full cnt1 n rev1
TRANSCRIPT
การเตรยีมเสน้ใยขนาดนาโนของสารละลายพอลิไวนิลแอลกอฮอล์กับท่อนาโนคารบ์อน
Preparation of Electrospun Poly(vinyl alcohol)/Multi-walled carbon nanotubes
เจษฎา วงษ์อ่อน*1, สภุาภรณ์ ทมุสอน 2, สเุนตร มูลทา 1 , เกียรติชยั อ่ำ�าครองธรรม 1 และ พทัิกษ์ พนาวนั 1
Jessada W ong on *1, Supaphorn Thumsorn2, Sunate Moontha1 , Kiatchai Umchrongtum1 and Pitak Panawan1
1 สาขาวชิาวศิวกรรมอุตสาหการ คณะวศิวกรรมศาสตร ์สถาบนัเทคโนโลยปีทมุวนั2 ภาควชิาวศิวกรรมสิ�งทอ คณะวศิวกรรมศาสตร ์มหาวทิยาลัยเทคโนโลยรีาชมงคล ธญัญบุรี
บทคัดยอ่งานวจิยัน้ีเป็นการศึกษาการเตรยีมเสน้ใยขนาดนาโนจากวสัดผุสมระหวา่ง PVA/MWCNT
ด้วยเทคนิคอิเลคโตร- สปิ� นนิ�ง จากการทดลองพบวา่การท่ำาใหท้่อนาโนคารบ์อนกระจายตัวใน PVA นัน้ค่อนขา้งยาก เนื�องจากการจบัตัวกันเองของท่อนาโนคารบ์อน (Aggregation) ที�เป็นเชน่นี้มีสาเหตมุาจากแรงวลัเดอวาล์ที�เกิดระหวา่งท่อนาโนคารบ์อนกันเอง ท่ำาใหส้มบติัของวสัดผุสมที�ได้จงึมแีนวโน้มต่ำ�ากวา่ที�ควรจะเป็น ในงานวจิยัน้ีจงึใชส้ารลดแรงตึงผิวชนิด Tritron X 100 และกระบวนการอัลตรา้โซนิคชว่ยในการกระจายตัวของท่อนาโนคารบ์อน เมื�อสารละลายผ่านกระบวนการอัลตรา้โซนิค ท่อนาโนคารบ์อนจะแตกตัวออกจากกัน สารลดแรงตึงผิวจะเขา้จบัตัวกับท่อนาโนคารบ์อน ท่ำาใหท่้อนาโนคารบ์อนไมส่ามารถกลับเขา้มารวมตัวกันใหมไ่ด้ เนื�องจากโมเลกลุของสารลดแรงตึงผิวจะเขา้ไปแทรกระหวา่งท่อนาโนคารบ์อน ท่ำาใหเ้มื�อเติมสารละลาย PVA สามารถเขา้แทรกตัวในชอ่งของท่อนาโนคารบ์อนได้ดี จากการขึ้นรูปด้วยอิเลคโตรสปิ� นนิ�งพบวา่ได้เสน้ใยที�เตรยีมได้มีขนาดระหวา่ง 200-300 นาโนเมตร โดยขนาดของเสน้ใยจะลดลงเมื�อเพิ�มปรมิาณท่อนาโนคารบ์อนคำาสำาคัญ : อิเลค โตรสปิ� นนิ�ง / ท่อนาโนคารบ์อน / สารลดแรงตึงผิว / การกระจายตัว
AbstractComposite nanofibers from poly(vinyl alcohol)(PVA) and multiwall
carbon nanotube (MWCNT) were prepared by electrospinning technique. The contents of MWCNT were varied from 2-10 wt%. Since MWCNT aggregation has been easily occurred, surfactant was introduced for good dispersion of MWCNT in PVA/MWCNT composite nanofibers. MWCNT was dispersed in Tritron X-100 via ultrasonic technique in order to improve dispersion and prevent the aggregation of MWCNT in PVA solution. The effects of the surfactant, Tritron X-100, and MWCNT contents on morphology of the composite nanofibers were investigated. From the results, it could be seen that Tritron X-100 improved the ability of MWCNT dispersion in the PVA solution. SEM photographs showed that the PVA/MWCNT composite nanofibers were smooth, which no bead was found in the composite nanofibers. The size of composite nanofibers was in the range 200-300 nm, it was decreased with increasing MWCNT contents.
