สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/src_proceeding/... · 2019-06-06 ·...

79

Upload: others

Post on 09-Mar-2020

1 views

Category:

Documents


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส
Page 2: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

1

สารบัญ

หนา

การประกวด GLOBE Student Research Competition 2019 2

กําหนดการประชุมวิชาการ 3

รายการบทคัดยอ การนําเสนอผลงานวิจัยแบบปากเปลา 8

รายการบทคัดยอ การนําเสนอผลงานวิจัยแบบโปสเตอร 11

รายการหนงัส้ัน 2019 Mosquitoes Short Film 16

บทคัดยอ 17

Page 3: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

2

การประกวด GLOBE Student Research Competition 2019

หลักการและเหตุผล

สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.) จัดทําโครงการ GLOBE Student

Research Competition 2019 โดยมีวัตถุประสงคเพ่ือสงเสริมการเรียนรูและเขาใจความสัมพันธของ

สิ่งแวดลอมท่ีเปนองคประกอบของโลก (ดิน น้ํา บรรยากาศ และสิ่งปกคลุมดิน/สิ่งมีชีวิต) ในลักษณะของ

วิทยาศาสตรโลกท้ังระบบผานการศึกษาคนควาวิจัยของนักเรียนท่ีเชื่อมโยงกับชีวิตจริง เก่ียวกับปญหาและ

วิธีการแกปญหาสิ่งแวดลอมในทองถ่ินของตนอยางเปนระบบ โดยใชหลักวิธีดําเนินการของ GLOBE ในการเก็บ

ขอมูลและสงขอมูลเพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรูกับสมาชิกในโครงการ GLOBE ท้ังในประเทศและต างประเทศ ท้ังนี้

เพ่ือสงเสริมประสบการณ ทักษะชีวิต ความคิดวิเคราะหและความคิดสรางสรรคเพ่ือนําไปสูการรูเทาทัน

สถานการณการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดลอม และการบูรณาการจัดการความเสี่ยงอยางมีประสิทธิภาพ

เปนประโยชนตอการดําเนินชีวิต รวมกับครู นักวิทยาศาสตร และชุมชน เพ่ือนําไปสูการสรางความยั่งยืนในการ

รักษาสิ่งแวดลอมรวมกัน ในระดับทองถ่ิน ระดับภูมิภาค และระดับโลก โดยผลงานวิจัยท่ีผานการคัดเลือกจะมี

โอกาสไดรับการพิจารณาใหเขารวม “โครงการแลกเปลี่ยนการนําเสนอผลงานวิจัยของนักเรียนระดับภูมิภาค

เอเซียแปซิฟก” และนําเสนอในการประชุมประจําป “GLOBE Annual Meeting”

ผลงานวิจัยท่ีจะสงเขารวมประกวดในโครงการฯ ควรจะมีลักษณะดังนี้

1.1 เปนผลงานวิจัยวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอมท่ีบูรณาการความรูวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอม หรือ วิทยาศาสตร

โลกท้ังระบบ (Earth System Science) รวมกับเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร และคณิตศาสตร โดย

เนนการนําความรูไปใชในการแกปญหาในชีวิตจริงในทองถ่ิน รวมท้ังการพัฒนากระบวนการ หรือ

แนวทาง หรือ นวตักรรมท่ีเปนประโยชนตอการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ หรือแกปญหาสิ่งแวดลอม

อยางเปนระบบ ซ่ึงผลงานวิจัยดังกลาวจะตองมีการใชหลักวิธีดําเนินการตรวจวัดของโครงการ GLOBE

(GLOBE Protocols) และมีการสงขอมูล (GLOBE Data Entry) เขาเว็บไซตโครงการ GLOBE

(www.globe.gov)

1.2 เปนงานวิจัยท่ีเสร็จสมบูรณแลว และจะตองเปนงานวิจัยท่ียังไมเคยไดนําเสนอหรือสงเขารวมการ

ประกวดผลงานวิจัยวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอม ในการประชุมวิชาการประจําป ของ สสวท. หรือเคย

ไดรับรางวัลในการประกวดผลงานวิจัยในเวทีอ่ืนๆ นอกเหนือจากเวทีของ สสวท. ท้ังนี้หากเปน

งานวิจัยท่ีมีการตอยอดจากงานเดิมสามารถสงเขารวมประกวดได แตตองแสดงใหเห็นอยางชัดเจนวา

แตกตางจากงานเดิมอยางไร

Page 4: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

3

กําหนดการประชุมวิชาการ

“GLOBE Student Research Competition 2019”

วันท่ี 26 – 28 มีนาคม 2562 ณ หองศาลาไทย โรงแรมแอมบาสซาเดอร สุขุมวิท 11 กรุงเทพฯ

วันท่ี / เวลา กําหนดการ

วันท่ี 25 มีนาคม 2562

14.00 น. ลงทะเบียนเขาพัก ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร

(เฉพาะคณะผูวิจัยท่ีอยูตางจังหวัด คณะกรรมการตัดสินฯ และคณะทํางาน สสวท.)

วันท่ี 26 มีนาคม 2562

08.00 – 09.00 น. ลงทะเบียน และติดตั้งโปสเตอร

09.00 – 09.30 น. เปดการประชุมวิชาการ

โดย ผูอํานวยการ สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

09.30 – 10.30 น. - โรงเรียนนําเสนอผลงานวิจัยวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอม แบบโปสเตอร

- โรงเรียนนําเสนอผลงานหนังสั้น 2019 Mosquitoes Short Film

10.30 – 10.45 น. รับประทานอาหารวาง

10.45 – 12.00 น. - โรงเรียนนําเสนอผลงานวิจัยวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอม แบบโปสเตอร (ตอ)

- โรงเรียนนําเสนอผลงานหนังสั้น 2019 Mosquitoes Short Film (ตอ)

12.00 – 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน

13.00 – 14.45 น. โรงเรียนนําเสนอผลงานวิจัยวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอม แบบปากเปลา

ระดับประถมศึกษา

การศึกษาผลของน้ําหมักน้ําซาวขาวผสมเปลือกกลวยรวมกับเม็ดดินเหนียวท่ีมีตอ

สมบัติของดินและการเจริญเติบโตของตนบานชื่น

โรงเรียนเซนตโยเซฟทิพวัล

การศึกษาสภาพอากาศเพ่ืออธิบายความสัมพันธของอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ

และปริมาณน้ําฝนของพ้ืนท่ีจุดศึกษา 3 จุดศึกษา ไดแก โรงเรียนดาราวิทยาลัย

จังหวัดเชียงใหม โรงเรียนเซนตโยเซฟทิพวัล จังหวัดสมุทรปราการ และ

มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ จังหวัดนครศรีธรรมราช

โรงเรียนดาราวิทยาลัย

ดินโคลนมีผลตอการติดสีของผาฝาย

โรงเรียนบานหมากแขง

Page 5: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

4

วันท่ี / เวลา กําหนดการ

สถานการณไขเลือดออกกับปจจัยดานสภาพแวดลอมและนิเวศวิทยาในตําบลท่ีมี

ลักษณะพ้ืนท่ีและสภาพแวดลอมท่ีแตกตางกันในจังหวัดเชียงใหม

โรงเรียนมงฟอรตวิทยาลัยแผนกประถม

การศึกษาความสัมพันธของอุณหภูมิพ้ืนผิว และความชื้นสัมพัทธตอฝุนละออง

ขนาดไมเกิน 2.5 ไมครอนในบริบทของพ้ืนท่ีท่ีใชประโยชนตางกัน : กรณีศึกษา

อําเภอไชยา

โรงเรียนวัดเดิมเจา

คุณภาพน้ําและดินตะกอนกับการเจริญเติบโตของหอยขม

โรงเรียนอนุบาลศรีสําโรง

14.45 – 15.00 น. รับประทานอาหารวาง

15.00 – 17.00 น. โรงเรียนนําเสนอผลงานวิจัยวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอม แบบปากเปลา (ตอ)

ระดับมัธยมศึกษาตอนตน

การศึกษาเรื่องปจจัยทางกายภาพท่ีสงผลตอการเจริญเติบโตของหอยแมลงภู

Pema Viridis บริเวณปากอาวไทย เพ่ือสรางรูปแบบจําลองการปกเสาเลี้ยงหอยท่ี

สงผลตออัตราการไหลในการเพ่ิมการเจริญเติบโตของหอยแมลงภู

โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

การพัฒนาผลิตภัณฑเม็ดดินฮอรโมนไขและการใชประโยชนเพ่ือการปลูกพืช

โรงเรียนเซนตโยเซฟทิพวัล

ศึกษาคุณภาพน้ําจากบอขุดเพ่ือเลี้ยงปลาของเกษตรกรและใชน้ําเปนสารอิเล็กโตร-

ไลตในเซลลไฟฟาเพ่ือประดิษฐอุปกรณลอแมลงและปองกันการระเหยของน้ํา

โรงเรียนดอนจานวิทยาคม

ชนิดของแพลงกตอนและคุณภาพน้ําท่ีมีผลตอจํานวนและชนิดของปลาท่ีจับไดจาก

ยอยักษ บริเวณคลองปากประ อําเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

โรงเรียนปาพะยอมพิทยาคม

ความสัมพันธของคุณภาพน้ําและความหลากชนิดของสัตวเล็กน้ําจืดบริเวณอางเก็บ

น้ําหวยข้ีหนู เทศบาลตําบลลําปลายมาศ อําเภอลําปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย

โรงเรียนลําปลายมาศ

การศึกษาความสามารถในการกําจัดลูกน้ํายุงของผูลาลูกน้ํายุง

โรงเรียนวิทยาศาสตรจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง

17.00 – 19.00 น. - คณะกรรมการรวบรวมคะแนนและสรปุงาน

- รับประทานอาหารเย็น ตามอัธยาศัย

Page 6: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

5

วันท่ี / เวลา กําหนดการ

วันท่ี 27 มีนาคม 2562

08.30 – 08.45 น. ลงทะเบียน

8.45 – 10.30 น. - โรงเรียนนําเสนอผลงานวิจัยวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอม แบบโปสเตอร

- โรงเรียนนําเสนอผลงานหนังสั้น 2019 Mosquitoes Short Film

10.30 – 10.45 น. รับประทานอาหารวาง

10.45 – 12.00 น. โรงเรียนนําเสนอผลงานวิจัยวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอม แบบปากเปลา

ระดับมัธยมศึกษาตอนตน

ศึกษาการเพ่ิมธาตุอาหารและปรับปรุงคุณภาพดินดวยสารสกัดวัชพืชอัดเม็ด

โรงเรียนสงวนหญิง

การเจริญเติบโตของพืชบริเวณรอบเหมืองดินขาว ตําบลหาดสมแปน อําเภอเมือง

จังหวัดระนอง

โรงเรียนสตรีระนอง

ความสัมพันธระหวางขนาดของใบไมวงศยางนากับคุณสมบัติของดิน ในอําเภอ

สวางแดนดิน จังหวัดสกลนคร : ขนาดของใบไมอธิบายนิเวศวิทยาทองถ่ินและ

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก

โรงเรียนสวางแดนดิน

การศึกษาวัสดุคลุมดินเพ่ือรักษาความชื้นในชุดดินเดิมบางในอําเภอหันคา

โรงเรียนหันคาพิทยาคม

12.00 – 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน

13.00 – 14.45 น. โรงเรียนนําเสนอผลงานวิจัยวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอม แบบปากเปลา

ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

นวัตกรรมการเพ่ิมความชุมชื้นใหแกดินโดยใชวัสดุท่ีเคลือบผิวดวยนาโน

ซิงคออกไซด และเจลทําความเย็น

โรงเรียนกําเนิดวิทย

การศึกษาความสัมพันธระหวางปริมาณความชื้นของดินขณะเก็บเก่ียวกับปริมาณ

ความหวานของสมโอขาวแตงกวา

โรงเรียนคุรุประชาสรรค

ปจจัยท่ีมีผลตอการเจริญเติบโตของกุงแมน้ําในคลองชะอวด อําเภอชะอวด จังหวัด

นครศรีธรรมราช

โรงเรียนชะอวดวิทยาคาร

Page 7: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

6

วันท่ี / เวลา กําหนดการ

ศึกษาปจจัยเชิงพฤติกรรมของคนในชุมชนเขตพ้ืนท่ีอําเภอดอนจานท่ีสงผลตอ

การระบาดของโรคไขเลือดออก

โรงเรียนดอนจานวิทยาคม

การศึกษาการขยายพันธุปะการังแบบยายปลูกดวยอุปกรณเรือนแหวน 3

โรงเรียนพลูตาหลวงวิทยา

14.45 – 15.00 น. รับประทานอาหารวาง

15.00 – 16.15 น. โรงเรียนนําเสนอผลงานวิจัยวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอม แบบปากเปลา (ตอ)

ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและประสิทธิภาพการใชดินท่ีมีการทับถมของ

เศษใบไมตางชนิดบริเวณโรงเรียนรัฐราษฎรอุปถัมภเพ่ือยอยสลายใบอินทนิล

โรงเรียนรัฐราษฎรอุปถัมภ

การศึกษาความสัมพันธของคุณภาพน้ํา คุณภาพดินกับการปกคลุมของหญาทะเล

แตละชนิดท่ีระยะหางจากชายฝงแตกตางกันบริเวณหาดปากคลอง ตําบลบอหิน

อําเภอสิเกา จังหวัดตรัง

โรงเรียนวิทยาศาสตรจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง

ผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศตอจํานวนผูปวยไขเลือดออกและจํานวน

ลูกน้ํายุงในพ้ืนท่ีอําเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช

โรงเรียนวิทยาศาสตรจุฬาภรณราชวิทยาลัย นครศรีธรรมราช

แมหอบในเขตชีวมณฑลระนอง จังหวัดระนอง

โรงเรียนสตรีระนอง

ศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตบริเวณชายหาดท่ีมีเข่ือนกันคลื่นนอกฝง

และการไมมีเข่ือนกันคลื่นนอกฝง อําเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช

โรงเรียนแหลมราษฎรบํารุง

16.15 – 17.30 น. สนุกกับกิจกรรม GLOBE “2-Decades with GLOBE”

โดย คณะวิทยากร ฝายโลกศึกษาเพ่ือพัฒนาสิ่งแวดลอม (GLOBE) สสวท. และ

GLOBE Alumni

17.30 – 20.00 น. รับประทานอาหารเย็น (ผูเขารวมประชุม คณะกรรมการตัดสินฯ และคณะทํางาน)

- คณะกรรมการรวบรวมคะแนนและพิจารณาตัดสิน

Page 8: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

7

วันท่ี / เวลา กําหนดการ

วันท่ี 28 มีนาคม 2562

08.30 – 08.45 น. ลงทะเบียน

08.45 – 09.30 น. เสวนาจากพ่ีสูนอง “บอกเลาประสบการณจากการทํางานวิจัยของ GLOBE”

โดย GLOBE Alumni

09.30 – 10.30 น. สนุกกับกิจกรรม GLOBE “GLOBE FC”

โดย คณะวิทยากร ฝายโลกศึกษาเพ่ือพัฒนาสิ่งแวดลอม (GLOBE) สสวท. และ

GLOBE Alumni

10.30 – 10.45 น. รับประทานอาหารวาง

10.45 – 12.00 น. พิธีปดการประชุม

โดย ผูอํานวยการ สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลย ี

ประกาศผลรางวัล มอบเงินรางวัลและเกียรติบัตร

โดย ผูอํานวยการ สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

และประธานมูลนิธิ พสวท.

ถายภาพหมู พรอมใหสัมภาษณนักขาว

12.00 – 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน

13.00 น. จัดเก็บโปสเตอรและอุปกรณแสดงผลงาน และเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

หมายเหตุ กําหนดการอาจเปลี่ยนแปลงไดตามความเหมาะสม

Page 9: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

8

รายการบทคัดยอ

การนําเสนอผลงานวิจัยแบบปากเปลา

ลําดับ โรงเรียน ช่ืองานวิจัย หนา

ประถมศึกษา

1 เซนตโยเซฟทิพวัล การศึกษาผลของน้ําหมักน้ําซาวขาวผสมเปลือกกลวยรวมกับ

เม็ดดินเหนียวท่ีมีตอสมบัติของดินและการเจริญเติบโตของ

ตนบานชื่น

17

2 ดาราวิทยาลัย การศึกษาสภาพอากาศเพ่ืออธิบายความสัมพันธของอุณหภูมิ

ความชื้นสัมพัทธ และปริมาณน้ําฝนของพ้ืนท่ีจุดศึกษา 3 จุด

ศึกษา ไดแก โรงเรียนดาราวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม โรงเรียน

เซนตโยเซฟทิพวัล จังหวัดสมุทรปราการ และมหาวิทยาลัย

วลัยลักษณ จังหวัดนครศรีธรรมราช

18

3 บานหมากแขง ดินโคลนมีผลตอการติดสีของผาฝาย

19

4 มงฟอรตวิทยาลัยแผนก

ประถมศึกษา

สถานการณไขเลือดออกกับปจจัยดานสภาพแวดลอมและ

นิเวศวิทยาในตําบลท่ีมีลักษณะพ้ืนท่ีและสภาพแวดลอมท่ี

แตกตางกันในจังหวัดเชียงใหม

20

5 วัดเดิมเจา การศึกษาความสัมพันธของอุณหภูมิพ้ืนผิว และความชื้น

สัมพัทธตอฝุนละอองขนาดไมเกิน 2.5 ไมครอนในบริบทของ

พ้ืนท่ีท่ีใชประโยชนตางกัน : กรณีศึกษา อําเภอไชยา

21

6 อนุบาลศรีสําโรง คุณภาพน้ําและดินตะกอนกับการเจริญเติบโตของหอยขม

22

มัธยมศึกษาตอนตน

7 กรุงเทพคริสเตียน

วิทยาลัย

การศึกษาเรื่องปจจัยทางกายภาพท่ีสงผลตอการเจริญเติบโต

ของหอยแมลงภู Pema Viridis บริเวณปากอาวไทย เพ่ือสราง

รูปแบบจําลองการปกเสาเลี้ยงหอยท่ีสงผลตออัตราการไหลใน

การเพ่ิมการเจริญเติบโตของหอยแมลงภู

26

8 เซนตโยเซฟทิพวัล การพัฒนาผลิตภัณฑเม็ดดินฮอรโมนไขและการใชประโยชน

เพ่ือการปลูกพืช

27

9 ดอนจานวิทยาคม ศึกษาคุณภาพน้ําจากบอขุดเพ่ือเลี้ยงปลาของเกษตรกร

และใชน้ําเปนสารอิเล็กโตรไลตในเซลลไฟฟาเพ่ือประดิษฐ

อุปกรณลอแมลง และปองกันการระเหยของน้ํา

28

Page 10: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

9

ลําดับ โรงเรียน ช่ืองานวิจัย หนา

10 ปาพะยอมพิทยาคม ชนิดของแพลงกตอนและคุณภาพน้ําท่ีมีผลตอจํานวนและชนิด

ของปลาท่ีจับไดจากยอยักษ บริเวณคลองปากประ อําเภอ

ควนขนุน จังหวัดพัทลุง

29

11 ลําปลายมาศ ความสัมพันธของคุณภาพน้ําและความหลากชนิดของสัตวเล็ก

น้ําจืดบริเวณอางเก็บน้ําหวยข้ีหนู เทศบาลตําบลลําปลายมาศ

อําเภอลําปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย

30

12 วิทยาศาสตรจุฬาภรณ

ราชวิทยาลัย ตรัง

การศึกษาความสามารถในการกําจัดลูกน้ํายุงของผูลาลูกน้ํายุง 31

13 สงวนหญิง ศึกษาการเพ่ิมธาตุอาหารและปรับปรุงคุณภาพดินดวยสารสกัด

วัชพืชอัดเม็ด

32

14 สตรีระนอง การเจริญเติบโตของพืชบริเวณรอบเหมืองดินขาว ตําบล

หาดสมแปน อําเภอเมือง จังหวัดระนอง

33

15 สวางแดนดิน ความสัมพันธระหวางขนาดของใบไมวงศยางนากับคุณสมบัติ

ของดิน ในอําเภอสวางแดนดิน จังหวัดสกลนคร : ขนาดของ

ใบไมอธิบายนิเวศวิทยาทองถ่ินและการเปลี่ยนแปลงสภาพ

ภูมิอากาศโลก

34

16 หันคาพิทยาคม การศึกษาวัสดุคลุมดินเพ่ือรักษาความชื้นในชุดดินเดิมบางใน

อําเภอหันคา

35

มัธยมศึกษาตอนปลาย

17 กําเนิดวิทย นวัตกรรมการเพ่ิมความชุมชื้นใหแกดินโดยใชวัสดุท่ีเคลือบผิว

ดวยนาโนซิงคออกไซดและเจลทําความเย็น

51

18 คุรุประชาสรรค การศึกษาความสัมพันธระหวางปริมาณความชื้นของดินขณะ

เก็บเก่ียวกับปริมาณความหวานของสมโอขาวแตงกวา

52

19 ชะอวดวิทยาคาร ปจจัยท่ีมีผลตอการเจริญเติบโตของกุงแมน้ําในคลองชะอวด

อําเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช

53

20 ดอนจานวิทยาคม ศึกษาปจจัยเชิงพฤติกรรมของคนในชุมชนเขตพ้ืนท่ีอําเภอดอน

จานท่ีสงผลตอการระบาดของโรคไขเลือดออก

54

21 พลูตาหลวงวิทยา การศึกษาการขยายพันธุปะการังแบบยายปลูกดวยอุปกรณ

เรือนแหวน 3

55

Page 11: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

10

ลําดับ โรงเรียน ช่ืองานวิจัย หนา

22 รัฐราษฎรอุปถัมภ ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและประสิทธิภาพการใชดินท่ีมี

การทับถมของเศษใบไมตางชนิดบริเวณโรงเรียนรัฐราษฎร

อุปถัมภเพ่ือยอยสลายใบอินทนิล

56

23 วิทยาศาสตรจุฬาภรณ

ราชวิทยาลัย ตรัง

การศึกษาความสัมพันธของคุณภาพน้ํา คุณภาพดินกับ

การปกคลุมของหญาทะเลแตละชนิดท่ีระยะหางจากชายฝง

แตกตางกันบริเวณหาดปากคลอง ตําบลบอหิน อําเภอสิเกา

จังหวัดตรัง

57

24 วิทยาศาสตรจุฬาภรณ

ราชวิทยาลัย

นครศรีธรรมราช

ผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศตอจํานวนผูปวย

ไขเลือดออกและจํานวนลูกน้ํายุงในพ้ืนท่ีอําเภอเมือง

นครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช

58

25 สตรีระนอง แมหอบในเขตชีวมณฑลระนอง จงัหวัดระนอง

59

26 แหลมราษฎรบํารุง ศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตบริเวณชายหาดท่ีมีเข่ือน

กันคลื่นนอกฝงและการไมมีเข่ือนกันคลื่นนอกฝง อําเภอหัวไทร

จังหวัดนครศรีธรรมราช

60

Page 12: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

11

รายการบทคัดยอ

การนําเสนอผลงานวิจัยแบบโปสเตอร

ลําดับ โรงเรียน ช่ืองานวิจัย หนา

ประถมศึกษา

1 เซนตโยเซฟทิพวัล การศึกษาผลของน้ําหมักน้ําซาวขาวผสมเปลือกกลวยรวมกับ

เม็ดดินเหนียวท่ีมีตอสมบัติของดินและการเจริญเติบโตของ

ตนบานชื่น

17

2 ดาราวิทยาลัย การศึกษาสภาพอากาศเพ่ืออธิบายความสัมพันธของอุณหภูมิ

ความชื้นสัมพัทธ และปริมาณน้ําฝนของพ้ืนท่ีจุดศึกษา 3 จดุ

ศึกษา ไดแก โรงเรียนดาราวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม โรงเรียน

เซนตโยเซฟทิพวัล จังหวัดสมุทรปราการ และมหาวิทยาลัย

วลัยลักษณ จังหวัดนครศรีธรรมราช

18

3 บานหมากแขง ดินโคลนมีผลตอการติดสีของผาฝาย

19

4 มงฟอรตวิทยาลัย

แผนกประถมศึกษา

สถานการณไขเลือดออกกับปจจัยดานสภาพแวดลอมและ

นิเวศวิทยาในตําบลท่ีมีลักษณะพ้ืนท่ีและสภาพแวดลอมท่ี

แตกตางกันในจังหวัดเชียงใหม

20

5 วัดเดิมเจา การศึกษาความสัมพันธของอุณหภูมิพ้ืนผิว และความชื้นสัมพัทธ

ตอฝุนละอองขนาดไมเกิน 2.5 ไมครอนในบริบทของพ้ืนท่ีท่ีใช

ประโยชนตางกัน : กรณีศึกษา อําเภอไชยา

21

6 อนุบาลศรีสําโรง คุณภาพน้ําและดินตะกอนกับการเจริญเติบโตของหอยขม

22

7 เทศบาล 2 สามัคคี

วัฒนา

ประสิทธิภาพของน้ําหมักมูลวัวและน้ําสมุนไพรรางจืดท่ีมีตอ

การปรับสภาพความเปนกรดของดิน

23

8 วัดทาเกวียน (สัยอุทิศ) กระถางเพาะตนกลามะละกอจากใบไมปองกันหอยทากเขา

ทําลาย

24

9 วัดสามัคคีนุกูล ศึกษาความสัมพันธระหวางจํานวนลูกน้ํายุงลาย กับอุณหภูมิ

จํานวนผูปวยไขเลือดออก อําเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช

25

Page 13: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

12

ลําดับ โรงเรียน ช่ืองานวิจัย หนา

มัธยมศึกษาตอนตน

10 กรุงเทพคริสเตียน

วิทยาลัย

การศึกษาเรื่องปจจัยทางกายภาพท่ีสงผลตอการเจริญเติบโต

ของหอยแมลงภู Pema Viridis บริเวณปากอาวไทย เพ่ือสราง

รูปแบบจําลองการปกเสาเลี้ยงหอยท่ีสงผลตออัตราการไหลใน

การเพ่ิมการเจริญเติบโตของหอยแมลงภู

26

11 เซนตโยเซฟทิพวัล การพัฒนาผลิตภัณฑเม็ดดินฮอรโมนไขและการใชประโยชนเพ่ือ

การปลูกพืช

27

12 ดอนจานวิทยาคม ศึกษาคุณภาพน้ําจากบอขุดเพ่ือเลี้ยงปลาของเกษตรกร

และใชน้ําเปนสารอิเล็กโตรไลตในเซลลไฟฟาเพ่ือประดิษฐ

อุปกรณลอแมลง และปองกันการระเหยของน้ํา

28

13 ปาพะยอมพิทยาคม ชนิดของแพลงกตอนและคุณภาพน้ําท่ีมีผลตอจํานวนและ

ชนิดของปลาท่ีจับไดจากยอยักษ บริเวณคลองปากประ

อําเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

29

14 ลําปลายมาศ ความสัมพันธของคุณภาพน้ําและความหลากชนิดของสัตวเล็ก

น้ําจืดบริเวณอางเก็บน้ําหวยข้ีหนู เทศบาลตําบลลําปลายมาศ

อําเภอลําปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย

30

15 วิทยาศาสตรจุฬาภรณ

ราชวิทยาลัย ตรัง

การศึกษาความสามารถในการกําจัดลูกน้ํายุงของผูลาลูกน้ํายุง 31

16 สงวนหญิง ศึกษาการเพ่ิมธาตุอาหารและปรับปรุงคุณภาพดินดวยสารสกัด

วัชพืชอัดเม็ด

32

17 สตรีระนอง การเจริญเติบโตของพืชบริเวณรอบเหมืองดินขาว ตําบล

หาดสมแปน อําเภอเมือง จังหวัดระนอง

33

18 สวางแดนดิน ความสัมพันธระหวางขนาดของใบไมวงศยางนากับคุณสมบัติ

ของดิน ในอําเภอสวางแดนดิน จังหวัดสกลนคร : ขนาด

ของใบไมอธิบายนิเวศวิทยาทองถ่ินและการเปลี่ยนแปลงสภาพ

ภูมิอากาศโลก

34

19 หันคาพิทยาคม การศึกษาวัสดุคลุมดินเพ่ือรักษาความชื้นในชุดดินเดิมบางใน

อําเภอหันคา

35

20 ขุนไกรพิทยาคม ชนิดและปริมาณของยุงในเขตตําบลนาขุนไกร อําเภอศรีสําโรง

จังหวัดสุโขทัย

36

Page 14: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

13

ลําดับ โรงเรียน ช่ืองานวิจัย หนา

21 ชลราษฎรอํารุง การศึกษาคุณสมบัติ ณ แหลงกําเนิดของปจจยัดานกายภาพและ

เคมีโดยรอบพืชทนเค็มในเขตเทศบาลตําบลเสม็ด จังหวัดชลบุรี

และคุณสมบัติตานแบคทีเรียท่ีมีตอเชื้อโรคในครัวเรือนท่ัวไป

37

22 ชุมแพศึกษา การศึกษาผลของการใชชีววิธจีากไขน้ําตอการยับยั้ง

การเจริญเติบโตของลูกน้ํายุง

38

23 ตรังคริสเตียนศึกษา ลักษณะและสมบัติของดินท่ีไดรับผลกระทบจากน้ําเสีย บริเวณ

บอขยะของเทศบาลนครตรัง จังหวัดตรัง

39

24 เทศบาล 5 สีหรักษวิทยา การศึกษาความสัมพันธของปริมาณปมรากถ่ัวกับปริมาณผลผลิต

ของถ่ัวลิสง จากไรถ่ัวลิสงบานหลาสีเสียด ตําบลตูมใต อําเภอ

กุมภวาป จังหวัดอุดรธานี

40

25 พระหฤทัยคอนแวนต ตนแบบกังหันตีน้ําแบบใบพัดขนาดเล็กสําหรับเพ่ิมคุณภาพ

แหลงน้ําในครัวเรือน

41

26 มงฟอรตวิทยาลัย การศึกษาคาอนุมานของปริมาณฝุนละอองขนาดเล็กในอากาศ

PM 2.5 ในจังหวัดเชียงใหม

42

27 รัฐราษฎรอุปถัมภ การใสวัสดุธรรมชาติเหลือใชทางการเกษตรเพ่ือเพ่ิมความอุดม

สมบูรณของดินทราย

43

28 ราษีไศล ปจจัยท่ีสงผลตอการเจริญเติบโตและเพ่ิมจํานวนของไรน้ํา

นางฟาไทย

44

29 ลําปางกัลยาณี ผลของการเผาขยะท่ีสงผลตอปจจัยทางชีวภาพบางชนิด 45

30 วิเชียรมาตุ การศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพดินบริเวณท่ีมีผักกูดข้ึนเอง

