เอกสารเนื้อหาประกอบการติว...

140
เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเ เเเเเเเ เเเเเเเเเเเ เเเเเเเเ เเเเเเเเเ 3 เเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเ - เเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเ (เเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเ) - เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเเเเเเ - เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเ เเเเเเเ - เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ 2548 เเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ - เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเ 2547 เเเเเเเเเเเ 2548 - เเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเ เเเเเเเเ 2547 เเเ เเเเเเเเ 2548 - เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเ 2547 - เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ (Dean's List) เเเเเเ เเ 2547

Upload: prapun-waoram

Post on 23-Jun-2015

619 views

Category:

Education


1 download

DESCRIPTION

กดโหลด "Save" เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

TRANSCRIPT

Page 1: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เอกสารเนื้�อหาประกอบการติ�ว คณะร�ฐศาสติร� มหาว�ทยาลั�ยธรรมศาสติร�

จั�ดท�าโดย

นื้ายภู"ร� ฟู"วงศ�เจัร�ญนื้�กศ&กษา ชั้�นื้ป)ท*+ 3 คณะร�ฐศาสติร� สาขาการเม�องการปกครอง มหาว�ทยาลั�ย

ธรรมศาสติร�

เก*ยรติ�ประว�ติ�- อด*ติท*+ปร&กษาพิ�เศษ ด.านื้ส�งคม ผู้".ว1าราชั้การกร2งเทพิมหานื้คร (นื้ายอภู�ร�กษ� โกษะโยธ�นื้)

- อด*ติกรรมการร1างระเบ*ยบกร2งเทพิมหานื้คร ว1าด.วยสภูาเยาวชั้นื้กร2งเทพิมหานื้คร- อด*ติอนื้2กรรมาธ�การติรวจัสอบการสอบค�ดเลั�อกเข.าระด�บอ2ดมศ&กษา ว2ฒิ�สภูา- อด*ติบรรณาธ�การหนื้�งส�อร�บเพิ�+อนื้ใหม1ป) 2548 องค�การนื้�กศ&กษามหาว�ทยาลั�ยธรรมศาสติร�- รางว�ลัชั้นื้ะเลั�ศท2นื้ภู"ม�พิลั แผู้นื้กเร*ยงความ ประจั�าป) 2547 แลัะประจั�าป) 2548- รางว�ลัชั้นื้ะเลั�ศท2นื้ปาลั พินื้มยงค� ประจั�าป) 2547 แลัะประจั�าป) 2548

- รางว�ลันื้�กเร*ยนื้พิระราชั้ทานื้ ประจั�าป) 2547

- รางว�ลัร�ฐศาสติร�ประกาศเก*ยรติ� (Dean's List) ประจั�าป) 2547

   

Page 2: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สารบ�ญเร�+อง หนื้.าบทท*+ 1 ความร".เบ�องติ.นื้เก*+ยวก�บการเม�องแลัะว�ชั้าร�ฐศาสติร�

3บทท*+ 2 แนื้วความค�ดว1าด.วยร�ฐ 8

บทท*+ 3 ทฤษฎี*แลัะปร�ชั้ญาทางการเม�อง 14

บทท*+ 4 อ2ดมการณ�แลัะระบอบการเม�อง 27

บทท*+ 5 การเม�องการปกครองเปร*ยบเท*ยบ 38

บทท*+ 6 สถาบ�นื้การเม�อง 45

บทท*+ 7 ประชั้าธ�ปไติยก�บการเม�องไทย 56

หลั�กการเข*ยนื้เร*ยงความ 76

ว�ธ*การติอบข.อสอบอ�ตินื้�ย 78

ติ�วอย1างข.อสอบอ�ตินื้�ย แลัะเร*ยงความ 81

Page 3: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

บทท*+ 1ความร".เบ�องติ.นื้เก*+ยวก�บการเม�องแลัะว�ชั้า

ร�ฐศาสติร�ก่�อนที่��เราจะเร�ยนร� �ว่�า ว่�ชาร�ฐศาสตร�คื�ออะไรน��น เราจ�าเป็ นจะต�องที่ราบเส�ยก่�อนว่�า

ว่�ชาคืว่ามร� �ในป็%จจ&บ�นน�� ม�ก่ารจ�าแนก่หร�อแบ�งป็ระเภที่อย�างไร เพื่��อจะได้�เป็ นป็ระโยชน�ในก่ารศ-ก่ษาสภาพื่และก่�าหนด้ขอบเขตของว่�ชาร�ฐศาสตร�

ในป็%จจ&บ�นน�� ได้�ม�ก่ารจ�าแนก่ป็ระเภที่ของคืว่ามร� �ออก่เป็ น 3 สาขาใหญ่�ๆ คื�อ1. มน&ษยศาสตร� (Humanities)

2. ว่�ที่ยาศาสตร�ธรรมชาต� (Natural Science)

3. ส�งคืมศาสตร� (Social Science)

มนื้2ษยศาสติร� คื�อ ว่�ชาก่ารที่��ก่ล�าว่ถึ-งคื&ณคื�าและผลงานของมน&ษย� คืว่ามสว่ยงาม และคืว่ามย��งใหญ่�ของมน&ษย�ในอด้�ต สาขาว่�ชาของมน&ษยศาสตร� ได้�แก่� ป็ร�ชญ่า ก่ารด้นตร� ศ�ลป็ศาสตร� ว่รรณคืด้� ภาษาศาสตร� เป็ นต�น

ว�ทยาศาสติร�ธรรมชั้าติ� คื�อ คืว่ามร� �ที่��ได้�มาจาก่ก่ารศ-ก่ษาธรรมชาต�และป็ราก่ฏก่ารณ�ที่างธรรมชาต� โด้ยก่ารใช�ว่�ธ�ว่�ที่ยาศาสตร� (Scientific Method) ได้�แก่�

ก่ารต��งสมมต�ฐาน (State Hypothesis)

ก่ารว่างแผนรว่บรว่มข�อม�ล(Plan Method Gathering Data)

ก่ารรว่บรว่มข�อม�ล (Gathering Data)

ก่ารว่�เคืราะห�ข�อม�ล (Analysis of Data)

ก่ารที่�ารายงาน (Report)

และก่ารที่ว่นสอบ (Verification)

เม�� อได้�ผลเช�นใด้แล�ว่ก่8อาจจะน�ามาสร�างเป็ นที่ฤษฎี� ซึ่-�งส�ว่นมาก่เป็ นก่ารที่ด้ลองมาก่ก่ว่�าก่ารส�งเก่ตพื่�จารณา สาขาว่�ชาของว่�ที่ยาศาสตร�ธรรมชาต� ได้�แก่� เคืม� ฟิ=ส�ก่ส� ช�ว่ว่�ที่ยา ด้าราศาสตร� เป็ นต�น

