Download - Scholar Award
![Page 1: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/1.jpg)
มูลนิธิศาสตราจารย์หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ในพระราชูปถัมภ์
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
จัดพิมพ์เป็นที่ระลึกในการพระราชทานรางวัล ศาสตรเมธี
ปีพุทธศักราช ๒๕๕๕
๑๘ มีนาคม ๒๕๕๖
![Page 2: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/2.jpg)
![Page 3: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/3.jpg)
สารบัญ หน้า
คำนำ
พระราโชวาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี 6
ประวัติความเป็นมาของรางวัลศาสตรเมธี(สาด-ตะ-ระ-เม-ที) 9
ประกาศมูลนิธิศาสตราจารย์หม่อมหลวงปิ่นมาลากุล 10
รางวัลศาสตรเมธีประจำปีพุทธศักราช2555
-พระพรหมคุณาภรณ์(ประยุทธ์ปยุตโต) 11
-พระพรหมจริยาจารย์ 12
-พระราชญาณกวี 16
-พระราชธรรมนิเทศ(พระพยอมกัลยาโณ) 19
-พระราชวิจิตรปฏิภาณ(เจ้าคุณพิพิธ) 21
-พระครูพิพิธประชานาถ 22
- รองศาสตราจารย์โกวิทย์ขันธศิริ 25
- ภราดาดร.บัญชาแสงหิรัญ 29
- นางมุกดา(จิราธิวัฒน์)เอื้อวัฒนะสกุล 31
- นายกว้างรอบคอบ 34
![Page 4: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/4.jpg)
![Page 5: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/5.jpg)
คำนำ
เนื่องในปี พ.ศ. 2555 เป็นปีฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี และเป็นปีมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ มีพระชนมายุครบ 80 พรรษา เป็นปีครบชาตกาล 109 ปีของศาสตราจารย์หม่อมหลวงปิ่น
มาลากุล มูลนิธิศาสตราจารย์ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี ได้ดำเนินการสรรหานักวิชาการผู้ได้ทำคุณประโยชน์แก่สังคมที่สมควรได้รับการยกย่องเป็น
นักปราชญ์ เพื่อรับพระราชทานรางวัลศาสตรเมธี ปี 2555 ตามระเบียบมูลนิธิศาสตราจารย์หม่อมหลวงปิ่น
มาลากุลในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีว่าด้วยรางวัลศาสตรเมธี
คณะกรรมการบริหารมูลนิธิเห็นสมควรยกย่องบุคคล10ท่านเป็นผู้รับรางวัลศาสตรเมธีปี2555มูลนิธิ
มีความภูมิใจและขอแสดงความยินดีแก่ศาสตรเมธีทั้ง10ท่านเป็นอย่างยิ่ง
มูลนิธิ ได้จัดพิมพ์หนังสือที่ระลึกรางวัลศาสตรเมธี ปี 2555 เพื่อประกาศเกียรติคุณศาสตรเมธีทั้ง
10 ท่านและเพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ได้ปฏิบัติ
พระราชกรณียกิจอันเป็นคุณอนันต์แก่ประเทศชาติตลอดมาขอให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
(รองศาสตราจารย์ชมภูมิภาค)
ประธานมูลนิธิศาสตราจารย์หม่อมหลวงปิ่นมาลากุล
ในพระราชูปถัมถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี
![Page 6: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/6.jpg)
![Page 7: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/7.jpg)
พระราโชวาท
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
แก่บัณฑติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ณ อาคารกีฬา ๑ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก
วันศุกร์ที่ ๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๒
![Page 8: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/8.jpg)
![Page 9: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/9.jpg)
9
ประวัติความเป็นมาของ
รางวัลศาสตรเมธี (สาด-ตะ-ระ-เม-ที)
เริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2544 เนื่องในพระราชวโรกาสครบรอบ 120 ปี ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้า
เจ้าอยู่หัว สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 ซึ่งพระองค์ทรงเป็นปราชญ์แห่งสยาม ซึ่งเป็นวาระ
เดียวกันที่ศาสตราจารย์หม่อมหลวงปิ่นมาลากุลได้รับเกียรติประกาศยกย่องจากองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์
และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ [ ยูเนสโก ] (United Nations Educational Scientific and Cultural
Organization–UNESCO)ให้เป็นบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นระดับโลกสาขาการศึกษาวัฒนธรรมวรรณกรรมและการ
สื่อสาร และได้รับการประกาศให้เป็นครูโลก ซึ่งนับเป็นครูโลกคนแรกของประเทศไทย จากเหตุผลดังกล่าว
คณะกรรมการมูลนิธิฯ จึงมีมติเห็นควรตั้งรางวัลศาสตรเมธี เพื่อเป็นเกียรติกับศาสตราจารย์ หม่อมหลวงปิ่น
มาลากุล และเป็นการยกย่องบุคคลที่ทำความดีเพื่อสังคมสืบไป จึงมีการจัดตั้งกรรมการฯ เพื่อพิจารณาสรรหา
ผู้สมควรได้รับรางวัลปราชญ์ทางวิชาการหรือรางวัลศาสตรเมธี9สาขาได้แก่
1.สาขามนุษยศาสตร์
2.สาขาสังคมศาสตร์
3.สาขาศึกษาศาสตร์
4.สาขาศิลปกรรมศาสตร์
5.สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
6.สาขาคหกรรมศาสตร์
7.สาขากีฬาและนันทนาการ
8.สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ
9.สาขาธุรกิจ
เพื่อให้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี
เรียบเรียงโดย : ดร.พูลศรี เวศย์อุฬาร
![Page 10: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/10.jpg)
10
![Page 11: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/11.jpg)
รางวัลศาสตรเมธี
ประจำปีพุทธศักราช 2555
พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตโต) วัดญาณเวศกวัน อ.สามพราน จ.นครปฐม
“ผู้มีจิตใจเป็นอิสระรู้เข้าใจสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง ไม่ยึดมั่นถือมั่นด้วยตัณหาอุปทานเท่านั้น จึงจะรู้ว่าอะไร
เป็นความเสื่อมอะไรเป็นความเจริญที่แท้จริงมิใช่เพียงความเจริญที่อ้างสำหรับมาผูกรัดตัวเองและผู้อื่นให้เป็นทาสมากยิ่งขึ้น
หรือถ่วงให้จมต่ำลงไปอีกจึงจะสามารถใช้ประโยชน์จากความเจริญที่สร้างขึ้นพร้อมกับสามารถทำตนเป็นที่พึ่งแก่คนอื่นได้เป็น
อย่างดี”
นามเดิม ประยุทธ์อารยางกูรกำเนิด12ม.ค.2481
สถานที่เกิด อ.ศรีประจันต์จ.สุพรรณบุรี
อุปสมบทณวัดพระศรีรัตนศาสดารามกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่24ก.ค.2504ในฐานะนาคหลวง
สมณศักดิ์ พระพรหมคุณาภรณ์
ท่านจบการศึกษาทางโลกในระดับมัธยมศึกษา โดยได้รับทุนเรียนดีของกระทรวงศึกษาธิการ บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อ
พ.ศ. 2494 สอบได้นักธรรมชั้น ตรี โท เอก และเปรียญธรรม 3 ถึง 9 ประโยค ขณะยังเป็นสามเณร จึงได้รับพระราชทาน
พระบรมราชานุเคราะห์ ให้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในฐานะนาคหลวงณอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามซึ่งน้อยคนนักที่จะได้
รับโอกาสเช่นนี้ เมื่อจบการศึกษาขั้นปริญญาพุทธศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 1) จากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และ
สอบได้วิชาชุดครูพ.ม.
ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองเลขาธิการมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งท่านได้สร้างความเจริญ ให้แก่มหาจุฬาลงกรณ-
ราชวิทยาลัย ทั้งด้านบริหาร และวิชาการเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ การพัฒนาหลักสูตรที่เน้นบทบาท และภาวะสังคมที่เพิ่มขึ้น
ของสงฆ์ รวมทั้งสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาชุมชนไว้ในหลักสูตร ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส วัดพระพิเรนทร์
ในปีพ.ศ.2515ถึงพ.ศ.2519จากนั้นจึงได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวันอ.สามพรานจ.นครปฐม
ท่านได้อุทิศตนให้กับการเผยแพร่พระศาสนาทั้งด้านการบรรยายทางวิชาการการแสดงพระธรรมเทศนาตลอดจนงาน
ด้านนิพนธ์ เอกสารวิชาการ และตำราต่าง ๆ จำนวนมาก ทั้งภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ หนังสือ
“พุทธธรรม”ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น“มรดกธรรมอันล้ำค่าแห่งยุค”ที่ควรค่าแก่การศึกษาอย่างยิ่ง
นอกจากงานด้านนิพนธ์แล้วท่านยังได้รับการอาราธนาให้เป็นผู้แสดงปาฐกถาในการประชุมนานาชาติขององค์กรระดับ
โลกต่างๆหลายครั้งอีกทั้งยังได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติต่างๆมากมายอาทิเช่นรางวัล“สังข์เงิน”สาขาเผยแพร่พระพุทธศาสนา
ปีพ.ศ.2533 รางวัลการศึกษาเพื่อสันติภาพปีพ.ศ.2537 จากยูเนสโก นับเป็นคนไทยคนแรก ที่ได้รับเกียรติให้รับรางวัลนี้ ซึ่งนับ
เป็นการสร้างเกียรติประวัติและชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยอย่างมาก
ท่านดำรงชีวิตแบบ เรียบง่าย มีวัตรปฏิบัติที่อ่อนน้อมถ่อมตน ให้ความสำคัญ และความสนใจแก่ผู้ที่เข้าพบโดยไม่เลือก
ชาติ ศาสนา ผิวพรรณ และเพศ เป็นพระสงฆ์ที่ทำคุณประโยชน์ต่อวงการพระพุทธศาสนา และสังคมของมวลมนุษย์อย่างหาที่
เปรียบได้ยาก
11
![Page 12: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/12.jpg)
l ชาติกำเนิด
พระพรหมจริยาจารย์ ฉายา ปัญฺญาวุโธ อายุ ๘๔ พรรษา ๖๕ วิทยฐานะนักธรรมเอกเปรียญธรรม ๗ ประโยค
วัดกะพังสุรินทร์ตำบลทับเที่ยงอำเภอเมืองจังหวัดตรังสถานะเดิมชื่อสงัดนามสกุลลิ่มไทยเกิดวันพฤหัสบดี ขึ้น๒ค่ำ
เดือน๑๒ปีมะโรงตรงกับวันที่๒๗เดือนพฤศจิกายนพ.ศ.๒๔๗๑บิดาชื่อนายเปลี่ยนลิ่มไทยมารดาชื่อนางทองอ่อน
ลิ่มไทยเกิดณบ้านเลขที่๑๕๕หมู่ที่๒ตำบลนาโยงเหนืออำเภอนาโยงจังหวัดตรัง
l สู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ พระพรหมจริยาจารย์ได้เข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์โดยการบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันเสาร์ขึ้น๑๓ค่ำเดือน๔ปีมะเมีย
ตรงกับวันที่๑๔เดือนมีนาคมพ.ศ.๒๔๘๕ณวัดมงคลสถานตำบลละมออำเภอนาโยงจังหวัดตรังซึ่งขณะนั้นอายุได้๑๔ปี
โดยมีพระครูวิบูลศีลวัตรวัดนิคมประทีปตำบลโคกหล่ออำเภอเมืองตรังเป็นพระอุปัชฌาย์เมื่ออายุ๒๐ปีพระเดชพระคุณ
ได้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันพุธขึ้น๙ค่ำ เดือน๘ปีชวดตรงกับวันที่ ๑๔ เดือนกรกฎาคมพ.ศ.๒๔๙๑ณวัดจอมไตรตำบล
นาโยงเหนืออำเภอนาโยงจังหวัดตรังโดยมีพระครูสังวรโกวิทวัดจอมไตรตำบลนาโยงเหนืออำเภอนาโยงจังหวัดตรังเป็น
พระอุปัชฌาย์พระครูพิบูลธรรมสาร วัดควนวิเศษ ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง เป็นพระกรรมวาจาจารย์
และมีพระผุดมหาวีโรวัดจอมไตรตำบลนาโยงเหนืออำเภอนาโยงจังหวัดตรังเป็นพระอนุสาวนาจารย์
l วุฒิการศึกษาและปริญญา
ตั้งแต่วัยเด็ก พระเดชพระคุณ พระพรหมจริยาจารย์ ได้สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเพาะปัญญา
อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๓ และสอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักศาสนศึกษาวัดควนวิเศษ สำนักเรียนคณะ
จังหวัดตรัง เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๘ และสอบได้เปรียญธรรม ๗ ประโยค จากสำนักศาสนศึกษาวัดคูหาสวรรค์ สำนักเรียนคณะ
จังหวัดพัทลุงเมื่อปีพ.ศ.๒๕๐๔อีกทั้งยังสอบได้วิชาชุดครูพิเศษมูลและยังมีความชำนาญในการสอบบาลีและมีความชำนาญ
ในด้านการทำบัญชีอีกด้วย และจากการที่พระเดชพระคุณมีความชำนาญในกิจการต่างๆ เหล่านี้ จึงส่งผลให้สถาบันการศึกษา
ต่างๆได้ถวายปริญญาบัตรให้แก่พระเดชพระคุณหลายสถาบันด้วยกันดังนี้เมื่อปีพ.ศ.๒๕๔๐มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ตถวาย
ปริญญาครุศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถวายปริญญาพุทธศาสตร
ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ถวายปริญญาศิลปศาสตร
ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์และปีพ.ศ.๒๕๕๓มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ถวายปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขา
วิชาปรัชญาเป็นต้น
l การบริหารการปกครองคณะสงฆ์
จากการที่พระเดชพระคุณพระพรหมจริยาจารย์ มีลักษณะของความเป็นผู้นำ และเป็นนักปกครองที่ดี จึงได้รับความไว้
วางใจจากคณะสงฆ์ให้ดำรงตำแหน่งทางการบริหารคณะสงฆ์ให้ดำรงตำแหน่งทางการบริหารการปกครองคณะสงฆ์โดยลำดับคือ
พ.ศ.๒๕๐๕ เป็นเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์
พ.ศ.๒๕๑๓ เป็นเจ้าคณะตำบลบ้านโพธิ์อำเภอเมืองตรังจังหวัดตรัง
รางวัลศาสตรเมธี
ประจำปีพุทธศักราช 2555
พระพรหมจริยาจารย์ (สงัด ปัญญาวุธะมหาเถระ)
เจ้าคณะใหญ่หนใต้ และเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์
พระอารามหลวง จังหวัดตรัง
12
![Page 13: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/13.jpg)
พ.ศ.๒๕๑๖ เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.๒๕๑๗ เป็นประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดตรัง
พ.ศ.๒๕๒๒ เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดตรัง
พ.ศ.๒๕๒๗ เป็นเจ้าคณะจังหวัดตรัง
พ.ศ.๒๕๔๐ เป็นรองเจ้าคณะภาค๑๘
พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นเจ้าคณะภาค๑๘
พ.ศ.๒๕๔๙ เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์พระอารามหลวง
พ.ศ.๒๕๕๐ เป็นเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์พระอารามหลวง
พ.ศ.๒๕๕๐ เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะใหญ่หนใต้
พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นเจ้าคณะใหญ่หนใต้
อีกทั้งพระเดชพระคุณยังได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องที่มหาเถรสมาคมมอบหมาย (มติ ม.ส.