ตามธรรมชาติและบริเวณท่ีไมมีผักกูดข้ึน บานนากลาง

ตําบลหนองตรุด อําเภอเมือง จังหวัดตรัง

46

31 สตรีพัทลุง การเปรียบเทียบความหนาแนนของฝุนละอองท่ีระดับความสูง

ท่ีตางกัน ดวยอุปกรณดักจับฝุนละอองในโรงเรียนสตรีพัทลุง

จังหวัดพัทลุง

47

32 สาธิตแหงมหาวิทยาลัย

เกษตรศาสตร ศูนยวิจัย

และพัฒนาการศึกษา

การศึกษาลักษณะผิวใบและปริมาณการปกคลุมของฝุนละออง

บนผิวใบของไมยืนตนท่ีเจริญเติบโตบริเวณริมถนนรอบโรงเรียน

สาธิตแหงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร

48

33 แหลมราษฎรบํารุง ความหลากหลายของเฟรน และพืชใกลเคียงเฟรน

บริเวณควนชะลิก และควนทะเลมอง อําเภอหัวไทร

จังหวัดนครศรีธรรมราช

49

Page 15: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

14

ลําดับ โรงเรียน ช่ืองานวิจัย หนา

34 อนุกูลนารี การศึกษาคุณภาพแหลงน้ําบริเวณสวนสาธารณะกุดน้ํากิน

กุดยางสามัคคี และแกงดอนกลาง อําเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ

50

มัธยมศึกษาตอนปลาย

35 กําเนิดวิทย นวัตกรรมการเพ่ิมความชุมชื้นใหแกดินโดยใชวัสดุท่ีเคลือบผิว

ดวยนาโนซิงคออกไซดและเจลทําความเย็น

51

36 คุรุประชาสรรค การศึกษาความสัมพันธระหวางปริมาณความชื้นของดิน

ขณะเก็บเก่ียวกับปริมาณความหวานของสมโอขาวแตงกวา

52

37 ชะอวดวิทยาคาร ปจจัยท่ีมีผลตอการเจริญเติบโตของกุงแมน้ําในคลองชะอวด

อําเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช

53

38 ดอนจานวิทยาคม ศึกษาปจจัยเชิงพฤติกรรมของคนในชุมชนเขตพ้ืนท่ี อําเภอ

ดอนจานท่ีสงผลตอการระบาดของโรคไขเลือดออก

54

39 พลูตาหลวงวิทยา การศึกษาการขยายพันธุปะการังแบบยายปลูกดวยอุปกรณ

เรือนแหวน 3

55

40 รัฐราษฎรอุปถัมภ ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และประสิทธิภาพการใชดิน

ท่ีมีการทับถมของเศษใบไมตางชนิดบริเวณโรงเรียน

รัฐราษฎรอุปถัมภ เพ่ือยอยสลายใบอินทนิล

56

41 วิทยาศาสตรจุฬาภรณ

ราชวิทยาลัย ตรัง

การศึกษาความสัมพันธของคุณภาพน้ํา คุณภาพดินกับ

การปกคลุมของหญาทะเลแตละชนิดท่ีระยะหางจากชายฝง

แตกตางกันบริเวณหาดปากคลอง ตําบลบอหิน อําเภอสิเกา

จังหวัดตรัง

57

42 วิทยาศาสตรจุฬาภรณ

ราชวิทยาลัย

นครศรีธรรมราช

ผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศตอจํานวนผูปวย

ไขเลือดออกและจํานวนลูกน้ํายุงในพ้ืนท่ี อําเภอเมือง

นครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช

58

43 สตรีระนอง แมหอบในเขตชีวมณฑลระนอง จงัหวัดระนอง 59

44 แหลมราษฎรบํารุง ศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตบริเวณชายหาดท่ีมีเข่ือนกัน

คลื่นนอกฝง และการไมมีเข่ือนกันคลื่นนอกฝง อําเภอหัวไทร

จังหวัดนครศรีธรรมราช

60

45 ชุมแพศึกษา การศึกษาความสมดุลระหวางปริมาณการปลอยกาซ

คารบอนไดออกไซดของรถยนตและรถจักรยานยนตกับปริมาณ

การดูดซับกาซคารบอนไดออกไซดของตนไมภายในโรงเรียน

ชุมแพศึกษา

61

Page 16: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

15

ลําดับ โรงเรียน ช่ืองานวิจัย หนา

46 ดอนคาวิทยา ผลของการสับกลบพืชตระกูลถ่ัวอายุตางกันตอการปรับปรุง

ดินเค็มบริเวณดอนปาชา บานดอนคา อําเภออูทอง จังหวัด

สุพรรณบุรี

62

47 นิคมควนขนุนวิทยา สมบัติของดินตอการเจริญเติบโตของหญาเลี้ยงวัวชน

ในพ้ืนท่ีตําบลลานขอย อําเภอปาพะยอม จังหวัดพัทลุง

63

48 บรรหารแจมใสวิทยา 3 การศึกษาผลของกากตะกอนหมอกรอง (Filter cake) จาก

โรงงานผลิตน้ําตาลตอสมบัติของดินและการเจริญเติบโตของ

ผักบุงในดินเสื่อมคุณภาพ

64

49 ปทุมรัตตพิทยาคม การศึกษาความหลากหลายของแพลงกตอนพืชเพ่ือบงชี้คุณภาพ

น้ําในแหลงน้ํา

65

50 ปรินสรอยแยลสวิทยาลยั การทําแผนท่ีกิจกรรมของประชาชนบริเวณริมฝงแมน้ําปง

จังหวัดเชียงใหม ท่ีมีผลตอคุณภาพน้ําเพ่ือวางแผนการปรับปรุง

คุณภาพน้ํา

66

51 ปาพะยอมพิทยาคม โลหะหนักในน้ําท่ีมีความสัมพันธกับคุณภาพน้ํา แพลงกตอนและ

ปลาบริเวณคลองปากประ อําเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

67

52 มอ.วิทยานุสรณ

สุราษฎรธานี

การประเมินและเปรียบเทียบคุณภาพชายฝงในบริเวณพ้ืนท่ี

อาวบานดอน อําเภอไชยา จังหวัดสุราษฎรธาน ี

68

53 ราษีไศล ปจจัยทางดานสิ่งแวดลอมท่ีมีผลตอการเพ่ิมปริมาณลูกน้ํายุง

สูการกําจัดโดยใช Killing ball จากพืชวงศ Euphorbiaceae

69

54 วิทยาศาสตรจุฬาภรณ

ราชวิทยาลัย ตรัง

ความชุกชุมของลูกน้ํายุงในฤดูกาลทองเท่ียวของแหลงทองเท่ียว

หาดปากเมง จังหวัดตรัง

70

55 วิทยาศาสตรจุฬาภรณ

ราชวิทยาลัย มุกดาหาร

การศึกษาประสิทธิภาพในการดูดซับสังกะสีดวยหญารูซ่ี

หญาคา และหญาแฝก รวมกับจลนศาสตรไฟฟา

71

56 ศรีประจันต

"เมธีประมุข"

ผลของการใชสารชีวภาพ (พด.6) ตอคุณภาพน้ําและสิ่งมีชีวิต

ในน้ํา

72

57 สามชัย การสํารวจปจจัยทางสิ่งแวดลอมท่ีมีผลตอการเจริญเติบโต

ของสาหรายสไปโรไจรา (เทาน้ํา) ในแหลงน้ําธรรมชาติของ

อําเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ

73

58 หันคาพิทยาคม การศึกษาการใชปุยเพ่ือปรับปรุงชุดดินเพชรบุรีเพ่ือการปลูกพริก 74

59 หารเทารังสีประชาสรรค การวิจัยคุณภาพน้ําทะเลสาบสงขลาฝงตลาดสดอําเภอ

ปากพะยูน

75

Page 17: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

16

รายการหนังสั้น 2019 Mosquitoes Short Film

ในหัวขอ “การรณรงคและปองกัน โรคระบาดที่เกิดจากยุงราย”

ระดับประถมศึกษา

ลําดับ โรงเรียน ช่ือหนังส้ัน

1 มงฟอรตวิทยาลัย แผนกประถม MCPรวมใจ ปองกันภัยรายจากยุง

2 วัดสามัคคีนุกูล รวมใจทําลายยุง

3 อนุบาลลําปาง ยุงอันตราย

4 ดาราวิทยาลัย Be 3 Hero

ระดับมัธยมศึกษา

ลําดับ โรงเรียน ช่ือหนังส้ัน

1 เชียงคาน หนีดีกวา

2 วิทยาศาสตรจุฬาภรณราชวิทยาลัย เลย ยุงตัวนิดมีพิษเหลือราย

3 วัดบานตําแย หวง

Page 18: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

บทคดัยอ

Page 19: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

17

ช่ืองานวิจัย ศึกษาผลของน้ําหมักน้ําซาวขาวผสมเปลือกกลวยรวมกับเม็ดดินเหนียวท่ีมีตอ

สมบัติของดินและการเจริญเติบโตของตนบานช่ืน

คณะผูวิจัย เด็กหญิงพุทธิดา พุทธิสัตย เด็กหญิงชนันทดาว ธงพันสา

เด็กหญิงณัฐณิชา บุญปน

ระดับช้ัน ประถมศึกษาปท่ี 5

อาจารยท่ีปรึกษา นางสุพิศ ศรีพอ และนายมนตมนัส บุญช ู

โรงเรียน เซนตโยเซฟทิพวัล อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ดร. สุชาดา กรุณา ภาควิชาปฐพีวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร

บทคัดยอ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค เพ่ือศึกษาความสัมพันธของเม็ดดินเหนียวกับสมบัติของดิน และเพ่ือศึกษา

ความสัมพันธของน้ําหมักน้ําซาวขาวผสมเปลือกกลวยรวมกับเม็ดดินเหนียวท่ีมีตอสมบัติของดินและ

การเจริญเติบโตของตนบานชื่น มีการวางแผนการวิจัยแบงเปน 2 ตอน ดังนี้

ตอนท่ี 1 ศึกษาความสัมพันธของเม็ดดินเหนียวกับสมบัติของดิน ไดผลการวิจัย ดังนี้ เม็ดดินเหนียวจะ

สัมพันธกับการเปลี่ยนแปลงของสมบัติของดิน มีดังนี้ สามารถรักษาความชื้นในดินได 93 - 100% สามารถ

รักษาอุณหภูมิในดินไดเหมาะสม ท่ี 29 – 30 องศาเซลเซียส และ มีปริมาณแรธาตุ NPK อยูในระดับ IDEAL

(N 50-200 ppm P 4-14 ppm และ K 50-200 ppm)

ตอนท่ี 2 ศึกษาความสัมพันธของน้ําหมักน้ําซาวขาวผสมเปลือกกลวยรวมกับเม็ดดินเหนียวท่ีมีตอ

สมบัติของดินและการเจริญเติบโตของตนบานชื่น ไดผลการวิจัย ดังนี้ น้ําหมักซาวผสมขาวเปลือกกลวย สูตร A

(เปลือกกลวยน้ําวา 200 กรัม น้ําซาวขาว 1,000 มิลลิลิตร น้ําตาลทรายแดง 50 กรัม) เปนสูตรน้ําหมักซาวขาว

ผสมเปลือกกลวยท่ีเหมาะสมท่ีสุด และ น้ําหมักซาวผสมขาวเปลือกกลวย สูตร A สัมพันธกับการเปลี่ยนแปลง

ของสมบัติของดิน ดังนี้ สามารถรักษาความชื้นในดินไดดีประมาณ 90 - 97% มีคา pHในดินเหมาะสม เทากับ

6 - 7 รักษาอุณหภูมิในดินไดเหมาะสม ท่ี 27 – 29 องศาเซลเซียส และ มีปริมาณแรธาตุ NPK จาก IDEAL

(N 50-200 ppm P 4-14 ppm และ K 50-200 ppm) เปน MUCH TOO (N มากกวา 200 ppm P มากกวา

14 ppm และ K มากกวา 200 ppm) ภายใน 14 วัน นอกจากนี้ น้ําหมักซาวผสมขาวเปลือกกลวย สูตร A

สัมพันธกับการเปลี่ยนแปลงของการเจริญเติบโตของตนบานชื่น ดังนี้ เริ่มมีดอกใน 21 วัน และแตกก่ิงเพ่ิมข้ึน

จํานวน 5 ก่ิง ในแตละก่ิงเริ่มมีดอกเกิดข้ึน มีลําตนท่ีแข็งแรงมาก มีความสูงของตน เพ่ิมข้ึน จาก 6.9

เซนติเมตร เปน 45 เซนติเมตร และความยาวของใบ เพ่ิมข้ึนจาก 4.5 เซนติเมตร เปน 9 เซนติเมตร

คําสําคัญ : น้ําซาวขาว เปลือกกลวย เม็ดดินเหนียว ตนบานชื้น สมบัติของดิน

Page 20: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

18

ช่ืองานวิจัย การศึกษาสภาพอากาศเพ่ืออธิบายความสัมพันธของอุณหภูมิ ความช้ืนสัมพัทธ

และปริมาณน้ําฝนของพ้ืนท่ีจุดศึกษา 3 จุดศึกษา ไดแก โรงเรียนดาราวิทยาลัย

จังหวัดเชียงใหม โรงเรียนเซนตโยเซฟทิพวัล จังหวัดสมุทรปราการ และ

มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ จังหวัดนครศรีธรรมราช

คณะผูวิจัย เด็กหญงิพัชรหทัย บุญพระรักษ เด็กหญิงกชพร ขาวนอย

เด็กชายเบ็น แดนไทย คอช

ระดับช้ัน ประถมศึกษาปท่ี 5

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวพิชชาพร เขียวสวัสดิ ์

โรงเรียน ดาราวิทยาลัย อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา รองศาสตราจารย ดร.กฤษณะเดช เจริญสุธาสินี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

รองศาสตราจารย ดร.มัลลิกา เจริญสุธาสินี มหาวิทยาลัยวลยัลักษณ

บทคัดยอ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาความสัมพันธของอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ และปริมาณน้ําฝน

แตละพ้ืนท่ี 3 จุดศึกษา คือ (1) โรงเรียนดาราวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม (2) โรงเรียนเซนตโยเซฟทิพวัล จังหวัด

สมุทรปราการ และ (3) มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ จังหวัดนครศรีธรรมราช เก็บขอมูลสภาพอากาศจากจุดศึกษา

สืบคนขอมูลจากเว็บไซต GLOBE และกรมอุตุนิยมวิทยา ตรวจวัดสภาพอากาศ ภายในชวง 1 ชั่วโมงของเวลา

ดวงอาทิตยเท่ียงวันของเวลาทองถ่ิน จากนั้นนําขอมูลมาเขียนกราฟ ผลการศึกษาพบวา สภาพอากาศในเดือน

สิงหาคม-กันยายน โรงเรียนดาราวิทยาลัย และโรงเรียนเซนตโยเซฟทิพวัล อุณหภูมิเฉลี่ย 30.59°C ความชื้น

สัมพัทธเฉลี่ย 63.74% และ 69.85% ตามลําดับ มีฝนเล็กนอยเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม สวนมหาลัย

วลัยลักษณ ในเดือนสิงหาคม-กันยายน อุณหภูมิเฉลี่ย 32.78°C ความชื้นสัมพัทธ 58.97% มีฝนเล็กนอย

เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 29.78°C และ 31.03°C ตามลําดับ ความชื้นสัมพัทธเฉลี่ย

54.03% และ 57.38% มีฝนปานกลาง ในแตละจุดศึกษาอุณหภูมิของอากาศ และความชื้นสัมพัทธ

มีความสัมพันธกันในรูปแบบแปรผกผันกัน สวนความชื้นสัมพัทธ และปริมาณน้ําฝน มีความสัมพันธกันใน

รูปแบบแปรผันตรง อุณหภูมิของอากาศในแตละจุดศึกษามีความแตกตางกัน และปจจัยท่ีสงผลตอ

ความแตกตางของอุณหภูมิของอากาศในแตละจุดศึกษา ไดแก สิ่งปกคลุมดิน และลักษณะภูมิประเทศ

คําสําคัญ : อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ ปริมาณน้ําฝน สภาพอากาศ

Page 21: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

19

ช่ืองานวิจัย การศึกษาการใชดินโคลนตอการติดสีธรรมชาติของผาฝาย

คณะผูวิจัย เด็กหญิงจิณณพัต รินทา เด็กชายชยพล เหมือดอดทน

เด็กหญิงพรหมพิริยา วันทองทักษ

ระดับช้ัน ประถมศึกษา

อาจารยท่ีปรึกษา นางกัลยานี แพงจันทร

โรงเรียน บานหมากแขง อําเภอเมือง จังหวัดอุดรธาน ี

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ดร.ศิณีวัณย พิทักษทิม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี

บทคัดยอ

โครงงานวิจัยสิ่งแวดลอม เรื่อง การศึกษาการใชดินโคลนตอการติดสีธรรมชาติของผาฝาย มี

วัตถุประสงคคือ 1) เพ่ือศึกษาสมบัติของดินโคลน เก่ียวกับโครงสราง ความเปนกรด-เบส สี และเนื้อดิน ท่ีมีผล

ตอการยอมติดสีจากพืช 7 ชนิด ไดแก ขม้ิน ใบวานกาบหอย ใบหูกวาง ใบเตย ดอกอัญชัน ดอกเข็ม และ

ใบมะมวงบนผาฝาย และ 2) เพ่ือเปรียบเทียบการติดสีธรรมชาติบนผาฝายหลังแชในน้ําดินโคลนจาก 2 แหลง

โดยศึกษาสมบัติของดินโคลนตัวอยางจากทองถ่ินท่ีมีชื่อเสียงในเรื่องการทําผาหมักโคลน ทําการศึกษาเก็บ

ตัวอยางดินโคลนจาก 2 แหลง คือ แหลงท่ี 1 ดินโคลนบานแดง อําเภอพิบูลยรักษ จังหวัดอุดรธานี และ

แหลงท่ี 2 ดินโคลนบานโคกศรี อําเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี พบวา สมบัติของดินโคลนจากแหลงท่ี 1 มี

โครงสรางดินเปนเม็ดเดี่ยว (Single grained) มีลักษณะแตกออกจากกันเปนอนุภาคเดี่ยวๆ ไมเกาะอยูดวยกัน

มีการยึดตัวแบบหลวมๆ มีสภาพความเปนกรด (pH = 5) สีน้ําตาลแดง เนื้อดินมีขนาดใหญ เม่ือสัมผัสให

ความรูสึกสากมือ และหยาบ ดินโคลนจากแหลงท่ี 2 โครงสรางของดินเปนเม็ดละเอียด อนุภาคเกาะกันแนน

มีสภาพความเปนกรด (pH=6) สีดํา เนื้อดินละเอียด เม่ือสัมผัสจะรูสึกลื่นมือ นําดินโคลนท้ัง 2 แหลง ผสม

น้ําในอัตราสวน 1 กิโลกรัมตอน้ํา 10 ลิตร สําหรับแชผาฝายหลังการยอมในน้ําพืชจํานวน 7 ชนิด ผาท่ีได

หลังการแชน้ําดินโคลนจากแหลงท่ี 1 จะมีสีเหมือนสีน้ําพืชอมน้ําตาลแดง ผาท่ีไดหลังการแชน้ําดินโคลนจาก

แหลงท่ี 2 จะมีสีเหมือนสีน้ําพืชอมเทาดํา ผามีน้ําหนักข้ึน ท้ิงตัวไมหยาบกระดางเนื่องจากทุกข้ันตอนของการ

ยอมผาใชสิ่งท่ีมีอยูตามธรรมชาติ ผาท่ีไดจึงมีความปลอดภัย ไรสารท่ีเปนอันตรายตอรางกายและสิ่งแวดลอม

อีกท้ังยังชวยใหเราไดศึกษาและอนุรักษวิธีการยอมผาโดยไมใชสารเคมีไวอีกดวย

คําสําคัญ : ดินโคลน ติดสีธรรมชาติ ผาฝาย

Page 22: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

20

ช่ืองานวิจัย สถานการณไขเลือดออกกับปจจัยดานสภาพแวดลอมและนิเวศวิทยาในตําบล

ท่ีมีลักษณะพ้ืนท่ีและสภาพแวดลอมท่ีแตกตางกันใน จังหวัดเชียงใหม

คณะผูวิจัย เด็กหญิงชลิตา ทองงามแท เด็กหญิงพิงคนรารัตน ขัดผาบ

เด็กชายมนัสนันท วองเกียรติถาวร

ระดับช้ัน ประถมศึกษา

อาจารยท่ีปรึกษา นางณพวรรณ เมธีชุติกุล

โรงเรียน มงฟอรตวิทยาลัยแผนกประถม จังหวัดเชียงใหม

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ดร.วรรณภา สวุรรณเกิด

นางสาวกาญจนา โกติทิพย นักกีฏวิทยา สคร.1 จังหวัดเชียงใหม

นางสาวเจนจิรา จันสุภา นกักีฏวิทยา สคร.1 จังหวัดเชียงใหม

บทคัดยอ

งานวิจัยนี้เปนการศึกษาสถานการณไขเลือดออกกับปจจัยดานสภาพแวดลอมและนิเวศวิทยาในตําบล

ท่ีมีลักษณะพ้ืนท่ีและสภาพแวดลอมท่ีแตกตางกันในจังหวัดเชียงใหม โดยมีวัตถุประสงค เพ่ือรวบรวม

สถานการณปญหาไขเลือดออก สํารวจปจจัยสิ่งแวดลอมดานนิเวศวิทยา และ ปจจัยดานยุงพาหะนําเชื้อโรค

ไขเลือดออกโดยการประเมินคาดัชนีลูกน้ํายุงลายของ อําเภอจอมทอง อําเภอหางดง และ อําเภอเมือง จังหวัด

เชียงใหม ผลการศึกษาพบวา สถานการณไขเลือดออก อําเภอเมืองคิดเปน 3.83 คนตอแสนประชากร อําเภอ

หางดง 1.19 ตอแสนประชากร และอําเภอจอมทองไมพบผูปวย ความแตกตางดานพ้ืนท่ีของชุมชนมีผลตอ

สถานการณปญหาไขเลือดออก เนื่องจากลักษณะชุมชนท่ีทําการศึกษาท้ัง 3 ชุมชน มีลักษณะการกระจายตัวท่ี

แตกตางกัน และปจจัยสิ่งแวดลอมดานนิเวศวิทยาท่ีแตกตางกันมีผลตอคาดัชนีลูกน้ํายุงลาย โดยพบวาภาชนะ

ท่ีพบลูกน้ํายุงลายมากท่ีสุด คือภาชนะท่ีมนุษยสรางข้ึน แตการศึกษามีขอจํากัด เนื่องจากภาชนะภายในบาน

ของชุมชนเมืองไมมีการสํารวจ เพราะขอจํากัดในการเขาไปสํารวจ เชน เจาของบานออกไปทํางาน ทําให

สามารถสํารวจไดเพียงบริเวณภายนอกบานเทานั้น

คําสําคัญ : สถานการณไขเลือดออก คาดัชนีลูกน้ํายุงลาย

Page 23: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

21

ช่ืองานวิจัย การศึกษาความสัมพันธของอุณหภูมิพ้ืนผิว และความช้ืนสัมพัทธตอฝุนละออง

ขนาดไมเกิน 2.5 ไมครอนในบริบทของพ้ืนท่ีท่ีใช ประโยชนตางกัน

: กรณีศึกษาอําเภอไชยา จังหวัดสุราษฏรธาน ี

คณะผูวิจัย เด็กหญิงปาณิสรา นุชคนึง เด็กหญิงธิดารัตน อินเนียน

เด็กชายชลันธร จําป

ระดับช้ัน ประถมศึกษาปท่ี 5

อาจารยท่ีปรึกษา นายสุทธิแดน พลวัติจรัสวัฒน และนางสาวดวงกมล สิบมุด

โรงเรียน วัดเดิมเจา (อรรถประชานุเคราะห) อําเภอไชยา จังหวัดสุราษฎรธาน ี

บทคัดยอ

การวิจัยเรื่อง “การศึกษาความสัมพันธของอุณหภูมิพ้ืนผิว และความชื้นสัมพัทธ ตอฝุนละอองขนาด

ไมเกิน 2.5 ไมครอนในบริบทของพ้ืนท่ีท่ีใชประโยชนตางกัน : กรณีศึกษา อําเภอไชยา จังหวัดสุราษฏรธานี”

มีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาความสัมพันธของอุณหภูมิพ้ืนผิวและความชื้นสัมพัทธ ตอความเขมขนฝุนละอองขนาด

ไมเกิน 2.5 ไมครอน และเปรียบเทียบความเขมขนฝุนละอองขนาดไมเกิน 2.5 ไมครอนในบริบทของพ้ืนท่ีท่ีใช

ประโยชนตางกัน

ผลการศึกษาพบวาความสัมพันธของอุณหภูมิพ้ืนผิว ตอความเขมขนของฝุนละอองขนาดไมเกิน 2.5

ไมครอน พบวาไมวาจะเปนบริเวณจุดศึกษาท่ี โรงเรียน หรือ ท่ีวาการอําเภอ นั้นไมมีความสัมพันธกัน

นอกจากนั้นยังพบวาอุณหภูมิพ้ืนผิวเฉลี่ยของพ้ืนหญาบริเวณโรงเรียนและบริเวณท่ีวาการอําเภอไชยามีคา

ใกลเคียงกัน และอุณหภูมิพ้ืนผิวเฉลี่ยของพ้ืนคอนกรีตบริเวณโรงเรียนและบริเวณท่ีวาการอําเภอไชยามีคา

ใกลเคียงกัน สวนความชื้นสัมพันธตอความเขมขนของฝุนละอองขนาดไมเกิน 2.5 ไมครอน พบวาไมวาจะเปน

บริเวณจุดศึกษาท่ี โรงเรียน หรือ ท่ีวาการอําเภอ นั้นมีความสัมพันธกัน

ดานความเขมขนของฝุนละอองขนาดไมเกิน 2.5 ไมครอน บริเวณจุดศึกษาท้ังสองจุดท่ีใชประโยชน

ของพ้ืนท่ีตางกัน มีคาฝุนละอองตางกันโดย บริเวณท่ีวาการอําเภอไชยา มีแนวโนมพบความเขมขนของ

ฝุนละอองขนาดไมเกิน 2.5 ไมครอน สูงกวาบริเวณโรงเรียนซ่ึงอยูหางจากตัวอําเภอ ซ่ึงท้ังนี้ข้ึนอยูกับกิจกรรม

ของชุมชน ประชาชนในขณะนั้น และความหนาแนนของการจราจรท่ีสูงกวา อาจทําใหบริเวณชุมชนเมืองมี

ความเขมขันของฝุนละอองขนาดไมเกิน 2.5 ไมครอนสูงกวา สวนคาความเขมขนของฝุนละอองในชวงท่ีเปน

วันหยุดมีคาความเขมขนนอยกวาวันธรรมดาในสัปดาหท้ังท่ีความชื้นสัมพัทธไมแตกตางกัน อาจมีสาเหตุมาจาก

การจราจร กิจกรรมท่ีมนุษยกอใหเกิดฝุนละอองขนาดไมเกิน 2.5 ไมครอนนอยกวาวันธรรมดาในสัปดาห

คําสําคัญ : อุณหภูมิพ้ืนผิว ความชื้นสัมพัทธ ฝุนละออง 2.5 PM โรงเรียนวัดเดิมเจา ไชยา

Page 24: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

22

ช่ืองานวิจัย คุณภาพน้ําและดินตะกอนกับการเจริญเติบโตของหอยขม

คณะผูวิจัย เด็กชายธฤตวัน นาคสวัสดิ ์ เด็กชายอศิรวัชร นิลกําแหง

เด็กชายธนวัต พุมเกตุ

ระดับช้ัน ประถมศึกษาปท่ี 6

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวศรีพันธ สุขสวัสดิ ์ และนางมณี เผือกใต

โรงเรียน อนุบาลศรีสําโรง อําเภอศรีสําโรง จังหวัดสุโขทัย

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ดร.สุภาพร พงศธรพฤกษ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ

บทคัดยอ

ศึกษาคุณภาพน้ําและดินตะกอนกับการเจริญเติบโตของหอยขมในแหลงน้ําธรรมชาติ ตําบลวังลึก

อําเภอศรีสําโรง จังหวัดสุโขทัย ผลการศึกษามีดังนี้ คุณภาพน้ําท่ีเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของหอยขม

ในแหลงน้ําธรรมชาติของ ตําบลวังลึก อําเภอศรีสําโรง จังหวัดสุโขทัยจํานวน 4 แหลง คือ คลองวัดเกาะ

ไมแดง คลองวัดหนองรั้งเหนือ คลองแมน้ําเกา คลองขุนคัมภีร และสระเก็บน้ําฝน พบวา อุณหภูมิของน้ําอยู

ในชวง 23 - 25 องศาเซลเซียส ความโปรงใสของน้ํามีคาอยูในชวง 34 - 51 เซนติเมตร คา pH มีคาเฉลี่ย

เทากันคือ 6.5 ปริมาณออกซิเจนท่ีละลายในน้ํา (DO) มีคา 6 - 10 มิลลิกรัมตอลิตร ปริมาณของแข็งท่ี

แขวนลอยหรือละลายอยูในน้ํา (TDS) มีคาเฉลี่ยเทากันคือ 15 ppm สีของน้ําพบวา คลองวัดเกาะไมแดง

คลองวัดหนองรั้งเหนือ คลองแมน้ําเกา และสระเก็บน้ําฝนมี สีใส สีเหลืองปนเขียว เขียวเหลือง เหลืองออน

และดํา และน้ําในคลองขุนคัมภีรมีกลิ่นเหม็นมาก

พบหอยขมในดินทรายปนดินรวน ดินเหนียวปนทรายแปง ดินเหนียว ดินมีสีดํา แดงดํา น้ําตาล

และเหลืองปนน้ําตาล คา pH อยูในชวง 6 - 6.5 และพบวาถามีเศษพืชท่ีพบบริเวณหนาดินปริมาณมาก

พบหอยขมมาก

ปริมาณหอยขมและระดับความลึกในการฝงตัวของหอยขมพบวา คลองวัดเกาะไมแดง คลองวัด

หนองรั้งเหนือ คลองแมน้ําเกา คลองขุนคัมภีรพบปริมาณหอยขมเฉลี่ยอยูในชวง 60.54 - 69.75 ตัว และใน

สระเก็บน้ําฝน 29.34 ตัว/ตารางเมตร ระดับความลึกในการฝงตัวอย ูในชวง 1.5 - 3 เซนติเมตร ขนาดท่ีพบ

มากท่ีสุดคือ 0.5 - มากกวา 2 เซนติเมตร และพบขนาดตัวหอยมากกวา 2 เซนติเมตรมากท่ีสุดมากท่ีสุด