Page 4: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ส�งคมศาสติร� คื�อ คืว่ามร� �เก่��ยว่ก่�บส�งคืมและมน&ษย�ที่��มาอย��ร �ว่มก่�นในส�งคืม ตลอด้จนป็ราก่ฏก่ารณ�ต�างๆ ที่างส�งคืม ในว่�ชาส�งคืมศาสตร�น��น ก่ารแสว่งหาคืว่ามร� �ก่8ใช�ว่�ธ�ที่างว่�ที่ยาศาสตร� (Scientific Method) เช�นก่�น แต�ที่ฤษฎี�ต�างๆ ที่างส�งคืมศาสตร�ได้�มาจาก่ก่ารส�งเก่ตพื่�จารณามาก่ก่ว่�าก่ารที่ด้ลอง เพื่ราะเหต&ว่�าส��งแว่ด้ล�อมต�างๆ ของส�งคืมมน&ษย�น��น เราไม�สามารถึคืว่บคื&มได้�อย�างแน�นอน (Lack of Control over all Variables) ก่ล�าว่คื�อ ส�งคืมมน&ษย�และต�ว่มน&ษย�เองเป็ล��ยนแป็ลงเสมอ และก่ารที่��จะน�าเอาส�งคืมที่��งส�งคืมเข�าที่�าก่ารที่ด้ลองเป็ นส��งที่��เป็ นไป็ไม�ได้� หร�อจะก่ระที่�าก่�บบ&คืคืลก่8เป็ นก่ารผ�ด้ศ�ลธรรม เพื่ราะฉะน��นที่ฤษฎี�ในส�งคืมศาสตร�จ-งไม�สามารถึพื่�ส�จน�ได้�แน�นอนเหม�อนที่ฤษฎี�ของว่�ที่ยาศาสตร�ธรรมชาต� เป็ นเพื่�ยงก่ารส�งเก่ตก่ารณ�และพื่ยายามอธ�บายป็ราก่ฏก่ารณ�น��นๆ สาขาของว่�ชาส�งคืมศาสตร� ได้�แก่� ร�ฐศาสตร� ป็ระว่�ต�ศาสตร� เศรษฐศาสตร� ส�งคืมว่�ที่ยา จ�ตว่�ที่ยา มาน&ษยว่�ที่ยา ภ�ม�ศาสตร� ฯลฯ

ความหมายของการเม�องก่ารเม�อง คื�อ ก่�จก่รรมที่��มน&ษย�ก่ระที่�า ร�ก่ษาคื&ณสมบ�ต�ที่��ด้� และป็ร�บป็ร&งก่ฎีที่��ว่ๆ ไป็

ซึ่-�งมน&ษย�ด้�ารงช�ว่�ตอย��ภายใต�ก่ฎีเหล�าน��น ก่ารเม�องม�คืว่ามเช��อมโยงก่�บป็ราก่ฏก่ารณ�ของคืว่ามข�ด้แย�ง และคืว่ามร�ว่มม�อในส�งคืม จาก่ก่ารที่��ม�คืว่ามคื�ด้เห8นที่��ตรงก่�นข�ามก่�น คืว่ามต�องก่ารที่��ต�างก่�น ก่ารแข�งข�นก่�น และคืว่ามสนใจที่��แตก่ต�างก่�น ก่ารเม�องจ-งเป็ นเร��องของก่ารแสว่งหาว่�ธ�ที่��จะย&ต�ป็%ญ่หาและที่�าคืว่ามตก่ลงก่�นที่�ามก่ลางคืว่ามข�ด้แย�งก่�นในส�งคืม ที่��งน��ได้�ม�ก่ารให�คื�าจ�ด้คืว่ามที่��น�าสนใจเก่��ยว่ก่�บก่ารเม�องไว่� 2 คืว่ามหมาย คื�อ ก่ารเม�องเป็ นเร��อง“

ของก่ารต�ด้ส�นใจที่��เก่��ยว่ข�องก่�บส�ว่นรว่ม และ ก่ารเม�องเป็ นเร��องของก่ารใช�อ�านาจ” “ ”

1. การเม�องเป:นื้เร�+องของการติ�ดส�นื้ใจัท*+เก*+ยวข.องก�บส1วนื้รวม (Politics as the making of

common decisions)

ก่ล&�มคืนต�างๆ บ�อยคืร��งที่��จะต�ด้ส�นใจในป็ระเด้8นที่�ม�ผลต�อช�ว่�ตของพื่ว่ก่เขาเอง เช�น คืรอบคืร�ว่หน-�งต�องต�ด้ส�นใจว่�าจะไป็อย��ที่��ไหน และคืว่รจะใช�ก่ฎีเช�นใด้เพื่��อที่��จะป็ก่คืรองล�ก่ๆ ของพื่ว่ก่เขา ต�องที่�าอย�างไรที่��จะร�ก่ษางบด้&ลของบ�าน และอ��นๆ เช�นเด้�ยว่ก่�บที่��ป็ระเที่ศหน-�งต�องต�ด้ส�นใจว่�าจะต��งสว่นสาธารณะไว่�ที่��ใด้ คืว่รจะเป็ นพื่�นธม�ตรก่�บใคืรในช�ว่งที่��เก่�ด้สงคืราม ฯลฯ ส��งต�างๆ เหล�าน��เป็ นก่ารที่�า ให�เก่�ด้ก่ารก่�าหนด้ช&ด้นโยบายส�าหร�บก่ล&�มคืน ก่ารต�ด้ส�นใจเพื่�ยงส��งเด้�ยว่ก่8ม�ผลต�อสมาช�ก่ที่&ก่คืนในก่ล&�มน��นๆ

2. การเม�องเป:นื้เร�+องของการใชั้.อ�านื้าจั (Politics as the exercise of power)

Page 5: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

หลายคืร��งที่��ก่ารเม�องจะเก่��ยว่ข�องก่�บก่ารใช�อ�านาจโด้ยคืนหน-�งคืนหร�อคืนหลายคืน เหน�อคืนอ��นๆ อ�านาจ คื�อ คืว่ามสามารถึของคืนหน-�งคืนที่��จะที่�าให�คืนอ��นๆ ที่�าให�ส��ง“ ”

ที่��เขาป็รารถึนาเป็ นส��งแรก่ๆ ไม�ว่�าจะเป็ นเร��องใด้ๆ ก่8ตาม ก่ารเม�องจ-งม�ก่จะเก่��ยว่ก่�บก่ารใช�อ�านาจ ไม�ว่�าจะเป็ นก่ารบ�งคื�บ (coercion) หร�อ ช�ก่จ�ง (persuasion)

การบ�งค�บ (coercion) หมายถึ-ง ให�คืนอ�� นก่ระที่�าบางส��งบางอย�างในส��งที่��เขาไม�ต�องก่ารก่ระที่�า

การจั"งใจั (persuasion) หมายถึ-ง ก่ารช�ก่ชว่นให�คืนอ��นก่ระที่�าในส��งที่��เขาป็รารถึนาจะที่�า โด้ยก่ารว่างเง�� อนไขที่��จะม�ต�ว่เล�อก่ที่��ไม�น�าสนใจ และม�ที่างเล�อก่ที่��ม�เหต&ผลและเหมาะสมไว่�เป็ นที่างเล�อก่ที่��เหล�ออย��

