การประมวลผลข้อมูลจาก ...independent-sample t test 3. ท...
TRANSCRIPT
การประมวลผลข้อมูลจากแบบสอบถาม
1
Independent-Samples T Test
Independent-Samples T Test
2
การเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างตัวแปร 2 ตัว ที่เป็นอิสระต่อกัน (Independent-Sample T Test)
จากวัตถุประสงค์ของการวิจัยที่ต้องการเปรียบเทียบความแตกต่างของความพึงพอใจในรูปแบบของรายการ ระหว่างเพศหญิง และเพศชาย จะต้องใช้ค าสั่ง Compare Means--> Independent-Samples T Test โดยมีขั้นตอนการท างานดังนี้
3
1. เปิดไฟล์ จส.1000 แบบ 3_1.sav 2. เลือกเมนู Analyze เลือกค าสั่ง Compare Means เลือก Independent-Sample T Test
Independent-Sample T Test
3. ที่หน้าต่าง Independent-Sample T Test คลิกเลือกตัวแปรพอใจในพิธีกรผู้จัด (พิธีกร), พอใจผู้โทรเข้าร่วม (ผู้โทร), พอใจความถูกต้อง (ถูกต้อง), พอใจความชัดเจน (ชัดเจน) และรวมพอใจ จากช่องด้านซ้าย
4. คลิกปุ่ม เพื่อน าตัวแปรใส่ในช่อง Test Variable[s]
4
Independent-Sample T Test
5. คลิกเลือกตัวแปรเพศ 6. คลิกปุ่ม เพื่อน าตัวแปรเพศมาไว้ที่ช่อง Grouping Variables: 7. คลิกปุ่ม Define Groups เพื่อก าหนดค่าให้กับตัวแปรเพศ
5
Independent-Sample T Test
8. ตั้งค่าตัวแปรตามรูป (เพศมี 2 ค่าย่อยได้แก่ เพศชาย เพศหญิง) 9. คลิกปุ่ม Continue โปรแกรมจะกลับไปยังหน้าต่าง Independent-Sample T Test และปรากฏ
รายการเพศ(1 2) ในช่อง Grouping Variables:
6
Independent-Sample T Test
7
10. คลิกปุ่ม Options เพื่อก าหนดค่าความเชื่อมั่น 11. ก าหนดค่าความเชื่อมั่นในช่อง Confidence Interval ตามต้องการ (ในตัวอย่างก าหนดค่าความ
เชื่อมั่นที่ 95%) 12. คลิกปุ่ม Continue จะกลับมายังหน้าต่าง Independent-Sample T Test 13. คลิกปุ่ม OK โปรแกรมจะท าการประมวลผลออกมาที่ Output Window
ผลของการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างตัวแปร 2 ตัว ที่เป็นอิสระต่อกัน
8
ผลของการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างตัวแปร 2 ตัว ที่เป็นอิสระต่อกัน
9
ค่าความน่าจะเป็น (P) ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน
ค่าสถิติที่ค านวณได้จากข้อมูลตัวอย่าง ซึ่งใช้เทียบกับตารางทางสถิติโดยทั่วไป
ผลการทดสอบค่าความแปรปรวนของกลุ่ม
ขอบเขตช่วงความเชื่อมั่นที่ 95% ของผลต่างค่าเฉลี่ย
ค่าความคาดเคล่ือนของผลต่าง
ผลต่างของค่าเฉลี่ยทั้ง 2 กลุ่ม
1 2
Sig. ใช้ตวัลา่ง
ไม่ Sig. ใช้ตวับน
ไม่ Sig. ใช้ตวับน
ไม่ Sig. ใช้ตวับน
ไม่ Sig. ใช้ตวับน
ผลของการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างตัวแปร 2 ตัว ที่เป็นอิสระต่อกัน
การพิจารณาผลการทดสอบสมมติฐานดว้ย T-Test ที่เป็น Independent-Sample T Test จะพิจารณาค่า P จาก Sig. (2-tailed) ในช่อง เท่านั้น แต่ค่า P ในช่อง 2 มี 2 ตัว คือตัวบนที่เป็น Equal variances assumed และตัวล่างเป็น Equal variances not assumed จึงให้พิจารณาว่าจะเลือกค่า P จากตัวใดได้ดังนี้
1. ในขั้นแรกดูค่าความแปรปรวนของกลุ่มในช่อง ว่า Sig. หรือไม่ (Sig คือค่า P น้อยกว่าค่า 𝛼.05 เนื่องจากผู้วิจัยได้ก าหนดค่าความเชื่อมั่นไว้ 95%)
2. ในกรณีค่าความแปรปรวนของกลุ่มในช่อง Sig. แสดงว่าเป็น Equal variances not assumed ให้เลือกค่า P Sig. (2-tailed) จากตัวล่าง
3. ในกรณีค่าความแปรปรวนของกลุ่มในช่อง ไม่ Sig. แสดงว่าเป็น Equal variances assumed ให้เลือกค่า P Sig. (2-tailed) จากตัวบน
Equal variances assumed หมายถึง ความแปรปรวนของกลุ่มเท่ากัน Equal variances not assumed หมายถึง ความแปรปรวนของกลุ่มไม่เท่ากัน
10
2
1
1
1
สมมติฐานทางสถิติ
(1) ความพึงพอใจในพิธีกรผู้จัด สมมติฐานทางสถิติ
H0 : 𝜇ชาย = 𝜇หญงิ เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจในพิธีกรผู้จัดไม่แตกต่างกัน H1 : 𝜇ชาย ≠ 𝜇หญงิ เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจในพิธีกรผู้จัดแตกต่างกัน P (ความน่าจะเป็น) = .000, 𝛼 ระดับนัยส าคัญ = .05 ดังนั้น ค่า P น้อยกว่า ค่า 𝛼
