ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด...

49
บริบทชุมชนบานโนนวัด ตําบลพลสงคราม อําเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา *วาสนา ภานุรักษ ประวัติความเปนมาการกอตั้งหมูบานโนนวัด บานโนนวัด เดิมนั้นเปนตําบลโนนวัด อําเภอโนนวัด มีขุนทิพย(ลําไย) เปนนายตําบล คนแรก ตอมาขุนอินทรเปนนายตําบลคนที่ 2 เมื่อป พ.ศ. 2435 จากนั้นไดเปลี่ยนชื่อจาก อําเภอโนนวัดมาเปนอําเภอกลาง ซึ่งมีฉายา หรือนามสกุลลงทายดวยกลาง แตตอมาได เปลี่ยนชื่อเปนตําบลโพนสงคราม โดยมีนายนาค และนายโข เปนกํานันประจําตําบล ตามลําดับ ซึ่งบานโนนวัดเปนหมูที่ 2 มีนายเหลื่อม จงเลี่ยมกลาง และนายจันทร เชิญกลาง เปนผูใหญบานตามลําดับ ตอมาในป พ.ศ. 2457 ทางการไดเปลี่ยนชื่ออําเภอของอําเภอกลาง เปนอําเภอโนนสูง สวนตําบลโพนสงคราม ไดเปลี่ยนมาเปนตําบลพลสงครามในสมัย นายราตรี ทองมาลัย เปน กํานันตําบล พรอมกับรวมบานโนนวัดกับบานมะรุมเขาดวยกันเปนบานมะรุมหมูที่ 2 มี นายเที่ยง จงเพ็งกลาง และนายแจง แกวกลาง เปนผูใหญบาน ตอมาในสมัยนายอํานาจ ไพเราะ เปนกํานัน เห็นวาอาณาเขตการปกครองกวางขวาง เกินไป จึงแยกตําบลพลสงครามออกเปน 2 สวน คือ ตําบลพลสงคราม และตําบลมะคา บาน โนนวัด และบานมะรุมเปลี่ยนเปนหมูที่ 7 ขึ้นกับตําบลพลสงคราม มีนายนาค จงอาจกลาง นายชื่น ขอเหนี่ยวกลางเปนผูใหญบานบานมะรุม นายออน ขอรสกลาง เปนกํานัน ตอมาป พ.ศ. 2525 บานโนนวัดไดแยกการปกครองออกจากบานมะรุม เปนหมูที่ 11 มี นายถนอม แกวกลาง เปนผูใหญบานจนถึง พ.ศ. 2536 ตอมา วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2536 นายจรูญ จงยอกลาง ไดรับเลือกเปนผูใหญบานจนครบวาระ 5 ป วันที่ 7 กรกฎาคม 2541 นายจรูญ จงยอกลาง ไดรับเลือกเปนผูใหญบานสมัยที่ 2 วันที่ 21 กรกฎาคม 2546 นายจรูญ จงยอกลาง ไดรับเลือกเปนผูใหญบานสมัยที่ 3 จนครบวาระ 5 ป และวันที่ 18 สิงหาคม 2551 นายจรูญ จงยอกลาง ไดรับเลือกเปนผูใหญบานสมัยที่ 4 ดูแลชุมชนบานโนนวัด ถึงปจจุบัน ที่มาของชื่อหมูบานโนนวัด จากองคประกอบดานลักษณะภูมิประเทศของหมูบานโนนวัดซึ่งเปนเนินดิน และ บริเวณทางดานทิศใตของหมูบานเคยเปนวัดเกา มีโบสถอยูบริเวณศาลากลางหมูบานในปจจุบัน จึงเรียกวาบานโนนวัด บริเวณโดยรอบหมูบานจะมีคันคูดินลอมรอบ สามชั้น ทางดานทิศ ตะวันออก ทิศตะวันตก และทิศเหนือ สวนทางดานทิศใตปจจุบันถูกชาวบานเอารถไถดันออก เพื่อใชพื้นที่ในการทําเกษตรกรรม

Upload: chutinun-tongkam

Post on 12-Aug-2015

233 views

Category:

Documents


8 download

DESCRIPTION

บทความโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วาสนา ภานุรักษ์ - สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

TRANSCRIPT

Page 1: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

บริบทชุมชนบานโนนวัด ตําบลพลสงคราม อําเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา

*วาสนา ภานุรักษ ประวัติความเปนมาการกอต้ังหมูบานโนนวัด

บานโนนวัด เดิมนั้นเปนตําบลโนนวัด อําเภอโนนวัด มีขุนทิพย(ลําไย) เปนนายตําบลคนแรก ตอมาขุนอินทรเปนนายตําบลคนที่ 2 เมื่อป พ.ศ. 2435 จากนั้นไดเปลี่ยนชื่อจากอําเภอโนนวัดมาเปนอําเภอกลาง ซึ่งมีฉายา หรือนามสกุลลงทายดวยกลาง แตตอมาไดเปลี่ยนชื่อเปนตําบลโพนสงคราม โดยมีนายนาค และนายโข เปนกํานันประจําตําบล ตามลําดับ ซึ่งบานโนนวัดเปนหมูที่ 2 มีนายเหลื่อม จงเลี่ยมกลาง และนายจันทร เชิญกลาง เปนผูใหญบานตามลําดับ ตอมาในป พ.ศ. 2457 ทางการไดเปลี่ยนชื่ออําเภอของอําเภอกลาง เปนอําเภอโนนสูง สวนตําบลโพนสงคราม ไดเปลี่ยนมาเปนตําบลพลสงครามในสมัย นายราตรี ทองมาลัย เปนกํานันตําบล พรอมกับรวมบานโนนวัดกับบานมะรุมเขาดวยกันเปนบานมะรุมหมูที่ 2 มี นายเที่ยง จงเพ็งกลาง และนายแจง แกวกลาง เปนผูใหญบาน ตอมาในสมัยนายอํานาจ ไพเราะ เปนกํานัน เห็นวาอาณาเขตการปกครองกวางขวางเกินไป จึงแยกตําบลพลสงครามออกเปน 2 สวน คือ ตําบลพลสงคราม และตําบลมะคา บานโนนวัด และบานมะรุมเปลี่ยนเปนหมูที่ 7 ข้ึนกับตําบลพลสงคราม มีนายนาค จงอาจกลาง นายชื่น ขอเหนี่ยวกลางเปนผูใหญบานบานมะรุม นายออน ขอรสกลาง เปนกํานัน ตอมาป พ.ศ. 2525 บานโนนวัดไดแยกการปกครองออกจากบานมะรุม เปนหมูที่ 11 มีนายถนอม แกวกลาง เปนผูใหญบานจนถึง พ.ศ. 2536 ตอมา วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2536 นายจรูญ จงยอกลาง ไดรับเลือกเปนผูใหญบานจนครบวาระ 5 ป วันที่ 7 กรกฎาคม 2541 นายจรูญ จงยอกลาง ไดรับเลือกเปนผูใหญบานสมัยที่ 2 วันที่ 21 กรกฎาคม 2546 นายจรูญ จงยอกลาง ไดรับเลือกเปนผูใหญบานสมัยที่ 3 จนครบวาระ 5 ป และวันที่ 18 สิงหาคม 2551 นายจรูญ จงยอกลาง ไดรับเลือกเปนผูใหญบานสมัยที่ 4 ดูแลชุมชนบานโนนวัด ถึงปจจุบัน ที่มาของชื่อหมูบานโนนวัด

จากองคประกอบดานลักษณะภูมิประเทศของหมูบานโนนวัดซึ่งเปนเนินดิน และบริเวณทางดานทิศใตของหมูบานเคยเปนวัดเกา มีโบสถอยูบริเวณศาลากลางหมูบานในปจจุบัน จึงเรียกวาบานโนนวัด บริเวณโดยรอบหมูบานจะมีคันคูดินลอมรอบ สามชั้น ทางดานทิศตะวันออก ทิศตะวันตก และทิศเหนือ สวนทางดานทิศใตปจจุบันถูกชาวบานเอารถไถดันออกเพ่ือใชพ้ืนที่ในการทําเกษตรกรรม

Page 2: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 2 -

ขอมูลพื้นเชิงที่

1. ที่ต้ัง บานโนนวัด หมูที่ 11 เปนหมูบานขนาดเล็ก บริเวณลุมน้ํามูลตอนบนที่อยูในเขตการ

ปกครองของตําบลพลสงคราม อําเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ตั้งอยูทางทิศตะวันออกเฉียงใตของตําบลพลสงคราม อยูระหวางละติจูดที่ 15 องศา 14 ลิปดา ถึง ละติจูดที่ 15 องศา 16 ลิปดาเหนือ ลองจิจูดที่ 102 องศา 16 ลิปดา 102 องศา 17 ลิปดาตะวันออก

2. ขนาด บานโนนวัดมีพ้ืนที่ประมาณ 5.20 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเปน 3,249.34 ไร มี

ขนาดอยูในอันดับที่ 9 ของหมูบานทั้งหมดในตําบลพลสงคราม ดังแสดงในตารางที่ 1

3. รูปรางและอาณาเขตติดตอ 3.1 รูปราง

บานโนนวัดมีรูปรางคลายรูปสี่เหลี่ยมผืนผาวางตัวยาวในแนวเหนือใต ดังแสดงรายละเอียดในภาพที่ 3 3.2 อาณาเขตติดตอ ทิศเหนือ ติดตอกับ บานหนองหัวแรด ตําบลพลสงคราม ทิศใต ติดตอกับ บานดงพลองพัฒนา และบานดงพลอง ตําบลพลสงคราม ทิศตะวันออก ติดตอกับ บานโนนดินทราย บานมะเกลือ บานหวยใหญ ตําบลมะคา บานกอก ตําบลหลุมขาว ทิศตะวันตก ติดตอกับ บานมะรุม และบานดอนแฝกพัฒนา ตําบลพลสงคราม

Page 3: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 3 -

ภาพที่ 1 แผนที่จงัหวัดนครราชสีมาแสดงเขตการปกครอง

Page 4: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 4 -

ภาพที่ 2 แผนที่อําเภอโนนสงูแสดงเขตการปกครอง

Page 5: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 5 -

ภาพที่ 3 แผนที่บานโนนวัดแสดงเขตการปกครอง

Page 6: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 6 -

ตารางที ่1 แสดงพ้ืนทีห่มูบานในตําบลพลสงคราม

ลําดับท่ี หมู ชื่อหมูบาน พ้ืนท่ี (ตร.กม.) พ้ืนท่ี (ไร) 1 1 บานสระเพลง 7.58 4,739.15 2 4 บานเสลา 7.11 4,445.09 3 9 บานหนองนา 6.75 4,220.71 4 3 บานโคกเปราะหอม 6.72 4,201.52 5 14 บานดอนบุตาโพธิ์ 6.49 4,056.16 6 5 บานหญาคา 6.48 4,051.88 7 6 บานหนองหัวแรด 6.46 4,037.21 8 2 บานพลสงคราม 5.82 3,639.47 9 11 บานโนนวัด 5.20 3,249.34 10 12 บานหนองสรวง 4.17 2,607.26 11 13 บานดอนมะเหลื่อม 3.98 2,484.35 11 15 บานดอนแฝกพัฒนา 3.59 2,244.99 12 7 บานมะรุม 3.52 2,198.32 13 10 บานดอนมันกระซาก 2.88 1,800.93 14 8 บานดอนแฝก 0.57 354.87

