cdd information

Post on 16-Mar-2016

238 Views

Category:

Documents

3 Downloads

Preview:

Click to see full reader

DESCRIPTION

Youth accident statistic

TRANSCRIPT

รายงานผลการวคิราะห์เหตุการตายในเดก็ที่โดยสาร

รถยนต์ ในเทศกาลสงกรานต์ 2555 และตลอดปี 2554

•เครือข่ายรักลกูให้รอด ปลอดภยั เมื่อใช้ถนน ราชวิทยาลยักมุารแพทย์แหง่ประเทศไทย

•อนกุรรมการพิเคราะห์เหตกุารตายในเดก็ ในคณะกรรมการคุ้มครองเดก็แหง่ชาติ

•อนกุรรมการเสริมสร้างความเข้มแข็งชมุชนเพื่อป้องกนัอบุตัิภยัและสาธารณภยั ใน

คณะกรรมการป้องกนัอบุตัิภยัแหง่ชาติ

•ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ กรมป้องกนัภยั กระทรวงมหาดไทย

•สํานกัระบาด กระทรวงสาธารณสขุ

•ศนูย์วิจยัเพื่อสร้างเสริมความปลอดภยัในเดก็ คณะแพทยศาสต์ รพ รามาธิบดี

•สาํนักงานกองทนุสร้างเสริมสุขภาพ

เครือข่ายรักลูกให้รอด ปลอดภยั เมื่อใช้ถนน

ราชวทิยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย

Child Death Deliberation

คณะอนุกรรมการพเิคราะห์เหตุการตายในเดก็

ในคณะกรรมการคุ้มครองเดก็แห่งชาติ

“จากข้อมลูของหนึ่งชีวิต สู่การป้องกนัอีกหลายชีวิต”

• อนกุรรมการเสริมสร้างความเข้มแขง็ชมุชนเพื่อป้องกนัอบุตัิภยั

และสาธารณภยั ในคณะกรรมการป้องกนัอบุตัิภยัแห่งชาติ

• ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ กรมป้องกนัภยั กระทรวงมหาดไทย

• สํานกัระบาด กระทรวงสาธารณสขุ

• คณะแพทยศาสตร์ รพ รามาธิบดี

แนวโน้มการตายจากอุบัตเิหตุและความรุนแรง

ในเดก็ 1-14 ปี ระหว่างปี 2548-2554

อบุตัิเหตจุราจรเป็นเหตนุํา

การตายลาํดบัสองของเด็ก

Transport injury in children aged <15 years, by types of injured children, Thailand 2005

44.2%

41.6%

13.0%1.3%Pedestrians

Motorcycle 58.7%Pick up 27.5Sedan 5.3Truck 3.0

4,162Passengers3,919

Drivers

Pedestrians

PassengersMotorcycle 68%Pick up 12.3%Bicycle 9.3%Sedan 2%

DriversMotorcycle 69.7%Bicycle 29.7%Pick up 0.3%

Source: 28 sentinel hospitals, The National Injury Surveillance System, Bureau of Epidemiology, Ministry of Public Health, Thailand

Source: 28 sentinel hospitals, National Injury Surveillance System, Bureau of Epidemiology, Ministry of Public Heal, Thailand 2005.

ข้อมูลจาก นพ.ไพจติร์ วราชติ

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

ตลอดปี พ.ศ.2553 ร้อยละ 10 ที่เสียชีวติจากอบุตัเิหตจุราจรเป็นผู้ใช้รถยนต์ทกุประเภทและไมไ่ด้คาดเข็ มขดันิรภยัสดัสว่นการเสียชีวติในกลุม่ผู้ ใช้รถปิกอพั สงูถงึร้อยละ 63 รองลงมาคือ รถยนต์สว่นบคุคลและรถแทก็ซี่ร้อยละ 26 รถตู้ ร้อยละ 8 รถโดยสารประจําทางร้อยละ 2 ผู้ขบัคาดเข็มขดันิรภยัเพียงร้อยล ะ 28 สว่นผู้ โดยสารคาดเพียงร้อยละ 11 มีผู้ โดยสารที่อายตุํ่ากวา่ 15 ปี ที่ไมไ่ด้คาดเข็มขดันิรภยั หลดุออกจากห้องโดยสาร หรือกระแทกกบัของแข็งในห้องโดยสาร ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจํานวน 688 ราย เสียชีวติ 39 ราย

