cuba volume5

10
Vacation as Vocation (5) Cuba - Mexico - America โดย แง งามอณโช

Upload: bank-ngamarunchot

Post on 11-Mar-2016

267 views

Category:

Documents


1 download

DESCRIPTION

และแล้วบันทึกการเดินทางมาคิวบา ก็เล่ามาถึงตอนที่เหยียบประเทศคิวบาซะทีนะครับ คิวบาเป็นอย่างไร ลองมาดูกันครับ แน่นอนว่ายังเป้นแค่ฉบับร่าง เท่านั้น

TRANSCRIPT

Page 1: Cuba volume5

Vacation as Vocation (5)Cuba - Mexico - America

โดย แบ๊งค์ งามอรุณโชติ

Page 2: Cuba volume5

อนุทินการเดินทางฉบับที่ห้า

5

วันที่ 19 ธค. 2556 ผมและเพื่อนๆ เดินทางจาก Mexico City มาเมืองหลวงของ Cuba ชื่อ Havana โดยสายการบิน InterJet บนเครื่องผมสั่ง Jack Daniel No.7 ดื่มคู่กับรายการ Just for Laugh และโดริโทส น่าสนใจทีเดียว, เครื่องบินส่วนใหญ่มักมีอยู่ด้วยกันสองแบบ แบบแรก มีรายการทีวีให้ดูในที่นั่งแต่ละที่ พร้อมหูฟัง เพื่อที่จะได้ดูคคนเดียวไม่ไปรบกวนคนอื่น และแบบที่สอง ไม่มีรายการอะไรให้ชมเลย... แต่เที่ยวบินนี้กลับเปิดรายการเดียวกันให้ชมทั้งลำ เป็นรายการตลกที่ไม่ต้องมีบทพูด แต่ทุกคนเข้าใจตรงกันได้

เรายังคงวิ่ง, เราทุกคน

1

Page 3: Cuba volume5

ห่ะ, โลกาภิวัตน์ของเสียงหัวเราะ, สังคมนิยมความบันเทิง ทั้งลำเรือบิน ขำขันไปด้วยกัน ไม่เหลือความเป็นปัจเจก อย่างน้อยก็ช่วงสั้นๆ น่าประทับใจ

ไม่นานนักเราก็มาถึงคิวบา นั่งรถจากสนามบิน Ha-bana เข้าเมืองไปพักที่โรงแรม Nacional de Cuba ราคาคืนละ 180 Euro แต่ละห้องเรียงรายไปด้วยประวัติบุคคลสำคัญเข้าพัก เราพักห้อง 329 และ 331 สองห้องสูทที่เชื่อมต่อกันได้, สันนิษฐานกันว่า ห้องพักของเราอาจเคยเป็นที่พักของ Stephen Spielberg เพราะมีภาพเขาประกอบห้อง ข้างใต้ภาพเขียนกำกับไว้ว่า “เข้าพักเมื่อปีค.ศ. 2000”

คิดว่าในอนาคต, อาจจะมีภาพแปะว่า “แบ๊งค์ งามอรุณโชติ เคยมาพักที่โรงแรมแห่งนี้ปี 2013”,ถ้าผมดังได้มากพอหละก็นะ

เราเก็บกระเป๋าเดินทาง และล้างหน้าล้างตาเล็กน้อย แล้วเดินลงมาติดต่อซื้อบัตรการแสดงสองแห่ง แห่งแรกคือระบำ Parisian Cabaret ซึ่งจะชมในคืนแรกนี้เลย และการแสดงที่สองคือ Jazz Festival ครั้งที่ 29 ซึ่งจะกระจายไปตามส่วนต่างๆ ของเมือง พวกเราตัดสินใจกันว่าจะชมในคืนที่ 3 ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายของการพักผ่อนในคิวบา

หลังซื้อบัตรการแสดงทั้งหมดเรียบร้อย ด้วยความหิว พวกเราจึงแวะทานปลาย่าง กับคอกเทล Mojito กันคนละแก้วในสวนของโรงแรม ก่อนจะเดินทางไปร้านอาหารคิวบาเล็กๆ อบอุ่นที่ชื่อว่า La Cocina de Lilliam

อาหารเย็นในมื้อนั้นเราสั่ง Punte de felete (เนื้อลูกวัวส่วนสันนอกย่าง), Madio pollo asado al ajillo (ไก่ครึ่งตัวอบกับซอสกระเทียม), ข้าวผัดทะเลรวม แล้วก็มีเครื่องเคียงทั่วไปอย่างซุป และสลัด Parma ham ส่วนเครื่องดื่มผมเลือก Cuban Libre --- แด่เสรีภาพ เชียส์

