อาหาร / วิตามิน กับมะเร็ง

Post on 03-Jan-2016

66 Views

Category:

Documents

1 Downloads

Preview:

Click to see full reader

DESCRIPTION

ตอน ๔. อาหาร / วิตามิน กับมะเร็ง. อาหารประเภทผักและผลไม้. ผลงานวิจัยเรื่องขิงฆ่ามะเร็ง. Not only did ginger trigger ovarian cancer cell death, it did so in a way that may prevent tumor cells from becoming resistant to treatment, a common problem with chemotherapy. - PowerPoint PPT Presentation

TRANSCRIPT

อาหาร/วิ�ตามิ�นกั�บมิะเร�ง

ตอน ๔

อาหารประเภทผั�กัและผัลไมิ�

Not only did ginger trigger ovarian cancer cell death, it did so in a way that may prevent tumor cells from becoming

resistant to treatment, a common problem with chemotherapy.

The preliminary findings from researchers at the University of Michigan Comprehensive Cancer Center were presented Tuesday at the annual meeting of the American Association

for Cancer Research in Washington, D.C. The Michigan team dissolved ginger powder in a solution

and applied it to ovarian cancer cells in a laboratory. Ginger caused two kinds of cancer cell death. The first is called

apoptosis, in which the cells essentially commit suicide. The second type of cell death is autophagy, in which cells digest

or attack themselves.

ผัลงานวิ�จั�ยเร��องขิ�งฆ่�ามิะเร�ง

ขิ�งฆ่�ามิะเร�ง

วิ�ธี!ทานขิ�า

งานวิ�จั�ยในห�องทดลองขิอง University of Michigan Comprehensive Cancer Center พบวิ�า ขิ�ง (ginger )ท&าให�มิะเร�งร�งไขิ� ๒ ชน�ดตาย.

เราควิรทานขิ�งเป*นประจั&า ? ควิรทานหลากัหลายด�วิย ?

The vitamin study was presented at an American Heart

Association conference in Chicago. Both were led by doctors at Harvard Medical

School and were aimed at two diseases women most fear and

want to prevent.Antioxidants like vitamins C and E attach to substances that can damage cells. Scientists have

been testing them for preventing such diseases as

Alzheimer’s and cancer.

More than 8,000 women were randomly assigned to take vitamin C, E or beta carotene alone or in various combinations for nearly a decade. An additional 5,442 women took folic acid and B vitamin supplements for more than seven years.

“Overall, there was minimal evidence of any cardiovascular benefit of any of these antioxidants,” and people should not start or continue taking them for that purpose, Manson said.

ร+�จั�กัไวิตามิ�น E, C, Follic acid, B ? Harvard Medical School ท&าวิ�จั�ยวิ�ากั�บสตร! ๘,๐๐๐ คน นานเกั�อบ ๑๐ ป0 ในเร��องไวิตามิ�น E กั�บ C และอ!กั ๕,๔๔๒ คน ในเร��อง Folic acid และไวิตามิ�น B นาน ๗ ป0พบวิ�า ไมิ�ช�วิยในเร��องโรคหลอดเล�อดห�วิใจัจั5งไมิ�จั&าเป*นต�องทานเสร�มิ.

ยาบ&าร6งเล�อด(เหล�กั)ทานกั�บวิ�ตามิ�นอ!ด!ไหมิ ?

ทานวิ�ตามิ�นมิากัหร�อน�อยเกั�นไปด!หร�อไมิ� ด!หร�อไมิ� ?

โภชนากัารลดอ�ตราเส!�ยงต�อโรคมิะเร�ง

กัารบร�โภคอาหารท!�มิ!ประโยชน7ต�อส6ขิภาพ สามิารถ

ป9องกั�นโรคมิะเร�ง เล!�ยงอาหารซ้ำ&;าซ้ำากั

เล�อกัอาหารให�หลากัหลายเขิ�าไวิ�

ทานตามิฤด+กัาล

บางชน�ดเป*นแหล�งอาหารท!�อ6ดมิไปด�วิยวิ�ตามิ�น เกัล�อแร� ใยอาหารและคาร7โบไฮเดรตเช�งซ้ำ�อน

ควิรร�บประทานอาหารจั&าพวิกั พ�ช ผั�กั ผัลไมิ� ขิ�าวิ หร�ออาหารท!�มิ!เส�นใยเป*นประจั&า ผั�กัผัลไมิ�ส!มิ!ค6ณค�า

หล!กัเล!�ยงกัารร�บประทานอาหารซ้ำ&;าซ้ำากั(เช�น ผั�กั ผัลไมิ� เน�;อส�ตวิ7 ควิรทาน....)

เล�อกัอาหารให�หลากัหลายเขิ�าไวิ�ครบถ�วินตามิหล�กัโภชนากัารท6กัมิ�;อ

เบต�าแคโรต!น เป*นสารต�านอน6มิ+ลอ�สระป9องกั�นมิะเร�งและโรคหลอดเล�อดอ6ดต�นซ้ำ5�งเป*นให�เกั�ดโรค....

เป*นต�วิเร��มิต�น ขิองวิ�ตามิ�น A พบมิากัใน.....

สารแคโรท!นมิ!กัวิ�าห�าร�อยชน�ด รวิมิกั�นเร!ยกัวิ�า แคโรท!นอยด7 (Carotenoids) ซ้ำ5�งเป*นสารต�;งต�นขิองวิ�ตามิ�นเอ.

แคโรท!นอยด7มิ!หลายชน�ด เช�น อ�ลฟา-แคโรท!น, เบต�า-แคโรท!น, ล+ท�อ�น ซ้ำ!แซ้ำนท�น แคโรท!นอยด7แต�ละชน�ดต�างกั�มิ!ประโยชน7ท!�แตกัต�างกั�นและท&างานสน�บสน6นกั�น.

ด�งน�;น เราต�องร�บประทานผั�กั ผัลไมิ�มิากัและหลากัหลายชน�ด เพ��อให�ได�แคโรท!นอยด7ครบท6กัชน�ด.