เครือข่ายรักลูกให้รอด ปลอดภยั เมื่อใช้ถนน

ราชวทิยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย

ในทศวรรษที่ผา่นมาสงัคมไทยได้มีการรณรงค์ความ

ปลอดภยัทางถนนอยา่งจริงจงั อยา่งไรก็ตาม 3 ใน 10 มาตรการหลกั ได้แก่ สวมหมวกนิรภยั คาดเข็ม

ขดันิรภยั มีใบขบัขี่ ยงัคงมีการรณรงค์รวมทัง้การ

ดําเนินการตามกฎหมาย โดยมีผลกบัผู้ใหญ่แต่

ยงัคงมีการละเลยตอ่การคุ้มครองปกป้องเดก็อยา่ง

จริงจงั

◦ การรณรงค์การใช้หมวกนิรภยัโดยไมม่ีคําตอบวา่เดก็เลก็โดยเฉพาะอายนุ้อยกวา่ 2 ปีจะให้ปฏิบตัอิยา่งไร ◦ สงัคมยงัยอมรับการขบัขี่มอเตอร์ไซด์โดยเดก็อายนุ้อยกวา่ 18 ปีอยา่งกว้างขวาง ทัง้ๆที่เป็นการขบัขี่ก่อนวยัที่ผิดกฎหมาย

◦ การรณรงค์การใช้เข็มขดันิรภยั โดยไมม่ีคําตอบวา่เดก็

จะใช้ได้อยา่งไร เพราะเข็มขดันิรภยัที่มีในรถทกุรุ่นใน

ปัจจบุนัไมเ่หมาะสมกบัเดก็อายตุํ่ากวา่ 9 ปี

พรบ จราจร

โจทย์ 1: การตายในเดก็จากการโดยสารรถยนต์ทกุประเภท จาํนวน และลักษณะเหตุการณ์ ปี

2554

โจทย์: การตายในเดก็จากการโดยสารรถยนต์ทกุประเภท จาํนวน และลักษณะเหตุการณ์ ปี 2554

จากการศกึษาการตายในเดก็จากฐานข้อมลูการตาย-ใบรับรองการตาย ของกองทะเบียนราษฎร์ พบวา่ในปี 2554 มีเดก็อายุน้อยกวา่ 15 ปีตายจากอบุตัิเหตแุละความรุนแรง 2904 ราย

จมนํา้เป็นสาเหตกุารตายอนัดบั 1 จํานวน 1161 ราย คิดเป็น

ร้อยละ 40จราจรเป็นสาเหตกุารตายอนัดบั 2 จํานวน 614 ราย คิดเป็น

ร้อยละ 21

แนวโน้มการตายจากอุบัตเิหตุและความรุนแรง

ในเดก็ 1-14 ปี ระหว่างปี 2548-2554

ลดลง 9%ลดลง 25%

ลดลง 13%

จากข้อมูลระบบการเฝ้าระวังการบาดเจบ็ 28 โรงพยาบาลของสาํนักระบาดวทิยา กระทรวงสาธารณสุข

พญ พมิพ์พา เตชะกมล

พบวา่ ในปี 2554 มีเดก็อายนุ้อยกวา่ 15 ปี ตายจากอบุตัิเหตุ

จราจรจํานวน 280 รายจากจํานวนการบาดเจ็บรุนแรง 8393 ราย

ตายร้อยละ 3.3 ของการบาดเจ็บรุนแรง หรือ

1 รายที่ตายจะมีการบาดเจ็บรุนแรง 30 ราย

44% ของผู้บาดเจบ็เดก็จากอุบตัเิหตุจราจรเป็นผู้โดยสาร

46% ของเดก็ที่ตายจากอุบัตเิหตุจราจรเป็นผู้โดยสาร

เดก็ที่ตายจากอบุตัิเหตจุราจรทัง้หมดพบวา่ร้อยละ 20.5 มีเหตุจากการโดยสารรถยนต์ทกุประเภท ซึง่รวมทัง้รถปิคอพั รถ

