coe_2303
DESCRIPTION
ข้อสอบไฟฟ้า ของ ก.ว.TRANSCRIPT
สาขา: ไฟฟาแขนงไฟฟากําลัง วิชา: EE01 Electrical Instruments and Measurements
ขอที่ : 1 ขอใดคือหนวยวัดพื้นฐานทางไฟฟา (Base unit)
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 2 แรงดันไฟฟาขนาด 10 kV ถาเขียนใหอยูในรูปของ MV จะตรงกับขอใด
คําตอบ 1 : 0.01 MV คําตอบ 2 : 0.1 MV คําตอบ 3 : 100 MV คําตอบ 4 : 1,000 MV
ขอที่ : 3 คอมพิวเตอรเครื่องหนึ่งมีหนวยความจําเปนจํานวน 10 TB (Terabyte) ถามวาหนวยความจํานี้มีอยูเปนจํานวนกี่บิต (bit)
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
1 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 4
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 5
คําตอบ 1 : 3.6 MJ คําตอบ 2 : 6.22 kJ คําตอบ 3 : 5.98 MJ คําตอบ 4 : 10.79 kJ
ขอที่ : 6 กรมอุทกศาสตรทหารเรือ มีอุปกรณที่สามารถตรวจสอบและสอบเทียบมาตรฐานของอะไร
คําตอบ 1 : ความดัน (Pressure) คําตอบ 2 : อุณหภูมิ (Temperature) คําตอบ 3 : แรงดันไฟฟา (Voltage) คําตอบ 4 : เวลา (Time)
ขอที่ : 7 หนวยความเขมของสนามแมเหล็ก (Magnetic field strength) คือ 2 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 8 หนวยความหนาแนนของฟลักซแมเหล็ก (Magnetic flux density) คือ
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 9 อุปกรณใดเปนตัวสรางแรงดันมาตรฐาน ในหองปฏิบัติการ
คําตอบ 1 : FET คําตอบ 2 : Transistor คําตอบ 3 : UJT คําตอบ 4 : Zener diode
ขอที่ : 10 ในระบบ SI มวลมีหนวยเปน
คําตอบ 1 : milligram (mg) คําตอบ 2 : gram (g)
3 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 : kilogram (kg) คําตอบ 4 : newton (N)
ขอที่ : 11 หนวยหลักมูล ( Fundamental unit ) ทางกลใชวัดอะไร
คําตอบ 1 : ความยาว (Length) คําตอบ 2 : มวล (Mass) คําตอบ 3 : เวลา (Time) คําตอบ 4 : ถูกหมดทุกขอ
ขอที่ : 12 หนวยตางๆในขอใดที่ใชวัดในระบบอังกฤษ
คําตอบ 1 : เมตร กิโลกรัม วินาที คําตอบ 2 : เมตร ปอนด วินาที คําตอบ 3 : ฟุต ปอนด วินาท ีคําตอบ 4 : ฟุต กิโลกรัม วินาที
ขอที่ : 13 สัญญาณแรงดันมาตรฐานที่ใชในเครื่องมือวัดอุตสาหกรรมคือขอใด
คําตอบ 1 : 0 V ถึง 5 V คําตอบ 2 : 0 V ถึง 10 V คําตอบ 3 : 1 V ถึง 5 V คําตอบ 4 : 1 V ถึง 10 V
ขอที่ : 14 กระแสมาตรฐานที่ใชในเครื่องมือวัดและการวัดอุตสาหกรรมคือขอใด
คําตอบ 1 : 0 mA ถึง 10 mA คําตอบ 2 : 0 mA ถึง 20 mA คําตอบ 3 : 4 mA ถึง 10 mA คําตอบ 4 : 4 mA ถึง 20 mA
ขอที่ : 15
4 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
การสอบกลับได (Traceability) ตามระบบ SI คือ
คําตอบ 1 : มาตรฐานนานาชาติ มาตรฐานทุติยภูมิ มาตรฐานปฐมภูมิ มาตรฐานใชงาน อุปกรณการวัด คําตอบ 2 : มาตรฐานใชงาน มาตรฐานทุติยภูมิ มาตรฐานปฐมภูมิ มาตรฐานนานาชาติ อุปกรณการวัด คําตอบ 3 : มาตรฐานนานาชาต ิมาตรฐานปฐมภูมิ มาตรฐานทุติยภูมิ มาตรฐานใชงาน อุปกรณการวัด คําตอบ 4 : มาตรฐานใชงาน มาตรฐานปฐมภูมิ มาตรฐานทุติยภูมิ มาตรฐานนานาชาติ อุปกรณการวัด
ขอที่ : 16 ขอใดไมใชหนวยอนุพัทธ (Derived unit) ทางไฟฟา
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 17 มาตรฐานการวัดทางไฟฟา สามารถแบงออกไดเปน 4 มาตรฐานอะไรบาง
คําตอบ 1 : มาตรฐานนานาชาต ิมาตรฐานปฐมภูมิ มาตรฐานทุติยภูมิ มาตรฐานการใชงาน คําตอบ 2 : มาตรฐานนานาชาติ มาตรฐานปฐมภูมิ มาตรฐานการสราง มาตรฐานการใชงาน คําตอบ 3 : มาตรฐานนานาชาติ มาตรฐานการสราง มาตรฐานการใชงาน มาตรฐานการตรวจสอบ คําตอบ 4 : มาตรฐานการสราง มาตรฐานการใชงาน มาตรฐานการตรวจสอบ มาตรฐานการปรับแตง
ขอที่ : 18 มาตรฐานการวัดทางไฟฟาประเภทใดที่เกิดขึ้นตามขอตกลงรวมกันของหลาย ๆ ประเทศ
คําตอบ 1 : มาตรฐานการใชงาน คําตอบ 2 : มาตรฐานการปรับแตง คําตอบ 3 : มาตรฐานการสราง คําตอบ 4 : มาตรฐานนานาชาต ิ
ขอที่ : 19 ปริมาณใดดังตอไปนี้ที่มีหนวยเปน candela (cd)
5 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : Quantity of Charge คําตอบ 2 : Electromotive Force คําตอบ 3 : Luminous Flux คําตอบ 4 : Luminous Intensity
ขอที่ : 20
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 21 ขอใดที่ไมใชหนวยรากฐาน (Base units) ในระบบ SI
คําตอบ 1 : หนวย kg ของมวล คําตอบ 2 : หนวย second ของเวลา คําตอบ 3 : หนวย celsius ของอุณหภูมิ คําตอบ 4 : หนวย mole ของจํานวนของสาร
ขอที่ : 22 กําลังไฟฟามีหนวยเปน watt จะแสดงในรูปของหนวยรากฐาน (base unit) ไดเปน
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
6 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 23 แรงดันไฟฟามาตรฐาน (voltage standard) ระดับปฐมภูมิในปจจุบันคือ
คําตอบ 1 : รอยตอโจเซปสัน (Josephson junction) คําตอบ 2 : ซีเนอรไดโอด (Zener diode) คําตอบ 3 : สแตนดารดเซลล (standard cell) คําตอบ 4 : แรงดันฮอลล (Hall voltage)
ขอที่ : 24 วิธีการสรางกระแสไฟฟามาตรฐาน (Electrical current standard) ระดับปฐมภูมิในปจจุบันคือ
คําตอบ 1 : เคอรเรนตบาลานซ (current balance) คําตอบ 2 : ปรากฏการณฮอลล (Hall effect) คําตอบ 3 : ใชรอยตอโจเซปสัน (Josephson junction) คําตอบ 4 : ใชธาตุซีเซียม 133 (caesium – 133)
ขอที่ : 25 หนวยวัดคาความเขมสนามแมเหล็ก (magnetic field strength) คือ
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 : A – turn คําตอบ 3 : tesla
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 26
7 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
อุณหภูมิศูนยองศาสัมบูรณคือ
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 : 0 K คําตอบ 3 : 273.16 K
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 27
คําตอบ 1 : 2 Pa คําตอบ 2 : 20 Pa คําตอบ 3 : 200 Pa คําตอบ 4 : 20 kPa
ขอที่ : 28 ขอใดเปนการเขียนสมการบอกคาแรงดันอารเอ็มเอส (rms) ขนาด 25 volt ที่ถูกตองตามระบบ SI
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 29 หนวยของกระแสไฟฟาในระบบ SI เปนวิธีการกําหนดมาตรฐานในกลุมใด
คําตอบ 1 : กําหนดมาตรฐานของปริมาณจับตองได คําตอบ 2 : กําหนดมาตรฐานโดยนิยามกระบวนการวัด คําตอบ 3 : กําหนดมาตรฐานโดยอาศัยปรากฏการณทางธรรมชาติ
8 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 : กําหนดมาตรฐานระหวางประเทศ
ขอที่ : 30 เครื่องมือวัดที่ใชงานในหองทดลองของมหาวิทยาลัย ควรไดรับการตรวจสอบความแมนยําและความนาเชื่อถือดวยมาตรฐานระดับใด
คําตอบ 1 : มาตรฐานระหวางประเทศ คําตอบ 2 : มาตรฐานปฐมภูมิ คําตอบ 3 : มาตรฐานใชงาน คําตอบ 4 : มาตรฐานหองปฏิบัติการ
ขอที่ : 31 มวล 27,500 กิโลกรัม เขียนในระบบ SI อยางไรจึงจะถูกตอง
คําตอบ 1 : 27.500 Mg คําตอบ 2 : 27,500 Kg คําตอบ 3 : 0.275 Gg คําตอบ 4 : 27,500 kilograms
ขอที่ : 32
คําตอบ 1 : 1366 candela คําตอบ 2 : 233244.5 candela คําตอบ 3 : 466489 candela คําตอบ 4 : 932978 candela
ขอที่ : 33 มอเตอรมีความเร็ว 500 rpm (round per minute) คิดเปนความเร็วเชิงมุมเทากับเทาไร
คําตอบ 1 :
9 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 34
คําตอบ 1 : 20 rpm คําตอบ 2 : 40 rpm คําตอบ 3 : 1200 rpm คําตอบ 4 : 2400 rpm
ขอที่ : 35 แรงที่กระทําตอพื้นที่หนึ่งหนวย มีหนวยมาตรฐานตามระบบ SI ตรงกับขอใด
คําตอบ 1 : newton คําตอบ 2 : joule คําตอบ 3 : watt คําตอบ 4 : pascal
ขอที่ : 36 คาความเหนี่ยวนําที่มีหนวยเปน henry หารดวยคาความจุไฟฟาที่มีหนวยเปน farad จะไดผลลัพธมีหนวยเปนอะไร
คําตอบ 1 : volt คําตอบ 2 : weber
10 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 37
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 38 กําลัง (Power) มีหนวยในระบ SI ตรงกับขอใด
คําตอบ 1 : joule
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 : newton
ขอที่ : 39
คําตอบ 1 :
11 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 : 1000 ps คําตอบ 3 : 1 ns
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 40 คาความตานทาน R คูณกับคาตัวเก็บประจุ C จะไดผลลัพธที่มีหนวยเปนอะไร
คําตอบ 1 : volt คําตอบ 2 : henry คําตอบ 3 : ampere คําตอบ 4 : second
ขอที่ : 41
คําตอบ 1 : volt คําตอบ 2 : henry คําตอบ 3 : ampere คําตอบ 4 : newton
ขอที่ : 42
คําตอบ 1 : V = 1.2 mV คําตอบ 2 : V = 12 mV คําตอบ 3 : V = 1.2 kV
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 43
12 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
เวลายอด (Peak time) ของผลตอบสนองมีคาประมาณเทาใด จากกราฟแสดงผลตอบสนองทางพลศาสตรตอสัญญาณขั้นบันไดหนึ่งหนวยของเครื่องมือวัด
คําตอบ 1 : 1.5 s คําตอบ 2 : 3.3 s คําตอบ 3 : 7.5 s คําตอบ 4 : 12 s
ขอที่ : 44
เวลาพุง (Rise time) ของผลตอบสนองมีคาประมาณเทาใด จากกราฟแสดงผลตอบสนองทางพลศาสตรตอสัญญาณขั้นบันไดหนึ่งหนวยของเครื่องมือวัด
13 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 1.5 s คําตอบ 2 : 3.3 s คําตอบ 3 : 7.5 s คําตอบ 4 : 12 s
ขอที่ : 45
เวลาคงตัว (Settling time) ของผลตอบสนองมีคาประมาณเทาใด จากกราฟแสดงผลตอบสนองทางพลศาสตรตอสัญญาณขั้นบันไดหนึ่งหนวยของเครื่องมือวัด
14 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 1.5 s คําตอบ 2 : 3.3 s คําตอบ 3 : 7.5 s คําตอบ 4 : 12 s
ขอที่ : 46
คําตอบ 1 :
15 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 47
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 48
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 49
16 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
เครื่องมือใดที่ใชหลักของวิธีวัดแบบเทียบศูนย (Null method)
คําตอบ 1 : อุปกรณวัดแสงในกลองถายรูป คําตอบ 2 : เทอรโมมิเตอรแบบปรอท คําตอบ 3 : เครื่องชั่งน้ําหนักแบบ 2 แขน คําตอบ 4 : เกจวัดความดันแบบบูรดอง (Bourdon)
ขอที่ : 50
คําตอบ 1 : 2.6 s คําตอบ 2 : 3.6 s คําตอบ 3 : 4.6 s คําตอบ 4 : 5.6 s
ขอที่ : 51 การเปลี่ยนแปลงที่นอยที่สุดของตัวแปรอินพุตที่ทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นไดที่เอาตพุตของเครื่องมือวัด เรียกวา
คําตอบ 1 : ฮิสเทอรีซิส (Hysteresis) คําตอบ 2 : การเลื่อน (Drift) คําตอบ 3 : การแยกชัด (Resolution) คําตอบ 4 : คาขีดเริ่ม (Threshold)
ขอที่ : 52 คาขีดเริ่ม (threshold) ของเครื่องมือวัดมีนิยามวาอะไร
คําตอบ 1 : อัตราสวนระหวางคาเอาตพุตของเครื่องมือวัดตอคาอินพุต คําตอบ 2 : การเลื่อนของคาเอาตพุตของเครื่องมือวัดเนื่องจากอายุการใชงาน คําตอบ 3 : คาที่มากที่สุดที่เครื่องมือวัดยังไมสามารถวัดได คําตอบ 4 : การเปลี่ยนแปลงที่นอยที่สุดของตัวแปรอินพุตที่สามารถวัดได
17 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 53 ความใกลเคียงกันระหวางคาที่วัดไดกับคาจริงของตัวแปรที่ถูกวัดคือความหมายของขอใด
คําตอบ 1 : ความเที่ยงตรง (Precision) คําตอบ 2 : ความแมนยํา (Accuracy) คําตอบ 3 : ความไว (Sensitivity) คําตอบ 4 : ความจําแนกชัด (Resolution)
ขอที่ : 54 เครื่องมือวัดกระแส 2 ตัว มีความยาวสเกลเทากัน โดยตัวหนึ่งมีพิกัด 0 ถึง 1 A และอีกตัวหนึ่งมีพิกัด 0 ถึง 10 A อยากทราบวาเครื่องมือวัดตัวไหนมีความไวมากกวากัน
คําตอบ 1 : เครื่องมือวัดที่มีพิกัด 0 ถึง 1 A มีความไวมากกวา คําตอบ 2 : เครื่องมือวัดที่มีพิกัด 0 ถึง 10 A มีความไวมากกวา คําตอบ 3 : เครื่องมือวัดทั้งสองมีความไวเทากัน คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูกตอง
ขอที่ : 55 การกระทําในขอใดจัดเปนกระบวนการวัดแบบทําซ้ํา (Reproduction measurement)
คําตอบ 1 : ทอยลูกเตาลูกหนึ่ง 100 ครั้งและจดสถิติดูวาออกเลข 1 กี่ครั้ง คําตอบ 2 : นําไข 100 ฟองมาชั่งน้ําหนักทีละฟองโดยเครื่องชั่งเครื่องหนึ่ง เพื่อหาคาเฉลี่ยของน้ําหนักไข 1 ฟอง คําตอบ 3 : ใชแอมมิเตอร (Ammeter) เครื่องหนึ่งไปวัดกระแสที่ใชในหลอดไฟดวงหนึ่งเปนจํานวน 3 ครั้งติดตอกัน เพื่อหาคากระแสที่แนนอน คําตอบ 4 : ใชโวลตมิเตอร (Voltmeter) 3 เครื่องไปวัดแรงดันของแบตเตอรี่ลูกหนึ่งเพื่อหาคาแรงดันที่เชื่อถือได
ขอที่ : 56 เครื่องมือวัดชนิดใดที่ใชหลักการวัดเทียบศูนย
คําตอบ 1 : เครื่องชั่งน้ําหนักอิเล็กทรอนิกส คําตอบ 2 : มิเตอรวัดกําลังแบบอิเล็กโตรไดนาโมมิเตอร คําตอบ 3 : โพเทนชิโอมิเตอรวัดแรงดัน คําตอบ 4 : กัลวาโนมิเตอร
ขอที่ : 57 การทําใหเครื่องมือวัดมีคาขีดเริ่ม (Threshold) ลดลงทําไดโดย
คําตอบ 1 : เปลี่ยนไปใชพิสัยการวัดที่สูงขึ้น คําตอบ 2 : เปลี่ยนไปใชพิสัยการวัดที่ต่ําลง
18 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 : เพิ่มแบนดวิดทของเครื่องมือวัด คําตอบ 4 : ลดแบนดวิดทของเครื่องมือวัด
ขอที่ : 58 ความไว (sensitivity) ของเครื่องมือวัดหรือระบบการวัดคือ
คําตอบ 1 : คาอัตราสวนการเปลี่ยนแปลงของผลการวัดตอการเปลี่ยนแปลงของปริมาณวัด คําตอบ 2 : คุณสมบัติในการตอบสนองตอสภาพแวดลอม ถาการทํางานของเครื่องมือมีผลกระทบมากก็หมายถึงมีความไวสูง คําตอบ 3 : ความรวดเร็วในการแสดงผลการวัด คําตอบ 4 : การตอบสนองตอความถี่ของสัญญาณวัด
ขอที่ : 59 ระบบการวัดในขอใดที่เปนระบบอันดับศูนย (zero order system)
คําตอบ 1 : มิเตอรพีเอ็มเอ็มซี (PMMC meter) คําตอบ 2 : โพเทนชิโอมิเตอร (potentiometer) วัดระยะขจัด คําตอบ 3 : กัลวาโนมิเตอร (galvanometer) คําตอบ 4 : อิเล็กโตรไดนาโมมิเตอร (electrodynamometer)
ขอที่ : 60