แคโรท!นน�บเป*นต�วิท!�มิ!คนร+�จั�กัและกัล�าวิ ถ5งกั�นมิากั. เบต�า-แคโรท!นจั5งมิ!บทบาทส&าค�ญในกัารร�กัษาส6ขิภาพ และเพ��มิระบบภ+มิ�ค6�มิกั�น

ทางสายกัลางขิองกัารทานอาหารและวิ�ตามิ�นต�านมิะเร�ง

สารต�านอน6มิ+ลอ�สระ เช�น เบต�าแคโรต!น วิ�ตามิ�น E, Cเบต�าแคโรต!น ทานมิากัอ�นตราย กั�อมิะเร�งวิ�ตามิ�น E ทานมิากักั�อมิะเร�งวิ�ตามิ�น C ทานมิากั......ผัลเส!ย เมิ�ดใหญ�อย�าห�กั...?ควิรทาน E ค+�กั�บ C เพ��อลดอน6มิ+ลอ�สระ ท!�เกั�ดจัากักัารท!� E จั�บอน6มิ+ลอ�สระมิากัเกั�นไป จันท&าให� E กัลายเป*นอน6มิ+ลอ�สระ

ทานกั�อน/หล�งอาหาร ละลายในไขิมิ�น เฉล!�ยกัารด+ดซ้ำ5มิ

มิะเร�งต�บในประเทศไทยน�;นมิ!ช��อเส!ยงมิากัในวิงกัารแพทย7 เร!ยกัได�วิ�า เป*นกัรณ!ศ5กัษาในเร��องขิองควิามิช6กัช6มิ ซ้ำ5�งหมิายถ5งมิ!โรคน!;มิากัในประชากัรไทยในอ�ตราท!�ส+งและจัะส+งมิากั ในภาคอ!สาน ท�;งน!;มิาจัากัอาหารเป*นต�น เหต�คือ อาหารที่��บร�โภคื ไม่�สะอาดถู�กส�ขอนาม่�ยที่ าให"เป็$นการน าเอาเชื้&อพยาธิ�ใบไม่"ต�บเข"าส��ร �างกาย พยาธิ�น�&เร��ม่ต"นจากในหอย ป็� ป็ลา เน&อส�ตว์-บกบางชื้น�ดป็ร�งส�กๆ ด�บๆ ต�ว์อ�อนพยาธิ�หรอไข�ไม่�ถู�กที่ าลายก/บร�โภคืเข"าส��ร �างกายแล"ว์พยาธิ� จะไป็เจร�ญเต�บโตในต�บตาม่ว์งชื้�พของพยาธิ�ใบไม่"ในต�บ ชื้�อได"ม่าจาก ร�ป็ร�างพยาธิ�ใบไม่"น��นเอง ต�ว์พยาธิ�น�&ก/ป็ล�อยไข�ออกม่าก�บอ�จจาระ เพราะฉะน�&นก/สาม่ารถูจะตรว์จได"ว์�าใคืรม่�พยาธิ�ใบไม่"ในต�บ โดยการตรว์จด�ไข�พยาธิ�ในอ�จจาระ เม่�ออย��ในต�บนานๆ เข"า ก/จะที่ าให"กลายเป็$นม่ะเร/งได" ในภาคือ�สานของไที่ยเรา ว์�ฒนธิรรม่อาหารเป็$นป็4จจ�ย ที่��ที่ าให"ภ�ม่�ภาคืน�&ของป็ระเที่ศม่�โรคืน�&เก�ดม่าก คืนที่างภาคืตะว์�นออกเฉ�ยงเหนอ น�บได"ว์�าเป็$นคืนที่��ใชื้"ป็ระโยชื้น-จากส��งม่�ชื้�ว์�ตเป็$นอาหารได"อย�างน�าพ�ศว์ง ก�นหรอบร�โภคืที่�กอย�างที่��เคืล�อนไหว์ได" เป็$นผู้�"ที่��ที่รหดอดที่น ต�อสภาพแร"นแคื"นได"ด�ม่าก แม่"แต�ย�ว์ซึ่8�งเป็$นชื้นชื้าต�ที่��ที่รหดและฉลาด ย�งยอม่แพ"เม่�อไม่�นานม่าน�&ที่างอ�สราเอลถู8งก�บที่ าหน�งสอม่าย�งกระที่รว์ง ต�างป็ระเที่ศในที่ านองร"องเร�ยนเน�องจากน�ว์เศน-ว์�ที่ยาของพ&นที่�� แถูบที่ะเลที่รายในอ�สราเอลได"เป็ล��ยนแป็ลงไป็ม่ากจนเก�ดผู้ลกระที่บ ว์งกว์"างม่ากข8&น ซึ่8�งที่างการอ�สราเอลตรว์จสอบแล"ว์พบว์�า เพราะแรงงานไที่ยที่��ไป็ที่ างานในแถูบด�งกล�าว์จ�บส��งม่�ชื้�ว์�ตในที่ะเลที่ราย ซึ่8�งม่�น"อยและหายากม่าเป็$นอาหารบร�โภคืจนเก�ดคืว์าม่ไม่�สม่ด�ล ของน�เว์ศน-ว์�ที่ยาในระบบ ส�ตว์-หายากบางชื้น�ดแที่บจะส�ญพ�นธิ�-ไป็เลย เชื้�น หน�ในที่ะเลที่ราย แม่ลงป็9อง ฯลฯ ด�คืว์าม่สาม่ารถูของพ��น"องเราแล"ว์น�าที่8�ง มิะเร�งต�บย�งเกั�ดจัากัสาเหต6หร�อปEจัจั�ยท!�ส&าค�ญอ!กั 2 ปEจัจั�ย การบร�โภคืสารก�อม่ะเร/งเข"าส��ร �างกายที่��แน�ชื้�ดคือ สารที่��เร�ยกว์�า อะฟาลทอกัซ้ำ�น เป็$นสารที่��เชื้�อว์�าบางชื้น�ดที่��เก�ดในเม่ล/ดธิ�ญญพชื้ เชื้�น ถู��ว์ล�สง พร�ก ฯลฯ โดยเฉพาะที่��เก�าเก/บ สารน�&ไม่�ม่�รสชื้าต�ม่องไม่�เห/น เพราะออกฤที่ธิ�<แม่"ขนาดเล/กน"อย พบได"ในพว์กถู��ว์ป็9น พร�กป็9น ข"าว์โพด ซึ่8�ง 2 อย�างแรกเป็$นเคืร�องป็ร�งรสอาหารป็ระจ าโต=ะอาหารของคืนไที่ยเรา เชื้&อราน�&นจะเก�ดเม่�อม่�คืว์าม่อ�บชื้&น พว์กธิ�ญญพชื้เก�าเก/บ จ8งต"องระว์�งบร�โภคืป็ระจ าก/เที่�าก�บต�บถู�กกระต�"นด"ว์ยสารก�อม่ะเร/งที่�กว์��ที่�กว์�น นานเข"าก/กลายเป็$นม่ะเร/งต�บ 2 ป็4จจ�ยน�&จะเห/นว์�าต"นธิารของโรคืคือ น�ส�ยการบร�โภคืการให"คืว์าม่ร� "แก�ป็ระชื้าชื้นจ8งเป็$นหนที่างป็>องก�นโรคื เราเร�ยกขบว์นการน�&ว์�า การป็>องก�นป็ฐม่ภ�ม่� ในป็4จจ�ยที่��สาม่ที่��พบว์�าเป็$นต�ว์ก�อให"เก�ดม่ะเร/งต�บได"คือ เช�;อไวิร�สต�บอ�กัเสบ ซึ่8�งเป็$นโรคืที่��พบในคืนไที่ย ในอ�ตราส�งม่ากคือ พบได"ถู8ง 10 เป็อร-เซึ่/นต-ของป็ระชื้ากร คือ ม่�คืนเคืยม่�เชื้&อโรคืน�&ในร�างกายหรอเคืยเป็$นต�บอ�กเสบ 5 ล"านคืนโดยป็ระม่าณ เชื้&อไว์ร�สต�บอ�กเสบม่�การฝั4งรากอาศ�ยอย��ในต�บม่น�ษย-เรานาน จนอาจจะตลอดชื้�ว์�ตถู"าร�างกายป็กต�ม่�นจะแฝังอย��คื�อยก�ดกร�อนที่ าลายไป็ เม่�อร�างกายอ�อนแอหรอม่�สารพ�ษเข"าส��ต�บก/จะออกม่าเล�นงาน ที่ าให"เก�ดต�บอ�กเสบ ถู"าป็ล�อยให"การอ�กเสบเป็$นๆ หายๆ นานเข"า ก/จะกลายได" ไว์ร�สต�บอ�กเสบน�&นม่�หลายชื้น�ด ที่��ร� "จ�กก�นด�คือ A และ B ถู"าเป็$นกล��ม่ B ก/จะเป็$นกล��ม่ที่��ม่�โอกาสกลายเป็$นม่ะเร/งต�บส�งกว์�ากล��ม่ ที่��เป็$นชื้น�ด A เน�องจากที่�&งไว์ร�สต�บอ�กเสบ A&B สาม่ารถูต�ดต�อไป็คืนอ�นได" อาจจะโดยการป็นเป็C& อนที่างอาหาร การได"เลอด การใชื้"เข/ม่ฉ�ดยาที่��ไม่�สะอาด น &าคื�ดหล��งหรอพว์กน &าเหลอง น &าลาย จ8งที่ าให"การแพร�ระบาดเป็$นไป็ได"ง�าย จนกลายเป็$นป็4ญหาสาธิารณส�ขจนกระที่รว์งสาธิารณส�ขต"องเร�งระดม่ ว์างแผู้นฉ�ดว์�คืซึ่�นให"ก�บที่ารกที่��คืลอดที่�กคืนเพ�อเป็$นการต�ดว์งจร การแพร�กระจายที่��จะเก�ดก�บที่ารก ขณะเด�ยว์ก�น ก/เร�งให"ภ�ม่�คื�"ม่ก�นก�บป็ระชื้นชื้นที่��ว์ไป็เพ�อจะลดอ�ตราการต�ดเชื้&อ เป็$นโรคืไว์ร�สต�บอ�กเสบซึ่8�งได"ผู้ลด� ป็4จจ�บ�นที่ารกที่��คืลอดในโรงพยาบาลแที่บที่�กคืนได"ร�บ การฉ�ดว์�คืซึ่�นป็>องก�นโรคืไว์ร�สต�บอ�กเสบ ขณะน�&แนว์โน"ม่ของโรคืน�&ด�ข8&น เพราะได"ม่�การให"คืว์าม่ร� "เร�องการบร�โภคืให"ก�บป็ระชื้าชื้นได"เข"าใจ

