lean six sigma pocket toolbook thai version - sample
TRANSCRIPT
เครื่องมือ Lean Six Sigma
The Holistic Operational Strategy Series Cop
yrigh
ted M
ateria
l of E
.I.SQUARE P
UBLISHIN
G
ลิขสิทธิ์ภาษาไทย : บริษัท อี.ไอ.สแควร์ พับลิชชิ่ง จำกัด แต่เพียงผู้เดียว ห้ามลอกเลียนแบบไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ นอกจากได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
Original edition copyright © 2005 by George Group published by McGraw-Hill Companies, as set forth in copyright notice of Proprietor’s edition. All rights reserved. Thai translation rights © 2011 by E.I.Square Publishing Company Limited. All rights reserved.
เครื่องมือ Lean Six Sigma แปลจาก Lean Six Sigma Pocket Toolbook
Michael L. George, David T. Rowlands, Mark Price, John Maxey เขียน
ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ พรเทพ เหลือทรัพย์สุข แปล
ข้อมูลบรรณานุกรม
จอร์จ, ไมเคิล แอล.
เครื่องมือ Lean Six Sigma.- - กรุงเทพฯ : อี.ไอ.สแควร์ สำนักพิมพ์, 2554.
416 หน้า.
1. การควบคุมคุณภาพ. 2. การบริหารคุณภาพโดยรวม.
I. โรวแลนด์, เดวิด ที., ผู้แต่งร่วม. II. ไพร์ซ, มาร์ค, ผู้แต่งร่วม.
III. แมกเซย์, จอห์น, ผู้แต่งร่วม. IV. วิทยา สุหฤทดำรง, ผู้แปล.
V. พรเทพ เหลือทรัพย์สุข, ผู้แปลร่วม. VII. ชื่อเรื่อง. 658.562 ISBN 978-616-7062-15-0
10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 58 57 56 55 54
• บรรณาธิการบริหาร บัญจรัตน์ สุหฤทดำรง • กองบรรณาธิการ ธีรกร เกียรติบรรลือ, บุญส่ง ลิปิมาศ, จันทิมา คำยิ่ง • การตลาด/ขาย สุจิตรา อ่อนช่วย, มาลินี จำปาวะดี, นันต์ชิตา งานไธสง • ออกแบบปก [email protected] • ออกแบบรูปเล่ม อังสนา ชิตรัตน์
หากหนังสือเล่มนี้ผลิตไม่ได้มาตรฐาน อาทิ หน้ากระดาษสลับกัน หน้าซ้ำ หน้าขาดหาย สำนักพิมพ์ยินดีรับผิดชอบเปลี่ยนให้ใหม่ หากต้องการซื้อจำนวนมากเพื่อใช้ในการฝึกอบรม ส่งเสริมการขาย หรือเป็นของขวัญ กรุณาสอบถามราคาพิเศษได้ ยินดีน้อมรับความเห็นหรือคำติชม
ผลิตโดย อี.ไอ.สแควร์ สำนักพิมพ์
จัดจำหน่าย : บริษัท อี.ไอ.สแควร์ พับลิชชิ่ง จำกัด
เลขที่ 143/2 ซอยลาดพร้าว 94 ถนนลาดพร้าว แขวง พลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
พิมพ์ : บริษัท ส.เอเซียเพรส (1989) จำกัด
ติดต่อ : [email protected] โทรศัพท์ 0 2539 3373, 081 923 4122 โทรสาร 0 2539 3379 www.eisquare.com
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
คำนำผู้แปล
การอยู่รอดขององค์กรท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง และในภาวะที่มีการ
เปลี่ยนแปลงอยางรวดเร็ว ทำให้ต้องมีการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ขององค์กรในการ
มุ่งเน้นไปที่กิจกรรมซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จขององค์กร ทุกวงการธุรกิจเริ่มมีความจำเป็นที่
ต้องเปลี่ยนแปลง หรือในบางองค์กรก็ได้เริ่มมีวิวัฒนาการไปทำในสิ่งที่ตนเองไม่เคย
ปฏิบัติมาก่อนเพื่อความอยู่รอดขององค์กรธุรกิจ มีการบูรณาการแนวคิดในการพัฒนา
ปรับปรุง นำแนวคิดในการพัฒนากระบวนการจากมิติการมองกระบวนการที่แตกต่างกัน
มารวมกัน เช่น โครงการ Six Sigma การผลิตแบบลีน (Lean Manufacturing) และการ
จัดการโซ่อุปทาน (Supply Chain Management) ซึ่งแต่เดิมแล้ว องค์กรต่างๆ ได้เลือกใช้
แนวทาง “แต่ละแนวทาง” ตามที่แต่ละองค์กรเห็นว่าเหมาะสมกับตน การบูรณาการ
แนวคิดทั้งหลายเข้าด้วยกันนี้ ก็เพื่อที่จะได้พัฒนาองค์กรไปในทิศทางเดียวกัน โดยมุ่งสู่
ความเป็นเลิศเชิงกระบวนการ (Process Excellence) ซึ่งหมายถึงว่าเป็นการบูรณาการ
ทั้ง Lean และ Six Sigma เข้าด้วยกัน โดยมุ่งเน้นที่กระบวนการธุรกิจ (Business
Process) หรือในอีกมุมมองหนึ่งก็คือ กระบวนการโซ่อุปทาน (Supply Chain) นั่นเอง
นกัปฏบิตัแิละมอือาชพีทีอ่ยูใ่นแวดวงการปรบัปรงุกระบวนการดว้ยการบรูณาการ
Lean และ Six Sigma คงต้องเคยอ่านหนังสือของ Michael George และกลุ่มเพื่อนๆ
ของเขามาไม่มากก็น้อย ซึ่งนับว่าเป็นกลุ่มที่ปรึกษาด้าน Lean Six Sigma ที่เป็นระดับ
โลก ให้คำปรึกษาและแนะนำ รวมถึงตีพิมพ์หนังสือออกมามากที่สุดกลุ่มหนึ่ง ทั้ง What
is Lean Six Sigma, The Lean Six Sigma Pocket Toolbook, Lean Six Sigma for
Service และ Lean Six Sigma : Combining Six Sigma Quality with Lean
Production Speed ผมและคุณพรเทพ ผู้แปลร่วม ได้ติดตามหนังสือของเขามาอย่าง
ตอ่เนือ่ง และเหน็รว่มกนัวา่มคีณุคา่และจะเปน็ประโยชนแ์กน่กัปฏบิตัใินธรุกจิอตุสาหกรรม
โดยที่เล่มแรกได้ออกวางจำหน่ายในภาษาไทยมาแล้ว และเล่มที่ท่านถืออยู่นี้เป็นการ
แปลจากเล่มที่ 2 ทั้งยังมีแผนงานที่จะนำ Lean Six Sigma for Service มาตีพิมพ์
เป็นฉบับภาษาไทยด้วยเช่นกัน
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
ผมหวังว่าเครื่องมือและวิธีการเกือบ 100 อย่างหนังสือ เครื่องมือ Lean Six
Sigma เล่มนี้ จะเป็นแหล่งอ้างอิงอย่างรวดเร็วให้กับผู้อ่านในแวดวงอุตสาหกรรมที่อยู่
ในเส้นทางสู่ความเป็นเลิศเชิงกระบวนการครับ
ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาการโซ่อุปทาน
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
MB: 081-613-6137
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
สารบัญ
บทที่ 1 การใช้ DMAIC เพื่อปรับปรุงความเร็ว คุณภาพ และต้นทุน 11
กำหนดนิยาม (Define) 16
วัดผล (Measure) 22
วิเคราะห์ (Analyze) 28
ปรับปรุง (Improve) 31
ควบคุม (Control) 35
ไคเซ็น DMAIC 39
การเลือกโครงการ 47
บทที่ 2 การทำงานกับแนวความคิด 49
การระดมสมอง 50
แผนผังความสัมพันธ์ (Affinity Diagram) 53
การลงคะแนนแบบหลายคะแนนเสียง 56
บทที่ 3 การวาดแผนผังสายธารคุณค่าและเครื่องมือการไหลของกระบวนการ 59
การวาดแผนผังกระบวนการ 61
การสังเกตกระบวนการ 64
SIPOC 66
ขั้นตอนในการวาดแผนผังกระบวนการ 68
ผังการขนส่งและผังสปาเก็ตตี้ (การไหลของงาน) 71
แผนผังการไหล Swim-lane (การแปรไปสู่การปฏิบัติ) 72
แผนผังสายธารคุณค่า (แบบพื้นฐาน) 74
สัญลักษณ์ผังการไหลและผังสายธารคุณค่า 82
การวิเคราะห์การเพิ่มคุณค่า (Value-add: VA) 83
เทียบกับไม่เพิ่มคุณค่า (Non-value-add: NVA)
แผนผังเวลาคุณค่า 86
แผนผังการเพิ่มคุณค่า (แผนผังเวลางาน หรือ Takt Time) 87
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
บทที่ 4 เสียงของลูกค้า (Voice of the Customer: VOC) 91
การจำแนกส่วนลูกค้า 93
แหล่งของข้อมูลลูกค้า 95
การเก็บ VOC: การสัมภาษณ์ 97
การเก็บ VOC: การสังเกตที่จุดใช้งาน (Point of Use) 98
การเก็บ VOC: การสนทนากลุ่ม (Focus Groups) 99
การเก็บ VOC: แบบสอบถาม 101
การวิเคราะห์ Kano 103
การพัฒนาข้อเรียกร้องที่สำคัญต่อคุณภาพ 108
บทที่ 5 การเก็บข้อมูล 111
ประเภทของข้อมูล 112
ข้อมูลอินพุต เทียบกับ เอาต์พุต 114
การวางแผนการเก็บข้อมูล 116
ตารางเลือกมาตรวัด 119
ปัจจัยแบ่งระดับชั้น (Stratification Factors) 120
คำจำกัดความเชิงปฏิบัติการ 122
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้ว 123
การสร้างรายการตรวจสอบ 124
รายการตรวจสอบแบบพื้นฐาน 125
รายการตรวจสอบแบบบันทึกความถี่ (Frequency Plot) 126
รายการตรวจสอบแบบนักเดินทาง (Traveler Checksheet) 127
รายการตรวจสอบตามตำแหน่ง 128
พื้นฐานของการสุ่มตัวอย่าง 129
ปัจจัยในการสุ่มตัวอย่าง 131
การสุ่มตัวอย่างกระบวนการ (และประชากร) ที่มีเสถียรภาพ 133
สูตรคำนวณสำหรับการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างที่เล็กที่สุด 134
(ประชากร หรือ กระบวนการที่มีเสถียรภาพ)
การวิเคราะห์ระบบการวัด (Measurement System Analysis: MSA) 136
และภาพรวมของ Gage R&R
Gage R&R: การเก็บข้อมูล 138
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การตีความผลจาก Gage R&R 140
MSA: การวิเคราะห์ความโน้มเอียง 148
MSA: การวิเคราะห์เสถียรภาพ 150
MSA: การวิเคราะห์การแยกแยะ (Discrimination Analysis) 153
MSA สำหรับข้อมูลแบบแสดงคุณสมบัติ/ไม่ต่อเนื่อง 154
บทที่ 6 สถิติเชิงพรรณนาและการแสดงผลข้อมูล 161
ข้อตกลงเกี่ยวกับศัพท์ทางสถิติ 163
การวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง (ค่าเฉลี่ย มัธยฐาน และฐานนิยม) 164
มาตรวัดของการกระจายตัว (พิสัย ความแปรปรวน และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) 167
แผนภูมิกล่อง 171
ผังความถี่ (ฮิสโตแกรม) 172
การแจกแจงปกติ 177
การแจกแจงไม่ปกติและทฤษฎีแนวโน้มเข้าสู่ศูนย์กลาง 178
บทที่ 7 การวิเคราะห์ความแปรผัน 181
ทบทวนแนวคิดเกี่ยวกับความแปรผัน 183
ผังอนุกรมเวลา (กราฟต่อเนื่อง) (Time Series Plots Run Charts) 185
ตารางกราฟต่อเนื่อง (Run Chart Table) 189
พื้นฐานเกี่ยวกับแผนภูมิควบคุม 189
การเลือกแผนภูมิควบคุม 190
แผนภูมิควบคุมสำหรับข้อมูลแบบต่อเนื่อง 191
การแบ่งกลุ่มย่อย (Subgrouping) สำหรับข้อมูลแบบต่อเนื่อง 194
สูตรคำนวณขีดจำกัดควบคุมสำหรับข้อมูลแบบต่อเนื่อง 196
ปัจจัยสำหรับสูตรคำนวณแผนภูมิควบคุม 197
การสร้างแผนภูมิ ImR 198
สร้างแผนภูมิ X, R หรือ X, S 199
แผนภูมิควบคุมสำหรับข้อมูลแบบคุณสมบัติ 199
การสร้างแผนภูมิ p-, np-, c- และ u- 202
สูตรคำนวณขีดจำกัดควบคุมสำหรับข้อมูลแบบคุณสมบัติ 203
สมมติฐานในการตีความแผนภูมิควบคุม 203
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การตีความแผนภูมิควบคุม (การทดสอบหาความแปรผันจากสาเหตุที่ผิดปกติ) 204