ที่๒๘๕/๒๕๔๘ลงวันที่๒๐มิถุนายนพ.ศ.๒๕๔๘)ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการดำเนินงานตามแผนพัฒนากิจการ
พระพุทธศาสนาในเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้(คำสั่งพ.ศ.ที่๑๖๖/๒๕๔๘ลงวันที่๙เมษายนพ.ศ.๒๕๔๘)เป็นคณะที่ปรึกษา
ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช(มติม.ส.ที่๒๕๙/๕๔๗)ลงวันที่๒๐กรกฎาคมพ.ศ.๒๕๔๗เป็นประธานคณะกรรมการ
สงฆ์ควบคุมและส่งเสริมกิจกรรมพระพุทธศาสนา ระหว่าง ไทย-มาลาเซีย (ก.ส.ทม.) และเป็นอนุกรรมการป้องกันและ
ปราบปรามยาเสพติดจังหวัดตรัง(ปป.ส.จ.)
l การส่งเสริมการศึกษาของคณะสงฆ์
ในส่วนของงานด้านการศึกษา ถือได้ว่าพระเดชพระคุณ พระพรหมจริยาจารย์ เป็นผู้ที่อุทิศตนเพื่อการศึกษาของ
คณะสงฆ์อย่างแท้จริงซึ่งพระเดชพระคุณได้เริ่มเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีสำนักศาสนศึกษาวัดคูหาสวรรค์ตำบล
คูหาสวรรค์ อำเภอเมืองจังหวัดพัทลุงตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๔๙๗และเมื่อย้ายมาจำพรรษาที่วัดกะพังสุรินทร์ เมื่อปีพ.ศ.๒๔๙๙
ก็ได้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม สำนักศาสนศึกษาวัดกะพังสุรินทร์ ตำบลทับเที่ยงอำเภอเมือง จังหวัดตรังพ.ศ.
๒๕๐๒เป็นครูสอนพิเศษสอนภาษาบาลีแก่นักเรียนเตรียมอักษรศาสตร์โรงเรียนวิเชียรมาตุตำบลทับเที่ยงอำเภอเมืองจังหวัด
ตรัง และเมื่อดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๕ก็ได้เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษาวัดกะพังสุรินทร์ ตำบลทับเที่ยง อำเภอ
เมือง จังหวัดตรัง ไปพร้อมกัน และยังได้รับการแต่งตั้ง เป็นกรรมการฝ่ายการศึกษาของมหาเถรสมาคม คำสั่งที่ ๓/๒๕๕๐ ในปี
พ.ศ.๒๕๔๐อีกด้วย
l การสงเคราะห์ทุนการศึกษา ในงานด้านการศึกษาสงเคราะห์พระเดชพระคุณพระพรหมจริยาจารย์ได้ตั้งทุนการศึกษาไว้ ๒ระดับคือเมื่อปีพ.ศ.
๒๕๓๑ได้ตั้งทุนสงเคราะห์นักเรียนชั้นประถมศึกษาวัดกะพังสุรินทร์ตำบลทับเที่ยงอำเภอเมืองตรังจังหวัดตรังโดยนำเงินฝาก
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาตรัง ประเภท ฝากประจำ ชื่อบัญชี ทุนสงเคราะห์นักเรียนชั้นประถมศึกษา เลขที่บัญชี
๐๓๐-๒-๐๔๐๐๐-๔ และในปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ได้ตั้งทุนสงเคราะห์นักเรียนชั้นอุดมศึกษาวัดกะพังสุรินทร์ ตำบลทับเที่ยง อำเภอ
เมืองตรังจังหวัดตรังโดยนำเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัดสาขาตรังประเภทฝากประจำชื่อบัญชีทุนสงเคราะห์นักเรียน
ชั้นอุดมศึกษา เลขที่บัญชี ๐๓๐-๒-๐๕๒๐๒-๗ โดยในระยะเวลาตั้งแต่ตั้งทุนสงเคราะห์นักเรียนทั้ง ๒ บัญชีขึ้นมา
พระเดชพระคุณก็ได้บริจาคทรัพย์ส่วนตัวเพื่อเพิ่มทุนสงเคราะห์ให้มีจำนวนมากขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์ในการสงเคราะห์นักเรียนใน
ด้านการศึกษาอย่างเต็มที่โดยได้แจกทุนการศึกษาแก่นักเรียนทั้งระดับชั้นประถมศึกษาและชั้นมัธยมศึกษาเป็นประจำทุกปี
l การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในส่วนของงานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พระเดชพระคุณพระพรหมจริยาจรรย์ ได้ดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องงาน
การเผยแพร่พระพุทธศาสนาดังนี้
พ.ศ.๒๕๐๔ เป็นพระคณาธิการองค์การเผยแพร่จังหวัดตรัง
พ.ศ.๒๕๐๗ เป็นพระธรรมทูตจังหวัดตรัง
พ.ศ.๒๕๓๕ เป็นผู้ตรวจการงานพระธรรมทูตภาคใต้มีหน้าที่ออกตรวจการงาน
พระธรรมทูตในเขตสายที่๘และสายที่๙
13
![Page 14: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/14.jpg)
ในวัดกะพังสุรินทร์เองก็มีการแสดงพระธรรมเทศนาทำวัตรสวดมนต์ทุกวันธรรมสวนะตลอดทั้งปีในวันสำคัญทาง
พระพุทธศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา เป็นต้น ก็มีการประกอบพีธีทางศาสนา มีผู้มาร่วมประชุม
ทำพิธีพระภิกษุสามเณรประมาณ๕๐รูปประชาชนประมาณ๕๐๐คนเป็นประจำทุกปีมีการอบรมพระภิกษุสามเณรใน
ฐานะเจ้าอาวาส มีการอบรมพระภิกษุสามเณรทุกกึ่งเดือน โดยเฉพาะพระนวกะในพรรษา มีการอบรมตลอดพรรษา และ
หลังจากทำอุโบสถสังฆกรรมแล้ว ได้ให้สามเณรต่อศีลและรับฟังโอวาทมีการอบรมศีลธรรมให้แก่ประชาชน ทุกวันธรรมสวนะ
มีการอบรมศีลธรรมให้แก่นักเรียนโรงเรียนเทศบาล๒(วัดกะพังสุรินทร์)ในวันที่ทางโรงเรียนจัดกิจกรรมพิเศษเช่นวันแม่แห่งชาติ
๑๒ สิงหาคม ของทุกปี อีกทั้งได้ให้ความสะดวกแก่นักเรียนโรงเรียนต่างๆ จัดพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะมีกิจกรรมเกี่ยวกับ
การเผยแผ่ คือ ให้ความร่วมมือกับคณะสงฆ์ในการเผยแพร่ศีลธรรมและจริยธรรมในที่ต่างๆ คือ โรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดตรัง
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดตรังสถานีวิทยุว.ป.ถ.๑๗จังหวัดตรังสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง๑๑
จังหวัดตรัง ได้ให้ความร่วมมือกับทางราชการในการเผยแพร่ศีลธรรมและจริยธรรม เช่น ให้ทางราชการจัดประกวดสวดมนต์หมู่
ทำนองสรภญัญะเนือ่งในเทศกาลวนัวสิาขบชูาณวดักะพงัสรุนิทร์อำเภอเมอืงจงัหวดัตรงัเปน็ประจำทกุปีไดใ้หค้วามสะดวก
แก่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง ออกหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ รักษาพยาบาลแก่ผู้สูงอายุและประชาชนโดยทั่วไปณ วัดกะพังสุรินทร์
อำเภอเมืองจังหวัดตรังเป็นประจำทุกเดือน
l การก่อสร้างและบูรณะปฏิสังขรณ์
งานสาธารณูปการงานก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆภายในวัดพระเดชพระคุณพระพรหมจริยาจารย์ ได้ดำเนินการก่อสร้าง
และบูรณะปฏิสังขรณ์มาเป็นลำดับ ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส เป็นต้นมา โดยเมื่อเป็นเจ้าอาวาสได้ดำเนินการให้สำนักงาน
ที่ดินออกโฉนดที่ดินให้กับวัดกะพังสุรินทร์ ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้ดำเนินการก่อสร้าง
หอสมุดจำนวน๑หลังสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กก่ออิฐถือปูนเป็นอาคาร๔ชั้นกว้าง๑๒.๔๐เมตรยาว๑๒.๕๐เมตร
และดำเนินการก่อสร้างโรงครัว จำนวน ๑ หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่ออิฐ ถือปูน หลังคามุงกระเบื้องลอนคู่ เป็น
อาคารชั้นเดียวกว้าง๑๐.๙๐ เมตรยาว๒๓.๕๐ เมตรสร้างควบคู่ไปกับหอสมุด เป็นจำนวนเงิน๕,๐๐๐,๐๐๐.๐๐บาทพ.ศ.
๒๕๔๐ได้ดำเนินการก่อสร้างถนนทางเข้าวัดสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กกว้าง๕เมตรยาว๑๒๑.๐๕เมตรเป็นจำนวนเงิน
๑๒๗,๕๐๐.๐๐บาทพ.ศ.๒๕๔๑ได้ดำเนินการก่อสร้างพื้นซีเมนต์บริเวณลานวัดเนื้อที่๘๑๑.๗๗ตารางเมตรเป็นจำนวน
เงิน ๑๑๔,๐๓๔.๓๐ บาท พ.ศ. ๒๕๔๒ ดำเนินการเทพื้นซีเมนต์บริเวณลานวัดต่อจากปีก่อน เนื้อที่ ๙๐๓.๗๕ ตารางเมตร
เป็นจำนวนเงิน ๑๒๓,๔๒๓.๐๐บาทพ.ศ. ๒๕๔๙ดำเนินการก่อสร้างศาลาการเปรียญ จำนวน๑หลัง สร้างด้วยคอนกรีต
เสริมเหล็กก่ออิฐถือปูน เป็นอาคาร๒ชั้นกว้าง๑๗ เมตรยาว๒๘เมตรหลังคาทรงไทยพื้นปูด้วยหินแกรนิตหน้าบรรณมี
สัญลักษณ์เป็นพัดยศชั้นธรรมเสามีลายไทยมีห้องน้ำ๒ห้องรวมค่าก่อสร้างเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน๑๓,๐๐๐,๐๐๐บาทในส่วน
ของการบูรณะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัด ได้ดำเนินการต่างๆ คือ พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้ดำเนินการปฏิสังขรณ์โรงฉัน
จำนวน๑หลงัลกัษณะกอ่อฐิถอืปนูปรบัพืน้และทาสใีหม่กวา้ง๑๐.๙๐เมตรยาว๒๓.๕๐เมตรเปน็จำนวนเงนิ๑๓๘,๓๙๗.๐๐
บาทพ.ศ.๒๕๓๙ดำเนินการปูกระเบื้องพื้นโรงฉันหลังเดิมเป็นจำนวน๕๔,๓๒๔.๐๐บาทพ.ศ.๒๕๔๒ดำเนินการปฏิสังขรณ์
ศาลาบำเพ็ญกุศลศพจำนวน๑หลังซ่อมแซมในส่วนที่ชำรุดเช่นเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาเปลี่ยนฝ้าเพดานก่ออิฐถือปูน
และทาสีใหม่ทั้งหลัง กว้าง๙.๖๐ เมตร ยาว๑๖.๖๐ เป็นจำนวนเงิน๑,๐๐๐,๐๐๐.๐๐บาทและได้มีการพัฒนาวัดต่างๆ เช่น
ปรับพื้นที่บริเวณลานวัดซึ่งเดิมเป็นลานทรายเปลี่ยนเป็นลาดพื้นซีเมนต์ทั่วบริเวณจัดให้พระภิกษุสามเณรทำความสะอาดบริเวณ
วัดในวันโกนทุกครั้ง จัดให้พระภิกษุสามเณรช่วยรักษาความสะอาดที่อยู่อาศัยตลอดถึงศาสนสมบัติของวัด และเก็บสิ่งของ
เครื่องใช้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นต้น
l การสาธารณสงเคราะห์การกุศล
งานสาธารณสงเคราะห์หรือกิจการงานกุศลต่างๆพระเดชพระคุณได้ประกอบกิจกรรมต่างๆ มาโดยลำดับ เช่น พ.ศ.
๒๕๔๒ เป็นประธานจัดหาทุนดำเนินการก่อสร้างรูปเหมือน พระอุดมปิฏก (สอน พุทสโร ป.ธ.๙) ขนาดเท่าองค์จริง และ
มณฑปหลังคาจตุรมุข เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือน ขนาดกว้าง ๑๕ เมตร ยาว ๑๕ เมตรณ วัดสุนทราวาส อำเภอควนขนุน
จังหวัดพัทลุง เพื่อวัตถุประสงค์ ๔ ประการ คือประการแรก เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ๖รอบประการที่สองเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการที่ท่านเป็นผู้มีความสามารถสอบบาลีได้เปรียญ๙
ประโยคเป็นรูปแรกของจังหวัดพัทลุงและของภาคใต้ในสมัยรัชกาลที่๒แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ประการที่สามเพื่อยกย่อง
14
![Page 15: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/15.jpg)
เชิดชูแห่งความเป็นปราชญ์และอัจฉริยะที่ท่านเคยแสดงออกต่อหน้าพระที่นั่งพระเจ้าแผ่นดิน จนเลื่องลือมาจนถึงปัจจุบันและ
ประการสุดท้าย เพื่อเป็นที่กราบไหว้บูชาของชนรุ่นหลังอย่างภาคภูมิใจ โดยรวมค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง เป็นเงินทั้งสิ้น
๑,๕๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท พ.ศ. ๒๕๔๔ เป็นประธานมูลนิธิผู้มีพระคุณ ด้วยการนำเงินที่เหลือจากการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ
โรงพยาบาลสิเกา มาจัดตั้งเป็นมูลนิธิ โดยความเห็นชอบของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศ
ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้ความช่วยเหลือพระภิกษุสามเณรผู้อาพาธที่เข้ารับการรักษา
พยาบาลที่โรงพยาบาลสิเกาและส่งเสริมการศึกษาของพระภิกษุสามเณรในจังหวัดตรังเป็นต้น
นอกจากการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ในงานด้านพระศาสนาแล้ว พระเดชพระคุณ พระพรหมจริยาจารย์ ยังได้ปฏิบัติหน้าที่
ในด้านอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานทางด้านการศึกษา เช่น พ.ศ. ๒๕๑๓ ถึงปัจจุบัน เป็นกรรมการการศึกษา
โรงเรียนเทศบาล๒(วัดกะพังสุรินทร์)อำเภอเมืองตรังจังหวัดตรังพ.ศ.๒๕๑๘เป็นประธานกรรมการฝ่ายกำกับมูลนิธิวัดกะพัง
สุรินทร์ พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภา วิทยาเขตนครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วิทยาเขตนครศรีธรรมราชพ.ศ. ๒๕๓๘ เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการศาสนา จังหวัดตรัง พ.ศ. ๒๕๔๑ เป็นอนุกรรมการป้องกัน
และปราบปรามยาเสพติดจังหวัดตรัง พ.ศ. ๒๕๔๑ เป็นประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการโรงเรียนมัธยมวัดควนวิเศษ
มูลนิธิอำเภอเมืองตรังจังหวัดตรังเป็นต้น
l รับพระราชทานสมณศักดิ์
นับตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๕ เป็นต้นมาพระเดชพระคุณพระพรหมจริยาจารย์ ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งทางการปกครอง คือ
เจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ และดำรงตำแหน่งในทางปกครองคณะสงฆ์ ได้ปฏิบัติกิจการงานต่างๆ ในหน้าที่ ด้วยความมีเมตตา
ธรรมและยึดมั่นในพระธรรมวินัยตลอดมาจนได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ต่างๆเป็นลำดับดังนี้คือ
พ.ศ.๒๕๑๔ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระปิฎกคุณาภรณ์
พ.ศ.๒๕๒๗ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชปริยัตยาภรณ์
พ.ศ.๒๕๓๖ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพวิมลเมธี
พ.ศ.๒๕๔๒ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมรัตนากร
และใน พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ เจ้าคณะรอง ชั้น หิรัญบัฎ ที่พระพรหม-
จริยาจารย์ สุวิธานวรกิจจานุกิจนิวิฐศีลาจารวิมล โสภณทักษิณคณาทรตรีปิฎกวราลงกรณ์ มหาคณิสสรบวรสังฆาราม
คามวาสีพระราชาคณะเจ้าคณะรองสถิตณวัดกะพังสุรินทร์พระอารามหลวงตำบลทับเที่ยงอำเภอเมืองตรังจังหวัดตรัง
15
![Page 16: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/16.jpg)
รางวัลศาสตรเมธี
ประจำปีพุทธศักราช 2555
พระราชญาณกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก
๑.ชื่อ พระราชญาณกวีฉายาปิยวิชฺโชอายุ๕๐พรรษา๒๙ป.ธ.๙,ศน.บ.,M.A.
