LOGO

หลั�กการเบื้องต้�นเก��ยวVisual Basic 6.0หลั�กการเบื้องต้�นเก��ยวVisual Basic 6.0

CHAPTER 3

อาจารย�ปรเมษฐ์� ดำ�าชู�คณะว!ทยาการจ�ดำการ โปรแกรม

คอมพิ!วเต้อร�ธุ(รก!จ

สร�างป*ญญา สร�างป*ญญา ศร�ทธุาศร�ทธุาความดำ�ความดำ�

1/16

2

ก�าหนดำป*ญหา

การสร�างอ�ลักอร!ธุ-มแลัะรห�สเท�ยม

การสร�างผั�งงาน

การเขี�ยนโปรแกรม

การทดำสอบื้แลัะแก�ไขี

ท�าเอกสารประกอบื้

3

ว!เคราะห�ผัลัลั�พิธุ� ว!เคราะห� Input Process เขี�ยนขี�นต้อนการแก�ป*ญหา

ขี�อม�ลัท��น�าเขี�าส�1ระบื้บื้คอมพิ!วเต้อร�ประกอบื้ดำ�วย

อะไรบื้�าง

- ก�าหนดำว�ต้ถุ(ประสงค�ขีองงาน

- ร�ปแบื้บื้ขีองผัลัลั�พิธุ�

4

ว!เคราะห�ผัลัลั�พิธุ� ว!เคราะห� Input Process เขี�ยนขี�นต้อนการแก�ป*ญหา

ขี�อม�ลัท��น�าเขี�าส�1ระบื้บื้คอมพิ!วเต้อร�ประกอบื้ดำ�วย

อะไรบื้�าง

- ก�าหนดำว�ต้ถุ(ประสงค�ขีองงาน

- ร�ปแบื้บื้ขีองผัลัลั�พิธุ�

5

1. ว!เคราะห�ผัลัลั�พิธุ�ก�าหนดำว�ต้ถุ(ประสงค� การค�านวณหา

พินท��สามเหลั��ยมร�ปแบื้บื้ผัลัลั�พิธุ�

ความยาวฐ์าน = ………………

ความส�ง = ………………พินท��สามเหลั��ยม =

……………

2 .ก�าหนดำขี�อม�ลัเขี�า1. ความยาวฐ์าน

2. ความส�ง

6

ต้1อต้1อ

2

1

3. ขี�นต้อนการประมวลัผัลั (Process)

พินท��สามเหลั��ยม = ความยาวฐ์าน ความส�ง

Variable and Data Type Variable and Data Type

เลัขีจ�านวนเต้3ม เลัขีจ�านวนเต้3ม Byte

0 ถึ�ง 255Integer

-32,768 ถึ�ง 32,767

Long -2,147,483,648

ถึ�ง 2,147,483,648

Byte 0 ถึ�ง 255

Integer

-32,768 ถึ�ง 32,767

Long -2,147,483,648

ถึ�ง 2,147,483,648

เลัขีจ�านวนจร!งเลัขีจ�านวนจร!งSingle

-3.402823E38 ถึ�ง -1.401298E-45 ค่�าลบ ส่�วนค่�าบวก 1.401298E-45 ถึ�ง 3.402823E38

Double -179769313486232E38

ถึ�ง -1.401298E-45 ส่�าหรั�บค่�าลบ และ 1.401298E-45 ถึ�ง 3.402823E38 ส่�าหรั�บค่�าบวก

Single -3.402823E38 ถึ�ง -

1.401298E-45 ค่�าลบ ส่�วนค่�าบวก 1.401298E-45 ถึ�ง 3.402823E38

Double -179769313486232E38

ถึ�ง -1.401298E-45 ส่�าหรั�บค่�าลบ และ 1.401298E-45 ถึ�ง 3.402823E38 ส่�าหรั�บค่�าบวก