Keywords : electrospinning / carbon nanotube / surfactant / dispersion
*Corresponding author. E-mail : [email protected]
1. บทนำากระบวนการปั� นเสน้ใยด้วยไฟฟา้สถิต (Electro spinning) เป็นกระบวนการที�อาศัยแรง
ทางไฟฟา้ที�เกิดจากศักยไ์ฟฟา้ก่ำาลังสงู เป็นระบบที�มคีวามซบัซอ้นน้อย ต้นทนุต่ำ�า สามารถควบคมุขนาดและปรมิาณการเกิดเสน้ใยได้ต่อเนื�อง การผลิตเสน้ใยนาโนโดยกระบวนการไฟฟา้สถิตต่างจากวธิผีลิตเสน้ใยอื�นคือ กระบวนการนี้จะใชแ้รงทางไฟฟา้แทนแรงทางกล โดยใชพ้อลิเมอรซ์ึ�งอาจจะอยู่ในรูปสารละลาย หรอื สารหลอมเหลวที�อยูใ่นรูขนาดเล็ก จะถกูท่ำาใหเ้กิดประจุไฟฟา้ที�ผิวหน้าโดยใช้สนามไฟฟา้ความแรงสงู เนื�องจากประจุที�เกิดขึ้นมขีัว้เหมอืนกันจงึมแีรงผลักระหวา่งประจุเกิดขึ้น แรงผลักนี้เรยีกวา่ Repulsive Coulombic Force เมื�อมมีากพอถึงขัน้หนึ�งก็จะไปเอาชนะแรงตึงผิวของพอลิเมอรเ์หลวได้ เสน้พอลิเมอรเ์หลวก็จะถกูฉีดออกมาและจะเปลี�ยนเป็นเสน้ใย โดยการระเหยออกของตัวท่ำาละลาย หรอืโดยการถ่ายเทความรอ้นใหก้ับสิ�งแวดล้อม.[Kenawy, E.R. 2002] สามารถเตรยีมเสน้ใยขนาดนาโนได้จากวสัดหุลากหลาย โดยเฉพาะพลาสติก ซึ�งมแีนวโน้มการน่ำามาใชม้ากขึ้นในปัจจุบนั แต่ สว่นใหญ่มปัีญหาเรื�องสมบติัที�ยงัไมห่ลากหลายเมื�อต้องน่ำาไปใช้งาน จงึมกีารเติมสารลงไปผสมเพื�อเสรมิสมบตัิด้านต่างๆ เชน่ เสรมิความแขง็แรงเป็นต้น การเติมสารลงไปจะท่ำาใหก้ลายเป็นวสัดผุสม เชน่ วสัดผุสมที�เติมท่อนาโนคารบ์อน ซึ�งมสีมบติัเด่นหลายประการเชน่ แขง็แรง น่ำาไฟฟา้ เป็นต้น [Breuer, O., Sundararaj, U.,2004 ]
ถึงแมว้า่วสัดผุสมที�เตรยีมจากท่อนาโนคารบ์อนจะมสีมบตัิที�ดีทัง้ในแง่ของสมบติัเชงิกล สมบติัการน่ำาไฟฟา้ สมบติัการน่ำาความรอ้น ฯลฯ โดยมกีารน่ำาไปใชง้านค่อนขา้งกวา้งขวาง แต่ปัญหาส่ำาคัญในกระบวนการเตรยีมวสัดผุสมจากท่อนาโนคารบ์อน คือการจบัตัวกันเองของท่อนาโนคารบ์อน (Aggregation) ที�เป็นเชน่นี้มสีาเหตมุาจากแรงวลัเดอวาลที�เกิดระหวา่งท่อนาโนคารบ์อนกันเอง โดยในการจบัตัวดังกล่าวจะเกิดขึ้นทัง้ใน SWCNT และ MWCNT ในรูปที� 1 แสดงการจบัตัวของท่อนาโนคารบ์อน ในรูปที� 1 ก แสดงการจบัตัวของ SWCNT ที�มลัีกษณะเป็นมดัดินสอ (bundle) ในขณะที� MWCNT จะจบัตัวเป็นก้อน (agglomerate) ในรูปที� 1 ข