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม๙กาญจนาภิเษกแขวงบางกะปิเขตห้วยขวาง
กรุงเทพมหานคร
๒.สถานะเดิม ชื่อสุวิทย์นามสกุลปิยวิชชานันท์
เกิดวันที่๑๕พฤศจิกายนพ.ศ.๒๕๐๕ตรงกับวันพฤหัสบดีขึ้น๘ค่ำเดือน๑๒
ปีขาลณบ้านเลขที่๖บ้านเหล่าหลวงต.วังทองอ.บ้านดุงจ.อุดรธานี
บิดา นายสิงห์ชะมินทร์
มารดา นางสุวรรณีชะมินทร์
๓.บรรพชา วันที่๑๖ตุลาคม๒๕๑๖ณวัดอัมพวันต.คอนสายอ.หนองหานจ.อุดรธานี
พระอุปัชฌาย์พระครูประภัสสรศีลคุณวัดอัมพวันต.หนองหานจ.อุดรธานี
๔.อุปสมบท วันที่๑กรกฎาคมพ.ศ.๒๕๒๕เวลา๐๙.๔๔น.ณพัทธสีมาวัดบวรนิเวศวิหาร
เขตพระนครกรุงเทพมหานคร
พระอุปัชฌาย์สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
พระกรรมวาจาจารย์พระพรหมมุนี(จุนท์พรหมคุตโต)ขณะเป็นที่พระอมรโมลี
พระอนุสาวนาจารย์พระราชเมธากร(ปานธมมสาโร)ขณะเป็นที่พระศรีธรรมวงศาจารย์
๕.วิทยฐานะ
ก.การศึกษาแผนกธรรมสนามหลวง
พ.ศ.๒๕๑๙สอบได้นักธรรมชั้นเอกณสำนักเรียนวัดโพธิสมภรณ์จ.อุดรธานี
ข.การศึกษาแผนกบาลี
พ.ศ.๒๕๓๐สอบได้เปรียญธรรม๙ประโยคณสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
ค.การศึกษาขั้นอุดมศึกษา
พ.ศ.๒๕๓๐สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีศาสนศาสตร์บัณฑิต
จากมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัยวัดบวรนิเวศวิหาร
ง.การศึกษาพิเศษ
พ.ศ.๒๕๔๐สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต
จากSchoolofOrientalandAfricanStudies(SOAS)มหาวิทยาลัยลอนดอน
ประเทศอังกฤษโดยทุนพระราชทานในสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
จ.มีความชำนาญการศึกษาและเผยแผ่เช่นสอน,ปาฐกถา,บรรยาย,อภิปราย.
๖.งานปกครอง
๑) พ.ศ.๒๕๓๒–๒๕๓๕เป็นผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
๒)พ.ศ.๒๕๔๑เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม๙กาญจนาภิเษก
16
![Page 17: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/17.jpg)
๓)มีการทำอุโบสถสังฆกรรมตลอดปีมีพระภิกษุสวดพระปาฏิโมกข์ได้๔รูป
๔)มีการทำวัตรสวดมนต์เช้า-เย็นตลอดปี
๕)มีระเบียบกติกาการปกครองวัดตามพระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์โดยสอดคล้องกับพระธรรมวินัย
๖)มีพระภิกษุ๑๙รูปสามเณร๑รูป
๗.งานการศึกษา
๑)พ.ศ.๒๕๒๓–๒๕๓๐ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขานุการผู้อำนวยการสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหารรับผิดชอบการศึกษา
ทั้งนักธรรม-บาลีนวกภูมิภายในสำนักเรียน
๒)พ.ศ.๒๕๒๗ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจบาลีสนามหลวง
๓)พ.ศ.รับผิดชอบการอบรมพิเศษตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๒๗เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน
๑.การอบรมนวกภิกษุนักเรียนนายร้อยจปร.ภาคฤดูร้อน
๒.การอบรมนวกภิกษุนักเรียนนายเรืออากาศ
๓.การอบรมนวกภิกษุนักเรียนนายร้อยตำรวจภาคฤดูร้อน
๔.การอบรมนวกภิกษุนักเรียนนายเรือภาคฤดูร้อน
๔)เป็นอาจารย์พิเศษบัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย
๕)เป็นอาจารย์บรรยายพิเศษวิทยาลัยการปกครองกระทรวงมหาดไทย
๖)เป็นอาจารย์บรรยายวิชา“บัณฑิตอุดมคติ”จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
๗)เป็นอาจารย์บรรยายระดับปริญญาโทมหาวิทยาลัยรามคำแหง
๘)เป็นอาจารย์บรรยายพิเศษระดับปริญญาเอกมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
๙)เป็นกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนนวมินทร์เตรียมน้อมฯ
๑๐)ตั้งแต่พ.ศ.๒๕๔๑เป็นผู้ริเริ่มและบรรยายทุกวันเรียนโครงการ“ปลูกรากแก้วของแผ่นดิน”
ณโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ(บดินทร์เดชา๓)สำหรับนักเรียนชั้นม.๑–๖
๑๑)พ.ศ. ๒๕๔๖ เป็นผู้ริเริ่มและรณรงค์โครงการ “ปลูกรากแก้วศาสนทายาทสืบอายุพระบวรพุทธศาสนา” เพื่อให้ทุน
การศึกษาแก่พระภิกษุสามเณรทั้งแผนกธรรม–บาลี–ปริยัติธรรมสายสามัญ
๑๒)ร่วมกับสภาวัฒนะธรรมเขตห้วยขวาง จัดอบรมครูสอนวิชาพระพุทธศาสนาและศีลธรรมในบริเวณใก้ลเคียง ทุก
๓เดือน
๑๓)ในปลายปีของแต่ละปี เดินทางไปเยี่ยมเยียนพระภิกษุสามเณร และเยาวชนในชนบทในทุกภูมิภาค และมอบทุน
การศึกษาแก่นักเรียน
งานพิเศษด้านการศึกษาสงเคราะห์
ในฐานะได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการการศึกษาสงเคราะห์ จากมหาเถระสมาคม ได้ริเริ่มจัดตั้งโครงการ “ปลูกรากแก้ว
ศาสนาทายาท”ขึ้นเพื่อมอบทุนการศึกษาแก่ภิกษุสามเณรให้ได้รับการศึกษาตลอดหลักสูตรการศึกษา๑๐ปีทั้งนักธรรม–บาลี
และพระปริยัติธรรมแผนกสามัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทรงพระกรุณารับกองทุนนี้ไว้ใน “มูลนิธิชัยพัฒนา”
(รายละเอียดมีเอกสารสรุปแนบมาถวายพร้อมนี้แล้ว)
๘.งานเผยแพร่
๑) มีประกอบพิธีมาฆบูชาทุกปี มีบวรเนกขัมมะ และมีประชาชนชาวพุทธร่วมพิธีประมาณ ๒,๐๐๐ คน มีการแสดง
ปาฐกถาธรรมก่อนเวียน
๒)มีประกอบพิธีวิสาขบูชาทุกปีมีบวชเนกขัมมะและประชาชนชาวพุทธร่วมพิธีประมาณ๓,๐๐๐คนมีแสดงปาฐกถา
ธรรมก่อนเวียน
๓)มีพิธีอัฐมีบูชาทุกปีมีบวชเนกขัมมะและมีประชาชนชาวพุทธร่วมพิธีประมาณ๓๐๐คน
๔)มีประกอบพิธีอาสาฬหบูชาทุกปีมีบวชเนกขัมมะและมีประชาชนชาวพุทธร่วมพิธีประมาณ๑,๕๐๐คน
๕)วันสำคัญทางพุทธศาสนามีการแสดงตนเป็นพุทธมามกะ,ประกวดอ่านพระไตรปิฎก,การหล่อเทียนจำนำพรรษา
๖)วันสำคัญของชาติคือทุกวันเฉลิมพระชนมพรรษามีกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติมีกิจกรรมเยาวชนและชุมชนบ้านวัด
17
![Page 18: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/18.jpg)
โรงเรียนประกวดวาดภาพระบายสีเป็นต้น
๗)วนัสำคญัทางวฒันธรรมประเพณีเชน่วนัสงกรานต,์วนัลอยกระทง,วนัขึน้ปใีหม่มพีธิสีง่เสรมิและอนรุกัษว์ฒันธรรม
แบบโบราณ
๘)มีการส่งพระภิกษุไปสอนหนังสือแก่เยาวชนในโรงเรียนต่างๆเป็นประจำทุกวัน
๙)ร่วมกับสภาวัฒนธรรมโรงเรียนและชุมชนมีโครงการข้าวก้นบาตร,และเข้าวัดฟังธรรมวันพระ
๑๐)มีการแสดงธรรมทุกวันธรรมสวนะ
๑๑)มีการศึกษาสงเคราะห์ ให้ทุกนการศึกษาประจำปี แก่เยาวชนในชุมชนและบำรุงองค์กรเอกชนใกล้เคียง เช่น
ศูนย์แพทย์พัฒนา
๑๒)ร่วมกับคณะทันตแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ออกหน่วยรักษาฟันแก่ประชาชน ทุกปีๆ ละ ๑ ครั้ง เนื่องใน
วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๓)ร่วมกับคณะสงฆ์จัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลืออุทกภัยเป็นประจำทุกปี
๑๔)จัดรายการวิทยุ๓รายการคือ๑.ธรรมะร่วมสมัย๒.อาหารกาย–อาหารใจ๓.มองโลกมองธรรมและช่อง๙
รายการอยู่เย็นเป็นสุข
๑๕)แต่งหนังสือธรรมะสำหรับเยาวชนเพื่อรณรงค์งานปลูกรากแก้วของแผ่นดินและในปีพ.ศ.๒๕๔๖ได้รับพระราชทาน
รางวัลเสมาธรรมจักรเนื่องในสัปดาห์ ส่งเสริมพระพุทธศาสนา วันวิสาขบูชา สาขาแต่งหนังสือ ทางพระพุทธศาสนา
สำหรับเยาวชน
๑๖)จัดทำวีซีดีซีดีเทปและเอกสารเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ด้านการต่างประเทศ
๑๗)จัดสร้างพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก ๖๐ นิ้ว ปางแสดงปฐมเทศนา มอบให้แก่ชาวพุทธอังกฤษประดิษฐานที่ศูนย์
พระพุทธศาสนา เมืองเวลส์ เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช เนื่องในวโรกาสครบ๑๐๐ปี
ที่ทรงพิมพ์พระไตรปิฎกฉบับภาษาอังกฤษ
๑๘)นำกุลบุตรชาวอังกฤษเข้ามารับการศึกษาและอบรมรวมทั้งอุปสมบทเป็นพระภิกษุสามเณรในพระพุทธศาสนา
๑๙)เป็นองค์ปาฐกแสดงธรรมแก่ชาวต่างประเทศ
๒๐)ร่วมกับคณะสงฆ์ และศรัทธาสาธุชน เดินทางไปเยี่ยม และอุปถัมภ์การบรรพชาอุปสมบทแก่พระภิกษุ สามเณรใน
ประเทศลาวและเยี่ยมเยียนประเทศเพื่อนบ้านคือเขมร
๒๑)แต่งหนังสือทางพุทธศาสนาภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างประเทศ
๙.งานสาธารณูปการ
๑)พ.ศ. ๒๕๓๒ – ๒๕๓๕ เป็นกรรมการการจัดหาทุนสร้างตึก ศัลยกรรมโรงพยาบาลศูนย์จังหวัดอุดรธานี เป็นเงิน
๑๕๐,๐๐๐,๐๐๐บาท
๒)พ.ศ. ๒๕๓๒ สร้างอาคารโรงเรียนประจำหมู่บ้าน ราคา ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
๑๐.สมณศักดิ์
พ.ศ.๒๕๓๕ได้รับพระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่“พระศรีญาณโสภณ”
พ.ศ.๒๕๕๓ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่“พระราชญาณกวี”
18
![Page 19: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/19.jpg)
รางวัลศาสตรเมธี
ประจำปีพุทธศักราช 2555
พระราชธรรมนิเทศ
(พระพยอม กัลยาโณ)
เกิดวันที่24เมษายนพ.ศ.2492ปีฉลูบิดานายเปล่งจั่นเพชร-มารดานางสำเภาจั่นเพชรภูมิลำเนาอำเภอบางใหญ่จังหวัดนนทบุรีการศึกษา พ.ศ.2500 เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนสังวรพิมลไพบูลย์ พ.ศ.2513 อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดสังวรพิมลไพบูลย์ พ.ศ.2514 จบนักธรรมตรีที่วัดอัมพวันจังหวัดนนทบุรี พ.ศ.2515 จบนักธรรมโทที่วัดบางอ้อยช้างจังหวัดนนทบุรี พ.ศ2516 จบนักธรรมเอกที่วัดบางอ้อยช้างจังหวัดนนทบุรีชีวิตในวัยเด็ก พระพยอมเกิดในครอบครัวที่ยากจน การใช้ชีวิตจึงไม่เหมือนกับเด็กทั่วไป ในวันที่โรงเรียนหยุดหรือช่วงเย็นหลังจากเลิกเรียนเด็กชายพยอมจะออกหางานพิเศษรับจ้างดายหญ้าตามร่องสวน
บางครั้งรับจ้างขึ้นต้นหมากและเก็บมะพร้าวหล่นด้วยการมีไหวพริบฉลาดเฉลียวทำให้เด็กชายพยอมคิดวิธีขึ้นต้นหมากวิธีลัด คือ ขึ้นต้นหนึ่งเสร็จแล้ว จะโหนยอดหมากไปอีกต้นหนึ่ง โดยไม่ต้องลงและขึ้นทุกต้นทำให้ได้รับค่าแรงเพิ่มขึ้นกว่าปกติที่เด็กวัยเดียวกันทำได้ ในสมัยนั้นจะได้รับค่าจ้างต้นละ 3 - 5 บาท แต่เด็กชายพยอมก็มิได้เกี่ยงงานประการใดเพียงขอให้ได้รับค่าตอบแทนที่ยุติธรรม และให้สิ่งที่ได้มานั้นโดยชอบธรรมงานดายหญ้าบริเวณร่องสวน ที่เด็กชายพยอมรับจ้างนั้น จะได้รับค่าจ้างวันละ 20-30 บาท ความขยันขันแข็ง ความมีน้ำใจทำให้ชาวบ้านรักและสงสารและมอบงานพิเศษให้ทำอยู่เสมอ
วัยหนุ่ม พระพยอมไม่เคยใช้ชีวิตวัยหนุ่มเยี่ยงชายหนุ่มทั่วไป ท่านใช้จ่ายทรัพย์ที่หามาโดยสุจริต ด้วยความประหยัด มัธยัสถ์ เพื่อนๆ ของท่านจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าตามยุคสมัย แต่ท่านยังคงสวม เสื้อยืดกล้าม กางเกงแบบชาวสวนทั่วไปส่วนเรื่องเพศตรงข้าม ท่านเป็นที่สนใจแก่ผู้หญิงทั่วไป แต่ท่านก็ยังคงยึดมั่นในการประกอบอาชีพทำมาหากินโดยไม่ได้ให้ความสนใจแก่ผู้ใดเป็นพิเศษ พระดีศรีสังคม วันที่24 เมษายนพ.ศ.2492 เด็กชายคนหนึ่งที่ถือกำเนิดจากแม่สำเภาจั่นเพชรแม่ที่ยากจนแต่มีความรักลูกสุดประมาณ จากวันนั้น...จนถึง...วันนี้ เด็กยากจนนั้น คือ...พระนักเทศน์ผู้มีคุณภาพ
พระดีศรีสังคมพ่อพระของผู้ยากจนพระผู้ร่ำรวยงานแต่ยากจนเวลาพระราชธรรมนิเทศ(พระพยอมกัลยาโณ)มูลนิธิสวนแก้ว ในปี 2529 พระพยอม กัลยาโณ จัดตั้ง มูลนิธิสวนแก้วเพื่อช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ ให้แก่เพื่อนมนุษย์โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติศาสนาและสัญชาติกิจกรรมของมูลนิธิสวนแก้วมี18โครงการประกาศเกียรติคุณและรางวัล พ.ศ.2528 o รางวัลสังข์เงินสาขาใช้ศิลปะในการเผยแพร่จากสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทยพ.ศ2531 o โล่โครงการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่จากกรุงเทพมหานครพ.ศ2535 o โล่เกียรติคุณบารมี“พระผู้มีคุณต่อแผ่นดินและสังคม”จากสมเด็จพระสังฆราชฯ o โล่โครงการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่จากมูลนิธิหมอชาวบ้านพ.ศ.2536 o โล่บุคคลดีเด่นแห่งวงการศึกษาของชาติสาขาการศึกษานอกระบบจากสมาคมศึกษานิเทศแห่งประเทศไทย