คําตอบ 1 : 4.38 s คําตอบ 2 : – 4.38 s คําตอบ 3 : 1.9 s คําตอบ 4 : – 1.9 s
ขอที่ : 61
19 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 10.83 องศาเซลเซียส คําตอบ 2 : 36.51 องศาเซลเซียส คําตอบ 3 : 69.17 องศาเซลเซียส คําตอบ 4 : 80 องศาเซลเซียส
ขอที่ : 62 ความไว (sensitivity) ของระบบการวัดมีคุณสมบัติตรงกับในขอใด
คําตอบ 1 : ฟงกชันถายโอน (transfer function) คําตอบ 2 : ความเขาใกลกันระหวางคาวัดแตละครั้ง คําตอบ 3 : การตอบสนองพลวัต (dynamic response) คําตอบ 4 : ขนาดปริมาณวัดที่เล็กที่สุดที่ระบบการวัดตรวจวัดได
ขอที่ : 63 ความเที่ยงตรง (precision) คือ
คําตอบ 1 : ความแตกตางระหวางคาวัด (measured value) กับคาปริมาณวัด (value of quantity) คําตอบ 2 : ความเขาใกลคาปริมาณวัดของคาวัด คําตอบ 3 : ความเขาใกลกันระหวางคาวัดแตละครั้งที่ไดจากการวัดทวนซ้ํา (repetition measurement) คําตอบ 4 : อัตราสวนของการเปลี่ยนแปลงของผลการวัดตอการเปลี่ยนแปลงของปริมาณวัด
ขอที่ : 64 ขอใดเปนคุณสมบัติของระบบอันดับศูนย (zero order system)
คําตอบ 1 : มีแบนดวิดท (bandwidth) เปนอนันต
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 : ระบบจะมีแบนดวิดทกวางที่สุดเมื่อใหมีการหนวง (damping) ประมาณ 0.7
20 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 65 ระบบการวัดอันดับหนึ่ง (first order system) ที่มีคาคงตัวเวลา (time constant) เทากับ 2 ms จะมีแบนดวิดทประมาณเทาไร
คําตอบ 1 : 40 Hz คําตอบ 2 : 80 Hz คําตอบ 3 : 500 Hz
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 66 การหาผลตอบสนองตอความถี่ของระบบทําไดดวยการเปรียบเทียบสัญญาณออกกับสัญญาณเขา สัญญาณเขาที่จะปอนใหระบบตองเปนสัญญาณอะไร
คําตอบ 1 : คลื่นไซน (sine wave) ความถี่คงที่ คําตอบ 2 : สัญญาณแรมป (ramp signal) คําตอบ 3 : คลื่นสี่เหลี่ยม (rectangular wave) คําตอบ 4 : สัญญาณกวาด (sweep signal)
ขอที่ : 67 แอมมิเตอร (Ammeter) แบบดิจิตอลในขอใดที่มีความจําแนกชัด (Resolution) ดีที่สุด เมื่อมิเตอรกําลังแสดงคาสูงสุดในพิสัยการวัด (Measurement range)
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 68
เมื่อพิจารณาในเรื่องคุณสมบัติพลวัต (Dynamic characteristics) ของระบบ ระบบการวัดแบบใดที่มีแบนดวิดท (Bandwidth) เปนอนันต แสดงคาวัดไดทันทีที่ทําการวัด และไมเกิดความเพี้ยน (Distortion) ขึ้นในผลการวัด
คําตอบ 1 : ระบบอันดับศูนย
21 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 : ระบบอันดับหนึ่ง คําตอบ 3 : ระบบอันดับสอง คําตอบ 4 : ระบบไมเชิงเสน
ขอที่ : 69
คําตอบ 1 : 0.5 s คําตอบ 2 : 2.05 s คําตอบ 3 : 4.1 s คําตอบ 4 : 191 s
ขอที่ : 70 ตัวบอกคุณสมบัติในการเปลี่ยนแปลงคาปริมาณออก (Output quantity) ตอปริมาณเขา (Input quantity) ที่เหมาะกับระบบการวัดแบบไมเชิงเสน (Nonlinear) คือ
คําตอบ 1 : คาขีดเริ่ม (discrimination threshold) คําตอบ 2 : ตัวประกอบสเกล (scale factor) คําตอบ 3 : ความไวเชิงอนุพันธ (differential sensitivity) คําตอบ 4 : ตัวประกอบความไว ( sensitivity factor)
ขอที่ : 71
คําตอบ 1 :
22 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 72 คาขีดเริ่ม (Discrimination threshold) หมายถึง
คําตอบ 1 : ฟงกชันถายโอน (Transfer function) ของระบบ คําตอบ 2 : อัตราขยายสัญญาณของระบบ คําตอบ 3 : ความแตกตางที่เล็กที่สุดของปริมาณวัดที่ระบบสามารถวัดได คําตอบ 4 : ขนาดปริมาณวัดที่ใหญที่สุดที่ระบบการวัดยังไมสามารถวัดได
ขอที่ : 73 ขอใดเปนความหมายของระบบไมเชิงเสน (nonlinear system)
คําตอบ 1 : ใชหลักการซูเปอรโพสิชัน (principle of superposition) หาคาปริมาณออกได คําตอบ 2 : สัญญาณออกมีรูปรางไมเหมือนสัญญาณเขา คําตอบ 3 : กราฟแสดงความสัมพันธระหวางปริมาณเขากับปริมาณออกจะเปนเสนตรงผานจุดเริ่มตน (origin) คําตอบ 4 : ไมเกิดความเพี้ยน (distortion)
ขอที่ : 74 ขอใดเปนคุณสมบัติของระบบการวัดอันดับศูนย (Zero order system)
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 : เกิดการออสซิลเลต (Oscillation) ที่ความถี่ธรรมชาติ (Natural frequency) ถาไมมีการหนวง (Damping) คําตอบ 4 : แบนดวิดทมีคาเปนอนันต
ขอที่ : 75
ถาทําการวัดทวนซ้ํา (Repetition measurement) เปนจํานวนครั้งที่มากพอ แลวไดผลการวัดที่มีการกระจายแบบปรกติ (normal distribution) ตัวเลือกขอใดตอไปนี้ที่ใหความหมายไมถูกตอง
23 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : คาผิดพลาดสุม (Random error) จะมีการกระจายอยูรอบคาเฉลี่ย คําตอบ 2 : คาเฉลี่ยของผลการวัดทั้งหมดก็คือ คาจริง (True value) ของปริมาณวัด คําตอบ 3 : เสนกราฟ PDF (Probability density function) ของผลการวัดจะเปนรูประฆังคว่ํา คําตอบ 4 : คาเฉลี่ยของผลการวัดทั้งหมดจะอยูที่จุดสูงสุดของเสนกราฟ PDF พอดี
ขอที่ : 76 จํานวน 415000.00 มีเลขนัยสําคัญ (Significant digit) กี่หลัก
คําตอบ 1 : 3 หลัก คําตอบ 2 : 4 หลัก คําตอบ 3 : 6 หลัก คําตอบ 4 : 8 หลัก
ขอที่ : 77 ความผิดพลาด (Error) ในขอใดตองใชวิธีทางสถิติในการปรับปรุงแกไข
คําตอบ 1 : Nonlinear error คําตอบ 2 : Systematic error คําตอบ 3 : Random error คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ
ขอที่ : 78 สวิตชแบบ Make before Break มีความสําคัญอยางไรกับแอมมิเตอรแอนะลอกแบบหลายยานการวัด (Multi-range)
คําตอบ 1 : ทําใหแอมมิเตอรมีความไวเพิ่มขึ้น คําตอบ 2 : ทําใหสามารถเปลี่ยนยานการวัดไดโดยไมตองปลดสายวัดออกจากจุดวัดคา คําตอบ 3 : ทําใหอายุการใชงานของแอมมิเตอรยาวนานยิ่งขึ้น คําตอบ 4 : ทําใหแอมมิเตอรมีขนาดเล็กลง
ขอที่ : 79 การเลือกใชมาตรวัดผิดประเภทในการวัดถือเปนความผิดพลาดแบบใด
คําตอบ 1 : Instrumental error คําตอบ 2 : Calibration error คําตอบ 3 : Human error คําตอบ 4 : Random error 24 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 80
กําหนดใหทําการวัดคาความตานทานของตัวตานทานตัวหนึ่งโดยใชโอหมมิเตอรเปนจํานวน 10 ครั้ง โดยมีคาที่วัดไดในแตละครั้งดังตอไปนี้ 98, 102, 101, 97, 100, 103, 98,106, 107, 99 ohm ตามลําดับ จงคํานวณหาคาความเที่ยงตรง (Precision) ในการวัดครั้งที่สี่คําตอบ 1 : 0.88 คําตอบ 2 : 0.89 คําตอบ 3 : 0.96 คําตอบ 4 : 1.01
ขอที่ : 81
ในการวัดแรงดันของแบตเตอรี่โดยนักเรียนหกคน ไดคาแรงดันเปน 20.20, 19.90, 20.05, 20.10, 19.85, 20.00 V ตามลําดับ นักเรียนลําดับที่เทาใดวัดคาแรงดัน ที่มีคาเที่ยงตรงที่สุด
คําตอบ 1 : 6 คําตอบ 2 : 4 คําตอบ 3 : 2 คําตอบ 4 : 1
ขอที่ : 82 ขอมูลการวัดคาความตานทานจํานวนหนึ่งมีดังนี้ 10.16, 10.15, 10.14, 10.05, 10.00, 9.99 ohm จงหาคาเฉลี่ย (Average value)ของการวัดคาความตานทานนี้
คําตอบ 1 : 10.00 ohm คําตอบ 2 : 10.05 ohm คําตอบ 3 : 10.08 ohm คําตอบ 4 : 10.10 ohm
ขอที่ : 83
ขอมูลการวัดคาความตานทานจํานวนหนึ่งมีดังนี้ 10.16, 10.15, 10.14, 10.05, 10.00, 9.99 ohm จงหาคาความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) ของการวัดคาความตานทานนี้
คําตอบ 1 : 0.00 ohm คําตอบ 2 : 0.05 ohm คําตอบ 3 : 0.08 ohm คําตอบ 4 : 0.10 ohm
ขอที่ : 84
25 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : อยูระหวาง 399.5 และ 400.5 mV คําตอบ 2 : อยูระหวาง 399.2 และ 400.8 mV คําตอบ 3 : อยูระหวาง 398 และ 402 mV คําตอบ 4 : อยูระหวาง 395 และ 405 mV
ขอที่ : 85
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 86
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
26 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 87
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 88
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 89
ในการวัดความผิดพลาดแบบสุม (Random error) สามารถอานคาที่วัดขนาดของแรงดันไดเปน 3, 5, 7, 4, 8, 6, 5, 7, 6, และ 6 V ตามลําดับ จงคํานวณหาคาเฉลี่ย (Average
27 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
value) คําตอบ 1 : 5.7 V คําตอบ 2 : 5.8 V คําตอบ 3 : 5.9 V คําตอบ 4 : 5.10 V
ขอที่ : 90
ในการวัดความผิดพลาดแบบสุม (Random error) สามารถอานคาที่วัดขนาดของแรงดันไดเปน 3, 5, 7, 4, 8, 6, 5, 7, 6, และ 6 V ตามลําดับ จงคํานวณหาคาเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) คําตอบ 1 : 1.5 V คําตอบ 2 : 1.7 V คําตอบ 3 : 1.8 V คําตอบ 4 : 1.9 V
ขอที่ : 91 ในการวัดแรงดันมาตรฐานขนาด 5 V ของโวลตมิเตอรแตละตัว ทําการวัดตัวละ 3 ครั้ง มิเตอรในคําตอบขอใดที่มีคาความเที่ยงตรง (Precision) ดีที่สุด
คําตอบ 1 : 5.5 V, 5.3 V, 4.5 V คําตอบ 2 : 6.2 V, 6.0 V, 5.8 V คําตอบ 3 : 4.1 V, 4.0 V, 3.9 V คําตอบ 4 : 5.9 V, 5.0 V, 4.8 V
ขอที่ : 92 หากตองการวัดสัญญาณไซนความถี่ 600 Hz จะตองทําการชักตัวอยาง (Sampling) ดวยความถี่เทาใด จึงจะไดสัญญาณที่มีความถี่ 600 Hz แสดงบนหนาจอ
คําตอบ 1 : 100 Hz คําตอบ 2 : 300 Hz คําตอบ 3 : 700 Hz คําตอบ 4 : 1500 Hz
ขอที่ : 93
28 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 94 กอนใชโอหมมิเตอรวัดคาความตานทานจะตองทําการปรับศูนย (Adjust zero) เพราะอะไร
คําตอบ 1 : เพราะเข็มโอหมมิเตอรไมชี้ที่ตําแหนงศูนยเนื่องจากสปริงเกิดความลา คําตอบ 2 : เพื่อชดเชยแรงดันแบตเตอรี่ในเครื่องมือวัด คําตอบ 3 : เพื่อลดความฝดของเดือยที่เปนจุดหมุนของเข็มมิเตอร คําตอบ 4 : เพื่อใหอายุการใชงานของแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น
ขอที่ : 95
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 96
คําตอบ 1 :
29 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 97
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 98
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
30 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 99
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 100
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 101
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
31 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 102
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 103
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
32 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 104 ในการทดลองวัดกระแสไฟฟา 5 ครั้งมีคาดังนี้ 12.8 mA, 12.2 mA, 12.5 mA, 13.1 mA และ 12.4 mA จะมีคาเฉลี่ย (Average value) จากการวัดเทาไร
คําตอบ 1 : 12.50 mA คําตอบ 2 : 11.65 mA คําตอบ 3 : 12.55 mA คําตอบ 4 : 12.60 mA
ขอที่ : 105 ในการทดลองวัดกระแสไฟฟา 3 ครั้งมีคาดังนี้ 12.8 mA, 12.2 mA, 12.5 mA การวัดครั้งที่ 1 มีคาเบี่ยงเบนจากคาเฉลี่ยเทาไร
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 : 0.8 mA
ขอที่ : 106 ในการทดลองวัดกระแสไฟฟา 3 ครั้งมีคาดังนี้ 12.8 mA, 12.2 mA, 12.5 mA จงคํานวณหาผลรวมของคาเบี่ยงเบนจากคาเฉลี่ย
คําตอบ 1 : 0.33 mA คําตอบ 2 : -0.3 mA คําตอบ 3 : 0.3 mA คําตอบ 4 : 0 mA
ขอที่ : 107 เกี่ยวกับการวัดคาตัวแปรใดๆ ขอใดกลาวถูกตอง
คําตอบ 1 : ถามีความถูกตองจากการวัด (accuracy) จะมีคาความเที่ยงตรงดวย (precision) คําตอบ 2 : ถามีคาความเที่ยงตรง (precision) จะมีคาความถูกตอง(accuracy) จากการวัดดวย คําตอบ 3 : คาความถูกตอง (accuracy) จะไมสัมพันธกับคาความเที่ยงตรง (precision) คําตอบ 4 : สรุปไมได
ขอที่ : 108
33 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 1.67 % คําตอบ 2 : 2.5 % คําตอบ 3 : 5 % คําตอบ 4 : 15%
ขอที่ : 109
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 110
ในการวัดแรงดันตกครอมตัวความตานทานนั้น โวลตมิเตอรที่ใชวัดจะทําใหเกิดการโหลดวงจรที่ทําการวัด ทําใหเกิดคาผิดพลาดอันเนื่องมาจากการโหลด (Loading error) ขึ้นซึ่งจัดอยูในประเภทใด
คําตอบ 1 : คาผิดพลาดสุม (Random error) คําตอบ 2 : คาผิดพลาดเชิงระบบ (Systematic error) คําตอบ 3 : กระทําการวัดผิด (Mistake) คําตอบ 4 : คาผิดพลาดพาราแลกซ (Parallax error)
ขอที่ : 111 การขจัดคาผิดพลาดเชิงระบบ (Systematic error) ออกจากผลการวัดทําไดดวยวิธีการใด
คําตอบ 1 : การวัดแบบเทียบศูนย (Null method) 34 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 : การวัดแบบเบี่ยงเบน (Deflection method) คําตอบ 3 : กระบวนการวัดแบบทําซ้ํา (Reproduction measurement) คําตอบ 4 : กระบวนการวัดแบบทวนซ้ํา (Repetition measurement)
ขอที่ : 112
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 113
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 114
35 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอใดคือผลที่ทําใหเกิดคาผิดพลาดสุม (Random error)คําตอบ 1 : กดเครื่องคิดเลขผิดในการคํานวณผลการวัด คําตอบ 2 : ลูกปนที่ใชในกีฬายิงปนแตละลูกมีปริมาณดินปนที่ไมเทากัน คําตอบ 3 : เอาแอมมิเตอร (Ammeter) ไปวัดแรงดันไฟฟา คําตอบ 4 : ใชโวลตมิเตอร (Voltmeter) ที่มีความตานทานดานเขาต่ําไปวัดแรงดัน
ขอที่ : 115 การกระทําในขอใดจัดเปนกระบวนวัดแบบทําซ้ํา (Reproduction measurement)
คําตอบ 1 : ทอยลูกเตา 100 ครั้งและจดสถิติดูวาออกเลข 1 กี่ครั้ง คําตอบ 2 : นําไข 100 ฟองมาชั่งน้ําหนักทีละฟองโดยเครื่องชั่งเครื่องหนึ่ง เพื่อหาคาเฉลี่ยของน้ําหนักไข 1 ฟอง คําตอบ 3 : ใชแอมมิเตอร (Ammeter) เครื่องหนึ่งไปวัดกระแสที่ใชในหลอดไฟดวงหนึ่งเปนจํานวน 3 ครั้งติดตอกัน เพื่อหาคากระแสที่แนนอน คําตอบ 4 : ใชโวลตมิเตอร (Voltmeter) 3 เครื่องไปวัดแรงดันของแบตเตอรีลูกหนึ่งเพื่อหาคาแรงดันที่เชื่อถือได