คําสําคัญ : คุณภาพน้ํา สมบัติของดินตะกอน หอยขม

Page 25: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

23

ช่ืองานวิจัย ประสิทธิภาพของน้ําหมักมูลวัวและน้ําสมุนไพรรางจืดท่ีมีตอการปรับ

สภาพความเปนกรดของดิน

คณะผูวิจัย เด็กหญิงชลิดา สุรางคกุล เด็กหญิงชิชญา คําสมบัติ

เด็กชายสิรภัส โรจนะ

ระดับช้ัน ประถมศึกษา

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวรจร ี ปาละวงษ

โรงเรียน เทศบาล 2 สามัคคีวัฒนา อําเภอเมือง จังหวัดยโสธร

บทคัดยอ

งานวิจัยนี้คณะผูวิจัยได ศึกษาประสิทธิภาพของการใชน้ําหมักมูลวัว น้ําสมุนไพรรางจืด และน้ําหมัก

มูลวัวผสมน้ําสมุนไพรรางจืด และทําการศึกษาสมบัติของดิน ธาตุอาหารในดินท่ีรดโดยใชน้ํา น้ําหมักมูลวัว น้ํา

สมุนไพรรางจืด และน้ําหมักมูลวัวผสมกับน้ําหมักรางจืด เพ่ือเปรียบเทียบการปรับสภาพความเปนกรดของดิน

ท่ีรดโดยใชน้ํา น้ําหมักมูลวัว น้ําสมุนไพรรางจืด และน้ําหมักมูลวัวผสมกับน้ําหมักรางจืด ผลจากการวิจัยพบวา

ดินท่ีรดดวยน้ําหมักมูลวัวผสมกับน้ําสมุนไพรรางจืดสามารถเพ่ิมปริมาณธาตุอาหาร NPK ในดิน การอุมน้ําของ

ดินไดดี และสามารถปรับลดคาความเปนกรดของดินได โดยน้ําหมักมูลวัวผสมกับน้ําสมุนไพรรางจืดจะปรับ

ความเปนกรด-เบสไดดีท่ีสุด

คําสําคัญ : ดินเปรี้ยว รางจืด มูลวัว น้ําหมัก ความเปนกรดของดิน

Page 26: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

24

ช่ืองานวิจัย กระถางเพาะตนกลามะละกอจากใบไมปองกันหอยทากเขาทําลาย

คณะผูวิจัย เด็กชายชยาวิชช วงคใหญ เด็กหญิงชนมน วงคใหญ

เด็กหญิงเบญญาภา จั่วจันทึก

ระดับช้ัน ประถมศึกษา

อาจารยท่ีปรึกษา นางกัณณณิศา สันติบวรวงศ

โรงเรียน วัดทาเกวียน (สัยอุทิศ) อําเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา

บทคัดยอ

การศึกษาผลิตกระถางเพาะตนกลามะละกอจากใบไมปองกันหอยทากเขาทําลายจากการสํารวจพ้ืนท่ี

เพาะตนกลาของมะละกอในถุงพลาสติกของเกษตรกร พบปญหาหอยทากยักษแอฟริกาจํานวนมากเขาทําลาย

ตนออนของมะละกอเพียงระยะเวลาขามคืนสามารถกัดกินตนออนมะละกอจนหมด ตัวแปรท่ีศึกษา ไดแก

ชนิดของใบไมท่ีใชทํากระถาง ชนิดของตัวประสานในการข้ึนรูปกระถาง ชนิดและปริมาณของผงจากใบพืชท่ีใช

ปองกันหอยทากทําลายตนกลา โดยในข้ันตอนแรกผลิตกระถางจากใบไมจํานวนสองชนิด ไดแก ใบหูกวางและ

ใบมะมวง ข้ึนรูปดวยเครื่องอัดกระถาง หลังจากทดสอบคุณสมบัติของกระถาง ไดแก อัตราการใชน้ําในการ

ปลูกพืช และเปอรเซ็นตการเขาทําลายของหอยทาก พบวา มีคาไมแตกตางกัน จึงเลือกใชใบไมรวมในการผลิต

กระถาง สวนในการข้ึนรูปดวยกาวแปงเปยกยังตองมีคาใชจาย ดังนั้น จึงหาทางเลือกใหกับเกษตรกร ลดตนทุน

การผลิตกระถางดวยการใชสารเมือกจากน้ําเมล็ดแมงลักคาท่ีหาไดงายตามทองถ่ิน แทนการใชกาวแปงเปยกท่ี

ตองซ้ือแปงมันและใชพลังงานความรอน สวนในการปองกันหอยทากเขาทําลายตนออนมะละกอ จะใชผงจาก

ใบพืชเคลือบผิวของกระถาง โดยศึกษาชนิดของผลจากใบใบยูคาลิปตัสและใบสะเดา ผลการทดลอง พบวา

กระถางเพาะตนกลาท่ีเคลือบดวยผงจากใบยูคาลิปตัส 20 กรัมตอกระถาง มีเปอรเซ็นตการเขาทําลายตนออน

มะละกอจากหอยทากยักษแอฟริกานอยท่ีสุดเพียง 6.00

การศึกษาในครั้งนี้เปนการเพ่ิมมูลคาเพ่ิมคุณประโยชนใหกับใบไมแลวพืชในทองถ่ินซ่ึงเปนทางเลือก

ในการลดการกัดกินตนออนของมะละกอจากหอยทากยักษแอฟริกาดวยสารจากธรรมชาติแลวยังเปนการลด

ปญหาขยะใบไมภายในโรงเรียนในการศึกษาครั้งตอไปจะทําการหาพืชสมุนไพรชนิดอ่ืนใหมากกวานี้และ

ทดลองใชกับแมลงศัตรูพืชผลทางการเกษตรชนิดอ่ืนดวย

คําสําคัญ : กระถางกลาไม กระถางจากใบไม

Page 27: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

25

ช่ืองานวิจัย ศึกษาความสัมพันธระหวางจํานวนลูกน้ํายุงลาย กับอุณหภูมิ จํานวนผูปวย

ไขเลือดออก อําเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช

คณะผูวิจัย เด็กหญิงชนกนันท ไชยเพชร เด็กหญิงพิตราภรณ อุปลา

เด็กหญิงพมลพร เปรมอารีย

ระดับช้ัน ประถมศึกษา

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวจิรฐา ทองแกว

โรงเรียน วัดสามัคคีนุกูล อําเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช

บทคัดยอ

ศึกษาความสัมพันธระหวางจํานวนลูกน้ํายุงลายกับอุณหภูมิ และ จํานวนผูปวยไขเลือดออก อําเภอ

ฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราชไดทําการสํารวจ ลูกน้ํายุงลายในภาชนะท่ีมีน้ําขังทุกชนิด ท้ังภายในและภายนอก

อาคาร บันทึกขอมูลอุณหภูมิ รวบรวมขอมูลผูปวยเปนไขเลือดออก ตั้งแตเดือนมกราคม 2561 ถึงเดือน

ธันวาคม 2561 โดย ดําเนินการวิจัยตามหลักวิธีดําเนินการศึกษาเรื่องยุง พบวา เม่ืออุณหภูมิสูงข้ึน จํานวน

ลูกน้ํายุงลายมีมากข้ึนและจํานวนผูปวยไขเลือดออกมีมากข้ึนดวย ระดับอุณหภูมิมีผลตอจํานวนลูกน้ํายุงลาย

และจํานวนผูปวยไขเลือดออก

คําสําคัญ : ลูกน้ํายุงลาย ผูปวยไขเลือดออก ความสัมพันธ

Page 28: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

26

ช่ืองานวิจัย การศึกษาปจจัยทางกายภาพท่ีส งผลตอการเจริญเติบโตหอยแมลงภู

Perna viridis บนเสาไมเล้ียงหอยบริเวณปากอาวไทย เพ่ือสรางรูปแบบจําลอง

การปกเสาไมเล้ียงหอยท่ีสงผลตออัตราการไหล ในการเพ่ิมการเจริญเติบโตของ

หอยแมลงภู

คณะผูวิจัย เด็กชายธนกร วงอารีย เด็กชายอคิระ พิพัฒนธาราสกุล

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 2

อาจารยท่ีปรึกษา นายชนันท เกียรติสิริสาสน และนางสาววนิดา ภูเอ่ียม

โรงเรียน กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร

บทคัดยอ

โครงงานนี้เพ่ือศึกษาความสัมพันธของปจจัยทางกายภาพท่ีสงผลตอรูปแบบการปกเสาไมเลี้ยงหอย

ในการเพ่ิมการเจริญเติบโตของหอยแมลงภู

กําหนดพ้ืนท่ีศึกษาบริเวณอาวไทย โดยศึกษารูปแบบการกระจายตัวของหอยแมลงภูพบวา มีแปลง

เลี้ยงหอยแมลงภูท้ังหมด 143 แปลง แบงไดเปน 2 ลักษณะ คือตามธรรมชาติและการปกเสาไมเลี้ยงหอย

ทําการสุมตัวอยางเพ่ือใชศึกษาสัณฐานและสายพันธุ พบวาเปนสายพันธุ Perna Viridis วัดขนาด เพ่ือดู

การเจริญเติบโต พบวา บริเวณ S3 ดีท่ีสุด เม่ือศึกษาความสัมพันธของปจจัยทางกายภาพ พบวาอัตราการไหล

มากทําใหการเจริญเติบโตเพ่ิมข้ึน และอัตราการไหลมีความสัมพันธกับคา DO แบบแปรผันตรงอยางมี

นัยสําคัญทางสถิติ ผูวิจัยลงสํารวจรูปแบบการปกเสาเลี้ยงหอย พบวาในพ้ืนท่ี 7 ตารางเมตรจะพบเสาไม

เลี้ยงหอย 14 เสา กําหนดใหเปนรูปแบบ A จากนั้นประยุกตรูปแบบเสาไมเลี้ยงหอย ไดเปนรูปแบบ B, C และ

D นํารูปแบบท่ีประยุกตมาทดสอบอัตราการไหล ไดรูปแบบ D สงผลใหอัตราการไหลมากท่ีสุด

ดังนั้น เกษตรกรสามารถนํารูปแบบ D มาใชเพ่ิมการเจริญเติบโตของหอยแมลงภู เนื่องจากทําใหอัตรา

การไหลสูงสุด สงผลใหการเจริญเติบโตของหอยแมลงภูสูง และคา DO ของน้ําทะเลสูงข้ึนเชนกัน

คําสําคัญ : หอยแมลงภู ปจจัยทางกายภาพ อัตราการไหล รูปแบบการปกเสาไมเลี้ยงหอย

Page 29: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

27

ช่ืองานวิจัย การพัฒนาผลิตภัณฑเม็ดดินฮอรโมนไขและการใชประโยชนเพ่ือการปลูกพืช

คณะผูวิจัย เด็กหญิงณัฏฐณิชา ทองนวล เด็กหญิงพีรวัณศ จารัตน

เด็กหญิงปพิชญา แกวสวนจิก

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 2

อาจารยท่ีปรึกษา นายมนตมนัส บุญช ู

โรงเรียน เซนตโยเซฟทิพวัล อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ดร. สุชาดา กรุณา ภาควิชาปฐพีวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร

บทคัดยอ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค เพ่ือศึกษาอัตราสวนของดินเหนียวกับสารฮอรโมนไขท่ีเหมาะสมในการผลิต

เม็ดดินฮอรโมนไข และเพ่ือศึกษาความสัมพันธของเม็ดดินฮอรโมนไขท่ีมีผลตอสมบัติบางประการของดินและ

การเจริญเติบโตของพืช มีการวางแผนการวิจัยแบงเปน 2 ตอน ดังนี้

ตอนท่ี 1 ศึกษาอัตราสวนของดินเหนียวกับสารฮอรโมนไขท่ีเหมาะสมในการผลิตเม็ดดินฮอรโมนไข

มีผลการวิจัยดังนี้ เม็ดดินฮอรโมนไขของสูตร C ท่ีมีอัตราสวนระหวางดินเหนียว 1000 กรัม และสารฮอรโมน

ไข 300 กรัม เปนอัตราสวนท่ีเหมาะสมท่ีสุด ซ่ึงมีคา pH 5.27 คา EC 496 ไมโครซีเมนต TDS 249 ppm

มีธาตุไนโตรเจนอยูในระดับต่ํา ธาตุฟอสฟอรัสอยูในระดับสูง และ ธาตุโพแทสเซียมอยูในระดับปานกลาง

ตอนท่ี 2 ศึกษาความสัมพันธของเม็ดดินฮอรโมนไขท่ีมีผลตอสมบัติบางประการของดินและ

การเจริญเติบโตของพืช มีผลการวิจัยดังนี้ เม็ดดินฮอรโมนไขสัมพันธกับการเปลี่ยนแปลงของสมบัติของดิน

ดังนี้ สามารถรักษาความชื้นในดินไดซ่ึงจะกักเก็บน้ําอยูระหวาง 98 - 100 เปอรเซ็นต สามารถลดอุณหภูมิ

ในดินได 28 – 32 องศาเซลเซียส และ มีปริมาณแรธาตุ (N P K) ในดินเพ่ิมข้ึนจาก IDEAL (N 50-200 ppm

P 4-14 ppm และ K 50-200 ppm) เปน MUCH TOO (N มากกวา 200 ppm P มากกวา 14 ppm และ

K มากกวา 200 ppm) ใน 14 วัน นอกจากนี้ เม็ดดินฮอรโมนไขสัมพันธกับการเปลี่ยนแปลงของ

การเจริญเติบโตของตนมณีแดง ดังนี้ มีแนวโนมความสูงของตนเพ่ิมข้ึนจาก 6.67 เซนติเมตร เปน 8.67

เซนติเมตร มีแนวโนมคาความยาวของใบเพ่ิมข้ึนจาก 10.67 เซนติเมตร เปน 12.13 เซนติเมตร มีลักษณะ

ใบใหญข้ึน สีแดงออนลง และมีการแตกหนอเพ่ิมข้ึน

คําสําคัญ : เม็ดดินฮอรโมนไข สมบัติของดิน

Page 30: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

28

ช่ืองานวิจัย ศึกษาคุณภาพน้ําจากบอน้ําขุดเพ่ือเล้ียงปลาของเกษตรกร และใชน้ําเปน

สารอิเล็กโตรไลตในเซลลไฟฟา เพ่ือประดิษฐอุปกรณลอแมลงและปองกัน

การระเหยของน้ํา

คณะผูวิจัย นายอนุพงษ ขันแข็ง นางสาวทิชาทิพย มายนอก

นางสาวอาณิตา ผองศรี

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนตน

อาจารยท่ีปรึกษา นายชุมพล ชารีแสน

โรงเรียน ดอนจานวิทยาคม อําเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ

บทคัดยอ

งานวิจัยเรื่องศึกษาคุณภาพน้ําจากบอน้ําขุดเพ่ือเลี้ยงปลาของเกษตรกรและใชน้ําเปนสารอิเล็กโตรไลต

ในเซลลไฟฟา เพ่ือประดิษฐอุปกรณลอแมลงและปองกันการระเหยของน้ํา ไดศึกษาเพ่ือ 1) ศึกษาสมบัติบาง

ประการของน้ําบอขุด มีผลตอการเกิดกระแสไฟฟาของเซลลไฟฟาเคมีได 2) เพ่ือศึกษาน้ําในบอขุดสามารถน้ํา

มาเปนแหลงพลังงานในการประดิษฐอุปกรณลอแมลงในบอเลี้ยงปลาได 3) เพ่ือประดิษฐอุปกรณลอแมลงในบอ

เลี้ยงปลาสามารถลดอัตราการระเหยของน้ําได โดยการใชวิธีตรวจวัดคุณภาพน้ําตามวิธีการของ GLOBE แลว

หาความสัมพันธของสมบัติบางประการของน้ํามาประดิษฐอุปกรณลอแมลงและลดการระเหยของน้ํา เนื่องจาก

เกษตรกรเขตพ้ืนท่ีอําเภอดอนจานนิยมขุดบอเพ่ือบอเลี้ยงปลาทําการเกษตรและสํารองน้ําไวใชในฤดูแลง

การเลี้ยงปลามักนิยมใหอาหารปลาแบบอัดเม็ดอาจจะสงผลตอสมบัติบางประการของน้ํา จากการตรวจวัด

คุณภาพน้ําบอขุดท้ัง 6 บอ ท่ีมีคุณภาพคอนขางดี มีเพียงความโปรงใสของน้ําต่ํา น้ําในบอคอนขางขุน

ในบอท่ี 1 มีความขุนมากท่ีสุด เม่ือวิเคราะหสมบัติบางประการของน้ําพบวา คา EC สงผลตอการเกิด

ศักยไฟฟา และกระแสไฟฟามากท่ีสุด โดยในบอขุดบอท่ี 2 เกิดศักยไฟฟา 0.70 โวลต และกระแสไฟฟา 1.90

มิลลิแอมแปร สวนบอขุดท่ี 5 เกิดปริมาณทางไฟฟานอยท่ีสุด คือ ไดศักยไฟฟา 0.5 โวลต และกระแสไฟฟา

1.2 มิลลิแอมแปร เม่ือใชโลหะทองแดงเปนข้ัวบวกของเซลลไฟฟา และใชโลหะสังกะสีเปนข้ัวลบของ

เซลลไฟฟา ทําใหเกิดปริมาณทางไฟฟามากกวาการใชโลหะทองแดงเปนข้ัวบวกของเซลลไฟฟา และใชโลหะ

อะลูมิเนียม แตเม่ือเทียบหนวยราคาในการเลือกซ้ือ พบวา โลหะอะลูมิเนียม มีราคาต่ํากวาโลหะสังกะสีมาก

เม่ือตอเซลลในแบตเตอรี่ ตอเซลลไฟฟามากข้ึนศักยไฟฟาก็เพ่ิมข้ึน แตมีอัตราการเพ่ิมการข้ึนของศักยไฟฟา

ลดลง สวนกระแสไฟฟาท่ีวัดไดเม่ือเพ่ิมจํานวนเซลลไฟฟามากข้ึน ทําใหกระแสไฟฟาเพ่ิมข้ึนในชวง 4 เซลลแรก

แตเม่ือเพ่ิมเซลลไฟฟามากข้ึนอีก กระแสท่ีวัดไดไมแตกตางกัน สวนแบตเตอรี่มีอายุการใชงานไมต่ํากวา

60 ชั่วโมง และมีแมลงท่ีวัดไดจากกระบะท่ีใสน้ําดักแมลงไว เฉลี่ย 15.2 กรัม และเม่ือติดอุปกรณลดการระเหย

ของน้ําสามารถควบคุมการระเหยของน้ําได คิดเปน 2.5 % ซ่ึงตางจากการท่ีไมติดอุปกรณ 6.25%

คําสําคัญ : คุณภาพน้ํา สารอิเล็กโตรไลต เซลลไฟฟา อุปกรณลอแมลง การระเหยของน้ํา

Page 31: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

29

ช่ืองานวิจัย ชนิดของเเพลงกตอนและคุณภาพน้ําท่ีมีผลตอจํานวนและชนิดของปลาท่ีจับได

จากยอยักษบริเวณปากคลองปากประ อําเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

คณะผูวิจัย นางสาวสุดารัตน หมวดอินทอง นางสาวจีรนันท สงเปย เด็กหญิงขวัญขาว วรเนติวุฒิ

เด็กหญิงอังคณางค คงชิต เด็กหญิงนันทนภัส ดําชู เด็กหญิงอธิชา นวลเทศ

นางสาวชุตินันท สุวรรณภักดี นายพิทักษเดช ชุมไชโย

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนตน

อาจารยท่ีปรึกษา นางภาณินี วรเนติวุฒิ นายภานุวัฒน ปะรา และนางสาวมัลลิกา แกวรัตน

โรงเรียน ปาพยอมพิทยาคม อําเภอปาพะยอม จังหวัดพัทลุง

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา อาจารย ดร.นันทิดา สุธรรมวงศ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

อาจารย ดร.ธัญญา พันธฤทธิ์ดํา มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

อาจารยอนันตนิจ ชุมศรี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

บทคัดยอ

การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงคเพื่อศึกษาจํานวนและชนิดของปลาในคลองปากประ และบริเวณปากคลอง

ปากประ และศึกษาความสัมพันธของชนิดของเเพลงกตอนและคุณภาพนํ้าตอจํานวนและชนิดของปลา บริเวณ

คลองปากประ และปากคลองปากประ ตําบลพนางตุง อําเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยเก็บตัวอยางคุณภาพนํ้า

แพลงกตอน และจํานวนและชนิดของปลา บริเวณละ 6 จุดศึกษา รวม 12 จุดศึกษา ต้ังแตเดือนพฤษภาคมถึง

เดือนตุลาคม 2561 ทําการตรวจวัดอุณหภูมิอากาศ อุณหภูมินํ้า คาความเปนกรด-ดาง ปริมาณสารแขวนลอย

คาออกซิเจนท่ีละลายในนํ้า และคาการนําไฟฟา นับจํานวนและจําแนกชนิดของปลาท่ีไดจากการยกยอยักษ

เก็บขอมูลแพลงกตอนบริเวณผิวนํ้าดวยถุงแพลงกตอน เดือนละ 1 ครั้ง จากผลการศึกษาพบปลา จํานวน 21 ชนิด

ไดแก ปลาตะเพียน ปลาแมว ปลาซิวบาง ปลาลิง ปลาลูกแกว ปลาซิว ปลาจระเข ปลาขาว ปลาขาวสาร ปลาแปน

ปลากระทุงเหว ปลามะลิ ปลาลูกขาว ปลากดทะเล ปลาไสตัน ปลาซิวประบอก ปลากระตัก ปลาซิวแกว

ปลาตาเสือ และปลาโคบ โดยจับปลาในคลองปากประไดมากกวาบริเวณปากคลองปากประ จํานวนปลาท่ีจับไดใน

คลองปากประเทากับ 3,479 ตัว และบริเวณปากคลองปากประ จํานวน 785 ตัว เดือนกรกฎาคม ชาวบานจับปลา

ไดมากท่ีสุด จํานวน 1,688 ตัว โดยจับปลาในคลองปากประไดจํานวนมากกวาบริเวณปากคลองปากประ

คลองปากประพบชนิดของแพลงกตอนพืช จํานวน 12 ชนิด ไดแก Volvox Scenedesmus Chorella Navicula

Nitzschia Ceratium Gyrosigma Pediastrum Closterium Vorticella Spirogyra แ ล ะ Pinnularia

แพลงกตอนสัตว จํานวน 6 ชนิด ไดแก Planarian Daphnia Rotifers Copepod Moina และ Amphipod

พบโปรโตซัว จํานวน 4 ชนิด ไดแก Frontonia Paramecium Amoeba และ Euplotes และพบวาแพลงกตอน

มีความสัมพันธทางบวกกับจํานวนของปลาแตละชนิด จํานวนแพลงกตอนมีความสัมพันธทางบวกกับคาความเปน

กรด-เบส และอุณหภูมิผิวนํ้า สวนจํานวนปลามีความสัมพันธทางลบกับอุณหภูมิอากาศ อยางมีนัยสําคัญทางสถิติ

(P<0.05)

คําสําคัญ : ยอยักษ คุณภาพน้ํา แพลงกตอน ปลา คลองปากประ

Page 32: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

30

ช่ืองานวิจัย ความสัมพันธของคุณภาพน้ําและความหลากชนิดของสัตวเล็กน้ําจืดบริเวณ

อางเก็บน้ําหวยข้ีหนู เทศบาลตําบลลําปลายมาศ อําเภอลําปลายมาศ

จังหวัดบุรีรัมย

คณะผูวิจัย เด็กหญิงดวงหทัย รังพงษ เด็กหญิงนิชา จูกระโทก

เด็กหญิงพนิดา บัวทอง

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 2

อาจารยท่ีปรึกษา นายธาราดล สิงหสูงเนิน

โรงเรียน ลําปลายมาศ อําเภอลําปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ดร.วิชุดา กลาเวช มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน

ดร.ปยะมาศ จานนอก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน

บทคัดยอ

การศึกษาความสัมพันธของคุณภาพน้ําและสัตวเล็กน้ําจืดบริเวณอางเก็บน้ําหวยข้ีหนู เทศบาลตําบล

ลําปลายมาศ อําเภอลําปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย มีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาคุณภาพน้ําและสัตวเล็กน้ําจืด

บริเวณอางเก็บน้ําหวยข้ีหนู และประเมินคุณภาพน้ําดวยชนิดและปริมาณของสัตวเล็กน้ําจืดบริเวณอางเก็บน้ํา

หวยข้ีหนู มี 2 จุดท่ีศึกษาคือ จุดท่ี (1) บริเวณใกลโรงเรียนลําปลายมาศ จุดท่ี (2) คือบริเวณใกลเทศบาลตําบล

ลําปลายมาศ โดยทําการศึกษาคุณภาพน้ํา ไดแก คาพีเอช อุณหภูมิ คาความโปรงใส และสัตวเล็กน้ําจืด

ผลการศึกษา พบวาน้ําจากอางเก็บน้ําหวยข้ีหนูมีคาพีเอชเฉลี่ยท้ัง 2 จุดศึกษา เทากับ 6 เปนกรดออน ในขณะ

ท่ีอุณหภูมิเฉลี่ยของน้ํา จุดท่ี (1) เทากับ 31.25±0.00 องศาเซลเซียส จุดท่ี (2) เทากับ 29.25±0.00

องศาเซลเซียส สวนคาความโปรงใสเฉลี่ยของน้ํา จุดท่ี (1) เทากับ 25±0.00 เซนติเมตร และจุดท่ี (2) เทากับ

31.75±0.00 เซนติเมตร นอกจากนั้นพบสัตวเล็กน้ําจืดท้ังหมด 11 ชนิด ไดแก ตัวออนแมลงปอ กุงฝอย

ตัวออนแมลงปอเข็ม หอยฝาเดียวกลุม 1 หอยกาบกลุม 2 หอยฝาเดียวกลุม 2 แมลงชางกรามโต

แมลงเกาะหิน หนอนริ้นน้ําจืดแดง ตัวออนชีปะขาวกลุม 2 และไสเดือนน้ํา ซ่ึงสัตวท่ีพบมากสวนใหญตองการ

น้ําสะอาดจนสามารถทนน้ําสกปรกไดบาง ซ่ึงสรุปไดวาสัตวในอางเก็บน้ําหวยข้ีหนูนี้มีแนวโนมท่ีจะสามารถทน

น้ําสกปรกไดบาง แปลวาคุณภาพน้ําในอางเก็บน้ําหวยข้ีหนูนั้นอยูในเกณฑพอใช สามารถนําไปใชใน

ดานเกษตรกรรมและนําไปใชในชุมชนเพ่ืออุปโภคและบริโภคได แตถึงอยางไรก็ควรชวยกันรักษาความสะอาด

ของแหลงน้ํานี้

คําสําคัญ : โรงเรียนลําปลายมาศ สัตวเล็กน้ําจืด อางเก็บน้ําหวยข้ีหนู

Page 33: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

31

ช่ืองานวิจัย การศึกษาความสามารถในการกําจัดลูกน้ํายุงของผูลาลูกน้ํายุง

คณะผูวิจัย เด็กหญิงชิษณุชา จิโรจนกุล เด็กหญิงศิอร หลีกภัย

เด็กหญิงพรลภัส บุญวิชัย

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนตน

อาจารยท่ีปรึกษา นางพัชรา พงศมานะวุฒิ และนางสาวศกุนตลา รอดรัก

โรงเรียน วิทยาศาสตรจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา รศ. ดร.กฤษณะเดช เจริญสุธาสิน ี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

รศ. ดร.มัลลิกา เจริญสุธาสินี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

อาจารยอนันตนิจ ชุมศรี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

บทคัดยอ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาความสามารถในการกําจัดลูกน้ํายุงลายและลูกน้ํายุงรําคาญ

ของผูลายุง จํานวน 6 ชนิด ไดแก ปลากัด ปลาหางนกยูง มวนกรรเชียง จิงโจน้ํา ลูกน้ํายุงยักษ และลูกออด

โดยเก็บตัวอยางผูลาลูกน้ํายุง ไดแก ปลากัด ปลาหางนกยูง มวนกรรเชียง และจิงโจน้ํา ชนิดละ 12 ตัว

แบงเปนตัวผู 6 ตัว และตัวเมีย 6 ตัว และเก็บผูลาลูกน้ํายุงยักษ และลูกออด ชนิดละ 6 ตัว จากบริเวณอําเภอ

สิเกา จังหวัดตรัง โดยผูลาลูกน้ํายุงแตละชนิดมีขนาดตัวไมแตกตางกัน เก็บลูกน้ํายุง และจําแนกสายพันธุ

ลูกน้ํายุง ไดแก ยุงรําคาญและยุงลาย จากนั้นทดสอบความสามารถในการกําจัดลูกน้ํายุงลายและลูกน้ํายุง

รําคาญ จํานวน 10 ตัวของผูลาแตละชนิด

จากการศึกษาพบวาปลากัดใชเวลาในการกินลูกน้ํายุงลายและยุงรําคาญนอยท่ีสุด รองลงมาคือ

ปลาหางนกยุง ลูกน้ํายุงยักษ มวนกรรเชียงและจิงโจน้ํา ตามลําดับ สวนลูกออดไมสามารถกําจัดลูกน้ํายุงได

โดยปลากัด และปลาหางนกยูง ใชเวลากําจัดลูกน้ํายุงลายนอยกวายุงรําคาญอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ

สวนลูกน้ํายุงยักษ มวนกรรเชียง และจิงโจน้ํา ใชเวลาในการกําจัดลูกน้ํายุงลายและลูกน้ํายุงรําคาญไดไม

แตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ ปลากัดตัวผูและตัวเมียมีความสามารถในการกําจัดลูกน้ํายุงลายและ

ยุงรําคาญไมแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ ปลาหางนกยูง และจิงโจน้ําเพศเมียมีความสามารถใน

การกําจัดลูกน้ํายุงลายและยุงรําคาญดีกวาเพศผูอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ มวนกรรเชียงเพศเมียใชเวลาใน

การกําจัดลูกน้ํายุงรําคาญไดดีกวาเพศผู แตใชเวลาในการกําจัดลูกน้ํายุงลายไดไมแตกตางกัน

คําสําคัญ : ปลากัด ปลาหางนกยูง มวนกรรเชียง จิงโจน้ํา ลูกน้ํายุง

Page 34: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

32

ช่ืองานวิจัย ศึกษาการเพ่ิมธาตุอาหารและปรับปรุงคุณภาพดินดวยสารสกัดจากวัชพืชอัดเม็ด

คณะผูวิจัย เด็กหญิงเกวลิน นิมมานรวงศ เด็กหญิงพิชชาภา เพ็งบุปผา

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 3

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวเพ็ญพิชชา กิจลาภ และนางลําดวน บุญรังษี

โรงเรียน สงวนหญิง อําเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา อาจารยสัญชัย ภูเงิน ภาควิชาปฐพีวิทยา คณะเกษตรกําแพงแสง

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร

บทคัดยอ

งานวิจัยเรื่อง ศึกษาการเพ่ิมธาตุอาหารและปรับปรุงคุณภาพดินดวยสารสกัดจากวัชพืชอัดเม็ด

