หลกการผล ั ิืตพชอาหารสัตว · calopogonium mucunoides....

Post on 03-May-2018

228 Views

Category:

Documents

2 Downloads

Preview:

Click to see full reader

TRANSCRIPT

หลักการผลิตพืชอาหารสัตว

Principles of Forage Crop Production

การบาน

ใหนักศึกษาศึกษาVDO พืชอาหารสัตวทั้งสองเรื่อง

และทํารายงานเนื้อหาที่ปรากฏในเรื่อง พรอมทั้งบท

วิเคราะหวาไดความรูอะไรจากแตละเรื่อง

http://ag.kku.ac.th/virote/

อาหารหยาบที่เปนพืชอาหารสัตว

มีอยู 2 ตระกูล คือ

1) พืชอาหารสัตว ตระกูล หญา

2) พืชอาหารสัตว ตระกูล ถั่ว

พืชตระกูลหญา

พืชตระกูลถั่ว

1. ความหมายและความสําคัญของพืชอาหารสัตว

Grassland: บรเิวณที่มีพชืตระกูลหญาหรือคลายหญา

ขึ้นปกคลุมเปนสวนมาก หรือทุงหญา

Gramineae (Poaceae): คือ Family ของพืชตระกูล

หญา มีประมาณ 10,000 ชนิด (species)

Leguminosae (หรือ Fabaceae) คือFamily ของพืช

ตระกูลถั่ว มปีระมาณ 200,000 ชนิด (species)

ทุงหญาธรรมชาติ

พืชอาหารสัตว (Forage crops) หมายถึง พืชที่สัตว

สามารถกินไดโดยไมเปนพิษ

Pasture crops หมายถึง หญาและถั่วพืชอาหารสัตวที่

เหมาะสมสําหรับปลูกเปนทุงหญาถาวร

Fodder

crops หมายถึง หญาและถั่วพืชอาหารสัตวท

ี่ปลูกเพื่อในชวงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง

โดยทั่วไปเปนพืชอาหารสัตวอายุสั้นที่เจรญิเติบโตเร็ว และใหผลผลิตสูง เชน ขาวโพด-ฟาง

•• BrowseBrowse shrubshrub หมายถึงหมายถึง พชือาหารสัตวที่มีการเจรญิพชือาหารสัตวที่มีการเจรญิ

เติบโตแบบพุมเตี้ยเติบโตแบบพุมเตี้ย เมื่อสัตวกินจะตองชะเงอกินเมื่อสัตวกินจะตองชะเงอกิน เชนเชน

กระถินกระถิน แคแค มะขามเทศมะขามเทศ

Fodder crops

1 ความสําคัญของพืชอาหารสัตว

เปนแหลงอาหารที่สําคัญของสัตว

ชวยปรับปรุงความอุดมสมบูรณของดิน

ชวยลดการพังทลายของดิน (soil erosion)

• โซนที่พืชอาหารสัตวเจริญได แบงไดเปน 2

กลุม

ทุงหญาเขตรอน (Latitude Latitude ที่ที่ 23.523.5 ONN และและ 23.523.5 ο

S )S )

ทุงหญาเขตหนาว(Latitude Latitude ที่สูงกวาที่สูงกวา 3030

ONN และและ 3030

OSS

))

2. สภาพแวดลอมตอการเจริญเติบโตของพืช

3 ปจจัยทางภูมอิากาศ (Climatic factors)

1 แสงแดด

•พลังงานแสงแดดเปนปจจัยพื้นฐานในการ เจริญเติบโตของพืช

ดังนั้นในเขตรอนการเจริญเติบโตของพืชจะมี มากกวาเขตหนาว

Light energy

6CO2

+ 12H2

O C6

H12

O6

+ 6O2

+ 6 H2

O

Chlorophyll

Lethal minimum

Minimum temperature

Optimum temperature

Maximum temperature

Lethal maximum

Cardinal temperature

Ungrowth For growth Ungrowth

รูป อุณหภูมิต่ําสุด (minimum

temperature), อุณหภูมิทีเ่หมาะสมที่สุด

(optimum

temperature), อุณหภูมิสูงสุด (maximum

temperature), อณุหภูมิท

ี่

พชืเจรญิได(cardinal

temperature) และอุณหภูมิต่ําสุดและสูงสุดทีพ่ชืไม

สามารถเจรญิได (lethal

minimum

and

maximum)ที่มา: ดัดแปลงจาก Whiteman

(1980)