19
![Page 20: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/20.jpg)
o โล่ผลงานดีเด่นด้านวิชาภาษาไทยจากกรมสามัญศึกษากระทรวงศึกษาธิการพ.ศ.2537 o ปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาพุทธศาสน์จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย o ปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาพัฒนาสังคมจากสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์(นิด้า)พ.ศ.2538 o รางวัลเหรียญอนามัยโลกการรณรงค์เลิกบุหรี่จากองค์การอนามัยโลก o รางวัลมูลนิธิดีเด่นระดับภาคลำดับที่3จากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทย o รางวัลโล่ผู้สนับสนุนกรมประชาสงเคราะห์ดีเด่นปี2538จากนายบรรหารศิลปอาชานายกรัฐมนตรี o รางวัลชมเชยที่ 3 การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคม สำหรับเอเชียแปซิฟิก (เอสแคป)ประจำปีพ.ศ.2538พ.ศ.2539 o รางวัลมูลนิธิดีเด่นระดับภาคลำดับที่2จากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทย o โล่ประกาศเกียรติคุณ “ผู้ร่วมรณรงค์สร้างสรรค์สังคมปลอดบุหรี่” จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรม- ราชกุมารีพ.ศ.2540 o เกยีรตบิตัรยกยอ่งเชดิชเูกยีรตใินดา้น“อภปิรายถา่ยทอดเสยีงวชิาการทางพทุธศาสนา”จากสมเดจ็พระญาณสงัวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก o ประกาศนียบัตรทองคำเชิดชูเกียรติ“พระดีศรีสังคม”จากสมาคมสื่อมวลชนส่วนภูมิภาค(ประเทศไทย) o โล่ประกาศเกียรติคุณ“นักสุขศึกษาดีเด่นแห่งชาติสาขาสื่อมวลชน”จากกระทรวงสาธารณสุขพ.ศ.2541 o ได้รับการคัดเลือกเป็นอุทยานการศึกษาในวัดประจำปี2541จากกรมการศาสนากระทรวงศึกษาธิการ o รางวัลมูลนิธิดีเด่นระดับภาคที่1ลำดับที่1จากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทย o ปริญญาศึกษาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาศึกษาศาสตร์ เพื่อพัฒนาชุมชน จากสภามหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ o ปริญญานิเทศศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุลพ.ศ.2542 o “เสาเสมาธรรมจักร”ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา o รางวัลชมเชย ผู้ประพันธ์หนังสือเรื่อง “เรียนผูกเรียนแก้” จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ กระทรวง ศึกษาธิการพ.ศ.2543 o รางวัลมูลนิธิดีเด่นระดับภาคที่1ลำดับที่1จากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทย o โล่รางวัล“มหิดลวรานุสรณ์”จากพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุพ.ศ.2544 o โล่เกียรติคุณ “ผู้สนับสนุนงานกรมประชาสงเคราะห์ดีเด่น ประจำปี 2544” จากพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี o โล่เกียรติรางวัลอาสาสมัครดีเด่นพิเศษปี2544จากผู้ว่าราชราชการจังหวัดนนทบุรี o รางวัลมูลนิธิภาคดีเด่น ประจำปี 2543-2544 ลำดับที่ 1 จากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทย ใน พระบรมราชูปถัมภ์พ.ศ.2545 o โล่รางวัลสนับสนุนโครงการการจัดการสิ่งปฏิกูลตามแนวพระราชดำริจากกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข o รางวัลมูลนิธิดีเด่นระดับภาคที่1ลำดับที่1จากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ o เกียรติบัตรยกย่องเป็นครูภูมิปัญญาไทย ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี จากสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาแห่งชาติ o โลร่างวลัอาสาสมคัรดเีดน่จากนายอนรุกัษ์จรุมีาศรฐัมนตรวีา่การกระทรวงพฒันาสงัคมและความมัน่คงของมนษุย์ o โล่ประกาศเกียรติคุณองค์กรดีเด่นที่ให้การสนับสนุนคนพิการจากรองนายกรัฐมนตรีนายจาตุรนต์ฉายแสงพ.ศ.2546 o โล่รางวัล PCD Awards 2002 ด้านบุคคลดีเด่นด้านการจัดการขยะมูลฝอย จากกรมควบคุมมลพิษ กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม o ปรญิญาพทุธศาสตรด์ษุฎบีณัฑติกติตมิศกัดิ์สาขาวชิาธรรมนเิทศจากมหาวทิยาลยัมหาจฬุาลงกรณราชวทิยาลยั o เกียรติบัตรสาขาการอภิปรายถ่ายทอดเสียง วิชาการทางพระพุทธศาสนา จากสมเด็จพระสังฆราช สกลมหา- สังฆปริณายก o เกียรติยศผู้มีส่วนร่วมถวายความจงรักภักดีในการจัดงาน 5 ธันวามหาราชและงาน12 สิงหาราชินีนาถ จาก ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญาฯ o โล่เกียรติยศบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเยาวชนจากพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา o รางวัลพระภิกษุผู้อุทิศตนในการป้องกันและต่อต้านยาเสพติด จากพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ
20
![Page 21: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/21.jpg)
สมณศักดิ์ พระราชวิจิตรปฏิภาณ
เกิด วันอังคารที่๑๙มีนาคมพุทธศักราช๒๕๐๐ตำบลชายนาอำเภอเสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
บรรพชา(บวชเณร) วันที่๒๑ตุลาคมพุทธศักราช๒๕๑๑วัดเจ้าเจ็ดนอกอำเภอเสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระครูเขมาภิรัตเป็นพระอุปัชฌาย์ขณะมีอายุ๑๑ปี
อุปสมบท(บวชพระ) วันที่๙กรกฎาคมพุทธศักราช๒๕๒๑วัดสุทัศนเทพวรารามแขวงราชบพิธเขตพระนครกรุงเทพฯ
พระเดชพระคุณเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(เสงี่ยมจนทสิริมหเถร)ขณะมีอายุ๒๑ปี
การศึกษา -นักธรรมชั้นเอก
-เปรียญธรรม๕ประโยค
-มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาธรรมนิเทศมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
-ปริญญาดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ สาขาธรรมนิเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
๒๕๕๔
หน้าที่การงาน -เป็นเลขานุการเจ้าคณะภาค๔ตั้งแต่ปี๒๕๒๒
-เป็นเลขานุการเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม
-เป็นประธานก่อตั้งโครงการเปิดพระอารามภาคกลางวัน–คืนวัดสุทัศนเทพวราราม
-เป็นประธานก่อตั้งศูนย์ท่องเที่ยววัดสุทัศน์เทพวรารามกรุงเทพมหนคร
-เป็นประธานก่อตั้งโครงการร่มโพธิ์(โครงการส่งพระนิสิตไปสอนหนังสือตามสถาบันการศึกษา)
งานเผยแพร่ -เป็นนักบรรยายธรรมในรายการลีลาชีวิต,ธรรมรส-ธรรมรัฐ ทางสถานีโทรทัศน์ NBT (ช่อง ๑๑)
กรมประชาสัมพันธ์,รายการพุทธิธรรมนำทางสถานีโทรทัศน์ช่อง๙และGLOBALNETWORK
-เป็นนักเทศน์,นักปาฐกถา,นักอภิปราย
งานเขียน -เป็นคอลัมน์นิสต์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ,คม-ชัด-ลึก
-เป็นนักเขียนบทและเป็นที่ปรึกษาเขียนบทโทรทัศน์
อดีตดำรงสมณศักดิ์ -พระพิพิธธรรมสุนทร
ปัจจุบันดำรงสมณศักดิ์ -พระราชวิจิตรปฏิภาณ
อนาคต -ไม่แน่นอน
รางวัลศาสตรเมธี
ประจำปีพุทธศักราช 2555
พระราชวิจิตรปฏิภาณ (เจ้าคุณพิพิธ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพมหานคร
21
![Page 22: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/22.jpg)
รางวัลศาสตรเมธี
ประจำปีพุทธศักราช 2555
พระครูพิพิธประชานาถ
ประวัติชีวิตหลวงพ่อนาถ พระครูพิพิธประชานาถ (ฉายาสุทธสีโล) นามเดิม นาน สีชมพู เกิดเมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๔๗๒ ที่บ้านเลขที่ ๒๔ บ้านเตรี๊ยะใต้ ตำบลตะพานลาว อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เป็นบุตรนายบัว นางจุม สีชมพู มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๘คนเป็นชาย๖คนหญิง๒คน พระครูพิพิธประชานาถ ผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม สาขาภูมิปัญญาชาวบ้านการผลิตและการบริโภค เป็น พระภิกษุที่มีความคิดก้าวหน้าพยายามหาทางดับทุกข์ของชาวบ้านที่มีแต่ความยากจนทุกข์ยากเดือนร้อน อันเนื่องมาจากความแห้งแล้งของสภาพดินฟ้าอากาศฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาลชาวบ้านไม่มีทุนในการประกอบอาชีพจึงเป็นหนี้เป็นสินต้องชำระค่าดอกเบี้ยสูงมาก เมื่อพระครูพิพิธประชานาถได้สำรวจพบว่าชาวบ้านกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงถึงขั้นที่เรียกได้ว่า“คนทำนาแต่ไม่มีข้าวกิน”ท่านจึงคิดหาวิถีทางที่จะทำลายจุดสำคัญของ“วงจรหนี้สิน”เหล่านี้ให้หมดไปโดยเริ่มให้ชาวบ้านฝึกสมาธิ พิจารณาตนเองและให้ลดละเลิกอบายมุขที่เป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์และได้จัดตั้งโครงการ สหบาลข้าว ขึ้นจนประสบผลสำเร็จทำให้ประชาชนที่อยู่จังหวัดใกล้เคียงมาขอร้องและนิมนต์ท่านไปช่วยจัดตั้งโครงการเช่นเดียวกันนี้ในหลายจังหวัดวิธีการนี้เป็นการปลุกสำนึกให้ชาวบ้านได้ตระหนักถึงการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันด้วยวิธีการพึ่งพาตนเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ต่อมาท่านได้ปรับประยุกต์ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นมาใช้เป็นแกนนำในการระดมทุนแช่น บุญเทศน์มหาชาติ บุญเข้าพรรษา บุญทอดผ้าป่าฯลฯโดยมีวัดเป็นศูนย์รวมต่อมาจึงได้จัดตั้ง“สหบาลคน” เพื่อเป็นการรวมพลังชาวบ้านในการ “ทำนากระชับมิตร”ที่ได้ผลดียิ่ง พระครูพิพิธประชานาถ เป็นพระสงฆ์ผู้ทรงศีลที่มีปรัชญาในการบริหารงานบุคคลได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งท่านเป็นแกนนำชี้แนะแนวทางโดยยึดหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาประยุกต์กับแนวคิดที่เป็นภูมิปัญญาของท่านจนประสบผลสำเร็จ ชาวบ้านและนักวิชาการต่างขนานนามท่านว่าพระนักพัฒนาพระครูพิพิธประชานาถจึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมสาขาภูมิปัญญาชาวบ้าน(การผลิตและการบริโภค)ประจำปี2536จากสำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติการศึกษา ๑.การศึกษาสามัญ พ.ศ.๒๕๘๕สำเร็จการศึกษาขั้นประถมปีที่๔จากโรงเรียนวัดสามัคคี ๒.การศึกษาปริยัติธรรม พ.ศ.๒๔๙๒สอบได้นักธรรมชั้นตรีศึกษาด้วยตนเอง พ.ศ.๒๔๙๔สอบได้นักธรรมชั้นโทศึกษาด้วยตนเอง พ.ศ.๒๔๙๗สอบได้นักธรรมชั้นเอกศึกษาด้วยตนเองแผนการปฏิบัติงาน ปฏิบัติงานด้านการเกษตรกรรมธรรมชาติ อนุรักษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อมด้านการจัดการสวัสดิการและธุรกิจชุมชน การผลิตและการบริโภค โดยการเป็นผู้นำเน้นให้เห็นถึงการพึ่งพาตนเอง รู้จักตนเองการช่วยเหลือเกือกูลซึ่งกันและกัน ภายใต้สัจธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เป็นการร่วมมือระหว่างวัดกับชาวบ้าน ในเขตพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดบุรีรัมย์ผลงานบริการด้านการศึกษา พ.ศ.๒๔๙๔ เป็นครูสอนปริยัติธรรม พ.ศ.๒๔๙๕ เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง พ.ศ.๒๕๐๙ เป็นพระธรรมทูต
22
![Page 23: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/23.jpg)