ที่� �งหมด้น��เป็ นคืว่ามหมายของก่ารเม�องที่��ม�ก่ารต�คืว่ามก่�น หร�อจะพื่�ด้ได้�อ�ก่น�ยหน-�งว่�า ก่ารเม�อง คื�อ ก่ารแสว่งหา ร�ก่ษา และใช�อ�านาจอ�ที่ธ�พื่ลและป็ระโยชน� เพื่��อตนเองหร�อส�ว่นรว่ม หร�อที่��งสองอย�าง โด้ยม�ป็ระโยชน�เก่��อก่�ลก่�น

ความหมายของร�ฐศาสติร�ร�ฐศาสติร� (Political Science) คื�อ ศาสตร�ที่��ว่�าด้�ว่ยร�ฐ อ�นเป็ นสาขาหน-� งของว่�ชา

ส�งคืมศาสตร� ที่��ก่ล�าว่ถึ-งเร��องราว่เก่��ยว่ก่�บร�ฐ ว่�าด้�ว่ยที่ฤษฎี�แห�งร�ฐ ก่ารว่�ว่�ฒนาก่าร ม�ก่�าเน�ด้มาอย�างไร สถึาบ�นที่างก่ารเม�องที่��ที่�าหน�าที่��ด้�าเน�นก่ารป็ก่คืรองม�ก่ลไก่ไป็ในที่างใด้ ก่ารจ�ด้องคื�ก่ารต�างๆ ในที่างป็ก่คืรอง ร�ป็แบบของร�ฐบาล หร�อสถึาบ�นที่างก่ารเม�องที่��ต�องออก่ก่ฎีหมายและร�ก่ษาก่ารณ�ให�เป็ นไป็ตามก่ฎีหมายเก่��ยว่ก่�บคืว่ามส�มพื่�นธ�ของเอก่ชน (Individual) หร�อก่ล&�มชน (Group) ก่�บร�ฐ และคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างร�ฐก่�บร�ฐ ตลอด้จนแนว่คื�ด้ที่างก่ารเม�องที่��ม�อ�ที่ธ�พื่ลต�อโลก่ ตลอด้จนก่ารแสว่งหาอ�านาจของก่ล&�มก่ารเม�องหร�อภายในก่ล&�มก่ารเม�อง หร�อสถึาบ�นก่ารเม�องต�างๆ เพื่��อก่ารป็ก่คืรองร�ฐให�เป็ นไป็ด้�ว่ยด้�ที่��ส&ด้

จาก่คืว่ามหมายด้�งก่ล�าว่ ร�ฐศาสตร�จ-งม�คืว่ามเก่��ยว่พื่�นก่�บส�งคืมศาสตร�ที่&ก่สาขาว่�ชาอย�างแยก่ไม�ออก่ ก่ารที่��เราจะศ-ก่ษาว่�ชาร�ฐศาสตร�จ�า เป็ นต�องก่�าจ�ด้ขอบเขต โด้ยว่�ชาร�ฐศาสตร�จะม&�งเน�นศ-ก่ษาเป็ นพื่�เศษใน 3 ห�ว่ข�อ คื�อ

1. ร�ฐ (State)

2. สถึาบ�นก่ารเม�อง (Political Institutions)

3. ป็ร�ชญ่าก่ารเม�อง (Political Philosophy)

1. ร�ฐ (State) เป็ นห�ว่ใจของว่�ชาร�ฐศาสตร� เราจ�าเป็ นที่��จะต�องศ-ก่ษาว่�า ร�ฐคื�ออะไร คืว่ามหมายและองคื�ป็ระก่อบของร�ฐ ก่�าเน�ด้ของร�ฐ และว่�ว่�ฒนาก่ารของร�ฐ และแนว่คื�ด้ต�างๆ ที่��เก่��ยว่ข�องก่�บร�ฐ

Page 6: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2. สถาบ�นื้ทางการเม�อง (Political Institutions) หมายถึ-ง องคื�ก่รหร�อหน�ว่ยงานที่��ก่�อต��งข-�น เพื่��อป็ระโยชน�ในก่ารป็ก่คืรองและด้�าเน�นก่�จก่ารต�างๆ ของร�ฐที่��งภายในและภายนอก่ป็ระเที่ศ ซึ่-�งอาจจะก่�อต��งข-�นโด้ยก่ฎีหมายของร�ฐ หร�ออาจก่�อต��งข-�นโด้ยก่ารร�ว่มใจก่�นของเอก่ชน หร�อตามป็ระเพื่ณ�ก่8ได้� สถึาบ�นที่างก่ารเม�องม� สภาผ��แที่นราษฎีร คืณะร�ฐบาล พื่รรคืก่ารเม�อง เป็ นต�น

3. ปร�ชั้ญาทางการเม�อง (Political Philosophy) คื�อ คืว่ามคื�ด้คืว่ามเช��อของบ&คืคืลก่ล&�มใด้ก่ล&�มหน-�ง ในย&คืใด้ย&คืหน-�ง อ�นเป็ นราก่ฐานของระบบก่ารเม�องที่��เหมาะสมก่�บส��งแว่ด้ล�อมและคืว่ามต�องก่ารของตน หมายคืว่ามรว่มถึ-ง อ&ด้มก่ารณ�หร�อเป็Aาหมายที่��จะเป็ นแรงผล�ก่ด้�นในมน&ษย�ป็ฏ�บ�ต�ก่ารต�างๆ เพื่��อให�บรรล&เป็Aาหมายน��นๆ เช�น ผ��บร�หารป็ระเที่ศไที่ยม�ป็ร�ชญ่าที่างก่ารเม�องที่��ม&�งในที่างพื่�ฒนาป็ระเที่ศให�เจร�ญ่ก่�าว่หน�าที่างด้�านอ&ตสาหก่รรมและที่างก่ส�ก่รรม ก่�บป็รารถึนาให�ป็ระชาชาต�ม�ก่ารก่�นด้�อย��ด้� ซึ่-�งส��งเหล�าน��เป็ นว่�ตถึ&ป็ระสงคื� (Objective or Ends) แต�ก่ารที่��จะป็ฏ�บ�ต� (Means)

น��นอาจจะใช�ระบบป็ระชาธ�ป็ไตยแบบไที่ยๆ ซึ่-�งก่8เป็ นว่�ถึ�ที่างที่��อาจจะน�ามาถึ-งจ&ด้ม&�งหมายน��นๆ ก่8ได้�

สาขาว�ชั้าทางร�ฐศาสติร�ว่�ชาร�ฐศาสตร�ก่8ม�ก่ารแยก่เป็ นแขนงว่�ชาเฉพื่าะ (Specialization) เพื่��อผ��ศ-ก่ษาจะได้�ที่�าก่าร