ความเป็นมาเกี่ยวกับการคำนวณความสามารถของกระบวนการ 207
ความสับสนเกี่ยวกับการคำนวณความสามารถของกระบวนการในระยะสั้น 209
เทียบกับระยะยาว
การคำนวณความสามารถของกระบวนการ 211
บทที่ 8 การระบุและยืนยันสาเหตุ 215
ส่วน A: การระบุสาเหตุที่เป็นไปได้ 216
แผนภูมิพาเรโต 218
การถาม “ทำไม” 5 ครั้ง (5 Whys) 222
แผนภูมิสาเหตุและผลกระทบ (แผนภูมิก้างปลาหรือแผนภูมิ Ishikawa) 223
ตารางเหตุและผล (C&E Matrix) 226
ส่วน B: การยืนยันผลกระทบและผลลัพธ์จากสาเหตุ 228
ผังข้อมูลแบบแบบลำดับชั้น (Stratified Data Charts) 229
การทดสอบการแก้ไขอย่างรวดเร็ว/วิธีแก้ไขที่เห็นชัดเจน 231
ผังการกระจาย (Scatter Plots) 234
ภาพรวมของการทดสอบสมมติฐาน 237
ช่วงความเชื่อมั่น (Confidence Intervals) 239
ข้อผิดพลาดแบบ Type I และ Type II, 240
ความเชื่อมั่น (Confidence) พลัง (Power) และ p-values
ช่วงความเชื่อมั่นและขนาดกลุ่มตัวอย่าง 242
ภาพรวมของ t-test 243
การทดสอบ t แบบ 1 ตัวอย่าง 244
การทดสอบ t แบบ 2 ตัวอย่าง 247
ภาพรวมของสหสัมพันธ์ (Correlation) 249
สถิติเกี่ยวกับสหสัมพันธ์ (สัมประสิทธิ์) 250
ภาพรวมของการถดถอย (Regression) 251
การถดถอยเชิงเส้นแบบง่าย (Simple Linear Regression) 253
การถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression) 255
ANOVA (ANalysis Of VAriance: การวิเคราะห์ความแปรปรวน) 260
ANOVA แบบทางเดียว 262
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
ระดับความเป็นอิสระ (Degrees of Freedom) 267
สมมติฐานของ ANOVA 267
ANOVA แบบ 2 ทาง 269
การทดสอบ Chi-square 272
เครื่องหมายและศัพท์ในการออกแบบการทดลอง (Design of Experiments: DOE) 274
การวางแผนออกแบบการทดลอง 276
DOE: แบบเต็มแฟกทอเรียล เทียบกับ แบบเศษส่วนเชิงแฟกทอเรียล (และเครื่องหมาย) 282
การตีความผลลัพธ์ DOE 285
การวิเคราะห์ Residual ในการทดสอบสมมติฐาน 291
บทที่ 9 การลดเวลานำและต้นทุนที่ไม่เพิ่มคุณค่า 295
แนวคิดพื้นฐานของลีน 299
มาตรวัดของประสิทธิภาพด้านเวลา 301
กับดักเวลา เทียบกับ ขีดจำกัดกำลังการผลิต 303
การบ่งชี้กับดักเวลาและขีดจำกัดกำลังการผลิต 304
ภาพรวมของ 5ส 307
การนำ 5ส มาใช้งาน 308
ระบบดึงแบบทั่วไป 316
ระบบดึงโดยการเติม 320
ระบบเติมแบบ 2 ถัง 326
การคำนวณขนาดชุดสำรองขั้นต่ำ 329
การปรับตั้งแบบด่วน 4 ขั้นตอน 330
การปรับใช้การปรับตั้งแบบด่วน 4 ขั้นตอนกับกระบวนการบริการ 336
การบำรุงรักษาทวีผลแบบทุกคนมีส่วนร่วม (Total Productive Maintenance: TPM) 338
การป้องกันความผิดพลาด และผลจากความผิดพลาด 343
(Mistake Proofing & Prevention, Poka-yoke)
หลักการออกแบบการสมดุลกระบวนการ 345
การทำให้เซลล์การทำงานเหมาะสมที่สุด (Work Cell Optimization) 346
กลไกควบคุมกระบวนการด้วยสายตา (Visual Process Controls) 350
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
บทที่ 10 การวาดแผนผังสายธารคุณค่าแบบซับซ้อน 355 และการวิเคราะห์ความซับซ้อน
ตารางกลุ่มผลิตภัณฑ์/บริการ 357
แผนผังสายธารคุณค่าแบบซับซ้อน (Complexity Value Stream Map: CVSM) 358
ประสิทธิภาพของรอบกระบวนการ (Process Cycle Efficiency: PCE) 361
สมการของความซับซ้อน (The Complexity Equation) 361
ตารางความซับซ้อน (Complexity Matrix) 362
การคำนวณการเสื่อมของ PCE (สำหรับตารางของความซับซ้อน) 364
การวิเคราะห์โครงสร้างย่อย (Substructure Analysis) 365
การวิเคราะห์แบบ What-if กับข้อมูลตารางความซับซ้อน 367
บทที่ 11 การเลือกและการทดสอบวิธีการแก้ปัญหา 371
แหล่งข้อมูลวิธีแก้ปัญหา 373
การเทียบเคียง 373
คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกวิธีแก้ปัญหา 375
การสร้างและใช้งานเกณฑ์การประเมิน 376
ตารางเลือกวิธีการแก้ปัญหา 379
การจัดลำดับเปรียบเทียบเป็นคู่ (Pairwise Ranking) 383
การประเมินต้นทุน 387
ตารางผลกระทบ/ความพยายาม 388
ตาราง Pugh 389
เทคนิคการประเมินแบบอื่นๆ 394
ตารางประเมินการควบคุม (Controls Assessment Matrix) 395
การวิเคราะห์อาการขัดข้องและผลกระทบ 396
(Failure Modes and Effects Analysis: FMEA)
การทดลองนำร่อง 402
เกี่ยวกับผู้เขียน 406
เกี่ยวกับผู้แปล 407
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การใช้ DMAIC เพื่อปรับปรุงความเร็ว
คุณภาพ และต้นทุน 11
ภาพรวม
DMAIC (ออกเสียงว่า “เดอ-เม-อิก”) เป็นระเบียบวิธีการแก้ปัญหาที่มีแบบ
แผนและใช้กันอย่างแพร่หลายในธุรกิจ ตัวอักษรแต่ละตัวเป็นตัวย่อแทน 5 ขั้นของ
การปรับปรุงด้วย Six Sigma คือ Define-Measure-Analyze-Improve-Control (กำหนด
นิยาม-วัดผล-วิเคราะห์-ปรับปรุง-ควบคุม) ขั้นต่างๆ เหล่านี้จะนำทีมงานด้วยหลักเหตุ
และผลตั้งแต่การกำหนดนิยามปัญหาไปจนถึงการนำวิธีการแก้ปัญหาซึ่งเชื่อมโยงกับ
สาเหตุที่อยู่เบื้องหลังไปใช้ และจัดทำเป็นข้อปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practice) เพื่อให้แน่ใจ
ว่าวิธีการแก้ไขเหล่านั้นจะคงถูกใช้งานต่อไป
บทที่ 1
การใช้ DMAIC เพื่อปรับปรุงความเร็ว
คุณภาพ และต้นทุน
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
12 เครื่องมือ Lean Six Sigma
จะใช้ DMAIC เมื่อใด
โครงสร้างของ DMAIC ส่งเสริมให้คิดอย่างสร้างสรรค์ภายในกรอบ เช่น การ
รักษากระบวนการพื้นฐาน ผลิตภัณฑ์ หรือบริการเอาไว้ ถ้ากระบวนการของคุณย่ำแย่
ขนาดที่ต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์หรือถ้าคุณกำลังออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการ หรือ
กระบวนการใหม่ ให้ใช้ Design for Lean Six Sigma (ออกแบบเพื่อ Lean Six Sigma
หรือ DMEDI) ซึ่งไม่ได้กล่าวถึงในหนังสือเล่มนี้
Cop
yrigh
ted M
ateria
l of E
.I.SQUARE P
UBLISHIN
G
การใช้ DMAIC เพื่อปรับปรุงความเร็ว
คุณภาพ และต้นทุน 13
การเลือกโครงการ DMAIC
หนังสือเล่มนี้มีสมมติฐานว่าผู้อ่านส่วนใหญ่จะทำงานในโครงการ DMAIC ที่
ผู้จัดการหรือผู้สนับสนุนเป็นผู้เลือกให้ (ถ้าไม่ได้เป็นเช่นนี้ และคุณมีส่วนในกระบวนการ
เลือกโครงการ ให้ดูสรุปสั้นๆ ที่หน้า 47 ตอนท้ายบทนี้
ทางเลือกในการนำ DMAIC มาใช้งาน
มีทางเลือกหลักอยู่ 2 ทางในการนำ DMAIC มาใช้งาน:
1. แนวทางแบบทีมประจำโครงการ
• Black Belt ถูกมอบหมายให้ทำงานในโครงการแบบเต็มเวลา
• สมาชิกทีมจะทำงานในโครงการแบบบางเวลา คือ งานของโครงการ
ถูกทำสลับกับงานปกติ
• สมาชิกทีมทุกคนมีส่วนร่วมในทุกช่วงของ DMAIC
• ระยะเวลาทั้งหมดอาจใช้เวลาตั้งแต่ 1 ถึง 4 เดือนตามขอบเขตของ
โครงการ (บางโครงการอาจกนิเวลานานกวา่นัน้ แตห่ากระยะเวลาสัน้กวา่
ก็จะดีกว่า เพราะผลประโยชน์ที่ได้รับจะเกิดขึ้นเร็วกว่า)
2. แนวทางแบบไคเซ็น
• เร็วมาก (1 สัปดาห์หรือสั้นกว่านั้น) ดำเนินงานผ่าน DMAIC ทั้งหมด
ยกเว้นการนำมาใช้งานแบบเต็มขั้น
• งานขั้นเตรียมในขั้นกำหนดนิยาม และในบางกรณีก็ขั้นวัดผลด้วย จะทำ
โดยคนกลุ่มย่อย (หัวหน้าทีมกับ Black Belt 1 คน เป็นต้น)
• งานที่เหลือทำโดยทั้งกลุ่มในเวลาไม่กี่วันหรือสัปดาห์หนึ่งที่พวกเขาจะได้
ทำงานกับโครงการนี้เพียงอย่างเดียว (ผู้เข้าร่วมจะถูกดึงออกมาจาก
งานประจำ)
ขั้นตอนพื้นฐานของ DMAIC (หน้า 16-39) ใช้ได้กับทั้ง 2 แนวทางนี้ คำแนะนำ
เพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำโครงการไคเซ็น อยู่ในหน้า 39-48
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การทำงานกับแนวความคิด 49
บทที่ 2
การทำงานกับแนวความคิด
ภาพรวม
วัตถุประสงค์ของเครื่องมือเหล่านี้
คุณค่าส่วนใหญ่ในการทำงานเป็นทีมอยู่ที่แนวความคิดและความเข้าใจอย่าง
ลึกซึ้งที่เกิดขึ้นระหว่างการทำโครงการ เครื่องมือต่างๆ ในเนื้อหาส่วนนี้จะช่วยทีมคุณใน
การสร้าง จัดการ และประมวลความคิดต่างๆ
หมายเหตุ มีทรัพยากรดีๆ อีกมากมายให้อ้างอิงสำหรับทีมที่กำลังสร้างและ
ทำงานกับ “ข้อมูลที่เป็นคำพูด” เราได้ให้เครื่องมือ 3 อย่างที่ถูกใช้งานเป็นสากล ซึ่ง
เครื่องมือเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในบรรดาอีกหลายๆ เครื่องมือที่ปรากฏในหนังสือ
เล่มนี้ เราขอส่งเสริมให้ทีมสำรวจเครื่องมือสร้างความคิดสร้างสรรค์และวิธีการตัดสินใจ
แบบอื่นๆ เพิ่มเติม
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
50 เครื่องมือ Lean Six Sigma
การตัดสินใจเลือกเครื่องมือที่จะใช้งาน
• การระดมสมอง (Brainstorming) ในส่วนต่อจากนี้จะแสดงแนวทาง
พื้นฐานสำหรับการจัดการพูดคุยเพื่อสร้างความคิดใหม่ๆ ทุกทีมจำเป็นต้อง
ใช้เครื่องมือนี้
• แผนผังความสัมพันธ์ (Affinity Diagram) ในหน้า 53 เป็นวิธีหนึ่ง
สำหรับการจัดระเบียบให้กับความคิดชุดใหญ่ที่หลากหลาย เป็นเครื่องมือที่
เป็นประโยชน์มากสำหรับทุกทีม ใช้หลังจากการระดมสมอง เมื่อกำลัง
วิเคราะห์ความเห็นของลูกค้า ฯลฯ
• การลงคะแนนแบบหลายคะแนนเสียง (Multivoting) หน้า 56 เป็นวิธี
บ่งชี้ลำดับความสำคัญหรือบีบทางเลือกต่างๆ ให้แคบลง เป็นประโยชน์
เมื่อคุณมีความคิดจำนวนมากกว่าที่ทีมของคุณจะจัดการได้
การระดมสมอง
วัตถุประสงค์
เพื่อทำให้กลุ่มคนสร้างความคิด ที่หลากหลายเกี่ยวกับหัวข้อใดก็ตาม
ใช้การระดมสมองเพื่ออะไร
• การระดมสมองช่วยให้เกิดความคิดหรือวิธีการแก้ปัญหา เป็นจำนวนมากใน
ช่วงเวลาสั้นๆ
• การระดมสมองช่วยกระตุ้นกระบวนการคิดอย่างสร้างสรรค์
• การระดมสมองช่วยให้แน่ใจว่าทุกแนวความคิดของสมาชิกกลุ่มถูกนำมา
พิจารณา
ใช้การระดมสมองเมื่อใด
ใช้การระดมสมองทุกครั้งที่กลุ่มของคุณต้องการทำให้แน่ใจว่ามีความคิดที่
หลากหลายถูกนำมาพิจารณา รวมไปถึง...