    1990 ผั+�คนกัล�วิควิามิอ�วิน ถ��วิล�สงจั5งถ+กัขิจั�ดออกัจัากัโตFะอาหาร แต�ปEจัจั6บ�น ควิรร�บประทานถ��วิล�สงท!�มิ!ไขิมิ�นไมิ�อ��มิต�วิในปร�มิาณท!�เหมิาะสมิ . สมิาคมิอาหารและเคร��องด��มิขิองสหร�ฐฯ กัล�าวิวิ�า ปEจัจั6บ�น เรา“ได�ร+�วิ�า ถ��วิล�สงมิ!ไขิมิ�นไมิ�อ��มิต�วิท!�เป*นผัลด!ต�อส6ขิภาพ ซ้ำ5�งไมิ�เหมิ�อนไขิมิ�นอ��มิต�วิท!�จัะอ6ดต�นเส�นเล�อดใหญ� ตรงกั�นขิ�ามิ จัะช�วิยท&าควิามิสะอาดเส�นเล�อดใหญ�"

แต�มิ!ขิ�อจั&ากั�ดท!�พ5งระวิ�งวิ�า ไมิ�ควิรกั�นมิากัเกั�นควิร . ถ��วิล�สงหน5�งออนซ้ำ7มิ!ไขิมิ�น 14 กัร�มิ และถ��วิล�สง 1 กั&ามิ�อจัะมิ!คาลอร! 200 คาลอร! ซ้ำ5�งเป*นปร�มิาณท!�พอ เหมิาะ .

ผัลกัารวิ�จั�ยขิองมิหาวิ�ทยาล�ยบางแห�งแสดงให�เห�นวิ�า ถ��วิล�สงสามิารถช�วิยป9องกั�นโรคห�วิใจั ลดคอ - เลส เตอรอลให�ต&�าลง และย�งช�วิยลดควิามิอ�วินด�วิย.ควิรทานถ��วิล�สงแบบไหน ? จั5งจัะปลอดภ�ย

องค7กัารอาหารและยาขิองสหร�ฐฯ ได�กั&าหนดผั�านกัารพ�จัารณาตรวิจัสอบวิ�า ถ��วิล�สงและล+กัน�ทบางอย�างเป*นอาหาร บ&าร6งส6ขิภาพท!�ด! โดยอน6มิ�ต�ให�ผั+�ผัล�ตอาหารประเภทถ��วิล�สง ต�องพ�มิพ7ค&าอธี� บายในห!บห�อวิ�า กัารกั�นถ��วิล�สงจั&านวิน 1.5 ออนซ้ำ7ต�อวิ�น จัะสามิารถลดอ�ตราเส!�ยงในกัารเป*นโรคห�วิใจัได� . >

๑ ออนซ้ำ7 = ๓๐ ซ้ำ!ซ้ำ! , ๒ ออนซ้ำ7 = ๖๐ ซ้ำ!ซ้ำ!ไขิ�ไกั�จั�มิโบ� = ๕๐ กัร�มิ = ๕๐ ซ้ำ!ซ้ำ!

