agricultural sci. j. (suppl.) : ) ว. วิทย. กษ. (พิเศษ) · 2013. 1. 29. ·...

4
Agricultural Sci. J. 43 : 3 (Suppl.) : 498 - 501 ( 2012 ) ว. วิทย. กษ. 43 : 3 (พิเศษ) : 498 - 501 ( 2555 ) การเพาะเลียงเนือเยื อและการส่งถ่ายยีน antisense PPO เพื อแก้ปัญหาอาการไส้สีนําตาลในผลสับปะรด Tissue Culture and Transformation of Antisense PPO to Reducing Blackheart Symptom in Pineapple มนฑิณี กมลธรรม 1 สุภาวดี ชนะพาล 1 อนวัช สุวรรณกุล 1 และ บวร ตันติวรชัย 1 Montinee Kamoltham 1 , Supavadee Chanapan 1 , Anawat Suwanagul 1 and Borworn Tontiworachai 1 Abstract Internal browning is an important limitation for export of fresh pineapple. It is a physiological disorder caused by low temperature storage of pineapple. The symptom is commonly related to polyphenol oxidase (PPO) activity. In this study, antisense RNA technology was applied to suppress PPO expression. Tissue culture on pineapple cv. Trad seethong (Queen) and Smooth cayenne were initially developed. Our results showed that pineapple crown could be sterilized by bleaching with 15% clorox followed by 5% clorox for 15 minutes in each concentration. Lateral bud of pineapple crown was successfully regenerated on MS medium. Percentage of callus induction from plantlet was 92.885% and callus size was 1-3 cm on MS medium supplemented with 0.4 mg/L 2,4-D and 0.8 mg/L TDZ. The best medium for plant regeneration from callus was MS medium supplemented with 0.4 mg/L 2,4-D. A study of antibiotic effect on callus proliferation revealed that 30 mg/L hygromycin inhibited callus growth and caused callus death at 80%, while 100-400 mg/L cefotaxime had no effect on callus growth. After gene transfer, GUS activities were detected and 8-10% of calli were able to tolerate hygromycin. Gene transfer was confirmed by PCR amplifications of 35S and NOS regions. Keywords: pineapple, tissue culture, transformation, polyphenol oxidase บทคัดย่อ การส่งออกสับปะรดสดมีข้อจํากัดทีสําคัญคือ อาการไส้สีนํ าตาลทีเกิดจากการเก็บรักษาสับปะรดทีอุณหภูมิตํระหว่างการขนส่ง ซึงเกิดจากกระบวนการทํางานของเอนไซม์ polyphenol oxidase (PPO) การวิจัยนี ได้นําเทคโนโลยีทางด้าน พันธุวิศวกรรมมาใช้ในการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยใช้เทคโนโลยี antisense RNA เพือยับยังการทํางานของเอนไซม์ PPO เริจากการพัฒนาเทคนิคการเพาะเลียงเนือเยือสับปะรดพันธุ ์ตราดสีทองและปัตตาเวีย พบว่าสามารถฟอกฆ่าเชื อทีผิวจุกสับปะรด โดยใช้คลอร็อกซ์ 15% ตามด้วย 5% เป็นเวลาความเข้มข้นละ 15 นาที ตาข้างจากจุกสามารถเจริญเป็นต้นได้ในอาหารสูตร MS และชักนําให้ต้นอ่อนเกิดแคลลัสได้ดีทีสุดในอาหารสูตร MS ทีเติม 2,4-D ความเข้มข้น 0.4 มก./ล. ร่วมกับ TDZ ความ เข้มข้น 0.8 มก./ล. สามารถชักนําให้เกิดแคลลัสได้สูงถึง 92.85% และแคลลัสมีขนาดประมาณ 1-3 ซม. สูตรอาหารทีเหมาะสม ในการชักนําให้แคลลัสเกิดต้นคืออาหารสูตร MS ทีเติม 2,4-D ความเข้มข้น 0.4 มก./ล.จากการทดสอบประสิทธิภาพของสาร ปฏิชีวนะต่อการเจริญของเนื อเยือพบว่า hygromycin ความเข้มข้น 30 มก./ล. มีผลยับยังการเจริญของแคลลัสและทําให้ แคลลัสตายถึง 80% แต่ cefotaxime ความเข้มข้น 100-400 มก./ล.ไม่มีผลต่อการเจริญของแคลลัส จากการส่งถ่ายยีน antisense PPO สู ่แคลลัสสับปะรดโดยใช้ Agrobacterium พบว่า แคลลัสสามารถต้านทานต่อ hygromycin ได้ 8-10% และ พบการแสดงออกของ GUS gene จากการตรวจสอบผลการส่งถ่ายยีนโดยเทคนิค PCR บริเวณ 35S และ NOS พบการ สอดแทรกของยีนทีส่งถ่ายในดีเอ็นเอของพืช คําสําคัญ: สับปะรด เพาะเลี ยงเนื อเยืการส่งถ่ายยีน polyphenol oxidase คํานํา สับปะรด (Ananas comosus Merr.) เป็นพืชเศรษฐกิจทีสําคัญอย่างหนึงของไทย โดยมีเนื อทีเพาะปลูกรวมทัง ประเทศประมาณ 601,000 ไร่ ปี หนึงๆ สามารถผลิตสับปะรดได้ประมาณ 1.9 ล้านตัน มีมูลค่าการส่งออกทังในรูปผลสดและ แปรรูปปีละกว่า 20,000 ล้านบาท เนืองจากสับปะรดเป็นสินค้าทีเน่าเสียง่าย เพือให้ผลสับปะรดสดคงคุณภาพหลังการเก็บ เกียวไว้ให้นานขึนจึงมีการเก็บรักษาสับปะรดทีอุณหภูมิตํแต่เนืองจากสับปะรดเป็นไม้ผลเขตร้อน ปัญหาทีพบคือการเกิด 1 ฝ่ ายเทคโนโลยีการเกษตร, สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย 1 Agricultural Technology Department, Thailand Institute of Science and Technology Research.