พ.ศ.๒๕๒๒ เปิดโรงเรียนนักธรรมบาลีที่วัดสามัคคีผลงานด้านการพัฒนาสังคม หลวงพ่อนาถสุทธสีโลแห่งวัดสามัคคีหมู่บ้านท่าสว่างอำเภอเมืองสุรินทร์จังหวัดสุรินทร์ชาวบ้านและนักวิชาการต่างขนานว่า “พระนักพัฒนา” ในด้านการศาสนาท่านมีสมณะศักดิ์เป็น “พระครูพิพิธประชานาถ” ซึ่งหมายถึง“ผู้เป็นศูนย์รวมแห่งที่พึ่งของประชาชน” ชีวิตของหลวงพ่อนาถในวัยเด็ก ครอบครัวมีฐานะยากจน ร่างกายของท่านเองก็ไม่ค่อยแข็งแรงมักเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่เสมอจึงไม่สามารถที่จะวิ่งเล่นกับเพื่อนๆได้จากจุดนี้เองที่ทำให้ท่านเป็นคนช่างคิด เมื่อพ.ศ.๒๔๙๒อายุครบ๒๐ปีบิดามารดาจึงให้บวชเป็นพระภิกษุที่วัดสามัคคีในบ้านท่าสว่างนั้นเองในระหว่างที่บวชนี้ท่านได้สนใจศึกษาพระธรรมอย่างจริงจัง จนกระทั่งสอบปริยัติธรรมได้ นักธรรมตรี ในปีแรกที่บวช สอบได้นักธรรมโทในปี๒๔๙๔ และสอบได้นักธรรมเอกในปี ๒๔๙๗ ผลสำเร็จแห่งการศึกษาพระปริยัติธรรมสืบเนื่องมาจากท่องบ่นและเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างเพียรพยายามตามหลัก“ตนเป็นที่พีงแห่งตน” ต่อมาพ.ศ.๒๔๙๙ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดโคกสูงอำเภอเมืองบุรีรัมย์และปีต่อมาได้สร้างวัดราษฏร์ศรัทธาธรรมขึ้นที่ตำบลห้วยราชอำเภอเมืองจนสำเร็จจึงได้กลับมาจำพรรษาณวัดสามัคคีเช่นเดิมในระหว่างนี้ท่านได้ตระหนักว่าพระสงฆ์อยูได้เพราะอาหารและปัจจัยที่ชาวบ้านถวาย ปฏิบัติธรรมได้เพราะชาวบ้านเลี้ยงดู พระสงฆ์เป็นหนี้ชาวบ้านสิ่งหนึ่งที่บ่งชี้ให้ท่านได้คิดถึงเรื่องนี้ เมื่อท่านเห็นชาวบ้านมีสภาพชีวิตยากลำบากมากไม่มีอาหารพอเลี้ยงชีพต้องเป็นหนี้เป็นสินและมีความทุกข์ร้อนอยู่เสมอ และในส่วนของพระสงฆ์เองก็ได้แต่เทศนาอบรมให้ชาวบ้านเป็นคนดี มีศีลธรรม และการที่มุ่งปฏิบัติธรรมเพื่อหาทางหลุดพ้นเพียงผู้เดียวเป็นทางที่ถูกแล้วหรือ ในฐานะที่หลวงพ่อนาถ เป็นเจ้าอาวาสท่านจึงตัดสินใจพัฒนาหมู่บ้านแบบสมัยใหม่ เริ่มด้วยการตัดถนนโดยระดม พระเณรจับจอบจับเสียมสร้างถนนในปีพ.ศ.๒๕๑๐เมื่อชาวบ้านรู้ข่าวจึงเข้ามาช่วยจำนวนคนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆต่อมาการขุดถนนมีปัญหาเนื่องจากต้องขุดผ่านที่ดินของชาวบ้านหลวงพ่อนาถจึงต้องออกบิณฑบาตขอที่ดิน ชาวบ้านเห็นความตั้งใจจริงของท่านจึงยินดีถวายที่ดินให้ท่านทุกรายในที่สุดชาวบ้านท่าสว่างจึงได้ถนนยาว๘กิโลเมตรไปจนถึงตัวเมือง หลวงพ่อนาถเป็นพระภิกษุที่มุ่งแสวงแก่นแห่งสัจธรรมเพื่อนำมาเกิดความสงบสุขแห่งตนและชาวบ้านได้เริ่มวางแผนพาชาวบ้านไปลดละและดับกิเลสคือการสงบจิตใจท่านได้ชักชวนชาวบ้าน๔๐คนไปปฏิบัติสมถะกรรมฐาน๗วันท่านได้สอนให้ผู้เข้าอบรมใช้สติปัญญาพิจารณาว่าสิ่งใดเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิต สิ่งใดไม่จำเป็นควรละเลิกไปเสีย การปฏิบัติสมถะกรรมฐานครั้งนี้ได้รับความสนใจจากคนในหมู่บ้านและคนในหมู่บ้านอื่นๆที่ทำให้คนส่วนใหญ่สามารถลดหรือเลิกอบายมุขไปได้สร้างศัทธาให้เกิดขึ้นอีกจนท่านต้องรับนิมนต์ไปช่วยจัดกิจกรรมเหล่านี้ในหมู่บ้านอื่นๆ ในเวลาต่อมา อาจกล่าวได้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงการเริ่มพัฒนาโดยการเริ่มเตรียมจิตใจในการฝึกสมถะสมาธิสิ่งที่ได้จากการรักษาศีลคือการฝึกสมาธิและสิ่งที่ได้ตามมาคือบ่อเกิดแห่งปัญญา เมื่อชาวบ้านเอาปัญญาของแต่ละคนมารวมกันก็จะเห็นปัญหาของตนเองและปัญหาของหมู่บ้านจึงพบว่าความยากจนความแห้งแล้ง ความทุกข์ยากและความเดือนร้อนของคนในหมู่บ้านส่วนหนึ่งมาจากสถาพของลมฟ้าอากาศ ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ชาวบ้านไม่มีทุนทำกิน เป็นหนี้เป็นสินดอกเบี้ยแพงการเก็งกำไรของพ่อค้าคนกลางการตลาดที่ราคาสินค้าราคาถูกกดให้ต่ำลงและอีกส่วนหนึ่งมาจากชาวบ้านที่ต้องสูญเสียไปกับอบายมุขทั้งปวงหลวงพ่อนาถจึงให้สติชาวบ้านให้เห็นถึงเหตุแห่งทุกข์ในที่สุดชาวบ้านมีปัญญาสามารถเลิกอบายมุขได้ในที่สุด หลวงพ่อนาถได้สำรวจพบว่า ชาวบ้านกำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจอย่างรุนแรงมีหนี้สินตกทอดมาหลายชั่วคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวบ้านเป็นผู้ทำนาแต่ไม่มีข้าวจะกินหลวงพ่อจึงนำพระและเณรวัดสามัคคีทำนา เพื่อมิให้ชาวบ้านต้องห่วงต่ออาหารที่นำมาทำบุญสุนทาน และเป็นการแบ่งเบาความทุกข์ยากของชาวบ้านไปด้วย ในขณะเดียวกันก็คิดหาวิธีที่จะชะลอการขายข้าวในช่วงที่เก็บเกี่ยวใหม่ ซึ่งมีราคาตกต่ำ ท่านจึงได้รวบรวมเงินที่ชาวบ้านบริจาคในการทำบุญทั้งหมดที่มีอยู่โดยคิดว่า เงินของวัดคือเงินของชาวบ้านนำเงินไปแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน ในปี๒๕๒๑หลังจากที่ได้ตั้งกลุ่มปุ๋ยขึ้นในหมู่บ้าน มีสมาชิกในหมู่บ้านเป็นกรรมการได้เลือกตัวแทนไปเจรจาซื้อปุ๋ยจากองค์การตลาด เพื่อการเกษตรโดยตรงทำให้สามารถตัดพ่อค้าคนกลางออกไปราคาปุ๋ยจึงถูกลงมากวิธีนี้เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนไปได้บ้างเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่แท้จริงได้ นั่นคือปัญหาการตลาด ปัญหาการกดราคาและปัญหาที่ต้องรีบขายข้าวเพื่อชำระหนี้สินการเก็บเกี่ยวท่านมองเห็นจุดสำคัญต้องทำลาย“วงจรหนี้สิน” พ.ศ.๒๕๒๔จึงได้จัดตั้ง“โครงการสหบาลข้าว”นั่นคือโครงการที่สามารถประกันข้าวให้แก่ชาวบ้านได้เพียงพอโดยให้กู้ยืมในอัตราการชดใช้ดอกเบี้ยต่ำ นับได้ว่าจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอีกจุดหนึ่งในการตัดวงจรหนึ้สินให้ลดน้อยลงหรือหมดไปในที่สุด โครงการสหบาลข้าวประสบผลสำเร็จคือได้รับความสนใจจากชาวบ้าน เพียงสิ้นปี ๒๕๒๔ หมู่บ้านใกล้เคียงได้ทำเลียนแบบเป็นการดำเนินรอยตามถึง๔แห่งทำให้แพร่ขยายไปยังจังหวัดอื่นๆในเวลาอันรวดเร็ว ต่อมาชาวบ้านกระสังอยากตั้งสหบาลข้าวขึ้นในหมู่บ้านบ้างจึงพากันมานิมนต์หลวงพ่อนาถไปช่วยจัดการให้เมื่อได้เห็นสภาพแล้วชาวบ้านกระสังมีความแห้งแล้งอดอยากยากแค้น หลวงพ่อจึงตัดสินใจรวบรวมเงินที่ชาวบ้านอุทิศให้วัดสามัคคีเก็บไว้สร้างกุฏิและสร้างโบสถ์นำไปสร้างฉางข้าวให้หมู่บ้านกระสังอีกแห่งหนึ่ง พ.ศ. ๒๕๒๖ หลวงพ่อนาถไปตั้งสหบาลข้าวที่บ้านระเภาร์ บ้านตม็องและกำลังจะทำสหบาลข้าวที่บ้านกาเกาะ ตำบล
23
![Page 24: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/24.jpg)
ท่าสว่าง บ้านประเดียก อำเภอบัวเขต จังสุรินทร์ บ้านห้วยสำราญและบ้านสำโรงสูง อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ทุกครั้งที่จัดหาทุนพัฒนาหมู่บ้าน สิ่งที่แฝงไว้ในวิธีการของหลวงพ่อนาถ นั่นคือการนำพลังแห่งความร่วมมือของชาวบ้านมาใช้ประโยชน์เพื่อหมู่บ้านด้วยการสอนให้ตระหนักถึงความเมตตากันระหว่างคนในหมู่บ้านหรือหมู่บ้านอื่น ถึงแม้ว่าในช่วงแรกสหบาลข้าวสามารถช่วยให้ชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้ทีละน้อยๆก็ตามและไม่ประสบผลสำเร็จในทันทีทันใดเลยทีเดียวก็ตาม หากแต่หลวงพ่อต้องการปลุกจิตสำนึกให้ชาวบ้านได้ตระหนักถึงความช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วยการพึ่งพาตนเอง เป็นประการสำคัญ หลวงพ่อจึงประยุกต์ประเพณีท้องถิ่น เช่น บุญเทศน์มหาชาติ บุญเข้าพรรษา บุญวันพระ มาเป็น แกนนำในการระดมทุน เช่น รูปแบบการระดมทุนโดยการประยุกต์ประเพณีทอดผ้าป่ามาปรับใหม่ สามารถระดมข้าวระดมทุนได้คราวละมากๆ ลักษณะพิเศษและโดดเด่นของการทอดผ้าป่าข้าว จึงเป็นวิธีการที่ชาวบ้านระดมทุนเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านเพื่อนบ้าน หรือหมู่บ้านที่ขาดแคลนยากจนบนหลักธรรมแห่งการเมตตากรุณาต่อกันและกัน วิธีการนี้ทำให้ทุกคนรู้ซึ้งถึงหลักการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน การทอดผ้าป่าข้าว เป็นวิธีการทำบุญที่ได้ผลดีเพียงไม่กี่ปี สหบาลข้าวได้ข้าวมากมายจนไม่มีที่เก็บหลวงพ่อจึงขยายโครงการระดมทุนตั้งสหบาลข้าวตามหมู่บ้านต่างๆปีละ๒แห่งโดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน๑๐ปีจะสามารถลดหนี้สินจากสหกรณ์การเกษตรและ๑๕ปีจะลดหนี้สินส่วนอื่นๆให้หมดไปด้วย ต่อมาหลวงพ่อนาถคิดที่จะตั้ง “สหบาลคน” หมายถึงการรวมคนเป็นการรวมพลังชาวบ้านเวลาผ่านพ้นไปอีกไม่นาน“นากระชับมิตร” ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลิตข้าว ทำให้ทุ่งนากว้างยาวสุดสายตาคึกคักไปด้วยฝูงชนที่แห่กันมาช่วยไถนาทุกคนลุยงานกันอย่างสนุกสนานร่าเริงด้วยน้ำใจไมตรีที่หยิบยื่นความรักความเมตตาให้แก่กันและกัน หลวงพ่อนาถมีปรัชญาในการบริหารงานบุคคลได้อย่างดี โดยเน้นหลักธรรมคำสั่งสอนให้มีความซื่อสัตย์รับผิดชอบต่อหน้าที่โดยสำนึกถึงความผิดชอบชั่วดีเป็นที่ตั้ง จึงเห็นได้ว่าแนวทางการพัฒนาสังคมของหลวงพ่อนาถแท้ที่จริงคือการสร้างชุมชนธรรมะ สังคมธรรมะ หรือหมู่บ้านธรรมะ ให้ถึงพร้อมทั้งการตอบสนองทางวัตถุ โดยที่ชาวบ้านมีจิตใจเป็นธรรม มีความเพียงพอและปฏิบัติธรรมเพื่อความสงบสันติสุขของสังคมชีวิตชุมชนจะสงบร่มเย็นสืบต่อไป ผลงานดีเด่น ๑. อบรมกรรมฐานกับการพัฒนาคน ๒.ประยุกต์ประเพณีวัฒนธรรมในการระดุมทุนเพื่อการพัฒนา ๒.๑การก่อเจดีย์ข้าวเปลือกในงานเทศน์มหาชาติ ๒.๒การทอดผ้าป่าข้าว ๒.๓การรณรงค์ในเทศกาลเข้าพรรษาถือศีลอดและการทำบุญวันพระ ๒.๔การลงแขกดำนากระชับมิตร ๓.การจัดตั้งเครือข่ายผู้นำในการพัฒนา ๓.๑กลุ่มสหธรรม ๓.๒กลุ่มสานุศิษย์ ๓.๓กลุ่มที่มาศึกษาดูงาน ๓.๔งานด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ๓.๔.๑ จัดตั้งสหบาลข้าว ๓.๔.๒จัดตั้งกลุ่มสหกรณ์ร้านค้าในบ้านท่าสว่างและชุมชนที่เป็นเครือข่าย ๓.๔.๓จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ ๓.๔.๔จัดตั้งชมรมเกษตรกรรมชาติปลอดสารเคมี เกียรติคุณที่เคยได้รับ ๑.โล่ประกาศเกียรติคุณจากสมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย ๒.โล่ประกาศเกียรติคุณจากคณะกรรมการประสานงานองค์กรเอกชนพัฒนาชนบทภาคอีสาน ๓.โล่ประกาศเกียรติคุณด้านสาธารณูปการจากมูลนิธิสรรพวรรณิต ๔.โล่ประกาศเกียรติคุณด้านการส่งเสริมการศึกษานอกระบบจากคุรุสภาจังหวัดสุรินทร์ ๕.ปริญญาบัตรศิลปศาสตร์บัณฑิตกิตติมศักดิ์จากสหวิทยาลัยอีสานใต้สุรินทร์ ๖.ปริญญาบัตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ๗.เสมาธรรมจักรจากกรมการศาสนาด้านการส่งเสริมการพัฒนาชุมชนโดยใช้หลักธรรมทางศาสนาปัจจุบัน พระครูพิพิธประชานาถ เป็นเจ้าอาวาสและจำพรรษาอยู่ที่วัดสามัคคี หมู่ ๑ บ้านท่าสว่าง ตำบลท่าสว่าง อำเภอ เมืองสุรินทร์จังหวัดสุรินทร์
20 24
![Page 25: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/25.jpg)
รางวัลศาสตรเมธี
ประจำปีพุทธศักราช 2555
รองศาสตราจารย์ โกวิทย์ ขันธศิริ
เกิดวันที่10พฤศจิกายนพ.ศ.2484
บิดาชื่อสมบุญขันธศิริมารดาชื่อสมจิตต์ขันธศิริ
สถานที่เกิดตลาดพลู
ทีอ่ยูป่จัจุบนั39/88หมูบ่า้นเปีย่มสขุซอยกนัตนาถนนตลิง่ชนั-สพุรรณบรุีอำเภอบางใหญ่จงัหวดันนทบรุีรหสัไปรษณยี์11140
ประวัติการศึกษา
วุฒิการศึกษา พ.ศ. วิชาเอก สถาบัน
ชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่1-ปีที่4 โรงเรียนวัฒนศึกษา
มัธยมศึกษาปีที่1-ปีที่3 โรงเรียนวุฒิศึกษา
มัธยมศึกษาปีที่4-ปีที่6 โรงเรียนวัดมงกุฎกษัตริย์
มัธยมศึกษาชั้นปีที่7 โรงเรียนวัดนวลนรดิษฐ์
ปริญญาตรี
-ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 2502 วิชาเอกคณิตศาสตร์ -วิทยาลัยครูสวนสุนันทา
-K.C.M. 2513 การแสดงและการสอนทางViolin -จากRoyalConservatoryofmusic
กรุงเฮกประเทศเนเธอร์แลนด์
ปริญญาโท(ทุนFulbright) 2521-2523 M.A.inMusicology- KentStateUniversity,OhioUSA.