2

Hotel Nacional de Cuba

Page 4: Cuba volume5

อาหารคิวบานั้นวัตถุดิบดี แต่การปรุงอาหารยังค่อนข้างปรุงสุกเกินไป ทำให้เนื้อของกุ้งลอบส์เตอร์ หรือลูกวัว ซึ่งมีราคาแพงต้องสูญเสียรสชาติ กลายเป็นของเนื้อหยาบแข็ง --- คุยเล่นกันในหมู่เพื่อนร่วมเดินทางว่า “สงสัยครั้งหน้าต้องสั้นลอบส์เตอร์ Medium rare”

อธิบายเรื่องนี้แบบ “ฝ่ายขวา” ก็คงต้องบอกว่า การปรุงอาหารไม่เก่งนั้นเพราะ ระบบสังคมนิยมทำให้ลดแรงจูงใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานชั้นเลิศ (ทำอาหารอร่อยหรือไม่อร่อยก็ได้รายได้ไม่ต่างกันมาก) ทำให้สุนทรียภาพในการทำอาหารไม่ถูกพัฒนา แต่นั่นก็คงไม่ใช่คำอธิบายเดียวแน่ๆ และก็อาจจะเป็นการตีกินเกินไปที่จะกล่าวเช่นนั้น ยังมีเรื่องสาธารณสุขของประเทศกำลังพัฒนา (สุกไว้ก่อน = ปลอดโรค ปลอดภัยจากอาหารเป็นพิษ) หรือยังมีข้อโต้แย้งอื่นอีกมากพอจะถกเถียงกันได้เป็นวัน

ห่ะ,ผมไม่มีเวลาขนาดนั้น

เราเดินทางกลับโรงแรมเพื่อชม Parisian Cabaret , คณะละครเล่นเป็นภาษา Spanish ทำให้เราติดตามเรื่องได้จากท่าทางการแสดงของพวกเขาเท่านั้น เท่าที่ผมจับใจความได้ เรื่องราวของคาบาเรต์กล่าวถึงการเข้ามาของ “คนขาว” ที่พรากสาวผิวดำไปจากหนุ่มท้องถิ่น เพื่อไปร่วมเพศ

การนำเสนอนี้ หากตีความลึกซึ้งขึ้น การพราก “ผู้หญิงไปชำเรา” นั้นก็เหมือนการรุกล้ำ “Mother land” เป็นการเข้ามาพรากมาตุภูมิของพวกชาวต่างชาติ (ทั้งสเปนและอเมริกา --- ทุนนิยม) และเป็นการพรากไปเพื่อชำเรา หรือ ถลุงใช้ทรัพยากรจนป่นปี้ ละครเรื่องนี้จึงเป็นละครเพื่อการปฏิวัติ เป็นละครที่ปลุกปั่นให้เห็นความอยุติธรรมห่ามเถื่อนที่ชาวคิวบาและชาติคิวบาตกเป็นผู้ถูกกระทำ

3

Cuban Seafood Fried Rice

Page 5: Cuba volume5

เป็นเรื่องย้อนแย้งตลกร้ายอย่างยิ่ง ที่คนในห้องการแสดงนี้มีคนขาวจากประเทศทุนนิยมเป็นส่วนใหญ่ ทุนนิยมที่ตีตั๋วเข้ามาชมการแสดงซึ่งบอกเล่าถึงความโหดร้ายของทุนนิยมและโลกาภิวัตน์, ห่ะ คงสนุกพิลึก หากเขาจะขบคิดกับมันบ้างหละก็นะ

แต่ถ้าจะมองอีกแง่หนึ่ง ละครเรื่องนี้มุ่งหมายให้ใครเป็นผู้ชม/ฟังกันเล่า? ละครเพื่อการปฏิวัตินั้นไม่ควรนำมาเร่ขายตั๋ว มันมีไว้เพื่อปลุกปั่นจิตใจให้สั่นเทาต่อความอยุติธรรม เพื่อที่จะก่อกำเนิดสหาย (Che)... ดังนั้น การที่ละครเพื่อการปฏิวัติจะนำมาจัดแสดงแก่นักท่องเที่ยวจึงไม่ใช่ละครเพื่อการปฏิวัติอีกต่อไป หากแต่เป็นการ Com-mercialize the counter-commercialization ไปโดยปริยาย