เก๋ง รถสองแถว รถตู้ รถโดยสาร หรือ 1 ใน 5 รายที่ตายจากอบุตัิเหตจุราจรเกิดจากการโดยสารรถยนต์ทกุประเภท

ในเดก็ที่เป็นผู้ โดยสารรถยนต์ทกุประเภทที่ตาย 1 รายจะมีผู้บาดเจ็บรุนแรงที่ต้องพกัรักษาตวัในโรงพยาบาล 14.5 ราย

(หรือตายร้อยละ 6.9 ของจํานวนการบาดเจ็บรุนแรง)

การตายจากอบุตัิเหตจุราจรในเดก็น้อยกวา่ 15 ปี ในปี 2554 มีจํานวนรวมทัง้ประเทศเท่ากบั 614 ราย

คาดประมาณการตายจากการโดยสารรถยนต์ เท่ากบั 126 ราย และ

การบาดเจ็บรุนแรงจากการโดยสารรถยนต์รวม 1827 ราย

กรณีการเสียชีวิต

จากการโดยสารรถยนตส์่วนบคุคล“การประชมุสหวิชาชีพเพื่อพิเคราะหเ์หตจุากการตายของเดก็

กรณีโดยสารรถยนตส์่วนบคุคลโดยไม่ได้ใช้เขม็ขดันิรภยั”

โจทย์ 2: การตายในเดก็จากการโดยสารรถยนต์ทกุประเภท จาํนวน และลักษณะเหตุการณ์

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2555

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีข้อมลูเพิ่มเติมจากฝ่ายเทคโนโลยี

สารสนเทศ กรมป้องกนัภยั รายงานอบุตัิเหตใุหญ่ ศูนย์

อาํนวยการป้องกันและลดอุบัตเิหตุทางถนนช่วงเทศกาล

สงกรานต์ ปี 2555 รายงานสถาบนัการแพทย์ฉกุเฉิน รายงาน

สํานกัระบาดวิทยา ขา่วรายวนั

จากข้อมลูของ กรมป้องกนัภยั ในช่วงเทศกาลสงกรานต์พบวา่มี

การตายจากอบุตัิเหตจุราจรรวมทกุกลุม่อาย ุ320 ราย เป็นเดก็

อายนุ้อยกวา่ 15 ปี 28 ราย คิดเป็น ร้อยละ 8.8

7 วันอันตราย เทศกาลสงกรานต์ 2555มีรายงานการตายจากอบุตัิเหตจุราจรรวม 320 ราย

ในจํานวนนี ้เป็นเดก็อายนุ้อยกวา่ 15 ปี 28 ราย คิดเป็น ร้อย

ละ 8.8

เดก็ตาย กระจายทกุภาค

เดก็ชายตายมากกว่าเดก็หญิงเลก็น้อย

ร้อยละ 50 เป็นอุบัตเิหตุรถยนต์ ชนิดต่างๆ

ในกลุม่เดก็นีเ้ป็นการตายจากการโดยสารรถยนต์ทกุประเภท

จํานวน 13 ราย คิดเป็น ร้อยละ 46 ของการตายจากอบุตัิเหตุจราจร โดยมีการตายจากการขบัขี่และโดยสารมอเตอร์ไซด์

รวมกนั 14 รายหรือร้อยละ 50 ของการตายจากอบุตัิเหตุจราจร

ร้อยละ 62 ของการตายจากการโดยสารรถยนต์ทกุประเภทเป็นการโดยสารรถปิคอพั ร้อยละ 23 เป็นการโดยสารรถเก๋ง แม้พฤตกิรรมเสี่ยงของผู้ขบัเชน่ เมาสรุา ขบัรถเร็ว และหลบัในจะพบ

ร่วมด้วยกบัการเกิดอบุตัเิหต ุแตเ่ดก็ที่ตายทัง้หมดไมไ่ด้คาดเข็มขดั

นิรภยัหรือใช้ที่นัง่นิรภยั (ไมไ่ด้คาดเข็มขดันิรภยัร้อยละ 100)

