oct._2011_what is management in supply chain management (iii)
TRANSCRIPT
Global Knowledge
50Logistics Digest October 2011
อีกกรอบโครงสร้างหนึ่ง หรือที่เป็นเครือ่งมอืเชงิแนวคดิคอืวธิีการวางแผนการพยากรณ์ และการเติมเต็มร่วมกัน CPFRถูกอธิบายไว้ว่าเป็นรูปแบบบนอินเทอร์เน็ตที่ออกแบบมาเพื่อประสานงานกิจกรรมต่างๆระหว่างหุ้นส่วนคู่ค้าในโซ่อุปทานเช่นการวางแผนการผลิตและการจัดซื้อ การพยากรณ์อุปสงค์ และการเติมเต็มสินค้าคงคลงัในปี1998VoluntaryInter-IndustryCommerceStandardsAssociation(VICS)ได้ก่อตั้งคณะกรรมการเพื่อระบุหลักปฏิบัติชั้นนำและสร้างแนวทางแนะนำสำหรับการออกแบบเพือ่นำมาใช้กบัCPFRผลลพัธ์จากความพยายามเหลา่นี้คอืCPFRเปน็ระเบยีบวิธีที่ถูกนำมาใช้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในการปรับปรุงการทำงานร่วมกันในโซ่อุปทาน(AttranและAttran2007)วัตถุประสงค์ของCPFRคือการแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในที่ได้เลือกไว้ผ่านเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานร่วมกันเพื่อให้มีมุมมองของอุปสงค์ในโซ่อุปทานที่เชือ่ถอืได้ดีขึน้และยาวไกลมากขึน้(Fliedner2003)ความสามารถในการมองเห็นและรับรู้ข้อมูล(Visibility)ในการวางแผนที่ดีขึ้นในโซ่อุปทานมีโอกาสสร้างประโยชน์ในหลายด้านด้วยกัน เช่น ยอดขายเพิ่มขึ้น สินค้าคงคลงัลดลงและการบรกิารลกูคา้ที่ปรบัปรงุดีขึน้สำหรบัทัง้ผู้คา้ปลกีและผู้ผลติ(Cassivi2006)
CPFRจะเน้นที่เทคโนโลยีสารสนเทศมากกว่ากรอบโครงสร้างแบบSCORและGSCF ที่เน้นที่กระบวนการอยู่บ้าง ความแตกต่างอีกข้อหนึ่งที่ควรกล่าวถึงระหว่างCPFRและแบบจำลองความร่วมมือในโซ่อุปทานแบบก่อนๆคือCPFRไม่จำเป็นต้องใช้จำนวนผู้ใช้งานในการดำเนินงานมากนักแต่ช่วยให้บริษัทปรับปรุงสมรรถนะได้โดยการมีความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันกับหุ้นสว่นโซ่อปุทานเพียงความสมัพันธ์เดยีวความแตกต่างข้อนี้ พร้อมกับการมีส่วนร่วมและการสนับสนุนของ VICS ช่วยทำให้จำนวนบริษัทที่ยินดีทดลองใช้CPFRมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น กระบวนการCPFRนั้นถูกแบ่งออกเป็นช่วงๆ ขั้นที่ 1 คือ การวางแผน จะเกี่ยวข้องกับข้อตกลงก่อนการดำเนินงานและการสร้างแผนธุรกิจร่วมกันระหว่างผู้จัดส่งวัตถุดิบและลูกค้า ขั้นที่ 2 การพยากรณ์อุปสงค์และอุปทาน จะเกี่ยวข้องกับการพยากรณ์ยอดขายและคำสั่งซื้อ ในขั้นการดำเนินงานจะมีการสร้างคำสั่งซื้อและมีการจัดส่งผลิตภัณฑ์มีการรับเข้าและจัดวางบนชั้นขายปลีกในขั้นสุดท้ายคือการวิเคราะห์หุ้นส่วนคู่ค้าจะมารวมกันเพื่อแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้และปรับยุทธศาสตร์เพื่อปรับปรุงสมรรถนะการวางแผนและการดำเนนิงานในอนาคต(Cassivi2006;AttranและAttran