ขอที่ : 116 ในนัดชิงชนะเลิศของการแขงขันฟุตบอล มีผูชมการถายทอดสดในประเทศประมาณหนึ่งลานสองแสนสี่หมื่นคน จะเขียนจํานวนผูชมตามหลักเลขนัยสําคัญไดอยางไร
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 117
คําตอบ 1 : 3 หลัก คําตอบ 2 : 4 หลัก คําตอบ 3 : 5 หลัก คําตอบ 4 : 7 หลัก
36 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 118 ขอใดตอไปนี้กลาวไดถูกตองเกี่ยวกับคาความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
คําตอบ 1 : บอกใหทราบวาคาวัดมีการกระจายตัวจากคาตัวกลางเลขคณิตมากหรือนอยเพียงไร คําตอบ 2 : บอกใหทราบวาคาวัดมีการเบี่ยงเบนจากคาจริงมากนอยเพียงไร คําตอบ 3 : ถาความเบี่ยงเบนมาตรฐานมีคานอยๆก็หมายถึงมีคาผิดพลาดเชิงระบบนอย คําตอบ 4 : ถาความเบี่ยงเบนมาตรฐานมีคานอยๆก็หมายถึงคาวัดทวนซ้ําสวนใหญมีความเที่ยงตรงนอย
ขอที่ : 119
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 120 ถาผลการวัดแรงดันที่อานไดจากมิเตอรมีคาเปน 10.450552 V แตตองการความละเอียดอยูที่ระดับ 1 mV คาวัดที่ไดนี้ควรปดเศษใหเหลือเปนเลขในขอใด
37 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 10.45 V คําตอบ 2 : 10.450 V คําตอบ 3 : 10.451 V คําตอบ 4 : 10.4506 V
ขอที่ : 121 แบตเตอรี (battery) กอนหนึ่งระบุวามีแรงดันไฟฟาเทากับ 6.00 V แตเมื่อทําการวัดดวยโวลตมิเตอร (voltmeter) แลวไดเทากับ 5.94 V คาผิดพลาดจากการวัดครั้งนี้มีกี่เปอรเซ็นต
คําตอบ 1 : 1 % คําตอบ 2 : – 1 % คําตอบ 3 : – 99 % คําตอบ 4 : 0.06 %
ขอที่ : 122
คําตอบ 1 : 0 % คําตอบ 2 : 0.675 % คําตอบ 3 : 67.5 % คําตอบ 4 : 99.325 %
ขอที่ : 123
คําตอบ 1 : 1.002 คําตอบ 2 : 0.998 คําตอบ 3 : 0.959 คําตอบ 4 : 0.041
38 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 124
คําตอบ 1 : 986,500 ~ 987,500 คําตอบ 2 : 986,950 ~ 987,050 คําตอบ 3 : 986,995 ~ 987,005 คําตอบ 4 : 986,999.5 ~ 987,000.5
ขอที่ : 125
ผลการวัดความตานทานตัวหนึ่งไดผลเปน 100.00045 โอหม มีความไมแนนอนขยาย (expanded uncertainty) 0.00032 โอหม ที่ระดับความเชื่อมั่น (level of confidence) 95.45 % และมีการแจกแจงปรกติ (normal distribution) ความแปรปรวน (variance) ของคาวัด (measured value) มีคาเปนเทาไร
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 126
คําตอบ 1 : 24 nF คําตอบ 2 : 48 nF คําตอบ 3 : 13.86 nF คําตอบ 4 : 9.8 nF
ขอที่ : 127
39 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ถาปริมาณออกของระบบการวัดเปนผลจากปริมาณเขาหลายๆตัว ควรรายงานความไมแนนอน (uncertainty) ของผลการวัดเปนคําตอบ 1 : ความไมแนนอนมาตรฐาน (standard uncertainty) คําตอบ 2 : ความไมแนนอนขยาย (expanded uncertainty) คําตอบ 3 : ความไมแนนอนมาตรฐานรวม (combined standard uncertainty) คําตอบ 4 : ความแปรปรวน (variance)
ขอที่ : 128 ความไมแนนอน (uncertainty) แบบ A มีความหมายตรงกับขอใด
คําตอบ 1 : ความไมแนนอนที่ไดจากขอมูลการวัดครั้งกอนหนา คําตอบ 2 : ความไมแนนอนที่ไดจากขอมูลการสอบเทียบ (calibration) เครื่องมือวัด คําตอบ 3 : ความไมแนนอนที่คํานวณไดจากคาชักตัวอยาง คําตอบ 4 : ความไมแนนอนของวัสดุอางอิงที่ใชในการวัดเทียบศูนย (null method)
ขอที่ : 129
คําตอบ 1 : 16.66 % คําตอบ 2 : – 16.66 % คําตอบ 3 : 9.09 % คําตอบ 4 : – 9.09 %
ขอที่ : 130
40 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 0.10 % คําตอบ 2 : – 0.10 % คําตอบ 3 : 0.05 % คําตอบ 4 : – 0.05 %
ขอที่ : 131
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 132 จํานวน 8904.23010 มีเลขนัยสําคัญ (significant digit) กี่หลัก
41 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 4 หลัก คําตอบ 2 : 6 หลัก คําตอบ 3 : 8 หลัก คําตอบ 4 : 9 หลัก
ขอที่ : 133 การวัดแบบใดที่สามารถชวยในการขจัดคาผิดพลาดเชิงระบบได
คําตอบ 1 : การวัดแบบเทียบศูนย (Null measurement) คําตอบ 2 : การวัดแบบอุปมาน (Analogy measurement) คําตอบ 3 : การวัดแบบทําซ้ํา (Reproduction measurement) คําตอบ 4 : การวัดแบบทวนซ้ํา (Repetition measurement)
ขอที่ : 134 เครื่องมือวัดในขอใดที่ไมทําใหเกิดผลกระทบจากการโหลด (loading effect)
คําตอบ 1 : โวลตมิเตอรแบบพีเอ็มเอ็มซี (PMMC meter) คําตอบ 2 : วัตตมิเตอร (Wattmeter) คําตอบ 3 : โพเทนชิโอมิเตอรวัดแรงดัน (Potentiometer) คําตอบ 4 : เทอรโมคัปเปลมิเตอร (Thermocouple meter)
ขอที่ : 135 จํานวน 24,000.05 มีเลขนัยสําคัญ (Significant digits) กี่หลัก
คําตอบ 1 : 2 หลัก คําตอบ 2 : 3 หลัก คําตอบ 3 : 4 หลัก คําตอบ 4 : 7 หลัก
ขอที่ : 136
42 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 137 เมื่อทําการวัดทวนซ้ํา (Repetition measurement) แลวได พีดีเอฟ (PDF) ของคาชักตัวอยางที่มีการแจกแจงปรกติ (Normal distribution) มีความหมายวาอยางไร
คําตอบ 1 : ไมเกิดคาผิดพลาดสุมในผลการวัด คําตอบ 2 : การกระจายตัวของคาชักตัวอยางเกิดจากคาผิดพลาดสุม คําตอบ 3 : ไมมีคาผิดพลาดเชิงระบบในผลการวัด คําตอบ 4 : คาเบี่ยงเบนมาตรฐานก็คือคาผิดพลาดเชิงระบบ
ขอที่ : 138
43 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
เมื่อตองการรายงานผลการวัดที่มีระดับความเชื่อมั่น (Level of confidence) 90 % สําหรับผลการวัดทวนซ้ํา (Repetition measurement) ที่มีการแจกแจงปรกติ (Normal distribution) จะตองใชตัวประกอบขอบเขต (coverage factor) ที่มีคาเทาไร คําตอบ 1 : 1.645 คําตอบ 2 : 1.960 คําตอบ 3 : 2 คําตอบ 4 : 2.576
ขอที่ : 139
ยิงปน 10 นัดโดยกระสุนเขาเปาวงกลมทุกนัด แตมสูงสุดเมื่อยิงเขากลางเปาคือ 10 คะแนน และแตมต่ําสุดเมื่อยิงไปที่ขอบนอกสุดคือ 1 คะแนน คะแนนผลการยิงแตละนัดเรียงจากนัดที่ 1 ถึง 10 ปรากฏดังนี้ 10 9 9 8 7 7 5 7 9 7 การยิงครั้งใดที่มีความเที่ยงตรง (Precision) ที่สุด
คําตอบ 1 : ครั้งที่ 1 คําตอบ 2 : ครั้งที่ 4 คําตอบ 3 : ครั้งที่ 7 คําตอบ 4 : ครั้งที่ 2, 3 และ 9
ขอที่ : 140
. ยิงปน 10 นัดโดยกระสุนเขาเปาวงกลมทุกนัด แตมสูงสุดเมื่อยิงเขากลางเปาคือ 10 คะแนน และแตมต่ําสุดเมื่อยิงไปที่ขอบนอกสุดคือ 1 คะแนน คะแนนผลการยิงแตละนัดเรียงจากนัดที่ 1 ถึง 10 ปรากฏดังนี้ 10 9 9 8 7 7 5 7 9 7 การยิงครั้งใดที่มีความแมนยํา (Accuracy) มากที่สุด
คําตอบ 1 : ครั้งที่ 1 คําตอบ 2 : ครั้งที่ 4 คําตอบ 3 : ครั้งที่ 7 คําตอบ 4 : ครั้งที่ 5, 6, 8 และ 10
ขอที่ : 141
ยิงปน 10 นัดโดยกระสุนเขาเปาวงกลมทุกนัด แตมสูงสุดเมื่อยิงเขากลางเปาคือ 10 คะแนน และแตมต่ําสุดเมื่อยิงไปที่ขอบนอกสุดคือ 1 คะแนน คะแนนผลการยิงแตละนัดเรียงจากนัดที่ 1 ถึง 10 ปรากฏดังนี้ 10 9 9 8 7 7 5 7 9 7 ความไมแนนอนมาตรฐาน (Standard uncertainty) ของผลการยิงปนมีคาเทาไร คําตอบ 1 : 1.96 คะแนน คําตอบ 2 : 1.4 คะแนน คําตอบ 3 : 1.48 คะแนน คําตอบ 4 : 2.18 คะแนน
ขอที่ : 142 จํานวน 0.023000 มีเลขนัยสําคัญ (Significant digits) กี่หลัก
44 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 2 หลัก คําตอบ 2 : 3 หลัก คําตอบ 3 : 5 หลัก คําตอบ 4 : 7 หลัก
ขอที่ : 143
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 144
45 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
สําหรับผลการวัดที่มีการแจกแจงปรกติ (Normal distribution) ถาบอกผลการวัดครั้งหนึ่งมาเปนคาวัด (Measured value) พรอมกับความไมแนนอนขยาย (Expanded uncertainty) ที่มีตัวประกอบขอบเขต (Coverage factor) เทากับ 2 จะอธิบายความหมายของผลการวัดนี้วาอยางไร คําตอบ 1 : คาวัดนี้มีระดับความเชื่อมั่น (Level of confidence) 95.45 % คําตอบ 2 : คาวัดนี้มีคาเทากับ 95.45 % ของคาปริมาณวัด (Value of measurand) คําตอบ 3 : มีคาวัด 2 ครั้งที่มีระดับความเชื่อมั่น 95.45 % คําตอบ 4 : ความไมแนนอนมีคาเทากับ 95.45 % ของคาวัด
ขอที่ : 145
คําตอบ 1 : 0.02 V คําตอบ 2 : 0.03 V คําตอบ 3 : 0.06 V คําตอบ 4 : 0.18 V
ขอที่ : 146
คําตอบ 1 : 0.12 คําตอบ 2 : 0.06 คําตอบ 3 : 0.04 คําตอบ 4 : 0.013
ขอที่ : 147
46 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : – 0.1 A
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 148
คําตอบ 1 : 4 หลัก คําตอบ 2 : 6 หลัก คําตอบ 3 : 7 หลัก คําตอบ 4 : 10 หลัก
ขอที่ : 149
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
47 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 150
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 151
48 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 152
49 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 153
50 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 154
51 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 155 มาตรวัดแบบ Electrodynamometer สามารถนําเอามาใชวัดปริมาณทางไฟฟาอะไรไดบาง
คําตอบ 1 : True power คําตอบ 2 : Power factor คําตอบ 3 : Reactive power คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ
ขอที่ : 156
52 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 1.83 A คําตอบ 2 : 3.33 A คําตอบ 3 : 5.77 A คําตอบ 4 : 6.87 A
ขอที่ : 157 มาตรวัดแบบ Thermocouple มีความเหมาะสมกับการนําไปใชวัดปริมาณทางไฟฟากระแสสลับที่มีคุณสมบัติใดมากที่สุด
คําตอบ 1 : มีขนาดเล็กมากๆ คําตอบ 2 : ตองการความเที่ยงตรงสูง คําตอบ 3 : มีความถี่สูงมากๆ คําตอบ 4 : ตองการความแมนยําสูงมากๆ
ขอที่ : 158
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 159 ความไวของโวลตมิเตอรมีหนวยเปน
53 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 160 อุปกรณที่ใชเปนแรงควบคุมของเครื่องมือวัดแบบขดลวดเคลื่อนที่คือ
คําตอบ 1 : กรอบอะลูมิเนียม คําตอบ 2 : สปริงกนหอย คําตอบ 3 : ฐานรองเดือย คําตอบ 4 : เข็มชี้
ขอที่ : 161
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 162
54 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 163 โวลตมิเตอรที่วัดไฟฟากระแสสลับ คาที่อานไดคือ
คําตอบ 1 : คาเฉลี่ย คําตอบ 2 : คาสูงสุด คําตอบ 3 : คาประสิทธิผล คําตอบ 4 : คาชั่วขณะ
ขอที่ : 164
55 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 0 V คําตอบ 2 : 3.3 V คําตอบ 3 : 4 V คําตอบ 4 : 5 V
ขอที่ : 165
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
56 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 166
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 167
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 168
57 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 169 ในการใชงานโวลตมิเตอรแบบเข็มชี้ ควรเลือกยานการวัดเพื่อใหเข็มชี้บริเวณใดเพื่อใหความผิดพลาดของการวัดแรงดันมีคาต่ําสุด
คําตอบ 1 : บริเวณตนสเกล คําตอบ 2 : บริเวณปลายสเกล คําตอบ 3 : บริเวณกลางสเกล คําตอบ 4 : บริเวณไหนก็ได
ขอที่ : 170
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 171
58 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 5.0 mA คําตอบ 2 : 5.1 mA คําตอบ 3 : 5.2 mA คําตอบ 4 : 5.3 mA
ขอที่ : 172
คําตอบ 1 : 0.00255 A คําตอบ 2 : 0.025 A คําตอบ 3 : 0.255 A คําตอบ 4 : 2.55 A
ขอที่ : 173
ถาตองการขยายยานการวัดกระแสไฟฟาสลับ (AC)โดย การใชหมอแปลงกระแส (Current Transformer, CT) กําหนดใหกระแสที่ขดปฐมภูมิ (Primary current, Ip) เทากับ 800 แอมปและ ใหจํานวนรอบที่ขดปฐมภูมิเทากับ 1 รอบและจํานวนรอบที่ขดทุติยภูมิเทากับ 160 รอบใหคํานวณหาคา กระแสที่ขดทุติยภูมิ (Secondary current, Is)คําตอบ 1 : 5 A คําตอบ 2 : 6 A คําตอบ 3 : 7 A คําตอบ 4 : 8 A
ขอที่ : 174
59 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 175
60 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 176 ถาตองการนําแอมมิเตอรไปประยุกตใชวัดแรงดันตองทําอยางไร
คําตอบ 1 : ตอแอมปมิเตอรขนานกับจุดที่ตองการวัดแรงดัน คําตอบ 2 : ตอแอมปมิเตอรอนุกรมกับตัวตานทานคาสูงๆ แลวจึงตอขนานกับจุดที่ตองการวัดแรงดัน คําตอบ 3 : ตอแอมปมิเตอรอนุกรมกับตัวตานทานคาต่ําๆ แลวจึงตอขนานกับจุดที่ตองการวัดแรงดัน คําตอบ 4 : ตอแอมปมิเตอรอนุกรมกับตัวตานทานคาสูงๆ แลวจึงตออนุกรมแทรกที่จุดที่ตองการวัดแรงดัน
ขอที่ : 177
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 178 แอนะลอกมัลติมิเตอรตัวหนึ่งตั้งยานวัดไวที่ 50 V จะสามารถอานคาไดนอยที่สุดเทาใดถานําไปวัดแรงดัน 25 V เมื่อมิเตอรมีความผิดพลาด 2% ที่คาเต็มสเกล
คําตอบ 1 : 23 V 61 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 : 24 V คําตอบ 3 : 25 V คําตอบ 4 : 26 V
ขอที่ : 179 แอมมิเตอรโหลดดิ้ง (Ammeter loading) คืออะไร
คําตอบ 1 : การที่แอมมิเตอรวัดกระแสไดสูงกวาความเปนจริง เนื่องจากตอมิเตอรเขาไปในวงจรวัด คําตอบ 2 : การที่แอมมิเตอรวัดกระแสไดต่ํากวาความเปนจริง เนื่องจากตอมิเตอรเขาไปในวงจรวัด คําตอบ 3 : การนําแอมมิเตอรไปวัดคากระแสที่สูงเกินคาเต็มสเกลของแอมมิเตอร คําตอบ 4 : การนําแอมมิเตอรไปวัดคากระแสที่ต่ําเกินไป
ขอที่ : 180
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
62 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 181