และเพราะดังนั้น ก็คงจะถูกแล้วที่เรา, นักท่องเที่ยวจากประเทศทุนนิยมทั้งหลาย, จะจิบ Mojito คอกเทลของชาติคิวบา และ ชมการแสดงชำเราชาติคิวบาในโรงละครคาบาเรต์ที่ใช้ชื่อฝรั่งเศส

ผมเหนื่อยเกินไปที่จะขบคิดเรื่องนี้เพื่อให้ได้ข้อยุติ ละครยังไม่ทันจบ ผมก็ขอปลีกตัวจากเพื่อนๆ ขึ้นห้องนอนก่อน, “ราตรีสวัสดิ์ Stephen Spielberg” ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายหันไปกล่าวกับภาพเฟรมเล็กๆ ของคนดังบนผนัง แล้วทุกอย่างก็ดำมืดไป

“ราตรีสวัสดิ์แบ๊งค์”, ใครซักคนตอบกลับมาเบาๆ ในความมืดนั้น

.........

4

Page 6: Cuba volume5

วันที่ 20 ธค. 2556 เราตื่นเช้ามาทานบุฟเฟต์โรงแรม โดยรวมแล้วเหมือนอาหารเช้าในโรงแรมทั่วโลกที่ผมไปพักมา แต่วิธีการทำไข่ดาวของเขาน่าสนใจดี เขาจะตอกไข่ใส่แม่พิมพ์แล้วยกทั้งหมดใส่เตาอบพร้อมกัน

หลังจากชิมไข่ดาวคิวบาและเอซเปรซโซร้อนๆ แล้วก็พร้อมสำหรับการผจญภัย เรานัดให้รถคาดิแลคคัดแดงจ๊าบ ปีค.ศ.1960 มารับเพื่อไปชมทิวทัศน์รอบเมือง โดยมีไกด์นำทางและคนขับไปกับเราด้วย

เราขับผ่านเรียบชายทะเล ผ่านส่วนที่เป็นเขตสีเขียว มีทิวไม้หนาแน่น และผ่านส่วนที่เป็นตัวเมืองเก่า อาคารต่างๆ ดูทรุดโทรมและไม่ได้รับการลงทุนเพื่อชดเชยค่าเสื่อมราคา สวรรค์ของการถ่ายภาพ กดชัตเตอร์ส่งเดชยังสวย แต่คงไม่ใช่สวรรค์สำหรับการอยู่อาศัย, ระหว่างเดินทางผมได้เจอกับนักถ่ายภาพชาวเสปน มาที่ Cuba สิบหกครั้งแล้วเพื่อถ่ายภาพ... เขายืนยัน ยังเก่าคลาสสิคเหมือนเดิม, ชาวบ้านที่นี่ยืนยัน ยังเก่าโทรมเหมือนเดิม

เพื่อนๆ ผมชวนรำลึกถึงอดีตก่อนที่จะมีระบบคอมมิวนิสม์ใน Cuba เขาเสนอว่าระบบเศรษฐกิจคงจะดีกว่านี้ บ้านเรือนคงสวยงาม, อ่าา นักปฏิวัติรุ่นแรก คงหวังให้ Cuba รุ่งเรืองเช่นนั้นเหมือนกัน... ไม่ว่าซ้ายหรือขวา เราต่างล้วนรำลึกถึงอดีตและอนาคตที่ไม่มีอยู่จริงด้วยกันทั้งสิ้น ชีวิตจริงก็เป็นเช่นนี้ ตกหล่มติดกับอยู่ระหว่างอุดมคติที่ไม่มีวันไปถึง

ระหว่างแล่นรถผ่านตึกที่ประทับโลหะเห็นหน้าเช กัวรา ผมเย้ยหยั่นเขาว่า “เห็นไหมสหาย, เป็นความผิดของคุณที่สร้างระบบคอมมิวนิสม์-สังคมนิยมให้เกิดขึ้นจริง เพราะเมื่อมันกลายเป็นของจริง มันก็พร้อมจะถูกทำลายได้... คุณเห็นไหมว่า Cuba ทุกวันนี้เป็นอย่างไร? ทั้งเสื่อมโทรมและเปลี่ยนแปลงไป ผมสามารถใช้เงินซื้อหารถคาดิแลคคันงาม เที่ยวชมความเก่าคร่ำครึของเมืองที่ไร้การดูแลรักษา เมืองที่คุณทิ้งเอาไว้เบื้องหลังและเดินทางไปตายต่างแดน”

5

Cadillac car, 1960

Che Guevara art work on building in Havana

Page 7: Cuba volume5

“Amigo, คุณคิดว่าทุนนิยมเป็นของปลอมกระนั้นหรือ? หากไม่ใช่ของปลอมเสียแล้วมันก็พร้อมจะถูกทำลาย ได้ และควรจะถูกทำลายเช่นเดียกัน หน้าที่ปฏิวัติเป็นของผม หน้าที่รักษาผลของมันไว้เป็นของชาวคิวบาที่ตามมา อดีตเป็นของผม อนาคตที่เป็นของพวกเขา ผมไม่เสียใจในสิ่งที่ทำลงไป, สหาย คุณยังไม่เข้าใจอีกหรือ?”