Upload: others

Post on 12-Mar-2021

1 views

Category:

Documents


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: Agricultural Sci. J. (Suppl.) : ) ว. วิทย. กษ. (พิเศษ) · 2013. 1. 29. · Tissue culture on pineapple cv. Trad seethong (Queen) and Smooth cayenne were initially

Agricultural Sci. J. 43 : 3 (Suppl.) : 498-501 (2012) ว. วิทย. กษ. 43 : 3 (พเิศษ) : 498-501 (2555)

การเพาะเลี ยงเนื อเยื�อและการส่งถ่ายยีน antisense PPO เพื�อแก้ปัญหาอาการไส้สีนํ าตาลในผลสับปะรด

Tissue Culture and Transformation of Antisense PPO to Reducing Blackheart Symptom in Pineapple

มนฑณีิ กมลธรรม1 สุภาวดี ชนะพาล1 อนวัช สุวรรณกุล1 และ บวร ตันตวิรชัย1

Montinee Kamoltham1, Supavadee Chanapan1, Anawat Suwanagul1 and Borworn Tontiworachai1

Abstract

Internal browning is an important limitation for export of fresh pineapple. It is a physiological disorder caused by low temperature storage of pineapple. The symptom is commonly related to polyphenol oxidase (PPO) activity. In this study, antisense RNA technology was applied to suppress PPO expression. Tissue culture on pineapple cv. Trad seethong (Queen) and Smooth cayenne were initially developed. Our results showed that pineapple crown could be sterilized by bleaching with 15% clorox followed by 5% clorox for 15 minutes in each concentration. Lateral bud of pineapple crown was successfully regenerated on MS medium. Percentage of callus induction from plantlet was 92.885% and callus size was 1-3 cm on MS medium supplemented with 0.4 mg/L 2,4-D and 0.8 mg/L TDZ. The best medium for plant regeneration from callus was MS medium supplemented with 0.4 mg/L 2,4-D. A study of antibiotic effect on callus proliferation revealed that 30 mg/L hygromycin inhibited callus growth and caused callus death at 80%, while 100-400 mg/L cefotaxime had no effect on callus growth. After gene transfer, GUS activities were detected and 8-10% of calli were able to tolerate hygromycin. Gene transfer was confirmed by PCR amplifications of 35S and NOS regions. Keywords: pineapple, tissue culture, transformation, polyphenol oxidase

