขาใจธรรมชาติของพืช การเจริญเติบโต การสืบพันธุและอื่นๆ อีกหลายวิชา รูจักวิธีการปฏิบัติใหไดผลสําเร็จตองอาศัยหลักการทางดานศิลปะของการขยายพันธุ (art of propagation) ทั้งทักษะการทํางานและประสบการณมาประกอบกันดวย นอกจากนั้นสิ่งที่จําเปนอีกประการหนึ่ง คือ ตองรูจักชนิดของพืชใหมากที่สุด จึงจะสามารถเลือกใชวิธีการปฏิบัติไดอยางเหมาะสมและใหผลสําเร็จสูง หลักการขยายพันธุพืชสามารถปฏิบัติได 2 แบบ คือ แบบอาศัยเพศ (sexual propagation) ซึ่งเก่ียวของกับการมารวมตัวกันของเซลลสืบพันธุ จึงมีทั้งโอกาสที่จะไดลักษณะผันแปรที่ดีขึ้นกวาพอแมหรือดอยลงกวาลักษณะเดิมก็ได จึงเปนวิธีการที่ไดมาจากการใชเมล็ด และแบบไมอาศัย (asexual propagation) ดวยวิธีการชักนําใหเกดิเปนตนใหมจากสวนตางๆ ของ ลําตน จึงยังคงลักษณะเหมือนกับตนที่นํามาขยายพันธุ การขยายพันธุพืชท่ีเกี่ยวกับการใชเพศ สวนประกอบที่สําคัญของเมล็ด จะประกอบดวย 3 สวน คือ 1.เปลือกหุมเมล็ด (seed coat) ทําหนาที่ในการปองกันอันตรายที่จะเกิดกับสวนที่อยูภายในเมล็ดและควบคุมใหเมล็ดสามารถงอกไดในสภาพแวดลอมที่เหมาะสมตอการเจริญ เติบโตของพืชนั้นๆ

Page 5: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

5

2.อาหารสะสม (endosperm) เปนแหลงสะสมอาหารไวใหตนกลาสามารถเจริญเติบโตไดในระยะแรก เมล็ดที่มีอาหารสะสมไวมากกวาจะทําใหเมล็ดนั้นมีความแข็งแรง และใหเปอรเซ็นตการงอกสูงกวา พืชบางชนิดเก็บอาหารไวในใบเลี้ยงของคัพภะดวย 3.คัพภะ(embryo) เปนสวนสําคัญที่สุดของเมล็ดที่จะพัฒนาไปเปนสวนตางๆ ของตนพืช เมล็ดพืชทุกชนิดจะประกอบดวยสวนตางๆดังกลาวเชนเดียวกันแตรูปรางของเมล็ดพืชแตละชนิดจะแตกตางกันไปตามองคประกอบภายในและภายนอกของเมล็ด ทําใหเมล็ดสามารถแพรกระจายไปตามสถานที่ตางๆ และมีความสามารถงอกไดแตกตางกัน เชน เมล็ดกลวยไม มีสวนของอาหารสะสมในเมล็ดนอยมาก เมล็ดมีขนาดเล็ก งอกไดไมดีในสภาพธรรมชาติ จึงควรนํามาเพาะบนอาหารสังเคราะหจะไดตนกลาจํานวนมาก การงอกของเมล็ดพืชโดยทั่วไปนั้นจะเกิดไดดี เมล็ดตองมีความพรอมทางสรีรวิทยาแลว ยังจะตองไมมีปจจัยอื่นมายับยั้งการงอกของเมล็ดดวย เชน เปลือกของเมล็ด สารยับยั้งการงอกที่หอหุมอยูที่เปลือกเมล็ด เปนตน ดังนั้นเมล็ดที่นํามาใชเพาะขยายพันธุตองเปนเมล็ดที่มีชีวิต เมล็ดสามารถงอกไดพนจากการพักตัวแลว และมีสภาพแวดลอมที่เหมาะสมตอการงอกดวย เมล็ดพันธุที่ไดมาตรฐานวางจําหนายตามทองตลาดจะตองผานขั้นตอนการรับรองคุณภาพของเมล็ดจากหนวยงานที่รับผิดชอบในการตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดพันธุมาแลว คุณภาพของเมล็ดพันธุ (seed quality) ที่ดีจะตองมีคุณสมบัติดังนี ้ 1.ตรงตามพันธุ (true to type) เปนเมล็ดที่ไดผานการรับรองวาถูกตองตามพันธุ โดยไมมีเมล็ดพันธุอื่นๆ ปะปนมาดวย 2.ปราศจากสิ่งเจือปน (purity) มีความบริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งเจือปน เชน ฝุน เมล็ดพืช และเศษวัสดุอื่นๆ 3.มีความงอกสูง (high germination) เมล็ดมีเปอรเซ็นตการงอกสูงตามมาตรฐานที่กําหนดไว ซึ่งมีความแตกตางกันไปตามแตชนิดของพืช เชน ตั้งแต 40-98 เปอรเซ็นต

4.ปราศจากโรคและแมลงและสวนขยายพันธุของศัตรูพืช สภาพแวดลอมท่ีเหมาะสมตอการงอกของเมล็ดนั้น จะตองประกอบดวย 1.ความชื้นหรือน้ํา เปนปจจัยที่สําคัญในการงอกของเมล็ด ทําใหสวนของเปลือกที่หอหุมเมล็ดอยูนั้นออนตัวและยอมใหน้ําและอากาศผานเขาออกในเมล็ดได ทําใหการทํางานของเอนไซมและขบวนการตางๆ ภายในเซลลเกิดข้ึน และมีสวนในการลําเลียงอาหารไปยังจุดเจริญ (growing point) เกิดการแบงเซลลเจริญเปนตนกลา (seedling) เมล็ดพืชแตละชนิดตองการความชื้นในการงอกของเมล็ดในระดับตางๆ กันไป ตั้งแตใกลจุดเหี่ยวถาวร (permanent wilting point) จนถึงจุดอิ่มตัวของความชื้นในดิน (field capacity) การเตรียมดินหรือวัสดุเพาะจะเปนการชวยปรับปรุงโครงสรางของอนุภาควัสดุเพาะใหเหมาะสมกับเมล็ดในการดูดซึมน้ํา เมล็ดที่มีขนาดเล็กจึงตองมีการเตรียมดินที่พิถีพิถันวาเมล็ดที่มีขนาดใหญ 2.อุณหภูมิ มีความสัมพันธกับการดูดซึมน้ํ าของเมล็ด และกระตุนขบวนการเมตา-โบลิซึ่ม(metabolism) ตางๆ ภายในเมล็ด ทําใหเกิดการสรางและเผาผลาญอาหารภายในเมล็ดพืชที่มีถิ่นกําเนิดในภูมิภาคที่แตกตางกัน จะมีความตองการอุณหภูมิที่เหมาะสมในการงอกแตกตางกันดวย อุณหภูมิที่เหมาะสมในการงอกของพืชสวนใหญอยูระหวาง 25-30 องศาเซลเซียส 3.ออกซิเจน เซลลของสิ่งมีชีวิตตองหายใจเพือ่สลายอาหารที่สะสมไวมาใชในขบวนการเจริญเติบโตและการงอกของเมล็ด เมลด็พืชแตละชนิดมีความตองการปริมาณออกซิเจนมากหรือนอยขึ้นอยูกับอาหารที่สะสมอยูในเมล็ดนั้น เมล็ดที่มีไขมัน (fat) สะสมอยูมาก เชน เมล็ดถั่วเหลือง ทานตะวัน ตองการใชออกซิเจนในการงอก

Page 6: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

6

ของเมล็ด มากกวาเมล็ดที่มีแปงเปนอาหารสะสม ดังนั้นสภาพที่เมล็ดถูกฝงลึกหรือดินในแปลงเพาะเปนดินเหนียวที่มีน้ําขังแฉะ จึงทําใหการงอกของเมล็ดชากวาปกติหรือเมล็ดอาจตายได 4.แสง อาจจะมีสวนชวยในการงอกหรือยับยั้งการงอกของเมล็ดได สวนของเมล็ดที่รับรูหรือตอบสนองตอความยาวคลื่นแสงในการงอกนั้นไดแก องควัตถุที่พบอยูในเปลือกหุมเมล็ด (seed coat) ใบเลี้ยง (cotyledon) และคัพภะ (embryo) การกลบเมล็ดดวยวัสดุเพาะ จึงตองพิจารณาใหเหมาะสมตามชนิดของเมล็ดพืชที่ตองการแสงในการงอกของเมล็ดดวย เทคนิคอื่นๆ ในการเพาะเมล็ดที่ชวยใหเมล็ดสามารถงอกได สามารถปฏิบัติดวยวิธีการตางๆ ตอเมล็ด เชน การทําลายการพักตัวของเมล็ดดวยวิธีกล การแชดวยน้ําและสารเคมี ความรอน ความเย็น เปนตน วิธีการเหลานี้จะชวยใหเมล็ดสามารถงอกไดในระยะเวลาที่เร็วกวาปกติ จึงมีเปอรเซ็นตการงอกของเมล็ดสูง และลดอัตราการเสี่ยงตอการสูญเสียเมล็ดพันธุไป วิธีการเพาะเมล็ด สามารถทําไดหลายวิธีคือ 1.การเพาะเมล็ดในแปลง นิยมใชในกรณีที่ตองการตนกลาจํานวนมาก ไมตองการความปราณีตมากนัก เมล็ดพันธุมีราคาไมแพงหรือตนกลานั้นไมตองการการยายปลูกหรืออาจจะชะงักงันจากการยายปลูกได การเพาะเมล็ดสามารถปฏิบัติได 3 วิธี คือ

- การเพาะเมล็ดเปนหลุม โดยวิธีการหยอดเมล็ดลงในหลุมที่ทําการเตรียมดินและกะระยะปลูก ตามตองการไวแลว อาจใชเครื่องมือทุนแรงชวยในการหยอดเมล็ดจํานวนเมล็ดที่ใชตอหลุมจะขึ้นอยูกับเปอรเซ็นตการงอกของเมล็ด และสภาพกรดูแลเอาใจใส เชน ผักกาดหัว ขาวโพดหวาน - การเพาะเมล็ดเปนแถว โดยการโรยเมล็ดเปนแถวตามแนวบนแปลงที่ไดเตรียมดินไวแลวตามระยะหางระหวางแถวที่กําหนด สามารถทําใหสะดวกในการปฏิบัติงาน ขณะทําการยายตนกลา หรือ การถอนแยกตนที่ไมแข็งแรงออกใหไดระยะระหวางตนตามตองการ เชน ผักบุง แครอท - การเพาะเมล็ดโดยวิธีการหวาน เปนวิธีการหวานเมล็ดลงในพื้นที่ที่ไดเตรียมดินแลว นิยมทํากันในการปลูกผักกินใบบนแปลงที่ยกรอง เชน คะนา ผักกาดจอน ปวยเหล็ง และคลุมดินรักษาความชื้นไวโดยใชวัสดุคลุมดิน เชน ฟางขาว แกลบ เปนตน 2.การเพาะเมล็ดในวัสดุเพาะ เปนวิธีที่นิยมใชกับเมล็ดพืชที่มีราคาแพง หายาก ตองการการดูแลเอาใจใสอยางใกลชิดในระยะตนกลา เหมาะกับพืชที่ตองการการยายปลูก สามารถกําหนดระยะเวลาปลูกไดตามตองการ และสามารถปลูกซอมแซมสวนที่เสียหายได เชน ดาวเรือง มะเขือเทศ พริก วัสดุเพาะเมล็ดที่เหมาะสมในการเลือกใช ควรเปนวัสดุที่ระบายน้ําไดดี เก็บความชื้นไดเหมาะสม โปรง ถายเทอากาศไดดี มีน้ําหนักเบา สะอาดปราศจากโรคและแมลง หาไดงายในทองถิ่น โดยนําวัสดุเพาะมาผสมคลุกเคลาเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติใหเหมาะสมตามตองการตัวอยางวัสดุเพาะที่นิยมใชกันไดแก ทรายผสมขุยมะพราว อัตราสวน 1 : 1 โดยปริมาตร ถาเปนเมล็ดที่เปนขนาดเล็กมากควรรอนวัสดุเพาะที่เปนสวนผสมของทราย : ดิน : ปุยอินทรียในอัตราสวน 1 : 1 : 1 โดยปริมาตร เมล็ดพืชทั่วไปนั้นสามารถใชอาหารสะสมภายในเมล็ดที่มีอยางเพียงพอในการเจริญเติบโตในระยะแรกกอนที่จะทําการยายปลูกตอไปสวนผสมของแรธาตุอาหารในวัสดุเพาะจะมีความจําเปนกับเมล็ดที่มีอาหารสะสมอยูนอย หรือเมล็ดที่ใชระยะเวลาอยูในวัสดุเพาะเปนเวลานาน ภาชนะท่ีใชสําหรับเพาะเมล็ดสามารถเลือกใชตามความสะดวกในการปฏิบัติงาน เชน ตะกราพลาสติก กระถาง ถุงพลาสติก ลังไม กระบะ เปนตน

การขยายพันธุโดยเมล็ด เปนวิธีขยายพันธุตามธรรมชาติของพืชที่มีดอก โดยที่การผสมพันธุจะเกิดบนตนเดียวกันหรือคนละตนก็ได การขยายพันธุดวยเมล็ดมีขอดีและขอเสีย ดังนี้

Page 7: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

7

ขอดี ขอเสีย

-แพรพันธุไดรวดเร็ว -ใหผลิตผลชา -มีระบบรากแข็งแรงดีอายุยืน -เมล็ดเนาเสียการงอกต่ํา -การกลายพันธุทําใหเกิดพันธุใหม -อาจมีการกลายพันธุ -มีรากแกว ใชรากเก็บอาหาร (ผักกาดหัว มันเทศ) -เก็บรักษายาก อาจถูกโรคและแมลง

รบกวนเปอรเซ็นตการงอกต่ํา -ไดพืชที่สมบูรณ ขนาดมาตรฐานเทากัน (อายุ การออกดอก…) -สะดวก ขนสงเมล็ดไปไดไกลเพราะขนาดเล็ก -เมล็ดจากพันธุใหมจะคอยปรับตัวเขากับสิ่งแวดลอมดีกวาใชกิ่งกาน -ลงทุนถูก เพราะเมล็ดถูกกวากิ่งตา กิ่งตอน ฯลฯ -ใหผลดกกวา เชนมะมวงจากเมล็ดใหลูกดก กวาจากกิ่งตอน

การขยายพันธุพืชท่ีไมเกี่ยวกับการใชเพศ (asexual propagation) เปนวิธีการขยายพันธุโดยใชสวนตางๆ ของตนพืช ในแตละสวนของพืชนั้นไดมาจากการแบงเซลลของจุดเจริญ และพัฒนาไปทําหนาที่ตางๆ กันทางกิ่งกาน (vegetative parts) ขบวนการแบงเซลลที่เกิดขึ้นนี้จะคงลักษณะทางพันธุกรรมไว การแบงเซลลของพืชนั้นจะพบอยูใน 3 สวนดวยกัน คือ บริเวณปลายยอด บริเวณปลายราก และจากสวนของเนื้อเยื่อเจริญที่อยูรอบลําตน (cambium cell) นอกจากนั้นแลว เซลลพืชบนสวนใดสวนหนึ่ งของตนพืชยังสามารถเปลี่ ยนไปเปนจุดเจริญ (meristematic cell) และพัฒนาตอไปเปนยอดหรือรากได เรียกปรากฏการณเชนนี้วา “dedifferentiation” และเซลลที่มีชีวิตทุกเซลลมีขอมูลทางพันธุกรรมที่จําเปนสําหรับสรางสวนตางๆ ทั้งหมดของพืชได เรียกปรากฏการณนี้วา “totipotency” จึงทําใหสามารถนําเอาสวนหนึ่งสวนใดของพืช มาทําใหเกิดเปนตนพืชตนใหมและใชในการขยายพันธุตอไปได สวนประกอบตางๆ ของพืชที่สามารถนําไปขยายพันธุไดนั้น ไดแก 1.ราก (root) สามารนําไปตัดแบงกอนนําไปชํา เพื่อทําใหเกิดตาและรากขึ้นใหม เชน สาเก มันเทศ มะขามปอม กาสะลอง ฝรั่ง

2.ลําตน (stem) โดยนําสวนของกิ่งกานของลําตนมาปกชําหรือโดยการตอนกิ่ง สามารถแบงสวนของลําตนที่นํามาใชได 3 แบบ