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การทำงานกับแนวความคิด 51
• เติมเนื้อหาในกฎบัตรโครงการให้สมบูรณ์
• บ่งชี้ลูกค้าที่จะรวมอยู่ในการวิจัย
• บ่งชี้สาเหตุที่เป็นไปได้ซึ่งจะนำมาสืบสวน
• บ่งชี้ประเภทของข้อมูลที่จะเก็บ
• บ่งชี้แนวความคิดในการแก้ปัญหา
ระดมสมองอย่างไร
1. พิจารณานิยามของปัญหา
2. ทำให้เป้าหมาย/คำถามกระจ่างชัด และจัดหาข้อมูลใดก็ตามที่เกี่ยวข้อง
3. ให้เวลาเงียบๆ 2-3 นาทีกับทุกคนที่จะคิดเกี่ยวกับคำถามและให้แต่ละคน
เขียนบันทึกความคิดบางอย่างไว้
• เพื่อให้รวบรวมได้ง่ายขึ้นในภายหลัง ให้ทุกคนเขียนความคิดของตัวเอง
ลงบนกระดาษกระดาษโพสต์-อิทหรือการ์ด (1 ความคิดต่อการ์ด 1 ใบ)
• ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์; ในการระดมสมองนั้น ไม่มีความคิดใดที่
ถือว่าสุดโต่งเกินไป
4. รวบรวมแนวความคิด
• ให้ออกความเห็นทีละคน โดยแต่ละคนสามารถออกความเห็นได้ครั้งละ
1 ความเห็น หรือให้ทุกคนออกความเห็นได้อย่างอิสระ ใครสามารถออก
ความเห็นเมื่อใดก็ได้
• บันทึกทุกแนวความคิดเอาไว้...
- ถ้าแนวความคิดถูกเขียนบนกระดาษกระดาษโพสต์-อิทให้ติดมันบน
ผนัง กระดาน หรือฟลิปชาร์ท
- อีกทางเลือกหนึ่ง คือ ให้แต่ละคนอ่านทีละ 1 แนวความคิดเพื่อให้
เสมียนบันทึกไว้บนฟลิปชาร์ท ซึ่งติดไว้ในที่ซึ่งทุกคนเห็นได ้
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การวาดแผนผังสายธารคุณค่าและ
เครื่องมือการไหลของกระบวนการ 59
บทที่ 3
การวาดแผนผังสายธารคุณค่าและ
เครื่องมือการไหลของกระบวนการ
ภาพรวม
วัตถุประสงค์ของเครื่องมือเหล่านี้
• บันทึกกระบวนการออกมาเป็นภาพ (รวมถึงข้อมูลหลักดังที่บันทึกในแผนผัง
สายธารคุณค่า)
• ให้คำอธิบายเกี่ยวกับกระบวนการตามข้อเท็จจริง เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการ
ทำความเข้าใจปัญหาปัจจุบัน (การไหลที่ไม่ดี วงจรการแก้ไขงาน ความ
ล่าช้า ฯลฯ) และโอกาสต่างๆ
• ช่วยให้ทีมเห็นโอกาสการปรับปรุงภายในกระบวนการและเริ่มต้นนิยาม X
ที่สำคัญ (สาเหตุที่อยู่เบื้องหลัง)
• ช่วยทีมให้เห็นว่ากระบวนการควรจะทำงานอย่างไร (สภาพอนาคต) เมื่อ
สามารถกำจัดความสูญเปล่าได้แล้ว
• ช่วยการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
60 เครื่องมือ Lean Six Sigma
ตัดสินใจเลือกเครื่องมือที่จะใช้
• คำแนะนำเกี่ยวกับการวาดแผนผังกระบวนการ (หน้า 61) ให้คำแนะนำ
ที่ใช้ได้จริงสำหรับการเขียนแผนผังกระบวนการที่เป็นประโยชน์ ให้ทบทวน
ตามที่จำเป็น
• การสังเกตกระบวนการ (หน้า 64) ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกไปดูสิ่งที่
เกิดขึ้นจริงในกระบวนการ ซึ่งเป็นความคิดที่ดีเสมอ ในช่วงต้นของโครงการ
ปรับปรุงกระบวนการ แม้ว่าคุณคิดว่าสมาชิกทีมของคุณจะมีความรู้เกี่ยวกับ
กระบวนการมากแล้วก็ตาม
• SIPOC (หน้า 66) เป็นแผนผังแบบง่ายเพื่อระบุองค์ประกอบพื้นฐานของ
กระบวนการ (ขอบเขตคือ อินพุตของผู้จัดส่งวัตถุดิบ อินพุตของกระบวนการ
ขั้นตอน ลูกค้า และเอาต์พุต) ทีมส่วนใหญ่จะอยากทำผัง SIPOC ในช่วงต้น
โครงการเพื่อจับภาพมุมมองระดับสูงของปฏิบัติการที่เป็นเป้าหมาย (ช่วยใน
การสื่อสารกับผู้สนับสนุน และคนอื่นๆ) SIPOC เป็นเครื่องมือที่ดีสำหรับ
การแปลงข้อเรียกร้องของลูกค้าออกมาเป็นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับเอาต์พุต
และบ่งชี้ตัวแปรขาออกหลักของกระบวนการ (Key Process Output
Variables: KPOV) ที่เกี่ยวข้อง
• ขั้นตอนการวาดแผนผังกระบวนการ (หน้า 68) จะครอบคลุมองค์-
ประกอบต่างๆ ในการสร้างแผนภูมิการไหล
• ผังการขนส่ง แผนผังสปาเก็ตตี้ /การไหลของงาน (หน้า 71) เป็น
แผนผังพิเศษที่แสดงวิธีที่เป็นเอกลักษณ์ในการแสดงแง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับ
การไหลของงาน ลองเปิดอ่านดูผ่านๆ ว่ามันสามารถช่วยโครงการคุณได้
หรือไม่
• แผนผังการไหล Swim-lane (การแปรไปสู่การปฏิบัติ) (หน้า 72) มี
ประโยชน์เป็นพิเศษเมื่อกระบวนการที่ศึกษาไหลผ่านหน้าที่งาน 3 หน้าที่
ขึ้นไป ซึ่งจะเกิดความไม่ต่อเนื่องในกระบวนการในการส่งมอบระหว่าง
หน้าที่งานบ่อยครั้งมาก แผนผังนี้มีประสิทธิผลในการแสดงการส่งมอบ การ
ขนส่ง แถวคอย และวงจรการแก้ไขงานภายในกระบวนการ
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การวาดแผนผังสายธารคุณค่าและ
เครื่องมือการไหลของกระบวนการ 61
• แผนผังสายธารคุณค่า (Value Stream Map) (หน้า 74) คือ “แผนผัง
กระบวนการพร้อมข้อมูล” เป็นเครื่องมือสำหรับการจับข้อมูลกระบวนการ
(เกี่ยวกับ WIP เวลาปรับตั้งเครื่องจักร เวลากระบวนการ/หน่วยกระบวนการ
อัตราความผิดพลาด เวลาว่าง ฯลฯ) และการไหล แผนผังนี้เป็นรากฐานของ
วิธีการปรับปรุงแบบลีน เป็นเครื่องมือที่บังคับให้ใช้สำหรับทุกทีมที่มีพันธกิจ
ในการเร่งความเร็วของกระบวนการและกำจัดต้นทุนที่ไม่เพิ่มคุณค่า (ดู
เพิ่มเติมที่ ผังสายธารคุณค่าแบบซับซ้อน หน้า 358)
• การวิเคราะห์การเพิ่ม/ไม่เพิ่มคุณค่า (หน้า 83) ให้แนวทางสำหรับการ
บ่งชี้ว่างานส่วนใดในกระบวนการที่ลูกค้าของคุณให้คุณค่า และงานใดที่
พวกเขาไม่ให้คุณค่า ทุกๆ โครงการที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงกระบวนการ
ควรจะแสดงให้เห็นระดับของต้นทุนส่วนที่เพิ่มคุณค่าและส่วนที่ไม่เพิ่ม
คุณค่า
• แผนผังเวลาคุณค่า (Time Value Map) (หน้า 86) และแผนผังการเพิ่ม
คุณค่า (แผนผังเวลางานหรือ Takt Time) (หน้า 87) เป็นเครื่องมือภาพ
สำหรับเน้นให้เห็นว่าเวลากระบวนการถูกแบ่งเป็นงานที่เพิ่มคุณค่าและงาน
ที่ไม่เพิ่มคุณค่าอย่างไรบ้าง แนะนำเป็นพิเศษสำหรับทีมที่สมาชิกยังใหม่กับ
การคิดในเชิงของการเพิ่มคุณค่า/ไม่เพิ่มคุณค่า
การวาดแผนผังกระบวนการ
หลักการสำคัญ
• เอกสารไม่สามารถทดแทนการสังเกตการณ์ได้ คุณต้องเดินสำรวจ
กระบวนการ และพูดคุยกับพนักงานเพื่อหาว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในการ
ทำงานแต่ละวัน ต้องทำอย่างนี้แม้ว่าคุณกำลังศึกษางานส่วนที่คุณคิดว่า
คุณรู้จักดีอยู่แล้วก็ตาม!