Variable and Data Type Variable and Data Type

StringString เก�บื้ขี�อม�ลัท��เป4นสายอ�กขีระ เก�บื้ขี�อม�ลัท��เป4นสายอ�กขีระ

VariantVariant เป4นขี�อม�ลัชูน!ดำพิ!เศษท��เก3บื้

ค1าไดำ�ท(กร�ปแบื้บื้ เป4นขี�อม�ลัชูน!ดำพิ!เศษท��เก3บื้

ค1าไดำ�ท(กร�ปแบื้บื้

8

CurrencyCurrency เป4นต้�วเลัขีทางการเง!น เป4นต้�วเลัขีทางการเง!น

DateDate

เป4นว�นท��ต้�งแต้1 1 มกราคม ค.ศ . 100 ถุ-ง 31 ธุ�นวาคม ค.ศ.9999

เป4นว�นท��ต้�งแต้1 1 มกราคม ค.ศ . 100 ถุ-ง 31 ธุ�นวาคม ค.ศ.9999

9

Boolean

เป4นขี�อม�ลัท��เก3บื้ค1าสองค1าไดำ�แก1 True หรอ False

10

ลัองท�าดำ�ให�เขี�ยนชูน!ดำขี�อม�ลัเขี�อม�ลัเกรัดเฉล��ย Single

อาย�ของค่น Byte

จำ�านวนส่�นค่�า Integer

ค่วามยาวถึนน

single

เพศ String

เง�นเด#อน single

บ�านเลขที่�� String

ให�ต้รวจสอบื้ว1าชูน!ดำขี�อม�ลัท��ใชู�ถุ�กหรอผั!ดำ

11

× Single

×

×

×

×

String

String

String

Boolean

ต้�วอย1างต้�วอย1าง

Input Base (ค่วามยาวของฐาน) เป็'นข�อม(ลชน�ด

Single Height (ค่วามส่(ง) เป็'นข�อม(ลชน�ด Single

Process Area = 0.5 * Base * Height

Output Area เป็'นข�อม(ลชน�ด Single

12

เคร�องหมายท��ใชู�ในการค�านวณ ใน Visual Basic 6.0เคร�องหมายท��ใชู�ในการค�านวณ ใน Visual Basic 6.0

13

n

Div & MODDiv & MOD

DIV คอ เป4นการหารเอาเลัขีจ�านวนเต้3มMOD คอ เป4นการหารเอาเศษท��เหลัอ

ที่�*ง DIV และ MOD ม�กรัรัมว�ธี�เหม#อนก�บการัหารัโดยที่��วๆ เพ�ยงแต่�การัหาค่�างของ DIV จำะเอาค่�าต่อบจำากการัหารัที่��เป็'นเลขจำ�านวนเต่/ม ส่�วนการัหารัค่�า MOD น�*นจำะเอาเศษที่��เหล#อจำากการัหารัเช�นเด�ยวก�น

14

ต้�วอย1างการหาค1าขีอง DIV แลัะ MODต้�วอย1างการหาค1าขีอง DIV แลัะ MOD

จงหาค1าขีอง 5 \ 2 = ???จงหาค1าขีอง 5 MOD 2 = ???

15

2 5

2

4-

1

ค1าขีอง DIV

ค1าขีอง MOD

22

11

หมายเหต้( ต้�วต้�งแลัะต้�วหารขีองการหาค1า Div(\)แลัะ MOD จะต้�องเป4นเลัขีจ�านวนเต้3มเท1าน�นหากค1าใดำค1าหน-�งเป4นเลัขีจ�านวนจร!งจะเก!ดำ Error

หมายเหต้( ต้�วต้�งแลัะต้�วหารขีองการหาค1า Div(\)แลัะ MOD จะต้�องเป4นเลัขีจ�านวนเต้3มเท1าน�นหากค1าใดำค1าหน-�งเป4นเลัขีจ�านวนจร!งจะเก!ดำ Error

ดำ!ป บื้น มอดำลั1าง ต้�งหารปกต้! ม�เฉพิาะเลัขีจ�านวนเต้3ม ม!ฉะน�นจะError !??!

