World

Food Day

No.1 Vol.1 Oct 2011

ยังทักทาย

ยังว่ากันว่ายังแม่น

ยังหนุนContributor

ยังอยากซื้อยังเล่า

04

Contents OCT

2011

ยังสรุปWorld Food Day.

04

06

08

10

14

2526

28

30

32

34

36

ยังแนะนำ Eat This NOT That!9อาหารรักษาโรค

ยังอยากบอกปฏิวัติ “กินดี” สู่ “กินพอดี”

ยังตามกระแสLet’s take a brake.

ยังอยากบอกอาหาร...จัดการได้

02

ก็เป็นการปิดเล่มอย่างสวยงามกับแมกาซีนเล่มแรก(และอาจจะเป็นเล่มเดียวในชีวิต) สนุกมากกับการทำ งาน บอกตรงๆว่าเหนื่อยมากกกกก ทั้งหาชุด นางแบบ สถานที่ อุปสรรคนู่นนี่เยอะแยะ คนนู้นคนนี้ แต่พอจะปิดเล่มก็แอบภูมิใจเล็กๆว่าในที่สุดก็ทำ มันเสร็จจนได้ พอมองกลับไปก็มีแต่คำ ขอบคุณที่ได้ทำ มันออกแนวเหนื่อยแต่สนุกนะ แอบกดดันด้วยเพราะแอบโดดเรียนไปปีนึง โปรกงโปรแกรมไม่ต้องพูด ทำ แทบจะไม่เป็นเลย ก็ขอบคุณเพื่อนๆด้วย แนะนำ หนังสือกันหน่อยละกัน“ยัง”ก็เป็นหนังสือสุขภาพสำ หรับคนรุ่นใหม่ และเล่มนี้อยากจะนำ เสนอ World Food Day ซึ่งเห็นคนนี้ตอนแรงก็งงว่าแค่อาหารก็ถึงกับต้องยกย่องกันขนาดนี้ แต่พออ่านไปอ่านมาก็ซึ้งเลย ว่าจัดตั้งวันนี้มาไม่ใช่เพื่อให้คนที่มีจะกิน แต่ทำ มาเพื่อให้คนที่เขาอด ก็จะได้รู้ถึงคุณค่าของอาหารมากขึ้นว่านอกจากจะทานอิ่มแล้วยังทำ อย่างอื่นได้อีก

สวิตตา มโนมัยอุดมบรรณาธิการ

ทักทาย

Editor Talk

04

CEOExecutive DirectorExecutive DirectorExecutive DirectorCirculation DirectorAdvertising ManagerProduction ManagerSale Co-OrdinatorPubilc Relation

Switta ManomaiudomWitrapee SuerodSirikarn RuamngoenNarissara KeawsomboonSatita SornpromPassakorn Sirathanon

Naphoong HormyamNatthapat NoisawadBudsayamas MalayamanKrittarwit KritmanoroteSaved SupakanTavudchai SangnumpedVeerawun ManeePakornputara JuntakhisornThanakorn Panmaern

Contributor

EditorColimnistEditorial AssistantGraphic DesignerImage ComposerPhotographer

หนุน

06

Naphoong HormyamNatthapat NoisawadBudsayamas MalayamanKrittarwit KritmanoroteSaved SupakanTavudchai SangnumpedVeerawun ManeePakornputara JuntakhisornThanakorn Panmaern

ไฟเขียวเลือกทานให้เป็นประจำ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ข้าวโพดต้ม ลูกเดือย พาสต้าโฮลวีท ข้าวโอ๊ต

ผักสด ผักต้ม ผักลวก ผักใบเขียว ร่วมกับผักสีอื่นๆ

ผลไม้ตามฤดูกาล เช่น ส้ม แอปเปิ้ล ฝรั่ง ชมพู่ มะละกอ สัปปะรด แคนตาลูป กล้วย แก้วมังกร สาลี่ สตรอเบอร์รี่

ไฟเหลืองเลือกทานแต่พอควร

ข้าวเหนียว ขนมจีน เส้นหมี เส้นใหญ่ บะหมี่ มัน เผือก ขนมปังขาว วุ้นเส้น

ผัดผัก(ไม่ควรใช้น้ำ มันมาก)

-

ไฟแดง เลือกทานแต่น้อย

หมี่กรอบ ข้าวมันไก่ คุ้กกี้ เค้ก พาย ท๊อฟฟี่ ขนมหวาน

ผักชุบแป้งทอด ผักหมักดองเช่น ผักกาดกระป๋องชนิดเค็มผักราดซอสครีม

ผลไม้หวานจัด เช่น มะม่วงสุข ขนุน น้อยหน่า ทุเรียน ลำ ไย ลิ้นจี่ ลองกอง ผลไม้แปรรูปต่างๆ เช่น ผลไม้กวน ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้ตากแห้ง มะขามหวาน ผลไม้กระป๋อง

เวลาจะทานอะไรแต่ละที่ก็กลัวว่าแคลอรี่จะเกิน ต้องมานั่งคิดคำ นวนให้ถี่ถ้วนก่อนจะใส่ปากได้ เรามาจัดเป็นตารางง่ายๆ ชื่อว่า ตารางไฟเขียวแดง ที่เราสามารถจะจำ ได้ง่ายว่าอันไหนทานได ้อันไหนควรระวัง!