• แผนผังการไหลเป็นเพียงวิธีการ ไม่ใช่คำตอบ อย่ายึดติดกับการสร้าง
แผนผังการไหลที่สมบูรณ์แบบ จนทำให้งานที่เพิ่มคุณค่าให้โครงการต้อง
ล่าช้า ลงรายละเอียดเท่าที่จะเป็นประโยชน์สำหรับโครงการ
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
เสียงของลูกค้า
(Voice of the Customer: VOC) 91
บทที่ 4
เสียงของลูกค้า
(Voice of the Customer: VOC)
ภาพรวม
วัตถุประสงค์ของเครื่องมือเหล่านี้
• เพื่อหาว่าลูกค้าสนใจสิ่งใดบ้าง
• เพื่อกำหนดลำดับความสำคัญและเป้าหมายให้สอดคล้องกับความต้องการ ของลูกค้า
• เพื่อพิจารณาว่าจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าข้อใดได้อย่างมีผล กำไร
การตัดสินใจเลือกเครื่องมือที่จะใช้
การจำแนกส่วนลูกค้า (Customer Segmentation) (หน้า 93) หลักการใน
การระบุส่วนย่อย (Subset) ของลูกค้าที่อาจมีความต้องการหรือข้อเรียกร้องที่ต่างกัน มี
ประโยชน์มากเป็นพิเศษสำหรับทีมใดก็ตามที่เผชิญกับฐานลูกค้าปริมาณขนาดกลาง
จนถึงขนาดใหญ่
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
92 เครื่องมือ Lean Six Sigma
ประเภทและแหล่งของข้อมูลลูกค้า (Types and Sources of Customer
Data) (หน้า 95) รายการข้อมูลทั่วไปของลูกค้าที่องค์กรของคุณอาจมีอยู่แล้วหรือ
สามารถหามาได้ ใช้เพื่อกระตุ้นความคิดของคุณเองก่อนจะเริ่มต้น VOC
การเก็บ VOC:
• การสัมภาษณ์ (หน้า 97) ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ลูกค้าอย่าง
มืออาชีพ ซึ่งแนะนำสำหรับทีมใดก็ตามที่ต้องการพัฒนาความเข้าใจอย่าง
ลึกซึ้งเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้าและวิธีที่ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์หรือ
บริการ
• การสังเกตการณ์ที่จุดใช้งาน (Point-of-use Observation) (หน้า 98)
ให้คำแนะนำว่าควรทำอะไรบ้างเมื่อเยี่ยมชมสถานที่ปฏิบัติงานของลูกค้า
หรือสังเกตจุดปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและผลิตภัณฑ์/บริการของคุณ ใช้
เพื่อเพิ่มความเข้าใจหรือเพื่อยืนยันผลจากการสัมภาษณ ์
• การสนทนากลุม่ (Focus Groups) (หนา้ 99) ใหค้ำแนะนำเกีย่วกบัวธิกีาร
จัดทำการสนทนากลุ่ม มีประสิทธิภาพมากกว่าการสัมภาษณ์แยกกัน แต่ก็
ใช้เวลามาก วิธีการนี้ใช้ตามที่จำเป็น
• แบบสอบถาม (Survey) (หน้า 101) ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้แบบ
สอบถาม ใช้ได้ดีสุดในการยืนยันหรือวัดค่าปริมาณของทฤษฎีที่พัฒนา
ขึ้นหลังจากการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า นอกจากนั้น ยังสามารถใช้เพื่อบ่งชี้
ประเด็นสำคัญที่สุดที่ต้องทำวิจัย วิธีการนี้ใช้ได้ดีในการรวบรวมข้อมูลเชิง
ปริมาณ
• การวิเคราะห์ Kano (Kano Analysis) (หน้า 103) ให้เทคนิคที่ช่วยให้คุณ
เข้าใจคุณค่าในระดับต่างๆ กันที่ลูกค้าให้แก่คุณสมบัติต่างๆ ของผลิตภัณฑ์
หรือบริการของคุณ
• การพัฒนาข้อเรียกร้องที่สำคัญต่อคุณภาพ (Developing Critical-to-
quality Requirements) (หน้า 108) ให้คำแนะนำในการแปลงข้อความระบุ
ความต้องการของลูกค้าออกมาเป็นข้อเรียกร้องของผลิตภัณฑ์หรือบริการ
ใช้เมื่อพันธกิจของคุณคือการส่งมอบผลิตภัณฑ์/บริการที่ตอบสนองความ
ต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
เสียงของลูกค้า
(Voice of the Customer: VOC) 93
คำแนะนำ
• สำหรับการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง (การสัมภาษณ์ การสังเกตลูกค้า การสนทนากลุ่ม) เดิมพันจะสูงมาก เพราะคุณจะต้องติดต่อกับลูกค้าแบบ
ตัวต่อตัว คุณจึงต้องสร้างความประทับใจที่ดี เตรียมตัวให้พร้อม เป็นมือ
อาชีพ และทำให้แน่ใจว่ามีการติดตามผล มิฉะนั้นลูกค้าจะรู้สึกว่าเขาเสีย
เวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
• ทำงานกับฝ่ายขายหรือฝ่ายการตลาดเพื่อบ่งชี้และประสานการติดต่อกับ ลูกค้า ถ้าหลายคนจากหลายฝ่ายติดต่อลูกค้าด้วยตัวเอง ลูกค้าอาจมองว่า
คุณไร้ความสามารถ
• ถ้าคุณกำลังทำงานกับโครงการออกแบบ เราแนะนำให้คุณสำรวจวิธีการ VOC แบบซับซ้อนหลายแบบที่มักจะเชื่อมโยงกับ Design for Lean Six
Sigma หรือแนวทางแบบ DMEDI (เช่น House of Quality)
• การจัดการกับลูกค้าอาจเป็นเรื่องที่ต้องมีลูกล่อลูกชน ให้ขอความช่วยเหลือ จากผู้เชี่ยวชาญถ้าเป็นไปได้
การจำแนกส่วนลูกค้า
จุดสำคัญ
• ลูกค้าทุกรายไม่ได้เกิดมาเท่าเทียมกัน และไม่ได้สร้างคุณค่าสำหรับองค์กร เท่าเทียมกันด้วย
• การจำแนกส่วนหรือเซกเมนต์ลูกค้า (Customer Segmentation) เป็นวิธีการ บ่งชี้และเน้นที่ลูกค้ากลุ่มย่อยซึ่งสร้างคุณค่ามากที่สุดจากผลิตภัณฑ์ บริการ
หรือกระบวนการที่กำลังถูกออกแบบหรือปรับปรุง
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
110 เครื่องมือ Lean Six Sigma
ข้อเรียกร้องของลูกค้าที่ดี:
• จะเจาะจงและวัดผลได้ง่าย
• จะสัมพันธ์โดยตรงกับคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์หรือบริการ
• ไมม่ทีางเลอืกอืน่และไมใ่ชอ้คตเิพือ่ใหก้ารออกแบบเอนเอยีงไปตามแนวทางใด แนวทางหนึ่งหรือเทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่ง
• อธิบายว่าความต้องการคืออะไร ไม่ใช่อธิบายว่าจะตอบสนองได้อย่างไร
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การเก็บข้อมูล 111
บทที่ 5
การเก็บข้อมูล
ภาพรวม
วัตถุประสงค์ของเครื่องมือเหล่านี้
เพื่อช่วยคุณเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้ซึ่งสัมพันธ์กับคำถามหลักๆ ที่คุณต้องการหา
คำตอบสำหรับโครงการของคุณ
การตัดสินใจเลือกเครื่องมือที่จะใช้
• ประเภทของข้อมูล (หน้า 112-113) จะกล่าวถึงประเภทของข้อมูลที่คุณ
อาจพบ และประเภทของข้อมูลมีอิทธิพลอย่างไรต่อวิธีการวิเคราะห์ หรือ
เครื่องมือใดที่คุณสามารถใช้งานหรือไม่สามารถใช้งานได้ ขอให้คุณทบทวน
ตามที่จำเป็น
• การวางแผนเก็บข้อมูล (หน้า 116-118) อธิบายเกี่ยวกับตารางเลือก
มาตรวัด (หน้า 119) การแบ่งระดับชั้น (หน้า 120) คำจำกัดความเชิง
ปฏิบัติการ (หน้า 122) และข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้ว
(หนา้ 123) ใช้แผนนี้ทุกครั้งที่เก็บข้อมูล
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
112 เครื่องมือ Lean Six Sigma
• รายการตรวจสอบ (Checksheets) (หน้า 124-128) ให้ตัวอย่างรายการ
ตรวจสอบแบบต่างๆ แบบพื้นฐาน (หน้า 125) รายการตรวจสอบบันทึก
ความถี่ (หน้า 126) แบบนักเดินทาง (หน้า 127) ตามตำแหน่ง (หน้า
128) และทบทวนเมื่อจำเป็น
• การสุ่มตัวอย่าง (หน้า 129-136) อธิบายเกี่ยวกับพื้นฐาน (หน้า 129)
ปัจจัยในการเลือกกลุ่มตัวอย่าง (หน้า 131) จำนวนประชากรและการ
สุ่มตัวอย่างกระบวนการ (หน้า 133) และการพิจารณาขนาดกลุ่มตัวอย่าง
ขั้นต่ำ (หน้า 134) แนะนำให้ทุกทีมทบทวนเรื่องเหล่านี้เพราะว่าการเก็บ
ข้อมูลเกือบทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับการสุ่มตัวอย่าง
• การวิเคราะห์ระบบการวัด (รวมถึง Gage R&R) (หน้า 136-148) กล่าว
ถึงประเภทของข้อมูลที่ต้องเก็บ (หน้า 138) และการตีความแผนผังที่โดย
ปกติแล้วจะถูกสร้างโดยโปรแกรมซอฟต์แวร์ MSA (หน้า 140-148) รวมถึง
คำแนะนำเกี่ยวกับการตรวจหาความโน้มเอียง (Bias) (หน้า 148) เสถียร-
ภาพ (หน้า 150) และการแยกแยะ (หน้า 153) ซึ่งขอแนะนำให้กับทุกทีม
• การคำนวณ Kappa (MSA สำหรับข้อมูลแบบแสดงคุณสมบัติ) (หน้า
154-159) ซึ่งแนะนำเมื่อใดก็ตามที่คุณเก็บข้อมูลแบบแสดงคุณสมบัติ
ประเภทของข้อมูล
1. ข้อมูลต่อเนื่อง
ความแปรผันใดๆ ที่วัดบนอนุกรมหรือแกนที่สามารถแบ่งออกได้ไม่มีที่สิ้นสุด
มีเครื่องมือทางสถิติที่ทรงพลังมากกว่านี้สำหรับการตีความข้อมูลต่อเนื่อง
ดังนั้นข้อมูลต่อเนื่องจึงมักถูกเลือกไว้เหนือข้อมูลที่ขาดตอน/ข้อมูลแบบแสดงคุณสมบัติ
ตัวอย่าง: เวลานำ (Lead Time) ต้นทุนหรือราคา ระยะเวลาของการโทรศัพท์
และมิติหรือคุณลักษณะทางกายภาพใดๆ ก็ตาม (ความสูง ความกว้าง ความหนาแน่น
อุณหภูมิ)
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
สถิติเชิงพรรณนาและการแสดงผลข้อมูล 161
บทที่ 6
สถิติเชิงพรรณนาและการแสดงผลข้อมูล
ภาพรวม
วัตถุประสงค์ของเครื่องมือเหล่านี้
เพื่อให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการกระจายตัวและคุณสมบัติของข้อมูลกลุ่มหนึ่ง
ตัดสินใจว่าจะใช้เครื่องมือใด
• ข้อตกลงเกี่ยวกับศัพท์ทางสถิติ (Statistical Term Convention) (หน้า
163) กล่าวถึงมาตรฐานที่ใช้สำหรับสัญลักษณ์และศัพท์ที่ใช้ในสมการ
ทางสถิติ ขอให้คุณทบทวนตามที่จำเป็น
• การวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง (Measures of Central Tendency)
(หน้า 164) กล่าวถึงวิธีคำนวณค่าเฉลี่ย (Mean) มัธยฐาน (Median)
ฐานนิยม (Mode) คำนวณค่าเหล่านี้ด้วยตัวเองสำหรับชุดข้อมูลต่อเนื่อง
ใดก็ตามที่ซอฟต์แวร์ไม่ได้คำนวณให้
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
162 เครื่องมือ Lean Six Sigma
• มาตรวัดของการกระจายตัว (Measures of Spread) (หน้า 167)
แสดงวิธีคำนวณพิสัย (Range) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard
Deviation) และความแปรปรวน (Variance) คุณต้องใช้การคำนวณเหล่านี้
กับเครื่องมือสถิติหลายประเภท (แผนภูมิควบคุม การทดสอบสมมติฐาน
ฯลฯ)
• แผนภูมิกล่อง (Box Plots) (หน้า 171) อธิบายแผนภาพประเภทหนึ่งที่
สรุปการแจกแจงหรือกระจายตัวของข้อมูลแบบต่อเนื่อง คุณคงมีโอกาส
น้อยที่จะวาดด้วยมือ แต่มักเห็นได้บ่อยหากใช้ซอฟต์แวร์สถิติ ขอให้คุณ
ทบทวนตามที่จำเป็น
• ผังความถี่/ฮิสโตแกรม (Frequency Plot/Histogram) (หน้า 172) สรุป
ผังความถี่ประเภทต่างๆ และตีความรูปแบบที่แสดงความหมายออกมา
เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการประเมินการแจกแจงปกติ (Normality); เป็นสิ่งที่
แนะนำสำหรับกลุ่มตัวแทนของข้อมูลแบบต่อเนื่อง
• การแจกแจงปกติ (Normal Distribution) (หน้า 177) อธิบายคุณสมบัติ
ของการแจกแจง “ปกต”ิ หรือ “ระฆังคว่ำ” ขอให้คุณทบทวนตามที่จำเป็น
• การแจกแจงไม่ปกติ/ทฤษฎีแนวโน้มเข้าสู่ศูนย์กลาง (Non-Normal
Distribution/Central Limit Theorem) (หน้า 178) อธิบายการแจกแจง
หรือกระจายตัวประเภทอื่นๆ ที่พบกับข้อมูลแบบต่อเนื่อง และวิธีที่เรา
สามารถสรุปผลทางสถิติที่ใช้การได้แม้ว่าจะเป็นการแจกแจงแบบไม่ปกติ
ก็ตาม ขอให้คุณทบทวนตามที่จำเป็น
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การวิเคราะห์ความแปรผัน 181
บทที่ 7
การวิเคราะห์ความแปรผัน
ภาพรวม
วัตถุประสงค์ของเครื่องมือเหล่านี้
• เพื่อแยกแยะความแปรผันจากสาเหตุที่ผิดธรรมชาติออกจากสาเหตุโดย ธรรมชาติ
• เพื่อจับแนวโน้ม (Trend) และรูปแบบ (Pattern) ในข้อมูล ซึ่งให้ร่องรอย เกี่ยวกับแหล่งกำเนิดของความแปรผัน (โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการลด
และการกำจัดแหล่งกำเนิดเหล่านี้)
การตัดสินใจว่าจะใช้เครื่องมืออะไร
หัวข้อส่วนนี้แสดงเครื่องมือ 2 ประเภทที่ใช้เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับความ
แปรผัน:
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
182 เครื่องมือ Lean Six Sigma
1. ผังอนุกรมเวลา(TimeSeriesCharts)ซึ่งใช้บันทึกข้อมูลตามลำดับที่เกิด
ขึ้น
2. การคำนวณความสามารถ (Capability Calculations) ซึ่งเปรียบเทียบ
ช่วงของเอาต์พุตจริงจากกระบวนการกับช่วง (ข้อกำหนดหรือค่าความเผื่อ) ที่ตอบสนอง
ข้อเรียกร้องของลูกค้า
เมื่อเก็บข้อมูลกระบวนการ ให้บันทึกข้อมูลลงบนผังดังต่อไปนี้ก่อนที่จะทำการ
วิเคราะห์อื่นๆต่อไป:
a. ผังอนุกรมเวลา (Time Series Plots) (หรือเรียกว่ากราฟต่อเนื่อง
[Runchart]): เป็นผังง่ายๆ จากข้อมูลกระบวนการที่ต้องคำนวณเพียงแค่ค่ามัธยฐาน
(หน้า 185)สามารถทำใน “ภาคสนาม” ได้ง่ายสำหรับจำนวนข้อมูลไม่เกิน 50ตัวอย่าง
โดยใช้เพียงแค่ดินสอกับกระดาษ
• ใช้ตารางกราฟต่อเนื่อง (หน้า 188) เพื่อบ่งชี้รูปแบบที่เกี่ยวข้องกับ ความแปรผันจากสาเหตุที่ผิดธรรมชาติ
b. แผนภูมิควบคุม (Control Charts): เป็นผังอนุกรมเวลาที่มีเส้นกลาง
(ค่าเฉลี่ย) และขีดจำกัดควบคุมที่คำนวณจากข้อมูลเพิ่มมาด้วยซึ่งแสดงช่วงของความ
แปรผันในกระบวนการที่คาดการณ์ไว้ (โดยปกติจะ ใช้ ± 3 ช่วงส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
จากค่าเฉลี่ย) แผนภูมินี้จะซับซ้อนกว่าผังอนุกรมเวลาเพราะว่าต้องการการคำนวณ
เพิ่มเติม อย่างไรก็ตามมันสามารถตรวจจับความแปรผันจากสาเหตุที่ผิดธรรมชาติได้
หลายประเภท
•ข้อมูลประเภทที่ต่างกันเรียกร้องให้ใช้สูตรที่ต่างกันในการคำนวณเส้น กลางและขีดจำกัดควบคุม ดูขั้นตอนการเลือกการคำนวณประเภท
ที่ถูกต้อง(หน้า203)
• ใช้การทดสอบสำหรับความแปรผันจากสาเหตุที่ผิดปกติ(หน้า204) เพื่อบ่งชี้รูปแบบที่ระบุว่ามีความแปรผันจากสาเหตุที่ผิดธรรมชาติอยู่
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การระบุและยืนยันสาเหตุ 215
บทที่ 8
การระบุและยืนยันสาเหตุ
ภาพรวม
วัตถุประสงค์ของเครื่องมือเหล่านี้
เพื่อเพิ่มโอกาสที่คุณจะระบุสาเหตุรากเหง้าที่แท้จริงของปัญหา ซึ่งสามารถใช้
เป็นเป้าหมายสำหรับการปรับปรุงได้ต่อไป
เครื่องมือในบทนี้จะแบ่งได้เป็น 2 ประเภทที่แตกต่างกันอย่างมาก คือ:
a. เครื่องมือสำหรับระบุสาเหตุที่เป็นไปได้ (เริ่มต้นที่หัวข้อต่อไปนี้) เป็น
เทคนิคเพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับสาเหตุของปัญหาที่ได้สังเกต จุดเน้น
อยู่ที่การคิดกว้างๆ เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในกระบวนการของคุณ
b. เครื่องมือสำหรับยืนยันสาเหตุที่เป็นไปได้ (เริ่มที่หน้า 228) เป็นเครื่องมือ
ที่แตกต่างอย่างมากจากเครื่องมือประเภทแรก มุ่งเน้นที่การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเคร่ง-
ครัดหรือการทดสอบทางสถิติที่เฉพาะเจาะจงเพื่อยืนยันว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุ
และผลกระทบ (Cause-and-effect) อยู่หรือไม่ และความสัมพันธ์นั้นมีมากเพียงใด
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
216 เครื่องมือ Lean Six Sigma
ส่วน A: การระบุสาเหตุที่เป็นไปได้
วัตถุประสงค์ของเครื่องมือเหล่านี้
เพื่อช่วยคุณในการพิจารณาสาเหตุที่เป็นไปได้ที่มีอยู่มากมาย เมื่อพยายาม
อธิบายรูปแบบต่างๆ ที่ปรากฏในข้อมูลของคุณ
มันจะช่วยคุณ …
a) นำเสนอตัวแปรXที่สำคัญ- เสนอความคิด (สมมติฐาน) เกี่ยวกับปัจจัย
(Xs) ที่มีส่วนในปัญหาที่เกิดในกระบวนการ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่เป็นเป้าหมาย
b) จัดลำดับตัวแปร Xที่สำคัญ - ระบุสาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุด ซึ่งควรจะ
นำมาศึกษาเพิ่มเติม
อย่าลืมใช้เครื่องมือในส่วน B เพื่อยืนยัน X ที่สงสัยด้วย
การตัดสินใจเลือกเครื่องมือที่จะใช ้
ในคำแนะนำนี้จะอธิบายเครื่องมือ 2 ประเภทที่ใช้ระบุสาเหตุที่เป็นไปได้:
• การแสดงผลข้อมูลมีเครื่องมือพื้นฐานหลายอย่างที่ถูกกล่าวถึงในเนื้อหา
ส่วนอื่นๆ ของหนังสือเล่มนี้ (เช่น ผังอนุกรมเวลา แผนภูมิควบคุม ฮิสโต-
แกรม ฯลฯ) ที่อาจจุดประกายความคิดของคุณเกี่ยวกับสาเหตุที่เป็นไปได้
ทีมของคุณควรทบทวนแผนภูมิที่ได้ถูกสร้างขึ้นในระหว่างการสืบสวนข้อมูล
เหล่านี้ เครื่องมืออีกตัวอย่างหนึ่งที่จะอธิบายในส่วนนี้คือ...
- แผนภูมิพาเรโต (Pareto Chart): เป็นแผนภูมิแท่งแบบเฉพาะที่ช่วย
คุณเน้นที่แหล่งของปัญหา “ที่สำคัญจำนวนไม่กี่สาเหตุ” จากนั้นคุณจะ
ได้มุ่งเน้นความพยายามในการระบุสาเหตุไปยังส่วนซึ่งงานที่คุณทำจะ
เกิดผลกระทบมากที่สุดได้
• เครื่องมือในการระดมสมองที่เน้นที่สาเหตุ: เครื่องมือทั้ง 3 อย่างในที่นี้
เป็นการระดมสมองในรูปแบบที่แตกต่างไป
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การระบุและยืนยันสาเหตุ 217
- การถามทำไม 5 ครั้ง (5 Whys) (หน้า 222): เป็นเทคนิคพื้นฐานที่
ใช้เพื่อผลักดันความคิดของคุณเกี่ยวกับสาเหตุที่เป็นไปได้ให้ลงลึกถึง
ระดับรากเหง้า ทำได้อย่างรวดเร็วและเจาะจงมาก
- แผนภูมิก้างปลา (FishboneDiagram) (แผนภูมิสาเหตุและผลกระทบ
หรือแผนภูมิ Ishikawa หน้า 223): เป็นรูปแบบหนึ่งที่ช่วยคุณจัดเรียง
และจัดระเบียบสาเหตุที่เป็นไปได้จำนวนมาก ส่งเสริมให้เกิดการคิดใน
เชิงกว้าง
- ตารางเหตุและผล (C&EMatrix) (หน้า 226): ตารางที่บังคับให้คุณ
คิดอย่างเจาะจงว่าอินพุตของกระบวนการส่งผลต่อเอาต์พุตอย่างไร
(และเอาต์พุตเชื่อมโยงกับข้อเรียกร้องของลูกค้าอย่างไร) มีหน้าที่คล้าย
กับแผนภูมิก้างปลา แต่มุ่งเป้าที่การแสดงการเชื่อมโยงระหว่างอินพุต-
เอาต์พุตมากกว่า
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การลดเวลานำและต้นทุนที่ไม่เพิ่มคุณค่า 295
บทที่ 9
การลดเวลานำและต้นทุนที่ไม่เพิ่มคุณค่า
ภาพรวม
วัตถุประสงค์ของเครื่องมือเหล่านี้
• เพื่อขจัดขีดจำกัดด้านกำลังการผลิตในกระบวนการ
- ช่วยให้แน่ใจว่ากระบวนการสามารถสนองความต้องการของลูกค้าได้
• เพื่อลดเวลานำและต้นทุนของกระบวนการ
- ขจัดต้นทุนที่ไม่เพิ่มคุณค่าและความสูญเปล่า เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ
และความสามารถในการสร้างผลกำไรของกระบวนการ Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
296 เครื่องมือ Lean Six Sigma
การตัดสินใจเลือกเครื่องมือที่จะใช้งาน
ทบทวน แนวคิดและนิยามพื้นฐานของลีน (หน้า 299) จากนั้น:
• หาว่าเวลาถูกใช้ไปอย่างไรและในที่ใดในกระบวนการ:
- บ่งชี้ขั้นตอนกระบวนการว่าเพิ่มคุณค่าหรือไม่เพิ่มคุณค่า (ในสายตา
ของลูกค้า) ดูบทที่ 3 หน้า 83
- คำนวณเวลานำรวม (Total Lead Time) ของกระบวนการ (หรือที่รู้จัก
ในชื่อรอบเวลาของกระบวนการ) หน้า 302
- หาอตัราการเสรจ็สิน้เฉลีย่ทีต่อ้งการ (Desired Average Completion
Rate) (อัตราอุปสงค์ของลูกค้า หรืออัตรา Takt) หน้า 299
- คำนวณประสทิธภิาพรอบของกระบวนการ (Process Cycle Efficiency)
หน้า 301
- หาและวัดค่ากับดักเวลา (Time Trap) และขีดจำกัดด้านกำลังการ
ผลิต (Capacity Constraints) หน้า 303-307
- คำนวณเวลาหมนุเวยีนของสถานงีาน (Workstation Turnover Time)
หน้า 302
• ผนวกข้อมูลเข้าไปในแผนผังสายธารคุณค่าของคุณ (บทที่ 3 หน้า 74)
การเลือกเครื่องมือหรือวิธีการเพื่อปรับปรุงการไหลและความเร็วของกระบวน-
การจะขึ้นอยู่กับประเภทของปัญหาที่คุณพบหลังจากเขียนผังสายธารคุณค่า (VSM)
เสร็จสิ้น
1. กระบวนการผลิตมากเกินไปเมื่อเทียบกับอุปสงค์ของลูกค้า
• นำระบบการเติมเต็มด้วยการดึงมาใช้ เพื่อเชื่อมโยงเอาต์พุตเข้ากับ
อุปสงค์ของลูกค้าโดยตรง (ร่วมกับระบบดึงแบบทั่วไป) (หน้า 316)
- คำนวณและปรับขนาดชุด (Batch) เพื่อพิจารณาขนาดชุดขั้นต่ำที่เป็น
ไปได้เพื่อสนองอุปสงค์ของลูกค้า (หน้า 329)
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การลดเวลานำและต้นทุนที่ไม่เพิ่มคุณค่า 297
2. กระบวนการผลิตไม่มากพอเมื่อเทียบกับอุปสงค์ของลูกค้า
• จู่โจมขีดจำกัดด้านกำลังการผลิต เน้นไปที่การกำจัดงานที่ไม่เพิ่ม
คุณค่าผ่านทางการลดความแปรผัน (ดูบทที่ 7 และใช้เครื่องมือที่อธิบาย
ในบทนี้:
- ลดการปรับตั้งเครื่องจักร การบำรุงรักษาทวีผลแบบทุกคนมีส่วนร่วม
(Total Productive Maintenance) การป้องกันความผิดพลาด การ
สร้างสมดุลให้กระบวนการ
3. กระบวนการสามารถตอบสนองอุปสงค์ลูกค้าได้ แต่มีเวลานำรวม
ยาวนานและมีต้นทุนโสหุ้ยสูง