บทคัดย่อ

การสง่ออกสบัปะรดสดมีข้อจํากดัที�สําคญัคือ อาการไส้สีนํ �าตาลที�เกิดจากการเก็บรักษาสบัปะรดที�อณุหภมูิตํ�าระหวา่งการขนสง่ ซึ�งเกิดจากกระบวนการทํางานของเอนไซม์ polyphenol oxidase (PPO) การวิจยันี �ได้นําเทคโนโลยีทางด้านพนัธุวิศวกรรมมาใช้ในการแก้ปัญหาดงักลา่ว โดยใช้เทคโนโลยี antisense RNA เพื�อยบัยั �งการทํางานของเอนไซม์ PPO เริ�มจากการพฒันาเทคนิคการเพาะเลี �ยงเนื �อเยื�อสบัปะรดพนัธุ์ตราดสีทองและปัตตาเวีย พบวา่สามารถฟอกฆา่เชื �อที�ผิวจกุสบัปะรดโดยใช้คลอร็อกซ์ 15% ตามด้วย 5% เป็นเวลาความเข้มข้นละ 15 นาที ตาข้างจากจกุสามารถเจริญเป็นต้นได้ในอาหารสตูร MS และชกันําให้ต้นออ่นเกิดแคลลสัได้ดีที�สดุในอาหารสตูร MS ที�เติม 2,4-D ความเข้มข้น 0.4 มก./ล. ร่วมกบั TDZ ความเข้มข้น 0.8 มก./ล. สามารถชกันําให้เกิดแคลลสัได้สงูถงึ 92.85% และแคลลสัมีขนาดประมาณ 1-3 ซม. สตูรอาหารที�เหมาะสมในการชกันําให้แคลลสัเกิดต้นคืออาหารสตูร MS ที�เติม 2,4-D ความเข้มข้น 0.4 มก./ล.จากการทดสอบประสิทธิภาพของสารปฏิชีวนะตอ่การเจริญของเนื �อเยื�อพบวา่ hygromycin ความเข้มข้น 30 มก./ล. มีผลยบัยั �งการเจริญของแคลลสัและทําให้แคลลสัตายถงึ 80% แต ่ cefotaxime ความเข้มข้น 100-400 มก./ล.ไมมี่ผลตอ่การเจริญของแคลลสั จากการสง่ถ่ายยีน antisense PPO สูแ่คลลสัสบัปะรดโดยใช้ Agrobacterium พบวา่ แคลลสัสามารถต้านทานตอ่ hygromycin ได้ 8-10% และพบการแสดงออกของ GUS gene จากการตรวจสอบผลการสง่ถ่ายยีนโดยเทคนิค PCR บริเวณ 35S และ NOS พบการสอดแทรกของยีนที�สง่ถ่ายในดีเอน็เอของพืช คาํสาํคัญ: สบัปะรด เพาะเลี �ยงเนื �อเยื�อ การสง่ถ่ายยีน polyphenol oxidase

คาํนํา สบัปะรด (Ananas comosus Merr.) เป็นพืชเศรษฐกิจที�สําคญัอยา่งหนึ�งของไทย โดยมีเนื �อที�เพาะปลกูรวมทั �ง

ประเทศประมาณ 601,000 ไร่ ปีหนึ�งๆ สามารถผลติสบัปะรดได้ประมาณ 1.9 ล้านตนั มีมลูค่าการสง่ออกทั �งในรูปผลสดและแปรรูปปีละกวา่ 20,000 ล้านบาท เนื�องจากสบัปะรดเป็นสนิค้าที�เน่าเสียง่าย เพื�อให้ผลสบัปะรดสดคงคณุภาพหลงัการเก็บเกี�ยวไว้ให้นานขึ �นจงึมีการเก็บรักษาสบัปะรดที�อณุหภมูิตํ�า แตเ่นื�องจากสบัปะรดเป็นไม้ผลเขตร้อน ปัญหาที�พบคือการเกิด

1 ฝ่ายเทคโนโลยีการเกษตร, สถาบนัวิจยัวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย 1 Agricultural Technology Department, Thailand Institute of Science and Technology Research.