การกระเดน็ออกนอกรถของผู้ โดยสารไมว่า่จะเป็นการนัง่สว่นบรรทกุ

ของรถปิคอพั การกระเดน็ออกนอกรถหรือกระแทกกระทัน้โครงสร้าง

ภายในรถยนต์ของผู้นัง่ด้านในรถทกุประเภทแตไ่มไ่ด้ใช้เขม็ขดันิรภยั

เป็นปัจจยัเสี่ยงตอ่การตายที่สําคญัเชน่กนั

Anderson gave this description of the events, based on his talk with various family members:The family was visiting Krongyuti’s diabetic mother and other family members in northeastern Thailand and celebrating the Thai New Year. Kayla was sick and Kyle was complaining about a bug being lodged in his ear Sunday morning. Krongyuti, his wife, children, niece and her boyfriend got in the niece’s car and drove toward a hospital.At some point, the car crashed.At about 9:30 p.m. Saturday (8:30 a.m. Sunday Thailand time), a few hours after the accident, Anderson said he started receiving reports from friends and family around the world.

Khamtan was born in Laos and lived most of her early childhood with a sister in Thailand. When she was 12, her family moved to U.S. She graduated from Nottingham High School and Le Moyne College.She met Krongyuti while vacationing in Thailand, Anderson said.“She’s very quiet, very shy, but very nice,” “Her friends were very fond of her. She had a lot of friends.”

Suthep Krongyuti worked about eight years as a chef and kitchen worker at The Lemon Grass, a Thai restaurant in Armory Square, said the owner, Max Chutinthranond.“She loved her husband and her husband loved her,” Chutinthranond said.“They were really dedicated to each other and their kids,” he said. “They were really family-focused.”

เมื่อเวลา 07.30 น. เกิดอบุตัิเหตรุถชนต้นไม้ริมถนนหนองคาย-

โพนพิสยั ทางเข้าบ้านหมากก่อง ต.บ้านเดื่อ เป็นรถยนต์เก๋งซีวิค

พลกิตะแคงขวางถนนอยู ่มีผู้ ติดอยูใ่นรถ 3 คนถกูนําตวัสง่

โรงพยาบาลหนองคาย

สว่นผู้ เสียชีวิตทนัทีในที่เกิดเหตมุี 3 คน คือ หญิงตัง้ครรภ์ 3 เดือน

ร่างกระเดน็ออกจากรถตกลงไปในคลองนํา้ข้างทาง ใกล้กบัตวัรถ

พบศพ เดก็ชาย อาย ุ4 ขวบ และ หญิงอาย ุ24 ปี

สอบสวนพบวา่ ก่อนเกิดเหตทุัง้หมดกําลงัจะเดินทางเข้าตวัเมือง

หนองคาย พอมาถงึที่เกิดเหตคุาดวา่รถจะเสียหลกั ทําให้ท้ายรถ

สะบดัชนเข้ากบัต้นก้ามปขู้างทาง แล้วรถจงึเสียหลกัหมนุคว้าง

พลิกตะแคงข้างกลางถนน เป็นเหตใุห้มีร่างกระเดน็ออกนอกรถ

เสียชีวิต

รถปิคอัพ เดก็ 2 รายเด็กตายอาย ุ1 ปี และ 6 ปีรถปิคอพั (ตอนครึ่ง) ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สเีทา

คนขบัพร้อมผู้ โดยสารรวม 7 คน เดนิทางจากจงัหวดัจนัทบรุี เพื่อกลบับ้านที่จงัหวดัน่านใน

เทศกาลสงกรานต์ ขณะที่วิ่งมาตามถนน

สายพิษณโุลก-นครสวรรค์ (ขาเข้า) มุง่หน้าไปจงัหวดัพิษณโุลก ถงึจดุเกิดเหตรุะหวา่งหลกั กม.ที่70-71 บ้านมาบมะไฟ หมู่ 5 ต.เนินสวา่ง อ.โพธ์ิประทบัช้าง สนันิษฐานวา่คนขบัหลบัใน เป็น