อาหาร...จัดการได้

อยากบอก

08

ไฟเขียวเลือกทานให้เป็นประจำ เนื้อปลา โดยกินปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาทูน่า ปลาซาบะ ปลาซาร์ดีน อย่างน้อย2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ไข่ขาว อกไก่ไม่ติดหนัง เต้าหู้ ถั่วแดง ถั่วเขียว กุ้ง ปู

นมขาดไขมัน นมถั่วเหลืองรสจืด

น้ำ สลัดชนิดไม่มีน้ำ มัน มายองเนสไร้ไขมัน

น้ำ เปล่า น้ำ ชา ชาเขียว น้ำ สมุนไพรที่ไม่เติมน้ำ ตาล

ประเภทต้ม นึ่ง ยำ ลวก อบ ตุ๋น

ไฟเหลืองเลือกทานแต่พอควร

เนื้อหมู ไข่ทั้งฟอง น่องไก่ปลากระป๋องในน้ำ มันพืช

นมพร่องมันเนย นมเปรี้ยวไขมันต่ำ โยเกิร์ตไขมันต่ำ

น้ำ มันมะกอก น้ำ มันรำ ข้าว น้ำ มันคาโนล่า น้ำ มันถั่วเหลืองถั่วลิสง อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมมะพานต์ น้ำ สลัดไขมันต่ำ มายองเนสไขมันต่ำ

กาแฟ-ชา ใส่น้ำ ตาลและครีมเล็กน้อย

ปิ้ง ย่าง(ตัดส่วนที่ไหม้ออก)ผัดใส่น้ำ มันไม่มาก

ไฟแดงเลือกกินแต่น้อย

เนื้อติดมัน เครื่องในสัตว์ ไข่เจียว ไก่ทอด ปลาทอด หมูทอด เนื้อสัตว์แปรรูปเช่น ไส้กรอก แหนม กุนเชียง แคปหมู ชีส

นม หรือ โยเกิร์ตที่ปรุงแต่งรส นมเปรี้ยวพร้อมดื่ม นมข้นหวาน ครีม ไอศกรีม

ไขมันสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น น้ำ มันหมู หนังไก่ เนยสด น้ำ มันมะพร้าว กะทิ น้ำ มันปาล์มเคอเนล เนยเทียม เบคอน

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำ อัดลม น้ำ หวาน โอเลิ้ยง ชาเย็น กาแฟเย็น

ทอดชุ่มน้ำ มัน ผัดที่มันมาก

09

อยากรู้

10

ปฏิวัติ “กินดี”สู่ “กินพอดี”

ปฏิวัติ “กินดี”สู่ “กินพอดี”

แอ๋ม เมทินี เทพหัสดิน ณ อยุธยา เปลี่ยนลุ๊คจากวัยรุ่น กลายเป็นสาวสดใสหุ่นดีจนต้องชวนมาพูดคุย ว่าทำาไมถึงได้ดูหุ่นดีและสุขภาพดีแบบนี้ แอ๋มแอบบอกว่าเป็นผลจากการกินอาหารที่ เป็นทางลัดสู่สุขภาพดี อย่างแท้จริง!

เปลี่ยน “กินเกิน” สู่ “กินพอดี” “แอ๋มจะกินอาหารดีและครบคุณค่าทุกมื้อตั้งแต่ เด็กจากการปลูกฝังของคุณพ่อ และคุณแม่ แต่สิ่งที่เกินพอดีคือความถี่ค่ะ (หัวเราะ) ช่วงอายุเด็กๆ แอ๋มกินจุมาก จริงอยู่ที่กินข้าวไม่เกิน 1 จาน แต่กลับกินถี่ถึงวันละ 7-8 มื้อ (หัวเราะ) ตั้งแต่เช้าจนถึงก่อนนอน ผลที่ตามมาคือน้ำาหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่สนใจดูแลตัวเองจนกระทั่งขึ้นชั้นมัธยมปลาย เพื่อนพากันรักสวยรักงาม ทำ ให้ลดความอ้วนอย่างจริงจัง ช่วงแรกลดอาหารจากวันละ 8 มื้อ เหลือวันละ 3 มื้อ เหมือนคนปกติ (หัวเราะ) แต่ก็ยังผอมไม่ทันใจ จึงหันไปพึ่งยาลดความอ้วน พอเริ่มกินได้แค่ 4-5 วัน คือวิงเวียนศีรษะและหน้ามืดบ่อยมาก จึงเข็ดและไม่กินยาลดความอ้วนอีกเลย หลังจากนั้นก็กลับมากินอาหารตามปกติ เป็นแบบ low carb บ้าง สลับกับกินตามใจปากบ้าง (หัวเราะ) ทำ ให้น้ำ หนักขึ้นๆ ลงๆจน คิดว่าถึงเวลาที่ต้องมีสุขภาพดีจึงหันมาปฏิวัติการกินอาหารทั้งหมด และออกกำ ลังกายทุกวัน ผลที่ได้คือน้ำ หนักลดลง 5 กิโลกรัมภายในหนึ่งเดือน แถมไขมันตัวร้ายก็ลดลง ไขมันตัวดีเพิ่มขึ้น สิวก็ลดลงผิวพรรณสดใสขึ้นค่ะ” 11

12

กินดีเพื่อสุขภาพที่ดี “เพื่อรักษาสุขภาพดี ให้ยั่งยืน ต้องมีวินัยในการกินอาหารและออกกำาลังกายสำาหรับแอ๋ม คือทุกวันต้องกินอาหารให้ครบ 3 มื้อ ก่อนที่จะกินมื้อต่อไปให้ทิ้งระยะห่าง 4 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายย่อยและเผาผลาญอาหารให้หมด แต่ละมื้อควรมีโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ข้าวและผัก ลดการใช้เกลือ น้ำ ตาลและน้ำ มันปรุงอาหารให้น้อยที่สุด และพยายามไม่กินจุบจิบ ถ้าอยากกินของหวานอย่างไอศกรีมหรือเค้ก ก็ให้ตักผลไม้สดกินคู่กับโยเกิร์ตธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้ จึงพยายามทำ อาหารกินเองที่บ้าน ส่วนการออกกำ ลังกาย ชอบเล่นกีฬาอย่างว่ายน้ำ หรือแบดมินตันมากกว่าจะเข้าฟิตเนส ถ้าจะบริหารสัดส่วนให้กระชับก็จะทำ เองง่ายๆ ที่บ้าน เช่น การยืดกล้ามเนื้อ การปั่นจักรยานรอบๆ บ้าน แต่จะไม่วิ่งเพราะเกรงว่าจะเกิดแรงกระแทกข้อเข่าทำ ให้บาดเจ็บง่าย ส่วน floor exercise ก็จะเน้นซิตอัพเพื่อกระชับหน้าท้อง ยกเวตหรือวิดพื้นเพื่อให้ต้นแขนกระชับค่ะ”

