ธรณี p-r 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany;...

199
603 ธรณี อักษร P-R 30/54 (เติมครั้งที31/56) 1. Pacific suite ชุดแปซิฟก ชุดหินอัคนีใหญชุดหนึ งที ประกอบดวยหินอัคนีจําพวกหิน แอลคาไล–แคลซิกและหินแคลซิก มักพบในบริเวณทีเปลือกโลกไมเสถียรรอบ ๆ มหาสมุทรแปซิฟก ดู Atlantic suite และ Mediterranean suite ประกอบ 2. Pacific-type coastline แนวชายฝ งแบบแปซิฟก แนวชายฝ งกวางที ขนานกับโครงสรางของแผนดิน เชน เทือกเขา ตัวอยางเชน แนวชายฝงบริติชโคลัมเบีย ดู Atlantic-type coastline ประกอบ 3. packed biomicrite หินไบโอมิไครตตะกอน แนน หินไบโอมิไครตที มีซากดึกดําบรรพอยูประมาณรอยละ ๕๐ ของเนื้อหิน และมีเม็ดตะกอนจับตัวกันแนน ดู sparse biomicrite ประกอบ 4. packer ตัวกั อุปกรณในหลุมเจาะที สามารถขยายออกทางดานขางและ หดตัวกลับไดซึ่งใชเปนตัวปดกั้นหลุมเปลือยหรือหลุมที่ลง ทอกรุ 5. packing การจับแนน รูปแบบระยะหางหรือความหนาแนนของเม็ดแรในหิน ดู fabric ประกอบ 6. packstone หินแพ็กสโตน หินตะกอนคารบอเนตจําแนกโดย Dunham (1962) หมายถึง หินตะกอนคารบอเนตที่มีเม็ดแรหรือซากดึกดํา บรรพมากจนสวนใหญสัมผัสกันและอยูในเนื้อพื้นที่เปน

Upload: others

Post on 12-Jul-2020

5 views

Category:

Documents


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

603

ธรณ ีอกัษร P-R 30/54 (เติมครัง้ที่ 31/56)

1. Pacific suite ชุดแปซฟิก ชุดหินอัคนีใหญชุดหนึ่งที่ประกอบดวยหินอัคนีจําพวกหิน

แอลคาไล–แคลซิกและหินแคลซิก มักพบในบริเวณที่เปลือกโลกไมเสถียรรอบ ๆ มหาสมุทรแปซิฟก ดู Atlantic suite และ Mediterranean suite ประกอบ

2. Pacific-type coastline แนวชายฝงแบบแปซฟิก แนวชายฝงกวางที่ขนานกับโครงสรางของแผนดิน เชนเทือกเขา ตัวอยางเชน แนวชายฝงบริติชโคลัมเบีย ดู Atlantic-type coastline ประกอบ

3. packed biomicrite หินไบโอมไิครตตะกอนแนน

หินไบโอมิไครตที่มีซากดึกดําบรรพอยูประมาณรอยละ ๕๐ ของเนื้อหิน และมีเม็ดตะกอนจับตัวกันแนน ดู sparse biomicrite ประกอบ

4. packer ตวักั้น อุปกรณในหลุมเจาะที่สามารถขยายออกทางดานขางและหดตัวกลับไดซึ่งใชเปนตัวปดกั้นหลุมเปลือยหรือหลุมที่ลงทอกรุ

5. packing การจบัแนน รูปแบบระยะหางหรือความหนาแนนของเม็ดแรในหิน ดู fabric ประกอบ

6. packstone หินแพก็สโตน หินตะกอนคารบอเนตจําแนกโดย Dunham (1962) หมายถึง หินตะกอนคารบอเนตที่มีเม็ดแรหรือซากดึกดําบรรพมากจนสวนใหญสัมผัสกันและอยูในเนื้อพื้นที่เปน

Page 2: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

604

โคลนปูน ดูรูปที่ mudstone

7. pagoda stone หินเจดยี หินปูนในประเทศจีนที่มีภาคตัดขวางของซากดึกดําบรรพเซฟาโลพอดพวกออรโทเซอราไทตที่มีรูปรางคลายเจดีย

8. pagodite พาโกไดต ไพไนต (pinite) เนื้อสมานแนนหรืออะกัลมาโทไลตที่คนจีนแกะสลักเปนรูปเจดียเล็ก ๆ 28,29/56

9. pahoehoe* ลาวาปาฮอยฮอย คําในภาษาฮาวายที่ใชเรียกหินลาวาที่มีสวนประกอบแบบหินบะซอลต มีลักษณะผิวหนายนเหมือนคลื่นหรือเปนรอยแบบเกลียวเชือก มีความหมายเหมือนกับ ropy lava

10. paint pot* พุโคลนสี ดูคําอธิบายใน mud pot; sulfur–mudpool

11. paired terraces ตะพกัคู ตะพักลําน้ําคนละฝงที่มีระดับความสูงอยูในระดับเดียวกัน เปนที่ราบน้ําทวมถึงเกาอันเดียวกันที่เหลืออยูของลําน้ําในหุบเขา ดู unpaired terrace ประกอบ

12. palaebiology; paleobiology

ชวีวิทยาบรรพกาล ดู paleobiology; palaebiology 23/56

13. palaebotany; paleobotany

พฤกษศาสตรบรรพกาล ดู paleobotany; palaebotany

14. palaeocene Epoch; Paleocene Epoch

สมยัพาลีโอซนี ดู Paleocene Epoch; Palaeocene Epoch 40/55

Page 3: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

605

15. palaeoclimate; paleoclimate*

ภูมิอากาศบรรพกาล ภูมิอากาศของชวงเวลาใดเวลาหนึ่งของธรณีกาลแตละยุคที่ผานมาแลว ภูมิอากาศของบริเวณบางแหงบนพื้นโลกมีการเปลี่ยนแปลงมาอยางเห็นไดชัดจากอดีตจนถึงปจจุบัน ดวยการเกิดบริเวณน้ําแข็งที่กวางใหญไพศาล บริเวณที่เกิดทะเลทราย และชวงกาลเวลาที่มีฝนตกชุกมากในอดีต

16. palaeoclimatology; paleoclimatology

วิทยาภูมอิากาศบรรพกาล

วิทยาศาสตรที่วาดวยการศึกษาภูมิอากาศของโลกในชวงเวลาตาง ๆ ในธรณีกาล โดยอาศัยขอมูลจากการละลายตัวของแหลงสะสมจากธารน้ําแข็ง ธรรมชาติของซากดึกดําบรรพของพืชและสัตว ภูมิประเทศและภูมิอากาศของสมัยกอน ๆ และคุณลักษณะของหินชั้นชนิดตาง

17. palaeoecology; paleoecology

นิเวศวิทยาบรรพกาล การศึกษาความสัมพันธระหวางสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดลอมในอดีตที่สิ่งมีชีวิตนั้นดํารงอยู สาเหตุการตายของสิ่งมีชีวิต การถูกกลบฝงและประวัติของการกลบฝง ซึ่งศกึษาไดจากซากดึกดําบรรพ กับตําแหนงในลําดับชั้นหิน ทั้งนี้ ประกอบดวยแขนงวิชาประวัติซากชีวภาพ (biostratonomy) ประวัติซากดึกดําบรรพ (Fossildiagenese) และวิชาซากดึกดําบรรพ (taphonomy) เปนตน ดู ecology ประกอบ 28,29/56

18. palaeoenvironment; paleoenvironment

สภาพแวดลอมบรรพกาล สภาวะแวดลอมที่เกิดขึ้นในอดีตทางธรณีกาล

19. palaeogeographic map; paleogeographic map

แผนที่ภูมศิาสตรบรรพกาล

แผนที่ที่แสดงถึงสภาพภูมิศาสตรทางกายภาพของผิวโลกในอดีต ณ เวลาใดเวลาหนึ่งทางธรณีกาล โดยเฉพาะการกระจายตัวของแผนดินและมหาสมุทร ความลึกของทะเล

Page 4: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

606

ธรณีสัณฐานวิทยาของแผนดิน ทิศทางการไหลของกระแสน้ําและอากาศ และการกระจายตัวของตะกอนพื้นทะเล

20. palaeogeography; paleogeography

ภูมิศาสตรบรรพกาล การศึกษาสภาพภูมิศาสตรทางกายภาพของสวนใดสวนหนึ่งของโลกในอดีตทางธรณีกาล โดยใชซากดึกดําบรรพ ชนิดของหิน และโครงสรางทางธรณีวิทยาเพื่ออธิบายสภาพแวดลอมและภูมิประเทศในอดีต

21. palaeogeologic map; paleogeologic map

แผนที่ธรณวีิทยาบรรพกาล

แผนที่ที่แสดงถึงธรณีวิทยาของพื้นผิวดินในชวงเวลาใดเวลาหนึ่งทางธรณีกาล โดยเฉพาะแผนที่ที่แสดงถึงพื้นผิวที่อยูใตรอยชั้นไมตอเนื่อง ซึ่งแสดงถึงสภาพธรณีวิทยาทั้งหมดกอนที่จะเกิดพื้นผิวของความไมตอเนื่อง

22. palaeomagnetism; paleomagnetism

ภาวะแมเหลก็บรรพกาล สภาพความเปนแมเหล็กอยางออนที่ยังคงอยูในหินซึ่งมีมาตั้งแตตะกอนสะสมตัวหรือแมกมาแข็งตัว ในขณะที่เกิดหินนั้นสารแมเหล็กในหินจะถูกเหนี่ยวนําใหวางตัวตามทิศทางของสนามแมเหล็กโลกในชวงเวลาตอนนั้น สมบัติที่ปรากฏในหินซึ่งไมถูกเปลี่ยนลักษณะสามารถนําไปหาทิศทางขั้วแมเหล็กโลกในชวงเวลาตาง ๆ ทางธรณีกาลได และเปนหลักฐานสําคัญที่สนับสนุนทฤษฎีการขยายตัวของพื้นทะเลและการเกิดทวีปเลื่อน

23. palaeontology; paleontology

บรรพชวีินวิทยา วิชาที่ศึกษาสิ่งมีชีวิตในอดีต โดยอาศัยซากหรือรองรอยของพืชและสัตวดึกดําบรรพ รวมทั้งสายวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธระหวางสิ่งมีชีวิตในอดีตกับปจจุบัน สิ่งมีชีวิตในอดีตกับสภาพแวดลอม และการเทียบสัมพันธ

Page 5: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

607

เพื่อกําหนดลําดับเหตุการณตาง ๆ ที่ไดเกิดขึ้นในประวัติความเปนมาของโลก

24. palaeoseismology; paleoseismology

วิทยาคลืน่ไหวสะเทอืนบรรพกาล

วิทยาการแขนงหนึ่งที่เนนศึกษาเรื่องการเกิดแผนดินไหวในอดีตวาเกิดเมื่อใด ตําแหนงไหน จากกระบวนการอะไร มีขนาดและอัตราการเคลื่อนที่เทาใดและแบบใด 28/56

25. Palaeozoic Era; Paleozoic Era

มหายคุพาลโีอโซอกิ มหายุคหนึ่งทางธรณีกาล อยูระหวางบรมยุคพรีแคมเบรียนหรือบรมยุคโพรเทอโรโซอิกกับมหายุคมีโซโซอิก มีอายุตั้งแต ๕๔๑-๒๕๒.๒ ลานปมาแลว เปนมหายุคที่พืชและสัตวเริ่มมีวิวัฒนาการสูง หินที่เกิดในมหายุคนี้เรียกวา หินมหายุคพาลีโอโซอิก (Paleozoic Erathem) ดู geologic time scale ประกอบ 41/55

26. palagonite พาลาโกไนต สารคลายแร สีเหลืองถึงสม เกิดจากการแปรเปลี่ยนโดยกระบวนการไฮเดรชัน และเกิดจากการเปลี่ยนสภาพแกวเปนผลึกของแกวภูเขาไฟชนิดบะซอลต

27. paleobiology; palaebiology

ชวีวิทยาบรรพกาล สาขาหนึ่งของบรรพชีวินวิทยาที่วาดวยการศึกษาซากดึกดําบรรพของสิ่งมีชีวิตมากกวาเรื่องราวทางประวัติธรณีวิทยา 23,28/56

28. paleobotany; palaeobotany

พฤกษศาสตรบรรพกาล การศึกษาเกี่ยวกับชีวิตของพืชในชวงเวลาทางธรณีกาล28,29/56

Page 6: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

608

29. Paleocene Epoch; Palaeocene Epoch

สมยัพาลีโอซนี สมัยแรกของยุคพาลีโอจีนอยูระหวางสมัยอีโอซีนกับยุคครีเทเชียส มีชวงอายุตั้งแต ๖๖-๕๖ ลานปมาแลว ในชวงนี้บรรยากาศเริ่มเปนแบบมรสุมเขตรอน เกิดพืชและสัตวชนิดใหม เชน หมี ฮิปโปโปเตมัส สวนไดโนเสารสูญพันธุไปในชวงรอยตอระหวางยุคครีเทเชียสกับสมัยพาลีโอซีน หินที่เกิดในสมัยนี้เรียก หินสมัยพาลีโอซีน (Paleocene Series) ดู geologic time scale ประกอบ 40/55

30. paleoclimate; palaeoclimate*

ภูมิอากาศบรรพกาล ดู palaeoclimate; paleoclimate

31. paleoclimatology; palaeoclimatology

วิทยาภูมอิากาศบรรพกาล

ดู palaeoclimatology; paleoclimatology

32. paleocurrent กระแสน้าํบรรพกาล กระแสน้ําหรือลม โดยทั่วไปหมายถึงกระแสน้ําซึ่งเกิดขึ้นในอดีตกาล ทิศทางของกระแสน้ําบรรพกาลระบุไดจากโครงสรางหินชั้นและเนื้อของหิน ที่ไดเกิดขึ้นจากการกระทําของกระแสน้ําในชวงเวลานั้น ๆ 28/56

33. paleoecology; palaeoeology

นิเวศวิทยาบรรพกาล ดู palaeoeology; paleoecology

34. paleoenvironment; สภาพแวดลอมบรรพกาล ดู palaeoenvironment; paleoenvironment

Page 7: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

609

palaeoenvironment

35. Paleogene พาลีโอจนี หินยุค (system) ที่แตเดิมจัดเปนหินยุคยอยของหินยุคเทอรเชียรีตามมาตรฐานมาตราลําดับชั้นหินตามอายุกาลทั่วโลก (Standard Global Chronostratigraphic Scale) ปจจุบันไดรับการยกระดับใหเปน หินยุค อยูเหนือหินยุคครีเทเชียสและอยูใตหินยุคนีโอจีน รวมทั้งชวงเวลาที่หินนี้เกิดซึ่งมีชวงเวลาตั้งแต ๖๖ ถึง ๒๓.๐๓ ลานป 41/55

36. Paleogene Period ยคุพาลีโอจนี ยุคใหมตามมาตราธรณีกาล เดิมจัดเปนยุคยอยในยุคเทอรเชียรี แตปจจุบันจัดใหเปนยุคแทนยุคเทอรเชียรีตอนตน มีชวงเวลาตั้งแต ๖๖ ถึง ๒๓.๐๓ ลานป ดู geologic time scale ประกอบ 41/55

37. paleogeographic map; palaeogeographic map

แผนที่ภูมศิาสตรบรรพกาล

ดู palaeogeographic map; paleogeographic map

38. paleogeography; palaeogeography

ภูมิศาสตรบรรพกาล ดู palaeogeography; paleogeography

39. paleogeologic map; แผนที่ธรณวีิทยาบรรพกาล

ดู palaeogeologic map; paleogeologic map

Page 8: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

610

palaeogeologic map

40. paleolithic; Old Stone Age

ยคุหนิเกา ชวงเวลาเริ่มแรกของยุคหินในการแบงเวลาทางโบราณคดี เปนชวงเวลาที่มีมนุษยและเครื่องมือหินซึ่งมนุษยประดิษฐขึ้นปรากฏอยูบนโลก ชวงเวลาดังกลาวตรงกับชวงเวลาของสมัยไพลสโตซีน ดู Neolithic; New Stone Age ประกอบ

41. paleomagnetism; palaeomagnetism*

ภาวะแมเหลก็บรรพกาล ดู palaeomagnetism; paleomagnetism

42. paleontologic species ชนิดบรรพชวีนิ การศึกษาเพื่อจัดกลุมของซากดึกดําบรรพ โดยใชลักษณะรูปรางจากตัวอยางซากดึกดําบรรพที่ศึกษามากําหนดใหเปนชนิดใดชนิดหนึ่ง กลุมที่ไดรับการจัดตั้งขึ้นนั้นอาจรวมเอาสัตวตางชนิดกันมาเปนชนิดเดียวกันโดยไมตั้งใจได ทั้งนี้เนื่องจากลักษณะที่แตกตางกันในขณะที่สัตวนั้นๆ ยังมีชีวิตอยูไดหายไปเมื่อกลายเปนซากดึกดําบรรพ

43. paleontology; palaeontology*

บรรพชวีินวิทยา ดู palaeontology; paleontology

44. paleopalynology เรณวูิทยาบรรพกาล เรณูวิทยาที่วาดวยการศึกษาซากดึกดําบรรพของเรณูและสปอรของพืชและสาหรายเซลลเดียว เชน ไดโนแฟลเจลเลต อาคริทารช 28/56

45. paleoseismicity สภาพแผนดินไหวบรรพ รองรอยหรือเหตุการณของแผนดินไหวที่จารึกไวในชั้นดิน

Page 9: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

611

กาล และหินโดยไมปรากฏขอมูลที่บันทึกไวในประวัติศาสตร พงศาวดาร หรือบันทึกของคลื่นไหวสะเทือน แตเปนหลักฐานทางธรณีวิทยา เชน ชั้นดินและหินที่ถูกรอยเลื่อนตัดเคลื่อนออกจากกนั แนวของพุทราย แผนดินถลม การเปลี่ยนระดับอยางทันทีทันใดของแนวชายทะเล และชั้นตะกอนสึนามิ ที่บงชี้ถึงแผนดินไหวในอดีต

46. paleosol ดินบรรพกาล ดินที่เกิดอยูในภูมิประเทศของอดีตกาล มีลักษณะสัณฐานเฉพาะตัวที่เปนผลมาจากสภาพแวดลอมของการเกิดดินในอดีตที่ไมปรากฏในบริเวณนั้นแลว กระบวนการเกิดดินในอดีตอาจมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดลอมภายนอกหรือการหยุดชะงักของกระบวนการเกิดดินโดยการฝงกลบ ดินบรรพกาลอาจถูกจัดเปนสวนที่เหลือ (relic) ดังปรากฏใหเห็นบนพื้นดินและไมมีการแปรเปลี่ยนอยางรุนแรงของลักษณะสัณฐานโดยกระบวนการเกิดดิน ดินบรรพกาลที่ปรากฏใหเห็นบนพื้นผิวเปนดินที่เคยถูกทับถมและโผลขึ้นจากการกรอน

47. Paleozoic Era; Palaeozoic Era*

มหายคุพาลโีอโซอกิ ดู Palaeozoic Era; Paleozoic Era

48. paleozoology สตัววิทยาบรรพกาล สาขาหนึง่ของบรรพชวีนิวทิยา วาดวยการศกึษากลุมของสตัว ทัง้สัตวมกีระดกูสนัหลงัและสตัวไมมกีระดกูสันหลงั 28/56

49. palingenesis การเกิดซ้าํรอย ๑. กระบวนการเกิดแมกมาใหมจากการหลอมเหลวของหิน

Page 10: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

612

อัคนีเดิมหรือหินทองที่ ณ ที่เดิม ดู anatexis และ neomagma ประกอบ ๒. วิวัฒนาการซ้ํารอยบรรพบุรุษโดยไมมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตวัยหนุม นั้นเปนลักษณะเฉพาะของบรรพบุรุษของสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ

50. palinspastic map แผนทีล่กัษณะบรรพกาล แผนที่ภูมิศาสตรบรรพกาลหรือแผนที่แปรสัณฐานบรรพกาล ซึ่งลักษณะภูมิประเทศและลักษณะการแปรสัณฐานในอดีต เปนแผนที่ที่ไดปรับเปลี่ยนใหใกลเคียงกับตําแหนงที่เกิดอยูดั้งเดิมทางภูมิศาสตรมากที่สุดกอนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงชั้นหินของเปลือกโลก

51. palinspastic section หนาตัดบรรพกาล หนาตัดแนวตั้งซึ่งไดมีการปรับเปลี่ยนลักษณะใหกลับสูลักษณะภูมิประเทศดั้งเดิมใหใกลเคียงมากที่สุดเหมือนกอนที่ชั้นหินของเปลือกโลกจะถูกเปลี่ยนแปลงไป

52. palm-tree structure โครงสรางรปูตนปาลม ดู flower structure

53. palynology เรณวูิทยา การศึกษาละอองเรณูและสปอรของพืช การแพรกระจาย รวมทั้งการนํามาประยุกตใชในการลําดับชัน้หินและนิเวศบรรพกาล

54. pan ๑. เลยีง ภาชนะคลายกระทะทําดวยวัสดุ เชน ไม โลหะ ใชรอนในน้ําเพื่อแยกวัสดุหนักออกจากดิน หิน ทราย ดู panning ประกอบ 30/56

55. pan ๒. แองตืน้ แองตื้นบนพื้นผิวดิน ถามีน้ําขังเรียกวา ทะเลสาบ หนอง บึง

Page 11: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

613

สระ 30/56 56. pan ๓. ชัน้ดาน ชั้นที่มีลักษณะแข็งแนนอันเนื่องจากมีสารเชื่อมอนุภาคดิน

เปนแผนคราบแข็งบนผิวหนาดิน หรือเปนชั้นที่เกิดดานลางของดินชั้นบนหรือดินที่มีปริมาณเคลยสูง เปนอุปสรรคตอการเคลื่อนที่ของน้ํา อากาศ และการแพรกระจายของรากพืช โดยเฉพาะชั้นดานแข็ง ซึ่งประกอบดวย ชั้นดานตามธรรมชาติ และชั้นดานจากแรงกด 30,31/56

57. pan ๔. แผนน้าํแขง็ ดู ice pan 30/56 58. panel แปลง ชั้นถานหินที่ถูกแบงเปนสวน ๆ ขนาดใหญมาก ในการทํา

เหมืองถานหินใตดินจะทําการผลิตออกมาในลักษณะเปนแปลง ๆ สวนมากมีขนาดกวางประมาณ ๒๐๐ เมตร ยาวประมาณ ๗๐๐ เมตร ความสูงขึ้นอยูกับความหนาของชั้นถานหิน

59. Pangea* พนัเจยี สมมุติฐานที่อัลเฟรด เวเกเนอร (Alfred Wegener) รเิริ่มขึ้น สมมุติฐานนี้กลาววา เดิมโลกนี้เปนผืนแผนดินกวางใหญเพียงผืนเดียว เรียกวา พันเจีย มหาสมุทรที่อยูรอบ ๆ เรียกวา พันทาลัสซา (Panthalassa) และตอมาผืนแผนดินใหญนี้ไดแยกออกจากกนักลายเปนทวีปตาง ๆ ในปจจุบัน

60. panning การเลียงแร, การรอนแร วิธีการแยกแรโดยใชเลียง โดยทั่วไปใชสําหรับรอนหาแรหนัก เชน ทองคํา ดีบุก ทําโดยใชเลียงรอนเพื่อลางกรวด หิน ดิน ทราย ที่มีแรหรือวัสดุที่บดจากสายแร สวนที่เบาจะ

Page 12: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

614

ถูกลางออกเหลือแตแรหนักอยูที่กนเลียง

61. panplain; panplane ที่ราบเชือ่มตอ ที่ราบซึ่งเกิดจากการเชื่อมตอกันของที่ราบน้ําทวมถึงหลายแหงในบริเวณใกลเคียงกัน เนื่องจากการกรอนทางขางเปนระยะเวลายาวนานของธารน้ําโคงตวัดหลายสายที่ไหลอยูในบริเวณนั้น ซึ่งเปนระยะสุดทายของวัฏจักรการกรอน ตัวอยางเชน ที่ราบน้ําทวมถึงบริเวณที่ราบภาคกลางตอนลางที่เกิดจากการรวมตัวกันของที่ราบน้ําทวมถึงของแมน้ําเจาพระยา ทาจีน แมกลอง และบางปะกง ดู peneplain ประกอบ

62. parabolic dune เนนิทรายรปูพาราโบลา เนินทรายที่มีรูปพาราโบลาหรือรูปโคงคลายเคียว มีดานโคงเวาเขาหาทิศทางลม ดานปลายแหลมอยูในทิศทางตานลม มักเกิดในบริเวณที่มีความเร็วลมคอนขางสูง เชน เนินทรายตามบริเวณชายหาดหรือทะเลทราย ดู barchan; crescentic dune ประกอบ

63. para-ecology; taphonomy

วชิาซากดกึดาํบรรพ ดู taphonomy; para-ecology

64. paraffin พาราฟน ดู normal alkane; n-alkane

65. paraffin hydrocarbon พาราฟนไฮโดรคารบอน สารไฮโดรคารบอนใด ๆ ในชุดพาราฟน ดู paraffin series ประกอบ

66. paraffin oil น้าํมนัพาราฟน น้ํามันดิบที่มีพาราฟนสูง

67. paraffin series ชุดพาราฟน ชุดไฮโดรคารบอนอิม่ตัวที่มีโครงสรางแบบลูกโซเปด มีสูตร

Page 13: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

615

ทั่วไปคือ Cn H(2n+2) สารประกอบไฮโดรคารบอนแรกใน

ชุดนี้คือ มีเทน (CH4)

68. paraffin wax ไขพาราฟน ของแข็งคลายขี้ผึ้งซึ่งประกอบดวยไฮโดรคารบอนที่ไดมาจากการกลั่นน้ํามันดิบในชวงอุณหภูมิต่ํา มีโครงสรางกึ่งผลึกขนาดใหญ มีรสและกลิ่นเล็กนอย

69. paraffin-base crude น้าํมนัดบิฐานพาราฟน น้ํามันดิบที่มีสวนประกอบเปนไขมาก เปนไฮโดรคารบอนพาราฟนทั้งชนิดโมเลกุลหนักและเบา

70. paragenesis การเกิดเทยีบเคยีง การเกิดของแรที่มีกําเนิดรวมกันตามลําดับเวลาในแหลงสินแร

71. paragenetic sequence ลาํดบัการเกิดแร ลําดับการเกิดของแรแตละชนิดในแหลงสินแร

72. paraglacial; cryergic; cryonival; periglacial; subnival*

รอบธารน้าํแขง็ ดู periglacial; cryergic; cryonival; paraglacial; subnival

73. paragneiss หินพาราไนส หินไนสที่แปรสภาพมาจากหินตะกอน ในประเทศไทยพบหินพาราไนสมากบริเวณเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม และอําเภอปราณบุร ีจังหวัดประจวบคีรีขันธ ดู orthogneiss ประกอบ

74. paralectotype ตวัอยางเสมือนตนแบบเพิม่

ดู คําอธิบายใน lectotype ความหมายที่ ๒

75. paralic -พาราลกิ ๑. คําที่ใชกับสิ่งที่อยูริมทะเลแตไมใชหรือไมเกี่ยวของกับทะเลโดยตรง เชน ลากูน หรือบริเวณน้ําขึ้นน้ําลงชายฝง หรือเปนคําที่ใชเรียกสิ่งทับถมภาคพื้นสมุทรที่แทรกสลับกับ

Page 14: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

616

สิ่งทับถมภาคพื้นทวีปที่มีการเกิดบนแผนดินบริเวณฝงทะเล หรือเกิดในบริเวณน้ําตื้นที่ทะเลรุกเขาไปถึง ๒. คําที่ใชกับแหลงถานหินที่เกิดสะสมตัวอยูบริเวณขอบแผนดินริมทะเล

76. parallel dipole-dipole array

แถวลาํดบัสองขัว้คูแนวขนาน

รูปแบบการจัดวางขั้วไฟฟา โดยมีขั้วกระแสไฟฟาอยูบนแนวหนึ่ง ขั้วศักยไฟฟาอยูหางออกไปทางดานขางในแนวขนานกับแนวของขั้วกระแสไฟฟา เสนลากตอจากจุดกึ่งกลางของแนวขั้วศักยไฟฟาทํามุม θ กับแนวเสนลากตอระหวางขั้วกระแสไฟฟาตรงจุดกึ่งกลาง จดุกึ่งกลางของแนวเสนทั้งสองหางกันเปนระยะทาง r ดังรูป

77. parallel drainage pattern*

แบบรปูทางน้าํขนาน แบบรูปทางน้ําที่มีทิศทางขนานหรือเกือบขนานกัน เกิดในบริเวณที่มีชั้นหินวางตัวเอียงเทสม่ําเสมอ และเปนหินที่มีเนื้อเดียวกัน มีโครงสรางทางธรณีวิทยาแบบเดียวกัน

78. parallel evolution ววิัฒนาการคูขนาน พัฒนาการที่มีรูปแบบเหมือนกัน เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต ซึ่งอดีตเคยมีบรรพบุรุษรวมกัน แตไดแยกสายวิวัฒนาการชาติพันธุจนกลายเปนสิ่งมีชีวิตตางชนิดกันแลว ดู parallelism และ convergent evolution ประกอบ

79. parallel extinction ตาํแหนงมดืขนาน ตําแหนงมืดแบบหนึ่งในผลึกแอนไอโซทรอปกซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเสนรอบนอก(รูปราง)ของผลกึ หรือแนวของระนาบแนวแตกเรียบขนานกับทิศทางของนิคอลส ดู inclined extinction, undulatory extinction ประกอบ

Page 15: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

617

80. parallel fold; concentric fold

รอยคดโคงขนาน ดู concentric fold; parallel fold2/56

81. parallelism ภาวะคูขนาน การที่สิ่งมีชีวิต ๒ ชนิดหรือมากกวา ไดพัฒนาลักษณะเฉพาะเพื่อตอบสนองตอสภาพแวดลอมที่คลายกัน ออกมาไดเหมือน ๆ กัน ทั้งนี้ เพราะพันธุกรรมซึ่งไดรับมาจากบรรพบุรุษเดียวกันตั้งแตดั้งเดิมกอนที่สิ่งมีชีวิตนั้น ๆ จะมีวิวัฒนาการแยกสายพันธุออกจากกันจนกลายเปนตางชนิด เปนตัวกระตุนใหเกิดการพัฒนานั้น ๆ ดู parallel evolution ประกอบ

82. paramagnetic -พาราแมกเนตกิ คําที่ใชกับแรหรือสารใด ๆ ซึ่งเมื่ออยูในสนามแมเหล็กแลวถูกเหนี่ยวนําเปนแมเหล็ก และมีสภาพรับไวไดของแมเหล็กเปนบวก เชน โอลิวีน ไพรอกซีน แมกนีไทต

83. paramarginal resource ทรพัยากรรอคุมทนุ ทรัพยากรเกรดต่ําที่สามารถนํามาใชประโยชนไดอีกเมื่อราคาเพิ่มขึ้น ๑.๕ เทา

84. paramorph สณัฐานเดมิ สัณฐานเทียมที่มีองคประกอบทางเคมีเดียวกับผลึกเริ่มแรก เชน แคลไซต (CaCO3) ซึ่งเปนแรที่มีรูปผลึกอยูในระบบสามแกนราบแตกลับมีรูปผลึกเปนระบบสามแกนตาง เนื่องจากการแปรเปลี่ยนมาจากแรอะราโกไนต ดู dimorph ประกอบ

85. paraplate แผนเสมือน ดูคําอธิบายใน plate ๒.๕

86. parasequence ชุดลาํดบัเสมอืน ลําดับชุดของชั้นหินที่มีกําเนิดสัมพันธกัน ตั้งแตชั้นลางสุดจนถึงชั้นบนสุด ซึ่งกําหนดขอบเขตโดยชั้นหินที่แสดง

Page 16: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

618

พื้นผิวของระดับน้ําทวมสูงสุด หรือพื้นผิวที่เทียบสัมพันธกันได ชุดลําดับเสมือนอาจเปนชุดลําดับของชั้นหินที่แสดงถึงการรุกล้ําของทะเล การถดถอยของทะเล และการคงที่ของทะเล

87. parasite fold; congruent fold

รอยคดโคงระนาบแกนรวม

ดู congruent fold; parasite fold 2/56

88. parasitism ภาวะปรสติ ความสัมพันธระหวางสิ่งมีชีวิตที่แตกตางกัน ๒ ชนิดซึ่งอาศัยอยูดวยกัน โดยสิ่งมีชีวิตชนิดแรกหาประโยชนและใหโทษแกสิ่งมีชีวิตชนิดที่สอง เชน ตนกาฝากที่ดูดอาหารจากตนไมที่เกาะอาศัย หรือพยาธิที่อาศัยดูดอาหารจากลาํไสของสัตวมีกระดูกสันหลัง หรือ เห็บ เหา ไร ปลิง ที่เปนปรสิตภายนอก ดู symbiosis ประกอบ

89. parastratotype ชัน้หนิเสมอืนแบบฉบบัแรก

ดูคําอธิบายใน holostrtotype

90. parataxon ขั้นอนกุรมวิธานชิน้สวนซากดกึดาํบรรพ

ขั้นหนึ่งในอนุกรมวิธาน ใชกับซากดึกดําบรรพที่พบเพียงชิ้นสวนของรางกายสตัวและไมพบอยูรวมกับสวนอื่น ๆ ของตัวสัตว เชน โคโนดอนต นอกจากนี้ยังใชกับรองรอยซากดึกดําบรรพ และซากดึกดําบรรพค็อกโคลิตซึ่งสาหรายเซลลเดียวกลุมค็อกโคลิโทฟอรไดผลิตขึ้น ดู form genus, ichnotaxon และ taxon ประกอบ

91. paratype ตวัอยางเสมือนตนแบบ ตัวอยางสิ่งมีชีวิตหรือซากดึกดําบรรพซึ่งเปนชนิดเดียวกันและอยูรวมกันกับตัวอยางตนแบบ แตไมไดรับการคัดเลือก

Page 17: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

619

ใหเปนตัวอยางตนแบบ ดู holotype ประกอบ

92. parent material วตัถุตนกาํเนิด วัตถุอนินทรียหรืออินทรียที่มีการผุพังสลายตัวและไมจับตัวกันแนน ซึ่งเปนวัตถุที่ทําใหเกิดการพัฒนากลายเปนชั้นดินหรือโซลัมโดยกระบวนการเกิดดิน ดู solum ประกอบ

93. parent rock หินตนกาํเนิด ๑. (วิทยาตะกอน) หินซึ่งเปนตนกําเนิดของตะกอนตาง ๆ หรือหินชนิดอื่น ๆ มีความหมายเหมือนกับ mother rock ๒ และ source rock ๒. (ปฐพีวิทยา) มวลหินที่เปนตนกําเนิดของวัตถุกอนที่จะผุพังแตกสลายกลายเปนดิน ๓. ดู protolith ความหมายที่ ๑

94. Parr formula สตูรของพาร วิธีการหาปริมาณของสารอนินทรียในถานหิน โดยการหาปริมาณเถาและกํามะถัน แลวปรับคาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในขณะเผาไหมตามสูตร สารอนินทรียรวม = ความชื้น + ๑.๐๘ ของเถา + ๐.๕๕ ของกํามะถัน คาความชื้น เถา และกํามะถัน เปนคาที่ไดจากการวิเคราะหถานหินขั้นพื้นฐาน

95. particle shape; grain shape

รปูรางอนภุาค รูปทรงทางเรขาคณิตของอนุภาคในตะกอนหรือหิน สมบัติพื้นฐานของอนุภาคสามารถตรวจหาวิเคราะหไดจากความสัมพันธระหวางมวลกับพื้นที่ผิว ซึ่งขึ้นอยูกับรูปรางของอนุภาควาทรงกลมหรือมน

Page 18: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

620

96. particle size distribution การกระจายขนาดอนุภาค

การวิเคราะหการกระจายตัวของขนาดเม็ดตะกอน โดยคิดเปนรอยละของน้ําหนักตะกอนที่ยังไมจับตัวกันในแตละชวงขนาด ไมวาจะอยูในรูปของดิน ตะกอนรวน หรือหิน เชน ปริมาณของทรายที่คางบนตะแกรงมาตรฐานชวงหนึ่ง ๆ ดู screen analysis; sieve analysis ประกอบ 29/56

97. particle size; grain size ขนาดอนุภาค เสนผานศูนยกลางโดยทั่ว ๆ ไปของอนุภาคในตะกอนหรือหินหรือโดยเฉพาะของเม็ดแรที่ประกอบขึ้นเปนตะกอนหรือหิน เชน เสนผานศูนยกลางเฉลี่ยหรือปริมาตร โดยอาศัยความรูพื้นฐานของหลักการที่วาอนุภาคจะตองเปนทรงกลมหรือสามารถตรวจวัดเสนผานศูนยกลางของทรงกลมสมมูลได โดยทั่ว ๆ ไปสามารถวัดเสนผานศูนยกลางไดโดยการรอนผานตะแกรง หรือโดยวิธีคํานวณจากความเร็วของการตกตะกอน หรือโดยตรวจหาไดจากพื้นที่ของภาพในกลองจุลทรรศน

98. particle velocity ความเรว็อนุภาค ความเร็วในการเคลื่อนที่ของอนุภาคของสารในตัวกลาง ซึ่งเกิดการเคลื่อนไหวเมื่อมีพลังงานคลื่นเสียงเดินทางผานตัวกลาง มีขนาดความเร็วเปนหนึ่งในลานเมตรตอวินาที ตัวกลางอาจเปนของแข็ง ของเหลว หรือแกส การเคลือ่นที่ของอนุภาคของสารในตัวกลางอยูในทิศทางเดียวกัน หรือในแนวขวางตั้งฉากทั้งทางระนาบตั้งแลระนาบราบกบัแนวการเดินทางของคลื่นเสียง หรือหมุนสวนทางเปนวงรีบนระนาบตั้งตามแนวการเดินทางของคลื่นเสียง

Page 19: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

621

99. parting ๑. แนวแยก ๑.๑ แนวที่เกิดจากการแตกของแรตามระนาบที่ไมแข็งแรงซึ่งไมใชแนวแตกเรียบ เชน แนวแยกที่เกิดในการเนต ทัวรมาลีน ควอตซ ๑.๒ ระนาบหรือผิวหนาที่หินเกิดการแตกออก 29/56

100. parting ๒. ชัน้แยก ๒.๑ แถบหรือชั้นของวัสดุไรคาที่อยูระหวางชั้นแรหรือสายแร ดู interburden ๒.๒ ชั้นบางในหินตะกอนที่แทรกระหวางตะกอนชั้นหนาซึ่งประกอบดวยหินตางชนิดกัน เชน ชั้นบางของหินดินดานในหินทราย 29/56

101. parvafacies ชุดลกัษณเลก็ สวนของชุดลักษณใหญซึ่งอยูระหวางระนาบลําดับชัน้หินตามเวลาที่กําหนด หรืออยูระหวางชั้นหินหลักของชุดลักษณใหญนั้น ซึ่งชุดลักษณเล็กนี้ไดแพรกระจายไปตามขวางตลอดแนวชุดลักษณใหญ ดู magnafacies ประกอบ

102. pass band แถบความถีผ่าน ชวงความถี่คลื่นที่สงออกไปโดยไมมีการลดทอนขนาด ใชในการทําหนาตัดคลื่นไหวสะเทือน

103. patch reef พืดหนิหยอม ๑. พืดหินที่มีลักษณะเปนเนินหรือมียอดราบ โดยปรกติมีความกวางนอยกวา ๑ กิโลเมตร และเกิดเปนสวนหนึ่งของกลุมรวมพืดหิน ๒. หินปูนหรือโดไลไมตรูปเลนสขนาดเล็กหนาและไมแสดง

Page 20: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

622

ชั้น มักเกิดอยูเดี่ยว ๆ หรือลอมรอบดวยหินที่มีชุดลักษณตางกัน 6/56 ตรวจแลว

104. patina ๑. ไคลหนิ ชั้นสีบาง ๆ ที่เคลือบอยูบนพื้นผิวของหิน ซึ่งเกิดจากการผุพังทางเคมี หรือการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีโดยเชื้อรา เชน คราบที่เกิดบนผิวหินปูน หรือหินออน จะเปนแรฮีเวลไลต (Ca C2 H4. H2O) ซึ่งเปนสารประกอบอินทรียแคลเซียมอ็อกซาเลต

105. patina ๒. คราบกร ุ คราบสนิมบาง ๆ บนผิวโลหะ เชน ทองแดง สัมฤทธิ์หลังจากปลอยใหอยูในความชื้นหรือถูกฝงอยูเปนเวลานาน มีสีตาง ๆ เชน เขียว แดง น้ําตาล ดํา น้ําเงิน เทา และมีลักษณะเปนผิวเรียบ มันวาว หรือเปนเหมือนเปลือกหุม ซึ่งแสดงถึงความเกาของวัตถุนั้น ๆ

106. pay ๑. คุมคา(เชงิพาณชิย) คําขยายเกี่ยวกับโครงสรางหรือชั้นที่มีแหลงแรหรือปโตรเลียมที่มีสมรรถนะเชิงพาณิชย เชน ชั้นกรวดคุมคา สายแรคุมคา และชั้นทรายคุมคา หากกลาวถึงแหลงแร หมายถึงสวนของแหลงแรที่ใหกําไร เชน ชั้นสินแรคุมคา และมักเรียกชั้นสินแรคุมคาที่เกิดในลานแรวา กะสะ (kaksa หรือ pay dirt)

107. pay ๒. ชัน้ปโตรเลยีม ความหนาในแนวดิ่งของชั้นหินที่มีปโตรเลียมสะสมอยูติดตอกันในชั้นเดียว

108. pay streak สายแรคุมคา สวนของสายแรที่มีสินแรเชิงพาณิชย

Page 21: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

623

109. pay zone ๑. เขตคุมคา ชวงของหนาตัดลําดับชั้นหินในแนวดิ่งในแหลงน้ํามันหรือแกสที่ใหปริมาณน้ํามันหรือแกสในเชิงพาณิชย

110. pay zone ๒. เขตชัน้ปโตรเลียม ชวงชั้นที่ชั้นหินสะสมปโตรเลียมมีอยูมากกวาหนึ่งชั้นขึ้นไปและแตละชั้นอยูในระยะไมหางมากเกินไป

111. peacock copper ทองแดงสนีกยูง ดู peacock ore

112. peacock ore สนิแรสนีกยงู ชื่อทั่วไปที่ใชเรียกแรทองแดงที่มีสีเหลือบเหมือนสีรุง เกิดจากแรที่มีพื้นผิวหมอง (tarnish) จึงปรากฏความวาวหลากสีเหมือนสีขนนกยูง เชน แรคาลโคไพไรต โดยเฉพาะแรบอรไนต มีความหมายเหมือนกับ peacock copper

113. peak ground acceleration (PGA)*

ความเรงพืน้ดนิสงูสุด (พีจเีอ)

คาสูงสุดของอัตราการเปลี่ยนแปลงความเร็วคลื่นไหวสะเทือนของอนุภาคพื้นดินจากคาหนึ่งเปนอีกคาหนึ่ง ที่บันทึกได ณ จุดใดจุดหนึ่งของเหตุการณแผนดินไหวนั้น ๆ

114. peak mature ภาวะสมบรูณสงูสุด ระดับของความสมบูรณพรอมสูงที่สุดของหินตนกําเนิดปโตรเลียมที่เคอโรเจนเปลี่ยนเปนไฮโดรคารบอนไดในอัตราสูงที่สุด ยืนยนัมตเิดิม 25,26/56

115. peak zone เขตสงูสุด ดู acme zone 116. peat formation การเกิดพตี การยอยสลายของซากพืชในน้ําที่มีการถายเทนอยและ

ขาดออกซิเจน 117. peat* พีต ซากพืชจําพวกตะไคร มอสส และพืชอื่น ๆ ที่ยังไมแข็งตัว

สะสมตัวในที่ลุมสนุนหรือที่ลุมชื้นแฉะ จึงทําใหมีความชื้นสูง (อยางนอยรอยละ ๗๕) เนื้อเซลลูโลสของซากพืชตาง ๆ

Page 22: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

624

ถูกแบคทีเรียและเชื้อราแปรสภาพเปนอินทรียวัตถุและแกสมีเทน แตยังปรากฏลักษณะซากพืชตาง ๆ ใหเห็นอยูภายในเนื้อ มีคารบอนประกอบอยูประมาณรอยละ ๖๐ และออกซิเจนประมาณรอยละ ๓๐ เมื่อแหงจะติดไฟไดดี พีตคือลําดับเริ่มตนของกระบวนการเกิดถานหิน

118. peat–to–anthracite theory

ทฤษฎกีารแปรสภาพของถานหนิ

ทฤษฎีวาดวยการเปลี่ยนแปลงเปนลําดับขั้นของซากพืช ไปเปนถานหินลําดับชั้นคุณภาพตาง ๆ จากพีต ลิกไนต บิทูมิบัส จนถึงแอนทราไซต ดู coalification; carbonification ประกอบ ยนืยนัมตเิดิม 29/56

119. pebble กรวดกลาง ๑. คําทั่วไปที่ใชเรียกกอนหินมนที่มีขนาดตาง ๆ ตั้งแตเทาเมล็ดถั่วขนาดเล็กจนถึงขนาดเทาลูกเทนนิส โดยเฉพาะหมายถึงเศษหินที่มีขนาดใหญกวากรวดเล็ก (granule) จนถึงกรวดใหญ (cobble) เสนผานศูนยกลาง ๔-๖๔ มิลลิเมตร ลักษณะมน เกิดจากการขัดสีระหวางถูกนําพา กรวดกลางแบงตามขนาดได ๔ ขนาด คือ ขนาดหยาบมาก เสนผานศูนยกลาง ๓๒-๖๔ มิลลิเมตร ขนาดหยาบ เสนผานศูนยกลาง ๑๖-๓๒ มิลลิเมตร ขนาดกลาง เสนผานศูนยกลาง ๘-๑๖ มิลลิเมตร และขนาดละเอียด เสนผานศูนยกลาง ๔-๘ มิลลิเมตร ขนาดของกรวดกลางใชแตกตางกันไปในแตละประเทศ เชนในสหราชอาณาจักร ใชชวง ๑๐-๕๐ มิลลิเมตร บางที่

Page 23: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

625

ใชรวมถึงขนาดกรวดใหญ (cobble) และบอยครั้งใชในความหมายที่เหมือนกับ กรวด (gravel) มีความหมายเหมือนกับ pebblestone ๒. เศษหินหรือแรในดินที่มีขนาดเสนผานศูนยกลาง ๒-๒๐ มิลลิเมตร แตในสหรัฐอเมริกาใช ๒-๖๔ มิลลิเมตร ดู gravel ประกอบ

120. pebble dike พนงักรวดกลาง ๑. พนังเศษหินชนิดที่ประกอบดวยกรวดกลางเปนหลัก ๒. พนังรูปแบนหนาประกอบดวยเศษหินตะกอนที่ฝงประในเนื้อพื้นของหินอัคนี ตัวอยางเชน เศษหินเหลานี้แตกหักมาจากหินชั้นลางโดยแมกมาและแทรกดันเขาไปในหินทองที่ เศษหินเหลานี้มีลักษณะมนเนื่องจากการบดหรือการกรอนสลายตัว (corrosion) โดยของไหลเนื่องจากน้ํารอน

121. pebble phosphate กรวดฟอสเฟต แหลงฟอสฟอไรตทุติยภูมิซึ่งไมวาจะเกิดอยูกับที่หรือถูกพามา ประกอบดวยสารฟอสเฟต เม็ดกลมเล็ก (pellet) กรวดกลาง (pebble) กอนทรงมน (nodule) ปนทรายและเคลย เชน แหลงกรวดฟอสเฟตบก และกรวดฟอสเฟตแมน้ํา ที่พบในมลรัฐฟลอริดา ดู land-pebble phosphate และ river-pebble phosphate ประกอบ

122. pebblestone กอนกรวดกลาง ดู pebble ความหมายที่ ๑

Page 24: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

626

123. pedestal rock เสาหนิแปน ๑. มวลหินสวนที่เหลือจากการกรอนโดยธรรมชาติ มีลักษณะเหมือนแปนหินวางอยูบนแทงหินหรือฐานหินที่คอดกิ่ว เพราะสวนของหินที่เปนฐานสึกกรอนไดงายและรวดเร็วกวาสวนของหินที่อยูขางบน ตัวอยางเชน ปาหินงาม อําเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ อุทยานประวัติศาสตร อําเภอบานผือ จังหวัดอุดรธานี เสาเฉลียงที่ผาแตม อําเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธาน ี๒. กอนหินมนใหญไหลเขา ดู perched boulder;perchde block

124. pedicle valve ฝาใหญ เปลือกหรือฝาดานหนึ่งของแบรคิโอพอด มีขนาดใหญกวาอีกฝาหนึ่ง บริเวณแนวหับเผยมักมีรูเปดสําหรับใหกลามเนื้อซึ่งทําหนาที่ยึดเกาะยื่นออกมาเกาะติดกับวัสดุทองน้ําหรือพื้นทองน้ํา ดู brachial valve ประกอบ

125. pediment; rock pediment

ลาดเชงิเขาสกึกรอน ลาดเชิงเขาเอียงเทเล็กนอย เปนที่ราบลูกคลื่นนอย ๆ มีพื้นผิวกวาง เกิดจากการกระทําของทางน้ําในแถบทะเลทรายหรือกึ่งทะเลทราย ลาดเชิงเขาตอจากไหลเขาแบบมุมปาน เกิดจากการผุพังแบบถอยหลังของไหลเขาดานหนา โดยปรกติพื้นผิวจะเปนชั้นหินที่ไมมีอะไรปกคลุม หรืออาจมีชั้นตะกอนน้ําพาที่มาจากภูเขาสูงปกคลุมเปนชั้นบาง ๆ ดู bajada ประกอบ (ดูรูปที่ alluvial fan)

126. pedion พีเดียน รูปทรงผลึกเปดแบบหนึ่งซึ่งมีเพียงหนาผลึกเดียว โดยไมมีหนาผลึกอื่นที่เปนสมมาตรกัน