4. ลักษณะภูมิประเทศและธรณีวทิยา 4.1 ลักษณะภูมิประเทศ เนื่องจากบานโนนวัดมีสภาพพ้ืนที่เปนที่ราบลุม ลอนตื้น ลาดเอียงไปทางทิศ

ตะวันตกเล็กนอยความลาดเอียงประมาณ 5 เปอรเซ็นต เมื่อพิจารณาตามเสนระดับความสูงของพ้ืนที่ปรากฏ มีเสนระดับความสูงเพียงเสนเดียวผานตอนกลางของหมูบาน คือ เสนระดับความสูงจากระดับน้ําทะเล 160 บานโนนวัดจึงมีระดับความสูงประมาณ 159 - 170 เมตรจากระดับน้ําทะเลปานกลาง จากตอนเหนือลงมาตอนใตของหมูบาน ดังแสดงในภาพที ่4 4.2 ธรณีวิทยา

ธรณีวิทยาของบานโนนวัด สวน ใหญรองรับดวยหินในยุคครีเทเซียส มีอายุ 160 ลานป ประกอบดวย หินตะกอนและหินแปร และยุคควาเทอรนารี มีอายุ 1.8 ลานป ประกอบดวย ตะกอนน้ําพา กรวด ทราย ทรายแปง ดินและหินเกลือ ดังแสดงในตารางที่ ภาพที่ 5

Page 7: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 7 -

ตารางที่ 2 แสดงขอมูลธรณีวิทยาบานโนนวัด

ชนิดหิน ยุค พ้ืนท่ี (ตร.กม.) พ้ืนท่ี (ไร) หินตะกอนและหินแปร ครีเทเซียส 1.222 763.445 ตะกอนน้ําพา ควาเทอรนารี 3.972 2,482.516

ภาพที ่4 แผนที่ตําบลพลสงครามแสดงลักษณะภูมิประเทศ

Page 8: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 8 -

ภาพที่ 5 แผนที่บานโนนวัดแสดงลักษณะทาง

Page 9: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 9 -

5. ลักษณะภูมิอากาศ สภาพภูมอิากาศที่เกิดข้ึนในแตละทองถิ่นเปนผลรวมจากหลายองคประกอบและอุณหภูมิ ปริมาณน้ําฝน จํานวนวันที่ฝนตก จํานวนวันที่เกิดพายุ ฟาคะนอง ระยะเวลาที่ไดรับแสงจากดวงอาทิตย อัตราการระเหย ฯ สิ่งเหลานี้มีผลตอการดําเนินชีวิตของมนุษยมากนอยตางกัน ดังจะไดนํามากลาวเฉพาะบางองคประกอบ โดยใชขอมูลจากสํานักงานเกษตรอําเภอโนนสูง. 2550 โดยยกมาจากสภาพภูมิอากาศในระดับอําเภอเนื่องดวยบานโนนวัดเปนเพียงพ้ืนที่ระดับหมูบาน ซึ่งมีพ้ืนที่เล็กกวาระดับอําเภอโนนสูงหลายเทาจึงไดนํามาบรรยายตามภาพรวมและขยายความเปนจุดๆ เปนเรื่องๆ ดังหัวขอตอไปนี ้ 5.1 ปริมาณฝนเฉลี่ย ปริมาณฝนของบานโนนวัดมีชวงที่ฝนตกคือ ตั้งแตเดือนมีนาคมถึงตนเดือนตุลาคม สิ่งที่ควรนํามาพิจารณาในเรื่องฝน และวิถีชีวิตของคนในพ้ืนที่ คือปริมาณฝนเฉลี่ยรายเดือน จํานวนวันที่ฝนตก และจํานวนวันที่เกิดฝน ฟาคะนอง เพราะปริมาณฝนเฉลี่ยรายเดือนชวยบงชี้ภาพของปริมาณน้ําที่ไดรับและมักสัมพันธกับวันที่ฝนตกโดยเฉลี่ยในเดือนนั้น จากขอมูลปริมาณน้ําฝนเฉลี่ยรายเดือนของตําบลพลสงครามตั้งแต พ.ศ. 2537 – 2550 โดยขอมูลสํานักงานเกษตรของอําเภอโนนสูง ดังตารางที่ 3 ตารางที่ 3 แสดงขอมูลปริมาณน้ําฝนเฉลี่ยตําบลพลสงครามป 2537-2550

พ.ศ. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. รวม เฉล่ีย 2537 0 15.9 63.8 17.2 169 64.6 91 127 165 196 1.1 0 911.8 82.89 2538 0 0 96.2 54.1 116 99.4 40.4 129 224 128 0 0 887 80.63 2539 18 2.4 4.8 37.7 114 164 175 140 165 133 0 0 954.6 86.78 2540 2.6 0 32.6 68.2 27.2 65.1 235 160 201 15.3 0 0 807.8 73.43 2541 0 0 26.5 83.6 297 33 46.8 124 157 65.1 0 0 833.2 75.74 2542 0 5.3 33.1 78.5 87.6 220 208 175 303 138 7.8 0 1257 114.2 2543 0 23.5 53.7 61.9 352 168 75.8 177 170 160 88 0 1330 120.9 2544 12 2 106 111 184 9.6 43.4 154 105 33.7 6.7 0 767.8 69.8 2545 0 6.8 42.8 40 84.6 49.2 105 191 207 128 42 0 897.2 81.56 2546 0 0 24.8 167 318 157 135 80 188 335 56 0 1461 132.8 2547 11 37.3 8.5 153 220 137 75.5 246 163 104 4 0 1158 105.3 2548 0 6.06 83 17 136 101 75.7 97.7 105 79.3 11 0 711.3 64.66 2549 7.1 0 26 128 85.4 79.9 50 161 212 152 17 0 918.5 83.5 2550 0 30.8 21.1 44.2 91.8 94.2 287 70 117 26.8 0 0 782.4 71.12 เฉล่ีย 4.2 10.8 51.9 88.4 190 120 137 169 207 141 20 0 1140.2 103.7

ที่มา : สํานักงานเกษตรอําเภอโนนสูง. 2550

Page 10: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 10 -

10.8

51.988.4

190

120137

169207

141

200

4.20

50

100

150

200

250

ม.ค.

มี.ค.

พ.ค.

ก.ค.

ก.ย.

พ.ย.

เดือน

ปริมา

ณน้ําฝน

แผนภูมิที่ 4.1 กราฟเสนแสดงปริมาณฝนในรอบ 14 ป พ.ศ. 2537 – 2550 อําเภอโนนสูง จงัหวัดนครราชสีมา จากตารางที่ 3 และแผนภูมิที่ 1 สามารถบอกไดวาเดือนที่มีปริมาณฝนเฉลี่ยรายเดือนมากกวา 100 มิลลิเมตร มีอยู 6 เดือนคือตั้งแตเดือน พฤษภาคม – เดือน ตุลาคม มากที่สุดในเดือน ตุลาคม คือ 206.9 มิลลิเมตร จึงสามารถบอกไดวา ชวงเดือนพฤษภาคม – เดือน ตุลาคม เปนชวงที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใตพัดพาเอาลมฝนเขามาทําใหมีฝนตกหนักในชวงเดือนดังกลาว สงผลในเรื่องของการกําหนดฤดูกาล คือชวงฤดูฝน 5.2 อุณหภูมิ อุณหภูมิรายเดือนโดยเฉลี่ยของบานโนนวัดป พ.ศ. 2543 – 2549 ขอมูลของสํานักงานเกษตรตําบลพลสงครามพบวาเดือนที่มีอุณหภูมิสูงสุดในเดือนเมษายนอยูที่ 30.35 องศาเซลเซียส เดือนที่มีอุณหภูมิต่ําที่สุดในเดือนธันวาคมอยูที่ 24.65 องศาเซลเซียส ในป 2544 อุณหภูมิเฉลี่ยต่ําสุด 28.71 องศาเซลเซียส ป 2545 มีอุณหภูมิต่ําสุดเฉลี่ย 27.49 องศาเซลเซียส และบานโนนวัดมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งป 27.86 องศาเซลเซียสดังตารางที่ 4

Page 11: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 11 -

ตารางที่ 4 อุณหภูมิเฉลี่ยรายเดือน ของอําเภอโนนสูง ป พ.ศ. 2543 – 2549

พ.ศ. เดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. เฉล่ีย

2543 23.8 26.9 29 29.1 30.4 28.3 29.4 28.3 29 27.9 27 26.6 27.6 2544 27.5 26.4 31.4 32.2 31.4 31.2 29.9 29.1 28 27.5 25.8 24.2 28.71 2545 24.9 26.8 30.5 29.8 28.7 28.9 29.2 29 28 27.2 25.5 21.4 27.49 2546 25.3 26.6 29 29.3 29.2 28.9 28.6 28.7 28 27.7 24.8 25.2 27.6 2547 27 27.6 27.6 31.4 29.7 28.9 29.2 28.3 28 27.5 24 24.5 27.8 2548 24.5 27.4 29 30.3 28.8 29.7 29.3 28 27.2 27.2 26.2 26 27.8 2549 23.8 27 27.9 30.4 29.9 29.4 28.4 28.5 27.4 - - 28.1

เฉล่ีย 25.26 26.96 29.20 30.36 29.73 29.33 29.14 28.56 27.94 27.50 25.55 24.65 27.86

ที่มา : สํานักงานเกษตรอําเภอโนนสูง. 2549

25.2626.96

29.2 29.73 29.33 29.14 28.56 27.94 27.525.55 24.65

30.36

0

5

10

15

20

25

30

35

ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.