2.1 ใชสวนของลําตนจริง เชน กุหลาบ ชบา เล็บครุฑ วาสนา ไผ 2.2 ใชสวนของลําตนที่เปลี่ยนรูปไป สามารถแยกสวนออกมาขยายพันธุไดงายตามธรรมชาติ เชน - รันเนอร(runners) คือ ตนพิเศษชนิดหนึ่งที่เจริญออกมาจากขอที่อยูบริเวณรอยตอระหวางตนและรากของพืชบางชนิดที่เจริญอยูในแนวระดับผิวดินและเกิดเปนตนใหม เชน สตรอเบอรี่ - สโตลอนส(stolons) คือ ยอดที่เจริญขึ้นชนิดหนึ่งเมื่อสัมผัสกับพื้นดินแลวจะเกิดรากเปนตนใหม เชน หญาแพรก (Bermuda grass) - ออฟเซทส(offsets) หรือ ตะเกียง เปนลักษณะการเจริญของกิ่งขางที่เกิดขึ้นจากโคนของลําตนในพืชบางชนิด ใชเรียกตนพืชที่มีลักษณะอวนสั้น และมีใบเวียน เชน สับปะรด อินทผาลัม กลวย

Page 8: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

8

- ซักเกอร(suckers) หรือ หนอ เปนกิ่งท่ีเกิดข้ึนบนตนใตระดับผิวดิน มักเปนกิ่งที่เกิดขึ้นจากตาประเภท adventitious bud บนราก หรือ บริเวณรอยตอระหวางตนและรากก็ได เชน สับปะรด หนอไมฝรั่ง สนประดิพัทธ - คราวน (crown) คือ สวนของลําตนที่เกิดขึ้นในแตละปบริเวณตําแหนงที่อยูใกลผิวดินของบริเวณรอยตอระหวางตนและรากในพวกไมเนื้อออนถาวร (herbaceous perennials) และสวนของตนแมจะไมมีการเจริญเติบโตและแหงตายไป เชน อัฟริกันไวโอเล็ต เยอบีรา 2.3ใชสวนของลําตนและรากพิเศษ เปนสวนของตนพืชที่เปลี่ยนไปทําหนาที่เก็บสะสมอาหาร และเปนสวนที่เจริญเติบโตในฤดูกาลตอไปได โดยสวนอื่นๆ ของตนจะแหงตายเมื่อสิ้นสุดการเจริญเติบโต - บัลบ(Bulbs) ประกอบดวยลําตนที่สั้นและอวบ มักจะหงายตั้งขึ้น ที่ปลายยอดเปนจุดเจริญ หรือจุดที่ใหกําเนิดดอกที่ถูกหอหุมดวยกาบใบสะสมอาหารที่หนา เชน ลิลี่ กระเทียม หอมหัวใหญ หอมแดง - คอรม(corms) คือ สวนโคนของตนพืชที่พองดตออกสะสมอาหาร และหอหุมดวยกาบ สามารถมองเห็นขอและปลองไดชัดเจน เชน แหว แกลดิโอลัส - ทิวเบอร (tubers) เปนสวนของพืชที่สะสมอาหารไว มีลักษณะอวนอยูใตระดับผิวดิน อาจเปนสวนของตน เชน มันฝรั่ง บอนประดับ หรือ สวนของราก เชน กระชาย มันเทศ รักเร - ไรโซม (rhizomes) เปนลําตนที่มีขอและปลองที่มีลักษณะอวบอวนหรือผอมบาง และเจริญอยูในแนวระดับซึ่งอาจจะอยูใตผิวดินหรือเจริญอยูเหนือดินก็ได ลําตนที่อยูดานลางจะมีสวนของใบและชอดอกเจริญขึ้นมาเหนือผิวดิน เชน หญาคา ขิง ปกษาสวรรค ธรรมรักษา การขยายพันธุพืชแบบตางๆ

การปกชํา การตอนกิ่ง การติดตา การตอก่ิง การเสียบยอด การขยายพันธุแบบควบแนน การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

การปกชํา

การปกชํา คือ การตัดสวนใดสวนหนึ่งของพืช เชน ใบ กิ่ง ลําตน ราก ออกจากตนเดิม ไปเก็บไวในที่ที่มี สภาพแวดลอมที่เหมาะสม ทําใหสวนตางๆดังกลาวของพืชงอกรากและแตกยอด เจริญเติบโตเปนพืชตนใหมตอไปได 1. ประเภทของการปกชํา มีหลายวิธี ไดแก

“การปกชํา” หมายถึง การนํารากของพืชมาตัดเปนสวนๆ ใหยาวประมาณ 2-4 นิ้ว แลวนําไปปกชําลงในวัสดุ ปกชํา เพื่อใหสวนของรากงอกและแตกยอดออนเจริญเติบโตเปนพืชตนใหม พืชที่สามารถขยายพันธุโดยการปกชําราก เชน สาเก เข็ม ขนุน มะไฟ มันเทศ โมก

“การปกชําใบ” หมายถึง การนําเอาแผนใบหรือใบที่มีกานใบติด มาปกชําลงในวัสดุปกชํา เพื่อใหสวนของใบนี้ ออกราก แตกยอดออนเจริญเติบโตเปนพืชตนใหม

Page 9: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

“การปกชํากิ่งหรือลําตน” ปกในวัสดุปกชํา

การปกชําแบบนี้แบงตามลักษณะเนื้อไม ไดแก-การปกชํากิ่งแกหรือก่ิงที่มีอายุมาก พืชที่นิยมปกชํา ไดแก เฟองฟา กุหลาบ ชบา พูระหง-การปกชํากิ่งก่ึงออนก่ึงแก พืชที่นิยมปกชํา ไดแก ฝรั่ง ชมพู ลําไย-การปกชํากิ่งออนหรือยอดออน การปกชําลักษณะนี้ตองใชกิ่งมีใบติดมาดวยเปนจํานวนมาก

ทําหนาที่ สังเคราะหดวยแสง เพราะกิ่งไมมีอาหารสะสมเพื่อนํามาสรางรากและยอด พืชที่นิยมปกชําวิธีนี้ เชน แกว กุหลาบ โกสน ดาวเรือง เบญจมาศ พุด ไทร

2. วิธีการปกชํา มีวิธีปฏิบัติ ดังนี้1. เลือกลักษณะของกิ่งที่จะปกชํา แลวตัดกิ่งโดยลักษณะการตัดกิ่งขึ้

"ถาเปนกิ่งแก ควรตัดใหมีความยาว ป ขอ เล็กนอย แลวดานปลายของกิ่งเหนือกวาขอเล็กนอย ป เดียวกัน แตใหมีใบติดอยูทางดานปลายของกิ่งเล็กนอย ป 1 ใน 3ของกิ่ง

การเลือกและริดใบของกิ่งชํา นําสวนโคนของกิ่งปกลงในวัสดุปกชําปลายของกิ่งเปนแนวตั้งตรง เพื่อปองกันไมใหน้ําขังบริเวณรอยแผลซึ่งจะชวยลดการเนาของกิ่งถาทําการปกชํากิ่งครั้งละเปนจํานวนมาก ควรจัดระยะกิ่งท่ีปกใหหางกันพอประมาณ

” หมายถึง การนําเอาสวนของกิ่งหรือลําตนพืชมาตัดแบงออกเปนสวนๆ นําไป

การปกชําแบบนี้แบงตามลักษณะเนื้อไม ไดแก การปกชํากิ่งแกหรือก่ิงที่มีอายุมาก พืชที่นิยมปกชํา ไดแก เฟองฟา กุหลาบ ชบา พูระหงการปกชํากิ่งก่ึงออนก่ึงแก พืชที่นิยมปกชํา ไดแก ฝรั่ง ชมพู ลําไย การปกชํากิ่งออนหรือยอดออน การปกชําลักษณะนี้ตองใชกิ่งมีใบติดมาดวยเปนจํานวนมาก

ทําหนาที่ สังเคราะหดวยแสง เพราะกิ่งไมมีอาหารสะสมเพื่อนํามาสรางรากและยอด พืชที่นิยมปกชําวิธีนี้ เชน แกว กุหลาบ โกสน ดาวเรือง เบญจมาศ พุด ไทร

มีวิธีปฏิบัติ ดังนี้ เลือกลักษณะของกิ่งที่จะปกชํา แลวตัดกิ่งโดยลักษณะการตัดกิ่งขึ้นอยูกับลักษณะของเนื้อไม ดังนี้

ถาเปนกิ่งแก ควรตัดใหมีความยาว ป 6-10″ ตัดใหเปนแผลทํามุมเฉียง 45 -60 องศา ดานลางของกิ่งต่ํากวาขอ เล็กนอย แลวดานปลายของกิ่งเหนือกวาขอเล็กนอย ป 1-2 ซม. ‘ ถาเปนกิ่งกึ่งแกกึ่งออน ใหตัดในลักษณะ

มีใบติดอยูทางดานปลายของกิ่งเล็กนอย "ถาเปนกิ่งออน ใหตัดกิ่งยาวประมาณ

นําสวนโคนของกิ่งปกลงในวัสดุปกชํา ใหลึกประมาณ 1 ใน 3 ของความยาวของก่ิงเพื่อปองกันไมใหน้ําขังบริเวณรอยแผลซึ่งจะชวยลดการเนาของกิ่งถาทําการปกชํากิ่ง

ควรจัดระยะกิ่งท่ีปกใหหางกันพอประมาณ ถาปกกิ่งชิดกันเกินไปจะทําใหก่ิงเนาเสียได

9

หมายถึง การนําเอาสวนของกิ่งหรือลําตนพืชมาตัดแบงออกเปนสวนๆ นําไป

การปกชํากิ่งแกหรือก่ิงที่มีอายุมาก พืชที่นิยมปกชํา ไดแก เฟองฟา กุหลาบ ชบา พูระหง

การปกชํากิ่งออนหรือยอดออน การปกชําลักษณะนี้ตองใชกิ่งมีใบติดมาดวยเปนจํานวนมาก เพื่อจะไดทําหนาที่ สังเคราะหดวยแสง เพราะกิ่งไมมีอาหารสะสมเพื่อนํามาสรางรากและยอด พืชที่นิยมปกชําวิธีนี้ เชน

นอยูกับลักษณะของเนื้อไม ดังนี้ องศา ดานลางของกิ่งต่ํากวา

ถาเปนกิ่งกึ่งแกกึ่งออน ใหตัดในลักษณะถาเปนกิ่งออน ใหตัดกิ่งยาวประมาณ 6-8" ตัดใบออก

ของความยาวของก่ิง โดยใหรอยแผลตัด ดานเพื่อปองกันไมใหน้ําขังบริเวณรอยแผลซึ่งจะชวยลดการเนาของกิ่งถาทําการปกชํากิ่ง

ถาปกกิ่งชิดกันเกินไปจะทําใหก่ิงเนาเสียได

Page 10: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

2. รดน้ําอยางสม่ําเสมอ วันละ และใหกิ่ง ปกชําไดรับแสงแดดรําไร เมื่อกิ่งปกชําออกรากสมบูรณและแข็งแรงดีแลวไปเก็บไวในที่รมๆ ประมาณ 3-5 ภายในกิ่ง และสภาพแวดลอมภายนอกตองคัดเลือกทั้งสภาพภายในกิ่งและสภาพแวดลอมใหเหมาะสมกับการเกิดรากตัดชํานั้นไดผลดีสภาพดังกลาว ไดแกก. สภาพภายในกิ่ง เปนเรื่องที่เก่ียวของหรือมีอยูในกิ่งตัดชํานั้นเอง ไดแกสภาพดังตอไปนี้๑. การเลือกกิ่ง ควรจะเลือกกิ่งท่ีมีลักษณะดังตอไปนี้

๑.๑ เลือกกิ่งที่มีอาหารมาก สําหรับการตัดชํากิ่งแกไมมีใบ อาหารจะสะสมอยูภายในกิ่ง ซึ่งกิ่งที่แกมาก ภายในกิ่งมาก สวนการตัดชํากิ่งออนหรือก่ิงกึ่งแกก่ึงออน รวมทั้งการตัดชําพืชพวกไมเนื้อออน อาหารจบนกิ่ง ถาก่ิงยิ่งมีใบมาก ก็แสดงวาอาหารภายในกิ่งยิ่งมีมาก การเกิดรากและ แตกยอดก็งายข้ึน ๑.๒ อายุของตนพืชที่จะนํามาตัดชําควรเลือกกิ่งจากตนที่มีอายุนอย จากตนที่มีอายุนอยจะออกรากไดงายกวากิ่งท่ีนํามาจากตนที่มีอายุมากๆ ๑.๓ เลือกชนิดของกิ่งใหเหมาะกับการเกิดราก โดยพิจารณาดังนี้ คือถาเปนการตัดชํากิ่งแกไมมีใบ

ควรเลือกกิ่งขางมากกวากิ่งกระโดง เพราะกิ่งขางมีอาหารภายในกิ่งมากกวากิ่งกร

ออนหรือกิ่งมีใบ การใชกิ่งกระโดงจะออกรากงายกวากิ่งขาง ถาเปนการตัดชํากิ่งแก ควรเลือกบริเวณที่เปนโคน

กิ่ง แตถาเปนการตัดชํากิ่งออนหรือกิ่งมีใบควรเลือกบริเวณปลายกิ่งหรือสวนยอดของกิ่งควรเลือกตัดโคนกิ่งให

รอยตัดอยูบริเวณที่เปนขอหรือใตขอเล็กนอย เพราะที่ขอมีอาหารมากกวาบริเวณที่เปนปลอง ซึ่งจะทําใหการ

ออกรากเกิดมากข้ึน ควรเลือกใชกิ่งที่เปนกิ่งใบ

ซึ่งจะชวยใหเกิดรากงายกวาใชกิ่งดอกหรือก่ิงที่อยูในระยะการออกดอกและติดผล

นํากิ่งไปปกชําในวัตถุที่เตรียมไว

รดน้ําอยางสม่ําเสมอ วันละ 2-3 ครั้ง แตอยาใหวัสดุปกชํามีน้ําทวมขัง หรือแฉะจนเกินไป และใหกิ่ง ปกชําไดรับแสงแดดรําไร เมื่อกิ่งปกชําออกรากสมบูรณและแข็งแรงดีแลวจึงยายออกจากแปลงปกชํา

5 วัน จึงปลูกลงแปลงหรือกระถางปจจัยที่จะทําใหกิ่งตัดชําออกรากดีและสภาพแวดลอมภายนอก มีสวนอยูมากที่จะทําใหกิ่งเกิดรากดีหรือไมดีซึ่งในการตัดชําผูปฏิบัติจะ

ตองคัดเลือกทั้งสภาพภายในกิ่งและสภาพแวดลอมใหเหมาะสมกับการเกิดราก และการเกิดยอดไดแก

สภาพภายในกิ่ง เปนเรื่องที่เก่ียวของหรือมีอยูในกิ่งตัดชํานั้นเอง ไดแกสภาพดังตอไปนี้การเลือกกิ่ง ควรจะเลือกกิ่งท่ีมีลักษณะดังตอไปนี้

เลือกกิ่งที่มีอาหารมาก เพราะอาหารภายในกิ่งจําเปนในการเกิดรากและการเจริญของกิ่งการตัดชํากิ่งแกไมมีใบ อาหารจะสะสมอยูภายในกิ่ง ซึ่งกิ่งที่แกมาก (ไมเกิน

ภายในกิ่งมาก สวนการตัดชํากิ่งออนหรือก่ิงกึ่งแกก่ึงออน รวมทั้งการตัดชําพืชพวกไมเนื้อออน อาหารจบนกิ่ง ถาก่ิงยิ่งมีใบมาก ก็แสดงวาอาหารภายในกิ่งยิ่งมีมาก การเกิดรากและ แตกยอดก็งายข้ึน

อายุของตนพืชที่จะนํามาตัดชําควรเลือกกิ่งจากตนที่มีอายุนอย (นับจากเพาะเมล็ดจากตนที่มีอายุนอยจะออกรากไดงายกวากิ่งท่ีนํามาจากตนที่มีอายุมากๆ

เลือกชนิดของกิ่งใหเหมาะกับการเกิดราก โดยพิจารณาดังนี้ คือถาเปนการตัดชํากิ่งแกไมมีใบ

ควรเลือกกิ่งขางมากกวากิ่งกระโดง เพราะกิ่งขางมีอาหารภายในกิ่งมากกวากิ่งกระโดง แตถาเปนการตัดชํากิ่ง

ออนหรือกิ่งมีใบ การใชกิ่งกระโดงจะออกรากงายกวากิ่งขาง ถาเปนการตัดชํากิ่งแก ควรเลือกบริเวณที่เปนโคน