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 182
คําตอบ 1 : Integrator คําตอบ 2 : Differentiator คําตอบ 3 : Band-pass filter คําตอบ 4 : Low-pass filter
ขอที่ : 183
63 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 184
64 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 185
65 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 186
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
66 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 187
เครื่องวัดแบบ PMMC มีการเบี่ยงเบนของเข็มเต็มสเกลที่ 90 องศา เมื่อมีกระแสไหลผาน 2 A จงหาคากระแสที่ทําใหเข็มเบี่ยงเบนไปที่มุม 30 องศา ถาเครื่องวัดเปนแบบควบคุมดวยสปริง
คําตอบ 1 : 0.33 A คําตอบ 2 : 0.67 A คําตอบ 3 : 1.0 A คําตอบ 4 : 1.3 A
ขอที่ : 188 มิเตอรชนิดใดที่เหมาะจะใชวัดแรงดันของสัญญาณความถี่สูง
คําตอบ 1 : มิเตอรแบบพีเอ็มเอ็มซี (PMMC meter) คําตอบ 2 : อิเล็กโตรไดนาโมมิเตอร (Electrodynamometer) คําตอบ 3 : เทอรโมคัปเปลมิเตอร (Thermocouple meter) คําตอบ 4 : กัลวาโนมิเตอร (Galvanometer)
ขอที่ : 189
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 190 ตัวประกอบคายอด (Crest factor) ของคลื่นไซนมีคาโดยประมาณเทากับ
คําตอบ 1 :
67 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 191 คาตัวประกอบรูปแบบ (Form factor) ของคลื่นไซนมีคาเทากับ
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 192
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
68 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 193 การสรางแอมมิเตอร เมื่อตองการวัดกระแสเกินพิกัดของมัน จะตองใชความตานทานมาตออยางไรในวงจร
คําตอบ 1 : ความตานทานคาสูงตออนุกรมในวงจร คําตอบ 2 : ความตานทานคาต่ําตอขนานในวงจร คําตอบ 3 : ความตานทานคาสูงตอขนานในวงจร คําตอบ 4 : ความตานทานคาต่ําตออนุกรมในวงจร
ขอที่ : 194
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
69 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 195
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 196
70 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 197
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
71 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 198
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 199
คําตอบ 1 :
72 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 200 ขอใดเกี่ยวของกับแรงหนวง (damping force) ของเครื่องมือวัดแบบ PMMC
คําตอบ 1 : แผนโลหะแบน (taut band) คําตอบ 2 : แผนตัวนําลัดวงจร (short–circuited conductor) คําตอบ 3 : แรงตานสปริง คําตอบ 4 : สปริงกนหอย
ขอที่ : 201 มิเตอรในขอใดเหมาะที่จะใชเปน transfer instrument
คําตอบ 1 : PMMC meter คําตอบ 2 : Thermocouplemeter คําตอบ 3 : Galvanometer คําตอบ 4 : Electrodynamometer
ขอที่ : 202
73 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 203
คําตอบ 1 :
74 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 204
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 205
75 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 206
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
76 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 207
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 208 เมื่อเข็มของมิเตอรพีเอ็มเอ็มซี (PMMC meter) เบนไปถึงตําแหนงที่เปนคาวัด วิธีอะไรที่ใชลดการแกวงของเข็มชี้เสกล (Scale)
คําตอบ 1 : ใชแกนขดลวดแบบแผนโลหะแบน (taut band) คําตอบ 2 : ใชแรงหนวงที่มีการหนวงขาดเล็กนอย คําตอบ 3 : ใชแรงหนวงที่มีการหนวงวิกฤต คําตอบ 4 : ใชแรงหนวงที่มีการหนวงเกิน
ขอที่ : 209 คุณสมบัติสําคัญของอิเล็กโตรไดนาโมมิเตอร (Electrodynamometer) ที่ทําใหเหมาะกับการใชเปนเครื่องมือทรานสเฟอร (transfer instrument) คือ
คําตอบ 1 : วัดไดทั้งกระแสตรงและกระแสสลับโดยไมตองปรับแตง คําตอบ 2 : ความไวสูง
77 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 : ใชวัดสัญญาณความถี่สูงไดดี คําตอบ 4 : สเกลเปนเชิงเสน
ขอที่ : 210 มิเตอรในขอใดเปนมิเตอรวัดคาประสิทธิผลจริง (True rms meter)
คําตอบ 1 : เทอรโมคัปเปลมิเตอร (Thermocouplemeter) คําตอบ 2 : พีเอ็มเอ็มซีมิเตอร (PMMC meter) คําตอบ 3 : กัลวาโนมิเตอร (Galvanometer) คําตอบ 4 : โอหมมิเตอร (Ohmmeter)
ขอที่ : 211
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
78 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 212
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 213
คําตอบ 1 : 6.37 V คําตอบ 2 : 9 V คําตอบ 3 : 10 V คําตอบ 4 : 14.14 V
79 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 214
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 215 ขอใดใชเปนสวนประกอบของโพเทนชิโอมิเตอรที่ใชวัดแรงดันไฟฟา
คําตอบ 1 : กัลวาโนมิเตอร คําตอบ 2 : เซลลแรงดันมาตรฐาน คําตอบ 3 : ตัวตานทานแบบ Slide wire คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ
ขอที่ : 216
เครื่องมือวัดในรูปนี้ประกอบดวยตัวลดทอนและโพเทนชิโอมิเตอร (potentiometer) ที่มีพิสัยการวัด 1.5 V ถาสวิตช S อยูที่ตําแหนง A ตามในรูป ตัวประกอบการลดทอน (attenuation factor) จะมีคาเทาไร
80 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 1.125 คําตอบ 2 : 100 คําตอบ 3 : 200 คําตอบ 4 : 225
ขอที่ : 217
เครื่องมือวัดในรูปนี้ประกอบดวยตัวลดทอนและโพเทนชิโอมิเตอร (potentiometer) ที่มีพิสัยการวัด 1.5 V ถาสวิตช S อยูที่ตําแหนง A ตามในรูปแลวปรับใหเข็มของกัลวาโนมิเตอร (galvanometer) ชี้ที่ศูนยเพื่อจะอานคาวัด ในสภาวะนี้เครื่องมือวัดจะมีคาความตานทานดานเขาเปนเทาไร
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 218
เครื่องมือวัดในรูปนี้ประกอบดวยตัวลดทอนและโพเทนชิโอมิเตอร (potentiometer) ที่มีพิสัยการวัด 1.5 V พิสัยการวัดสูงสุดของเครื่องมือนี้มีคาเทาไร
81 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 1.5 V คําตอบ 2 : 150 V คําตอบ 3 : 200 V คําตอบ 4 : 300 V
ขอที่ : 219
คําตอบ 1 : 0.5 V คําตอบ 2 : 5 V คําตอบ 3 : 10 V คําตอบ 4 : 40 V
ขอที่ : 220
82 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 221
วงจรแปลงผัน Analog-to-Digial แบบ Successive-Approximation ขนาด 10 บิต จะใชเวลาในการแปลงผัน (Conversion time) ตอขอมูลแอนะลอก 1 sample (ตัวอยาง) อยางนอยที่สุดเทาใด ถาสมมุติใหสัญญาณนาฬิกาที่ปอนใหกับวงจรแปลงผันมีความถี่เทากับ 1 MHz
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 222
ดิจิตอลโวลตมิเตอร (DVM) หรือ ดิจิตอลมัลติมิเตอร (DMM) แบบพกพา โดยทั่วไปจะใชเทคนิคการแปลงสัญญาณแอนะลอกเปนสัญญาณดิจิตอล (Analog to digital conversion : ADC) แบบใด
คําตอบ 1 : Successive approximation ADC คําตอบ 2 : Single-slope ADC คําตอบ 3 : Dual-slope ADC คําตอบ 4 : Pulse-width ADC
ขอที่ : 223 เทคนิคการแปลงสัญญาณแอนะลอกเปนสัญญาณดิจิตอลแบบใดในคําตอบขอนี้ ที่มีความเร็วในการแปลงสัญญาณเร็วที่สุด
คําตอบ 1 : Successive approximation ADC คําตอบ 2 : Single-slope ADC 83 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 : Dual-slope ADC คําตอบ 4 : Pulse-width ADC
ขอที่ : 224
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 225
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 226
หากนํา ADC ขนาด 8 บิต สามารถวัดแรงดันสูงสุดไดที่ 512 V มาตอกับแหลงจายแรงดันที่คอยๆเพิ่มแรงดันจาก 0 ถึง 100 V ในจังหวะที่เริ่มเพิ่มแรงดัน (หนาจอจะแสดง 0 V)
84 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ถามวาเลขจํานวนถัดไปที่จะถูกแสดงบนหนาจอจะเปนเลขจํานวนใด
คําตอบ 1 : 1 V คําตอบ 2 : 1.5 V คําตอบ 3 : 2 V คําตอบ 4 : 4 V
ขอที่ : 227 ความจําแนกชัด (Resolution) ของวงจร ADC (แปลงสัญญาณแอนะลอกเปนดิจิตอล) ขึ้นอยูกับปจจัยใด
คําตอบ 1 : จํานวนบิตที่ใช คําตอบ 2 : ความไวในการแปลงสัญญาณ คําตอบ 3 : ความตานทานขาเขา (Input impedance) คําตอบ 4 : ความตานทานขาออก (Output impedance)
ขอที่ : 228
คําตอบ 1 : 1000 คําตอบ 2 : 1200 คําตอบ 3 : 999.5 + 20 % คําตอบ 4 : 3500 + 20 %
ขอที่ : 229
คําตอบ 1 : 1 mA คําตอบ 2 : 1.2 mA คําตอบ 3 : 10 mA คําตอบ 4 : 12 mA
85 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 230 อะไรคือเหตุผลที่ควรใชเอดีซีแบบดูออลสโลป (Dual-slope ADC) ในเครื่องมือวัดแบบดิจิตอล
คําตอบ 1 : ใชเวลาในการแปลงสัญญาณนอยที่สุด คําตอบ 2 : ขจัดสัญญาณรบกวนแบบนอรมอลโหมด (Normal-mode noise) ไดด ีคําตอบ 3 : ขจัดสัญญาณรบกวนแบบคอมมอนโหมด (Common-mode noise) ไดดี คําตอบ 4 : มีคาผิดพลาดควอนไทซ (Quantization error) นอยที่สุด
ขอที่ : 231
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 232 ถาตองการดีเอซี (DAC) ที่มีคาผิดพลาดควอนไทซ (Quantization error) ไมเกิน 0.01 % จะตองใชดีเอซีที่มีจํานวนบิตดานเขาอยางนอยกี่บิต
คําตอบ 1 : 8 บิต คําตอบ 2 : 10 บิต คําตอบ 3 : 12 บิต คําตอบ 4 : 14 บิต
ขอที่ : 233 เครื่องมือวัดแบบดิจิตอลที่ปริมาณวัดเปนสัญญาณอนาลอกที่มีความถี่ไมเกิน 25 kHz ตัวแปลงสัญญาณแอนะลอกเปนดิจิตอลควรมีคุณสมบัติอยางไร
คําตอบ 1 : คาบเวลาการชักตัวอยางสัญญาณตองมีคาไมเกิน 20 µs คําตอบ 2 : ใชเอดีซีแบบดูออลสโลปที่มีเวลาการอินทิเกรตไมเกิน 20 ms คําตอบ 3 : ใชเอดีซีแบบไบนารีแรมปที่สัญญาณนาฬิกามีความถี่ไมต่ํากวา 2 เทาของความถี่สัญญาณวัด 86 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 : ใชเอดีซีแบบแฟลช (flash) ซึ่งทํางานไดเร็วที่สุด เพราะเปนการวัดสัญญาณความถี่สูง
ขอที่ : 234
คําตอบ 1 : 1.22 mV คําตอบ 2 : 0.61 mV คําตอบ 3 : 0.5 pV คําตอบ 4 : 0.5 V
ขอที่ : 235 ดีเอซี (DAC) ขนาด 12 บิตจะมีคาความผิดพลาดในการแปลงสัญญาณสูงสุดกี่เปอรเซนต ถาคิดเฉพาะคาผิดพลาดควอนไทซ (Quantization error)
คําตอบ 1 : 0.1 % คําตอบ 2 : 0.01 % คําตอบ 3 : 0.024 % คําตอบ 4 : 0.025 %
ขอที่ : 236
87 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : - 6.33 V คําตอบ 2 : - 7.68 V คําตอบ 3 : - 8.24 V คําตอบ 4 : - 10 V
ขอที่ : 237 ถาตองการลดคาผิดพลาดควอนไทซ (quantizing error) ของการแปลงสัญญาณดิจิตอล (digital) ใหเปนแอนะลอก (analog) ตองทําอยางไร
คําตอบ 1 : ลดจํานวนบิตของวงจรแปลงสัญญาณ คําตอบ 2 : เพิ่มจํานวนบิตของวงจรแปลงสัญญาณ คําตอบ 3 : ตองใชดีเอซีแบบไบนารีเวตเตด (binary-weighted DAC) เทานั้น คําตอบ 4 : ตองใชดีเอซีแบบอารทูอารแลดเดอร (R-2R ladder DAC) เทานั้น
ขอที่ : 238 คุณสมบัติสําคัญของเอดีซีแบบอินทิเกรตติง (integrating ADC)ที่ทําใหเหมาะกับการใชงานในเครื่องมือวัดแบบดิจิตอลคือ
คําตอบ 1 : แปลงสัญญาณไดเร็วมากเมื่อเทียบกับเอดีซีแบบอื่น คําตอบ 2 : ไมเกิดการเลื่อนคาของอุปกรณในวงจร คําตอบ 3 : ใชแปลงสัญญาณความถี่สูงไดดี คําตอบ 4 : มีคา NMRR สูง 88 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 239
คําตอบ 1 : 12.5 kHz คําตอบ 2 : 25 kHz คําตอบ 3 : 125 kHz คําตอบ 4 : 250 kHz
ขอที่ : 240
ถาตองการวงจร DAC (digital to analog converter) ที่มีคาผิดพลาดควอนไทซ (Quantization error) ไมเกิน 0.025 % จะตองใช DAC ที่มีจํานวนบิต (bit) ดานเขาอยางนอยกี่บิต
คําตอบ 1 : 8 บิต คําตอบ 2 : 10 บิต คําตอบ 3 : 12 บิต คําตอบ 4 : 14 บิต
ขอที่ : 241 ADC (Analog to digital converter) แบบใดที่สามารถออกแบบใหลดการรบกวนจากระบบไฟฟาตามบานเรือนได
คําตอบ 1 : Binary ramp ADC คําตอบ 2 : Flash ADC คําตอบ 3 : Successive approximation ADC คําตอบ 4 : Integrating ADC
ขอที่ : 242 เอดีซีแบบซักเซสซีฟแอพพรอกซิเมชัน (SA – ADC) ขนาด 12 บิต (Bit) ที่ใชสัญญาณนาฬิกาความถี่ 2 MHz จะใชเวลาเทาไรในการแปลงสัญญาณแตละครั้ง
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
89 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 : 2.048 ms
ขอที่ : 243 ADC แบบใดใชเวลาแปลงสัญญาณมากที่สุด ถาใชงานดวยสัญญาณนาฬิกาที่มีความถี่เทากัน
คําตอบ 1 : Flash ADC คําตอบ 2 : Binary ramp ADC คําตอบ 3 : Dual – slope integrating ADC คําตอบ 4 : Successive approximation ADC
ขอที่ : 244 ADC แบบใดที่มีการทํางานที่ไมขึ้นกับความถี่ของสัญญาณนาฬิกา
คําตอบ 1 : Flash ADC คําตอบ 2 : Binary ramp ADC คําตอบ 3 : Dual – slope integrating ADC คําตอบ 4 : Successive approximation ADC
ขอที่ : 245 เอดีซีแบบแฟลช (flash ADC) ขนาด 8 บิต ตองใชตัวเปรียบเทียบสัญญาณ (comparator) กี่ตัว
คําตอบ 1 : 7 ตัว คําตอบ 2 : 8 ตัว คําตอบ 3 : 64 ตัว คําตอบ 4 : 255 ตัว
ขอที่ : 246
การชักตัวอยาง (sampling) สัญญาณเสียงที่มีความถี่ไมเกิน 20 kHz โดยใหสัญญาณคาตัวอยางมีขอมูลบอกปริมาณตางๆของสัญญาณเดิมอยางครบถวน การชักตัวอยางตองมีคุณสมบัติตรงตามขอใด
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
90 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 : สัญญาณเสียงตองเปนคลื่นไซนบริสุทธิ์ความถี่เดียว คําตอบ 4 : ตอนปดสวิตชเพื่อชักตัวอยางสัญญาณตองใชเวลานอยที่สุด
ขอที่ : 247
คําตอบ 1 : 1 mV คําตอบ 2 : 10 mV คําตอบ 3 : 12 mV คําตอบ 4 : 0.1 V