อุณหภู

มิเฉลี่

ย(อง

ศาเซ

ลเซียส

)

แผนภูมิที่ 2 กราฟเสนแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยรายเดือน ของอําเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ป พ.ศ. 2543 – 2549 จากตาราง 4 และแผนภูมิที่ 2 ที่แสดงอุณหภูมิเฉลี่ยรายเดือนของอําเภอโนนสูง ป 2543 – 2549 สามารถนําผลการวิเคราะหอุณหภูมิสูงสุดและต่ําสุดมาเปนเกณฑกําหนดชวงเดือนตางๆ วาอยูในฤดูกาลใด ได 2 ฤดูกาลดังนี้ เดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยรายเดือนสูงกวาอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งป ตองมากกวา 27.86 องศาเซลเซียส อยูทั้งหมด 7 เดือน คือตั้งแตเดือน

Page 12: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 12 -

มีนาคม จนถึงเดือน กันยายน มีอุณหภูมิอยูระหวาง 27.94 – 30.36 องศาเซลเซียส เปนฤดูรอน มีอุณหภูมิสูงสุดอยูที่ 30.36 องศาเซลเซียส ในเดือนเมษายน สวนฤดูหนาวคือ เดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยนอยกวา 27.86 องศาเซลเซียส อยูระหวางเดือน พฤศจิกายน ถึง เดือน กุมภาพันธ และอุณหภูมิต่ําสุดอยูที่ 24.65 องศาเซลเซียส เปนชวงที่มีฝนตกนอย หรืออาจไมตกเลย ซึ่งจะตองเอาขอมูลปริมาณฝนเฉลี่ยรายเดือนมาเปรียบเทียบดวยเพ่ือใหงายตอการจัดชวงฤดูกาล จะเห็นวาฤดูฝนกับฤดูรอนจะมีเดือนควบกัน คือฝนตกเดือน พฤษภาคม ถึงเดือน ตุลาคม และรอนในเดือน มีนาคม ถึงเดือน กันยายน เพราะในฤดูรอนมักมีฝนตก อากาศรอนมาแลวฝนจะตกนั่นเอง 5.3 ฤดูกาล การแบงชวงฤดูกาลมรีายละเอียด ดังตอไปนี ้ 1. ฤดูฝน เริ่มมีฝนตกในเดือนพฤษภาคม จากสถิติปริมาณน้ําฝน ป 2537 – 2550 จะพบวามีปริมาณน้ําฝนเฉลี่ยสูงกวาคาเฉลี่ยรายเดือนอยู 6 เดือน คือ เริ่มตั้งแตเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม ซึ่งเดือนที่มีปริมาณน้ําฝนเฉลี่ยมากที่สุดคือ เดือนกันยายนเฉลี่ย 207 มิลลิเมตร. ซึ่งสูงกวาปริมาณน้ําฝนเฉลี่ยชวง ป 2537 – 2550 คือ 103.7 มิลลิเมตร. 2. ฤดูหนาว อากาศจะเริ่มหนาวตนเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ ซึ่งอากาศหนาวจะมีเปนชวง ๆ ไมหนาวติดตอกัน เดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ํากวาคาเฉลี่ยรายเดือนคือ เริ่มตั้งแต เดือนตุลาคม ถึง กุมภาพันธ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ํากวา 27.86 องศาเซลเซียส 3. ฤดูรอน อากาศเริ่มรอนกลางเดือนมีนาคม ถึง เดือน กรกฎาคม และชวงที่รอนจัดจะอยูในชวงเดือนเมษายน เดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกวา คาเฉลี่ยรายเดือน เริ่มตั้งแตเดือนมีนาคม ถึง กันยายน คือ สูงกวา 27.86 องศาเซลเซียส แตเนื่องจากเดือนพฤษภาคม ถึง ตุลาคม มีปริมาณฝนเฉลี่ยสูงกวาคาเฉลี่ยรายเดือน ทําใหมีเดือนที่เปนชวงฤดูรอนอยางชัดเจนเพียง 2 เดือน คือ เดือนมีนาคม และเมษายน ดังรายละเอียดในตารางที่ 2 และตารางที่ 3 จากตารางที่ 2 บอกไดวา ภูมิอากาศบริเวณบานโนนวัดเปนแบบ AW เพราะทุกเดือนมีอุณหภูมิเฉลี่ยมากกวา 18 องศาเซลเซียส และมีจํานวนเดือนที่ฝนตกมากวา 3 เดือน จะพบวาปริมาณฝนเฉลี่ยจากป 2537 - 2550 มีปริมาณฝนเฉลี่ยสูงสุดในเดือนกันยายน คือ 207 มิลลิเมตร และต่ําสุดที่เดือนธันวาคมคือ 0 มิลลิเมตร และตารางที่ 3 ก็พบวาเดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยจากป 2543 – 2549 สูงสุดคือเดือนเมษายน คือ 30.36 องศาเซลเซียส และต่ําสุดที่เดือนธันวาคม คือ 24.65 องศาเซลเซียส ซึ่งเปนเดือนที่ไมมีฝนตกเลยสังเกตไดจากตารางปริมาณน้ําฝนเฉลี่ย และตารางอุณหภูมิเฉลี่ย แลวสามารถนําไปใชในเรื่องของการแบงฤดูกาลวาเดือนไหนอยูในฤดูกาลใดแลวนํามาใชในเรื่องของการทําเกษตรกรรมวาพืชตองการอุณหภูมิที่พอเหมาะตอการเจริญเติบโต และความตองการน้ําในการเจริญเติบโตของพืชพืชที่

Page 13: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 13 -

ปลูกกันมากในพ้ืนที่ก็คือ มันสําปะหลัง และขาวนาป เปนพืชเศรษฐกิจของชาวบานเลยก็วาได จากการวิเคราะหขอมูลปริมาณฝนเฉลี่ย กับขอมูลอุณหภูมิเฉลี่ย และบานโนนวัดเปนพ้ืนที่ที่ไดรับอิทธิพลจากลมมรสุตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงใต จึงสงผลในเรื่องของฤดูกาล ปริมาณฝน และอุณหภูมิ เพราะลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะพัดพาอากาศหนาวเย็นและแหงแลง ทําใหเกิดฤดูหนาว อากาศแหงแลงอยูในชวงเดือนตุลาคม – เดือนกุมภาพันธ ซึ่งกําลังเก็บเก่ียวผลผลิตจึงไมเปนปญหาเรื่องความแหงแลง สวนลมมรสุมตะวันตกเฉียงใตพัดพาความชุมชื้น และทําใหฝนตกระหวางเดือนเมษายน – สิงหาคม อยูในชวงเพาะปลูกจึงทําใหชาวบานมีน้ําเพียงพอตอการเพาะปลูก และสามารถนํามาปรับใชในการดําเนินชีวิต แบบชาวชนบทใหเขากับฤดูกาลและหลีกเลี่ยงอันตรายจากพายุฝนฟาคะนอง เนื่องจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม และดานอ่ืนๆ ใหสามารถใชชีวิตใหเขากับฤดูกาลตางๆ ที่เกิดข้ึนอยางเหมาะสม 6. โครงสรางพื้นฐาน (ถนน ไฟฟา ประปา) 6.1 ขอมูลการบริการสาธารณะในหมูบาน - บานโนนวัดใชวัดรวมกับบานมะรุมเนื่องจากแยกเขตการปกครองออกจากบานมะรุม จงึมีวัด 1 แหง - หอกระจายขาว 1 แหง - โทรศัพทสาธารณะ 1 ตู แตชํารุดไมสามารถใชงานได - โรงส ี 1 แหง - ไฟฟามีใชทุกครัวเรือน - น้ําประปา 1 แหง ใชน้ําจากสระหนองจอก - ศูนยสาธารณสุขมูลฐาน 1 แหง ถนนเปนถนนคอนกรีตตัดรอบหมูบานและตรงกลางหมูบานเปนถนนดินและคอนกรีต และถนนลูกรังใชสัญจรไปมาระหวางบานโนนวัด-หวยใหญ ดังปรากฏในแผนที่หมูบาน

6.2 สภาพเศรษฐกิจ - ลักษณะเศรษฐกิจของประชากรภายในพ้ืนที่หมูบานโนนวัด สวนใหญ

ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเปนหลัก คือการทํานาเพียงอยางเดียวซึ่งทําไดปละ 1 ครั้ง มีการปลูกพืชผักและผลไมเล็กนอยเพ่ือใชบริโภคภายในครอบครัว เมื่อวางจากการเกษตรกรรมจะไปประกอบอาชีพแรงงานรับจาง หรือ กรรมกรกอสราง คนวัยแรงงานจะออกไปทํางานในโรงงานอุตสาหกรรมในเขตเมือง

Page 14: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 14 -

ซึ่งการทํานาจะเริ่มในชวงเดือน เมษายน – ธันวาคม มี 3 ลักษณะ คือ - แบบหวานแหงเปนการทํานาโดยไถดินที่กําลังแหงไมมีน้ํา แลวคราดใหดินมีกอนขนาดเล็กลงจากนั้นหวานเมล็ดขาวปลูกโดยที่ดินกําลังแหงอยู การหวานดวยวิธีนี้เริ่มทําตั้งแตเดือนเมษายน- มิถุนายน นิยมทําในชวง หรือปที่ฝนแลง หรือฝนไมตกตองตามฤดูกาล - แบบหวานตมเปนการทํานาโดยการไถดินที่มีน้ําขัง หรือดินที่แหง จากนั้นสูบน้ําใส แลวคราดใหดินมีกอนขนาดเล็กลง จนมีลักษณะเปนตมแลวหวานเมล็ดขาวปลูกลงไป การหวานดวยวิธีนี้เริ่มทําตั้งแตเดือนพฤษภาคม เปนตนไป นิยมทําในปที่มีฝนตกตองตามฤดูกาล หรือมีน้ําในลําหวย - แบบนาดํา เปนการทํานาที่มีวิธีการเริ่มตนเหมือนกันกับวิธีหวานตม แตตางกันตรงที่การหวานตมของนาดําตองหวานถี่กวาการหวานตม เรียนวาการตกกลา จากนั้นรอใหตนกลาโตข้ึน ประมาณ 30 เซนติเมตรข้ึนไป แลวสูบน้ําไปเลี้ยงตนกลาอีครั้ง จากนั้นก็ถอนกลามาปกดํา ซึ่งการทํานาดวยวิธีนี้จะไดผลผลิตดี และปริมาณมากกวาการทํานาดวยการหวาน วิธีนี้นิยมทํากันในปที่มีฝนตกตองตามฤดูกาล หรือนาของชาวบานที่อยูใกลแหลงน้ํา เริ่มทําในเดือน มิถุนายน เปนตนไป ซึ่งในการทํานาแตละปชาวบานตองประสบกับปญหาธรรมชาติ ทั้งภัยแลงในป 2546-2547 สวนปญหาน้ําทวมในป 2550 -2551 เพราะในการทํานาตองรอใชน้ําฝนเพียงอยางเดียว ชาวบานจึงไดรับเงินชดเชยจากรัฐบาลดังนี้ ประสบภัยแลง 400 บาท/ไร ประสบภัยน้ําทวม 600 บาท/ไร - อาชีพรอง คือรับจาง และเลี้ยงสตัวเปนอาชีพเสริม ไดแก เลี้ยงโคจํานวน 5 ครัวเรือน เลี้ยงกระบือจํานวน 1 ครัวเรือน เลี้ยงหมู 2 ครัวเรือน เพ่ือขาย และเลี้ยงไกทุกครัวเรือนเพ่ือบริโภคในครอบครัว เหลือจึงขาย - ประชากรในหมูบานมีรายไดเฉลี่ยจากการทํานาอยูระหวาง 15,000 - 20,000 บาทตอป - อัตราคาจางของชาวบานงานที่ออกไปรับจางในหมูบาน และนอกเขตจังหวัดนครราชสีมาอยูระหวาง 200 - 250บาท/วัน ซึ่งข้ึนอยูกับความสามารถในการทํางานเชน ชางปูน 250 บาทตอวัน ชางไม 200 บาทตอวัน เปนตน - อาชีพอ่ืนๆ ไดแก ขาราชการจํานวน 2 คน คือ รับราชการครู และ พยาบาล และอาชีพที่เปนภูมิปญญาชาวบาน เชน การถักแห ทําเครื่องจักสาน ทําเกลือ ทอเสื่อ และจับสัตวน้ํา เปนตน ซึ่งสวนใหญเปนการทําเพ่ือใชในครัวเรือน และขายใหกับคนในหมูบานเมื่อมีคนตองการและมาสั่งทําในกรณีที่มีการซื้อขาย