กิ่ง แตถาเปนการตัดชํากิ่งออนหรือกิ่งมีใบควรเลือกบริเวณปลายกิ่งหรือสวนยอดของกิ่งควรเลือกตัดโคนกิ่งให

ปนขอหรือใตขอเล็กนอย เพราะที่ขอมีอาหารมากกวาบริเวณที่เปนปลอง ซึ่งจะทําใหการ

ออกรากเกิดมากข้ึน ควรเลือกใชกิ่งที่เปนกิ่งใบ (vegetative shoots) คือกิ่งท่ีอยูในระยะการเจริญ

ซึ่งจะชวยใหเกิดรากงายกวาใชกิ่งดอกหรือก่ิงที่อยูในระยะการออกดอกและติดผล

10

ครั้ง แตอยาใหวัสดุปกชํามีน้ําทวมขัง หรือแฉะจนเกินไป จึงยายออกจากแปลงปกชํา

ปจจัยที่จะทําใหกิ่งตัดชําออกรากดีทั้งสภาพมีสวนอยูมากที่จะทําใหกิ่งเกิดรากดีหรือไมดีซึ่งในการตัดชําผูปฏิบัติจะ

และการเกิดยอด จึงจะทําใหการ

สภาพภายในกิ่ง เปนเรื่องที่เก่ียวของหรือมีอยูในกิ่งตัดชํานั้นเอง ไดแกสภาพดังตอไปนี ้

เพราะอาหารภายในกิ่งจําเปนในการเกิดรากและการเจริญของกิ่งไมเกิน ๑ ป) อาหารยิ่งสะสมอยู

ภายในกิ่งมาก สวนการตัดชํากิ่งออนหรือก่ิงกึ่งแกก่ึงออน รวมทั้งการตัดชําพืชพวกไมเนื้อออน อาหารจะมีอยูที่ใบบนกิ่ง ถาก่ิงยิ่งมีใบมาก ก็แสดงวาอาหารภายในกิ่งยิ่งมีมาก การเกิดรากและ แตกยอดก็งายข้ึน

นับจากเพาะเมล็ด)เพราะกิ่ง

เลือกชนิดของกิ่งใหเหมาะกับการเกิดราก โดยพิจารณาดังนี้ คือถาเปนการตัดชํากิ่งแกไมมีใบ

ะโดง แตถาเปนการตัดชํากิ่ง

ออนหรือกิ่งมีใบ การใชกิ่งกระโดงจะออกรากงายกวากิ่งขาง ถาเปนการตัดชํากิ่งแก ควรเลือกบริเวณที่เปนโคน

กิ่ง แตถาเปนการตัดชํากิ่งออนหรือกิ่งมีใบควรเลือกบริเวณปลายกิ่งหรือสวนยอดของกิ่งควรเลือกตัดโคนกิ่งให

ปนขอหรือใตขอเล็กนอย เพราะที่ขอมีอาหารมากกวาบริเวณที่เปนปลอง ซึ่งจะทําใหการ

คือกิ่งท่ีอยูในระยะการเจริญ

Page 11: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

11

๑.๔ การเลือกฤดูการตัดชํากิ่งใหเหมาะ คือ เปนการตัดชํากิ่งแกที่ไมมีใบ ควรจะตัดชํากิ่งในระยะที่

กิ่งพักการเจริญ โดยเฉพาะอยางยิ่งเมื่อตาบนกิ่งเริ่มจะเจริญใหมอีกครั้งหนึ่ง สวนการตัดชํากิ่งออนนั้น อาจทําได

เมื่อกิ่งเจริญไดระยะหนึ่งโดยกิ่งท่ีเจริญ นั้นมีความแข็ง (firmness) พอสมควร และมีใบเจริญเติบโตเต็มที่แลว

สําหรับการตัดชําไมผลหรือไมประดับบางชนิดที่ออกรากคอนขางยากการใชกิ่งที่แข็ง กลม และมีเสนลายบนกิ่ง

เล็กนอยจะออกรากไดดีกวาใชกิ่งคอนขางออน

๒. การปฏิบัติบางอยางตอก่ิงตัดชํา

๒.๑ การเลือกกิ่งที่มีตาและใบ ถาเปนกิ่งแกควรเลือกกิ่งที่มีตา เพราะจะชวยใหออกรากได ดีขึ้น

โดยเฉพาะเมื่อตานั้นอยูในระยะเริ่มเจริญสวนการตัดชําแบบกิ่งออนหรือกิ่งกึ่งแกกึ่งออน ใบบนกิ่งจําเปนอยางยิ่ง

ในการเกิดรากเพาะใบชวยสรางอาหารและฮอรโมนชวยการออกรากใหแกกิ่งตัดชํา

๒.๒ การจัดวางกิ่งตัดชําใหถูกตองตามหัวทายของกิ่ง ในการตัดชําตน รากจะออกที่โคนกิ่ง และแตกยอด

ที่ปลายกิ่ง สวนการตัดชํารากก็จะเกิดรากที่ปลายทอนราก และจะเกิดยอดที่โคนทอนรากฉะนั้นในการวางกิ่งตัด

ชํา ถาเปนการตัดชํากิ่งหรือตน จึงตองเอาโคนกิ่งปกลงในวัตถุปกชํา สวนการตัดชําราก จะเอาโคนทอนรากโผล

ขึ้นและเอาปลายทอนรากปกลง การปกกิ่งกลับทิศทางจะไมทําใหตําแหนงของการเกิดรากและแตกยอดตอง

เปลี่ยนแปลงไปได แตจะทําใหกิ่งไมเกิดรากและเกิดยอด

๒.๓ การทําแผลโคนกิ่ง แผลโคนกิ่งจะชวยใหกิ่งมีเนื้อที่ที่จะเกิดรากไดมากขึ้น โดยเฉพาะสําหรับพืชที่

เกิดรากเฉพาะที่แผลรอยตัดแหงเดียว นอกจากจะชวยใหกิ่งเกิดจุดกําเนิดรากไดงายแลวยังชวยใหกิ่งดูดน้ําและ

ฮอรโมนไดมากขึ้นอีกดวย

๒.๔ การใชฮอรโมนและสารบางอยางชวยการออกรากเปนที่ทราบกันแลววา ฮอรโมนชวยใหกิ่งตัดชํา

ออกรากดีขึ้น คือชวยใหเกิดรากมาก ออกรากไวและรากเจริญไดเร็วขึ้นสารฮอรโมนสังเคราะหที่เปนตัวสารเคมีที่

ใชผสมอยูในชื่อฮอรโมนการคาตางๆ นั้นมักจะมีสารฮอรโมนอยูสองชนิด คือ ไอบี เอ (IBA) หรือชื่อเต็ม คือ กรด

อินโดลบิวไทริค (indolebutyric acid) และ เอ็นเอเอ (NAA) หรือชื่อเต็มคือกรดแนฟทาลีนอะซีติก

(naphthaleneaceticacid) สารฮอรโมนทั้งสองชนิดนี้เปนสารที่เสื่อมชาคือไมสูญเสียงาย แตในการใชมีขอที่ตอง

คํานึงถึงก็คือ การใชฮอรโมนกับพืชใด ควรจะรูความเขมขนที่แนนอนและใหพอเหมาะกับพืชนั้นๆ เพราะการใช

ฮอรโมนที่ออนไปจะไมไดผลเลย (เหมือนจุมน้ํา)สวนการใชฮอรโมนที่แรงเกินไปจะเปนการทําลายกิ่งคือ โคนกิ่ง

จะไหมดํา (เหมือนจุมกิ่งในน้ํากรด)นอกจากจะมีการใชฮอรโมนทําใหกิ่งพืชออกรากแลว ยังมีการใชสารอื่นๆ

รวมทั้งแรธาตุบางอยางในการตัดชําพืชบางชนิดอีกดวย เชน มีการใชวิตามิน บี ๑ (B1) ชวยการเจริญของปลาย

ราก และการใชโบรอน (boron)ใสลงในวัตถุปกชํา จะชวยใหกิ่งตัดชําของพืชบางชนิดออกรากดีขึ้น

ข. การจัดสภาพแวดลอมใหกับก่ิงตัดชําในระหวางรอการออกราก

๑. การจัดความชื้นในอากาศรอบๆ กิ่งตัดชําความชื้นในอากาศเกี่ยวของกับ การตัดชํากิ่งพืชที่มีใบซึ่ง

ไดแก การตัดชําแบบใชกิ่งออน กิ่งกึ่งแกกึ่งออน การตัดชําไมเนื้อออน รวมทั้งการตัดชําใบดวย โดยที่กิ่งตัดชํา

เหลานี้จําเปนตองรักษาใบไวปรุงอาหาร เพื่อชวยการออกราก ฉะนั้นจึงตองรักษาใบไวใหสดและติดอยูกับกิ่ง

ตลอดไป แตการที่ใบจะสดอยูไดก็จะตองมีความชื้นในอากาศรอบๆ ใบสูงพอ น้ําจากใบจึงจะไมคายออกมาและ

ใบก็จะไมเหี่ยวดวยเหตุนี้การตัดชํากิ่งมีใบจึงตองรักษาความชื้นของอากาศรอบๆ ใบ ใหสูงอยูตลอดเวลาซึ่งเรา

Page 12: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

12

อาจทําไดโดยคอยรดน้ําที่พื้นที่ขางๆ กระบะปกชําเสมอๆ หรือคอยพรมน้ํากิ่งตัดชําบอยๆ ฉีดหรือพนละอองน้ํา

ใหจับใบอยูตลอดเวลาหรือเปน ระยะ ซึ่งวิธีการหลังนี้อาจใชคนชวยฉีดพน หรือโดยการใชเครื่องพนน้ําอัตโนมัติ

(autometic mist) ก็ได

๒. อุณหภูมิกับการออกรากของกิ่งตัดชําโดยปกติ อุณหภูมิที่จะทําใหกิ่งตัดชําออกรากไดดีจะอยู

ระหวาง ๗๐ องศา – ๘๐ องศา ฟ. สําหรับบานเราอุณหภูมิที่จําเปนในการการออกรากในพืชทั่วๆ ไปจะไมคอย

เปนปญหา เชน กุหลาบ สามารถออกรากไดดีไมวาปกชําในฤดูหนาว ฤดูฝนหรือฤดูรอนก็ตามเวนแตในพืชบาง

ชนิดที่เจริญไดดีในฤดูรอน เชน ในมะลิ จะออกรากไดดีในฤดูรอนหรือฤดูฝน แตจะไมคอยออกรากหรือออกราก

ยากเมื่อปกชําในฤดูหนาว

๓. แสงสวางกับการออกรากแสงสวางมีความจําเปนสําหรับการตัดชํากิ่งพืชที่ตองมีใบติดและการตัดชํา

ใบ เพราะแสงสวางจําเปนในการปรุงอาหาร รวมทั้งสรางสารฮอรโมนเพื่อชวยการออกรากของกิ่งตัดชํา ฉะนั้นใน

กิ่งตัดชําที่มีใบและเปนพืชชอบแดด การใหกิ่งตัดชําไดรับแสงมากเทาไร ก็จะชวยใหการออกรากดีขึ้นเทานั้น สวน

พืชที่ไมทนแสง (แสงแดด) เชน พืชที่ใชประดับในอาคาร (house plants) การพรางแสงใหกับกิ่งโดยใหเหลือแสง

เพียง ๓๐ เปอรเซ็นต หรืออยางนอยที่สุด ๑๕๐-๒๐๐ แรงเทียน จะชวยใหกิ่งเหลานี้ออกรากไดดีสวนการตัดชํา

กิ่งแกไมมีใบ รวมทั้งการตัดชําราก ซึ่งจะออกรากไดดีในที่มืด แตจะตองการแสงเพิ่มขึ้นเมื่อกิ่งเกิดยอด ในทาง

ปฏิบัติจึงควรปกชํากิ่งแกและปกชํารากไวในที่ที่มีแสงราว ๓๐ เปอรเซ็นต

๔. วัตถุที่ใชในการตัดชําการออกรากของกิ่งตัดชํา จะไมเกี่ยวกับอาหารที่มีอยูในวัตถุปกชํานั้น แตจะ

เกี่ยวของกับความชื้น(moisture) และอากาศ (areation) ที่มีอยูในวัตถุปกชํานั้น โดยที่วัตถุปกชําแตละชนิดจะ

ดูดความชื้นและมีอากาศผานเขาออกไดตางกัน ซึ่งจะเปนผลใหการออกรากแตกตางกันไปดวย วัตถุที่จะชวยให

การออกรากเกิดไดดี จะตองดูดความชื้นไดมาก และมีอากาศผานไดสะดวก และโดยที่พืชแตละชนิดตองการ

อากาศมากนอยตางกัน ฉะนั้นการที่จะใชวัตถุใดเหมาะกับพืชใด จึงตองศึกษาและทดลองในแตละพืชไปสําหรับ

วัตถุปกชําที่นิยมใชกันทั่วๆ ไป ไดแกทรายหยาบ ถานแกลบที่ลางดางหมดแลว หรือสวนผสมของทรายหยาบ

กับถานแกลบอยางละเทากัน

การตอนกิ่ง

การตอนกิ่ง เปนวิธีการขยายพันธุพืชที่ใชกันมานานและเปนที่รูจักกันดีในหมูชาวสวนทั่วๆไป วิธีการตอน

กิ่งท่ีเราใชกันอยูทุกวันนี้เปนวิธีการที่ไดนํามาจากประเทศจีน แตไดดัดแปลงไปบางเพ่ือความสะดวกในการปฏิบัติ

ในยุโรปและอเมริกาก็มีวิธีขยายพันธุพืชดวยการตอนกิ่งเชนเดียวกัน แตวิธีการในการตอนกิ่งผิดไปจากวิธีที่รูจัก

กันดีในบานเราและเรามักเรียกวิธีการตอนกิ่งแบบยุโรปวา “การตอนทับกิ่ง” ในที่นี้จะขอกลาวเฉพาะ การตอน

กิ่งแบบชาวจีน หรือการตอนก่ิงแบบตอนหุมกิ่ง ซึ่งมีวิธีการตอนหุมกิ่งหลายแบบไมวาจะเปนการตอนกิ่งแบบชาว

จีน หรือการตอนทับกิ่งแบบชาวยุโรป โดยหลักการในการ ตอนตนพืชแลวก็คือ การทําใหตนหรือกิ่งพืชออกราก

ขณะที่ยังติดอยูกับตนแม หลังจากตนหรือกิ่งพืชออกรากดีแลวจึงตัดไปปลูกภายหลัง ฉะนั้นโอกาสของการที่กิ่ง

พืชจะมีชีวิตอยูรอด จึงดีกวาการขยายพันธุดวยการตัดชํา แตก็มีขอเสียอยูที่วาขยายไดชากวา ดวยเหตุนี้ถา

ตองการตนพืชจํานวนมากๆ แลวมักจะไมใชการขยายพันธุดวยการตอนกิ่ง เวนแตตนพืชนั้นจะขยายพันธุไมได

Page 13: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

ดวยการตัดชํา หรือออกรากยากกวาการตอนกิ่งเทานั้น การตอนกิ่งแบบชาวจีน หรือแบบที่เราใชกันอยูทุกวันนี้

เปนวิธีที่ใชในการตอนกิ่งพืชพวกไมพุม และไมยืนตนเปนสวนใหญ รวมทั้งพืชพวกไมผลและไมประดับ เชน ลําไย

ลิ้นจี่ ละมุดสมเขียวหวาน สมโอ กระทอน กุหลาบ มะลิ

ก. การเลือกกิ่ง กิ่งหรือตนพืชที่จะตอนจะตองเปนกิ่งไมออนและไมแกเกินไป ใบงาม ไมมีโรคหรือแมลง

ทําลาย ไดรับแสงแดดสม่ําเสมอ โดยปกติมักจะเลือกกิ่งกระโดง ซึ่งอาจจะเปนกิ่งกระโดงตั้ง

กไ็ด

ข.การทําแผลบนกิ่ง การทําแผลบนกิ่งจะข้ึนอยูกับชนิดของพืช และความยากงายในการงอกราก ซึ่งบางพืช

อาจไมตองทําแผลเลยก็สามารถออกรากได สวนใหญมักเปนพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เชน ตนสาวนอยประแปง พลูดาง

และพลูฉีก พืชบางชนิด อาจใชวิธีกรีดเปลือกตามยาวของกิ่ง เชน กุหลาบ ยี่โถ หรือพืชบางชนิดอาจปาดทองกิ่ง