มิ�นเทศป9องกั�นโรคมิะเร�งและเป*นผัลด!ต�อห�วิใจั มิ�นเทศรสชาต�ด! มิ!ส�วินประกัอบขิองคาร7โบไฮเดรต เซ้ำลล+โรส แคโรท!น วิ�ตามิ�นและโปแตสเซ้ำ!�ยมิ แมิกัน!เซ้ำ!�ยมิ ทองแดง เซ้ำล!เน!ยมิและแคลเซ้ำ!ยมิเป*นต�นกัวิ�า 10 ชน�ด.

วิ�ตามิ�นซ้ำ! วิ�ตามิ�นบ!11 และวิ�ตามิ�นบ!6 เป*นสารอาหารท!�มิ!บทบาทป9องกั�นโรคมิะเร�งด!ท!�ส6ด

สารเบต�าแคโรท!น ในมิ�นเทศน&;าหน�กัประมิาณ 100 กัร�มิ จัะให�ปร�มิาณวิ�ตามิ�นเอท!�ร�างกัายต�างกัารใน 1 วิ�นได�ถ5ง 2 เท�า ให�1/3ขิองปร�มิาณวิ�ตามิ�นซ้ำ!ท!�ร�างกัายต�องกัารใน 1 วิ�น และให�วิ�ตามิ�นบ!11 ในปร�มิาณ 50 ไมิโครกัร�มิ

มิ�นเทศจั5งมิ!ค6ณประโยชน7ต�อส6ขิภาพอย�างอเนกัอน�นต7 มิ�นเทศมิ!บทบาทป9องกั�นโรคมิะเร�ง .

ช�วิยกัารเคล��อนต�วิขิองล&าใส� ป9องกั�นอากัารท�อง ผั+กัและโรคมิะเร�งล&าใส�ใหญ� มิ�นเทศเป*นผัลด!ต�อห�วิใจั (ป9องกั�นโรคเส�นเล�อดห�วิใจั ) มิ�นเทศมิ!บทบาทต�านทานโรคเบาหวิาน.

น�กัวิ�จั�ยญ!�ป6Kนพบวิ�า เมิ��อป9อนมิ�นเทศเปล�อกัขิาวิให� กั�บหน+ต�วิอ�วินท!�เป*นโรคเบาหวิานกั�นเป*นเวิลา 4 ส�ปดาห7 และ 6 ส�ปดาห7แล�วิ สารอ�นซ้ำ+ล�นในเล�อดลดลง 26% และ 60% และพบวิ�า มิ�นเทศสามิารถป9องกั�นไมิ�ให�น&;าตาลในเล�อด ขิองหน+�ต�วิอ�วินส+งขิ5;นหล�งกั�นกัล+โคส ผัลกัารวิ�จั�ยแสดงให�เห�นวิ�า มิ�นเทศเปล�อกัขิาวิมิ!บทบาทป9องกั�นโรค เบาหวิานไมิ�มิากักั�น�อย . (หมิายเหต6...ย�งไมิ�ได�ทดลองในคน)

น�กัโภชนากัารร�บรองวิ�า มิ�นเทศเป*นได�ท�;งอาหารและยา .คาลอร!ขิองมิ�นเทศ = 1/3 ขิองขิ�าวิสวิยธีรรมิดา และ

เกั�อบไมิ�มิ!ไขิมิ�นและคอเลสเตอรอล. (น &าม่�นพชื้ม่�โคืเลสเตอรอล ? PBM)

ร�บประทานมิ�นเทศบ�อยๆ เป*นผัลด!ต�อส6ขิภาพ และจัะสามิารถช�วิยลดควิามิอ�วินได�บ�าง แต�มิ!ขิ�อระวิ�งค�อ อย�ากั�นมิากัเกั�นควิรในคร�;งเด!ยวิ เพราะจัะเกั�ดอากัารแสบอกัมิ!กัรดในกัระเพาะอาหารล�นขิ5;นหร�อท�องเฟ9อเป*นต�น

(แสดงว์�า ย�อยชื้"า ?)

กัารร�บประทานมิ��นเทศบ�อยๆ จัะมิ!ส�วินช�วิยร�กัษาควิามิสมิด6ลขิองวิ�ตามิ�นบ! 11 ในร�างกัาย ลดควิามิเส!�ยงในกัารเป*นโรคมิะเร�ง ส�วินสารเซ้ำลล+โรสในมิ�นเทศ มิ!ผัลด!ในกัารมิ�นเทศมิ!สารโปรแตสเซ้ำ!ยมิ เบต�าแคโรท!น สาร 5 ชน�ดด�งกัล�าวิต�างกั�มิ!บทบาทปEจัจั6บ�น

มิะเขิ�อเทศ อาหารท!�มิ!ค6ณค�าอ!กัอย�างหน5�ง ซ้ำ5�งสามิารถขิจั�ดสารพ�ษออกัจัากัร�างกัาย และป9องกั�นโรคได�.

สารส&าค�ญในมิะเขิ�อเทศ ไลโคพ!น(licopene)มิ!ฤทธี�Mต�านอน6มิ+ลอ�สระ ป9องกั�นมิะเร�งล&าใส�ใหญ� ต�อมิล+กัหมิากั เต�านมิ ปอด ต�บ-อ�อน เป*นต�น . ท&ามิะเขิ�อเทศให�ส6กั จัะป9องกั�นมิะเร�งต�อมิล+กั หมิากั และลดควิามิเส!�ยงได� ๑๙ % ถ�าด�บ(ไมิ�ส6กั)ลดได� ๑๑ % ด��มิน&;ามิะเขิ�อเทศ วิ�นละ ๓ ออนซ้ำ7 ลดอ�ตตราเส!�ยง ได� ๓ %

ร�บประทานมิะเขิ�อเทศ ส6กัวิ�นละ1-2 ล+กัสามิารถท!�จัะป9องกั�น และช�วิยร�กัษา โรคมิะเร�ง . เอามิะเขิ�อเทศและแอปเปO; น อย�างละหน5�งล+กั และงา 15 กัร�มิ. กั�นให�หมิดในคร�;งเด!ยวิ วิ�นละ 1 - 2 คร�;ง จัะสามิารถร�กัษาโรคโลห�ตจัาง.