Page 15: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 15 -

6.3 องคกรที่จัดตัง้ข้ึนโดยการคัดเลือก และกองทุนตางๆ ไดแก - กรรมการหมูบาน กิจกรรม บรหิารงานตางๆ ในหมูบาน - กลุมแมบาน กิจกรรมที่ทําคือ ทอเสื่อ ทอผาหม (เรียกวา ทอหูก) ทอผาไหม ปจจุบันชาวบานไมทําแลว มีเพียงการทําเพ่ือใชสวนตัวเทานั้น - กลุมเย็บผา รวมกลุมเพ่ือทํากิจกรรมเย็บผาอุตสาหกรรมในครัวเรือน ซึ่งเริ่มทําในชวงเดือนมีนาคม – เมษายน มีสมาชิก 15-20 คน โดยรับผามาจากกรงุเทพเปนสวนใหญ และในตัวจังหวัดนครราชสีมาบางสวน มจีักรเย็บผาเปนของกลุม คือ จากจักรเย็บผาสวนตัว และจากงบประมาณสงเสริมของ อบต.พลสงคราม รวม 6 ตัว - กองทุนหมูบานและชุมชนเมือง (กองทุนเงินลาน) กิจกรรม คือ การจายเงินกูยืมเพ่ือการทํากิจกรรมทางการเกษตรภายหมูบาน เชน ทํานา เลี้ยงสตัว เปนตน - กลุมผูสงูอายุ จัดตั้งไดแตปจจุบันขาดการรวมกลุม - กลุมอาสาสมัคร อปพร. กิจกรรมเพ่ือชวยสังคม ดูแลความปลอดภัย และความสงบเรียบรอยในหมูบาน และในตําบลพลสงคราม - ศูนยสาธารณสุขมูลฐานหมูบาน กิจกรรมเพ่ือเก็บ และรวบรวมขอมูลดานสาธารณสุขของคนในหมูบาน - กลุมฌาปนกิจหมูบาน กิจกรรมเพ่ือชวยเงินคาทําศพใหกับผูเสียชีวิตสมาชิก ไดแกชาวบานตําบลพลสงคราม หมู 6 ,7 ,8, 9, 10, 11และหมู 15 ซึ่งเก็บเงินศพ ละ 20 บาท 7. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม เปนสิ่งที่เกิดข้ึนหรือมีอยูเองตามธรรมชาติ และสิ่งที่มนุษยสรางและดัดแปลงข้ึน ซึ่งสามารถนําไปใชประโยชนในการดํารงชีวิตของมนุษยได ทรัพยากรที่สําคัญ เชน ดิน หิน น้ํา ปาไม แรธาตุ แสงอาทิตย อากาศ สัตวปา และมนุษย เปนตน 7.1 ทรัพยากรดิน ชุดดินที่ปรากฏในพ้ืนที่บานโนนวัดนั้นมีทั้งหมด 4 ชุดดิน และ 1 หนวยดิน ไดแก ชุดดินทุงสัมฤทธิ์ ชุดดินโนนไทย ชุดดินกุลารองไห ชุดดินหวยแถลง หนวยดินสัมพันธของชุดดินชุมพลบุรีและชุดดินชุมแสง และบริเวณที่อยูอาศัย ซึ่งชุดดินทุงสัมฤทธิ์มีพ้ืนที่มากที่สุด คือ 2.893 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเปนพ้ืนที่ 1,808 ไร พบบริเวณตอนกลาง และตอนลางของหมูบาน และชุดดินที่มีพ้ืนที่นอยที่สุดคือ ชุดดินหวยแถลง มีพ้ืนที่ 0.057 ตารางกิโลเมตร คิดเปน 35.437 ไร ของพ้ืนที่หมูบาน ดังแสดงรายละเอียดในตารางที่ 5 คําอธิบายชุดดิน และภาพที่ 6

Page 16: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 16 -

ตารางที่ 5 แสดงขอมูลชุดดินในบานโนนวัด

สัญลักษณชุดดิน

ชื่อชุดดิน

พ้ืนท่ี (ตร.กม.)

พ้ืนท่ี (ไร)

Tsr-A ชุดดินทุงสัมฤทธิ์ 2.893 1,808.040

Nt-A ชุดดินโนนไทย 0.869 543.283

Ki-A ชุดดินกุลารองไห 0.719 449.686

Chp/Cs-A หนวยดินสัมพันธของชุดดินชุมพลบุรีและชุดดินชุมแสง 0.458 286.302

U บริเวณทีอ่ยูอาศัย 0.158 98.930

Ht-B ชุดดินหวยแถลง 0.057 35.437

คําอธิบายชุดดิน 1. ชุดดินกุลารองไห (Kula Ronghai series : Ki) พบบริเวณที่ราบตะกอนน้ําพา (Alluvial plain) โดยเกิดจากตะกอนน้ําพามาทับถม มีสภาพพ้ืนที่เปนแบบราบเรียบถึงคอนขางราบเรียบ มีความลาดชัน 0–2 เปอรเซ็นต ชุดดินนี้เปนดินลึกมาก มีการระบายน้ําเลว ดินมีความสามารถใหน้ําซึมผานปานกลางถึงชา และการไหลบาของน้ําบนผิวดินชา ดินบนหนา 10 - 20 เซนติเมตร มีเนื้อดินเปนดินรวน หรือดินรวนปนทราย สีน้ําตาล หรือสีน้ําตาลออน ปฏิกิริยาดินเปนกรดจัดมากถึงเปนกรดเล็กนอย มีคาความเปนกรดเปนดางประมาณ 5.0 - 6.5 สวนดินลางซึ่งเปนชั้นสะสมเกลือ มีเนื้อดินเปนดินรวนปนดินเหนียว หรือดินรวนเหนียวปนทราย สีเทาปนชมพู หรือสีเทาออน หรือสีน้ําตาลปนเทา ปฏิกิริยาดินเปนกลางถึงเปนดางปานกลาง มีคาความเปนกรดเปนดางประมาณ 7.0 - 8.0 พบชั้นไมตอเนื่องทางธรณีที่ความลึกต่ํากวา 1 เมตรจากผิวดิน มีเนื้อดินเปนดินทรายปนดินรวนหรือดินทราย ปฏิกิริยาดินเปนดางเล็กนอยถึงเปนดางจัด มีคาความเปนกรดเปนดางประมาณ 7.5 - 8.5 ชุดดินนี้จะมีจุดประสีน้ําตาลแก และ/หรือ สีน้ําตาลปนเหลือง หรือสีเหลืองปนน้ําตาล ตลอดทุกชั้นดิน ในฤดูแลงจะมีคราบเกลืออยูบนผิวหนาดิน ชุดดินนี้มีความอุดมสมบูรณปานกลาง ปจจุบันใชทํานา บางแหงถูกปลอยทิ้งไวเปนที่รกรางวางเปลาเนื่องจากเปนดินเค็มจัด ชุดดินกุลารองไหที่พบมีเพียงประเภทเดียว คือ หนวยแผนที่ดิน Ki - A : ชุดดินกุลารองไห ที่มีความลาดชัน 0 - 2 เปอรเซ็นต 2. ชุดดินทุงสัมฤทธ์ิ (Thung Samrit series : Tsr) พบบริเวณที่ราบตะกอนน้ําพา (Alluvial plain) โดยเกิดจากตะกอนน้ําพามาทับถม มีสภาพพ้ืนที่เปนที่ราบเรียบถึง