ขอที่ : 248 เอดีซีแบบซักเซสซีฟแอพพรอกซิเมชัน (SA – ADC) ขนาด 10 บิต ที่ใชสัญญาณนาฬิกา 2 MHz จะใชเวลาแปลงสัญญาณเทาไร
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 249
ในการแปลงสัญญาณแอนะลอกเปนดิจิตอล (Analog to digital conversion) ที่ใชวงจรชักตัวอยางสัญญาณ (Sampling and hold circuit) ถาสัญญาณเขามีความถี่สูงสุด 100 kHz คาบเวลาการชักตัวอยางสัญญาณควรมีคาเทาไร
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
91 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 250
คําตอบ 1 : 100.0 V คําตอบ 2 : 100.00 V คําตอบ 3 : 120.0 V คําตอบ 4 : 120.00 V
ขอที่ : 251
คําตอบ 1 :
92 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 252
ในการวัดคากําลังไฟฟากระแสสลับสามเฟสของภาระทางไฟฟาสามเฟสแบบสมดุล (balanced 3-phase load) โดยใชวิธีวัตตมิเตอรแบบหนึ่งเฟส (มาตรวัดแบบ Electrodynamometer) 2 ตัว (2-wattmeter method) ดังแสดงในวงจรตอไปนี้ ถาวัตตมิเตอร W1 อานคาได 56 W และวัตตมิเตอร W2 (เนื่องจากเข็มชี้ตีกลับ ตองทําการสลับขั้วขดลวดแรงดันจึงอานคาได) อานคาได 30 W ถามวากําลังไฟฟาที่ภาระนี้มีคาเทาใด
คําตอบ 1 : 86 W คําตอบ 2 : 26 W คําตอบ 3 : 43 W คําตอบ 4 : 13 W
ขอที่ : 253 การวัดคากําลังไฟฟาระบบ 3 เฟสโดยใชวัตตมิเตอร 2 ตัว ซึ่งอานคาไดดังนี้ 10 kW และ 7 kW กําลังไฟฟาจริงรวมของระบบมีคา
คําตอบ 1 : 3 kW คําตอบ 2 : 8.5 kW 93 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 : 17 kW คําตอบ 4 : 34 kW
ขอที่ : 254 การวัดคากําลังไฟฟาระบบ 3 เฟสโดยใชวัตตมิเตอร 2 ตัว ซึ่งอานคาไดดังนี้ 10 kW และ 7 kW กําลังไฟฟารีแอกตีฟรวมของระบบมีคา
คําตอบ 1 : 3 kVAR คําตอบ 2 : 5.2 kVAR คําตอบ 3 : 17 kVAR คําตอบ 4 : 29.4 kVAR
ขอที่ : 255 การตอวัตตมิเตอรวิธีใด ที่มีผลทําใหมิเตอรดังกลาว อานคากําลังไฟฟารีแอกตีฟ
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
94 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 256 ในการใชวัตตมิเตอร 2 ตัววัดกําลังไฟฟาจริงของระบบ 3 เฟส จะมีวัตตมิเตอร 1 ตัวที่มีคาเปนศูนย เมื่อเพาเวอรแฟกเตอรของวงจรมีคาเปนเทาใด
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 257
การใชวัตตมิเตอร 2 ตัวในระบบ 3 เฟส เพื่อวัดกําลังไฟฟาจริง มีวัตตมิเตอรตัวหนึ่ง เข็มตีกลับ ซึ่งเราจะตองเปลี่ยนทิศทางการตอขดลวดกระแสของวัตตมิเตอรตัวนั้น ปรากฏวา วัตตมิเตอรทั้งสองตัวอานคาเทากัน ลักษณะดังกลาวแสดงวา โหลดของวงจรเปนอยางไร
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 258
จากวงจรที่แสดง ถาโหลดมีทั้งคา Resistance และ Reactance กําลังไฟฟารวมมีคาเทาใด
95 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 259 คากําลังไฟฟาที่วัดไดโดยมิเตอรวัดกําลังแบบอิเล็กโตรไดนาโมมิเตอร (Electrodynamometer) คือ
คําตอบ 1 : กําลังจริง (True power) คําตอบ 2 : กําลังปรากฏ (Apparent power) คําตอบ 3 : กําลังจินตภาพ (Reactive powewr) คําตอบ 4 : ตัวประกอบกําลัง (Power factor)
ขอที่ : 260
คําตอบ 1 : กําลังจริง (True power) คําตอบ 2 : กําลังจินตภาพ (Reactive power) คําตอบ 3 : กําลังปรากฏ (Apparent power) คําตอบ 4 : กําลังสูญเสียเปนความรอน (Power dissipated)
96 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 261
คําตอบ 1 : 0.45 % คําตอบ 2 : 0.27 % คําตอบ 3 : 0.16 % คําตอบ 4 : 0.02 %
ขอที่ : 262 วัตตมิเตอร 2 ตัว ใชวัดวงจร 3 เฟส สมดุล อานคาได 2000 W และ 500 W ตามลําดับ จงหาตัวประกอบกําลังของวงจร (Power factor)
คําตอบ 1 : 0.51 คําตอบ 2 : 0.69 คําตอบ 3 : 0.72 คําตอบ 4 : 0.85
ขอที่ : 263 วัตตมิเตอร 2 ตัว ใชวัดวงจร 3 เฟส สมดุล อานคาได 2000 W และ -500 W ตามลําดับ จงหาตัวประกอบกําลังของวงจร
คําตอบ 1 : 0.33 คําตอบ 2 : 0.51 คําตอบ 3 : 0.85 คําตอบ 4 : 0.94
ขอที่ : 264
คําตอบ 1 : 200 mW คําตอบ 2 : 0.1 W คําตอบ 3 : 1000 mW คําตอบ 4 : 120 mW
97 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 265
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 266
คําตอบ 1 : 0.25 W คําตอบ 2 : 1 W คําตอบ 3 : 4 W คําตอบ 4 : 0.75 W
ขอที่ : 267 1 W เปนอัตราการทํางาน เมื่อพลังงานไฟฟาถูกแปลงเปนพลังงานรูปอื่น ดวยอัตรา
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
98 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 268
คําตอบ 1 : 50 mW คําตอบ 2 : 50 W คําตอบ 3 : 10 W คําตอบ 4 : 100 W
ขอที่ : 269
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
99 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 270
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 271 หนวยของกําลังจินตภาพ (Reactive power) คือ
คําตอบ 1 : W คําตอบ 2 : VA คําตอบ 3 : VAR
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 272 หนวยของกําลังปรากฏ (Apparent power) คือ
คําตอบ 1 : W คําตอบ 2 : VA คําตอบ 3 : VAR
คําตอบ 4 :
100 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 273
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 274
คําตอบ 1 : 40 VA คําตอบ 2 : 40 W คําตอบ 3 : 50 VA คําตอบ 4 : 50 W
ขอที่ : 275
101 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 30 VA คําตอบ 2 : 30 W คําตอบ 3 : 30 VAR คําตอบ 4 : 50 VAR
ขอที่ : 276
ถาวัดกําลังจริง (True power) ของโหลดไดเทากับ 20 W และวัดคาตัวประกอบกําลัง (Power factor) ไดเทากับ 0.8 โหลดจะไดรับกําลังจินตภาพ (Reactive power) เทากับเทาไร
คําตอบ 1 : 16 VAR คําตอบ 2 : 15 VAR คําตอบ 3 : 12 VAR คําตอบ 4 : 4 VAR
ขอที่ : 277
ถาวัดกําลังจริง (True power) ของโหลดไดเทากับ 20 W และวัดคาตัวประกอบกําลัง (Power factor) ไดเทากับ 0.8 คากําลังปรากฏ (Apparent power) ที่แหลงจายกําลังจายออกมาทั้งหมดมีคาเทาไร
คําตอบ 1 : 35 VA คําตอบ 2 : 32 VA คําตอบ 3 : 28 VA คําตอบ 4 : 25 VA
ขอที่ : 278
102 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 0.22 A คําตอบ 2 : 0.38 A คําตอบ 3 : 0.66 A คําตอบ 4 : 1.14 A
ขอที่ : 279
103 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 13.97 W คําตอบ 2 : 24.2 W คําตอบ 3 : 41.9 W คําตอบ 4 : 72.6 W
ขอที่ : 280 หนวยของกําลังปรากฏ (Apparent power) คือ
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 281 มิเตอรที่ใชวัดพลังงานไฟฟาคือ
104 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : Watt-hour meter คําตอบ 2 : Wattmeter คําตอบ 3 : Power factor meter คําตอบ 4 : Varmeter
ขอที่ : 282 Watt-hour meter ที่ใชตามบานพักอาศัย เปนแบบใด
คําตอบ 1 : เหนี่ยวนําไฟฟา คําตอบ 2 : เมอรคิวรี่ คําตอบ 3 : คอมมิวเตเตอร คําตอบ 4 : อิเล็กโตรไลติก
ขอที่ : 283 พลังงานไฟฟา 1 ยูนิตมีหมายความอยางไร
คําตอบ 1 : การใชกําลังไฟฟา 100 W ในเวลา 1 ชั่วโมง คําตอบ 2 : การใชกําลังไฟฟา 1000 W ในเวลา 1 ชั่วโมง คําตอบ 3 : การใชกําลังไฟฟา 10000 W ในเวลา 1 ชั่วโมง คําตอบ 4 : การใชกําลังไฟฟา 100000 W ในเวลา 1 ชั่วโมง
ขอที่ : 284
ทําการทดสอบ kWh meter ที่พิกัด 50 A, 230 V จานหมุนของมิเตอรหมุน 61 รอบ ในเวลา 37 วินาที ถาปกติ จานหมุนมีความเร็ว 520 รอบ/kWh ใหหาคาเปอรเซ็นตความผิดพลาด
คําตอบ 1 : ชา 0.75 % คําตอบ 2 : เร็ว 0.75 % คําตอบ 3 : ชา 1.5 % คําตอบ 4 : เร็ว 1.5 %
ขอที่ : 285
คาที่อานไดตอไปนี้เปนคาสําหรับ 1 เดือน (30 วัน), kVARh meter = 83,830 kVARh, kWh meter = 291,940 kWh ความตองการกําลังไฟฟาสูงสุด = 1400 kW จงหาคาตัวประกอบโหลด เฉลี่ยของเดือนนี้
คําตอบ 1 : 0.19 คําตอบ 2 : 0.29 คําตอบ 3 : 0.49
105 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 : 0.59
ขอที่ : 286
คาที่อานไดตอไปนี้เปนคาสําหรับ 1 เดือน (30 วัน) kVARh meter = 83,830 kVARh, kWh meter = 291,940 kWh ความตองการกําลังไฟฟาสูงสุด = 1400 kW จงหาคาตัวประกอบกําลังเฉลี่ยของเดือนนี้
คําตอบ 1 : 0.66 คําตอบ 2 : 0.76 คําตอบ 3 : 0.86 คําตอบ 4 : 0.96
ขอที่ : 287
kWh Meter 230 V, 1 เฟส มีกระแสไฟฟาไหลผานไปยังโหลด (ที่มี PF = 1) 4 A คงที่ เปนเวลา 6 ชั่วโมง หากในระยะเวลาดังกลาวมิเตอรหมุนได 2208 รอบ จงหาคาคงที่ของมิเตอร
คําตอบ 1 : 200 รอบ kWh คําตอบ 2 : 300 รอบ/ kWh คําตอบ 3 : 400 รอบ/ kWh คําตอบ 4 : 500 รอบ/ kWh
ขอที่ : 288
คําตอบ 1 : 0.405 mJ คําตอบ 2 : 0.625 mJ คําตอบ 3 : 0.705 mJ คําตอบ 4 : 0.835 mJ
ขอที่ : 289 ถามีกระแส 5.4 A ไหลผานตัวเหนี่ยวนําคา 14.6 H ตัวเหนี่ยวนําจะสะสมพลังงานประมาณ
คําตอบ 1 : 39 J คําตอบ 2 : 79 J คําตอบ 3 : 213 J คําตอบ 4 : 426 J 106 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 290 1 W เปนอัตราการทํางาน เมื่อพลังงานไฟฟาถูกแปลงเปนพลังงานรูปอื่น ดวยอัตรา
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 291 ขอใดเปนหนวยของพลังงานไฟฟา (Electrical energy)
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 292 เครื่องวัดที่มีคา 1 อยูกึ่งกลางสเกล คือ
คําตอบ 1 : วัตตมิเตอร คําตอบ 2 : เมกเกอร คําตอบ 3 : วารมิเตอร คําตอบ 4 : เพาเวอรแฟกเตอรมิเตอร
107 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 293 หลักการของมิเตอรแบบใดที่ใชทําเพาเวอรแฟกเตอรมิเตอร
คําตอบ 1 : อิเล็กโทรไดนาโมมิเตอร คําตอบ 2 : แผนเหล็กเคลื่อนที่ คําตอบ 3 : ขดลวดเคลื่อนที่ คําตอบ 4 : กระแสไหลวน
ขอที่ : 294 การวัดคากําลังไฟฟาระบบ 3 เฟสโดยใชวัตตมิเตอร 2 ตัว ซึ่งอานคาไดดังนี้ 10 kW และ 7kW เพาเวอรแฟกเตอรของระบบมีคา
คําตอบ 1 : 0.1 คําตอบ 2 : 0.29 คําตอบ 3 : 0.96 คําตอบ 4 : 0.98
ขอที่ : 295 เข็มชี้ของ Power factor meter จะเบี่ยงเบนมากหรือนอยขึ้นอยูกับ
คําตอบ 1 : กระแสของโหลด คําตอบ 2 : แรงดันของโหลด คําตอบ 3 : กําลังไฟฟาจริงของโหลด คําตอบ 4 : เพาเวอรแฟกเตอรของโหลด
ขอที่ : 296 ความหมายของ Unity power factor คืออะไร
คําตอบ 1 : เพาเวอรแฟกเตอรเทากับ 0 คําตอบ 2 : เพาเวอรแฟกเตอรเทากับ 0.1 คําตอบ 3 : เพาเวอรแฟกเตอรเทากับ 0.5 คําตอบ 4 : เพาเวอรแฟกเตอรเทากับ 1
ขอที่ : 297
108 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : กําลังจริง (True power) คําตอบ 2 : กําลังปรากฏ (Apparent power) คําตอบ 3 : กําลังสัมบูรณ (Absolute power) คําตอบ 4 : ตัวประกอบกําลัง (Power factor)
ขอที่ : 298
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 299
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
109 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 300
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 301 ในการวัดความตานทานคาสูงเชนฉนวน Guard ring หรือ Guard wire มีหนาที่สําคัญอะไร ที่ทําใหการวัดคาความตานทานคาสูงแมนยําขึ้น
คําตอบ 1 : ปองกันการคายประจุ (Discharge) ของอิเล็กโทรดเนื่องจากในขณะวัดใชแรงดันที่สูงมาก คําตอบ 2 : เปนกําบัง (Shield) สัญญาณรบกวนจากภายนอก ใหกับวงจรวัด คําตอบ 3 : กําจัดผลเนื่องจากกระแสรั่วไหลที่ผิวของฉนวนที่กําลังทําการวัด คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ
ขอที่ : 302
110 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 303 มิเตอรที่มีคา 0 อยูกึ่งกลางสเกล คือ
คําตอบ 1 : โอหมมิเตอร คําตอบ 2 : เมกเกอร คําตอบ 3 : กัลวาโนมิเตอร คําตอบ 4 : แอมมิเตอร
ขอที่ : 304 สเกลของมิเตอรชนิดใดที่มีคาต่ําสุดอยูทางขวามือ
คําตอบ 1 : แอมมิเตอร
111 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 : โวลตมิเตอร คําตอบ 3 : โอหมมิเตอร คําตอบ 4 : วัตตมิเตอร
ขอที่ : 305 การวัดคาความเปนฉนวนนิยมใช
คําตอบ 1 : บริดจ คําตอบ 2 : เมกเกอร คําตอบ 3 : โวลต-แอมป คําตอบ 4 : โอหมมิเตอร
ขอที่ : 306
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
112 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 307 ถาตองการวัดคาความตานทานของเสนลวดโลหะ ควรจะใชวงจรบริดจแบบใด
คําตอบ 1 : Wheatstone bridge คําตอบ 2 : Kelvin bridge คําตอบ 3 : Wien bridge คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ
ขอที่ : 308
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
113 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 309
วีตสโตนบริดจดังแสดงในรูป แรงดันของแหลงจายมีคาเทากับ 6 V เมื่อกําหนดคาความตานทานในแขนตาง ๆ ดังรูป จงหาความตางศักยที่ตกครอมระหวางจุด A และ B
คําตอบ 1 : 0 V คําตอบ 2 : 1 V คําตอบ 3 : 2 V คําตอบ 4 : 4 V
ขอที่ : 310
จากวงจรที่แสดง เมื่อบริดจสมดุล สมการที่ไดจะเปนอยางไร
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
114 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 311
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
115 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 312
คําตอบ 1 : 0.102 V คําตอบ 2 : 0.152 V คําตอบ 3 : 0.202 V คําตอบ 4 : 0.252 V
ขอที่ : 313
คําตอบ 1 :
116 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 314
คําตอบ 1 : 6 H คําตอบ 2 : 12 H คําตอบ 3 : 18 H คําตอบ 4 : 24 H
ขอที่ : 315 จงเลือกขอที่ไมถูกตองที่สุด