Page 25: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

627

127. pedology ปฐพวีิทยา ปฐพีศาสตรสาขาหนึ่งที่ศึกษาดานจุลสัณฐานวิทยาดิน การกําเนิดดิน และการจําแนกดิน แตเดิมใชในความหมายของปฐพีศาสตร

128. peg-leg multiple คลืน่สะทอนซ้าํเพกเลก ดูคําอธิบายใน multiple; multiple reflection 129. pegmatite* หินเพกมาไทต หินอัคนีเนื้อหยาบมากที่มีผลึกแรโต ๆ ประสานกันอยู สวน

ใหญพบในลักษณะเปนพนังเปนรูปเลนสหรือสาย เกิดขึ้นในชวงสุดทายของการเย็นตัวของแมกมา มีแรเฟลดสปาร ควอตซและไมกาเปนสําคัญ ในสายเพกมาไทตนี้มักพบแรมีคา เชน ดีบุก วุลแฟรม และแรหายากจําพวกโคลัมเบียม แทนทาลัม ยูเรเนียม มรกต

130. pelagic -ทองทะเล ๑. คําที่ใชเกี่ยวกับสภาพแวดลอมในสวนที่เปนน้ําในมหาสมุทร ดู epipelagic และ mesopelagic ประกอบ ๒. คําที่ใชเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยูในน้ําในมหาสมุทร ไมใชพวกที่อาศัยอยูที่พื้นทะเลหรือบริเวณชายฝง สิ่งมีชีวิตดังกลาวเปนไดทั้งเน็กตอน (nekton) หรือแพลงกตอน (plankton) 36/55 ยนืยนัมติเดมิ 24/56

Page 26: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

628

131. pelagic deposit สิง่ทบัถมทองทะเล สิ่งที่ตกจมทับถมอยูตามพื้นทองทะเลลึกหรือกนมหาสมุทร สวนใหญประกอบดวยตะกอนจากพื้นทวีปซึ่งถูกนําพามาในรูปสารแขวนลอยที่กระจายทั่วไปในทองทะเลลึก ซากของพืชและสัตวเล็ก ๆ ที่อาศัยอยูในทะเลลึก เมื่อตายก็ตกจมลงไปสะสมทับถมกันอยูจนเกิดเปนเลนพื้นทองทะเล (ooze) และมีชื่อเรียกตาง ๆ กันตามสิ่งที่มีอยูมากในเลนชนิดนั้น ๆ เชน เลนไดอะตอม เลนโกลบิเจอไรนา นอกจากนี้ ยังมีพวกผงฝุนที่ไดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ซึ่งเปนเลนอีกจําพวกหนึ่งในพื้นทองทะเลลึก เรียกวา ตมทะเลสีแดง (red clay) ประกอบอยูดวย 35/55 ยนืยันมตเิดิม 24/56

132. pelecypod; lamellibranch

หอยกาบคู สัตวพวกหอยซึ่งอาศัยอยูตามพื้นทองน้ํา จัดอยูในชั้นหอยกาบคู (class Pelecypoda) มีลกัษณะเฉพาะคือฝาทั้ง ๒ มีสมมาตรกัน มีอวัยวะใชเดิน รูปรางคลายขวานดามสั้น มีเหงือกเปนแผน มีชวงอายุตั้งแตยุคออรโดวิเชียนจนถึงปจจุบัน มีความหมายเหมือนกับ bivalve ๒

133. pellet* เม็ดกลมเลก็ ๑. เม็ดกลมขนาดเล็กของสาร เชน มูลภูเขาไฟ เม็ดมูลสัตว (fecal pellet) ๒. มวลรวมคารบอเนตที่มีขนาดเสนผานศูนยกลางเล็กกวาทรายละเอียด (๐.๑-๐.๒๕ มิลลิเมตร) สวนมากเปนพวกมูลสัตวพวกหอยและหนอน ดู allochem ประกอบ ๓. มวลรวมของแรดิน (clay minerals) และแรควอตซ มีเสนผานศูนยกลาง ๐.๑–๐.๓ มิลลิเมตร พบในหินดินดาน

Page 27: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

629

และดินเหนียวบางชนิด แยกออกจากเนื้อที่ประกอบดวยสารชนิดเดียวกันไดเพราะมีวงของสารอินทรียเปนขอบ

134. pelmatozoan เพลมาโตโซแอน สัตวไมมีกระดูกสันหลังในไฟลัมเอไคโนเดอมาตา ซึ่งมีหรือไมมีสวนที่พยุงตัวคลายลําตนพืชสําหรับเกาะติดอยูกับพื้นทองน้ํา ดู echinoderm ประกอบ

135. pelmicrite หินเพลมไิครต หินปูนที่ประกอบดวยมวลรวมคารบอเนตจําพวกเม็ดกลมเล็กและซากดึกดําบรรพในอัตราสวนมากกวา ๓ ตอ ๑ มีอินทราคลาสตนอยกวารอยละ ๒๕ มีเม็ดแบบไขปลานอยกวารอยละ ๒๕ และมีเนื้อพื้นพวกมิไครตมากกวาวัตถุประสานพวกสปาไรต ดู allochem, pellet, micrite,sparite และ pelsparite ประกอบ

136. pelsparite หินเพลสปาไรต หินปูนที่ประกอบดวยมวลรวมคารบอเนตจําพวกเม็ดกลมเล็กและซากดึกดําบรรพในอัตราสวนมากกวา ๓ ตอ ๑ มีอินทราคลาสตนอยกวารอยละ ๒๕ มีเม็ดแบบไขปลานอยกวารอยละ ๒๕ และมีวัตถุประสานพวกสปาไรตมากกวาเนื้อพื้นพวกมิไครต ดู allochem, pellet, micrite, sparite และ pelsparite ประกอบ

137. pendant; pendant roof หินเพดานคาง ดู roof pendant; pendant 138. penecontemporaneous

deformation; contemporaneous deformation

การเปลีย่นลกัษณะขณะตกตะกอน

ดู contemporaneous deformation; penecontemporaneous deformation

Page 28: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

630

139. peneplain พืน้ที่เกอืบราบ พื้นที่ซึ่งมีลักษณะโดยรวมเกือบราบหรือเปนลอนลาดนอย ๆ โดยเกิดจากกระบวนการกรอนอยางยาวนาน ในสภาวะที่สัมผัสทั้งอากาศและน้ําสวนมากจะถูกกรอนโดยธารน้ํา จนถึงระดับฐานในขั้นเกือบสุดทายของวัฏจักรการกรอนตามธรณีสัณฐานในเขตชุมชื้น หรือพื้นที่ซึ่งถูกยกตัวขึ้นเปนที่ราบสูงแลวตอมาถูกธารน้ําตัดซอยออกเปนสวน ๆ นอกจากนั้นพื้นที่เกือบราบอาจเกิดเปนเนินโคงกวางที่คอย ๆ เอียงลาดลงไปสูหุบเขากวางเบื้องลางจากการกรอนตัดผานชั้นหินที่มีโครงสรางและความทนทานแตกตางกันและโดยการกรอนรวมทั้งหมดหรือกรอนเฉพาะสวนที่เหลืออยูจากการกรอนเดิม

140. penesaline ความเค็มระดบัปานกลาง สภาวะแวดลอมระหวางระดับความเค็มปรกติกับระดับความเค็มที่สูงกวาปรกติของน้ําทะเล สังเกตไดจากชั้นปูนในหินเกลือระเหยจะมีทั้งชั้นยิปซัมและชั้นเฮไลดแทรกสลับอยู

141. peninsular คาบสมทุร สวนของแผนดินที่มีน้ําลอมรอบเกือบหมด หรือสวนของแผนดินใหญเปนคอคอดหรือยื่นยาวออกไปในทะเล บางครั้งเรยีก แหลม ซึ่งมีลักษณะเล็กกวาคาบสมุทร เชน แหลมตะลุมพุก

142. Pennsylvanian เพนซลิเวเนยีน ชวงเวลาแบงยอยของมหายุคพาลีโอโซอิกของทวีปอเมริกา อยูหลังจากยุคมิสซิสซิปเปยนและกอนยุคเพอรเมียน มีชวงเวลาตั้งแต ๓๒๓.๒ ลานป ถงึ ๒๙๘.๙ ลานปมาแลว หินที่สะสมตัวในชวงเวลานี้เรียกวา หินยุคเพนซิลเวเนียน ชื่อยุคไดจากชื่อของมลรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งพบหินยุคนี้

Page 29: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

631

กระจายตัวอยูอยางกวางขวาง ยุคเพนซิลเวเนียนมีชวงเวลาเทียบเทายุคคารบอนิเฟอรัสตอนปลายของทวีปยุโรป 41/55

143. pentane เพนเทน ไฮโดรคารบอนชนิดพาราฟนในปโตรเลียมที่มีสวนประกอบ C5H12

144. peralkaline -เพอรแอลคาไลน คําที่ใชกับหินอัคนีที่สัดสวนโมเลกุลของอะลูมิเนียมออกไซดนอยกวาโซเดียมและโพแทสเซียมออกไซดรวมกัน ที่ชรานด (Shrand, 1947) จําแนกชนิดหินอัคนีโดยใชปริมาณการอิ่มตัวของอะลูมิเนียมออกไซด ดู metaluminous, peraluminous, subaluminous ประกอบ 29/56

145. peraluminous -เพอรอะลมูินสั คําที่ใชกับหินอัคนีที่สัดสวนโมเลกุลของอะลูมิเนียมออกไซดมากกวาโซเดียมและโพแทสเซียมออกไซดรวมกัน ที่ชรานด (Shrand, 1947) จําแนกชนิดหินอัคนีโดยใชปริมาณการอิ่มตัวของอะลูมิเนียมออกไซด ดู metaluminous, peralkaline, subaluminous ประกอบ 29/56

146. perched block; perched boulder

กอนหนิมนใหญไหลเขา ดู perched boulder; perchde block

147. perched boulder; กอนหนิมนใหญไหลเขา กอนหินมนใหญที่วางตัวอยางไมมั่นคงบนไหลเขาโดยปรกติแลวถูกนําพามาโดยธารน้ําแข็งหรือเลื่อนตัวลงมา

Page 30: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

632

perchde block ตามไหลเขาโดยอิทธิพลของความโนมถวงหรือเกิดจากการผุพังอยูกับที่ เชน เสาหินแปน หรือเนินหินซอน (tor) ในประเทศไทยพบลักษณะกอนหินมนใหญไหลเขาบริเวณเทือกเขา เชน เทือกเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช เทือกเขาขุนตาน มีความหมายเหมือนกับ pedestal rock และดู erratic; glacial erratic ประกอบ

148. percolating water น้าํไหลซึมผาน ๑. น้ําที่อยูในเลนหรือเลนพื้นทองทะเล (oozce) แทรกซึมหรือผานชั้นดินโดยไมมีรองน้ําที่แนนอนปรากฏใหเห็น ดู underground stream ประกอบ ๒. น้ําที่เกี่ยวเนื่องในการไหลซึมผาน (percolation)

149. percolation* การไหลซมึผาน การที่ของเหลวแทรกตัวเขาไปในของแข็งที่มีชองวางหรือรูพรุนแลวไหลซึมผานออกอีกทางดานหนึ่ง

150. percussion mark รอยกระแทก รอยรูปโคงเวาที่เกิดบนผิวของกรวดที่แข็งและเนื้อแนน เชน หินเชิรต หินควอรตไซต เนื่องจากถูกกระแทกอยางรุนแรง บงชี้วามีการพัดพาดวยความเร็วสูง

151. perennial stream ธารน้าํไหลตลอดป ลําธารที่มีน้ําไหลตลอดป (permanent stream)

152. perennially frozen ground; permanently frozen ground

ชัน้เยอืกแขง็คงตวั ดู permafrost

153. perforation การกรุ การเจาะรูทอกรุ ในสวนที่สัมผัสกับบริเวณที่มีน้ํา น้ํามัน หรือ แกสธรรมชาติ เพื่อใหของไหลเหลานั้นไหลเขาสูทอ

Page 31: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

633

กรุโดยสะดวก

154. pergelisol เพอรเจลซิอล ดู permafrost

155. peridotite* หินเพรโิดไทต กลุมหินอัลตราเมฟกชนิดหนึ่ง เนื้อหยาบ ประกอบดวยโอลิวีนเปนสวนใหญ แตก็มีแรสีเขมอื่น ๆ เชน ไพรอกซีน แอมฟโบล ไมกา อยูดวยเปนปริมาณมากพอควร และแรสีเขมเหลานี้ใชเปนตัวจําแนกชนิดของหินเพริโดไทตดวย ตัวอยางหินเพริโดไทตไดแก หินฮารซเบอรไกต หินเลอรโซไลต หินคิมเบอรไลต เปนตน แรรองที่มีอยูในหินกลุมนี้เปนแรในกลุมสปเนล หินกลุมนี้เมื่อแปรสภาพจะเปลี่ยนไปเปนหินเซอรเพนทิไนต

156. periglacial; cryergic; cryonival; paraglacial; subnival

-รอบธารน้าํแข็ง คําที่ใชอธิบายสภาพพื้นที่ ภูมิอากาศ รูปรางลักษณะภูมิประเทศ และกระบวนการตาง ๆ ที่เกิดในบริเวณรอบธารน้ําแข็ง อันเนื่องมาจากอิทธิพลความเย็นของน้ําแข็ง 29/56

157. period ๑. ยุค ๑.๑ หนวยเวลาทางธรณีวิทยา หรือชวงเวลาทางธรณีกาล เปนหนวยยอยของมหายุค (era) และแบงยอยเปนสมัย (epoch) จัดเปนหนวยหลักในมาตราธรณีกาล หินที่สะสมตัวในชวงเวลาดังกลาวจัดเปนหนวยของหินยุค (system) ๑.๒ คําใชเรียกชวงเวลาทางธรณีวิทยาที่ไมจัดเปนทางการ เชน ยุคธารน้ําแข็ง

158. period ๒. คาบ ชวงเวลาที่มีการเคลื่อนที่ครบรอบ หรือชวงที่มีเหตุการณ

Page 32: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

634

เกิดขึ้นแบบเดียวกัน เชน ชวงเวลาระหวางกระแสน้ําขึ้น-น้ําลงที่ตอเนื่องกันครบ ๑ รอบ

159. peripheral fault รอยเลือ่นโคงแนวขอบ รอยเลื่อนตามแนวโคงที่เปนแนวแบงเขตพื้นที่ที่ยกสูงขึ้นหรือต่ําลง เชน โดมรูปเห็ด (diapir) มีความหมายเหมือนกับ border fault ความหมายที่ ๒ ดู arcuate fault ประกอบ

160. perlite หินเพอรไลต หินภูเขาไฟเนื้อแกวที่มีองคประกอบเปนหินจําพวกไรโอไรต มีเนื้อเนียนละเอียดคลายออบซิเดียนแตในองคประกอบมีน้ํามากกวา หรือเนื้อดอก ลักษณะเนื้อหินมีรอยแตกเปนวงซอน ซึ่งเปนลักษณะของแกวภูเขาไฟที่กําลังจะเปลี่ยนแปลงลงเปนควอตซและเฟลดสปาร ในประเทศไทยพบมากที่จังหวัดลพบุรีและเพชรบูรณ สวนใหญมีสีเทาอมเขียวถึงเทาดํา ในเชิงพาณิชยหินเพอรไลตเมื่อใหความรอนจะขยายตัวไดมากและมีน้ําหนักเบา จึงใชทําวัสดุมวลเบาในงานกอสรางอาคาร ในการเกษตรนํามาใชผสมกับดินเพื่อปรับปรงุสมบัตทิางกายภาพ ทําใหดินโปรงและรวนซุยขึ้น

161. perlitic texture เนือ้วงซอน ลักษณะเนื้อหินรูปวงกลมซอนกันเปนชั้น ๆ ในหินอัคนีเนื้อแกวชนิดกรด มีรอยแตกเปนรูปโคง เกิดจากการหดตัวขณะแมกมาเย็นตัว การเปลี่ยนสภาพแกวเปนผลึก และกระบวนการไฮเดรชันในชั้นบาง ๆ ที่ผิวนอกของแกวภูเขาไฟ หรือการที่ชั้นน้ําบาง ๆ ทําปฏิกิริยากับหินแกวภูเขาไฟ

Page 33: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

635

ซึ่งทําใหเกิดการขยายตัวและเกิดรอยแตกพรอมกัน เมื่อเกิดการไฮเดรชันซ้ํา ๆ รอยแตกก็จะเกิดเพิ่มเขาสูดานในเนื้อหิน มีรูป

162. permafrost ชัน้ดนิเยอืกแขง็ ชั้นดินหรือหินดานที่อยูใตผิวดินหนาตั้งแต ๓๐ เซนติเมตร จนถึงมากกวา ๑,๐๐๐ เมตร ปกคลุมพื้นที่ประมาณ ๑ ใน ๕ สวนของพื้นแผนดินของโลก มีอุณหภูมิอยูใตจุดเยือกแข็งตอเนื่องกันเปนเวลาหลาย ๆ รอยป หรือหลาย ๆ พันป ชั้นดินเยือกแข็งนี้เกิดอยูในบริเวณซึ่งความรอนของอากาศในฤดูรอนไมอาจซึมซาบลงไปถึงชั้นดินนี้ได และพบในบริเวณที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศประจําปประมาณ –๕ องศาเซลเซียส หรือต่ํากวานั้น เชน บริเวณพื้นที่แถบขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต มีความหมายเหมือนกับ pergelisol และ perennially frozen ground; permanently frozen ground

163. permanently frozen ground; perennially frozen ground

ชัน้เยอืกแขง็คงตวั ดู permafrost

164. permeability สภาพใหซมึได สมบัติหรือความสามารถของหินหรือวัสดุอื่น ๆ ที่มีความพรุน ซึ่งยอมใหของไหลผานได มีหนวยวัดเปนมิลลิดารซี (millidarcy) ดู porosity ประกอบ

165. permeable rock หินเนือ้ฟาม หินจําพวกที่น้ําหรือน้ํามันดิบหรือแกสไหลซึมผานไดตัวอยางเชน หินทราย ชอลก ดู impermeable rock;

Page 34: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

636

impervious rock ประกอบ 166. Permian Period* ยคุเพอรเมยีน ยุคสุดทายของมหายุคพาลีโอโซอิก มีชวงอายุตั้งแต

๒๙๘.๙ ถึง ๒๕๒.๒ ลานปมาแลว เปนยุคที่มีสัตวสะเทินน้ําสะเทินบกเจริญมาก บางทีเรียกวา ยุคสัตวสะเทินน้ําสะเทินบก และเมื่อถึง ๒๕๒.๒ ลานป สัตวบนโลก เชน ไทรโลไบต แกรปโทไลต สูญพันธุไปถึงรอยละ ๙๕ หินที่เกิดในยุคนี้เรียกวา หินยุคเพอรเมียน (Permian System) 41/55

167. permineralizaton การเตมิแร กระบวนการที่เกิดจากแรในสารละลายเขาไปตกตะกอนสะสมอยูในรูพรุนของสวนแข็งของสัตว เชน กระดูก เปลือกหอย มีผลทําใหกระดูกหรือเปลือกหอยมีความแนนแข็งขึ้นหรือแกรงขึ้น แรนั้นอาจมีสวนประกอบเหมือนหรือตางกับเนื้อของซากนั้นก็ได แตโดยทั่วไปจะมีสวนประกอบที่ตางกัน คํานี้แตกตางจากการกลายเปนหิน โดยที่กระบวนการเติมแรนั้นเกิดขึ้นเฉพาะชองวางภายในเซลลและระหวางเซลล แตไมมีการแทนที่ผนัง ดู fossil, mineralization, petrification; petrifaction และ replacement ประกอบ 37/55

168. Permo-Triassic เพอรโม-ไทรแอสซกิ คําใชเกี่ยวกับหนวยเวลาหรือหนวยหินซึ่งไมสามารถแยกออกไดวาเปนยุคเพอรเมียนหรือยุคไทรแอสซิก เชน หนวยหินภูเขาไฟที่วางตัวใตกลุมหินโคราชซึ่งไมสามารถบงชี้ไดวาเปนยุคเพอรเมียนหรือยุคไทรแอสซิก จงึจัดเปนหนวยหินเพอรโม-ไทรแอสซิ

Page 35: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

637

169. perpendicular array แถวลาํดบัแบบตั้งฉาก การจัดวางกลุมจีโอโฟนหรือกลุมตนกําเนิดคลื่นในแนวตั้งฉากกับแนวเสนสํารวจ มีรูป

170. perpendicular dipole-dipole array

แถวลาํดบัสองขัว้คูแนวตัง้ฉาก

รูปแบบการจัดวางขั้วไฟฟา โดยมีขั้วกระแสไฟฟาอยูบนแนวหนึ่ง ขั้วศักยไฟฟาอยูหางออกไปทางดานขาง เสนลากตอระหวางขั้วศักยไฟฟาอยูในแนวตั้งฉากกับเสนลากตอระหวางขั้วกระแสไฟฟา เสนลากตอจุดกึ่งกลางแนวขั้วศักยไฟฟาทํามุม θ กับแนวลากตอขั้วกระแสไฟฟาตรงจุดกึ่งกลาง จดุกึ่งกลางแนวเสนทั้งสองหางกันเปนระยะทาง r ดังรูป

171. perthitic -เนือ้แบบเพอรไทต ๑. คําที่ใชกับลักษณะเนื้อของแรเฟลดสปารซึ่งมีแรเฟลดสปารชนิดที่มีโซเดียมสูงเกิดเปนทางหรือสายเล็ก ๆ ขนาน หรือคอนขางขนานกันอยูภายในแรโพแทชเฟลดสปาร (แรเฟลดสปารชนิดที่มีโซเดียมสูงมักเปนแรแอลไบต และเฟลดสปารชนิดที่มีโพแทสเซียมสูงมักเปนแรไมโครไคลน) ๒. คําที่ใชกับแรเพอรไทตหรือลักษณะของแรเพอรไทต 29/56

172. petrification; petrifaction

การกลายเปนหนิ กระบวนการกลายเปนหินโดยการเปลี่ยนสารอินทรียเปนหิน เกิดจากการแทรกซึมของน้ําที่มีสารละลายแรพวกแคลเซียมคารบอเนต หรือซิลิกาปนอยู แลวตกตะกอนตามรูพรุนหรือชองวาง และแทนที่อนุภาคตออนุภาคของสิ่งมีชีวิต เชน เปลือกหอย กระดูก ไม ทําใหมีความแข็งมากขึ้นจนกลายเปนหิน กระบวนการนี้บางครั้งรักษาสภาพโครงสราง

Page 36: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

638

ดั้งเดิมของสิ่งมีชีวิตไวได เชน ไมกลายเปนหิน มีความหมายคลายกับ permineralization ดู fossil, replacement, mineralization ประกอบ 37/55

173. petrified rose; barite rose; barite rosette

แบไรตดอกกุหลาบ ดู barite rose; barite rosette; petrified rose

174. petrified wood ไมกลายเปนหนิ เนื้อไมที่กลายสภาพเปนหิน เนื่องจากสารละลายแรซึ่งสวนใหญเปนซิลิกาเขาไปแทนที่เนื้อไมอยางชา ๆ คือแทนที่โมเลกุลตอโมเลกุล จนกระทั่งแทนที่ทั้งหมดโดยไมมีการเปลี่ยนแปลงรูปรางและโครงสราง ดู petrification; petrifaction ประกอบ 37/55

175. petrofabric analysis; fabric analysis; petrofabrics

การวิเคราะหโครงเนือ้หิน

ดู structural petrology

176. petrofabrics ; fabric analysis; petrofabric analysis

การวิเคราะหโครงเนือ้หิน

ดู structural petrology

177. petroglyph ภาพขูดบนหิน ภาพหรือลายเสนที่เกิดจากการขูดบนพื้นผิวไคลหินซึ่งมีสีเขมกวาเนื้อหินเดิม โดยมนุษยสมัยกอนประวัติศาสตร

178. petrography* ศลิาวรรณนา ธรณีวิทยาสาขาหนึ่งที่วาดวยการบรรยายลักษณะและการจําแนกชนิดของหิน โดยการศึกษาจากแผนหินบางดวยกลองจุลทรรศน คํานีม้ีขอบเขตจํากัดกวาคําวา petrology

Page 37: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

639

179. petroleum geologist นกัธรณวีิทยาปโตรเลยีม นักธรณีวิทยาที่ปฏิบัติงานในการสํารวจหรือเพื่อการผลิตน้ํามันและแกส ดู petroleum geology ประกอบ

180. petroleum geology ธรณีวทิยาปโตรเลียม วิชาธรณีวิทยาสาขาหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับการเกิด การเคลื่อนยาย และการสะสมตัวของน้ํามันและแกส และการสํารวจหาแหลงที่มีคุณคาทางเศรษฐกิจ การปฏิบัติงานตองประยุกตใชวิชาสาขาอื่น ๆ ดวย เชน ธรณีเคมี ธรณีฟสิกส โบราณชีววิทยา ธรณีวิทยาโครงสราง วชิาลําดับชั้นหิน เพื่อใชในการคนหาปโตรเลียมหรือไฮโดรคารบอน ดู petroleum geologist ประกอบ

181. petroleum geophysics ธรณีฟสกิสแหลงปโตรเลียม

การประยุกตใชวิธีการตาง ๆ ทางธรณีฟสิกสเพื่อคนหาแหลงปโตรเลียม โดยอาศัยสมบัติทางฟสิกสที่แตกตางกันของหินชนิดตาง ๆ เปนหลักในการคนหา เชน วิธีแมเหล็ก วิธีความโนมถวง วิธีคลื่นไหวสะเทือน โดยมีวัตถุประสงคหลักในการคนหาโครงสรางทางธรณีวิทยาที่เหมาะสมกับจะเปนแหลงเก็บปโตรเลียม ไดแก โครงสรางรูปประทุน รอยเลื่อน รอยชั้นไมตอเนื่อง เปนตน

182. petroleum rock หินปโตรเลยีม หินทราย หินปูน หินโดโลไมต หินดินดานที่มีรอยแตก และหินชนิดอื่น ๆ ที่มีความพรุน ซึ่งสามารถกักเก็บน้ํามันและแกสไวได

183. petroleum trap แหลงกกัเกบ็ปโตรเลยีม บริเวณหรือตําแหนงที่น้ํามันหรือแกสสะสมอยูในชั้นหินที่มีชั้นหินปดทับเพื่อไมใหน้ํามันหรือแกสไหลหนีออกไป แหลงกักเก็บปโตรเลียมอันเปนแหลงกักเก็บน้ํามัน (oil trap) และ

Page 38: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

640

แหลงกักเก็บแกส (gas trap) ประกอบดวย ชั้นหินกักเก็บ และชั้นปดกั้นที่ไมมีความซึมไดปดอยูขางบน โดยผิวสัมผัสของ ๒ ชั้นนี้จะวางตัวโคงลง ดู stratigraphic trap และ structural trap ประกอบ

184. petroleum window;oil window

ชวงเกิดน้าํมัน ดู oil window; petroleum window

185. petroleum* ปโตรเลียม ๑. คําทั่วไปหมายถึงสารผสมของไฮโดรคารบอนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อาจมีสภาพเปนของเหลว แกส หรือของแข็งก็ได ไดแก น้ํามันดิบ (crude oil) แกสธรรมชาติ (natural gas) และสารพลอยไดอื่น ๆ ๒. สารผสมของไฮโดรคารบอนซับซอนชนิดเหลวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งเมื่อนํามากลั่นและกําจัดสารเจือปนออกไปแลวจะไดสารเชื้อเพลิงตามลําดับชั้นตาง ๆ เชน เคมีภัณฑปโตรเลียม น้ํามันหลอลื่น มีความหมายเหมือนกับ oil

186. petroliferous -ใหปโตรเลยีม คําที่ใชกับหินที่มีหรือที่ใหปโตรเลียม29/56

187. petrology* ศลิาวิทยา ธรณีวิทยาสาขาหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับสมบัติของหินแตละชนิด กําเนิด แหลงแร โครงสราง และความเปนมาของหิน ตลอดจนวิธีการตรวจวิเคราะหหิน คํานี้มีขอบเขตกวางขวางกวาคําวา petrography

188. PGA (peak ground พจีีเอ (ความเรงพืน้ดิน ดู peak ground acceleration (PGA)

Page 39: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

641

acceleration) สงูสุด)

189. pH พีเอช คาที่แสดงความเปนกรดและเบสของสารละลาย โดยวัดจากความเขมขนของไฮโดรเจนไอออนที่มีในสารละลายเปนโมลตอลิตรมีคาอยูระหวาง ๑-๑๔ โดยคํานวณจากแอนติลอการิทึมฐาน ๑๐ ของปริมาณไฮโดรเจนไอออน (pH = -log H+) ถาพีเอชมีคา ๗ ถือวาเปนกลาง ถาต่ํากวา ๗ จะเปนกรด ถาสูงกวา ๗ จะเปนเบส

190. phacolith* หินอคันรีปูเบี้ย หินอัคนีที่รีดตัวเขาไปอยูตรงยอดของชั้นหินโคงรูปประทุนหรือรูปประทุนหงาย แรงอัดทําใหสวนกลางหนา สวนขางโดยรอบบางกวา เหมือนลักษณะของเบี้ย

191. phaneritic texture เนือ้ทรรศน เนื้อของหินอัคนีที่ประกอบดวยผลึกแรที่มีขนาดใหญจนสามารถแยกไดเดนชัดดวยตาเปลา ใชเรียกหินที่มีลักษณะเนื้อหินแบบนี้ไดดวย ดู aphanitic texture ประกอบ 37/55

192. Phanerozoic ฟาเนอโรโซอกิ หินบรมยุค(eonothem) ชั้นบนสุดตามมาตรฐานมาตราลําดับชั้นหินตามอายุกาลทั่วโลก (Standard Global Chronostratigraphic Scale) ประกอบดวยหินมหายุคพาลีโอโซอิก หินมหายุคมีโซโซอิก และหินมหายุคซีโนโซอิก ซึ่งมีหลักฐานของการเกิดสิ่งมีชีวิตมากมาย รวมถึงชวงเวลาที่หินเกิดการสะสมตัวดวย บรมยุคฟาเนอโรโซอิกครอบคลุมชวงเวลาตั้งแต ๕๔๑ ลานปจนถงึปจจุบัน

Page 40: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

642

ดู Phanerozoic Eon ประกอบ 40/55

193. Phanerozoic Eon บรมยคุฟาเนอโรโซอกิ บรมยุคสุดทายของการแบงมาตราธรณีกาลนับตั้งแต ๕๔๑ ลานปมาจนถึงปจจุบนั แบงออกไดเปน ๓ มหายุค คือ มหายุคพาลีโอโซอิก มหายุคมีโซโซอิก และมหายุคซีโนโซอิก หินที่เกิดในบรมยุคนี้เรียกวา หินบรมยุคฟาเนอโรโซอิก (Phanerozoic Eonothem) คํานี้ปจจุบนัเลิกใชแลว ดู geologic time scale ประกอบ 40/55

194. phase เฟส สสารจํานวนหนึ่งที่เปนเนื้อเดียวกันทั้งโครงสรางทางเคมีและฟสิกส ในระบบหนึ่ง ๆ อาจมีเฟสเดียวหรือหลายเฟส เชน ระบบสารประกอบ H2O ที่มีน้ําและไอน้ําประกอบกันเปน ๒ เฟส

195. phase equilibria เฟสสมดลุ ในวิชาเคมีกายภาพ ศึกษาเกี่ยวกับเฟสตาง ๆ ในระบบที่ดํารงอยูเฉพาะในสภาวะสมดุล

196. phase layering การเกิดชัน้ทางแร ๑. การเกิดชั้นแรของหินอัคนีระดับลึก เกิดจากการปรากฏตัวอยางทันทีทันใดของแรบางตัว และแรบางตัวหายไปอยางตอเนื่องจากตอนลางสูตอนบน ดู cryptic layering, rhythmic layering ประกอบ ๒. การเกิดโครงสรางขนาดใหญของหินแปรจากการวางตัวกึ่งขนานกันของชั้นแรตางกําเนิด (various origins) ที่มี

Page 41: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

643

องคประกอบแรตางจากหินเหยา (host rock) เชน หินไนส และ หินเพริโดไทต ดู compositional layering ประกอบ มีความหมายเหมือนกับ primary layering 16,17/56

197. phase rule กฎเฟส ดู Gibbs’phase rule

198. phase separation-migration

การเคลือ่นยายแบบแยกสถานะ

การเคลื่อนยายตติยภูมิของปโตรเลียม โดยสวนที่มีสถานะแกสจะเคลื่อนที่ไดงายและเร็วกวาเพราะมีโมเลกุลขนาดเล็กกวาสวนที่มีสถานะของเหลว จึงทําใหแหลงกักเก็บปโตรเลียมบางแหลงมีสถานะแกสทั้งหมด

199. phase tranasormation การเปลีย่นเฟส ดู transformation ๒ 200. phenoclast เศษหินดอก เศษหินขนาดใหญในตะกอนหรือหินตะกอน ประกอบดวย

วัสดุขนาดตาง ๆ เชน หินมนเล็ก (cobble) กรวดใหญ (pebble) เศษหินดอกมน (spheroclast) ที่ฝงตัวในเนื้อพื้นของหินกรวดมน หรือ เศษหินดอกเหลี่ยม (anguclast) ในหินกรวดเหลี่ยม ยนืยนัมตเิดิม 13/56

201. phenocryst ผลกึดอก ผลึกแรขนาดใหญที่เปนดอกอยูในเนื้อหินอัคนีดู porphyritic texture ประกอบ

202. phenol ฟนอล สารประกอบแอโรแมติกที่มีออกซิเจนประกอบอยูดวย มีสูตร

Page 42: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

644

เคมี C6H5OH พบมากในน้ํามันดินจากถานหิน และในน้ํามันดิบ ฟนอลมีความใกลชิดกับแอลกอฮอลมากซึ่งสวนที่เปนแอโรแมติกหรือวงแหวนเบนซีนจะมีหมูไฮดรอกซิลประกอบอยูดวยทําใหมีสภาพเปนกรด ฟนอลเปนสารตั้งตนที่สําคัญของพลาสติก มีความหมายเหมือนกับ hydroxybenzene

203. phenotype ฟโนไทป, แบบฉบบัปรากฏ

ลักษณะที่ปรากฏของสิ่งมีชีวิตซึ่งสะทอนถึงอันตรกิริยา (interaction) ของพันธุกรรมและสิ่งแวดลอม

204. phi unit หนวยฟ หนวยวัดที่บงบอกถึงขนาดของเม็ดวัสดุเชิงลอการิทึมฐานสอง ซึ่งมีความสัมพันธกับเสนผานศูนยกลางของเม็ดวัสดุ (d) มีหนวยเปนมิลลิเมตร โดย Ф = -log2d

205. phonolite* หินโฟโนไลต ๑. หินอัคนีพุชนิดหนึ่งประกอบดวยแรเฟลดสปารชนิดแอลคาไลน โดยเฉพาะอะนอรโทเคลส หรือซานิดีนกับเนฟลีน ๒. หินอัคนีพุที่ประกอบดวยแรเฟลดสปารชนิดแอลคาไลน แรสีเขม และแรเฟลดสปาทอยด เชน เนฟลีน ลูไซต โซดาไลต คํานี้มาจากคําในภาษากรีกวา โฟน ซึ่งแปลวา เสียง เนื่องจากหินชนิดนี้เมื่อเคาะดวยคอนจะเกิดเสียงดังกังวาน

206. phosphate* ฟอสเฟต กลุมของแรที่มีอนุมูลกรดฟอสฟอริก (PO4)3 เปนองคประกอบ ตัวอยางเชน อะพาไทต Ca5(PO4)3 (F, OH, Cl) ซีโนไทม (YPO4)

207. phosphatic nodule กอนฟอสเฟตทรงมน มวลหรือกอนทรงมนของแรแคลเซียมฟอสเฟต มีสีขาวขุน

Page 43: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

645

เทาดํา หรือน้ําตาล ขนาดเสนผานศูนยกลางตั้งแต ๒ มิลลิเมตร จนถึงใหญกวา ๓๐ เซนติเมตร กอนแรนี้ประกอบขึ้นดวยกอนมูลสัตว เปลือกหอย กระดูก เม็ดทราย แผนไมกา หรือโครงหนามของฟองน้ํา หอหุมดวยแรแคลเซียมฟอสเฟต

208. phosphorescence การพรายแสง การเปลงแสงออกจากสสารอยางตอเนื่องจนถึงระยะเวลาหนึ่ง แมตัวกระตุนจากภายนอก เชน แสงอัลตราไวโอเลต สิ้นสุดลงแสงก็ยังคงเปลงออกมาได ความยาวนานของการเปลงแสงขึ้นอยูกับอุณหภูมิ และมีอัตราการสลายตัวเฉพาะหรือตายตัว จัดวาเปนการเปลงแสงแบบหนึ่ง

209. phosphorite หินฟอสฟอไรต หินชั้นหรือหินตะกอนที่มีปริมาณแรฟอสเฟตสูงมากพอที่จะมีคาทางเศรษฐกิจ เปนไดทั้งชั้นหินปฐมภูมิและทุติยภูมิที่เกิดในทะเล ชั้นหินนี้ประกอบดวยผลึกแรคารบอเนต ฟลูออรอะพาไทต ขนาดเล็กมาก อาจเกิดเปนชั้นบาง ๆ หรือเปนเม็ดกลมเล็ก ๆ เม็ดแบบไขปลา หรือเปนกอน และมักมีโครงรางของสัตวทะเล เปลือกหอย และกระดูกปนอยูดวย

210. photic zone; euphotic zone

เขตมแีสง ระยะความลึกมากที่สุดของน้ําทะเลและทะเลสาบที่สามารถเกิดกระบวนการสังเคราะหแสงได ซึ่งขึ้นอยูกับความลึกของแสงที่สองผานน้ําและสภาพความขุนของน้ํา โดยทั่วไปเขตนี้อยูในระดับความลึกประมาณ ๒๐๐ เมตร

211. photogeology* ธรณีวทิยาภาพถาย การศึกษาลักษณะและโครงสรางทางธรณีวิทยาโดยอาศัยขอมูลจากรูปถายทางอากาศ (aerial photograph)

Page 44: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

646

212. phreatic ground water; phreatic water

น้าํบาดาลไมมแีรงดนั น้ําบาดาลที่เกิดอยูในสวนบนสุดของเขตอิ่มน้ํา (zone of saturation) และสัมผัสกับเขตอิ่มอากาศ (zone of aeration) น้ําบาดาลชั้นดังกลาวจึงไมมีแรงดัน นางสาวสมคิด บัวเพ็ง รับไปตรวจสอบ 29/56

213. phreatic zone; saturated zone; zone of saturation

เขตอิ่มน้าํ ดู saturated zone; phreatic zone; zone of saturation นางสาวสมคิด บัวเพ็ง รับไปตรวจสอบ 29/56

214. phyla ไฟลา ดูคําอธิบายใน phylum 215. phyllite* หินฟลไลต หินแปรชนิดหนึ่งประกอบดวยไมกาเปนสวนใหญ แรนี้เรียง

ตัวขนานกันเปนริ้วทําใหผิวหนาของหินมีความวาวเหมือนไหม หินฟลไลตมีอันดับการแปรสภาพอยูระหวางหินชนวนกับหินชีสต

216. phyllosilicate ฟลโลซลิเิกต กลุมแรซิลิเกตที่ประกอบดวย SiO4ทรงสี่หนา เกาะตัวกัน

แบบตาขายหกเหลี่ยม โดยใชออกซิเจนสามในสี่ของ SiO4

ทรงสี่หนาขางเคียงรวมกัน จึงทําใหแรกลุมนี้มีลักษณะเปนแผนหรือเปนเกล็ด อัตราสวน Si : O = ๒ : ๕ ตัวอยางเชนไมกา ไบโอไทต มัสโคไวต คลอไรต เคโอลิไนต เซอรเพนทีน ทัลก มีความหมายเหมือนกับ sheet mineral

217. phylogeny ววิัฒนาการชาตพิันธุ ๑. สายการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตกลุมใดกลุมหนึ่งที่ตอเนื่องจากบรรพบุรษุไปสูลูกหลาน ตรงขามกับพัฒนาการ

Page 45: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

647

ของสิ่งมีชีวิต ซึ่งเปนเรื่องเฉพาะตัว ดู ontogeny ประกอบ ๒. การศึกษาประวัติความเปนมาของสิ่งมีชีวิตกลุมใดกลุมหนึ่ง

218. phylozone; lineage zone**

สวนชัน้สายชีวภาพ ดู lineage zone; phylozone

219. phylum ไฟลมั ขั้นหนึ่งของการจัดจําแนกหมวดหมูของสัตว เปนขั้นที่อยูระหวางอาณาจักร (kingdom) ซึ่งเปนขั้นที่สูงกวา และชั้น (class) ซึ่งเปนขั้นที่ต่ํากวา สวนการจําแนกหมวดหมูของพืชในขั้นนี้ใชวา หมวด (division) คําพหูพจนของ phylum คือ phyla

220. physical geology* ธรณีวทิยากายภาพ ธรณีวิทยาแขนงหนึ่งที่ศึกษากระบวนการและแรงตาง ๆ ที่เปนตัวการทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปรางลักษณะตาง ๆ ของโลก รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงสารตาง ๆ ในโลก อันไดแก องคประกอบของแร หิน แมกมา และสารแกนโลก ทั้งนี้ไมรวมถึงการบันทึกเหตุการณหรือวิวัฒนาการของโลกซึ่งเปนเรื่องของวิชาธรณีประวัติ ดู historical geology ประกอบ

221. physiomorphology; geomorphology

ธรณีสณัฐานวิทยา ดู geomorphology; physiomorphology

222. phytane ไฟเทน ไอโซฟรีนอยสไฮโครคารบอนที่มีคารบอน ๒๐ อะตอม มี

Page 46: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

648

สูตรเคมี C20H42 ไฟเทนไมพบในสิ่งมีชีวิต แตมักพบทั่วไปในตะกอนและน้ํามันดิบ

223. phyteral ไฟเทอรลั เศษพืชในถานหินที่ยังเห็นลักษณะรูปรางเดิม เชน เคลือบผิวใบ (cuticle) เปลือกหุม สปอร (spore coat) ไข ซึง่ตางกับมาเซอรัล

224. phytolith หินพชื หินที่เกิดจากการรวมตัวกันของซากพืชหรือการกระทําตาง ๆ ของพืช ไดแก ถานหิน พีต ลิกไนต และหินปูนอินทรียบางชนิด เชน หินเนื้อเม็ดแบบไขปลา (oolite) (เก็บศัพทในธรณี สวล.ดวย) 8/56 ตรวจแลว

225. phytoplankton แพลงกตอนพชื แพลงกตอนหรือสิ่งมีชีวิตที่ลองลอยตามน้ําที่จัดเปนพวกพืช เชน ไดอะตอม ดู zooplankton ประกอบ

226. piedmont glacier* ธารน้าํแขง็เชงิเขา แผนผืนน้ําแข็งหนาที่ปกคลุมที่ราบเชิงเขา เกิดจากการแผกระจายออกของธารน้ําแข็ง หรือการรวมตัวเขาดวยกันของธารน้ําแข็งหลายธารที่ไหลลงมาจากหุบเขาสูงก็ได

227. piercement dome; diapir dome

โดมรปูเห็ด ดู diapir; piercement dome 3/56

228. piercing fold; diapiric fold

รอยคดโคงแทรกดนั ดู diapiric fold; piercing fold3/56

229. piezometric surface; potentiometric surface;

ระดบัแรงดนัน้าํ ดู potentiometric surface; piezometric surface; pressure surface 29,31/56

Page 47: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

649

pressure surface

230. pillar structure โครงสรางแบบเสา โครงสรางรูปเสาเหลี่ยมชนิดหนึ่ง ที่ตั้งฉากหรือทํามุมกับชั้นหิน ประกอบดวยมวลทรายเนื้อแนนหรือเปนเกลียวซึ่งตัดขวางแนวชั้นบางหรือโครงสรางปฐมภูมิของชั้นทราย คาดวาเกิดขึ้นจากการที่น้ําหายไปภายหลังการตกสะสมตัวของชั้นหิน ดู vertical sheet structure ประกอบ

231. pillow lava ลาวารปูหมอน หินลาวาชนิดบะซอลตที่เย็นตัวใตน้ํา จะเกิดเปนรูปคลาย ๆ หมอน

232. pinacoid พนิาคอยด รูปทรงผลึกเปดแบบหนึ่ง ซึ่งประกอบดวยหนาผลึกมีสมมาตรกันที่ขนานกัน ๑ คู ตัวอยางเชน หากหนาผลึกคูดังกลาวตั้งฉากกับแกนผลึกแนวตั้ง รูปทรงผลึกแบบนี้เรียกวา พินาคอยดฐาน (basal pinacoid) ดูรูปที่ pedion

233. pinite ไพไนต มัสโคไวตอสัณฐาน เนื้อละเอียดสมานแนน สีเทาดาน เขียว หรือน้ําตาล เกิดจากการแปรเปลี่ยนของแรซิลิเกตบางชนิด เชน คอรเดียไรต เนฟลีน สแกโพไลต สปอดูมีน และเฟลดสปาร 28,29,30/56

234. pinnacle เสาหนิ ๑. แทงหินสูงเรียวหรือยอดสูงเดน ๒. แทงหินหรือปะการังที่อยูใตน้ําหรืออยูปริ่มน้ํา ซึ่งไมอาจตรวจพบไดดวยเครื่องหยั่งน้ําดวยเสียงสะทอน จึงอาจเปนอันตรายตอการเดินเรือได มีความหมายเหมือนกับ

Page 48: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

650

pinnacle reef ๑ และ ดู reef ประกอบ

235. pinnacle reef ๑. เสาหิน ดู pinnacle ความหมายที่ ๒ 6/56 236. pinnacle reef ๒. พดืเสาหิน คําเรียกเนินพืดหินที่เกิดจากการกอตัวเปนหยอม ๆ ของ

สาหราย สโตรมาโทพอรอยดยุคไซลูเรียนตอนกลางในแองมิชิแกน แตละหยอมมีความสูง ๕๐๐ ฟุต และเอียงเทไมเกิน ๑๕ องศา ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ ๕๐๐ เอเคอร (๑,๒๖๕ ไร) จึงมีลักษณะเปนเนินมากกวาเปนแทงหรือเปนเสา พบจากการเจาะสํารวจน้ํามัน เนินเหลานี้ปจจุบันเปนหินโดโลไมต และหลายแหลงเปนแหลงผลิตน้ํามัน 6/56

237. pinnate drainage pattern*

แบบรปูทางน้าํขนนก แบบรูปทางน้ํากิ่งไมแบบหนึ่งที่ประกอบดวยลําน้ําสาขาหลาย ๆ สายซึ่งอยูใกลชิดกันและเกือบขนานกัน ไหลมาบรรจบกับทางน้ําประธานเปนมุมแหลม ทําใหแบบรูปทางน้ํานี้ดูคลายขนนกอันแสดงถึงพื้นที่ที่ลําน้ําสาขาไหลลงนั้นมีความลาดชันสูงผิดปรกติ

238. pipe ๑. ลาํหนิอคันแีทรกซอน ๑.๑ (หินอัคนีแทรกซอน) มวลหินอัคนีที่ตัดผานชั้นหินหรือริ้วขนานของมวลหินอัคนีแทรกซอน มีรูปทรงแบบแผนหนา (tabular) ๑.๒ (ภูเขาไฟ) ชองทางที่ใหหินหนืดไหลขึ้นมา โดยปรกติแลวมักเติมเต็มดวยหินกรวดเหลี่ยมภูเขาไฟ และเศษชิ้นของหินที่มีอายุแกกวา เปนเขตที่มีสภาพใหซึมไดสูง

Page 49: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

651

โดยทั่วไปเปนเขตกําเนิดแหลงแร ดู breccia pipe ประกอบ 29,30/56

239. pipe ๒. (น้ําบาดาล) ไพป ดู geyser pipe 29,30/56 240. pipe ๓. (แหลงสินแร) ลาํ

สนิแร ดู ore pipe 29,30/56

241. pipe ๔. (หินตะกอน) ลาํเศษหิน

๔.๑ ดู clastic pipe ๔.๒ ชองที่บรรจุดวยกรวดและทราย มีขนาดตั้งแตหลายเซนติเมตรจนถึงเปนเมตร เกิดขึ้นโดยเฉพาะในหินเนื้อปูน ตัวอยางเชน แนวแตกแนวตั้ง หรือหลุมยุบในชั้นหินชอลกที่ถูกขยายขนาดโดยการละลายของสารคารบอเนตและเติมดวยเศษตะกอน 29,30/56

242. pipe clay; pipeclay ไพปเคลย พลาสติกเคลยที่มีความเหนียวมาก สีขาวถงึขาวแกมเทา ปลอดจากสารเหล็ก สมัยกอนใชทํากลองยาสูบ โดยมากเผาแลวจะใหสีขาว ดู ball clay ประกอบ 30/56

243. pipe culvert ทอลอดกลม ทอกลมสําหรับใชเปนทางระบายน้ําลอดใตถนนบริเวณทางน้ําเล็ก ๆ ไมลึกนัก ทอลอดกลมตองเปนแบบคอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อใหสามารถรับน้ําหนักจากรถบรรทุกที่วิ่งผานไปมาได 30/56

244. pipe-rock burrow รชูอนไชรปูทอ ดู scolithus; scolite 30/56

245. piracy; stream capture ธารหลงแม ลําธารสายหนึ่งที่มีการเปลี่ยนตนน้ําสูลําน้าํอีกสายหนึ่ง ซึ่งมีการกรอนมากกวา โดยกระบวนการทางธรรมชาติทําให

Page 50: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

652

ทางน้ํารวมเปนสายเดียว มีความหมายเหมือนกับ capture ๒ และ beheaded stream ๒ ดู beheading ประกอบ