เหตใุห้รถเสยีการควบคมุออกจากชอ่งทาง ตกลงไป

ข้างถนนด้านซ้ายแล้วไปเฉี่ยวชนกบัต้นไม้ ท้ายรถ

ตกลงไปในคนูํา้ ทําให้คนขบัพร้อมผู้ โดยสาร

เสยีชีวิตในที่เกิดเหตุ 5 รายและบาดเจ็บสาหสั อีก

2 ราย

สรุปผล

เดก็อายุตํ่ากว่า 15 ปี ตายจากการโดยสารรถยนต์ทุก

ประเภทปีละ 126 รายและบาดเจบ็รุนแรงปีละ 1827 ราย

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์อัตราส่วนการตายของเดก็จาก

การโดยสารรถยนต์สูงขึน้จากค่าเฉลี่ยตลอดปีร้อยละ 21 ของการตายจากอุบัตจิราจรทัง้หมด เป็นร้อยละ 46 หมายถงึเกือบครึ่งหนึ่งของการตายในเดก็จากอุบัตเิหตุ

จราจรในชวงเทศกาลสงกรานต์เกดิขึน้มาจาก การโดยสาร

รถยนต์

เดก็ที่เสียชีวติทัง้หมดไม่ได้ใช้ระบบยดึเหนี่ยวในรถยนต์คือ

ไม่ได้ใช้เขม็ขัดนิรภยัและที่นั่งนิรภยั

เดก็ที่นั่งรถปิกอัพส่วนกระบะท้ายกระเดน็ออกมาตายนอก

รถ เดก็ที่นั่งภายในรถมีทัง้ที่กระเดน็ทะลุกระจกออกมา

ตายนอกรถ และตายภายในรถ ในขณะที่ผู้ขับส่วนใหญ่

รอดชีวติ

แนวทางป้องกัน/ ข้ออภปิรายการนั่งหลังรถส่วนขนของหรือส่วนกระบะท้ายมีความเสี่ยง

ต่อการตายเมื่อเกดิอุบัตเิหตุ จากการศึกษาในต่างประเทศ

พบความเสี่ยงสูง 8 เท่าเมื่อเทยีบกับผู้นั่งภายในรถ

นอกจากนัน้ 1ใน3ของเดก็ที่บาดเจบ็จากการนั่งส่วนกระบะท้ายยังเกดิขึน้จากการพลัดตกโดยไม่มีการชน

Anderson A, Agran P, Winn D. Fatalities of occupants in cargo areas of pickup trucks. Accid Anal Prev. 2000;32:533–540

เพื่อลดการตายของเดก็จากการโดยสารรถยนต์ การนั่ง

รถยนต์ทุกประเภทต้องบังคับให้เดก็ใช้ระบบยดึเหนี่ยวเพื่อ

ยดึตวัเดก็ไว้ไม่ให้กระเดน็ออกนอกรถ หรือ

กระแทกกระทัน้โครงสร้างภายในตวัรถ ระบบยดึเหนี่ยว

ดงักล่าวประกอบด้วยเขม็ขัดนิรภยัและที่นั่งนิรภยั

ทัง้นีต้้องครอบคลุมทุกที่นั่งในรถยนต์

ในเดก็อายุน้อยกว่า 9 ปี ต้องใช้ที่นั่งนิรภยัให้เหมาะสมตามวัย และต้องยดึเหนี่ยวให้ถูกวธิีตามคาํแนะนําของแต่

ละผลิตภณัฑ์ ในเดก็ทารกจะตดิตัง้แตกต่างจากเดก็โต โดย

จะตดิตัง้ที่นั่งนิรภยัโดยหนัหน้าเดก็ไปทางด้านหลังรถ

ในรถเก๋งที่มีที่นั่งตอนหลังเดก็อายุน้อยกว่า 12 ปีควรให้นั่งทางด้านหลัง การนั่งเบาะที่นั่งตอนหลังจะลดความเสี่ยง

ต่อการบาดเจบ็รุนแรงเมื่อเกดิอุบัตเิหตุลงได้ถงึ 5 เท่า ยกเว้นที่นั่งตอนหลังของรถปิคอัพ(ส่วนแคป) ซึ่งความ