เชน ตนชวนชม แตมีบางชนิดที่ตอควั่นกิ่งโดยเฉพาะพืชที่ออกรากยาก มีความจําเปนที่จะตองทําแผลโดยการ

ควั่นกิ่ง เพราะการควั่นนอกจากจะทําใหเกิดบริเวณออกรากแลว

ฮอรโมนใหเกิดข้ึนภายในกิ่งซึ่งจะมีผลดีในการออกรากดวย ดังนั้นเพื่อความแนนอนในเรื่องการออกราก ชาวสวน

ทั่วไปจึงใชวิธีการทําแผลดวยการควั่นกิ่งแทบทั้งสิ้น

ค. การทาฮอรโมน การใชฮอรโมนเรงรากทาบริเวณที่ทําแผล หรือบริเวณที่กิ่งจะเกิดราก จะชวยใหกิ่งพืช

เกิดรากดีขึ้นคือ มีรากมากขึ้น รากเจริญเร็วขึ้น และอาจออกรากเร็วขึ้น การทาฮอรโมนปกติจะทาเฉพาะบริเวณ

วยการตัดชํา หรือออกรากยากกวาการตอนกิ่งเทานั้น การตอนกิ่งแบบชาวจีน หรือแบบที่เราใชกันอยูทุกวันนี้

เปนวิธีที่ใชในการตอนกิ่งพืชพวกไมพุม และไมยืนตนเปนสวนใหญ รวมทั้งพืชพวกไมผลและไมประดับ เชน ลําไย

ลิ้นจี่ ละมุดสมเขียวหวาน สมโอ กระทอน กุหลาบ มะล ิดอนยา เปนตน สวนวิธีการตอนนั้นปฏิบัติเปนขั้นๆ ดังนี้

การเลือกกิ่ง กิ่งหรือตนพืชที่จะตอนจะตองเปนกิ่งไมออนและไมแกเกินไป ใบงาม ไมมีโรคหรือแมลง

ทําลาย ไดรับแสงแดดสม่ําเสมอ โดยปกติมักจะเลือกกิ่งกระโดง ซึ่งอาจจะเปนกิ่งกระโดงตั้ง

การเลือกกิ่งตอน

การทําแผลบนกิ่ง การทําแผลบนกิ่งจะข้ึนอยูกับชนิดของพืช และความยากงายในการงอกราก ซึ่งบางพืช

อาจไมตองทําแผลเลยก็สามารถออกรากได สวนใหญมักเปนพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เชน ตนสาวนอยประแปง พลูดาง

และพลูฉีก พืชบางชนิด อาจใชวิธีกรีดเปลือกตามยาวของกิ่ง เชน กุหลาบ ยี่โถ หรือพืชบางชนิดอาจปาดทองกิ่ง

เชน ตนชวนชม แตมีบางชนิดที่ตอควั่นกิ่งโดยเฉพาะพืชที่ออกรากยาก มีความจําเปนที่จะตองทําแผลโดยการ

ควั่นกิ่ง เพราะการควั่นนอกจากจะทําใหเกิดบริเวณออกรากแลว ยังมีผลเกี่ยวกับการสะสมธาตุอาหารวมทั้งสาร

ฮอรโมนใหเกิดข้ึนภายในกิ่งซึ่งจะมีผลดีในการออกรากดวย ดังนั้นเพื่อความแนนอนในเรื่องการออกราก ชาวสวน

ทั่วไปจึงใชวิธีการทําแผลดวยการควั่นกิ่งแทบทั้งสิ้น

การทําแผลบนกิ่ง

การใชฮอรโมนเรงรากทาบริเวณที่ทําแผล หรือบริเวณที่กิ่งจะเกิดราก จะชวยใหกิ่งพืช

เกิดรากดีขึ้นคือ มีรากมากขึ้น รากเจริญเร็วขึ้น และอาจออกรากเร็วขึ้น การทาฮอรโมนปกติจะทาเฉพาะบริเวณ

13

วยการตัดชํา หรือออกรากยากกวาการตอนกิ่งเทานั้น การตอนกิ่งแบบชาวจีน หรือแบบที่เราใชกันอยูทุกวันนี้

เปนวิธีที่ใชในการตอนกิ่งพืชพวกไมพุม และไมยืนตนเปนสวนใหญ รวมทั้งพืชพวกไมผลและไมประดับ เชน ลําไย

ดอนยา เปนตน สวนวิธีการตอนนั้นปฏิบัติเปนขั้นๆ ดังนี้

การเลือกกิ่ง กิ่งหรือตนพืชที่จะตอนจะตองเปนกิ่งไมออนและไมแกเกินไป ใบงาม ไมมีโรคหรือแมลง

ทําลาย ไดรับแสงแดดสม่ําเสมอ โดยปกติมักจะเลือกกิ่งกระโดง ซึ่งอาจจะเปนกิ่งกระโดงตั้ง๑ หรือกระโดงครีบ๒

การทําแผลบนกิ่ง การทําแผลบนกิ่งจะข้ึนอยูกับชนิดของพืช และความยากงายในการงอกราก ซึ่งบางพืช

อาจไมตองทําแผลเลยก็สามารถออกรากได สวนใหญมักเปนพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เชน ตนสาวนอยประแปง พลูดาง

และพลูฉีก พืชบางชนิด อาจใชวิธีกรีดเปลือกตามยาวของกิ่ง เชน กุหลาบ ยี่โถ หรือพืชบางชนิดอาจปาดทองกิ่ง

เชน ตนชวนชม แตมีบางชนิดที่ตอควั่นกิ่งโดยเฉพาะพืชที่ออกรากยาก มีความจําเปนที่จะตองทําแผลโดยการ

ยังมีผลเกี่ยวกับการสะสมธาตุอาหารวมทั้งสาร

ฮอรโมนใหเกิดข้ึนภายในกิ่งซึ่งจะมีผลดีในการออกรากดวย ดังนั้นเพื่อความแนนอนในเรื่องการออกราก ชาวสวน

การใชฮอรโมนเรงรากทาบริเวณที่ทําแผล หรือบริเวณที่กิ่งจะเกิดราก จะชวยใหกิ่งพืช

เกิดรากดีขึ้นคือ มีรากมากขึ้น รากเจริญเร็วขึ้น และอาจออกรากเร็วขึ้น การทาฮอรโมนปกติจะทาเฉพาะบริเวณ

Page 14: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

ที่จะเกิดรากเทานั้น เชน บริเวณที่เปนรอยกรีด หรือรอยปาด หรือรอยควั่นตอนบนเท

ฮอรโมนตอนตนพืชชนิดใดนั้น ควรจะไดศึกษาหรือทดลองมากอนเพราะตนพืชแตละชนิดออกรากยากงายตางกัน

โดย ปกติตนพืชที่ออกรากไมยาก อาจใชฮอรโมนชนิดออนหรือที่มีความเขมขนนอยๆ ก็เพียงพอ สวนตนพืชที่

ออกรากยากๆ จําเปนตองใชฮอรโมนแรงๆหรือ

นี้ นอกจากจะไมไดผลดีขึ้นแลว ยังเปนการทําลายกิ่งพืชที่ตอน และทําใหคาใชจายเพิ่มขึ้นอีกดวย

ง. การหุมกิ่งตอน วัตถุที่จะใชหุมกิ่งตอนอาจใชวัตถุตางๆ ไดหลายอยาง ขอสําคัญก็คือ

ความชื้นไดพอไมเปนพิษกับกิ่งพืช มีราคาถูก และหาไดงาย เชน หญามอสส

ชุบน้ํา ปุยมะพราวผากระสอบปาน หรือรากผักตบชวา แมกระทั่งดินธรรมดาๆ ทั่วๆ

จะตองสะดวกตอการหุมเชน ใชกาบมะพรา

หุมก็จะสามารถหุมกิ่งไดงาย สวนการหุมอาจใชวัตถุชนิดเดียว เชน หญามอสสลวนๆ หรือกาบมะพราวลวนๆ

หรืออาจใชดินหุมกอนแลวหุมหญามอสส หรือกาบมะพราวอีกชั้นหนึ่งก็ได ขอสําคัญก็คือ ตองพั

กิ่งใหแนนพอสมควร อยาใหหมุนหรือคลอนไปมาไดงาย และพยายามหุมใหกลางกระเปาะวัตถุที่หุมอยูตรงกับ

บริเวณที่ออกรากดวย

จ. การรักษาความชื้น หลังจากตอนกิ่งแลวโดยเฉพาะราว

หรือมัดวัตถุหุมกิ่งที่ตอนนั้นใหชื้นสม่ําเสมอในการรักษาความชื้นนี้อาจใชวิธีรดน้ํากระเปาะที่ตอนทุกวัน หรือใช

ที่จะเกิดรากเทานั้น เชน บริเวณที่เปนรอยกรีด หรือรอยปาด หรือรอยควั่นตอนบนเท

ควรจะไดศึกษาหรือทดลองมากอนเพราะตนพืชแตละชนิดออกรากยากงายตางกัน

โดย ปกติตนพืชที่ออกรากไมยาก อาจใชฮอรโมนชนิดออนหรือที่มีความเขมขนนอยๆ ก็เพียงพอ สวนตนพืชที่

ออกรากยากๆ จําเปนตองใชฮอรโมนแรงๆหรือที่เขมขนมากๆ ตามลําดับ การใชฮอรโมนที่ตรงกันขามกับที่กลาว

นี้ นอกจากจะไมไดผลดีขึ้นแลว ยังเปนการทําลายกิ่งพืชที่ตอน และทําใหคาใชจายเพิ่มขึ้นอีกดวย

การทาฮอรโมน

การหุมกิ่งตอน วัตถุที่จะใชหุมกิ่งตอนอาจใชวัตถุตางๆ ไดหลายอยาง ขอสําคัญก็คือ

ความชื้นไดพอไมเปนพิษกับกิ่งพืช มีราคาถูก และหาไดงาย เชน หญามอสส (sphagnum moss)

ชุบน้ํา ปุยมะพราวผากระสอบปาน หรือรากผักตบชวา แมกระทั่งดินธรรมดาๆ ทั่วๆ

ตองสะดวกตอการหุมเชน ใชกาบมะพราวชุมน้ําทุบใหแผ ตัดเปนทอนใหพอเหมาะกับขนาดกิ่งตอนซึ่งเมื่อจะ

หุมก็จะสามารถหุมกิ่งไดงาย สวนการหุมอาจใชวัตถุชนิดเดียว เชน หญามอสสลวนๆ หรือกาบมะพราวลวนๆ

หรืออาจใชดินหุมกอนแลวหุมหญามอสส หรือกาบมะพราวอีกชั้นหนึ่งก็ได ขอสําคัญก็คือ ตองพั

กิ่งใหแนนพอสมควร อยาใหหมุนหรือคลอนไปมาไดงาย และพยายามหุมใหกลางกระเปาะวัตถุที่หุมอยูตรงกับ

การหุมก่ิงตอน

การรักษาความชื้น หลังจากตอนกิ่งแลวโดยเฉพาะราว ๓-๕ วัน จากที่หุมกิ่ง จะตองรดน้ํากระเปาะตอน

หรือมัดวัตถุหุมกิ่งที่ตอนนั้นใหชื้นสม่ําเสมอในการรักษาความชื้นนี้อาจใชวิธีรดน้ํากระเปาะที่ตอนทุกวัน หรือใช

14

ที่จะเกิดรากเทานั้น เชน บริเวณที่เปนรอยกรีด หรือรอยปาด หรือรอยควั่นตอนบนเทานั้น และการที่จะใช

ควรจะไดศึกษาหรือทดลองมากอนเพราะตนพืชแตละชนิดออกรากยากงายตางกัน

โดย ปกติตนพืชที่ออกรากไมยาก อาจใชฮอรโมนชนิดออนหรือที่มีความเขมขนนอยๆ ก็เพียงพอ สวนตนพืชที่

ที่เขมขนมากๆ ตามลําดับ การใชฮอรโมนที่ตรงกันขามกับที่กลาว

นี้ นอกจากจะไมไดผลดีขึ้นแลว ยังเปนการทําลายกิ่งพืชที่ตอน และทําใหคาใชจายเพิ่มขึ้นอีกดวย

การหุมกิ่งตอน วัตถุที่จะใชหุมกิ่งตอนอาจใชวัตถุตางๆ ไดหลายอยาง ขอสําคัญก็คือวัตถุนั้นๆ ตองอม

sphagnum moss) กาบมะพราว

ชุบน้ํา ปุยมะพราวผากระสอบปาน หรือรากผักตบชวา แมกระทั่งดินธรรมดาๆ ทั่วๆ ไปใชก็ได แตวัตถุที่นิยมใช

วชุมน้ําทุบใหแผ ตัดเปนทอนใหพอเหมาะกับขนาดกิ่งตอนซึ่งเมื่อจะ

หุมก็จะสามารถหุมกิ่งไดงาย สวนการหุมอาจใชวัตถุชนิดเดียว เชน หญามอสสลวนๆ หรือกาบมะพราวลวนๆ

หรืออาจใชดินหุมกอนแลวหุมหญามอสส หรือกาบมะพราวอีกชั้นหนึ่งก็ได ขอสําคัญก็คือ ตองพันหรือหุมวัตถุหุม

กิ่งใหแนนพอสมควร อยาใหหมุนหรือคลอนไปมาไดงาย และพยายามหุมใหกลางกระเปาะวัตถุที่หุมอยูตรงกับ

จะตองรดน้ํากระเปาะตอน

หรือมัดวัตถุหุมกิ่งที่ตอนนั้นใหชื้นสม่ําเสมอในการรักษาความชื้นนี้อาจใชวิธีรดน้ํากระเปาะที่ตอนทุกวัน หรือใช

Page 15: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

วิธีรดทั้งตนแบบฝนตก แตที่สะดวกก็คือใชผาพลาสติกหุมใหมิด ทั้งนี้เพื่อมิใหน้ําจากกระเปาะวัตถุนั้นระเหย

ออกมาได การหุมผาพลาสติกกระเปาะท่ีตอนแลว ควรจะไดหุมเสียแตตอนแรกขณะที่วัตถุนั้นยังชื้นอยู ซึ่งการหุม

พลาสติกในทํานองนี้จะชวยใหกระเปาะกิ่งตอนชื้นอยูตลอดเวลา จนกระทั่งกิ่งออกราก อยางไรก็ตามในระหวาง

รอการออกราก ควรจะไดตรวจดูกระเปาะตอนบาง เพราะอาจมีมดกัดผาพลาสติกใหเปน

แหงได การแกไขก็คือใชเข็มฉีดยาฉีดน้ําเขาไปในกระเปาะตอนราว

และตัดมาปลูกได

การหุมก่ิงตอนดวยพลาสติกเพื่อรักษาความชื้น

ฉ. การตัดก่ิงตอน เมื่อถึงเวลาอันควร กิ่งพืชที่ตอนไวก็จะเกิดราก เวลาของการออก

พวกไมประดับทั่วๆ ไปจะออกรากเร็วกวาพวกไมผล แตไมผลแตละชนิดก็จะใชเวลาในการออกรากแตกตางกัน

เชน ชมพูจะออกรากเร็วกวาสม สมเร็วกวาละมุด เปนตน แตสวนใหญจะใชเวลาไมเกิน

ตอนจะตองดูจํานวนรากวามีรากมากพอหรือยัง และควรจะรอใหรากมีจํานวนมากพอไดสัดสวนกับขนาดของกิ่ง

และใบ ซึ่งถากิ่งยิ่งโตมีใบมากก็ตองเปนกิ่งท่ีมีรากมาก มิฉะนั้นรากจะดูดน้ําไปเลี้ยงใบไมทันกิ่งก็จะแหงเหี่ยวตาย

ไปในที่สุด หรือมิฉะนั้นก็จะตองตัดกิ่งแล

ไดเร็วหลังจากตัดก่ิงแลว เชน กุหลาบ ดอนยา ฯลฯ อาจตัดกิ่งไดเมื่อรากยังมีไมมากนัก เพราะตนพืชจะสรางราก

ไดไวหลังจากตัดมาปลูกแลว สวนพืชพวกไมผล จะตองรอใหกิ่งมีรากมากพอ หรืออยางนอยจะ

รากเกิดขึ้นใหมากพอ ฉะนั้นการตัดก่ิงตอนพวกไมผล จึงจําเปนตองใชเวลายาว นานกวาไมประดับโดยทั่วไป

ซ. การปลูกกิ่งตอน กิ่งตอนที่ตัดไดอาจมีจํานวนรากมากนอยตางกัน เพื่อปองกันการเสียหายซึ่งอาจจะ