Species Leaf temperature (OC)

Minimum Optimum Maximum

(หญารูซี่)

Brachiaria ruziziensis 9 38 56

(หญาเฮมิล)

Panicum maximum cv. Hamil 10 38 58

(หญาเนเปยร)

Pennisetum purpureum 7 37 59

(ขาวฟาง)

Sorghum almum 5 40 52

(ถั่วโคโลโป)

Calopogonium mucunoides 7 34 51

(ถั่วกลายซีน)

Glycine wightii cv. Cooper 5 31 50

(ถั่วเซอราโตร)

Macroptilium atropurpureum cv. Siratro

6 30 50

2 อุณหภมูิ (Temperature)•อุณหภมูิมีผลตอการเจริญเติบโตและขบวนการตางๆทีเ่กิดภายในพชื

• อิทธิพลของอุณหภูมิตอการเจรญิเติบโตของพืชสามารถวิเคราะหไดจากอัตราการเจริญเติบโตของพืช

อัตราการเจริญเติบโตของพืชอาหารสัตว

วัดไดจากอัตราการเพิ่มขึ้นของน้ําหนักแหง และ

อัตราการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ใบ (leaf

area)

ในหญา : การเพิ่มขึ้นของพื้นที่ใบสัมพันธกบัพัฒนาของหนอ

ในพืชตระกูลถั่ว:พื้นที่ใบสัมพันธกบัพัฒนาสวนยอดและการ สรางใบใหม

พืชอาหารสัตวเขตรอนมีอุณหภูมิที่เหมาะสมสําหรับการ เจริญเติบโต (optimum temperature) สูงกวาเขตหนาว

• ลักษณะของฝนมี 2 ประการ คือ

1)

การกระจายของฝน (rainfall

distribution)

ใชทํานายแบบแผนการเจริญเติบโตของทุงหญา

2) ความถี่ของการตกของฝน (rainfall

intensity)

ใชในการคาดคะเนการสูญเสียน้ําที่เกดิจากการไหลบา

(run

off), การกรอนของดิน (soil

erosion)

3 ฝน และความชื้น (Rain water and humidity)

• ความอุดมสมบูรณของดิน (soil fertility) หมายถึง

ความสามารถของดินที่จะผลิตพืชใหมีคุณภาพสูง เพื่อ สนับสนุนการผลิตสัตวใหมีคุณภาพดี

4 ปจจัยทางดิน (Soil factors)

ประกอบดวย

4.1. คุณสมบัติทางฟสิกสของดิน

4.2 ปจจัยทางเคมีของดิน

4.1. คุณสมบัติทางฟสิกสของดิน (Soil

physical

property)

ก) ความลึกของดิน (soil

depth)

ข) ปจจัยของความหนืด (Impedance

effects)

ค) อากาศในดิน (

Soil

aeration)

ง) อุณหภูมิดิน (Soil

temperature)

จ) การซึมผานและการกักเก็บความชื้น

(Moisture penetration

and

conservation)

ฉ) โครงสรางของดิน (Soil

structure)

4.2 ปจจัยทางเคมีของดิน (Soil

chemical

factors)

ไดแกธาตอุาหารในดิน

• ธาตุอาหารที่จําเปนสําหรับพืช(essential elements)

• (ยกเวน C H O ) ที่ไดจากดินมี 15 ธาตุ ไดแก ไนโตรเจน (N), ฟอสฟอรัส (P), โพแทสเซียม