Ethnomusicology
ปริญญาเอก 2524 ดนตรีเปรียบเทียบจากการวิจัย SussexCollegeประเทศอังกฤษ
ResearchPh.D.MusicComparative
ประวัติการรับราชการ
หน่วยงาน-สถาบัน พ.ศ.
อาจารย์ประจำโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยวิชาคณิตศาสตร์ 2506-2507
ดนตรีไทยและดนตรีสากล อาจารย์ประจำและหัวหน้าสาขาดนตรีสากลคณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2517-2524
บริหารภาควิชาดุริยางคศิลป์ให้คณะศิลปกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2521-2529
งานต่างประเทศ
ลำดับที่พ.ศ.งานต่างประเทศ
1 ก่อตั้งวงดนตรีไทยโดยชาวไทยและชาวตะวันตก ได้แสดงและเผยแพร่ดนตรีไทยและเล่นไวโอลินเพลงไทย
ในประเทศฮอลแลนด์และสหรัฐอเมริกาในรัฐต่างๆรวมทั้งประเทศอื่นๆในยุโรป
2 2523 ไดร้บัเชญิจากทางราชการเปน็วทิยากรนกัแสดงและตวัแทนประเทศไทยเพือ่บรรยายสาธติและเปรยีบเทยีบ
ดนตรีไทยและดนตรีตะวันตกณประเทศต่างๆในเอเชียยุโรปและสหรัฐอเมริกา
25
![Page 26: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/26.jpg)
1 ได้รับเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยจากการพิจารณาของคณะกรรมการศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติให้เป็นอาจารย์สอนและ
ควบคุมตัวแทนนักดนตรีสากล(ทางViolin)จากประเทศไทยไปร่วมเรียนฝึกซ้อมและแสดงณประเทศต่างๆในกลุ่ม
อาเซียนจาก5-6ประเทศตลอดเวลาปีพ.ศ.2526-2533
2 หัวหน้าวงดนตรีFantasiaLightOrchestraและวงจามจุรีChamberMusicปีพ.ศ.2543
3 ได้รับเชิญในฐานะตัวแทนคณาจารย์ ภาควิชาดุริยางคศิลป์ในการจัดคอนเสิร์ต เดี่ยว Violin โดยผลงานของนัก
ประชาสัมพันธ์ชาวฟิลิปปินส์ในงานนักเรียนเก่าของฟิลิปปินส์มหาวิทยาลัย(U.P.) ร่วมกับนักดนตรีระดับนานาชาติของ
ประเทศฟิลิปปินส์ณสถาบันวิทยบริการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพ.ศ.2543
4 เป็นผู้บรรยายให้ความรู้ทางดนตรีกับสถานีวิทยุโทรทัศน์ทุกช่อง ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา วิทยุกรมประชาสัมพันธ์
ตั้งแต่ปีพ.ศ.2523จนถึงปัจจุบัน(ตามคำเชิญ)รวมทั้งเป็นวิทยากรและนักแสดงที่ได้รับเชิญจากสถาบันและงานต่างๆที่
เป็นหน่วยงานราชการหน่วยงานการกุศลและคอนเสิร์ตทั่วไป
5 ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าวงดนตรี กรุงเทพมหานคร ฟิลฮาโมนิก ออร์เคสตร้า (Bangkok Philharmonic Orchestra) ปี
พ.ศ.2545
6 ได้รับคัดเลือกเป็นนักไวโอลินคนไทยที่ได้ร่วมเล่นกับวง Studgard Symphony จากประเทศเยอรมันแสดงในกรุงเทพ
ปีพ.ศ.2515
7 ผู้ประสานงานการทำวิจัยกับProf.Dr.H.Maceda(ศาสตราจารย์ทางดนตรีจากมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ในประเทศไทย)
เรื่องภูไทย
8 กรรมการพิจารณาผลงานข้าราชการเพื่อเลื่อนตำแหน่งของกระทรวงศึกษาธิการ ด้านศิลปิน, ดนตรี ละคร,ศิลปะ ใน
ฐานะกรรมการประจำสำนักงานข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)
9 กรรมการพิจารณาหลักสูตรทางดนตรีของมหาวิทยาลัยเอกชนทบวงมหาวิทยาลัยถึงปัจจุบัน
10 กรรมการพิจารณาการขอเปิดดำเนินการหลักสูตรและรับรองมาตรฐานการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน สาขา
ดุริยางคศิลป์ปีพ.ศ.2540ถึงปัจจุบัน
11 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสาขาการศึกษาศิลปะศาสตร์และสังคมศาสตร์อื่นๆ2สำนักงานก.พ.ปีพ.ศ.2540ถึงปัจจุบัน
3 2530 ได้รับทุนFulbrightscholarทำการสอนมหาวิทยาลัยกว่า10แห่งณสหรัฐอเมริกา
4 2543 ได้รับเชิญจากเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันในฐานะอาจารย์จากภาควิชา
ดุริยางคศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อพบปะและเจรจาด้านศิลปวัฒนธรรมและแลกเปลี่ยนการ
เรียนการสอนการแสดงกับศิลปิน หัวหน้าภาควิชาดนตรีมหาวิทยาลัยกรุงเบอร์ลิน และหัวหน้าพิพิธภัณฑ์
ดนตรีในประเทศเยอรมัน
5 2543 ได้รับเชิญจากเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเยอรมันให้ไปแสดงดนตรีไทยและสากลในงานเฉลิม
พระเกียรติวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าประชุมแลกเปลี่ยนด้านดนตรีและ
นักดนตรีกับผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมมหาวิทยาลัยในกรุงบอนน์และมหาวิทยาลัยเบอร์ลิน
6 เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีให้กับมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทยรวมทั้งเดินทางไปแสดงและบรรยาย
ทั้งด้าน Violin และดนตรีไทยให้กับประเทศเยอรมัน อิตาลี อเมริกา ฮอลแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ จีน และ
กลุ่มประเทศอาเซียนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีท่านอื่นๆทั้งในอดีตและปัจจุบัน
7 ได้รับเชิญให้เป็นครูสอน Violin หัวหน้าวงและผู้อำนวยการเพลงให้กับวง Orchestra ทั้งในประเทศและ
ต่างประเทศ
8 บรรยายดนตรเีปรยีบเทยีบรว่มกบัรศ.อรวรรณบรรจงศลิป์ใหก้บัวทิยาลยัดนตรฟีลิปิปนิส์มหาวทิยาลยัU.P.
9 เป็นตัวแทนประเทศไทยร่วมกับกรมศิลปากร แสดงดนตรีนาฎศิล- ดนตรีไทย ณ เมืองกวางเจา ยูนาน
ประเทศจีน
10 เป็นตัวแทนจากสมาคมครูดนตรีแห่งประเทศไทยไปร่วมงานExproเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน
ลำดับที่พ.ศ.งานต่างประเทศ
งานทั่วไป
26
![Page 27: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/27.jpg)
ชื่อผู้แต่ง พ.ศ. ชื่อหนังสือ พิมพ์ครั้งที่ จังหวัด:สำนักพิมพ์
โกวิทย์ขันธศิริ 2550 ดุริยางคศิลป์ตะวันตก(เบื้องต้น) กรุงเทพฯสำนักพิพม์แม่ไก่ขยัน
โกวิทย์ขันธศิริ ดนตรีเบื้องต้น กรุงเทพฯสำนักพิมพ์
มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
โกวิทย์ขันธศิริ 2549 สารานุกรมศัพท์ดนตรีไทยภาค 1-2 กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ราชบัณฑิตยสถาน
ประวัตินักดนตรีและนักร้องฉบับ
ราชบัณฑิตยสถาน
ลำดับทีสถาบัน
1 ผู้ร่วมก่อตั้งคณะดุริยางคศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากรตลิ่งชันกรุงเทพมหานคร
2 อาจารย์ใหญ่และผู้จัดการโรงเรียนดนตรีสยามกลการกรุงเทพฯในปีพ.ศ.2518-2521
3 อาจารยพ์เิศษโดยรบัผดิชอบการสอนซึง่เปน็เนือ้หาสว่นหนึง่ของวชิามนษุย-์อารยธรรมณมหาวทิยาลยัธรรมศาสตร ์
ปีพ.ศ.2518-2521
4 หัวหน้าภาคดุริยางคศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ ปี พ.ศ.2525-2536 และได้ตำแหน่งรองศาสตราจารย์ ภาค
ดุริยางคศิลป์คณะศิลปศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์ดนตรีตะวันตกไวโอลิน
เครื่องสายสากลและIntroductiontoClassicMusic
5 เปน็กรรมการบรหิารหลกัสตูรปรญิญาโทดนตรตีะวนัตก(Composition)คณะศลิปกรรมศาสตร์จฬุาลงกรณม์หาวทิาลยั
6 ได้รับเชิญเป็นคณะกรรมการและเลขานุการพิจารณาผลงานทางวิชาการของมหาวิทยาลัย ณ คณะศิลปกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตั้งแต่ปีพ.ศ.2538-2543
7 ได้รับเชิญเป็นวิทยากรด้านความซาบซึ้งทางดนตรีจัดโดยสโมสรโรตารี่ธนบุรีและประทุมวันตั้งแต่ปีพ.ศ.2538-2543
8 ได้รับเชิญเป็นประธานการแสดงการจัดงานดนตรีนานาชาติ เพื่อจัดตั้งศูนย์ดนตรีเอเซียแห่งประเทศไทย โดย
เครือข่ายนานาชาติเพื่อส่งเสริมดนตรีในเอเซียร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยปีพ.ศ.2543
9 กรรมการรับเชิญตรวจสอบและกรรมการคุมสอบวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโทและเอกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และมหาวิทยาลัยมหิดล และอาจารย์รับเชิญสอนนิสิตปริญญาตรี-โทของสาขาดุริยางคศิลป์ไทยณคณะศิลปกรรม
ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
10 อาจารย์พิเศษและวิทยาลัยแห่งรัฐและเอกชนหลายแห่งรวมทั้งสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยถึงปัจจุบัน
11 อาจารย์พิเศษวิชาดนตรีวิจักษ์มหาวิทยาลัยศิลปากรกรุงเทพฯตั้งแต่ปีพ.ศ.2523-2530
12 เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสอบคัดเลือกนักศึกษาดนตรี และกรรมการวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโทและปริญญาเอก
มหาวิทยาลัยมหิดลมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาและสถาบันกันตนา
13 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
12 กรรมการสถาบันไทยศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยถึงปัจจุบัน
13 กรรมการพิจารณาผลงานวิชาการเพื่อเลื่อนตำแหน่งของอาจารย์ด้านดนตรีของกรมอาชีวะถึงปัจจุบัน
14 ผู้ร่วมก่อตั้งผู้แสดงและกรรมการบริหารวงBangkokOrchestraจนถึงปีพ.ศ.2543
15 ผู้ก่อตั้งวงCU.Orchestra
16 ประยุกต์การเล่นViolinและดนตรีไทยให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ โดยมีผลงานเป็น เอกสารตำราและงานวิจัยDVD,VCD