คําตอบ 1 : ความไวของวีตสโตนบริดจขึ้นอยูกับความไวกระแส (Current Sensitivity) ของกัลวานอมิเตอร คําตอบ 2 : วีตสโตนบริดจสามารถวัดความตานทานไดชวงกวางโดยสามารถวัดความตานทานไดตั้งแต 1 โอหม จนถึง 10 เมกกะโอหม คําตอบ 3 : เคลวินบริดจเหมาะสําหรับวัดความตานทานสูงกวา 1 เมกกะโอหม คําตอบ 4 : เราสามารถประยุกตหลักการของวงจรบริดจเพื่อหาตําแหนงจุดรั่วลงดิน (Ground Fault) ของสายไฟฟาหรือสายโทรศัพทได
ขอที่ : 316
117 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ความตานทานของลวดตัวนํา เปนสัดสวนโดยตรงกับ
คําตอบ 1 : ความยาว คําตอบ 2 : พื้นที่หนาตัด คําตอบ 3 : ความเร็ว คําตอบ 4 : ความดัน
ขอที่ : 317 ความตานทานของลวดตัวนํา เปนสัดสวนผกผันกับ
คําตอบ 1 : ความยาว คําตอบ 2 : พื้นที่หนาตัด คําตอบ 3 : ความตานทานจําเพาะ คําตอบ 4 : ความดัน
ขอที่ : 318 ความตานทานของโลหะบริสุทธิ์
คําตอบ 1 : ไมเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้นเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น คําตอบ 3 : ลดลงเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น คําตอบ 4 : มีคาคงที่เสมอ
ขอที่ : 319
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
118 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 320
คําตอบ 1 : 4.5 V คําตอบ 2 : 45 V คําตอบ 3 : 450 V คําตอบ 4 : 4500 V
ขอที่ : 321
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 322
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
119 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 323 ตัวเหนี่ยวนําขนาด 0.46 H จะมีคารีแอกแตนซ (Reactance) ที่ความถี่ 2 kHz ประมาณ
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 324
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 325
120 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 326 การเหนี่ยวนําตัวเองของขดลวดเปน 1 H เมื่อ
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 327 ขดลวดมี 50 รอบ เกิดเสนแรงแมเหล็ก 2 mWb เมื่อมีกระแส 1 A ไหลผาน คาความเหนี่ยวนําของขดลวดจะเปน
คําตอบ 1 : 10 mH คําตอบ 2 : 100 mH คําตอบ 3 : 25 mH คําตอบ 4 : 250 mH
ขอที่ : 328 ถาจํานวนรอบของตัวเหนี่ยวนํา เพิ่มขึ้นเปนสองเทา คาความเหนี่ยวนํา (Self-inductance) จะประมาณ
คําตอบ 1 : เพิ่มขึ้นเปน 4 เทา 121 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 : ลดลงเปน 4 เทา คําตอบ 3 : เพิ่มขึ้นเปน 2 เทา คําตอบ 4 : ลดลงเปน 2 เทา
ขอที่ : 329
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 330 โดยทั่วไปขนาดทางกายภาพของตัวตานทานจะกําหนด
คําตอบ 1 : อัตราแรงดัน คําตอบ 2 : อัตรากระแส คําตอบ 3 : อัตรากําลัง คําตอบ 4 : อัตราอุณหภูมิ
ขอที่ : 331 ตัวตานทานที่มีแถบสี 4 แถบ บนตัวตานทาน แถบสีแถบที่ 4 แสดงถึง
คําตอบ 1 : เสถียรภาพ (Stability) คําตอบ 2 : คาเผื่อ (Tolerance) คําตอบ 3 : สัมประสิทธิ์ตออุณหภูมิ (Temperature coefficient) คําตอบ 4 : อัตรากําลัง (Wattage rating)
ขอที่ : 332
122 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขดลวดขดหนึ่งมีคาความเหนี่ยวนํา 12 H ถากระแสที่ไหลผานขดลวดนี้เพิ่มจาก 2 A เปน 8 A ในเวลา 130 ms แรงดันเหนี่ยวนําในขดลวดมีคาประมาณคําตอบ 1 : 554 V คําตอบ 2 : 0.554 V คําตอบ 3 : 0.260 V คําตอบ 4 : 55.4 V
ขอที่ : 333
คําตอบ 1 : 0.405 mJ คําตอบ 2 : 0.625 mJ คําตอบ 3 : 0.705 mJ คําตอบ 4 : 0.835 mJ
ขอที่ : 334 ถามีกระแส 5.4 A ไหลผานตัวเหนี่ยวนําคา 14.6 H ตัวเหนี่ยวนําจะสะสมพลังงานประมาณ
คําตอบ 1 : 39 J คําตอบ 2 : 79 J คําตอบ 3 : 213 J คําตอบ 4 : 426 J
ขอที่ : 335
ถากําหนดใหวงจรบริดจในรูปนี้อยูในภาวะสมดุล (balance condition) บริดจจะมีความไวสูงสุดเมื่ออยูในเงื่อนไขขอใด
123 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 336
ตัวเหนี่ยวนําที่มีวงจรสมมูลดังในรูปนี้ คาตัวประกอบคุณภาพ (quality factor) มีคาเทาไรที่ความถี่ 1 kHz
คําตอบ 1 : 0.001 คําตอบ 2 : 1 คําตอบ 3 : 6.28 คําตอบ 4 : 10
ขอที่ : 337
ตัวเหนี่ยวนําที่มีวงจรสมมูลดังในรูปนี้ คาตัวประกอบคุณภาพ (quality factor) มีคาเทาไรที่ความถี่ 1 kHz
คําตอบ 1 : 0.013 คําตอบ 2 : 2 คําตอบ 3 : 79.58
124 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 : 500,000
ขอที่ : 338
ตัวเก็บประจุที่มีวงจรสมมูลดังในรูปนี้ ตัวประกอบการสูญเสียกําลังเปนความรอน (dissipation factor) มีคาเทาไรที่ความถี่ 1 kHz
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 : 1 คําตอบ 3 : 6283.19
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 339 บริดจ (Bridge) ที่เหมาะจะใชวัดหาคาความเหนี่ยวนําไฟฟาของตัวเหนี่ยวนําที่มีคาตัวประกอบคุณภาพ (quality factor) ต่ําคือ
คําตอบ 1 : วีตสโตนบริดจ (Wheatstone bridge) คําตอบ 2 : เฮยบริดจ (Hay bridge) คําตอบ 3 : เคลวินบริดจ (Kelvin bridge) คําตอบ 4 : แมกซเวลลบริดจ (Maxwell bridge)
ขอที่ : 340
125 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 : 0.16 คําตอบ 3 : 6.37 คําตอบ 4 : 25132.74
ขอที่ : 341
คําตอบ 1 : เปนตัวเก็บประจุที่ไมดี คําตอบ 2 : จะรอนมากเมื่อนําไปใชงาน คําตอบ 3 : จะมีกระแสรั่วไหลสูงเมื่อนําไปใชงาน คําตอบ 4 : มี Dissipation factor ต่ําเมื่อนําไปใชงาน
ขอที่ : 342 บริดจ (Bridge) ที่ใชวัดความตานทานคาต่ําๆไดดีคือ
คําตอบ 1 : วีตสโตนบริดจ (Wheatstone bridge) คําตอบ 2 : เคลวินบริดจ (Kelvin bridge) คําตอบ 3 : แมกซเวลลบริดจ (Maxwell bridge) คําตอบ 4 : เฮบริดจ (Hay bridge) 126 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 343 จงหาคาความถี่ของสัญญาณอินพุตที่เขาเครื่องนับความถี่ เมื่อชวงเวลาการเปดเกต (Gate time) เทากับ 100 ms และจํานวนพัลสที่นับได เทากับ 2534 พัลส
คําตอบ 1 : 253.4 Hz คําตอบ 2 : 2.534 kHz คําตอบ 3 : 25.34 kHz คําตอบ 4 : 253.4 kHz
ขอที่ : 344
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 345
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
127 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 346
เครื่องมือวัดความถี่ต่ําที่ใชการเปรียบเทียบกันของสองความถี่ดังรูปดานลาง มีความถี่ของสัญญาณนาฬิกา (Time base) เทากับ 1MHz และนับจํานวนลูกคลื่นสัญญาณนาฬิกาได 2500 ลูกคลื่นตอ 1 คาบเวลาของสัญญาณเขา ดังนั้นความถี่ของสัญญาณขาเขามีคาเทาใด
คําตอบ 1 : 2500 Hz คําตอบ 2 : 400 Hz คําตอบ 3 : 2500 MHz คําตอบ 4 : 400 MHz
ขอที่ : 347
128 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ถาใหพัลสมีชวงเวลาขึ้นเทากับ 10 ns จะไดพัลสที่มีแบนดวิดทเทาไรคําตอบ 1 : 0.0318 GHz คําตอบ 2 : 31.83 GHz คําตอบ 3 : 100 MHz คําตอบ 4 : 0.01 GHz
ขอที่ : 348 ถาใหแบนดวิดทของพัลสมีคาเทากับ 2 GHz พัลสที่ไดจะมีชวงเวลาขึ้นโดยประมาณเปนเทาไร
คําตอบ 1 : 159 ps คําตอบ 2 : 15.9 ns คําตอบ 3 : 50 ns คําตอบ 4 : 0.5 ns
ขอที่ : 349 Duty cycle ของคลื่นสี่เหลี่ยมหมายถึง
คําตอบ 1 : คาเวลา 1 คาบของคลื่น คําตอบ 2 : คาเวลาที่คลื่นสี่เหลี่ยมอยูในสถานะ high ในชวง 1 คาบของคลื่น คําตอบ 3 : อัตราสวนของเวลาที่คลื่นอยูในสถานะ high ตอเวลาในสถานะ low ในชวง 1 คาบของคลื่น คําตอบ 4 : อัตราสวนของเวลาที่คลื่นอยูในสถานะ high ตอเวลาทั้งหมดในชวง 1 คาบของคลื่น
ขอที่ : 350
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
129 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 351 Oscilloscope โดยพื้นฐานจัดเปนเครื่องมือวัดประเภทใด
คําตอบ 1 : 1: เครื่องมือวิเคราะหสัญญาณในโดเมนเวลา คําตอบ 2 : 2: เครื่องมือวิเคราะหสัญญาณในโดเมนความถี่ คําตอบ 3 : 3: เครื่องวัดกําลังสัญญาณ คําตอบ 4 : 4: เครื่องวัดความเพี้ยนของสัญญาณ
ขอที่ : 352
คําตอบ 1 : 0.4 mW คําตอบ 2 : 0.8 mW คําตอบ 3 : 1.6 mW คําตอบ 4 : 3.2 mW
ขอที่ : 353
คําตอบ 1 : 1.11 pF 130 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 : 2.22 pF คําตอบ 3 : 1.33 pF คําตอบ 4 : 1.44 pF
ขอที่ : 354
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 355
ในการวัดการเลื่อนเฟสของสัญญาณไซนสองสัญญาณที่มีความถี่เทากัน โดยใชออสซิลโลสโคปและ Lissajous pattern ถาภาพบนจอ CRT บนออสซิลโลสโคปมีลักษณะดังรูปตอไปนี้ คามุมตางเฟสของสัญญาณรูปไซนสองสัญญาณมีคาประมาณเทาใด
131 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 30 องศา คําตอบ 2 : 45 องศา คําตอบ 3 : 60 องศา คําตอบ 4 : 90 องศา
ขอที่ : 356 เครื่องวัดรูปคลื่นสัญญาณตางๆคือ
คําตอบ 1 : Tachometer คําตอบ 2 : Phase sequence indicator คําตอบ 3 : Function generator คําตอบ 4 : Oscilloscope
ขอที่ : 357 ถาตองการแสดงรูปสัญญาณไซนบนจอออสซิลโลสโคป ในสวนแนวนอนเราจะปอนสัญญาณ
คําตอบ 1 : ฟนเลื่อย คําตอบ 2 : พัลส คําตอบ 3 : สามเหลี่ยม คําตอบ 4 : สี่เหลี่ยม
132 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 358 โดยพื้นฐานออสซิลโลสโคปใชวัดปริมาณ
คําตอบ 1 : กําลังไฟฟา คําตอบ 2 : แรงดันไฟฟา คําตอบ 3 : กระแสไฟฟา คําตอบ 4 : พลังงานไฟฟา
ขอที่ : 359
คําตอบ 1 : เสนตรงแนวตั้ง คําตอบ 2 : เสนตรงทแยง คําตอบ 3 : วงกลม คําตอบ 4 : เปนจุดกลางจอ
ขอที่ : 360 การเลือกสัญณาณแบบ dc coupling ทางดานอินพุทของออสซิลโลสโคปนั้น สัญญาณจะตองสงผานอุปกรณตัวใด
คําตอบ 1 : ออปแอมป คําตอบ 2 : ตัวเก็บประจุ คําตอบ 3 : ตัวเหนี่ยวนํา คําตอบ 4 : สายนําสัญญาณ
ขอที่ : 361
จากรูปหนาจอออสซิลโลสโคป ถาปรับปุมTIME/DIV ไวที่ 1 ms/div ขอใดถูกตอง
133 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : สัญญาณทั้งสองมีความถี่ 125 Hz และตางเฟสกัน 63 องศา คําตอบ 2 : สัญญาณทั้งสองมีความถี่ 125 Hz และตางเฟสกัน 126 องศา คําตอบ 3 : สัญญาณทั้งสองมีความถี่ 250 Hz และตางเฟสกัน 63 องศา คําตอบ 4 : สัญญาณทั้งสองมีความถี่ 250 Hz และตางเฟสกัน 126 องศา
ขอที่ : 362 ตัวลดทอนสัญญาณ (Attenuator) จะตองเปนอิสระตออะไร
คําตอบ 1 : ความเร็ว คําตอบ 2 : ความเรง คําตอบ 3 : ความสวาง คําตอบ 4 : ความถี ่
ขอที่ : 363 ปุมปรับความเขมแสง (Intensity control) ของออสซิลโลสโคปควบคุมที่สวนใดของหลอดรังสีแคโทด
คําตอบ 1 : ไสหลอด (Filament) คําตอบ 2 : แคโทด (Cathode) คําตอบ 3 : ปนอิเล็กตรอน (Electron gun) คําตอบ 4 : กริดควบคุม (Control grid)
ขอที่ : 364 ปุม Time/div ของออสซิลโลสโคปทําหนาที่อะไร
คําตอบ 1 : ปรับลําอิเล็กตรอนใหเล็กและคมชัดที่สุด
134 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 : ควบคุมปริมาณอิเล็กตรอนที่กริดควบคุม (Control grid) คําตอบ 3 : ควบคุมความสวางของจอภาพ คําตอบ 4 : ควบคุมเวลากวาด (sweep) ลําอิเล็กตรอน (Electron beam)
ขอที่ : 365 กราติคูล (Graticule) ของหลอดรังสีแคโทดคืออะไร
คําตอบ 1 : สเกลขนาดประมาณ 1 cm ของจอภาพ คําตอบ 2 : สเกลแนวนอนและแนวตั้งสําหรับอานเวลาและขนาดของสัญญาณ คําตอบ 3 : กราติคูลมีทั้งแบบภายนอกและภายใน คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ
ขอที่ : 366 ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับสายโพรบอิมพิแดนซสูงของออสซิลโลสโคป
คําตอบ 1 : สายโพรบแบบ (x10) ความตานทานอินพุตจะเพิ่ม 10 เทา คําตอบ 2 : สายโพรบแบบ (x10) คาปาซิเตอรอินพุตจะลด 10 เทา คําตอบ 3 : สายโพรบแบบ (x10) ความตานทานอินพุตและคาปาซิเตอรอินพุตจะเพิ่ม 10 เทา คําตอบ 4 : ขอ 1 และ 2 ถูก
ขอที่ : 367 เมื่อวัดสัญญาณไฟฟาใดๆ สัญญาณวัดจะถูกปอนใหกับสวนใดของ ออสซิลโลสโคป
คําตอบ 1 : ภาคขยายแนวตั้ง คําตอบ 2 : ภาคขยายแนวนอน คําตอบ 3 : ไสหลอด (Filament) คําตอบ 4 : กริดควบคุม (Control grid)
ขอที่ : 368
ขณะนําเอาออสซิลโลสโคป (Oscilloscope) ไปวัดสัญญาณรูปไซน (Sine curve) ปรากฏเปนรูปคลื่นสัญญาณไซนหลายๆ ตัวทับเหลื่อมกัน ถาตองการปรับใหรูปคลื่นสัญญาณหยุดนิ่ง จะตองปฏิบัติดังนี้
คําตอบ 1 : ปดเครื่องนานอยางนอย 3 นาที แลวเปดใหม คําตอบ 2 : ตรวจเช็คขั้วตอของสายสัญญาณ อาจหลวมทําใหมีสัญญาณรบกวนได คําตอบ 3 : ปรับปุมที่เกี่ยวของกับ Trigger คําตอบ 4 : ปรับความถี่ของการกวาดในแนวนอนใหมีความถี่เปนจํานวนเทาของสัญญาณไฟบาน 50 Hz 135 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 369 ในการนําเอาออสซิลโลสโคป Single beam dual trace ไปใชงาน จงเลือกขอที่ไมถูกตองที่สุด
คําตอบ 1 : ถาความถี่ของสัญญาณสูงควรใช Alternate mode คําตอบ 2 : ถาความถี่ของสัญญาณต่ําควรใช Chop mode คําตอบ 3 : ถาความถี่ของสัญญาณต่ําควรใช Alternate mode คําตอบ 4 : ใน Alternate mode สัญญาณทั้ง 2 ชองที่ปรากฏบนจอภาพไมไดเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
ขอที่ : 370 การปรับใหสัญญาณแรมป (Ramp signal) ของเพลตแนวนอน (Horizontal plate) เขาจังหวะ (Synchronize) กับสัญญาณวัด ทําไดดวยการปรับอะไร
คําตอบ 1 : ปรับคาบเวลาของสัญญาณแรมป คําตอบ 2 : ปรับความเขมของลําอิเล็กตรอน (Intensity) คําตอบ 3 : ปรับเลื่อนตําแหนงภาพในแนวตั้ง (Vertical position) คําตอบ 4 : ปรับเลื่อนตําแหนงภาพในแนวนอน (Horizontal position)
ขอที่ : 371 ถาเวลาครบรอบของคลื่นรูปไซน คือ 1ms ความถี่ของคลื่นไซนนี้คือ
คําตอบ 1 : 100 Hz คําตอบ 2 : 500 Hz คําตอบ 3 : 1 kHz คําตอบ 4 : 2 kHz
ขอที่ : 372 แรงดันกระแสสลับรูปไซน ที่ปรากฏบนออสซิลโลสโคป มีคาจากยอดถึงยอด (Peak to peak) วัดได 50 V คาอารเอ็มเอส (rms) ของแรงดันคือ
คําตอบ 1 : 17.7 V คําตอบ 2 : 25 V คําตอบ 3 : 35.4 V คําตอบ 4 : 70.7 V
ขอที่ : 373