กินเป็น หุ่นดี ร่างกายแข็งแรง

“การดูแลรูปร่างไม่ให้อ้วนจนเกินไปของแอ๋ม คือ การพยายามลดแป้งเพราะแป้งทำ ให้อ้วนง่าย โดยจะกินให้เต็มที่ในมื้อเช้า มื้อเที่ยงก็ลดลงมาหน่อย ส่วนมื้อเย็นจะเป็นมื้อเล็กๆ คุณแม่สอนว่าในมื้อเช้าให้กินอย่างพระราชา คือกินทุกอย่าง เพราะมื้อเช้าเป็นมื้อสำ คัญ และถ้าอยากกินอะไรเป็นพิเศษจะกินในมื้อเช้า เพราะในระหว่างวันที่เราทำ กิจกรรมต่างๆ ร่างกายก็จะเผาผลาญจนหมดอยู่แล้ว โดยปกติแล้วที่บ้านมื้อเช้าจะต้องมีโจ๊ก ซีเรียล และนม ซึ่งนมนี่ทุกคนในบ้านจะต้องดื่มทุกเช้า ขาดไม่ได้เลย เพื่อเป็นการเสริมแคลเซียมให้ร่างกายและป้องกันกระดูกเปราะ นอกจากน์ยังกินอาหารเสริมพวกวิตามินเพิ่มเติมด้วย”

12

ตามกระแส

14

อยากบอก

Let ’s Take A Break

15

16

เสื้อกล้าม Every Perfectกระโปรง philomel หมวก Peppooรองเท้า Peppoo 17

อยากบอก

เดส December No.5 เข็มขัด Peppoo

18

เดรสลายจุด Every Perfectหมวก Peppooเข็มขัด Peppoo 19

20

เกาะอก December No.5 หมวก Peppooเครื่องประดับ Ivoryรองเท้า Peppoo

21

Jutaporn TienprayodMatinee TephusadinKestsuwan AnukanTunchanok TraipornworakitSutapat SirinarmPeppoo’s HouseDecember no.5 (Siam Square soi 1) Every Perfect (Jatujak section 2)Philomel (Jatujak section 4)

Model Photograph HairMake up StylistThanks

22

Jutaporn TienprayodMatinee TephusadinKestsuwan AnukanTunchanok TraipornworakitSutapat SirinarmPeppoo’s HouseDecember no.5 (Siam Square soi 1) Every Perfect (Jatujak section 2)Philomel (Jatujak section 4)

ลดไขมันสักนิด แต่รสชาติยังอร่อยเหมือนเดิม เมื่อคุณคิดจะแสดงฝีมือทำ ขนมเองตามสูตรของเครี่แกนส์

คุกกี้และแป้งพายให้ใช้ : แป้งทำ ขนมโฮลวีตครึ่งนึง ผสมกับแป้งเอนกประสงค์ห้ามใช้ : แป้งอนกประสงค์ทั้งหมดแป้งโฮลวีตประกอบด้วยไฟเบอร์ 12 กรัม ใน 1 ถ้วย รับรองว่าใครที่ได้ชิมขนมของคุณจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างของรสชาติเลยแม้แต่นิดเดียว

พุดดิ้งและไส้พายของพุดดิ้งให้ใช้ : นมสดแบบไขมันต่ำ หรือ 0%ห้ามใช้ : ครีมสด 100%ครีมสด 1 ถ้วยมี 700 แคลอรี่ เปลี่ยนมาใช้นมไขมันต่ำ ขนมก็ยังคงความหวานมันเอาไว้ ในขณะที่ปริมาณไขมันลดลงฮวบเลย

พายผลไม้ให้ใช้ : น้ำ ตาลแค่ครึ่งเดียวห้ามใช้ : น้ำ ตาลเต็มอัตราศึกแบบสูตรทั่วไปใช้น้ำ ตาลน้อยลง 1 ถ้วย จะกำ จัดพลังงานไปได้ 744 แคลอรี่ และไม่ได้ทำ ให้โครงสร้างของไส้พายเปลี่ยนไป ดั้งนั้นให้ใช้น้ำ ตาลน้อยที่สุดเท่าที่จะทำ ได้

บราวนีย์ ช็อคโกแลตเค้ก และฟัดจ์ให้ใช้ : ผงโกโก้ 3 ช้อนโต๊ะห้ามใช้ : ผงช็อคโกแลตทำ ขนม 1 ออนซ์การใช้ผงโกโก้แทนผงช็อคโกแลตทำ ขนมนั้นให้พลังงานน้อยลง 85 แคลอรี่ ไขมันลดลง 13 กรัม

ชีสเค้กให้ใช้ : ชีสไขมันต่ำ ห้ามใช้ : ครีมชีสถ้าคุณใช้ชีสไขมันต่ำ 1 ถ้วย จะช่วยเพิ่มโปรตีนให้ร่างกายได้อีกหนึ่งเท่า ในขณะที่ลดไขมันไปตั้ง 60 กรัม เพราะชีสไขมันต่ำ เบาบางกว่า และมีแคลอรี่น้อยกว่าครีมชีส

Use This NOT That!