(เท่ากับ Sig.) จึงปฏิเสธ H0 ยอมรับ H1
สรุปได้ว่า เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจในพิธีกรผู้จัดแตกต่างกัน อย่างมีระดับนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05
11
สมมติฐานทางสถิติ
(2) ความพึงพอใจในผู้โทรเข้าร่วมงานการจราจร สมมติฐานทางสถิติ
H0 : 𝜇ชาย = 𝜇หญิง เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจในผู้โทรเข้าร่วมงานการจราจรไม่
แตกต่างกัน H1 : 𝜇ชาย ≠ 𝜇หญิง เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจในผู้โทรเข้าร่วมงานการจราจรแตกต่าง
กัน P (ความน่าจะเป็น) = .002, 𝛼 ระดับนัยส าคญั = .05 ดังนั้น ค่า P น้อยกว่า ค่า 𝛼 (เท่ากับ
Sig.) จึงปฏิเสธ H0 ยอมรับ H1
สรุปไดว้่า เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจในผู้โทรเข้าร่วมงานการจราจรแตกต่างกัน อย่างมีระดับนัยส าคญัทางสถิติที่ระดับ .05
12
สมมติฐานทางสถิติ
(3) ความพึงพอใจในความถูกต้องแม่นย า สมมติฐานทางสถิติ
H0 : 𝜇ชาย = 𝜇หญิง เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจในความถูกต้องแม่นย าไม่ แตกต่าง
กัน H1 : 𝜇ชาย ≠ 𝜇หญิง เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจในความถูกต้องแม่นย าแตกต่างกัน P (ความน่าจะเป็น) = .456, 𝛼 ระดับนัยส าคญั = .05 ดังนั้น ค่า P มากกว่า ค่า 𝛼 (เท่ากับ
Sig.) จึงปฏิเสธ H0 ยอมรับ H1
สรุปไดว้่า เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจในความถูกต้องแม่นย าไม่แตกต่างกัน อย่างมีระดับนัยส าคญัทางสถิติที่ระดับ .05
13
สมมติฐานทางสถิติ
(4) ความพึงพอใจในความชัดเจนของคลื่น สมมติฐานทางสถิติ
H0 : 𝜇ชาย = 𝜇หญิง เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจในความชัดเจนของคลืน่ไม่แตกต่างกัน
H1 : 𝜇ชาย ≠ 𝜇หญิง เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจในความชัดเจนของคลืน่แตกต่างกัน P (ความน่าจะเป็น) = .075, 𝛼 ระดับนัยส าคญั = .05 ดังนั้น ค่า P มากกว่า ค่า 𝛼 (เท่ากับ
Sig.) จึงปฏิเสธ H0 ยอมรับ H1
สรุปไดว้่า เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจในความชัดเจนของคลืน่ ไม่แตกต่างกัน อย่างมีระดับนัยส าคญัทางสถิติที่ระดับ .05
14
สมมติฐานทางสถิติ
(5) ความพึงพอใจโดยรวม สมมติฐานทางสถิติ
H0 : 𝜇ชาย = 𝜇หญงิ เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจโดยรวมไม่แตกต่างกัน H1 : 𝜇ชาย ≠ 𝜇หญงิ เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจโดยรวมแตกต่างกัน P (ความน่าจะเป็น) = .885, 𝛼 ระดับนัยส าคัญ = .05 ดังนั้น ค่า P มากกว่า ค่า 𝛼
(เท่ากับ Sig.) จึงปฏิเสธ H0 ยอมรับ H1
สรุปได้ว่า เพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจโดยรวมไม่แตกต่างกัน อย่างมีระดับนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05
15
การรายงานผลของการเปรียบเทียบความแตกต่างของความพึงพอใจจ าแนกตามสถานภาพด้านเพศ
ตารางที่ 13-21 แสดงค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐานของการเปรียบเทียบความแตกต่างของความพึงพอใจในรูปแบบรายการ จ าแนกตามสถานภาพด้านเพศ
16
การรายงานผลของการเปรียบเทียบความแตกต่างของความพึงพอใจจ าแนกตามสถานภาพด้านเพศ
จากตารางที่ 13-21 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบความแตกต่างของความพึงพอใจในรูปแบบรายการ จ าแนกตามสถานภาพด้านเพศ พบว่า ความพึงพอใจโดยรวมไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส าหรับรายข้อพบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จ านวน 2 ข้อ ได้แก่ ความพึงพอใจในพิธีกรผู้จัด โดยเพศหญิงมีความพึงพอใจในพิธีกรผู้จัดมากกว่าเพศชาย และความพึงพอใจในผู้โทรเข้าร่วมรายงานการจราจรโดยเพศชายมีความพึงพอใจในผู้โทรเข้าร่วมรายงานการจราจรมากกว่าเพศหญิง
17