Page 2: Agricultural Sci. J. (Suppl.) : ) ว. วิทย. กษ. (พิเศษ) · 2013. 1. 29. · Tissue culture on pineapple cv. Trad seethong (Queen) and Smooth cayenne were initially

ว. วิทยาศาสตร์เกษตร ปีที� 43 ฉบบัที� 3 (พิเศษ) กนัยายน-ธนัวาคม 2555 การเพาะเลี�ยงเนื�อเยื�อ 499

อาการสะท้านหนาวหรือไส้สีนํ �าตาล (black heart) เกิดกบัสบัปะรด ที�เก็บที�อณุหภมูิตํ�ามากกวา่ 1 สปัดาห์ แล้วนํามาเก็บที�อณุหภมูิห้องระหวา่งการวางจําหน่าย เอน ไซม์ที�มีบทบาทสําคญัตอ่การเกิดอาการดงักลา่วคือ Polyphenol oxidase (PPO)

อาการไส้สีนํ �าตาลเกิดจาก PPO กระตุ้นการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชนัของ phenols เป็น 0-quinones แล้วเกิด polymerization เป็นเมด็สีทําให้เกิดสีนํ �าตาล (Nicolas et al., 1994) วตัถปุระสงค์ของการทํางานวิจยัครั �งนี �คือวิจยัและพฒันาเทคโนโลยีชีวภาพในการแก้ไขปัญหาอาการไส้สีนํ �าตาลในผลสบัปะรดสดภายหลงัการเก็บรักษาในอณุหภมูิตํ�า โดยการสง่ถ่ายยีน antisense PPO เข้าสูส่บัปะรด และเพื�อให้ได้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาอาการไส้สีนํ �าตาลในผลสบัปะรดสดเพื�อการสง่ออกในอนาคต

อุปกรณ์และวิธีการ

1. การเพาะเลี ยงเนื อเยื�อสับปะรด นําสว่นจกุของสบัปะรดพนัธุ์ตราดสีทองและปัตตาเวียมาฟอกฆา่เชื �อในคลอร็อกซ์ 15% และ 5% ความเข้มข้นละ

เวลา 15 นาที ตามลําดบั จากนั �นล้างด้วยนํ �ากลั�นปลอดเชื �อ 3 5 ครั �ง ครั �งละ นาที ตดัสว่นตาข้างไปเพาะเลี �ยงในอาหารสตูร MS เพื�อชกันําให้เกิดเป็นต้น จากนั �นนําต้นออ่นของสบัปะรดมาตดัใบออกให้หมด ตดัสว่นลําต้นให้มีความยาวประมาณ 0.5 ซม. เพาะเลี �ยงในอาหารสตูร MS ที�เติม 2,4-dichlorophenoxyacetic acid ความเข้มข้น 0, 0.4, และ 0.8 มก./ล. ร่วมกบั TDZ (thidiazural) ความเข้มข้น 0, 0.4 และ 0.8 มก./ล. เพาะเลี �ยงเป็นเวลา 60 วนั สงัเกตการเกิดแคลลสั จากนั �นทดลองการชกันําให้แคลลสัเกิดต้นโดยนําแคลลสัสบัปะรดพนัธุ์ตราดสีทองมาตดัให้ได้ขนาดประมาณ 1 ซม. เพาะเลี �ยงในอาหารสตูร MS ที�ไม่เติมฮอร์โมน์ และอาหารสตูร MS ที�เติมฮอร์โมน์ 2,4-D ความเข้มข้น 0.4, และ 0.8 มก./ล. เพาะเลี �ยงที�อณุหภมูิ 25+2°C ให้แสง 8 ชม./วนั เป็นเวลา 30 วนั

2. ศกึษาอทิธิพลของสารปฏชีิวนะต่อการเจริญของแคลลัสสับปะรด ศกึษาอิทธิพลของ hygromycin ตอ่การเจริญของแคลลสัสบัปะรดโดยนําแคลลสัสบัปะรดขนาดประมาณ 1 ซ.ม.มา

เพาะเลี �ยงในอาหารสตูร MS ที�เติม 2,4-D 0.4 มก./ล. ร่วมกบั TDZ 0.8 มก./ล. และเติม hygromycin ที�ความเข้มข้น 0, 10, 20, 30, 40 และ 50 มก./ล. เพาะเลี �ยงเป็นเวลา 30 วนั ดกูารเจริญเติบโตของแคลลสัและอตัราการรอดชีวิต