แนะนำ

25

1. บร็อคโคลี่ - ช่วยป้องกันมะเร็ง - อุดมด้วยวิตามินซี สารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยกำ จัดอนุมูลอิสระ ในร่างกาย และยังช่วยให้ผนังเส้นเลือดแข็ง- ประกอบด้วยสาร glutathione ซึ่งช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดไขข้ออักเสบ เบาหวาน และโรคหัวใจ และนอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดระดับคลอเลสเตอรอล และช่วยลดความดันโลหิตสูง- ป้องกันการเกิดต้อกระจก เนื่องจากบร็อคโคลี่ จะมีสารเบต้าแคโรทีนสูง โดยเฉพาะสาร lutein

ขนาดรับประทาน : บร็อคโคลี่ 1/2 ถ้วย ต่อสัปดาห์

4.ถั่วแดง เป็นอาหารที่มีส่วนประกอบของเส้นใยอาหารสูงมาก ดังนั้นจึงช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล ป้องกันการเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตก และมะเร็งลำ ไส้ใหญ่ อุดมด้วยกรดโฟลิค ที่ช่วยบำ รุงโลหิต ป้องกัน ความผิดปกติของทารกในครรภ์ นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ polyphenolics ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ

ขนาดรับประทาน : ควรรับประทาน 1 ถ้วย / วัน

อาหารเป็นยา เป็นคำ ที่ทราบกันดีในหมู่นักบริโภคเพื่อสุขภาพทั้งหลาย ซึ่งเราขอยกมือสนับสนุนเต็มที่ เพราะอาหารที่คุณคุ้นเคยหลายชนิด ซึ่งนอกจากจะอร่อยลิ้นแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดปัญหาทางสุขภาพและช่วยส่งเสริมสุขภาพของคุณด้วย อันนี้นักวิจัยเขายืนยันมา และนี่ก็คือ 9 ยอดอาหารธรรมชาติที่ช่วยรักษาสุขภาพของคุณ

9 อาหารรักษาโรค

2. ปลาแซลมอน

มีปริมาณน้ำ มันปลาที่เรียกว่า Omega-3s ค่อนข้างสูง ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจ และช่วยควบคุมอาการไขข้ออักเสบ นอกจากนี้น้อำ มันปลา ยังช่วยลดอาการปวดรอบเดือน กลุ่มอาการก่อนมีรอบเดือน รวมทั้งช่วยระงับอาการซึมเศร้า

ขนาดรับประทาน : รับประทานสัปดาห์ละ 3 ออนซ์

3. กระเทียม ช่วยลดคลอเลสเตอรอล มีฤทธิ์คล้ายกับยาแอสไพรินในการช่วยป้องกันการแข็งตัวและการอุดตันของหลอดเลือด มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้เหมือนกับยาเพ็นนิซิลิน โดยเฉพาะเวลาที่เจ็บคอ สามารถใช้กระเทียมรักษาได้ และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ในการช่วยป้องกันมะเร็งลำ ไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านม

ขนาดรับประทาน : การป้องกันโรคหัวใจรับประทานวันละ 1 กลีบ และโดย ทั่วไปก็แนะนำ ให้รับประทานกระเทียมเป็นประจำ ทุกวัน

แนะนำ

26

5. นมพร่องมันเนย เป็นแหล่งของแคลเซี่ยมสูงที่ปลอดไขมัน ซึ่งป้องกันภาวะกระดูกพรุน และยังประกอบด้วยสารโปรตัสเซี่ยมและแมกเนเซี่ยม ที่ออกฤทธิ์ช่วยลดความดันโลหิตสูงค่ะ

ขนาดรับประทาน : คนวัยหนุ่มสาวต้องการแคลเซี่ยมวันละ 1000 mg ค่ะ ส่วนวัยสูงอายุจะต้องการเพิ่มขึ้นเป็น 1500 mg /วัน จึงจะเพียงพอค่ะ ปัจจุบันมีนมพร่องมันเนยแคลเซี่ยมสูงจำ หน่ายอยู่ทั่วไป เลือก

ดื่มได้ตามปริมาณที่แนะนำ นะคะ

7. ส้ม ยอดผลไม้ที่มีปริมาณวิตามิน ซี สูง เส้นใยอาหารสูง รวมทั้งสารอาหารชนิดอื่นๆ ซึ่งช่วยป้องกันหวัด ลดระดับคลอเลสเตอรอล ช่วยในการสร้างกระดูก ป้องกันการเกิดนิ่วในไต ป้องกันมะเร็งลำ ไส้ใหญ่ ตลอดจนช่วยฟื้นฟูอาการเจ็บหน้าอกจากโรคหัวใจอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ สาร phytochemicals ในส้มยังช่วยต่อต้านมะเร็งเต้านม

ขนาดรับประทาน : ควรรับประทานส้มวันละ 1-2 ผล

6. ซอสมะเขือเทศ นอกจากจะสุดอร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์มากมายค่ะ เช่น ป้องกันมะเร็งลำ ไส้ใหญ่ มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร สาร lycopene ในมะเขือเทศเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ พบมากในเฉพาะมะเขือเทศเท่านั้น ในผักผลไม้ชนิดอื่นจะมี lycopene น้อยค่ะ สาร lycopene มีคุณสมบัติกำ จัดสารอนุมูลอิสระตัวอันตรายให้ออกไปจากร่างกายของคุณ ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันมะเร็งแล้วยังช่วยให้คุณห่างไกลความร่วงโรย

ขนาดรับประทาน : รับประทานได้ตามใจชอบเ

8. เต้าหู้ หนึ่งในอาหารชั้นเลิศที่ควรเลือกรับประทานช่วยลดระดับไขมัน คลอเลสเตอรอล อุดมด้วยสาร Isoflavone สารเอสโตรเจนธรรมชาติจากพืช ป้องกันกระดูกพรุน ป้องกันมะเร็งเต้านม และยังช่วยให้ไตทำ งานได้ดี

ขนาดรับประทาน : 30-50 mg ของ Isoflavone / วัน หรือเท่ากับปริมาณเต้าหู้ 1/2 ถ้วย/วัน ซึ่งมี Isofla-vone 35 mg.