ศ-ก่ษาให�ล-ก่ซึ่-�งต�อไป็ ซึ่-�งในที่��น��จะขอแบ�งออก่เป็ น 6 สาขา คื�อ1. การเม�องการปกครอง (Politics and Government) คื�อ ก่ารศ-ก่ษาเก่��ยว่ก่�บสถึาบ�นที่างก่าร

เม�องต�างๆ ก่ารแบ�งอ�านาจระหว่�างน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� บร�หาร และต&ลาก่าร ศ-ก่ษาร�ฐบาลก่ลางและร�ฐบาลที่�องถึ��น ซึ่-�งเน�นไป็ที่างโคืรงร�างของก่ารป็ก่คืรอง และย�งรว่มถึ-งคืว่ามส�าคื�ญ่ของพื่รรคืก่ารเม�องที่��ม�บที่บาที่ต�อร�ฐ รว่มไป็ถึ-งก่ารศ-ก่ษาป็ระชามต�และก่ล&�มผลป็ระโยชน�ต�างๆ ด้�ว่ย

2. ทฤษฎี* / ปร�ชั้ญาทางการเม�อง (Political Theory / Philosophy) คื�อ ก่ารม&�งศ-ก่ษาป็ร�ชญ่าที่��เก่��ยว่ก่�บก่ารเม�องก่ารป็ก่คืรองต��งแต�สม�ยโบราณจนมาถึ-งป็%จจ&บ�น ป็ร�ชญ่าก่ารเม�องเป็ นเหม�อนหล�ก่ก่ารเหต&ผล และคืว่ามย-ด้ม��นของร�ฐซึ่-�งย�อมแตก่ต�างก่�นไป็ ก่ารศ-ก่ษาก่8เพื่��อจะได้�เร�ยนร� �เข�าใจที่��งจ&ด้ม&�งหมาย (Ends) และว่�ถึ�ที่าง (Means) ของแต�ละป็ร�ชญ่าด้�งก่ล�าว่ โด้ยแสว่งหาเหต&และผลน�ามาป็ฏ�ร�ป็คืว่ามคื�ด้และก่ารป็ฏ�บ�ต�ที่างด้�านก่ารป็ก่คืรอง ให�ได้�ร�ป็แบบที่��ด้�ข-�นจาก่ต�ว่อย�างของคืว่ามบก่พื่ร�องของร�ฐอ��นๆ

3. การเม�องการปกครองเปร*ยบเท*ยบ (Comparative Politics) ม&�งก่ารศ-ก่ษาถึ-งก่ารป็ก่คืรองของป็ระเที่ศต�างๆ หลายป็ระเที่ศ เพื่��อจะเป็ร�ยบเที่�ยบก่�นที่างป็ระว่�ต�ศาสตร�เป็ นพื่��นฐานแล�ว่จ-งเป็ร�ยบเที่�ยบร�ฐธรรมน�ญ่ โคืรงร�างของก่ารป็ก่คืรอง และสถึาบ�นที่างก่ารเม�องต�างๆ เช�น พื่รรคืก่ารเม�อง สภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� ระบบศาล เป็ นต�น ล�ก่ษณะที่างเศรษฐก่�จและ

Page 7: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ส�งคืม ขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ� ตลอด้จนนโยบายต�างป็ระเที่ศในอด้�ต ก่8จ�าเป็ นต�องศ-ก่ษาเพื่��อน�ามาป็ระก่อบก่ารพื่�จารณาด้�ว่ย

ตามป็ก่ต�ก่ารศ-ก่ษาสาขาน��ม�ก่จะศ-ก่ษาเพื่�งเล8งก่�นที่��ป็ระเที่ศซึ่-�งม�คืว่ามส�าคื�ญ่และม�บที่บาที่ในว่งก่ารนานาชาต� ที่��งในป็%จจ&บ�นและอด้�ต เพื่��อด้�ล�ก่ษณะเด้�นและด้�อย หร�อเพื่��อเอาเป็ นต�ว่อย�างจาก่ก่ารป็ก่คืรองแบบใด้แบบหน-�ง ที่��งพื่ยายามที่��จะหาที่ฤษฎี�ที่��ว่�าที่�าไมร�ฐต�างๆ จ-งม�ก่ารป็ก่คืรองที่��แตก่ต�างก่�น และที่�า ไมก่ารป็ก่คืรองแบบน��เป็ นผลก่�บร�ฐน�� และก่ารป็ก่คืรองแบบเด้�ยว่ก่�นล�มเหลว่ในร�ฐอ�� นๆ เป็ นต�นว่�า ที่�า ไมระบบก่ารป็ก่คืรองแบบป็ระชาธ�ป็ไตยของป็ระเที่ศอ�งก่ฤษจ-งเหมาะสมก่�บป็ระเที่ศอ�งก่ฤษ แต�เม�� อน�ามาใช�ก่�บป็ระเที่ศไที่ยแล�ว่ที่�าให�เก่�ด้ป็%ญ่หาย&�งยาก่ต�างๆ

ก่ารเป็ร�ยบเที่�ยบส�ว่นด้�ส�ว่นเส�ยของก่ารป็ก่คืรองแบบต�างๆ ของร�ฐแต�ละร�ฐ ก่8ม�ว่�ตถึ&ป็ระสงคื�เพื่��อช�ก่น�าให�เก่�ด้ก่ารป็ฏ�ร�ป็ก่ารป็ก่คืรอง โด้ยช��ให�เห8นถึ-งจ&ด้บก่พื่ร�องที่��ม�อย��ของแต�ละร�ฐอย�างช�ด้เจน น�าไป็ส��ระบอบก่ารป็ก่คืรองที่��เหมาะสมก่�บร�ฐตน

4. กฎีหมายมหาชั้นื้ (Public Law) คื�อ ก่ารศ-ก่ษาเก่��ยว่ก่�บราก่ฐานร�ฐธรรมน�ญ่ของร�ฐต�างๆ ป็%ญ่หาของก่ารก่�าหนด้และแบ�งอ�านาจป็ก่คืรองป็ระเที่ศ และคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างเอก่ชนก่�บร�ฐ

5. ความส�มพิ�นื้ธ�ระหว1างประเทศ (International Relations) ก่8คื�อ ก่ารต�ด้ต�อก่�นในระด้�บข�ามพื่รมแด้น โด้ยที่��ก่ารศ-ก่ษาน��นจะหมายรว่มถึ-งองคื�ก่ารระหว่�างป็ระเที่ศ เช�น สหป็ระชาชาต� องคื�ก่ารสนธ�ส�ญ่ญ่าป็Aองก่�นร�ว่มต�างๆ องคื�ก่ารข�ามชาต� องคื�ก่ารภ�ม�ภาคื ตลอด้จนก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศ และพื่�ธ�ที่างก่ารที่�ตก่8เพื่��อเข�าใจและเป็ นว่�ถึ�ที่าง (Means) ซึ่-�งจะช�ว่ยในก่ารต�ด้ต�อของร�ฐต�างๆ น��นเอง ว่�ชาน��ต�องอาศ�ยคืว่ามร� �ที่างสาขาว่�ชาต�างๆ ป็ระก่อบด้�ว่ยเป็ นอย�างย��ง เพื่ราะคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างป็ระเที่ศน��ต�องอาศ�ยคืว่ามร� �ในป็%จจ�ยต�างๆ ได้�แก่� ว่�ฒนธรรม ป็ระชาก่ร เศรษฐก่�จ ภ�ม�ศาสตร� ป็ระว่�ต�ศาสตร� จ�ตว่�ที่ยา ป็ระก่อบก่�นเป็ นภ�ม�หล�ง (Background) ของป็ระเที่ศน��นๆ เพื่��อเป็ นป็ระโยชน�ในก่ารระหว่�างป็ระเที่ศ ซึ่-�งเป็ นคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างร�ฐก่�บร�ฐ