ศกึษาอิทธิพลของ cefotaxime ตอ่การเจริญของแคลลสัสบัปะรดโดยนําแคลลสัสบัปะรดขนาดประมาณ 1 ซ.ม. มา เพาะเลี �ยงในอาหารสตูร MS ที�เติม 2,4-D 0.4 มก./ล. ร่วมกบั TDZ 0.8 มก./ล. และเติม cefotaxime ความเข้มข้น 0, 100, 200, 300, 400 และ 500 มก./ล. เพาะเลี �ยงเป็นเวลา 30 วนั ดกูารเจริญเติบโตของแคลลสัและอตัราการอดชีวิต

3. การส่งถ่ายยีน antisense PPO สู่ สับปะรดพันธ์ุตราดสีทองและปัตตาเวีย นําเชื �อ Agrobacterium สายพนัธุ์ EHA105 ที�มียีน antisense PPO มาเลี �ยงในอาหารเหลว LB ให้มีคา่ OD

600 =

0.5-0.8 จากนั �นนําแคลลสัจากสบัปะรดทั �ง 2 พนัธุ์มาตดัให้เป็นชิ �นเลก็ขนาดประมาณ 0.2 มม. นํามาบม่ร่วมกบัสารละลาย Agrobacterium ที�เตรียมไว้ โดยเขยา่เป็นระยะที�อณุหภมูิ 25°C เป็นเวลา 15 นาที จากนั �นนําแคลลสัมาซบัเชื �อออกโดยใช้ทิชชูปลอดเชื �อ เพาะเลี �ยงแคลลสัในอาหารสตูร MS ในที�มืดที�อณุหภมูิ 25°C เป็นเวลา 2 วนั จากนั �นนําแคลลสัมากําจดัเชื �อ Agrobacterium ออกโดยล้างแคลลสัใน cefotaxime 200 มก./ล. เป็นเวลา 15 นาที 2 ครั �ง จากนั �นนําไปเพาะเลี �ยงในอาหารสตูร MS ที�เติม 2,4-D 0.4 มก./ล. ร่วมกบั TDZ 0.8 มก./ล. และเติม hygromycin 30 มก./ล. และ cefotaxime 200 มก./ล. เพาะเลี �ยงเป็นเวลา 30 วนั เพื�อคดัเลือกเนื �อเยื�อแคลลสัที�ผา่นการสง่ถ่ายยีนแล้ว จากนั �นตรวจสอบผลการสง่ถ่ายยีนโดยวิธี GUS assay ถ้าเนื �อเยื�อปรากฏสีฟ้าแสดงวา่ได้รับยีน และการตรวจสอบผลการสง่ถ่ายยีนโดยใช้เทคนิค PCR

ผล 1. การเพาะเลี ยงเนื อเยื�อสับปะรด จากการเพาะเลี �ยงลําต้นสบัปะรดในอาหารสตูร MS ที�เติม 2,4-D ร่วมกบั TDZ ความเข้มข้นตา่งๆ กนั พบวา่สามารถ

ชกันําให้เกิดแคลลสัได้ดีมาก โดยสตูรที�สามารถชกันําให้เกิดแคลลสัได้ดีที�สดุคือ MS ที�เติม 2,4-D 0.4 มก/.ล. ร่วมกบั TDZ 0.8 มก./ล. โดยสามารถชกันําให้เกิดแคลลสัได้สงูถงึ 92.85 % และแคลลสัมีขนาดใหญ่ประมาณ 1 ถึง 3 ซม. (Figure 1a, b) และจากการชกันําให้แคลลสัเกิดต้นใหมพ่บวา่อาหารสตูร MS ที�เติม 2, 4-D 0.4 มก./ล. สามารถชกันําให้แคลลสัเจริญเป็นต้นได้ดีที�สดุเมื�อเพาะเลี �ยงเป็นเวลา 60 วนั. (Figure 1c, d)

Page 3: Agricultural Sci. J. (Suppl.) : ) ว. วิทย. กษ. (พิเศษ) · 2013. 1. 29. · Tissue culture on pineapple cv. Trad seethong (Queen) and Smooth cayenne were initially

การเพาะเลี�ยงเนื�อเยื�อ ปีที� 43 ฉบบัที� 3 (พิเศษ) กนัยายน-ธนัวาคม 2555 ว. วิทยาศาสตร์เกษตร 500

Figure 1 Callus formation from pineapple plantlets cv. Trad seethong on MS medium supplemented with 0.4 mg/l