ดำ!ป บื้น มอดำลั1าง ต้�งหารปกต้! ม�เฉพิาะเลัขีจ�านวนเต้3ม ม!ฉะน�นจะError !??!

ชูน!ดำขีอม�ลั

Operator

ชูน!ดำขี�อม�ลั

ผัลัลั�พิธุ� ต้�วอย1าง

Integer

+ Integer

Integer/real

3+2 = 5 หรั#อ 5.0

Integer

- Integer

Integer/real

3-2 = 1 หรั#อ 1.0

Integer

* Integer

Integer/real

3*2 = 6 หรั#อ 6.0

Integer

/ Integer

Real 3/2 = 1.50

Integer

\ Integer

Integer

3\2 = 1

Integer

mod Integer

Integer

3 mod 2 = 1

16

ชูน!ดำขีอม�ลั

Operator

ชูน!ดำขี�อม�ลั

ผัลัลั�พิธุ� ต้�วอย1าง

Real + Real Real 3.0+2.0 = 5.0

Real - Real Real 3.0-2.0 = 1.0

Real * Real Real 3.0*2.0 = 6.0

Real / Real Real 3.0/2.0 = 1.50

Real \ Real ErrorReal MOD Real Error

17

การดำ�าเน!นการการดำ�าเน!นการ

ชูน!ดำขีอม�ลั

Operator

ชูน!ดำขี�อม�ลั

ผัลัลั�พิธุ� ต้�วอย1าง

Integer

+ Real Real 3+2.0 = 5.0

Integer

- Real Real 3-2.0 = 1.0

Integer

* Real Real 3*2.0 = 6.0

Integer

/ Real Real 3/2.0 = 1.50

Integer

\ Real Error

Integer

MOD Real Error

18

ต้�วอย1างเพิ!�มเต้!มต้�วอย1างเพิ!�มเต้!ม

19

24 * 8 Mod 2 =

= Integer

= Integer

Integer *Integer = Integer

Integer *Integer = Integer

MOD Integer = Integer MOD Integer = Integer

ต้�วอย1างเพิ!�มเต้!มต้�วอย1างเพิ!�มเต้!มให�หาผัลัลั�พิธุ�ขีอง z = x + y โดำยก�าหนดำให�

x เก3บื้ขี�อม�ลัชูน!ดำ Integer y เก3บื้ขี�อม�ลัชูน!ดำ Single แลัะก�าหนดำให� s เก3บื้ขี�อม�ลัชูน!ดำ Integer อยากทราบื้ว1าควรก�าหนดำขี�อม�ลัชูน!ดำใดำให�ก�บื้ต้�วแปร z

z = x + y - s

20

= Single

= Single

Integer + Single =SingleInteger + Single =Single

- Integer = Single - Integer = Single

SingleSingle

ลั�าดำ�บื้ความส�าค�ญขีองเคร�องหมายลั�าดำ�บื้ความส�าค�ญขีองเคร�องหมายลั�าดำ�บื้ท��

เคร�องหมาย

1 ()2 ^3 * , /4 \ , MOD5 + , -

21

เคร�องหมายม�ความส�าค�ญเป4นอย1างมากเพิราะม�ผัลัต้1อผัลัลั�พิธุ�ท��ออกมา

เคร�องหมายม�ความส�าค�ญเป4นอย1างมากเพิราะม�ผัลัต้1อผัลัลั�พิธุ�ท��ออกมา

ExampleExample

แบื้บื้น�ผั!ดำ 5+2* 7 = ??? 5+2* 7 = ???

แบื้บื้น�ถุ�ก 5 +2* 7 = ??? 5 +2* 7 = ???