ถาใชออสซิลโลสโคปที่มีชวงเวลาขึ้นของวงจรขยายเทากับ 3 ns ไปวัดคลื่นสี่เหลี่ยมแลวปรากฏภาพที่มีชวงเวลาขึ้นเทากับ 10 ns ใหหาวาชวงเวลาขึ้นที่แทจริงของสัญญาณวัดมีคาเทาไร
คําตอบ 1 : 7 ns
136 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 : 10.44 ns คําตอบ 3 : 9.54 ns คําตอบ 4 : 13 ns
ขอที่ : 374
คําตอบ 1 : 36 องศา คําตอบ 2 : 45 องศา คําตอบ 3 : 60 องศา คําตอบ 4 : 72 องศา
ขอที่ : 375 ในออสซิลโลสโคปแบบหลอดรังสีแคโทดใชอะไรเปนตัวปรับภาพสัญญาณใหคมชัด
คําตอบ 1 : สนามแมเหล็ก คําตอบ 2 : สนามไฟฟา คําตอบ 3 : เลนสนูน คําตอบ 4 : เลนสเวา
ขอที่ : 376 ออสซิลโลสโคปจะสามารถตรวจวัดสัญญาณที่มีขนาดเล็กที่สุดไดเทาไร ขึ้นอยูกับคุณสมบัติอะไร
คําตอบ 1 : ความเขมของลําอิเล็กตรอน 137 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 : การโฟกัส (Focusing) คําตอบ 3 : คาตัวประกอบการเห (Deflection factor) คําตอบ 4 : แบนดวิดทของวงจรขยาย
ขอที่ : 377 แบนดวิดท (Bandwidth) ของออสซิลโลสโคป (Oscilloscope) ขึ้นอยูกับอะไร
คําตอบ 1 : แรงดันของแอโนด (Anode) เรงความเร็ว คําตอบ 2 : สวนโฟกัส (Focus) คําตอบ 3 : ความเขมของลําอิเล็กตรอน คําตอบ 4 : วงจรขยายของเพลตแนวตั้ง (Vertical amplifier)
ขอที่ : 378 แบนดวิดทของออสซิลโลสโคป (oscilloscope) แบบแอนะลอกขึ้นอยูกับสวนประกอบใด
คําตอบ 1 : วงจรขยายสัญญาณแนวตั้ง คําตอบ 2 : วงจรขยายสัญญาณแนวนอน คําตอบ 3 : สวนโฟกัส (focusing) คําตอบ 4 : วงจรกําเนิดสัญญาณแรมป (ramp generator)
ขอที่ : 379
ใชออสซิลโลสโคป (oscilloscope) ที่มีชวงเวลาขึ้น (rise time) ของวงจรขยายเทากับ 3.5 ns ไปวัดคลื่นสี่เหลี่ยมที่มีชวงเวลาขึ้น 7 ns จะไดภาพสัญญาณบนจอภาพมีชวงเวลาขึ้นเปนเทาไร
คําตอบ 1 : 3.5 ns คําตอบ 2 : 6.06 ns คําตอบ 3 : 7.83 ns คําตอบ 4 : 10.5 ns
ขอที่ : 380
138 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 13 pF คําตอบ 2 : 14.44 pF คําตอบ 3 : 117 pF คําตอบ 4 : 144.44 pF
ขอที่ : 381 สารที่ใชเคลือบดานในของจอภาพของออสซิลโลสโคป (oscilloscope) แบบหลอดรังสีแคโทด (cathode) เพื่อใหสามารถเปลงแสงไดนั้นเปนสารอะไร
คําตอบ 1 : ธาตุฟอสฟอรัส (Phosphorus) คําตอบ 2 : สารประกอบฟอสฟอร (Phosphor) คําตอบ 3 : อลูมิเนียม (Aluminium) คําตอบ 4 : ทอง
ขอที่ : 382 ออสซิลโลสโคป (oscilloscope) ที่มีแบนดวิดท (bandwidth) 100 MHz จะมีชวงเวลาขึ้น (rise time) ของวงจรขยายแนวตั้งประมาณเทาไร
คําตอบ 1 : 35 ns คําตอบ 2 : 10 ns คําตอบ 3 : 3.5 ns คําตอบ 4 : 1 ns
ขอที่ : 383
139 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 384
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
140 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 385 คาตัวประกอบการเห (deflection factor) ของออสซิลโลสโคป (Oscilloscope) คือ
คําตอบ 1 : คาความไว (Sensitivity)ของออสซิลโลสโคป คําตอบ 2 : คาสวนกลับความไวของออสซิลโลสโคป คําตอบ 3 : คาแบนดวิดท (Bandwidth) ของออสซิลโลสโคป คําตอบ 4 : คาบอกขนาดแนวตั้งจอภาพ
ขอที่ : 386 วงจรขยายสัญญาณแนวตั้ง (Vertical amplifier) ของออสซิลโลสโคป (Oscilloscope) ที่มีชวงเวลาขึ้น (Rise time) 0.7 ns จะมีคาแบนดวิดท (Bandwidth) เปนเทาไร
คําตอบ 1 : 500 kHz คําตอบ 2 : 5 MHz คําตอบ 3 : 200 MHz คําตอบ 4 : 0.5 GHz
ขอที่ : 387
นําออสซิลโลสโคป (Oscilloscope) ที่มีชวงเวลาขึ้น (Rise time) ของวงจรขยายสัญญาณแนวตั้ง (Vertical amplifier) เทากับ 0.7 ns ไปวัดคลื่นสี่เหลี่ยมแลวปรากฏสัญญาณภาพที่มีชวงเวลาขึ้น 5 ns สัญญาณวัดนี้มีคาชวงเวลาขึ้นจริงเปนเทาไร คําตอบ 1 : 4.3 ns คําตอบ 2 : 4.95 ns คําตอบ 3 : 5.05 ns คําตอบ 4 : 5.49 ns
ขอที่ : 388 ความจําแนกชัด (Resolution) ของเครื่องวิเคราะหสเปกตรัม (Spectrum analyzer) ขึ้นอยูกับอะไร
คําตอบ 1 : แบนดวิดท (bandwidth) ของวงจรกรองผานแถบ (Bandpass filter) ที่อยูตอจากมิกเซอร (Mixer) คําตอบ 2 : แบนดวิดทของวงจรขยายความถี่กลาง (Intermediate frequency amplifier)
141 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 : แบนดวิดทวงจรวีซีโอ (VCO) คําตอบ 4 : ตัวตรวจจับกรอบสัญญาณ (Envelope detector)
ขอที่ : 389 การแสดงภาพในเครื่องวิเคราะหสเปกตรัม (Spectrum analyzer) คาในแนวแกนนอนคือ
คําตอบ 1 : ขนาดของสัญญาณในสเกลเชิงเสน (Linear scale) คําตอบ 2 : ความถี ่คําตอบ 3 : ขนาดสัญญาณในสเกลลอการิทึม (Logarithmic scale) คําตอบ 4 : เวลา
ขอที่ : 390
คําตอบ 1 : 20 Hz คําตอบ 2 : 40 Hz คําตอบ 3 : 100 Hz คําตอบ 4 : 200 Hz
ขอที่ : 391
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
142 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 392
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 393 Hall effect transducer เปนอุปกรณสารกึ่งตัวนําที่นิยมนําไปใชในการวัดปริมาณอะไรบาง
คําตอบ 1 : ความเขมสนามแมเหล็ก คําตอบ 2 : กระแสไฟฟา คําตอบ 3 : ตรวจจับการหมุนของเฟองเกียรโลหะ คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ
ขอที่ : 394
คําตอบ 1 : 0.1 V คําตอบ 2 : 0.5 V
143 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 : 1.5 V คําตอบ 4 : 2.5 V
ขอที่ : 395
คําตอบ 1 : 0.5 T คําตอบ 2 : 5 T คําตอบ 3 : 50 T คําตอบ 4 : 50 mT
ขอที่ : 396 หนวยของความหนาแนนเสนแรงแมเหล็ก (Magnetic flux density) คือ
คําตอบ 1 : henry คําตอบ 2 : weber คําตอบ 3 : farad คําตอบ 4 : tesla
ขอที่ : 397
144 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 3 V คําตอบ 2 : 5 V คําตอบ 3 : 33.33 V คําตอบ 4 : 0 V
ขอที่ : 398
คําตอบ 1 : 20 dB คําตอบ 2 : 40 dB คําตอบ 3 : 60 dB คําตอบ 4 : 80 dB
ขอที่ : 399
145 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 6.25 คําตอบ 2 : 7.25 คําตอบ 3 : 8.25 คําตอบ 4 : 9.25
ขอที่ : 400 สัญญาณรบกวนนอรมอลโหมด (Normal-mode noise) ในการวัดคือ
คําตอบ 1 : สัญญาณรบกวนที่เขามาในระบบการวัดโดยอนุกรมอยูกับแหลงจายสัญญาณวัด คําตอบ 2 : สัญญาณรบกวนที่เขามาในระบบการวัดเหมือนสัญญาณรบกวนคอมมอนโหมด (Common-mode noise) คําตอบ 3 : เปนสัญญาณรบกวนที่ขจัดออกไดดวยวงจรขยายอินสทรูเมนเทชัน (Instrumentation amplifier) คําตอบ 4 : เปนสัญญาณรบกวนจากระบบกราวด
ขอที่ : 401 อัตราขยาย -15 dB ในวงจรหมายถึง
คําตอบ 1 : สัญญาณขาออก มากกวา สัญญาณขาเขา คําตอบ 2 : สัญญาณขาเขา มากกวา สัญญาณขาออก คําตอบ 3 : สัญญาณขาเขา เปน 15 เทา ของสัญญาณขาออก คําตอบ 4 : สัญญาณขาออก เปน 15 เทา ของสัญญาณขาเขา
ขอที่ : 402 วงจรกรองมีการขยายกําลังเปน -12 dB ถาแรงดันขาเขาเปน 12 V แรงดันขาออกเปน
คําตอบ 1 : 0.8 V คําตอบ 2 : 3 V คําตอบ 3 : 1.2 V คําตอบ 4 : 13 V
ขอที่ : 403
146 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : -36.67 dB คําตอบ 2 : -41.58 dB คําตอบ 3 : -48.24 dB คําตอบ 4 : -49.36 dB
ขอที่ : 404
วงจรกรองผานต่ํา (Low-pass filter) ดังรูป แรงดันอารเอ็มเอส (rms) ขาออก (ครอมตัวเก็บประจ)ุ ที่จุด – 3 dB คือ
คําตอบ 1 : 16.99 V คําตอบ 2 : 18.42 V คําตอบ 3 : 19.04 V คําตอบ 4 : 20.68 V
ขอที่ : 405
วงจรกรองผานต่ํา (Low-pass filter) ดังรูป แรงดันอารเอ็มเอส (rms) ครอมตัวตานทาน ที่จุด – 3 dB คือ
คําตอบ 1 : 11.38 V คําตอบ 2 : 12.67 V คําตอบ 3 : 16.99 V คําตอบ 4 : 19.62 V
147 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 406
วงจรกรองผานต่ํา (Low-pass filter) ดังรูป ความถี่ตัด (Cutoff frequency) ที่จุด – 3 dB คือ
คําตอบ 1 : 16.62 Hz คําตอบ 2 : 48.23 Hz คําตอบ 3 : 60.18 Hz คําตอบ 4 : 65.33 Hz
ขอที่ : 407
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
148 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 408
จากวงจรลดทอนแบบ T สมมาตร ตัวประกอบการลดทอน (Attenuation factor) คือ
คําตอบ 1 : 3 คําตอบ 2 : 5 คําตอบ 3 : 7 คําตอบ 4 : 9
ขอที่ : 409
จากวงจรลดทอนแบบ T สมมาตร การลดทอนแรงดันในหนวยเดซิเบล (dB) คือ
คําตอบ 1 : 7.3 dB คําตอบ 2 : 9.5 dB คําตอบ 3 : 10.6 dB คําตอบ 4 : 12.7 dB
ขอที่ : 410 วงจรมีอัตราขยายแรงดันเปน 20 บอกไดวามีการขยายแรงดัน เปน
149 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 13 dB คําตอบ 2 : 20 dB คําตอบ 3 : 26 dB คําตอบ 4 : 40 dB
ขอที่ : 411 การขยายกําลังเปน 44 dB เทากับ อัตราสวนกําลังขาออกตอกําลังขาเขา เปน
คําตอบ 1 : 44 คําตอบ 2 : 160 คําตอบ 3 : 440 คําตอบ 4 : 25119
ขอที่ : 412 อุปกรณมีการขยายแรงดันเปน 23 dB ถาแรงดันขาเขาเปน 3.3 V แรงดันขาออกจะเปน
คําตอบ 1 : 76.3 V คําตอบ 2 : 46.6 V คําตอบ 3 : 660.5 V คําตอบ 4 : 8.2 V
ขอที่ : 413
คําตอบ 1 : – 10 mW คําตอบ 2 : 30 mW คําตอบ 3 : 100 mW คําตอบ 4 : 1 W
ขอที่ : 414
จากวงจรมิเตอรอิเล็กทรอนิกสวัดแรงดันในรูปนี้ ขอใดที่ไมใชคุณประโยชนที่ไดเพิ่มเติมจากการใสวงจรอิเล็กทรอนิกสเขาไป
150 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : เพิ่มความเร็วในการวัด คําตอบ 2 : เพิ่มความไวของมิเตอร คําตอบ 3 : วัดไดแมนยํามากขึ้น คําตอบ 4 : ลด Loading effect
ขอที่ : 415 วงจรขยายสัญญาณในเครื่องมือวัดมี SNR (Signal to noise ratio) ดานเขาเทากับ 10 และมี SNR ดานออกเทากับ 2 จงหาคา Noise factor
คําตอบ 1 : 2 คําตอบ 2 : 5 คําตอบ 3 : 10 คําตอบ 4 : 20
ขอที่ : 416 วงจรขยายสัญญาณในเครื่องมือวัดมี SNR (Signal to noise ratio) ดานเขาเทากับ 10 และมี SNR ดานออกเทากับ 2 จงหาคา Noise figure
คําตอบ 1 : 2 dB คําตอบ 2 : 5 dB คําตอบ 3 : 7 dB คําตอบ 4 : 10 dB
ขอที่ : 417
โวลตมิเตอรแบบหลายพิสัย (Multi - range) ในรูปนี้ มีความตานทานดานเขา (Input resistance) เปนเทาไร ถากําหนดใหออปแอมป (Op - amp) มีความตานทานดานเขาเปนอนันต
151 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 418
โวลตมิเตอรแบบหลายพิสัย (Multi - range) ในรูปนี้ ถาสวิตชเลือกพิสัยอยูที่ตําแหนง A ดังในรูป จะมีอัตราการลดทอนสัญญาณดานเขา (Attenuation factor) เปนเทาไร
คําตอบ 1 : 10
152 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 : 20 คําตอบ 3 : 40 คําตอบ 4 : 200
ขอที่ : 419
โวลตมิเตอรแบบหลายพิสัย (multi - range) ในรูปนี้ มีพิสัยการวัด (Measurement range) สูงสุดเทาไร
คําตอบ 1 : 10 V คําตอบ 2 : 20 V คําตอบ 3 : 100 V คําตอบ 4 : 200 V
ขอที่ : 420
โวลตมิเตอรแบบหลายพิสัย (Multi - range) ในรูปนี้ ถาใชในพิสัยการวัดสูงสุดจะมีคาความไว (Sensitivity) เทาไร
153 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 421
คําตอบ 1 : 0.10 คําตอบ 2 : 0.11 คําตอบ 3 : 9 คําตอบ 4 : 10
ขอที่ : 422
154 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 30 dBm คําตอบ 2 : 50 dBm คําตอบ 3 : 60 dBm คําตอบ 4 : 500 dBm
ขอที่ : 423
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 424
คําตอบ 1 : – 105 dBm คําตอบ 2 : – 67 dBm
155 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 : – 57 dBm คําตอบ 4 : 67 dBm
ขอที่ : 425
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 426
156 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 427 กําลัง 30 dBm มีคาเทากับกี่ watt
คําตอบ 1 : 30 mW คําตอบ 2 : 1 W คําตอบ 3 : 30 W คําตอบ 4 : 1000 W
ขอที่ : 428
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 429
157 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 50 mV คําตอบ 2 : 950 mV คําตอบ 3 : 3.8 V คําตอบ 4 : 20 V
ขอที่ : 430
158 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 40 คําตอบ 2 : 380 คําตอบ 3 : 95000 คําตอบ 4 : 380000
ขอที่ : 431
159 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 9.3 V คําตอบ 2 : 10 V คําตอบ 3 : 13.44 V คําตอบ 4 : 14.14 V
ขอที่ : 432
คําตอบ 1 : 18.6 V คําตอบ 2 : 19.3 V คําตอบ 3 : 26.88 V คําตอบ 4 : 27.58 V
ขอที่ : 433
160 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 0.04 คําตอบ 2 : 0.1 คําตอบ 3 : 10 คําตอบ 4 : 25
ขอที่ : 434
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
161 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 : 2 mH คําตอบ 4 : 4.8 mH
ขอที่ : 435
คําตอบ 1 : 0.2 คําตอบ 2 : 2 คําตอบ 3 : 2.5 คําตอบ 4 : 5
ขอที่ : 436
คําตอบ 1 : 0 162 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 437 วงจรใดตอไปนี้ที่มีคุณสมบัติเปนวงจรกรองผานสูง (High pass filter)
คําตอบ 1 : วงจรขยายกลับเฟส (Inverting amplifier) คําตอบ 2 : วงจรขยายผลตาง (Differential amplifier) คําตอบ 3 : วงจรขยายดิฟเฟอเรนทิเอต (Differentiating amplifier) คําตอบ 4 : วงจรขยายอินทิเกรต (Integrating amplifier)
ขอที่ : 438
คําตอบ 1 : 0.06 V คําตอบ 2 : 1.8 V คําตอบ 3 : 3 V คําตอบ 4 : 4 V
ขอที่ : 439
163 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 0.005 คําตอบ 2 : 0.01 คําตอบ 3 : 100 คําตอบ 4 : 200
ขอที่ : 440
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
164 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 441
คําตอบ 1 : 0.18 mH คําตอบ 2 : 18 mH คําตอบ 3 : 16.2 mH
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 442
165 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 0.003 คําตอบ 2 : 0.02 คําตอบ 3 : 50 คําตอบ 4 : 314.16