2,4-D and 0.8 mg/l TDZ (a,b) and shoots regenerated from calli on MS medium supplemented with 0.4 mg/l TDZ. (c,d)

2. ศกึษาอทิธิพลของสารปฏชีิวนะต่อการเจริญของแคลลัสสับปะรด จากการศกึษาอิทธิพลของ hygromycin ตอ่การเจริญของแคลลสัพบวา่ที�ความเข้มข้น 30 มก./ล. สามารถยบัยั �งการ

เจริญของแคลลสั และแคลลสัตายลงถงึ 80% เมื�อเพาะเลี �ยงเป็นเวลา 30 วนั (Figure 2a) และจากการศกึษาอิทธิพลของ cefotaxime ตอ่การเจริญของแคลลสั พบวา่ที�ความเข้มข้น 100 ถงึ 300 มก./ล. แคลลสัสามารถเจริญได้ดีกวา่กลุม่ควบคมุ แต่ที�ความเข้มข้น 400-500 มก./ล. แคลลสัเจริญได้น้อยกวา่กลุม่ควบคมุเลก็น้อย (Figure 2b)

Figure 2 Effect of vary concentration of hygromycin (a) and cefotaxime (b) on pineapple calli cv. Trad seethong

cultured for 30 days. 3. การส่งถ่ายยีน antisense PPO สู่ สับปะรดพันธ์ุตราดสีทองและปัตตาเวีย จากการสง่ถ่ายยีนสูแ่คลลสัสบัปะรดโดยใช้ Agrobacterium ที�มียีน antisense PPO และคดัเลือกเนื �อเยื�อแคลลสัที�

ผา่นการสง่ถ่ายยีนในอาหารที�เติม hygromycin เป็นเวลา 30 วนั พบวา่มีแคลลสัรอดชีวิต 8-10% และเมื�อนําเนื �อเยื�อที�รอดชีวิตไปตรวจสอบผลการสง่ถ่ายยีนโดยวิธี GUS assay พบวา่เนื �อเยื�อมีสีฟ้าแสดงวา่ได้รับยีน antisense PPO (Figure 3) และเมื�อตรวจสอบผลการสง่ถ่ายยีนโดยเทคนิค PCR ใช้ดีเอน็เอของแคลลลสัสบัปะรดที�ผา่นการสง่ถ่ายยีนเป็นต้นแบบ เปรียบเทียบกบัพลาสมิด pCAMBIA 1305.1+35S ที�มีชิ �นยีนสําหรับ antisense เป็นต้นแบบ พบแถบดีเอน็เอขนาด 195 และ 180 จากการสงัเคราะห์ด้วยไพรเมอร์ 35S และ NOS แถบดีเอน็เอที�พบในดีเอน็เอจากแคลลสสบัปะรดมีขนาดเทา่กบักบัที�พบในพลาสมิด pCAMBIA 1305.1+35S ที�มีชิ �นยีนสําหรับ antisense (Figure 4) แสดงวา่พืชได้รับการสง่ถ่ายยีนจาก Agrobacterium

Figure 3 GUS activity in pineapple calli cv. Trad seethong (a,b,c) and cv. Smooth cayenne (d,e,f)

a b c d

hygromycin (mg/l) a

b cefotaxime (mg/l)

a b c d e f

Page 4: Agricultural Sci. J. (Suppl.) : ) ว. วิทย. กษ. (พิเศษ) · 2013. 1. 29. · Tissue culture on pineapple cv. Trad seethong (Queen) and Smooth cayenne were initially

ว. วิทยาศาสตร์เกษตร ปีที� 43 ฉบบัที� 3 (พิเศษ) กนัยายน-ธนัวาคม 2555 การเพาะเลี�ยงเนื�อเยื�อ 501

Figure 4 PCR analysis of transsgenic and non-transgenic pineapple calli using 35s and NOS primer (a) cv. Trad seethong (b) cv. Smooth cayenne