246. pisolite หินเนือ้เม็ดแบบเมล็ดถัว่ ๑. หินชั้นที่ประกอบดวยเม็ดตะกอนกลม ๆ ขนาดเมล็ดถั่วเขียวหรือถั่วลันเตาเกาะประสานกัน ลักษณะเนื้อแบบนี้มักพบในหินปูน ๒. มูลภูเขาไฟที่เกิดโดยการพอกพูนเปนวงชั้น ดู pisolith และ oölith ประกอบ

247. pisolith เม็ดแบบเมล็ดถัว่ เม็ดกลมเล็ก ๆ ในหินชั้นหรือหินตะกอน รูปรางลักษณะเม็ดคลายเมล็ดถั่วเขียวหรือถั่วลันเตาหรือเม็ดไขปลาขนาดใหญ มีขนาด ๒–๑๐ มิลลิเมตร เม็ดตะกอนมักเกิดจากแคลเซียมคารบอเนตหรืออาจเกิดจากการพอกจับเปนวงชั้นรอบนิวเคลียส โดยกระบวนการทางชีวเคมีของสาหราย ลักษณะเนื้อแบบเมล็ดถั่วจะมีขนาดใหญ แตรูปรางไมคอยสม่ําเสมอเหมือนเนื้อเม็ดแบบไขปลา ถึงแมวาจะมีโครงสรางเปนวงกลมซอนกันหลายวง และมีเสนใยเปนรัศมีแบบเดียวกัน คํานี้บางครั้งก็ใชหมายถึงหินที่มีเนื้อแบบเมล็ดถั่ว ดู oölith ประกอบ (แกจากหนังสือหนา ๒๓๘)

248. pitch พิตช ดู rake

249. pivotal fault; rotary รอยเลือ่นแบบหมนุ ดู rotational fault; pivotal fault; rotary fault

Page 51: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

653

fault; rotational fault

250. placental -มีรก คําที่ใชกับสัตวเลี้ยงลูกดวยน้ํานมซึ่งจัดอยูในชั้นยอยยูทีเรีย (subclass Eutheria) มีลักษณะเฉพาะคือ มีรกสําหรับยึดเกาะกับผนังมดลูกของแมและนําอาหารใหตัวออน ดังนั้นลูกออนที่คลอดออกมาจึงมีสภาพที่ไดพัฒนาไปมาก มีชวงอายุตั้งแตยุคครีเทเชียสจนถึงปจจุบัน ดู marsupial ประกอบ

251. placer ลานแร แหลงแรบนพื้นผิวที่เกิดจากการสะสมของเม็ดแรที่ไดจากการผุพังและพัดพาของหิน ไดแก ลานแรชายหาด และลานแรตะกอนน้ําพา แรที่สะสมมักเปนพวกแรหนัก เชน ทองคํา ดีบุก รูไทล เพชร มีความหมายเหมือนกับ placer deposit

252. placer deposit แหลงแรแบบลานแร ดู placer 253. placoderm พลาโคเดริม สัตวมีกระดูกสันหลัง จัดอยูในชั้นพลาโคเดอรมิ (class

Placodermi) ซึ่งเปนพวกปลามีขากรรไกร มีลักษณะเฉพาะคือ มีการพัฒนาแผนเกราะขึ้นหอหุมรางกาย โดยเฉพาะสวนหัวและสวนลําตัว พบในชวงยุคดีโวเนียน ปจจุบนัสูญพันธุไปแลว ชื่อพลาโคเดิรม แปลวาแผนกระดูก แผนที่ปกคลุมรอบหัว เรียกวา เกราะหวั (head shield) สวนแผนที่ปกคลุมลําตัว เรียกวา เกราะลาํตวั (trunk shield)

254. plain ที่ราบ, พืน้ราบ ภูมิประเทศที่เปนที่ราบ ซึ่งอาจจะราบเรียบหรือมีลักษณะเปนลูกคลื่นนอย ๆ โดยไมสามารถสังเกตเห็นความแตกตาง

Page 52: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

654

ของความสูงหรือต่ําของพื้นที่ราบนั้นไดอยางเดนชัด39/55

255. planar element องคประกอบแนวระนาบ องคประกอบหนึ่งของโครงเนื้อ (fabric) ซึ่งมีมิติดานกวางและยาวมากกวามิติความหนามาก เชน ชั้นหิน แนวแตกเรียบ สภาพการเรียงตัวแบบหินชีสต 30/56

256. plane polarised light; polarised light

แสงโพลาไรส ดู plane polarised light; polarised light

257. plane wave คลืน่หนาราบ คลื่นซึ่งหนาคลื่นมีลักษณะเปนชุดของพื้นผิวที่มีหนาราบ เมื่อเคลื่อนที่ไปในตัวกลางทําใหอนุภาคของตัวกลางทั้ง ๒ ดานเคลื่อนที่ไปขางหนาและถอยหลัง โดยไมเกิดการกระจายออกและลูกลับของอนุภาค

258. planetary geology; planet geology

ธรณีวทิยาดาวเคราะห วิทยาศาสตรสาขาหนึ่งที่เกิดจากการประยุกตหลักพื้นฐานและเทคนิคของวิชาธรณีวิทยา ธรณีเคมี และธรณีฟสิกส เพื่อศึกษาธรรมชาติ กําเนิด และประวัติของการควบแนนของสารและแกสในระบบสุริยจักรวาล โดยทั่วไปมักไมรวมดาวเคราะหโลก รวมถึงการเฝาสังเกตจากการรับรูระยะไกล และการสํารวจดาวเคราะห ตลอดจนการศึกษาองคประกอบทางเคมี ทางแร และประวัติของวัตถุอวกาศหรือเทหวัตถุ เชน อุกกาบาต หรือตัวอยางหินดวงจันทร นอกจากนั้นยังหมายถึงการศึกษาผลกระทบที่เกิดจากกระบวนการภายนอกโลก เชน การพุงชนของอุกกาบาต การเปลี่ยนแปลงพลังงานแสงอาทิตย และน้ําขึ้นลงบนโลกทั้งในปจจุบันและ

Page 53: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

655

อดีต เปนคําที่เริ่มใชโดย Lesevich (1877) ในความหมายวาเปนสาขาหนึ่งของอวกาศศึกษา มีความหมายเหมือนกับ astrogeology และ planetology

259. planetology วิทยาดาวเคราะห ดู planetary geology; planet geology

260. plankton แพลงกตอน สิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตวที่ลองลอยไปมาอยูในน้ําทะเลและน้ําจืดตามการเคลื่อนไหลของน้ํา โดยมากมีขนาดเล็ก เชน ไดอะตอม สาหรายสีน้ําเงินแกมเขียว โปรโตซัว ตัวออนของสัตวตาง ๆ และอาจรวมถึงสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญดวย เชน แมงกะพรุน ซึ่งมีกําลังในการเคลื่อนไหวต่ํา แพลงกตอนเปนอาหารสําคัญของสัตวน้ํา เชน วาฬ กุง หอย ปู ปลา ดู phytoplankton และ zooplankton ประกอบ

261. plankton bloom การสะพรัง่ของแพลงกตอน

การเจริญเติบโตอยางรวดเร็วของพืชน้ําจําพวกสาหรายหรือสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ๆ จนมีปริมาณมาก ทําใหน้ํามีสีตามสีของสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ ดู red tide ประกอบ 30/56

262. plant liquid แกสเหลวโรงแยก ปริมาณแกสธรรมชาติเหลวที่ไดจากกระบวนการแยกที่โรงแยกแกส ไมใชแกสธรรมชาติเหลวที่ไดจากการแยก ณ แหลงผลิต ดู separator gas ประกอบ

263. plastic clay พลาสตกิเคลย ดินที่ประกอบดวยเคโอลิไนตที่มีการเรียงตัวของอะตอมผิดไปจากเดิมบาง มักมีอิลไลตหรือมอนตมอริลโลไนตปนอยูดวยเสมอ มีสีตั้งแตออนจนถึงเขม มีสภาพพลาสติก แตถาสภาพพลาสติกสูง เผาแลวมีสีขาวหรือสีครีมเรียกวา บอลลเคลย หรืออีกนัยหนึ่ง บอลลเคลยเปนพลาสติกเคลยชนิด

Page 54: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

656

หนึ่ง แตพลาสติกเคลยไมจําเปนตองเปนบอลลเคลย 30,31/56

264. plastic flow* การไหลแบบพลาสตกิ ลักษณะอยางหนึ่งทางธรณีวิทยาโครงสราง ซึ่งหมายถึงการเคลื่อนไหลระหวางโมเลกุลของของแข็ง อันเกิดขึ้นจากแรงกดอัดอยางแรง กระบวนการนี้ทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปรางของของแข็งจนไมสามารถคืนสูสภาพเดิมไดอีก

265. plastic limit (PL) ขีดจาํกดัพลาสตกิ คาปริมาณน้ําที่นอยที่สุดในมวลดินที่ทําใหดินเหนียวหนืดสามารถปนเปนรูปรางไดโดยไมเกิดรอยแตก ทดสอบโดยคลึงมวลดินใหเปนเสนกลมมีเสนผานศูนยกลาง ๓ มิลลิเมตร (๑/๘นิ้ว) โดยไมมีรอยแตกที่ผิว คานี้ไดจากการวัดปริมาณความชื้นที่มีอยูในดิน มีหนวยเปนรอยละ

266. plasticity สภาพพลาสตกิ สมบัติของการเปลี่ยนรูปรางของวัสดุจากรูปรางเดิมไปเปนรูปรางใหมอยางถาวรเมื่อมีแรงมากระทํา โดยไมปรากฏรอยแตกหรือแยกออกจากกัน

267. plasticity index (PI) ดรรชนพีลาสตกิ ปริมาณน้ําในมวลดินซึ่งทําใหดินยังคงสถานะความเปนพลาสติกอยูได เปนคาที่ไดจากผลตางระหวางคาขีดจํากัดความเหลวกับคาขีดจํากัดพลาสติก ใชในการคาดคะเนความสามารถในการคงตัวหรือการเปลี่ยนสภาพของดิน เชน ดินมีคา PI = ๕ กับ PI = ๒๐ แสดงวาดินที่มีคา PI = ๕ เมื่อดูดน้ําเขาไปเล็กนอยจะเปลี่ยนสภาพเปนของเหลวไดงาย สวนดินที่มีคา PI = ๒๐ ตองดูดน้ําเขาไปมากกวาจึงจะเปนของเหลว

Page 55: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

657

268. plate ๑. แผน(ธรณ)ี สวนธรณีภาคของโลกที่เปนของแข็ง ซึ่งมีการเคลื่อนที่ในแนวราบ รวมกับแผนอื่น ๆ ตามแนวเขตแผนดินไหว ดู plate tectonics ประกอบ 22,30/56

269. plate ๒. แผน ๒.๑ ชิ้นเศษหินที่มีลักษณะเปนแผน เชน หินแผน๒.๒ ผลึกหิมะที่มีลักษณะเปนแผนรูปหกเหลี่ยม ๒.๓ (บรรพชีวินวิทยา) แผนแบนหรือทรงแบน ประกอบขึ้นจากผลึกเดี่ยว ๆ ของแรแคลไซต แผนเหลานี้ประกอบกันขึ้นเปนโครงรางของสัตวผิวหนาม ๒.๔ (บรรพชีวินวิทยา) สวนดานลางหรือดานที่มีแองหรือชองเปดของโคโนดอนตที่มีรูปรางคลายแผน ดานนี้มีลักษณะเรียบ อาจมีแผนเรียบปดชองเปดหรือไมมีก็ได ในขณะที่สวนดานบนซึ่งมีปุมหลาย ๆ ปุมเรียงตอเนื่องกันเปนแนวตรงยาว และมีปกแผบานออกไปทางดานขางทั้งสองดาน เรียกวา แทน (platform) ดูรูปประกอบ

๒.๕ (บรรพชีวินวิทยา) แผนบาง ๆ ซึ่งเปนสวนหนึ่งของรางกายสัตว เชน ฝาของสัตวจําพวกหอย เปลือกของสัตวจําพวก กุง กั้ง ปู

Page 56: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

658

๒.๖ (บรรพชีวินวิทยา) โครงสรางแข็งเปนหินรูปสี่เหลี่ยมขนมเปยกปูน พบในซากดึกดําบรรพรีเซฟตาคูลิทิด ดู merome และ receptaculitid ประกอบ ๒.๗ (เรณูวิทยา) แผนซึ่งมีลักษณะเปนรูปหลายเหลี่ยม แยกออกจากกันได ประกอบกันขึ้นเปนเปลือกอาศัยของไดโนแฟลเจลเลตระยะไมสรางเกราะ และใชชีวิตวายน้ํา รูปหลายเหลี่ยมบนเซลลเกราะซึ่งไดโนแฟลเจลเลตชนิดเดียวกันสรางขึ้นในชวงสรางเกราะหรือชวงพักตัว ที่มีตําแหนงตรงกันกับรปูหลายเหลี่ยมบนเปลือกอาศัย เรียกวา แผนเทียบเทา (plate-equivalent) แผนเสมือน (paraplate) หรืออาจเรียก แผน (plate) ไดเชนเดียวกัน 22,30/56

270. plate boundary รอยตอแผนธรณภีาค แนวเขตของขอบแผนธรณีภาคที่เรียงตอกันคลายภาพตอปริศนา (jigsaw puzzle) ซึ่งปจจุบันเปนแนวเขตไหวสะเทือนและแนวภูเขาไฟ ตลอดจนแนวธรณีแปรสัณฐานของเปลือกโลก เชื่อวาการเคลื่อนตัวของแผนธรณีภาคตาง ๆ มีความสัมพันธกัน

271. plate tectonics การแปรสณัฐานแบบแผน ทฤษฎีซึ่งอธิบายถึงการแปรสณัฐานโดยการเคลื่อนที่ของแผนธรณีอันเนื่องจากแรงที่มา

มอบนางเบญ็จา เสกธรีะ ปรบัแกไขเพื่อนาํเสนอที่ประชมุตอไป 30/56

Page 57: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

659

กระทํา มีลักษณะเปนแผนธรณีขนาดใหญหลายแผนและแผนขนาดเล็กอีกจํานวนหนึ่งเรียงตอกัน แตละแผนมีความหนาประมาณ ๑๕–๗๐ กิโลเมตร สุดแลวแตวาเปนแผนธรณีมหาสมุทรหรือแผนธรณีทวีป ถาเปนแผนธรณีทวีปจะมีความหนามาก แผนธรณีนีเ้คลื่อนไปมาอยางชา ๆ ประมาณ ๒–๑๐ เซนติเมตรตอป โดยมีการเคลื่อนตัวในแนวราบเขาหาหรือออกจากรอยตอของแผนธรณี ถาแผนธรณีเคลื่อนที่ออกจากกันจะทําใหแมกมาเคลื่อนตัวขึ้นมาจนเกิดเปนสันเขากลางสมุทร (oceanic

Page 58: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

660

ridge) ถาเคลื่อนที่เขาหากันหรือชนกัน อาจทําใหแผนหนึ่งมุดลงไปใตอีกแผนหนึ่ง และมีปรากฏการณแผนดินไหวเกิดขึ้น หรือเปนรองลึกกนสมุทร (oceanic trench)

272. plateau basalt หินบะซอลตทีร่าบสงู หินบะซอลตซึ่งเกิดจากการไหลแผในแนวราบหรือกึ่งแนวราบเปนบริเวณกวาง โดยเกิดจากการปะทุอยางรวดเร็วและตอเนื่องกันตามรอยแยก ทําใหเกิดเปนที่ราบสูง มีความหมายเหมือนกับ continental flood basalt และ flood basalt

273. plateau* ที่ราบสงู พื้นที่คอนขางราบที่สูงกวาบริเวณใกลเคียง โดยอยางนอยตองมีดานดานหนึ่งลาดลงสูพื้นที่ที่ต่ํากวาโดยฉับพลัน (ดูรูปที่ butte)

274. plate-equivalent แผนเทยีบเทา ดูคําอธิบายใน plate ๒.๗

275. platform facies ชุดลกัษณลานไหลทวปี ดู shelf facies 276. platform reef พืดหนิลานราบ พืดหินใตน้ําที่เกิดอยูหางจากฝงมาก สวนบนมีลักษณะราบ

มีทะเลสาบขนาดเล็กและตื้นอยูภายใน 6/56 277. platform* ลาน ๑. พื้นที่ราบหรือพื้นที่ที่มีลักษณะเอียงเทเล็กนอย ยื่น

Page 59: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

661

ออกไปในทะเล เกิดจากการกัดกรอนใตน้ํา เชน หาดคลื่นเซาะ (abrasion platform) ๒. คําทั่วไปที่ใชกับพื้นที่ที่มีผิวหนาราบหรือเกือบราบ เชน ลานตะพัก ลานไหลเขา หรือพื้นที่สูงที่มีผิวหนาราบหรือเกือบราบ เชน ที่ราบสูง (plateau) พื้นเกือบราบ (peneplain) ๓. สวนของทวีปที่เปนหินฐานซับซอน มีชั้นหิน (สวนใหญเปนหินชั้น) ลักษณะราบหรือเอียงเทเล็กนอยปกคลุม ถือเปนสวนหนึ่งของหินฐานธรณี (craton) ดู basement complex; basal complex; basement rock และ craton ประกอบ

278. play พืน้ทีศ่กัยภาพปโตรเลยีม กลุมของแหลงปโตรเลียมที่สะสมอยูในพื้นที่สํารวจหรือพื้นที่สัมปทาน มีลักษณะเดนคือ มีระบบปโตรเลียมเหมือนกันหรือคลายคลึงกัน ไดแก หินตนกําเนิด หินกักเก็บ หินปดกั้น และชนิดของแหลงกักเก็บปโตรเลียม

279. play of color; schiller การเหลอืบสี ปรากฏการณการแทรกสอดของแสงเมื่อเปลี่ยนแปลงแนวตกกระทบที่ผิวหรือภายในของแร หรือเมื่อหมุนแรไปมา ทําใหเกิดการเหลือบสีตาง ๆ เชน การเหลือบสีแบบโอพอล การเหลือบแสง ดู opalescence และ chatoyancy ประกอบ

280. play type ลกัษณะแหลงปโตรเลยีม สภาพทางภูมิศาสตรและสภาวะทางธรณีวิทยาที่เหมาะสมจะเปนแหลงปโตรเลียม ทั้งนี้ตองประกอบดวย ชั้นหินกักเก็บ ลักษณะกักเก็บ ภาวะสมบูรณของหินตนกําเนิด และการ

Page 60: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

662

เคลื่อนยาย รวมทั้งลักษณะกักเก็บที่เกิดขึ้นกอนที่ปโตรเลียมจะเคลื่อนยายเขาไปกักเก็บ หรือแหลงปโตรเลียมที่คนพบแลวและยังไมถูกคนพบที่มีลักษณะแหลงเหมือนกัน ตองมีลักษณะเฉพาะของแหลงที่ประกอบดวยสภาวะทางธรณีวิทยาที่เหมือนกันและสามารถแยกแยะออกจากแหลงอื่น ๆ ได

281. playa พลายา ๑. แองแผนดินที่อยูภายในพื้นทวีป หรือแผนดินที่น้ําหาทางออกสูพื้นน้ําภายนอกไมได ไดแตซึมหายลงในแผนดินหรือระเหยไป เหลือแตความเค็มเขมขนไว ๒. ทะเลสาบน้ําเค็มที่อยูภายในแผนดินที่มีอากาศแหงแลงแถบทะเลทรายหรือกึ่งทะเลทราย เชน ทะเลสาบซอลตเลก ในมลรัฐยูทาห สหรัฐอเมริกา (ดูรูปที่ alluvial fan)

282. Pleistocene Epoch* สมยัไพลสโตซนี สมัยที่ ๑ ของยุคควอเทอรนารี อยูระหวางสมัยไพลโอซีนกับสมัยโฮโลซีน มีชวงอายุตั้งแต ๒.๕๘๘ ถึง ๐.๐๑๑๗ ลานปมาแลว มนุษยสมัยใหม (Modern man) เริ่มตนเมื่อ ๓๖,๐๐๐ ป พืชแพรกระจายมาก สัตวเลี้ยงลูกดวยน้ํานมขนาดใหญบางชนิดสูญพันธุ สมัยไพลสโตซีนมีธารน้ําแข็งเกิดขึ้นมากมายหลายระยะจนมีสมญาวาเปนสมัยน้ําแข็ง (ice age) หินที่เกิดในสมัยนี้เรียกวา หินสมัยไพลสโตซีน (Pleistocene Series) ดู geologic time scale ประกอบ 40/55

283. pleochroic halo* วงแสงเปลีย่นสี วงสีหรือจุดสีที่เกิดขึ้นรอบ ๆ แรมลทินที่เปนแรกัมมันตรังสี โดยทั่วไปวงสีนี้จะแสดงการเปลี่ยนสีเมื่อทิศทางของแร

Page 61: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

663

เปลี่ยนไป 284. pleochroism* การเปลีย่นสี สมบัติทางแสงอยางหนึ่งของแรที่รูปผลึกไมอยูในระบบสาม

แกนเทา สามารถดูดกลืนคลื่นแสงตางกัน เมื่อแสงผานผลึกในทิศทางที่ตางกันจะทําใหเห็นสีเปลี่ยนไป

285. pleosponge พลีโอสปนจ ดู Archaeocyathid

286. plesiosaur เพลสโิอซอร สัตวเลื้อยคลานทะเลพวกหนึ่งแหงมหายุคมีโซโซอิก ซึ่งไดพัฒนารูปรางใหเหมาะสมกับการอยูอาศัยในทองทะเล คือมีคอยาวมาก หัวเล็ก และสวนหางสั้น ไลลากินปลาเปนอาหาร วายน้ําโดยใชขาที่มีลักษณะเหมือนใบพายโบกขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนการวายน้ําของนกเพนกวินและเตา

287. plication สนัจบี ๑. (ธรณีวิทยาโครงสราง) รอยคดโคงขนาดเล็กในชั้นหิน มีลักษณะเปนสันถี่ ๆ ดู crenulation ๑ ประกอบ ๒. (บรรพชีวินวิทยา) รอยยนหนาเปนสันตรง ซึ่งมีขนาดยาวหลาย ๆ สัน วางตัวเรียงกันโดยปลายขางหนึ่งชิดกันแตปลายตรงขามหางกัน ดูคลายรัศมี พบบนผิวเปลือกของสัตวพวกหอยและพวกแบรคิโอพอด เชน สันและรองบนเปลือกหอยแครง

288. Pliocene Epoch สมยัไพลโอซนี สมัยที่ ๒ ของยุคนีโอจีน มีชวงอายุตั้งแต ๕.๓๓๓ ถึง ๒.๕๘๘ ลานปมาแลว สัตวเลี้ยงลูกดวยน้ํานม โดยเฉพาะเอป (ape) พัฒนามาก เปนสมัยแรกเริ่มของมนุษย (Homo sapiens) อากาศเปนแบบเย็นและแหง เริ่มเกิดมีสมัยน้ําแข็ง (ice age) ในชวงปลายยุค หินที่เกิดในสมัยนี้

Page 62: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

664

เรียกวา หินสมัยไพลโอซีน (Pliocene Series) ดู geologic time scale ประกอบ 41/55

289. plow sole; plowsole ชัน้ดานไถพรวน ชั้นดานที่เกิดจากการกดอัดจนทําใหดินแนน เนื่องจากการไถพรวนที่ระดับความลึกเดียวซ้ํา ๆ กันเปนประจํา

290. plucking การแตกหลุดของหนิ การที่หินที่พื้นธารน้ําแข็งหุบเขาซึ่งแตกแยกเมื่อน้ําแข็งตัวแลวถูกธารน้ําแข็งดึงถอนใหเคลื่อนไปตามทิศทางที่น้ําแข็งเคลื่อนไป มักเกิดในบริเวณหินที่มีรอยแยกมาก มีความหมายเหมือนกับ sapping ๒

291. plug trap ลกัษณะกกัเกบ็แบบแทงปด

ลักษณะกักเก็บปโตรเลียมที่หินอัคนีแทรกดันตัดผานชั้นหินตะกอนจนทําใหชั้นหินตะกอนเกิดการโคงงอและเกิดรอยเลื่อนขึ้น ดู diapir associated trap ประกอบ

292. plume; hot spot จุดรอน ดู hot spot; plume 293. plunge แนวแกนเท (ธรณีวิทยาโครงสราง) แนวเอียงเทของแกนชั้นหินคดโคง

หรือลักษณะโครงสรางทางธรณีวิทยาอื่น ๆ ที่เปนเชิงเสน วัดจากแนวระดับลงไป มักใชบอกรูปทรงเรขาคณิตของชั้นหินคดโคง (ดูรูปที่ axial plane) 44/55

294. pluton* พลตูอน มวลหินอัคนีที่เกิดจากการเย็นตัวของแมกมาภายใตผิวโลก หรือมวลหินที่เกิดจากหินเดิมมีการแปรสภาพโดยการแทนที่ (metasomatism)

295. plutonic rock; abyssal rock*

หินอคันรีะดับลกึ หินอัคนีที่เกิดอยูในระดับลึกโดยการตกผลึกจากแมกมาหรือโดยการเปลี่ยนสภาพทางเคมีของหินเดิม หินอัคนีระดับ

Page 63: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

665

ลึกนี้มีลักษณะเฉพาะคือ เม็ดแรมีขนาดกลางถึงขนาดหยาบ (ตั้งแต ๑ มิลลิเมตร ขึ้นไป) และมีลักษณะของหินเปนแบบหินแกรนิต ดู igneous rock ประกอบ

296. plutonic; deep–seated –ระดบัลกึ ๑. คําที่ใชเกี่ยวของกับหินที่เกิดขึ้นโดยกระบวนการใด ๆ ก็ตามที่ระดับลึกมาก มีความหมายเหมือนกับ abyssal ๒ ๒. คําที่ใชเกี่ยวของกับหินอัคนีที่เกิดในระดับลึก ดู plutonic rock; abyssal rock ประกอบ

297. plutonism* การเกิดพลตูอน ๑. คําทั่วไปที่ใชกับปรากฏการณตาง ๆ ที่เกี่ยวของสัมพันธกับการเกิดของพลูตอน ๒. ความคิดเห็นในเรื่องที่โลกกอกําเนิดจากการแข็งตัวของมวลของเหลวรอน ทฤษฎีนี้ ฮัตตัน (Hutton) ไดประกาศใชในคริสตศตวรรษที่ ๑๘

298. pluvial* เกีย่วกบัฝนชกุ ๑. (อุตุนิยมวิทยา) ภูมิอากาศที่มีฝนคอนขางชุกหรือชวงเวลาที่ภูมิอากาศแบบฝนชุกมีมาก แตเดิมเทียบไดกับชวงอายุยอยของธารน้ําแข็ง (glacial stage) ของยุคควอเทอรนารี ในปจจุบันถือวาเปนชวงการเปลี่ยนจากชวงอายุยอยของธารน้ําแข็ง ไปสูชวงคั่นชวงอายุยอยของธารน้ําแข็ง (interglacial stage) หรือในละติจูดต่ํา ๆ ถือวาชวงฝนตกชุกเปนชวงคั่นชวงอายุยอยของธารน้ําแข็ง ๒. (ธรณีสันฐานวิทยา) เหตุการณทางธรณีวิทยาตอนหนึ่ง กระบวนการ การเปลีย่นแปลง การสะสม หรือรูปรางลักษณะผิวแผนดินที่เกิดขึ้นจากการกระทําหรืออันเปนผลเนื่องมาจากฝนตกชุกในอดีต เชน การเกลีย่ผิวแผนดิน น้ํา

Page 64: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

666

ไหลบา แผนดินถลม การกรอน

299. pneumatogenic; pneumatolytic

แปรเปลีย่นโดยไอรอน ๑. คําที่ใชอธิบายบริเวณที่เกิดการแปรเปลี่ยนโดยไอรอน เมื่อแมกมาระเบิดสูพื้นผิวโลก ไอหรือแกสจํานวนมากถูกปลอยสูบรรยากาศ จะพบแรที่เกิดจากไอรอน เชน กํามะถัน แอมโมเนียมคลอไรด บอเรต บริเวณผนังของปากปลองภูเขาไฟหรือหินรอบขาง และในชองวางของแมกมาที่เย็น ๒. เปนผลจากการแปรสภาพสัมผัสบริเวณโดยรอบหินอัคนีแทรกซอนในระดับลึกที่อยูใกลเคียงที่ไมทราบแนชัดวาเกิดเนื่องจากสถานะแกสหรือสถานะของเหลว ๓. เปนการลําดับสวนแมกมาระหวางขั้นการเกิดเพกมาไทต (pegmatitic stage) กับขั้นน้ํารอน (hydrothermal stage) ซึ่งแสดงภาวะที่สมดุลระหวางผลกึแรกับแกส ๔. แหลงแรที่ประกอบดวยแรหรือธาตุไอรอน เชน ทัวรมาลีน โทแพซ เลพิโดไลต (ลิเทียมไมกา) เบริล ฟลูออไรต ในประเทศไทยพบมากในแหลงแรดีบุกและวุลแฟรม เชน ที่หาดสมแปน จังหวัดระนอง ที่ผาปกคางคาว อําเภอตะกั่วปา จังหวัดพังงา

300. pneumatolysis การเปลีย่นแปลงทางเคมีเพราะไอรอน

การเปลี่ยนแปลงสวนประกอบทางเคมีของหินอันเนื่องมาจากไอและแกสรอนที่ขึ้นมากับแมกมา ในขณะที่แมกมากําลังเย็นลงและเริ่มแข็งตัว ไอและแกสรอนจะทําใหสวนประกอบทางเคมีในหินอัคนีเองและหินรอบขางเปลี่ยนแปลงไป โดยทั่วไปมักจะมีแรเกิดขึ้นใหม เชน ฟลูออ

Page 65: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

667

ไรต

301. pneumotectic -นวิโมเทกตกิ คําที่ใชเกี่ยวกับกระบวนการและผลิตผลจากการแข็งตัวของแมกมาที่ถูกกระทบบางสวนจากสวนประกอบที่เปนไอรอนของแมกมา

302. pocket กระเปาะ ๑. มวลสินแรขนาดเล็กรูปนูน กลม หรือรี ในหินทองที่ เชน ที่พบตามรอยแตกของหินที่มีแร หรือเฉพาะสวนที่มีแรสมบูรณของแหลงสินแร ๒. บริเวณที่ถูกลอมรอบหรือที่กําบังตามชายฝงทะเล ๓. ตาน้ําหรือโพรงน้ําในทองธารน้ําไหลไมตลอดป ๔. หุบเขายาวแคบ ๆ ในบริเวณเทือกเขา ๕. แหลงน้ําบาดาลขนาดเล็ก

303. pocket beach หาดกระเปาะ หาดขนาดเล็ก มีลักษณะสั้นและแคบซึ่งเกิดอยูบนชายฝงทะเลกระเปาะ ปกติจะมีลักษณะเหมือนจันทรเสี้ยวที่โคงเวาออกสูทะเล โดยทั่วไปประกอบดวยทรายและกรวดที่มีการคัดขนาดดี เชน หาดทางชายฝงทะเลอันดามันของประเทศไทย ดูรูปประกอบ

304. pocket coast ชายฝงทะเลกระเปาะ พื้นที่ปดหรือที่กําบังตามแนวชายฝงทะเล เชนพื้นที่ซึ่งมีทางเขาออกอยูระหวางหัวแหลมที่เปนหนาผาหินหรือชายทะเลในอาวดานที่กําบังลม ดูรูปประกอบ

305. pocket valley หุบเขากระเปาะ หุบเขาที่มีตนน้ําลอมรอบดวยหนาผาสูงชนั สวนตีนหนาผามีน้ําพุที่เปนธารน้ําใตดินผุดขึ้นมา

Page 66: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

668

306. pod สนิแรรปูเรยีว มวลสินแรรูปรางยาวเรียว รูปเลนส หรือรูปคลายซิการ

307. Podzols พอดซอลส ดินชนิดหนึ่งในอันดับโซนัล พบอยูตามบริเวณที่มีอากาศหนาวชื้นในแถบละติจูดปานกลางซึ่งสวนใหญมีพืชพรรณธรรมชาติเปนปาสน เนื่องจากในเขตดังกลาวนี้มีอากาศหนาว การระเหยตัวของน้ําในดินมีนอย จึงทําใหของสารประกอบของดินชนิดที่ละลายน้ําไดมีการซึมชะมาก ในชวงชั้นตอนบนของดินชนิดนี้จึงขาดสารที่เปนประโยชนตอพืชและมีลักษณะที่เดนชัด คือมีสีขี้เถา คํานี้เปนคําภาษารัสเซีย มีความหมายวา ดินขี้เถา (ash soil)

308. poikilitic -เนือ้ผลกึฝงประ คําที่ใชกับเนื้อหินอัคนี ซึ่งมีเม็ดแรชนิดหนึ่ง (แพลจิโอเคลส) ขนาดเล็ก เขาไปฝงกระจัดกระจายอยูในเนื้อผลึกแรอีกชนิดหนึ่ง (ไพรอกซีน) ที่มีขนาดใหญ ผลึกที่เขาไปแทรกฝงอยูในเนื้อของผลึกแรอื่น เปนผลึกฝงประ ซึ่งทําใหเนื้อหินเกิดมีปนของความวาวขึ้น เนื่องจากการสะทอนแสงของแนวแตกเรียบในตัวผลึกหุม

309. poikiloblast ผลกึแปรเนือ้ฝงประ ผลึกขนาดใหญที่เกิดโดยการตกผลึกใหมในกระบวนการแปรสภาพของหิน เนื้อของผลึกมีสารฝงในเม็ดเล็กๆ ฝงอยูเปนจํานวนมาก

310. poikiloblastic -เนือ้ผลกึแปรฝงประ ๑. คําที่ใชเกี่ยวกับผลึกแปรเนื้อฝงประ ดู poikiloblast ประกอบ ๒. คําที่ใชกับลักษณะเนื้อของผลึกดอกแปร (metacryst) ขนาดใหญของแรชนิดหนึ่ง ซึ่งมีเม็ดเล็ก ๆ ของแรอื่นเปน

Page 67: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

669

สารฝงใน มีความหมายเหมือนกับ sieve texture ๓. คําที่ใชเกี่ยวกับลักษณะเนื้อหินแปรซึ่งมีแรที่เกิดจากการตกผลึกใหมหอหุมเอาแรเดิมสวนที่เหลืออยูเปนจํานวนมากเขาไวในเนื้อ คลายกบัลักษณะเนื้อของหินอัคนีแบบมีผลึกฝงประ ดู poikilitic ประกอบ

311. poikilocrystallic; poikilotopic

-เนือ้ผลกึใหญหุมผลกึเลก็

ดู poikilotopic; poikilocrystallic

312. poikilotope ผลกึใหญหุมผลกึเลก็ ผลึกขนาดใหญที่หุมผลึกแรชนิดอื่นที่มีขนาดเล็กกวาในหินตะกอนที่แสดงโครงเนื้อแบบผลึกใหญหุมผลึกเล็ก ตัวอยางเชน ผลึกแคลไซตขนาดใหญลอมรอบผลึกโดโลไมตขนาดเล็กกวาในหินปูนโดโลไมต หรือผลึกยิปซัมขนาดใหญลอมรอบเม็ดแรควอตซ และ/หรือเฟลดสปาร

313. poikilotopic; poikilocrystallic

-เนือ้ผลกึใหญหุมผลกึเลก็

คําที่หมายถึงโครงเนื้อของหินตะกอนเนื้อผลึกหรือหินคารบอเนตที่เกิดผลึกใหม ซึ่งประกอบดวยผลึกหลายขนาด โดยมีผลึกขนาดใหญหุมผลึกแรชนิดอื่นที่มีขนาดเล็กกวา เปนสาเหตุที่ทําใหหินมีความพรุนลดลง เชน การตกผลึกของแคลไซตในชองวางของหินปูน

314. point bar ตลิง่งอก สวนของตลิ่งริมน้ําระดับลาง มีลักษณะเปนสันโคงของตะกอนธารน้ํา ซึ่งเกิดขึ้นที่ดานโคงในของแมน้ําที่กําลังพัฒนาเปนทางน้ําโคงตวัด โดยงอกพอกพูนอยางชา ๆ ออกไปหาตลิ่งดานโคงนอก

Page 68: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

670

ตลิง่งอกในแมน้าํโขง บรเิวณอาํเภอเชยีงแสน จงัหวดัเชยีงราย

315. point bar deposit แหลงสะสมตลิง่งอก แหลงสะสมของตะกอนตลิ่งงอก รวมทั้งตะกอนที่อยูในรองระหวางตลิ่งงอก

316. points of emergence แกนแสงผดุ จุดยอดของเสนโคงรูปจันทรเสี้ยวในรูปแทรกสอด ซึ่งบอกตําแหนงที่แกนแสงปรากฏขึ้น ดูรูปที่ interference figure

317. polarimeter มาตรแสงโพลาไรส เครื่องมือที่ใชวัดปริมาณโพลาไรเซวันของแสงโพลาไรสหรือ สัดสวนของแสงโพลาไรสในรังสีแสงที่ถูกโพลาไรสบางสวนซึ่งเกิดจากสมบัติบางประการของสารหนึ่ง ๆ บางครั้งเรยีกวา polariscope

318. polariscope กลองโพลาไรส ๑. เครื่องมือทางแสงชนิดใด ๆ ที่ใชสําหรับศึกษาสมบัติของแสงโพลาไรส หรือผลลัพธที่เกิดกับแสงโพลาไรสโดยวัสดุชนิดตาง ๆ เชน การหักเหแสงของผลึก เครื่องมือนี้ประกอบดวย โพลาไรเซอร และแอนาไลเซอร ๒. ดูคําอธิบายใน polarimeter

319. polarised light; plane polarised light

แสงโพลาไรส แสงที่มีการสั่นในระนาบเดียวเมื่อผานปริซึมนิโคล หรือโพลาไรเซอร แสงชนิดนี้ใชในกลองจุลทรรศนโพลาไรส เพื่อ

Page 69: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

671

การตรวจสอบสมบัติทางแสงของแรหรือหินจากแผนตัดบาง ดู ordinary light; natural light; white light ประกอบ

320. polarising microscope กลองจลุทรรศนโพลาไรส

กลองจุลทรรศนชนิดที่ใชแสงโพลาไรสเพื่อตรวจสอบแผนตัดบาง ประกอบดวยอุปกรณที่ตางจากกลองจุลทรรศนธรรมดา คือ มีโพลาไรเซอร แอนาไลเซอร เลนสเบอรทรันด แปนหมุน และอุปกรณเสริม เชน แผนไมกา แผนยิปซัม แผนลิ่มควอตซ เพื่อการวิเคราะหแรทางแสงกลองจุลทรรศนโพลาไรสมี ๒ ชนิด คือ ชนิดสะทอนแสง ใชศึกษาวัสดุทึบแสง และชนิดแสงผาน ใชศึกษาวัสดุ แรโปรงใสหรือโปรงแสง นักธรณีวิทยานิยมใชกลองจุลทรรศนโพลาไรสเพื่อศึกษาชนิดแร ลักษณะเนื้อของแรและหิน ผลึกและวัสดุตาง ๆ โดยอาศัยลักษณะทางกายภาพและสมบัติทางแสงของผลึกและวัสดุ บางครั้งเรียกกลองจุลทรรศนโพลาไรสวา กลองจุลทรรศนศิลาวรรณนา (petrographic microscope)

321. polarity สภาพขั้ว ๑. การแสดงภาวะเปนปลายบวกหรือลบที่บริเวณสวนปลายของหนวยใหกําลังไฟฟา ถานําตัวนําไฟฟาตอเขาที่ปลายทั้งสองซึ่งมีภาวะตรงขามกัน อิเล็กตรอนจะวิ่งในตัวนําจากปลายลบไปหาปลายบวก ๒. สภาพของแทงแมเหล็กที่แสดงสมบัติเปนบวก (เหนือ) หรือลบ (ใต) ๓. (ผลิกศาสตร) สภาพขั้วของระบบผลึก

Page 70: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

672

๔. สภาพแมเหล็กโลกที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต ซึ่งมีลักษณะสภาพเปนลบที่ขั้วโลกเหนือ และมีลักษณะสภาพเปนบวกที่ขั้วโลกใต

322. polarity epoch สมยัสภาพขั้ว ชวงเวลาที่สภาพสนามแมเหล็กโลกสวนใหญเกิดมีสภาพขั้วแบบเดียวหรือเกือบแบบเดียว โดยหมายถึงชวงเวลาที่ชุดหินนั้นเกิดขึ้นหรือสะสมตัวในชวงที่สภาพสนามแมเหล็กโลกมีสภาพขั้วเปนอยางเดียวกันหรือเกือบอยางเดียวกัน สมัยสภาพขั้วอาจมีชวงเวลาเปนแสนหรือลานป จัดเปนหนวยลําดับเวลาตามสภาพขั้วขั้นกลาง ตั้งตามชื่อผูคนพบครั้งแรก ดู polarity interval ประกอบ

323. polarity event เหตกุารณสภาพขั้ว หนวยลําดับเวลาตามสภาพขั้วซึ่งเปนชวงเวลาที่สั้นที่สุดอาจมีชวงเวลาเปนหมื่นถึงแสนป ตั้งชื่อตามสถานที่ที่คนพบครั้งแรก

324. polarity interval ชวงสภาพขั้ว หนวยพื้นฐานของการจําแนกหนวยลําดับชั้นหินตามเวลาสภาพขั้ว ที่ใชกันทั่วโลก คํานี้ใชกับหนวยหิน ไมใชกับหนวยเวลา

325. polarity period ยคุสภาพขัว้ หนวยลําดับเวลาตามสภาพขั้วซึ่งเปนชวงเวลาที่ยาวที่สุด

326. polarity-chronologic unit

หนวยลาํดบัเวลาตามสภาพขั้ว

การแบงชวงเวลาตามความเดนของสภาพขั้วแมเหล็กโลกที่บันทึกอยูในหนวยลําดับชั้นหิน แบงออกไดเปน ๓ ลาํดับ คือ ยุคสภาพขั้ว (polarity period) ซึ่งมีชวงเวลาที่ยาวที่สุด สมัยสภาพขั้ว (polarity epoch) ซึ่งเปนชวงกลาง และเหตุการณสภาพขั้ว (polarity event) ซึ่งเปนชวงเวลาที่สั้น

Page 71: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

673

ที่สุด

327. polarity-chronostratigraphic unit

หนวยลาํดบัชัน้หนิตามเวลาสภาพขั้ว

หนวยยอยของลําดับชั้นหิน ไดจากขอมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพขั้วแมเหล็กโลกที่ไดเกิดขึ้นในชวงเวลาทางธรณีกาล ซึ่งผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพขั้วแมเหล็กดังกลาวจะปรากฎอยูในเนื้อหินที่สะสมตัวในเฉพาะชวงเวลานั้น

328. polarization ๑. การเกดิขั้ว ปรากฏการณที่ทําใหแรหรือวัสดุไดอิเล็กทริกที่ไมใชตัวนําไฟฟา เกิดขั้วไฟฟาบวกและลบโดยใหผานสนามไฟฟา หรือปรากฏการณที่สารแมเหล็กถูกเหนี่ยวนําใหเกิดขั้วแมเหล็กโดยสนามแมเหล็กโลก ดู intensity of magnetisation ประกอบ

329. polarization ๒. โพลาไรเซชนั การที่คลื่นเดินทางอยูในระนาบเดียวหรือทิศทางเดียว เชน คลื่นแสงถูกบังคับใหเดินทางอยูในระนาบเดียว หรือคลื่นเสียงที่เดินทางอยูในระนาบเดียว

330. polarizer โพลาไรเซอร อุปกรณที่ใชสําหรับปรับทิศทางของรังสีแสงตาง ๆ ใหเดินทางเปนเอกรูป

331. polarizing prism ปรซิึมโพลาไรส ดู Nicols

332. pole-dipole array แถวลาํดบัอนกุรมขั้วคู รูปแบบการจัดวางขั้วไฟฟาในการสํารวจวดัความตานทานไฟฟาจําเพาะ โดยวางขั้วไฟฟาตามแนวเสนตรงเรียงตามกัน และใหมีระยะระหวางขั้วกระแสไฟฟาหางกันมาก จากรูป ขั้วศักยไฟฟาคูหนึ่งมีระยะหางกันเทากับ X ระยะระหวางขั้วศักยไฟฟากับขั้วกระแสไฟฟาที่อยูใกลกันหางกันเปนระยะ nX เมื่อ n = 1, 2, 3,

Page 72: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

674

มีรูป A, B คือ ขั้วกระแสไฟฟา M, N คือ ขั้วศักยไฟฟา I คือ กระแสไฟฟาที่วัดดวย แอมมิเตอร V คือ ความตางศักยไฟฟาที่วัดดวย โวลตมิเตอร X คือ ระยะระหวางขั้วศักยไฟฟา n คือ เลขจํานวนเต็ม

333. pole-pole array แถวลาํดบัอนกุรมขั้วเดยีว

รูปแบบการจัดวางขั้วไฟฟาในการสํารวจความตานทานไฟฟาจําเพาะและการเกิดขั้วแบบเหนี่ยวนํา โดยวางขั้วไฟฟาในแนวเสนตรงเรียงตามกัน มีระยะระหวางขั้วกระแสไฟฟาและระยะระหวางขั้วศักยไฟฟาหางกันมากกวา ๑๐ เทาของระยะระหวางขั้วกระแสไฟฟากับขั้วศักยไฟฟาที่อยูใกลกัน มีรูป A, B คือ ขั้วกระแสไฟฟา M, N คือ ขั้วศักยไฟฟา I คือ กระแสไฟฟาที่วัดดวย แอมมิเตอร

Page 73: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

675

V คือ ความตางศักยไฟฟาที่วัดดวย โวลตมิเตอร X คือ ระยะระหวางขั้ว กระแสไฟฟากับขั้ว ศักยไฟฟาที่อยูใกลกัน

334. polish section แผนตัดขัดมัน แผนแรหรือหินหรือวัสดุอื่นที่ขัดมันจนเรียบเปนเงา ใชในการศึกษาแรทึบแสงโดยกลองจุลทรรศนชนิดสะทอนแสง

335. pollen เรณู แกมีโทไฟตเพศผู (microgametophyte) ของพืชมีเมล็ด ประกอบดวยเซลลหลายเซลลรวมกันอยูภายในไมโครสปอรหรือเอกซีน (exine) เรณูดึกดําบรรพเปนเพียงผนังของไมโครสปอร เนื่องจากแกมีโทไฟตเพศผู ซึ่งถูกหอหุมอยูภายในไดหลุดออกไปแลวในชวงเวลากอนหรือระหวางตะกอนจะแข็งตัวเปนหิน คํา pollen เปนพหูพจน ดู pollen grain ประกอบ

336. pollen analysis; pollen statistics

การวิเคราะหเรณู [บรรพชีวินวิทยา] สาขาหนึ่งของวิชาเรณูวิทยาวาดวยการศึกษาตะกอนซึ่งสะสมตัวในสมัยไพลสโตซีนตอนปลายและตะกอนหลังยุคน้ําแข็ง โดยการจัดทําแผนภูมิและแผนที่แสดงชนิดและปริมาณเรณูตาง ๆ ที่เกิดขึ้นในชวงเวลาเหลานั้น ตัวอยางเชน การจําแนกชนิดและการนับจํานวนละอองเรณูของพันธุพืชที่พบในปาพรุโบราณและชั้นหินที่สะสมตัวในทะเลสาบ เปนวิธีหนึ่งในการกําหนดอายุของ

Page 74: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

676

ซากดึกดําบรรพ

337. pollen grain; grain ละอองเรณู อนุภาคคลายฝุนของแกมีโทไฟตเพศผูของพืชมีเมล็ด จัดเปนหนวยเดี่ยวหนวยหนึ่งของเรณู

338. pollen statistics; pollen analysis

การวิเคราะหเรณู ดู pollen analysis; pollen statistics

339. polymorph* พหสุณัฐาน ดูคําอธิบายใน polymorphism

340. polymorphism ภาวะพหสุณัฐาน ๑. (ผลิกศาสตร) การที่แรตกผลึกเปนรูปแบบตาง ๆ ไดมากกวา ๑ รูปแบบขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยูกับความรอนและแรงกดดัน เชน คารบอนที่เกิดเปนเพชรจะมีรูปผลึกในระบบสามแกนเทา ถาเกิดเปนแกรไฟตจะมีรูปผลึกในระบบสามแกนราบ ๒.(วิวัฒนาการ) การที่สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ๆ สามารถแปรสภาพไดหลายรูปแบบโดยไมนับความแตกตางกันทางเพศ เชน ผีเสื้อมีวิวัฒนาการจากตัวหนอนเปนแมลง

341. polyp โพลปิ ตัวซีเลนเทอเรต มีรูปรางเปนทรงกระบอกกลวง ปลายดานบนเปดออกเปนชอง เรียกวา ปาก รอบปากมีหนวดลอม ปลายดานลางปดและยึดติดกับพื้น โพลิปอาจอยูเดี่ยว ๆ เชน ไฮดรา หรือเชื่อมตอเนื่องกันเปนกลุมเชนเดียวกับปะการังสวนใหญ ดูรูปประกอบ รูป โพลิปเดี่ยว โพลิปกลุม

342. polysynthetic twinning ผลกึแฝดรวม ผลึกแฝดซึ่งประกอบดวยผลึกตั้งแต ๓ ผลึกขึ้นไป ที่มี

Page 75: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

677

ระนาบผลึกแฝดวางตัวขนานกันโดยใชหนาผลึกรวมกันตามกฎของผลึก หากระนาบผลึกแฝดไมขานากันจะเกิดเปนผลึกแฝดวง

343. polyzoan โพลโีซอนั ดู bryozoan 344. ponor หลมุขอบชนั หลุมหรือแองที่มีลักษณะขอบชัน (steep–side hole) ที่พบ

ในพื้นที่ภูมิประเทศแบบคาสต บางขณะทําหนาที่เปนชองน้ํามุด (swallet) บางขณะทําหนาที่เปนพุน้ํา รากศัพทเดิมมาจากภาษายูโกสลาเวีย ดู swallet และ swallow hole ประกอบ