Page 17: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 17 -

คอนขางราบเรียบ มีความลาดชัน 0 – 2 เปอรเซ็นต ชุดดินนี้เปนดินลึกมาก มีการระบายน้ําเลว ดินมีความสามารถใหน้ําซึมผานและการไหลบาของน้ําบนผิวดินชา ดินบนหนา 10 - 30 เซนติเมตร มีเนื้อดินเปนดินเหนียวสีเทาเขม หรือสีเขมของน้ําตาลปนเทา ปฏิกิริยาดินเปนกรดแกถึงเปนกลาง มีคาความเปนกรดเปนดาง ประมาณ 5.5 - 7.0 ดินลางมีเนื้อดินเปนดินเหนียว ดินลางตอนบนมีสีเทา หรือสีเทาออน ปฏิกิริยาดินเปนกรดปานกลางถึงเปนกลาง มีคาความเปนกรดเปนดาง ประมาณ 6.0 - 7.0 สวนดินลางตอนลางมีสีเทาเขม หรือสีเทา หรือสีเทาออน ปฏิกิริยาดินเปนกรดเล็กนอยถึงเปนดางปานกลาง มีคาความเปนกรดเปนดาง ประมาณ 6.5 - 8.0 พบจุดประสีน้ําตาลแก สีน้ําตาล ปนเหลือง และ/หรือสีแดงปนเหลือง ตลอดทุกชั้นของดินพบรอยไถล (slickenside) ในดินลาง ในฤดูแลงจะพบรอยแตกระแหงและพบคราบเกลืออยูบนผิวหนาดิน ชุดดินนี้มีความอุดมสมบูรณปานกลาง ปจจุบันใชทํานา ชุดดินทุงสัมฤทธิ์ที่พบมีอยูประเภทเดียว คือ หนวยแผนที่ดิน Tsr-A : ชุดดิน ทุงสัมฤทธิ์ ที่มีความลาดชัน 0 - 2 เปอรเซ็นต 3. ชุดดินหวยแถลง (Huai Thalaeng series : Ht) พบบริเวณพ้ืนผิวของการเกลี่ยผิวแผนดิน (denudation surface) โดยเกิดมาจากหินตะกอนเนื้อหยาบมีสภาพพ้ืนที่เปนแบบลูกคลื่นลอนลาดเล็กนอย มีคาความลาดชัน 2 – 5 เปอรเซ็นต ชุดดินนี้เปนดินลึกมาก มีการระบายน้ําดี ดินมีความสามารถใหน้ําซึมผานไดปานกลางถึงเร็ว และการไหลบาของน้ําบนผิวดินปานกลาง ดินบนหนาประมาณ 10-30 เซนติเมตร มีเนื้อดินเปนดินรวนปนทราย สีเขมของน้ําตาลปนเทา หรือสีน้ําตาลเขม ปฏิกิริยาดินเปนกรดจัดถึงเปนกรดเล็กนอย มีคาความเปนกรดเปนดางประมาณ 5.5-6.5 สวนดินลางมีเนื้อดินเปนดินรวนปนทราย และจะคอยๆ เปนดินรวนเหนียวปนทรายในดินลางลึกๆ สีน้ําตาลซีด หรือสีออนของน้ําตาลปนเหลือง ปฏิกิริยาดินเปนกรดจัดมากถึงเปนกรดจัด มีคาความเปนกรดเปนดางประมาณ 4.5 - 5.5 ชุดดินนี้มีความอุดมสมบูรณต่ํา ปจจุบันใชปลูกพืชไร เชน มันสําปะหลัง ออย และขาวโพด บางแหงใชปลูกยูคาลิปตัส ชุดดินหวยแถลงที่พบมีอยูประเภทเดียว คือ หนวยแผนที่ดิน Ht - B : ชุดดินหวยแถลง ที่มีความลาดชัน 2 - 5 เปอรเซ็นต 4. ชุดดินโนนไทย (Non Thai series : Nt) เหลื่อจาการกรอนซอยแบง (dissected erosion surface) โดยเกิดมาจากวัตถุตกคางและเศษหินเชิงเขาของหนิตะกอนเนื้อละเอียดที่มีหินปูนปน เชน หินดินดานและหนิทรายแปง สภาพพ้ืนที่ที่เปนที่ราบเรียบถึงคอนขางราบเรียบ มีความลาดชัน 0 – 2 เปอรเซ็นต ชุดดินนี้เปนดินมีการระบายน้ําดีปานกลางในดินบนถงึคอนขางเลวในดินลาง ดินมีความสามารถใหน้ําซึมผานปานกลางและการไหลบาของน้ําบนผิวดินชา

Page 18: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 18 -

ดินบนหนา 10 – 20 เซนติเมตร มีเนื้อดินเปนดินรวนเหนียวปนทรายแปง สีน้ําตาลปนเทาถงึสีเขมมากของน้ําตาลปนเทา ปฏิกิริยาดินเปนกรดเล็กนอยถึงเปนกลาง มีคาความเปนกรดเปนดาง ประมาณ 6.5 - 7.0 สวนดินลางมีเนื้อดินเปนดินเหนียว หรือดินเหนียวปนทรายแปง สีน้ําตาลถงึสนี้ําตาลเขม ปฏิกิริยาดินเปนกรดปานกลางถึงเปนดางปานกลาง มีคาความเปนกรดเปนดาง ประมาณ 6.0 - 8.0 มีจุดสีประสีน้ําตาลแกและสีน้ําตาล ปนเหลืองใน ทุกชั้นของดิน และมีจุดประสีเทา ภายในความลึก 75 เซนติเมตรจากผิวดิน พบชั้นหินตนกําเนิดที่ผุพังอยูกับที่และชั้นหนิพ้ืนทีร่ะดับความลึกต่ํากวา 100 เซนติเมตรจากผิวดิน เศษหินสวนใหญจะเปนหินดินดานที่มีปูนปนสีแดง และมีการสะสมของสารคารบอเนตปะปนอยูในดินดวย ชุดดินนี้มีความอุดมสมบูรณปานกลาง ปจจุบันใชทํานา บางแหงใชปลูกออย ชุดดินโนนไทยที่พบมีอยูประเภทเดียว คือหนวยแผนทีดิ่น Nt - A : ชุดดินโนนไทย ที่มีความลาดชัน 0 – 2 เปอรเซ็นต 5. หนวยดินสัมพันธของชุดดินชุมพลบุรีและชุดดินชุมแสง (Chumphon Buri / Chumsaeng association : Chp / Cs-A) พบดินทั้งสองชุดดินอยูปะปนกันจนไมสามารถจะแยกขอบเขตออกจากกันไดในการสํารวจระดับนี้ ซึ่งดินทั้งสองชุดดินนี้มีความสัมพันธกัน ในดานสภาพภูมิประเทศที่พบแตมีศักยภาพในการใชประโยชนแตกตางกัน หนวยดินสัมพันธของชุดดินชุมพลบุรีและชุดดินชุมแสง ที่พบมีอยูประเภทเดียว คือ หนวยแผนที่ดิน Chp / Cs - A : หนวยดินสัมพันธของชุดดินชุมพลบุรีและชุดดินชุมแสง ที่มีความลาดชัน 0-2 เปอรเซ็นต

Page 19: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 19 -

ภาพที่ 6 แผนที่บานโนนวัดแสดงลักษณะชุดดิน

Page 20: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 20 -

7.2 ทรัพยากรน้ํา พ้ืนที่บานโนนวัดมีแหลงน้ําธรรมชาติที่สําคัญ คือ คลองนอย และหวยใหญ

นอกจากนี้ ยังมีแหลงน้ําที่มนุษยสรางข้ึน ไดแก สระหนองจอก เปนสระน้ําสาธารณประโยชนประจําหมูบาน ซึ่งชาวบานโนนวัดกลาววาสระน้ําดังกลาวเปนสระน้ําที่ใชมาตั้งแตสมัยโบราณ แตปจจุบันชาวบานไดทําการขุดลอกเพ่ิมเติมในโครงการแกไขปญหาการขาดแคลนน้ําอุปโภคบริโภคของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ป 2548 เพ่ือใหมีน้ําเพียงพอตอการอุปโภคบริโภคภายในหมูบาน ดังแสดงในภาพที ่7 ภาพที่ 8 และภาพที่ 9

ภาพที่ 7 สระหนองจอก

ภาพที่ 8 คลองนอย

Page 21: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 21 -

ภาพที่ 9 แผนที่บานโนนวัดแสดงแหลงน้ํา

Page 22: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 22 -

7.3 ทรัพยากรแร แรที่พบในพ้ืนที่บานโนนวัดไดแก แรเกลือ ซึ่ง แหลงแรเกลือที่พบจะมี 2 ลักษณะ คือ โดมเกลือ และแองเกลือ โดยพ้ืนที่สวนใหญของบานโนนวัดเปนแองเกลือมีพ้ืนที่ประมาณ 5.107 ตารางกิโลเมตร คิดเปน 3,192.101 ไร ของพ้ืนที่ทั้งหมดของหมูบาน ดังแสดงรายละเอียดในตารางที่ 6 และภาพที่ 10 ตารางที่ 6 แสดงขอมูลแรในบานโนนวัด รายละเอียดแร พ้ืนท่ี (ตร.กม.) พ้ืนท่ี (ไร) โดมเกลือ 0.087 54.065 แองเกลือหิน 5.107 3192.101

ภาพที่ 10 แผนที่บานโนนวัดแสดงแหลงแรเกลือ

Page 23: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 23 -

7.4 ทรัพยากรปาไมและพืชพรรณทองถิ่น โดยสวนชาวบานโนนวัดจะใชประโยชนจากปาหนองตะคุ อยูทางทิศเหนือของหมูบาน ซึ่งมีพ้ืนที่ทั้งหมด 207 ไร ครอบคลุมพ้ืนที่สวนใหญในบานหญาคา หมู 6 และบานหนองหัวแรด หมู 7 มีการใชประโยชนรวมกันของชาวบานในตําบลพลสงคราม เชน การเก็บผัก เก็บสมุนไพร และเก็บเห็ด เปนตน ดังแสดงรายละเอียดในภาพที่ 11.1

ภาพที่ 11 แผนที่ตําบลพลสงครามแสดงพ้ืนที่ปาชุมชน หนองตะคุ

Page 24: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 24 -

พืชพรรณที่สําคัญในพ้ืนที่บานโนนวัด จากการสํารวจพืชพรรณประจําถิ่นในพ้ืนที่บานโนนวัดบริเวณโดยรอบหมูบานจํานวน 2 ครั้ง เมื่อ วันที่ 11 และ15 มกราคม 2552 โดยไดรับความรวมมือจากนายจรูญ จงยอกลาง ผูใหญบาน และนายชื่น จงสุขกลาง นายกําจร มุงซอนกลาง ชาวบานโนนวัด เปนผูรวมสํารวจ และใหขอมูลชื่อพรรณไม จากการสํารวจดังกลาวพบพืชพรรณทั้งหมด 142 ชนิด ไดแก วานไพร พญามาแดง รางจืด เฒาหนังแหง วานมหาเมฆ ไผ มะตูม มันนก มะขาม กระถิน มะกรูด มะละกอ มะยม แกว มะรุม นอยหนา พริก พลู มะเฟอง กระชายดํา กระชายหอม ตะโก ฝรั่ง โสม มาดกา/ข้ีเหลา แกวปา กลวย ตะไคร เสลดพังพอน ข้ีเหล็ก มันสําปะหลัง ขอย ตะบองเพชร มะกํ่าตาแดง วาสนา พุงดอ หมัน ไรใบ ผักหวานบาน กระเพรา ปอข้ีแตก สีหลอด/สบูดํา มะเกลือ เข็ม สาบเสือ/ดงราง โพะเพะปา สะแก คัดเคา หญาควยงู มะลิลา แจง เกาะไก ปะดง ยอ ปาลม สะเดา ขา เฟองฟา มะเขือเปราะ สลักใด พุดซา มะขามเทศ ถั่วขอ ผักปง ชะอม ทับทิม บวบ ดอกรัก งูเขียว กุม ตํายาน ยูคา ชบา คูณ มะกอกปา สมเชา หวา งาชาง มะพราว เทียนทอง มะระข้ีนก แค กก คงคาเดือด เคลือตดหมา กําแพงเจ็ดชั้น น้ําเปลียง ชุมเห็ดเทศ ถั่วแระ ขาวสาร/ขัดมอญ ไอแบ สัปปะรด ตําแย/หมามุย ข้ีหนอน อัญชัน สนิม เล็บเหย่ียว หนามเกลี้ยง นมแมว กระดีด รําพัน แหวหมู ทองพันชั่ง กามปูตําลึง ไผรวก หนาด สีหลอดเทศ มะนาว ดาหลา ตีนเปด ลําไย ดอกแกว มะกอกน้ํา กระดังงา ออมเงิน พลับพลึง โหระพา จักรพรรดิ สมเขียวหวาน มะมวง ทับแทว ละมุด ออย จันผา โปยเซียน นกยูง กระชาว มุกมัน ปบ ตุมแก สาบแลง ฟาทะลายโจร มะเขือพวง แมงลัก แปะตําปง ชะพลู วานหางจระเข หญานาง บอระเพชร หนาด โดยมีการกระจายตัวของพืชพรรณ ดังแสดงรายละเอียดในภาพที่ 11.2 ภาพที่ 12 .1 ภาพที่ 12.2