เสียงตอบกลางเปลวแดดยามเที่ยงวันบนรถเปิดประทุนทำให้ผมสับสน มันอาจจะมาจากที่ใดที่หนึ่งข้างนอกนั่น หรือมาจากในหัวขมองของผมเองก็ได้, ห่ะ ยากจะจับต้นชนปลาย

ก่อนทานข้าวเที่ยง เราแวะไปโรงงานซิการ์ของรัฐบาล ตราสินค้าที่ดีที่สุดชื่อว่า Cohiba แน่นอนว่าท่านผู้นำ, Fidel Castro ก็สูบยี่ห้อนี้ การทำซิการ์เป็นศาสตร์ที่ปราณีต ซิการ์หนึ่งแท่งต้องการใบยาสูบทั้งสิ้น 5 ชนิดพันซ้อนกัน 5 ชั้นประกอบไปด้วยชั้นที่ให้ Nicotine, ให้ความหอม, ให้การเผาไหม้ และชั้นที่ให้รสชาตินุ่มละมุน เมื่อผสมผสานทั้ง4 ชั้นเข้าด้วยกันแล้วในชั้นสุดท้าย ส่วนของเปลือกจะเป็นการใช้ใบยาสูบขนาดใหญ่ที่ตากแห้งดีแล้วพันเป็นเปลือกรอบนอกสุดของซิการ์

แรงงานในโรงงานซิการ์นี้จะได้รับค่าตอบแทนเป็นซิาร์ 5 แท่งที่เขาผลิตขึ้นเอง และอาจจะได้มากกว่านั้นหากเขาใส่กำลังแรงงานเข้าไปมากขึ้นกว่าเพื่อน ฝ่ายขวาเรียกแรงจูงใจ (Incentive) สำหรับฝ่ายซ้ายจะมองว่าแรงงานควรได้ส่วนแบ่งจากกำลังแรงงานของตนเอง

6

Atmosphere in Havana

Page 8: Cuba volume5

เราขอให้ไกด์พาไปทานข้าวเที่ยงที่ร้านท้องถิ่น ชาวบ้านจะแปลงบ้านของตนเองเป็นร้านอาหารและเรียกว่า Pal-adar (ตามด้วยชื่อของร้านเฉพาะแต่ละหลัง) เราสั่งอาหารทั่วๆ ไปเช่น Pork-chop roasted, Seafood plate, Lob-ster ส่วนเครื่องดื่มก็มีหลากหลาย เพื่อนๆ ผมสั่งคอกเทลส่วนผมสั่งเบียร์คิวบายี่ห้อ Bucanero มาดื่ม, สดชื่นมาก รสชาติสว่างมาก เหมาะกับอากาศร้อนๆ

หลังจากเราทานอาหารกันเสร็จ เรานั่งรถ Chevrolet ปี1950 ไปชมพิพิธภัณฑ์แห่งการปฏิวัติ (Museo de la Revolución) ภายในเล่าถึงความเหลื่อมล้ำต่ำสูงทางเศรษฐกิจสังคม สาเหตุของการปฏิวัติทั้งในรอบแรก เพื่อปลดแอกจาก Spain และรอบที่สองเพื่อปลดแอกคิวบาจาก Fulgencio Batista ผู้ที่เป็นหุ่นให้แก่ทุนและรัฐบาลอเมริกัน ไปจนกระทั่งถึงช่วงของการต่อสู่เพื่อปฏิวัติคิวบาเป็นผลสำเร็จ

ประวัติศาสตร์ที่เขียนโดยผู้ชนะ, สมบูรณ์แบบ ลงตัวไม่มีความย้อนแย้งหรือแง่ลบต่อฝ่ายปฏิวัติสำเร็จ... ผมเดินชมเรื่องเล่าของฝ่ายชนะจนมาถึงห้องๆ หนึ่ง เป็นห้องประชุมคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลปฏิวัติ ด้วยความอยากเป็นรัฐมนตรี รีบหยิบเก้าอี้ออกมาจากโต๊ะ จะวางก้นนั่ง, ยามร้องเสียงหลงว่า “โน้ววว โน้ๆๆๆ โน้ววว” ห้ามนั่ง! เกือบโดนทำโทษซะแล้วไหมละครับ ไปนั่งทับวัตถุประวัติศาสตร์