9. น้ำ ร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำ เป็นส่วนใหญ่ จึงจำ เป็นที่คุณควรจะดื่มน้ำ ให้เพียงพอ เพราะน้ำ คือยาอันมหัศจรรย์ทีเดียวค่ะ หากดื่มน้ำ ได้เพียงพอ จะช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลีย ตะคริว รักษาระดับอุณหภูมิของร่างกาย ป้องกันการเกิดนิ่ว และยังช่วยให้ผิวพรรณ

เปล่งปลั่งสดใส ควรจะดื่มน้ำ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

27

อยากซื้อ

หมวก Young No,1 590เสื้อกล้ามสีดำ Ivory 980กางเกงสีดำ Ivory 1350แจ็กเกตเขียว Ivory 1150ประเป๋า Young No,1 3450รองเท้าส้นสูง Ivory 2850

28

เสื้อกล้ามลายจุด Ivory 980กางเกงสีเาา Ivory 1350แจ็กเกตสีน้ำ ตาลอ่อน Ivory 1850รองเท้าหุ้มข้อ Young No.1 2900เครื่องประดับ Young No.1 350

29

* ความรักเหมือนทุเรียน : ถ้าอยากชิมเนื้อในที่หอมหวานก็ต้องยอมถูกหนามตำ อุปสรรคของความรักก็เหมือนหนามทุเรียน ถ้าเราอดทนและฝ่าฟันไปได้ เราก็จะได้ลิ้มรสหวานหอมอร่อยเริดเป็นรางวัล

* ความรักเหมือนโอเลี้ยง : ถึงจะดำ ดีสีไม่ตกแต่ก็หวานอร่อยถูกปาก เป็นข้อพิสูจน์ว่าคนที่ไม่สวยหล่อก็อาจเป็นแฟนที่ดีได้ ถ้าคุณให้โอกาสเขาพิสูจน์ตัวเอง

* ความรักเหมือนคากิ : หน้าตายั่วยวนแต่ไม่ควรกิน มิฉะนั้นอาจทำ ให้เส้นเลือดอุดตัน มีผลถึงสิ้นใจก่อนวัยอันควร เปรียบได้กับกิ๊ก ถึงแม้รูปร่างหน้าตาของเธอจะชวนน้ำ ลายไหล แต่ถ้าเผลอกินเข้าไปเราอาจอายุไม่ยืน เพราะถ้าแฟนจับได้เราคงได้ชิมลีลาแม่ไม้มวยไทย ก่อนจะถูกหามไปสิ้นใจที่โรงพยาบาล (ใครเห็นด้วยกับข้อนี้ขอเสียงหน่อย…ฮิ้ว)

“ความรัก” กับ อาหารไทย

* ความรักเหมือนส้มตำ : ของบ้าน ๆ ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันและคิดว่ามันไม่น่ากิน แต่พอเอามารวมกันดันโดนซะได้ก็เหมือนคนบางคนที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่ผ่านไปเป็นสิบ ๆ ปีก็ยังรักกันดีอยู่เลย ต่างกับบางคู่ที่ใคร ๆ คิดว่าก็น่าจะไปกันได้สวย แต่ไม่กี่เดือนก็ดันเตียงหักซะแล้ว

* ความรักเหมือนปลาย่าง : มีโอเมก้า 3 ที่จำ เป็นต่อร่างกาย แต่ถ้ากินแบบไม่ระวังเราอาจถูกก้างปลาตำ คอเอาได้ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เวลามีความรักต้องใส่ใจทุกรายละเอียด ศึกษานิสัยใจคอของคนรักให้ดีเสียก่อน อย่าดูกันแต่ภายนอก เพราะก้างของปลานั้นซ่อนอยู่ภายใน เหมือนกับนิสัยห่วย ๆ ของคนรัก นั่นหล่ะที่มองแค่ภายนอกจะไม่มีทางรู้เลย

* ความรักเหมือนวาซาบิ : เวลาพิษรักวิ่งขึ้นจมูก เรานึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว แต่ถ้าทนซักพักความทรมานก็จะหายไปเอง สาว ๆ รักร้าวทั้งหลายจำ ไว้นะจ๊ะ

ม า ดู สิ ว่ า ค ว า ม รั ก ข อ ง คุ ณ เ ข้ า กั บ อ า ห า ร จ า น ไ ห น

เล่า

30

* ความรักเหมือนน้ำ เปล่า : เปรียบเหมือนความรักของเพื่อนที่สะอาดบริสุทธิ์ เพราะไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส ไม่ต้องมีรูปร่างหน้าตายั่วยวน แต่ดีต่อสุขภาพและควรจะดื่มเป็นประจำ เพราะถ้าขาดการติดต่อนานเกินเดี๋ยวจะต่อกันไม่ติด

* ความรักเหมือนมะม่วงน้ำ ปลาหวาน : ต้องอยู่คู่กันถึงจะอร่อย คนบางคนเกิดมาเพื่อจะอยู่ด้วยกัน และต้องจับคู่กันถึงจะลงตัวที่สุด ของแบบนี้เขาเรียกพรหมลิขิตค่ะพี่น้อง