345. pool แหลงปโตรเลยีม แหลงกักเก็บหรือกลุมของแหลงกักเก็บปโตรเลียม เปนคําที่ใชผิดความหมาย เพราะปโตรเลียมไมไดกักเก็บเหมือนในอางเก็บน้ํา แตจะแทรกอยูในชองวางหรือรอยแตกของหิน

346. population ประชากร ๑. กลุมสิ่งมีชีวิตซึ่งแตละตัวจัดเปนชนิดเดียวกันหรือมีความสัมพันธใกลชิดกัน ๒. กลุมสิ่งมีชีวิตที่ไดเขามาอาศัยอยูในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งหรือสิ่งแวดลอมหนึ่งเปนกลุมแรก ๓. [สถิติ] กลุมทางทฤษฎีของหัวขอเรื่องหรือตัวอยางใด ๆ ซึ่งทุกตัวสามารถนําไปใชวัดหรือจัดทําผลทางสถิติในเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือมากกวาได

347. porcelain พอรซเลน ผลิตภัณฑเซรามิกเนื้อสีขาว เคลือบผิวมัน โปรงแสง แข็งเหมือนแกว ไมดูดซึมน้ํา เคาะมีเสียงดังกังวาน สวนผสมของเนื้อดินปนคือ ดินขาว บอลลเคลย ไชนาสโตน แรฟน

Page 76: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

678

มา และควอตซ วัตถุดิบเหลานี้ตองการคณุภาพสูงสุด มีปริมาณของธาตุเหล็กนอย

348. porcellanite* หินพอรเซลลาไนต หินชนิดหนึ่งที่มีซิลิกาเปนองคประกอบสําคัญ มีลักษณะทั่วไปคลายเครื่องปนดินเผาที่ยังไมไดเคลือบ เนื้อแนนแข็ง ดาน มีรอยแตกแบบกนหอย แตสมบัติทางความแข็ง ความแนน และความวาว ยังนอยกวาหินเชิรต คํานี้ใชกับหินเชิรตที่ไมบริสุทธิ์ซึ่งมีเนื้อดินปนอยูดวย ใชกับหินดินดานหรือดินเหนียวที่ยังไมแข็งตัวหรือที่ถูกแดดเผา ซึ่งมักพบอยูขางบนหรือขางลางชัน้ถานหินที่เผาไหมแลว หรือใชกับหินทัฟฟเนื้อละเอียดที่มีซิลิกาเขาไปแทนที่ทําใหแข็งตัวดีขึ้น

349. pore ๑. ชองวาง ชองเล็ก ๆ หรือทอเล็ก ๆ ที่พบในดิน หรือหิน

350. pore ๒. รู รูเปดเล็ก ๆ ในผนังหรือเปลือกของสัตวไมมีกระดูกสันหลัง เชน รูทะลุที่พบในแผนเปลือกของพวกเอไคโนเดิรม

351. pore space; pore volume

ปริมาตรชองวาง ปริมาตรรวมของชองวางในหินหรือดิน

352. pore throat คอคอดชองวาง ชองวางในหินหรือดินที่เปนสวนที่แคบตีบเขาหากัน

353. pore volume; pore space

ปริมาตรชองวาง ดู pore space; pore volume

354. poriferan สตัวพวกฟองน้าํ ดู sponge 355. porosity* ความพรนุ อัตราสวนระหวางปริมาตรของชองวางในหินหรือดินเทียบ

Page 77: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

679

กับปริมาตรของหินหรือดินนั้น ๆ

356. porosity; total porosity ความพรนุรวม อัตราสวนระหวางปริมาตรของชองวางในหินหรือดินเทียบกับปริมาตรของหินหรือดินนั้น ๆ

357. porphyrin พอรไฟรนิ เม็ดสีที่เกิดเปนจํานวนนอยในพืชและสัตว ตามธรรมชาติจะเปลี่ยนสภาพมาจากสารสีเขียวในพืช พอรไฟรินประกอบดวยพิรโรล (pyrrole) จํานวน ๔ วงเชื่อมตอกันภายในโครงสรางแอโรแมติก พอรไฟรินมักพบมากในน้ํามันดิบและตะกอน โดยเฉพาะในสวนที่เปนแอสฟลทีน

358. porphyrite; porphyritic rock; porphyry*

หินเนือ้ดอก หินอัคนีที่ประกอบดวยผลึกแรขนาดใหญปะปนอยูกับผลึกแรที่เปนเนื้อพื้น (ground mass) ของหินนั้น ทําใหหินมีลักษณะเนื้อดอก ดู phenocryst ประกอบ

359. porphyritic texture เนือ้ดอก ลักษณะเนื้อหินอัคนีที่มีผลึกแรขนาดใหญปะปนอยูกับผลึกแรเล็กๆ ที่เปนพื้นของหินนั้นทําใหเห็นเปนเนื้อดอก ดู phenocryst ประกอบ

360. porphyroblast แรดอกแปร(ยังไมยุติ)

๑. ดู metacryst ๒. ผลึกแรขนาดใหญที่เปนดอกอยูในเนื้อหินแปร ซึ่งแปรสภาพมาจากหินอัคนีเนื้อดอก

361. porphyroblastic -เนือ้ดอกแปร คําที่ใชกับเนื้อหินที่ประกอบดวย ผลึกดอกแปร(porphyroblast) ซึ่งเปนแรขนาดใหญที่มีหนาผลึกสมบูรณ เชน การเนต แอนดาลูไซต กระจายอยูทั่วไปในเนื้อพื้นที่ละเอียดกวา เกิดขึ้นจากการแปรสภาพบริเวณไพศาล

Page 78: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

680

362. porphyroclast เศษหินดอกแปร เม็ดแรตนกําเนิด (protolith) ในหินแปร ซึ่งมีขนาดใหญและมีบางสวนถูกบดอัด วางตัวอยูในเนื้อพื้นขนาดละเอียดที่มักมีการตกผลึกใหม

363. porphyroclastic -เนือ้เศษหนิดอกแปร คําที่ใชกับเนื้อหินแปรที่ประกอบดวยเม็ด (แร) เศษหินขนาดตาง ๆ เปนปริมาณชัดเจน เศษหินดอกแปร (porphyroclast) และผลึกแปรสมบูรณ (neoblast) เชือ่กันวา หินเนื้อแปรชนิดนี้ เปนผลจากการตกผลึกใหมแบบมีการเปลี่ยนรูปรางแบบพลาสติกหรือไหลมากกวาการเปลีย่นรูปรางแบบแตกหักหรือแบบการแตกเปนเม็ด 12/56

364. porphyry copper deposit

แหลงแรทองแดงเนือ้ดอก

มวลขนาดใหญของหินอัคนีเนื้อดอกที่ประกอบดวยแรทองแดงซึ่งมักเปนแรคาลโคไพไรต และแรซัลไฟดอื่น ๆ เกิดประหรือเปนสายแรขนาดเล็กกระจายอยูทั่วไป เกิดจากการตกผลกึของแมกมาอยางรวดเร็ว และยังเคลื่อนที่จากหินชั้นรอบ ๆ หินอัคนีโดยน้ําหรือไอน้ํามาสะสมตัวตามรอยแยกของหินอัคนีหรือหินขางเคียง ในประเทศไทยพบที่ภูหินเหล็กไฟและภูทองแดง จังหวัดเลย แหลงแรแบบนี้มักเปนแหลงแรทองแดงที่มีการทําเหมืองขนาดใหญแบบเหมืองเปดหรือเหมืองหาบ ผลิตทองแดงเปนหลัก อาจไดโมลิบดีนัมหรือทองคําเปนผลพลอยได ในการสาํรวจนิยมใชวิธีธรณีฟสิกสแบบการเกิดขั้วแบบเหนี่ยวนํา ดู induced polarization (IP) ประกอบ

Page 79: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

681

365. porphyry; porphyrite; porphyritic rock

หินเนือ้ดอก ดู porphyrite; porphyritic rock; porphyry

366. portland cement ปนูซีเมนตพอรตแลนด ปูนซีเมนตที่สามารถแข็งตัวไดในน้ํา เปนสารผสมที่มีสัดสวนพอเหมาะของสารประกอบปูน ซิลิกา และอะลูมินา วัตถุดิบที่ใชในการผลิตสวนใหญเปนสารผสมของหินปูนและหินดินดาน โดยมีกระบวนการผลิตคือ นําวัตถุดิบที่บดละเอียดมาคลุกเคลาใหเขากัน นําไปเผาที่อุณหภูมิประมาณ ๑,๒๐๐-๑,๔๐๐ องศาเซลเซียส จนไดปูนซีเมนตเม็ด นําปูนซีเมนตเม็ดบดละเอียดรวมกับแรยิปซัมจนมีขนาดประมาณ -๒๐๐ เมช จะไดปูนซีเมนตพอรตแลนด นายโจเซฟ แอสปดิน เปนผูพัฒนาปูนซีเมนตพอรตแลนดใน ค.ศ. ๑๘๒๔ โดยใหชื่อวา ซีเมนตพอรตแลนด เนื่องจากมีลกัษณะคลายกับหินพอรตแลนดซึ่งเปนหินกอสรางที่นิยมในประเทศอังกฤษ สวนในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มพัฒนาปูนซีเมนตพอรตแลนดใน ค.ศ. ๑๘๗๕ วัตถุดิบที่ใชในการผลติซีเมนตพอรตแลนดในประเทศไทยประกอบดวย หินปูนรอยละ ๗๘-๘๑ หินดินดานรอยละ ๑๕-๑๘ แรเหล็กหรือดินลูกรังรอยละ ๑-๒ ยิปซัมรอยละ ๔-๕ ปูนซีเมนตพอรตแลนดมาตรฐานมีอยู ๕ ประเภทดวยกันคือ

Page 80: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

682

ประเภท ๑ ปูนซีเมนตพอรตแลนดธรรมดา (ordinary portland cement) สําหรับใชในงานคอนกรีตที่ไมตองการคุณภาพพิเศษ และใชในการกอสรางตามปรกติทั่วไปที่อยูในภาวะอากาศไมรุนแรงหรือที่ไมมีอันตรายจากซัลเฟตเปนพิเศษ หรือเมื่อเกิดการรวมตัวกับน้ําจะไมทําใหความรอนเพิ่มขึ้นจนเปนอันตรายกับโครงสราง ประเภท ๒ ปูนซีเมนตพอรตแลนดดัดแปลง (modified portland cement) สําหรับใชในคอนกรีตที่เกิดความรอนและทนซัลเฟตไดปานกลาง ประเภท ๓ ปูนซีเมนตพอรตแลนดแข็งเร็ว (high-early strength portland cement) มีประโยชนสําหรับทําคอนกรีตที่ตองการจะใชงานเร็วหรือรื้อแบบเร็ว เชน งานคอนกรีตอัดแรง การใชปูนซีเมนตพอรตแลนดประเภท ๓ นี้ ควรระวังเรื่องอุณหภูมิของคอนกรีตซึ่งตองไมใหสูงเกิน มิฉะนั้นจะทําใหคอนกรีตเกิดรอยราวไดงาย ประเภท ๔ ปูนซีเมนตพอรตแลนดประเภทเกิดความรอนต่ํา (low-heat portland cement) ปูนซีเมนตชนิดนี้ใชมากในงานกอสรางพวกคอนกรีตหลา (mass concrete) เนื่องจากเกิดความรอนของคอนกรีตต่ํากวาประเภทอื่นขณะแข็งตัว ประเภท ๕ ปูนซีเมนตพอรตแลนดทนซัลเฟตไดสูง

Page 81: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

683

(sulfate-resistant portand cement) เหมาะสําหรับใชกับโครงสรางที่อยูในที่ที่มีการกระทําของซัลเฟตรุนแรง เชน น้ําเค็ม น้ําหรือดินที่เปนดางสูง

367. positive flower structure โครงสรางรปูดอกไมตูม โครงสรางรูปดอกไมชนิดหนึ่งซึ่งเปนผลมาจากการเลือ่นตามแนวระดับเปนหลัก โดยมีองคประกอบของการเลื่อนยอน ทําใหโครงสรางนี้มีรูปรางตามภาคตัดขวางคลายดอกบัวตูมและเกิดการยกตัวขึ้น ดู negative flower structure ประกอบ มีความหมายเหมือนกับ restraining bend

368. positive ore

(ศัพทบัญญัติยังไมยุติ) สนิแรประเมินแลว, สนิแรผลติได

มวลสินแรที่ไดรับการขุดเปดและพัฒนารอบดาน ไดแก ดานหนา ดานหลัง ดานบน และดานลาง และไดประเมินปริมาณและคุณภาพของสินแรนั้นแลว ดู developed reserves และ proved reserves ประกอบ

Page 82: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

684

369. possible ore สนิแรเปนไปได แหลงแรหรือสินแรที่คาดคะเนขนาดและความมีอยูจากพื้นฐานของประสบการณทางธรณีวิทยาและการทําเหมืองแรที่ผานมาวามีโอกาสจะทําเหมืองได ดู inferred ore, indicated ore และ potential ore ประกอบ

370. possible reserves ปริมาณสาํรองเปนไปได ปริมาณสํารองคงเหลือที่ประเมินไดจากขอมูลทางธรณีวิทยาและวิศวกรรม ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งมีความเชื่อมั่นและความเปนไปไดในการผลิตนอยกวาปริมาณสํารองพิสูจนแลว (proved reserves) คือมีความเชื่อมั่นเพียงรอยละ ๑๐-๔๐

371. post mature; over mature

ภาวะเกนิสมบรูณ ดู over mature; post mature

372. postmineral เกดิหลงัการเกดิแร โครงสรางหรือลักษณะอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังการเกิดแร

373. pot clay ดินปนหมอ ๑. ดินทนไฟที่มีความเหมาะสมที่ใชทําเบาหลอมแกว ๒. ชั้นเคลยที่เกิดรวมกับชุดยุคถานหิน ๓. ดินเคโอลินที่เกิดแบบตกคางสะสมตัวอยูกับที่

374. potash feldspar โพแทชเฟลดสปาร ๑. ชื่อที่ใชเรียกโพแทสเซียมเฟลดสปาร ๒. ชื่อเชิงพาณิชยของเฟลดสปารที่มี K2O อยางนอยรอย

ละ ๑๐ แตสําหรับประเทศไทยตองมีสวนผสม K2O อยาง

Page 83: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

685

นอยรอยละ ๘ บางครั้งเรียกโพแทชสปาร (potash spar)

375. potash spar โพแทชสปาร ดูคําอธิบายใน potash feldspar 376. potassium bentonite โพแทสเซยีมเบนทอไนต ดู metabentonite

377. potassium feldspar โพแทสเซยีมเฟลดสปาร กลุมแรเฟลดสปารที่ประกอบดวยโพแทสเซียม เชน ออรโท-เคลส ไมโครไคลน ซานิดีน ใชในอุตสาหกรรมเซรามิก แหลงสําคัญในประเทศไทยพบที่ จังหวัดตาก ราชบุร ีมีความหมายเหมือนกับ potash feldspar และ k-spar ในเชิงพาณิชยหมายถึง เฟลดสปารที่ประกอบดวยโพแทสเซียมสูง มีความหมายเหมือนกับ potash feldspar, alkali feldspar, k-spar และ potspar

378. potential barrier กาํแพงศกัย ความตานทานตอการเปลี่ยนสถานะของพลังงานหนึ่งไปเปนอีกอยางหนึ่งซึ่งตามระบบทางเคมีตองอาศัยพลังงานกอกัมมันตเปนตัวชวย

379. potential electrode ขั้วศกัยไฟฟา ขั้วศักยไฟฟาที่ใชวัดความตางศักยไฟฟา ในทางธรณีฟสิกสมี ๒ แบบ คือ ๑. แทงโลหะนําไฟฟา เสนผานศูนยกลางประมาณ ๒ เซนติเมตร หรือรูปเหล็กฉาก ความยาวประมาณ ๗๐ เซนติเมตร ปลายดานหนึ่งแหลมใชตอกลงในดิน มีสายไฟตอเขากับวงจรวัดความตางศักยไฟฟาที่เกิดขึ้นระหวางขั้วศักยไฟฟาทั้ง ๒ แทง ที่ตอกลงไปในดิน ๒. ถวยดินเผารูปทรงกระบอก สวนบนเปนกระเบื้องเคลือบ

Page 84: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

686

สวนลางไมเคลือบ มีรูพรุนเพื่อใหสารละลายซึมผานได มีแทงโลหะทองแดงอยูตรงกลาง ทําหนาที่เปนขั้วไฟฟา แชอยูในสารละลายทองแดงซัลเฟต สวนบนมีฝาปด มีสายไฟฟาตอเชื่อมเขาวงจรวัดความตางศักยไฟฟาที่เกิดขึ้นระหวางขั้วศักยไฟฟาทั้งสองที่วางไวที่ผิวดิน ใชในกรณีที่ตองการวัดศักยไฟฟาที่ตองการความถูกตองแนนอนสูง เพราะสามารถแกความตางศักยไฟฟาระหวางขั้วไฟฟาทั้งสองที่เกิดจากกระแสไฟฟาตามธรรมชาติที่เกิดเองใตผิวดินใหหมดไปได ใชในการสํารวจความตานทานไฟฟาจําเพาะที่ตองการความถูกตองแมนยําสูง และใชในการสํารวจดวยวิธีการเกิดขั้วแบบเหนี่ยวนํา มีรูป

380. potential gradient ความชนัศกัย ดู hydraulic gradient ความหมายที่ ๑

381. potential ore สนิแรศกัย ๑. แหลงแรหรือสินแรที่มีแนวโนมวาจะคนพบได ๒. แหลงแรหรือสินแรที่พบแลว แตยังมีขอมูลไมเพียงพอที่จะพัฒนาในเชิงพาณิชยได ดู resources ประกอบ

382. potential source rock หินตนกาํเนิดมศีกัยภาพ หินตนกําเนิดปโตรเลียมที่ยังไมปลดปลอยไฮโดรคารบอนออกมาในปริมาณที่มากพอ เนื่องจากภาวะไมสมบูรณ 25,26/56

383. potentiometric surface; piezometric surface;

ระดบัแรงดนัน้าํ (น้ําบาดาล) ระดับสมมุติเพื่อแทนระดับของน้ําบาดาล หาไดจากระดับของน้ําในบอน้ําบาดาล 29,31/56

Page 85: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

687

pressure surface 384. pothole ๑. กุมภลกัษณ บอกลม ๆ รูปหมอ มักมีกรวดและทรายหยาบอยูที่กนบอ

เกิดขึ้นเพราะน้ําในธารพัดเอากรวดทรายมาหมุนวนอยูในแองเล็ก ๆ บนหนาหิน กรวดทรายจะเปนตัวการครูดถู ขัดสี ทําใหแองลึกลงและกวางมากขึ้น นานปเขากรวดเกาหมดไปกรวดใหมก็เขาแทนที่และหมุนกลิ้งอยูตอนลางของแอง ทําใหแองเดิมโตขึ้นและลึกเวาจนเปนรูปหมอดังที่เห็นในปจจุบัน 22/56

385. pothole ๒. ปลองหนิปนู ๒.๑ แองคาสตที่มีรูปรางเปนปลอง ดู dolina; doline; dolinen ประกอบ ๒.๒ ปลองหินปูนซึ่งมีลักษณะตั้งฉากหรือเกือบตั้งฉาก มีความหมายเหมือนกับ aven; cenote 22/56

386. pottery stone พอตเทอรสีโตน ดูคําอธิบายใน china stone

387. pour point จุดไหลเท อุณหภูมิต่ําสุดที่ทําใหน้ํามันยังคงไหลไดภายใตสภาวะที่กําหนดไวในการทดสอบ เปนการหาจุดที่น้ํามันเริ่มหยุดไหลแลวบวกเพิ่มไมเกิน ๓ องศาเซลเซียส และเปนตัวเลขที่ ๓ หารลงตัว โดยถือวาเปนอุณหภูมิต่ําสุดที่น้ํามันยังคงไหลได จุดไหลเทของน้ํามันดิบเปนสมบัติที่ชี้บอกคราว ๆ วาน้ํามันดิบนั้นมีสวนประกอบไฮโดรคารบอนประเภทพาราฟนหรือแอโรแมติกมากนอยเพียงใด โดยน้ํามันดิบที่มีจุดไหลเทสูง จะมีปริมาณไฮโดรคารบอนประเภทพาราฟนสูงแตมี

Page 86: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

688

ปริมาณไฮโดรคารบอนประเภทแอโรแมติกต่ํา อาจจัดเปนน้ํามันดิบฐานพาราฟน สวนน้ํามันดิบที่มีจุดไหลเทต่ํา ก็จะมีปริมาณไฮโดรคารบอนประเภทแอโรแมติกสูง อาจจัดเปนน้ํามันดิบฐานแนฟทีน ทั้งคาความหนืดและจุดไหลเทเปนสมบัติที่สําคัญที่นํามาใชประกอบการออกแบบระบบการสูบและขนถายน้ํามันโดยทางระบบทอ การทดสอบคาจุดไหลเทของตัวอยางที่เปนน้ํามันดิบจะทดสอบตามวิธีมาตรฐาน ASTM (American Society for Testing and Materials) D–5358 และตัวอยางที่เปนผลิตภัณฑจะใชวิธีมาตรฐาน ASTM D–97

388. powder diffraction; powder method

การเลี้ยวเบนจากผง วิธีวิเคราะหผงตัวอยางธรรมชาติหรือที่สังเคราะหขึ้นดวยเครื่องดิฟแฟรกโทมิเตอร โดยใชเทคนิคการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซในการหาชนิดหรือระบบผลึกของแร

389. Pr/Py ratio; pristane/phytane ratio

อตัราสวนพรสิเทนตอไฟเทน

ดู pristane/phytane ratio; Pr/Py ratio

390. Praetiglian; Pretiglian พรีทิเกลยีน ชวงเวลาเกิดธารน้ําแข็งในสมัยไพลโอซีนตอนตนของทวีปยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ ขอมูลจากการลาํดับชั้นตะกอนตามสภาพภูมิอากาศ ละอองเรณู และซากพืช อยูเหนือรูวีเรียนและอยูใตทิเกลียน ดู ตารางชวงอายุธารน้ําแข็งและชวงคั่นธารน้ําแข็งสมัยไพลสโตซีนในทวีปอเมริกาเหนือ

Page 87: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

689

และทวีปยุโรป ประกอบ 7/56

391. prase เพรส ๑. ควอตซสีเขียว เนื้อผลึก มีสารฝงในเปนผลึกรูปเข็มของแรแอกทิโนไลต ๒. ควอตซเนื้อจุลผลึกแบบเนื้อเม็ด มีสีเขียวดานคลายแจสเพอร มักเกิดรวมกัน ดู quartz ประกอบ

392. Precambrian พรีแคมเบรยีน คําที่ใชเรียกหินที่มีอายุแกกวาหินยุคแคมเบรียนตามมาตรฐานมาตราลําดับชั้นหินตามอายุกาลทั่วโลก (Standard Global Chronostratigraphic Scale) พรีแคมเบรียนรวมเอาบรมยุคอารเคียนโพรเทอโรโซอิก และฮาเดียนเขาไวดวย และมีชวงเวลาเปนรอยละ ๙๐ ของเวลาทางธรณีกาลทั้งหมด 43/55

393. Precambrian Eon บรมยคุพรแีคมเบรียน บรมยุคแรกเริ่มของธรณีกาล มีอายุกอนยุคแคมเบรียนในมหายุคพาลีโอโซอิก เริ่มตั้งแตโลกเกิดขึ้นประมาณ ๔,๖๐๐ ถึง ๕๔๑ ลานป เปนชวงเวลาที่ยาวนานที่สุด เชื่อกันวาสิ่งมีชีวิตชั้นต่ําเริ่มเกิดขึ้นในตอนปลายของบรมยุคนี้ แตสวนมากไมพบรองรอยหรือหลักฐานที่ชัดเจนเหมือนซากดึกดําบรรพในยุคแคมเบรียน หินที่เกิดในบรมยุคนี้เรียกวา หินบรมยุคพรีแคมเบรียน (Precambrian Eonothem) สถาบันทางธรณีวิทยาบางแหง เชน คณะกรรมการระหวางชาติวาดวยการจัดลําดับชั้นหิน (ICS, 2012) ได

Page 88: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

690

แบงชวงเวลาของบรมยุคพรีแคมเบรียนตามหลักฐานการหาอายุโดยกัมมันตรังสีเปน ๓ บรมยุคยอย คือ บรมยุคโพรเทอโรโซอิก (Proterozoic Eon) ซึ่งมีอายุตั้งแต ๒,๕๐๐ ถึง ๕๔๑ ลานป บรมยุคอารเคียน (Archaean Eon; Archean Eon) หรืออารคีโอโซอิก ซึ่งมีอายุตั้งแต ๔,๐๐๐ ถึง ๒,๕๐๐ ลานป และบรมยุคฮาเดียน ตั้งแต ๔,๖๐๐ ถึง ๔,๐๐๐ ลานปที่ผานมา ดู geologic time scale ประกอบ 41/55

394. Precambrian Era มหายคุพรแีคมเบรียน ดูคําอธิบายใน Precambrian Eon รอทวน ที่ Precambrian Eon ไมกลาวถึง

395. precious metal โลหะสงูคา โลหะจําพวกทองคํา เงิน หรือแรอื่น ๆ ในกลุมแพลทินัม เชน อิริเดียม ออสเมียม โรเดียม รูทีเนียม

396. precious stone* รตันชาตสิงูคา รัตนชาติที่มีคุณคาทางพาณิชยสูงมากมาแตครั้งโบราณ ตัวอยางเชน เพชร ทับทิม แซปไฟร มรกต รัตนชาติชนิดนี้จะตองมีสมบัติที่สําคัญดังตอไปนี้ ๑. มีความสวยงาม คือ เนื้อใสสะอาด ปราศจากตําหนิ มีสีสวย มีประกายวาวเมื่อเจียระไนแลว ๒. มีความแข็ง ซึ่งทนทานไมแตกหรือเกิดรอยขีดขวนไดงาย ๓. หาไดยาก คือมีนอยแหลงในโลก

397. precipitation ๑. หยาดน้าํฟา น้ําที่ตกจากฟาลงสูพื้นดิน ไมวาจะมีภาวะเปนน้ําหรือน้ําแข็ง เชน ฝนละออง ฝนธรรมดา หิมะ ลูกเห็บ ลักษณะของหยาดน้ําฟาดังกลาวแตกตางไปจาก เมฆ หมอก น้ําคาง

Page 89: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

691

น้ําคางแข็ง และไอน้ํา หรือน้ําแข็ง ในรูปอื่น ๆ ตรงที่หยาดน้ําฟาจะตองตกจากบรรยากาศถึงพื้นดิน การวัดปริมาณของหยาดน้ําฟาใชเครื่องมือแบบเดียวกันกับการวดัน้ําฝน ถาหยาดน้ําฟาที่ตกลงมาในเครื่องวัดนั้นมีลักษณะเปนน้ําแข็ง ตองทําใหละลายตัวเปนน้ําเสียกอนแลวจึงวัดปริมาณของน้ํานั้นออกมาดวยการเทียบเปนความสูง คือ เปนเซนติเมตร หรือเปนนิ้ว เชนเดียวกับการวัดฝน

398. precipitation ๒. การเกิดตะกอน กระบวนการแยกตัวของสสารออกจากสารละลายทั้งจากผลของแรงโนมถวง หรือจากปฏิกิริยาเคมี ที่สงผลใหเกิดสารประกอบที่ไมละลายน้ํา จากสารละลายของสารประกอบที่ละลายได ๒ ชนิดหรือมากกวา หรือเปนกระบวนการเกิดตะกอนเคมี เชน เกลือแกง เกลือแอนไฮไดรต ที่ตกตะกอนจากน้ําทะเล

399. precision ความเทีย่ง ความแนนอนของการวัด เปนคาที่ไดจากการวัดหรือวิเคราะหตัวอยางเดียวกันหลายครั้ง ภายใตเงื่อนไขเดียวกัน ถาไดคาใกลเคียงกัน แสดงวาการวัดนั้น ๆ มีความเที่ยงดี ความเที่ยงของการวัดแสดงไดในคาเปอรเซ็นตคาเบี่ยงเบนมาตรฐานสัมพัทธ ถามีคาต่ําแสดงวา คาความเที่ยงของการวัดดี คํานี้ใชในการสํารวจเพื่อบอกระดับความสมบูรณของวิธีและเครื่องมือที่ใชผลการวัดมีความแมนสูง ดู accuracy ประกอบ

400. pregeologic -กอนธรณวีิทยา ๑. คําที่ใชกับเวลาหรือชวงเวลาของโลกที่ไดกําหนดขึ้นตามทฤษฎีหรือกอนมีขอมูลทางธรณีวิทยา

Page 90: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

692

๒. คําที่ใชกับสวนของธรณีประวัติที่มีอายุแกกวาหินที่เกาแกที่สุดในโลก (ประมาณ ๔.๕-๓พันลานป)

401. premineral เกดิกอนการเกิดแร โครงสรางหรือลักษณะอื่นที่มีอยูกอนการเกิดแร

402. preoccupied name ชือ่ตั้งซ้าํ ในทางอนุกรมวิธาน ชื่อซึ่งไมสามารถนํามาใชได หรือตองยกเลิกไปเนื่องจากชือ่นั้นใชเปนชื่อสิ่งมีชีวิตในขั้นอื่นมากอนหนานี้แลว

403. pressolution; pressure solution

การละลายจากแรงดัน การละลายในหินตะกอนซึ่งเกิดขึ้นระหวางรอยตอของเม็ดตะกอนหรือผลึกที่มีแรงดันจากภายนอกมากกวาแรงดันของของเหลวที่อยูระหวางเม็ดตะกอน ยังผลใหผิวสัมผัสเพิ่มขึ้นและชองวางระหวางเม็ดตะกอนลดลง จนทําใหหินเชื่อมติดกันแนนขึ้น ดู solution transfer และ Riecke’s principle ประกอบ

404. pressure fringe เงาแรงดัน ดู pressure shadow

405. pressure pan ชัน้ดานจากแรงกด ชั้นดานที่มีความหนาแนนรวมของดินสูง แตมีรูพรุนของดินทั้งหมดต่ํากวาชั้นดินขางบนและขางลาง ซึ่งเปนผลของแรงกดดันจากการใชเครื่องมือที่มีน้ําหนักในการไถพรวน หรือการกระทําอื่น ๆ ตัวอยางของชั้นดานจากแรงกด เชน ชั้นดานไถพรวน

406. pressure ridge สนัแรงดัน ลักษณะโครงสรางอันเปนผลจากแรงดันคูขนานและเคลื่อนเขาหากันในชวงเวลาที่เกิดรอยเลื่อน แผนดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรือการเคลื่อนที่ของธารน้ําแข็ง จนทําใหแผนดิน

Page 91: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

693

เปนสันและหดสั้นลง สันแรงดันมีลักษณะการเกิดตรงขามกับสันกั้น ดู sag pond ประกอบ มีรูป

407. pressure shadow เงาแรงดัน [ศิลาวิทยาโครงสราง] กลุมของเม็ดแรที่กอตัวใหมอยูบริเวณขอบตรงขามกันของแรดอกแปรหรือเม็ดเศษชิ้น(detrital grain) ทําใหเกิดมีลักษณะเปนโครงสรางยดืยาว(ยาวเรียว) โครงสรางนี้มักวางตัวขนานกับริ้วขนาน และอาจถือเปนแนวริ้วขนาน (lineation) ได มีความหมายเหมือนกับ pressure fringe, strain shadow ๒ และ stress shadow

408. pressure solution; pressolution

การละลายจากแรงดัน ดู pressolution; pressure solution

409. pressure surface; piezometric surface; potentiometric surface

ระดบัแรงดนัน้าํ ดู potentiometric surface; piezometric surface; pressure surface 31/56

410. pressure–release jointing; release joint

แนวแตกคลายความดัน ดู sheeting

411. primary ปฐมภมูิ ๑. กลาวถงึแร เนื้อและโครงสรางของหินที่เกิดขึ้นครั้งแรกในชวงเวลาที่หินนั้นเกิด มีความหมายตรงขามกับ secondary ๒. กลาวถึงแหลงแรที่ไมถูกกระทบจากกระบวนการเพิ่มพูน

Page 92: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

694

ยิ่งยวด ๓. กลาวถงึโลหะที่ไดจากสินแรไมใชจากเศษโลหะ ๔. กลาวถงึระยะแรกเกิดของแนวชายทะเล ซึ่งยังไมถูกเปลี่ยนแปลงโดยการกระทําของคลื่น เชน แนวชายทะเลที่เปนผลจากลาวาหลากในสมัยปจจุบัน

412. primary clay เคลยปฐมภูมิ เคลยที่พบในที่ที่เกิด หรือหมายถึงเคลยเหลือคาง ดู residual clay ประกอบ

413. primary dip; initial dip; original dip

มุมเทเดิม ดู initial dip; original dip; primary dip

414. primary layering การเกิดชัน้แรปฐมภมูิ ดู compositional layering และ phase layering ความหมายที่ ๒ 16,17/56

415. primary migration การเคลือ่นยายปฐมภมูิ การเคลื่อนยายสารอินทรียจากหินเนื้อละเอียดซึ่งเปนหินตนกําเนิดไปยังหินเนื้อหยาบมีรูพรุนซึ่งเปนหินกักเก็บปโตรเลียม

416. primary mineral แรปฐมภูมิ แรที่เกิดพรอมกับหินที่ลอมรอบหรือเกิดรวมกันโดยกระบวนการเกิดหินอัคนี กระบวนการน้ํารอน กระบวนการไอรอน โดยแรปฐมภูมิจะมีองคประกอบและรูปรางเหมือนเดิมตั้งแตเกิด

417. primary moment magnitude

ขนาดโมเมนตคลืน่ปฐมภูม ิ

ขนาดแผนดินไหวที่คํานวณจากการขจัดของคลื่นปฐมภูมิที่ถึงสถานี สวนมากใชในการประมาณคาแผนดินไหวไกล

Page 93: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

695

ขนาดใหญในทะเลเพื่อเตือนภัยพิบัติจากคลื่นสึนามิ เขียนแทนดวยสัญลักษณ Mwp

418. primary recovery การผลติขัน้ปฐมภูมิ การผลิตน้าํมันดิบที่สามารถผลิตไดดวยแรงขับในชั้นกักเก็บหรือสูบขึ้นมาโดยธรรมชาติ ไมใชแรงอัดจากภายนอก

419. primary structure โครงสรางปฐมภมูิ ๑. [หินตะกอน] ลักษณะโครงสรางของหินตะกอนที่เกิดกอนกระบวนการแข็งตัวเปนหิน เชน การวางชั้น รอยริ้วคลื่น ๒. [หินอัคนี] โครงสรางในหินอัคนีที่เกิดพรอมกับการเกิดหรือการดันตัวขึ้นมาของแมกมา กอนการแข็งตัวในชวงสุดทาย ตัวอยางเชน โครงสรางรูปหมอนที่เกิดระหวางการไหลทะลักของลาวา หรือลักษณะแนวชั้นที่เกิดในระหวางการแข็งตัวของแมกมา ๓. [หินแปร] โครงสรางเดิมในหินแปรที่มีถิ่นกําเนิดในระดับลึกซึ่งเกิดกอนการเปลี่ยนแปลงลักษณะและการปรับสมดุลใหมเมื่อถูกแทรกตัวขึ้นมาสูระดับตื้นระหวางกระบวนการกอเทือกเขา ๔. [บรรพชีวินวิทยา] แวคิวโอลขนาดเล็ก หรือชองวางในสารเนื้อเจลหรือไคทินเทียม ซึ่งหอหุมเปนผนังของเซลลรูปกรวยหรือรปูแตรของสัตวเซลลเดียวกลุมทินทินนิด ผนังเนื้อเจลหรือไคทินเทียมนี้เรียกวา ลอริกา ดู secondary structure และ tertiary structure ประกอบ

420. primary wave; P–wave คลืน่ปฐมภมูิ คลื่นอัดขยายที่ตรวจวัดไดจากคลื่นไหวสะเทือนที่เกิดจาก

Page 94: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

696

แผนดินไหว คลื่นนี้เดินทางจากตนกําเนิดคลื่นถึงเครื่องรับคลื่นไดเปนอันดับแรกจึงเรียกวา คลื่นปฐมภูมิ มีชื่อเรียกตาง ๆ กันออกไปไดอีกหลายชื่อตามลักษณะการเคลื่อนไหวของอนุภาคตัวกลางที่คลื่นเดินทางผานไป คือ คลื่นตามยาว (longitudinal wave) เปนชื่อเรียกคลื่นอัดขยายตามลักษณะการเคลื่อนไหวของตัวกลางที่เคลื่อนที่อยูตามแนวยาวในแนวเดียวกันกับทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่น คลื่นไมหมุน (irrotational wave) เปนชื่อเรียกคลื่นอัดขยายตามลักษณะการเคลื่อนไหวของอนุภาคตัวกลางที่ไมมีการหมุนตัวรอบแกน และ คลื่นอัด (compressional wave) เปนชื่อเรียกคลื่นอัดขยายที่เกิดจากแรงเคนอัด (compressional stress) กระทําตอตวักลางที่คลื่นเดินทางผานไป แลวทําใหเกิดการอัดและการขยายขึ้นในเนื้อของตัวกลาง

421. principal axes of strain แกนความเครยีดหลกั แกน๓ แกน ที่ตั้งฉากซึ่งกันและกันภายในวัตถุกอนเกิดการเปลี่ยนลักษณะ และเรียกอีกอยางหนึ่งวา แกนทรงรีความเครียด แกนความเครียดหลักที่ยาวที่สุด เรียก แกนความเครียดยาว และแกนความเครียดหลักที่สั้นที่สุด เรียก แกนความเครียดสั้น

422. principal axis of stress แกนความเคนหลกั แกนความเคนแกนใดแกนหนึ่งที่ตั้งฉากซึ่งกันและกัน ๓ แกน และตั้งฉากกับระนาบความเคนหลัก

Page 95: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

697

423. principal plane of stress ระนาบความเคนหลกั ระนาบความเคนใดระนาบหนึ่งที่ตั้งฉากซึ่งกันและกัน ๓ ระนาบ ซึ่งมีแรงมากระทํากับระนาบแบบตั้งฉาก โดยมีคาความเคนเฉือนเทากับศูนย ดู principal axis of stress ประกอบ

424. principal stress ความเคนหลกั ความเคนที่ตั้งฉากกับแตละระนาบหลัก ซึ่งมี ๓ ระนาบตั้งฉากซึ่งกันและกัน และตัดกัน ณ จุดใดจุดหนึ่งในวัตถุซึ่งมีความเคนเฉือนเทากับศูนย ความเคนหลักนี้ ไดแก ความเคนหลักมากสุด ความเคนหลักปานกลาง และความเคนหลักนอยสุด ดู mean stress ประกอบ

425. Priscoan พรสิโคน ชวงอายุยอยของพรีแคมเบรียนไดจากการหาอายุจากแรกัมมันตรังสี เปนชวงเวลาที่เกาแกที่สุดในตารางธรณกีาล ตั้งแตประมาณ ๔,๖๐๐ ถึง ๔,๐๐๐ ลานป เปนชวงเวลาที่เชื่อวาผิวของโลกอยูในสภาวะเหลวรอนกําลังจะแข็งตัว กลายเปนชั้นเปลือกโลก (crust) สถาบันทางธรณีวิทยาบางแหง เชน สถาบนัธรณีวิทยาแหงสหรัฐอเมริกา (USGS) เรียกชวงเวลาดังกลาวนี้วา ฮาเดียน (Hadean) 42/55

426. prism ปรซิึม รูปทรงที่มี สาม สี่ หก แปด หรือ สิบสองหนาขนานกับแกนเดียวกัน ตัดกันเปนเหลี่ยม และเปดเฉพาะหัวทาย (รอพิจารณาในการประชุมครั้งตอไป)

427. prism polarizers ปรซิึมโพลาไรเซอรส อุปกรณที่ใชในการสรางแสงโพลาไรส เพื่อใหแสงผาน

Page 96: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

698

แผนบางที่ศึกษาดวยกลองจุลทรรศน เกือบทั้งหมดผลิตจากแคลไซต ประกอบดวยอุปกรณ ๒ ชิ้น ซึ่งสามารถวางขวางหรือตั้งฉากกันได โดยมีโพลาไรเซอรที่วางอยูในตําแหนงหนา(ใต)วัตถุ และแอนาไลเซอรในตําแหนงหลัง(เหนือ)วัตถุ นิคอลปริซึมเปนตนแบบของอุปกรณนี้ แตเนื่องจากแคลไซตบริสุทธิ์ที่ใชในทางแสงมีราคาแพงมาก ในทุกวันนี้จึงมีการใชปริซึมที่ตัดแตงตางแบบแทน เชน Ahrens prism และ Glan-Thompson prism ดู Nicol prism ประกอบ

428. prismatic แบบแทง ๑. คําใชกับอนุภาคหรือเม็ดตะกอนที่มีความยาว ๑.๕ ถึง ๓ เทาของความกวาง ๒. หมายถึงคํา prism ในตะกอนวิทยา ๓. หมายถึงคํา prism ในผลิกศาสตร ๔. คําใชกับผลึกที่มีมิติหนึ่งยาวกวาอีก ๒ มิติอยางชัดเจน และยังใชกับลักษณะของหินแปรที่มีผลึกแรรูปรางแบบดังกลาว

429. prismatic layer ชัน้แทง ชั้นชั้นหนึ่งในมุกหรือไขมุก ประกอบดวยผลึกแรอะราโกไนตรูปแทงขนาดจิ๋วเรียงตัวกัน โดยมีแกนยาวของผลึกตั้งฉากกับผิวหนาของชั้นนั้น ดูรูปที่ conchiolin

430. pristane พรสิเทน ไอโซฟรีนอยสของไฮโดรคารบอนทั่วไปที่ประกอบดวยคารบอน ๑๙ อะตอม มีสูตรเคมี C19H40 พริสเทนตางจากไฟเทน ซึ่งพบไดทั้งในสิ่งมีชีวิตและในตะกอนรวมทั้งน้ํามันดิบ

Page 97: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

699

431. pristane/phytane ratio; Pr/Py ratio

อตัราสวนพรสิเทนตอไฟเทน

การเปรียบเทียบปริมาณของไอโซฟรีนอยสที่เปนพริสเทนและไฟเทน โดยอัตราสวนนี้แสดงถึงลักษณะของชุดลักษณอินทรีย (organic facies) และสภาวะแวดลอมของการตกตะกอน คาอัตราสวนที่นอยกวา ๑.๐ แสดงถึงหินตนกําเนิดที่เปนคารบอเนตหรือตะกอนทะเล คาอัตราสวนที่มากกวา ๔.๐ มาจากสารอินทรียบนบก

432. probable ore สนิแรนาจะเปน ๑. ดู indicated ore ๒. แหลงแรที่มีปริมาณสินแรใกลเคียงตอการพัฒนาได เพียงแตยังไมไดรับการพิสูจน

433. probable reserves ปริมาณสาํรองนาจะเปน ปริมาณสํารองที่ประเมินไดจากขอมูลทางธรณีวิทยาและวิศวกรรม ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งมีความเชื่อมั่นและความเปนไปไดในการผลิตนอยกวาปริมาณสํารองพิสูจนแลว คือมีความเชื่อมั่นรอยละ ๔๐-๘๐ เนื่องจากกฎระเบียบตาง ๆ หรือสภาพทางเศรษฐกิจ

434. problematic fossil ซากดกึดาํบรรพปญหา วัตถุธรรมชาติ โครงสราง หรือรอยในหิน ซึ่งมีลักษณะคลายซากดึกดําบรรพ แตไมสามารถสรุปไดวามีกําเนิดจากอินทรียสารหรือมีความสัมพันธกับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นใด ทําใหไมสามารถจัดเขาในหมวดหมูทางอนุกรมวิธานได มีความหมายเหมือนกับ dubiofossil ความหมายที่ ๒ ดู pseudofossil ประกอบ

435. producing horizon ชัน้ผลติ ดูคําอธิบายใน producing zone

Page 98: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

700

436. producing zone เขตชัน้ผลติ ชั้นหินทุกชั้นที่สามารถผลิตปโตรเลียมไดเมื่อมีการเจาะทะลุผานลงไป คํานี้มักใชผิดความหมายกับ producing horizon ซึ่งหมายถึง ชั้นหินชั้นเดียวที่ผลิตปโตรเลียมได ดู pay zone ประกอบ

437. production index ดัชนผีลผลติ คาที่ไดจากการวิเคราะหหินตนกําเนิดปโตรเลียมโดยเทคนิค Rock-Eval โดยใชอัตราสวนระหวางพีก S1 ตอผลรวมของพีก S1 และ S2 ( S1/(S1+S2)) ดัชนีนี้ใชเปนตัวบงชี้ภาวะสมบูรณของหินตนกําเนิดปโตรเลียมและแสดงปริมาณของไฮโดรคารบอน ในตัวอยางหินตนกําเนิดที่ไมสมบูรณจะมีดัชนีผลผลิตนอยกวา ๐.๑๐ ในตัวอยางที่สมบูรณจะมีคา ๐.๑๐-๐.๔๐

438. production test การทดสอบการผลติ การทดสอบหรือตรวจสอบศักยภาพในการผลิตปโตรเลียมของหลุม โดยปรกติจะทดสอบหลังการเตรียมหลุมผลิต

439. production well หลมุผลติ หลุมเจาะที่ใชผลิตปโตรเลียมโดยใชเทคนิคการไลน้าํมันเขาสูหลุมผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ดู injection well ประกอบ

440. profile ๑. โพรไฟล ๑.๑ แผนภาพหรือแผนผังแสดงใหเห็นโครงแบบหรือความลาดของพื้นดินตามแนวเสนที่ปรากฏบนระนาบตั้ง ซึ่งมักขยายมาตราสวนตามแนวตั้งเพิ่มขึ้น มีความหมายเหมือนกับ profile section ดู line of section ประกอบ

Page 99: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

701

๑.๒ กราฟแสดงการเปลี่ยนแปลงสมบัติอยางใดอยางหนึ่งเปรียบเทียบกับอีกสิ่งหนึ่ง เชน เสนกราฟแสดงการเปลี่ยนแปลงความโนมถวงกับระยะทาง ๑.๓ ในการสํารวจวัดคลื่นไหวสะเทือน หมายถึง ขอมูลที่กลุมของเครื่องรับคลืน่หลาย ๆ กลุมไดรับเมื่อจุดระเบิดที่ตําแหนงใดตําแหนงหนึ่ง

441. profile ๒. หนาตดัขาง แผนภาพสวนตัดในแนวดิ่งของภูมิประเทศ ดิน ระดับน้ําใตดิน หรือลําน้ํา เพื่อแสดงลักษณะจากบนสุดถึงลางสุด

442. profile of equilibrium; graded profile

หนาตัดขางสมดลุ ๑. (แมน้ํา) หนาตัดตามยาวของลําน้ําซึ่งทุกจุดของลําน้ํามีชั้นความลาดสมดุล ๒. (ชายฝง) ลักษณะของลาดชายฝงซึ่งมีปริมาณโคลน ทราย และกรวด ที่สะสมกันอยูไดดุลกับปริมาณที่ถูกทําใหเคลื่อนที่ออกไป

443. profile section ภาคตัดโพรไฟล ดู profile ๑

444. prograding shoreline แนวชายทะเลงอก แนวชายทะเลที่งอกยื่นออกไปในทะเลซึ่งเกิดจากการทับถมหรือการสะสมของตะกอน ดู retrograding shoreline ประกอบ

445. proloculum; proloculus หองแรกเกดิ ชองวางชองแรกภายในเปลือกของสัตวเซลลเดียวจําพวกฟอแรมซึ่งมีลักษณะขดเปนวง และชองวางภายในเปลือกมีผนังแบงแยกจากกันเปนหอง ๆ หองแรกเกิดมีขนาดเล็กที่สุด จะอยูตรงปลายยอดหรืออยูตรงจุดกึ่งกลางของวงก็ได

446. proparian ๑. –เหนอืมุมแกม คําที่ใชเกี่ยวของกับลักษณะของรอยตะเข็บบนสวนหัวของ

Page 100: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

702

ไทรโลไบต ดู facial suture ประกอบ

447. proparian ๒. -โพรพาเรียน คําที่ใชกับกลุมของไทรโลไบตที่มีรอยตะเข็บบนหนาเปนแบบรอยตะเข็บเหนือมุมแกม

448. proparian suture รอยตะเขบ็เหนือมุมแกม ดูคําอธิบายใน facial suture

449. proparian trilobite โพรพาเรยีนไทรโลไบต ไทรโลไบตที่มีรอยตะเข็บบนหนาเปนแบบรอยตะเข็บเหนือมุมแกม จัดอยูในอันดับโพรพาเรีย (order Proparia) ซึ่งปจจุบันอันดับนี้เลิกใชแลว ดู facial suture ประกอบ

450. property* สมบตัิ คุณลักษณะหรือลักษณะของสารซึ่งอาจจะวัดเชิงปริมาณได

451. proppant วสัดคุ้าํ วัสดุคัดขนาดและความกลมสูงที่ผสมกับของไหลสรางรอยแตกเพื่อใชในการเปดขยายรอยแตกใหคงตัว หลังจากการขยายรอยแตกดวยน้ํา วัสดุค้ํามีทั้งวัสดุธรรมชาติ เชน ทราย และวัสดุค้ําที่ทําขึ้น เชน เซรามิกหรือทรายที่เคลือบดวยเรซิน ดู hydraulic fracturing; hydrolic fracturing ประกอบ

452. proration สัดสวนการผลติ ๑. สัดสวนของการผลิตปโตรเลียมออกจําหนายในตลาดของแตละประเทศ ซึ่งเปนขอตกลงที่ยอมรับโดยองคกรรวมกัน เชน กลุมโอเปก ๒. การกํากับการผลติปโตรเลียมจากแหลงสํารองโดยหนวยงานของรัฐ ใหมีอัตราการผลิตในปริมาณที่เหมาะสม