2007)ในCPFRชว่งการวางแผนที่ดีเปน็สิง่ที่ขาดไม่ได้-ช่วงนี้เป็นจุดที่หุ้นส่วนโซ่อุปทานพัฒนาโครงการความร่วมมือ เช่นเดียวกับเงื่อนไขข้อตกลงสำหรับแต่ละฝ่าย สำหรับขัน้อืน่ๆนัน้โดยธรรมชาติแลว้เปน็เชงิปฏบิตัิการเสยีมากกวา่และจะตอ่ยอดจากหลกัการที่กำหนดไว้ในชว่งการวางแผนเรือ่งสำคญัที่ต้องเน้นคือการไม่ให้CPFRถูกมองว่าเป็นมาตรฐานเชงิเทคนคิและกระบวนการCPFRไม่ได้พึ่งพาเทคโนโลยีเป็นหลัก ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่เน้นก็ตามแต่CPFRจะใช้เครื่องมือและกระบวนการพื้นฐานเพื่อปรับปรุงการวางแผนโซ่อุปทานผ่านทางการไหลของข้อมูลที่ปรับปรุงดีขึ้น
ดร.วิทยา สุหฤท ดำรง
แบบจำลองCPFR
และการเติมเต็มร่วมกัน
What is Managementin Supply Chain Management? (III)
การวางแผนการพยากรณ์
Manufacturer
Strategy andplanning
Demand & SupplyManagement
Analysis
Execution
Performanceassessment
Ordergeneration
Collaborationagreement
Order planning/forecasting
Jointbusiness plan
Salesforecasting
Exceptionmanagement
Orderfulfillment
Retailer
Consumer
Global Knowledge
October 2011 Logistics Digest
51
กรอบโครงสร้างแบบMentzer กรอบโครงสร้างแบบ Mentzer ที่ เรานำมาพิจารณาถูกพัฒนาโดยMentzerและคณะ (2001) เพื่อจะมีวิธีสร้างมโนทัศน์เกี่ยวกับการจัดการโซ่อุปทานที่คงเส้นคงวาMentzer และเพื่อนร่วมงานของเขานิยามการจัดการโซ่อุปทานในบทวิเคราะห์นี้ว่าเป็น “การประสานงานหน้าที่งานธุรกิจแแบบดั้งเดิม และกลยุทธ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ และอย่างมียุทธศาสตร์ ในบริษัทหนึ่งๆ และระหว่างธุรกิจภายในโซ่อุปทานเพือ่ปรบัปรงุสมรรถนะในระยะยาวของแตล่ะบริษัทและโซ่อุปทานโดยรวม” คำอธิบายSCMของผู้เขยีนองิมาจากการพจิารณางานเขียนมากมายเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะที่เป็นคุณลักษณะของการจัดการโซ่อุปทานจากนยิามนี้SCMมีสว่นเกีย่วขอ้งกบัหลายหนว่ยงานและกิจกรรมธุรกิจหลายด้านและอิงที่กระบวนการเพื่อประสานงานกิจกรรมต่างๆระหว่างแต่ละหน้าที่งานและระหว่างแต่ละองค์กรในโซ่อุปทานนิยามนี้นำไปสู่แนวคิดการพัฒนาแบบจำลองของการจัดการ โซ่อุปทานดังที่แสดงในภาพที่4ด้านล่าง ในกรอบโครงสร้างนี้ โซ่อุปทานถูกแสดงในรปูของทอ่สง่(Pipeline)ที่แสดงการไหลของโซ่อุปทานการประสานงานระหว่างหนา้ที่งานของหนา้ที่งานดัง้เดมิในธรุกจิและการประสานงานระหว่างบริษัทระหว่างหุ้นส่วนโซ่อุปทานตั้งแต่ผู้จัดส่งวัตถุดิบของผู้จัดส่งวัตถุดิบ จนถึงลูกค้าของลูกค้า จนถึงการสร้างคุณค่าและความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคMentzerและเพื่อนร่วมงานเล็งเห็นว่าคุณค่าและความพึงพอใจของลูกค้าเป็นปัจจัยที่จำเป็นต่อการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและความสามารถในการทำกำไรสำหรับแต่ละบริษัทในโซ่อุปทานและสำหรับโซ่อุปทานโดยรวม (Mentzer และคณะ2001) ทัง้3กรอบโครงสรา้งที่กลา่วมาขา้งตน้คอืSCOR,GSCFและCPFRมีการนิยามไว้มากพอควรแลว้และสามารถนำมาใช้งานใน