เมื่อออกจากพิพิธภัณฑ์ เราใช้เวลาช่วงบ่ายที่เหลือ เดินเที่ยวเล่นในส่วนของเมืองเก่า มีร้านคาเฟมากมายที่น่าสนใจไปเยือน หนึ่งในนั้นคือ La Bodeguita Del Medio เป็นร้านที่ทั้ง Ernest Hemingway (คนเขียน The old man and the sea), Nat King Cole (นักดนตรี), Gabriel Gacia Marquez (คนเขียนร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว) และคนดังอีกจำนวนมากแวะเวียนมาทาน แต่ได้แค่ชะโงกแล้วก็กลับออกมาเพราะร้านเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ห่ะ, ต่อให้ Hemingway มาวันนี้ก็ไม่เข้า

7

La Bodeguita Del Medio restaurant

Page 9: Cuba volume5

เราเดินเลยมาบริเวณจตุรัสย่อยๆ ที่อยู่ติดกัน เรียกว่า Plaza de la Catedral เพื่อนั่งจิบกาแฟที่ร้าน El Patio แทน ร้านนี้ดำเนินการบนอาคารที่มีอายุย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 18 ลมโกรกดี มีดนตรีไพเราะ หากหันหน้าเข้าร้านด้านขวามือจะเป็นวิหารชื่อ Catedral de San Cristo-bal อันเก่าแก่ เราค่อยๆ มองพระอาทิตย์โรยตัวลงมาจากฟ้าในบรรยากาศเช่นนี้ จากกาแฟ Espresso เราเปลี่ยนมาดื่มคอกเทล Pina Colada แทน... เมื่อฟ้ามืดเราเดินทางต่อไปเพื่อชมการยิงปืนใหญ่ริมแม่น้ำ

หลังการยิงปืนใหญ่แสบหูเพียงครั้งหนึ่ง ทุกคนก็แยกย้ายไปตามทางของตนเอง, อาจฟังดูตลก แต่หลายครั้งในชีวิตจริง เราก็เข้าร่วมในพื้นที่สาธารณะเพียงเพื่อเป็นประจักษ์พยานของการยิงปืนใหญ่ ยิงให้ดังจนแสบแก้วหูแล้วแยกทาง ไม่มีความรับผิดชอบว่าลูกจะไปตกที่ใด ไม่ต้องสนว่าทำไมต้องยิง ห่ะ, แล้วนี่ทำไมผมต้องมาดูมันยิงปืนใหญ่วะ ตลกดี ผมก็ตอบไม่ได้

8

Micro Brewery in Havana

Page 10: Cuba volume5

ผมและเพื่อนๆ เราเดินทางไปโรงเบียร์ที่หมักเบียร์เองในตัวเมือง ขณะนี้สี่ทุ่มแล้วอากาศเริมเย็นลงมาก ผมสั่งเบียร์ดำดื่มคู่กับซิการ์ Cohiba ที่ซื้อมาช่วงบ่าย, ขายในไทยแท่งละ 2,000 บาท แพงระยับ, มีเงินไม่พอจะสูบจนเป็นมะเร็ง

ราวห้าทุ่ม เราแบกร่างกายกลับบ้าน, ใช่ครับ วันนี้เราไม่ได้นอนโรงแรม Nacional de Cuba แล้วแต่มานอนห้องแถวของชาวบ้านธรรมดาที่เปิดเป็น Hostel แทน... หลังเล็กๆ สีฟ้าน่ารัก เมื่อถึงห้องก็ล้าเตต็มที หลับไปทั้งๆ ที่ไม่ได้อาบน้ำ... “เช กาวารา ไม่อาบติดต่อกันตั้ง 6 เดือนในสงครามที่โบลิเวีย ยังเป็นฮีโร่ได้ ตูทำไมทำบ้างไม่ได้” ทิ้งท้ายเพียงเท่านี้สติผมก็หลับวูบไป

“ไอ้ คนไม่เจียมกะลาหัว, เฮอะ อยากจะเป็นฮีโร่” เสียงเย้อหยันดังแว่วมาในความมืด ส่วนผมกรนเบาๆ ตอบรับ ไขหูไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น

9

(old) Cuban Cabinet Room