Page 101: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

703

กับสภาพของแหลง เพื่อใหสามารถผลิตปโตรเลียมขึ้นมาใชไดมากที่สุดและไมทําใหแหลงปโตรเลียมเสียหายเร็วเกินควร ในประเทศไทย หนวยงานที่กํากับดูแลการผลิตคือ กรมทรัพยากรธรณี

453. prospect พืน้ทีศ่กัยภาพสงู ๑. พื้นที่ที่มีศักยภาพที่จะเปนแหลงแรโดยการศึกษาจากขอมูลการสํารวจขั้นตน ๒. พื้นที่ที่จะสํารวจดวยวิธีการทางเทคนิคบางอยาง เชน การสํารวจทางธรณีฟสิกส การสาํรวจทางธรณีเคมี ๓. พื้นที่ที่มีสภาพทางธรณีวิทยาหรือมีคาทางธรณีฟสิกส ผิดปรกติ และเสนอใหสํารวจเพิ่มเติม ๔. พื้นที่ที่ไดสํารวจดวยวิธีการขั้นตนแลวแตยังมีขอมูลหรือหลักฐานไมพอที่จะบอกไดวามีคุณคาทางเศรษฐกิจ ๕. พื้นที่ที่มีศักยภาพการสะสมตัวของปโตรเลียมสูงและมีขอมูลมากเพียงพอตอการกําหนดเปาหมายในการเจาะ ซึ่งเมื่อพบปโตรเลียมเชิงพาณิชยแลวจะเลื่อนระดับเปนแหลงปโตรเลียม ดู field ประกอบ

454. prospect pit หลมุสาํรวจ หลุม ปลอง หรืออุโมงค ที่ทําขึ้นในการสํารวจบริเวณที่มีแร

455. prospecting การสาํรวจ ดู exploration ความหมายที่ ๑ 21/56

456. Proterozoic โพรเทอโรโซอกิ หินบรมยุคชวงบนของพรีแคมเบรียนตามมาตรฐานมาตรา

Page 102: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

704

ลําดับชั้นหินตามอายุกาลทั่วโลก (Standard Global Chronostratigraphic Scale) อยูเหนือหินบรมยุคอารเคียนและอยูใตหินบรมยุคฟาเนอโรโซอิก ขอบเขตลางสุดกําหนดที่ ๒,๕๐๐ ลานป และขอบเขตบนสุดที่ ๕๔๑ ลานป 41/55

457. Proterozoic Eon บรมยคุโพรเทอโรโซอกิ บรมยุคปลายของชวงเวลากอนยุคแคมเบรียน มีชวงเวลาตั้งแต ๒๕,๐๐-๕๔๑ ลานปมาแลว พบสัตวหลายเซลล เชน ฟองน้ํา ไทรโลไบต ในบรรยากาศมีออกซิเจนมากขึ้น ดู geologic time scale ประกอบ 40/55

458. prothallus โพรแทลลสั แกมีโทไฟตของเฟรนหรือพืชพวกเฟรน โดยปรกติมีโครงสรางแบนคลายแทลลัส เกาะยึดติดอยูกับพื้นดิน คําพหูพจนของ prothallus คือ prothalli ดู thallus ประกอบ

459. Protochrodata โพรโทคอรดาตา ชื่อไฟลัมยอยของสัตวกลุมที่มีแกนสันหลัง (notochord) ในบางชวงของชีวิต โดยแกนสันหลังไมพัฒนาเปนโครงกระดูกหรือลํากระดูกสันหลัง (spinal column) สัตวกลุมนี้จัดอยูระหวางสัตวไมมีกระดูกสันหลังกับสัตวมีกระดูกสันหลัง เดิมโพรโทคอรดาตาแบงออกเปน ๒ ไฟลัมยอย คือ ไฟลัมยอยเฮมิคอรดาตา (subphylum Hemichordata) กับ

Page 103: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

705

ไฟลัมยอยทูนิคาตา (subphylum Tunicata) ภายหลังไดจัดจําแนกใหมโดยแยกไฟลัมยอยทูนิคาตาไปอยูในไฟลัมคอรดาตาและเปลี่ยนชื่อเปนไฟลัมยอยยูโรคอรดาตา (subphylum Urochordata) แทน พรอมยกไฟลัมยอยเฮมิคอรดาตาเปนไฟลัมเฮมิคอรดาตา สวนโพรโทคอรดาตาใหไปเปนไฟลัมยอยในไฟลัมคอรดาตา โดยใหเปนชื่อรวมไมเปนทางการของไฟลัมยอยยูโรคอรดาตาและไฟลัมยอยเซฟาโลคอรดาตา ดู Chordata ประกอบ

460. protoconch เปลอืกตวัออน ๑. เปลือกซึ่งตัวออนของหอยเซฟาโลพอดไดสรางขึ้นเปนครั้งแรก เปลือกนี้อาจคงสภาพใหเห็นหรือไมก็ได ดังนั้นคํานี้จึงมักหมายถึงหองแรกสุดของเปลือกหอยเซฟาโลพอด ๒. เกลียวที่ปลายยอดของเปลือกหอยกาบเดี่ยวซึ่งตัวออนของหอยพวกนี้ไดสรางขึ้น เกลียวที่สรางขึ้นเปนครั้งแรกนี้จะมีลักษณะผิวเรียบ

461. protodolomite โพรโทโดโลไมต ๑. ผลึกแคลเซียมแมกเนเซียมคารบอเนตหรือโดโลไมตที่มีโครงสรางไมเปนระเบียบ มีไอออนโลหะเกิดในชั้นของผลึกเดียวกัน แทนที่จะเกิดสลับชั้นเหมือนกับที่เกิดในแรโดโลไมตปรกติ ๒. วัสดุที่สังเคราะหที่เกิดจากการตกผลึกไมสมบูรณ มีสวนประกอบคลายแรโดโลไมต

462. protolith หินดัง้เดมิ ๑. หินเดิมกอนที่จะถูกแปรสภาพเปนหินแปร มีความหมาย

Page 104: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

706

เหมือนกับ parent rock ความหมายที่ ๓๒. มวลหินที่ยังไมผุพังซึ่งเปนตนกําเนิดของผิวเปลือกโลก ดู regolith ประกอบ

463. proton-resonance magnetometer

โปรตอน-เรโซแนนซแมกนิโทมเิตอร

เครื่องมือวัดความเขมสนามแมเหล็กรวมซึ่งอาศัยหลักการของนิวเคลียรแมกเนติกเรโซแนนซ ที่โปรตอนทําหนาที่เปนแทงแมเหล็กขนาดเล็กหมุนรอบแกนแมเหล็กของตัวเอง เมื่อใหสนามแมเหล็กจากภายนอกที่มีความเขมสูง ๆ เขาไปในแนวตั้งฉากกับสนามแมเหล็กรวมแลวหยุดทันที โปรตอนจะคอย ๆ ปรบัตัวแลวมีแนวทางการหมุนแกวงแบบลูกขาง รอบแนวแกนสนามแมเหล็กรวมดวยความถี่ของการหมุนแกวงที่เรียกวา ความถี่ลารมอร ซึ่งเปนปฏิภาคกับความเขมสนามแมเหล็กรวม การวัดความถี่ลารมอรของโปรตอนออกมาทําใหสามารถหาขนาดความเขมสนามแมเหล็กรวมได เครื่องมือนี้ใชวัดความเขมสนามแมเหล็กไดทั้งบนบก ในทะเลและทางอากาศ โดยวัดไดละเอียดถึง ๑ แกมมา บางแบบวัดไดถึง ๐.๕ แกมมา

464. protoquartzite หินโพรโทควอรตไซต หินทรายชนิดหนึ่ง ประกอบดวยเม็ดที่ขนาดใกลเคียงกันแตไมมีความกลมมนเหมือนในหินออรโทควอรตไซต ตามองคประกอบจัดเปนหินทรายเนื้อเศษหินที่มีสวนประกอบอยูระหวางหินซับเกรยแวก (subgraywacke) กับหินออรโทควอรตไซต มักพบมีรูปรางแบบแนวชั้นทราย ดู orthoquartzite และ shoestring sand ประกอบ

Page 105: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

707

465. prototype ตนแบบเดมิ รูปแบบดั้งเดิมที่เกาแกที่สุดของกลุมสิ่งมีชีวิตในสายพันธุนั้น ๆ ซึ่งบรรพบุรุษไดถายทอดไปยังลูกหลานรุนตอมา

466. proved area พืน้ทีพ่ิสจูนทราบ จํานวนพื้นที่โดยรวมบนพื้นผิวซึ่งครอบคลุมบริเวณที่กําหนดวามีปริมาณสํารองที่พิสูจนแลวจากการเจาะสํารวจ ทั้งนี้อาจรวมพื้นที่ผิวที่รวบรวมเอาขอบเขตของพื้นที่ที่มีการพิสูจนแบบคาดคะเนของแหลงขางเคียงดวย เชน แหลงปโตรเลียม แหลงแร

467. proved developed reserves

ปริมาณสาํรองผลติได ปริมาณสํารองเชนปโตรเลียมที่พิสูจนวาสามารถผลิตไดจากหลุมเจาะที่มีอยูแลว โดยวิธีการและเครื่องมือที่มีอยู ดู proved undeveloped reserves ประกอบ

468. proved ore สนิแรพสิจูนแลว ดู proved reserves

469. proved reserves ปริมาณสาํรองพิสจูนแลว ปริมาณสํารองของทรัพยากร เชน แร ปโตรเลียม ที่พิสูจนวาจะสามารถทําเหมืองหรือผลิตได มีความหมายเหมือนกับ proved ore

470. proved undeveloped reserves

ปริมาณสาํรองพิสจูนยงัไมพัฒนา

ปริมาณสํารองเชนปโตรเลียมที่อาจผลิตไดจากการเจาะหลุมเกาลึกลงไป หรือโดยใชเทคนิคการเพิ่มผลผลิต หรือจากหลุมเจาะใหมในอนาคต ดู proved developed reserves ประกอบ

471. provenance แหลงตนกาํเนดิ สถานที่กําเนิดซึ่งเปนที่มาขององคประกอบในหินตะกอนหรือชุดลักษณของหินตะกอน อาจหมายถึงหินในพื้นที่นั้น

472. provincial series หินสมยัระดับทองถิน่ ชุดของชั้นหินซึ่งเปนที่รูจักกันในบริเวณเฉพาะที่ใดที่หนึ่ง ที่นําไปสูการแบงเวลาสวนใหญภายในยุค

Page 106: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

708

(รอหารือนางเบ็ญจา เสกธีระ)

473. provincial species ชนิดระดบัทองถิน่ ชนิดที่จํากัดขอบเขตในแดนภูมิศาสตร หรือนิเวศวิทยา

474. proximal -สวนตน ๑. คําที่ใชกับแหลงสินแรที่อยูใกลกับภูเขาไฟตนกําเนิด ๒. คําที่ใชกับแหลงสะสมตะกอนที่เกิดใกลกับแหลงกําเนิด ทําใหตะกอนในแหลงสะสมมีขนาดเม็ดหยาบ ๓. สวนของสิ่งมีชีวิตซึ่งจัดเปนสวนที่อยูใกลหรืออยูถัดจากจุดเริ่มตนหรือศูนยกลางการเจริญเติบโตของโครงรางสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ มากที่สุด ดู distal ประกอบ

475. proximate analysis การวิเคราะหขัน้ตน การวิเคราะหหาสวนประกอบขั้นพื้นฐานของสารผสมเปนรอยละ เชน ในการวิเคราะหถานหินขั้นพื้นฐาน โดยหาปริมาณความชื้น สารระเหย เถา และคารบอนคงที่

476. psephite* หินเซไฟต กรวดหรือหินชั้นที่ประกอบดวยชิ้นหินชนิดตาง ๆ ที่มีขนาดใหญกวาเม็ดทรายและมีปริมาณตาง ๆ กนัฝงอยูในเนื้อพื้น (matrix) เชน หินกรวดมน หินกรวดเหลี่ยม กรวด หินทิลไลต กรวดเม็ดใหญ (shingle) มีความหมายเหมือนกับ rudite

477. pseudo cross-bedding การวางชัน้เฉยีงระดบัเทียม

๑. การวางชั้นเอียงที่เกิดจากการสะสมตะกอนตามแนวที่รอยริ้วคลื่นเคลื่อนที่ไป และมีลักษณะเฉพาะของชั้นลาดแนวดินดอนที่มีมุมเทไปทางเดียวกับกระแสน้ํา ๒. การวางตัวของชั้นหินที่ทําใหโครงสรางมีลักษณะคลายชั้นเฉียงระดับ เกิดจากการเลื่อนไถลและเลื่อนถลมลงมาของ

Page 107: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

709

มวลตะกอนที่ยังไมแข็งตัวเปนหิน14,15/56

478. pseudo ripple mark รอยริ้วคลืน่เทียม โครงสรางในหินที่มีลักษณะคลายรอยริ้วคลื่น เกิดจากการแปรเปลี่ยนลักษณะของหิน ไมไดเกิดจากกระแสน้ําหรือคลื่นบนพื้นทองน้ํา แตเกิดจากแรงดันดานขางเนื่องจากการเลื่อนไถล หรือจากการแปรสัณฐานที่เกิดขึ้นในบริเวณแคบ ๆ เฉพาะถิ่น

479. pseudoallochem ตะกอนเคมตีางถิน่เทยีม วัสดุคลายตะกอนเคมีตางถิ่นแตเกิดอยูกับที่ภายในตะกอนคารบอเนต โดยกระบวนการทุติยภูมิ เชน การตกผลึกใหม 42/55

480. pseudobreecia หินกรวดเหลีย่มเทยีม หินปูนที่ถูกแทนที่ดวยแรโดโลไมตบางสวน มีลักษณะลายพรอยคลายหินกรวดเหลี่ยม หรือมีพื้นผิวที่ผุสลายดูคลายกับชิ้นสวนแตกหัก อันเปนผลจากมวลแรแคลไซตเนื้อหยาบเจริญเติบโตตกผลึกใหมเปนหยอม ๆ ในโคลนเนื้อปูนสีออนกวาและถูกแปรเปลี่ยนนอย

481. pseudoconglomerate หินกรวดมนเทียม หินที่มีลักษณะคลายหินชั้นหรือหินตะกอนพวกหินกรวดมน เชน หินกรวดมนที่ถูกบดอัดหรือมวลรวมของหินมนใหญเนื่องจากการผุสลายตัวอยูกับที่แบบทรงกลม

482. pseudofossil ซากดกึดาํบรรพเทียม วัตถุธรรมชาติ โครงสราง หรือแร ซึ่งมีกําเนิดจากอนนิทรียสาร แตอาจคลายกบัซากดึกดําบรรพหรือทําใหเขาใจผิดวาเปนซากดึกดําบรรพ ดู problematic fossil ประกอบ

483. pseudomorph สณัฐานเทยีม รูปรางภายนอกของผลึกแรที่ยังคงสภาพเดิม โดยโครงสราง

Page 108: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

710

ภายในหรือองคประกอบทางเคมีของผลึกแรนั้นถูกแปรเปลี่ยนไป เชน ไพไรต (FeS2) อาจเปลี่ยนองคประกอบ

ทางเคมีและโครงสรางเปนไลมอไนต (FeO.OH.nH2O) แตยังคงรักษารูปรางภายนอกของไพไรตไว โดยทั่วไปสัณฐานเทียมยังมีความหมายครอบคลุมถึงลักษณะการเกิดตาง ๆ ดังนี้ ๑. การแทนที่โดยไมเกิดปฏิกิริยาทางเคมี เชน ซิลิกาเขาไปแทนที่เสนใยไมเปนไมกลายเปนหิน ควอตซแทนที่โครซิโดไลต ดู silicified wood; agatized wood; opalized wood; petrified wood; woodstone ประกอบ ๒. การเกิดแรรอบพื้นผิวแรอื่น เชน ควอตซเกิดรอบผลึกฟลูออไรต ตอมาฟลูออไรตจะละลายไปเหลือแตรูปพิมพอยูภายในควอตซ ๓. การแปรเปลี่ยนองคประกอบทางเคมีบางสวน เชน แอนไฮไดรต (CaSO4) เปลี่ยนเปนยิปซัม (CaSO42H2O) กาลีนา (PbS) เปลี่ยนเปนแองกลีไซต (PbSO4) ไพไรต (FeS2) เปลี่ยนเปนไฮดรัสออกไซด เชน ไลมอไนต

(FeO.OH.nH2O)

484. pseudomorphism ภาวะสณัฐานเทียม ๑. (ผลิกศาสตร) การที่รูปรางของแรชนิดหนึ่งมีรูปผลึกภายนอกเปนของแรอีกชนิดหนึ่ง

Page 109: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

711

๒. ดูคําอธิบายใน pseudomorph

485. pseudo-oolith; pseudoolith; false oolith

เม็ดคลายไขปลา เม็ดกลมเล็ก ๆ ที่พบในหินตะกอน ปรกติมีขนาดเสนผานศูนยกลางนอยกวา ๑ มิลลิเมตร ลักษณะภายนอกทั้งขนาดและรูปรางเหมือนกับเม็ดแบบไขปลา (oolith) แตลักษณะภายในเปนเนื้อแบบอสัณฐาน เนื้อจุลผลึก หรือเนื้อจุรณผลึก ไมมีโครงสรางแบบรัศมีหรือแบบวงชั้น กําเนิดแบบทุติยภูมิ ตัวอยางเชน เม็ดมูลสัตว (fecal pellet) เม็ดแคลไซตแบบขี้หนอน เศษเปลือกหอย เม็ดกลอโคไนด หรือเม็ดแบบไขปลาที่ผิวนอกโดยรวมถูกกรอนไปหรือถูกแทนที่ ดู oolitoid และ ooid ประกอบ

486. pseudoplankton; epiplankton

แพลงกตอนเทียม ดู epiplankton; pseudoplankton

487. pteridophyte พชืพวกเฟรน, เทอรโิดไฟต

พืชที่มีทอลําเลียงน้ําและอาหาร มีลักษณะคลายเฟรน แพรพันธุโดยสปอร พืชในกลุมนี้ที่ปรากฏขึ้นในยุคดีโวเนียน ไดแก ไลโคพอด (lycopod) หางมา (horsetail) scouring rush และเฟรน ดู bryophyte, spermatophyte และ thallophyte ประกอบ

488. pterodactyl เทโรแดกทิล ๑. สัตวเลื้อยคลานบินได จัดอยูในอันดับยอยเทโรแดกทิลอยเดีย (suborder Pterodactyloidea) ของอันดับเทโรซอเรีย (order Pterosauria) มีลักษณะที่กาวหนากวาอันดันยอยแรมโพไรนคอยเดีย (suborder

Page 110: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

712

Rhamphorhynchoidea) เทโรแดกทิลมีลักษณะเฉพาะคือ มีหางที่ลดขนาดลง ฟนลดขนาดลงจนหายไป แตรูปรางจะมีขนาดใหญขึ้น มีชวงอายุยุคจูแรสซิกตอนกลางถึงยุคครีเทเชียสตอนปลาย ๒. คําทั่วไป ใชเรียกสัตวในกลุมเทโรซอร

489. pteropod เทโรพอด สัตวไมมีกระดูกสันหลังจําพวกหอยกาบเดี่ยว จัดอยูในอันดับเทโรโพดา (order Pteropoda) อาศัยอยูในน้ําเค็ม มีทั้งพวกที่สรางเปลือกดวยสารอะราโกไนตมีลักษณะเปนแบบกรวยยาว และพวกที่ไมสรางเปลือก อวัยวะที่ใชเดินพัฒนาเปนครีบแบบปกเพื่อใชชวยในการวายน้ํา ดูรูปประกอบ

490. pteropod ooze* เลนเทโรพอด เลนพื้นทองทะเลชนิดหนึ่งซึ่งมีตะกอนละเอียดของเปลือกหอยตาง ๆ ในตระกูลเทโรพอด (pteropods) เปนจํานวนมาก มีแคลเซียมคารบอเนตประกอบอยูดวยมากกวารอยละ ๓๐ เลนชนิดนี้มีอยูในบริเวณจํากัดเปนแหง ๆ สวนมากมีอยูในยานมหาสมุทรแอตแลนติก

491. pterosaur เทโรซอร สัตวเลื้อยคลานโบราณ จัดอยูในอันดับเทโรซอเรีย ( order Pterosauria) ซึ่งไดพัฒนารูปรางจนสามารถบินได มีลักษณะเฉพาะคือ นิ้วที่สี่มีขนาดยาวมากใชสําหรับพยุงแผนปก มีลักษณะเปนแผนหนังเชื่อมตอระหวางนิ้วกับดานขางของลําตัว ขาคูหลังมีขนาดลดลง มีชวงอายุตั้งแตยุคไทรแอสซิกตอนปลายถึงยุคครีเทเชียสตอนปลาย มี

Page 111: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

713

ความหมายเหมือนกับ pterodactyl ความหมายที่ ๒

492. Pterosauria เทโรซอเรยี ชื่ออันดับของสัตวเลื้อยคลานโบราณที่บินได แบงออกเปน ๒ อันดับยอยคือ อันดับยอยเทโรแดกทิลอยเดีย (suborder Pterodactyloidea) ซึ่งมีลักษณะที่กาวหนากวา และอันดับยอยแรมโพไรนคอยเดีย (suborder Rhamphorhynchoidea) ซึ่งมีลักษณะที่โบราณกวา

493. pumice* หินพัมมิซ หินแกวภูเขาไฟชนิดหนึ่งซึ่งมีฟองแกสเล็ก ๆ อยูในเนื้อมากมายจนโพรกคลายฟองน้ํา มีสวนประกอบเหมือนหินไรโอไลต เนื่องจากมีเนื้อพรุนมาก จึงมีน้ําหนักเบา ลอยน้ําได เรียกวา หินลอยน้ํา ใชขัดถูภาชนะดีทําใหผิวภาชนะวาว ชาวบานเรียกวา หินสม

494. pumping test การทดสอบปริมาณน้าํ วิธีการทดสอบปริมาณน้ําบาดาลโดยทดลองสูบน้ําจากบอน้ําบาดาลดวยอัตราการสูบที่คงที่และสังเกตการเปลี่ยนแปลงระดับแรงดันน้ําในชั้นน้ําบาดาลที่เกิดขึ้น การทดสอบนี้ใชหาความสามารถในการใหน้ําของบอน้ําบาดาลและสมบัติทางชลศาสตรของชั้นน้ําบาดาล ดู aquifer ประกอบ 2/56

495. P–wave; primary wave คลืน่ปฐมภมูิ ดู primary wave; P–wave

496. pycnocline ลาดความหนาแนน ๑. ระดับที่อัตราการเปลี่ยนความหนาแนนของชั้นน้ําในมหาสมุทรลดลงอยางฉับพลันระหวางชั้นน้ําสวนบนกับชั้น

Page 112: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

714

น้ําสวนลาง ดู thermocline ประกอบ ๒. ชั้นน้ําในมหาสมุทร ซึ่งความหนาแนนของน้ําไดเปลี่ยนแปลงไปอยางรวดเร็ว ตามระดับความลึกรอสอบถาม นายสมชาย พุมอิ่ม เรื่องอัตราการเปลี่ยนความหนาแนน ในขอ ๑ เนื่องจากไมสอดคลองกับรูป ถาพิจารณาจากรปูนาจะ “เพิ่มขึ้น” จงึสงสัยวาเปน “อัตราการเปลี่ยน” หรือ “การเปลี่ยน”

497. pygidium สวนหาง สวนทายที่ตอจากลําตัวของสัตวไมมีกระดูกสันหลัง โดยเฉพาะพวกไทรโลไบต ประกอบดวยปลองหลาย ๆ ปลองที่เชื่อมตอกัน ดูรูปประกอบ

498. pyramid พรีะมดิ รูปทรงที่มี สาม สี่ หก แปด หรือ สิบสองหนาที่ไมขนานกันพบกันที่จุดหนึ่ง

499. pyritization การเกิดไพไรต ๑. กระบวนการแปรเปลี่ยนเนื่องจากน้ํารอนแบบหนึ่งซึ่งเกี่ยวของกับการตกผลึกของแรไพไรต โดยปรกติเกิดในหินทองที่ที่มีเหล็กสูง เชน หินบะซอลต ๒. กระบวนการที่ซัลเฟต (SO42–) ในน้ําทะเลจะถูกลดออกซิเจน โดยจุลินทรียที่ชื่อวา Desulfovibrio sp. เปลี่ยนซัลเฟตใหเปนซัลไฟด (S2–) และทําปฏิกิริยากับสารประกอบของเหล็กกลายเปนเฟอรัสซัลไฟด (FeS) ซึ่งตอไปจะกลายเปนเฟอรัสไดซัลไฟด (FeS2) หรือแรไพไรต

500. pyrobitumen ไพโรบิทเูมน สารประกอบตามธรรมชาติของไฮโดรคารบอนซับซอน มีสีดํา แข็ง มักมีแรอื่น ๆ ปนอยูดวย ไมละลายในน้ําและไม

Page 113: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

715

ละลายในสารละลายอินทรีย ไพโรบิทูเมนมีอัตราสวนไฮโดรเจนตอคารบอนนอยกวา ๐.๕๓

501. pyroclast เศษชิน้ภเูขาไฟ เศษชิ้นที่ถูกพนออกมาในขณะภูเขาไฟระเบิด การจําแนกชนิดใชขนาดของเศษชิ้นภูเขาไฟนั้น ๆ 13/56

502. pyroclastic -ตะกอนภเูขาไฟ คําที่ใชเกี่ยวกับตะกอนที่ไดจากการระเบิดของภูเขาไฟ หรือที่ภูเขาไฟพนออกมาจากชองเปดภูเขาไฟ (volcanic vent) และหมายรวมถึงเนื้อของหินที่มีกําเนิดมาจากการระเบิดของภูเขาไฟ 13/56

503. pyroclastic breccia หินกรวดเหลีย่มตะกอนภูเขาไฟ

ดู explosion breccia; eruption breccia

504. pyrolysis การแยกสลายดวยความรอน

กระบวนการกลั่นสลายองคประกอบตาง ๆ ในถานหิน ไม ปโตรเลียม หรือสารอินทรียอื่นๆ ดวยความรอนที่มีอากาศอยูดวย

505. pyroxenite* หินไพรอกซไีนต หินอัลตราเมฟกเนื้อหยาบ ประกอบดวยไพรอกซีนเปนสวนใหญ มีฮอรนเบลนด ไบโอไทต หรือโอลิวีนบาง

506. pyroxenoid แรคลายไพรอกซีน แรที่มีองคประกอบคลายไพรอกซีน แตโครงสรางอยูในระบบสามแกนเอียง มีซิลิกาทรงสี่หนาตอกันเปนวง ตัวอยางเชน โวลลาสโทไนต โรโดไลต เพกโทไลต

507. Q-joint แนวแตกแบบควิ แนวแตกที่ตัดขวางโครงสรางการไหล

508. quaking bog พรกุระเพือ่ม ดู floating bog

509. quarry เหมอืงหนิ บริเวณพื้นที่หรือหนางานของเหมืองเปดที่มีการนําแร หิน ดิน ทราย ออกมาใชประโยชน โดยการขุดเจาะ ระเบิด

Page 114: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

716

หรือตัก

510. quarter section สวนเสีย้ว สวนที่มีขนาดพื้นที่ ๑๖๐ เอเคอร มีการเรียกชื่อเปนสวนตะวันออก เฉียงเหนือ สวนตะวันตกเฉียงเหนือ สวนตะวันออกเฉียงใต และสวนตะวันตกเฉียงใต

511. quarternary system ระบบจตัรภุาค ระบบที่มี ๔ องคประกอบ เชน ระบบ CaO-MgO-FeO-SiO2 หรือ Sn-Ag-Cu-Ni

512. quarter-quarter section สวนในสบิหก สวนที่มีขนาดพื้นที่ ๑ ใน ๑๖ สวน ปรกติมีขนาดพื้นที่ ๔๐ เอเคอร

513. quartz crystal ผลกึควอตซ ควอตซที่มีผลึกโปรงใสหรือเกือบใส มักไมมีสี มีคาดรรชนีหักเหต่ําเปนผลใหมีคาความจา (brilliance) ต่ํา ใชทําเลนซ ลิ่ม และปริซึมในอุปกรณเกี่ยวกับแสงและอิเล็กทรอนิกส ใชทําลูกปดหรือเครื่องประดับ ดู quartz ประกอบ มีความหมายเหมือนกับ rock crystal

514. quartz index ดรรชนคีวอตซ ๑. (ศิลาวิทยา) การจาํแนกหินของระบบนิกกลิ ที่ใชปริมาณของควอตซซึ่งอาจมีคาเปนบวกหรือลบ และคานี้ใชบงชี้วาหินนั้นมีความอิ่มตัวของซิลิกาเพียงใด ปจจบุันไมคอยนิยมใช ๒. (วิทยาตะกอน) การวัดภาวะสมบูรณของแรในหินทราย ซึ่งแสดงดวยอัตราสวนระหวางรอยละของควอตซรวมกับ

Page 115: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

717

หินเชิรต กับรอยละของโซเดียมและโพแทสเซียมเฟลดสปารรวมกับเศษหินและเนื้อพื้นพวกเคลย ดรรชนีควอตซนี้ใชเปนพื้นฐานในการประเมินระดับการผุสลายตัวของหิน แหลงกําเนิด และระยะเวลาที่ตะกอนถูกนําพามา คาดรรชนีควอตซของหินทรายอยูระหวาง ๓-๑๙

515. quartz monzonite หินควอตซมอนโซไนต ดู adamellite

516. quartz plate; quartz wedge

แผนลิม่ควอตซ ดู quartz wedge; quartz plate

517. quartz porphyry หินเนือ้ดอกควอตซ หินอัคนีพุหรือหินอัคนีระดับตื้นที่ประกอบดวยผลึกดอกของควอตซและแอลคาไลเฟลดสปาร ในเนื้อพื้นของพวกเนื้อจุลผลึกหรือเนื้อจุรณผลกึ เชน หินไรโอไรต ดู granite porphyry ประกอบ

518. quartz trachyte* หินควอตซแทรไคต ดูคําอธิบายใน rhyolite

519. quartz wedge แผนลิม่ควอตซ อุปกรณเสริมที่ใชในกลองจุลทรรศนโพลาไรส ทําดวยแผนลิ่มควอตซ มีความหนาขนาดที่เมื่อแสงสีขาวหรือสีเหลืองผานจะใหสีแทรกสอดสีเทาอันดับที่ ๔ และใหผลตางเฟสตั้งแตอันดับสี ๐-๔ ดังนั้นเมื่อสอดแผนลิ่มควอตซในกลองจุลทรรศนแลว จะเห็นสีแทรกสอดเคลื่อนเปนลําดับชั้นตามความหนาของรูปลิ่ม ดู gypsum plate และ mica plate ประกอบ

520. quartzarenite หินควอตซอารไีนต ๑.หินทรายชนิดหนึ่งที่ประกอบดวยเม็ดควอตซมากกวารอย

Page 116: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

718

ละ ๙๕ (ไมรวมเศษหินเชิรต) มีแรดินนอย ไมคํานึงถึงการคัดขนาด ความมน และความแข็ง ตามการจําแนกของ Folk (1968) แตการจําแนกของ McBride (1963) ไดรวมเศษหินเชิรตและเศษหินควอรตไซตในรอยละ ๙๕ ดวย ๒. หินทรายที่ประกอบดวยเม็ดควอตซ เศษหินเชิรต และเศษหินควอรตไซต มากกวารอยละ ๘๐ และมีแรดิน เฟลดสปาร และเศษหินขนาดเล็กที่ไมเสถียรนอยกวารอยละ ๑๐ ตามการจําแนกของ William, et al (1954) มีความหมายเทียบไดกับ orthoquartzite

521. quartzic; quartziferous -มคีวอตซ ดู quartziferous; quartzic

522. quartziferous; quartzic -มคีวอตซ คําที่ใชกับหิน เชน หินปูนหรือหินไซอิไนต ที่มีควอตซเปนองคประกอบรอง เพื่อใชจําแนกออกจากหินชนิดเดียวกันที่ไมมีควอตซเปนองคประกอบ ดู quartzose; quartzous; quartzy ประกอบ

523. quartzite* หินควอตไซต หินแปรชนิดหนึ่งประกอบดวยควอตซเปนสวนใหญ เปนผลมาจากหินทรายถูกแปรสภาพไป

524. quartzose; quartzous; quartzy

-ประกอบดวยควอตซ คําที่ใชกับตะกอนและหินตะกอนที่มีควอตซเปนองคประกอบสําคัญ เชน ตะกอนทรายและหินทรายที่ประกอบดวยควอตซเปนสวนใหญ ดู quartziferous; quartzic ประกอบ

525. quartzous; quartzose; -ประกอบดวยควอตซ ดู quartzose; quartzous; quartzy

Page 117: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

719

quartzy

526. quartzy; quartzose; quartzous

-ประกอบดวยควอตซ ดู quartzous; quartzose; quartzy

527. Quaternary ควอเทอรนารี หินยุค (system) ตอนบนสุดของหินมหายุคซีโนโซอิกตามมาตรฐานมาตราลําดับชั้นหินตามอายุกาลทั่วโลก (Standard Global Chronostratigraphic Scale) อยูเหนือหินยุคนีโอจีน รวมทั้งเวลาที่หินยุคนี้สะสมตัว มีชวงเวลาครอบคลุมตั้งแต ๒.๕๘๘ ลานปจนถึงปจจุบนั ดู Quaternary Period ประกอบ 41/55

528. Quaternary Period ยคุควอเทอรนารี ยุคที่ ๓ ของมหายุคซีโนโซอิก มีชวงอายุตั้งแต ๒.๕๘๘ลานปมาแลว แบงออกไดเปน ๒ สมัย คือ สมัยไพลสโตซีนกับสมัยโฮโลซีน ยุคนี้ไดประมวลเหตุการณทางธรณี การเกิดหิน ตลอดจนการสะสมของตะกอนพื้นผิว นับตั้งแตสิ้นยุคนีโอจีนเรื่อยมาจนถึงปจจุบัน หินที่เกิดในยุคนี้เรียกวา หินยุคควอเทอรนารี (Quaternary System) ดู geologic time scale ประกอบ 40/55

529. quebrada เกบราดา ทางน้ําหรือโกรกธารที่แหงในฤดูแลง แตในฤดูฝนมีน้ํามาก กระแสน้ําไหลแรงดวยความเร็วสูง quebrada มาจากภาษาสเปน เปนคําที่ใชกันทางภาคตะวันตกเฉียงใตของ

Page 118: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

720

สหรัฐอเมริกา530. quick sand* ทรายดดู ๑. มวลหรือชั้นของทรายละเอียดรวนซุย และโชกน้ํา มี

ลักษณะไมอยูตัว เมื่อมีของหนักกดทับของนั้นจะจมลงไปไดงายเกือบคลายจมน้ํา มักพบตามริมฝงทะเล ริมฝงแมน้ํา และบริเวณปากแมน้ําที่เปนทรายบางแหง มีความหมายเหมือนกับ running sand ๒. ทรายที่พบในชั้นของทรายดูด ๓. พื้นที่ที่มีชั้นของทรายดูดตั้งแต ๑ ชั้น ขึ้นไป

531. quicksilver ควกิซลิเวอร คําที่ใชกับธาตุปรอทซึ่งเกิดตามธรรมชาติ หรือที่ไดจากการทําเหมือง แตยังไมไดนํามาใชประโยชน

532. R layer ชัน้อาร ชั้นหินแข็งที่ยังไมมีการผุพังสลายตัว ลักษณะสําคัญที่จะถือวาเปนชั้นอารคือ จะตองเปนชั้นที่เชื่อมติดแนน ขุดไมเขา ดูรูปที่ soil horizon

533. R/W Interglacial ชวงคัน่ริสส/วรืม ดู Eemian

534. race ๑. รองน้าํเชีย่ว ชองแคบ ๆ หรือรองน้ําแคบ ๆ ทําใหน้ําที่ไหลผานรองนี้มีความเร็วสูงมาก

535. race ๒. กระแสน้าํเชีย่ว กระแสน้ําไหลเชี่ยวและรุนแรงผานชองแคบ ๆ หรือรองน้ําแคบ ๆ สวนใหญใชกับกระแสน้ําขึ้นลง

536. race ๓. ลาํราง รางน้ําที่ขุดไวเพื่อนําน้ําไปยังโรงแตงแร หรือพื้นที่เกษตรกรรม

537. race ๔. เผาพนัธุ, ชาติพนัธุ กลุมของสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคลายกัน แตมีความแตกตางไมเดนชัดพอที่จะแบงเปนชนิดหรือชนิดยอย

538. radar เรดาร อุปกรณสําหรับตรวจหาทางอิเล็กทรอนิกส ใชหาตําแหนง

Page 119: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

721

หรือวัตถุที่อยูไกลออกไป โดยการวัดความตางกันของเวลาเดินทางของคลื่นแมเหล็กไฟฟาความถี่สูงมากที่สงออกไปจากเครื่องสง และเกิดการสะทอนกลับจากวัตถุ ทําใหหาระยะทาง ทิศทาง ความสูง และลักษณะอื่น ๆ ของวัตถุนั้นได ความมืดไมเปนอุปสรรคตอการใชเรดาร แตความชื้นที่เกิดจากหมอก หิมะ ฝน หรือเมฆหนา อาจทําใหพลังงานคลื่นแมเหล็กไฟฟาลดลงหรือเกิดการสะทอนกลับขึ้นได

539. radial dipole-dipole array

แถวลาํดบัสองขัว้คูแนวรศัม ี

รูปแบบการจัดวางขั้วไฟฟา โดยมีขั้วกระแสไฟฟาวางตัวในแนวหนึ่ง และขั้วศักยไฟฟาอยูหางออกไปในแนวรัศมี โดยเสนลากตอระหวางขั้วศักยไฟฟาทํามุม � กับเสนลากตอระหวางขั้วกระแสไฟฟาตรงจุดกึ่งกลาง และจุดกึ่งกลางของแนวเสนทั้งสองหางกันเปนระยะทาง r ดังรูป

540. radial drainage pattern* แบบรปูทางน้าํรศัมี แบบรูปทางน้ําที่มีทิศทางการไหลของน้ําออกจากศูนยกลางมีลักษณะเปนรูปรัศมี มักเกิดในบริเวณที่พื้นที่ตรงกลางสูง โดยเฉพาะพื้นที่โครงสรางรูปโดมที่เกิดใหม ๆ ยังไมมีการกรอน หรือพื้นที่กรวยภูเขาไฟ หากเปนพื้นที่รูปโดมที่มีการกรอนจนเปนแองบนโดม จะเกิดทางน้ําเปนแบบรูปทางน้ําสูศูนยกลาง

541. radial fault รอยเลือ่นรศัมี รอยเลื่อนกลุมหนึ่งซึ่งวางตัวเปนแนวรัศมีที่กระจายตัวออกจากจุดกึ่งกลาง

542. radial symmetry สมมาตรแบบรศัมี ลักษณะสมมาตรแบบหนึ่งของสิ่งมีชีวิต ซึ่งแบงออกไดเปนสวน ๆ ที่เหมือนกันโดยรอบจุดหรือรอบแกน เชน โครงรางของปลาดาวหรือกลีบดอกไม

Page 120: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

722

543. radiation ๑. การแผรงัส ี การที่นิวเคลียสของอะตอมหรือวัสดุปลอยอนุภาคที่มีขนาดเล็กหรือรังสีออกมา โดยมีพลังงานออกมาเปนคลื่นแมเหล็กไฟฟา เชน พลังงานแสงสวาง พลังงานความรอน หรือทั้ง ๒ อยาง ดู radioactivity ประกอบ

544. radiation ๒. การแผกระจาย การกระจายของกลุมสิ่งมีชีวิตไปสูสิ่งแวดลอมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทําใหวิวัฒนาการของโครงสรางของสิ่งมีชีวิตเหลานั้นเปลี่ยนแปลงไป

545. radiation damage การทาํลายโดยการแผรงัส ี

การสลายตัวของนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสีในแลตทิซของผลึกหรือแกว อันเนื่องมาจากอนุภาคที่แตกตัวหรืออนุภาคแอลฟาเคลื่อนที่ผาน ทําใหเกิดการทําลายเปนรอยแบงแยกในผลึกหรือแกวนั้น ความหนาแนนของรอยแบงแยกนี้สามารถนําไปหาอายุของวัสดุได โดยวิธีกัดผิวดวยน้ํายาเคมี ดู fission track ประกอบ

546. radioactive age determination; radiometric dating

การหาอายจุากกัมมันตรงัส ี

ดู radiometric dating; radioactive age determination

547. radioactive clock นาฬกิากัมมันตรงัสี มาตรเวลาทางธรณีกาล (geochronometer) ที่ประกอบดวยไอโซโทปของธาตุกัมมันตรังสี เชน คารบอน-๑๔ โพแทสเซียม-๔๐ ซึ่งทราบคาคงที่ของการสลายตัวที่แนนอน และต่ําพอที่จะใชเปนเสนแบงหนวยเวลาได ปรกติมีหนวยเปนป นาฬิกากัมมันตรังสีเปนพื้นฐานที่ใชในการคํานวณเพื่อหาอายุสัมบูรณ บางครั้งเรียกชื่อนาฬิกานี้ตาม

Page 121: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

723

ชื่อธาตุที่ใชหาอายุ เชน นาฬิกาคารบอน

548. radioactive decay การสลายของกัมมันตรงัส ี

การสลายตัวโดยการแผรังสี ทําใหธาตุที่ไมเสถียรเปลี่ยนไปเปนอีกธาตุหนึ่งที่เสถียรกวา เชน ยูเรเนียม ๒๓๘ สลายตัวเปนตะกั่ว ๒๓๖ ผลของการสลายตัวทําใหไดอนุภาคแอลฟา อนุภาคบีตา หรือรังสีแกมมา และมีพลังงานความรอนเกิดขึ้นดวย ใชในการหาอายุหินโดยการเทียบสวนธาตุคู เชน อารกอน ๔๐ /โพแทสเซียม ๔๐ สทรอนเซียม ๘๗/รูบิเดียม ๘๗ อารกอน ๔๐/อารกอน ๓๙

549. radioactive element ธาตกุัมมนัตรงัสี ธาตุที่สามารถเปลี่ยนแปลงเปนธาตุอื่นดวยตัวเองในธรรมชาติ โดยการปลอยอนุภาคไฟฟาออกมาจากนิวเคลียสของอะตอม สําหรับบางธาตุ เชน ยูเรเนียม ไอโซโทปที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่รูจักลวนแตเปนไอโซโทปกัมมันตรังสี สวนธาตุอื่น ๆ เชน โพแทสเซียมมีหลายไอโซโทปแตมีไอโซโทปเดียวเทานั้นที่เปนไอโซโทปกัมมันตรังสี ไอโซโทปกัมมันตรังสีของธาตุสวนใหญสามารถทําใหเกิดขึ้นไดในหองปฏิบัติการ มีบางธาตุเทานั้นที่เปนกัมมันตรังสีในธรรมชาติ

550. radioactive mineral* แรกัมมนัตรงัสี แรที่มีธาตุกัมมันตรังสี เชน ยูเรเนียมหรือทอเรียม เปนสวนประกอบสําคัญ ตัวอยางไดแก พิตชเบลนด เปนตน

551. radioactive series อนกุรมกัมมันตรงัสี การเรียงตามลําดับของนิวไคลด ซึ่งแตละตัวจะกลายเปนตัวถัดไปในอนุกรมเมื่อเกิดการสลายตัวทางกัมมันตรังสีจนไดนิวไคลดที่เสถียรเกิดขึ้น ในธรรมชาติมีอนุกรมกัมมันตรังสีที่สําคัญ ๓ อนุกรม คือ อนุกรมแอกทิเนียม อนุกรมทอเรียม

Page 122: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

724

และอนุกรมยูเรเนียม

552. radioactivity กัมมันตรงัสี การเสื่อมสลายโดยตัวเองของนิวเคลียสของอะตอมที่ไมเสถียร เปนผลใหไดอนุภาคแอลฟา อนุภาคบีตา และรังสีแกมมาซึ่งเปนคลื่นแมเหล็กไฟฟาที่มีชวงคลื่นสั้นมากและมีพลังงานสูง ทั้งหมดนี้พุงออกมาดวยความเร็วสูงมาก ในบางกรณีอาจมีพลังงานความรอนและพลังงานแสงเกิดตามมาดวย เชน การเสื่อมสลายของนิวเคลียสของธาตุเรเดียมไปเปนธาตุเรดอน

553. radioactivity log ผลบนัทกึทางกัมมันตรงัส ี

ผลบันทึกคาการหยั่งธรณีหลุมเจาะวิธีหนึ่ง เปนเสนแสดงการเปลี่ยนแปลงคาที่ไดจากปฏิกิริยาในนิวเคลียสของอะตอมที่เกิดจากพฤติกรรมของรังสีแกมมาและนิวตรอน เปนการบันทึกผลตอบสนองที่ไดรับจากหินบริเวณใกลหลุมเจาะเมื่อสงรังสีแกมมาหรือนิวตรอนจากตนกําเนิดผานชั้นหิน ใชสําหรับบันทึกคาไดทั้งในหลุมเจาะที่ลงทอกรุ ในหลุมเปลือย และในหลุมที่มีของไหล ใชประโยชนในการบงชี้ชนิดของหิน ความหนาแนน ความพรุน และของไหลที่อยูในชั้นหินนั้น มีความหมายเหมือนกับ nuclear log ดู density log และ neutron log; neutron-activation log ประกอบ

554. radiocarbon dating; carbon dating; carbon-14 dating

การหาอายจุากคารบอนกัมมันตรงัส ี

ดู carbon-14 dating; carbon dating; radiocarbon dating 10/56

Page 123: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

725

555. radiogenic -ผลติผลกมัมันตรงัส ี คําที่ใชเกี่ยวกับผลิตผลที่เกิดขึ้นจากกระบวนการกัมมันตรังสี ตัวอยางเชน ตะกั่ว ความรอน

556. radiogenic isotope ไอโซโทปกัมมันตรงัสี ไอโซโทปของธาตุหนึ่ง ๆ ที่ไดจากการสลายตัวทางกัมมันตรังสี ไอโซโทปนี้อาจมีหรือไมมีกัมมันตรังสีก็ได เชน รูบิเดียม (Rb) สทรอนเชียม (Sr) ดู radioisotope;unstable isotope ประกอบ

557. radioisotope; unstable isotope

ไอโซโทปไมเสถยีร ไอโซโทปของธาตุที่มีการสลายตัวทางกัมมันตรังสี เชน ไอโซโทปของอารกอน (Ar) โพแทสเซียม (K) ยูเรเนียม (U) ตะกั่ว (Pb) มีความหมายตรงขามกับ stable isotope

558. radiolarian เรดิโอลาเรยีน สัตวเซลเดียวพวกแอกทิโนพอด จัดอยูในชั้นยอยเรดิโอลาเรีย (subclass Radiolarion) มีลักษณะเฉพาะคือ โครงรางเปนสารเนิ้อซิลิกา อาศัยอยูในทะเล มีชวงอายุตั้งแตยุคแคมเบรียนจนถึงปจจุบัน ดู radiolarion ooze ประกอบ

559. radiolarian ooze* เลนเรดโิอลาเรีย เลนชนิดหนึ่งที่พบเฉพาะในสวนลึกของพื้นทองมหาสมุทรในเขตรอน โดยเฉพาะมีอยูมากในมหาสมุทรแปซิฟก ในยานระหวางเสนเขตแถบศูนยสูตร (equatorial zone) และมีในบริเวณที่จํากัดบางแหงทางตะวันออกเฉียงใตของมหาสมุทรอินเดียลักษณะทั่วไปของเลนชนิดนี้ก็คือ มีซากสัตวซึ่งสวนแข็งสรางขึ้นจากซิลกิาโดยเฉพาะ คือ ซากของแพลงกตอนที่มีชื่อวา เรดิโอลาเรีย (radiolaria) จึงเรียกชื่อเลนตามชื่อของแพลงกตอนชนิดนี้

Page 124: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

726

560. radiometric age; absolute age; isotopic age

อายสุัมบรูณ ดู absolute age; isotopic age; radiometric age

561. radiometric dating; radioactive age determination

การหาอายจุากกัมมันตรงัส ี

การคํานวณหาอายุทางธรณีวิทยาเปนปจากปริมาณที่เหลืออยูของธาตุกัมมันตรังสีวงจรสั้น เชน คารบอน-๑๔ หรือปริมาณธาตุกัมมันตรังสีวงจรยาวบวกกับปริมาณของธาตุลูกที่เกิดจากการสลายตัวของธาตุแม เชน โพแทสเซียม-๔๐/อารกอน-๔๐ การหาอายุจากกัมมันตรังสีจะไดอายุสัมบูรณ วิธีการคํานวณนี้ประยุกตกับทุกวิธีการหาอายุโดยการสลายตัวของไอโซโทปกัมมันตรังสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ดู absolute age; isotopic age; radiometric age ประกอบ

562. rafting การเคลือ่นที่เปนแพ การที่หินหรือดินเคลื่อนที่หรือลอยเปนแพโดยติดไปกับธารน้ําแข็ง พืช หรือวัสดุลอยน้ําตาง ๆ

563. rain wash; surface wash; unconcentrated wash

การชะลางแบบแผซาน ดู sheet erosion; sheet flood erosion

564. raise ปลองเจาะขึ้น ปลองที่เจาะในแนวตั้งหรือแนวเอียงที่สรางขึ้นโดยการเจาะระเบิดจากอุโมงคเบื้องลางขึ้นสูผิวพื้นหรือเพื่อเชื่อมอุโมงคระดับลางกับอุโมงคระดับบนของเหมือง เพื่อการสํารวจติดตามสายแร

Page 125: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

727

565. raise beach หาดยกระดับ หาดโบราณหรือหาดเดิมที่ปรากฏอยูเหนือชายหาดทะเลในปจจุบัน อาจเนื่องมาจากการยกตัวของแผนดินบริเวณนั้น หรือการที่ระดับน้ําทะเลลดต่ําลง ดู marine และ terrace standline ประกอบ