• ใช้ 5ส. เพื่อปรับปรุงความสะอาดและจัดระเบียบพื้นที่ทำงาน (หน้า 307)
นี่เป็นเทคนิคพื้นฐานที่ควรใช้ในพื้นที่ทำงานทุกที่
• นำระบบดึงแบบทั่วไปมาใช้งาน เพื่อสร้างเสถียรภาพ แล้วจึงลดจำนวน
“สิ่งที่อยู่ระหว่างกระบวนการ” ซึ่งจะลดเวลานำรวมเพื่อให้การปรับปรุง
อื่นๆ ที่ตามมาได้รับผลสูงสุด (หน้า 316)
• ลดขนาดชุด (Batch Size) มาที่ขนาดชุดขั้นต่ำที่เป็นไปได้สำหรับ
ตัวแปรของกระบวนการที่สนใจ (หน้า 329)
• นำเทคนิคปรับปรุงของ Lean และ Six Sigma มาใช้กับกับดักเวลาตามที่ จำเป็น ตามลำดับของกับดักที่ก่อให้เกิดความล่าช้ามากที่สุดไปถึงน้อย
ที่สุด
- ถ้ากับดักเวลาเป็นขั้นตอนที่ไม่เพิ่มคุณค่า (หน้า 83) ให้ขจัดให้
หมดไป
- ถ้าเวลาการปรับตั้งหรือการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเป็นประเด็นปัญหา
ให้นำวิธีการปรับตั้งแบบด่วน 4 ขั้นตอน (Four Step Rapid Setup
Method) (หน้า 330)
- ถ้าเวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงานเป็นปัญหา ให้ใช้การบำรุงรักษาทวี-
ผลแบบทุกคนมีส่วนร่วม (หน้า 338)
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
298 เครื่องมือ Lean Six Sigma
- ถา้ของเสยีทำใหต้อ้งทำงานซำ้ ดกูารปอ้งกนัความผดิพลาด (Mistake
Proofing หรือ Poka-Yoke ฯลฯ) (หน้า 343)
- ถ้าภาระงานของขั้นตอนกระบวนการไม่คงที่ ให้ใช้หลักการสมดุล
กระบวนการ (Process Balancing) เพื่อย้ายงานไปมา (หน้า 345)
- ถ้าอุปสงค์มีความแปรผัน ให้คำนวณสินค้าคงคลังสำรอง (Safety
Stock) (หน้า 323)
- ถ้ามีความแปรผันมากเกินไป ให้ทบทวน บทที่ 7
4. ขั้นตอนกระบวนการมีภาระงานไม่สมดุลกันทำให้แรงงานขาด
ประสิทธิภาพ
• ใช้ การสมดุลกระบวนการ (หน้า 345)
5. กระบวนการเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายข้อมูล/วัสดุเป็นปริมาณมาก;
การไหลของกระบวนการขาดประสิทธิภาพ
• ใชก้ารปรบัปรงุการไหลของกระบวนการเพือ่ลดระยะทางและเวลาระหวา่ง ขั้นตอนกระบวนการ ดูผังกระบวนการ (Process Maps) ใน บทที่ 3
หรือ การทำให้เซลล์การทำงานมีความเหมาะสมที่สุด (Work Cell
Optimization) (หน้า 346)
6. การไหลของกระบวนการมีประสิทธิภาพ แต่มีเวลาที่ไม่เพิ่มคุณค่า
มากเกินไป
• ใช้การวิเคราะห์เวลาเพิ่มคุณค่า (บทที่ 3 หน้า 83) เพื่อชี้และวัด
ค่าเวลาที่ไม่เพิ่มคุณค่าในขั้นตอนกระบวนการ แล้วจึงใช้วิธีของลีนและ
Six Sigma ตามท่ีจำเป็นเพื่อนำวิธีการแก้ไขมาใช้งาน
เมื่อคุณได้นำการปรับปรุงเหล่านี้มาใช้งานแล้ว ให้ใช้การควบคุมกระบวนการ
ด้วยสายตา (Visual Process Controls) (หน้า 350) เพื่อรักษาผลการปรับปรุงที่ได้
เอาไว้
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การวาดแผนผังสายธารคุณค่าแบบซับซ้อน
และการวิเคราะห์ความซับซ้อน 355
บทที่ 10
การวาดแผนผังสายธารคุณค่าแบบซับซ้อน
และการวิเคราะห์ความซับซ้อน
ภาพรวม
วัตถุประสงค์ของเครื่องมือเหล่านี้
เครื่องมือ Lean และ Six Sigma ถูกนำมาใช้บ่อยสุดในการศึกษาปัญหา
ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการเดียว ตัวอย่างเช่น แผนผังสายธารคุณค่าในหน้า
74 ซึ่งติดตามการไหลของกระบวนการของกลุ่มผลิตภัณฑ์เดียวที่มีปริมาณมาก แต่
บ่อยครั้งที่ปัจจัยซึ่งก่อให้เกิดต้นทุนและเวลาที่ไม่เพิ่มคุณค่า คือ ผลิตภัณฑ์และบริการ
ที่หลากหลาย (โดยเฉพาะผลกระทบจากผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณต่ำ)
วัตถุประสงค์ของเครื่องมือเหล่านี้ คือ เพื่อช่วยคุณวินิจฉัยและวัดค่าโอกาสจาก
ความซับซ้อนในหน่วยธุรกิจหรือสายธารคุณค่าของคุณ (สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
การวิเคราะห์ความซับซ้อน และแนวทางเชิงยุทธศาสตร์สำหรับทั้งองค์กร คุณสามารถ
อ้างอิงได้จากหนังสือ Conquering Complexity in Your Business, McGraw-Hill,
2004)
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
356 เครื่องมือ Lean Six Sigma
ภาพรวมของเครื่องมือสำหรับความซับซ้อน
1. ตารางกลุ่มผลิตภัณฑ์/บริการ(Product/ServiceFamilyGrid)หน้า 357
จะจัดเรียงผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณออกเป็นกลุ่มๆ ตามขั้นตอนกระบวนการที่
ใช้และต้นทุนของมัน ใช้เป็นงานขั้นเตรียมสำหรับผังสายธารคุณค่าแบบซับซ้อน (เพื่อ
ให้สามารถใช้แสดงความหลากหลายทั้งหมดโดยไม่ต้องเขียนผังสำหรับทุกผลิตภัณฑ์
หรือบริการในทุกขั้นของกระบวนการ)
2. แผนผังสายธารคุณค่าแบบซับซ้อน (ComplexityValueStreamMap)
หน้า 358 จะแสดงภาพการไหลรวมของหลายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ผ่านกระบวน-
การ ซึ่งชี้ให้เห็นจุดที่ความซับซ้อนมีผลกระทบมากที่สุด
3. สมการความซับซ้อน (Complexity Equation) สำหรับการประเมินผล
กระทบของความซับซ้อนต่อประสิทธิภาพของรอบกระบวนการ (Process Cycle
Efficiency:PCE)หน้า 361 ใช้เพื่อวินิจฉัยว่าปัจจัยใดในกระบวนการที่ทำให้ PCE ต่ำ
4. ตารางความซับซ้อน (Complexity Matrix) (รวมถึงการคำนวณการ
เสื่อมของ PCE) หน้า 362-365 เป็นตารางที่ช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบ
ประสิทธิภาพที่ “ถูกกินไป” โดยผลิตภัณฑ์หรือบริการในขั้นตอนกระบวนการที่สำคัญ
แต่ละขั้น เป้าหมายคือการตอบคำถามว่า สิ่งที่เราประสบอยู่เป็นปัญหากระบวนการหรือ
ปัญหาผลิตภัณฑ์/บริการ?
5 การวิเคราะห์โครงสร้างย่อย หน้า 365 จะแสดงโอกาสในการลด
ความซับซ้อนโดยการใช้ประโยชน์จากชิ้นส่วนที่ใช้ร่วมกัน ขั้นตอนที่เหมือนกัน ฯลฯ
ระหว่างผลิตภัณฑ์หรือบริการ ทำโดยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการกำจัดผลิตภัณฑ์หรือ
บริการที่สามารถทำให้ซับซ้อนน้อยลงได้ด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อย
6. การวิเคราะห์“What-if” หน้า 367 ช่วยคุณในการวัดค่าผลกระทบของทาง-
เลือกต่างๆ ที่คุณเสนอเพื่อลดความซับซ้อนได้
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การวาดแผนผังสายธารคุณค่าแบบซับซ้อน
และการวิเคราะห์ความซับซ้อน 357
ตารางกลุ่มผลิตภัณฑ์/บริการ
วัตถุประสงค์
• เพื่อช่วยคุณตัดสินว่าจะมุ่งใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดไปทำการเก็บข้อมูลและ
การสังเกตการณ์ที่ใดเพื่อให้สามารถสร้างผังสายธารคุณค่าแบบซับซ้อนได้
สมบูรณ์ด้วยเวลาและความพยายามน้อยที่สุด
จะใช้ตารางกลุ่มผลิตภัณฑ์/บริการเมื่อใด
• ก่อนการสร้างแผนผังสายธารคุณค่าแบบซับซ้อนเพื่อบ่งชี้ผลิตภัณฑ์หรือ
บริการตัวแทนที่จะถูกรวมอยู่ในแผนผัง
จะสร้างตารางกลุ่มผลิตภัณฑ์/บริการได้อย่างไร
1. เขียนรายการกระบวนการย่อยในหน่วยธุรกิจ หรือภายในสายธารคุณค่าของ
โครงการของคุณ ที่ด้านบนของตาราง
2. เขียนผลิตภัณฑ์หรือบริการแต่ละรายการที่ด้านข้าง
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
358 เครื่องมือ Lean Six Sigma
3. ทำเครื่องหมายว่าผลิตภัณฑ์/บริการใดผ่านกระบวนการใดบ้าง
4. จัดประเภทผลิตภัณฑ์หรือบริการเป็นกลุ่มตามความคล้ายคลึงของการไหล
ของกระบวนการ
• คุณสามารถรวมปัจจัยอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน เช่น เวลาดำเนินการผลต่อ
หน่วย
• ตารางในหน้าก่อนจากบริษัทผู้ให้บริการด้านการเงิน ได้บ่งชี้บริการเป็น
4 กลุ่มด้วยกัน ในทางทฤษฎี พวกเขาสามารถจัดกลุ่มเงินกู้ “Home
Equity” (กลุ่ม C) กับทางเลือก Refinance 2 แบบ ที่ประกอบกันเป็น
กลุ่ม A แต่พวกเขาตัดสินใจที่จะให้ Equity Loan เป็นกลุ่มแยกออกมา
ต่างหาก เพราะมีปริมาณน้อยกว่าบริการอื่นๆ ในกลุ่ม A ทางเลือกทุก
แบบของกลุ่ม B จะต้องมีการตรวจสอบ กลุ่ม D เป็นบริการเพียงกลุ่ม
เดียวที่นำเสนอซึ่งไม่จำเป็นต้องมีการประเมินราคา
คำแนะนำ
• ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอซึ่งมีปริมาณน้อยจะมีผลกระทบต่อความซับซ้อนแบบที่
ไม่ได้เป็นสัดเป็นส่วนกัน คุณสามารถจับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอที่มี
ปริมาณน้อยหลายตัวเข้าด้วยกัน แต่อย่าจับกลุ่มมันเข้ากับผลิตภัณฑ์ที่
นำเสนอซึ่งมีปริมาณมากกว่า
• เป้าหมายคือ พยายามจับกลุ่มผลิตภัณฑ์/บริการให้ได้ 3-10 กลุ่ม
แผนผังสายธารคุณค่าแบบซับซ้อน
(Complexity Value Stream Map: CVSM)
วัตถุประสงค์
• เพื่อบันทึกผลออกมาเป็นภาพว่าการมีผลิตภัณฑ์/บริการหลายแบบไหล
ผ่านกระบวนการเดียวกันมีผลกระทบต่อกระบวนการอย่างไร
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
การเลือกและการทดสอบวิธีการแก้ปัญหา 371
บทที่ 11
การเลือกและการทดสอบวิธีการแก้ปัญหา
ภาพรวม
วัตถุประสงค์ของเครื่องมือเหล่านี้
• เพื่อสร้างแนวคิดในการแก้ปัญหาสำหรับปัญหาที่บ่งชี้ได้
• เพื่อเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดจากทางเลือกหลายๆ ทาง
• เพื่อนำวิธีการแก้ปัญหามาใช้งานให้ประสบผลสำเร็จ
การตัดสินใจเลือกเครื่องมือที่จะใช้
• ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือในการคิดวิธีแก้ปัญหา...
- ทบทวนแหลง่ขอ้มลูวธิแีกป้ญัหา (หนา้ 373) และการเทยีบเคยีง (Bench-
marking) (หน้า 373)
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
372 เครื่องมือ Lean Six Sigma
• ถ้าต้องการเปรียบเทียบทางเลือกวิธีแก้ปัญหา...
- คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกวิธีแก้ปัญหา หน้า 375
- สร้างและเลือกใช้เกณฑ์การประเมิน หน้า 376
- ตารางเลือกวิธีแก้ปัญหา หน้า 379
- การจัดลำดับเปรียบเทียบเป็นคู่ (Pairwise) หน้า 383
- การประเมินต้นทุน หน้า 387
- ตารางผลกระทบ/ความพยายาม หน้า 388
- ตาราง Pugh หน้า 389
- เทคนิคการประเมินแบบอื่นๆ หน้า 394
• ถ้าคุณต้องการบ่งชี้และลดความเสี่ยงสำหรับวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไป
ได้...