22

= 7

= 49

= 14

= 19

เพิราะเคร�องหมายค�ณ ม�ความส�าค�ญมากกว1าเคร�องหมายจะต้�องดำ�าเน!นการก1อน

เพิราะเคร�องหมายค�ณ ม�ความส�าค�ญมากกว1าเคร�องหมายจะต้�องดำ�าเน!นการก1อน

2 *7 = 142 *7 = 14

+ 5 = 19 + 5 = 19

ลัองท�าดำ�ลัองท�าดำ�ให�ค�านวณหาค1าขีองต้�วแปร (Variable)

พิร�อมท�งก�าหนดำชูน!ดำขี�อม�ลัให�ก�บื้ต้�วแปรA=24 * 8 Mod 2 =???B=8 \2 MOD 3 =???C=120 /2 +4 *8 = ????D=16/2 div 4 = ???E=100*10 \ 2 mod 5 = ???

23

A= 24 * 8 Mod 2 =???

B=8 \2 MOD 3 =???C=120 /2 +4 *8 = ????D=16/2 div 4 = ???E=100*10 \ 2 mod 5 = ???

24

192

0

24 * 8 = 19224 * 8 = 192

Integer * Integer = IntegerInteger * Integer = Integer

192 MOD 2 = 0192 MOD 2 = 0

Integer MOD Integer= IntegerInteger MOD Integer= Integer

ต้อบื้ 0 ต้อบื้ A เก3บื้ขี�อม�ลัชูน!ดำ Integer

ลัองท�าดำ�ลัองท�าดำ� B = 8 \ 2 MOD 3

25

= 4

= 1

8 \ 2 = 4 Integer \ Integer = Integer

8 \ 2 = 4 Integer \ Integer = Integer

MOD 3 = 1Integer MOD Integer = Integer

MOD 3 = 1Integer MOD Integer = Integer

ค�าต้อบื้ 1 ควรก�าหนดำต้�วแปร B เก3บื้ขี�อม�ลัชูน!ดำ Integer

ค�าต้อบื้ 1 ควรก�าหนดำต้�วแปร B เก3บื้ขี�อม�ลัชูน!ดำ Integer

ลัองท�าดำ�ลัองท�าดำ�ให�ค�านวณหาค1าขีองต้�วแปร (Variable)

พิร�อมท�งก�าหนดำชูน!ดำขี�อม�ลัให�ก�บื้ต้�วแปร

C=120 /2 +4 *8 = D=16/2 div 4 =

E=100*10 \ 2 mod 5 =

26

92.092.0 C=SingleC=Single

ErrorError

00 E=IntegerE=Integer

เพิราะ 16/2 = 8.0 div 4 = Error Integer/Integer =Real Real DIV Integer = Error

เพิราะ 16/2 = 8.0 div 4 = Error Integer/Integer =Real Real DIV Integer = Error

AssignmentAssignment

ให�เขี�ยนโปรแกรมเพิ�อค�านวณเง!นเดำอนส(ทธุ!ท��จะต้�องจ1ายให�พิน�กงาน โดำยพิน�กงานท(กคนจะถุ�กห�กเง!นประก�นส�งคม 5% แลัะค1าเง!นกองท(น 3% โดำยให�ร�บื้เง!นเดำอนขีองพิน�กงานจากแป7นพิ!มพิ�

จงเขี�ยนโปรแกรมเพิ�อค�านวณหาจ�านวนเง!นฝากในอนาคต้ โดำยผั��ใชู�โปรแกรมสามารถุป7อนจ�านวนเง!นฝาก อ�ต้ราดำอกเบื้�ย แลัะจ�านวนป9ท��ฝากไดำ�ต้ามต้�องการ ส�ต้รดำ�งน� FV = PV(1+i)

• FVn = ม(ลค่�าของเง�นในอนาค่ต่• PV = ม(ลค่�าของเง�นในป็2จำจำ�บ�น• I = อ�ต่รัาดอกเบ�*ย• N = รัะยะเวลาในการัฝากเง�น

27

nn

28

LOGO สร�างป*ญญา สร�างป*ญญาศร�ทธุาความดำ�ศร�ทธุาความดำ�

29