องค์กรหลากหลายรูปแบบกรอบโครงสร้างแบบGSCFมีขอบเขตกว้างมากขอบเขตที่กว้างมากนี้อาจสร้างความท้าทายในการนำมาใช้งาน โดยเฉพาะที่กรอบโครงสร้างนี้แนะนำให้องค์กรเปลี่ยนจากการอิงหน้าที่งานมาอิง/จัดการตามกระบวนการ กรอบโครงสร้างSCORอาจนำมาใช้งานได้งา่ยกวา่เพราะวา่เกีย่วขอ้งกบัแค่หนา้ที่งานของธรุกจิในด้านการจัดหาการผลิตและลอจิสติกส์ แต่ก็อาจเพิ่มความเหมาะสมได้เพียงเฉพาะจดุ(Sub-optimization)และจดัการโซ่อปุทาน โดยไม่ได้มีข้อมูลจากหน้าที่งานส่วนอื่นๆ(Lambertและคณะ2005)กรอบโครงสร้างCPFRนั้นมีขอบเขตแคบกว่า ทำให้แต่ละบริษัทมีอิสรภาพในการตัดสินใจว่าจะใช้ความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันมากน้อยเพียงใดในแต่ละช่วงเวลา ความง่ายในการนำCPFRมาใช้งานและการที่สามารถวดัผลการปรบัปรงุได้จากความสมัพนัธ์แบบรว่มมอืกนัเพียงความสัมพันธ์เดียว ถือเป็นจุดแข็งข้อใหญ่ทีส่ดุของกรอบโครงสรา้งแบบนี้อยา่งไรก็ตาม สิ่งที่แตกต่างจากกรอบโครงสร้างอีก 2แบบคือCPFR ไม่ได้ให้ความมั่นใจว่าทรัพยากรภายในองค์กรมีการจัดเรียง กันอย่างเหมาะสม ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็น
จดุออ่นขณะที่กรอบโครงสรา้งของMentzerเน้นที่การปฏิสัมพันธ์ข้ามหน้าที่งานภายในองคก์รและความสมัพนัธ์ใหม่ๆ ที่ถกูสรา้งขึน้กับส่วนอื่นๆของโซ่อุปทานแต่ก็ไม่ได้มีการอธิบายกระบวนการที่ต้องนำมาใช้งาน ติดตามตอนที่ 4 “คำศัพท์เฉพาะทางของSCM”การทำงานรว่มกนัการบูรณาการและความยั่งยืน เราจะพบแนวคิดสำคัญๆหลายเรื่องด้วยกันจากการพิจารณางานเขียนเกี่ยวกับSCMอย่างละเอียดเช่นเดียวกบันยิามของSCMและกรอบโครงสรา้งของSCMนอกเหนอืจากการประสานงานการไหลและกจิกรรมที่เปน็นยิามที่ชดัเจนแลว้นยิามและกรอบโครงสร้างมักจะใช้คำศัพท์ต่างๆเช่น การทำงานร่วมกันและการบูรณาการนอกจากนั้น ความยั่งยืนก็เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในหัวข้อต่อจากนี้ เราจะพยายามชำแหละคำศัพท์แต่ละตัวขณะที่ยังเน้นที่ความหมายและสาระของมัน
ดร.วิทยา สุหฤท ดำรง ผู้ อำนวย การ สถาบัน วิทยาการ โซ่ อุปทาน มหาวิทยาลัย ศรีปทุม [email protected]
แบบจำลองของMentzer
SupplyChainFlows
CustomerSatisfaction/
Value/Profitability/CompetitiveAdvantage
Supplier’s Supplier Supplier Focal Firm Customer Customer’s Customer
Inter-FunctionalCoordination(Trust,Commitment,Risk,Dependence,Behaviors)
Products
Services
Information
FinancialResources
Demand
Forecasts
The Supply Chain
The Global Environment
Inter-Corporate Coordination(Functional Shifting, Third-Party Providers, Relationship Management, Supply Chain Structures)
Marketing
Sales
Research and Development
Forecasting
Production
Purchasing
Logistics
Information Systems
Finance
Customer Service