ก ขรูปที� 1 แสดงการจบัตัวของท่อนาโนคารบ์อน ก) SWCNT ข) MWCNT [Breuer,
O., Sundararaj, U.,2004 ]
นอกจากนัน้ในการขึ้นรูปพอลิเมอรผ์สมท่อนาโนคารบ์อน ยงัพบปัญหาการยดึเกาะระหวา่งท่อนาโนคารบ์อนกับพอลิเมอร ์เนื�องจากท่อนาโนคารบ์อนมแีรงยดึเกาะกับพอลิเมอรไ์ด้ไมด่ี ทัง้การจบัตัวเป็นก้อนและแรงยดึเกาะกับพอลิเมอรที์�ต่ำ�า สง่ผลเสยีเมื�อน่ำาท่อนาโนคารบ์อนไปท่ำาการขึ้นรูปวสัดผุสม ท่ำาใหส้มบตัิของวสัดผุสมที�ได้จงึมแีนวโน้มต่ำ�ากวา่ที�ควรจะเป็น ทัง้ในแง่ของสมบตัิเชงิกล สมบติัทางความรอ้น และสมบติัทางไฟฟา้ ดังนัน้ในก่อนการขึ้นรูปวสัดผุสมที�มาจากท่อนาโนคารบ์อนจ่ำาเป็นต้องมกีระบวนการที�ท่ำาใหท่้อนาโนคารบ์อนเกิดการกระจายตัวอยา่งสม่ำ�าเสมอโดยไม่จบัตัวเป็นก้อน และเสรมิสรา้งแรงยดึเกาะระหวา่งเฟสของท่อนาโนคารบ์อนกับพอลิเมอร ์โดยในงานวจิยัน้ีจะทดลอง โดยการเติมสารที�เรยีกวา่ สารลดแรงตึงผิวลงไปผสมกับท่อนาโนคารบ์อน โดยสารดังกล่าวจะท่ำาหน้าที�ชว่ยลดค่า Surface tension ของท่อนาโนคารบ์อนลง ซึ�งจะสง่ผลใหล้ดการจบัตัวกันเองของท่อนาโนคารบ์อน
ดังนัน้งานวจิยันี้เป็นการศึกษาการขึ้นรูปเสน้ใยนาโนโดยกระบวนการปั� นเสน้ใยด้วยไฟฟา้สถิต (Electro Spinning) และศึกษาสภาวะที�เหมาะสมส่ำาหรบัการขึ้นรูปเสน้ใยนาโนผสมท่อนาโนคารบ์อนด้วยเทคนิคการปั� นเสน้ใยด้วยไฟฟา้สถิต และศึกษาอิทธพิลของการใชส้ารลดแรงตึงผิวเพื�อชว่ยการกระจายของท่อนาโนคารบ์อน
2. วธิกีารทดลองและสารเคมีในงานวจิยัน้ีใชท่้อนาโนคารบ์อนแบบ Multiwall carbon nanotube จากบรษัิท
Arkema สารลดแรงตึงผิวใชส้าร Triton X 100 และ PVA(Mw=146000-186000) จากบรษัิท central supply 2548 ในงานวจิยัน้ีแบง่การเตรยีมสารออกเป็น 2 ขัน้ คือ
2.1 เตรยีมสารละลาย PVA/Triton X 100 / MWCNT 2.1.1 เตรยีมสารละลายตัวอยา่งโดยการละลาย Triton X 100 ใน DI water
ความเขม้ขน้ 1 % โดยน่ำ้าหนัก จากนัน้ใชปั้� นด้วย Magnetic stirring เป็นเวลา 20 นาที 2.1.2 ท่ำาการเติม MWCNT ลงไปตามน่ำ้าหนักในตารางที� 1 ซึ�ง MWCNT จะถกู