6. ร�ฐประศาสนื้ศาสติร� / บร�หารร�ฐก�จั (Public Administration) คื�อ ก่ารศ-ก่ษาโด้ยตรงในก่ารบร�หารของร�ฐบาล ตลอด้จนก่ารบร�หารก่ฎีหมาย ก่ารจ�ด้ก่ารเก่��ยว่ก่�บคืน เง�นตรา ว่�ตถึ& บร�หารร�ฐก่�จน�บเป็ นแขนงว่�ชาใหม�ของว่�ชาร�ฐศาสตร� เน��องจาก่ก่ารที่��ร �ฐบาลม�ขอบเขตภาระหน�าที่��ก่ว่�างขว่างข-�นตามย&คืสม�ย ที่�าให�ต�องหาว่�ชาก่ารบร�หารงานให�ม�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่และรว่ด้เร8ว่ จ-งต�องม�ว่�ชาน��เพื่��อสนองคืว่ามต�องก่ารของย&คืใหม� ว่�ชาน��เน�นในที่างป็ฏ�บ�ต�ให�เป็ นไป็ตามเจตจ�านงในก่ารป็ก่คืรองของร�ฐ ให�เป็ นไป็ตามจ&ด้ป็ระสงคื�และอ&ด้มก่ารณ�ของร�ฐอย�างเป็ นผลด้�และม�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่มาก่ที่��ส&ด้

Page 8: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ว�ว�ฒินื้าการแลัะว�ธ*การศ&กษาว�ชั้าร�ฐศาสติร�ก่ารศ-ก่ษาว่�ชาร�ฐศาสตร� น�บแต�สม�ยโบราณจนถึ-งป็ลายคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 19 ย�งไม�ม�

ล�ก่ษณะเป็ นศาสตร�ที่��แที่�จร�ง หาก่เป็ นเพื่�ยงก่ารรว่บรว่มคืว่ามคื�ด้ของป็ราชญ่�ที่างส�งคืมที่��แล�ว่ๆ มา คืว่ามคื�ด้และคืว่ามสนใจของป็ราชญ่�เหล�าน��น ได้�แก่� ป็%ญ่หาส�าคื�ญ่ๆ ของส�งคืมในแต�ละย&คืแต�ละสม�ย ที่�าให�เน��อหาสาระว่�ชาก่ารเม�องม�ขอบเขตของก่ารศ-ก่ษาที่��ก่ว่�างขว่างมาก่ เน��องจาก่ได้�รว่บรว่มเอาคืว่ามร� �เก่��ยว่ก่�บเร��องราว่สารพื่�ด้อย�างไว่�มาก่เก่�นไป็

ในระยะหล�งๆ ก่ารศ-ก่ษาว่�ชาร�ฐศาสตร�จ-งย�งคืงอย��ในภาว่ะของก่ารแสว่งหาคืว่ามเป็ นเอก่ล�ก่ษณ�ของตนเอง เพื่��อที่��จะยก่ฐานะของตนให�เป็ นศาสตร�สาขาหน-�งที่��ม�หล�ก่แห�งคืว่ามร� �ที่��เป็ นล�ก่ษณะว่�ชาของตนโด้ยเฉพื่าะ โด้ยอาศ�ยว่�ธ�ก่ารที่างว่�ที่ยาศาสตร�มาก่ข-�นม�ใช�เป็ นเพื่�ยงศาสตร�ป็ระย&ก่ต� ที่��น�าแนว่คืว่ามคื�ด้ในว่�ชาอ�� นๆ มาศ-ก่ษาสถึาบ�นที่างก่ารเม�องต�างๆ จาก่คืว่ามพื่ยายามด้�งก่ล�าว่น�� ที่�าให�ว่�ชาร�ฐศาสตร�ม�แนว่โน�มที่��จะม�ล�ก่ษณะเป็ นศาสตร�ในที่างว่�เคืราะห� ที่��ย-ด้ถึ�อที่ฤษฎี�เป็ นแนว่ที่างในก่ารศ-ก่ษาว่�จ�ยมาก่ข-�น แที่นที่��จะย-ด้ป็%ญ่หาของส�งคืมที่��เก่�ด้ข-�นในที่างป็ฏ�บ�ต�เป็ นหล�ก่แห�งคืว่ามสนใจ

ว่�ว่�ฒนาก่ารของก่ารศ-ก่ษาว่�ชาร�ฐศาสตร�แบ�งออก่ได้�เป็ น 4 ระยะ ด้�ว่ยก่�น คื�อ 1. สม�ยที่��ศ-ก่ษาเก่��ยว่ก่�บป็ร�ชญ่าที่างศ�ลธรรมที่��ว่ไป็2. สม�ยที่��ศ-ก่ษาต�ว่บที่ก่ฎีหมาย3. สม�ยที่��ศ-ก่ษาส��งที่��เป็ นจร�ง4. สม�ยที่��เน�นในด้�านพื่ฤต�ก่รรมศาสตร�

ระยะท*+ 1 น�บต��งแต�สม�ยก่ร�ก่โบราณ จนถึ-งคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 19 เป็ นเว่ลาป็ระมาณ 2,500 ป็B ก่ารศ-ก่ษาย�งคืงรว่มอย��ก่�บก่ารศ-ก่ษาเก่��ยว่ก่�บส�งคืมที่��ว่ไป็ ซึ่-�งได้�แก่�ก่ารศ-ก่ษาในเร��องป็ร�ชญ่าที่างศ�ลธรรม ในระยะน��นน�ก่ป็ราชญ่�ที่างส�งคืมม�เสร�ที่��จะเล�อก่สนใจศ-ก่ษาป็%ญ่หาส�าคื�ญ่ของส�งคืมที่��เก่�ด้ข-�นในแต�ละย&คืแต�ละสม�ย ก่ารศ-ก่ษาว่�ชาก่ารเม�อง ได้�แก่� ก่ารศ-ก่ษาเก่��ยว่ก่�บคืว่ามเป็ นมาของที่างก่ารเม�องในส�งคืมตะว่�นตก่ เน��อหาสาระของว่�ชาส�ว่นใหญ่�ป็ระก่อบด้�ว่ยห�ว่ข�อเร��องที่��ม�คืว่ามส�มพื่�นธ�ต�อก่�นน�อย เน��องจาก่ย�งขาด้แนว่คื�ด้ที่างที่ฤษฎี�ที่��ช�ด้เจน และระเบ�ยบว่�ธ�ที่��ร �ด้ก่&มเป็ นหล�ก่ในก่ารรว่บรว่มคืว่ามร� � เน��อหาสาระของว่�ชาเป็ นผลซึ่-�งเก่�ด้จาก่ก่ารรว่บรว่มก่ารศ-ก่ษาเก่��ยว่ก่�บป็%ญ่หาที่��เก่�ด้ข-�นในสม�ยหน-�งๆ ซึ่-�งไม�คื�อยซึ่��าแบบก่�น