* ความรักเหมือนต้มยำ กุ้ง : ต่อ ให้อร่อยแค่ไหน แต่ถ้าทิ้งไว้จนจืดชืดก็ไม่มีใครอยากกิน ก็เหมือนคู่ที่รักกันนานจัด แต่ไม่ยอมแต่งงานเสียที รักมาราธอนแบบนี้ส่วนใหญ่มักจะไปไม่รอด เพราะอะ ๆ ที่เคยซี๊ดซ๊าดแซบอีหลี มันกร่อยไปหมดแล้ว

* ความรักเหมือนข้าวหลาม : ถ้าไม่ผ่ากระบอกออกก็จะไม่มีทางรู้ว่าข้างในเป็นอะไร เปรียบได้กับเจ้าสาวที่กลัวฝนทั้งหลายที่กลัวความรัก กลัวการแต่งงานจนปิดโอกาสตัวเอง ไม่ยอมทดลองดูว่ารสชาติของการมีคนรักมันหวานมันขนาดไหน

* ความรักเหมือนไอศกรีม : ทั้งสวยทั้งหอมดูไม่มีพิษภัย แต่ถ้ากินมากเกินไปความสวีตเกินพิกัดอาจพาไปจบที่โรคเบาหวาน เป็นการเตือนนักรักทั้งหลายให้เสพรักอย่างพอเพียง รู้จักทิ้งระยะมีช่องว่างให้กันบ้าง ไม่อย่างนั้นจะเบื่อกันเร็วเกินไป

31

เขาว่ากันว่า : สามารถทานผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “Low Fat” หรือ “Low Sugar“ ได้โดยไม่มีข้อจำ กัด

ยัง : ผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “Low Fat” หรือ “Low Sugar”นั้น มักจะลดปริมาณไขมันหรือน้ำ ตาลลงไป ส่งผลให้มีพลังงานที่ต่ำ กว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นชนิด “Full Fat” หรือ “Full Sugar”หากแต่บางผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มส่วนผสมจากแหล่งอื่นๆ เช่น น้ำ ตาล หรือไขมัน ซึ่งมีพลังงานเพิ่มขึ้นเพื่อคงรสชาติที่อร่อยไว้ ถ้าคุณทานอาหารพวกนี้ในประมาณที่มาก ก็จะส่งผลเสียต่อรูปร่างได้ เพราะฉะนั้นควรอ่านฉลากให้ดีก่อนซื้อทุกครั้ง เพื่อเปรียบเทียบว่าผลิตภัณฑ์ใดมี

เขาว่ากันว่า : ทานอาหารหลัง1ทุ่ม ทำ ให้อ้วน?

ยัง : ไม่ว่าคุณจะทานอาหารในช่วงเวลาใด หากทานในประมาณที่เกินความต้องการของร่างกายแล้วก็มีโอกาศอ้วนได้เช่นกัน ถ้าคุณรู้สึกหิวหลังอาหารเย็น ให้ลอกนึกทบทวนดูก่อนว่าได้ทานเพียงพอแล้วหรือยัง พยายามไม่นั่งทานหน้าโทรทัศน์ เพราะนั่นอาจทำ ให้ทานมากโดยไม่รู้

ว่ากันว่า

ความสงสัยเกี่ยวกับอาหาร

32

เขาว่ากันว่า : อดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง ช่วยลดน้ำ หนักได้?

ยัง : เมื่ออดอาหาร โดยเฉพาะมื้อเช้า มักจะพบว่ามีน้ำ หนักตัวมากกว่าคนที่ทานอาหารครบสามมื้อ ร่วมกับการทานอาหารว่างที่เป็นเวลาในปริมาณที่เหมาะสม อาจเป็นเพราะคนที่อดอาหารมื้อเช้า จะหิวมาในมื้อต่อมา และทำ ให้ทานมาขึ้นกว่าเดิม ในทางกลับกันคนที่ทานอาหารเป็นเวลาไม่งดมื้อใดมื้อหนึ่งจะสามารถควบคุมความอยากได้ดี และไม่ทานเกินความต้องการในแต่ละวัน

เขาว่ากันว่า : ตอนลดน้ำ หนัก ควรลดอาหารจำ พวกข้าวแป้ง และไขมันทุกชนิด

ยัง : อาหารหลายชนิดที่เป็นข้าวแป้งก็มีพลังงานที่ไม่มากจนเกินไป และไขมันต่ำ เช่น ข้าวกล้อง ซีเรียล ขนมปังโฮลวีท ถั่วเมล็ดแห้ง มูสลี่ อาหารเหล่านี้จะส่งผลเสียต่อร่างกายหากเราในปริมาณที่มากจนเกินไป หรือเพิ่มส่วนผลมอื่นๆ เช่น น้ำ มัน เนย มายองเนส หรือน้ำ ตาลลงไป อาหารของเราควรจะมาจากคาร์โปไฮเดรตที่มีใยอาหารสูง นอกจากนี้ร่างกายเราทุกคนต้องการไขมันในการสร้างส่วนต่างๆให้กับร่างกาย เช่น ฮอร์โมน และส่วนประกอบของเซลล์ ดังนั้นเพื่อสุขภาพเราควรเน้นทานไขมันดี เช่น ถั่วเปลือกแข็ง ปลาทะเล ทดแทนไขมันอิ่มตัวที่เรามันทานมากเกินไป

ที่มา : โรงพยาบาลสมิติเวช 33

ราศีสิงห์(17 ส.ค. - 16 ก.ย.)