มีจุดมุงหมายเพ่ือตองการนํางานวิจัยนี้ไปเพ่ิมคุณภาพดิน กอน-หลังการใชประโยชนทางดานการเกษตร โดย

ใชสารสกัดวัชพืชในทองถ่ินในรูปแบบผลิตภัณฑอัดเม็ด โดยทําการศึกษาชนิดและความเขมขนของวัชพืชท่ีมีผล

ตอการรักษดินพบวาสารสกัดจากใบธูปฤาษีความเขมขน 40% โดยมวลตอปริมาตรดินมีคา pH เฉลี่ยเทากับ

6.77 มีคาการดูดกลืนสารกําจัดแมลงในดินเฉลี่ยเทากับ 0.652 และในผักบุงเฉลี่ยเทากับ0.368 มีธาตุอาหาร

N P ระดับปานกลาง K ระดับสูง และสารสกัดจากใบรางจืดความเขมขน 60% โดยมวลตอปริมาตรดินมีคา

pH เฉลี่ยเทากับ 7.22คาการดูดกลืนสารกําจัดแมลงในดินเฉลี่ยเทากับ 0.683 และในผักบุงเฉลี่ยเทากับ 0.476

มีธาตุอาหาร N K ระดับสูง P ระดับปานกลาง ศึกษาอัตราสวนผสมสารสกัดวัชพืชท่ีความเขมขนท่ีเหมาะสม

ตอการรักษดินพบวาความเขมขนของสารสกัดจากใบธูปฤาษีความเขมขน 40% โดยมวลตอปริมาตรผสม

สารสกัดจากใบรางจืดความเขมขน 60% โดยมวลตอปริมาตรอัตราสวน 2 :1 โดยปริมาตรมีคาการดูดกลืน

สารกําจัดแมลงในดินเฉลี่ยเทากับ 0.431 ผักบุงมีการเจริญเติบโตของผักบุงสูง 38.1 เซนติเมตร น้ําหนัก

6.51 กรัม ศึกษาชนิดตัวดูดซับสารสกัดวัชพืชสําหรับทําวัชพืชอัดเม็ดพบวาผงกากเสนใยใบธูปฤาษี

ผงกากเสนใยใบรางจืดผสมอัตราสวน 2:1 โดยมวลสามารถดูดซับสารสกัดจากวัชพืชโดยมีประสิทธิภาพ

การดูดกลืนยากําจัดแมลงเฉลี่ยเทากับ 0.428 ดินมีคา pH เฉลี่ยเทากับ 7.65 ปริมาณธาตุ N K สูง P ระดับ

สูงมากน้ําหนักผักบุงเฉลี่ยเทากับ 7.86 กรัม เปรียบเทียบวิธีการใชวัชพืชอัดเม็ดกับสารชีวภาพสําหรับรักษดิน

พบวาวัชพืชอัดเม็ดสามารถใชปรับปรุงคุณภาพดินกอน – หลังใชสารกําจัดแมลงดีกวาสารชีวภาพโดยมีคา

การดูดกลืนสารกําจัดแมลงเฉลี่ย 0.458 และ 0.456 ขณะท่ีสารชีวภาพมีคาการดูดกลืนสารกําจัดแมลงเฉลี่ย

เทากับ 0.867 ตามลําดับและในผักบุงทดสอบการลดสารกําจัดแมลงดวยชุดทดสอบ MJPK พบมีสีสมอมชมพู

เล็กนอยแตดินรดดวยสารสกัดจากวัชพืชกอนมีปริมาณธาตุ N ในระดับสูง แตรดหลังยากําจัดแมลงปริมาณ

N ต่ํา

คําสําคัญ: วัชพืชอัดเม็ด รักษดิน การเพ่ิมธาตุอาหารในดิน,การดูดกลืนสารกําจัดแมลง

Page 35: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

33

ช่ืองานวิจัย การเจริญเติบโตของพืชบริเวณรอบเหมืองดินขาว ตําบลหาดสมแปน อําเภอ

เมือง จังหวัดระนอง

คณะผูวิจัย เด็กหญิงรัญชิดา รัตนเทพี เด็กชายศรันย บุณยรัตพันธุ

เด็กหญิงสาธิตา แสงเพชร

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนตน

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวกัญญาลภัส ธีรพิทยานนท และนางวิจิตรา รัตนเทพี

โรงเรียน สตรีระนอง อําเภอเมือง จังหวัดระนอง

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ดร. ธัญญา พันธฤทธิ์ดํา มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

ผศ.ดร.เตือนตา ราหมาน มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

บทคัดยอ

ดินขาวเกาลินพบมากในจังหวัดระนอง ทําใหมีการทําสัมปทานเหมืองแรและมีการทําโรงงานเหมืองแร

ดินขาวกันมาก กอใหเกิดการปนเปอนของดินขาวสูแหลงน้ําและเกิดฝุนผงดินขาวบริเวณโดยรอบเหมือง ตําบล

หาดสมแปน อําเภอเมือง จังหวัดระนอง แตจากงานวิจัยไดมีการพัฒนาดินขาวเปนสารเคลือบใบและผลของ

พืช พบวาสามารถปองกันการทําลายของศัตรูพืชได และยังปองกันไมใหผิวผลไมสัมผัสกับแดดโดยตรง

เนื่องจากมีลักษณะเปนฟลมบางๆ สงผลใหการสังเคราะหแสงของพืชเพ่ิมมากข้ึน ชวยปองกันความรอนจาก

แสงแดดในวันท่ีอากาศรอนจัด และชวยปองกันผิวของผลไมไมใหเกิดรอยไหมจากแสงแดด จึงทําใหผลไมมีผิว

สวยงาม ไดผลผลิตมากข้ึน ชวยลดโอกาสของการเกิดโรคแอนแทรคโนส และโรคใบจุดสีน้ําตาล นับวาเปน

นวัตกรรมใหมท่ีจะชวยลดปญหาสารเคมีตกคางในการเกษตร ดินขาวท่ีตกคางอยูยังสามารถกําจัดออกไดงาย

โดยการลางน้ํา และดินขาวไมกอใหเกิดมลพิษตอดินและน้ํา ทางคณะผูวิจัย จึงสนใจศึกษาฝุนดินขาวของ

เหมืองดินขาวท่ีมีผลตอการเจริญเติบโตของพืชและปจจัยอ่ืนๆ บริเวณโดยรอบเหมืองดินขาวท่ีมีผลตอ

การเจริญเติบโตของพืชบริเวณรอบเหมืองดินขาว โดยกําหนดพ้ืนท่ีสํารวจเปนปาทดแทนในเหมืองและ

ปาธรรมชาติท่ีอยูหางออกไปจากเหมือง โดยศึกษาการเจริญเติบโตของตนไม รวมถึงสภาพแวดลอมโดยรอบ

เพ่ือใหทราบถึงผลกระทบท่ีมีตอระบบนิเวศบริเวณโดยรอบเหมืองดินขาว พบวาถึงแมบริเวณโดยรอบเหมือง

ดินขาวจะมีสภาพไมเหมาะสมตอการเจริญเติบโตของพืชแตพืชยังสามารถเจริญเติบโตไดดีใกลเคียงกับ

พืชบริเวณโดยรอบ ทําใหสามารถประยุกตใชดินขาวในการเกษตร และพัฒนาพ้ืนท่ีรอบเหมืองดินขาวใหเปน

พ้ืนท่ีเกษตรได

คําสําคัญ : การเจริญเติบโตของพืช ดินขาวเกาลิน เหมืองดินขาว

Page 36: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

34

ช่ืองานวิจัย ความสัมพันธระหวางขนาดของใบไมวงศยางนากับคุณสมบัติของดิน

ในอําเภอสวางแดนดิน จังหวัดสกลนคร : ขนาดของใบไมอธิบายนิเวศวิทยา

ทองถิ่นและการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก

คณะผูวิจัย ชนากานต วารินทร ณัฐรดาทิพย ทับทิม

ศศินันธา แกวลอดหลา

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 1

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวเจษฎา ฤทธิ์ศรีบุญ

โรงเรียน สวางแดนดิน อําเภอสวางแดนดิน จังหวัดสกลนคร

บทคัดยอ

สภาพภูมิอากาศของโลกท่ีมีแปรปรวน ในประเทศไทยระยะเวลาท่ีมีอากาศรอนในรอบปมีแนวโนม

รอนมากข้ึนและนานข้ึน ฤดูแลงท่ียาวนานอาจเปนสาเหตุทําใหไมยืนตนตายลงอยางชาๆ เกิดความสูญเสียทาง

ธุรกิจและสิ่งแวดลอม ในพ้ืนท่ีอําเภอสวางแดนดิน พบการยืนตนตายของยางนาโดยไมรูสาเหตุ การวิจัยในครั้ง

นี้เพ่ือศึกษาความสัมพันธระหวางขนาดของใบไมวงศยางนากับคุณสมบัติของดิน พ้ืนท่ีศึกษา SWD1-SWD4

ผลการวิจัยพบวา ขนาดของใบไมวงศยางนามีความสัมพันธกับความชื้นในดินมากกวาความยืดตัวของดิน คา

ความเปนกรด-เบสของดิน สีดิน และเนื้อดิน ตามลําดับ และขนาดของใบยางนาท่ีข้ึนในพ้ืนท่ี SWD03 ท่ีมี

ความชื้นในดินสูง (2.56%) มีคาเฉลี่ยขนาดของใบ เทากับ 626.6436 cm2 สูงกวาขนาดของใบยางนาท่ีข้ึนใน

พ้ืนท่ีความชื้นในดินต่ํากวา (SWD04=522.0274 cm2, SWD02=502.9122 cm2, SWD01=454.8446 cm2)

ตามลําดับ ขนาดของใบและโครงสรางของเสนใบมีความสัมพันธกับแหลงท่ีอยูของพืชและความทนทานตอ

สิ่งแวดลอมท่ีมีความแหงแลง ขนาดของใบจึงมีความสําคัญตอการปรับตัวในสิ่งแวดลอมของพืช ในระยะยาว

เพ่ือปองกันการยืนตนตายของตนยางนาจึงควรวัดขนาดของใบไมและความชื้นในดินอยูเสมอ

คําสําคัญ : ขนาดของใบ ยางนา สมบัติของดิน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สวางแดนดิน

Page 37: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

35

ช่ืองานวิจัย การศึกษาวัสดุคลุมดินเพ่ือรักษาความช้ืนในชุดดินเดิมบางในอําเภอหันคา

คณะผูวิจัย เด็กชายนิตินนท ทิพยสิงห เด็กหญิงรพีพรรณ วริทธินันท เด็กชายเจษฎากร ทองอํ่า

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 2

อาจารยท่ีปรึกษา นางพชรมน นวลดี และนางสาวสมคิด พ่ึงพวก

โรงเรียน หันคาพิทยาคม อําเภอหันคา จังหวัดชัยนาท

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ผศ.สัญชัย ภูเงิน และคณะอาจารยโครงการ STEM EDUCATION

ภาควิชาปฐพีวิทยา คณะเกษตร กําแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร

บทคัดยอ

การศึกษาวัสดุคลุมดินเพื่อรักษาความช้ืนในชุดดินเดิมบาง ในอําเภอหันคามีวัตถุประสงคเพื่อ (1) ศึกษา

สมบัติทางกายภาพของชุดดินเดิมบาง (Db) (2.) ศึกษาชนิดของวัสดุคลุมดินท่ีรักษาความชื้นในดินและอุณหภูมิดิน

ท่ีเหมาะสม (3.) ศึกษาความหนาของวัสดุคลุมดินท่ีมีผลตออุณหภูมิและความชื้นในดิน (4.) เพื่อศึกษาลักษณะของ

แผนเสนใยธรรมชาติท่ีมีผลตออุณหภูมิและความช้ืนในดิน (5.) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการเจริญเติบโตของพืชใน

ดินท่ีใชวัสดุคลุมดินตางกัน โดยแบงการทดลองเปน 5 ตอน ตอนท่ี 1 ศึกษาสมบัติของดินเดิมบางในอําเภอหันคา

ตอนท่ี 2 เปรียบเทียบผลของชนิดของวัสดุคลุมดินตางชนิดกันตอการรักษาความช้ืนและอุณหภูมิดิน (ฟาง,

ผักตบชวา, กาบมะพราว และพลาสติกดํา) ตอนท่ี 3 เปรียบเทียบผลของความหนาของวัสดุคลุมดิน (ฟาง)

ท่ีตางกันตอการรักษาความช้ืนและอุณหภูมิดิน ตอนท่ี 4 เปรียบเทียบผลของเย่ือกระดาษฟางท่ีหนาตางกันใน

การเปนวัสดุคลุมดินตอการรักษาความช้ืนและอุณหภูมิดิน ตอนท่ี 5 เปรียบเทียบการเจริญเติบโตของพืชท่ีใชเย่ือ

กระดาษฟางท่ีหนาตางกันในการเปนวัสดุคลุมดิน

พบวา ชุดดินเดิมบาง (Db) มีสี Black 5YR2.5/1 เน้ือดินเปนดินเหนียวปนทราย มีความช้ืนรอยละ 6.52

มีความหนาแนนรวมของดิน 1.76 g/cm3 มีคา pH 8.83 เปนดางปานกลาง กระถางท่ีมีวัสดุคลุมดินตางชนิดกัน

รักษานํ้าไดตางกันฟางขาวแหงรักษานํ้าไดดีท่ีสุด คือ เมื่อผานไป 15 วัน สามารถรักษาความช้ืนดินไดท่ี 28.14 %

อุณหภูมิดินเฉล่ีย 26oC รองลงมา ไดแก พลาสติกดํา, กาบมะพราวแหง, ผักตบชวาแหง และกระถางควบคุม

(ไมคลุมดิน) ตามลําดับ และวัสดุธรรมชาติทําใหอุณหภูมิดินตํ่ากวาพลาสติกดํา และเมื่อเปรียบเทียบกระถางท่ีมี

ฟางขาวแหงคลุมดินท่ีหนาตางกัน จะรักษานํ้าไดตางกันกระถางท่ีคลุมดวยฟางขาวแหงหนา 12 cm รักษานํ้าไดดี

ท่ีสุดคือ เมื่อผานไป 15 วัน สามารถรักษาความช้ืนดินไดท่ี 21.33 % รองลงมา ไดแก ฟางขาวแหงหนา 8 cm

4 cm และกระถางควบคุม ตามลําดับ เมื่อนําฟางขาวมาทําเปนแผนคลุมดินแลวเปรียบเทียบความหนาของแผน

ฟางขาวตางกันเทียบกับฟางขาวท่ีหนา 12 cm คลุมดิน พบวากระถางท่ีคลุมดวยฟางขาวหนา 12 cm สามารถ

รักษานํ้าไดดีท่ีสุด คือ เมื่อผานไป 12 วัน สามารถรักษาความช้ืนดินไดท่ี 22.59 % รองลงมา คือ การใช

แผนกระดาษฟางท่ีความหนา 5.70 mm รองลงมาคือแผนฟางขาวท่ีหนานอยกวา เมื่อทดลองปลูกตนยางนาใน

กระถาง 5 ชุดการทดลอง พบวาตนยางนาท่ีปลูกในกระถางท่ีคลุมดวยฟางขาวหนา 12 cm มี่ลักษณะเขียวสดมี

การเจริญเติบโตมากท่ีสุด คือ มีความสูงเพิ่มขึ้น 9.36 % และมีขนาดลําตนเพิ่มขึ้น 5.03 % รองลงมาไดแกตนไมท่ี

มีแผนฟางหนา 5.70mm คลุมดิน สวนตนควบคุมลําตนแหงตายเมื่อผานไป 20 วัน

คําสําคัญ : วัสดุคลุมดิน การรักษาความช้ืนในดิน ชุดดินเดิมบาง

Page 38: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

36

ช่ืองานวิจัย ชนิดและปริมาณของลูกน้ํายุงในเขตตําบลนาขุนไกร อําเภอศรีสําโรง

จังหวัดสุโขทัย

คณะผูวิจัย เด็กหญิงโรมีจาร ศรีเมือง เด็กหญิงวิยะดา ศรีมาลา

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 1

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวนลิน ชลชาญกิจ และนายสมชาย บญุอินทร

โรงเรียน ขุนไกรพิทยาคม

บทคัดยอ

ชนิดและปริมาณของลูกน้ํายุงในเขตตําบลนาขุนไกร อําเภอศรีสําโรง จังหวัดสุโขทัย มีผลการศึกษา

ดังนี้ ผลการศึกษาจํานวนของลูกน้ํายุงท่ีพบในสถานท่ีของแตละหมูบานพบวา สถานท่ีท่ีพบลูกน้ํายุงมากท่ีสุด

คือ คอกสัตวรองลงมาคือบริเวณหองน้ํา สวนปา/วัด ท่ีเพาะชําตนไมและจุดท้ิงขยะมีคาเฉลี่ยเทากับ 67,

55.8, 52, 51.4 และ 31.4 ตัวตอครั้ง

ชนิดของลูกน้ําท่ีพบแตละหมูบานตําบลนาขุนไกร จังหวัดสุโขทัยพบวา ลูกน้ํายุงลายสวนพบมาก

ท่ีสุดคือ ลูกน้ํายุงรําคาญ ลูกน้ํายุงลายบานและลูกน้ํายุงกนปลองมีคาเฉลี่ยเทากับ 212.60, 24.60, 11.40,

และ 11.20 และจุดท่ีพบลูกน้ํายุงลายสวนมากท่ีสุดคือบานหนองจิก รองลงมาคือ บานวังตาม, บาน

โซกเปอย, บานผาแดงและโรงเรียนขุนไกรพิทยาคมมีคาเทากับ 239, 225, 223, 189 และ 197

ตามลําดับ

คําสําคัญ : ชนิดและปริมาณ ลูกน้ํายุง

Page 39: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

37

ช่ืองานวิจัย การศึกษาคุณสมบัต ิณ แหลงกําเนิดของปจจัยดานกายภาพและเคมีโดยรอบพืช

ทนเค็มในเขตเทศบาลตําบลเสม็ด จังหวัดชลบุรี และ คุณสมบัติตานแบคทีเรียท่ี

มีตอเช้ือโรคในครัวเรือนท่ัวไป

คณะผูวิจัย เด็กชายวรายุทธ ผลชีวิน เด็กชายกัญจน นามพรหม

เด็กชายรชต รัตนเทวมาตย

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนตน

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาววารุณี สุรังส ี

โรงเรียน ชลราษฎรอํารุง อําเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุร ี

บทคัดยอ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาคุณสมบัติของปจจัยดานกายภาพและเคมีโดยรอบพืชทนเค็มใน

แถบชายฝงทะเลเขตเทศบาลตําบลเสม็ด จังหวัดชลบุรี และประเมินความสามารถของพืชในการยับยั้ง

การเติบโตของเชื้อโรคในครัวเรือนท่ัวไป ในการศึกษานี้ใชการทดสอบหลากหลายวิธี และผูวิจัยใชอุปกรณ

มาตรฐานของ Extech ในการศึกษาคุณสมบัติของปจจัยตางๆ ทางกายภาพและเคมี โดยรอบพืชทนเค็มในเขต

พ้ืนท่ีดังกลาว เชน อุณหภูมิน้ํา คาความกระดางของน้ํา (TDS) ปริมาณออกซิเจนท่ีละลายในน้ํา

การนําไฟฟา ความโปรงใส คา pH ของน้ํา ความอุดมสมบูรณของดิน และคา pH ของดิน จากนั้นได

คัดเลือกใบไมของพืชทนเค็ม 4 ชนิด เพ่ือใชทดสอบความสามารถในการยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียและ

การทดสอบเบื้องตนทางพฤกษเคมี ผลการศึกษา พบวา ไมมีการเปลี่ยนแปลงท่ีเปนนัยสําตัญของปจจัยทาง

กายภาพและเคมีท่ีนํามาตรวจสอบ พืชดังกลาวมีสารประกอบทุติยภูมิ เชน อัลคาลอยด, ซาโปนิน, แทนนิน,

สารประกอบฟนอลิค, ฟลาโวนอยด, และ ลิวโคแอนโธไซยานิน สารประกอบเหลานี้ทําให สารสกัด 100%

ของ โปรงขาว (Ceriops decandra), โพทะเล (Thespesia populnea) และ สารสกัดรวมของพืช 4 ชนิด

สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคท่ีคัดแยกมาจากครัวเรือนในบานของผูวิจัย ดวยเหตุนี้ ผูวิจัยจึงสรุป

ไดวา ไมมีการเปลี่ยนแปลงท่ีเปนนัยสําคัญของปจจัยทางกายภาพและเคมีท่ีอยูรอบๆพืชทนเค็มกลุมทดลอง

พืชเหลานี้มีสารประกอบทุติยภูมิซ่ึงสามารถยับยั้งการเติบโตของเชื้อโรคท่ีคัดแยกมาจากครัวเรือนของบานท่ีอยู

ตางพ้ืนท่ี และยังทําใหพืชเหลานี้สามารถรอดชีวิตจากการเปลี่ยนแปลงตางๆ ในแหลงท่ีอยูอาศัยตามธรรมชาติ

ของพืชเหลานั้นดวย

คําสําคัญ : พืชทนเค็ม คุณสมบัติตานแบคทีเรีย

Page 40: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

38

ช่ืองานวิจัย การศึกษาผลของการใชชีววิธีจากไขน้ําตอการยับย้ังการเจริญเติบโตของ

ลูกน้ํายุง

คณะผูวิจัย เด็กหญิงณิชารีย วงศก่ิงคํา เด็กหญิงจุฑามาศ วินทะไชย

เด็กหญิงจิณทนิภา วรรณพันธ

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 2

อาจารยท่ีปรึกษา นายอภิวัฒน ศรีกัณหา

โรงเรียน ชุมแพศึกษา อําเภอชุมแพ จังหวัดขอนแกน

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา : ผูชวยศาสตราจารย ดร.สุรจิตร พระเมือง มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย

บทคัดยอ

จากการศึกษาผลของการใชชีววิธีจากไขน้ําตอการยับยั้งการเจริญเติบโตของลูกน้ํายุง โดยมี

วัตถุประสงคเพ่ือศึกษาผลของการใชชีววิธีจากไขน้ําตอการยับยั้งการเจริญเติบโตของลูกน้ํายุง โดย

การเพาะเลี้ยงลูกน้ํายุงในน้ําท่ีมีปริมาณไขน้ําแตกตางกัน แลวตรวจวัดคุณภาพของน้ําตามวิธีการตรวจวัด

คุณภาพน้ํา GLOBE Protocol (สสวท., 2552) โดยการตรวจวัด pH protocol จากการวิจัยพบวา การเลี้ยง

ลูกน้ํายุงโดยใสไขน้ําในปริมาณท่ีตางกัน ในภาชนะท่ีมีไขน้ําจะมีจํานวนลูกน้ํายุงลดลงโดยมีจํานวนเหลือไมถึง

รอยละ 50 ของปริมาณลูกน้ํายุงท่ีมีตอนเริ่มตน และลดลงตามปริมาณของไขน้ําท่ีเพ่ิมข้ึน และพบวามีอัตรา

การตายของลูกน้ําเพ่ิมข้ึนตามปริมาณไขน้ําท่ีเพ่ิมข้ึน นอกจากนี้ยังเห็นไดวาลูกน้ํายุงไมสามารถเปลี่ยนไปเปน

ยุงตัวเต็มวัยได แตสามารถเปลี่ยนไปเปนตัวโมงไดรอยละ 3.33 หลังจากนั้นก็ตายโดยไมเปลี่ยนไปเปนตัวเต็ม

วัย ซ่ึงจะแตกตางจากภาชนะชุดควบคุมท่ีไมมีไขน้ําพบวามีจํานวนลูกน้ํายุงสูงท่ีสุดรอยละ 65.00 และสามารถ

เปลี่ยนไปเปนตัวโมงรอยละ 13.33 เปลี่ยนไปเปนยุงตัวเต็มวัยไดสูงสุดรอยละ 18.33 ดังนั้นจะเห็นไดวาไขน้ํา

สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของลูกน้ําได ทําใหอัตราการตายของลูกน้ําเพ่ิมข้ึนและเปลี่ยนไปเปนตัวโมงและ

ยุงตัวเต็มวัยไดนอยลง

คําสําคัญ : ไขน้ํา ลูกน้ํายุง

Page 41: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

39

ช่ืองานวิจัย ลักษณะและคุณสมบัติของดินท่ีไดรับผลกระทบจากน้ําเสีย บริเวณบอขยะของ

เทศบาลนครตรัง

คณะผูวิจัย เด็กหญิงสุชานาฏ ลั่นเตง เด็กหญิงเจนจิรา กาหยี

เด็กหญิงอธิษฐาน งามวัฒนะ เด็กหญิงโมทนา งามวัฒนะ

เด็กหญิงกนกวรรณ หมาดหยา

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 2

อาจารยท่ีปรึกษา อาจารยวรุฒ คงสงดวง และอาจารยนิธิยาภรณ ศรีคง

โรงเรียน ตรังคริสเตียนศึกษา อําเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง

นักวิทยาศาสาตรท่ีปรึกษา อาจารย ดร. พีรนาฏ คิดดี มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

อาจารย อาจารี นาโค มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

บทคัดยอ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาลักษณะ สมบัติของดินและสัตวหนาดินท่ีไดรับผลกระทบจากน้ํา

เสียบริเวณบอขยะโดยแบงเปน 2 พ้ืนท่ี คือ บริเวณท่ีไดรับผลกระทบจากน้ําเสียโดยตรง และบริเวณท่ีไมไดรับ

ผลกระทบ ผลการศึกษาพบวา สีดินมีสีเหลืองออน จนถึงน้ําตาลเขม ความเปนกรดของดินท่ีไดรับผลกระทบ

จากน้ําเสีย pH เทากับ 3.8 และบริเวณท่ีไมไดรับผลกระทบจากน้ําเสีย pH เทากับ 3.3 เม่ือเปรียบเทียบกับ

บริเวณพ้ืนท่ีท่ีไมไดรับผลกระทบจากขยะ คาฟอสฟอรัส และแอมโมเนียมมีคาสูงข้ึน และสัตวหนาดินในพ้ืนท่ี

ไดรับผลกระทบจากบอขยะจะมีปริมาณและความหลากหลายมากกวาพ้ืนท่ีท่ีไมไดรับผลกระทบจากขยะ

คําสําคัญ : สัตวหนาดิน ขยะ คุณสมบัติและลักษณะดิน

Page 42: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

40

ช่ืองานวิจัย การศึกษาความสัมพันธของปริมาณปมรากถั่วกับปริมาณผลผลิตของถั่วลิสง

จากไรถั่วลิสงบานหลาสีเสียด ตําบลตูมใต อําเภอกุมภวาป จังหวัดอุดรธานี

คณะผูวิจัย เด็กหญิงสุดารัตน ชัยวรรณ เด็กหญิงจันจิรา พันรัตน

เด็กหญิงอนิตญา บุตรราช

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนตน

อาจารยท่ีปรึกษา นางรัตนา จันทรกอง

โรงเรียน เทศบาล 5 สีหรักษวิทยา อําเภอกุมภวาป จังหวัดอุดรธานี

นักวิทยาศาสาตรท่ีปรึกษา ดร. ศิณีวัณย พิทักษทิม มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธาน ี

บทคัดยอ

จากการศึกษาความสัมพันธของปริมาณปมรากถ่ัว กับปริมาณผลผลิตถ่ังลิสงจากแปลงปลูกถ่ัวลิสง

บานเหลาสีเสียด ตําบลตูมใต อําเภอกุมภวาป จังหวัดอุดรธานี จํานวน 2 แปลง โดยทําการเก็บตัวอยางแปลง

A และ แปลง B ไดทําการเก็บตัวอยาง แบบเจาะจง จํานวน 5 ตัวอยาง / แปลง รวมท้ังหมด 10 ตัวอยาง

ทําการทดสอบความเปนกรด – ดาง ของดิน พบวา ดินแปลง A มีคา pH เฉลี่ย = 5.3 มีสภาวะเปนกรดออน

สวนดินแปลง B มีคา pH เฉลี่ย = 8 มีสภาวะเปนเบสออน ทดสอบโครงสรางดิน พบวา ดินในแปลง A

มีลักษณะเปนดินรวนปนทราย มีการถายเทอากาศและความชื้นไดดี เหมาะแกการเจริญของไรโซเบียม

ดินแปลง B มีลักษณะเปนดินรวนปนดินเหนียว อุมน้ําไดดี เนื้อดินละเอียดปนเปนกอนได และเม่ือ

ทําการศึกษาความสัมพันธระหวางปมรากถ่ัวกับผลผลิตของถ่ัวลิสง พบวา แปลง A มีปมรากถ่ัวมากกวา

แปลง B ดังตัวอยาง A4 มีความสูงของตน 37 cm. มีความยาวของราก 30 cm. มีปริมาณปมราก 90 และ

มีปริมาณฝก 40 ฝก/ตน และ แปลง A มีผลผลิตมากกวาแปลง B คุณภาพของผลผลิต แปลง A มีคุณภาพ

มากกวาแปลง B โดยแปลง A มีปริมาณผลผลิต/ไรเทากับ 2,400 Kg/ไร เชนกัน

คณะผูศึกษาไดทําการสอบถามขอมูลเบื้องตนในการปลูกถ่ัวลิสงท้ัง 2 แปลง พบวา ท้ัง 2 แปลง

มีเจาของเปนคนเดียวกัน และมีการดูแลเชนเดียวกัน คือ ทําการใสปุยบํารุงตนจํานวน 1 ครั้ง โดยใชปุยสูตร

15 – 15 – 15 เพียงครั้งเดียว พรอมเมล็ดถ่ัว ในขณะปลูก จากนั้นก็กําจัดเพียงวัชพืชในครบกําหนดเก็บ

ผลผลิต เปนเวลา 4 เดือน

คําสําคัญ : ปมรากถ่ัว ความเปนกรด–ดางของดิน โครงสรางดิน

Page 43: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

41

ช่ืองานวิจัย ตนแบบกังหันตนี้ําแบบใบพัดขนาดเล็กสําหรับเพ่ิมคุณภาพแหลงน้ําในครัวเรือน

คณะผูวิจัย เด็กหญิงกนกพร รวมวงศ เด็กหญิงชลิดา บุญชูยิม้แยม

เด็กหญิงภัณฑิรา มีอัศวเปนมงคล

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนตน

อาจารยท่ีปรึกษา นางวันเพ็ญ อยูคง

โรงเรียน พระหฤทัยคอนแวนต เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

บทคัดยอ

งานวิจัยนี้เปนการวิจัยศึกษาการเติมอากาศใหแหลงน้ําขนาดเล็กโดยใชกังหันตีน้ําเพ่ือใชเปนตนแบบ

ของกังหันตีน้ําขนาดเล็กสําหรับใชกับแหลงน้ําในครัวเรือน โดยเล็งเห็นถึงความเปนไปไดในการพัฒนาและ