ส&าหร�บผั+�ปKวิยโรคแผัลในกัระเพาะอาหารอากัารเบา ให�น&าน&;ามิะเขิ�อเทศและน&;ามิ�นฝร��งอย�างละคร5�งแกั�วิผัสมิกั�นด��มิท6กัวิ�น เวิลาเช�าเย�นคร�;งละ 1 แกั�วิ กั�นต�อเน��องกั�น 10 คร�;ง จัะสามิารถร�กัษาแผัลให�หาย . (?) นอกัจัากัน!; ย�งสามิารถน&าน&;ามิะเขิ�อเทศกั�บน&;าแตงโมิอย�างละคร5�งแกั�วิผัสมิกั�น ร�บประทานช��วิโมิงละคร�;งจัะสามิารถร�กัษาอากัารไขิ�ส+ง.

  ซ้ำ�ล�เน!ยมิ อย+�ในจัมิ+กัขิ�าวิ ร&าขิ�าวิ ปลาท+น�า ห�วิหอมิ กัระเท!ยมิและเห�ด ใช�ต�านมิะเร�ง

 ใยอาหาร  มิ!มิากัในผั�กั ผัลไมิ� และพวิกัเมิล�ดธี�ญพ�ชต�างๆ

 คาร7โบไฮเดรตเช�งซ้ำ�อน  พบในขินมิปEงธี�ญพ�ชและถ��วิต�างๆ

วิ�ตามิ�นซ้ำ! พบในพวิกัผัลไมิ�ท!�มิ!รสเปร!;ยวิ ได�แกั� ส�มิ

ฯลฯ

กัะหล&�าดอกัช�วิยลดมิะเร�งต�อมิล+กัหมิากั     คณะน�กัวิ�จั�ยจัากัสถาบ�นมิะเร�งแห�งชาต�สหร�ฐ พบวิ�า กัารร�บประทานผั�กัใบเขิ!ยวิเขิ�มิท6กัส�ปดาห7ช�วิยย�บย�;งไมิ�ให�มิะเร�งต�อมิล+กัหมิากัล6กัลามิ โดยในบร�อคโคล!ลดควิามิเส!�ยงท!�มิะเร�งต�อมิล+กัหมิากัจัะล6กัลามิลงได�ร�อยละ45 และกัระหล&�าดอกัลดได�ถ5งร�อยละ 52 ส�วินผั�กัโขิมิน�;นลดได�ในปร�มิาณไมิ�มิากัน�กั

     ด�านมิ+ลน�ธี�วิ�จั�ยมิะเร�งอ�งกัฤษเผัยวิ�า มิะเร�งต�อมิล+กัหมิากัคร�าช!วิ�ตผั+�ชายอ�งกัฤษช��วิโมิงละ 1 คน และแต�ละป0ตรวิจัพบผั+�ปKวิยรายใหมิ� 32,000 คน พร�อมิกั�บแนะวิ�าวิ�ธี!ท!�ด!ท!�ส6ดในกัารลดควิามิเส!�ยงเป*นมิะเร�ง ค�อ ร�บประทานอาหารท!�เป*นประโยชน7อย�างสมิด6ล ร�บประทาน ผั�กัผัลไมิ�หลากัหลายชน�ดอย�างน�อยวิ�นละ 5 ช�;น เพราะไมิ�มิ!ผั�กัผัลไมิ�ชน�ดใดท!�มิ!ค6ณสมิบ�ต�ในกัารป9องกั�นมิะเร�งได�เป*นพ�เศษ.

กัารร�บประทานพร�กัเป*นประจั&าท6กัวิ�น สามิารถช�วิยป9องกั�นโรค มิะเร�งและโรคอ��นๆ อ!กัหลายโรคเน��องจัากัสารแคปไซ้ำซ้ำ�น ท!�ท&าให�พร�กัมิ!รสเผั�ด สามิารถใช�ฆ่�าเน�;องอกัได�โดยไมิ�มิ!ผัลขิ�างเค!ยงต�อคนไขิ� หร�อถ�ามิ!กั�น�อยมิากั และกัารวิ�จั�ยล�าส6ดระบ6วิ�า

สารแคปไซ้ำซ้ำ�นท!�ท&าให�พร�กัมิ!รสเผั�ดเป*นกั6ญแจัส&าค�ญกั�บยาต�านมิะเร�งในย6คหน�านพ.ท�โมิธี! เบทส7 ชาวิอ�งกัฤษ

ค.วิ�ทยาศาสตร7 มิ.ศร!นคร�นทร7ฯ ทดลองใช�สารสกั�ดเปล�อกัมิ�งค6ดเล�กัน�อยสามิารถท&าลายลายเซ้ำ�ลมิะเร�งล&าใส�ใหญ�และต�บได�

สารท!�มิ!เบต�าแคโรท!นส+ง ได�แกั� ผั�กั ผัลไมิ� ท!�มิ!ส!เหล�องสดหร�อส�มิ จั&าพวิกัฟEกัทอง มิะละกัอ มิะมิ�วิงส6กั แตงโมิ แครอท และผั�กัใบเขิ!ยวิเขิ�มิ เช�น ต&าล5ง คะน�าผั�กัขิมิ บรอคโคล!� เป*นต�น.

อาหารท!�มิ!วิ�ตามิ�นซ้ำ!ส+ง ได�แกั�ผั�กัสด และผัลไมิ�เช�น ฝร��ง ส�มิ ขิน6น และมิะละกัอส6กั

ผัลกัารวิ�จั�ยขิองน�กัวิ�จั�ย

จัากัมิหาวิ�ทยาล�ยคอร7เนล

สหร�ฐอเมิร�กัา พบวิ�า ห�วิหอมิ

ใหญ�ช�วิยป9องกั�นโรคมิะเร�งต�บและล&าไส�ได� เพราะในห�วิหอมิจัะมิ!สารแอนต!;ออกัซ้ำ�แดนต7ส+งมิากั จั5งช�วิยป9องกั�นและย�บย�;งกัารเจัร�ญเต�บโตขิองเซ้ำลล7มิะเร�งได�.