566. raise reef พืดหนิเหนอืน้าํ พืดหินอินทรียที่อยูสูงกวาหรือโผลพนระดับน้ําทะเล อาจเกิดจากถูกยกตัวสูงขึ้นหรือเนื่องจากระดับน้ําทะเลลดลง 6/56

567. raised beach หาดยกตวั หาดโบราณที่เกิดอยูเหนือแนวชายทะเลปจจุบัน และแยกออกไดจากหาดปจจุบัน เนื่องจากมีการยกตัวเหนือระดับน้ําขึ้นสูง จากการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก ณ พื้นที่นั้น หรือโดยการลดลงของระดับน้ําทะเล และมักจะอยูติดกับหนาผาบนแผนดิน

568. raised bog พรนุูน พรุที่เจริญสูงขึ้นจนอยูเหนือระดับน้ําโดยเฉพาะบริเวณตรงกลางจะนูนสูงกวาขอบพรุ เนื่องจากซากพืชบริเวณตรงกลางนั้นมีความหนามากกวาขอบพรุ เมื่ออยูในแองที่ลุมมีน้ําขังจึงพองตัวนูนสูงกวาขอบและมีลักษณะคลายเลนสนูน ความนูนขึ้นอยูกับอัตราของปริมาณน้ําฝนกับการระเหย ดูรูปที่ swamp (แก พรงุอก เปน พรนุูน ในคําอธิบายภาพ)

569. rake มุมเรก มุมเอียงทางโครงสรางธรณีวิทยาที่เกิดจากเสนแนวนอนทํากับเสนใด ๆ บนระนาบ เชน รอยครูดจากการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อน จากรูป ก มุม ABH คอืมุมเรก และมุม CBH คือมุมพลันจ ของเสน BH ที่อยูบนระนาบ ABGH หรือในรูป ข

Page 126: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

728

มุม bac คือมุมเรก มีความหมายเหมือนกับ pitch ดู plunge ประกอบ รปู

570. ram สนัยืน่ แนวหินใตน้ําหรือสวนที่โผลยื่นออกมาจากผนังน้ําแข็งหรือดานหนาของน้ําแข็ง หรือภูเขาน้ําแข็ง หรือแพน้ําแข็ง เกิดจากการละลายอยางมากมายของน้ําแข็งสวนที่อยูเหนือระดับน้ํา

571. ramp ๑. สวนลาด ๑. ๑ สวนลาดชันของรอยเลื่อนยอนโดยเฉพาะบริเวณที่เปนชั้นหินของรอยเลื่อนยอน หรือโครงสรางเลื่อนหลุด (decollement) เปลี่ยนจากลําดับชั้นหินดานลางเปนชั้นหินดานบน ๑.๒ การเคลื่อนของหิมะที่ทําใหเกิดแนวลาดเอียงระหวางแผนดินหรือแผนน้ําแข็งกับทะเล หรือไหลน้ําแข็ง ๑.๓ ทางลาดเอียงสําหรับการขนสงแรที่เชื่อมตอระหวางพื้น ๒ ระดับ ๑.๔ พื้นที่ที่ไมมีการเปลี่ยนแปลงระดับความลึกอยางชัดเจนระหวางแนวชายทะเลกับสวนที่ลึกที่สุดของแองตะกอน

572. ramp ๒. แรมป (ธรณีวศิวกรรม)

๒.๑ ทางขึ้น-ลงสําหรับสะพานชุมทางเชื่อมตางระดับ๒.๒ ทางที่เขาสูหรือแยกออกจากทางหลัก ๔ ชองจราจรขึ้นไป ๒.๓. ทางที่เขาสูหรือแยกออกจากลานวิ่งของเครื่องบิน

573. ramp anticline ชัน้หนิโคงรปูประทนุลาด ชั้นหินโคงรูปประทุนที่เกิดจากการเคลื่อนที่ขึ้นไปตามสวน

Page 127: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

729

ลาดของระนาบรอยเลื่อนยอนมุมต่ํา 3/56

574. ramp valley หุบเขาสวนลาด หุบเขาแบบหนึ่งที่ถูกลอมดวยกลุมรอยเลื่อนยอนมุมสูง (รอเพิ่มภาพประกอบ)

575. rampart สนักาํแพง, ปราการ ๑. แนวสันแคบ ๆ สูงประมาณ ๑-๒ เมตร ประกอบดวยกรวดขนาดตาง ๆ และเศษ หักๆ ของพวกปะการัง มักปกคลุมดวยเนินทราย เกิดจากการกระทําของคลื่นที่ซัดขอบดานนอกของพืดหินใตน้ําซึ่งมีลักษณะแบนราบ ๒. ขอบหินที่มีลักษณะครึ่งวงกลมหรือวงแหวนรอบยอดภูเขาไฟ ซึ่งประกอบดวยหินตะกอนภูเขาไฟ ๓. ดูคําอธิบายใน lake rampart

576. range ๑. พสิยั ตัวเลขแสดงความแตกตางระหวางคาสูงสุดกับคาต่ําสดุในระบบใด ๆ เชน ระหวางขนาดอนุภาคใหญสุดกับอนุภาคเล็กสุดของตะกอนหรือของหินตะกอน

577. range ๒. เทอืกเขา, ทิวเขา แนวภูเขาที่ตอเนื่องเปนพืด

578. range ๓. แนว ๓.๑ แนวลําดับชั้นหิน๓.๒ พื้นที่ทางภูมิศาสตรที่เปนที่อยูของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง หรือกลุมของสิ่งมีชีวิต ๓.๓ พื้นที่ที่มีหนวยหินใหแรโผลใหเห็น เชน แนวแรเหล็ก บริเวณทะเลสาบสุพีเรีย

579. range finder กลองวัดระยะ เครื่องมือหรืออุปกรณคลายกลอง ใชสําหรับหาระยะทางจากจุดหนึ่งไปยังจุดอื่นที่ไมมีเครื่องมืออยู

Page 128: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

730

580. range–zone** สวนชัน้ชวงชวีิน กลุมชั้นหินซึ่งมีซากดึกดําบรรพชนิดเดียวกันชนิดใดชนิดหนึ่งปรากฏอยูในแตละชั้นหินที่รวมกลุมเขาดวยกัน

581. rank ชัน้คณุภาพ ระดับที่แสดงถึงความมากนอยของการแปรสภาพของถานหิน เมื่อมีการแปรสภาพมากขึ้นสารระเหยจะถูกขับออกไปตามลําดับ จึงทําใหถานหินมีชั้นคุณภาพสูงขึ้น ชั้นคุณภาพใชในการจําแนกถานหินออกเปน ลิกไนต ซับบิทูมินัส บิทูมินัส และแอนทราไซต

582. rapakivi ๑. หนิแรพาควิิ หินแกรนิตหรือหินควอตซมอนโซไนต ที่มีลักษณะเดนคือ ผลึกคอนขางใหญหรือผลึกดอกของแรแอลคาไลเฟลดสปาร เปนผลึกกลมรี ที่มีขอบเปนแรโซเดียมแพลจิโอเคลส (โอลิโกเคลส แอลไบตหรือแอนดีซีน) คํานี้เริ่มใชเรียกหินผุในประเทศฟนแลนด ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือมีสีเนื้อ และมีแอลคาไลเฟลดสปารเกิดเปนผลึกกลมที่มีเสนผานศูนยกลางประมาณ ๒-๓ เซนติเมตรอยูตรงกลางลอมรอบดวยแพลจิโอเคลส

583. rapakivi ๒.-แรพาควิิ ดู wiborgite

584. rapakivi texture เนือ้แบบแรพาควิิ ลักษณะเนื้อหินอัคนีและหินแปรที่มีผลึกดอกขนาดใหญของแรแอลคาไลเฟลดสปารที่มีขอบเปนแรโซเดียมแพลจิโอเคลสอยูในเนื้อพื้นที่มีขนาดเล็กละเอียด

585. rapids แกง สวนหนึ่งของแมน้ําที่มีหินโผล หรือมีกอนหินมนใหญขวางทางน้ํา ทําใหทางน้ําแคบเขาและระดับของทองน้ําเปลี่ยนแปลง เปนเหตุใหกระแสน้ําไหลเชี่ยวและมีความเร็วสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับบริเวณขางเคียง เชน แกงสะพือ

Page 129: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

731

จังหวัดอุบลราชธานี แกงคุดคู จังหวัดเลย586. rapikivi granite* หินแกรนิตราพคิวิิ หินแกรนิตเนื้อดอกชนิดหนึ่งมีสีแดง แรดอกแสดงลักษณะ

ผิดปรกติ คือ เปนรูปไขและเปนแรออรโทเคลสซึ่งมีริมนอกเปนแรแพลจิโอเคลสฝงอยูในเนื้อพื้นอันประกอบดวย แรออรโทเคลสสีแดง แพลจิโอเคลส ควอตซ เลพิโดมีเลน และฮอรนเบลนด

587. rare หายาก ดูคําอธิบายใน abundant

588. rare earth* แรหายาก แรที่เกิดกระจัดกระจายอยูทั่วไปแตมีปริมาณนอย และหาไดยาก ไดแก ออกไซดของธาตุตาง ๆ ที่มีเลขอะตอม ๕๗–๗๑ ไดแก ธาตุแลนทานัม ถึง ลูทีเชียม การแยกแรเหลานี้และสวนประกอบของแรทําไดยากมาก

589. ravine ชองเขากรอน ชองเขาแคบและเล็กที่เกิดจากการกรอนโดยสายน้ํา มีขนาดใหญกวารองธารแตเล็กกวาหุบเขา เชน ลําธารที่ไหลลงมาตามความลาดชันของภูเขาแลวกรอนหินจนเปนชองเปนหุบเล็ก ๆ

590. raw coal ถานหนิดบิ ถานหินที่ไดจากการทําเหมืองโดยผานกระบวนการคัดขนาดเทานั้น แตยังไมผานกระบวนการแตงแร ชาวเหมืองเรียกวา ถานหินหนาเหมือง

591. ray ๑. รงัส ี ๑.๑ เวกเตอรในแนวตั้งฉากกับพื้นผิวคลื่น เปนการบอกทิศทางและบางครั้งบอกความเร็วในการเดินทางของคลื่นดวย ๑.๒ แถบสวางหรือเสนสวางเปนแนวยาวซึ่งสังเกตเห็นไดบนพื้นผิวดวงจันทร และปรากฏวาเปลงแสงออกมาจากหลุม

Page 130: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

732

ลึกในดวงจันทร บางขณะมีความยาวเปนรอยกิโลเมตร

592. ray ๒. รศัม ี ๒.๑ สวนของรางกายของเอไคโนเดิรมซึ่งมีสมมาตรแบบรัศมี รวมทั้งโครงสรางตาง ๆ ที่รางกายสวนนั้นไดสรางขึ้น ๒.๒ ในพวกปลากระดูกแข็ง หมายถึงกางภายในครีบหรือกานครีบ ใชสําหรับพยุงครีบ

593. ray ๓. ปลากระเบน ปลากระดูกออนพวกหนึ่ง มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ ลําตัวแบนมาก มีเหงือก ๕ คู หางสวนมากเรียว สั้นบางยาวบาง มีกมีผิวหยาบหรือขรุขระ

594. Rayleigh wave คลืน่เรยลี คลื่นไหวสะเทือนชนิดหนึ่ง ซึ่งเดินทางตามผิวของตัวกลางที่มีขนาดกึ่งอนันต การเคลื่อนไหวของอนุภาคในตัวกลางเปนแบบวงรีและหมุนกลับหลัง (นั่นคือที่บริเวณสวนบนของวงรีอนุภาคจะเคลื่อนที่ตรงขามกับทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่น) ในระนาบตั้งที่อยูในแนวเดียวกันกับทิศทางการเคลื่อนที่ ความเร็วของคลื่นจะลดลงตามความลึกอยางรวดเร็วแบบเอกซโพเนนเชียล

595. raypath แนวรศัมี ดู wave path

596. razor stone หินลบัมีดโกน ดู novaculite

597. Rb-Sr age method; rubidium-strontium age method; rubidium-strontium

การหาอายจุากรบูเิดยีม-สตรอนเชยีม

การหาอายุของแรหรือหินเปนจํานวนปโดยอาศัยอัตราสวนของกัมมันตรังสีสตรอนเชียม ๘๗ ตอรูบิเดียม ๘๗ กับอัตราการสลายตัวของกัมมันตรังสีรูบิเดียม ๘๗เปนสตรอนเชียม ๘๗ ถาสามารถวัดอัตราสวนรูบิเดียม ๘๗ ตอสตรอนเชียม ๘๗ ไดมากกวาหนึ่งชุดในหินกลุมเดียวกัน

Page 131: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

733

dating หรือหินอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวของกัน ซึ่งมีปริมาณรูบิเดียมแตกตางกัน เมื่อเวลาผานไปสตรอนเชียม ๘๗ สะสมของแตละตัวอยางสามารถลากเชื่อมเปนเสนเวลาเทา (isochron)ได

598. reach รชี ๑. สวนของลําน้ําในแมน้ําที่มีลักษณะเหมือนกันตลอดทั้งแนวการไหล ความลาดชัน และความลึก เชน ลําน้ําแนวตรงที่อยูระหวางทางน้ําโคงตวัด หรือลําน้ําที่อยูระหวางฝายกั้นน้ําในแมน้ําลําคลอง ๒. สวนของน้ําทะเลที่ไหลรุกเขาไปในแผนดิน หรืออาวแคบ ๆ หรือชะวากทะเลที่เวาเปนทางยาวเขาไปในแผนดิน

599. reaction border; reaction rim

ขอบปฏกิริยิา โซนของแรชนิดหนึ่ง ซึ่งอยูลอมแรอีกชนิดหนึ่งเปนวงรอบหรืออยูตรงบริเวณสัมผัสของแร ๒ ชนิด โซนของแรนี้เกิดจากสารละลายทําปฏิกิริยากับแรที่เกิดอยูกอนตามขอบของแรนั้นแลวเกิดเปนแรใหมตรงขอบของแรเดิม มีความหมายเหมือนกับ rim ๓

600. recapitulation theory ทฤษฎีซ้าํรอยววิัฒนาการ

ทฤษฎีทางชีววิทยา ซึ่งกลาววา การที่สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งไดพัฒนาผานขั้นตอนที่สืบเนื่องตอ ๆ กันมาเหมือนดังเชนที่บรรพบุรุษไดเคยพัฒนาผานมา ดังนั้น วิวัฒนาการชาติพันธุของกลุมสิ่งมีชีวิตชนิดนั้น ๆ จึงเห็นไดจากการเจริญเฉพาะตัวของลูกหลานแตละตัวในกลุมเดียวกัน มีความหมายเหมือนกับ Haeckel ‘s Law ดู palingenesis ประกอบ

Page 132: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

734

601. receptaculitid รีเซฟตาคลูิทดิ กลุมของซากดึกดําบรรพในมหายุคพาลีโอโซอิก อันดับ รีเซฟตาคูลิทาเลส (Order Receptaculitales) ซึ่งการจัดจําแนกประเภทยังไมสามารถระบุไดแนชัดวาเปนพืชหรือสัตว เคยไดรับการจําแนกใหเปนสาหรายเนื้อปูนและสมาชิกของสัตวในไฟลัมตาง ๆ รีเซฟตาคูลิทิดมีลักษณะเปนโครงสรางสารเนื้อปูนรูปไขหรือรูปทรงกลม ปดทึบทางดานลางและมีแองทางดานบนเมอโรมซึ่งมีปลายเปนแฉกรูปดาวสี่แฉกเริ่มเกิดขึ้นตรงสวนแกนกอนเปนลําดับแรกแลวจึงเกิดเรียงตอเนื่องกันทางดานขางในลักษณะหมุนวนหรือเปนวงหรือเปนเกลียวคลายกับการเรียงตัวของเมล็ดดอกทานตะวัน มีชวงอายุยุคออรโดวิเชียนถึงเพอรเมียน ดูรูป และ merome ประกอบ

Ischadites sp. Receptaculites sp. ภาพรีเซฟตาคูลิทิดชนิดตาง ๆ

602. recess รอยถอยกลบั ๑. สวนของแนวเทือกเขาที่มีรองรอยแนวแกนของชั้นหินคดโคงเวาไปสูดานนอกของแนวเทือกเขา ๒. รอยยุบแบบหนึ่งบนพื้นผิว เชน รอยผาในหนาหินชัน

ดา้นขา้ง ดา้นบน

ดา้นบน

Page 133: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

735

603. recession moraine; stadial moraine

กองตะกอนธารน้าํแขง็ถอยกลบั

กองตะกอนธารน้ําแข็งปลายธารหรือกองตะกอนธารน้ําแข็งขางธาร ที่เกิดขึ้นจากการที่ธารน้ําแข็งหยุดอยูชั่วระยะเวลาหนึ่งในระหวางถอยกลับ รวมถึงกองตะกอนธารน้ําแข็งที่เกิดขึ้นจากการที่ธารน้ําแข็งเคลื่อนที่ไปขางหนาเล็กนอยของปลายธารน้ําแข็ง ระหวางสมัยชวงคั่นชวงอายุยอยของธารน้ําแข็ง

604. recession; retreat; retrogression

การถอยกลบั ๑. การถอยกลับเขาไปในพื้นที่ซึ่งเคยเคลื่อนที่ผานมา เชน แนวการถอยกลับของธารน้ําแข็ง ๒. การกัดเซาะแนวชายฝงจากน้ําทะเลทําใหแนวชายฝงถอยกลับเขาไปในแผนดิน หรือผลที่ไดจากการถอยเขาไปในแผนดินของชายฝงในชวงเวลาหนึ่ง ๓. การถอยกลับออกไปของน้ําทะเลเมื่อระดับน้ําทะเลลดลง ๔. หนาผาหินที่ถูกกรอนเขาไปเรื่อย ๆ โดยมุมความลาดเอียงของหนาผาไมเปลี่ยนแปลง

605. recharge; intake การเตมิน้าํ กระบวนการเติมน้ําหรือเพิ่มน้ําเขาไปในเขตอิ่มน้ํา เชน ในชั้นหินอุมน้ํา

606. reconnaissance การสาํรวจขั้นตน การสํารวจทั่วไปเกี่ยวกับลักษณะที่สําคัญของบริเวณหนึ่ง ๆ เปนงานสํารวจเบื้องตนกอนการสํารวจที่ละเอียดกวา อาจดําเนินการในสนามหรือสํานักงานก็ไดขึ้นกับขอมูลที่มีอยู ในดานธรณีวิทยา หมายถึงการพิสูจนหาพื้นที่ศักยภาพของแหลงทรัพยากรธรณี โดยอาศัยขอมูลเบื้องตนจากผลการศึกษาทางธรณีวิทยาบริเวณไพศาล ธรณีฟสิกสทาง

Page 134: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

736

อากาศ และวิธีการทางออมอื่น ๆ การตรวจสอบในสนามเบื้องตน ตลอดจนการอนุมานหรือประมาณคาแนวโนมทางธรณีวิทยา การสํารวจนี้มีวัตถุประสงคเพื่อพิสูจนหาพื้นที่ที่มีแหลงทรัพยากรธรณีซึ่งควรคาแกการสืบหาตอไป

607. recoverable reserves ปริมาณสาํรองนาํออกมาได

ปริมาณสํารองเชนปโตรเลียมที่ผลิตขึ้นมาไดในเชิงพาณิชยจากหลุมเจาะเดียวหรือหลายหลุมภายในระยะเวลาหนึ่ง ดู ultimate recovery ประกอบ

608. recovery ๑. ผลผลติได ในการทําเหมืองหมายถึง จํานวนรอยละสวนประกอบมีคาที่สามารถผลิตไดจากสินแร เชน ผลผลิตถานหินจากชั้นถานหิน แบไรตจากแหลงสินแรแบไรต

609. recovery ๒. การคนืสภาพ ๒.๑ ระดับความสูงคงตัวของน้ําในบอน้ําบาดาลหรือบอใกลเคียงหลังหยุดการสูบน้ํา ๒.๒ ในวิชาศิลาวิทยาโครงสราง หมายถึงกระบวนการใด ๆ ที่กอใหเกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะจนทําใหเม็ดแรจัดเรียงตัวใหมภายหลังจากความเครียดถูกปลดปลอย เชน การตกผลึกใหมเปนผลใหวัสดุที่ไมมีความเครียดกอกําเนิด

610. recovery ๓. การตรวจซ้าํ การสอบทานตําแหนงหรือเครื่องหมายบอกตําแหนงถาวรที่แทจริง ซึ่งเปนเครื่องหมายดั้งเดิม ตําแหนงเดิม พรรณนารูปลักษณะวาถูกตอง

611. recovery factor สัดสวนการผลติ ปริมาณปโตรเลียมที่ผลิตขึ้นมาไดเปนรอยละของปริมาณปโตรเลียมทั้งหมดที่มีอยูในแหลงกักเก็บ ซึ่งขึ้นอยูกับความพรุน ความฟาม ชนิดของแรงขับในแหลงกักเก็บ เปนตน

Page 135: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

737

612. recrystallization* การเกิดผลกึใหม การเกิดผลึกใหมของแรในสภาวะของแข็ง ซึ่งเกิดภายใตกระบวนการแปรสภาพผลึกใหมนี้อาจจะมีสวนประกอบทางเคมีและลักษณะโครงสรางเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนแปลงก็ได

613. rectangular array แถวลาํดบัรปูสี่เหลีย่มมุมฉาก

การจัดวางกลุมจีโอโฟนหรือกลุมตนกําเนิดคลื่นตามแนวเสนสํารวจและในแนวขนานกับแนวเสนสํารวจ บางครั้งจํานวนจีโอโฟนที่วางนั้นมากกวา ๑๐๐ ตัว มีรูป

614. rectangular drainagepattern; lattice drainage pattern*

แบบรปูทางน้าํตัง้ฉาก แบบรูปทางน้ําที่มีทางน้ําประธานและลําน้ําสาขาบรรจบกันเปนมุมฉากหลาย ๆ แหง เนื่องมาจากทางน้ําไหลตามแนวแตกหรือรอยเลื่อนทําใหมีรูปลักษณะคลายสี่เหลี่ยมผืนผา

615. recumbent fold รอยคดโคงนอนทบั รอยคดโคงที่สวนของชั้นหินตรงที่เกิดการคดโคงมากจนยวยตัวลงนอนทับซอนอยูบนตัวเอง ลักษณะนี้รุนแรงกวารอยคดโคงตลบทับ 3/56

616. recurrence interval; return period

คาบอบุตัซิ้าํ ชวงเวลาเฉลี่ยระหวางเหตุการณธรรมชาติ ขนาดใหญที่เคยเกิดขึ้นซ้ํา ๆ ในพื้นที่นั้น ๆ เชน แผนดินไหว น้ําทวม

617. recurved spit; hook spit สนัดอนจะงอยโคงกลบั สันดอนจะงอยที่ปลายดานนอกที่ยื่นอยูในทะเลหันวกกลับเขามาทางแผนดิน เกิดเนื่องจากกระแสน้ําหรือคลื่นที่หักเหไปจากทิศทางปรกติ หรือเกิดจากแรงกระทําของกระแสน้ําที่สวนกัน ๒ ทิศทางหรือมากกวา มีความหมายเหมือนกับ hook ๒

618. red beds* ชัน้หนิแดง ชั้นหินตะกอนซึ่งสวนใหญไดแก หิน ทราย หินทรายแปง

Page 136: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

738

หินดินดาน อาจมีชั้นบาง ๆ ของหินกรวดมน หินปูน ดินมารล หรือหินเกลือระเหยแทรกอยูหินเหลานี้มีสีแดง แดงอมน้ําตาล อมสม อมมวง สีเหลานี้เกิดเนื่องจากมีเฟรริกออกไซดเคลือบเม็ดตะกอนอยู ในแตละชุดของชั้นหินแดงที่เรียงตัวกันอยูจะตองมีสีแดงอยางนอยรอยละ ๖๐

619. red clay* ตมทะเลสแีดง ดูคําอธิบายใน pelagic deposit; abyssal deposit

620. red coral ปะการงัแดง ปะการังในกลุมปะการังแปด อันดับ กอรโกนาเซีย (Order Gorgonacea ) ซึ่งเปนกลุมของกัลปงหา อยูในวงศ คอรัลลิดี (Family Corallidae) มีชื่อทางวิทยาศาสตรวา Corallium rubrum มีโครงรางแข็ง สรางขึ้นจากสารกอรโกนิน (gorgonin) ซึง่มีสมบัติคลายเขาสัตว มีสีแดง ชมพู ขาว แตกกิ่งกานออกไปทุกทิศทาง มีตัวปะการังเล็กๆ อยูทั่วโครงราง พวกที่มีสีแดง นําไปใชเปนเครื่องประดับมีคา เรียก กัลปงหาแดง หรือปะการังแดง กัลปงหาอีกชนิดหนึ่งมีสีดํา เรียกปะการังดํา (black coral) จัดอยูในชั้นยอยซูแอนทาเรีย (subclass Zoantharia) หรือ เฮกซะโกนาเรีย (Hexagonaria) ซึ่งเปนปะการังหก เพราะมีหนวดไมเปนสาขาจํานวน ๖ เสน เรียงเปนวงกลม มีผนังซึ่งแบงชองภายในตัวไดเปนจํานวน ๖, ๑๐ หรือ ๑๒ ชอง โครงรางแข็งมีสีดํา แตกแขนงคลายกิ่งไม หอหุมดวยเนื้อเยื่อซึ่งเปนที่อยูของตัวปะการังเล็กๆ จัดอยูในอันดับแอนทิพาทาเรีย

Page 137: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

739

(Order Antipatharia) วงศแอนทิพาทิดี (Family Antipathidae) มีชื่อทางวิทยาศาสตรวา Antipathes subpinnata ดู octocoral ประกอบ

621. red mud โคลนสแีดง ๑. โคลนที่มีตนกําเนิดจากแผนดิน ประกอบดวยแคลเซียมคารบอเนตถึงรอยละ ๒๕ มีสีแดงเนื่องจากเหล็กออกไซด สวนมากพบอยูในพื้นทะเลใกลทะเลทรายและปากแมน้ําใหญ ๒. ตะกอนในบอน้ําเสียซึ่งเปนสวนที่เหลือจากการแตงแรบ็อกไซต

622. red ocher โอเคอรสแีดง ฮีมาไทตสีแดง คลายดิน ใชทําสี มีความหมายเหมือนกับ riddle และ ruddle ดู ocher, sienna และ umber ประกอบ

623. red schorl ชอรลสแีดง ดู rubellite 624. red tide ชวงน้าํแดง ปรากฏการณที่น้ําทะเลมีสีแดงเกิดเนื่องจากการ

เจริญเติบโตอยางมากมายของไดโนแฟลเจลเลต ปรากฏการณนี้มักเรียกกันวา ปรากฏการณขี้ปลาวาฬ ดู dinoflagellate ประกอบ

625. redox รีดอกซ การลดและการเพิ่มออกซิเจน ดู reduction และ oxidation ประกอบ

626. redox concentration การสะสมแบบรีดอกซ การสะสมตัวของเหล็ก-แมงกานีสออกไซดที่มีอยางเขมขน

Page 138: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

740

จนปรากฏใหเห็นไดในเขตชั้นดิน ดู redox depletion ประกอบ

627. redox depletion การขจัดแบบรีดอกซ การขจัดเหล็ก-แมงกานีสออกไซด หรือเหล็ก-แมงกานีสออกไซดรวมกับเคลย ออกไปจากเขตชั้นดิน ดู redox concentration ประกอบ

628. redoximorphic feature ลกัษณะรีดอกซ สมบัติของดินที่เกิดจากสภาพความเปยกชื้น เปนผลทําใหสารประกอบของเหล็กและแมกนีเซียมอยูในสภาพของการลดออกซิเจนเมื่ออิ่มตัวดวยน้ํา และอยูในสภาพของการเพิ่มออกซิเจนเมื่อไมอิ่มตัวดวยน้ํา การลดและเพิ่มออกซิเจนนี้ทําใหดินมีการสะสมรีดอกซและการขจัดรีดอกซตามลําดับ ดู redox concentration และ redox depletion ประกอบ

629. reduced mud; black mud; euxinic mud; hydrogen sulfide mud

โคลนสดีาํ แกที่คํากลับดวย

ดู black mud; euxinic mud; hydrogen sulfide mud; reduced mud

630. reduction รีดกัชนั ๑. (เคมี) กระบวนการลดออกซิเจนจากสารประกอบ เชน แรฮีมาไทต (Fe2O3) ถูกรีดิวซเปนโลหะเหล็ก (Fe) หรือ การลดเวเลนซีบวกหรือเพิ่มเวเลนซีลบ เชน CO3+ ถูกรีดิวซเปน CO2+ และ Cl2 ถูกรีดิวซเปน Cl- หรือ การที่อะตอมหรือไอออนไดรับอิเล็กตรอนเพิ่ม ๒. (ธรณีฟสิกส) การปรับแกคาความโนมถวงของโลกที่ได

Page 139: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

741

จากการวัด ๓. (ธรณีสัณฐานวิทยา) กระบวนการที่ทําใหผิวดินต่ําลงโดยการกรอน

631. reduzate ตะกอนขาดออกซิเจน ตะกอนที่เกิดในสภาวะแวดลอมที่ขาดออกซิเจน ตะกอนนี้จะมีปริมาณคารบอนและเหล็กซัลไฟดสูง เชน ถานหิน น้ํามัน แรตะกอนซัลไฟด ตะกอนซัลเฟอร

632. reef ๑. พดืหนิ(ใตน้าํ) โครงสรางรูปรางคลายสันหรือเนินซึ่งมีลักษณะเปนชั้นหรือเปนมวล ซึ่งสิ่งมีชีวิตชนิดที่ติดอยูกับที่สรางขึ้นโดยใชสารเนื้อปูนเปนโครงราง เชน ปะการังและซากปะการัง สรางขึ้น พืดหินใตน้ําจะคงทนตอกระแสคลื่นและจะกอตัวสูงกวาพื้นตะกอนตางชนิดที่สะสมตัวในชวงเวลาเดียวกัน พืดหินใตน้ํามีทั้งที่ยังกอตัวอยูในปจจุบันและที่ไดกอตัวแลวในชวงธรณีกาล และปจจุบันลอมรอบดวยหินตางชนิดกัน มีความหมายเหมือนกับ organic reef ดู bank, bioherm, biostrome และ organic built up ประกอบ 6/56

633. reef ๒. หนิโสโครก แนวพืดหินหรือโขดหินใตน้ําใกล ๆ ผิวพื้นน้ําทะเล อาจมีบางสวนโผลพนน้ําหรือปริ่มน้ํา และอาจมองเห็นแนวพืดหินไดเมื่อน้ําลง เปนอันตรายตอการเดินเรือ สวนมากเปนพืดหินปะการัง 6/56

634. reef ๓. ทางแร โดยเฉพาะหมายถึง ทางแรทองคํา เชน ในบริเวณที่สูงริมแมน้ําแถบเมืองโยฮันเนสเบิรก ในประเทศสาธารณรัฐ

Page 140: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

742

แอฟริกาใต ซึ่งอุดมไปดวยแรทองคํา6/56

635. reef breccia กรวดเหลีย่มพืดหนิ หินกรวดเหลี่ยมที่เกิดจากการสะสมและการจับตัวแข็งของเศษชิ้นหินปูนที่แตกหักมาจากพืดหินใตน้ําโดยการกระทําของคลื่นหรือน้ําขึ้นน้ําลง 6/56 ตรวจแลว

636. reef complex กลุมรวมพดืหิน มวลหินที่ประกอบดวยพืดหินใตน้ํา สวนที่แตกหักจากการกระทําของคลื่น สวนของพืดหินทั้งสวนหนา สวนหลัง และสวนกลางซึ่งลอมดวยตะกอนในแองดานที่เขาหาทะเล และตะกอนในลากูนดานที่เขาหาแผนดิน 6/56 ตรวจแลว

637. reef core แกนพดืหนิ สวนภายในของพืดหินใตน้ําที่อยูตรงกลางซึ่งเปนหินเดิมที่ใหปะการังกอตัวขึ้น ณ ที่นั้น 6/56 ตรวจแลว

638. reef crest ยอดพืดหนิ สวนของพืดหินที่อยูสูงที่สุดระหวางพืดหินราบกับพืดหินสวนหนา ซึ่งเปนสวนที่ปะการังเจริญเติบโต 6/56 ตรวจแลว

639. reef flank ขอบพดืหนิ สวนของพืดหินใตน้ําที่ลอมรอบขยายออกดานขางหรือทับอยูบนแกนพืดหิน ซึ่งมักประกอบดวยชั้นของกรวดเหลี่ยมพืดหินที่แตกหัก และมีมุมเอียงเทออกจากแกนพืดหิน ขอบพืดหินมักมีลักษณะแคบยาว ซึ่งขึ้นอยูกับแรงกระทําทางชีวะ และทางกายภาพ 6/56

640. reef flat ที่ราบพดืหนิ แนวพืดหินลักษณะราบที่ประกอบดวยซากปะการัง เศษปะการัง และปะการังขนาดเม็ดทราย โดยทั่วไปเมื่อน้ําลงพื้นที่นี้จะแหงและจะโผลใหเห็นเปนสวนยอดของพืดหิน

Page 141: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

743

เหนือแนวน้ําลง 7/56 ตรวจแลว 641. reef front หนาพืดหนิ สวนของพืดหินที่ลาดเขาหาทะเลอยูระหวางยอดพืดหินกับ

พืดหินสวนหนา สวนใหญประกอบดวยซากปะการังและเศษหินที่รวงหลนลงมา (มีรูป) 6/56 ตรวจแลว

642. reef knoll เนนิพืดหนิ ๑. เนินหินชีวภาพหรือพืดหินปะการังดึกดําบรรพซึ่งปจจุบันปรากฏใหเห็นเปนโคกขนาดเล็กโผลถึงความสูง ๑๐๐ เมตร จากพื้นทองทะเล เปนรูปกรวยกลมหรือเกือบกลม โดยทั่วไปมักลอมรอบดวยหินตะกอน เชน หินทราย หินดินดาน ๒. พืดหินใตน้ําที่ปรากฏใหเห็นเปนเนินเตี้ยในปจจุบัน 6/56 ตรวจแลว

643. reef patch หยอมพืดหนิ สวนของพืดหินปะการังที่เจริญเติบโตเปนอิสระบนไหลทวีป ซึ่งมีความลึกนอยกวา ๗๐ เมตร มักเกิดในทะเลสาบ หลังพืดหินสันดอน หรือปะการังวงแหวน ขนาดของหยอมพืดหินอาจกวางใหญเปนกิโลเมตร เชน ที่เปนอาณานิคมเดี่ยวขนาดใหญ ดู reef knoll, shoal reef และ patch reef ประกอบ 6/56 ตรวจแลว

644. reef rock หินพืดหิน มวลหินที่มีความคงทนสูง ไมแสดงชั้น ประกอบดวยซากปะการังสวนใหญปนกับกรวด ทรายเนื้อปูน และประสานดวยคารบอเนต ดู biolithite ประกอบ 6/56 ตรวจแลว

645. reentrant -ซ้าํรอยเวา ๑. คําที่ใชกับการเคลือ่นเขามากระทบตรงที่เดิมหลาย ๆ

Page 142: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

744

ครั้ง เชน มุมซ้ํารอยที่เกิดจากคลื่นเคลื่อนเขาไปกระทบแนวชายฝงซ้ําที่เดิม หรือมุมที่เกิดเวาอยูบนหนาผลึกแฝด ๒. คําที่ใชกับเนินที่มีลักษณะเวาเขาไปในชายฝงทะเล และอาจมีทางน้ําระหวางเนินที่อยูตามแนวชายฝงทะเลนั้น

646. reference locality ที่ตัง้อางองิ พื้นที่ทางภูมิศาสตรซึ่งหนาตัดอางอิงของชั้นหินปรากฏอยู ที่ตั้งอางอิงกําหนดขึ้นเพื่อใชเสริมกับที่ตั้งแบบฉบับ ดู type locality ประกอบ

647. reference plane ระนาบอางองิ ระนาบชั้นหินมาตรฐาน คือ ระนาบชั้นหินที่ไดมีการบันทึกคาการวัดตางๆ อยางละเอียดเพื่อใชเปนมาตรฐานในการเปรียบเทียบกับระนาบชั้นหินอื่น ๆ

648. reference plane; datum; datum horizon; datum level; datum plane

ระดบัอางองิ ดู datum; datum horizon; datum level; datum plane; reference plane

649. reference section หนาตัดอางองิ หนาตัดของชั้นหินซึ่งกําหนดขึ้นเพื่อเสริมกับชั้นหินแบบฉบับหรือใชแทนที่เมื่อสูญเสียชั้นหินแบบฉบับ และใชเปนมาตรฐานสําหรับเทียบสัมพันธในภาพตั้งลําดับชั้นหิน ตัวอยางหนาตัดอางอิงของชั้นหินในประเทศไทย ไดแก ชั้นหินริมทางหลวงหมายเลข ๒ (มิตรภาพ) ตอนสระบุรี-นครราชสมีา ระหวางเขื่อนลําตะคองกับถนนตางระดับที่สีคิ้ว จัดเปนหนาตัดอางอิงของชั้นหินแบบฉบับหมวดหินเสา

Page 143: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

745

ขัว ซึ่งมีที่ตั้งแบบฉบับอยูที่หวยเสาขัว ดู standard section ประกอบ

650. reflectance อตัราสะทอน สัดสวนของพลังงานที่สะทอนกลับตอพลังงานที่ตกกระทบวัตถุ

651. reflected wave คลืน่สะทอน คลื่นไหวสะเทือนซึ่งสะทอนที่รอยสัมผัสระหวางตัวกลางที่มีสมบัติความยืดหยุนตางกัน

652. reflection การสะทอน การที่คลื่นตกกระทบพื้นผิวแลวสะทอนกลับไปยังตัวกลางเดิม ในการสํารวจคลืน่ไหวสะเทือน ลักษณะการสะทอนของคลื่นจะปรากฏบนแถบบันทึกซึ่งบอกใหทราบวาเปนสวนของพลังงานที่เกิดจากการสะทอน ดู law of reflection และ total reflection ประกอบ

653. reflection coefficient สัมประสิทธิก์ารสะทอน อัตราสวนระหวางแอมพลิจูดของคลื่นสะทอนกับคลื่นตกกระทบ สัมประสิทธิ์การสะทอนกําลังสองมีคาเทากับอัตราสวนระหวางพลังงานสะทอนกลับกับพลังงานที่ตกกระทบ

654. reflection shooting; reflection survey

การสาํรวจคลืน่สะทอน ดู reflection survey; reflection shooting

655. reflection survey; reflection shooting

การสาํรวจคลืน่สะทอน การสํารวจวัดคลื่นไหวสะเทือนเพื่อหาโครงสรางทางธรณีวิทยา ความแตกตางของชุดหินและลําดับชั้นหินโดยใชคลื่นสะทอน เปนการวัดเวลาการเดินทางของคลื่นไหวสะเทือนจากตนกําเนิดซึ่งสงจากผิวดินลงไปตกกระทบรอยสัมผัสระหวางตัวกลาง ๒ ชนิด ซึ่งมีความเร็วคลื่นตางกัน

Page 144: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

746

แลวสะทอนกลับสูเครื่องรับที่ผิวดินเพื่อหาความลึก มุมเท และแนวระดับของรอยสัมผัสระหวางตัวกลาง

656. reflector ชัน้สะทอน พื้นผิวสัมผัสระหวางตัวกลาง ๒ ชนิด ซึ่งมีสมบัติแตกตางกันที่ทําใหเกิดการสะทอนของคลื่นเสียง คลื่นแสง หรือคลื่นแมเหล็กไฟฟา เชน ในกรณีการสํารวจทางธรณีฟสิกส เมื่อคลื่นเสียงจากตนกําเนิดคลื่นตกกระทบพื้นผิวสัมผัสระหวางตัวกลาง ๒ ชั้น ที่มีความเร็วคลื่นเสียงตางกัน จะทําใหเกิดการสะทอนกลับไปเขาเครื่องรับคลื่นเสียงซึ่งอยูที่ผิวดิน โดยพื้นผิวสัมผัสอาจอยูระหวางหินตางชนิดกันหรืออยูในชั้นหินชนิดเดียวกันแตมีสารละลายตางชนิดกันบรรจุอยู เชน พื้นผิวสัมผัสระหวางชั้นน้ํากับชั้นปโตรเลียมในแหลงกักเก็บ ดังรูป รูป ๑ แผน

657. reflux การไหลกลบั ลักษณะการไหลยอนกลับของน้ําเค็มที่มีความเขมขนสูงผานทองน้ําหรือขามพนังกั้น (barrier sill) ของแองเกลือระเหย เพราะน้ําเค็มในแองอาจมีสารละลายแมกนีเซียมที่เขมขนกวาน้ําเค็มปรกติ และเชื่อกันวาการไหลกลับนี้เปนกระบวนการที่ทําใหเกิดแรโดโลไมตบางชั้นแทรกอยูในลําดับชั้นของแองหินคารบอเนต

658. refraction การหกัเห การเบี่ยงเบนรังสีของแสงหรือพลังงานรปูอื่น เชน คลื่นไหวสะเทือน ซึ่งเดินทางผานจากตัวกลางหนึ่งไปยังอีกตัวกลางหนึ่งที่มีความหนาแนนตางกัน และทําใหมีการเปลี่ยนแปลงความเร็วเกิดขึ้น

Page 145: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

747

659. refraction shooting; refraction survey

การสาํรวจคลืน่หกัเห ดู refraction survey; refraction shooting

660. refraction survey; refraction shooting

การสาํรวจคลืน่หกัเห การสํารวจวัดคลื่นไหวสะเทือนโดยใชคลื่นนํา วัตถุประสงคของการสํารวจ เพื่อตองการหาความลึกจากผิวดินถึงรอยสัมผัสระหวางตัวกลางที่มีความเร็วตางกัน ซึ่งเปนตัวการทําใหเกิดการหักเหของคลื่นไหวสะเทือน นอกจากนี้ ยังสามารถสํารวจหามวลสารที่มีความเร็วสูงที่เกิดอยูใตผิวดิน เชน โดมเกลือ

661. refractometer มาตรดรรชนีหกัเห เครื่องมือสําหรับใชตรวจสอบคาดรรชนีหักเหของสาร ใชไดทั้งของเหลวและของแข็ง นิยมใชในการหาชนิดแร รัตนชาติ เปนตน

662. refractor ชัน้หกัเห ผิวสัมผัสระหวางตัวกลาง ๒ ชั้นที่มีความเร็วคลื่นเสียงตางกัน ชั้นบนความเร็วคลื่นนอยกวาชั้นลาง เมื่อคลื่นเสียงตกกระทบผิวสัมผัสดวยมุมวิกฤต ทําใหคลื่นเสียงเดินทางไปตามแนวของผิวสัมผัสนั้นแลวหักกลับดวยมุมวิกฤตเขาหาเครื่องรับคลื่นเสียงซึ่งอยูที่ผิวดิน ดังรูป

663. refractory วสัดุทนไฟ วัสดุประเภทอนินทรียพวกดิน หิน แรธาตุ ที่หลอมตัวไดยากในอุณหภูมิสูง ทนความรอนสูง เชน อิฐทนไฟ

664. refractory clay; fire clay; fireclay

ดินทนไฟ ดู fire clay; fireclay; refractory clay

665. refractory ore สนิแรทนไฟ สินแรที่มีความทนตอความรอนและปฏิกิริยาเคมีที่อุณภูมิสูง

666. regelation การแข็งตวัใหม กระบวนการเกิดซ้ํา ซึ่งเกี่ยวของกับการละลายของน้ําแข็ง

Page 146: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

748

ภายใตความกดดันที่มากเกิน และเกิดการแข็งตัวอีกครั้งของน้ําที่ละลายแลวนั้นเมื่อความดันลดลง

667. regenerated crystal ผลกึเตบิใหญ ผลึกขนาดใหญที่เกิดจากเม็ดแรขนาดเล็กที่มีอยูเดิมขยายขนาดโตขึ้นเนื่องจากการเกิดผลึกใหมภายในมวลของวัสดุที่ถูกบดอัด เชน ควอตซหรือเฟลดสปารขนาดใหญในเนื้อพื้นของแรเม็ดขนาดเล็กกวาที่ถูกบดอัดในหินไมโลไนต

668. regime ระบบเฉพาะ รูปแบบที่มีการเกิดหรือการกระทําอยางเปนระบบและเปนที่รับรูไดทั่วไป เชน ระบบเฉพาะของการตกตะกอน

669. regimen ระบอบ ๑. ลักษณะเฉพาะของการไหลของน้ําในลําธาร เชน ความเร็ว ปริมาตร การเปลี่ยนรองธาร ความสามารถในการนําพาตะกอน ดู regime ประกอบ ๒. ปริมาณของน้ําทั้งหมดที่เกี่ยวกับพื้นที่รับน้ําและการกระทําของน้ํา ซึ่งหาไดจากการวัดปริมาณน้ําฝน การกกัเก็บน้ําผิวดินและใตดิน และการคายระเหย ๓. การวิเคราะหปริมาณน้ําทั้งหมดในทะเลสาบในชวงเวลาใดเวลาหนึ่ง นิยมวัดเปนป ดู regime ประกอบ

670. regional dip มุมเทบรเิวณไพศาล มุมเทของชั้นหินที่ปรากฏเปนบริเวณกวาง โดยทั่วไปเปนมุมเทต่ํา ดังเชนที่พบบริเวณทิวเขาพนมดงรัก บริเวณมหาสมุทรแอตแลนติก ที่ราบชายฝง และสวนของพื้นที่บริเวณกลางทวีป มีความหมายเหมือนกับ normal dip

Page 147: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

749

671. regional metamorphism*

การแปรสภาพบรเิวณไพศาล

การแปรสภาพของหินซึ่งเกิดเปนบริเวณกวางใหญไพศาลเนื่องจากอุณหภูมิและความกดดัน โดยปรกติการแปรสภาพแบบนี้จะไมมีความเกี่ยวพันกับมวลหินอัคนี

672. regional unconformity รอยชั้นไมตอเนือ่งบรเิวณไพศาล

รอยชั้นไมตอเนื่องที่แผกระจายติดตอกันเปนบริเวณกวางขวาง อาจครอบคลุมตลอดทั้งทวีป และรอยชั้นไมตอเนื่องนี้แสดงถึงชวงเวลาการกาํเนิดที่ยาวนาน

673. regolith; mantle of rock; mantle rock*

ผวิเปลอืกโลก ดู mantle of rock; mantle rock; regolith

674. Regosols เรโกซอลส ดูคําอธิบายใน Azonal soil order

675. regression ๑. การถดถอย การถอยหางของทะเลจากแผนดิน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงจากสภาพนอกชายฝงทะเลน้ําลึกเปนใกลชายฝงทะเลน้ําตื้น หรือการเคลื่อนที่ของรอยตอระหวางการทับถมตัวของตะกอนจากพื้นดินและตะกอนจากทะเลเขาสูจุดศูนยกลางของแองทะเล

676. regression ๒. ววิัฒนาการถอยกลบั ๒.๑ สมมุติฐานการยอนกลับของทิศทางวิวัฒนาการ ซึ่งใชอธิบายปรากฏการณถอยกลับของแกรปโทไลตสกุล Dicranograptus และสกุล Dimorphograptus ๒.๒ แนวโนมทางพันธุกรรมที่รุนลูกหลานแสดงออกถึงลักษณะที่ไดรับการถายทอดจากบรรพบุรษุที่เบี่ยงเบนออกจากลักษณะกาวหนาหรือลักษณะเฉพาะไปสูลักษณะหรือขั้นที่ธรรมดา

677. regression* การถอยกลบัของทะเล ดูคําอธิบายใน transgression

Page 148: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

750

678. regressive overlap การเหลือ่มถอยกลบั ดู offlap 679. regressive reef พืดหนิถดถอย พืดหินหรือเนินหินชีวภาพใตน้ําที่อยูใกล ๆ ชายฝง ซึง่เกิด

อยูบนชั้นหินที่ตกตะกอนในแอง ในขณะที่พื้นดินยกตัว หรือน้ําทะเลมีระดับลดลง พืดหินนี้มักขนานกับแนวชายฝง ดู transgressive reef ประกอบ

680. regressive sediment ตะกอนถดถอย ตะกอนที่สะสมตัวขณะที่น้ําทะเลลดลง หรือขณะที่แผนดินรุกล้ําเขาไปในทะเล

681. rejuvenated river* แมน้าํคนืพลงั แมน้ําที่ไหลเอื่อยมาแตเดิมเพราะอยูในบั้นปลายของธารน้ํา แตกลับฟนหลังการกัดเซาะแผนดินขึ้นมาใหมได เพราะแผนดินถูกยกตัวโดยการเคลื่อนไหวของเปลือกโลก บางแหงทําใหแนวลําน้ําเปลี่ยนไปไดมากก็มี ตัวอยางเชน แมน้ําโขง อันเปนเขตแดนไทยลาวขณะนี้ เกิดมีน้ําตก แกงและเรี่ยวตลอดลําน้ํา คลายเปนแมน้ําปฐมวัยฉะนั้น

682. rejuvenation head; knickpoint

จุดเปลีย่นลาดลาํน้าํ ดู knickpoint; rejuvenation head

683. rejuvenation* การคนืพลงั การคืนพลงัการกัดเซาะขึ้นใหมของลําน้ําอันเนื่องมาจาก ๑. ระดับอยูตัวเปลี่ยนไปเพราะระดับทะเลลดต่ําลงหรือเพราะแผนดินบางตอนยกตัวสูงขึ้น ทําใหเกิดลักษณะเดน เชน จุดเปลี่ยนลาดลําน้ํา ตะพักและทางน้ําโคงตวัดอยูตัว ๒. ปริมาณน้ําผานมากขึ้น อันเนื่องมาจากการไหลของธารหลงแมหรือการที่หยาดน้ําฟาตกมากขึ้น ในกรณีนี้ระดับอยูตัวไมเปลี่ยนแปลง