ปรับปรุงกังหันน้ําชัยพัฒนาใหมีขนาดท่ีเล็กลง เพ่ือเหมาะกับการเพ่ิมคุณภาพแหลงน้ําขนาดเล็กในครัวเรือน

ศึกษาโดยการเปรียบเทียบประสิทธิภาพการเติมอากาศของกังหันตีน้ําแบบใบพัดปกติ และกังหันตีน้ําแบบ

ใบพัดเจาะรู เดินเครื่องกังหันตีน้ําเปนเวลาเครื่องละ 6 ชั่วโมง โดยใชน้ําจากคลองเตย เปนแหลงน้ําตัวอยาง

เก็บน้ําตัวอยางทุก ๆ 2 ชั่วโมงเพ่ือนํามาวิเคราะหหาคาปริมาณออกซิเจนท่ีละลายในน้ําดวยวิธี Azide

modification พบวากังหันตีน้ําแบบใบพัดเจาะรูมีประสิทธิภาพการเติมอากาศดีกวากังหันตีน้ําแบบใบพัดปกติ

โดยมีปริมาณออกซิเจนท่ีละลายในน้ําเพ่ิมข้ึนจาก 0.5 mg/l เปน 9 mg/l ในแหลงน้ําท่ี 1 และเพ่ิมข้ึนจาก

4 mg/l เปน 10 mg/l ผลการวิจัยนี้สามารถนําไปปรับปรุงและพัฒนาเพ่ือใหมีประสิทธิภาพเพ่ิมข้ึนได

คําสําคัญ: กังหันตีน้ําขนาดเล็ก แหลงน้ําขนาดเล็ก กังหันน้ําชัยพัฒนา ปริมาณออกซิเจนท่ีละลายในน้ํา

Page 44: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

42

ช่ืองานวิจัย การศึกษาคาอนุมานของปริมาณฝุนละอองขนาดเล็กในอากาศ PM2.5

ณ จุดวัดคุณภาพอากาศในจงัหวัดเชียงใหม

คณะผูวิจัย เด็กชายปตุภูมิ ชัยเจริญวรรณ เด็กชายรุจิพัทธ จิรานุสรณกุล

เด็กชายพัฒนกาญจน เมธาวิกูล

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนตน

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวเพ็ญสุภางค แปงคํา

โรงเรียน มงฟอรตวิทยาลัย อําเภอเมืองเชียงใหม จังหวัดเชียงใหม

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา รศ.ดร.สันต ิพิทักษกิจนุกูร คณะวิศวกรรมศาสตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม

บทคัดยอ

ปญหาปริมาณฝุนละอองขนาดเล็กในอากาศขนาดไมเกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เปนวิกฤตคุณภาพ

อากาศตอประชาชน ท้ังในจังหวัดเชียงใหมและหลายเมืองใหญท่ัวโลก ปจจุบันหลายหนวยงานติดตั้งเครื่องวัด

ใหประชาชนไดติดตามเพ่ือหลีกเลี่ยงภาวะเสี่ยงตอสุขภาพ แตเซ็นเซอร (sensor) ในเครื่องวัดดังกลาวยังมี

ราคาแพง อายุสั้นและดูแลรักษายาก ทําใหมีหลายชวงเวลาไมสงขอมูลหรือสงขอมูลผิดปกตินําไปใชงานไมได

บอยครั้งเปนเวลานานๆ การวิจัยจึงมีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาหาความสัมพันธในการหาคาอนุมาน ซ่ึงเปนสวน

หนึ่งในการพัฒนา แอปพลิเคชั่นระบบคอมพิวเตอร ท่ีสามารถประมวลผลจากการเรียนรูของเครื่องจักร

(Machine Learning) ดวยวิทยาการขอมูล (Data Science) จากขอมูลขนาดใหญ (Big Data) ทําใหได

คาอนุมานในแตละจุด เพ่ือใหประชาชนท่ัวไปสามารถเขาถึงขอมูลปริมาณฝุนไดตลอดเวลา ชวยเพ่ิม

คุณภาพชีวิตใหกับผูคนในสังคมโดยกําหนดศึกษา 3 ปจจัยท่ีมีผลตอการอนุมานคา คือระยะทางของจุดคํานวณ

อางอิง จํานวนจุดคํานวณอางอิง และกระแสลม เก่ียวของกับแหลงขอมูล 15 จุดวัดคุณภาพอากาศท่ัวท้ัง

จังหวัดเชียงใหม ผลการศึกษาพบวาคาอนุมานปริมาณฝุนละอองขนาดเล็กในอากาศ PM2.5 มีสัมพันธ

อยางมีนัยสําคัญ ตอระยะทางของจุดคํานวณอางอิงท้ังแบบ 3 และ 4 จุดคํานวณอางอิง และการเปรียบเทียบ

ความแมนยําของจํานวน 3 และ 4 จุดคํานวณอางอิงไมมีความสัมพันธกัน และกระแสลมมีผลตอการอนุมาน

ใหแมนยําเพ่ิมยิ่งข้ึน

คําสําคัญ : PM2.5 การอนุมานปริมาณฝุนละอองขนาดเล็ก วิทยาการขอมูล (Data Science)

จังหวัดเชียงใหม

Page 45: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

43

ช่ืองานวิจัย การใสวัสดุธรรมชาติเหลือใชทางการเกษตรเพ่ือเพ่ิมความอุดมสมบูรณของ

ดินทราย

คณะผูวิจัย เด็กหญิงชลธิชา ขาวบริสุทธิ์ เด็กหญิงธนพร ขจิตสุวรรณ

เด็กหญิงวิชุดา สุขใจ

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนตน

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวอภิญญา เสนะโลหิต

โรงเรียน รัฐราษฎรอุปถัมภ อําเภอเมือง จังหวัดราชบุรี

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา อาจารย ดร.นภาพร พันธุกมลศิลป ภาควิชาปฐพีวิทยา คณะเกษตร

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร วิทยาเขตกําแพงแสน

บทคัดยอ

การใสวัสดุธรรมชาติเหลือใชทางการเกษตรเพ่ือเพ่ิมความอุดมสมบูรณของดินทราย ดวยฟางขาว

ใบไผ ผักตบชวา และขุยมะพราว ในอัตราสวนดินทราย 2,000 กรัม ตอวัสดุธรรมชาติ 20 กรัม ท้ิงไวเปนเวลา

8 สัปดาหแลวทําการตรวจวัดคา พีเอช และคาความอุดมสมบูรณของดิน พบวา คาพีเอชของดินชุดทดลองท่ี

ผสมดวยฟางขาว มีคาการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยโดยเพ่ิมจาก 6 เปน 7.5 สูงท่ีสุด โดยเพ่ิมจาก 6 เปน 7.75

คาการเปลี่ยนแปลง คือ 1.75 ชุดทดลองดินท่ีผสมดวย ใบไผ ผักตบชวา และขุยมะพราว มีคาการเปลี่ยนแปลง

เฉลี่ยโดยเพ่ิมจาก 6 เปน 7.0 คาการเปลี่ยนแปลงคือ 1.0 และการวัดปริมาณธาตุอาหารในดินพบวา ชุดดินท่ี

ผสมดวยฟางขาว ใบไผ และผักตบชวา พบปริมาณฟอสฟอรัสสูง ขุยมะพราวพบปริมาณฟอสฟอรัสปานกลาง

สวนปริมาณแอมโมเนียมอยูในปริมาณต่ํา ปริมาณไนเตรทและปริมาณโพแทสเซียม พบวา ไมมี การทดลอง

ครั้งท่ี 2 ผักตบชวา พบปริมาณแอมโมเนียม ในปริมาณปานกลาง สวนชุดการทดลองอ่ืนๆ จะพบปริมาณ

แอมโมเนียมในปริมาณต่ํา นอกจากนี้ทุกชุดการทดลอง ยังพบปริมาณโพแทสเซียมในปริมาณสูงมาก ปริมาณ

ไนเตรทและปริมาณโพแทสเซียม พบวาไมมี

คําสําคัญ : วัสดุธรรมชาติเหลือใช ดินทราย ธาตุอาหารในดิน

Page 46: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

44

ช่ืองานวิจัย ปจจัยท่ีสงผลตอการเจริญเติบโตและเพ่ิมจํานวนของไรน้ํานางฟาไทย

คณะผูวิจัย เด็กหญิงวันวิสา พรหมทา เด็กหญิงสิริญากรณ แกนสาร

เด็กหญิงณัฏฐณิชา ประกอบสุข

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 1

อาจารยท่ีปรึกษา นายศกร พรหมทา

โรงเรียน ราษีไศล อําเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ

บทคัดยอ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงคเพ่ือทดลองหาสูตรอาหารท่ีเหมาะสมในการเพาะเลี้ยงไรน้ํานางฟาไทยใน

หองปฏิบัติการ ศึกษาอิทธิพลของสิ่งแวดลอมบางประการท่ีมีผลตอการเจริญเติบโตและการเพ่ิมจํานวนไรน้ํา

นางฟาไทยในหองปฏิบัติการ ศึกษาองคประกอบทางนิเวศวิทยาบางประการของไรน้ํานางฟาไทยในบอ

ตัวอยางและเปรียบเทียบการเจริญเติบโตของปลาสวยงามท่ีไดรับอาหารท่ีแตกตางกัน โดยสัตวน้ําท่ีใชใน

การทดลอง คือ ไรน้ํานางฟาไทย ไดขอสรุปผลการทดลองดังนี้ การศึกษาเปรียบเทียบการเจริญเติบโตและการ

เพ่ิมจํานวนของไรน้ํานางฟาไทยในอาหารสูตรตาง ๆ พบวา สูตรอาหาร A (สาหรายหางกระรอก) สามารถ

เพ่ิมจํานวนไขไรน้ํานางฟาไทยเฉลี่ย 225.29 ฟอง ซ่ึงสูงกวาสูตรอาหารชนิดอ่ืน และมีอัตราการรอด 96.13

เปอรเซ็นต

การศึกษาอิทธิพลของสิ่งแวดลอมท่ีสงผลตออัตราการเจริญเติบโตและเพ่ิมจํานวนของไรน้ํานางฟาไทย

พบวา ความเขมขน 0.5 เปอรเซ็นต ของอาหารสูตร A มีการเพ่ิมของไขไรน้ํานางฟาไทยมากท่ีสุดเฉลี่ย 200

ฟอง อัตราการรอด 93.84 เปอรเซ็นต ความเขมแสงท่ีใชเลี้ยงไรน้ํานางฟาไทย พบวา แสงธรรมชาติท่ี

หองปฏิบัติการ มีการเพ่ิมของไขไรน้ํานางฟาไทยมากท่ีสุดเฉลี่ย 202 ฟอง อัตราการรอด 84.03 เปอรเซ็นต

อาหารท่ีปริมาตรตางกัน พบวา อาหารท่ีปริมาตร 150 ลูกบาศกเซนติเมตร มีการเพ่ิมของไขไรน้ํานางฟาไทย

มากท่ีสุดเฉลี่ย 190 ฟอง อัตราการรอด 94.13 เปอรเซ็นต การศึกษานิเวศวิทยาบางประการของ

ไรน้ํานางฟาไทยในบอตัวอยาง พบวา ลักษณะทางกายภาพในสวนของอุณหภูมิอากาศเฉลี่ย 27.2

องศาเซลเซียส อุณหภูมิน้ําเฉลี่ย 29.0 องศาเซลเซียส สภาพทองฟาพบท้ังโปรง ไมมีแดด แดดออน แดดจา

คา pH ของน้ําเฉลี่ย 8.2 และลักษณะทางชีวภาพท่ีพบคือไรน้ํานางฟาจะลอยมาเกาะผิวน้ําเปนจํานวนมาก

ในชวง 06.00-9.00 น.

การทดลองเปรียบเทียบใชไรน้ํานางฟาไทยและอาหารสําเร็จรูปเลี้ยงปลาสวยงาม พบวา ปลาสอดสี

สายพันธุกุหลาบท่ีเลี้ยงโดยใชไรน้ํานางฟาไทยมีการเจริญเติบโตท่ีสูงกวาการใชอาหารสําเร็จรูป โดยปลาสอดสี

สายพันธุกุหลาบท่ีเลี้ยงโดยใชไรน้ํานางฟาเปนอาหาร พบวาเพศผูน้ําหนักตัวเฉลี่ย 69 กรัม ความยาวลําตัว

เฉลี่ย 3.2 เซนติเมตร และเพศเมียน้ําหนักตัวเฉลี่ย 70 กรัม ความยาวลําตัวเฉลี่ย 3.0 เซนติเมตรซ่ึง

ผลการทดลองนี้สามารถนําไปใชประโยชนเผยแพรในชุมชน สามารถสรางรายไดและอาชีพไดอีกดวย

คําสําคัญ : ไรน้ํานางฟาไทย อิทธิพลของสิ่งแวดลอม การเจริญเติบโตและการเพ่ิมจํานวนของไรน้ํานางฟาไทย

อัตราการรอดของไรน้ํานางฟาไทย การเจริญเติบโตของปลาสวยงาม

Page 47: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

45

ช่ืองานวิจัย ผลของการเผาขยะท่ีสงผลตอปจจัยทางชีวภาพบางชนิด

คณะผูวิจัย นางสาวชนิกา นิลใบ เดก็หญิงเนตรสุนันท วาเล็กบุตร

เด็กหญิงพิชญสินี คําแกว

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 3

อาจารยท่ีปรึกษา นางจิรารัตน วงศวิไล

โรงเรียน ลําปางกัลยาณี อําเภอเมืองลําปาง จังหวัดลําปาง

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา อาจารย ดร. ศิวัช ตั้งประเสริฐ คุณอรวรรณ ชูสมุทร และคุณภูวดล เชื้อผูดี

บทคัดยอ

บอเผาขยะบานนาแกวตะวันออก ตําบลนาแสง อําเภอเกาะคา จังหวัดลําปาง เปนบอเผาขยะ

แบบเปด ซ่ึงกําจัดขยะดวยการเผา สงผลตอคุณภาพของดินและสิ่งมีชีวิตในดิน นอกจากนี้การเผาขยะทําให

คุณภาพทางอากาศเสื่อมลงสงผลตอชนิดและปริมาณไลเคนท่ีเปนดัชนีชี้วัดคุณภาพทางอากาศ ดังนั้นทีมผูวิจัย

จึงศึกษาคุณภาพดินทางกายภาพและปจจัยทางชีวภาพบริเวณดังกลาว ผลการสํารวจ พบวา ดินท้ัง 3 ระยะ

มีคาความชื้น คา pH คงท่ี แสง อุณหภูมิ และความชื้นข้ึนอยูกับสภาพแวดลอมและสภาพอากาศในแตละวัน

ดินมีปริมาณแรธาตุมากท่ีสุดคือ 20 เมตร ขอบบอเผาขยะ และ 10 เมตร ตามลําดับ จากสีของดินพบวาดินท่ีมี

ความอุดสมบรูณมากท่ีสุดคือ 20 เมตร 10 เมตร และขอบบอเผาขยะ ตามลําดับ ผลปจจัยทางชีวภาพพบวา

สิ่งมีชีวิตในดินพบ มด ปลวก ยุง แมลงหวี่ แมลงวัน แมลงสาบ ซ่ึงเปนสัตวกลุม Macro soil fauna บงบอก

ถึงดินมีความชื้นระดับปานกลาง สวนไลเคน พบวาครั้งท่ี 2 พบไลเคนกลุม Foliose ท่ีบงบอกถึงคุณภาพ

อากาศดีท่ีสุดและมีปริมาณมากท่ีสุด โดยเปรียบเทียบท้ัง 3 ระยะ พบวา ระยะ 20 เมตรพบไลเคนกลุม

Foliose มากท่ีสุด จากขอมูลท่ีสํารวจทีมผูวิจัยไดคิดวิธีการและเสนอแนวทางการแกไขแกชาวบานและผูนํา

ชุมชน ในการตระหนักและอนุรักษสิ่งแวดลอม ลดการเผาขยะ เชน คัดแยกขยะกอนลงถัง ฝงกลบขยะ

ลดการเผา ปลูกปา ปรับปรุงดินดวยวิธีทางชีวภาพ เปนตน

คําสําคัญ : การตรวจสอบคุณภาพของดิน สภาพแวดลอม บอเผาขยะบานนาแกวตะวันออก ตําบลนาแสง

อําเภอเกาะคา จังหวัดลําปาง ไลเคน

Page 48: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

46

ช่ืองานวิจัย การศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพของดินบริเวณท่ีมีผักกูดข้ึนเองตามธรรมชาติและ

บริเวณท่ีไมมีผักกูดข้ึน บานกลางนา ตําบลหนองตรุด อําเภอเมือง จังหวัดตรัง

คณะผูวิจัย เด็กหญิงสวรรยา หนูชู เดก็หญิงสิริมา งามขํา

เด็กหญิงปรางทิพย ศรีกระจาง

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนตน

อาจารยท่ีปรึกษา นางศรุตา ชวยด ู

โรงเรียน วิเชียรมาตุ อําเภอเมือง จังหวัดตรัง

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา รศ.ดร.มัลลิกา เจริญสุธาสินี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

บทคัดยอ

จากการศึกษาขอมูลพืชในทองถ่ินพบวาตนผักกูดสามารถใชเปนดัชนีเพ่ือชี้วัดความสมบูรณของ

สภาพแวดลอมได ถาหากบริเวณไหนมีอากาศไมดี หรือดินไมบริสุทธิ์ หรือมีสารเคมีเจือปนอยู ผักกูดจะไม

เจริญหรือแตกตนในบริเวณนั้น เพราะผักกูดจะข้ึนเฉพาะในพ้ืนท่ีท่ีมีอากาศบริสุทธิ์ ดินสมบูรณและไมมี

สารเคมีเจือปน คณะผูวิจัยจึงมีความสนใจจะศึกษาคุณภาพของดินบริเวณท่ีมีผักกูดข้ึนเองตามธรรมชาติและ

บริเวณท่ีไมมีผักกูดข้ึน บานกลางนา ตําบลหนองตรุด อําเภอเมือง จังหวัดตรัง โดยสุมเก็บตัวอยางดิน 2

ระดับความลึก ไดแก 5 เซนติเมตร และ 15 เซนติเมตร พบวา ความอุดมสมบูรณของดิน เก่ียวกับปริมาณ

แอมโมเนียม การตรวจวัดคาแอมโมเนียมในดินพบวาดินบริเวณท่ีมีผักกูดข้ึนเองตามธรรมชาติ มีแอมโมเนียม

ปานกลาง บริเวณท่ีไมมีผักกูดข้ึนมีคาแอมโมเนียมต่ํา การตรวจวัดคาไนโตรเจนในดินบริเวณท่ีมีผักกูดข้ึนเอง

ตามธรรมชาติ มีคาไนโตรเจนปานกลาง สวนดินบริเวณไมมีผักกูดข้ึนมีคาไนโตรเจนต่ํา การตรวจวัดคา

ฟอสฟอรัสในดินบริเวณท่ีมีผักกูดข้ึนเองตามธรรมชาติและดินบริเวณไมมีผักกูดข้ึนมีคาฟอสฟอรัสปานกลาง

การตรวจวัดคาโพแทสเซียมในดินบริเวณท่ีมีผักกูดข้ึนเองตามธรรมชาติ มีคาโพแทสเซียมต่ํา ดินบริเวณไมมีผัก

กูดข้ึนมีคาโพแทสเซียมปานกลาง จากผลการศึกษาคาความชื้นในดิน พบวา ดินบริเวณท่ีมีผักกูดข้ึนเองตาม

ธรรมชาติมีคาความชื้นรอยละ 0.38 และมีคา pH 5.93 ดินบริเวณท่ีไมมีผักกูดข้ึน มีคาความชื้นรอยละ 0.29

และมีคา pH 5.62

คําสําคัญ : ผักกูด ความชื้นในดิน ความเปนกรด-เบสของดิน ความอุดมสมบูรณของดิน

Page 49: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

47

ช่ืองานวิจัย การเปรียบเทียบความหนาแนนของฝุนละอองท่ีระดับความสูงท่ีตางกัน

ดวยอุปกรณดักจับฝุนละออง ในโรงเรียนสตรีพัทลุง จังหวัดพัทลุง

คณะผูวิจัย เด็กชายชัชภิมุข คงคุย เด็กชายณฐนนท ณ พัทลุง

เด็กหญิงปาริชาติ สาแดง

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนตน

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวชนะจิตร แสงคงเรือง และนางสาวชยพัทธ ศรีกรด

โรงเรียน สตรีพัทลุง อําเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา อาจารย ดร.สุนิสา คงประสิทธิ ์ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

อาจารย ดร.จันทวรรณ นอยศรี มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

บทคัดยอ

จากการศึกษาความทึบแสงและความหนาแนนของฝุนละอองท่ีระดับความสูง 1.5 2.5 และ 3.5 ซ่ึง

การวัดหาคาเฉลี่ยของฝุนละออง ทําไดในบรรยากาศท่ัวไป และตองวัดใหสูงจากพ้ืนดินอยางนอย 1.5 เมตร

(ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดลอมแหงชาติ ฉบับท่ี 10 พ.ศ. 2538) จากการวิจัยพบวา ในเดือนสิงหาคม

กันยายน และมกราคม ท่ีระดับความสูง 2.5 เมตร มีความหนาแนนของฝุนมากท่ีสุด สวนเดือนตุลาคม

ความหนาแนนของฝุนของระดับความสูง ท่ี 1.5 และ 2.5 มีคาใกล เ คียงกัน เนื่องจากมีลมมรสุม

ตะวันออกเฉียงเหนือ พัดพาเอามวลอากาศเย็น และแหงมาปกคลุมอันดามัน และอาวไทย ภาคใตมีฝนตกชุก

อากาศเกิดการไหลเวียน ฝุนจึงเกิดการไหลเวียนดวย ในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม ป 2561 มีฝนตก

อยางตอเนื่องจนไมสามารถทําการทดลองได แสดงวา อุณหภูมิ และปริมาณน้ําฝนมีผลตอความหนาแนน

ของฝุน สอดคลองกับงานวิจัยท่ีพบวาปริมาณฝุนละอองเพ่ิมข้ึนเม่ือความเร็วลมตํ่า อากาศเย็น แสงแดดนอย

สวนปริมาณน้ําฝนมีผลชวยลดการฟุงกระจายของฝุนละออง (ตระวรรณ หาญกิจรุง, 2556) บริเวณท่ีทํา

การทดลอง เปนถนนท่ีมีปริมาณการจราจรหนาแนนเปน จักยานยนต รถยนตสวนบุคคล และรถโดยสาร

ประจําทางท่ีใชเครื่องยนตดีเซลจะเกิดฝุนละอองจากการเผาไหม จึงนําแผนสติ๊กเกอรมาเทียบความทึบแสงกับ

แผนริงเกิลมานน (Ringelmann chart) พบวา ท่ีระดับความสูง 1.5 และ 2.5 มีความทึบแสงท่ีสูงสุดเทากัน

สวนท่ีระดับความสูง 3.5 เมตร ความทึบแสงของฝุนมีคานอยท่ีสุด ดังนั้น ควรติดตั้งอุปกรณ เครื่องมือดักฝุน

หรือปลูกตนไมท่ีมีความสูงระหวาง 1.5 – 2.5 เมตร ซ่ึงเปนระดับท่ีมีปริมาณฝุนละอองมากท่ีสุด และชวงฤดูฝน

น้ําฝนสามารถชวยชะลางฝุนลงสูดินตามธรรมชาติได

คําสําคัญ : ฝุนละออง อุณหภูมิ ปริมาณน้ําฝน

Page 50: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

48

ช่ืองานวิจัย การศึกษาลักษณะผิวใบและปริมาณการปกคลุมของฝุนละอองบนผิวใบ

ของไมยืนตนท่ีเจริญเติบโตบริเวณริมถนนรอบโรงเรียนสาธิตแหง

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร

คณะผูวิจัย เด็กชายสิรภพ อัฒพันธ เด็กชายภูวิศ บุญญามงคลรัตน

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 2

อาจารยท่ีปรึกษา อาจารยกฤษณา โภคพันธ และอาจารยสันติชัย อนุวรชัย

โรงเรียน สาธิตแหงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร ศูนยวิจัยและพัฒนาการศึกษา

เขตจตุจักร กรุงเทพ

บทคัดยอ

งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพ่ือ (1) สํารวจไมยืนตนท่ีเจริญเติบโตบริเวณริมถนนรอบโรงเรียน (2)

ศึกษาลักษณะผิวใบของไมยืนตนท่ีเจริญเติบโตบริเวณริมถนนรอบโรงเรียน และ (3) ศึกษาปริมาณฝุนละอองท่ี

ปกคลุมผิวใบเทียบกับพ้ืนท่ีผิวใบของไมยืนตนท่ีเจริญเติบโตบริเวณริมถนนรอบโรงเรียน กําหนดจุดใน

การศึกษา 3 ดานท่ีติดกับถนนรอบโรงเรียนสาธิตแหงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร ดานละ 3 จุด สํารวจและ

เก็บตัวอยางใบตนละ 3 ใบ ซ่ึงเปนใบท่ีพบ 3 ใบแรกจากพ้ืนดิน ใน 2 ชวงเวลา ไดแก ชวงเชา และชวงเย็น

ศึกษาลักษณะผิวใบดวยกลองจุลทรรศนแบบสเตอริโอ คํานวณหาพ้ืนท่ีผิวใบและรอยละของปริมาณฝุนละออง

ท่ีปกคลุมผิวใบดวยการลอกฝุนดวยสติ๊กเกอรลงบนกระดาษตารางพ้ืนท่ีขนาด 0.5 x 0.5 เซนติเมตร สองดู

ฝุนละอองดวยกลอง USB Digital Microscope

ผลการวิจัยพบวา (1) ไมยืนตนท่ีสํารวจพบประกอบดวย 10 ชนิด จํานวน 12 ตน ไดแก นนทรี

มะฮอกกานี ราชพฤกษ ชมพูมะเหม่ียว แกว ชมพูพันธุทิพย ไทร กระพ้ีจั่น จามจุรี และชงโค (2) ลักษณะผิวใบ

ของไมยืนตน 10 ชนิดแบงไดเปน 3 กลุม ไดแก กลุมผิวใบเรียบ มัน มีไขปกคลุม ไดแก มะฮอกกานี ราชพฤกษ

ชมพูมะเหม่ียว แกว ไทร จามจุรี และชงโค กลุมผิวใบเรียบเล็กนอย ทองใบสาก เสนกลางใบชัดเจน ไดแก

นนทรี และกลุมผิวใบขรุขระ มีขนเล็กนอย ไดแก ชมพูพันธุทิพยและกระพ้ีจั่น (3) ปริมาณฝุนละอองท่ีปกคลุม

ผิวใบเฉลี่ยชวงเชา ผิวใบท่ีมีปริมาณฝุนปกคลุมมากท่ีสุดดานหลังใบและทองใบ คือนนทรีตนท่ี 1 ฝุนปกคลุม

99.28% และ 79.89% ผิวใบท่ีมีปริมาณฝุนปกคลุมนอยท่ีสุดดานหลังใบ คือไทร ฝุนปกคลุม 65.87%

ดานทองใบ คือชมพูมะเหม่ียว ฝุนปกคลุม 5.43% สวนปริมาณฝุนละอองเฉลี่ยชวงเย็น ผิวใบท่ีมีปริมาณฝุน

ปกคลุมมากท่ีสุดดานหลังใบและทองใบ คือนนทรีตนท่ี 2 ฝุนปกคลุม 98.13% และ 91.40% ผิวใบท่ีมีปริมาณ

ฝุนปกคลุมนอยท่ีสุดดานหลังใบ คือกระพ้ีจั่น ฝุนปกคลุม 81.68% ดานทองใบ คือชมพูมะเหม่ียวและแกว

ฝุนปกคลมุ 0.00%

คําสําคัญ : ลักษณะผิวใบ ปริมาณการปกคลุมของฝุนละออง ไมยืนตนริมถนน

Page 51: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

49

ช่ืองานวิจัย ความหลากหลายของเฟรนและพืชใกลเคียงเฟรนบริเวณควนชะลิกและ

ควนทะเลมอง อําเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช

คณะผูวิจัย เด็กหญิงณกัญญา สินไชย เด็กหญิงจันทรจิรา ขนานเภา

เด็กหญิงวิชญาดา สังขเพ็ชร

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 1

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวเพ็ญพักตร ชวยพันธ

โรงเรียน แหลมราษฎรบํารุง อําเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา:

ผศ.อานุช คีรีรัฐนิคม มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

อาจารยอาจารี นาโค มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

บทคัดยอ

งานวิจัยเรื่อง ความหลากหลายของเฟรนและพืชใกลเคียงเฟรนบริเวณควนชะลิก และควนทะเลมอง

อําเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราชมีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาความหลากหลาย และปจจัยท่ีสงผลใหเกิด

ความหลากหลายของเฟรนและพืชใกลเคียงเฟรนบริเวณควนชะลิกและควนทะเลมองโดยทําการศึกษา

ความหลากหลายของเฟรน ชวงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2561 และศึกษาปจจัยท่ีสงผลตอความหลากหลายของ

เฟรนโดยการศึกษาโครงสรางของดิน สีของดิน และคาความเปนกรด-เบสของดินตามหลักวิธีการดําเนินการ

ตรวจวัดสิ่งแวดลอมของโครงการ GLOBE ผลปรากฏวา บริเวณควนชะลิก จะมีลักษณะดินท่ีมีความอุดม

สมบูรณต่ํา มีโครงสรางดินดี ระบายน้ําไดดี มีคา pH ตั้งแต 5-8 มีสภาพเปนกรดออนและเบสออน พบเฟรน

และพืชใกลเคียงเฟรน จํานวน 10 วงศ 16 ชนิด สําหรับบริเวณควนทะเลมอง จะมีลักษณะดิน

บริเวณเนินควนเปนดินมีอินทรียวัตถุปกคลุมหนามากเม่ือขุดลึกลงไปพบรากไมพันกันแนนหนาและดินบริเวณ

ยอดควนเปนดินท่ีมีอินทรียวัตถุนอยลักษณะเปนดินลูกรัง pH อยูในชวง 5-6 มีสภาพเปนกรดออน พบเฟรน

และพืชใกลเคียงเฟรนจํานวน 5 วงศ 5 ชนิด จะเห็นวาบริเวณควนทะเลมองพบเฟรนและพืชใกลเคียงเฟรน

นอยกวา บริเวณควนชะลิก ท้ังนี้เนื่องจากบริเวณควนชะลิกมีลักษณะของดิน ท่ีระบายน้ําไดดี มีความอุดม

สมบูรณท่ีเหมาะสม มีสภาพความเปนกรด-ดาง สภาพภูมิอากาศชื้น และสภาพพ้ืนท่ีถ่ินอาศัยท้ังบนดิน บนหิน

บนตนไม ท่ีเหมาะสมตอการเจริญเติบโตของเฟรน จากการศึกษาจะเห็นวาปจจัยท่ีกลาวมาขางตน จะมีผลตอ