กัล�วิยมิ!แป9งมิากั ?เบาหวิานควิรทานมิากั ?มิ!พล�งงานมิากั ?มิ!ส!เหล�อง ?

ค6ณจัะได�ร�บประโยชน7ค6ณจัะได�ร�บประโยชน7มิากักัวิ�ามิากักัวิ�า

ถ�าค6ณร+�วิ�าควิรจัะกั�นถ�าค6ณร+�วิ�าควิรจัะกั�นอย�างไร อย�างไร ??

ควิรกั�นผัลไมิ�ส!ไหน ?

ถ�าค6ณกั�นผัลไมิ�ในขิณะท�องวิ�าง มิ�นจัะถ�าค6ณกั�นผัลไมิ�ในขิณะท�องวิ�าง มิ�นจัะช�วิยค6ณในกัารล�างพ�ษจัากัร�างกัาย ให�ช�วิยค6ณในกัารล�างพ�ษจัากัร�างกัาย ให�พล�งงานส&าหร�บช�วิงลดน&;าหน�กั และพล�งงานส&าหร�บช�วิงลดน&;าหน�กั และ

กั�จักัรรมิอ��นในช!วิ�ตประจั&าวิ�นกั�จักัรรมิอ��นในช!วิ�ตประจั&าวิ�น..

เน��องจัากัผัลไมิ�ย�อยได�เร�วิกัวิ�าขินมิปEง ช�;นเน��องจัากัผัลไมิ�ย�อยได�เร�วิกัวิ�าขินมิปEง ช�;นผัลไมิ�จัะถ+กัย�อยอย�างรวิดเร�วิและพร�อมิท!�ผัลไมิ�จัะถ+กัย�อยอย�างรวิดเร�วิและพร�อมิท!�ผั�านกัระเพาะไปส+�ล&าไส� แต�เส�นทางขิองมิ�นผั�านกัระเพาะไปส+�ล&าไส� แต�เส�นทางขิองมิ�นถ+กัขิวิางไวิ�โดยขินมิปEงซ้ำ5�งใช�เวิลาย�อยนานถ+กัขิวิางไวิ�โดยขินมิปEงซ้ำ5�งใช�เวิลาย�อยนาน

กัวิ�ากัวิ�า……..

จัะเป*นกัารด!กัวิ�าถ�าเรากั�นผัลไมิ�จัะเป*นกัารด!กัวิ�าถ�าเรากั�นผัลไมิ�ในใน

ขิณะท�องวิ�างหร�อกั�อนมิ�;อขิณะท�องวิ�างหร�อกั�อนมิ�;ออาหารอาหาร!!

กัารกั�นเน�;อผัลไมิ�หร�อผัลไมิ�ท�;งล+กั จัะด!กัวิ�ากัารด��มิน&;าผัลไมิ� เพราะเส�นใยจัากัเน�;อผัลไมิ�จัะด!ส&าหร�บค6ณ

เมิ��อค6ณต�องกัารด��มิน&;าผัลไมิ� ให�ด��มิน&;าผัล

ไมิ�สดเท�าน�;น อย�าด��มิน&;าผัลไมิ�กัระปRอง

อย�าด��มิน&;าผัลไมิ�ท!�ผั�านควิามิร�อน อย�ากั�นผัลไมิ�ท!�ถ+กัปร6งเป*นอาหาร

เพราะค6ณจัะไมิ�ได�ค6ณค�าทางโภชนากัารเลย

ค6ณสามิารถกั�นผัลไมิ�ได�หลากัหลายในเวิลาต�างๆ แมิ�แต�สล�ดผัลไมิ� ซ้ำ5�งเป*นเมิน+ท!�น�าสนใจั.

ถ�าค6ณกั�นผัลไมิ�อย�างถ+กัวิ�ธี!เป*นประจั&า ค6ณกั�จัะมิ!เคล�ดล�บขิองส6ขิภาพ และน&;าหน�กัต�วิท!�เป*นปกัต�.

ถ�าค6ณด��มิน&;าผัลไมิ� ให�ด��มิช�าๆ ท!ละค&า เพ��อให�น&;าผัลไมิ�รวิมิกั�บน&;าลายขิองค6ณกั�อนท!�จัะกัล�นลงไป

(จั�บ)

☺ฉ�นเรอท6กัคร�;งท!�กั�นแตงโมิฉ�นเรอท6กัคร�;งท!�กั�นแตงโมิ..☺เวิลาฉ�นกั�นท6เร!ยน กัระเพาะฉ�นพองเวิลาฉ�นกั�นท6เร!ยน กัระเพาะฉ�นพองขิ5;นขิ5;น.. ☺เวิลาฉ�นกั�นกัล�วิย ฉ�นร+�ส5กัอยากัวิ��งไปเวิลาฉ�นกั�นกัล�วิย ฉ�นร+�ส5กัอยากัวิ��งไปห�องน&;า ห�องน&;า เป*นต�นเป*นต�น..

คนน&;าหน�กัเกั�นมิ!ควิามิเส!�ยง จัากังานวิ�จั�ยขิองสมิาคมิ

มิะเร�งแห�งประ เทศสหร�ฐอเมิร�กัา ท!�ใช�เวิลาศ5กัษานานถ5ง ๑๖ ป0ระบ6วิ�า กัารมิ!น&;าหน�กัเกั�นมิ!ส�วินในกัารกั�อให� เกั�ดมิะเร�งท6กัชน�ด ยกัเวิ�นมิะเร�งปอด กัระเพาะปEสสาวิะ และสมิอง.

(งานวิ�จั�ยมิ!คนตายด�วิยมิะเร�ง ๙ หมิ��นคน ในจั&านวินน!;ร�อยละ ๑๔ เป*นชายอ�วิน และร�อยละ ๒๐ เป*นหญ�งอวิบ)

สาเหต6ท!�คนอ�วินเป*นมิะเร�ง ท!�คนอ�วินมิ!โอกัาสเป*น

มิะเร�งส+งน�;น เน��องจัากักัารมิ!น&;าหน�กัมิากั มิ!ส�วินท&าให�ร�างกัายผัล�ตฮอร7โมินต�าง ๆ ออกัมิามิากั เกั�นไป อาท� สเท!ยรอยด7 อ�นซ้ำ+ล�นง

ย�งเส!�ยงต�อกัารเป*นน��วิในถ6งน&;าด!และน��วิอาจัเป*นสาเหต6ท!�กั�อให�เกั�ดมิะเร�งในถ6งน&;าด!.