ชาวราศีสิงห์เป็นคนที่มีความสร้างสรรค์และ โรแมนติก เขาเป็นคนที่แสดงออกถึงอารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ ได้ดี กล้าแสดงออก ชอบความสนุกสนาน และชอบพบปะผู้คน เขามีความสามารถในการดึงดูดผู้คนให้หันมาสนใจในตัวเขาได้ เพราะเขามีความโดดเด่นและเป็นผู้นำ สำ หรับเรื่องความรัก เขาก็เป็นคนรักที่ดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าราศีอื่น เต็มไปด้วยความอบอุ่นและการเทคแคร์ดูแลเอาใจใส่ดีอย่างสม่ำ เสมอ

ราศีพฤษภ(15 พ.ค. - 14 มิ.ย.)

เป็นคนนิ่งๆ และไม่โลดโผนมากนัก แต่ก็ไม่ใช่คนจำ พวกที่น่าเบื่อ เป็นคนที่อุบอุ่น ละเอียดอ่อน และโรแมนติกด้วยซ้ำ ไป เขาจะทำ สิ่งใดด้วยใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความจริงใจ สิ่งที่เขาต้องการก็คือความจริงใจเช่นกัน ความเข้าใจกันและสมัครสมานสามัคคีกัน หรือไม่ก็ต้องเป็นคนที่สามารถทำ ให้เขาอารมณ์ดีได้และแสดงออกทางความรู้สึก ให้มากๆเข้าไว้ แล้วคุณก็จะเป็นที่รักของชาวราศีนี้ได้อย่างง่ายดาย

ราศีเมถุน(15 มิ.ย. - 15 ก.ค.)

ชาวเมถุนเป็นผู้ที่มีความคล่องแคล่วว่องไว ปราดเปรียว ปรู๊ดปร๊าด บริหารเวลาเก่ง เวลาของเขาเป็นเงินเป็นทองไปหมด ชาวเมถุนเป็นคนที่ไม่อยู่นิ่งเฉย ต้องหยิบจับ หาอะไรทำ อยู่เรื่อยๆจะคอยศึกษาหาความรู้ใหม่ๆใส่ตัวอยู่เสมอ ชาวเมถุนเป็นคนธาตุลม เป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองสูง มีความเฉลียวฉลาด เป็นคนที่มีความสามารถในการสื่อสาร การพูดจาที่ดี น่าฟัง เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ หัวไวและเป็นคนร่าเริง

ราศีกรกฎ(16 ก.ค. - 16 ส.ค.)

บ้านคือหัวใจสำ คัญของเขา เป็นที่ที่ปลอดภัยและรู้สึกผ่อนคลายที่สุด เมื่ออยู่บ้านกับครอบครัว ธรรมชาติของชาวกรกฎอยู่บนฐานของดวงจันทร์ และมีสัญลักษณ์ประจำ ราศีคือ ปู ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่มีอารมณ์แปรปรวน ขึ้นๆลงๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่ค่อยมีความมั่นใจ หากคุณเป็นคนสนิทกับเขาคุณจะต้องยอมอุทิศเวลาและอารมณ์เพื่อคอยเอาใจและดูแล เขามากหน่อย และต้องเป็นผู้นำ ให้กับเขาด้วย

ราศีเมษ(13 เม.ย. - 14 พ.ค.)

จัดได้ว่าเป็นคนใจอ่อน โมโหง่ายคนที่เกิดในราศีนี้จะเป็นคนที่มีอารมณ์ร้อน ฉุนเฉียวง่ายและไม่สามารถจะอดทนหรืออดกลั้นอะไรได้นานๆ ประมาณว่าต่อมอดทนอดกลั้นคงผิดปกติ มีอะไรนิดอะไรหน่อยมาสะกิดล่ะก้อ เป็นได้ฟิวส์ขาดทุกทีไป เสน่ห์ของชาวราศีเมษอย่างนึงก็คือความมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเข้ากับคนง่าย เพื่อนฝูงมากหน้าหลายตา เป็นคนที่มีบุคลิกภาพที่ดี กล้าแสดงออกชอบการผจญภัยและสิ่งใหม่ๆ

ราศีกันย์(17 ก.ย. - 16 ต.ค.)

ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีน้ำ ใจ ช่วยเหลือเพื่อนๆ และคนรักในทุกๆเรื่องที่เขาจะช่วยได้ เขาเป็นคนที่มีความขยัน มุมานะ และมักจะทำ อะไรที่ดีๆและเป็นประโยชน์มาให้เพื่อนๆและคนรอบข้างเสมอ ชาวกันย์เป็นคนใจเย็น และมีความอ่อนโยน แต่บางครั้งก็ดูจะเป็นคนขี้อายไปบ้าง ดังนั้นหากได้คบหากับคนที่ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของเขาให้มากยิ่งขึ้นกว่านี้ก็จะทำ ให้ชาวกันย์เป็นคนที่มีเสน่ห์และน่าคบหา มากทีเดียว

0ct. 2011

แม่น

34

ราศีกุมภ์(13 ก.พ. - 15 มี.ค.)

ชาวราศีกุมภ์ บุคคลผู้ซึ่งมีมุมมองที่เปิดกว้าง มีอิสระทางความคิดและจะคอยแนะนำ แต่สิ่งดีๆให้เพื่อนและคนรอบข้างเสมอเขามัก จะเป็นคนจุดประกายแนวคิดต่างๆ ให้แก่คนอื่นทำ ให้ชาวกุมภ์เป็นคนกว้างขวาง มีคนรู้จักมากมาย และเป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดความสนใจจากผู้อื่นได้ แต่ข้อเสียของเขาคือ ความเจ้าชู้ถ้าใครได้เป็นแฟนกับชาวกุมภ์จะต้องทำ ใจกับความเจ้าชู้ของเขาให้ได้

ราศีมังกร(15 ม.ค. - 12 ก.พ.)