Page 149: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

751

684. relative abundance ความอุดมสัมพัทธ จํานวนของสิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่ง เปรียบเทียบกับจํานวนของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ๆ ในพื้นที่หนึ่ง หรือในชั้นหินหรือชั้นตะกอนชั้นใดชั้นหนึ่ง ดู abundance และ absolute abundance ประกอบ

685. relative age อายุเปรยีบเทียบ อายุทางธรณีวิทยาของซากดึกดําบรรพ หิน ลักษณะทางธรณีวิทยา หรือเหตุการณทางธรณีวิทยา เมื่อเทียบกับซากดึกดําบรรพ หิน ลักษณะทางธรณีวิทยา หรือเหตุการณทางธรณีวิทยาอื่น ๆ แทนที่จะบงบอกเปนจํานวนป ดู absolute age ประกอบ

686. relative dating การหาอายุเปรยีบเทยีบ การจัดลําดับเชิงอายุของซากดึกดําบรรพ ลักษณะทางธรณีวิทยา หรือเหตุการณทางธรณีวิทยา เมื่อเทียบกับมาตราธรณีกาล โดยไมคํานึงถึงอายุสัมบูรณของสิ่งนั้น

687. relative humidity ความชืน้สมัพัทธ อัตราสวนเปนรอยละของปริมาณไอน้ําที่แทจริงในอากาศกับปริมาณของไอน้ําอิ่มตัวในอากาศปริมาตรหนึ่งที่อุณหภูมิเดียวกัน

688. relative permeability สภาพใหซมึไดสมัพทัธ อัตราสวนระหวางสภาพใหซึมไดยังผลของของไหลที่ไมอิ่มตัว กับสภาพใหซึมไดของของไหลเดียวกันที่อิ่มตัวเต็มที่ มีพิสัยตั้งแตศูนยเมื่อมีความอิ่มตัวนอยถึงหนึ่งเมื่อมีความอิ่มตัวเต็มที่ ดู absolute permeability และ effective permeability ประกอบ

689. release joint; pressure–release jointing

แนวแตกคลายความดัน ดู sheeting

Page 150: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

752

690. releasing bend แนวโคงคลายออก ดู negative flower structure 691. relic ๑. สวนทีเ่หลอื ๑.๑ ภูมิลักษณที่เหลืออยูหลังจากการกรอนหรือการ

สลายตัว เชน เขาโดดเกาะหินโดง สะพานหินธรรมชาติ ๑.๒ สวนของแร หรือลักษณะของหินหรือแรเดิมที่ยังคงสภาพอยูภายหลังการเปลี่ยนสภาพ ทําใหทราบขอมูลเกี่ยวกับการกําเนิดของหินหรือแรนั้น เชน แรไลมอไนตหรือขาวตอกพระรวงที่ยังคงรูปลูกบาศกหรือรูปลูกเตาของแรไพไรต หินแปรที่แสดงลักษณะเนื้อดอก แสดงถึงการแปรสภาพมาจากหินอัคนี สวนของแรคาลโคไพไรตที่ยังคงเหลือใหเห็นในพื้นแรคาลโคไซตที่เขาแทนที่แรคาลโคไพไรตนั้น มีรูป

692. relic ๒. รองรอย โครงรางหรือรูปรางเดิมของชิ้นสวน (particle) ในหินชั้นหรือหินตะกอนที่เกิดจากการนาํพามาสะสมตัวบางสวนหรือทั้งหมด เชน รองรอยของโครงกระดูกในหินปูน ดู saprolite ประกอบ

693. relict -สวนเหลอืคาง ๑. ภูมิลักษณ คําที่ใชกับลักษณะหรือแบบรูปตาง ๆ บนพื้นผิวโลกที่ยังคงเหลืออยู หลังจากสวนอื่นในบริเวณนั้นหายไป ๒. แรและหิน คําที่ใชกับเนื้อแรหรือโครงสรางดั้งเดิมที่ยังคงเหลืออยูหลังจากสวนอื่น ๆ ถูกแทนที่หมด หรือหมายถึงคําที่ใชกับเนื้อหินเดิมที่ยังคงเหลืออยูหลังจากถูก

Page 151: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

753

แปรสภาพ ๓. หินแปร คําที่ใชกับแร โครงสราง หรือลักษณะรูปรางของหินเดิมที่คงอยูในหินที่เกิดใหม แมวากระบวนการกระทําดูเหมือนสามารถทําลายลักษณะรูปดั้งเดิมไดก็ตาม

694. relict permafrost ชัน้ดนิเยอืกแขง็เหลอืคาง

ชั้นดินเยือกแข็งที่เกิดขึ้นในอดีต และในปจจุบันยังพบเหลือคางอยู ณ ที่ซึ่งไมสามารถเกิดชั้นดินชนิดนี้ได

695. relict texture เนือ้เดิมเหลอืคาง ในแหลงแรหมายถึง เนื้อหินหรือแรดั้งเดิมที่ยังคงปรากฏอยู หลังจากถูกแทนที่เพียงบางสวนหรือแทนที่ทั้งหมด

696. relief ความสงูต่าํ ๑. ลักษณะทางกายภาพของพื้นผิวโลกซึ่งเปนภูเขาและหุบเขา ที่ราบกับที่ราบสูง หรือเปนภูมิทัศนทั่วไป ๒. ความแตกตางกันในดานรูปรางลักษณะของผิวโลกซึ่งมีความสูงต่ําไมเทากัน ๓. ลักษณะพื้นผิวที่ขรุขระหรือแสดงความสูงต่ําของผลึกแรในแผนตัดบางที่ดูดวยกลองจุลทรรศน ลักษณะนี้เกิดจากการหักเหของแสงจากแรหรือตัวกลางหนึ่งไปยังอีกตัวกลางหนึ่ง ทั้งนี้ ขึ้นอยูกับความแตกตางระหวางคาดรรชนีหักเหของแรกับตัวกลาง หากระดับความสูงต่ําตางกันสูง แสดงวามีความแตกตางระหวางดรรชนีหักเหของแรกับตัวกลางที่เปนสารเชื่อมประสานสูง ระดับความสูงต่ําจะมีคาเปนบวก หากดรรชนีหักเหของแรมีคามากกวาตัวกลาง ซึ่งจะเห็นพื้นผิวแรสูงกวาผิวตัวกลาง ในทางกลับกัน ระดับความสูงต่ําจะมีคาเปนลบ หากดรรชนีหักเหของแรมีคานอยกวา

Page 152: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

754

ตัวกลาง ซึง่จะเห็นพื้นผิวของแรต่ํากวาพื้นผิวของตัวกลางในแผนตัดบางนั้น ดู becke line ประกอบ ๔. พิสัยของคาทางธรณีฟสิกสในพื้นที่ที่มีคาผิดปรกติหรือในพื้นที่ที่มีความสูงต่ําของคาทางธรณีฟสิกส เชน ความสูงต่ําของคาความโนมถวงที่เปนขนาดของความโนมถวงแตกตางจากคาปรกติ

697. relief map แผนทีค่วามสงูต่าํ แผนที่แสดงลักษณะทรวดทรงและความสูงต่ําของพื้นผิว ซึ่งแสดงดวยเสนชั้นความสูง เสนชั้นความลึก เสนลาดเขา เงา หรือแถบสี เชน แผนที่ความสูงต่ําของผิวโลก

698. remaining reserves ปริมาณสาํรองคงเหลอื ทรัพยากรที่คาดวาจะสามารถผลิตไดนับตั้งแตเวลาที่กําหนดเปนตนไป โดยเทคโนโลยีและสภาพเศรษฐกิจที่คาดการณได ณ เวลานั้น

699. remanent magnetization*

สภาพแมเหลก็ตกคาง สภาพแมเหล็กที่เหลืออยูในหินและมีทิศทางการวางตัวอยูในทิศใดทิศหนึ่งอยางแนนอน สนามแมเหล็กตกคางนี้ไมอาจเบี่ยงเบนไปจากเดิมแมวาจะถูกเหนี่ยวนําโดยอํานาจแมเหล็กโลกก็ตาม

700. remote sensing การรบัรูระยะไกล การศึกษาสํารวจสรรพสิ่งที่พื้นผิวโลกโดยอาศัยการพิจารณาลกัษณะเฉพาะดานการสะทอน หรือการแพรพลังงานแมเหล็กไฟฟาของสิ่งนั้น ๆ ที่ผานมายังเครื่องบันทึกขอมูล ซึ่งจะบันทึกและแปลงสัญญาณขอมูลจากตําแหนงที่อยูสูงขึ้นไปจากพื้นโลกลงบนแผนฟลม ไดแก รูปถายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียม เปนตน การพิจารณาอาจใชวิธีการดูภาพสามมิติ และ/หรือการดูภาพเดี่ยว

Page 153: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

755

รวมทั้งการวิเคราะหขอมูลเชิงตัวเลขทางกระบวนการคอมพิวเตอร เพื่อใหไดขอมูลที่สามารถนํามาแสดงบนแผนที่ และมีความถูกตองเพียงพอกับการนําไปใชทํางานไดตามเปาหมาย ประหยัดไดทั้งเวลาและคาใชจาย

701. remote sensing geology

ธรณีวทิยาการรบัรูระยะไกล

การศึกษา (สํารวจ) ทําแผนที่ธรณีวิทยาดวยวิธีการรับรูระยะไกล โดยอาศัยหลักฐานที่ปรากฏใหเห็นในรูปถายทางอากาศ หรือภาพจากดาวเทียม ซึ่งไดแก ลักษณะภูมิประเทศ รูปแบบทางน้ํา พืชพรรณและการใชที่ดิน ตลอดจนความเขมของสีภาพ การพิจารณาและวิเคราะหลักษณะความแตกตางของขอมูลเหลานี้สามารถนํามาใชเปนหลักฐานกําหนดขอบเขตบริเวณที่มีความแตกตางทางธรณีวิทยา ตลอดจนโครงสรางที่แสดงถึงความสัมพันธทางธรณีวิทยาบริเวณนั้น ขอมูลธรณีวิทยาที่ศึกษาไดโดยวิธีทางรับรูระยะไกลสามารถใชเปนพื้นฐานในการสํารวจขอมูลธรณีวิทยาในภูมิประเทศ และผสมผสานกับขอมูลธรณีวิทยาที่ศึกษาดวยวิธีการอื่น ๆ เชน ธรณีฟสิกส ธรณีเคมี รวมทั้งการศึกษาวิเคราะหดวยวิธีการตาง ๆ ในหองปฏิบัติการ ซึ่งจะชวยใหความรูทางธรณีวิทยาของบริเวณที่ทําการสํารวจสมบูรณยิ่งขึ้น ในสมัยอดีตที่ขอมูลรับรูระยะไกลมีใชเพียงรูปถายทางอากาศ การศึกษาดังกลาวเรียกวา “ธรณีวิทยารูปถายทางอากาศ” ซึ่งตรงกับคําในภาษาอังกฤษวา “photogeology”

702. reniform -รปูไต คําที่ใชกับโครงสรางผลึกรูปรัศมีแผอยูในมวลทรงกลม มี

Page 154: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

756

รูปรางคลายไต และใชกับแหลงแรที่มีผิวพื้นกลมรูปรางคลายไต ดู botryoidal และcolloform ประกอบ

703. replacement* การแทนที่ ๑. (การแปรสภาพ) กระบวนการที่มีสารใหมเขาไปตกผลึกแทนที่อยูภายในแรหรือกลุมแรที่มีอยูเดิมเปนบางสวนหรือทั้งหมดใหหินแปร ทําใหเกิดมีแรใหมที่มีสวนประกอบทางเคมีสวนหนึ่งหรือทั้งหมดแตกตางจากแรเดิม ๒. (บรรพชีวินวิทยา) กระบวนการหนึ่งของการเกิดซากดึกดําบรรพโดยสารอนินทรียเขาไปแทนที่สารอินทรียซึ่งเปนสวนประกอบเดิมของสิ่งมีชีวิต

704. repregressive metamorphism; retrograde metamorphism

การแปรสภาพยอน ดู retrograde metamorphism; reprogressive metamorphism

705. representative fraction (RF)

มาตราสวนแบบเศษสวน (อารเอฟ)

มาตราสวนของแผนที่ในรูปของตัวเลขเศษสวนที่แสดงใหเห็นความสัมพันธของความยาวตามแนวเสนบนแผนที่กับระยะทางจริงในพื้นที่ซึ่งมีหนวยการวัดหนวยเดียวกัน ตัวอยางเชน แผนที่มาตราสวน ๑:๕๐,๐๐๐ แสดงวาหนึ่งหนวยบนแผนที่เทากับ ๕๐,๐๐๐ หนวยบนพื้นที่จริง

706. reptile สตัวเลือ้ยคลาน สัตวมีกระดูกสันหลัง จัดอยูในชั้นเรปทิเลีย (class Reptelia) เปนสัตวเลือดเย็น หายใจไดดวยปอด ตลอดขั้นตอนของการพัฒนา วางไขบนบก ไขมีปริมาณไขแดง

Page 155: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

757

มาก มีชวงอายุตั้งแตยุคเพนซิลวาเนียนจนถึงปจจุบนั

707. resection การสกัดกลบั วิธีการสํารวจหาตําแหนงทางภูมิศาสตรโดยการกําหนดวัดจากตําแหนงที่รูคาอยางนอย ๒ จุด โดยใชวิธีเรขาคณิตดวยการวัดมุมของตําแหนงที่รูคา

708. resedimentation การตกตะกอนใหม ๑. การสะสมตะกอนใหมอีกครั้งของวัตถุที่มาจากหินตะกอนที่มีอยูเดิม ๒. การสะสมตะกอนแบบพอกพูนที่เกิดจากการตกตะกอนของสารละลายหรือการตกตะกอนที่นําพามาโดยเชิงกล (ทางกายภาพ) ในชองวางหรือโพรง เชน การสะสมตะกอนจากสารละลายหรืออนุภาคหินปูน ๓. การสะสมตะกอนที่เกิดขึ้นใตน้ําทั้งที่เกิดจากการพัดพาสิ่งถับทมเดิมลงมาตามความลาดเอียงของทองทะเลหรือจากแรงโนมถวงของโลก

709. resequent fault-line scarp

ผารอยเลือ่นตามแนว แนวผารอยเลื่อนแนวหนึ่งที่หันหนาไปในทิศทางเดียวกับผารอยเลื่อนเดิม กลาวคือ หันหนาไปทางบล็อกรอยเลื่อนที่ไดทรุดตัวลง มีความหมายตรงขามกับ obsequent fault-line scarp 27/56

710. resequent stream ธารน้าํตามแนว ธารน้ําซึ่งเกิดขึ้นภายหลัง มีแนวและทิศทางการไหลเชนเดียวกับธารน้ําตามแนวเทที่มีอยูเดิม แตอยูในระดับต่ํากวา โดยทั่วไปเปนสาขาหนึ่งของธารน้ําที่ไหลไปตามแนวระดับของชั้นหิน ดู consequent stream; dip stream

Page 156: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

758

28,29/56

711. reserves ปริมาณสาํรอง ปริมาณทรัพยากร เชน แร เชื้อเพลิง หรือหิน ที่มีการสะสมตัวตามธรรมชาติและสามารถพัฒนามาใชประโยชนไดอยางคุมคาทางเศรษฐกิจ โดยมีความเหมาะสมทางดานเศรษฐศาสตร เทคโนโลยี สิ่งแวดลอม สังคม กฎและระเบียบ และดานอื่น ๆ ที่เกี่ยวของทั้งหมด ดู resources ประกอบ

712. reservoir แหลงกกัเกบ็ ๑. ชั้นหินใตดินที่มีความพรุนและเนื้อฟามที่มีปโตรเลียมสะสมอยู ดู pool และ reservoir rock ประกอบ ๒. ดู aquifer ๓. หนองบึงหรือทะเลสาบตามธรรมชาติหรือที่สรางขึ้นเพื่อกักเก็บน้ํา 44/55

713. reservoir bitumen บิทเูมนแหลงกกัเกบ็ แอสฟลตแข็งสีดําที่เปนชิ้นเล็กหรือเคลือบอยูในหินกักเก็บน้ํามันและแกส เปนผลพลอยไดจากการแปรเปลี่ยนของไฮโดรคารบอนในแหลงกักเก็บ บิทูเมนแหลงกักเก็บแบงเปน ๒ ชนิด คือ บิทเูมนชนดิแกรไฟต (graphitic bitumen) เกิดจากกระบวนการแตกตัวดวยความรอน และ บิทเูมนธรรมชาต ิ(natural bitumen) เกิดจากกระบวนการทําใหขน (inspissation) การชะลางดวยน้ํา (water-washing) หรือการ ออกซิเดชัน

Page 157: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

759

714. reservoir drive mechanism; drive mechanism; reservoir drive

แรงขบัแหลงกกัเกบ็ ดู drive mechanism;reservoir drive; reservoir drive mechanism

715. reservoir energy แรงขบัแหลงกกัเกบ็ พลังงานหรือแรงดันในแหลงกักเก็บปโตรเลียม ดู gas-cap drive, dissolved-gas drive, water drive ประกอบ

716. reservoir gas แกสแหลงกกัเกบ็ แกสในชั้นหินกักเก็บซึ่งมีความสัมพันธหรือไมมีความสัมพันธกับน้ํามันก็ได

717. reservoir pressure ความดันแหลงกกัเกบ็ ความดันในชั้นหินที่มีปโตรเลียมสะสมอยู เนื่องจากความหนาของชั้นหินปดทับ การเปลีย่นรูปของโครงสรางชั้นหิน น้ําหนักของเหลว เปนตน

718. reservoir rock* หินกกัเกบ็ หินที่มีความพรุน รอยแยก รอยแตก อยูภายในเนื้อหินเพียงพอที่จะกักเก็บของไหล เชน น้ํา น้ํามัน แกสธรรมชาติ หินที่กักเก็บของไหลไดดีคือ หิน ทราย หินปูน

719. residual ๑. -เหลอืคาง, -ตกคาง ๑.๑ คําที่ใชเกี่ยวกับลักษณะภูมิประเทศที่เหลืออยูหลังการเปลี่ยนแปลงตามกระบวนการทางธรณีวิทยา ๑.๒ คําที่ใชเกี่ยวกับการสะสมตัวของแร เกิดเปนลานแร โดยกระบวนการทางกลศาสตร หรือเกิดจากกระบวนการผุพังอยูกับที่ของแร เชน แรดินขาวที่ผุพังมาจากเฟลดสปาร ๑.๓ คําที่ใชเกี่ยวกับการสะสมตะกอนหรือเศษหินที่เกิดจากการผุพังอยูกับที่ของหิน โดยสวนที่ละลายน้ําไดถูกพัดพา

Page 158: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

760

ออกไป เชน เคลยเหลือคาง

720. residual ๒. สวนเหลือคาง (ธรณีฟสิกส, ธรณีเคมี) คาสวนที่เหลือเมื่อไดหักคาผิดปรกติบริเวณไพศาลออกไป เพื่อเนนใหเห็นถึงคาผิดปรกติที่เกิดจากบริเวณเฉพาะที่

721. residual boulder กอนหนิมนใหญตกคาง ดู boulder of weathering; weathering boulder 722. residual clay เคลยเหลือคาง เคลยที่เกิดจากการผพุังอยูกับที่ของหิน ทั้งที่เกิดจากการ

สลายตัวทางเคมีของเฟลดสปาร และแรประกอบหินชนิดอื่น หรือเกิดจากสวนประกอบที่ไมใชแรดินถูกขจัดออกไป โดยสารละลายจากหินที่มีแรดินประกอบอยูดวย เชน หินปูนเนื้อดิน

723. residual gravity ความถวงเหลอืคาง คาความถวงที่เหลืออยูหลังจากไดหักลบความถวงบริเวณไพศาลออกจากคาที่วัดไดแลว ความถวงเหลือคางมีคาเพียงเล็กนอย หรือเปนองคประกอบของความผิดปรกติที่เกิดขึ้นเฉพาะบริเวณเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับสนามความถวงที่วัดได

724. residual liquid ของเหลวเหลอืคาง ดู residual magma; rest magma

725. residual magma; rest magma

แมกมาเหลอืคาง สวนของแมกมาที่ยังหลอมเหลวเหลืออยูในแหลงแมกมาหลังจากที่แมกมาบางสวนตกผลึกและแยกตัวออกไปเปนลําดับ มีความหมายเหมือนกับ residual liquid

726. residual magnetism สภาวะแมเหลก็เหลอืคาง คาความเขมสนามแมเหล็กโลกที่คงเหลือหลังจากขจดัคาของสนามแมเหล็กจากแหลงอื่นออกไป โดยปรกติมีคาคอนขางนอย หรือเปนเพียงคาผิดปรกติในทองที่ของสนามแมเหล็กรวมหรือสนามแมเหล็กที่ไดจากการวัด

Page 159: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

761

727. residual soil ดินเหลือคาง ดินที่เกิดจากการสลายตัวผุพังของหินและสะสมอยูกับที่ ณ ที่นั้น

728. resin เรซนิ ๑. ในความหมายเดิม หมายถึงผลิตภัณฑอินทรียที่มีน้ําหนักโมเลกุลคอนขางสูงซึ่งขับออกมาจากพืชหรือตนไมโดยเฉพาะไมตระกูลสน เชน ยางสน กํายาน แตปจจบุันคํา “เรซิน” ใชในความหมายคอนขางกวางและแตกตางไปจากเดิมคอนขางมาก โดยหมายรวมถึงพอลิเมอรสังเคราะหที่ใชในอุตสาหกรรมตาง ๆ เชน อุตสาหกรรมพลาสติก สิง่ทอ สี สารเคลือบผิว นอกจากนี้คําวา “เรซิน” ยังมักใชในความหมายเดียวกับพลาสติกที่อยูในรูปเปนเม็ดดวย ๒. สสารลกัษณะแขง็ เปราะ โปรงใสหรือโปรงแสง เปนยางไมที่มีลักษณะเยิ้มขน ซึ่งพืชปจจุบันหรือพืชดึกดําบรรพผลิตขึ้น เมื่อสูญเสียน้ํามันระเหยและแข็งตัวจะกลายเปนเรซิน สีเหลืองถึงน้ําตาล ลักษณะมันวาว ติดไฟได ละลายในอีเทอรและสารละลายอินทรียอื่น ๆ แตไมละลายน้ํา ดู amber ประกอบ

729. resin tin ดีบกุสยีางสน ดู rosin tin

730. resineous luster วาวแบบยางสน ความวาวบนผิวหนาของรอยแตกของแรที่มีลักษณะวาว คลายยางสน เชน โอปอ กํามะถัน อําพัน สฟาเลอไรต

731. resistates ตะกอนทนทาน ตะกอนที่ประกอบดวยแรซึ่งมีองคประกอบทางเคมีที่คงทนตอการผุพังอยูกับที่ พบมากในตะกอนสวนที่เหลือจากการผุพัง เชน ตะกอนที่มีควอตซปริมาณมาก มักพบเซอรคอน

Page 160: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

762

อิลเมไนต รูไทล สวนดีบุก โมนาไซต และทอง พบนอยมาก

732. resistivity สภาพตานทาน ๑. สมบัติของวัสดุซึ่งตานทานการไหลของกระแสไฟฟา เปนอัตราสวนระหวางความเขมสนามไฟฟากับความหนาแนนกระแสไฟฟา สวนกลบัของสภาพตานทาน คือ สภาพนํา ๒. สวนกลับของสภาพนําความรอน มีหนวยวัดเปนเมตรเคลวินตอวัตต

733. resistivity log ผลบนัทกึสภาพตานทาน ผลบันทึกการหยั่งธรณีในหลุมเจาะโดยการวัดคาสภาพตานทานไฟฟาแบบธรรมดา ไดจากการสงกระแสไฟฟาผานขั้วกระแสไฟฟาเขาไปในชั้นหิน แลววัดความตางศักยไฟฟาระหวางขั้วศักยไฟฟา ๒ ขั้ว นําไปคํานวณหาสภาพตานทานไฟฟาของชั้นหิน การวัดสภาพตานทานไฟฟาใหขอมูลความแตกตางกันระหวางชั้นหินกักเก็บปโตรเลียมซึ่งใหคาสภาพตานทานไฟฟาสูง กับชั้นหินกักเก็บน้ําซึ่งมีสภาพตานทานไฟฟาต่ํา เมื่อใชขอมูลนี้รวมกับขอมูลความพรุนของชั้นหินที่ไดจากการหยั่งธรณีแบบอื่น ๆ จะสามารถประเมินหาปริมาณของไฮโดรคารบอนที่อยูในแหลงกักเก็บไดคอนขางแมนยํา

734. resistivity method วิธสีาํรวจสภาพตานทาน วิธีการสํารวจธรณีฟสิกสดวยไฟฟา โดยการปลอยกระแสไฟฟาลงใตพื้นดินผานขั้วไฟฟาสองขั้ว วัดความตางศักยไฟฟาระหวางขั้วไฟฟาอื่นอีกสองขั้วหรือมากกวา

735. resolution การแยก ความสามารถในการวัดของเครื่องมือทางธรณีฟสิกส หรือ

Page 161: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

763

ระบบการรบัรูระยะไกล หรือเครื่องมืออื่น ๆ ในการแยกแยะรายละเอียดของจุดเปาหมาย ดู accuracy ประกอบ

736. resorption rim; corrosion zone; corrosion rim

ขอบกัดกรอน ดู corrosion rim; corrosion zone; resorption rim

737. Resources (พิจารณาเมื่อจัดเปน

หมวด)

๑. ทรพัยากร ทรัพยากรธรณี เชน แร เชื้อเพลิง หรือหิน ที่มีการสะสมตัวตามธรรมชาติและมีศักยภาพที่จะพัฒนามาใชประโยชนได แตยังไมมีการประเมินคุณคาทางเศรษฐกิจ หรือมีการประเมินคุณคาทางเศรษฐกิจแลวแตยังไมคุมคาในขณะที่ทําการประเมิน

738. Resources (พิจารณาเมื่อจัดเปน

หมวด)

๒. ปรมิาณทรพัยากร ปริมาณของแข็ง ของเหลว หรือแกสที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในชั้นเปลือกโลก ซึ่งมีความเปนไปไดที่จะสกัดหรือนําขึ้นมาใชอยางคุมคาทางเศรษฐกิจในขณะนั้น หรือในระยะเวลาหนึ่งในอนาคต ดู reserves ประกอบ

739. rest magma; residual magma

แมกมาเหลอืคาง ดู residual magma; rest magma

740. restraining bend แนวโคงยดึรัง้ ดู positive flower structure 741. restricted basin; silled

basin

แองปดกัน้ แองในทองมหาสมุทรที่มีลักษณะภูมิประเทศจําเพาะ ซึ่งจํากัดการหมุนเวียนของน้ํา เปนผลใหออกซิเจนลดลง

742. resurgence ธารผุด ธารน้ําหรือจุดที่ธารน้ํามุดหายเขาไปในถ้ําในรูปของธารน้ํา

Page 162: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

764

มุด (sinking stream) ไดโผลกลับขึ้นมาบนผิวดินอีกครั้ง กลายเปนธารน้ําที่ไหลออกจากปากถ้ํา มีความหมายเหมือนกับ rise ซึ่งเปนภาษาจาไมกาที่ใชในเรื่องของภูมิประเทศแบบคาสต

743. retained water น้าํเหลอืคาง น้ําที่ยังคงเหลืออยูตามชองวางในหินหรือดินหลังจากที่น้ําบางสวนไดถูกระบายออกไป

744. reticulate -ตาขาย ๑. คําที่ใชกับสายแรที่มีลักษณะคลายตาขาย ๒. คําที่ใชกับเนื้อหินที่ผลึกบางสวนแปรเปลี่ยนเปนแรทุติยภูมิ มีลักษณะคลายตาขาย ดู mesh texture ประกอบ ๓. คําที่ใชกับลักษณะตาขายที่ปรากฏบนโครงรางของสัตวไมมีกระดูกสันหลัง เชน ชั้นตาขายบนผิวของพวกฟอแรมินิเฟอรา

745. retreat; recession; retrogression

การถอยกลบั ดู recession; retreat; retrogression

746. retrograde condensation

การกลัน่ตวัยอนกลบั การเกิดไฮโดรคารบอนที่เปนของเหลวในแหลงกักเก็บแกสธรรมชาติเมื่อความดันภายในแหลงกักเก็บลดต่ําลงกวาจุดกลั่นตัว (dew point) ระหวางผลิตแกสธรรมชาติ ทั้งนี้เพราะแกสธรรมชาติบางสวนกลั่นตัวเปนของเหลวภายใตความรอนคงที่ แทนที่จะเกิดจากการขยายตัวหรือกลายเปนไอเมื่อความดันลดลง

Page 163: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

765

747. retrograde metamorphism; reprogressive metamorphism

การแปรสภาพยอน การแปรสภาพแบบที่มีการแปรสภาพหลายครั้ง โดยพบแรแปรสภาพขั้นต่ําซึ่งไดจากการแปรเปลี่ยนหรือสูญหายไปของแรที่เปนสัญลักษณของการแปรสภาพขั้นสูงกวา สันนิษฐานวาเปนการจัดตัวใหมที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะทางกายภาพในระบบ เชน การลดอุณหภูมิ

748. retrograding shoreline แนวชายทะเลถอยกลบั แนวชายทะเลที่ถอยรนเขาไปในแผนดินจากการกัดเซาะของคลื่นและน้ําทะเล ดู recession; retreat; retrogression ประกอบ มีรูปประกอบ

749. retrogression ; recession; retreat

การถอยกลบั ดู recession; retreat; retrogression

750. return period; recurrence interval

คาบอบุตัซิ้าํ ดู recurrence interval; return period

751. Reuverian รวูีเรยีน ชวงเวลาที่ธารน้าํแข็งละลายในสมัยไพลสโตซีนตอนตนของทวีปยุโรปตะวันตกเฉยีงเหนือ เปนชวงภูมิอากาศอบอุน ดู ตารางชวงอายุธารน้ําแข็งและชวงคั่นธารน้ําแข็งสมัยไพลสโตซีนในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรป ประกอบ 5/56

752. reversal; geomagnetic reversal

การกลบัขัว้ การเปลี่ยนขั้วของสนามแมเหล็กโลกจากขั้วที่ปรากฏอยูในปจจุบัน ซึง่ไดเกิดขึ้นหลายครั้งในอดีตของโลกที่ผานมา

753. reverse fault* รอยเลือ่นยอน ดูคําอธิบายใน normal fault

Page 164: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

766

754. reverse polarity สภาพขั้วผดิปรกติ ๑. สภาพที่แนวเสนแรงแมเหล็กตกคางทางธรรมชาติวางตัวตรงขามกับทิศทางการวางตัวของแนวเสนแรงสนามแมเหล็กโลกปจจุบัน ๒. รูปแบบการวางตัวของเสนแรงสนามแมเหล็กโลก ซึ่งทําใหขั้วบวกแมเหล็กโลกอยูในตําแหนงใกลเคียงกับขั้วโลกเหนือทางภูมิศาสตร ดู normal polarity ประกอบ

755. reverse saddle; trough reef

ทางแรรองอานมา ทางแรที่มีลักษณะเหมือนอานมา พบอยูตรงสวนต่ําสุดของชั้นหินโคงรูปประทุนหงายและวางตัวไปตามแนวชั้นหิน 7/56

756. reverse similar fold รอยคดโคงเหมอืนยอนกลบั

รอยคดโคงที่บริเวณสวนดานขางหนากวาบริเวณสวนยอดและสวนลาง ลักษณะชั้นหินคดโคงประเภทนี้มีลักษณะตรงขามกับชั้นหินคดโคงเหมือน ดู similar fold ประกอบ 2/56

757. reverse stream ธารน้าํยอนกลบั ธารน้ําที่มีการไหลยอนกลับอาจจะเนื่องมาจากการกระทําของธารน้ําแข็ง แผนดินถลม หรือพื้นที่มีการเอียงเทยอนกลับ หรือมีการตื้นเขินของทองน้ําก็ได

758. reverse-flowage fold รอยคดโคงแบบไหลยอนกลบั

ชั้นหินคดโคงซึ่งสวนที่ไหลเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณะไดทําใหสวนที่เปนยอดประทุนหนาขึ้น และสวนที่เปนทองประทุนหงายมีขนาดบางลง ชัน้หินคดโคงแบบไหลยอนกลับประเภทนี้มีลักษณะตรงกันขามกับชั้นหินคดโคงแบบไหลปรกติ 2/56

Page 165: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

767

759. revolution* ชวงกอเทอืกเขา ชวงเวลาตาง ๆ ทางธรณีกาลที่เกิดเทือกเขาใหญ ๆ ของโลก และเกิดการเปลี่ยนแปลงทันทีทันใดในทางภูมิศาสตร ภูมิอากาศ และภาวะแวดลอมซึ่งมีผลตอการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตดวย เชน ชวงกอเทือกเขาแอลป ชวงกอเทือกเขาหิมาลัย

760. reworked fossils** ซากดกึดาํบรรพพัดพา ซากดึกดําบรรพที่อยูในชั้นหินเดิม ตอมาหินนั้นถูกกัดกรอน ซากดึกดําบรรพจึงถูกพัดพาไปสะสมตัวอยูในชั้นหินที่มีอายุออนกวา

761. RF (representative fraction)

อารเอฟ (มาตราสวนแบบเศษสวน)

ดู representative fraction (RF)

762. Rg wave คลืน่อารจี คลื่นเรลียคาบสั้นความเร็วต่ําซึ่งเคลื่อนที่ไปเฉพาะบริเวณที่เปนแผนดิน g หมายถึงบริเวณหินแกรนิต

763. rheid มวลไหล ๑. สารที่เปลี่ยนลักษณะไดอยางมาก เนื่องจากการไหลยืด ณ จุดต่ํากวาจุดหลอมเหลวเมื่อไดรับแรงเคน ซึ่งการเปลี่ยนลักษณะนี้จะเกิดไดมากกวาการเปลี่ยนสารแบบยืดหยุนอยางนอย ๓ เทา ในสภาวะเดียวกัน ๒. มวลหินที่แสดงโครงสรางแบบไหล

764. rheid fold รอยคดโคงไหล รอยคดโคงในชั้นหินที่มีการเปลี่ยนลักษณะโดยการไหลดูราวกับวามีสภาพเปนของเหลวยืนยันมตเิดมิ 2/56

765. rheology วิทยากระแส, วิทยาการไหล

วิชาที่ศึกษาการเปลี่ยนลักษณะและการไหลของสาร

Page 166: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

768

766. rheomorphism สภาพการไหล กระบวนการที่หินเริ่มไหลและเปลี่ยนลักษณะในสภาพที่ยังหนืดอยู ซึ่งเปนผลจากการหลอมบางสวนเปนอยางนอย และมักมีสารใหมเขาสูระบบดวย

767. rhizoconcretion มวลสารพอกคลายราก โครงสรางขนาดเล็กคลายมวลสารพอกในหินตะกอน อาจประกอบดวยวัสดุ เชน คาลิเช หรือ เชิรต มีรูปรางเปนทรงกระบอกหรือกรวย และตอเปนแขนงหรือสอมคลายรากไม มีความหมายเหมือนกับ rhizolith; rhizomorph ดู concretion ประกอบ

768. rhizocretion มวลสารพอกกลวงคลายราก

มวลสารพอกคลายรากประเภทหนึ่งที่มีลักษณะกลวง เกิดขึ้นรอบรากไม

769. rhizolith; rhizomorph หินคลายรากไม ดู rhizoconcretion

770. rhizomorph; rhizolith หินคลายรากไม ดู rhizoconcretion

771. rhombic dodecahedron ทรงสบิสองหนารปูขนมเปยกปนู

รูปทรงผลึกที่มีหนา ๑๒ หนาในระบบลูกบาศก ซึ่งประกอบดวยหนาผลึกรูปสี่เหลี่ยมขนมเปยกปูนที่เทากัน

772. rhombic system ระบบรอมบกิ ระบบที่เหมือนกับระบบสามแกนตาง แตเปนคําที่ไมนิยมใชเพราะอาจจะสับสนกับรอมโบฮีดรัล (rhombohedral) ดู orthorhombic ประกอบ

773. rhombohedral class ชัน้รอมโบฮีดรลั ชั้นผลึกในหมวดรอมโบฮีดรัลของระบบสามแกนราบที่มีสมมาตร ๓ แนว ดู rhombohedral system ประกอบ

774. rhombohedral cleavage แนวแตกเรยีบรอมโบฮดีรลั

แนวแตกเรียบที่ขนานกับหนาของรอมโบฮีดรัล มีลักษณะเหมือนสี่เหลี่ยมขนมเปยกปูน เชน แนวแตกเรียบของแร

Page 167: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

769

แคลไซต

775. rhombohedral packing การจดัตวัแบบรอมโบฮดีรลั

ลักษณะการจัดเรียงตัวที่เปนระบบและแนนที่สุดของรูปทรงกลมแข็งที่มีขนาดเทากันในตะกอนเศษหินหรือแลตทิซผลึก เปนหนวยเซลลหนึ่งที่มีลักษณะเดนคือ มีระนาบ ๖ ระนาบที่ผานจุดศูนยกลางรูปทรงกลม ๘ ลูกซึ่งวางอยูที่มุมของผลึกรอมโบฮีดรอน มวลรวมที่มีการจัดตัวแบบรอมโบฮีดรัลมีความพรุนต่ําสุดคือรอยละ ๒๕.๙๕ ซึ่งไมพบการบิดเบี้ยวของเม็ดแร ดู cubic packing และ close packing ประกอบ

776. rhombohedral system ระบบรอมโบฮีดรลั การแบงยอยของระบบ trigonal หรือระบบสามแกนราบซึ่งหนวยของเซลลเปนรอมโบฮีดรอน

777. rhombohedron รอมโบฮดีรอน รูปแบบผลกึสามเหลี่ยมที่เปนรูปทรงลูกบาศกที่มีดานขนานกันแตไมเปนมุมฉาก (parallelepiped) มีหนาผลึก ๖ หนาเปนรูปสี่เหลี่ยมขนมเปยกปูนเหมือนกัน

778. rhyolite* หินไรโอไลต หินอัคนีพุกลุมหนึ่ง มีสวนประกอบเหมือนหินแกรนิต โดยทั่วไปมีแรดอกอยูในเนื้อพื้นซึ่งแสดงลักษณะรองรอยของการไหล แรดอกประกอบดวยควอตซและแอลคาไลเฟลดสปารชนิดออรโทเคลส เนื้อพื้นเปนเนื้อแกวถึงเนื้อจุรณผลึก มีความหมายเหมือนกับ liparite และ quartz trachyte

779. rhythmic crystallization

การตกผลกึวงซอน ปรากฏการณที่พบในหินอัคนีซึ่งแรชนิดตาง ๆ ตกผลึกเปนวงชั้น เปนผลใหเกิดโครงสรางมวลวงซอน (orbicular) ดู

Page 168: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

770

cyclic crystallization ประกอบ 780. rhythmic layering การเกิดชัน้แรซ้าํรอบ การเกิดซ้ําชั้นของชั้นแรที่ตกผลึกโดยแรงโนมถวง เกิดเปน

โครงสรางที่มองเห็นไดชัดเจนในหินอัคนีแทรกซอน มีลักษณะเฉพาะคือ มีแรสีแก (mafic) จํานวนมากในตอนลาง และแพลจิโอเคลสมากในตอนบน เปนผลจากแรตกผลึกและสะสมตัวเปนระยะ ๆ ดู cyclic crystallization, cryptic layering, compositional layering, phase layering และ zebra layering ประกอบ 16,17/56

781. rhythmic sedimentation การตกตะกอนซ้าํลาํดับ การตกตะกอนที่ปรากฏในชั้นหินที่มีความตอเนื่องของลําดับหนวยชั้นหินตั้งแต ๒ หนวยขึ้นไป มีลักษณะของชั้นหินยอยเกิดสลับหรือซ้ํากันเปนชุด ๆ อยางสม่ําเสมอ มีความหนาตั้งแตชั้นบาง ๆ ถึงรอย ๆ เมตร แสดงถึงความถี่ของการสะสมตะกอนและสภาพการเกิดที่เหมือนกันแลวมาเกิดซ้ําอีก เชน การเกิดสลับชั้นถี่ของหินทรายและหินโคลนในหมวดหินฮองหอยของกลุมหินลําปาง มีความหมายเหมือนกับ cyclic sedimentation

782. rhythmite ชัน้หนิเอกลกัษณ ๑. ชั้นหินที่มีความโดดเดนหนวยหนึ่งในลําดับหนวยหินหลายหนวยที่ตอเนื่องกันและมีชนิดหินซ้ํากัน ๒. ชั้นหินที่มีลักษณะโดดเดนในลําดับชั้นหินซ้ํารูป

Page 169: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

771

783. ria รอีา ๑. สวนของทะเลที่มีลักษณะแคบยาว ยื่นเขาไปในแผนดินโดยที่ความลึกและความกวางจะคอย ๆ หดหายไปเมื่อเขาฝง เกิดจากการยุบตัวของหุบเขาลําน้ํา หรือชะวากทะเล มักสั้นกวาและตื้นกวาฟยอรด ๒. ชะวากทะเลหรือปากแมน้ําที่กวาง รวมถึงฟยอรด ไมจําเปนตองเกิดจากการจมตัวของหุบเขา

784. ria coast ชายฝงรอีา ๑. ชายฝงทะเลที่มีซอกอาวเล็ก ๆ เปนจํานวนมาก เกิดจากแผนดินบางสวนบริเวณชายฝงทะเลยุบตัวลง ทําใหหุบเขาตอนปลายลําน้ําที่ไหลผานลงสูทะเลกลายเปนอาว มีลักษณะแคบและยาวคลายรูปลิม่ลึกเขาไปในฝง ชายฝงแบบนี้ที่รูจักกันมาก ไดแก ชายฝงทะเลทางดานตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสเปน และทางดานตะวันตกเฉียงใตของเกาะไอรแลนด ๒.ชายฝงทะเลที่มักเรียกวา ฟยอรด แตมีความแตกตางที่สําคัญ คือ อาวจะสั้นกวา มีความกวางและลึกไปในทะเล แตไมลึกเทาฟยอรด ดู fiord ประกอบ

785. rib ซี่ ๑. แผนหรือพนังหินที่เกิดเปนสันเขาเล็ก ๆ บนไหลเขาชัน ๒. เสาค้ํายันที่เปนแนวยาวในเหมืองใตดิน ๓. รอยหยักรูปรัศมีหรือตามขวางบนเปลือกหอยดึกดําบรรพ เชน สันที่ชูขึ้นมาเปนวงของพวกแอมโมนอยดหรือนอติลอยด

Page 170: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

772

786. ribbon รบิบิน้ ๑. ชุดหนึ่งของแถบหรือแนวที่วางตัวขนานกันในแรหรือหิน เชน ริบบิ้นหินชนวน ๒. คําที่ใชกับสายแรที่ประกอบดวยสวนที่เปนสินแร แรกาก หรือหินทองถิ่นวางตัวสลับสีกัน หรือเปนสินแรสลับสี

787. ribbon diagram แผนภาพแบบรบิบิน้ ภาพตัดขวางทางธรณีวิทยาที่ไดสัดสวน โดยการตอจุดควบคุมเปนเสนคดโคง

788. ribbon injection การแทรกแบบรบิบิน้ การที่แมกมาแทรกซอนเขาไปตามแนวแตกเรียบของชั้นหินคดโคง เกิดเปนหินอัคนีรูปรางคลายลิ้น

789. ribbon rock หินแบบรบิบิน้ หินที่มีลักษณะเปนชั้นบางวางซอนกัน แตละชั้นมีสวนประกอบหรือสีตางกัน เชน หินดินดานสีเทาแทรกระหวางหินโดโลไมตสีน้ําตาลกับหินปูนสีออน

790. Richter scale มาตรารกิเตอร มาตรากําหนดขนาดของแผนดินไหวที่ใชอยูในปจจุบัน ซี.เอฟ. ริกเตอร (C.F. Richter) นักแผนดินไหวแหงสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอรเนีย สหรัฐอเมริกา เปนผูคิดคนและเผยแพรใน พ.ศ. ๒๔๗๘ โดยใชหลักการจากผลบนัทึกของเครื่องวัดความไหวสะเทือนและมีการปรับแกเกี่ยวกับระยะทางจากศูนยกลางแผนดินไหว วัดเปนคาลอการิทึมฐานสิบของแอมพลิจูดสูงสุดที่วัดได (M = log10 A) โดยเทียบกับเครื่องมือเฉพาะที่กําหนดใหใชซึ่งตั้งอยูที่ตําแหนง ๑๐๐ กิโลเมตรจากจุดเหนือศูนยเกิดแผนดินไหว เดิมมาตรานี้มีคาตั้งแต ๐-๙ ปจจุบันวัดไดละเอียดมากขึ้น เชน แผนดินไหวที่ทําใหเกิดคลื่นสึนามิที่บริเวณตอนเหนือของ

Page 171: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

773

เกาะสุมาตรา เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ วัดได ๙.๐ ริกเตอร (ขอมูลจาก USGS)

791. riddle ริดเดลิ ดู red ocher 792. ridge ๑.สนั ๑.๑ แนวยาวแคบยอดแหลมและดานขางชัน

๑.๒ สันหาด ๑.๓ ลักษณะขรุขระบนผิวของกอนน้ําแข็งที่แตกหลุดออกมาและลอยอยูในน้ําเนื่องจากแรงลมและแรงกระแทกจากคลื่น ๑.๔ สวนที่นูนสูงขึ้นบนผิวเปลือกของสัตว เชน สันนูนตามขวางบนแผนเอคินอยดซึ่งทําหนาที่กั้นแถวของรูเปดบนแผนเปลือกแตละแผนใหแยกออกจากกัน 2/56

793. ridge ๒. สนัเขา แนวเขาสูงยาวบนพื้นทองมหาสมุทรที่มีดานขางสูงชันและมีลักษณะภูมิประเทศขรุขระ มีความหมายเหมือนกับ submarine ridge 27/56

794. ridge and valley topography ridge and valley topography

ภูมปิระเทศสนัและหบุ พื้นผิวแผนดินที่เปนสันและหุบยาวขนานกันและสลับกัน เกิดจากความทนทานตอการกรอนที่ไมเทากันของชั้นหินคดโคง ตัวอยางภูมิประเทศแบบฉบับอยูในบริเวณเทือกเขาแอปพาเลเชียน ประเทศสหรัฐอเมริกา

Page 172: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

774

795. Riecke’s principle หลกัการรกิเก หลักการทางอุณหพลศาสตรหรือเทอรโมไดนามิกสที่กลาววา แรชนิดหนึ่งจะกลายเปนสารละลาย ณ จุดที่แรงกดดันภายนอกมีคาสูงสุด และแรดังกลาวจะตกผลึกโดยสมบูรณ ณ จุดที่แรงกดดันภายนอกมีคาต่ําสุด หลักการนี้ใชกับการตกผลึกใหมในหินแปรซึ่งแรประกอบหินถูกเปลี่ยนแปลงรูปราง

796. Riel discontinuity แนวแบงเขตรลี แนวความไมตอเนื่องของความเร็วคลื่นไหวสะเทือน ที่พบบริเวณแอลเบอรทา ประเทศแคนาดา ซึ่งเทียบไดกับแนวแบงเขตคอนราด ดู Conrad discontinuity ประกอบ

797. riffle รองขวาง ๑. สวนตื้นของทองน้ําที่ขยายตัวในแนวขวางตรงบริเวณที่น้ําไหลแกวง เนื่องจากตะกอนที่ตกจมขวางกั้น หรือเปนแกงเล็ก ๆ ที่มีน้ําตก ๒. แนวขวางรางที่ทําใหเกิดเปนรองเพื่อกักเก็บหรือดักทองหรือแรหนักในทรายหรือกรวด

798. rift รองทรุด ๑. รองทวีปที่ยาวและแคบซึ่งขนาบดวยรอยเลื่อนปรกติ หรือเปนกราเบนที่มีขนาดกวางใหญซึ่งมักเกิดรวมกับการเกิดภูเขาไฟ ๒. แนวของรอยเลื่อนตามแนวระดับที่มีขอบเขตกวางขวาง ๓. รอยแตกแคบ ๆ รอยแยกหรือรอยเปดของหินที่เกิดจากการแตกหรือแยกออกจากกัน ๔. ในเหมืองหินหมายถึงทิศทางของรอยแยกในมวลหิน

Page 173: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

775

เชน ทิศทางของรอยแยกในหินแกรนิตซึ่งมักทํามุมฉากกับเม็ดแร ๕. ทางเดินในถ้ําที่แคบสูง รูปรางถูกควบคมุดวยแนวแยก รอยเลื่อน หรือแนวชั้นหิน ๖. บริเวณที่เปนหินและรองตื้นในธารน้ํา

799. rift trough; fault trough หุบเขาทรดุ ดู rift valley ๑ยนืยนัมตเิดิม 26/56

800. rift valley หุบเขาทรดุ ๑. หุบเขาที่เกิดตามแนวรอยเลื่อนกอรอง (trough fault) มีความหมายเหมือนกับ fault trough; rift trough (ดูรูปที่ backslope) ๒. รองลึกที่เกิดในบริเวณสวนยอดของสันเขากลางสมุทร (mid-ocean ridge) กวางประมาณ ๒๕–๕๐ กิโลเมตร มีลักษณะเปนหุบเขาพื้นรองหรือพื้นหุบเขาเปนพื้นที่ภูเขามากกวาเปนพื้นที่ราบ มีความหมายเหมือนกับ central valley; median valley; mid–ocean rift 26/56

801. rig แทนเจาะ อุปกรณการเจาะที่ประกอบดวยสวนสําคัญคือ หอเจาะ เครื่องกําเนิดไฟฟาระบบกวาน และอุปกรณอื่น ๆ ที่ใชในการเจาะ (ดูรูปที่ swivel)

802. right-handed รอยเลือ่นแยกตามขาง ดู dextral fault; right-handed separation; right-lateral

Page 174: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

776

separation; dextral fault; right-lateral fault; right-lateral separation

ขวา fault; right-lateral separation

803. right-lateral fault; dextral fault; right-handed separation; right-lateral separation

รอยเลือ่นแยกตามขางขวา

ดู dextral fault; right-handed separation; right-lateral fault; right-lateral separation