กัารผัล�ตฮอร7โมินในระด�บท!�มิากัเกั�นไป อาจัจัะไปกัระต6�นให�เกั�ดเซ้ำลล7ผั�ดปรกัต�ขิ5;น ในอวิ�ยวิะขิองร�างกัายและ พ�ฒนาต�อมิากัลายเป*นเซ้ำลล7มิะเร�ง อาท� ฮอร7โมินเอสโตร เจันในเพศหญ�ง อาจัไป กัระต6�นให�เกั�ดมิะเร�งเต�านมิ หร�อมิะเร�งปากัมิดล+กั.

สาวิขินาด XXL จั5งมิ!โอกัาสเส!�ยงเป*น

มิะเร�งเต�านมิมิากักัวิ�าสาวิขินาด

SSS

ยาต�านโรคเอดส7ท!�ใช�กั�นท��วิไปอาจัใช�ป9องกั�นมิะเร�งปากัมิดล+กัได�

น�กัวิ�จั�ยผั+�ด!เช��อวิ�า ภายหล�งจัากัผัลทดลองเบ�;องต�นในห�องทดลองปฏิ�บ�ต�กัารพบวิ�า ยา "โลปOนาเวิ!ยร7" นอกัจัากัต�านไวิร�สเอชไอวิ!ท!�เป*นสาเหต6ขิองโรคเอดส7แล�วิ ย�งสามิารถต�านไวิร�สเอชพ!วิ! ท!�เป*นสาเหต6ขิองมิะเร�งปากัมิดล+กัด�วิย

a. อาหารและโภชนากัารบ&าบ�ด มิ!อาหารท!�กั&าล�งเป*นท!�สนใจัวิ�จั�ย

และจั�บตามิองวิ�า จัะมิ!ศ�กัยภาพในกัารร�กัษามิะเร�ง เพราะมิะเร�งบางชน�ดอย�าง เช�น มิะเร�งเต�านมิในหญ�งท!�หมิดประจั&าเด�อนแล�วิ มิะเร�งมิดล+กัและมิะเร�งต�อมิล+กัหมิากั อาจัชะลอกัารเต�บโตได�ถ�าเล�อกับร�โภคอาหารได�ถ+กัต�อง อาหารท!�วิ�าน!;กั�ย�งอย+�ในระหวิ�างกัารศ5กัษาวิ�จั�ย เช�น อาหารจัากัถ��วิเหล�อง, เห�ดช�ตาเกัะ

งานวิ�จั�ยจัากัศ+นย7มิะเร�ง เมิโมิเร!ยล สโลน เค�ทเทอร��ง ในกัร6งน�วิยอร7ค

วิ�ตามิ�เอ ร�วิมิกั�บเคมิ!บ&าบ�ดสามิารถท&าให�คนไขิ�มิะเร�งเมิ�ดเล�อดขิาวิชน�ด Promyelocytic หายช��วิคราวิได�ในผั+�ปKวิย 70% ขิณะเด!ยวิกั�นกัารร�บประทานวิ�ตามิ�นอ! วิ�นละ 200 หน�วิย (INTERNATIONAL UNIT) จัะชะลอกัารล6กัลามิขิองมิะเร�งต�อมิล+กัหมิากั และอาจัรวิมิถ5งมิะเร�งเต�านมิด�วิย

น&;ามิ�นปลาซ้ำ5�งมิ!กัรดไขิมิ�นโอเมิกั�า 3 เห�ดช�ตาเกัะและไมิตาเกัะ ช�วิยชะลอกัารเต�บโต ขิองมิะเร�งโดยเสร�มิภ+มิ�ค6�มิ กั�นให�ร�างกัายน!�เป*นรายงานจัากัญ!�ป6Kน.

ชาเขิ!ยวิ (ในวิารสารกัารวิ�จั�ยโรคมิะเร�งญ!�ป6Kน)

คนไขิ�มิะเร�งเต�านมิ ซ้ำ5�งด��มิชาเขิ!ยวิวิ�นละ 5 แกั�วิขิ5;นไปจัะมิ!กัารกั&าเร�บขิองมิะเร�ง น�อยกัวิ�าคนท!�ไมิ�ด��มิ.

ถ�าได�เคยด��มิมิากั�อน เมิ��อเป*นมิะเร�ง ชา-เขิ!ยวิจัะไปเสร�มิฤทธี�Mขิองเคมิ!บ&าบ�ด.

เมิลาโตน�น ฮอร7โมินธีรรมิชาต�ต�วิน!; ช�วิยใน

กัารนอนหล�บและมิ!ผั+�อ�างวิ�าเป*นยาอาย6วิ�ฒนะ

งานวิ�จั�ยจัากัประเทศอ�ตาล!เมิ��อเร�วิๆ น!; ราย งานวิ�าร�อยละ 40 ขิองคนไขิ�มิะเร�ง ท!�ร�บประ - ทานเมิลาโตน�นวิ�นละ 10 มิ�ลล�กัร�มิ จัะมิ!ขินาดมิะเร�งคงท!�หล�งจัากัน�;น 3 เด�อน.

กัระด+กัอ�อนฉลามิ ไมิ�ได�ผัล มิ!หล�กัฐานวิ�ากัระด+กัอ�อน

จัากัคร!บฉลามิ สามิารถย�บย�;งกัารเกั�ดเส�นเล�อดในส�ตวิ7ทดลองตามิทฤษฎี!จั5งอาจัใช�ร�กัษามิะเร�ง โดยท&าให�มิะเร�งอดอยากัจันกัารขิาดเล�อดหล�อเล!;ยง งานวิ�จั�ยท!�ใช�ลองร�บประทานกัระด+กัอ�อนฉลามิ ในคนไขิ�มิะเร�งระยะส6ดท�ายเป*นเวิลา12 ส�ปดาห7ไมิ�เกั�ดผัล.