Page 25: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 25 -

ภาพที่ 11.2 แผนที่บานโนนวัดแสดงการกระจายของพรรณพืช

Page 26: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 26 -

ภาพที่ 12.1 ตัวอยางพืชพรรณสําคญัทีพ่บในบริเวณหมูบานโนนวัด

Page 27: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 27 -

ภาพที่ 12.2 ตัวอยางพืชพรรณสําคญัทีพ่บในบริเวณหมูบานโนนวัด

Page 28: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 28 -

7.5 การใชประโยชนที่ดิน การใชประโยชนที่ดินของบานโนนวัด ตําบลพลสงคราม อําเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา มีการใชประโยชนโดยสวนมากมีอยู 3 ประเภท คือ พ้ืนที่นาดํา 4.246 ตารางกิโลเมตร คิดเปน 2,653.683 ไร พ้ืนที่นาดํา และปาผลัดใบเสื่อมโทรม 0.859 ตารางกิโลเมตร คิดเปน 536.805 ไร บานโนนวัดเปนหมูบานบนพ้ืนที่ราบ ที่มีไมผลผสม 0.089 ตารางกิโลเมตร คิดเปน 55.473 ไร (พ้ืนที่หมูบาน) ดังเสดงรายละเอียดในตารางที่ 7 และภาพที่ 13 ตารางที่ 7 แสดงขอมูลการใชประโยชนที่ดินบานโนนวัด

การใชประโยชนท่ีดิน พ้ืนท่ี (ตร.กม.) พ้ืนท่ี (ไร) นาดํา 4.246 2,653.683 นาดํา/ปาผลัดใบเสื่อมโทรม 0.859 536.805 หมูบานบนพื้นที่ราบ-ไมผลผสม 0.089 55.473

7.6 การถือครองที่ดิน การถือครองที่ดินของชาวบานโนนวัดเปนที่ดินทํากินของตนเองทั้งหมด และมีการเชาที่ดินเพ่ือทํานาประมาณรอยละ 5 เพ่ือเพ่ิมผลผลิตจากการทํานา โดยอัตราคาเชาคิดเปนรอยละ 25 คือถาไดขาว 100 กระสอบ ตองจายคาเชาที่ 25 กระสอบ

Page 29: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 29 -

ภาพที่ 13 แผนที่บานโนนวัดแสดงการใชประโยชนที่ดิน

Page 30: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 30 -

8. ประชากรและการต้ังถิ่นฐาน 8.1 การตั้งถิ่นฐาน

บริเวณที่มีการตั้งถิ่นฐานของบานเรือนมีลักษณะเปนเนินดินโบราณมีความสูงจากจุดศูนยกลางของตัวหมูบานที่ระดับความสูง 168 เมตรจากระดับน้ําทะเลปานกลาง ลาดเอียงขยายตัวออกเปนรูปวงกลม และมีคันดินลอมรอบ 3 ชั้น

บานโนนวัดมีการตั้งถิ่นฐานแบบรวมกลุม (Cluster Settlement) เปนลักษณะการตั้งถิ่นฐาน ในรูปแบบที่เปนไปตามธรรมชาติ ขาดการวางแผนลวงหนา ลักษณะที่โดดเดนของการตั้งถิ่นฐานในรูปแบบนี้ไดแก การตั้งบานเรือนรวมกันเปนกลุมๆ บนพ้ืนที่เกษตรกรรมของตนเองดังรายละเอียดในภาพที่ 14 และภาพที่ 15

8.2 ขอมูลประชากร บานโนนวัด หมูที่ 11 มีจํานวนครัวเรือนทั้งสิ้น 47 ครัวเรือนที่อาศัยอยูจริง(ที่มา : ขอมูลการสํารวจภาคสนาม, กุมพาพันธ 2552) ประชากรทั้งหมด 228 คน แยกเปนประชากรชาย 103 คนประชากรหญิง 125 คน (ที่มา : สัมภาษณนายจรูญ จงยอกลาง, กุมพาพันธ 2552) ผูสูงอายุที่มีอายุ 80 ปข้ึนไป มีดังนี้ 8.1 นายสุข ทองสุขนอก อายุ 86 ป เกิดเมื่อ พ.ศ. 2465 อยูบานเลขที่ 1 8.2 นางอินทร ขอเหล็กกลาง อายุ 86 ป เกิดเมื่อ พ.ศ. 2465 อยูบานเลขที่ 22 8.3 นายแกว มุงเสริมกลาง อายุ 82 ป เกิดเมื่อ พ.ศ. 2470 อยูบานเลขที่ 32 8.4 นางฝาย ทองสุขนอก อายุ 81 ป เกิดเมื่อ พ.ศ. 2471 อยูบานเลขที่ 1 การแบงชวงอายุของประชากรในหมูบานโนนวัดเปนดังนี้ ตารางที่ 8 แสดงขอมูลประชากรแบงชวงอายุ ป 2552

ชวงอายุประชากร ชาย หญิง จํานวนรวม (คน)

0 - 6 ป 11 14 25 7 - 19 ป 27 31 58 20 - 39 ป 30 41 71 40 - 59 ป 23 24 47 60 ปขึ้นไป 12 15 27

รวมทั้งหมด 103 125 228

ที่มา : สถานีอนามัยบานมะรุม หมูที ่7, กุมพาพันธ 2552

Page 31: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 31 -

จากตารางที่ 8 สามารถบอกไดวา ประชากรในหมูบานโนนวัดมีจํานวนประชากรวัยแรงงาน หรือวัยกลางคนมากที่สุด คือ 71 คน และรองลงมาคือวัยรุน และวัยแรงงานตอนปลาย ตามลําดับ สวนประชากรวัยเด็ก และวัยชรามีจํานวนใกลเคียงกัน เมื่อพิจารณาประชากรแบงชวงอายุในพีระมิด จะมีฐาน และยอดแคบ ชวงกลางของพีระมิดจะกวาง ดังแผนภูมิที่ 3

แผนภูมิที่ 3 พีระมิดแสดงขอมูลประชากรบานโนนวัดแบงชวงอายุ ป 2552

8.2 ดานสุขภาพอนามัย สุขภาพของคนในหมูบานมีสุขภาพที่แข็งแรงดี มโีรคทีช่าวบานเปน คือ ความดันโลหติสงู 10 รายโรคเบาหวาน 4 ราย โรคพิการ 1 ราย ปญญาออน 1 ราย และโรคจิต 2 ราย (ที่มา : อนามัยบานมะรุม หมู 7, กุมพาพันธ 2552) ถาเกิดการเจ็บไขไดปวยก็ไปรักษาที่สถานีอานามัยบานมะรุม ถาอาการปวยรุนแรงก็สงตัวไปรกัษาที่โรงพยาบาลโนนสงู ตารางที่ 9 แสดงสถานภาพการสมรสของประชากร วัยเจริญพันธุ 15 – 44

ป 2551 สถานภาพ จํานวน สมรสแลว 11 คู

โสด 7 หยาราง - หมาย 1

แยกกันอยู -

Page 32: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 32 -

จากตารางที่ 9 สามารถบอกไดวา สถานภาพการสมรสของประชากรวัยเจริญพันธุ ชวงอายุ 15 – 44 ปนั้น มีผลตออัตราการเพ่ิมประชากรนอยมากจากจํานวนประชากรทั้งหมดในหมูบานเพราะสถานภาพการสมรส กับ สถานภาพโสด มีจํานวนใกลเคียงกัน คือ 11 คู และ 7 คน ดังนั้นจึงสามารถสรุปไดวาบานโนนวัดมีประชากรอยูอยางกระจุกตัวบริเวณเนินดินโบราณ มีการตั้งถิ่นฐานเปนแบบกลุมตามที่ดินทํากินของบรรพบุรุษ จึงไมจัดอยูในภาวะที่ประชากรหนาแนนเมื่อเทียบกับขนาดของพ้ืนที่ของหมูบาน และเทียบกับหมูบานอ่ืนๆ ในพ้ืนที่ตําบลพลสงครามก็ย่ิงพบวาบานโนนวัดมีการกระจายตัวของการตั้งถิ่นฐาน และการกระจายตัวของประชากรอยูในชวงปานกลาง คือไมสูงหรือต่ําจนเกินไป 8.3 การศกึษา ระดับประถมศึกษาปที่ 4 คิดเปนรอยละ 90 ของประชากรทั้งหมด ไดแกประชากรที่มีอายุตั้งแตอายุ 39 ปข้ึนไป ระดับประถมศึกษาปที่ 6 จํานวน 10 คน ไดแกประชากรที่มีอายุตั้งแตอายุ 32-38 ปข้ึนไป ระดับมัธยมศึกษาปที่ 3 จํานวน 21 คน ระดับมัธยมศึกษาปที่ 6 จํานวน 28 คน ระดับ ปวช. จํานวน 2 คน ระดับ ปวส. จํานวน 1 คน ระดับปริญญาตรี จํานวน 2 คน