ท่ำาใหแ้ตกตัวในสารละลายด้วยกระบวนการอัลตรา้โซนิคแรงสงู เป็นเวลา 5 นาที 2.1.3 น่ำา PVA เติมลงไปตามน่ำ้าหนักในตารางที� 1 จากนัน้ใชก้ระบวนการอัลตรา้โซนิค
แรงสงู เป็นเวลา 5 นาที
ตารางท่ี 1 แสดงสว่นผสมของตัวอยา่งที�ใชใ้นการทดลองรหสั1
ปรมิาณน่ำ้า 100 มลิลิลิตร MWCNT (g)PVA (g) Triton X 100 (g)
MWCNT-0
98.93 1.07 0
MWCNT-2
98.93 1.07 2
MWCNT-5
98.93 1.07 5
MWCNT-10
98.93 1.07 10
2.2 การขึ้นรูปเสน้ใยนาโนผสมท่อนาโนคารบ์อนด้วยเทคนิคการปั� นเสน้ใยด้วยไฟฟา้สถิต 2.2.1.จดัเตรยีมเครื�องปั� นเสน้ใยด้วยฟา้สถิตตามรูปที� 2 2.2.2.ท่ำาการผสมสารละลาย PVA กับ MWCNT ตามอัตราสว่น 0% 2%, 5%, 10% ตามล่ำาดับ 2.2.3.ในการขึ้นรูปทกุอัตราสว่นจะปรบัศักยไ์ฟฟา้เป็น 20 kV โดยที�ปรบัระยะหา่ง
ระหวา่งปลายเขม็กับอุปกรณ์รองรบัเสน้ใยเป็น 15 เซนติเมตรและใชอั้ตราการไหล 1.5 มลิลิลิตรต่อชั�วโมง เวลาที�ใชใ้นการเก็บตัวอยา่งเสน้ใยเป็นเวลา 2 ชั�วโมง 30 นาที
รูปท่ี 2 การจดัเตรยีมอุปกรณ์เครื�องปั� นเสน้ใยด้วยไฟฟา้สถิต
2.3 ศึกษาสณัฐานวทิยาของชิน้งานตัวอยา่งที�ผลิตด้วยเงื�อนไขขา้งต้น ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบสอ่งกราด (SEM: Scanning Electron Microscope)ยี�หอ้ JEOL รุน่ JSM-6510 ใชก้ระแสไฟฟา้ 20KV และก่ำาลังขยาย 10000 เท่าและใชโ้ปรแกรมโปรแกรม Image Analazer PT1002 ในการวดัขนาดเสน้ใยที�เตรยีมขึ้น
3. ผลและอภิปราย3.1 อิทธพิลของสารลดแรงตึงผิวต่อการรวมตัวของ MWCNT
การน่ำา MWCNT มาใชนั้น้ต้องท่ำาใหเ้กิดการแตกตัวอยา่งสมบูรณ์ก่อนจงึจะน่ำามาใช้งาน เนื�องจากสมบตัิของท่อนาโนคารบ์อนนัน้มค่ีาแรงตึงผิวสงูจงึสง่ผลใหม้แีรงวลัเดอวาล์ที�ยดึเหนี�ยวระหวา่งโมเลกลุของ MWCNT มมีาก [Chiang, I. W., Brinson B. E., Smalley, R. E.,(2001)] ซึ�งการจบัตัวกันเองของ MWCNT จะท่ำาใหส้มบติัของวสัดผุสมที�ได้จงึมแีนวโน้มต่ำ�ากวา่ที�ควรจะเป็น ทัง้ในแง่ของสมบตัิเชงิกล สมบติัทางความรอ้น และสมบติัทางไฟฟา้ ดังนัน้ก่อนการขึ้นรูปวสัดผุสมที�มาจากท่อนาโนคารบ์อนจ่ำาเป็นต้องมกีระบวนการที�ท่ำาใหท่้อนาโนคารบ์อนเกิดการกระจายตัวอยา่งสม่ำ�าเสมอโดยไมจ่บัตัวเป็นก้อน