เกิดขึ้น ควรจะไดคัดกิ่งตอนออกเปนพวกๆ ตามความมากนอยของรากเสียกอน คือ คัด กิ่งที่มีรากมากและราก

วิธีรดทั้งตนแบบฝนตก แตที่สะดวกก็คือใชผาพลาสติกหุมใหมิด ทั้งนี้เพื่อมิใหน้ําจากกระเปาะวัตถุนั้นระเหย

สติกกระเปาะท่ีตอนแลว ควรจะไดหุมเสียแตตอนแรกขณะที่วัตถุนั้นยังชื้นอยู ซึ่งการหุม

พลาสติกในทํานองนี้จะชวยใหกระเปาะกิ่งตอนชื้นอยูตลอดเวลา จนกระทั่งกิ่งออกราก อยางไรก็ตามในระหวาง

รอการออกราก ควรจะไดตรวจดูกระเปาะตอนบาง เพราะอาจมีมดกัดผาพลาสติกใหเปน

แหงได การแกไขก็คือใชเข็มฉีดยาฉีดน้ําเขาไปในกระเปาะตอนราว ๕-๗วันตอครั้ง จนกวากิ่งจะออกรากมากพอ

การหุมก่ิงตอนดวยพลาสติกเพื่อรักษาความชื้น

การตัดก่ิงตอน เมื่อถึงเวลาอันควร กิ่งพืชที่ตอนไวก็จะเกิดราก เวลาของการออก

พวกไมประดับทั่วๆ ไปจะออกรากเร็วกวาพวกไมผล แตไมผลแตละชนิดก็จะใชเวลาในการออกรากแตกตางกัน

เชน ชมพูจะออกรากเร็วกวาสม สมเร็วกวาละมุด เปนตน แตสวนใหญจะใชเวลาไมเกิน

ตอนจะตองดูจํานวนรากวามีรากมากพอหรือยัง และควรจะรอใหรากมีจํานวนมากพอไดสัดสวนกับขนาดของกิ่ง

และใบ ซึ่งถากิ่งยิ่งโตมีใบมากก็ตองเปนกิ่งท่ีมีรากมาก มิฉะนั้นรากจะดูดน้ําไปเลี้ยงใบไมทันกิ่งก็จะแหงเหี่ยวตาย

ไปในที่สุด หรือมิฉะนั้นก็จะตองตัดกิ่งและใบทิ้งเสียบาง อยางไรก็ตาม พวกไมดอกหรือไมประดับ ซึ่งรากมักเจริญ

ไดเร็วหลังจากตัดก่ิงแลว เชน กุหลาบ ดอนยา ฯลฯ อาจตัดกิ่งไดเมื่อรากยังมีไมมากนัก เพราะตนพืชจะสรางราก

ไดไวหลังจากตัดมาปลูกแลว สวนพืชพวกไมผล จะตองรอใหกิ่งมีรากมากพอ หรืออยางนอยจะ

รากเกิดขึ้นใหมากพอ ฉะนั้นการตัดก่ิงตอนพวกไมผล จึงจําเปนตองใชเวลายาว นานกวาไมประดับโดยทั่วไป

กิ่งตอนที่ออกรากแลว

การปลูกกิ่งตอน กิ่งตอนที่ตัดไดอาจมีจํานวนรากมากนอยตางกัน เพื่อปองกันการเสียหายซึ่งอาจจะ

ออกเปนพวกๆ ตามความมากนอยของรากเสียกอน คือ คัด กิ่งที่มีรากมากและราก

15

วิธีรดทั้งตนแบบฝนตก แตที่สะดวกก็คือใชผาพลาสติกหุมใหมิด ทั้งนี้เพื่อมิใหน้ําจากกระเปาะวัตถุนั้นระเหย

สติกกระเปาะท่ีตอนแลว ควรจะไดหุมเสียแตตอนแรกขณะที่วัตถุนั้นยังชื้นอยู ซึ่งการหุม

พลาสติกในทํานองนี้จะชวยใหกระเปาะกิ่งตอนชื้นอยูตลอดเวลา จนกระทั่งกิ่งออกราก อยางไรก็ตามในระหวาง

รอการออกราก ควรจะไดตรวจดูกระเปาะตอนบาง เพราะอาจมีมดกัดผาพลาสติกใหเปนรู ทําใหกระเปาะตอน

วันตอครั้ง จนกวากิ่งจะออกรากมากพอ

การตัดก่ิงตอน เมื่อถึงเวลาอันควร กิ่งพืชที่ตอนไวก็จะเกิดราก เวลาของการออกรากนี้จะมากนอยตางกัน

พวกไมประดับทั่วๆ ไปจะออกรากเร็วกวาพวกไมผล แตไมผลแตละชนิดก็จะใชเวลาในการออกรากแตกตางกัน

เชน ชมพูจะออกรากเร็วกวาสม สมเร็วกวาละมุด เปนตน แตสวนใหญจะใชเวลาไมเกิน ๓ เดือน ในการตัดกิ่ง

ตอนจะตองดูจํานวนรากวามีรากมากพอหรือยัง และควรจะรอใหรากมีจํานวนมากพอไดสัดสวนกับขนาดของกิ่ง

และใบ ซึ่งถากิ่งยิ่งโตมีใบมากก็ตองเปนกิ่งท่ีมีรากมาก มิฉะนั้นรากจะดูดน้ําไปเลี้ยงใบไมทันกิ่งก็จะแหงเหี่ยวตาย

ะใบทิ้งเสียบาง อยางไรก็ตาม พวกไมดอกหรือไมประดับ ซึ่งรากมักเจริญ

ไดเร็วหลังจากตัดก่ิงแลว เชน กุหลาบ ดอนยา ฯลฯ อาจตัดกิ่งไดเมื่อรากยังมีไมมากนัก เพราะตนพืชจะสรางราก

ไดไวหลังจากตัดมาปลูกแลว สวนพืชพวกไมผล จะตองรอใหกิ่งมีรากมากพอ หรืออยางนอยจะตองรอใหมีแขนง

รากเกิดขึ้นใหมากพอ ฉะนั้นการตัดก่ิงตอนพวกไมผล จึงจําเปนตองใชเวลายาว นานกวาไมประดับโดยทั่วไป

การปลูกกิ่งตอน กิ่งตอนที่ตัดไดอาจมีจํานวนรากมากนอยตางกัน เพื่อปองกันการเสียหายซึ่งอาจจะ

ออกเปนพวกๆ ตามความมากนอยของรากเสียกอน คือ คัด กิ่งที่มีรากมากและราก

Page 16: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

16

นอยออกคนละพวก พวกที่มีรากมากอาจปลูกลงกระถางหรือลงถุงปลูกไดทันทีสวนพวกที่รากยังไมมากพอ ควร

จะไดตัดแตงกิ่งและใบออกเสียบาง แลวนําไปชํารวมกันไวในกระบะหรือภาชนะที่เหมาะสม เพื่อรอใหรากเกิด

มากขึ้นจึงจะนําไปปลูกภายหลัง ขอสําคัญในการปลูกกิ่งตอน คือ อยาปลูกใหลึกโดยเฉพาะในการใชวัตถุปลูกที่

ทึบหรืออับอากาศ เชน ดินเหนียว เปนตนเพราะจะทําใหรากเจริญชา ควรจะปลูกใหกระเปาะตอนโผลพนดิน

ปลูกเล็กนอย ประมาณหนึ่งในสี่ของกระเปาะตอน จากนั้นจึงนํากระถางปลูกไปตั้งไวในที่รมรําไร คือ ที่ที่มี

แสงแดดสองเล็กนอย คอยพรมน้ําใหใบกิ่งตอนชื้นอยูเสมอๆ แตไมควรรดน้ําจนดินปลูกแฉะ และหลังจากยอด

เริ่มเจริญหรือแตกยอดใหมจึงเพิ่มแสงแดดใหมาก

การติดตา

เปนวิธีการขยายพันธุพืชที่นําเอาสวนตาหรือกิ่งของพืชตนหนึ่งซึ่งเปนพืชพันธุดีหรือ กิ่งพันธุดี ไปติดเขากับ

พืชอีกตนหนึ่งเพื่อใหตาของพืชเจริญเติบโตเปนพืชตนใหมตอไป สวน ตนตอซึ่งทําหนาที่เปนระบบราก นั้น เปน

ตนพืชที่มีความแข็งแรง หาอาหารเกงเจริญเติบโตเร็ว ทนตอสภาพแวดลอมที่ไมเหมาะสมไดดี พืชที่นิยม

ขยายพันธุดวยการติดตา มีทั้งไมดอกไมประดับและไมผล

การติดตาเปนวิธีการขยายพันธุพืชอีกวิธีหนึ่งที่มีความสําคัญทางดานการชวยเปลี่ยนยอดตนพืชที่มี

ลักษณะไมดีใหเปนพันธุดีไดทําใหพันธุพืชมีความแข็งแรง ตานทานศัตรูและความแหงแลงไดดีเพราะมีตนตอที่

แข็งแรง สามารถขยายพันธุไดจํานวนมากเพราะกิ่งพันธุแตละกิ่งจะมีหลายตา นอกจากนี้ยังชวยสรางมูลคาเพิ่ม

Page 17: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

17

ใหกับพันธุไมดวย โดยเฉพาะการผลิตพืชแฟนซี ซึ่งเปนพืชที่ใหผลผลิตหลายอยางในตนเดียวกัน เชน มะมวง

อกรองมะมวงเขียวเสวย มะมวงน้ําดอกไม ในตนเดียวกัน หรือไมดอก เชน กุหลาบจะมีดอกหลายสีในตน

เดียวกัน ฯลฯ ทั้งนี้ การติดตา สามารถ ทําไดสะดวก รวดเร็วโดยสามารถนําตาจากกิ่งพันธุดี จากแหลงหนึ่งไปทํา

การติดตาอีกแหลงหนึ่งไดแตอาจตองใชเวลาในการบังคับและเลี้ยงตาใหมใหเปนตนพืช ยาวนานกวาการตอกิ่ง

ดังนั้นผูที่ทําการขยายพันธุพืชดวยวิธีการติดตา ไดดีตองมีความชํานาญและประณีตในการขยายพันธุปจจัยที่มี

อิทธิพลตอการติดตา ไดแก

1) ตนตอ หมายถึง สวนของตนพืชที่ทําหนาที่เปนระบบราก หาอาหารหลอเลี้ยงตนพืชมี 2ชนิด คือ

(1) ตนตอท่ีไดจากการเพาะเมล็ด

(2) ตนตอท่ีไดจากการตัดชํา ตอนก่ิง หรือแยกหนอ

(3) ตนตอที่ไดจากการเพาะเมล็ด สวนมากนิยมใชกับพืชประเภทไมผล เชน มะมวง ขนุน ทุเรียน มะขาม

เปนตน ตนตอที่มีลักษณะดี จะตองมีลําตนตั้งตรง ไมบิดคด หรือมีรอยตอระหวางตนและราก เปนแบบคอหาน

ซึ่งเกิดจากการวางเมล็ดลงเพาะผิดวิธี

(4) ตนตอที่ไดจากการตัดชํา ตอนกิ่ง หรือแยกหนอ บางครั้งเรียกวา ตนตอตัดชํา สวนมากนิยมใชกับพืช

ประเภทไมดอกไมประดับ เชนกุหลาบ ชบา เข็มโกสน เฟองฟา ผกากรอง โมก เปนตน ขอเสียของตนตอตัดชํา

คือ มีระบบรากตื้น แตถานําไปเปนตนตอสําหรับไมผล จะตองทําการเสริมรากเพิ่มขึ้นการเลือกพันธุพืชสําหรับใช

เปน ตนตอ ควรมีคุณสมบัติ ดังนี ้

(1) เจริญเติบโตเร็ว ปราศจากโรคและแมลงและทนทานตอสภาพแวดลอมไดด ี

(2) ขยายพันธุไดงาย ทัง้ดวยวิธีเพาะเมล็ด ตัดชําหรือตอนกิ่ง

(3) สามารถเชื่อมตอกับก่ิงพันธุดีตาง ๆ ไดมาก

(4) หาเมล็ดหรือตนไดงาย

(5) เปนพืชที่มีความบริสุทธิ์ของพันธุสูง โดยเฉพาะอยางยิ่ง ตนตอที่ไดจากการเพาะเมล็ด

2) ตาจากกิ่งพันธุดี หมายถึงสวนของพืชที่ทําหนาที่เปนระบบยอดในตนพืชสําหรับการขยายพันธุโดยวิธีการติด

ตาการเลือกพันธุพืชสําหรับใชเปน กิ่งพันธุดี ควรมีคุณสมบัติ ดังนี ้

(1) เปนกิ่งที่มีตาแข็งแรง ไมวาจะเปนตายอดหรือตาขาง

(2) ควรเลือกจากก่ิงกระโดง หรือกิ่งน้ําคาง

(3) เปนกิ่งที่มีความสมบูรณปานกลาง โดยสังเกตจากขอ ที่ไมถี่หรือหางเกินไป

(4) ตาของกิ่งพอเหมาะ คือ มีขนาดพอประมาณเทาดินสอดํา

(5) เปนกิ่งที่ไดจากตนแมท่ีแข็งแรง สมบูรณ ไมมีโรค

(6) ถาเปนกิ่งแก ควรมีอายุไมเกิน 1 ป เพราะถาอายุมากเกินไปตาทีต่ิดจะไมเจริญเติบโตเทาที่ควร

การติดตาแบบตัวที (T. budding) สิ่งที่ตองพิจารณาในการติดตาตนพืชแบบตัวท ี

๑. ตนตอจะตองมีเปลือกลอนสามารถลอกเปลือกตนตอไดงาย

๒. ตนตอไมควรมีขนาดโตเกินไป ควรจะมีขนาดเทาดินสอดําหรือมีขนาดเสนผานศูนยกลางประมาณไม

Page 18: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

เกิน ๑/๒ นิ้ว

๓. ไมเปนพืชที่มีเปลือกบาง หรือเปลือกเปราะ หรือมีเปลือกหนาเกินไป

๔. เปนวิธีที่ใชในการติดตาตนพืชทั่ว ๆ ไป เชน ใชกับกุหลาบ พุทรา สม เปนตน

วิธีติดตาแบบตัวท ี

ก. การเตรียมแผลบนตนตอ

๑. เลือกตนตอบริเวณที่เปนปลองแลวกรีดเปลือกใหถึงเนื้อไมเปนรูปตัวที

ประมาณ ๑/๒ นิ้ว และความยาวของตัวทียาว

๒. ใชปลายมีดแงะบริเวณหัวตัวทีใหเปลือกเผยอเล็กนอย แลวลอนเปลือกของตนตอด

ดามมีด

ข. การเตรียมกิ่งพันธุดี

๑. เฉือนกิ่งพันธุดีเปนรูปโลใหติดเนื้อไมเล็กนอย ในกรณีที่พืชนั้นมียางควรจะลอกเนื้อไมทิ้งเพื่อใหมีบริเวณ

ของการเกิดรอยตอมากขึ้น

ค. การสอดก่ิงพันธุดีบนตนตอ

๑. สอดแผนตาลงบนแผลรูปตัวทีที่เตรี

เหนือตา

๒. ถาเปลือกแผนตายังเหลือเลยหัวตัวทีใหตัดสวนที่เหลือออกพอดีกับหัวตัวที

๓. ใชผาพลาสติกที่ตัดเปนชิ้นขนาดกวาง

พันจากขางลางขึ้นขางบน

๔. หลังจาก ๑๐ วัน จึงตรวจ ถาตาใดยังสดก็แสดงวาติด จึงเปดผาพันตาแลวพันใหมใหครอมตาภาพการติด

ตาแบบตัวที

ไมเปนพืชที่มีเปลือกบาง หรือเปลือกเปราะ หรือมีเปลือกหนาเกินไป

เปนวิธีที่ใชในการติดตาตนพืชทั่ว ๆ ไป เชน ใชกับกุหลาบ พุทรา สม เปนตน

เลือกตนตอบริเวณที่เปนปลองแลวกรีดเปลือกใหถึงเนื้อไมเปนรูปตัวที (T) โดยใหหัวของตัวทีที่กรีดยาว

นิ้ว และความยาวของตัวทียาว 1 -1.1/2 นิ้ว ทั้งนี้แลวแตขนาดของตนตอ

ใชปลายมีดแงะบริเวณหัวตัวทีใหเปลือกเผยอเล็กนอย แลวลอนเปลือกของตนตอด

เฉือนกิ่งพันธุดีเปนรูปโลใหติดเนื้อไมเล็กนอย ในกรณีที่พืชนั้นมียางควรจะลอกเนื้อไมทิ้งเพื่อใหมีบริเวณ