ความหลากหลายของเฟรน

คําสําคัญ : ควนชะลิก ควนทะเลมอง ความหลากหลายของเฟรนและพืชใกลเคียงเฟรน

ปจจัยความหลากหลายของเฟรนและพืชใกลเคียงเฟรน สภาพภูมิอากาศ

คาความเปนกรด-เบสของดิน

Page 52: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

50

ช่ืองานวิจัย การศึกษาคุณภาพแหลงน้ําบริเวณสวนสาธารณะกุดน้ํากิน กุดยางสามัคค ี

และแกงดอนกลาง อําเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ

คณะผูวิจัย เด็กชายปาณชัย หิรัญบูรณะ เด็กชายภูมิพัฒน ดลโสภณ

เด็กหญิงธณมล ภูวิโคตร

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 2

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวจันทเนตร นะสาโร

โรงเรียน อนุกูลนารี อําเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ

บทคัดยอ

การศึกษาคุณภาพแหลงน้ําบริเวณสวนสาธารณะกุดน้ํากิน กุดยางสามัคคี และแกงดอนกลาง

อําเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ โดยมีการวัดความโปรงใสของน้ํา วัดคา pH วัดปริมาณออกซิเจนท่ีละลายในน้ํา

และเก็บตัวอยางสิ่งมีชีวิตท่ีใชบงบอกคุณภาพของน้ํา ซ่ึงวิธีการวัดคุณภาพน้ําดวยหลักวิธีดําเนินการของ

GLOBE พบวาแหลงน้ําท่ีมีความเสื่อโทรมและตองเรงแกไขมากท่ีสุด คือกุดน้ํากิน ซ่ึงจะตองบําบัดและพัฒนา

กอนท่ีจะกลายเปนน้ําเนาเสีย และอาจปลอยกลิ่นท่ีทําใหเปนมลพิษทําใหชุมชนไมนาอยู สวนแหลงน้ําบริเวณ

กุดยางสามัคคี ซ่ึงเปนแหลงท่ีชุมชนใชในการอุปโภคบริโภคนั้น พบวายังมีคุณภาพน้ําอยูในระดับปานกลาง

ยังไมสะอาดมากนัก มีเปดไปวายน้ําและหาอาหารทําใหแหลงน้ํามีความขุน สวนแกงดอนกลางเปนสถานท่ี

สําหรับทํากิจกรรมสําคัญในวันตาง ๆ อีกท้ังยังเปนสถานท่ีสําหรับออกกําลังกายของคนในชุมชน มี

สวนสาธารณะขนาดใหญ เปนน้ําสําหรับอุปโภค บริโภค เม่ือตรวจวัดคุณภาพของน้ําแลว พบวามีคุณภาพน้ํา

เทียบเทากับบริเวณแหลงน้ํากุดยางสามัคคี ซ่ึงขอมูลท่ีไดนี้เปนขอมูลท่ีจําเปนแกการพัฒนาแหลงน้ําและ

อนุรักษใหแหลงน้ํามีคุณภาพน้ํา สภาพแวดลอมท่ีดีอยางยั่งยืนตอไป

คําสําคัญ : คุณภาพน้ํา กุดน้ํากิน กุดยางสามัคคี แกงดอนกลาง

Page 53: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

51

ช่ืองานวิจัย นวัตกรรมการเพ่ิมความชุมช้ืนใหแกดินโดยใชวัสดุท่ีเคลือบผิวดวย

นาโนซิงคออกไซดและเจลทําความเย็น

คณะผูวิจัย นายนราวิชญ ลิขิตรุจานนท นายธัญณัฐ เรือนสูง

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 4

อาจารยท่ีปรึกษา ดร.ภาณุพงศ ภูทะวัง

โรงเรียน กําเนิดวิทย อําเภอวังจันทร จังหวัดระยอง

บทคัดยอ

โครงงานวิทยาศาสตรนี้ มีวัตถุประสงคเพ่ือคิดคนนวัตกรรมท่ีทําไอน้ําในอากาศใหควบแนนแลว

กลั่นตัวเปนหยดน้ําเพ่ือเพ่ิมความชุมชื้นใหแกดินได ซ่ึงการคิดคนนวัตกรรมนี้จะแบงออกเปนสองสวน ไดแก

การเตรียมแผนเจลทาความเย็นซ่ึงเปนการนาโนโพลิไวนิลแอลกอฮอล Na2B4O7·10H2O Ba(OH)2·8H2O และ

NH4Cl มาผสมกันในอัตราสวนท่ีเหมาะสม แลวศึกษาประสิทธิภาพการทําความเย็นของแผนเจล สวนท่ีสองคือ

การเตรียมแผนอะลูมิเนียมท่ีเคลือบผิวดวยอนุภาคนาโนซิงคออกไซดโดยใชวิธีการไฮโดรเทอรมอล และศึกษา

คุณสมบัติไมชอบน้ํายิ่งยวดของพ้ืนผิวดวยการวัดมุมสัมผัส จากนั้นจึงนํานวัตกรรมไปทดสอบและเปรียบเทียบ

ความชื้นในดินระหวางกอนการใชและหลังการใชอุปกรณ ผลการทดลองท่ีไดพบวานวัตกรรมสามารถเพ่ิม

ความชุมชื้นใหแกดินได 0.4%

คําสําคัญ : เจลทําความเย็น คุณสมบัติไมชอบน้ํายิ่งยวด อนุภาคนาโนซิงคออกไซด ไฮโดรเทอรมอล

Page 54: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

52

ช่ืองานวิจัย การศึกษาความสัมพันธระหวางปริมาณความช้ืนของดินขณะเก็บเกี่ยวกับ

ปริมาณความหวานของสมโอพันธุขาวแตงกวา

คณะผูวิจัย นางสาวลูกน้ํา สุขสําราญ นางสาวมันตา เกิดพิทักษ

นางสาววนิสา จันทรเปรม

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 5

อาจารยท่ีปรึกษา นายอํานาจ หรุมรื่น

โรงเรียน คุรุประชาสรรค อําเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ผศ.ดร. นภาพร พันธุกมลศิลป มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร วิทยาเขตกําแพงแสน

บทคัดยอ

โครงงานวิจัยวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอมเรื่อง “การศึกษาความสัมพันธระหวางปริมาณความชื้นของดิน

ขณะเก็บเก่ียวกับปริมาณความหวานของสมโอพันธุขาวแตงกวา” มีวัตถุประสงค 1) เพ่ือศึกษาความสัมพันธ

ระหวางปริมาณความชื้นของดินขณะเก็บเก่ียวกับปริมาณความหวานของสมโอพันธุขาวแตงกวา 2) เพ่ือหา

ปริมาณความชื้นของดินท่ีเหมาะสมในการเก็บเ ก่ียวผลผลิตสมโอพันธุขาวแตงกวา 3) เ พ่ือศึกษา

การเปลี่ยนแปลงความชื้นของดินในบริเวณสวนสมโอ โดยทําการศึกษา ณ สวนสมโอพันธุขาวแตงกวาของ

คุณลุงอํานวย หรุมรื่น บานเลขท่ี 1 หมู 7 ตําบลดอนกํา อําเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท การดําเนินการมี

2 ข้ันตอน ไดแก 1) การวัดคาความชื้นของดินท่ีความลึก 15 เซนติเมตรบริเวณโคนตนสมโอในระยะหางจาก

โคนตน 0.50 1.00 และ 2.00 เมตร จํานวน 5 ตนตนละ 3 ครั้งหางกัน 1 สัปดาห ท่ีไดจากการสุม และ

ความหวานของสมโอ ณ วันท่ีเก็บตนละ 2 ผล 2) การวัดคาความชื้นของดินท่ีความลึก 15 และ 30 เซนติเมตร

ในสวนสมโอ 2 บริเวณท่ีไดจากการสุมในระยะเวลา 7 วันติดตอกัน พบวา ความชื้นขณะเก็บเก่ียวผลสมโอ

มีความสัมพันธแบบผกผันกับปริมาณความหวานของสมโอขาวแตงกวา และความชื้นในดินท่ีเหมาะสมสําหรับ

เก็บเก่ียวผลสมโออยูในชวง 6-8 เปอรเซ็นต และปริมาณความชื้นในดินจะมีคาลดลงโดย ท่ีความลึก

15 เซนติเมตร จะมีอัตราการลดลงสูงกวาความลึก 30 เซนติเมตร

คําสําคัญ : ความชื้นของดิน การเก็บเก่ียวสมโอ ความหวานของสมโอ สมโอพันธุขาวแตงกวา

Page 55: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

53

ช่ืองานวิจัย ปจจัยท่ีมีผลตอการเจริญเตบิโตของกุงแมน้ําในคลองชะอวด อําเภอชะอวด

จังหวัดนครศรีธรรมราช

คณะผูวิจัย นางสาวนัฎฐารัตน เนาวสุวรรณ นางสาวผาณิตนิภา บุญเก้ือ

นางสาวเพชรรัตน สรอยสังวาลย

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนปลาย

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวจุรีย ไกแกว

โรงเรียน ชะอวดวิทยาคาร อําเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา อ.ดร.นันทิดา สุธรรมวงศ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

ผศ.ดร.ศิริลักษณ ชวยพนัง มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

บทคัดยอ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาลักษณะคุณภาพของน้ํา และความสัมพันธระหวางคุณภาพน้ํากับ

การเจริญเติบโตของกุงแมน้ํา (Macrobrachium rosenbergii) ในคลองชะอวด โดยทําการศึกษาจากพ้ืนท่ี

ศึกษา จํานวน 3 จุด ดําเนินการเก็บขอมูลในเดือนตุลาคม พ.ศ.2561 จุดละ 3 ครั้ง ระยะเวลาหางกันครั้งละ

1 สัปดาห ทําการเก็บตัวอยางน้ํา และตรวจวัดคาคุณภาพน้ําทางกายภาพและเคมี ไดแก อุณหภูมิของอากาศ

และน้ํา ความเปนกรด-ดาง (pH) ปริมาณออกซิเจนท่ีละลายในน้ํา (DO) ความโปรงใส และความเค็มของน้ํา

พรอมท้ังวางไซสําหรับเก็บตัวอยางกุงแมน้ํา จดบันทึกจํานวน เพศ ความยาวลําตัว และน้ําหนักของกุงทุกตัว

วิเคราะหขอมูลโดยใชสถิติคาเฉลี่ย และสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เปรียบเทียบความแตกตางของคาเฉลี่ย

โดยใชการวิเคราะหความแปรปรวนแบบทางเดียว (One way ANOVA) ทําการทดสอบความแตกตางของ

คาเฉลี่ยรายคูดวยวิธีของดันแคน (Duncan) และหาความสัมพันธระหวางคุณภาพของน้ํากับความยาวลําตัว

และน้ําหนักของกุงโดยใชคาสัมประสิทธิ์สหสัมพันธเพียรสัน (r) พบวา คุณภาพของน้ําในคลองชะอวดอยูใน

ระดับท่ีเหมาะสมกับการดํารงชีวิตของสัตวน้ํารวมถึงกุงแมน้ํา โดยท้ัง 3 พ้ืนท่ีศึกษาจะมีความแตกตางกันของ

คาเฉลี่ยของอุณหภูมิน้ํา ความเปนกรด-ดาง (pH) ปริมาณออกซิเจนท่ีละลายในน้ํา (DO) และความโปรงใสของ

น้ําอยางมีนัยสําคัญ สําหรับคาความเค็มของน้ําพบวามีคาเทากับ 0.00 ในทุกพ้ืนท่ีศึกษา อุณหภูมิของน้ํามี

ความสัมพันธทางลบกับความยาวลําตัวและน้ําหนักของกุงอยางมีนัยสําคัญ สําหรับความยาวลําตัวและน้ําหนัก

ของกุงนั้นมีความสัมพันธกันทางบวกในระดับสูง และในจุดศึกษาท่ี 3 บานยานแดง พบน้ําหนักของกุงเฉลี่ย

9.05 ตัวตอกิโลกรัม จัดเปนกุงขนาดใหญ แตกตางจากจุดศึกษาท่ี 1 และ 2 อยางมีนัยสําคัญ ซ่ึงพบ

กุงขนาดกลางท่ีมีน้ําหนักกุงเฉลี่ย 13.19 และ 10.35 ตัวตอกิโลกรัม ตามลําดับ

คําสําคัญ : กุงแมน้ํา กุงกามกราม Macrobrachium rosenbergii คลองชะอวด

Page 56: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

54

ช่ืองานวิจัย การศึกษาปจจัยเชิงพฤติกรรมของคนในชุมชนเขตพ้ืนท่ีอําเภอดอนจานท่ีสงผล

ตอการระบาดของโรคไขเลือดออก

คณะผูวิจัย นายอดิศักดิ์ จันทะไชย นางสาวอัจฉริยะกร การพิศมัย

นางสาววราภรณ ระวิเวช

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนปลาย

อาจารยท่ีปรึกษา นายชุมพล ชารีแสน

โรงเรียน ดอนจานวิทยาคม อําเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ

บทคัดยอ

จากการศึกษาปจจัยเชิงพฤติกรรมของคนในชุมชนเขตพ้ืนท่ีอาเภอดอนจานท่ีสงผลตอการระบาดของ

โรคไขเลือดออก เพ่ือศึกษาเชิงพฤติกรรมของคนในชุมชนเขตพ้ืนท่ีอาเภอดอนจาน มีความเสี่ยงของการระบาด

ของไขเลือดออก โดยการตรวจวัดปจจัย และจํานวนลูกน้ํายุงตามวิธีการของ GLOBE พรอมท้ังสอบถามและ

สัมภาษณ ประชาชนท่ีมีพฤติกรรมเสี่ยงตอการระบาดของไขเลือดออก พบวา การสํารวจและวิเคราะหคาดัชนี

ตาง ๆ ของตําบลดอนจาน ตําบลนาจําปา และตําบลสะอาดไชยศร ีพบวา คา HI ของยุงลายท่ีสองสองประเภท

มีคามากกวา 10 และคา BI มีคามากกวา 50 CI มีคามากกวา 0 สรุปไดวา พ้ืนท่ีตําบลดอนจานเสี่ยงตอ

การแพรเชื้อโรคไขเลือดออกสูง และยังพบวา คาดัชนีตาง ๆ คือ คา HI BI และ CI ในป 2561 สูงกวา ป 2560

มีเพียงตําบลสะอาดไชยศรี ท่ีในป 2561 ต่ํากวา ป 2560 แตก็ยังเสี่ยงตอการระบาดของไขเลือดออกสูง

คาความชื้นสัมพัทธ กับอุณหภูมิ เฉลี่ยระหวาง เดือนกันยายน ถึงเดือนธันวาคม ท้ัง 2 ป ใกลเคียงกัน โดย

คาความชื้นสัมพัทธเฉลี่ยอยูระหวาง 65-75% และคาอุณหภูมิเฉลี่ยอยูระหวาง 27-30 °C ซ่ึงเปนขอมูลให

ทราบไดวาเราควรเฝาระวังในการระบาดของไขเลือดออก เม่ือสํารวจจากแบบสอบถามความคิดเห็นทัศนคติตอ

การปองกันและควบคุมไขเลือดออกแสดงใหเห็นวาประชากรสวนใหญก็พอมีความรูในการปองกันการระบาด

ของไขเลือดออก แตยังมีทัศนคติท่ีผิดๆ ตอการปฏิบัติตัว ซ่ึงอาจจะสงผลตอการระบาดของไขเลือดออกได

แตเม่ือสํารวจการปฏิบัติตัวกับการสัมภาษณพบวา การปฏิบัติตัวเก่ียวกับการปองกันโรคไขเลือดออก

ประชาชนสวนใหญไมปฏิบัติตัวตามความรูท่ีไดรับ กลับละเลยพฤติกรรมบางอยางท่ีสงผลตอการระบาดของ

ไขเลือดออก

คําสําคัญ : การระบาดของไขเลือดออก ปจจัยเชิงพฤติกรรม อําเภอดอนจาน

Page 57: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

55

ช่ืองานวิจัย การศึกษาการขยายพันธุปะการังแบบยายปลูกดวยอุปกรณเรือนแหวน 3

คณะผูวิจัย นายธนกร จงเจริญพานิช นางสาวจิณณพัต พิพัฒนเจริญ

นางสาวพรรษา ดวงทิพย

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 5

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวสุนันท พุทธภูมิ

โรงเรียน พลูตาหลวงวิทยา (อบจ.ชบ.6) อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุร ี

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ผศ.ดร.นภา ตั้งเตรียมจิตม่ัน มหาวิทยาลัยบูรพา

บทคัดยอ

การขยายพันธุปะการังดวยวิธีการยายปลูกดวยอุปกรณเรือนแหวน 3 พัฒนาข้ึนเพ่ือศึกษาการรอด

ชีวิตและอัตราการเจริญเติบโตของปะการังท้ัง 4 ชนิด ไดแก ปะการังเขากวาง ปะการังพุมไม ปะการังแผนตั้ง

และปะการังแผนนอนและศึกษาสมบัติทางกายภาพของน้ําทะเล ไดแก คา pH คาความโปรงใส คาความเค็ม

และอุณหภูมิ โดยศึกษา ณ บริเวณหาดประภาคาร แหลมแสมสาร อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี (12.596962°N

100.963729°E) ซ่ึงไดกําหนดจุดศึกษา 2 จุด จุดละ 3 แปลง อัตราสวนชนิดปะการังเทากับ 3 : 3 : 3 : 3 ตอ

แปลง เก็บขอมูลการรอดชีวิตและอัตราการเจริญเติบโตของปะการัง 2 ครั้งตอเดือนและเก็บขอมูลสมบัติ

ทางกายภาพของน้ําทะเล 1 ครั้งตอเดือน จากการศึกษาพบวาไมเปนไปตามสมมติฐานท้ังหมด โดยปะการัง

เขากวางมีการรอดชีวิตรอยละ 100 ปะการังแผนตั้งและปะการังแผนนอนรอยละ 83.34 เนื่องจากมีสวนหนึ่ง

ท่ีหลุดออกจากอุปกรณเรือนแหวน 3 เพราะมีพายุและมรสุม สวนปะการังพุมไมรอยละ 61.12 โดยไมพบวา

หลุดออกจากอุปกรณ สวนอัตราการเจริญเติบโตพบวาปะการังเขากวาง ปะการังแผนตั้งและปะการังแผนนอน

มีอัตราการเจริญเติบโตอยางตอเนื่อง สวนปะการังพุมไมตายในชวงหลังของการวิจัย เนื่องจากก่ิงพันธุมีขนาด

เล็กเกินไป สําหรับสมบัติทางกายภาพของน้ําทะเลในระหวางทําการศึกษา พบวามีคาอยูในชวงเหมาะสมท่ี

ปะการังสามารถดํารงชีวิตอยูได

คําสําคัญ : อุปกรณเรือนแหวน 3 การยายปลูก ก่ิงพันธุปะการัง

Page 58: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

56

ช่ืองานวิจัย ความหลากหลายของส่ิงมีชีวิตและประสิทธิภาพการใชดินท่ีมีการทับถมของ

เศษใบไมตางชนิดบริเวณโรงเรียนรัฐราษฎรอุปถัมภเพ่ือยอยสลายใบอินทนิล

คณะผูวิจัย นางสาวพรชิตา สุขใจ นางสาวเบญจมาภรณ จันทรแปลง

นางสาวณัฐชา พระพิไชย

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนปลาย

อาจารยท่ีปรึกษา นางพรรธิภา มานิตกุล

โรงเรียน รัฐราษฎรอุปถัมภ อําเภอเมือง จังหวัดราชบุรี

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา อ.ดร.กนกกร สินมา ภาควิชาปฐพีวิทยา คณะเกษตร กําแพงแสน

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร วิทยาเขตกําแพงแสน

บทคัดยอ

การศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและประสิทธิภาพการใชดินท่ีมีการทับถมของเศษใบไมตาง

ชนิดบริเวณโรงเรียนรัฐราษฎรอุปถัมภเพ่ือยอยสลายใบอินทนิล โดยศึกษาจากดินท่ีมีการทับถมใบไม 4 บริเวณ

คือ บริเวณใตตนจามจุรี ใตตนสนประดิพัทธ ใตตนนนทรี ใตตนไผ แบงการศึกษาเปน 3 ตอน ตอนท่ี 1

ตรวจสอบสมบัติดินและปริมาณของธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมในดิน โดยนําดินมาทดสอบ

ดวยชุดตรวจสอบธาตุอาหาร N P K ในดินแบบรวดเร็วของภาควิชาปฐพีวิทยา คณะเกษตรกําแพงแสน พบวา

ปริมาณแอมโมเนียพบมากท่ีสุดในบริเวณดินตนนนทรี ปริมาณไนเตรทพบมากท่ีสุดในบริเวณดินตนสน

ประดิพัทธ ปริมาณฟอสฟอรัสพบมากท้ัง 4 บริเวณ สวนปริมาณโพแทสเซียมมีปริมาณสูงมากบริเวณ

ตนสนประดิพัทธ ตนนนทรี คาความเปนกรด-เบส ในดินบริเวณตนจามจุรี มีคา pH 7 แสดงถึงความเปนกลาง

ในดิน ตอนท่ี 2 ตรวจวัดชนิดและจํานวนสิ่งมีชีวิต โดยตรวจวัดชนิด จํานวนของสัตวหนาดิน ในดิน และ

ตรวจหาโปรโตซัว ตรวจ 2 ชวงเวลาคือเดือนกันยายน ธันวาคม ในพ้ืนท่ีขนาด 15×15 cm ลึก 10 cm

นําดินรอนผานตะแกรงตรวจหาสัตวในดินท่ีมองเห็นดวยตาเปลา การตรวจโปรโตซัว ทําการเพาะเลี้ยง

โปรโตซัวจากการนําดินจากจุดศึกษามาเพาะเลี้ยงในน้ําตมฟางเปนเวลา 7 วัน ตรวจชนิดของโปรโตซัวดวย

กลองจุลทรรศน พบวาเดือนกันยายน พบความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตมากกวาในเดือนธันวาคม บริเวณ

ตนจามจุ รี พบความหลากหลายของสัตวมาก ท่ีสุ ดพบ 11 ชนิ ด และบริ เ วณตนสนประดิ พัทธ

พบความหลากหลายของโปรโตซัวมากท่ีสุดพบ 6 ชนิด ตอนท่ี 3 ศึกษาประสิทธิภาพการใชดินท่ีมีการทับถม

ของเศษใบไมเพ่ือยอยสลายใบอินทนิล โดยนําดินจาก 4 บริเวณมาเพาะเลี้ยงบนอาหารแข็ง PDA เพ่ือ

ตรวจสอบความหลากหลายของจุลินทรีย แลวนําดินแตละบริเวณเรงขยายเชื้อ เพาะเลี้ยงในผักตบชวาแหง

นําดินจากจุดศึกษาและดินท่ีขยายเชื้อปริมาณเทากันไปคลุกเคลากับใบอินทนิลแหง 500 กรัม ท้ิงไวเปนเวลา 8

สัปดาห พบวาดินท่ีมีการทับถมของเศษใบไมบริเวณตนไผ สามารถยอยสลายใบอินทนิลไดปริมาณมากท่ีสุดถึง

245.60 กรัม คิดเปนคารอยละของใบไมท่ีถูกยอย 49.12% ดินบริเวณตนนนทรี 31.86% ดินบริเวณตนจามจุรี

23.10% และดินบริเวณตนสนประดิพัทธ 22.00% ตามลําดับ

คําสําคัญ : ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในดิน การทับถมเศษใบไม การยอยสลายใบอินทนิล

Page 59: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

57

ช่ืองานวิจัย ความสัมพันธของคุณภาพน้ํา คุณภาพดินกับการปกคลุมของหญาทะเลท่ี

ระยะหางจากชายฝงแตกตางกัน บริเวณหาดปากคลอง จังหวัดตรัง

คณะผูวิจัย นางสาวมณีรัตน หงอสกุล นางสาวธารน้ําทิพย รักษาชัย

นายอิทธิ์ จับปรั่ง

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนปลาย

อาจารยท่ีปรึกษา นางพัชรา พงศมานะวุฒิ และนางสาวจารุวรรณ ชูแทน

โรงเรียน วิทยาศาสตรจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา รศ. ดร.กฤษณะเดช เจริญสุธาสิน ี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

รศ. ดร.มัลลิกา เจริญสุธาสินี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

อาจารยอนันตนิจ ชุมศรี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

บทคัดยอ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาความสัมพันธระหวางคุณภาพดิน และคุณภาพน้ํากับ

การปกคลุมของหญาทะเลแตละชนิด ในชวงน้ําทะเลลดลงต่ําสุดระหวางเดือนพฤศจิกายน 2561 ถึงกุมภาพันธ

2562 โดยเริ่มเก็บตัวอยางท่ีระยะหาง 500 เมตรจากชายฝง จํานวน 5 แนวเสนเก็บตัวอยาง แนวละ 6 สถานี

รวมเปน 30 สถานีวัด คุณภาพดิน (แอมโมเนีย ไนเตรต ฟอสฟอรัสและความเปนกรด-เบส) และคุณภาพน้ํา

(อุณหภูมิน้ํา ความเปนกรด-เบส และคาการนําไฟฟา) ทุกสถานี ผลการศึกษาพบหญาทะเล 3 ชนิด ไดแก

หญาใบมะกรูด หญาชะเงาใบสั้นและหญาคาทะเล โดยหญาใบกรูดพบท่ีระยะ 0 เมตร รอยละ 59.33

หญาชะเงาใบสั้นท่ีระยะ 50 เมตร รอยละ 35.92 และหญาคาทะเลท่ีระยะ 200 เมตร รอยละ 14.46

ผลการวิเคราะหความสัมพันธระหวางคุณภาพดินและคุณภาพน้ํากับการปกคลุมหญาทะเลแตละชนิด พบวา

อุณหภูมิน้ําทะเลมีความสัมพันธเชิงบวกกับหญาใบมะกรูด (r=-0.350, P<0.05) และหญาชะเงาใบสั้น

(r=0.562, P<0.005) คาความเปนกรด-เบสของน้ําทะเลมีความสัมพันธเชิงลบกับหญาใบมะกรูด (r=-0.484,

P<0.05) และหญาชะเงาใบสั้น (r=-0.408, P<0.05) คาฟอสฟอรัสมีความสัมพันธเชิงลบกับหญาใบมะกรูด

(r=-0.592, P<0.005) สวนหญาคาทะเลไมพบความสัมพันธกับพารามิเตอรคุณภาพดินและน้ํา

คําสําคัญ : หญาทะเล คุณภาพดิน คุณภาพน้ํา

Page 60: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

58

ช่ืองานวิจัย ผลของการเปล่ียนแปลงสภาพอากาศตอจํานวนผูปวยไขเลือดออกและจํานวน

ลูกน้ํายุงในพ้ืนท่ีอําเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช

คณะผูวิจัย นางสาวกนกกร เพ่ิมเปยมทรัพย นางสาวทิพรดา เบิกบาน

นางสาวชวัลลักษณ สมาคม

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนปลาย

อาจารยท่ีปรึกษา นางกนกรัตน สิงหนุย

โรงเรียน วิทยาศาสตรจุฬาภรณราชวิทยาลัย นครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา รศ.ดร. กฤษณะเดช เจริญสุธาสิน ี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

รศ.ดร.มัลลิกา เจริญสุธาสินี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

อาจารยอนันตนิจ ชุมศรี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

บทคัดยอ

งานวิจัย เรื่อง ผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศตอจํานวนผูปวยไขเลือดออกและจํานวน

ลูกน้ํายุงลายในอําเภอเมืองนครศรีธรรมราช ประเทศไทย ทําการศึกษาเพ่ือสํารวจจํานวนประชากร

ลูกน้ํายุงลายท่ีมีอําเภอเมืองนครศรีธรรมราช เพ่ือศึกษาหาความสัมพันธระหวางสภาพอากาศกับจํานวน

ประชากรของลูกน้ํายุงลายและเพ่ือตรวจสอบวาพ้ืนท่ี ท่ีทําการศึกษามีความเสี่ยงตอการเกิดโรคไขเลือดออก

หรือไมจากผลการคํานวณหาคาดัชนีบานความเสี่ยงในการเกิดโรคไขเลือดออก โดยเก็บลูกน้ํายุงลายจาก

ภาชนะและแหลงน้ําในพ้ืนท่ีศึกษาจํานวน 32 ตําแหนงพ้ืนท่ีศึกษา แลวใชกลองจุลทรรศนในการจําแนกชนิด

ของลูกน้ํายุงลายและนําขอมูลท่ีไดมาเชื่อมโยงกับจํานวนผูปวยในแตละเดือนในอําเภอเมือง จังหวัด

นครศรีธรรมราช จากการผลการศึกษาประชากรลูกน้ํายุงลายท่ีพบนั้นโดยสวนใหญคือลูกน้ําของยุงลายสวน

สวนประชากรลูกน้ําของยุงลายบานพบเพียงเล็กนอย โดยมีคาดัชนีความเสี่ยงเฉลี่ยท้ังหมดคือ HI=84.38%

ซ่ึงมีคาสูงซ่ึงทาง WHO ใหเกณฑของคา HI<5% จึงมีความเสี่ยงในการเกิดไขเลือดออกและเสนแนวโนมของ

จํานวนผูปวยและความชื้นสัมพัทธมีการตัดกันครั้งแรกในชวงเดือนพฤษภาคม - เดือนมิถุนายน ซ่ึงอยูใน

ฤดูรอน และหลังการตัดกันครั้งแรก เสนแนวโนมของจํานวนผูปวยก็สูงข้ึนจนถึงจุดสองจุดและลดลงเรื่อยๆ

หลังจากการตัดกันครั้งท่ีสองกับเสนแนวโนมของความชื้นสัมพัทธท่ีมีการเพ่ิมข้ึนท่ีชากวาและหลังจาก

การตัดกันครั้งท่ีสอง เสนแนวโนมความชื้นสัมพัทธก็ยังเพ่ิมชื้นเรื่อยๆ จนกระท่ังถึงจุดสูงสุด ซ่ึงตรงขามกับ

เสนแนวโนมจํานวนผูปวยโรคไขเลือดออก ซ่ึงจุดตัดท่ีเกิดข้ึนอยูในเดือนพฤศจิกายน ซ่ึงเปนชวงตนฤดูฝน

คําสําคัญ : ลูกน้ํายุงลาย การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โรคไขเลือดออก

Page 61: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

59

ช่ืองานวิจัย แมหอบในเขตชีวมณฑลระนอง จังหวัดระนอง

คณะผูวิจัย นางสาวพิทยาภรณ มูสิกะ นางสาวเหมวดี บุญรื่น

นางสาวยลฤดี ปยะทัต

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 4

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวกัญญาลภัส ธีรพิทยานนท และนางสาวอุษาวฎี จิตราวุธ