(K), ซัลเฟอร (S), แคลเซียม (Ca), แมกนีเซียม (Mg), เหล็ก

(Fe), สังกะสี (Zn), แมงกานีส (Mn), ทองแดง (Cu), โม ลิบดินัม (Mo), คลอรีน (Cl), โบรอน (B), โคบอลท (Co), และ

โซเดียม (Na)

•และธาตุทีม่ีจําเปนสําหรับสัตว ยังมีเพิ่มอีก 2

ธาต ุคือ ซีลีเนียม (Se) และ ไอโอดีน (I)

• ธาตุอาหารหลัก (Macronutrients) N P K

(1) ไนโตรเจน (N)

การเจริญเติบโตของของทุงหญาจะถูกจํากัดโดย การขาดธาตุ N เปนสวนใหญ

•เมื่อขาด N จะมีผลกระทบตอการสังเคราะหโปรตีน และ จากนั้นการเจริญเติบโตจะชะงัก

•ใบแกจะกระทบเปนอนัดับแรก โดยใบจะเหลือง หรือมีส

ซีด (chlorosis) ซึ่งเปนสาเหตุมาจากการสังเคราะห

คลอโรฟลลถูกยับยั้ง

ที่มา: วีระศักดิ์และคณะ (2547)

ผลของอัตราปุยและระยะเวลาใสปุยไนโตรเจนตอผลผลิตน้ําหนักแหงรวมทั้งป (กก./ไร) เฉลี่ย 2 ป

(2) ฟอสฟอรัส (P)

จําเปนลําดับ 2 รองจากไนโตรเจน

P เปนองคประกอบของสารอินทรียที่สําคัญ เชน

nucleoproteins, adenosine triphosphate

(ATP)

•พืชที่ขาดใบจะมีสีซีด (chlorosis) ตนเล็ก ใบมวง

•P มาก ทําใหใบรวงในพืชตระกูลถั่ว และขอบใบไหม •ความเขมขนของ P ในพืชอยูระหวาง 0.15-0.30

%

(3) โพแทสเซียม (K)

•การขาดเกดินอยกวาขาดN และ P เพราะPมีในดินมาก

•K เปนองคประกอบรวม (co-factor) ของเอ็นไซม

•การขาด K ทําใหลดเมธาบอลิซึมคารโบไฮเดรตและไนโตรเจน •มีอาการปลายใบและขอบใบซีด ( chlorosis) และแหงตายใน

ที่สุด (necrosis)

•ความเขมขนของ K ในพืชมีอยูคอนขางสูง ประมาณ 1-3

%

อทิธิพลรวมระหวางปุยฟอสฟอรสั และโพแทสเซียมอตัราตางๆ ตอผลผลิต น้ําหนกัแหงของหญารูซี่ (กก./ไร/ป)

ที่มา: กานดา และคณะ (2545)

รูป a = ดินทั่วไป (mineral

soils), ธาตุอาหารจะเปนประโยชนที่pH

6.5

รูป b = ดินอินทรียวัตถุสูง(organic

soils) ธาตุอาหารเปนประโยชนที่pH

5.5

a b

ความเปนประโยชนของธาตุอาหารในดินขึ้นอยูกับ Soil pH

ปฏิบัติการ: ลักษณะทางพฤกษศาสตรของหญา

(Botanical descriptions of forage grasses)

Family Gramineae (Poaceae)

หญาเปนพืชใบเลี้ยงเดีย่ว (monocotyledon)

มีฤดูเดียว (annual) และหลายป (perennial)

หญากินนีสีมวง หญาขน หญารูซี่ และหญาเนเปยร

พืชตระกูลหญาและพืชที่มีลักษณะคลายหญา

Gramineae (หรือ Poaceae) มขีอและปลองกลวง

Cyperaceae เปนตระกูลพวกกกหรือผือ

ลําตนตันเปนสามเหลี่ยม ไมมขีอ ปลอง

Juncaceae ลาํตนกลม ตนั ไมมขีอและปลอง

ราก (Roots)