จากการศึกษาพบวา่การใชอั้ลตรา้โซนิคนัน้สามารถชว่ยในการแตกตัวของ MWCNT ใหแ้ยกออกจากกัน แต่กระบวนการดังกล่าวยงัไม่สามารถท่ำาให ้MWCNT นัน้แตกตัวได้อยา่งสมบูรณ์ พบวา่ภายหลัง MWCNT ผ่านกระบวนการดังกล่าว จะเกิดการตกตะกอนกลับมารวมตัวกันอีกเมื�อปล่อยทิ้งไว ้[Kearns, J. C., Shambaugh, R. L. 2002] จงึมกีารเติมสารลดแรงตึงผิวเพื�อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยจะท่ำาหน้าที�ลดแรงตึงผิวและป้องกันการกลับมารวมตัวของ MWCNT [Saito, T., Matsushige, K., Tanaka, K. 2002] สารลดแรงตึงผิวที�ใชคื้อ Triton X 100 ซึ�งสารดังกล่าวจะท่ำาให ้MWCNT นัน้ไมก่ลับมารวมตัวกันอีกแมผ้่านไป 12 ชั�วโมง ดังแสดงในรูปที� 3
ก ขรูปท่ี 3 การเตรยีมสารละลาย PVA/MWCNT/Triton x100 / H2O และ
PVA/MWCNT/H2O ด้วยกระบวนการอัลตรา้โซนิค ก) แสดงสารละลายหลังผ่าน 30 นาที ข). แสดงสารละลายหลังผ่านไป 12
ชั�วโมง
ที�เป็นเชน่นี้เนื�องจากสารลดแรงตึงผิวนัน้มสีว่นที�ชอบน่ำ้า (hydrophilic) และไมช่อบน่ำ้า (hydrophobic) [ O'Connell, M. J., Boul, P., Ericson, L. M., Huffman, C., Wang, Y., Haroz,(2001)] โดยสว่นที�ไมช่อบน่ำ้าจะเขา้จบักับ MWCNT และสว่นที�ชอบน่ำ้าจะเขา้กับน่ำ้าได้ดี สง่ผลในกระบวนการอัลตรา้โซนิคเมื�อ MWCNT แตกตัวออกจากกัน สารลดแรงตึงผิวจะจบัตัวกับ MWCNT ท่ำาใหไ้มส่ามารถกลับเขา้มารวมตัวกันใหมไ่ด้ เนื�องจากโมเลกลุของสารลดแรงตึงผิวจะเขา้ไปแทรกระหวา่ง MWCNT จงึเกิดชอ่งวา่งระหวา่ง MWCNT ท่ำาใหเ้มื�อเติมสารละลาย PVA สามารถเขา้แทรกตัวในชอ่งของ MWCNT ได้ดี ดังแสดงกลไกการท่ำางานของสารลดแรงตึงผิวในรูปที� 4
รูปท่ี 4 แสดงกลไกการท่ำางานของสารลดแรงตึงผิว3.2. โครงสรา้งของเสน้ใย PVA ผสม MWCNT ลักษณะสณัฐานวทิยาของเสน้ใยที�ได้จากสารละลาย PVA ผสม MWCNT โดยการปั� นเสน้ใย
ด้วยไฟฟา้สถิตโดยใชส้ารละลายตัวอยา่งตามตารางที�1 โดยใชศั้กยไ์ฟฟา้ 20 กิโลโวลต์ ระยะหา่งระหวา่งหวัเขม็กับฐานรอง 15 เซนติเมตร อัตราการไหล 1.5 มลิลิลิตร/ชั�วโมง ทัง้หมด 4 ตัวอยา่งดังแสดงในรูปที� 5 ดังนี้
ก ข
ค ง
รูปท่ี 5 แสดงโครงสรา้งของเสน้ใย PVA / MWCNT ที�ก่ำาลังขยาย 10000 เท่า