804. right-lateral separation; dextral fault; right-handed separation; right-lateral fault

รอยเลือ่นแยกตามขางขวา

ดู dextral fault; right-handed separation; right-lateral fault; right-lateral separation

805. rigidity สภาพแขง็เกรง็ สมบัติทางกายภาพของวัสดุที่สามารถตานทานตอความเคนที่ทําใหวัสดุเปลี่ยนรูปไป เชน ของไหลมีคาสภาพแข็งเกร็งเทากับศูนย เนื่องจากไมสามารถตานทานตอความเคน

806. rigidity modulus; modulus of rigidity

มอดลุสัความแขง็เกรง็ มอดุลัสความยืดหยุนในสภาพเฉือน ซึ่งเปนอัตราสวนของความเคนเฉือนตอความเครียดในตัวกลางที่มีแรงเฉือนปรกติมากระทํา

Page 175: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

777

807. rill ๑. รองน้าํรนิ รองน้ําเล็ก ๆ คอนขางขนานกัน มักเกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวระหวางฝนตกหนักในฤดูใบไมผลิหรือฤดูแลง ยังไมเปนทางน้ําถาวร มีขนาดกวางเพียงไมกี่เซนติเมตรถึงไมเกิน ๑ เมตร

808. rill ๒. รองสงแร รองที่รองรับแรตามเหมือง

809. rill erosion การกรอนแบบรองน้าํรนิ ดูคําอธิบายใน sheet erosion; sheet flood erosion

810. rill mark รอยน้าํรนิ รองเล็ก ๆ หรือรองน้ํารูปกิ่งไมบนหาดทรายหรือหาดโคลนที่เกิดจากคลื่นซัดเขาหาฝงแลวไหลยอนกลับผานพืน้ผิวหาดหลังจากคลื่นแตกกระจาย

811. rille หุบจนัทรา หุบเขาที่มีลักษณะคลายรองลึกบาดาลบนผิวดวงจันทร กวาง ๑–๒ กิโลเมตร ยาวหลายรอยกิโลเมตร มีรูปรางไมแนนอนหรือไมสม่ําเสมอ ทั้งโคงตวัดหรือเกือบเปนเสนตรง พื้นทองแบนราบหรือเปนผนังชัน แสดงลักษณะปฐมวัยและสื่อถึงระบบรอยแยกที่เกิดจากวัสดุที่เปราะ

812. rillestein ริว้รอยหิน รองเล็กที่มีขนาดกวางประมาณ ๑ มิลลิเมตร หรือเล็กกวา เกิดบนพื้นผิวของหินหรือแรที่ละลายงาย เชน หินปูน เกลือหิน

813. rim ๑. หินขอบริม ดู rimrock

814. rim ๒. ขอบ สันเขาของกองตะกอนธารน้ําแข็งที่ลอมรอบแองตรงกลาง

815. rim ๓. ขอบปฏกิริยิา ดู reaction border; reaction rim

816. rim ๔. กระดกูคูริม กระดูกคูหนึ่งของซี่โครงซึ่งชวยในการพยุงรางกายสัตวมี

Page 176: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

778

กระดูกสันหลัง เชน ปลากระดูกแข็ง สัตวสี่เทา

817. rim syncline ขอบประทนุหงาย แองที่เกิดรอบ ๆ โดมหินเกลือ เมื่อเกลือในชั้นหินดานลางเกิดการแปรสัณฐานและถูกเลื่อนเขาไปในโดม

818. rimrock หินชายขอบ ๑. หินที่อยูตามขอบของพื้นที่สูง เปนเหมือนแนวเขตธรรมชาติของพื้นที่สูงกับพื้นที่ขางเคียง ๒. หินดานที่ยกตัวสูงขึ้น จึงเปนเหมือนแนวเขตระหวางหินกับตะกอนหรือกรวดที่อยูขางเคียง ๓. หินที่มีความทนทานตอการกรอน จึงคงสภาพเปนแทงหินตั้งชันบนภูเขาหรือบนที่ราบสูง

819. ring dike พนงัวงแหวน พนังหินที่เกิดเปนบริเวณรูปวงกลมเนื่องจากหินอัคนีรูปโดมหรือแมกมาที่แทรกดันขึ้นมา จะสงแรงดันขึ้นเบื้องบนและออกดานขาง ทําใหเกิดรอยแตกขึ้นรอบ ๆ หินอัคนีรูปโดมนั้น เมื่อแมกมาแทรกเขาไปประจุตามรอยแตกและแข็งตัว จะเกิดเปนพนังวงแหวนขึ้น

820. ring fault รอยเลือ่นวงแหวน รอยเลื่อนรูปแบบหนึ่งที่มีผนังชัน มีรูปรางโดยรอบเปนรูปทรงกระบอก และพบเกิดรวมกับการยุบตัวรูปกระบุง

821. ring fracture stoping แมกมารอยแตกวงแหวน แมกมาขนาดใหญที่คางอยูในรอยแตกรูปวงแหวน โดยสัมพันธกับการทรุดตัวที่ทําใหเกิดพนังวงแหวน ดู ring dike ประกอบ

822. ring of fire; girdle of fire วงแหวนไฟ ดู circum–Pacific belt

823. ring silicate; cyclosilicate

ซลิเิกตวงแหวน ดู cyclosilicate; ring silicate

Page 177: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

779

824. rip สภาวะน้าํปวน สภาวะความปนปวนของน้ําที่มักเกิดในทะเล เกิดจากการพบกันของกระแสน้ําหรือการปะทะตอกันระหวางกระแสน้ํากับคลื่น

825. rip current กระแสน้าํปวน ๑. กระแสคลื่นทะเลซึ่งมีผิวน้ําปนปวนและอลวน เกิดจากการปะทะกันของสายน้ําทะเลที่มีกระแสขึ้นลง ๒ สาย หรือสายน้ําทะเลที่มีกระแสขึ้นลงที่ไหลบรรจบบริเวณที่น้ําตื้นทันทีทันใด หรือการไหลกลับของน้ําที่ซัดขึ้นชายฝงโดยคลื่นและลมแรง ๒. กระแสน้ําที่แรงและแคบที่เกิดในชวงเวลาสั้น ๆ มีความเร็วสูง ไหลสูทะเลผานเขตคลื่นหัวแตก มองเห็นเปนแถบแนวของน้ําที่ปนปวนอลวนไหลกลับสูทะเล หลังจากถูกซัดขึ้นฝงโดยคลื่นและลมทะเล ประกอบดวย กระแสน้ําเสริม สวนคอด และสวนหัว

826. rip tide น้าํขึ้น-ลงปวน คําที่ใชผิดในความหมายของ rip current เพราะเนื่องจากกระแสน้ําปวนไมเกี่ยวของกับการขึ้นลงของกระแสน้ํา

827. riparian ริมฝงน้าํ ฝงหรือชายฝงทั้งสองขางของลําน้ํา

828. riparian water loss การสญูเสยีน้าํริมฝง การสูญเสียน้ําจากการระเหยของน้ําตามแมน้ําลําคลองและน้ําบริเวณทองน้ําไหลซึมออกไป รวมถึงการสูญเสียน้ําจากการคายน้าํของตนไมตามแนวสองฝงลําน้ํา

829. ripple mark* รอยริ้วคลืน่ ริ้วคลื่นที่ปรากฏเปนรอยบนพื้นทรายหรือโคลนเกิดเนื่องจากการกระทําของคลื่นลมหรือกระแสน้ํา พบไดทั้งบนบกและที่พื้นทองน้ํา รอยริ้วคลื่นนี้อาจพบไดในหินชั้น เชน

Page 178: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

780

ในหินทราย ฯลฯ เกิดเนื่องจากริ้วคลื่นไดถูกตะกอนชนิดอื่นตกจมทับถมปดไว เมื่อตะกอนทั้งหมดแข็งตัวกลายเปนหิน ริ้วคลื่นก็ยังคงรูปเดิมปรากฏในหินนั้น เมื่อหินปดทับแตกหลุดออกไป ก็จะเห็นรอยริ้วคลื่นนั้นได ริ้วคลื่นอาจกอตัวมีขนาดโตขึ้นเปนคลื่นทราย สันทราย เนินทราย และดอนทรายใตน้ําหรือโขดใตน้ําเปลี่ยนที่ได

830. rip-rap ๑. หินทิง้ หินกอนใหญ ๆ ที่วางกองไวในบริเวณที่น้ําไหลลง เพื่อปองกันการกรอน เนื่องจากคลืน่หรือกระแสน้ํา เพื่อรักษาพื้นผิว ความลาดชัน หรือโครงสรางขางใต ใชประโยชนสําหรับคลองชลประทาน งานปรับปรุงแมน้ํา ตัวกั้นทางน้ําที่เขื่อน และการปองกนัชายฝง ตามบริเวณชายฝงมักวางกองกันอยางไมเปนระเบียบแตบริเวณหนาเขื่อนจะเรียงอยางเปนระเบียบ

831. rip-rap ๒. หนิเรยีง หินกอนใหญขนาดน้ําหนักตั้งแต ๗ กิโลกรัมขึ้นไป ที่นํามาวางเรียงกันเปนแนวเพื่อปองกันการกรอนบริเวณลาดคันทาง

832. rise ๑. ธารผดุ ดู resurgence

833. rise ๒. เนนิเขาทองสมทุร ลักษณะภูมิประเทศที่สูงกวาบริเวณโดยรอบของพื้นทองสมุทร (ocean floor) มีลักษณะเปนเนินเขายาว ราบเรียบ ไหลเขามีความลาดชันนอย มีความหมายเหมือนกับ oceanic rise และ swell ๔

Page 179: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

781

834. rise ๓. เนนิเขา ๓.๑ ผืนแผนดินที่มีความลาดชันสูง ๓.๒ สวนของเขาหรือภูมิลักษณ (landform) อื่น ๆ ที่มีความสูงมากกวาพื้นดินโดยรอบ

835. riser บังคั่น พื้นที่ซึ่งมีลักษณะตั้งฉาก หรือดานที่ลาดชันตามธรรมชาติของภูมิลักษณแบบขั้นบันได เชน แนวระดับเปนขั้นๆ ของธารน้ําแข็ง หรือตะพักลําน้ําที่ตอเนื่องกัน

836. Riss รสิส ๑. ชวงอายุของตะกอนสมัยไพลสโตซีนในทวีปยุโรปตอนกลาง อยูเหนือมินเดลและอยูใตวืรม ๒. ชวงเวลาเกิดธารน้ําแข็งลําดับที่สามของบริเวณภูเขาแอลป เกิดหลังชวงคั่นมินเดล-ริสส ดู ตารางชวงอายุธารน้ําแข็งและชวงคั่นธารน้ําแข็งสมัยไพลสโตซนีในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรป ประกอบ 6/56 ตรวจแลว

837. Riss-Würm รสิส-วรืม คําที่ประยกุตใชกบัชวงเวลาที่ธารน้าํแข็งลาํดับที่สามในสมัยไพลสโตซนีของบริเวณภูเขาแอลปเกิดการละลาย โดยเกิดหลังธารน้ําแข็งริสสและอยูกอนธารน้ําแข็งวืรม ดู ตารางชวงอายุธารน้ําแข็งและชวงคั่นธารน้ําแข็งสมัยไพลสโตซีนในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรป ประกอบ 5/56

838. river bar สันดอนแมน้ํา ตะกอนน้ําพาที่พอกพูนขึ้นจนกองเปนสัน หรือเปนเนินอยูในทางน้ํา อาจเกิดตามแนวตลิ่งลําน้ําหรือที่ปากแมน้ํา โดยทั่วไปจะโผลพนน้ําชวงน้ําลด และเปนอุปสรรคตอการเดินเรือ

839. river basin* ลุมน้าํ บริเวณทั้งหมดที่มีแมน้ํา และลําน้ําสาขาไหลผาน

Page 180: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

782

840. river bottom พื้นแมน้ํา พื้นที่ของตะกอนน้ําพาตามแนวทองแมน้ํา

841. river flat ที่ลุมราบริมแมน้ํา ที่ราบตะกอนน้ําพาซึ่งอยูติดแมน้ําหรือใกลพื้นแมน้ํายนืยนัมตเิดิม 39/55

842. river profile หนาตัดขางตามลาํน้าํ แผนภาพแสดงลักษณะของทองน้ํา ตั้งแตยอดน้ําจนถึงปากน้ําหรือตอนใดตอนหนึ่งของทองน้ํา ซึ่งจะทําใหเราทราบสภาพของทองน้ําไดโดยการศึกษารูปหนาตัดของแมน้ํา ถาตอนใดทองน้ําเอียงมากหรือมีหยักมาก แมน้ําตอนนั้นก็ยอมมีอายุออน ที่เรียกวา ธารปฐมวัย ถาตอนใดเอียงนอยมากหรือเกือบไดระดับ แมน้ําตอนนั้นยอมมีอายุปานกลาง ที่เรียกวา ธารมัชฌิมวัย ดู young stream และ mature stream ประกอบ

843. river system ระบบแมน้ํา แมน้ําสายหนึ่งรวมทั้งสาขายอยทั้งหมดของแมน้ํานั้น ดู drainage system ประกอบ

844. river terrace ตะพกัลาํน้าํ ตะพักตลิ่งที่ประกอบดวย ดิน ทราย กรวด พบอยูแกเปนที่ราบลาดเหนือระดับน้ําในปจจุบนัเปนตะพัก ๆ แตละตะพักอาจสูงกวากันเปนเมตร ๆ หรือหลายสิบหลายรอยเมตรก็มี ทั้งนี้แลวแตความรุนแรงของการกรอนกัดเซาะใหลึกลงไปของแมน้ําคืนพลัง (rejuvenated river) ในบางแหงอาจรูอายขุองตะพักใดตะพักหนึ่งก็ได หากพบซากดึกดําบรรพอยูในตะพักนั้นดวย ถาดูรูปตัดขวางแนวทางน้ําไหลจะเห็นวา ขอบซายของหุบเขาเปนแนวภูเขาที่ถูกน้ํากัดเซาะจนเกือบอยูตัว ถัด

Page 181: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

783

เขามาหาลําน้ําจะมีตะพักตลิ่งเกาลดหลั่นความสูงลงไปหาระดับตลิ่งปจจุบัน เชน ในลําน้ํายวม เมื่อมองไปทั่ว ๆ ตามลําน้ําบางชวงจะมีตะพักตลิ่งเกาสูงขึ้น ๆ จนยันกับภูเขาประกับหุบเขาอีกดานหนึ่ง ปรกติตะพักซายขวาควรจะมีระดับและความหนาพอ ๆ กัน แตบางทีก็ไมเปนเชนนั้น ตะพักใดตะพักหนึ่งอาจถูกน้ําพดัพาหมดไปเพราะลําน้ํายอมจะไหลปาดซายขวาไปตามธรรมชาติ มีความหมายเหมือนกับ stream terrace ดูรูปประกอบ

845. river-pebble phosphate กรวดฟอสเฟตแมน้าํ กรวดฟอสเฟตขนาดกลางชนิดมีสีคล้ําที่ถูกพัดพามาจากสันดอนและที่ราบน้ําทวมถึงในมลรัฐฟลอริดา ดู pebble phosphate และ land pebble phosphate ประกอบ

846. road aggregate วสัดุมวลรวมทาํถนน ดูคําอธิบายใน road metal 847. road metal หินทาํถนน หินที่มีสมบัติเชิงกลถูกตองตามขอกําหนดสําหรับใชในการ

กอสรางชัน้ผิวทางแบบมาแคดัมหรืออาจใชเปนผิวทางของถนนสายรองที่มีปริมาณการจราจรไมมาก คํานี้อาจเรียกวา วสัดุมวลรวมทาํถนน (road aggregate)

848. roche moutonnée หินรปูหลงัแกะ หินที่ถูกเศษหินในธารน้ําแข็งครูดผาน ทําใหผิวหนามีรอยขูดตามแนวเคลื่อนตัวของธาร แตเนื่องจากหินสวนนั้นมีความแข็งมากกวาหินสวนอื่น ๆ โดยรอบ จึงนูนและเปนริ้วรอยเหมือนหลังแกะ (ดูรูปที่ crevasse)

Page 182: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

784

849. roche moutonnée หินรปูหลงัแกะ หินที่ถูกเศษหินในธารน้ําแข็งครูดผาน ทําใหผิวหนามีรอยขูดตามแนวเคลื่อนตัวของธาร แตเนื่องจากมีความแข็งมากกวาหินอื่น ๆ รอบตัว จึงนูนและเปนริ้วรอยเหมือนหลังแกะ (ดูรูปที่ crevasse)

850. rock หิน มวลของแข็งที่ประกอบดวยแรชนิดเดียวหรือหลายชนิดรวมตัวกันอยูตามธรรมชาติ แบงออกเปน ๓ ประเภทใหญ คือ หินอัคนี หินชั้นหรือหินตะกอน และหินแปร

851. rock - defended terrace, rock - perched terrace

ตะพกัหนิปอง ๑. ตะพักลําน้ําที่ปองกันน้ําเซาะได เพราะมีแนวหินยื่นออกมา หรือมีหินโผลที่มีความทนทานอยูบริเวณฐาน ๒. ตะพักทะเลที่ปองกันคลื่นกัดเซาะไดเพราะมีหินที่มีความทนทานอยูบริเวณฐานของหนาผาคลื่นเซาะและมีตะกอนที่ราบชายฝงปดทับ

852. rock asphalt; asphalt rock; asphalt stone

หินยางมะตอย ดู asphalt rock; asphalt stone; rock asphalt

853. rock association; kindred; rock kindred

ตระกลูหินอคันี หินอัคนีหลายชนิดที่รวมกันอยูภายในพื้นที่หนึ่ง ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันทางเคมีและองคประกอบทางแรอยางเปนระบบ มีความหมายเหมือนกับ association ๒ 2/56

854. rock bolt; roof bolt สลกัยึดหนิ แทงเหล็กกลาหรือเหล็กเหนียว ซึ่งมีขนาดเสนผานศูนยกลางและความยาวที่กําหนดเฉพาะงาน ปลายขางหนึ่งจะใชยึดผนังหินดวยน็อตและแหวนรองบนแผนเหล็กซึ่งสามารถขันใหแนนตึงเพื่อใหรับน้ําหนักไดตามที่กําหนด ดู

Page 183: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

785

rock bolting ประกอบ

855. rock bolting การเยบ็หนิ วิธีการเพิ่มเสถียรภาพใหแกลาดหินตัดโดยใชสลักยึดหินบรรจุอยูภายในหลุมเจาะ ซึ่งสวนใหญเจาะเปนหลุมในแนวราบ โดยทั่วไปขนาดเสนผานศูนยกลางประมาณ ๕ เซนติเมตร เจาะลึก ๓-๖ เมตร ระยะหางระหวางหลุมเจาะและระยะระหวางแถว ๒-๕ เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยูกับลักษณะโครงสรางทางธรณีวิทยาบริเวณนั้น ๆ ภายในหลุมเจาะประกอบดวยแทงเหล็กกลาหรือเหล็กเหนียวขนาดเสนผานศูนยกลางประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร ปลายดานนอกเปนเกลียวตลอดเพื่อใชยึดผนังหินดวยนอตพรอมแหวนรองบนแผนเหล็กขนาดประมาณ ๑๕ ๑๕ เซนติเมตร รอบ ๆ แทงเหล็กจะถูกยึดกับผนังหลุมเจาะดวยปูนฉาบ เชน การเจาะระเบิดหินในการทําเหมืองแร อุโมงค การกอสรางถนน

856. rock burst หินระเบิด การระเบิดอยางรวดเร็วและรุนแรงของมวลหินจากผนังอุโมงคเหมืองหินระดับลึก สาเหตุมาจากมวลหินไมสามารถทนตอความเคนสูง จนปลดปลอยความเครียดทําใหแผนดินสะเทือนและหินแตกหักถลม เปนผลทําใหปดทางเขา-ออกของเหมือง

857. rock crystal; quartz crystal

ผลกึควอตซ ดู quartz crystal; rock crystal

858. rock cycle วัฏจกัรหนิ ลําดับเหตุการณตาง ๆ ที่เกี่ยวกับการเกิด การเปลี่ยนสภาพ

Page 184: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

786

การทําลายสลายตัว และการเกิดใหมของหิน (reform) อันเปนผลของกระบวนการตาง ๆ ทางธรณีวิทยา อาทิ กระบวนการเกิดหินจากแมกมา การกรอน การนําพา การสะสมตัว การแข็งตัวเปนหิน และการแปรสภาพ ตัวอยางของวัฏจักรหินดังกลาว เชน การตกผลึกของแมกมาเปนหินอัคนี ซึ่งตอมาเกิดการผุพังแตกหักเปลี่ยนสภาพเปนตะกอน ตอมาตะกอนเหลานั้นแข็งตัวกลายเปนหิน และอาจแปรสภาพเปนหินแปร

859. rock defended terrace หินกนัตะพกั, หนิปองตะพกั

๑. แนวของหินที่ยื่นออกมา หรือหินโผลที่มีความทนทานบริเวณฐานของตะพักลําน้ํา ซึ่งสามารถปองกันน้ําเซาะตะพักได หรือตะพักลําน้ําที่ปองกันน้ําเซาะได เพราะมีแนวหินยื่นออกมา หรือมีหินโผลที่มีความทนทานอยูบริเวณฐาน ๒. ตะพักทะเลที่ปองกันคลื่นกัดเซาะไดเพราะมีหินที่มีความทนทานอยูบริเวณฐานของหนาผาคลื่นเซาะและมีตะกอนที่ราบชายฝงปดทับ

860. rock drumlin เนนิรแีกนหิน ดูคําอธิบายใน drumlin 861. rock flour* แปงหนิ หินที่ปนเหมือนแปง เกิดจากการครูดหรือการเสียดสีของ

ตะกอนธารน้ําแข็ง

862. rock glacier หินธารน้าํแขง็ มวลของตะกอนที่ประกอบดวยหินกอนใหญที่มีลักษณะเปนเหลี่ยมและวัสดุขนาดละเอียดซึ่งมีน้ําแข็งแทรกอยูลึกเปนเมตรจากพื้นผิว หรือเปนแกนน้ําแข็งฝงอยูดานลาง หินธารน้ําแข็งเกิดอยูบนภูเขาสูงบริเวณชั้นดินเยือกแข็ง โดยหลุด

Page 185: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

787

ออกมาจากผนังโคงหรือหนาผาชัน หินธารน้ําแข็งมีการเคลื่อนที่อยางชา ๆ และมีลักษณะคลายกับธารน้ําแข็งในหุบเขาขนาดเล็ก

863. rock gypsum ยปิซัมหนิ หินตะกอนชนิดหนึ่งที่มีสวนประกอบหลักเปนยิปซัม โดยทั่วไปเกิดเปนมวลผลึกเนื้อหยาบถึงเนื้อละเอียด มักแสดงแนวชั้นคดโคงเนื่องจากการขยายตัวในระหวางการเกิดไฮเดรชันของแอนไฮไดรตตนกําเนิด มีความหมายเหมือนกับ gyprock ซึ่งเปนคําที่เลิกใชแลว

864. rock hound นกัลาหนิ บุคคลทั่วไปที่มีความสนใจและเสาะแสวงหาหรือสะสมแร หิน และซากดึกดําบรรพ

865. rock mechanics* กลศาสตรหิน วิทยาศาสตรทางทฤษฎีและประยุกตวาดวยสมบัติทางกายภาพของหินที่มีตอแรงซึ่งมากระทํา

866. rock pediment; pediment

ลาดเชงิเขาสกึกรอน ดู pediment; rock pediment

867. rock salt เกลอืหนิ ๑. แรเฮไลตหรือเกลือโซเดียมคลอไรดที่เกิดเปนมวลผลึกหยาบ ๆ ในหิน ตะกอน โดยอยูในรูปของโดมเกลือ ลําเกลือ หรือชั้นหินเกลือระเหย แหลงเกลือที่เกิดสะสมตัวในยุคตาง ๆ ของธรณีกาล พบเกิดตั้งแตยุคไซลูเรียนจนถึงปจจุบัน และมักเกิดเปนมวลชั้นตอเนื่อง ในประเทศไทยพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือในบริเวณแองสกลนครและแองโคราช ในที่บางแหงเกลือหินถูกน้ําละลายพาซึมขึ้นมาบนผิว

Page 186: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

788

ดินถูกแดดแผดเผา เกิดผลึกใหมเปนขุยขาว ๆ เรียกกันวา เกลือสินเธาว เกลือหินที่ตกผลึกรวมตัวอยูแบบหินชั้น เรียกวา ชั้นเกลือหิน (rock salt formation) ดู halite ประกอบ ๒. เกลือสังเคราะหที่ทําใหเกิดขึ้นในรูปของผลึกขนาดใหญหรือมวลเนื้อแนน

868. rock series; igneous-rock series

ลาํดบัการกาํเนดิหนิ ดู igneous-rock series; rock series

869. rock stream; block stream; stone stream

ธารหนิ ดู block stream; rock stream; stone stream

870. rock terrace ตะพกัหนิ ตะพักลําน้ําที่เกิดอยูดานขางของหุบเขาจากการกรอนของชั้นหินที่วางตัวในแนวราบและมีความทนทานตอการกรอนไมเทากัน ชั้นหินที่มีความทนทานมากก็จะเวาแหวงเขาไปนอยกวาชั้นหินที่มีความทนทานนอยซึ่งวางตัวอยูทั้งดานบนและดานลาง

871. rock unit; lithostratigraphic unit; rock stratigraphic unit

หนวยลาํดบัชัน้หนิตามลกัษณะหนิ

ดู lithostratigraphic unit; rock stratigraphic unit; rock unit

872. rock waste; debris เศษวสัดธุรณี ดู debris; rock waste 19/56

873. rock wool ใยหนิ ดู mineral wool

Page 187: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

789

874. Rock-Eval รอ็กอีวาล เทคนิคการแยกสลายดวยความรอนในการวิเคราะหองคประกอบทางเคมีของหินตนกําเนิดปโตรเลียม เพื่อศึกษาศักยภาพของการใหไฮโดรคารบอน ซึ่งมีการใหความรอนเพิ่มขึ้นอยางตอเนื่อง ๓ ขั้นตอน คือ ขั้นตอนแรกเพื่อทําใหไฮโดรคารบอนในหินตนกําเนิดระเหยเปนไอ (S1) ขั้นตอนที่สองเพื่อทําใหเคอโรเจนในหินตนกําเนิดเปลี่ยนสภาพเปนไฮโดรคารบอนอิสระ (S2) และขั้นตอนที่สามเพื่อทําใหแกสคารบอนไดออกไซดถูกขับออกมา (S3) แลวนําพีก S1, S2 และ S3 ไปคํานวณหาอัตราสวนตาง ๆ เพื่อศึกษาคุณภาพความสมบูรณของหินตนกําเนิดปโตรเลียม

875. rockfall หินพงั หินที่พังตกลงจากที่สูง ๆ เชน ผาชัน ผาลาด เพดาน ถ้ํา สะพานหินธรรมชาติ ทั้งนี้ เนื่องจากเกิดรอยราวขึ้นในหินจนทานความดึงดูดของโลกไมได ในประเทศไทยมักเรียกเขาที่เกิดการพังเชนนี้วา “เขาพัง”

876. rock-forming mineral แรประกอบหนิ แรตาง ๆ ที่เปนสวนประกอบสําคัญของหินและใชเปนหลักในการจําแนกชนิดของหินดวย แรประกอบหินที่สําคัญไดแก ควอตซ เฟลดสปาร ไมกา แอมฟโบล ไพรอกซีน โอลิวีน แคลไซต และโดโลไมต

877. rock–forming minerals* แรประกอบหนิ แรตาง ๆ ที่เปนสวนประกอบสําคัญของหินและใชเปนหลักในการจําแนกชนิดของหินดวย แรประกอบหินที่สําคัญไดแก ควอตซ เฟลดสปาร ไมกา แอมฟโบล ไพรอกซีน โอ

Page 188: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

790

ลิวีน แคลไซต และโดโลไมต878. rockslide หินถลม เศษหินที่เกิดถลมอยางรวดเร็วลงสูที่ต่ําของลาดเขา จะดวย

เหตุมีน้ํามาชวยใหลื่นไถล หรือดวยการสะสมตัวพอกพูนจนมีน้ําหนักมากพอที่จะลื่นไถลลงมาเองได

879. rod wax ไขกานสบู ไขที่เกาะติดอยูที่กานเครื่องสูบน้ํามันดิบ สมัยกอนมักนิยมนํามาปดบาดแผลเพื่อหามเลือด

880. rodding structure โครงสรางรปูแทง โครงสรางที่เกิดเปนแนวเสนในหินแปร ซึ่งสวนที่แข็งกวา เชน สายแรควอตซหรือกรวดควอตซขนาดกลาง วางตัวขนานกับแกนหินคดโคง มีความหมายเหมือนกับ mullion structure ๒

881. roestone; eggstone; oolite

หินเนือ้เมแ็บบไขปลา ดู oolite; eggstone; roestone

882. roll orebody มวลสนิแรมวน มวลสินแรยูเรเนียม และ/หรือวาเนเดียมในชั้นหรือเลนซหินทราย ซึ่งตัดขวางชั้นหินในแนวโคงจนมีรูปรางเปนตัวเอส (S) หรือตัวซี (C) มวลสินแรดังกลาวมี ๒ ชนิด ชนิดแรกเปนแบบที่ราบสูงโคโลราโดที่ความยาวของมวลสินแรขนานกับแกนยาวของเลนซหินทรายซึ่งเปนทางน้ําเกา และถูกลอมรอบดวยหินที่ถูกลดออกซิเจน อีกชนิดหนึ่งเปนแบบไวโอมิงซึ่งเปนรูปพระจันทรครึ่งเสี้ยวในภาพตัดขวาง และมักเกิดในชั้นหินทรายที่หนาเปนแผนระหวางชั้นหินโคลน

883. roll-front orebody มวลสนิแรมวนหนา สวนหอหุมหรือขอบมวลสินแรแบบฉบับไวโอมิง (Wyoming

Page 189: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

791

type )ซึ่งเปนสวนที่อยูติดกับดานเวาเขาไดถูกออกซิไดสหรือเติมออกซิเจนจนแปรเปลี่ยนไปเปนฮีมาไทตและไลโมไนต สวนที่ติดกับดานนูนของมวลสินแรนั้นถูกลดออกซิเจน ซึ่งมักมีไพไรตและอินทรียวัตถุปน

884. rollover anticline; rollover

ชัน้หนิโคงรปูประทนุมวน

ชั้นหินโคงรูปประทุนที่เกิดรวมกับรอยเลื่อนปรกติซึ่งยังคงเลื่อนอยูขณะตกตะกอน โดยที่รอยเลื่อนจะเกิดในที่ลึกเกือบขนานกับชั้นหินและชันขึ้นขางบน ระนาบรอยเลื่อนจะเอียงเทตามสวนของแองที่เลื่อนตัวลง ซึ่งจะทําใหเกิดการดึงออกและทําใหชั้นหินเกิดการหมุนหรือมวนตัวตามระนาบรอยเลื่อนเกิดชั้นหินโคงรูปประทุนมวนดานที่เลื่อนลง ซึ่งมักเปนแหลงกักเก็บปโตรเลียม ดู growth fault ประกอบ

885. rollover; rollover anticline

ชัน้หนิโคงรปูประทนุมวน

ดู rollover anticline; rollover แกที่ rollover anticlineใหสอดคลองกันดวย

886. roof ชัน้เพดาน ๑. ชั้นหินที่วางทับอยูบนชั้นถานหินเมื่อเปดทําเหมืองใตดิน เปนสวนที่คลายเพดาน ๒. หินทองที่ที่ลอมอยูสวนบนของผิวหินอัคนีแทรกชอน

887. roof pendant; pendant หินเพดานคาง หินทองที่สวนที่เปนชั้นเพดานแทรกอยูในหินอัคนีแทรกซอน

888. roof rock หินเพดาน หินดินดานหรือหินเนื้อตนัชนิดอื่น ทําหนาที่เสมือนชั้นกั้นการไหลผานของน้ํามันหรือแกส จะพบหินประเภทนี้วางตัวอยูบนชั้นกักเก็บน้ํามันหรือแกส ดู cap rock ประกอบ

Page 190: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

792

889. room-and-pillar คูหาและเสา ๑. การทําเหมืองแบบขุดเจาะระเบิดเอาแรออกหรือผลิตแรเปนโพรง แลวเหลือบางสวนไวเปนเสาค้ํายันอยางเปนระบบ เพื่อปองกันไมใหเพดานเหมืองถลม ๒. โครงสรางพืดหินปะการังที่แสดงลักษณะเชื่อมตอกันเปนชอง ๆ ซอนกัน

890. root รากฐาน ๑. การขยายตัวของวัตถุที่มีความหนาแนนนอยกวาลงสูฐานของชั้นเปลือกโลกตามสมมุติฐานของแอรี (Airy) เพื่อชดเชยดุลเสมอภาคของเปลือกโลกในบริเวณที่มีมวลมากกวาและระดับภูมิประเทศสูงกวา ๒. สวนฐานของชั้นหินคดโคงทบตัวซึ่งเชื่อมตอกับหินตนกําเนิดหรือเขตรากฐาน (root zone) ๓. กนหรือฐานของแหลงสินแร หรือสายแรรูปกรวยที่ตัดผานหินฐานไปสูแหลงสินแร

891. root zone เขตรากฐาน ๑. แหลงที่มาหรือสวนของของชั้นหินทบตัว ๒. เขตของเปลือกโลกที่ถูกรอยเลื่อนยอนจนโผลใหเห็น

892. root-mean-square velocity

ความเรว็รากกาํลงัสองเฉลีย่

ความเร็วเฉลี่ยของคลื่นไหวสะเทือน (Vrms) ที่หาไดจากสูตร

n321

n2n3

332

221

21

rmsV

tttt

tvtvtvtv

...

...

เมื่อ nvvvv ,...,,, 31 2 คือความเร็วชวงชั้นคลื่นไหวสะเทือน

Page 191: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

793

ตามลําดับ และntttt ,...,,, 31 2 คือชวงเวลาการเดินทางเที่ยวเดียวในแตละชวง

ชั้น 893. ropy lava* ลาวาเกลยีวเชอืก ดู pahoehoe

894. rose diagram แผนภาพรปูดอกกหุลาบ กราฟรูปวงแหวนหรือวงกลมหรือเกือบวงกลม ซึ่งแสดงคาของทิศทางตาง ๆ ดวยเสนที่แยกเปนรัศมี โดยมีความยาวเปนสัดสวนโดยตรงกับจํานวนที่วัดไดของคานั้น ๆ เชน กระแสลม รอยแยก

895. rosette รปูดอกกหุลาบ ๑. มวลรวมของผลึกหรือกลุมกอนแรยิปซัม แบไรต มาคารไซต และไพไรต ที่มีลักษณะคลายดอกกุหลาบ เกิดในหินตะกอน ๒. แผนรูปรางคลายดอกไมในสัตวไมมีกระดูกสันหลัง เชน แผนฐานของพวกไครนอยด

896. rosin tin โรซนิทนิ แรแคสซิเทอไรตชนิดหนึ่งที่มีสีออกแดงหรือเหลืองคลายยางสน มีความหมายเหมือนกับ resin tin

897. Rossi-Forel scale มาตรารอสซ-ีฟอเรล มาตราความเขมแผนดินไหวคิดขึ้นโดย เอ็ม. เอส. เดอรอสซี (M.S. de Rossi) และ เอฟ. เอ. ฟอเรล (F.A. Forel) ชาวสวิส ใน พ.ศ. ๒๔๒๑ กําหนดพิสัยความเขมจาก ๑ ถึง ๑๐ แผนดินไหวที่พอรูสึกไดมีคาความเขมเทากับ ๑ และแผนดินไหวรุนแรงที่สุดมีคาความเขมเทากับ ๑๐

898. rotary fault; pivotal รอยเลือ่นแบบหมนุ ดู rotational fault; pivotal fault; rotary fault

Page 192: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

794

fault; rotational fault

899. rotary hose; kelly hose; mud hose

สายโคลนเจาะ ดู mud hose; kelly hose; rotary hose

900. rotary line; drilling line สลงิเจาะ ดู drilling line; rotary line

901. rotary table แทนหมนุ อุปกรณหลักของแทนเจาะแบบหมุน ที่ใชขับเคลื่อนหรือทําใหกานเจาะหมุนไดโดยใชระบบเกียร และเปนชองสําหรับใสปลอกประกับกานเจาะนํา (ดูรูปที่ swivel หมายเลข ๒๑)

902. rotation axis; axis of symmetry; symmetry axis

แกนสมมาตร ดู axis of symmetry; rotation axis; symmetry axis

903. rotation stage แปนหมนุ สวนประกอบหนึ่งของกลองจุลทรรศนโพลาไรสซึ่งมีลักษณะเปนแทนกลมหมุนรอบแกนกลองจลุทรรศนได ๓๖๐ องศา สําหรับใชวางวัสดุหรือแผนตัดบางที่จะตรวจสอบสมบัติทางแสง หรือวางอุปกรณเสริมอื่น ๆ ขอบของแปนหมุนมีขีดแบงองศากํากับทุก ๑ องศา

904. rotational cylindroidal fold

รอยคดโคงรปูทรงกระบอกบิด

รอยคดโคงรูปทรงกระบอกที่ผิวของแกนชั้นหินถูกบิดเบี้ยวไป โดยชั้นหินคดโคงที่เกิดตามมาหรือตัดผานภายหลัง (ยังไมยุติ) 2/56

905. rotational fault; pivotal fault; rotary fault

รอยเลือ่นแบบหมนุ รอยเลื่อนที่พบการเคลื่อนที่แบบหมุนไป ซึ่งบางสวนเหมือนกับรอยเลื่อนแนวพับ

Page 193: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

795

906. rotational flow การไหลแบบหมนุ ลักษณะการหมุนวนในของเหลวที่ทุก ๆ สวนมีการการเคลื่อนที่

907. rotational landslide แผนดนิถลมแบบมวน การเลื่อนไถลตามความลาดชันรูปแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเฉือนทําใหเกิดพื้นผิวเฉือนรูปโคงเวาขึ้นขางบน และการหมุนกลับของมวลที่เคลื่อนลงมาแทนที่ ซึ่งอาจเคลื่อนลงมาเปนกอนเดี่ยว หรือตอเนื่องกันหลายกอน ทั้งตอนบนและตอนลางของพื้นลาด หรือรวมกัน เมื่อมวลวัสดุจากการถลมเพิ่มขึ้น ดู Toreva block ประกอบ

908. rotational movement การเคลือ่นตวัแบบหมนุ บล็อกรอยเลื่อนที่ปรากฏการเคลื่อนแบบหมุนตัวสัมพันธกับบล็อกหินแตละบล็อก ทําใหแนวการเรียงตัวที่ขนานกันอยูเดิมถูกรบกวน ดู translational movement และ rotational fault; pivotal fault; rotary fault ประกอบ

909. rotational strain ความเครยีดแบบหมนุ ความเครียดที่การวางตัวของแนวแกนหลักกอนและหลังมีทิศทางตางกัน

910. rotational wave คลืน่หมุน ดูคําอธิบายใน secondary wave; S–wave

911. rounded -มน คําที่ใชกับขอบและมุมของเม็ดตะกอนที่มีอยูเดิมซึ่งถูกทําใหเรียบ และพื้นผิวเดิมซึ่งถูกขัดดวยการครูดถู โดยยังคงรูปรางเดิมใหเห็นได หรือแสดงระดับความมน

912. roundness ความมน ระดับการครูดถูของเม็ดตะกอน ซึ่งพิจารณาจากความแหลมคมของขอบและมุมของเม็ดตะกอนนั้น คาความมนคํานวณจากหนาตัดขวาง โดยความมนเปนอัตราสวนระหวางคารัศมีเฉลี่ยของความโคงของมุมที่เม็ดตะกอน กับ

Page 194: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

796

คารัศมีสูงสุดของวงกลม วัสดุที่มนสมบูรณจะมีชั้นความมนเทากับ ๑.๐ วัสดุที่มีรูปเกือบเปนทรงมนอาจมีมุมแหลมและเปนเหลี่ยม ในขณะที่กรวดทรงแบนไมมีรูปรางเปนทรงกลม แตอาจมีความมนมาก ดู sphericity ประกอบ

913. roundness class ชัน้ความมน ลําดับคาความมนสําหรับใชจําแนกลักษณะของเม็ดตะกอน แบงออกเปน ๖ ชั้น คอื เหลี่ยมมาก เหลี่ยม คอนขางเหลี่ยม คอนขางมน มน และมนมาก

914. roundstone กอนหนิมน ๑. เศษหินลักษณะมนตามธรรมชาติที่มีขนาดใหญกวาเม็ดทราย เชน กอนหินมนใหญ (boulder) กรวดใหญ (cobble) กรวดกลาง (pebble) หรือ กรวดเล็ก (granule) ดู sharpstone ประกอบ ๒. ดู cobblestone ๑ 11/56

915. rubble; rubblestone ชิน้หนิเหลีย่ม ๑. ชิ้นสวนเศษหินเหลี่ยมที่อยูดวยกันอยางหลวม ๆ โดยทั่วไปจะวางตัวอยูบนหินดาน หรือบริเวณหินโผล มีสภาพเหมือนหินกรวดเหลี่ยมที่ยังไมแข็งตัว ๒. ในการทําเหมืองหิน หมายถึง เศษหินที่เกิดจากการระเบิดหิน

916. rubblestone; rubble ชิน้หนิเหลีย่ม ดู rubble; rubblestone

917. rubellite รูเบลไลต ดูคําอธิบายใน tourmaline

Page 195: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

797

918. rubidium-strontium age method; Rb-Sr age method; rubidium-strontium dating

การหาอายจุากรบูเิดยีม-สตรอนเชยีม

ดู Rb-Sr age method; rubidium-strontium age method; rubidium-strontium dating

919. rubidium-strontium dating; Rb-Sr age method; rubidium-strontium age method

การหาอายจุากรบูเิดยีม-สตรอนเชยีม

ดู Rb-Sr age method; rubidium-strontium age method; rubidium-strontium dating

920. ruby silver รบูซีลิเวอร ซัลไฟดชนิดหนึ่ง มักมีสีแดงเงิน ถามีสีแดงเงินเขมจัดเปนไพรารจีไรต แตถามีสีแดงเงินออนเปนพรูสไทต

921. rudaceous rock* หินเนือ้กรวด ดูคําอธิบายใน psephite และ rudite

922. ruddle รัดเดลิ ดู red ocher 923. rudite หินรไูดต ดู psephite

924. rugosa รูโกซา ชื่ออันดับของปะการังกลุมหนึ่ง ดู rugose coral และ tetracoral ประกอบ

Page 196: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

798

925. rugose coral ปะการงัหนอ สัตวไมมีกระดูกสันหลังพวกซีเลนเทอเรตหรือไนดาเรีย ชั้นยอยซูแอนทาเรีย (subclass zoantharia) อันดับรูโกซา (order rugosa) มีลักษณะเฉพาะคือ โครงรางที่เปนสารเนื้อปูน มีรูปรางเปนรูปกรวยหรือทรงกระบอกที่อาจตรงหรือโคง โครงรางดังกลาวอาจอยูเดี่ยว ๆ หรือประกอบกันเปนกลุมคลายฝกบวั หรือเจริญเติบโตรวมกันเปนกลุมกอนหนา หรือเปนแบบแตกแขนงก็ได มีชวงอายุตั้งแตยุคออรโดวิเชียนและสูญพันธุในยุคเพอรเมียน ดู coelenterate ประกอบ

926. rule of V’s หลกัเกณฑตวัวี หินโผลหมวดหนึ่งที่มีแนวชั้นหินตัดผานหุบเขาเปนมุมแหลมรูปตัววี (V) โดยชี้ไปในทิศทางที่หินหมวดนั้นวางตัวอยูใตธารน้ํา ซึ่งอธิบายไดคือ ตัววีจะชี้ไปทางตนน้ํา ถาชั้นหินอยูในแนวราบขนานกับเสนชั้นความสูงของภูมิประเทศ หรือชั้นหินมีมุมเอียงเทไปทางตนน้ํา หรือชั้นหินมีมุมเอียงเทไปทางปลายน้ําโดยมีคามุมเทนอยกวาความลาดธารน้ํา และตัววีจะชี้ไปทางปลายน้ํา ถาชั้นหินมีมุมเอียงเทลงไปทางปลายน้ําดวยคาของมุมที่มากกวาความลาดธารน้ํา หลักเกณฑตัววใีชศึกษาความสัมพันธลักษณะของชั้นหินโผล ระดับความสูง และภูมิประเทศ สามารถใชหลักเกณฑนี้กับแผนที่ธรณีวิทยา เพื่อคาดคะเนคาเอียงเทของชั้นหินจากรูปรางของหินโผลได

927. run รนั ๑. แนวยื่นคลายกิ่งกานหรือนิ้วมือจากหินอัคนีแทรกซอน มักเกิดแทรกเขาไปตามแนวระดับตาง ๆ ของลําดับชั้นหิน

Page 197: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

799

๒. มวลสินแรรูปแบนคลายริบบิน้ ไมเรียบ แทรกตามระนาบชั้นหินที่หอหุม ๓. ลําน้ําสายหนึ่ง หรือลําหวยเล็ก ๆ

928. running sand* ทรายดดู ดู quick sand

929. runoff; run-off น้าํไหลผาน, น้าํไหลบา น้ําจากหยาดน้ําฟาที่ตกลงสูผิวโลกแลวไหลลงสูที่ต่ํา มีทั้งที่ไหลบนพื้นผิวดินและที่ซึมขึ้นมาจากใตดินแลวไหลตอไปบนดิน คํานี้มีความหมายแคบกวาการไหลของธาร (streamflow) เนื่องจากไมรวมทางน้ําที่เกิดจากการผันน้ําหรือที่มนุษยทําขึ้น หากพิจารณาการไหลหลังจากตกจากฟา จําแนกเปนน้ําไหลบาตรง และ base runoff หากพิจารณาจากแหลงที่มา จําแนกเปน surface runoff, storm seepage, และ groundwater runoff คํานี้ Langbein and Isari, 1960 ใชในความหมายเหมือนกับ total runoff และมีความหมายกวางกวาคําวา น้ําทา ที่กรมชลประทานใช (แกจากในหนังสือหนา ๒๕๗)

930. run–of–mine สนิแรดบิ สินแรที่ผลิตออกมาจากกระบวนการทําเหมืองในขณะนั้น เชน ถานหินดิบ

931. runup; wave runup ระดบัคลืน่ซัด ระดับสูงสุดของน้ําเมื่อคลื่นวิ่งเขากระแทกชายหาดหรือชายฝง ซึ่งวัดในแนวดิ่งระหวางระดับทองคลื่นยกตัวกับระดับสูงสุดบนชายหาดที่คลื่นซัดถึง ระดับคลื่นซัดขึ้นอยูกับความสูงและคาบเวลาของคลื่น รวมทั้งความลาดเอียงและ

Page 198: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

800

สวนประกอบของชายหาดหรือชายฝง ดูรูปประกอบ (มอบนายสมชาย พุมอิ่ม ปรับปรุงภาพประกอบใหม)

932. rutilated quartz ควอตซเนือ้รไูทล ควอตซที่มีผลึกรูปเข็มของรูไทลอยูขางใน เปนผลึกควอตซใส ไมมีสี ในเนื้อควอตซพบรูไทลซึ่งมีลักษณะคลายเข็มสีทองหรือสีแดงแทรกปะปนเปนสารฝงใน นอกจากรไูทลแลว อาจมีทัวรมาลีน เอพิโดต แอกทิโนไลต แรรูปเข็ม หรือแรที่เปนเสี้ยนชนิดอื่น ๆ กไ็ด ดู sagenite ความหมายที่ ๑ ประกอบ มีความหมายเหมือนกับ Venus hairstone

933. ตัดศพัท piercement; diapir; diapiric fold; piercing fold

รอยคดโคงแทรกดนัดู diapir; diapiric fold; piercement; piercing fold

3/56

934. ตัดศพัท planets ดาวเคราะห วัตถุทองฟาที่อยูในระบบสุริยะ ไมมีแสงในตัวเองและโคจรอยูรอบ ๆ ดวงอาทิตย ดาวเคราะหใหญนอยทั้งหลายที่ตรวจพบแลวในระบบสุริยะนี้มีมากกวา ๑,๕๐๐ ดวง แตที่สําคัญ ๆ นับตามระยะหางจากดวงอาทิตยออกมาตามลําดับมีอยู ๙ ดวง คือ ดาวพุธ (Mercury) ดาวศกุร (Venus) โลก (Earth) ถดัจากโลกออกไปมีดาวอังคาร (Mars) ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) ดาวเสาร (Saturn) ดาวมฤตยู (Uranus) ดาวพระสมุทร (Neptune) และดาวพระยม (Pluto) ดาวเคราะหที่อยูใกลดวงอาทิตยมากกวาโลก

Page 199: ธรณี P-R 30-54 ตกแต่ง29มี.ค.55 เติม...23,28/56 28. paleobotany; palaeobotany พฤกษศาสตร บรรพกาล การศ กษาเก

801

เรียกวา ดาวเคราะหชั้นใน สวนดาวเคราะหที่อยูหางจากดวงอาทิตยมากกวาโลก เรียกวา ดาวเคราะหชั้นนอกเนื่องจากเปนศัพทดาราศาสตร 30/56

935. ตัดศพัท progressive fault

ไมไดเก็บศัพท 1,2/56

936. ตัดศพัท pyroclastic rock; volcanicclastic rock

หินตะกอนภูเขาไฟ หินที่ประกอบดวยตะกอนภูเขาไฟ ซึ่งเปนทั้งหิน แร และแกวภูเขาไฟที่มีขนาดตาง ๆ คละกันอยู อาจเกิดจากการตกลงมาสะสมตัวกันโดยตรงจากอากาศ หรือโดยน้ําและลมพัดพาออกไปสะสมตัวในบริเวณใกลเคียงกันก็ได (รอพจิารณา)

12,13/56

937. ตัดศพัท Recent รีเซนต ดู Holocene Epoch 41/55