Page 33: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 33 -

ภาพที่ 14แผนที่บานโนนวัดแสดงการตั้งถิ่นฐาน

Page 34: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

ภาพที่ 15 แผนที่บานโนนวัดแสดงที่ตัง้ครัวเรือน

Page 35: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

8.4 การคมนาคม การคมนาคมติดตอของตําบลพลสงครามมีเสนทางคมนาคมที่สําคัญอยู 2 เสนทาง คือ 1. ทางรถไฟ คือเสนทางสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นครราชสีมา-หนองคาย) ผานหมูบานในตําบล พลสงคราม คือ หมูที่ 1, 4 ใชเดินทางติดตอ อําเภอโนนสูง / จังหวัดนครราชสีมา/กรุงเทพฯ สวนชาวบานโนนวัดโดยสารทางรถไฟที่สถานีมะคา 2. ทางรถยนต มีเสนทางคมนาคมที่สําคัญ คือ ถนน ลาดยาง รพช.นม. 11010 (สายหนองหัวฟาน) ผานหมูบานหมูที่ 1 และ 2 ใชเดินทางติดตออําเภอ/ตําบลใกลเคียง ถนน ลูกรัง รพช.นม. 11010 ใชเดินทางติดตอระหวางหมูบานภายในตําบลผานหมูบานหมูที่ 2, 3, 5, 6, 7, 9, 12 และถนนหินคลุกโนนวัด – หวยใหญ เปนเสนทางในการคมนาคมกับบานหวยใหญ และหมูบานอ่ืนๆ ในตําบลมะคา และตําบลใกลเคียง อาจกลาวไดวาการเดินทางติดตอในตําบลพลสงครามมีความสะดวกพอสมควรเนื่องจากถนนมีการปรับปรุงใหดีอยูตลอดเวลา เพราะไดงบประมาณสนับสนุน การซอมแซมจากองคการบริหารสวนตําบลพลสงครามทุกป การคมนาคมภายในตําบลสวนใหญจะใชยานพาหนะสวนตัว เชน รถยนต รถอีแตน รถจักรยาน-ยนต เปนตน 3. รถโดยสารประจําทาง ของพรทวีชัย จํานวน 3 คัน โดยแบงเปน 2 สาย สายแรก ไป-กลับโนนสูง จํานวน 2 คัน วันจันทร – ศุกร มีรถ 2 เที่ยว คือ รอบแรก ออกจากมะรุม 07.00 น. - กลับจากโนนสูง 10.00 น. รอบที่สอง ออกจากมะรุม 14.30 น. – กลับจากโนนสูง 17.00 น. เพ่ือรับสงนักเรียน สวนวันเสาและวันอาทิตย จะมีรถรอบเดียวคือ รอบเชา สายที่สอง ไปบานหญาคา บานขามเฒา สวนเสนทางการคมนาคมในบานโนนวัด ประกอบไปดวย ถนนคอนกรีตที่เปนเสนทางสัญจรภายในหมูบาน และ ระหวางหมูบาน ซึ่งก็คือ บานมะรุม และหมูบานอ่ืนๆ บนเสนทางหมายเลข 3512 9. การเมืองการปกครอง ผูใหญบานโนนวัดคือ นายจรูญ จงยอกลาง อายุ 59 ป ผูชวยผูใหญบานคือ 1. นายลบ จงสุขกลาง อายุ 43 ป 2. นายลาด จงยอกลาง อายุ 58 ป สมาชิกองคการบริหารสวนตําบลคือ 1. นายจรัส แกวกลาง อายุ 50 ป 2. นายชื่น สวยกลาง อายุ 58 ป

Page 36: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 36 -

ภาพที่ 16 ผูใหญบานโนนวัด

กรรมการหมูบานไดแก 1. นางสาวสมหมาย พันธสระนอย อายุ 36 ป 2. นางจํารัส พรมนอก อายุ 38 ป 3. นายสุเชต ทองสุขนอก อายุ 42 ป 4. นางจิม แบขุนทด อายุ 44 ป การปกครองของบานโนนวัดมีการแบงคุม ออกเปน 3 คุมเมื่อสมัยมีโครงการแผนดินธรรมแผนดินทอง ไดแก 1. คุมประชารัฐพัฒนา หัวหนาคุมคือ นายสิน เหล็กกลาง 2. คุมสุริยาพาเจริญ หัวหนาคุมคือ นางสาวจําป จงเพ็งกลาง 3. คุมใตแสนสุขยุตพัฒนา หัวหนาคุมคือ นายชื่น จงสุขกลาง ดังภาพที่ 17

Page 37: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 37 -

ภาพที่ 17 แผนที่บานโนนวัดแสดงเขตการปกครอง แบงเปนคุม

Page 38: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 38 -

10. วัฒนธรรมและประเพณี ภาษาและศาสนา ชาวบานโนนวัดรอยละ 100 ใชภาษาไทยโคราชเปนภาษาพูด และใชภาษาไทยกลางเปนภาษาเขียน และมีคําอีสานปะปนบาง ชาวบานโนนวัดทุกคนนับถือศาสนาพุทธ รูปแบบสังคม มีลักษณะของสังคมปด คือรูจักกันหมดทั้งหมูบาน เรียกวา หัวบานทายบาน ใครทําอะไรผิดแผกออกไปจะรูกันทั้งหมูบาน เปนลักษณะสังคมแบบเกา มีกิจกรรมและพิธีกรรมพ้ืนบานหลายกิจกรรม ย่ิงเมื่อพูดถึงประเพณีแลวก็จะรักษาและปฏิบัติกันมิไดขาด ลักษณะเชนนี้จึงทําใหชาวบานโนนวัดมีความรักถิ่นที่อยูไมชอบการเดินทางหรือโยกยายพ้ืนที่ทํากินไปที่อ่ืน มีความเปนอยูโดยการรวมกลุมแบบเครอืญาต ิ การแตงกาย ผูสูงอายุการแตงกาย ผูหญิงนุงผาถุง หรือเรียกวา ผาซิ่น เสื้อคอกลมผาอกทั้งแขนสั้นและแขนยาว ใสเสื้อคอกระเชาไวดานใน ผูชายนุงกางเกง เสื้อคอกลมทั้งผาอกและไมผาอก ผาขาวมาคาดพุง หรือพันรอบศีรษะ แตคนสมัยปจจุบันไดรับอิทธิพล และรับคานิยมจากประเทศตะวันตก ก็มีการสวมกางเกง และเสื้อยืด ทั้งชายและหญิง เปนตน ดังรายละเอียดในภาพที่ 18

ภาพที่ 18 ลักษณะการแตงกายของผูสงูอายุในหมูบานโนนวัด

ลักษณะบานเรือน ในอดีตเปนบานไมใตถุนสูง หลังคามุงดวยหญาคา ฝาบานทําดวยหญาคา หรือตนรําพัน ปจจุบันฝาบานไดเปลี่ยนมาทําดวยไมไผ หรือสังกะสีเพราะชาวบานสวนใหญยังยากจน สวนชาวบานคนใดที่พอมีกินบางจะเปลี่ยนมาใชไมฝากระดาน และมุงดวยสังกะสีหรือกระเบ้ืองแทน เพราะไมตองกังวลวาหลังคาจะรั่ว หรือตองเปลี่ยนหลังคาบอยครั้ง ถาเปรียบเทียบกับหลังคาที่มุงดวยหญาคากับสังกะสีแลว สมัยตอๆ มาไดเปลี่ยนเปนบานสองชั้นใตถุนสูงชั้นลางกอดวยอิฐฉาบปูน โดยข้ึนอยูกับฐานะของแตละครอบครัว และบานที่มีอายุเกาแกที่สุดในบานโนนวัดที่ยังคงมีอยูคือ บานเลขที่ 2 ผูสรางบานหลังนี้ คือ ขุนทิพย (ลําไย) ตาของคุณยายของนางจัด จงสุขกลาง และเจาของปจจุบันคือ นางจํานง เชือกจอหอ เปนนองสะใภของนางจัด จงสุขกลาง ดังแสดงรายละเอียดในภาพที่ 19 - 21

Page 39: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 39 -

ภาพที่ 19 ลักษณะบานเรือนสมัยเกาที่อาศัยอยูมา 3 ชั่วอายุคน

ภาพที่ 20 ลักษณะบานเรือนสมัยเการวมกับสมัยปจจุบัน

Page 40: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 40 -

ภาพที่ 21 ลักษณะบานเรือนสมัยปจจุบัน

อาหาร อาหารที่นิยมรับประทานขาวจาวเปนหลัก สวนอาหารหลักไดแกน้ําพริกผักจิ้ม และอาหารที่สามารถหาไดในพ้ืนที่ เชน ปู ปลา หอย กบ เปนตน ตัวอยางอาหารพ้ืนบาน แกงมันนก วัตถุดิบประกอบดวย พริก(ใชไดทั้งพริกแหงและพริกสด) หอมแดง ตะไคร ใบมะกรูด เกลือ โขลกใหเขากัน (ใชเปนพริกแกง) มันนกหั่นเปนชิ้นพอดีคํา ปลายาง ใบโหรพา หรือใบแมงลัก สวนเครื่องปรุงประกอบดวย น้ําปลารา ผงชูรส น้ําปลา เปนตน วิธีทํา ติดไฟในเตา >> ใสน้ําในหมอประมาณ ครึ่งหมอตั้งบนเตารอน้ําเดือด >> จากนั้นใสพริกแกง ตามดวยมันนก >> ปรุงเครื่องใหอรอย รอจนมันนกสุก โดยการคักข้ึนมาบีบดูวาเนื้อของมันนกนิ่มหรือยัง ถานิ่มแลวแสดงวาสุก >> จากนั้นใสใบโหรพา หรือใบแมงลัก ยกลงจากเตาก็รับประทานได กับขาวสวย ประเพณีที่สําคัญของหมูบาน เดือน สาม (เดือนกุมภาพันธ) ประเพณีเรียกขวัญขาว ในวันข้ึน 3 คํ่า เดือน หา (เดือนเมษายน) ประเพณีเลี้ยงศาลปูตาประจําหมูบาน ประเพณีสงกรานต ในเดือนนี้นิยมบวชนาค เดือน หก (เดือนพฤษภาคม) ประเพณีแหนางแมว ขอฝน เดือน แปด (เดือนกรกฎาคม) ประเพณีทําบุญเขาพรรษา เดือน สิบ (เดือนกันยายน) ประเพณีทําบุญสารทไทย เดือน สิบเอ็ด (เดือนตุลาคม) ประเพณีเรียกขวัญขาว และขาวตั้งทอง (ขาว ทองมาร) และประเพณีทําบุญออกพรรษา