โรงเรียน สตรีระนอง อําเภอเมือง จังหวัดระนอง

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ดร. ธัญญา พันธฤทธิ์ดํา มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

ผศ.ดร. เตือนตา ราหมาน มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

บทคัดยอ

แมหอบเปนสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งท่ีพบมากในเขตชีวมณฑลระนองแตมีจํานวนลดนอยลงจนใกลสูญพันธุ

จากการศึกษาพบวาแมหอบชวยเพ่ิมความหลากหลายของพันธุไมในพ้ืนท่ีและชวยเรงกระบวนการฟนฟู

ปาชายเลนใหเร็วข้ึน เกิดปาบกข้ึนทดแทนตามธรรมชาติในบริเวณจอมหอบ โดยแมหอบจะสรางจอมหอบจาก

การนําดินและอินทรียวัตถุท่ีอยูใตดินมากองไวบนปากรูจนเปนจอมหอบขนาดใหญและมีพันธุไมปาบกข้ึนมา

ทดแทน โดยรูปแบบโครงสรางของจอมหอบสามารถนําไปใชในการฟนฟูปาชายเลนและเพ่ิมความหลากหลาย

ของพันธุไมในพ้ืนท่ี ทางคณะผูวิจัยจึงสนใจศึกษาพฤติกรรมของแมหอบท่ีมีผลตอความสมบูรณของชีวมณฑล

ระนองและศึกษาแหลงท่ีอยูท่ีเหมาะสมในการกระจายพันธุของแมหอบ เพ่ือเปนการอนุรักษแมหอบใหคงอยูคู

จังหวัดระนอง โดยกําหนดพ้ืนท่ีสํารวจในปาชายเลน 2 แนว จํานวน 6 แปลง จากธารน้ําไหลจนถึงปาบก

ศึกษาการเจริญเติบโตของตนไม ความสูงและเสนรอบวงของตนไม รวมถึงสิ่งปกคลุมเรือนยอด พบวา พ้ืนท่ี

แปลงท่ีใกลปาบกมีขนาดและความสูงของตนไมมากท่ีสุด มีสิ่งปกคลุมเรือนยอดเฉลี่ย 75% นอกจากนี้ยังมี

การสํารวจสภาพแวดลอมโดยรอบ ไดแก สภาพอากาศ ดิน และน้ํา เพ่ือใหทราบถึงผลของการมีจอมหอบใน

พ้ืนท่ีปาชายเลน โดยพบวาพ้ืนท่ีท่ีมีจอมหอบจํานวนมากมีตนไมขนาดเล็กท่ีมีชีวิตรอด รวมถึงมีความสมบูรณ

ของตนไม มีตนไมขนาดใหญและแข็งแรง มีความสมบูรณ มีความหนาแนนของตนไมมาก ซ่ึงพบไดบริเวณใกล

ปาบกท่ีหางจากธารน้ําไหล

คําสําคัญ : แมหอบ จอมหอบ ปาชีวมณฑลระนอง

Page 62: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

60

ช่ืองานวิจัย ศึกษาความหลากหลายของส่ิงมีชีวิตบริเวณชายหาดท่ีมีเข่ือนกันคล่ืนนอกฝง

และไมมีเข่ือนกันคล่ืนนอกฝง อําเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช

คณะผูวิจัย นายณัฐพงค สุวรรณโณ นางสาวปนัฒดา ชุมทอง

นางสาวลดานุช เขียวนอย

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 5

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวเพ็ญพักตร ชวยพันธ

โรงเรียน แหลมราษฎรบํารุง อําเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ผศ.อานุช คีรีรัฐนิคม มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

อาจารยอาจารี นาโค มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

บทคัดยอ

งานวิจัยเรื่อง ศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตบริเวณชายหาดท่ีมีเข่ือนกันคลื่นนอกฝง (Offshore

Break water) และไมมีเข่ือนกันคลื่นนอกฝง (Offshore Break water) อําเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช

มีวัตถุประสงคเพ่ือ เพ่ือศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในน้ําและสิ่งมีชีวิตบริเวณชายหาดท่ีไมมี

เข่ือนกันคลื่นนอกฝง และชายหาดมีเข่ือนกันคลื่นนอก โดยดําเนินการศึกษาบริเวณ ชายหาดแพรกเมือง ตําบล

หนาสตน อําเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช และ ชายหาดจันทรแจง ตําบลเกาะเพชร อําเภอหัวไทร จังหวัด

นครศรีธรรมราช ตามลําดับ ผลจากการศึกษาปรากฏวา ดัชนีทางนิเวศวิทยาชายหาดจันทรแจง มีคาอยูท่ี 2.07

คาความชุกชุมของสิ่งมีชีวิตชายหาดจันทรแจงอยูท่ี 2.21 คาคาดัชนีความเทาเทียมบริเวณชายจันทรแจงอยูท่ี

0.71 โดยพบสิ่งมีชีวิตจํานวน 17 วงศ 17 ชนิด ไดแก สาหรายพัด สาหรายวุน เพรียงหิน หอยมะระ หอยกนแหลม

หอยหมวกจีน ไสเดือนทะเล กุงขาว หอยหวาน หอยปากกระจาด หอยปนปกผม หอยจุบแจง ปูเสฉวนบก

ปูหนุมานลายจุด ปูลม แมลงสาบทะเล ก้ัง และดัชนีทางนิเวศวิทยาชายหาดโดยชายหาดแพรกเมืองมีคานอยกวา

ชายหาดจันทรแจง มีคาอยูท่ี 0.7 คาความชุกชุมของสิ่งมีชีวิตชายหาดแพรกเมืองมีคานอยกวาชายหาดจันทรแจง

อยูท่ี 1.08 คาคาดัชนีความเทาเทียมบริเวณชายหาดแพรกเมืองมีคามากกวาชายหาดจันทรแจงอยูท่ี 0.14 โดย

ชายหาดแพรกเมืองพบสิ่งมีชีวิตท่ีหลากหลายนอยกวาชายหาดจันทรแจงท้ังจํานวนวงศ และจํานวนชนิดอยูท่ี

12 วงศ 12 ชนิด ซ่ึงสามารถสรุปไดวา เข่ือนกันคลื่นนอกฝง ทําใหชายฝงมีความหลากหลายทางนิเวศวิทยา และ

ความชุกชุมทางชนิดมีมากกวาบริเวณชายหาดท่ีไมมีเข่ือนกันคลื่นนอกฝง แตบริเวณท่ีมีเข่ือนกันคลื่นนอกฝง นั้น

มีคาดัชนีความเทาเทียมนอยกวาชายหาดท่ีไมมีเข่ือนกันคลื่นนอกฝ ง ผลการศึกษาในครั้งนี้ แสดงผล

ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในชวงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2561 เทานั้น การดําเนินการศึกษาครั้งตอไป

อาจดําเนินการศึกษาตลอดท้ังป ทุกฤดูกาล ไมวาจะเปนกอนฤดูแลง ขณะฤดูแลง หลังฤดูแลง กอนฤดูฝน

ขณะฤดูฝน หลังฤดูฝน เปนตน

คําสําคัญ : ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ชายหาด เข่ือนกันคลื่นนอกฝง

Page 63: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

61

ช่ืองานวิจัย การศึกษาความสมดุลระหวางปริมาณการปลอยกาซคารบอนไดออกไซดของ

รถยนตและรถจักรยานยนตกับปริมาณการดูดซับกาซคารบอนไดออกไซดของ

ตนไมภายในโรงเรียนชุมแพศึกษา

คณะผูวิจัย นางสาวรวินทนิภา มุงตอ นายพิสิษฐ ดีบุญมี ณ ชุมแพ

นางสาวอภิสรา จิตอรุโณทัย

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 4

อาจารยท่ีปรึกษา นายอภิวัฒน ศรีกัณหา

โรงเรียน ชุมแพศึกษา อําเภอชุมแพ จังหวัดขอนแกน

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ผูชวยศาสตราจารย ดร.สุรจิตร พระเมือง มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย

บทคัดยอ

การศึกษาความสมดุลระหวางปริมาณการปลอยกาซคารบอนไดออกไซดของรถยนตและ

รถจักรยานยนตกับปริมาณการดูดซับกาซคารบอนไดออกไซดของตนไมภายในโรงเรียนชุมแพศึกษา

มีจุดประสงคเพ่ือศึกษาความสมดุลระหวางการปลอยกาซคารบอนไดออกไซดของรถยนตและรถจักรยานยนต

กับปริมาณการดูดซับกาซคารบอนไดออกไซดของตนไมภายในโรงเรียนชุมแพศึกษา โดยทําการตรวจวัดความ

สูงของตนไมตามวิธีการของ GLOBE Protocol และ เก็บขอมูลจํานวน ความสูงและมวลของตนไม ขอมูล

จํานวน ยี่หอและรุนของรถยนตและจํานวนของรถจักรยานยนต จากการศึกษาพบวาปริมาณการปลอย

กาซคารบอนไดออกไซดของรถยนตและรถจักรยานยนตท้ังหมด 541 คัน มีการปลอยกาซคารบอนไดออกไซด

ท้ังหมด 36.66 กิโลกรัม และการดูดซับกาซคารบอนไดออกไซดพบวาตนไมภายในโรงเรียนชุมแพศึกษาจํานวน

533 ตนมีปริมาณการดูดซับกาซคารบอนไดออกไซดปริมาณ 2,714,265.61 กิโลกรัม จะเห็นไดวาปริมาณ

การปลอยกาซคารบอนไดออกไซดของรถยนต และจักรยานยนตภายในโรงเรียนชุมแพศึกษา นอยกวาปริมาณ

การดูดซับกาซคารบอนไดออกไซดอยางเห็นไดชัด โดยปริมาณการปลอยกาซคารบอนไดออกไซดของรถยนต

และรถจักรยานยนตจะมีคานอยกวาปริมาณการดูดซับกาซคารบอนไดออกไซดของตนไม 74,038.90 เทา

คําสําคัญ : การดูดซับกาซคารบอนไดออกไซด การปลดปลอยกาซคารบอนไดออกไซด กาซเรือนกระจก

ความสูงและมวลของตนไม

Page 64: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

62

ช่ืองานวิจัย ผลของการสับกลบพืชตระกูลถั่วอายุตางกันตอการปรับปรุงดินเค็มบริเวณ

ดอนปาชา บานดอนคา อําเภออูทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

คณะผูวิจัย นางสาวนันทิดา เหมือนใจนึก นางสาวมณฑกานต ศรีสุราษฎร

นางสาวรัชนีกร ปองกัน

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 5

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวเรวดี ปลิวพิมาย

โรงเรียน ดอนคาวิทยา อําเภออูทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา อาจารย ดร.ธวัชชัย อินทรบญุชวย

บทคัดยอ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาผลของการสับกลบพืชตระกูลถ่ัวอายุตางกันตอการเปลี่ยนแปลง

สมบัติทางเคมีของดินเค็มและระยะเวลาท่ีเหมาะสมหลังการสับกลบ โดยนําดินจากบริเวณดอนปาชา บานดอนคา

อําเภออูทอง จังหวัดสุพรรณบุรี สับกลบดวยพืชตระกูลถ่ัว 4 ชนิด คือ ถ่ัวพรา ถ่ัวพุม ถ่ัวแปป และปอเทือง

เปนระยะเวลา 30 วัน 40 วัน และ 50 วัน

ผลปรากฏวา ดินเค็มกอนการปรับปรุงมีคาพีเอชเทากับ 7.41 คาการนําไฟฟา 4793 µs/cm ไมมีธาตุ

ไนโตรเจน แตพบฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมปริมาณเล็กนอย จากนั้นสับกลบพืชตระกูลถ่ัวชนิดตางๆ พบวา

การสับกลบมีผลตอการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของดินเค็ม คือ มีคาความเปนกรด-เบส (pH) เพ่ิมข้ึน

ท่ีระยะเวลา 50 วัน ถ่ัวพรามีคาพีเอชสูงสุด 8.23 และคาการนําไฟฟามีแนวโนมลดลง โดยถ่ัวพรามีคา

การนําไฟฟานอยสุด 450.33 µs/cm ท่ีระยะเวลาหลังการสับกลบ 40 วัน ถ่ัวพุมและปอเทืองมี

ปริมาณไนโตรเจนเพ่ิมข้ึนจาก ระดับ N0 เปน N1 และท่ีระยะเวลาหลังการสับกลบ 30 วัน ถ่ัวแตละชนิดมี

ปริมาณฟอสฟอรัส เพ่ิมข้ึนจาก P1 เปน P4 แตธาตุโพแทสเซียมไมเกิดการเปลี่ยนแปลง เม่ือนําดินหลัง

การปรับปรุงมาปลูกขาวพบวา ขาวมีแนวโนมเจริญเติบโต แตไมสมบูรณ เนื่องจากมีธาตุอาหารไมเพียงพอตอ

ความตองการ

คําสําคัญ : ดินเค็ม ถ่ัวพรา ถ่ัวพุม ถ่ัวแปป ปอเทือง

Page 65: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

63

ช่ืองานวิจัย คุณสมบัติของดินตอการเจริญเติบโตของหญาเล้ียงวัวชนในพ้ืนท่ีตําบลลานขอย

อําเภอปาพะยอม จังหวัดพัทลุง

คณะผูวิจัย นางสาวศตพร ดําหนู นางสาวสขิลา คงมาก

นางสาวสุกัลยา มณีโชติ

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนปลาย

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวกาญจนา ชวยเตา และนายมะแว หมัดหยํา

โรงเรียน นิคมควนขนุนวิทยา อําเภอปาพะยอม จังหวัดพัทลุง

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา อาจารย ดร.สุนิสา คงประสิทธิ ์ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

ดร.จันวรรณ นอยศรี มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

บทคัดยอ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงคเพ่ือ 1.) เพ่ือศึกษาคุณสมบัติตางๆของดิน ตอการเจริญเติบโตของหญาเลี้ยง

วัวชน ในตําบลลานขอย 2.) เพ่ือศึกษาการเจริญเติบโตของหญาเลี้ยงวัวชนบริเวณดินพ้ืนท่ีราบกับบริเวณดิน

พ้ืนท่ีเนินเขาในตําบลลานขอย จังหวัดพัทลุง แบงกลุมตัวอยางดินท่ีศึกษาออกเปน 2 กลุม คือ ดินบริเวณพ้ืนท่ี

ราบและพ้ืนท่ีเนินเขา โดยทําการศึกษาตรวจวัดสีดิน การยึดตัวของดิน เนื้อดิน อุณหภูมิของดิน

คาความเปนกรดเบสในดิน ความชื้นในดิน และความอุดมสมบูรณของดิน โดยใชวิธีการตรวจวัดตามหลัก

วิธีดําเนินการของ GLOBE และศึกษาการเจริญเติบโตของหญาเลี้ยงวัวชน (หญาอะควาตั้ม, หญาเนเปยร)

โดยวัดความสูงของตน ความกวางของพุม จํานวนตนตอกอ และจํานวนใบตอตน โดยเก็บขอมูล 6 ระยะ

แตละระยะหางกัน 15 วัน เปนเวลา 3 เดือน ผลการศึกษาพบวา คุณสมบัติตางๆ ของดินในพ้ืนท่ีราบและ

พ้ืนท่ีเนินเขาท่ีมีความตางกัน ไดแก อุณหภูมิของดิน พ้ืนท่ีราบมีอุณหภูมิสูงกวาดินพ้ืนท่ีเนินเขา 1.50°C

เนื้อดินในพ้ืนท่ีราบเปนดินรวนปนดินเหนียว (Clay Loam) สวนดินพ้ืนท่ีเนินเขา เปนดินรวนเหนียวปนทราย

(Sandy Clay Loam) การยึดตัวของดินพ้ืนท่ีราบแบบแนน (Firm) สวนการยึดตัวของดินพ้ืนท่ีเนินเขาแบบ

รวนซุย (Friable) ความชื้นในดินพ้ืนท่ีราบมีความชื้นมากกวาพ้ืนท่ีเนินเขา 0.09 กรัม/กรัม ความสมบูรณ

ของดิน พบเฉพาะฟอสฟอรัสท่ีมีคาแตกตางกัน โดยในพ้ืนท่ีราบมีฟอสฟอรัสมากกวาพ้ืนท่ีเนินเขา ทําให

การเจริญเติบโตของหญาเลี้ยงวัวชน (หญาอะควาตั้ม, หญาเนเปยร) บริเวณดินพ้ืนท่ีราบกับบริเวณดินพ้ืนท่ีเนิน

เขาในตําบลลานขอย จังหวัดพัทลุง มีการเจริญเติบโตท่ีแตกตางกัน จากการศึกษา พบวาหญาอะควาตั้ม

เจริญเติบโตไดดีบริเวณดินพ้ืนท่ีราบ โดยเปรียบเทียบจากความสูง ความกวางของพุม จํานวนตนตอกอ จํานวน

ใบตอตน จะมีคาสูงกวาพ้ืนท่ีเนินเขา และหญาเนเปยรเจริญเติบโตไดดีบริเวณดินเนินเขา โดยเปรียบเทียบจาก

ความสูง ความกวางของพุม จํานวนตนตอกอ จํานวนใบตอตน จะมีคาสูงกวาพ้ืนท่ีราบ

คําสําคัญ : หญาเลี้ยงวัวชน สมบัติของดิน ตําบลลานขอย

Page 66: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

64

ช่ืองานวิจัย การศึกษาผลของกากตะกอนหมอกรอง (Filter cake) จากโรงงานผลิตน้ําตาล

ตอสมบัติของดินและการเจริญเติบโตของผักบุงในดินเส่ือมคุณภาพ

คณะผูวิจัย นายธนธรณ แกวเรือง นางสาวนภาดล ก่ิงไทร

นางสาวอินทรัตน ทิมพิทักษสกุล

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 5

อาจารยท่ีปรึกษา นางศิวพร กาจันทร

โรงเรียน บรรหารแจมใสวิทยา 3 อําเภอดานชาง จังหวัดสุพรรณบุรี

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา อาจารยอัญธิชา พรมเมืองคุก และคณะ มหาวิทยาลัยเกษตร กําแพงแสน

บทคัดยอ

การศึกษาผลของกากตะกอนหมอกรองจากโรงงานผลิตน้ําตาลตอสมบัติของดินและการเจริญเติบโต

ของผักบุงในดินเสื่อมคุณภาพ มีวัตถุประสงคเพ่ือ 1) ศึกษาผลของกากตะกอนหมอกรองจากโรงงานผลิต

น้ําตาลตอสมบัติทางกายภาพและเคมีของดิน และ 2) ศึกษาสมบัติทางกายภาพและเคมีของดินหลังใสกาก

ตะกอนหมอกรองท่ีมีผลตอการเจริญของผักบุง พ้ืนท่ีศึกษา คือ แปลงปลูกมันสําปะหลังท่ีปลูกมันสําปะหลัง

มาแลวอยางนอย 3 ปติดตอกัน หมูท่ี 1 ตําบลดานชาง อําเภอดานชาง จังหวัดสุพรรณบุรี ผูวิจัยไดดําเนิน

การศึกษาเปน 2 สวน คือ 1) ศึกษาสมบัติทางกายภาพและทางเคมีของดินจากแปลงปลูกมันสําปะหลังและ

สมบัติของกากตะกอนหมอกรอง 2) ศึกษาสมบัติทางกายภาพและเคมีของดินจากแปลงปลูกมันสําปะหลัง

ภายหลังการใสกากตะกอนหมอกรองท่ีมีผลตอการเจริญเติบโตของผักบุง พบวา สีและลักษณะเนื้อของ

ตัวอยางดิน (A1-A5) เปน Dark yellowish brown และ loamy sand ตามลําดับ สีของตัวอยางกากตะกอน

หมอกรอง (B1-B5) เปน Black ความชื้นของตัวอยางดินและกากตะกอนหมอกรองหลังใสกากตะกอนหมอ

กรองมีคาเพ่ิมข้ึนทุกชุดการทดลอง คา pH หลังใสกากตะกอนหมอกรองเพ่ิมข้ึนเล็กนอย สําหรับคา OM (%)

ของชุดทดสอบ E1 และ E2 มีคาเพ่ิมข้ึน สวน E3, E4 และ E5 มี OM (%) ลดลง คา Nitrate ของชุดทดลอง

E3 มีคาลดลง สวนชุดการทดลองอ่ืนมีคาสูงข้ึน คาธาตุอาหารหลักในกลุมของ Phosphorus และ Potassium

มีปริมาณสูงมาก สําหรับผลการศึกษาการเจริญเติบโตของผักบุงทุกชุดการทดลองพบวา ผักบุงมีความสูง

จํานวนใบ ความยาวและความกวางของใบแกเพ่ิมมากข้ึนทุกชุดการทดลองโดย E2 เปนชุดการทดลองท่ีมี

ความสูงและความยาวของใบมากท่ีสุด E5 มีจํานวนใบมากท่ีสุดและแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิต ิ

คําสําคัญ : ฟลเตอรเคก การเจริญเติบโตของผักบุง ดินเสื่อมคุณภาพ

Page 67: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

65

ช่ืองานวิจัย การศึกษาความหลากหลายของแพลงกตอนพืชเพ่ือบงช้ีคุณภาพน้ําในแหลงน้ํา

อําเภอปทุมรัตต จังหวัดรอยเอ็ด

คณะผูวิจัย นางสาวณัฐนิชา ดวนพล นางสาวศศินา วงษประเทศ

นายศิริชัย ประภาวะนัง

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนปลาย

อาจารยท่ีปรึกษา นายสุธินันท อุธรตัน

โรงเรียน ปทุมรัตตพิทยาคม อําเภอปทุมรัตต จังหวัดรอยเอ็ด

บทคัดยอ

การศึกษาความหลากหลายของแพลงกตอนพืชบงชี้ คุณภาพน้ํา และศึกษาความสัมพันธของ

แพลงกตอนพืชและคุณภาพน้ําทางกายภาพในแหลงน้ํา อําเภอปทุมรัตต จังหวัดรอยเอ็ด โดยเก็บตัวอยางจาก

แหลงน้ํา 4 แหลง ในชวงเดือนตุลาคม ถึง ธันวาคม พ.ศ. 2561 โดยใชถุงลากแพลงกตอน พบแพลงกตอนพืช

6 ดิวิชัน 24 สกุล ดิวิชันท่ีพบมากท่ีสุด คือ Chlorophyta พบ 8 สกุล สกุลเดน คือ Pediastrum sp.

Staurastrum sp. และ Scenedesmus sp รองลงมาคือ Cyanophyta สกุลเดน คือ Anabaena sp. และ

Microcystis sp. การประเมินคุณภาพน้ําโดยใชแพลงกตอนสกุลเดน ตามลําดับคะแนน AARL-PP พบวา

สวนสาธารณะเกาะลอยหนองบัวแดงมีคุณภาพน้ําปานกลาง สระน้ําโรงเรียนปทุมรัตต ลําดับคะแนน AARL-

PP มีคุณภาพน้ําปานกลางถึงไมดี และสระน้ําบานดงชาง และอางเก็บน้ําหวยจานใต ลําดับคะแนน AARL-PP

มีคุณภาพน้ําไมดี ผลการการศึกษาคุณภาพน้ําทางกายภาพและทางเคมี พบวา อุณหภูมิน้ํา 28 – 32

องศาเซลเซียส ความโปรงใสของน้ํา 16.13-58.07 เซนติเมตร คาความเปนกรด-ดาง 7.04-8.84 และปริมาณ

ออกซิเจนท่ีละลายในน้ํา (DO) สวนสาธารณะเกาะลอยหนองบัวแดงตามมาตรฐานคุณภาพน้ําผิวดิน จัดอยูใน

คุณภาพน้ําประเภทท่ี 2 สวนสระน้ําโรงเรียนปทุมรัตต สระน้ําบานดงชาง และอางเก็บน้ําหวยจานใต

จากปริมาณออกซิเจนท่ีละลายในน้ําตามมาตรฐานคุณภาพน้ํา จัดอยูในคุณภาพน้ําประเภทท่ี 3 ตามมาตรฐาน

คุณภาพน้ําของกรมควบคุมมลพิษ คําสําคัญ : แพลงกตอนพืช การละลายน้ําของออกซิเจน คุณภาพน้ําทางกายภาพ

Page 68: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

66

ช่ืองานวิจัย การทําแผนท่ีกิจกรรมของประชาชนบริเวณริมฝงแมน้ําปง จังหวัดเชียงใหม

ท่ีมีผลตอคุณภาพของน้ําเพ่ือการวางแผนการปรับปรุงคุณภาพน้ํา

คณะผูวิจัย นางสาววรรษชล คํามีมูล นางสาวนันทนภสั รอดแกว

นายเกียรติฉัตร ทัศนวิโรจน

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนปลาย

อาจารยท่ีปรึกษา นางสาวกิตติยา ประวัง

โรงเรียน ปรินสรอยแยลสวิทยาลยั อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม

บทคัดยอ

การศึกษากิจกรรมของประชาชนบริเวณริมฝงแมน้ําปง จังหวัดเชียงใหม ท่ีมีผลตอคุณภาพของน้ํา

มีวัตถุประสงคเพ่ือวิเคราะหกิจกรรมของประชาชนบริเวณริมฝงแมน้ําปงกับคุณภาพน้ํา โดยการสํารวจและ

เก็บขอมูลตาม GLOBE Protocal และการบันทึกกิจกรรมของประชาชนและสภาพแวดลอมริมฝงแมน้ําปง

ตั้งแตบริเวณสะพานสมโภช 700 ป ไปจนถึงบริเวณอนุสรณสถานพระเจากาวิละ และประมวลผลสรางเปน

แผนท่ีแสดงความสัมพันธของกิจกรรมมนุษยท่ีมีผลตอคุณภาพแหลงน้ํา ท่ีสามารถระบุกิจกรรมของประชาชน

วามีผลตอคุณภาพน้ําจาการสํารวจคา DO คา pH และ ความโปรงใสของน้ํา บริเวณตั้งแตชุมชนสันผีเสื้อ

จนถึงทาเรือวัดฮาม วามีคาต่ํากวาบริเวณอ่ืน กิจกรรมของประชาชนบริเวณริมฝงแมน้ําปงจึงมีผลตอคุณภาพ

น้ําในแมน้ําปงและบริเวณใกลเคียงกับการทํากิจกรรมนั้น ๆ โดยบริเวณท่ีมีการทํากิจกรรมของประชาชนท่ี

เก่ียวของกับแมน้ําปงมากจะสงผลใหคุณภาพน้ําต่ํากวาบริเวณท่ีไมมีการทํากิจกรรมของประชาชน และ

สามารถนําขอมูลไปใชในการปรับปรุงกิจกรรมของประชาชนริมฝงแมน้ําปงได เชน บริเวณสะพานปาตัน มี

การปลอยน้ําเสีย และมีผูคนนั่งตกปลา อาจจะทําใหปลาท่ีไดมีสารปนเปอนซ่ึงเปนอันตรายตอรางกาย เปนตน

คําสําคัญ : กิจกรรมของประชาชน คุณภาพของน้ํา

Page 69: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

67

ช่ืองานวิจัย โลหะหนักในน้ําท่ีมีความสัมพันธกับคุณภาพน้ํา แพลงกตอนและปลาบริเวณ

คลองปากประ อําเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

คณะผูวิจัย นางสาวจิรสุตา วัชชิระศิริกุล นางสาวจิรภิญญา พุทธสวัสดิ์

นางสาวปณาลี ชวยแกว

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนปลาย

อาจารยท่ีปรึกษา นางภาณินี วรเนติวุฒ ิ และนายภานุวัฒน ปะรา

โรงเรียน ปาพยอมพิทยาคม อําเภอปาพะยอม จังหวัดพัทลุง

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา อาจารย ดร.นันทิดา สุธรรมวงศ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

อาจารย ดร.ธัญญา พันธฤทธิ์ดํา มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

อาจารยอนันตนิจ ชุมศรี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

อาจารยพีรดา ภักดีพิน มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

บทคัดยอ

การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงคเพื่อวิเคราะหโลหะหนักในนํ้าบริเวณในคลองและบริเวณปากคลองปากประและ

หาความสัมพันธระหวางปริมาณโลหะในนํ้ากับคุณภาพนํ้า แพลงกตอนและจํานวนปลาแตละชนิด โดยเก็บ

ตัวอยางนํ้า คุณภาพนํ้า แพลงกตอน และจํานวนและชนิดของปลา บริเวณละ 6 จุดศึกษา รวม 12 จุดศึกษา

ต้ังแตเดือนเมษายนถึงเดือนกันยายน 2561 ผลการศึกษาพบโลหะหนัก จํานวน 10 ชนิด ไดแก เหล็ก

(Fe) สังกะสี (Zn) แบเรียม (Ba) แมงกานีส (Mn) ตะกั่ว (Pb) สารหนู (As) แคดเมียม (Cd) โครเมียม (Cr)

แคลเซียม (Ca) และแมกนีเซียม (Mg) ปริมาณความเขมขนของเหล็กในนํ้าเดือนเมษายนถึงเดือนกันยายนมี

คาเฉล่ียอยูในชวง 0.49-2.02 มก./ล. สังกะสีในนํ้าเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนมีคาเฉล่ียอยูในชวง 0.11-

1.10 มก./ล. ตะกั่วในนํ้าเดือนมิถุนายนมีคาเฉล่ียเทากับ 0.058 มก./ล. สารหนูในนํ้าเดือนมิถุนายนมีคาเฉล่ียอยู

ในชวง 0.011-0.031 มก./ล. แคดเมียมในนํ้าเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม และเดือนกันยายนคาเฉล่ียอยู

ในชวง 0.001-0.005 มก./ล. โดยมีคาเกินเกณฑมาตรฐานคุณภาพนํ้าผิวดินและแคลเซียม ในนํ้าเดือนเมษายนถึงเดือน

พฤษภาคมและเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน คาเฉล่ียอยูในชวง 5.88-9.78 มก./ล. ซึ่งมีปริมาณนอยกวา 10

มก./ล. ซึ่งแสดงวานํ้าน้ันมีความสมบูรณตํ่า คาคุณภาพนํ้าบางพารามิเตอรมีความสัมพันธทางลบกับแบเรียม

สังกะสี แมงกานีส ตะกั่ว โครเมียมและสารหนู และมีความสัมพันธทางบวกกับแมกนีเซียม แบเรียมและโครเมียม

จํานวนแพลงกตอนบางชนิดมีความสัมพันธทางบวกกับแบเรียม (Ba) แมงกานีส (Mn) สังกะสี (Zn) โครเมียม (Cr)

แมกนีเซียม (Mg) และมีความสัมพันธทางลบกับแคดเมียม สวนโปรโตซัว Frontonia มีความสัมพันธทางบวกกับ

สังกะสี แบเรียม และแมงกานีส จํานวนปลาตะเพียน และปลาซิวมีความสัมพันธทางบวกกับสารตะกั่ว ปลาลิงมี

ความสัมพันธทางบวกกับแคลเซียม ปลากระทุงเหวมีความสัมพันธทางลบกับแมงกานีส ปลาซิวแกวมีความสัมพันธ