สอดแผนตาลงบนแผลรูปตัวทีที่เตรยีมไว แลวคอย ๆ กดแผนตาลงไปในแผลใหสนิทและลึกราว

ถาเปลือกแผนตายังเหลือเลยหัวตัวทีใหตัดสวนที่เหลือออกพอดีกับหัวตัวที

ใชผาพลาสติกที่ตัดเปนชิ้นขนาดกวาง ๑-๑.๕ ซม. ยาวราว ๒๐-๒๕ ซม. พันทับแผนตาใหแนน และควร

วัน จึงตรวจ ถาตาใดยังสดก็แสดงวาติด จึงเปดผาพันตาแลวพันใหมใหครอมตาภาพการติด

18

เปนวิธีที่ใชในการติดตาตนพืชทั่ว ๆ ไป เชน ใชกับกุหลาบ พุทรา สม เปนตน

โดยใหหัวของตัวทีที่กรีดยาว

นิ้ว ทั้งนี้แลวแตขนาดของตนตอ

ใชปลายมีดแงะบริเวณหัวตัวทีใหเปลือกเผยอเล็กนอย แลวลอนเปลือกของตนตอดวยปลายเขาที่ติดอยูที่

เฉือนกิ่งพันธุดีเปนรูปโลใหติดเนื้อไมเล็กนอย ในกรณีที่พืชนั้นมียางควรจะลอกเนื้อไมทิ้งเพื่อใหมีบริเวณ

ยมไว แลวคอย ๆ กดแผนตาลงไปในแผลใหสนิทและลึกราว ๑/๒ นิ้ว

พันทับแผนตาใหแนน และควร

วัน จึงตรวจ ถาตาใดยังสดก็แสดงวาติด จึงเปดผาพันตาแลวพันใหมใหครอมตาภาพการติด

Page 19: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

19

การตอกิ่ง

การตอกิ่ง เปนวิธีการขยายพันธุพืชโดยไมใชเพศที่สามารถทําไดโดยการนํากิ่งพันธุดีที่มีตามากกวา 1

ตา มาตอบนตนตอ เพื่อใหเนื้อเยื่อเจริญทั้งสอง เชื่อมประสานเปนตนเดียวกัน การขยายพันธุดวยวิธีตอกิ่ง จะ

ดีกวาการติดตามาก เพราะจะไดรอยตอที่แข็งแรงกวามาก การตอกิ่งนิยมใชอยางแพรหลาย และไดผลดีกับพืช

บางชนิด เชน เฟองฟา ชบา โกสน เล็บครุฑ มะมวง พุทรา ขนุน องุน ฯลฯ

ความมุงหมายที่สําคัญของตอการกิ่งพืช คือ เพื่อตองการเชื่อมประสานเนื้อเยื่อของพืชที่เปนตนตอและกิ่ง

พันธุดีเขาดวยกัน ใหมีชีวิตและเจริญเติบโตรวมกัน เสมือนเปนพืชตนเดียวกัน ทั้งนี้ การตอกิ่งพืช สามารถเลือก

ทําไดหลายวิธีตามความเหมาะสม ขึ้นอยูกับชนิดของพืช ฤดูกาลและความชํานาญของผูตอก่ิง

การตอกิ่งมีคุณคาและความสําคัญตอวงการปลูกไมดอกไมประดับ และไมผลมาก ซึ่งเห็นไดชัดเจน ไดแก

การเพิ่มและชวยเปลี่ยนยอดพันธุเดิมที่ปลูกอยูแลว ใหมีมูลคาเพิ่มขึ้น เชน การเพิ่มยอดกิ่งเฟองฟาใหมี

หลากหลายสี การเปลี่ยนยอดตนโมกเขียวใหเปนโมกดาง การเปลี่ยนยอดมะมวงใหเปนมะมวงแฟนซี คือมี

หลายพันธุในตนเดียวกัน นอกจากนี้ การตอกิ่ง ยังเปนการชวยซอมแซมสวนของตนพืชที่ไดรับอันตรายจาก

ธรรมชาติหรือสิ่งแวดลอมอื่น ๆ รวมทั้งการใชประโยชนจากตนตอที่มีลักษณะทนทานตอสภาพแวดลอมและ

ศัตรูพืช

ปจจัยที่มีอิทธิพลตอการตอก่ิง 1) พืชที่นํามาเสียบเขาดวยกันตองเปนพืชตระกูลเดียวกัน แตอาจตางพันธุกันได 2) กิ่งพันธุดีจะตองมีความสดอยูเสมอ ซึ่งควรเก็บรักษาไวในหองเย็น 3) รอยแผลที่ทําการเสียบจะตองแนบกันสนิทใหเนื้อเยื่อเจริญของพืชทั้งสองสวนสัมผัสกันมากท่ีสุด เพื่อจะไดเชื่อมประสานกันไดรวดเร็ว 4) เลือกตาพันธุที่กําลังพักตัว คือ พรอมท่ีจะแตกยอดใหม 5) ใชแถบพลาสติกพันทับรอยเชื่อม ไมใหน้ําและเชื้อโรคเขาได 6) รอยแผลจะตองรักษาความสะอาดใหมากที่สุด ระวังอยาใหสัมผัสน้ําหรือความชื้น มากเกินไป 7) ลิดใบพันธุดีทิ้ง และใชพลาสติกคลุม ปองกันการคายน้ํา และรักษาความชื้น

ขอควรพิจารณาในการตอก่ิง ไดแก 1) การเลือกตนตอ จะตองใหมีขนาดเหมาะสมกับก่ิงพันธุดี มีความแข็งแรงปราศจากศัตรูพืช มีระบบรากแข็งแรง และหางาย ราคาถูก 2) การเลือกกิ่งพันธุ ควรเปนกิ่งที่สมบูรณ แข็งแรง มีตา ที่ไมใชตาดอก โดยปกติ สวนมากจะเลือกกิ่งที่มีอายุ 1 ป หรือนอยกวา 3) การเตรียมตนตอและกิ่งพันธุดี ในการเฉือนแผลตนตอและกิ่งพันธุดี ควรจะใหรอยแผลเรียบ และไมช้ํา (เกิดจากการผาหรือเฉือนหลายครั้ง จึงตองมีความชํานาญในการเฉือนเพียงครั้งเดียวเทานั้นเพื่อไมใหตนตอและกิ่งพันธุดีช้ํา) 4) การปองกันเชื้อโรค การทําใหเกิดบาดแผลแกตนตอและกิ่งพันธุดี เปนชองทางที่ทําใหเกิดเชื้อโรค จึงตองระวังในเรื่องของความสะอาดโดยเฉพาะ มีดตองสะอาดและคม

Page 20: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

20

5) การวางแนวเยื่อเจริญระหวางตนตอและก่ิงพันธุดี ตองอยูในแนวเดียวกันเพ่ือใหรอยประสานเกิดไดเร็วขึ้น 6) การบังคับใหกิ่งพันธุดีเติบโต ภายหลังตอกิ่ง จะตองทําการบังคับ เพื่อปองกันการลําเลียงออกซิเจนจากกิ่งยอด ลงมายังกิ่งขาง ทําใหเกิดลักษณะที่ตายอด ขมตาขาง โดยการบากเหนือรอยตอใหลึกถึงเนื้อไม 7) ฤดูกาลที่เหมาะสําหรับตอกิ่ง ควรเปนระยะที่พืชมีเจริญเติบโตดี โดยเฉพาะชวงปลายฤดูฝนตนฤดูหนาว รองลงมา คือ กลางฤดูฝน เครื่องมือและวัสดุอุปกรณท่ีใชในการตอกิ่ง 1) สวนของพืชที่จะขยายพันธุ คือ กิ่งพันธุดี 2) สวนของพืชที่เปนระบบราก คือ ตนตอ 3) มีดขยายพันธุหรือคัตเตอร กรรไกรตัดแตงกิ่ง พลาสติกพันกิ่ง 4) วัสดุที่ใชในการคลุมก่ิง เชน เชือก ถุงพลาสติกขนาดเล็ก ถุงกระดาษคลุมกิ่ง วิธีการตอกิ่งท่ีนิยม วิธีการตอก่ิงมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแตละวิธีมีความเหมาะสมกับพืชแตละชนิดที่แตกตางกัน แตที่ชาวสวนหรือผูประกอบการผลิตพันธุไมปฏิบัติมาก เพราะสามารถทําไดงายและไดรับความสําเร็จสูง โดยเฉพาะไมดอกไมประดับ และไมผล วิธีที่นิยม ไดแก 1) การตอกิ่งแบบเสียบลิ่ม 2) การตอกิ่งแบบฝานบวบ 3) การตอกิ่งแบบเขาลิ้น 4) การตอกิ่งเสียบขาง 5) การตอกิ่งเสียบเปลือก 1) การตอกิ่งแบบเสียบลิ่ม พันธุไมที่นิยม เชน เฟองฟา โกสน นอยหนา ทับทิม มีขั้นตอน ดังนี้

(1) ตัดยอดตนตอที่แตกใหม ใหเหลือยาวประมาณ 4 นิ้ว แลวผากลางกิ่งพืชที่ตองการเสียบยอด ใหลึกประมาณ 2 นิ้ว

(2) เฉือนยอดพันธุดีเปนรูปลิ่ม ยาวประมาณ 2 นิ้ว (3) เสียบยอดพันธุดีลงในแผลของตนตอ ใหรอยแผลทั้งสองตรงกัน แลวใชเชือกมัดดานบนและลาง

รอยแผลตนตอใหแนน (4) คลุมตนที่เสียบยอดแลวดวยถุงพลาสติกหรือนําไปเก็บในโรงอบพลาสติก (ถาตนพืชที่ทําการ

เสียบยอดอยูกลางแจงควร ใชถุงกระดาษเล็กหุมกอน เพ่ือปองกันความรอน)

(5) ประมาณ 5-7 สัปดาหรอยแผลจะประสานกันดีแลวใหนําออกมาพักไวในโรงเรือนที่รอการปลูกตอไป 2) การตอกิ่งแบบฝานบวบ พันธุไมที่นิยม ไดแกประเภทไมอวบน้ํา และไมเนื้อออน เชน ฤาษีผสม แค็คตัสชนิดตาง ๆ มะเขือเทศ ฟกทอง มะละกอ แตงชนิดตาง ๆ เปนตน มีขัน้ตอน ดังนี ้ (1) เฉือนตนตอใหเฉียงขึ้น เปนลักษณะเชนเดียวกับฝานบวบ ใหความยาวของรอยเฉือน ประมาณ 1– 1.5 นิ้ว รอยแผลที่ไดจะมีลักษณะคลายโล

(2) เฉือนกิ่งพันธุดีใหมีลักษณะและขนาดเชนเดียวกับตนตอ แตเฉือนลง (ตรงขามกับตนตอ)

Page 21: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

21

(3) นํากิ่งพันธุดี ประกบเขากับตนตอ โดยใหรอยแผลประกบกันใหสนิท (4) ใชแถบพลาสติกพันรอบรอยแผลใหแนน โดยพันจากดานลางขึ้นสูดานบน (5) หลังจากกิ่งเชื่อมประสานกันดีแลว ใหแกะพลาสติกออก เพื่อใหตนพืชเจริญเติบโตและขยาย

ออกไดเต็มที ่ 3) การตอกิ่งแบบเขาลิ้น นิยมตอก่ิงกับพันธุไมประเภทอวบน้ําและเนื้อออน เชนเดียวกับการตอกิ่งแบบฝานบวบ มีขั้นตอน ดังนี้ (1) เฉือนตนตอเฉียงขึ้นในลักษณะการฝานบวบ ใหรอยแผลยาวประมาณ 1 – 1.5 นิ้ว

(2) ผารอยแผลใหมีลักษณะเปนลิ้น (3) เฉือนกิ่งพันธุดีใหเฉียงลง ลักษณะและขนาดรอยแผลเชนเดียวกับตนตอ (4) ผารอยแผลกิ่งพันธุดี ใหมีลักษณะเปนลิ้น (5) นํากิ่งพันธุดี สวมลงบนตนตอใหลิ้นขัดกัน (6) ใชคลิปหนีบหรือพันดวยพลาสติก (7) หลังจากรอยแผลของตนตอและกิ่งพันธุดี ประสานเชื่อมติดกันสนิทแลว (ประมาณ 1 เดือน)

หลังจากตอกิ่ง ใหเอาคลิปหรือแกะพลาสติกออก 4) การตอกิ่งเสียบขาง พืชที่นิยมทําไดแกไมดอกไมประดับ เชน โกสน เล็บครุฑ สนชนิดตาง ๆ โปยเซียน ฯลฯ และไมผล เชน ขนุน กระทอน ฯลฯ มีขั้นตอน ดังนี้ (1) เฉือนตนตอจากปลายไปสูโคน โดยเฉือนลึกเขาไปในเนื้อไมเล็กนอย ใหแผลยาวประมาณ 1.5 – 2 นิ้ว

(2) ตัดยอดก่ิงพันธุดี ยาวประมาณ 2 – 3 นิ้ว เฉือนใหเปนรูปปากฉลาม รอยแผลยาวประมาณ 1.5 – 2 นิ้ว เฉือนดานหลังของรอยแผล เพื่อใหแผลมีลักษณะเปนรูปลิ่ม

(3) นํายอดก่ิงพันธุดี เสียบเขารอยแผลของตนตอ จัดใหรอยแผลแนบสนิทกัน โดยจัดใหสวนของเนื้อเยื่อเจริญของกิ่งพันธุดีและตนตอตรงกัน

(4) พันดวยพลาสติก หุมรอยแผลใหแนน โดนพันจากลางข้ึนบน (5) ประมาณ 2 – 3 สัปดาห จึงแกะพลาสติกออก แลวพนัใหม โดยเวนสวนของยอดกิ่งพันธุดีไว

เพื่อใหตาแตกยอดใหมออกมาได (6) หลังจากก่ิงใหมเจริญดีแลว จึงตัดยอดเดิมของตนตอท้ิงไป เพื่อใหยอดใหมเจริญไดเต็มที ่

5) การตอกิ่งเสียบเปลือก พันธุไมที่นิยมสวนมากเปนไมผลที่มีเปลือกหนา ลอน และลอกเปลือกไดงาย ไดแก มะมวง ขนุน กระทอน มีขั้นตอน ดังนี้

(1) ตัดตนตอ ตั้งฉากกับก่ิงบริเวณใตขอและชิดขอ (2) กรีดเปลือกตนตอตามแนวตั้ง ยาวประมาณ 2 นิ้ว แลวเผยอเปลือกตนตอที่กรีดไว (3) เลือกยอดพันธุดีที่มีตายอดเตง พรอมที่จะแตกเปนยอดใหม ตัดยอดพันธุดี ประมาณ 3 นิ้ว

แลวเฉือนจากปลายไป โดยใหรอยแผลเปนรูปปากฉลาม ยาวประมาณ 2 – 2.5 นิ้ว หรือเทากับรอยแผลของตนตอ จากนั้น ตัดปลายสวนของดานหลังของรอยแผลเฉียง ประมาณ 45 องศา เพื่อใหรับกับรอยแผลของตนตอท่ีเตรียมไว

(4) นํายอดก่ิงพันธุดีมาสอดเขารอยแผลของตนตอ จัดใหรอยแผลสนิทกัน (5) พันก่ิงใหแนนดวยแถบพลาสติก โดยพันจากดานลางขึ้นบน (6) ประมาณ 2 – 3 สัปดาห หากยอดพันธุดีเปลี่ยนเปนสีน้ําตาล แสดงวารอยแผลไมเชื่อม

Page 22: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

ประสานกัน จึงแกะออกท้ิง แตถายอดพันธุยังเขียวดีอยู แสดงวา ยังมีชีวิตอยู จึงแกะพลาสติกที่พันไวออก แลวพันใหม โดยพันครอมยอดใหยอดโผล เพื่อใหตาเจริญออกมาได ถาหากฝนตก ควรกรีดพลาสติกดานลาง เพื่อใหน้ําซึมออกได

(7) บากเตือนตนตอ โดยบากเหนือรอยแผลเล็กนอยเมื่อยอดใหมเจริญดีแลวจึงตัดยอดของตนตอท้ิงไป เพื่อใหยอดก่ิงพันธุดีเจริญ เปนตนใหมแทน

การเสียบยอด การเสียบยอด คือ การเชื่อมประสานเนื้อเยื่อของตนพืช เดียวกันโดยมีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้