Page 41: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 41 -

เดือน สิบสอง (เดือนพฤศจิกายน) ประเพณีลอยกระทง ในวันข้ึน 15 คํ่า และเทศนมหาชาติ

การดําเนินชีวิตตามวิถีชาวบาน วิถีชีวิตชาวบานโนนวัดที่โดดเดนมากที่สุดคือ การมีปฏิสัมพันธที่ดีกับผูมาเยือน และวิธีการหาอาหาร เชน การขุดปู ขุดกบในฤดูแลง การหาปลา เชน การจับปลาหลดดวยเกาะขอ หรือเกาะงอง (เครื่องมือจับปลาหลด) การชอนปลาดวยตะแกรงชอนปลา การใสมอง การทอดแห ในแหลงน้ําธรรมชาติของหมูบาน การเก็บเห็ด เก็บผักในปาหนองตะคุ ซึ่งวิถีชีวิตดังกลาวเปนวิถีชีวิตของชาวชนบทที่อาศัยทรัพยากรที่มีในพ้ืนที่เพ่ือหาอาหาร ซึ่งบางครั้งถาหาไดเยอะก็นํามาขายใหคนในหมูบานเปนอาชีพเสริมได หรือนํามาแปรรูป และถนอมไวกินนานๆ เชนการทําปลารา ปลาตากแหง ซึ่งกิจกรรมเหลานี้มักทํากันหลังฤดูเก็บเก่ียวผลผลิต และการที่ชาวบานยังมีวิถีชีวิตที่เปนเอกลักษณเชนนี้อาจเปนเพราะวา พ้ืนที่บานโนนวัดไมมีรานคาประจําหมูบาน มีเพียงที่บานของนางชั้น ตนโคกสูง ที่ขายสินคาจําพวกขนมขบเค้ียวสําหรับเด็กในหมูบาน แตถาตองการซื้อขาวของชนิดอ่ืนๆ ตองออกไปซื้อหมูบานใกลเคียง เปนตน (ภาพที่ 22-30)

ภาพที่ 22 ศาลปูตา ใชในกิจกรรมประเพณีความเชื่อเรื่องการเลี้ยงปูตา

Page 42: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 42 -

ภาพที่ 23 การเลี้ยงดูบุตร –หลาน

ภาพที่ 24 มองดักปลา(ภาพซายมือ) เกาะงอง หรือเกาะขอ เครื่องมือจับปลาหลด (ภาพขวามือ)

Page 43: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 43 -

ภาพที่ 25 การจับสัตวน้ําในคลองนอยเพ่ือเปนอาหารและขายเพ่ืออาชีพเสริม

ภาพที่ 26 การจับสัตวโดยวิธีการชอนดวยตะแกรง

Page 44: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 44 -

ภาพที่ 27 ปลาที่ไดจากการชอนดวยตะแกรง

ภาพที่ 28 การเลี้ยงกระบือ (ควาย)

Page 45: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 45 -

ภาพที่ 29 การเลี้ยงโค (วัว)

ภาพที่ 30 อาชีพเสรมิ การเลี้ยงไกชน

Page 46: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 46 -

ครอบครัวและเครือญาติ ลักษณะครอบครัวของบานโนนวัดสวนใหญเปนครอบครัวขยายที่มีสมาชิกตั้งแต 2 คนข้ึนไป อยูในบานเดียวกัน บางครอบครัวเปนครอบครัวขนาดใหญ เมื่อลูกออกเรือนพอแมก็จะแบงที่ดินเพ่ือเปนมรดกใหปลูกเรือนที่อยูในบริเวณใกลเคียงกัน เมื่อจํานวนประชากรมากข้ึน ขอบเขตก็ขยายตัวออกไปอยางกวางขวาง ขนาดของหมูบานก็ขยายตัวตามไปดวย จนกลายเปนซุม (กลุมของเครือญาต)ิ หลายๆ ซุม ในหมูบาน จะมี 3 ซุมดวยกันคือ ซุมตะวันตก อยูทางทิศตะวันตก ซุมหัวนอน อยูทางทิศใตของหมูบาน และซุมปะตีน อยูทางทิศเหนือของหมูบาน รวมกันเปนหมูบาน ซึ่งสังเกตไดจากชื่อสกุลของชาวบานโนนวัดจะลงทายดวยคําวา “กลาง” อยูดวยเสมอ เชน จงยอกลาง มุงเสริมกลาง ขอสวยกลาง จงสุขกลาง แกวกลาง เปนตน ถาชื่อสกุลที่ไมลงทายดวยคําวา “กลาง” ก็จะเปนคนมาจากที่อ่ืน แลวมาแตงงานกับสาวชาวบานโนนวัด หรือเรียกวา เปนเขยบาน ระบบเครือญาติ เปนระบบที่เคารพความอาวุโสตามลําดับข้ัน โดยมีการสั่งสอนหลานๆใหเคารพผูเฒาผูแก(ปู ยา ตา ยาย)ในหมูบาน ตอมาคือ ลุง ปา นา อา ลูก และหลาน เปนตน และในบรรดาเครือญาติจะมีการไปมาหาสูกัน ดวยการกินอยู เชน ไดของกิน หรือหาผัก หาปลามา ไดจะนํามาแบงกันทําอาหาร และมีชวยเหลือซึ่งกันและกัน เชน การทํากิจกรรมตางๆ ในบานจะไปชวยเหลือกัน ไมมีการวาจาง แตเปนการไหววาน เปนตน 11. ปราชญผูรูในหมูบาน ปราชญผูรูในหมูบานโนนวัดไดแก นายไสว พราหมณมณี อายุ 74 ป อยู บานเลขที่ 21 เปนผูรูเรื่องสมุนไพรในพ้ืนที่ปาหนองตะคุ และบริเวณหมูบาน อาจเรียกไดวาเปนหมอยาแผนโบราณ และทําเครื่องจักสาน เชน หมวง ตะกรา ไซ ลอบดักปลา สุม เปนตน (ภาพที่ 31 -33)

ภาพที่ 31 นายไสว พราหมณมณ ี

Page 47: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 47 -

ภาพที่ 32 เครื่องมือดักปลา

ภาพที่ 33 ลักษณะยุงขาว สมัยโบราณ (ภาพทางซายมือ) ยุงขาวในปจจุบัน (ภาพทางขวามือ)

จากภาพดานบนสามารถบอกถึงความเปลี่ยนแปลงทางดานวัฒนธรรมในการสรางยุงขาวจากอดีตที่ทําดวยไมไผ สานขัดกันเปนวงกลมแลวทาดวยข้ีควายหรือข้ีวัว ปูพ้ืนดวยแผนไมจากนั้นทิ้งไวใหแหง ยกสูงจากพ้ืนสองศอก และมุงดวยหญาคา แตปจจุบันสรางโครงยุงขาวดวยไมยกสูง 4-5 ศอก สวนฝาและหลังคายุงขาวทําดวยสังกะสี ประตูทําดวยไมกระดานเปนแผนๆ ขนาดพอดีกับขนาดวงกบประตูที่ทําเปนรองไว จะมีบันไดชั่วคราวใชในการข้ึน – ลง ดังภาพดานบนขวา

Page 48: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 48 -

ความสัมพันธทางภูมิศาสตรกบัการตั้งถิน่ฐานบานโนนวัด โดยท่ัวไปพัฒนาการการตั้งถ่ินฐานของมนุษยไมวาจะเปนยุคใดสมัยใดยอมมีความสัมพันธกับสภาพทางภูมิศาสตรและดินฟาอากาศเปนอยางมากโดยเฉพาะสมัยแรกเริ่มยุคกอนประวัติศาสตรเพราะตองมีการปรับตัวเองใหเขากับสภาพแวดลอมถึงจะดํารงชีวิตอยูไดเพราะฉะนัน้จึงกลาวไดวาสภาพแวดลอมทางภูมิศาสตรมีอิทธิพลตอการตั้งหลักแหลงท่ีอยูอาศัย และท่ีทํากิน รวมท้ังการดํารงชีวิตของมนุษยเปนอยางมาก ดังเชนชุมชนบานโนนวัดในสมัยกอนประวัติศาสตรจนถึงปจจุบันการท่ีมีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศท่ีเหมาะสม เปนท่ีราบลุมในเขตลุมน้ํามูล มีดินตะกอนน้ําพาท่ีพัดมาทับถมกันเปนท่ีราบเหมาะแกการเพาะปลูก อีกท้ังการท่ีมีน้ําทวมถึงทําใหมีการชักน้ําเขามาหลอเล้ียงพืชพรรณท่ีเพาะปลูกไดในปหนึ่งๆนั้นน้ําจะนําโคลนตะกอนเขามาทับถมใหเกิดเปนปุยธรรมชาติ ดินมีความอุดมสมบูรณ จนไมตองมีการยายท่ีเพาะปลูกใหม ดังเชนท่ีเห็นเปนคูน้ําคันดินโบราณท่ีอยูรอบบานโนนวัด 2 – 3 ช้ัน แสดงใหเห็นถึงความรวมมือรวมแรงกันเปนอยางดีของคนบานโนนวัดในอดีตทําการทดน้ําระบายน้ําเพ่ือการเพาะปลูก และการใชสอยดานตางๆรวมกันทําใหมีพืชพรรณมากมายท่ีจะเล้ียงคนไดเปนจํานวนมากและอาจมีบางสวนท่ีสามารถนําไปแลกเปล่ียนเปนสินคากับชุมชนอ่ืนๆไดตอไป

Page 49: ข้อมูลบริบทชุมชนบ้านโนนวัด 6กุมภาพันธ์ 2552

- 49 -

เอกสารอางอิง ประเทือง จินตสกุล และคณะ (2544). การศึกษาศักยภาพทางกายภาพขอกําจัดและ โอกาสในการพัฒนาพ้ืนทีอ่งคการบริหารสวนตําบล(อบต.)ในเขต ตอนกลางของจังหวัดนครราชสีมา .สถาบันราชภัฏนครราชสีมา . สํานักงานสภาสถาบันราชภัฏ.

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (2547).โครงการจัดทําฐานขอมูลระบบสารสนเทศ ภูมิศาสตรองคการบริหารสวนจังหวัดนครราชสีมา. ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม (2535). สยามประเทศ : ภูมิหลังของประเทศไทยตั้งแตยุคดึกดํา บรรพจนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาราชอาณาจักรสยาม. สํานักพิมพมติชน. กรุงเทพมหานคร. สถานีอนามัยบานมะรุม (2552).รายงานสรุปผลการดําเนินงาน ป 2552. ผูใหขอมูลจากการสัมภาษณ นายจรูญ จงยอกลาง ผูใหญบานโนนวดั นายช่ืน จงสุขกลาง ชาวบานโนนวัด นายกําจร มุงซอนกลาง ชาวบานโนนวัด นางจัด จงสุขกลาง ชาวบานโนนวัด นายฉลวย ขอเหล็กกลาง ชาวบานโนนวัด นางจํานง เชือกจอหอ ชาวบานโนนวัด หมายเหต ุ เอกสารนี้เปนสวนหนึ่งของโครงการวิจัย เรื่อง การศึกษาเพ่ือพัฒนารูปแบบศูนยการเรียนรูทองถิ่นสมัยกอนประวัติศาสตรแหลงอารยธรรมบานโนนวัด ตําบลพลสงคราม อําเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา โดยสํานักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ปงบประมาณ 2552.