เครื่องมือเหล่านี้มักใช้กับแนวคิดในการแก้ปัญหาที่ผ่านการประเมินขั้นต้น:
- ตารางประเมินการควบคุม หน้า 395
- การวิเคราะห์อาการขัดข้องและผลกระทบ (Failure Modes and Effects
Analysis: FMEA) หน้า 396
• ถ้าคุณต้องการวางแผนและทดสอบวิธีการแก้ปัญหา...
- การทดลองนำร่อง หน้า 402
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
406Stat... Stat..
เกี่ยวกับผู้เขียน
Michael L. George เป็นประธานบริษัท George Group ซึ่งเป็นที่ปรึกษา
ด้าน Lean Six Sigma ชั้นนำในระดับโลก เป็นผู้แต่งหนังสือหลายเล่ม รวมถึง What
is Lean Six Sigma? และ Lean Six Sigma for Service
David T. Rowlands เป็นรองประธานทางด้าน Lean Six Sigma ของ North
American Solution Group ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Xerox เขายังเป็นผู้แต่งร่วมของ
หนังสือ What is Lean Six Sigma? ด้วย
Mark Price เป็นรองประธานบริษัท George Group และได้ร่วมให้คำแนะนำ
ในโครงการริเริ่มเกี่ยวกับ Lean Six Sigma ในองค์กรชั้นนำหลายแห่ง
John Maxey เป็นผู้อำนวยการและ Master Black Belt ของบริษัท George
Group และเป็นผู้เขียนหลักสูตรสำหรับ Balck Belt ที่บริษัทของพวกเขาให้คำปรึกษา
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
407อภิธานศัพท์
เกี่ยวกับผู้แปล
ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิทยาการโซ่อุปทาน มหาวิทยาลัย
ศรปีทมุ เปน็นกัคดิ นกัเขยีน นกัวจิยั ทีป่รกึษา และวทิยากรเกีย่วกบัการจดัการลอจสิตกิส์
และโซ่อุปทาน แนวคิดแบบลีน การปรับปรุงกระบวนการ ฯลฯ
ดร.วิทยา มีงานเขียนบทความ หนังสือ และผลงานแปลมากมาย อาทิ วิถีแห่ง
โตโยต้า (The Toyota Way), ลอจิสติกส์และการจัดการโซ่อุปทาน อธิบายได้...
ง่ายนิดเดียว, แนวคิดแบบลีน, การจัดการกระบวนการตามหลัก Six Sigma ฯลฯ
ติดต่อดร.วิทยาได้ที่ [email protected]
พรเทพ เหลือทรัพย์สุข
ปัจจุบันเป็น Project Management Consultant และ Lean Sigma Facilitator
ของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต พรเทพเคยเป็น Certified Six Sigma
Black Belt ที่บริษัท Seagate Technology (Thailand) Ltd. เป็น Certified Lean
Master ที่บริษัท Magnecomp Precision Technology PLC. และเป็น Assistant
Vice President ดูแลงาน Lean Six Sigma Deployment ขณะที่ทำงานฝ่าย Lean
Six Sigma ที่บริษัท ไอเอ็นจีประกันชีวิต นอกจากนี้ยังเคยผ่านงานบริษัทข้ามชาติอย่าง
Hewlett-Packard (Thailand) Ltd. และ Innovex (Thailand) Ltd. ด้วย
พรเทพมีผลงานหนังสือทั้งงานเขียนและงานแปล โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับ
Lean Manufacturing, Lean Six Sigma และ Six Sigma ทั้งเป็นอาจารย์พิเศษ
มหาวิทยาลัย และวิทยากรรับเชิญของสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (สสท.) และ
คณะกรรมการตัดสิน Lean Best Practice ป ี 2552, 2553 และคณะกรรมการตัดสิน
Thailand Lean Award ปี 2553, 2554 ของสสท.อีกด้วย
ติดต่อพรเทพได้ที่ [email protected]
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
408Stat... Stat..
หนังสือแนะนำจาก E.I. Square Publishing... http://publishing.eisquare.com
วิถีแห่งโตโยต้า : The Toyota Way เขียนโดย : Jeffrey K. Liker แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง ISBN : 974-93096-1-8 ISBN : 978-611-7062-07-0 ราคา : 390 บาท (ปกแข็ง) ราคา : 250 บาท (ปกอ่อน)
แกะรอยวิถีแห่งโตโยต้า คู่มือภาคสนาม : The Toyota Way Fieldbook เขียนโดย : Jeffrey K. Liker และ David Meier แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 978-974-09-6740-8 ราคา : 550 บาท
เก่งแบบโตโยต้า : Toyota Talent เขียนโดย : Jeffrey K. Liker และ David Meier แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ กชมล ศรีวงศ์ ISBN : 978-974-09-6745-3 ราคา : 450 บาท
หนังสือชุด “สถานที่ปฏิบัติงาน” (Shopfloor Series)
การผลิตแบบเซลลูล่าร์ Cellular Manufaturing : One-piece Flow for Workteams เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 974-94684-0-6 ราคา : 170 บาท การผลิตแบบทันเวลาพอดี : Just-in-Time for Operators เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 974-94684-1-4 ราคา : 170 บาท
การผลิตแบบดึง : Pull Production for the Shopfloor เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 974-94684-5-7 ราคา : 170 บาท การบ่งชี้ “ความสูญเปล่า” : Identifying Waste on the Shopfloor เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 974-94684-6-5 ราคา : 170 บาท คมับงั : Kanban for the Shopfloor เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : บญุเสรมิ วนัทนาศภุมาต ISBN : 974-94684-4-9 ราคา : 170 บาท
งานที่เป็นมาตรฐาน : Standard Work for the Shopfloor เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : พรเทพ เหลือทรัพย์สุข และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 978-974-7628-41-8 ราคา : 170 บาท คา่ประสทิธผิลโดยรวมของเครือ่งจกัร : OEE for Operators เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : พรเทพ เหลือทรัพย์สุข และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 978-974-7628-42-5 ราคา : 170 บาท
การปรบัเปลีย่นเครือ่งจกัรอยา่งรวดเรว็ : Quick Changeover for Operators เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : พรเทพ เหลือทรัพย์สุข และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 978-974-7628-43-2 ราคา : 170 บาท
การป้องกันความผิดพลาด : Mistake-Proofing for Operators เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : พรเทพ เหลือทรัพย์สุข ISBN : 978-974-7628-44-9 ราคา : 170 บาท
ไคเซ็น : Kaizen for the Shopfloor เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : บุญเสริม วันทนาศุภมาต ISBN : 978-974-7628-40-1 ราคา : 170 บาท
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
409อภิธานศัพท์
หนังสือแนะนำจาก E.I. Square Publishing... http://publishing.eisquare.com
วิถีแห่งโตโยต้า : The Toyota Way เขียนโดย : Jeffrey K. Liker แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง ISBN : 974-93096-1-8 ISBN : 978-611-7062-07-0 ราคา : 390 บาท (ปกแข็ง) ราคา : 250 บาท (ปกอ่อน)
แกะรอยวิถีแห่งโตโยต้า คู่มือภาคสนาม : The Toyota Way Fieldbook เขียนโดย : Jeffrey K. Liker และ David Meier แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 978-974-09-6740-8 ราคา : 550 บาท
เก่งแบบโตโยต้า : Toyota Talent เขียนโดย : Jeffrey K. Liker และ David Meier แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ กชมล ศรีวงศ์ ISBN : 978-974-09-6745-3 ราคา : 450 บาท
หนังสือชุด “สถานที่ปฏิบัติงาน” (Shopfloor Series)
การผลิตแบบเซลลูล่าร์ Cellular Manufaturing : One-piece Flow for Workteams เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 974-94684-0-6 ราคา : 170 บาท การผลิตแบบทันเวลาพอดี : Just-in-Time for Operators เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 974-94684-1-4 ราคา : 170 บาท
การผลิตแบบดึง : Pull Production for the Shopfloor เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 974-94684-5-7 ราคา : 170 บาท การบ่งชี้ “ความสูญเปล่า” : Identifying Waste on the Shopfloor เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 974-94684-6-5 ราคา : 170 บาท คมับงั : Kanban for the Shopfloor เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : บญุเสริม วันทนาศภุมาต ISBN : 974-94684-4-9 ราคา : 170 บาท
งานที่เป็นมาตรฐาน : Standard Work for the Shopfloor เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : พรเทพ เหลือทรัพย์สุข และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 978-974-7628-41-8 ราคา : 170 บาท คา่ประสทิธผิลโดยรวมของเครือ่งจกัร : OEE for Operators เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : พรเทพ เหลือทรัพย์สุข และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 978-974-7628-42-5 ราคา : 170 บาท
การปรบัเปลีย่นเครือ่งจกัรอยา่งรวดเรว็ : Quick Changeover for Operators เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : พรเทพ เหลือทรัพย์สุข และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 978-974-7628-43-2 ราคา : 170 บาท
การป้องกันความผิดพลาด : Mistake-Proofing for Operators เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : พรเทพ เหลือทรัพย์สุข ISBN : 978-974-7628-44-9 ราคา : 170 บาท
ไคเซ็น : Kaizen for the Shopfloor เขียนโดย : The Productivity Development Team แปลโดย : บุญเสริม วันทนาศุภมาต ISBN : 978-974-7628-40-1 ราคา : 170 บาท
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
410Stat... Stat..
Andy & Me เซ็นเซกับผม : วิกฤต ในโรงงาน และการเดนิทางสู ่“ลนี” เขียนโดย : Pascal Dennis แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ธัญธร ขจรรุ่งศิลป์ ISBN : 978-974-7628-64-7 ราคา : 260 บาท Lean Logistics : ลอจสิตกิสแ์บบลนี เขียนโดย : Michel Baudin แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 978-974-7662-69-6 ราคา : 430 บาท ถอดรหัส DNA โตโยต้า : Inside The Mind of TOYOTA เขียนโดย : Satoshi Hino แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ธรีกร เกยีรตบิรรลอื ISBN : 978-974-0462-57-6 ราคา : 450 บาท ปรบัปรงุการผลติ ดว้ยแนวคดิแบบลนี : Improving Production with Lean Thinking เขียนโดย : Javier Santos, Richard Wysk, Jose Manuel Torres แปลโดย : พรเทพ เหลือทรัพย์สุข ISBN : 978-974-0462-48-4 ราคา : 340 บาท ลอจิสติกส์การตลาด : Marketing Logistics เขียนโดย : Martin Christopher Ph.D., Helen Peck Ph.D. แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง ISBN : 974-94684-2-2 ราคา : 280 บาท
วิถีแห่งลอจิสติกส์และโซ่อุปทาน
เขียนโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
ISBN : 974-91387-5-9
ราคา : 150 บาท
วิถีแห่งลอจิสติกส์และโซ่อุปทาน 2
เขียนโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
ISBN : 974-92314-8-1
ราคา : 150 บาท
Andy & Me เซ็นเซกับผม 2 ตอน ประยุกต์ใช้แนวคิด แบบลีนกับนอกอาณาเขตโรงงาน เขียนโดย : Pascal Dennis แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 978-616-7062-10-5 ราคา : 390 บาท จากวัฒนธรรมแบบโตโยต้า สู่วัฒนธรรมแบบลีน : Creating a Lean Culture เขียนโดย : David Mann แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง ดร.อธิศานต์ วายุภาพ และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 978-974-2588-83-0 ราคา : 350 บาท แนวคิดแบบลีน : LEAN THINKING เขียนโดย : James P. Womack และ Daniel T. Jones แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ ยุพา กลอนกลาง ISBN : 978-974-7231-31-1 ราคา : 450 บาท การจัดการคลังสินค้าระดับโลก : World-Class Warehousing and Material Handling เขียนโดย : Edward H. Frazelle, Ph.D. แปลโดย : อนุวัฒน์ ทรัพย์พืชผล และ ไพบูลย์ กิจวรวุฒิ ISBN : 974-94684-3-0 ราคา : 330 บาท เพราะ “ลอจสิตกิส”์ เปน็มากกวา่ “การสง่” : ศิลป์แห่งการจัดการโซ่อุปทาน เขียนโดย : Damon Schechter, Gordon Sander แปลโดย : ปรียาธร พิทักษ์วรรัตน์ ISBN : 974-94420-9-1 ราคา : 330 บาท มองรอบทิศ...คิดแบบลอจิสติกส์
(หนังสือชุดวิถีแห่งลอจิสติกส์และ
โซ่อุปทาน 3)
เขียนโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
ISBN : 974-94063-7-0
ราคา : 150 บาท
หนังสือแนะนำจาก E.I. Square Publishing...