กัล6�มิขิองสารอาหารท!�ช�วิยลดกัารเส!�ยง ๕ กัล6�มิ

เบต�า-แคโรท!น พบในผั�กัและผัลไมิ�ส!เขิ!ยวิ หร�อเหล�องเขิ�มิ ได�แกั� มิะมิ�วิง ผั�กัขิมิ แครอท บรอคโคล!� และมิะ- เขิ�อเทศ. (อย�าทานมิากัเกั�นไป ! ให�วิ�เคราะห7แต�ละชน�ด.)

วิ�ตามิ�น พบในพวิกัผัลไมิ�ท!�มิ!รสเปร!;ยวิ ได�แกั� สตรอเบอร!� แตงโมิ ส�มิ ชะเอมิ ฯลฯ

ซ้ำ�ล�เน!ยมิ อย+�ในจัมิ+กัขิ�าวิ ร&าขิ�า ปลาท+น�า ห�วิหอมิ กัระ เท!ยมิและเห�ด– .

ใยอาหาร มิ!มิากัในผั�กั ผัลไมิ�และพวิกัเมิล�ดธี�ญพ�ชต�างๆ.

คาร7โบไฮเดรตเช�งซ้ำ�อน พบในขินมิปEงธี�ญพ�ชและถ��วิต�างๆ.

อากัารระยะเร��มิต�นระบบขิ�บถ�ายอ6จัจัาระและปEสสาวิะผั�ดปกัต� กัล�นอาหารล&าบากั แน�นท�อง ปวิดท�อง เส!ยงแหบ ไอเร�;อร�ง กัารเปล!�ยนแปลงขิองห+ด หร�อไฝตามิร�างกัาย มิ!กั�อนท!�เต�านมิ มิ!เล�อดหร�อตกัขิาวิผั�ดปกัต�ออกัทางช�องคลอด มิ!แผัลเร�;อร�ง ห+อ�;อ เล�อดกั&าเดาไหล (อากัารขิ5;นอย+�กั�บอวิ�ยวิะท!�เป*น)

หล!กัเล!�ยงอาหารท!�อาจักั�อมิะเร�ง

อาหารไขิมิ�นส+ง.อาหารท!�มิ!สารกั�อมิะเร�งเช�น อะฟ

ลาท�อกัซ้ำ�น ยาฆ่�าแมิลง . อาหารท!�มิ!ไนเตรต ไนเตรตผัสมิอย+� .

อาหารท!�เกั�บไวิ�นาน ลดอาหารเค�มิ เช�น เกัล�อ ซ้ำอสท�;ง หลาย อาหารหมิ�กัดอง อาหารกัระปRองท!�ใส�เกัล�อมิากั .

อาหารประเภทเน�;อปร6ง เช�น แฮมิ เบคอน ไส�กัรอกั หมิ+ยอ แหนมิ ซ้ำ5�งอาจัมิ!สารเจั�อปนอย+� กัารปร6งอาหาร.

เน�;อส�ตวิ7หร�อปลา โดยส�มิผั�สโดยตรง กั�บเปลวิไฟ เช�น ปO; ง ย�าง เน�;อรมิควิ�น อย�าร�บประทานบ�อยๆ.

พ.ญ.เพ�ญนภา ทร�พย7เจัร�ญ

กัารแพทย7แผันไทยเป*นทางเล�อกั สาเหต6ขิองกัารเกั�ดโรคมิะเร�ง ท!�ส&าค�ญ เกั�ดจัากั: โภชนากัาร ท!�ไมิ�ถ+กัต�อง เต�มิไปด�วิยสารพ�ษ

ไมิ�ออกักั&าล�งกัาย อย+�ในส��งแวิดล�อมิ ท!�เป*นพ�ษ และ

อ��น ๆ

กัารแพทย7แผันไทย กั�บโรคมิะเร�ง

ควิรมิ!พฤต�กัรรมิ ด�านส6ขิภาพ ท!�ถ+กัต�องทานอาหารท!�มิ!เส�นใย/มิ!วิ�ตามิ�น เอ ซ้ำ!, อ!, ส+ง ลดอาหารไขิมิ�นจัากัส�ตวิ7ลดอาหารกัระปRอง อาหารท!�มิ!ส!ส�งเคราะห7 ไมิ�มิ!สารกั�นบ+ด เจั�อปน และปลอดสารพ�ษเล!�ยงอาหารปO; ง ย�าง อบ รมิควิ�น . เล!�ยงอาหารหมิ�กั ดอง ใส�กัรอกั แหนมิ เพราะม่�สาร nitrosamine

เล�อกัร�บประทานอาหารท!�สด สะอาด ร�บประทานผั�กั ผัลไมิ� อาหารสมิ6นไพร.

ผั�กั ผัลไมิ�หลายชน�ด จัะมิ!ค6ณสมิบ�ต� เป*นแอนต!;ออกัซ้ำ�แดนท7 และสารท!�ฆ่�าเซ้ำลล7มิะเร�งได�.

ในวิ�นหน5�งควิรได�ผั�กั 25- 30% ผัลไมิ� 10 %เน�;อปลา หร�อถ��วิ 10%.

อ!กั 50% ควิรเป*นขิ�าวิกัล�อง หร�อเผั�อกั พ�ชผั�กัผัลไมิ� โดยกัารปร6งด�วิยวิ�ธี!ธีรรมิดา เช�น ต�มิ ลวิกั แกัง หร�อร�บประทานด�บ.

ไมิ�ควิรเต�มิน&;าตาล น&;าผั5;ง จันเกั�นควิามิจั&าเป*น เพราะจัะท&าให�ร�างกัาย ได�ร�บน&;าตาล มิากัเกั�นไป .

ผั�กัและผัลไมิ� ซ้ำ5�งเป*นพ�ช สมิ6นไพร ท!�มิ!สารต�านเซ้ำลล7มิะเร�ง ได�แกั� มิะกัร+ด ผั�กัแขิยง ค��นฉ�าย บ�วิบกั ผั�กัช!ฝร��ง กัระชาย ขิ�าใหญ� มิ�นเทศ ใบมิะมิ�วิง มิะกัอกั เบญจัมิาศ แขินงกัะหล&�า แตงกัวิา พร�กัไทย ด!ปล! โหระพา กัระเพรา ใบตะไคร� ถ��วิ ผั�กัแวิ�น ผั�กัขิวิง เพกัา ชะพ+ล ล+กัผั�กัช! เร�วิ เหง�อกัปลาหมิอ ขิมิ�;นอ�อย ห�วิหอมิแดง หอมิใหญ� กัระเท!ยมิ ฯลฯ

top related