เป็นสัญลักษณ์แห่งความขยันขันแข็ง ชาวมังกรเป็นผู้ที่มีความมานะบากบั่น ไม่ย่อท้อต่อความยากลำ บากใดๆ จนกว่าจะได้มาซึ่งความสำ เร็จ แต่สำ หรับในด้านความรัก บางทีความพยายามที่มากเกินไปเพื่อให้ได้มาซึ่งความรัก อาจจะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ ชาวมังกรเป็นผู้ที่มีรสนิยมสูง เขาจึงต้องพยายามและเหนื่อยกับมัน เป็นคนที่มีความโรแมนติก และจะมีความสุขกับการให้สิ่งดีๆหรือทำ ดีกับใครที่เป็นคนพิเศษของเขา

ราศีธนู(16 ธ.ค. - 14 ม.ค.)

ชาวราศีธนูเป็นนักแสวงหาความรู้ และชอบที่จะทำ ความเข้าใจกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นรอบตัวตลอดเวลา และชาวธนูเป็นคนที่มีความคิดและประสพการณ์มาก เป็นคนจริงใจ ไว้ใจได้ชาวราศีธนูถ้าคบใครก็จะคบอย่างลึกซึ้ง ใช้เวลาในการศึกษานิสัยใจคออยู่นานจนกว่าเขาจะไว้เนื้อเชื่อใจ นอกจากนี้ชาวธนูยังเป็นผู้ที่มีอัธยาศัยดี เป็นคนที่ชอบพบปะผู้คน ชอบความอิสระเสรี ชอบความท้าทาย นั่นแหละชาวราศีธนูล่ะ

ราศีพิจิก(16 พ.ย. - 15 ธ.ค.)

ชาวราศีพิจิกเป็นคนที่ได้ชื่อว่า สามารถเป็นได้ทั้งคนแสนดีและแย่มากๆ ภายในคนๆเดียวกัน ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขา ชาวพิจิกเป็นคนใจอ่อน และเมื่ออยากได้อะไรแล้วจะต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา ชาวพิจิกเป็นคนที่มีความสามารถและมีความมั่นใจในตนเองสูง ซึ่งบางครั้งเมื่อรวมกับอารมณ์ที่ปรวนแปรและเอาแต่ใจก็จะทำ ให้ชาวพิจิกเป็น คนน่ากลัวอยู่เหมือนกัน

ราศีตุลย์(17 ต.ค. - 15 พ.ย.)

ชาวราศีตุลย์เป็นคนที่รักสันติ รักความสามัคคี และเป็นคนใจกว้าง ยอมรับฟังทุกสิ่งทุกอย่างในหลายมุมมอง ชาวตุลย์เป็นคนที่รักสนุกชอบความรื่นเริง มีมนุษยสัมพันธ์ดี เป็นที่อยากรู้จักของคนทั่วไป เพราะชาวตุลย์จะชอบให้ตนเองเป็นที่รักของผู้อื่น เป็นคนที่มีเสน่ห์ แต่เขาจะเป็นคนฉลาดในการเลือกคบคน และเขาจะไม่ค่อยเสียเปรียบในการคบใคร แต่ก็เป็นคนที่มีน้ำ ใจกับเพื่อนๆ หรือคนที่คบอยู่ด้วย

ราศีมีน(16 มี.ค. - 12 เม.ย.)

ชาวมีนเป็นคนช่างคิดช่างฝัน คุยเก่ง เขาจะพูดคุยถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ได้เรื่อยๆ เขาเป็นคนที่วาดฝันแต่สิ่งดีๆสิ่งสวยงามโดยพยายามที่จะซ่อนหรือลืมความจริง ที่ไม่ได้ดั่งใจเขาเอาไว้ คนที่จะเข้ากับชาวมีนได้ดี จะต้องเป็นคนที่ไม่พูดตรงเกินไป และเลี่ยงคำ พูดที่จะทิ่มแทงใจเขา แต่ไม่ใช่ว่าจะหนีความจริงเสมอไป เพียงแต่ว่าเขาเป็นคนคิดมาก อ่อนไหว จึงพยายามไม่คิดอะไรให้มันจริงจัง แต่ก็เป็นคนที่ปรับตัวเข้ากับสิ่งรอบตัวได้ดี

Horoscope

35

World Food Day (วันอาหารโลก) ตรงกับวันที่ 16 ตุลาคมของทุกปี ก่อนตั้งโดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ในปี ค.ศ. 1945 ได้เสนอแนวคิดในการเฉลิมฉลองวันอาหารโลก นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาในมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ได้เพิ่มความตระหนักถึงประเด็นความยากจนและความอดอยาก

แต่ในประเทศไทยของเรานั้นก็เป็นประเทศที่อาหารเรียกได้ว่าอุดมสมบรูณ์มากเป็นอันดับต้นๆของโลก มีผลไม้ทานตลอดทั้งปี ทำ ให้สถิติตอนนี้คนไทยมีน้ำาหนักตัวมากขึ้นเรื่อยๆเพราะขาดการดูแลเรื่องการรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม บางคนก็จะต้องทานยาลดความอ้วน หรือ การเข้าสถาบันลดน้ำ หลักต่างๆ แต่ถ้าเราหันมาเห็นความสำ คัญของอาหาร ว่านอกจากการทานแล้ว ยังสามารถนำ ไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย ทั้งการรักษาผิว รักษาโรค ฯ

World Food Dayประเทศในแถบแอฟริกาsที่เขาขาดแคลนอาหาร หรืออาหารมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนในประเทศ ทำ ให้จะต้องรณรงค์ถึงความสำ คัญของอาหารมากขึ้น ดังนั้น ยัง ก็ขอเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ ที่จะเห็นความสำ คัญของอาหารให้มากขึ้น เพราะต่อไปในอนาคตอาจจะเกิดช่วงการกันดารอาหารซึ่งจะมารู้คุณค่าต่อนั้นก็คงจะสายเกินไปแล้ว

สรุป

36