กว้างไม่เพยีงพอ เมื่อเกดิอุบัตเิหตุพบว่าอัตราการบาดเจบ็

ไม่แตกต่างจากผู้นั่งตอนหน้า

การตดิตัง้ที่นั่งนิรภยัในรถปิคอัพ ต้องตดิตัง้ที่บริเวณเบาะ

หน้าข้างคนขับ ไม่สามารถตดิตัง้ในบริเวณส่วนแคปได้

บริเวณที่นั่งข้างคนขับต้องไม่มีถุงลมนิรภยั หากมีถุงลม

ต้องเป็นชนิดที่สามารถปิดการทาํงานได้ เพราะถุงลมที่

ระเบดิออกมาขณะที่เดก็นั่งบนที่นั่งนิรภยัเบาะหน้าข้าง

คนขับนัน้อาจเป็นอันตรายต่อเดก็ ถงึแก่ชีวติได้

ควรมีการรณรงค์การใช้ที่นั่งนิรภยัสาํหรับเดก็อย่างจริงจงั โดยเฉพาะการเดนิทางครัง้แรกของเดก็ที่ออกจากโรงพยาบาล และการเดนิทางของเดก็อนุบาลหรือเดก็ในสถานพฒันาเดก็ปฐมวัย โดยหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องควรแสดงความรับผิดชอบในการรณรงค์ดังกล่าว

ทาํหนังสือถงึ กระทรวงสาธารณสุข สมาคมโรงพยาบาลเอกชน แพทยสมาคม สมาคมแพทย์อุบัตเิหตุ สมาคมวชิาชีพพยาบาล วทิยาลัยพยาบาล กระทรวงศึกษาธิการ สมาคมเทศบาล/ องค์กรท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงพฒันาสังคม สมาคมโรงเรียนเอกชน

ควรมีการสนับสนุนการใช้ที่นั่งนิรภยัโดยการลดภาษีนําเข้าเพื่อให้ผลิตภณัฑ์มีราคาที่ถูกลง เพิ่มโอกาสการตดัสินใจใช้ของผู้ใช้ หน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องควรดาํเนินการเพื่อบรรลุผลดงักล่าว

ควรมีการเผยแพร่ความรู้ผ่านสื่อต่างๆอย่างกว้างขวาง หน่วยงานทางสาธารณสุข และหน่วยงานทางด้านการป้องกันภยัควรขยายการรับรู้สาธารณะ

ทาํหนังสือถงึ กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข สื่อต่างๆ

บริษัทรถยนต์ต่างๆต้องรับผดิชอบต่อการคุ้มครอง

ผู้บริโภคเดก็ โดย สนับสนุนการประชาสัมพันธ์การใช้ การ

เผยแพร่ความรู้สู่สาธารณะ การมีโปรโมชันแก่ผู้ซือ้รถใน

รูปของการสนับสนุนการใช้ที่นั่งนิรภยัเช่น แถมที่นั่งนิรภยั

สาํหรับผู้ซือ้รถ

ทาํหนังสือถงึ สมาคม/ บริษัทรถยนต์

ควรมีการผลักดันพรบ จราจรให้มีการแก้ไขเพิ่มเตมิมาตรา

123 ให้ครอบคลุมความปลอดภยัในเดก็ ระบบการยดึเหนี่ยวทุกที่นั่งในรถยนต์

ทาํหนังสือถงึ ศูนย์ความปลอดภยัทางถนน กรมป้องกันภยั

การรณรงค์การใช้เขม็ขัดนิรภยั การตดิตัง้เขม็ขัดนิรภยัมา

พร้อมรถยนต์ การจบักุมดาํเนินการตามมาตรา 123 เรื่องการใช้เขม็ขัดนิรภยั นัน้ได้มีการดาํเนินงานอยู่จริงใน

สังคมไทย หากแต่ว่าการดาํเนินงานดงักล่าวเป็นเพยีง

ความพยายามคุ้มครองความปลอดภยัให้กับผู้ใหญ่เท่านัน้

มิได้ส่งผลต่อความปลอดภยัของเดก็ในการโดยสารรถยนต์

แต่อย่างใด

top related