1. ตัดยอดตนตอใหสูงจากพื้นดิน ประมาณ ประมาณ 3 - 4 เซนติเมตร

2. เฉือนยอดพันธุดีเปนรูปลิ่มยาวประมาณ

จึงแกะออกท้ิง แตถายอดพันธุยังเขียวดีอยู แสดงวา ยังมีชีวิตอยู จึงแกะพลาสติกที่พันไวออก แลวพันใหม โดยพันครอมยอดใหยอดโผล เพื่อใหตาเจริญออกมาได ถาหากฝนตก ควรกรีดพลาสติกดานลาง

บากเตือนตนตอ โดยบากเหนือรอยแผลเล็กนอย บากลึกประมาณ เมื่อยอดใหมเจริญดีแลวจึงตัดยอดของตนตอท้ิงไป เพื่อใหยอดก่ิงพันธุดีเจริญ เปนตนใหมแทน

คือ การเชื่อมประสานเนื้อเยื่อของตนพืช 2 ตนเขาดวยกัน เพื่อใหเจริญเติบโต เดียวกันโดยมีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้

ตัดยอดตนตอใหสูงจากพื้นดิน ประมาณ 10 เซนติเมตร แลวผากลางลําตนของ ตนตอใหลึก

เฉือนยอดพันธุดีเปนรูปลิ่มยาวประมาณ 3 - 4 เซนติเมตร

22

จึงแกะออกท้ิง แตถายอดพันธุยังเขียวดีอยู แสดงวา ยังมีชีวิตอยู จึงแกะพลาสติกที่พันไวออก แลวพันใหม โดยพันครอมยอดใหยอดโผล เพื่อใหตาเจริญออกมาได ถาหากฝนตก ควรกรีดพลาสติกดานลาง

บากลึกประมาณ 1 ใน 3 ของลําตน และเมื่อยอดใหมเจริญดีแลวจึงตัดยอดของตนตอท้ิงไป เพื่อใหยอดก่ิงพันธุดีเจริญ เปนตนใหมแทน

ตนเขาดวยกัน เพื่อใหเจริญเติบโต เปนตน

เซนติเมตร แลวผากลางลําตนของ ตนตอใหลึก

Page 23: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

23

3. เสียบยอดพันธุดีลงในแผลของตนตอ ใหรอยแผลตรงกัน แลวใชเชือกมัดดานบน และลางรอยแผลตนตอใหแนน

4. คลุมตนที่เสียบยอดแลวดวยถุงพลาสติก หรือนําไปเก็บไวในโรงอบพลาสติก 5. ประมาณ 5 - 7 สัปดาห รอยแผลจะประสานกันดี และนําออกมาพักไวในโรง เรือนเพื่อรอการปลูก

ตอไป การขยายพันธุ แบบควบแนน

วิธีนี้ใชไดกับพืชผักและผลไม 30 กวาตัวอยาง สามารถขยายไดทีละมากๆ เมื่อเกิดน้ําทวมหรือลมพัดตนแมพันธุเสียหาย สามารถใชวิธีนี้อนุรักษพันธุพืชไดการขยายพันธุพืชผักพ้ืนบานแบบควบแนนอยางมีประสิทธิภาพ เปนวิธีการที่สามารถลดเวลา ตนทุนและการดูแลรักษา สามารถกําหนดปริมาณของผลผลิตใหตรงกับความตองการของตลาดและการบริโภคไดอยางแมนยํา

องคประกอบในการควบแนน มีดังนี้

- ยอดก่ิงพันธุ ความแกออน 40-60% - น้ําสะอาด - แกวพลาสติก ขนาดบรรจุ 10 ออนซ (หรือภาชนะท่ีขนาดใหญกวา ดูตามขนาดของยอดหรือกิ่ง

มะนาว) - ถุงพลาสติกใสขนาด 6 x 11 นิ้ว (หรือขนาดใหญกวา ) - ยางวงเสนเล็ก หรือเชือก

วิธีทํา ขั้นตอนการการเตรียมก่ิงพันธุ

-ตัดใบใหมีกานดานบนใบเล็กนอย สวนดานลางกานใบใหยาวเกือบถึงชั้นที่อยูดานลางถัดไปหรือยาวประมาณ 1-1.5 ซม.

-ตัดใบออกครึ่งหนึ่ง เพื่อลดการคายน้ํา -เปดกรีดเปลือกหุมกานดานของใบ หรือเปดแผลตามความยาวของกาน เพื่อเพ่ิมพ้ืนที่ในการออกราก

1-3 หนา (หากไมทํา เชนนี้รากจะออกเฉพาะที่ปลายลอยตัดเทานั้น) ทําใหตนมะนาวที่นําไปปลูกไมแข็งแรง ถากรีดพืน้ที่ตรงนี้จะเพิ่มพื้นที่ในการออกรากมากข้ึนนั่นเอง

- นํากิ่งท่ีเปดหนาแลว ไปจุมในน้ํายาเรงราก แลวเอาไปผึ่งลมใหแหง ถาไมแหงเมื่อนําไปเสียบในกาบมะพราวอาจเนาได

- เมื่อแหงแลว เอาไปเสียบในดินที่เตรียมไว ขั้นตอนการเตรียมดินปลูก

Page 24: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

24

- เก็บดินจากบริเวณที่มีอินทรีวัตถุนอย ทําดินใหรวนซุย - พรมน้ําคลุกเคลาใหเขากัน แลวปนดู พอติดมือ (กําพอเปนกอน) - นําดินใสใหเต็มแกวพลาสติกหรือภาชนะกระถางที่จะใช โดยแบงใส 3 ครั้ง แตละครั้งกดดินใหแนน

ระดับ 80% - ใชไมแหลมหรือกรรไกรเสียบตรงกลางภาชนะท่ีใสดินใหลึกไมเกิน 3 ใน 4 สวนของแกว - ใชกรรไกรคม ตัดยอดมะนาวตามที่ตองการ ตัดใหยาวประมาณ 12 – 18 ซม. ขอสําคัญ อยาใหแผล

ที่ตัดเปลือกฉีกจะออกรากไมดี - ใชกรรไกรตัดหนามออกใหหมด ปองกันหนามแทงถุง ถาอากาศเขาจะออกรากยาก - นํายอดเสียบลงในรูที่เสียบไว ใหสุด - กดดินรอบก่ิงมะนาวใหแนน อยาใหหลวม จะออกรากยาก - นําถุงพลาสติกครอบลงแลวรัดดวยยางวงจํานวน 2 เสน แลวดึงกนถุงใหยางไปรัดอยูท่ีขอบปากแกว - นําไปเก็บไวในที่รมรําไร หลังจากนั้น 15 – 20 วัน ใหตรวจดูราก พอพบรากใหปลอยจนรากมีสี

น้ําตาลคอยเปดถุง

การเปดถุง มีวิธีดังตอไปนี้ ๑.ใหนําถุงออกจากแกว ชวงประมาณ 18.00 น. เพื่อปองกันความรอน ๒.นําถุงออกแลว นําแกวกิ่งพันธุที่ออกรากแลว ใสกลับลงไปในถุง (เปดปากถุงไว ไมตองใชยางวงรัด) ๓.ทิ้งไวในรมรําไร ประมาณ 5-7 วัน คอยนําแกวมะนาวออกจากถุง เพื่อใหกิ่งพันธุปรับตัวเขากับสภาพแวดลอม ๔.หลังจากนั้นนําแกวกิ่งพันธุที่ออกจากถุง พักตัวไวในรม 7-10 วัน คอยนําไปเพาะในกระถาง หรือนําไปปลูกไดเล

ตัวอยางรากที่งอกออกมา

Page 25: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

25

การลงทุน ลงทุนแคแกวพลาสติกใสเพื่อจะไดมองเห็นรากที่งอก, ยางเสนวงเล็ก, ถุงพลาสติกขนาด 6×10 หรือ 6×11 นิ้วและดินทั่วๆ ไป แตถาเปนดินขุยไผยิ่งดี (หามใสปุยเพราะทําใหดินรอน) เอาดินมาพรมน้ําทดลองกํา ถาดินจับตัวเปนกอนมีความรวนซุยใสลงในแกวพลาสติกกดใหแนนจนดินเต็มเสมอปากแกว…จากนั้นเอายอดกิ่งไมที่เลือกไว ความออนแก 40-60 เปอรเซ็นตตัดกิ่งใหแผลเปนรูปปากฉลาม ใชกรรไกรเจาะดินลงไป 3 ใน 4 สวนของดิน นํากิ่งชํามาเสียบและกดลงไปใหแนนแลวเอาถุงพลาสติกสวมครอบกับแกวพลาสติก แลวใชหนังยางวง 2 เสน รัดปดปากถุงกับแกว ปองกันไมใหอากาศภายนอกเขานําไปวางในที่รมอากาศถายเท ทิ้งไว 15 วัน แลวรากจะงอกมาใหเห็นเมื่อรากเปลี่ยนเปนสีน้ําตาล จัดการเปดถุงตัดกนถวยใหเกิดชองอากาศ นําไปจุมน้ําเล็กนอยดึงแกวออกแลวเอากิ่งปกชําใสถุงใบเดิม นําไปวางพัก 5-7 วันจากนั้นถึงนําไปปลูกลงดิน โดยใหกิ่งชําเอนเฉียงไปทางทิศเหนือหรือใต เพราะถาปลูกตั้งตรงหรือหันเฉียงไปทางทิศอื่นแดดจะเผากิ่งชําตายได…เปนเทคนิคงายๆ ทําเองได ใชทุนไมสูง

ทําทีละเยอะๆแบบนี้ไดเลย

ถาเปนตนไมใหญ หรือพันธุไมที่มีก่ิงที่ใหญ ก็ใหใชวัสดุในการปกชําใหญขึ้นตามและอาจจะนําไมค้ํา ไวดวยก็ดีเพื่อเสริมความคงทนไมเอนเอียงงาย ลองปรับ และทําเปนถาดหลายๆกิ่งทีเดียวก็ได

Page 26: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

26

การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เปนวิทยาการสมัยใหมเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการเก็บรักษาพันธุพืชเอกลักษณที่หายาก มิใหสูญพันธุและ

สามารถนํามาใชประโยชนไดในอนาคต

การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช เปนวิธีการขยายพันธุพืชวิธีหนึ่ง แตมีการปฏิบัติภายใตสภาพที่ควบคุม เรื่อง

ความสะอาดแบบปลอดเชื้อ อุณหภูมิ และแสง ดวยการนําชิ้นสวนของพืชที่ยังมีชีวิต เชน ลําตน ยอด ตาขาง กานชอดอก ใบ กานใบ อับละอองเกสร เปนตน มาเพาะเลี้ยงบนอาหารสังเคราะห และชิ้นสวนนั้นสามารถ เจริญและพัฒนาเปนตนพืชที่สมบูรณมีทั้งสวนใบ ลําตน และรากที่สามารถนําออกปลูกในสภาพธรรมชาติไดที่ผานมามีการนําเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชประยุกตใชกับงานดานเภสัชวิทยา และชีววิทยา แตปจจุบันมีการพัฒนาและนํามาใชแกปญหาหรือเพ่ือประโยชนในภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรมกันมาก ขึ้น เชน การนําเมล็ดไผมาผลิต-ขยายดวยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เมื่อครั้งเกิดเหตุการณไผออกดอกประมาณป 2538 หรือการนําหนอที่มีคุณลักษณะที่ดีของหนอไมฝรั่งมาผลิต-ขยายดวยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพือ่ลดปญหา การใชเมล็ดซึ่งมีการคละเพศ นอกเหนือจากราคาของเมล็ดพันธุที่คอนขางสูง และยังตองนําเขาจากตางประเทศ อีกดวย เปนตน

ประโยชนของการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ คุณสมบัติที่ถูกนํามาใชใหเกิดประโยชนของวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อมีหลายขอพอสรุปไดดังนี ้

1. สามารถผลิตตนพันธุพืชปริมาณมาณมากในระยะเวลาอันรวดเร็ว ตัวอยางเชน หากพืชสามารถเพิ่ม ปริมาณได 3 เทา ตอการยายเนื้อเยื่อลงอาหารใหมทุกเดือนๆ ละ 1 ครั้ง เมื่อเวลาผานไป 6 เดือน จะสามารถผลิต ตนพันธุพืชไดถึง 243 ตน

2. ตนพืชที่ผลิตไดจะปลอดโรค โดยเฉพาะโรคที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส มายโคพลาสมา ดวยการตัด เนื้อเยื่อเจริญที่อยูบริเวณปลายยอดของลําตน ซึ่งยังไมมีทอน้ําทออาหาร อันเปนทางเคลื่อนยายของเชื้อโรค ดังกลาว

3. ตนพืชที่ผลิตได จะมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนตนแม คือ มีลักษณะตรงตามพันธุ ดวยการใช เทคนิคของการเลี้ยงจากชิ้นตาพืชพัฒนาเปนตนโดยตรง หลีกเลี่ยงขั้นตอนการเกิดกลุมกอนเซลลที่เรียกวา แคลลัส

4. ตนพืชที่ผลิตไดจะมีขนาดสม่ําเสมอ ผลผลิตที่ไดมีมาตรฐานและเก็บเกี่ยวไดคราวละมากๆ พรอมกัน หรือในเวลาเดียวกัน

5. เพื่อการเก็บรักษาหรือแลกเปลี่ยนพันธุพืชระหวางประเทศ เชน การมอบเชื้อพันธุกลวยในสภาพปลอดเชื้อ ขององคกรกลวยนานาชาติ (INIBAP) ใหกรมสงเสริมการเกษตร เมื่อป พ.ศ. 2542

6. เพื่อประโยชนดานการสกัดสารจากตนพืช นํามาใชประโยชนดานตางๆ เชน ยาฆาแมลง ยารักษาโรค เปนตน พันธุพืชท่ีทําการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

1. ออย 2. เบญจมาศ 3. สตรอเบอรี่ 4. หนอไมฝรั่ง 5. ขิง 6. มันฝรั่ง 7. สับปะรด

Page 27: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

27

8. สมุนไพร 9. กลวย 10. กระเจียว/ปทุมมา 11. ปูเล 12. ไผ 13. กลวยไมปา 14. สมุนไพร

หองปฏิบัติการเพาะเลี้ยง หองปฏิบัติการ ประกอบดวยสวนสําคัญ 3 สวน คือ

1.หองเตรียมอาหาร ควรเปนหองท่ีมีโตะสําหรับเตรียมสารเคมี อางน้ํา ตูเย็น สําหรับเก็บสารละลาย เขมขน เครื่องชั่ง เครื่องวัดความเปนกรด – ดาง เตาหลอมอาหาร หมอนึ่งฆาเชื้อจุลินทรียแบบความดันไอน้ํา

2.หองถายเนื้อเยื่อ เครื่องมือสําคัญในหองนี้คือ ตูสําหรับเลี้ยงหรือถายเนื้อเยื่อ เปนตูที่มีอากาศถายเทผานแผนกรอง ที่สามารถกรองจุลินทรียไวไดตลอดเวลา ทําใหอากาศภายในตูบริสุทธิ์ ชวยใหทํางานสะดวกรวดเร็ว

3.หองเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช สภาพแวดลอมที่เหมาะสมในการเลี้ยงเนื้อเยื่อจะแตกตางกันสําหรับพืชแตละชนิด โดยทั่วไปมักจะปรับสภาพแวดลอมภายในหองใหมีอุณหภูมิประมาณ 25 องศาเซลเซียส ระยะเวลาที่ใหแสงประมาณ 12 – 16 ชั่วโมง / วัน ความเขมของแสง 1,000 – 3,000 ลักซ การดูแลหองเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชจะตองสะอาดอยูเสมอ หมั่นตรวจดูขวดหรือภาชนะที่เลี้ยงเนื้อเยื่อพืช ถาพบวามีจุลินทรียขึ้นปะปน จะตองรีบนําออกไปตมฆาเชื้อและลางทันที ไมใหเปนที่ สะสมเชื้อจุลินทรียซึ่งอาจแพรกระจายภายในหองได อุปกรณในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

1. พันธุพืชที่จะนํามาเพาะเลี้ยงควรสะอาด ปราศจากโรคและเปนสวนที่สําคัญที่ยังออนอยู เชน ตาเปนอวัยวะท่ีดีที่สุดสวนใบ ดอก ราก ก็สามารถนํามาเลี้ยงได

2. เครื่องแกวตาง ๆ ไดแก ฟลาสคบีกเกอรปเปตต จานเพาะเชื้อ กระบอกตวง ขวดสําหรับเลี้ยงเนื้อเยื่อ 3. สารเคมีตาง ๆ