ก). สตูร MWCNT-0 ข). สตูร MWCNT-2 ค). สตูร MWCNT-5 ง). สตูร MWCNT-10
ลักษณะสณัฐานวทิยาของตัวอยา่ง MWCNT-0 ที�เตรยีมได้มลัีกษณะกายภาพคือ มีลักษณะผิวเรยีบเสน้กลมยาวอยา่งสม่ำ�าเสมอทัง้เสน้ พบปมตรงกลางของเสน้บา้งอาจเกิดจากการหยดของสารละลายที�มคีวามหนืดต่ำ�าและตัวอยา่ง MWCNT-2 มองเหน็เสน้มขีนาดเล็กลง และเหน็ปมมากขึ้น อาจเกิดจากการแตกตัว MWCNT และการแทรกตัวของสารละลาย PVA ซึ�งผสมเขา้กันได้ไมด่ีนัก ซึ�งสอดคล้องกับเสน้ใยที�ได้จากสตูร MWCNT-5 และ MWCNT-10 ซึ�งมลัีกษณะผิวของเสน้ใยไมค่่อยเรยีบและสามารถมองเหน็ปมตรงกลางของเสน้แสดงวา่ MWCNT เกิดการรวมตัวกันเอง ท่ำาใหเ้สน้ใยไมเ่รยีบอยา่งสม่ำ�าเสมอ [Bhattacharyya, S., Sinturel, C., Salvetat, J. P., Saboungi, M. L. (2005)]
3.3 ขนาดเสน้ผ่านศูนยก์ลางของเสน้ใยจากตารางที�2 พบวา่ตัวอยา่ง MWCNT-0 ที�ไมไ่ด้เติม MWCNT จะมขีนาดของเสน้ผ่า
ศูนยก์ลางใหญ่ที�สดุ รองลงมาที�ตัวอยา่ง MWCNT-2 และอื�นๆ ตามล่ำาดับ และพบวา่เสน้ใยจะมีขนาดลดลงเมื�อปรมิาณของ MWCNT เพิ�มขึ้น ซึ�งการเติม MWCNT ท่ำาใหเ้สน้ใยมขีนาดเล็กลง เนื�องจากเป็นการลดปรมิาณสายละลายพอลิเมอร ์สง่ผลต่อแรงยดึตัวจากความหนืด(viscoelastic force)ของสารละลายลดลง เมื�อเทียบกับแรงไฟฟา้สถิต (electrostatic -force) ซึ�งท่ำาใหข้นาดเสน้ผ่านศูนยก์ลางโดยเฉลี�ยของเสน้ใยมขีนาดเล็กลง [Hohman MM, Shin M, Rutledge G, Brenner MP.( 2001)] เมื�อพจิารณาเฉพาะในกลุ่มที�เติม MWCNT ด้วยกันในสตูร MWCNT-2, MWCNT-5 และสตูร MWCNT-10 พบวา่ค่าเฉลี�ยขนาดของเสน้ใยลดลงตามปรมิาณการเติม MWCNT แต่เมื�อพจิารณาค่าของสว่นเบี�ยงแบนมาตราฐานพบวา่มขีนาดเสน้ใยเฉลี�ยแทบไมแ่ตกต่างอยา่งมนีัยยะส่ำาคัญ ซึ�งแสดงวา่ขนาดของเสน้ผ่านศูนยก์ลางเฉลี�ยของเสน้ใยทัง้ 3 สตูร มขีนาดเสน้ผ่านศูนยก์ลางเฉลี�ยที�ไมต่่างกัน แสดงวา่ปรมิาณ MWCNT ที�เติมลงไปปรมิาณ 2, 5 และ 10 wt.% ไมส่ง่ผลต่อขนาดของเสน้ใยในการทดลองนี้ ดังแสดงในตารางที� 2
ตารางท่ี2 แสดงขนาดเสน้ผ่านศูนยก์ลางของเสน้ใย PVA ผสม MWCNT ในปรมิาณต่างๆ
ศักยไ์ฟฟา้ (kV)
ขนาดเสน้ผ่านศูนยก์ลางโดยเฉลี�ย (nm)