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อบริการวิชาการแก่สังคม
17 เป็นกรรมการทุนเรียนดีคัดเลือกนักดนตรีระดับปริญญาตรีไปศึกษาดูงานที่ประเทศออสเตรีย
18 ได้รับเชิญเป็นนักดนตรีในงานครูดนตรีไทยอาวุโสทุกปีณศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
19 เป็นกรรมการตัดสินดนตรีไทยมหาวิทยาลัยบูรพา
20 เป็นกรรมการดนตรีไทยศรทอง
งานสอนประจำและงานสอนพิเศษ
บทความ/หนังสือ
27
![Page 28: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/28.jpg)
โกวิทย์ขันธศิริ 2550 สารานุกรมศัพท์ดนตรีไทยภาค กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ราชบัณฑิตยสถาน
ประวัติเพลงเกร็ดและเพลงละคร
ร้องฉบับราชบัณฑิตยสถาน 1
โกวิทย์ขันธศิริ 2550 สารานุกรมศัพท์ดนตรีไทยภาค 1 กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ราชบัณฑิตยสถาน
ประวัติและบทร้องเพลงตับ
ประวัติเพลงหน้าพาทย์และเพลง
โหมโรงฉบับราชบัณฑิตยสถาน
โกวิทย์ขันธศิริ 2544 เกณฑ์มาตรฐานดนตรีไทยและ 1 กรุงเทพฯสำนักงานปลัดทบวงมหาวิทยาลัย
เกณฑ์การประเมิน
โกวิทย์ขันธศิริ 2531 ดุริยางคศิลป์ตะวันตก กรุงเทพฯสำนักพิมพ์จุฬาฯ
โกวิทย์ขันธศิริ 2550 ดุริยางคศิลป์ตะวันตก(เบื้องต้น) กรุงเทพฯสำนักพิมพ์จุฬาฯ
โกวิทย์ขันธศิริ 2528 ดุริยางคศิลปะปริทัศน์(ตะวันตก) กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช
โกวิทย์ขันธศิริ พื้นฐานดุริยางคศิลป์(ตะวันตก) กรงุเทพฯสำนกัพมิพค์ณะศลิปกรรมศาสตร์จฬุาฯ
โกวิทย์ขันธศิริ สังคีตนิยม กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ครุศาสตร์จุฬาฯ
โกวิทย์ขันธศิริ สารานุกรมศัพท์ดนตรีไทย 1-2 กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ราชบัณฑิตยสถาน
ภาคคีตะ-ดุริยางค์
โกวิทย์ขันธศิริ สารานุกรมศัพท์ดนตรีไทย 1-4 กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ราชบัณฑิตยสถาน
ภาคประวัติและบทร้องเพลงเถา
ชื่อผู้แต่ง พ.ศ. ชื่อหนังสือ พิมพ์ครั้งที่ จังหวัด:สำนักพิมพ์
สมาคมทางวิชาการ
-ได้รับเชิญเป็นวิทยากรของงาน“ArtforAll”โดยมีรศ.ดร.ชาญณรงค์พรรุ่งโรจน์เป็นประธานตั้งแต่เริ่มโครงการในปี
พ.ศ.2541ถึงปัจจุบัน
-บรรณาธิการสารานุกรมดนตรีไทยราชบัณฑิตยสถานปีพ.ศ.2528-ปัจจุบัน
-ผู้เชี่ยวชาญดนตรีตะวันตก นักไวโอลินและผู้สอนไวโอลินในดนตรีเยาวชนอาเซียนเชิญโดยคณะกรรมการดนตรีและ
ผู้บริหารศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยรวมทั้งกรรมการวงดนตรีเยาวชนแห่งชาติ
-เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ให้กับสมาคมครูดนตรีแห่งประเทศไทย
-คณะกรรมการมูลนิธิหลวงประดิษฐ์ไพเราะ
รางวัลต่างๆ
-ประกาศนียบัตรทางการเล่นViolinเกรด8จากRoyalschoolofmusicประเทศอังกฤษปีพ.ศ.2508
-ได้รับรางวัลชนะเลิศที่1ในการประกวดรายการแมวมอง(เด็กพรสวรรค์)ณสถานีวิทยุททท.การดนตรีในการเดี่ยว
ซอด้วงปีพ.ศ.2496
-ได้รับรางวัลที่2ในการประกวดร้องเพลงไทยงานศิลปหัตถกรรมปีพ.ศ.2501
-ได้รางวัลที่1ในการเล่นซอด้วงและนำวงดนตรีสวนสุนันทาปีพ.ศ.2502
-ได้รับตำแหน่งอาจารย์ดีเด่นและหัวหน้าภาคดุริยางค์คณะศิลปกรรมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-ได้รับตำแหน่งศิลปินแห่งมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร
-ได้รับตำแหน่งครูในดวงใจแห่งสมาคมครูดนตรีแห่งประเทศไทย
-รางวัลชนะเลิศที่1ขับร้องเพลงไทยสากลตัดสินโดยวงพยงค์มุกดา
-ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประถมาภรณ์ช้างเผือกปีพ.ศ.2541
ผลงานวิจัย
1.เรื่องวิวัฒนาการของเพลงไทยสมัยรัตนโกสินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยอรวรรณ บรรจงศิลป์ และโกวิทย์
ขันธศิริ31ก.ค.2526
2.TheTechniqueofPlayingThaiBowedLutesbyKovitKantasiri:August1980
28
![Page 29: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/29.jpg)
รางวัลศาสตรเมธี
ประจำปีพุทธศักราช 2555
ภราดา ดร.บัญชา แสงหิรัญ
ประวัติการศึกษา:
พ.ศ.2540 PostdoctoralstudiesintheHigherEducationManagementProgramme,UniversitiesofWarwickand
Oxford,England
พ.ศ.2538 ปริญญาเอก(การบริหารการศึกษา)ณIllinoisStateUniversityประเทศสหรัฐอเมริกา
พ.ศ.2524 ปริญญาโท(การบริหารโรงเรียน)ณSt.Mary’sCollegeofCaliforniaประเทศสหรัฐอเมริกา
พ.ศ.2514-2517 ปริญญาตรี(Mathematics)ณSaintLouisUniversityประเทศฟิลิปปินส์
ประสบการณ์การทำงาน:
พ.ศ.2545-ปัจจุบัน อธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
พ.ศ.2551-ปัจจุบัน คณะกรรมการบริหารโรงเรียนเซนต์หลุยส์ฉะเชิงเทรา
พ.ศ.2551-ปัจจุบัน คณะกรรมการบริหารโรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา
พ.ศ.2546-ปัจจุบัน คณะกรรมการบริหารโรงเรียนเซนต์คาเบรียล
พ.ศ.2545-ปัจจุบัน คณะกรรมการบริหารโรงเรียนพระแม่มารีสาทร
พ.ศ.2545-ปัจจุบัน คณะกรรมการบริหารสภาวิทยาลัยมิชชั่น
พ.ศ.2544-ปัจจุบัน ที่ปรึกษาสภามหาวิทยาลัยหาดใหญ่
พ.ศ.2544-ปัจจุบัน ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมความเป็นเลิศมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
พ.ศ.2543-ปัจจุบัน อุปนายกสภาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพฯ
พ.ศ.2543-ปัจจุบัน คณะกรรมการบริหารโรงเรียนดาราสมุทร
พ.ศ.2543-ปัจจุบัน คณะกรรมการบริหารโรงเรียนอัสสัมชัญ
พ.ศ.2541-2546 รักษาการคณบดีคณะนิเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
พ.ศ.2537-2546 รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
พ.ศ.2534-2537 รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
พ.ศ.2528-2533 ผู้อำนวยการโรงเรียนเซนต์คาเบรียล
พ.ศ.2522-2526 ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญสำโรง
พ.ศ.2521-2527 รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาวิทยาลัยอัสสัมชัญบริหารธุรกิจ
พ.ศ.2517-ปัจจุบัน กรรมการสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
พ.ศ.2517-2520 อธิการโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี
พ.ศ.2510-2513 ครูสอนประจำโรงเรียนอัสสัมชัญระยอง
สมาชิกองค์กร:
พ.ศ.2553-ปัจจุบัน รองประธานอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและแนวทางการจัดตั้งมหาวิทยาลัยโดยการ
หลอมรวมยุบรวมและการยกเลิกสถาบันอุดมศึกษาคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)
29
![Page 30: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/30.jpg)
พ.ศ.2553-ปัจุจุบัน กรรมการสภามหาวิทยาลัยพะเยา
พ.ศ.2553-ปัจจุบัน กรรมการมูลนิธิอนุสรณ์หม่อมงามจิตต์บุรฉัตร
พ.ศ.2553-2554 ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์งานชุมนุมลูกเสือคาทอลิกโลก(ICCSScoutJamboree2010)
พ.ศ.2552-2553 รักษาการประธานสำนักงานเลขานุการสออ.ประเทศไทย
พ.ศ.2552-2554 อนุกรรมการสาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะกรรมการฝ่ายวิชาการและประกันคุณภาพการศึกษาสมาคม
สถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย(สสอท.)
พ.ศ.2548-ปัจจุบัน รองประธานสำนักงานเลขานุการสออ.ประเทศไทย
พ.ศ.2548-2550 นายกสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย(สสอท.)
พ.ศ.2545-ปัจจุบัน ที่ปรึกษาสมาคมเกียรตินิยมการศึกษาแห่งประเทศไทย
พ.ศ.2544-ปัจจุบัน กรรมการบริหารสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน)(สมศ.)
พ.ศ.2541-ปัจจุบัน คณะกรรมการสำนักงานเลขานุการสออ.ประเทศไทย
พ.ศ.2540-2544 คณะกรรมการฝ่ายพัฒนาวิชาการ ของสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ภายใต้สังกัด
ทบวงมหาวิทยาลัย(สกอ.)
พ.ศ.2540-2544 คณะกรรมการฝ่ายรับรองมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษาภายใต้สังกัดทบวงมหาวิทยาลัย(สกอ.)
พ.ศ.2540-2544 คณะกรรมการกิตติมศักดิ์สำนักงานเลขานุการสออ.ประเทศไทย
พ.ศ.2540-2547 กรรมการบริหารสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย(สสอท.)
พ.ศ.2544 คณะกรรมการที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย(สสอท.)
พ.ศ.2544 รองประธานฝ่ายประกันคุณภาพการศึกษาสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย(สสอท.)
พ.ศ.2540-2544 กรรมการบริหารฝ่ายวิชาการสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย(สสอท)
พ.ศ.2543-2545 ประธานสมาคมเกียรตินิยมการศึกษาแห่งประเทศไทย(PDK)
พ.ศ.2527-2542 สมาชิกสมาคมเกียรตินิยมการศึกษาแห่งประเทศไทย(PDK)
พ.ศ.2551-ปัจจุบัน กรรมการมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯเพื่อเยาวชนในพระบรมราชินูปถัมภ์
พ.ศ.2554-ปัจจุบัน ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย(สสอท.)