ระยะท*+ 2 ก่ารศ-ก่ษาที่��เน�นในเร��องที่ฤษฎี�ที่��ว่�าด้�ว่ยร�ฐ ในคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 19 ที่�าให�ว่�ชาก่ารเม�องเป็ นศาสตร�สาขาหน-�งข-�นมาเป็ นคืร��งแรก่ ซึ่-�งร�ฐย�งม�คืว่ามหมายแคืบๆ ว่�าเป็ นที่��รว่มของก่ฎีเก่ณฑ์�ในที่างก่ฎีหมาย และจ�าก่�ด้เฉพื่าะโคืรงสร�างหร�อร�ป็แบบที่��เป็ นที่างก่ารตาม

Page 9: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่ฎีหมาย ก่�อให�เก่�ด้คืว่ามร� �โด้ยเฉพื่าะในว่�ชาร�ฐศาสตร�ข-�นมา น�บแต�น��นเป็ นต�นมา ว่�ชาร�ฐศาสตร�จ-งสนใจศ-ก่ษาในเร��องคืว่ามก่�าว่หน�าของก่ฎีหมาย ข�อก่�าหนด้ในที่างก่ฎีหมายที่��เก่��ยว่ก่�บก่ารป็ก่คืรองแบบต�างๆ อ�านาจที่��เป็ นที่างก่ารของฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� ศาล และฝ่Eายบร�หารป็ระก่อบก่�บก่ารศ-ก่ษาถึ-งเร��องป็ร�ชญ่าโบราณ เป็Aาหมายของก่ารป็ก่คืรอง และเป็Aาหมายของร�ฐ

ระยะท*+ 3 ถึ-งแม�ว่�า ว่�ชาก่ารเม�องในย&โรป็ ย�งคืงจ�าก่�ด้ต�ว่เองเฉพื่าะก่ารศ-ก่ษาเร��องร�ฐ โด้ยเน�นที่��ร�ป็แบบที่างก่ารตามต�ว่บที่ก่ฎีหมายจนถึ-งคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 20 แต�ว่�ชาก่ารเม�องในสหร�ฐ จ�าเป็ นต�องห�นไป็สนใจศ-ก่ษาคืว่ามเป็ นจร�งที่างก่ารเม�องต�างๆ มาก่ข-�น โด้นเน�นในด้�านก่ระบว่นก่ารที่��ไม�เป็ นไป็ตามก่ฎีหมาย และไม�เป็ นที่างก่าร ที่��งน�� เพื่ราะม�ป็%ญ่หาหลายด้�าน ซึ่-�งเก่�ด้จาก่ก่ารเป็ นส�งคืมอ&ตสาหก่รรมและก่ารม�ก่ล&�มต�างๆ ที่��ที่�าให�เก่�ด้คืว่ามย&�งยาก่ซึ่�บซึ่�อนมาก่ข-�น ม&�งศ-ก่ษาคืว่ามเป็ นจร�งที่างก่ารเม�อง เช�น ก่ล&�มที่��ม�อ�ที่ธ�พื่ลที่างก่ารเม�อง ที่�าให�ม�ก่ารแบ�งสาขาว่�ชาเฉพื่าะในร�ฐศาสตร� แต�อย�างไรก่8ตาม ในระยะก่�อนสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 2 ที่&ก่สาขาว่�ชาได้�เร��มม�คืว่ามพื่ยายามที่��จะอธ�บายว่�า ก่ารเม�องเป็ นเร��องของก่ารต�อส��ระหว่�างก่ล&�มต�างๆ เพื่��อม�อ�านาจ หร�ออ�ที่ธ�พื่ลเหน�อก่ารป็ก่คืรองหร�อนโยบายสาธารณะ จ-งที่�าให�น�ก่ร�ฐศาสตร�ผละจาก่ก่ารย-ด้ม��นในแนว่ที่างก่ารศ-ก่ษาว่�เคืราะห� และห�นไป็สนใจศ-ก่ษาเร��องของก่ารอ�านาจ และก่ล&�มต�างๆ

ระยะท*+ 4 เป็ นสม�ยที่��ว่�ชาร�ฐศาสตร�เน�นในด้�านพื่ฤต�ก่รรมศาสตร� ซึ่-�งเพื่��งจะเจร�ญ่ข-�นภายหล�งสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 2 ก่ล�าว่คื�อ ม�ก่ารน�าเที่คืน�คืใหม�ๆ มาศ-ก่ษาพื่ฤต�ก่รรม ซึ่-�งเป็ นอย��จร�งๆ และก่�อให�เก่�ด้ก่�จก่รรมต�างๆ ข-�น โด้ยม&�งศ-ก่ษาที่��ต�ว่บ&คืคืล เช�น ศ-ก่ษาถึ-งที่�ศนคืต� ส��งจ�งใจ และคื�าน�ยมของคืน ที่�าให�ม�ข�อม�ลใหม�ๆ เก่�ด้ข-�นเป็ นจ�านว่นมาก่ จ-งเก่�ด้คืว่ามจ�าเป็ นที่��จะต�องม�ก่ารจ�ด้ระเบ�ยบในก่ารศ-ก่ษาว่�ชาร�ฐศาสตร�เส�ยใหม� ก่ารศ-ก่ษาที่��ย-ด้หล�ก่พื่ฤต�ก่รรมศาสตร� ม&�งสนใจศ-ก่ษาก่ระบว่นก่ารต�างๆ แที่นก่ารเน�นในเร��องสถึาบ�น จ-งม�ผลให�ว่�ชาก่ารเม�องก่�าว่จาก่ก่ารเป็ นศาสตร�ในที่างส�งเคืราะห�ไป็ส��ก่ารเป็ นศาสตร�ในที่างว่�เคืราะห�มาก่ข-�น

ส�าหร�บว่�ธ�ก่ารศ-ก่ษาที่างร�ฐศาสตร� ย�งม�ก่ารแบ�งออก่เป็ น 2 ก่ล&�มใหญ่� คื�อ1. กลั21มนื้�ยมการติ*ความ (Interpretivism) จะศ-ก่ษาเก่��ยว่ก่�บป็ระว่�ต�ศาสตร�

ป็ร�ชญ่า ที่��เก่��ยว่ข�องก่�บก่ารเม�อง รว่มถึ-งก่ารคื�นคืว่�าหารายละเอ�ยด้ ข�อม�ลที่��ม�ได้�เป็ นในเช�งจ�านว่น เพื่��อน�ามาอธ�บาย ต�คืว่าม ป็ราก่ฏก่ารณ�

2. กลั21มพิฤติ�กรรมศาสติร� (Behaviourism) เก่�ด้ข-�นหล�งสม�ยสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 2 จะม&�งเน�นในเร��องของที่ฤษฎี�ที่างก่ารเม�องที่��เป็ นก่ลไก่ และใช�หล�ก่ที่างสถึ�ต�เพื่��อตรว่จสอบข�อม�ลในเช�งจ�านว่น

Page 10: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

แต�เด้�ม น�ก่ร�ฐศาสตร�ก่�อนสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 2 จะม&�งเน�นในก่ารต�คืว่าม ใช�ข�อม�ลหร�อเอก่สารในห�องสม&ด้ และใช�ว่�ธ�ก่ารอน&มาน ตลอด้จนย�งคืงศ-ก่ษาว่�าร�ฐที่��ด้�หร�อร�ฐบาลที่��คืว่รเป็ นอย�างไร ในช�ว่งระยะเว่ลาของสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 2 บรรด้าอาจารย�และน�ก่ว่�ชาก่ารที่างร�ฐศาสตร�ได้�เข�าไป็ที่�างานและป็ฏ�บ�ต�จร�ง ในหน�ว่ยงานและก่ระที่รว่งต�างๆ ที่�า ให�เก่�ด้ป็ระสบก่ารณ�และเป็ล��ยนแป็ลงว่�ธ�ก่ารศ-ก่ษาที่างร�ฐศาสตร�ไป็ม&�งเน�นในที่างพื่ฤต�ก่รรมศาสตร�มาก่ข-�น โด้ยใช�คืว่ามร� �ที่��ได้�มาจาก่ก่ารที่�างานก่�บของจร�ง คื�อ ร�ฐบาล มาแล�ว่ เพื่��อที่��จะต�ด้ส�นได้�อย�างแม�ย�าว่�า

1. ใคืรจะได้�อ�านาจที่างก่ารเม�องในส�งคืมหน-�งๆ2. พื่ว่ก่เขาได้�อ�านาจที่างก่ารเม�องมาอย�างไร3. ที่�าไมพื่ว่ก่เขาจ-งเอาอ�านาจที่างก่ารเม�องมาได้�4. เม��อพื่ว่ก่เขาได้�อ�านาจที่างก่ารเม�องแล�ว่ พื่ว่ก่เขาเอาอ�านาจน��นไป็ใช�ที่�าอะไร

แต�ส��งที่��ส�าคื�ญ่ที่��ส&ด้ ก่8คื�อว่�า ก่ารจะม&�งเน�นไป็ในแนว่ที่างใด้แนว่ที่างหน-�ง คืงไม�เป็ นก่ารด้�อย�างแน�นอน เพื่ราะในบางเร��องก่8ไม�อาจใช�หล�ก่ที่างพื่ฤต�ก่รรมศาสตร�ได้� ด้�งน��น ร�ฐศาสตร�จ-งเป็ นก่ารเช��อมโยงองคื�ป็ระก่อบบางส�ว่นของก่ล&�ม น�ยมก่ารต�คืว่าม และองคื�ป็ระก่อบ“ ”

บางส�ว่นของก่ล&�ม พื่ฤต�ก่รรมศาสตร�“ ”

บทท*+ 2แนื้วความค�ดว1าด.วยร�ฐ

ร�ฐ หร�อป็ระเที่ศเป็ นหน�ว่ยก่ารเม�องที่��ส�าคื�ญ่ที่��ส&ด้ และเป็ นส�งที่��ม�บที่บาที่อย�างมาก่ในก่ารเม�องสม�ยใหม� ในพื่จนาน&ก่รมได้�ให�คืว่ามหมายว่�า แว่�นแคืว่�น บ�านเม�อง ป็ระเที่ศ มาจาก่คื�าบาล� รฏฐ หร�อ ราษฎีร ในภาษาส�นสก่ฤต

ชั้2มชั้นื้ทางการเม�องในื้อด*ติ1. ชั้2มชั้นื้บ2พิกาลั ไม�ม�ระเบ�ยบก่ารป็ก่คืรอง เป็ นก่ารด้�ารงช�ว่�ตเพื่��อคืว่ามอย��รอด้ และ

รว่มต�ว่ก่�นเป็ นช&มชนเพื่�ยงเพื่��อเอ��อป็ระโยชน�ในเร��องของอาหาร2. ชั้นื้เผู้1า (Tribe) หร�อ กลั21มเคร�อญาติ� (Clan) จ�ด้เป็ นร�ฐที่��พื่�ฒนาน�อยที่��ส&ด้ม�ก่จะเน�น

ขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ�มาก่ ก่ารแต�งก่ายก่8จะเป็ นล�ก่ษณะเคืร��องแบบที่��คืล�ายๆ ก่�น และจะบ�งบอก่สถึานภาพื่ของผ��แต�งก่ายน��นๆ ได้� ป็ก่คืรองโด้ยห�ว่หน�า หร�อผ��อาว่&โส ก่ารย-ด้ต�ด้อย��ก่�บด้�นแด้นอาณาเขตที่��แน�นอนม�น�อย ม�ก่จะเร�ร�อนที่��อย��เป็ นคืร��งคืราว่

3. แคว.นื้ (Province / Principality) แบ�งออก่เป็ น 3 ล�ก่ษณะ คื�อ1) นื้ครร�ฐ (City State) ต�ว่อย�างที่��ส�าคื�ญ่ คื�อ นคืรร�ฐของก่ร�ซึ่ ซึ่-�งม�คืว่ามย-ด้ม��นใน

เสร�ภาพื่และม�คืว่ามน�ยมชมชอบในคืว่ามเป็ นมน&ษย�เป็ นที่��ย��ง ชาว่ก่ร�ก่โบราณไม�

Page 11: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ยอมอย��ภายใต�อ�านาจของผ��เผด้8จก่ารหร�อพื่ระในศาสนาใด้ๆ โลก่ที่�ศน�ของชาว่ก่ร�ก่จะเป็ นแบบม�เหต&ม�ผลไม�งมงายต�ด้อย��ก่�บคืว่ามเช��อหร�อศาสนาจนเก่�นไป็ ชาว่ก่ร�ก่โบราณถึ�อว่�าคืว่ามอยาก่ร� �อยาก่เห8นน��นเป็ นส��งที่��ส�งส�ง ด้�งน��น ก่ารแสว่งหาคืว่ามร� �จ-งเป็ นส��งส�าคื�ญ่ และที่�าให�เก่�ด้มรด้ก่แก่�โลก่ที่��งที่างด้�านคืว่ามคื�ด้ ป็ร�ชญ่า และที่��ส�า คื�ญ่มาก่ส�า หร�บว่�ชาร�ฐศาสตร� ก่8คื�อ แนว่คืว่ามคื�ด้ป็ระชาธ�ป็ไตย