วจิารณ์ผล

จากการทดลองการสง่ถ่ายยีน antisense PPO สูแ่คลลสัสบัปะรดพนัธุ์ตราดสีทองและพนัธุ์ปัตตาเวียโดยใช้ Agrobacterium พบวา่สามารถสง่ถ่ายยีนได้สําเร็จโดยพบการแสดงออกของยีน GUS และพบการสอดแทรกของดีเอน็เอที�สง่ถ่ายในแคลลสั และสามารถชกันําให้แคลลสัที�ผ่านการสง่ถ่ายยีนเจริญเป็นต้นใหมไ่ด้ สอดคล้องกบัในงานวิจยัของ Ko et al. (2005) ได้ทําการทดลองการสง่ถ่ายยีน antisense PPO สูส่บัปะรดพนัธุ์ปัตตาเวียโดยใช้ Agrobacterium พบวา่มีเปอร์เซนต์การสง่ถ่ายยีน 1.5% ซึ�งสงูกวา่การสง่ถ่ายยีนโดยใช้ gene gun ซึ�งมีเปอร์เซน็ต์การสง่ถ่ายยีนเท่ากบั 1.0% และสามารถชกันําให้แคลลสัที�ผา่นการสง่ถ่ายยีนสามารถเจริญเป็นต้นใหมไ่ด้

สรุป จากการศกึษาการเพาะเลี �ยงเนื �อเยื�อสบัปะรดพบวา่สตูรอาหารที�ชกันําให้ต้นออ่นเกิดแคลลสัได้ดีที�สดุคือ MS ที�เติม

2,4-D ความเข้มข้น 0.4 มก./ล. ร่วมกบั TDZ ความเข้มข้น 0.8 มก./ล. สตูรอาหารที�เหมาะสมในการชกันําให้แคลลสัเกิดต้นคือ MS ที�เติม 2,4-D ความเข้มข้น 0.4 มก./ล. จากการศกึษาอิทธิพลของสารปฏิชีวนะตอ่การเจริญของแคลลสัพบว่าความเข้มข้นของ hygromycin ที�เหมาะสมในการใช้คดัเลือกแคลลสัที�ผา่นการสง่ถ่ายยีนคือ 30 มก./ล. และใช้ cefotaxime 200 มก./ล.ในการฆา่เชื �อ Agrobacterium หลงัจากการสง่ถ่ายยีนแล้วเนื�องจากสามารถฆา่เชื �อได้ดีและไมเ่ป็นอนัตรายตอ่เนื �อเยื�อ จากการสง่ถ่ายยีน antisense PPO สูแ่คลลสัสบัปะรดโดยใช้ Agrobacterium พบวา่ระยะเวลาที�เหมาะสมในการบ่มเชื �อร่วมกบัแคลลสัคือ 15 นาที และเลี �ยงร่วมกนัในที�มืดเป็นเวลา 2 วนั จงึกําจดั Agrobacterium ออก เมื�อตรวจสอบผลการสง่ถ่ายยีน พบการแสดงออกของ GUS gene ในแคลลสั และจากการตรวจสอบผลการสง่ถ่ายยีนโดยเทคนิค PCR บริเวณ 35S และ NOS พบการสอดแทรกของยีนที�สง่ถ่ายในดีเอน็เอของพืช

เอกสารอ้างองิ Firoozabady, E., M. Heckert and N. Gutterson. 2006. Transformation and regeneration of pineapple. Plant Cell, Tissue and Organ

Culture. 84: 1-16.

Ko, L., V. Hardy, M. Jobin-Décor, P. Campbell, K. Eccleston, M. Graham and M. Smith. 2005. The introduction of transgenes to

control blackheart in pineapple : biolistic vs Agrobacterium transformation. Department of primary industries & fisheries,

Queensland, Australia.

Nicolas J. J., F. C. Richard-Forget , P.M. Goupy, M. J. Amiot and S. Y. Aubert. 1994. Enzymatic browning reaction in apple and apple

products. Critical reviews in food science and nutrition 34: 109-157.

Sripaoraya, S., R. Marc, B. Power and R. M. Davey. 2003. Plant regeneration by somatic embryogenesis and organogenesis in

commercial pineapple (Ananas comosus L.). In Vitro Cell Development biological Plant 39: 450-454.

Teng, L. W. 1997. An alternative propagation method of Ananas through odule culture. Plant Cell Report 16: 454-457.

200 bp

100 bp

Plasmid 100bp Transgenic

Primer: 35S NOS ladder 35S NOS

b

200 bp

100 bp

Transgenic non-transgenic 100bp Plasmid

Primer: 35S NOS 35S NOS ladder 35S NOS

a