30
![Page 31: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/31.jpg)
รางวัลศาสตรเมธี
ประจำปีพุทธศักราช 2555
นางมุกดา (จิราธิวัฒน์) เอื้อวัฒนะสกุล
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ/นามสกุล นางมุกดาเอื้อวัฒนะสกุลนามสกุลเดิมจิราธิวัฒน์ศาสนาพุทธ
หมู่โลหิต โอ
วัน/เดือน/ปีเกิด วันที่23เดือนเมษายนพ.ศ.2479อายุ76ปี
สถานที่เกิด 60ถนนธนบุรีปากท่อเขตบางขุนเทียนกรุงเทพมหานคร
ที่อยู่(ทะเบียน) เลขที่60ซอยนวศรี8ถนนรามคำแหง21แขวงพลับพลาเขตวังทองหลางกรุงเทพฯ10310
โทรศัพท์ 081-834-7222
โทรศัพท์(บ้าน) 0-2677-3283,0-2285-5310,0-2319-6778
โทรสาร(บ้าน) 0-2677-3284,0-2285-5309,0-2718-6199
E-mail [email protected]
การศึกษา ชั้นมัธยม8จากมาแตร์เดอีวิทยาลัย
อนุปริญญาคณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
GEORGEWASHINGTONUNIVERSITYสาขาวิชาบัญชี
ประวัติการประกอบอาชีพ(ส่วนตัว)
พ.ศ.2499-2510 เริม่จาการชว่ยงานของบดิา-มารดาทางดา้นการเงนิ(แคชเชยีร)์ซึง่เปน็ธรุกจิคา้ปลกีคอืบรษิทัหา้งสรรพสนิคา้
เซ็นทรัลดีพาทเมนท์สโตร์จำกัดที่สาขาวังบูรพาฯ
พ.ศ.2511-2551 เป็นผู้จัดการฝ่ายการเงิน ด้านธุรกิจค้าส่ง (เจ้าของกิจการ) บริษัท ห้างเซ็นทรัลดีพาทเมนท์ สโตร์ จำกัด
สาขาสีลม
พ.ศ.2539-ปัจจุบัน เป็นรองประธานกรรมการ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด และกรรมการบริษัทหัวหิน บีชรีสอร์ท จำกัด
(สำนักงานชั่วคราว)ที่อาคารเซ็นทรัลสีลมทาวเวอร์
พ.ศ.2531-ปัจจุบัน เป็นกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม เอ็ม พี คอร์ปอเรชั่น จำกัด สำนักงานอยู่ที่สุขุมวิท 101 แขวงบางจาก
เขตพระโขนงกรุงเทพฯ
ประวัติการทำงานด้านสังคมสงเคราะห์
พ.ศ.2539-ปัจจุบัน ตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ทำหน้าที่ร่วมนั่งพิจารณาคดีกับผู้พิพากษา
ได้แก้ไขปัญหาและช่วยเหลือครอบครัวที่แตกแยก
พ.ศ.2540-ปัจจุบัน เป็นสมาชิกอาสากาชาด กิติมศักดิ์ รุ่น กาญจนาภิเษก สภากาชาดไทย ทำหน้าที่เข้าตรวจเยี่ยมและ
ประเมินผลตามโรงเรียนต่างๆรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดและให้ความร่วมมือทุกด้าน
พ.ศ.2540 เป็นนายกสมาคมสตรีสัมพันธ์
พ.ศ.2541-ปัจจุบัน เป็นนายกบริหารกิติมศักดิ์ของสมาคมสตรีสัมพันธ์ทำหน้าที่ในการให้ทุนการศึกษาแก่เด็กไทยไปเรียน
ภาษาจีนที่นครเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งเป็นเวลา1ปี
31
![Page 32: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/32.jpg)
พ.ศ.2552-ปัจจุบัน เป็นรองประธานฝ่ายการศึกษา สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ทำหน้าที่ให้คำแนะนำด้าน
การศึกษาและจัดงบประมาณสำหรับงานวิจัย
พ.ศ.2540-ปัจจุบัน เป็นเหรัญญิกมูลนิธิหม่อมเจ้าพิจิตรจิราภาเทวกุลทำหน้าที่รณรงค์หาทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนทั่ว
ประเทศ
พ.ศ.2540-ปัจจุบัน เปน็กรรมการสโมสรซอนตา้สากลกรงุเทพฯทำหนา้ที่ใหท้นุการศกึษาแกเ่ดก็นกัเรยีนในโรงเรยีนถิน่ทรุกนัดาล
พ.ศ.2544-ปัจจุบัน เป็นกรรมการมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมทำหน้าที่รณรงค์ให้รู้จักรักษาสิ่งแวดล้อม โดยใช้ถุงผ้าเพื่อลดภาวะ
โลกร้อน
พ.ศ.2544-ปัจจุบัน เป็นกรรมการมูลนิธิช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนในพระบรมราชินูปถัมภ์ ทำหน้าที่ให้ทุนการ
ศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
พ.ศ.2546 เป็นประธานคณะกรรมการบริหารร้านค้าศูนย์ฝึกอาชีพฟ้าใสปันน้ำใจทำหน้าที่ฝึกอาชีพให้เด็กที่มา
ศาลเยาวชนฯเช่นงานซ่อมรถยนต์
พ.ศ.2546-ปัจจุบัน เป็นกรรมการชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติกรุงเทพมหานครสภาสังคมสงเคราะห์ทำหน้าที่จัดกิจกรรมใน
วันเฉลิมพระชนมพรรษาฯเช่นจัดเลี้ยงอาหารกลางวันที่สภาสตรีแห่งชาติฯ
พ.ศ.2549-ปัจจุบัน เป็นกรรมการบริหารและประธานฝ่ายหาทุนมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยในพระบรม-
ราชินูปถัมภ์ทำหน้าที่จัดกิจกรรมหาทุนเฉพาะกิจเช่นการจัดงานวันเมตตาปัญญาอ่อนฯทางโทรทัศน์,
งานสัปดาห์พยากรณ์ฯลฯ
พ.ศ.2549-ปัจจุบัน เป็นรองประธานฝ่ายบริหารและกิจกรรม ชมรมแลกเปลี่ยนมิตรภาพระหว่างประเทศกรุงเทพฯทำ
หน้าที่เผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีของไทยให้ชาวต่างประเทศได้รู้จัก
ประสบการณ์ในการศึกษาอบรม/ดูงาน
พ.ศ.2545 ได้รับประกาศนียบัตรหลักสูตร“กระบวนการยุติธรรมเยาวชนและครอบครัว”จากสถาบันพัมนากระบวนการ
ยุติธรรมเยาวชนและครอบครัวและคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
พ.ศ.2547 ได้ศึกษาดูงานระบบไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทและวิธีการประชุมกลุ่มครอบครัว ณ ประเทศออสเตรเลียและ
ประเทศนิวซีแลนด์
พ.ศ.2547 ได้รับการฝึกอบรมโครงการอบรมเกี่ยวกับสิทธิเด็ก
พ.ศ.2549 การประชุมเชิงปฏิบัติการผู้ทรงคุณวุฒิในการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทของศาลอาญากรุงเทพใต้
พ.ศ.2550 เป็นผู้ประนีประนอมประจำของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง
พ.ศ.2551 ผ่านการอบรมการประชุมสัมมนาผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วราชอาณาจักรประจำปี2551
ณศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์กรุงเทพมหานคร
พ.ศ.2551 ผ่านการอบรมหลักสูตรการใช้งานระบบปฏิบัติการWindow&Internetจาก
มหาวิทยาลัยศรีปทุมโดยสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์
พ.ศ.2553 การประชุมสัมมนาวิชาการเชิงปฏิบัติการระดับผู้บริหารและระดับผู้ปฏิบัติแกนนำงานเพื่อประโยชน์สูงสุด เด็ก
เยาวชนและครอบครัว :นวัตกรรมเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็ก เยาวชนและครอบครัววิกฤต (ปัญหา
ยาเสพติด ปัญหาครอบครัว ปัญหาสุขภาพกาย-จิตและจิตเวช ปัญหาพฤติกรรมและอารมณ์) ว่าด้วย
กระบวนการนิติจิตเวชเด็กเยาวชนและครอบครัวเชิงเยียวยาในกระบวนการยุติธรรมเยาวชนและครอบครัว
ณโรงพยาบาลตุลาการเฉลิมพระเกียรติสำนักงานยุติธรรม
พ.ศ.2533 ได้ผ่านการฝึกกระโดยหอสูง กองทัพเรือ ศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินผ่านการอบรม “โครงการ
อบรมพัฒนาศักยภาพผู้ปะนีประนอมประจำศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง
ตำแหน่ง/ภารกิจ/สมาคมอื่นๆ
พ.ศ.2518 เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสภากาชาดไทย
พ.ศ.2538-ปัจจุบัน เป็นกรรมการมูลนิธิภูมิพโลภิกขุ
พ.ศ.2539-ปัจจุบัน เป็นรองประธานคณะกรรมการฝ่ายสารานุกรมไทยสโมสรไลออนส์สากล310อี
32
![Page 33: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/33.jpg)
พ.ศ.2540-2549 เป็นกรรมการสงเคราะห์ของกรมพินิจ
พ.ศ.2541-2546และ2547 เป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับเด็กและสตรีสำนักงาน
เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร2546
พ.ศ.2544 เป็นวุฒิอาสาธนาคารคลังสมองในสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
พ.ศ.2545 ประธานกรรมการฝ่ายจัดหารางวัลคณะกรรมการจัดงานวันรัตนาภามูลนิธิพลเรือโท
พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภาและหม่อมกอบแก้วอาภากรณอยุธยา
ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทร์ทราบรมราชนนี
พ.ศ.2549 เป็นกรรมการสมทบ การเสริมสร้างศักยภาพ ผู้ทรงคุณวุฒิในการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท
ประจำศาลอาญากรุงเทพฯใต้รุ่น1
พ.ศ.2549 เป็นผู้แทนองค์การเอกชนที่เกี่ยวกับสตรีของสภาผู้แทนราษฎร26สิงหาคม
พ.ศ.2541เป็นประธานกลุ่มสตรีไหหนำ(แห่งประเทศไทย)
เป็นประธานรุ่น19สมาคมนิสิตเก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กรรมการมูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในพระอุปถัมภ์
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
เป็นผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง(ศาลมีนบุรี)วาระที่1
พ.ศ.2551-2552 กรรมการที่ปรึกษาสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชีจุฬาลงกรณ์
พ.ศ.2553 ได้ผ่านการฝึกกระโดดหอสูงกองทัพเรือศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
รางวัลดีเด่น
พ.ศ.2542 ได้รับเลือกเป็นแม่ดีเด่นประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ
พ.ศ.2548 ได้รับคัดเลือกเป็นครอบครัวประชาธิปไตยตัวอย่างจากคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีทำเนียบรัฐบาล
พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณสตรีไทยดีเด่นประเภทกลุ่มสตรีนักธุรกิจของ
สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์
พ.ศ.2550 ได้รับการคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นกรุงเทพมหานครประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติจาก
กรุงเทพมหานคร(12สิงหาคม2550)
พ.ศ.2550 ได้รับโล่เกียรติคุณ อาสาสมัครดีเด่นแห่งชาติ ของสำนักพัฒนาสังคมและอาสาสมัคร สภาสังคมสงเคราะห์
แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์(21ตุลาคมพ.ศ.2550)
พ.ศ.2555 ได้รับประทานรางวัล “พระกินรี” เป็นรางวัล “คนดี คิดดี สังคมดี ตามรอยพระยุคลบาท” ของสมัชชา
นักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
พ.ศ.2555 ได้รับเลือกเป็นนักสังคมสงเคราะห์ดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2554 ประเภท นักสังคมสงเคราะห์อาสาสมัคร ของ
มูลนิธิศาสตราจารย์ปกรณ์อังศุสิงห์
พ.ศ.2555 ได้รับ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาวิชาสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา) จากมหาวิทยาลัย
รามคำแหง
พ.ศ.2555 ได้รับประทานรางวัล “ตาชั่งทอง” เป็นรางวัลที่ได้รับเลือกเป็นบุคคลแบบอย่าง (บุคคลสงเคราะห์ดีเด่นแห่งปี)
จากสำนักงานคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชน สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
กรุงเทพมหานครกระทรวงยุติธรรม
33
![Page 34: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/34.jpg)
รางวัลศาสตรเมธี
ประจำปีพุทธศักราช 2555
นายกว้าง รอบคอบ
ประวัตินายกว้างรอบคอบ
ข้อมูลทั่วไป
วันเดือนปีเกิดวันที่1มกราคม2481
สถานที่เกิด(ภูมิลำเนา)จังหวัดมุกดาหาร
บิดาชื่อนายโจมรอบคอบมารดาชื่อนางเพ็งรอบคอบ
คู่สมรสนางสมสมัยรอบคอบ
ที่อยู่ปัจจุบันบ้านเลขที่8/219หมู่3ซอยร่วมมิตรถนนติวานนท์ตำบลบ้านใหม่อำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี11120
ประวัติการศึกษา
พ.ศ.2498 มัธยมศึกษาปีที่6โรงเรียนปิยะมหาราชาลัยจังหวัดนครพนม
พ.ศ.2500 ป.กศ.โรงเรียนฝึกหัดครูอุดรธานี
พ.ศ.2504 ปริญญาตรีวิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร
พ.ศ.2510 GraduateDiplomainEducationAdministrationจากมหาวิทยาลัยAlbertaประเทศแคนาดา
พ.ศ2534 ปริญญาบัตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
พ.ศ.2534 ประกาศนียบัตรนักบริหารระดับสูงหลักสูตร1(นบส.1)รุ่นที่9
พ.ศ.2554 ปริญญาศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาบริหารการศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
ประวัติการทำงาน
พ.ศ.2504ครูตรี โรงเรียนบำรุงวิทยา(สุนทรวิจิตร)จังหวัดนครพนม
พ.ศ.2505-2509 ครูตรีโรงเรียนปิยะมหาราชาลัยจังหวัดนครพนม
พ.ศ.2509-2513 ครูโทโรงเรียนปิยะมหาราชาลัยจังหวัดนครพนม
พ.ศ.2513-2517 ครูโทโรงเรียนบวรนิเวศทำหน้าที่หัวหน้าโครงการพัฒนาโรงเรียนมัธยมศึกษาในชนบท(คมช.)
พ.ศ.2517-2518 พนักงานพัสดุโท กองการมัธยมศึกษา กรมสามัญศึกษา ทำหน้าที่หัวหน้าโครงการพัฒนาโรงเรียน
มัธยมศึกษาในชนบท(คมช.)
พ.ศ.2518-2521 อาจารย์ใหญ่โรงเรียนปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี
พ.ศ.2521-2532 ผู้อำนวยการโรงเรียนปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี
พ.ศ.2532-2533 ผู้อำนวยการกองการมัธยมศึกษากรมสามัญศึกษา
พ.ศ.2533-2535 รองอธิบดีกรมสามัญศึกษา
พ.ศ.2535-2537 ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ(ผู้ตรวจราชการ10)
พ.ศ.2537-2539 อธิบดีกรมพลศึกษา
พ.ศ.2537-2539 เลขาธิการคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ
34
![Page 35: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/35.jpg)
พ.ศ.2540-2542 เป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้ว่าการกรุงเทพมหานครฝ่ายการศึกษา
พ.ศ.2540-2542 อธิบดีกรมสามัญศึกษา(เกษียณอายุราชการ)
พ.ศ.2545-2546 ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
พ.ศ.2546-2547 กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวิทยาศาสตร์ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
พ.ศ.2547 กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ
พ.ศ.2547 กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย
พ.ศ.2548 กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
พ.ศ.2548 กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข
พ.ศ.2552-2553 ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
พ.ศ.2552 กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยพะเยา
พ.ศ.2552 กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา
เกียรติคุณและเกียรติบัตร
พ.ศ.2537 บุคคลตัวอย่าง
พ.ศ.2535 ศิษย์เก่าดีเด่นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
พ.ศ.2535 ศิษย์เก่าโรงเรียนปิยะมหาราชาลัยผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน
พ.ศ.2535 เกียรติคุณที่ให้การอุปการะโรงเรียนด้วยดีตลอดมาของโรงเรียนปิยะมหาราชาลัยจ.นครพนม
พ.ศ.2535 เกียรติคุณเชิดชูเกียรติที่สนับสนุนกิจการโรงเรียนของโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย
จังหวัดสมุทรปราการ
พ.ศ.2535 เกียรติคุณการจัดตั้งมูลนิธิเสาธงทองโรงเรียนปากเกร็ด
พ.ศ.2535 เกียรติคุณเพื่อแสดงว่ามีสิทธิประดับเข็มเครื่องหมายพระปรมาภิไทยย่อป.ป.ร.ของกองพลปืนใหญ่ต่อสู้
อากาศยานเกียรติบัตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจมกิตติมศักดิ์กองทัพเรือ
พ.ศ.2534 เกียรติคุณคณะกรรมการแรลลี่ลดมลพิษของคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ
พ.ศ.2534 เข็มบุรฉัตรเป็นผู้บำเพ็ญคุณงามความดีมีเกียรติมีศักดิ์ศรีของกรมทหารสื่อสารที่1กองทัพบก
พ.ศ.2534 เกียรติบัตรสมาชิกพลร่มสัมพันธ์กิตติมศักดิ์ของศูนย์สงครามพิเศษกองทัพบก
พ.ศ.2533 พ่อตัวอย่างแห่งชาติของสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา
พ.ศ.2533 เกียรติคุณผู้มีอุปการคุณต่อโรงเรียนมัธยมศึกษาในพระบรมราชูปถัมภ์
พ.ศ.2528 เกียรติบัตร“มาตรฐานวิชาชีพครู”สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
พ.ศ.2626 ผู้บริหารดีเด่นสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
พ.ศ.2552 เกียรติบัตร“HONORARYPROFESSERS”ณเมืองปักกิ่งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
5ธ.ค.2539มหาวชิรมงกุฎ(ม.ว.ม.)
5ธ.ค.2538ประถมาภรณ์ช้างเผือก(ป.ช.)
5ธ.ค.2533ประถมาภรณ์มงกุฎไทย(ป.ม.)
5ธ.ค.2530เหรียญจักรพรรดิมาลา(ร.จ.พ.)
5ธ.ค.2526ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก(ท.ช.)
5ธ.ค.2521ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย(ท.ม.)
5ธ.ค.2519ตริตาภรณ์มงกุฎไทย(ต.ม.)
5ธ.ค.2517จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก(จ.ช.)
5ธ.ค.2510เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย(บ.ม.)
35
![Page 36: Scholar Award](https://reader031.vdocuments.net/reader031/viewer/2022020400/568c51851a28ab4916b2f9e3/html5/thumbnails/36.jpg)
พิมพ์ที่บริษัทธรรมสารจำกัด
83ถ.บำรุงเมืองแขวงเสาชิงช้าเขตพระนครกรุงเทพฯ10200
โทร.0-2226-2599,0-2221-0374แฟกซ์กด104
E-mail:[email protected]