MWCNT-0 295 6MWCNT-2 220 10MWCNT-5 208 5MWCNT-10 201 3
4. บทสรุป
ในการเตรยีมเสน้ใยนาโนของสารละลายระหวา่ง PVA/MWCNT นัน้ การน่ำา PVA ผสม MWCNT โดยตรงมาผสมกัน จะเกิดการตกตะกอนแยกตัวระหวา่ง PVA และ MWCNT เมื�อน่ำามาฉีดพบวา่ไมส่ามารถฉีดได้เนื�องจากเกิดการอุดตันที�รูเขม็ ซึ�งเกิดจากสาเหตกุารจบัตัวของ MWCNT เมื�อท่ำาการเติมสารลดแรงตึงผิวจะไปชว่ยลดการจบัตัวกันเองระหวา่ง MWCNT และป้องกันการกลับมารวมตัวของ MWCNT ท่ำาใหเ้มื�อน่ำาสารละลายดังกล่าวมาขึ้นรูปเป็นเสน้ใยขนาดนาโนด้วยกระบวนการ Electrospining เสน้ใยที�ได้มขีนาดค่อนขา้งเล็กและสามารถขึ้นรูปได้ยาวอยา่งต่อเนื�อง
5.เอกสารอ้างอิง Kenawy, E.R. (2002). Electrospinning of poly (ethylene-co-vinyl alcohol) fibers. Journal of Biomaterails. 24, 907-913.Breuer, O., Sundararaj, U.,( 2004), Big return from small fibres: a review of
polymer/carbon nanotubes composites. Polymer composites 2004, 25, 630-644.
Chiang, I. W., Brinson B. E., Smalley, R. E.,(2001). Purification and characterization of single-wall carbon nanotubes. Journal of Physical Chemistry B, 105, 1157–1161.
Kearns, J. C., Shambaugh, R. L. (2002), Polypropylene fibres reinforced with carbon nanotubes. Journal of Applied Polymer Science, 86, 2079-2084.
Saito, T., Matsushige, K., Tanaka, K. (2002), Chemical treatment and modification of multi-walled carbon nanotubes. Physical B., 323, 280-283.
O'Connell, M. J., Boul, P., Ericson, L. M., Huffman, C., Wang, Y., Haroz,(2001), Reversiblewater-solubilization of single-walled carbon nanotubes by polymer wrapping.Chemical Physics Letters. 42, 265-271.
Bhattacharyya, S., Sinturel, C., Salvetat, J. P., Saboungi, M. L. (2005), Protein-functionalized carbon nanotube-polymer composites. Applied PhysicsLetters, 86, 113-118
Hohman MM, Shin M, Rutledge G, Brenner MP.(2001), Electrospinning and electrically forced jets. II. Applications. Physics of Fluids. 13(8), 102-108