ทางลบกับสังกะสี และจํานวนปลาท่ีพบบริเวณคลองปากประมีความสัมพันธทางบวกกับเหล็ก การศึกษาน้ีเปน

ขอมูลท่ีสําคัญในการสรางความตระหนักท้ังในเรื่องการจัดการปญหาส่ิงแวดลอมและการดูแลสุขภาพของ

ประชาชน

คําสําคัญ : โลหะหนัก คุณภาพนํ้า แพลงกตอน คลองปากประ

Page 70: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

68

ช่ืองานวิจัย การประเมินและเปรียบเทียบคุณภาพน้ําชายฝงในบริเวณพ้ืนท่ีอาวบานดอน

อําเภอไชยา จังหวัดสุราษฎรธาน ี

คณะผูวิจัย นายธวัชชัย ชินทัตโต นายธาดา ฉายสินสอน

นายศิวกร กองประดิษฐ

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 5

อาจารยท่ีปรึกษา นายเดชาพัชร สมหมาย

โรงเรียน มอ.วิทยานุสรณ สุราษฎรธานี อําเภอมะขามเตี้ย จังหวัดสุราษฎรธานี

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ผศ.ดร.ศิริวรรณ ขจรกสิรัตน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร วิทยาเขตสุราษฎรธาน ี

บทคัดยอ

การประเมินและเปรียบเทียบคุณภาพน้ําชายฝงในบริเวณพ้ืนท่ีอาวบานดอน อําเภอไชยา จังหวัด

สุราษฎรธานี เนื่องจากในบริเวณพ้ืนท่ีอาวบานดอนเปนพ้ืนท่ีท่ีมีการบุกรุกและลักลอบทําฟารมหอยในบริเวณ

ชายฝงเปนจํานวนมาก ทางผูวิจัยจึงไดทําการตรวจสอบคุณภาพน้ําในบริเวณพ้ืนท่ีอาวบานดอน โดยศึกษา

คุณภาพน้ําของอาวบานดอนเบื้องตนและไดกําหนดคาท่ีใชในการศึกษา 3 พารามิเตอร ไดแก คาอุณหภูมิ

คาความเปนกรด-ดาง คา DO ท้ังในและนอกอาวบานดอน ซ่ึงจะทําการเก็บขอมูลเปนจํานวนท้ังหมด 3 ครั้ง

และนําขอมูลท่ีไดจากการวิเคราะหผลโดยการหา คาเฉลี่ย คาสวนเบี่ยงมาตรฐานและตั้งสมมุติฐาน

เปรียบเทียบหาความแตกตาง จากผลการวิจัยพบวา อุณหภูมิของแหลงน้ํานั้นมีคาอยูในชวง 23-28 °C

คาความเปนกรด-ดางคามีคาอยูในชวง 5-6 ซ่ึงทุกคาเปนไปตามเกณฑมาตรฐานท่ีกรมควบคุมมลพิษกําหนด

และคา DO นั้นอยูในชวง 4.5-8 mg/L การทดสอบสมมุติฐานวิเคราะหความแตกตางของคาพารามิเตอรพบวา

การเปรียบเทียบคาพารามิเตอรท้ัง 3 ประเภท ภายในอาวและนอกอาวไมมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญ

ทางสถิติ ยกเวนคา DO ภายในอาวของแหลมพุมเรียงกับทาปูน และแหลมพุมเรียงกับแมน้ําลีเล็ดท่ีมีความ

แตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ

คําสําคัญ : ปริมาณออกซิเจนท่ีละลายในน้ํา (DO) อุณหภูมิ คาความเปนกรด-ดาง อาวบานดอน

Page 71: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

69

ช่ืองานวิจัย ปจจัยทางดานส่ิงแวดลอมท่ีมีผลตอการเพ่ิมปริมาณลูกน้ํายุงสูการกําจัดโดยใช

killing ball จากพืชวงศ Euphorbiaceae

คณะผูวิจัย นายแสงเพชร บุญเกิด นางสาวจินดามาตร เอกฉัตร

นางสาวธารารัตน แสงแกว

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 4

อาจารยท่ีปรึกษา นายศกร พรหมทา

โรงเรียน ราษีไศล อําเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ

บทคัดยอ

งานวิจัยเรื่องปจจัยทางดานสิ่งแวดลอมท่ีมีผลตอการเพ่ิมปริมาณลูกน้ํายุงสูการกําจัดโดยใช Killing

ball จากพืชวงศ Euphorbiaceae มีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาปจจัยท่ีสงผลตอการเพ่ิมปริมาณลูกน้ํายุง

เพ่ือศึกษาการกําจัดลูกน้ํายุงโดยใช Killing ball จากพืชวงศ Euphorbiaceae จากการศึกษาปจจัยท่ีสงผลตอ

การเพ่ิมปริมาณลูกน้ํายุงพบวาชุมชนชนบทมีจํานวนลูกน้ํายุงกนปลองและลูกน้ํายุงลายมากท่ีสุด มีคา pH

เฉลี่ย 8.2 ซ่ึงอยูในระยะท่ีเพ่ิมปริมาณลูกน้ํายุง จากการสํารวจบริเวณแหลงน้ํากักขังท่ีมีดินรวนและจอกหูหนู

จะพบลูกน้ํายุงมากท่ีสุด ชนิดของภาชนะท่ีพบลูกน้ํายุงมากท่ีสุดคือ ภาชนะท่ีทําจากพลาสติกรูปรางและ

ลักษณะของภาชนะท่ีพบลูกน้ํายุงมาอาศัยเยอะมากท่ีสุด คือ รูปรางวงกลม การศึกษาประสิทธิภาพการกําจัด

ลูกน้ํายุงลายโดยใช Killing ball จากพืชวงศ Euphorbiaceae พบวา Killing ball จากสบูดํามีคาปริมาณ

ออกซิเจนท่ีละลายในน้ํา 7.10 มิลลิกรัม/ลิตร ซ่ึงมีคาสูงกวา Killing ball จากพืชชนิดอ่ืน

คําสําคัญ : ปจจัยทางดานสิ่งแวดลอม ลูกน้ํายุง Killing ball พืชวงศ Euphorbiaceae

Page 72: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

70

ช่ืองานวิจัย ความชุกชุมของลูกน้ํายุงในฤดูกาลทองเท่ียวของแหลงทองเท่ียวหาดปากเมง

จังหวัดตรัง

คณะผูวิจัย นางสาวปนปนัทธ พงษศิริกุล นางสาวศลิษา สงพราหมณ

นางสาวชนกนันท โอมาก

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนปลาย

อาจารยท่ีปรึกษา นางพัชรา พงศมานะวุฒ ิ และนางสาวศกุนตลา รอดรัก

โรงเรียน วิทยาศาสตรจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง อําเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา รศ. ดร.กฤษณะเดช เจริญสุธาสิน ี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

รศ. ดร.มัลลิกา เจริญสุธาสินี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

อาจารยอนันตนิจ ชุมศรี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ

บทคัดยอ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาชนิดและจํานวนของลูกน้ํายุงในสถานท่ีประกอบการแหลง

ทองเท่ียวบริเวณหาดปากเมง อําเภอสิเกา จังหวัดตรัง ดําเนินการสุมเก็บตัวอยางลูกน้ํายุงจากสถาน

ประกอบการบริเวณแหลงทองเท่ียวหาดปากเมง ในเดือนกุมภาพันธ 2562 จํานวน 23 แหง เก็บลูกน้ํายุงรอบๆ

สถานประกอบการโดยใชกระชอนท่ีมีขนาดตาขาย 0.55 มิลลิเมตร และวัดคาคุณภาพน้ํา ไดแก อุณหภูมิ

บริเวณผิวน้ํา อุณหภูมิน้ํา คาการนําไฟฟา และคาความเปนกรด-เบส จากนั้นจึงทําการดองลูกน้ํายุงใน

หองปฏิบัติการ จัดจําแนกชนิดและสกุล พรอมนับจํานวน

จากการศึกษาพบสถานประกอบการบริเวณแหลงทองเท่ียวหาดปากเมง จํานวน 16 แหงท่ีพบลูกน้ํา

พบแหลงเพาะพันธุท่ีพบลูกน้ํายุงท้ังหมด 7 ประเภท ไดแก โองขนาดเล็ก โองขนาดใหญ ถังเก็บน้ําพลาสติก

บอซีเมนต ถาดรองกระถาง บอบัว และคูน้ํา โดยพบลูกน้ํายุงมากท่ีสุดในสถานประกอบการประเภทโรงแรม/

รีสอรท พบจํานวนลูกน้ํายุงจํานวน 1,491 ตัวในคูน้ํา รองลงมาเปนรานอาหารพบจํานวน 166 ตัว พบลูกน้ํายุง

จํานวน 4 สายพันธุ คือ ยุงลายบาน ยุงลายสวน ยุงรําคาญและยุงยักษ โดยพบลูกน้ํายุงรําคาญในคูน้ํามากท่ีสุด

จํานวน 1,250 ตัว รองลงมาเปนถังเก็บน้ําพลาสติก จํานวน 142 ตัว แหลงเพาะพันธุของลูกน้ํายุงลายสวนมีคา

ความเปนกรด-เบสมากท่ีสุด มีคาฉลี่ยเทากับ 8.58±0.18 คาการนําไฟฟา อุณหภูมิผิวน้ํา และอุณหภูมิน้ําของ

แหลงเพาะพันธุของยุงยักษมีคาสูงสุด มีคาเฉลี่ยเทากับ 712.67±273.67 µS/cm 30.02±0.91°C และ

32.33±0.10°C ตามลําดับ

คําสําคัญ : ภาชนะ ลูกน้ํายุงรําคาญ ลูกน้ํายุงลาย ลูกน้ํายุงยักษ คุณภาพน้ํา สถานประกอบการ

Page 73: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

71

ช่ืองานวิจัย การศึกษาประสิทธิภาพในการดูดซับสังกะสีดวยหญารูซ่ี หญาคา และหญาแฝก

รวมกับจลนศาสตรไฟฟา

คณะผูวิจัย นางสาวกุลเกต สุขผล นายกิตติธัช เบาสิงห

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 5

อาจารยท่ีปรึกษา นายธีระวุฒิ จันทะพันธ

โรงเรียน วิทยาศาสตรจุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร อําเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร

บทคัดยอ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงคเพ่ือ 1) เพ่ือศึกษาความสามารถของหญารู ซ่ี หญาคา และหญาแฝก

ในการดูดซับสังกะสีท่ีปนเปอนในดิน 2) เพ่ือศึกษาความตางศักยไฟฟาของไฟฟากระแส และระยะเวลาใน

การใหกระแสไฟฟาท่ีเหมาะสมท่ีจะชวยเพ่ิมประสิทธิภาพในการดูดซับสังกะสี ของหญารูซ่ี หญาคา และหญา

แฝก 3) เพ่ือศึกษาความหนาแนนของหญารูซ่ี หญาคา และหญาแฝก ท่ีเหมาะสมท่ีจะชวย เพ่ิม ประสิทธิภาพ

ในการดูดซับสังกะสี 4) เพ่ือเปรียบเทียบความสามารถในการดูดซับสังกะสีระหวางหญารูซ่ี หญาคา และ

หญาแฝก ผลการทดลองพบวาการเติมสังกะสีท่ีความเขมขน 300 มิลลิกรัมตอกิโลกรัมน้ําหนักแหงของดินจะ

ทําใหพืชท้ังสามชนิดมีอัตราการรอดชีวิตและมวลชีวภาพมากท่ีสุดซ่ึงถือเปนความเขมขนท่ีเหมาะสมท่ีหญาท้ัง

สามชนิดสามารถบําบัดได การปลูกพืชท่ีความหนาแนน 12 ตนตอพ้ืนท่ีหนาตัดกระบะมีปริมาณสังกะสีรวม

มากท่ีสุดถือเปนสภาวะท่ีเหมาะสมท่ีจะใชหญารูซ่ี หญาคา และหญาแฝกบําบัดดินท่ีปนเปอนสังกะสีไดอยางมี

ประสิทธิภาพสูงท่ีสุด ปริมาณสังกะสีท่ีสะสมในหญารูซ่ี หญาคา และหญาแฝกจะมีคาสูงสุดเม่ือมีการให

กระแสไฟฟาท่ีความตางศักย 2 โวลต เชนเดียวกันจึงสรุปไดวา ความตางศักยไฟฟาท่ีเหมาะสมจะชวยเพ่ิม

ประสิทธิภาพการบําบัดสูงสุด หญารูซ่ีจะมีความสามารถในการสะสมสังกะสีไดสูงท่ีสุดเม่ือใหกระแสไฟฟาเปน

ระยะเวลา 1 ชั่วโมงตอวันท้ัง สวนหญาคาและหญาแฝก จะมีความสามารถในการสะสมสังกะสีไดสูงท่ีสุดเม่ือ

ใหกระแสไฟฟาเปนระยะเวลา 3 ชั่วโมงตอวัน เม่ือเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการดูดซับสังกะสีพบวาพืชท่ีมี

ประสิทธิภาพในการดูดซับสังกะสีสูงท่ีสุดจากการทดลองคือ หญารูซ่ี รองลงมาคือหญาคา และหญาแฝก

ตามลําดับ และการประยุกตใชจลนศาสตรไฟฟาในการบําบัดดินรวมกับหญารูซ่ี หญาคา และหญาแฝก จะชวย

เพ่ิมประสิทธิภาพในการดูดซับสังกะสีเพ่ิมมากข้ึน

คําสําคัญ : หญารูซ่ี หญาคา หญาแฝก สังกะสี พืชไฮเปอรแอกคิวมิวเลเตอร

Page 74: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

72

ช่ืองานวิจัย ผลของการใชสารชีวภาพ (พด.6) ตอคุณภาพน้ําและส่ิงมีชีวิตในน้ํา

คณะผูวิจัย นายฐาปกรณ เสรจ็กิจ นายภูวมินทร เปยมเสน

นายเจษฎาธร พลายละหาร

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 4

อาจารยท่ีปรึกษา นายธนภัทร เทพสถิตย

โรงเรียน ศรีประจันต “เมธีประมุข” อําเภอศรีประจันต จังหวัดสุพรรณบุรี

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา อาจารย ดร.สิรินภา ชวงโอภาส และคณะ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร กําแพงแสน

บทคัดยอ

การศึกษาและเปรียบเทียบผลการใชสารชีวภาพ (พด.6) ตอคุณภาพน้ําและสิ่งมีชีวิตในน้ํา ซ่ึงทําให

ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ําท้ังดานกายภาพ เคมี และจํานวนโปรโตซัวในน้ําท้ังกอนการใชสารชีวภาพ

และหลังการใชสารชีวภาพ รวมถึงเพ่ือเปนแนวทางการพัฒนาคุณภาพน้ําดวยวิธีการทางธรรมชาติโดยใช

สารชีวภาพ (พด.6) พ้ืนท่ีศึกษาคือสระน้ําในโรงเรียน มีขนาดพ้ืนท่ี 645 ตารางเมตร ลึก 1.5 เมตร มี

การเก็บตัวอยางน้ําตามแนวทางหลักวิธีดําเนินการตรวจวัดของ GLOBE ในชวงกอนและหลังการใชสารชีวภาพ

(พด.6) โดยนําตัวอยางน้ํามาวิเคราะหคุณภาพน้ําดวยเครื่องมือตาง ๆ และตรวจสอบสิ่งมีชีวิตในน้ําดวยกลอง

จุลทรรศนใชแสงแบบธรรมดา อางอิงตามดัชนีแสดงมลพิษของน้ําท่ีมีสารอินทรียสูง หรือ Palmer’s organic

pollution index (สิริพร, 2546) เม่ือใชสารชีวภาพแลว พบวาคาเฉลี่ยพารามิเตอรท่ีบงชี้คุณภาพน้ํา

ดานกายภาพและดานเคมีสูงกวาระดับความเขมขนท่ีเหมาะสมของเกณฑคุณภาพมาตรฐานน้ําเพ่ือ

การคุมครองทรัพยากรสัตวน้ําจืด กรมควบคุมมลพิษ และหากพิจารณาจากผลรวมคาดัชนีมลพิษแลวจะพบวา

ในน้ํามีสารอินทรียปริมาณต่ํา ซ่ึงบงบอกถึงความเหมาะสมตอการดํารงชีพของสิ่งมีชีวิตในน้ําท่ีดียิ่งข้ึน

คําสําคัญ : สารชีวภาพ สิ่งมีชีวิตในน้ํา คุณภาพน้ํา

Page 75: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

73

ช่ืองานวิจัย การสํารวจปจจัยทางส่ิงแวดลอมท่ีมีผลตอการเจริญเติบโตของสาหราย

สไปโรไจรา (เทาน้ํา)ในแหลงน้ําธรรมชาติของอําเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ

คณะผูวิจัย นางสาวจันทิมา สารขันธ นางสาวอัญชนา แชมชื่น

นางสาวอินทรกานต คําตานิตย

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนปลาย

อาจารยท่ีปรึกษา นางหนึ่งนุช เลิศสงคราม

โรงเรียน สามชัย อําเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา ดร.ศิณีวัณย พิทักษทิม คณะวิทยาศาสตร มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธาน ี

บทคัดยอ

ปจจัยทางสิ่งแวดลอมท่ีมีผลตอการเจริญเติบโตของไขน้ําในแหลงน้ําธรรมชาติของอําเภอสามชัย

จังหวัดกาฬสินธุ จากการศึกษาในแหลงน้ํา 3 แหลง ไดแก แหลงท่ี 1 สระน้ําท่ีบานหนองกุงกลาง แหลงท่ี 2

สระน้ําบานคําหุง และแหลงท่ี 3 สระน้ําบานหนองแซง ตั้งแตเดือนพฤษภาคม ถึง กรกฎาคม 2561

โดยเก็บขอมูลปจจัยทางสิ่งแวดลอมท่ีมีผลตอการเจริญเติบโตของไขน้ํา คือการสังเกตแสงแดด สีและกลิ่น

ความโปรงใส ระดับความลึก อุณหภูมิ และคาความเปนกรด-เบสของน้ําท่ีมีผลตอการเจริญเติบโตของไขน้ํา

ซ่ึงใชระยะเวลาในการศึกษาท้ังสิ้นจํานวน 3 เดือน จากการเก็บขอมูลภาคสนามเดือนละ 1 ครั้ง จากแหลงน้ํา

ธรรมชาติ 3 แหลง พบวาแหลงน้ําบริเวณท่ีพบไขน้ําเปนน้ํานิ่งมีไขน้ําลอยอยูท่ัวผิวน้ํา ไมคอยมีพืชประเภท

ลอยน้ําอยู ปริมาณแสงแดดท่ีสองลงบริเวณสระน้ําไมไดมีผลตอการเจริญเติบโตของไขน้ําเนื่องจากสระท่ีพบ

ไขน้ํามีท้ังสระท่ีแสงแดดสองท่ัวและสระท่ีแสงแดดสองถึงเพียงรําไร น้ําบริเวณท่ีพบไขน้ําคอนขางใสจากการวัด

ความโปรงใสแสงสองผานไดท่ีระดับความลึกเฉลี่ย 46.36 เซนติเมตร สวนความลึกของน้ําในสระท่ีพบไขน้ําอยู

ท่ีประมาณ 117.77 เซนติเมตร แตความลึกของน้ําไมไดมีผลตอการเจริญเติบโตของไขน้ําเนื่องจากบริเวณท่ีพบ

ไขน้ํามีตั้งแตชายน้ํากระจายไปจนท่ัวท้ังสระ อุณหภูมิของสระน้ํา ท่ีพบไขน้ําเฉลี่ยแลวอยู ท่ีประมาณ

28 องศาเซลเซียส มีคาความเปนกรด-เบสอยูท่ี pH 6 ซ่ึงมีสภาพเปนกรดออนๆ

คําสําคัญ : เทาน้ํา สาหรายสไปโรไจราม อําเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ

Page 76: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

74

ช่ืองานวิจัย การศึกษาการใชปุยเพ่ือปรับปรุงชุดดินเพชรบุรีเพ่ือเพ่ิมผลผลิตพริก

คณะผูวิจัย นายธนวุฒิ ขํากล่ํา นางสาวกนกวรรณ เดชมานนท นางสาวกมรวรรณ แกมแตม

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปท่ี 4

อาจารยท่ีปรึกษา นางพชรมน นวลดี และนางสาวดุษฎีพร สังขสอาด

โรงเรียน หันคาพิทยาคม อําเภอหันคา จังหวัดชัยนาท

นักวิทยาศาสตรท่ีปรึกษา อาจารยดร.วิภาวรรณ ทายเมือง และคณะอาจารยโครงการ STEM EDUCATION

ภาควิชาปฐพีวิทยา คณะเกษตร กําแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร

บทคัดยอ

งานวิจัยเรื่อง การศึกษาการใชปุยเพื่อปรับปรุงชุดดินเพชรบุรีเพื่อเพิ่มผลผลิตพริก มีวัตถุประสงคเพื่อ (1)

ศึกษาเปรียบเทียบการใชปุยสูตรตางๆ ในการปรับปรุงดินเพื่อการปลูกพริก (2) ศึกษาเปรียบเทียบการเจริญเติบโต

ของตนพริกในการปลูกดวยปุยสูตรตางกัน ดําเนินการทดลองโดยแบงเปน 2 ตอน ตอนท่ี (1) เปรียบเทียบสมบัติ

ของดินเพชรบุรีท่ีปรับปรุงดวยปุยอินทรีย ปุยเคมี 5 ตํารับ ตํารับท่ี 1 (T1) ไมใสปุย ตํารับท่ี 2 (T2) ใสปุยอินทรีย

สูตรท่ีประกอบดวยมูลไกผสมเปลือกถั่วลิสงและถาน 1:1:0.15 อัตรา500Kg /ไร (17g/กระถาง)ตํารับท่ี3 (T3)

ใสปุยอินทรียสูตรท่ีประกอบดวยมูลไกผสมเปลือกถั่วลิสงและถาน 1:1:0.15 อัตรา 1000Kg/ไร (34g/กระถาง)+

ปุยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา50Kg/ไร (1.50g/กระถาง) ตํารับท่ี 4 (T4) ใสปุยอินทรียสูตรท่ีประกอบดวยมูลไก

ผสมเปลือกถั่วลิสงและถาน1:1:0.15 อัตรา 1000Kg/ไร (34g/กระถาง) ตํารับท่ี 5 (T5) ใสปุยเคมีสูตร 15-15-15

อัตรา 50 Kg/ไร (1.50 g/กระถาง) ตํารับละ3ซ้ํา วิเคราะหคากรด-ดาง คาN-P-K สี เน้ือดิน ความหนาแนน

ความชื้นของดิน อุณหภูมิดิน(ดินกอนทดลอง)และหลังการใสปุย 1 เดือน และหลังการปลูกพริก 6 สัปดาห ตอนท่ี

(2) เปรียบเทียบการเจริญเติบโตของพริกขี้หนูดวยปุยอินทรียและปุยเคมี 5 ตํารับตํารับละ 3 ซ้ํา วัดความสูง

ขนาดลําตน ในวันแรกของการปลูก ใสปุยตามตํารับการทดลองท้ัง 5 ตํารับ สัปดาหละ 1 ครั้งวัดความเจริญเติบโต

ของตนพริกขี้หนู ไดแก ความสูง ขนาดลําตน จํานวนใบ ลักษณะของพริกขี้หนู ทุกสัปดาห เปนเวลา 6 สัปดาห

พบวาชุดดินเพชรบุรีเปนดินท่ีมีเน้ือดิน Sic สีดิน dark brown 7.5YR4/2 มีคาความเปนกรดปานกลาง

ความหนาแนน 1.16 ความช้ืนรอยละ 10.03 มีคาฟอสฟอรัสสูง โพแทสเซียมปานกลาง และแอมโมเนียม

ปานกลาง เมื่อปรับปรุงดินเพชรบุรีตามตํารับการทดลอง T2 T3 T4 T5 ดิน มีคาแอมโมเนียมสูงมาก สวนคา

ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมคงเดิมเหมือนดินควบคุม (T1) ดินตํารับ T2 T4 มีความเปนกรดเพิ่มขึ้น ดินตํารับท่ี T2

T3 T4 T5 มีคาความหนาแนนลดลงและคาความช้ืนเพิ่มขึ้นโดยในตํารับท่ี T4 มีความหนาแนนนอยท่ีสุดคือ 1.04

และมีความความช้ืนสูงท่ีสุดคือรอยละ 17.29 หลังจากปลูก6สัปดาห ตํารับ T3 ยังคงรักษาคาโพแทสเซียมอยูใน

ระดับสูงสวนตํารับ T1 T2 T4 T5 คาโพแทสเซียมลดลง คาแอมโมเนียมของตํารับ T2 T3 T4 T5 มีคาเพิ่มขึ้นอยู

ในระดับสูงมาก สวนคากรดดาง คาความหนาแนน คาความช้ืน คงเดิมเหมือนในสัปดาหกอนปลูก แ ล ะ พ บ ว า

สวนสูง ขนาดลําตนและจํานวนใบเฉล่ียเพิ่มขึ้นทุกตํารับ T1 T2 ดอกเริ่มออกดอกเมื่อสัปดาหท่ี 4 สวนตํารับ T3

T4 T5 ออกดอกเมื่อสัปดาหท่ี 5 ในตํารับท่ี 3 มีสวนสูง ขนาดของลําตนเพิ่มมากท่ีสุดคือสวนสูงเพิ่มขึ้นรอยละ

590.48 ขนาดลําตนเพิ่มขึ้นรอยละ317.50 และ T2 มีจํานวนใบเพิ่มขึ้นมากท่ีสุดคือรอยละ 750.00

คําสําคัญ : ปุยอินทรีย ปุยเคมี ชุดดินเพชรบุรี พริก

Page 77: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

75

ช่ืองานวิจัย การวิจัยคุณภาพน้ําทะเลสาบสงขลาฝงตลาดสดอําเภอปากพะยูน

คณะผูวิจัย นายมินทรธาดา เรืองศรี นางสาวปนัดดา คงทรัพย

นางสาวอภิญญา อนันตรัตนกุล

ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนปลาย

อาจารยท่ีปรึกษา นางมาลี เพ็ชรตีบ

โรงเรียน หารเทารังสีประชาสรรค อําเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง

บทคัดยอ

โครงงานวิทยาศาสตรเรื่องวิจัยคุณภาพน้ําทะเลสาบสงขลาชายฝงตลาดสดอําเภอปากพะยูน การวิจัย

นี้มีจุดมุงหมายเพ่ือศึกษาลักษณะทางกายภาพและลักษณะทางเคมีของน้ําในทะเลสาบสงขลาบริเวณริมชายฝง

ตลาดสดอําเภอปากพะยูนและบริเวณริมชายฝงท่ีไมมีชุมชน เพ่ือศึกษาระบบนิเวศของน้ําในทะเลสาบสงขลา

บริเวณริมชายฝงตลาดสดอําเภอปากพะยูน และบริเวณริมชายฝงท่ีไมมีชุมชน และเพ่ือศึกษาคุณภาพน้ําหรือ

น้ําเสียของน้ําทะเลสาบสงขลาบริเวณริมฝงตลาดอําเภอปากพะยูน และบริเวณริมชายฝงท่ีไมมีชุมชน และ

หาแนวทางการปองการรวมถึงวิธีการแกไข โดยแบงการศึกษาออกเปน 3 ตอน ดังนี้ ตอนท่ี 1 ศึกษาลักษณะ

ทางกายภาพและลักษณะทางเคมีของน้ําในทะเลสาบสงขลาในบริเวณริมชายฝงตลาดสดอําเภอปากพะยูนและ

บริเวณริมชายฝงท่ีไมมีชุมชน โดยใชพ้ืนท่ี 1 ตารางเมตร จากริมชายฝงท่ีจะใชการศึกษา ตอนท่ี 2 ศึกษา

ระบบนิเวศของทะเลสาบสงขลาบริเวณริมชายฝงตลาดสดอําเภอปากพะยูน และบริเวณริมชายฝงท่ีไมมีชุมชน

ตอนท่ี 3 ศึกษาคุณภาพน้ําหรือน้ําเสียของน้ําทะเลสาบสงขลาบริเวณริมฝงตลาดอําเภอปากพะยูน และบริเวณ

ริมชายฝงท่ีไมมีชุมชน และหาแนวทางการปองการรวมถึงวิธีการแกไขโดยการบําบัดน้ําเสียดวยผักตบชวา

จากผลการวิจัยพบวา ลักษณะทางกายภาพและลักษณะทางเคมีของทะเลสาบสงขลาบริเวณริมชายฝงท่ีไมมี

ชุมชนจะมีลักษณะท่ีดีกวาบริเวณริมชายฝงตลาดสด สวนระบบนิเวศท่ีเหมาะสมแกการอาศัยอยูของสิ่งมีชีวิต

คือบริเวณริมชายฝงท่ีไมมีชุมชน ทําใหมีความอุดมสมบูรณมากกวาบริเวณริมชายฝงตลาดสดอําเภอปากพะยูน

และจากการศึกษาปญหาน้ําเสียของน้ําบริเวณริมชายฝงตลาดสด เม่ือนําน้ําเสียไปบําบัดพบวาน้ํามีคุณภาพ

ดีข้ึน

คําสําคัญ : ชายฝงตลาดสด อําเภอปากพะยูน คุณภาพน้ํา

Page 78: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส

76

คณะผูจัดทํา

1. นายวรวรงค รักเรืองเดช สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

2. นางปาริฉัตร พวงมณี สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

3. นายณรงค แสงแกว สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

4. นางยุพาพร ลาภหลาย สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

5. นางสาวสมรศรี กันภัย สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

6. นางสาวสุวินัย มงคลธารณ สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

7. นางสาวลลิดา อํ่าบัว สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

8. นางสาวนิสากรณ แสงประชุม สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

9. นางสาวศิริพร เหลาวานิชย สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

10. นางสาวดุษฎี นัยวัฒนกุล สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

11. นายมณเฑียร กําบัง สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

12. นายสุริยา พรหมจิตร สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

13. นางสาวกฤชนก อูวิเชียร สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

14. นายสุนทร พรมมงคล สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

15. นายอริยวรรธน มลัยเถาว สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

16. นายณัฐพงษ ศรีเมือง สถาบันสงเสริมการสอนวทิยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

17. นางสาวสุจิตรา นาวัน สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

18. นายอรรถพล พวงขาว สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)

รวบรวมและเรียบเรียงเอกสารประกอบการประชุม

นางยุพาพร ลาภหลาย

นางสาวนิสากรณ แสงประชุม

ผูสนับสนุนการประชุมวิชาการ

มูลนิธิ พสวท.

Page 79: สารบัญglobethailand.ipst.ac.th/images/source/SRC_Proceeding/... · 2019-06-06 · Research Competition 9 โดยมีวัตถุประสงค เพื่อส