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
411อภิธานศัพท์
คู่มือ S&OP การวางแผนการขาย
และปฏิบัติการ
เขียนโดย : Thomas F. Wallace
แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
และ ดร.วัชรพล สุขโหตุ
ISBN : 978-611-7062-05-6
ราคา : 350 บาท
วางหมากปรับกลยุทธ์ :
STRATEGY MOVES
เขียนโดย : Jorge A. Vasconcellos E S๋
แปลโดย : สุวัฒน์ หลีเหม
ISBN : 978-974-9468-48-7
ราคา : 290 บาท
Samsung ปะทะ Sony
เขียนโดย : Sea - Jin
แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
และ พนดิา เกษมวรพงศก์ลุ
ISBN : 978-974-2368-21-0
ราคา : 295 บาท
วิถีแห่งแอปเปิล : The Apple Way
เขียนโดย : Jeffrey L. Cruikshank
แปลโดย : อนุวัฒน์ ทรัพย์พืชผล
และ ธีรกร เกียรติบรรลือ
ISBN : 978-974-8388-60-1
ราคา : 320 บาท
เปลี่ยน Mindset...ชีวิตเปลี่ยน
เขียนโดย : Carol S. Dweck
แปลโดย : วิโรจน์ ประสิทธิ์วรนันท์
ISBN : 978-974-7628-65-4
ราคา : 295 บาท
เอาต์ซอร์ส (Outsource) :
ใครเก่งสิ่งไหน ก็ทำสิ่งนั้น
The Manager’s Step-by-Step Guide to Outsourcing เขียนโดย : Linda R. Dominguez
แปลโดย : ดร.วัชรพล สุขโหตุ
ISBN : 978-974-7231-22-9
ราคา : 270 บาท
เจาะ “แก่น” โซ่อุปทาน :
Essentials of Supply Chain Management
เขียนโดย : Michael Hugos
แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
ISBN : 974-93568-3-7
ราคา : 270 บาท
ต้นกำเนิดแบรนด์ : The Origin of Brands
เขียนโดย : AI Ries, Laura Ries
แปลโดย : สมวงศ์ พงศ์สถาพร
ISBN : 974-94253-2-4
ราคา : 350 บาท
Does IT Matter? : ฤๅ ไอที สำคัญ
เขียนโดย : Nicholas G. Carr
แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
ISBN : 974-9391-78-0
ราคา : 250 บาท
ตามรอย...เดลล์ : How Dell Does It
เขียนโดย : Steven Holzner
แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
และ ธีรกร เกียรติบรรลือ
ISBN : 978-974-9468-49-4
ราคา : 330 บาท
การคิดเชิงระบบ : Systems Thinking
เครื่องมือจัดการความซับซ้อนใน
โลกธุรกิจ
เขียนโดย : Virginia Anderson และ
Lauren Johnson
แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
และ ศิรศักย เทพจิต
ISBN : 978-974-8388-61-8
ราคา : 260 บาท
การบริหารโปรเจ็คท์ให้สัมฤทธิ์ผล :
แบบตาบอดคลำช้าง
เขียนโดย : David A. Schmaltz
แปลโดย : ปรียาธร พิทักษ์วรรัตน์
ISBN : 974-91903-9-4
ราคา : 225 บาท
http://publishing.eisquare.com
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
412Stat... Stat..
การวัดสมรรถนะ อธิบายได้...
ง่ายนิดเดียว :
Performance Measurement Explained
เขียนโดย : Bjqrn Andersen,
Tom Fagerhaug
แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ
ดร.ชชัชาล ีรกัษต์านนทช์ยั
ISBN : 974-94407-9-X
ราคา : 290 บาท
จากคิดได้อย่างไร
สู่อย่างไรก็คิดได้ด้วย TRIZ
เขียนโดย : ธนะศักดิ์ พึ่งฮั้ว
ISBN : 978-974-0547-37-2
ราคา : 190 บาท
Best Practices
ในการจัดการสินค้าคงคลัง
เขียนโดย : Dr.Tony Wild
แปลโดย : ไพบูลย์ กิจวรวุฒิ
ISBN : 978-974-2368-26-5
ราคา : 450 บาท
ERP สำหรับผู้บริหารประเด็น
ในการเลือกใช้ ดำเนินโครงการ
และขยายผล
เขียนโดย : David Olson
แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
และ ดร.เผ่าภัค ศิริสุข
ISBN : 978-616-7062-01-3
ราคา : 320 บาท
ศาสตร์แห่งโซ่อุปทาน
Supply Chain Science
เขียนโดย : Wallace Hopp
แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง,
ดร.บุญทรัพย์ พานิชการ
และ ดร.อธศิานต ์วายภุาพ
ISBN : 978-616-7062-02-0
ราคา : 390 บาท
แปรนโยบายสู่การปฏิบัติสำหรับ
วิสาหกิจแบบลีนด้วย Hoshin Kanri
เขียนโดย : Thomas L. Jackson
แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง,
ไรย์วินท์ บุญสวัสดิ์
และ ยุพา กลอนกลาง
ISBN : 978-616-7062-04-4
ราคา : 390 บาท
What is Lean Six Sigma?
เขียนโดย : Michael L. George,
David Rowlands, Bill Kastle
แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
และ พรเทพ เหลือทรัพย์สุข
ISBN : 978-616-7062-08-2
ราคา : 220 บาท คูม่อืการจดัการลอจสิตกิสแ์ละการกระจายสนิคา้ : The Handbook of Logistics and Distribution Management 3rd ed. เขียนโดย : Alan Rushton, Phil Croucher and Peter Baker แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง ดร.วิชัย รุ่งเรืองอนันต์ และ ดร.บุญทรัพย์ พานิชการ ISBN : 978-974-09-6754-5
ราคา : 650 บาท RFID การนำไปใช้เชิงยุทธศาสตร์ และผลตอบแทน (ROI) เขียนโดย : Charles C.Poirier & Duncan McCollum แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง ดร.เผ่าภัค ศิริสุข และ ธวัชชัย อนุพงษ์อนันต์ ISBN : 978-974-2588-88-5 ราคา : 350 บาท
เมื่อลีนไม่ทำกำไร! แล้วควรจัดการ
อย่างไรด้วย Lean Accounting
เขียนโดย : Brian H. Maskell
และ Bruce Baggaley
แปลโดย : สมชาย ศุภธาดา
ISBN : 978-616-7062-00-6
ราคา : 490 บาท
TPM สำหรับโรงงานแบบลีน
เขียนโดย : Ken’ichi Sekine
และ Keisuke Arai
แปลโดย : ธานี อ่วมอ้อ
ISBN : 978-616-7062-03-7
ราคา : 550 บาท
การผลิตเวิลด์คลาส เหตุเกิดในโรงรถ
All I Need to Know about Manufacturing
I Learned in Joe’s Garage
เขียนโดย : William B. Miller
และ Vicki L. Schenk
แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
ISBN : 978-616-7062-09-9
ราคา : 150 บาท
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
413อภิธานศัพท์
What is Lean Six Sigma?
เขียนโดย : Michael L. George,
David Rowlands,
Bill Kastle
แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
และ พรเทพ เหลือทรัพย์สุข
ISBN : 978-616-7062-08-2
ราคา : 220 บาท
การกระจายสินค้าแบบลีน :
Lean Distribution
เขียนโดย : Kirk D. Zylstra
แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง และ
ดร.ชัชชาลี รักษ์ตานนท์ชัย
ISBN : 978-616-7062-06-8
ราคา : 350 บาท
มุง่สูล่นี ดว้ยการจดัการสายธารคณุคา่ : Value Stream Management เขียนโดย : Don Tapping, Tom Luyster, Tom Shuker แปลโดย : ดร.วิทยา สุหฤทดำรง, ยุพา กลอนกลาง และ สุนทร ศรีลังกา ISBN : 978-974-9468-47-0 ราคา : 295 บาท
สถิติสำหรับ Six Sigma ง่ายนิดเดียว
เขียนโดย : Warren Brussee
แปลโดย : พรเทพ เหลือทรัพย์สุข
ISBN : 978-616-7062-05-1
ราคา : 400 บาท
PDCA แบบ Toyota ดว้ยการคดิแบบ A3 :
Understanding A3 Thinking
เขียนโดย : Durward K. Sobek และ
Art Smalley
แปลโดย : ดร.วทิยา สหุฤทดำรง, ไรยว์นิท ์บญุสวสัดิ ์
และ อัฑฒ์ สุนทรโรหิต
ISBN : 978-616-7062-11-2
ราคา : 320 บาท
สรา้งสถานะอนาคตแบบลนี
ดว้ยการจดัการสายธารคณุคา่
(Creating your Lean Future State)
เขียนโดย : Tom Luyster และ Don Tapping
แปลโดย : ดร.วทิยา สหุฤทดำรง, ไรยว์นิท ์บญุสวสัดิ,์
อัฑฒ์ สุนทรโรหิต และ ยุพา กลอนกลาง
ISBN : 978-616-7062-14-3
ราคา : 250 บาท
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
414Stat... Stat..
หนังสือชุด วินัย 5 ปÃะกาà ÊÓËÃѺͧ¤�¡ÃáË‹§¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ (Learning Organization) ©บับนิทาน
Peter Senge ศาสตราจารย์ของสถาบัน MIT และผู้เขียนหนังสือ The Fifth Discipline : The
Art and Practice of The Learning Organization ได้ให้ความหมายของ “Learning Organization” ไว้ว่า คือ
องค์กรที่ซึ่งคนในองค์กรสามารถขยายขอบเขตความสามารถของเขาเพื่อก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการอย่าง
แท้จริงได้ เป็นที่ซึ่งส่งเสริมให้เกิดและขยายแนวความคิดใหม่ๆ ออกไป สามารถแสดงออกทางความคิดได้อย่าง
อิสระ และเป็นที่ซึ่งผู้คนเรียนรู้ที่จะเรียนรู้ด้วยกันอย่างต่อเนื่อง
เรียนรู้วินัยที่เป็นแก่นสำหรับการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ใน หนังสือชุด วินัย 5 ประการ สำหรับ
องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) ฉบับนิทาน
The Tip of the Iceberg : ยอดของภูเขาน้ำแข็ง การจัดการพลังซ่อนเร้นซึ่งอาจสร้างหรือทำลายองค์กรของคุณ ISBN : 978-611-7062-00-1 ราคา : 200 บาท The Lemming Dilemma : สภาวะลำบากของหนูเลมมิงจ์ ใช้ชีวิตอย่างมีจุดประสงค์ นำอย่างมีวิสัยทัศน์ ISBN : 978-611-7062-01-8 ราคา : 200 บาท Shadows of the Neanderthal : เงาแห่งยุคหิน การทำความกระจ่างในความเชื่อที่จำกัดองค์กรของเรา ISBN : 978-611-7062-02-5 ราคา : 200 บาท Outlearning the Wolves : ฉลาดเกินหน้าหมาปา การอยู่รอดและเติบโตในองค์กรแห่งการเรียนรู้ ISBN : 978-611-7062-03-2 ราคา : 200 บาท Listening to the Volcano : สดับเสียงภูเขาไฟ การสนทนาที่เปดใจรับความเป็นไปได้ใหม่ๆ ISBN : 978-611-7062-04-9 ราคา : 200 บาท
Systems Thinking
Personal Mastery
Mental Model
Team Learning
Dialogue
ÇԹѠ5 »ÃСÒà ÊÓËÃѺͧ¤�¡ÃáË‹§¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ (Learning Organization)
ฉบับนิทาน แบบชุด 5 เล่ม ISBN : 978-611-7062-06-3 ราคา : 850 บาท
เขียนโดย : David Hutchens แปลโดย : ดร.มนต์ชัย พินิจจิตรสมุทร และ กุลชรี ตัณศุภผล
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
415อภิธานศัพท์
The Tip of the Iceberg : ยอดของภูเขาน้ำแข็ง การจัดการพลังซ่อนเร้นซึ่งอาจสร้างหรือทำลายองค์กรของคุณ ISBN : 978-611-7062-00-1 ราคา : 200 บาท The Lemming Dilemma : สภาวะลำบากของหนูเลมมิงจ์ ใช้ชีวิตอย่างมีจุดประสงค์ นำอย่างมีวิสัยทัศน์ ISBN : 978-611-7062-01-8 ราคา : 200 บาท Shadows of the Neanderthal : เงาแห่งยุคหิน การทำความกระจ่างในความเชื่อที่จำกัดองค์กรของเรา ISBN : 978-611-7062-02-5 ราคา : 200 บาท Outlearning the Wolves : ฉลาดเกินหน้าหมาปา การอยู่รอดและเติบโตในองค์กรแห่งการเรียนรู้ ISBN : 978-611-7062-03-2 ราคา : 200 บาท Listening to the Volcano : สดับเสียงภูเขาไฟ การสนทนาที่เปดใจรับความเป็นไปได้ใหม่ๆ ISBN : 978-611-7062-04-9 ราคา : 200 บาท
4 ¢Ñ鹵͹§‹ÒÂæ 㹡ÒÃÊÑ觫×éÍ
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING
416Stat... Stat..
Copyri
ghted
Mate
rial o
f E.I.S
QUARE PUBLIS
HING