3.1 สารเคมีที่ใชฆาเชื้อที่ติดมากับผิวพืช เชน คลอรอกซ เอททิลแอลกฮอลเมอคิวริคคลอไรด ไฮโดรเจนเปอรออกไซด

3.2 สารเคมีที่ใชเตรียมสูตรอาหารตาง ๆ 3.3 สารเคมีที่ควบคุมการเจริญเติบโต 3.4 น้ําตาลซูโครส 3.5 วุน

4. เครื่องมือผาตัด ไดแก มีดผาตัด ปากคีบ 5. ตูถายเนื้อเยื่อ 6. อุปกรณเบ็ดเตล็ดตาง ๆ 7. อาหารเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

ความสําเร็จในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชขึ้นอยูกับปจจัยหลายอยาง สิ่งที่สําคัญมากอยางหนึ่งคือองคประกอบของอาหารที่เหมาะสม ซึ่งตองประกอบดวยอาหารที่พืชสามารถนําไปใชอยางมี ประสิทธิภาพ สูตรอาหารเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช ประกอบดวยสวนตาง ๆ ดังนี้

1. สารอนินทรีย

Page 28: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

28

2. สารประกอบอินทรีย 3. สารที่ไดจากธรรมชาติ 4. สารไมออกฤทธิ ์

สารอนินทรีย ไดแก ธาตุอาหารหลัก คือ ธาตุอาหารที่พืชจําเปนตองใชในปริมาณมาก เชน ไนโตรเจน ฟอสฟอรัสโปรแตสเซียม กํามะถัน แคลเซียม แมกนีเซียม และธาตุอาหารรองหรือธาตุอาหารที่พืชจําเปนใชในปริมาณนอย เชน แมงกานีส สังกะสี ทองแดง โมลิบดีนัม โบรอน ไอโอดีน โคบอล คลอรีน

สารประกอบอินทรีย แบงออกไดหลายพวก คือ 2.1 น้ําตาล 2.2 ไวตามิน ชนิดที่มีความสําคัญ ไดแก ไธอะมีน 2.3 อมิโนแอซิค เชน ไกลซีน

สารควบคุมการเจริญเติบโต ไดแก ออกซิน ไซโตไคนิน จิบเบอเรลลิน สารอินทรียพวก อิโนซิทอลอะดีนีน ชวยสงเสริมใหเกิดยอด ซิตริคหรือแอสคอบิคแอซิดชวยลดน้ําตาลที่

บริเวณชิ้นสวนพืช สารที่ไดจากธรรมชาติ เชน กลวยบด น้ํามะพราว น้ําสมคั้น น้ํามะเขือเทศ สารไมออกฤทธิ์ เชน วุนชวยใหพืชตั้งอยูได ผงถานชวยดูดซับสารพิษที่พืชสราง ออกมาและเปนพิษกับพืช

เอง การเตรียมสารละลายเขมขน

การเตรียมอาหารเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช จะไมเตรียมโดยการชั่งสารเคมีในแตละครั้งที่เตรียม แตจะเตรียมเปนสารละลายเขมขน คือ การรวมสารเคมีพวกที่สามารถรวมกันไดโดยไมตกตะกอน ไวดวยกันวิธีการเตรียมเริ่มจากชั่งสารเคมีตามจํานวนที่ตองการ ละลายสารแตละชนิดใหหมดกอนแลวจึงนํามาผสมกัน เติมน้ํากลั่นใหไดปริมาณที่ตองการ กวนใหเขากัน แลวจึงบรรจุในขวดสารละลาย ลงรายละเอียดชนิดของสาร ความเขมขน วันเดือนป ปริมาตร แลวเก็บในตูเย็น วิธีการเตรียมอาหารเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช 1. นําสารละลายเขมขนชนิดตาง ๆ มาผสมกัน คอย ๆ กวนใหเขากันจนหมดครบทุกชนิด 2. เติมน้ําตาล แลวเติมน้ํากลั่นใหไดปริมาตรที่ตองการ ปรับ pH 5.6 – 5.7 3. นําวุนผสมกับอาหารที่เตรียม หลอมวุนใหละลาย 4. บรรจุลงในขวดอาหารในปริมาตรเทา ๆ กัน ปดฝาใหสนิท การฆาเชื้อจุลินทรีย

การฆาเชื้อจุลินทรียในอาหาร นําขวดที่บรรจุอาหารแลวไปนึ่งฆาเชื้อดวยหมอนึ่งความดันไอน้ําที่อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียส ความดัน 15 ปอนด / ตารางนิ้ว เปนเวลา 15 – 20 นาท ี

การฆาเชื้อจุลินทรียบริเวณภายนอกชิ้นสวนพืชเปนสิ่งจําเปนและสําคัญที่จะตองฆาเชื้อจุลินทรียที่ติดมากับบริเวณผิวนอกของชิ้นสวนพืช เนื่องจากอาหารที่ใชเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชมีธาตุอาหารและไวตามิน ที่จุลินทรียตาง ๆ เจริญไดดีและรวดเร็วกวาเนื้อเยื่อพืช การฆาเชื้อจุลินทรียที่ทําไดสะดวกและไดผลดี โดยการใชสารเคมีชนิดที่สามารถฆาเชื้อจุลินทรียไดหมดทุกชนิด และลางออกไดงาย เพราะถาลางออกไดยาก สารเคมีเหลานี้จะมีผลทําใหเนื้อเยื่อพืชตาย หรือมีการเจริญเติบโตไมดีเทาที่ควรการเติมน้ํายาซักฟอกลงไปในสารเคมีที่ใชฆาเชื้อจุลินทรีย จะทําใหประสิทธิภาพสารเคมีเหลานั้นดีขึ้น เนื่องจากจะทําใหลดแรงตึงผิวบริเวณผิวนอกของชิ้นสวนพืช สารเคมีจะแทรกซึมเขาไปทําลายจุลินทรียตามซอกตาง ๆ ไดดีขึ้น การเตรียมสารเคมีฆาเชื้อจุลินทรีย

Page 29: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

29

ทําโดยตวงสารใหไดปริมาณตามที่ตองการ แลวเติมน้ํากลั่นที่นึ่งฆาเชื้อและน้ํายาซักฟอกลงไป เขยาใหเขากัน การเตรียมนี้ควรเตรียมใหมทุกครั้งที่ใช วิธีการเลี้ยงเนื้อเยื่อ 1. นําชิ้นสวนพืชที่ตองการมาลางน้ําใหสะอาด 2. ตกแตงชิ้นสวนพืช ตัดสวนที่ไมตองการออก 3. นําชิ้นสวนพืชจุมในแอลกอฮอล 95 % เพื่อลดแรงตึงผิวบริเวณนอกชิ้นสวนพืช 4. นําชิ้นสวนพืชมาเขยาในสารฆาเชื้อจุลินทรียที่เตรียมไวนาน 10 – 15 นาที 5. ใชปากคีบคีบชิ้นสวนพืช ลางในน้ํากลั่นที่นึ่งฆาเชื้อ 3 ครั้ง 6. ตัดชิ้นสวนพืชตามขนาดที่ตองการแลววางบนอาหารสังเคราะห 7. ลงรายละเอียด เชน ชนิดพืช วันเดือนป หรือรหัส ในการทําการฆาเชื้อที่ติดมากับผิวพืช และการนําไปเลี้ยงบนอาหารทําในตูถายเนื้อเยื่อ โดยตลอดการดูแลเนื้อเยื่อระหวางการเลี้ยงนําขวดเลี้ยงเนื้อเยื่อไปวางบนชั้นในหองเลี้ยงเนื้อเยื่อ โดยปรับสภาพแวดลอมใหเหมาะสมโดยทั่วไปปรับอุณหภูมิภายในหองประมาณ 25 องศาเซลเซียส ระยะเวลาที่ใหแสงประมาณ 12 – 16 ชั่วโมง / วัน ความเขมของแสง 1,000 – 3,000 lux 8. เนื้อเยื่อพืชที่เลี้ยงควรเปลี่ยนอาหารใหมทุก 2 สัปดาห ระหวางการเลี้ยงตรวจดูการเจริญเติบโต สังเกตุการเปลี่ยนแปลง บันทึกรายงานไวเพื่อเปนขอมูล 9. การยายพืชออกจากขวดเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อลงปลูกในกระถางเมื่อพืชเจริญเติบโตเปนตนที่สมบูรณแลว ก็นําลงปลูกในกระถางดังนี้

1. เตรียมทราย : ถานแกลบ หรือ ทราย : ขุยมะพราว อัตราสวน 1 : 1 ใสกระถางหรือกระบะพลาสติค 2. ใชปากคีบ คีบตนพืชออกจากขวดอยางระมัดระวัง 3. ลางเศษวุนที่ติดอยูบริเวณรากออกใหหมด 4. จุมยากันรา ตามอัตราสวนที่กําหนดในสลากยา

ปลูกในกระถางหรือกระบะนําไปไวในตูควบคุมความชื้น แสง อุณหภูมิ หรือนําไวในกระบะพนหมอกเมื่อพืชเจริญตั้งตัวดีแลวจึงยายลงแปลงปลูกตอไป

Page 30: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

ขอดี - ขอเสียของการขยายพันธุพืชในแตละแบบขอดีของการขยายพันธุเมล็ด 1. ทําไดงาย รวดเร็ว และไดจํานวนตนมาก2. เมล็ดมีขนาดเล็ก ไมแหงตายงายและสะดวกในการขนสงไปไกล3. ไมคอยติดโรคไวรัสจากตนแม 4. มีรากแกว สามารถยั่งในดินไดลึก หาน้ําและอาหารไดดี5. ทําไดทุกฤดูกาล 6. มีการกลายพันธุ ทําใหมีโอกาสไดตนที่ดีกวาพอแม

ขอเสียของการขยายพันธุพืชในแตละแบบ

ทําไดงาย รวดเร็ว และไดจํานวนตนมาก เมล็ดมีขนาดเล็ก ไมแหงตายงายและสะดวกในการขนสงไปไกล

มีรากแกว สามารถยั่งในดินไดลึก หาน้ําและอาหารไดด ี

มีการกลายพันธุ ทําใหมีโอกาสไดตนที่ดีกวาพอแม

30

Page 31: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

31

ขอเสียของการขยายพันธุดวยเมล็ด 1. มีการกลายพันธุและมักกลายไปในทางที่เลวกวาตนแม 2. โดยทั่วไปออกผลชากวา 3. ไดตนสูงใหญ ไมสะดวกแกการดูแลรักษาและเก็บเกี่ยว 4. ไดตนท่ีมีขนาดไมสม่ําเสมอ 5. พืชบางชนิดเพาะเมล็ดแลวใชเวลานานกวาที่จะงอก 6. พืชบางชนิดไมมีเมล็ด ตองใชการขยายพันธุจากสวนตางๆ ของลําตนเทานั้น เชน กระเทียม กลวย องุน สมและมะนาวที่ไมมีเมล็ดรวมทั้งลูกผสมที่เปนหมันดวย ขอดีของการขยายพันธุโดยใชสวนตางๆ ของลําตน 1. ไดตนท่ีตรงตามพันธุ 2. ออกผลเร็วกวาตนที่เพาะจากเมลด็ 3. ไดตนท่ีไมสูงเกินไป สะดวกแกการเก็บเกี่ยว 4. ไดตนท่ีมีขนาดสม่ําเสมอ เชน การปกชํากิ่งที่มีขนาดพอๆ กัน ขอเสียของการขยายพันธุโดยใชสวนตางๆ ของลําตน 1. ทําไดไมงายเหมือนเพาะเมล็ดคือ ตองมีการฝกหัดทําอยูบางจึงจะทําไดดี เชน การตอนกิ่ง ติดตาและทาบกิ่ง 2. กิ่งหรือตนมีขนาดใหญ ขนสงไมงายนัก และเปลืองเนื้อที่ในการเก็บรักษา 3. ถาตนแมเปนโรค ตนใหมที่ไดมักติดโรคมาดวย 4. กิ่งตอนหรือก่ิงชําไมมีรากแกว สวนการติดตาหรือทาบก่ิงบนตนตอที่เพาะจากเมล็ดจึงจะไดรากแกว 5. การปกชําและการตอนก่ิง มักทําในสภาพท่ีมีอากาศชื้น จึงจะไดผลสําเร็จเปนเปอรเซ็นตสูง

จะเห็นไดวา การขยายพันธุทั้งการใชเมล็ดและใชสวนตางๆ ของลําตน ตางก็มีทั้งขอดีและขอเสีย พืชที่ปลูกกันมาแตเดิมหรือปรับปรุงพันธุใหมจะสูญพันธุหรือกลายพันธุไปในทางเลวถาไมมีการดํารงพันธุอยางถูกวิธี ผูปลูกจึงควรมีพื้นฐานของการขยายพันธุพืชอยางแมนยํา รูวาพืชใดควรขยายพันธุแบบใด รูขั้นตอนการทําวาทําอยางไรและทําไมจึงตองทําเชนนั้น ไมวาเวลาจะผานไปนานเทาใดหลักการขยายพันธุพืชคงเดิม เพียงแตวิธีหรอเทคนิคอาจจะเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาไปทําใหสามารถขยายพันธุพืชไดมากชนิดขึ้น ทําไดรวดเร็วขึ้นและมีเปอรเซ็นตสําเร็จสูงขึ้น.

Page 32: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

32

สรุปวิธีการขยายพันธุพืชชนิดตาง ๆ

ชื่อพืช ควรขยายพันธุโดย

กระทอน ติดตา ทาบกิ่ง

กลวย แยกหนอ ชําเหงา

ขนุน ติดตา ทาบกิ่ง เพาะเมล็ด

เงาะ ติดตา ทาบกิ่ง

ชมพู ติดตา ตอนกิ่ง

ทุเรียน ติดตา เสียบยอด ทาบกิ่ง

ทับทิม ตอน เพาะเมล็ด

นอยหนา ติดตา เพาะเมล็ด

ฝรั่ง ตอน ติดตา เพาะเมล็ด

พุดทรา ทาบกิ่ง เสียงกิ่ง

มะนาว ตอนก่ิง

มะกรูด เพาะเมล็ด

มะมวง ติดตา ทาบกิ่ง

มะมวงหิมพานต เพาะเมล็ด ติดตา

มะขาม ทาบกิ่ง เสียบกิ่ง เพาะเมล็ด

Page 33: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

33

มะเขือ เพาะเมล็ด

มังคุด เพาะเมล็ด

ยางพารา ติดตา เพาะเมล็ด

ละมุด ตอน ติดตา เพาะเมล็ด

ลองกอง ตอน ติดตา ทาบกิ่ง

ลางสาด ติดตา ทาบกิ่ง ตอน

สมโอ ตอน

สม ตอน ติดตา

ออย ชําตน ปกชํา

Page 34: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

34

เอกสารวิชาการ

กรมสงเสริมการเกษตร. 2556.การขยายพันธุพืช กรุงเทพฯ

http://farmconcept.blogspot.com/2017/04/blog-post_12.html

http://oknation.nationtv.tv/blog/horti-asia/2012/11/30/entry-2

https://sites.google.com/site/chiwwithyachanm5/home/bth-thi6-kar-khyay-phanthu-phuch

http://www.thaikasetsart.com/การขยายพันธุพืช/

mis.agri.cmu.ac.th/course/course_lecture_download.asp?CourseNO=359211&CID

https://content.chemipan.net/.../การเกษตร-และการแปรรูปผลิตภัณฑ

Page 35: 1 หลักสูตร การขยายพันธุ พืช ศูนย ... Propagation.pdf · 2020-03-04 · 1. เอกสารวิชาการ 1. ความสําคัญของการขยายพันธุ

35

ตารางแผนการสอน

เวลา กิจกรรม วิธีการและอุปกรณ

30 นาท ี

30 นาที

30 นาท ี

30 นาท ี

1 ชั่วโมง45 นาท ี

3 ชั่วโมง

สอบราคาพันธุพืชชนิดตางๆ

วิเคราะหหาตนทุนพันธุพืช

เกมสขยายแยะแยะ

หลักการขยายพันธุพืช

การขยายพันธุพืชแบบตางๆ

แบงกลุมฝกปฏิบัติ

กระดาษฟาง ปากกาเคม ี

กระดาษฟาง ปากกาเคม ี

ฝกขาวโพด เมล็ดขาวโพดที่แกะ

แลว

บรรยาย

บรรยาย

มี ด ต อ น กิ่ ง เ ท ป พั น กิ่ ง

ขุยมะพราว ถุง