แบบรากฝอย (fibrous

root

system)

ใบ (Leaves)

ใบมีสวนประกอบ คือ กาบใบ (leaf-sheath),ตวัใบ (leaf-

blade) และสวนเชื่อมกาบใบและตวัใบดานในเรียกวา ligule

(ลิ้นใบหรือเยื่อกั้นน้ํา) ดานนอกเรียกวา leaf

collar ดานขาง

2 ดาน ม

ี ระยางยื่นออกเรียกวา หูใบ หรือ auricles

ลําตน (Stems)

ลําตนของหญาแบง 3 ประเภท คือ

1 Culm คือลําตนหลักของหญา เชน

แบบตั้งตรง (erect)

แบบลําตนสวนลางเลื้อยบนผิวดินยอดตั้ง

แบบลําตนแผราบผิวดิน (prostrate)

2 Rhizome คือลําตนใตดิน

3 Stolon คอืลําตนเลื้อยบนผิวดิน

สวนของดอก (The flowering parts)

ชอดอก (Inflorescence) 3 แบบ

Panicle เชนกินนี

Spike

เชน เนเปยร

Raceme เชน รูซี่

spike

เมล็ดหญา (seed)

ผล (fruit) ของหญาคือ (seed)

มีอาหารสะสมใน endosperm

อาหารใชเพื่อembryoโต

seed

ลักษณะทางพฤกษศาสตรของถั่วพืชอาหารสัตว

Family Leguminosae หรือ Fabaceae

ถั่วทาพระสไตโล ถั่วเซนโตร และถั่วคาวาดเคต

ราก (Roots)

-มีระบบรากแกว (tap root system)

-มีปมราก (nodules)

Rhizobium

spp. (symbiosis)

ระบบรากแกว (Tap root system) และปมราก nodules) ของพืชตระกูลถั่ว

ลําตน (Stems)

ทั่วไปตั้งตรง (erect)กระถิน

ลําตนตั้งแบบทรงพุม(semi-erect) ฮามาตา

ลําตนตั้งและแผออกทางดานขาง

(postrate)

ลําตนแบบเถาเลื้อยและเลื้อยพัน

(climbing

and

twining) ถั่วเซอราโตร

และถั่วบางชนิดมีลําตนแบบ

stolons และ rhizomes

ใบ (Leaves)

เปนใบเดี่ยวแตสวนมาก

ถั่วเปนแบบ Trifoliate leaf

Trifoliate leaf

ดอก (The flowering parts)

ชอดอก (Inflorescences)

raceme ถั่วซีราโตร

spike จามจุรี

head กระถิน : (a) raceme ของถั่วเซอราโตร,(b) spike ของจามจุรี, (c) head ของกระถิน

การใชดอกแบงพืชตระกูลถั่วเปน 3 Sub-family คือ

Sub-family Mimosaceae ผาดอกครึ่งเหมือนกนั เชน

ไมยราบ กระถิน มะขามเทศ และกามปู เปนตน

Sub-family Ceasalpiniaceae ผาครึ่งเหมือนแนวเดียว:

ขี้เหล็ก และคณู เปนตน

Sub-family Papilionaceae บานคลายผีเสื้อ เชนถั่วพืช

อาหารสัตว

Sub-family Mimosaceae ผาดอกครึ่ง เหมือนกัน

Sub-family Ceasalpiniaceae ผาครึ่งเหมือนแนวเดียว

Sub-family Papilionaceae บานคลายผีเสื้อ

ดอกถั่วพืชอาหารสัตว

ประกอบดวย

-Corolla กลีบดอกมี

5 กลีบ (petals)

-Calyx กลับเลี้ยง5 อัน

ผล (Fruit)

ไมมี endosperm สะสมอาหาร

แตอาหารอยูในใบเลี้ยง

มีเปลือกหุมเมล็ดหนา

(testa หรือ seed coat)

top related