ขอที่ : 443
คําตอบ 1 : 175 mV คําตอบ 2 : 350 mV คําตอบ 3 : 700 mV คําตอบ 4 : 7 V
ขอที่ : 444
166 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 445
167 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 70 mV คําตอบ 2 : 99 mV คําตอบ 3 : 140 mV คําตอบ 4 : 198 mV
ขอที่ : 446
คําตอบ 1 : 0.7 mV คําตอบ 2 : 4.93 mV คําตอบ 3 : 7 mV
168 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 : 70 mV
ขอที่ : 447 เครื่องมือวัดอุณหภูมิดังตอไปนี้ แบบไหนมีความเปนเชิงเสนกับอุณหภูมิที่วัดมากที่สุด
คําตอบ 1 : Thermocouple คําตอบ 2 : RTD คําตอบ 3 : Thermistor คําตอบ 4 : Bimetallic strip
ขอที่ : 448
คําตอบ 1 : 0.1 % คําตอบ 2 : 0.2 % คําตอบ 3 : 3 % คําตอบ 4 : 40 %
ขอที่ : 449 อุปกรณที่มีคุณสมบัติเปน negative temperature coefficient คือ
คําตอบ 1 : RTD คําตอบ 2 : thermistor คําตอบ 3 : thermocouple คําตอบ 4 : bimetallic thermometer
ขอที่ : 450 Load cell นิยมใชในการวัดปริมาณชนิดใด
คําตอบ 1 : ระดับ คําตอบ 2 : อัตราการไหล 169 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 : น้ําหนัก คําตอบ 4 : ความจุ
ขอที่ : 451 แผนออริฟส (Orifice plate) ใชในการวัดปริมาณใด
คําตอบ 1 : ระดับ คําตอบ 2 : อัตราการไหล คําตอบ 3 : น้ําหนัก คําตอบ 4 : ความจุ
ขอที่ : 452 หลักการทํางานของเครื่องวัดแรงดันแบบเทอรโมคัปเปล ปริมาณไฟฟาที่ทําการวัดจะถูกเปลี่ยนเปน
คําตอบ 1 : ความตานทาน คําตอบ 2 : ความดัน คําตอบ 3 : ความรอน คําตอบ 4 : ความจุไฟฟา
ขอที่ : 453 เซ็นเซอรในขอใดไมใชเซ็นเซอรสําหรับวัดอุณหภูมิ
คําตอบ 1 : Pt100 คําตอบ 2 : Photoconductive cell คําตอบ 3 : Thermocouple คําตอบ 4 : Thermistor
ขอที่ : 454
คําตอบ 1 :
170 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 455
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 456 ขอใดไมใชคุณสมบัติของเทอรมิสเตอร
คําตอบ 1 : มีความไวสูงกวา RTD (Resistance temperature detector) คําตอบ 2 : มีสัมประสิทธิ์เชิงอุณหภูมิไดทั้งคาบวกและลบ คําตอบ 3 : มีความเปนเชิงเสนดีกวา RTD คําตอบ 4 : อุณหภูมิใชงานอยูในชวงที่ต่ํากวาของ RTD
ขอที่ : 457
171 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 0.1% คําตอบ 2 : 0.2% คําตอบ 3 : 0.3% คําตอบ 4 : 0.4%
ขอที่ : 458 วงจรวัดที่นิยมนํามาใชกับการวัดคาความตานทานของ RTD (Resistance temperature detector) คือวงจรอะไร
คําตอบ 1 : วงจรบริดจกระแสตรง คําตอบ 2 : วงจรแบงแรงดัน คําตอบ 3 : ไมใชทั้งคําตอบ 1 และ 2 คําตอบ 4 : ถูกตองทั้งคําตอบ 1 และ 2
ขอที่ : 459
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 460
172 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 461 อุปกรณที่สามารถเปลี่ยนพลังงานจากรูปแบบหนึ่งไปสูพลังงานอีกรูปแบบหนึ่ง โดยทั่วไปมักเรียกวา
คําตอบ 1 : Transformer คําตอบ 2 : Transistor คําตอบ 3 : Transducer คําตอบ 4 : Transmistor
ขอที่ : 462 อุปกรณวัดอุณหภูมิดังตอไปนี้ แบบไหนที่วัดอุณหภูมิไดสูงที่สุด
คําตอบ 1 : Thermocouple คําตอบ 2 : RTD คําตอบ 3 : Thermistor คําตอบ 4 : Bimetallic strip
ขอที่ : 463
173 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
อุปกรณวัดอุณหภูมิดังตอไปนี้ แบบไหนมีคาสัมประสิทธิ์ความตานทานตออุณหภูมิสูงที่สุด
คําตอบ 1 : Bimetallic strip คําตอบ 2 : Thermistor คําตอบ 3 : Thermocouple คําตอบ 4 : RTD
ขอที่ : 464 ขอใดคือปรากฏการณทอมสัน (Thompson effect) ที่เกิดขึ้นเมื่อใชงานเทอรโมคัปเปล (Thermocouple)
คําตอบ 1 : การนําความรอนโดยอิเล็กตรอนที่ไหลในเสนลวดโลหะที่มีอุณหภูมิแตละจุดไมเทากัน คําตอบ 2 : การสูญเสียกําลังเปนความรอน (Power dissipation) บนเสนลวดโลหะที่มีกระแสไหลผาน คําตอบ 3 : การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของรอยตอที่มีกระแสไหลผาน คําตอบ 4 : การเกิดความตางศักยระหวางเสนลวดโลหะตางชนิดกัน 2 เสนที่เชื่อมปลายดานหนึ่งเขาดวยกัน
ขอที่ : 465 ปรากฏการณใดไมเกี่ยวของกับการใชงานเทอรโมคัปเปล (Thermocouple)
คําตอบ 1 : ปรากฏการณเพลเทียร (Peltier effect) คําตอบ 2 : ปรากฏการณฮอลล (Hall effect) คําตอบ 3 : ปรากฏการณทอมสัน (Thompson effect) คําตอบ 4 : ปรากฏการณซีเบค (Seebeck effect)
ขอที่ : 466 Transducer คือ
คําตอบ 1 : อุปกรณแปลงสัญญาณจากเชิงกลเปนไฟฟา คําตอบ 2 : หมอแปลงชนิดพิเศษ คําตอบ 3 : ทรานซิสเตอร คําตอบ 4 : เครื่องรับวิทยุชนิดพิเศษ
ขอที่ : 467
174 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 468
คําตอบ 1 : 0.25 % คําตอบ 2 : 0.5 % คําตอบ 3 : 0.75 % คําตอบ 4 : 1.25 %
ขอที่ : 469
175 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 0.0225 V คําตอบ 2 : 2.25 V คําตอบ 3 : 15 V คําตอบ 4 : 100 V
ขอที่ : 470
สเตรนเกจ (strain gauge) มีคาตัวประกอบเกจ (gauge factor) เทากับ 2.5 เมื่อไดรับแรงกระทํา 1000 N แลวปรากฏวาความตานทานเปลี่ยนคาไป 3 % ความเครียด (strain) ที่เกิดขึ้นบนเกจตัวนี้มีคาเทาไร
คําตอบ 1 : 0.0075 คําตอบ 2 : 0.012 คําตอบ 3 : 0.075 คําตอบ 4 : 1.2
ขอที่ : 471 ขอใดคือปรากฏการณเพลเทียร (Peltier effect) ในเทอรโมคัปเปล (thermocouple)
คําตอบ 1 : การเกิดกําลังสูญเสียเปนความรอนบนลวดความตานทาน คําตอบ 2 : การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่รอยตอของเสนลวดโลหะสองเสนเมื่อมีกระแสไหลผาน คําตอบ 3 : การนําความรอนโดยกระแสที่ไหลผานจุดตางๆของเสนลวดโลหะที่มีอุณหภูมิไมเทากัน คําตอบ 4 : การเกิดความตางศักยระหวางเสนลวดสองเสนที่เชื่อมปลายดานหนึ่งเปนรอยตอ
176 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 472
สเตรนเกจ (train gauge) ตัวหนึ่งมีความตานทานที่ระบุมา (nominal value) เทากับ 200 โอหม และมีคาโมดูลัสของยัง (Young’s modulus) เทากับ 50 GPa เมื่อไดรับความเครียด (strain) มีคาเทากับ 0.001 แลวทําใหความตานทานเปลี่ยนคาไปเทากับ 0.5 โอหม สเตรนเกจตัวนี้มีความไว (sensitivity) เทาไร
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 : 125000 คําตอบ 3 : 500 คําตอบ 4 : 2.5
ขอที่ : 473 ขอใดไมใชการวัดความเร็ว
คําตอบ 1 : ปอนสัญญาณออกของตัวแปลงวัดระยะขจัดใหกับวงจรดิฟเฟอเรนทิเอต (differentiator) คําตอบ 2 : ปอนสัญญาณออกของตัวแปลงความเรงใหกับวงจรอินทิเกรต (integrator) คําตอบ 3 : ใชตัวแปลงความเร็วเชิงเสน (LVT) คําตอบ 4 : ใชหมอแปลงดิฟเฟอเรนเชียล (LVDT)
ขอที่ : 474
คําตอบ 1 :
177 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 : คําตอบ 3 : 2 mm คําตอบ 4 : 4 mm
ขอที่ : 475 ตัวแปลง (transducer) ชนิดใดที่เปนสวนประกอบที่จําเปนในโหลดเซลล (load cell)
คําตอบ 1 : สเตรนเกจ (strain gauge) คําตอบ 2 : เทอรมิสเตอร (thermistor) คําตอบ 3 : โพเทนชิโอมิเตอร (potentiometer) คําตอบ 4 : แอลวีดีที (Linear Variable Differential Transformer)
ขอที่ : 476 ในการนําสเตรนเกจ (strain gauge) ไปใชในวงจรบริดจ มักจะใหมีเกจชดเชยหรือดัมมีเกจ (dummy gauge) ในแขนของบริดจแขนหนึ่ง หนาที่ของเกจชดเชยคืออะไร
คําตอบ 1 : ชดเชยความดัน คําตอบ 2 : ชดเชยแรง คําตอบ 3 : ชดเชยความตานทาน คําตอบ 4 : ชดเชยอุณหภูมิ
ขอที่ : 477 ตัวเก็บประจุแบบดิฟเฟอเรนเชียล (differential capacitor) นําไปวัดปริมาณอะไรไดโดยตรง
คําตอบ 1 : อุณหภูมิ คําตอบ 2 : ความชื้น คําตอบ 3 : สนามแมเหล็ก คําตอบ 4 : ระยะขจัด
ขอที่ : 478
คุณสมบัติที่ควรจะไดจากการตอเทอรมิสเตอรในวงจรนี้คืออะไร
178 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : ปองกันรีเลยเสียหายจากกระแสไหลพุง (inrush current) ตอนเริ่มปดสวิตช คําตอบ 2 : ปองกันแหลงจายแรงดัน V เสียหายจากกระแสไหลพุงตอนเริ่มปดสวิตช คําตอบ 3 : ปองกันหนาสัมผัสของสวิตชเสียหายจากกระแสไหลพุงตอนเริ่มปดสวิตช คําตอบ 4 : ลดกระแสใหต่ําลงเมื่อวงจรเขาสูภาวะอยูตัว (steady state) แลว
ขอที่ : 479 อารทีดี (resistance temperature detector, RTD) ทําขึ้นจากวัสดุประเภทใดเปนหลัก
คําตอบ 1 : ฉนวน คําตอบ 2 : สารกึ่งตัวนํา คําตอบ 3 : โลหะ คําตอบ 4 : ออกไซด (oxide) ของโลหะ
ขอที่ : 480 เทอรมิสเตอร (Thermistor) ทําขึ้นจากวัสดุประเภทใดเปนหลัก
คําตอบ 1 : ฉนวน คําตอบ 2 : สารกึ่งตัวนํา คําตอบ 3 : โลหะ คําตอบ 4 : ออกไซด (oxide) ของโลหะ
ขอที่ : 481 แผนฮอลล (Hall plate) เปนตัวแปลงวัดปริมาณอะไรไดโดยตรง
คําตอบ 1 : ความตางศักย คําตอบ 2 : สนามไฟฟา คําตอบ 3 : อุณหภูมิ คําตอบ 4 : ความหนาแนนฟลักซแมเหล็ก
ขอที่ : 482 ความตางศักยในแนวตั้งฉากกับทิศการไหลของกระแสในแผนฮอลล (Hall plate) เกิดจากการกระทําของอะไร
คําตอบ 1 : ความเคน (stress) คําตอบ 2 : อุณหภูมิ คําตอบ 3 : ความดัน คําตอบ 4 : แรงลอเรนทซ (Lorentz force) 179 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 483 แผนฮอลล (Hall plate) ที่มีความไวสูงตองเปนแบบใด
คําตอบ 1 : ทําจากแผนโลหะหนาๆ คําตอบ 2 : ทําจากแผนโลหะบางๆ คําตอบ 3 : ทําจากแผนสารกึ่งตัวนําหนาๆ คําตอบ 4 : ทําจากแผนสารกึ่งตัวนําบางๆ
ขอที่ : 484 ปรากฏการณฮอลล (Hall effect) สามารถมีผลตอเนื่องไปเปนปรากฏการณในขอใด
คําตอบ 1 : ปรากฏการณแมกนีโตรีซีสทีฟ (Magnetoresistive effect) คําตอบ 2 : ปรากฏการณซีเบค (Seebeck effect) คําตอบ 3 : ปรากฏการณจูล (Joule effect) คําตอบ 4 : ปรากฏการณเพลเทียร (Peltier effect)
ขอที่ : 485
คําตอบ 1 :
180 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 486
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 487
181 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
จากวงจรการใชงานตัวเก็บประจุแบบดิฟเฟอเรนเชียล (differential) วัดระยะขจัด x ในรูปนี้ แรงดันออกมีคาเทาไร
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 488 คาตัวประกอบเกจ (gauge factor) ของสเตรนเกจ (strain gauge) คืออะไร
คําตอบ 1 : คาบอกขนาดความยาวของเกจ คําตอบ 2 : ตัวเลขบอกชนิดของสารที่ใชทําเกจ คําตอบ 3 : คาความตานทานปรกติของเกจ คําตอบ 4 : คาความไวของเกจ
ขอที่ : 489
182 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ตัวแปลงในขอใดที่นิยมนําไปใชวัดมวล
คําตอบ 1 : โพเทนชิโอมิเตอร (potentiometer) คําตอบ 2 : แอลวีดีที (LVDT) คําตอบ 3 : สเตรนเกจ (strain gauge) คําตอบ 4 : เทอรมิสเตอร (thermistor)
ขอที่ : 490 หมอแปลงแบบดิฟเฟอเรนเชียล (LVDT) โดยพื้นฐานเปนตัวแปลง (Transducer) ที่ใชวัดอะไร
คําตอบ 1 : แรง คําตอบ 2 : แรงดันไฟฟา คําตอบ 3 : ระยะขจัด คําตอบ 4 : สนามแมเหล็ก
ขอที่ : 491 คุณสมบัติความเปนเอกพันธ (Homogeneous) ของเทอรโมคัปเปล (Thermocouple) คือ
คําตอบ 1 : เปนโลหะจากธาตุชนิดเดียว ไมใชโลหะผสม คําตอบ 2 : ความตางศักยของรอยตอ (Junction) ขึ้นอยูกับชนิดโลหะและอุณหภูมิสัมบูรณที่รอยตอเทานั้น คําตอบ 3 : ความตางศักยของรอยตอขึ้นอยูกับขนาดของเสนลวดเทานั้น คําตอบ 4 : ความตางศักยของรอยตอขึ้นอยูกับขนาดของรอยตอเทานั้น
ขอที่ : 492
คําตอบ 1 :
183 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 493 ในการวัดอุณหภูมิที่มีพิสัยการวัด (Measurement range) กวางมากๆ ตัวแปลงใดเหมาะสมที่สุด
คําตอบ 1 : เทอรมิสเตอร (Thermistor) คําตอบ 2 : อารทีดี (RTD) คําตอบ 3 : แผนฮอลล (Hall plate) คําตอบ 4 : เทอรโมคัปเปล (Thermocouple)
ขอที่ : 494 วัสดุที่เหมาะจะใชทําสเตรนเกจ (Strain gauge) ใหมีความไวสูงคือ
คําตอบ 1 : สารกึ่งตัวนํา คําตอบ 2 : โลหะ คําตอบ 3 : ฉนวน คําตอบ 4 : โครเมียม – นิเกิล (Chromium – nickel)
ขอที่ : 495 ความตานทานแบบเอ็นทีซี (NTC resistor) คือ
คําตอบ 1 : เทอรโมคัปเปล (Thermocouple) คําตอบ 2 : อารทีดี (RTD) คําตอบ 3 : เทอรมิสเตอร (Thermistor) คําตอบ 4 : แผนฮอลล (Hall plate)
ขอที่ : 496 ขอใดที่จัดเปนตัวแปลงดานออก (Output transducer)
184 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : สเตรนเกจ (Strain gauge) คําตอบ 2 : โพเทนชิโอมิเตอร (Potentiometer) คําตอบ 3 : หลอดภาพซีอารที (CRT) คําตอบ 4 : ตัวรับรูปรากฏการณฮอลล (Hall’s effect sensor)
ขอที่ : 497 ตัวแปลง (Transducer) ในขอใดที่สามารถแปลงปริมาณเขาไปเปนปริมาณออกไดโดยตรง โดยไมตองการแหลงจายกําลังจากภายนอก
คําตอบ 1 : สเตรนเกจ (strain gauge) คําตอบ 2 : โพเทนชิโอมิเตอร (potentiometer) คําตอบ 3 : หลอดภาพซีอารที (CRT) คําตอบ 4 : เทอรโมคัปเปล (Thermocouple)
ขอที่ : 498 ตัวแปลง (Transducer) ในขอใดมีฟงกชันถายโอน (Transfer function) เปนเชิงเสน (linear)
คําตอบ 1 : ตัวแปลงระยะขจัด (displacement) แบบความจุไฟฟาที่เปลี่ยนระยะระหวางอิเล็กโทรด (Electrode) คําตอบ 2 : ตัวแปลงระยะขจัดแบบความจุไฟฟาที่เปลี่ยนพื้นที่หนาตัด คําตอบ 3 : ตัวแปลงระยะขจัดแบบความจุไฟฟาที่เปลี่ยนคาสภาพยอม (Permittivity) คําตอบ 4 : ตัวแปลงระยะขจัดแบบความเหนี่ยวนําที่เปลี่ยนความตานทานแมเหล็ก (Reluctance)
ขอที่ : 499
คําตอบ 1 : ทําใหเกจวัดมีความไวสูงสุด คําตอบ 2 : ทําใหบริดจ (Bridge) มีความไวสูงสุด
185 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 : ลดการสูญเสียกําลังเปนความรอน คําตอบ 4 : ชดเชยผลของอุณหภูมิที่มีตอเกจวัด R1
ขอที่ : 500
คําตอบ 1 :
คําตอบ 2 :
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :
186 of 186
สภาวิศวกรขอสงวน
สิทธิ์ ห้ามจำหน่าย