2) ร�ฐฟู;วด�ลั (Feudal State) ม�ล�ก่ษณะที่��ส�าคื�ญ่ คื�อ ก่ารย-ด้พื่��นที่��เป็ นหล�ก่ส�าคื�ญ่โด้ยพื่ว่ก่ข&นนาง (Lord) บ�งคื�บให�ผ��คืนเป็ นที่าสต�ด้ที่��ด้�น(Serf) ที่�างานร�บใช�และเก่ณฑ์�เป็ นที่หารในยามศ-ก่สงคืรามด้�ว่ย โด้ยข&นนางจะให�ก่ารคื&�มคืรองเป็ นผลตอบแที่น

3) ร�ฐเจั.า (Principality) เป็ นร�ฐที่��เก่�ด้ข-�นในสม�ยย&คืก่ลาง โด้ยม�เจ�า (Prince) เป็ นผ��ป็ก่คืรอง ย�งไม�ม�คื�าว่�า ร�ฐ (State) เพื่ราะ ย�งไม�ม�อ�านาจส�งส&ด้เด้8ด้ขาด้ในก่ารป็ก่คืรอง ย�งเป็ นก่ารป็ก่คืรองแบบจาร�ตด้��งเด้�ม และม�ก่ารรว่มก่�นใช�อ�านาจระหว่�างร�ฐก่�บองคื�ก่รที่างส�งคืมต�างๆ เช�น ศาสนจ�ก่ร สภาข&นนาง และสมาคืมต�างๆ เป็ นต�น

4. อาณาจั�กร (Kingdom) คื�อ ร�ฐที่��ม�พื่ระเจ�าแผ�นด้�น หร�อ ก่ษ�ตร�ย� (King) ป็ก่คืรอง โด้ยแบ�งชนช��นเป็ นผ��ป็ก่คืรอง ก่�บ ผ��อย��ใต�ป็ก่คืรอง ซึ่-�งก่8คื�อ ป็ระชาชน ในย&คืก่ลางได้�ม�คืว่ามพื่ยายามที่��จะแยก่อาณาจ�ก่รออก่จาก่ศาสนจ�ก่ร และสร�างศ�นย�รว่มอ�านาจอย��ที่��ก่ษ�ตร�ย�แที่นที่��จะเป็ น พื่ว่ก่พื่ระ พื่ว่ก่ข&นนาง หร�อ เจ�าผ��คืรองแว่�นแคืว่�นต�างๆ

5. จั�กรวรรด� (Empire) แบ�งออก่เป็ น 2 ล�ก่ษณะ คื�อ1) จั�กรภูพิของประเทศติะว�นื้ออก (Oriental Empire) คื�อ เป็ นร�ฐในร�ป็แบบร�ฐ

เผด้8จก่ารที่��ม�ก่ารป็ก่คืรองแบบรว่มอ�านาจอย��ที่��ศ�นย�ก่ลางของชนช��นป็ก่คืรองม�อ�านาจเด้8ด้ขาด้ ในขณะที่��ป็ระชาชนส�ว่นใหญ่�ม�ช�ว่�ตเหม�อนข�าที่าสไม�คื�อยม�ส�ที่ธ�ม�เส�ยงเที่�าไรน�ก่

2) จั�กรวรรด�โรม�นื้ (The Roman Empire) เป็ นจ�ก่รว่รรด้�ที่��ม�คืว่ามเป็ นน�ต�ร�ฐ ในแง�ที่��ว่�าก่ฎีหมายของโรม�นให�คืว่ามเที่�าเที่�ยมก่�นแก่�บรรด้าชาว่โรม�นที่��งป็ว่ง ที่��งย�งม�คืว่ามพื่ยายามที่��จะให�ส�ที่ธ�ในก่ารเป็ นพื่ลเม�อง (Citizenship) แก่�บ&คืคืลต�างชาต�ที่��ม�คืว่ามสามารถึ หร�อที่�าโยชน�ให�แก่�ป็ระเที่ศ ที่��งน��ที่&ก่คืนต�องร� �ก่ฎีหมาย คื�อ ร� �ที่� �งส�ที่ธ�และหน�าที่��ของตน ก่ฎีหมายของโรม�นจะถึ�ก่จาร-ก่ไว่�บนแผ�นไม�หร�อโลหะแล�ว่น�าไป็ต��งไว่�ตามสถึานที่��สาธารณะต�างๆ เพื่��อที่��คืนที่&ก่คืนจะได้�อ�านและเข�าใจในส�ที่ธ�และหน�าที่��ของตน ส�าหร�บจ�ก่รว่รรด้�โรม�นได้�ม�ก่ารป็ก่คืรองมาแล�ว่หลายแบบ ที่��งแบบก่งส&ล (Consul) ก่ารป็ก่คืรองโด้ยสภา (Senate) และต�อมาก่8เป็ นจ�ก่รพื่รรด้� (Emperor)

การเม�องในื้ระยะแรก

Page 12: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

- ม�ป็ระชาก่รจ�านว่นหน-�ง- ม�ผลผล�ตมาก่พื่อที่��จะเหล�อ (Surplus)

- ม�ก่ารแบ�งงานก่�นที่�า (Division of Labour) คืนบางก่ล&�มไม�ต�องที่�าก่ารผล�ต- ม�ก่ารแบ�งชนช��นที่างส�งคืม (Social Stratification) เป็ นชนช��นป็ก่คืรอง ผ��อย��ใต�ป็ก่คืรอง–

- ม�คืว่ามเช��อบางอย�างเป็ นพื่��นฐานของก่ารยอมร�บอ�านาจ

พิ�ฒินื้าการส"1ความเป:นื้ร�ฐสม�ยใหม1ในช�ว่งก่�อนคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 14 คืนโด้ยส�ว่นมาก่ย�งย-ด้ต�ด้ก่�บสถึานะที่��เป็ นคืนที่�างาน

บนที่��ด้�น หร�อเก่ณฑ์�แรงงานให�แก่�พื่ว่ก่ข&นนาง หร�อเจ�าแว่�นแคืว่�นต�างๆ โด้ยที่�างานบนที่��ด้�นของตนที่��ม�ผลผล�ตเพื่�ยงพื่ออย��พื่อก่�น และย�งไม�ม�คืว่ามคื�ด้ว่�าต�ว่เองเป็ นคืนของร�ฐใด้ เพื่ราะในช�ว่งน��นม�ก่ารรบพื่& �ง แย�งด้�นแด้นก่�นตลอด้ ที่�าให�บางคืร��งป็ระชาชนก่8ถึ�ก่ก่ว่าด้ต�อนไป็ย�งด้�นแด้นอ��น หร�อบางคืร��งก่8ม�ผ��ป็ก่คืรองคืนใหม�มาป็ก่คืรองด้�นแด้นน��นแที่น ที่�าให�ย�งไม�ม�ก่ารให�คืว่ามส�าคื�ญ่แก่�ผ��ป็ก่คืรองของตนมาก่น�ก่

ต�อมาในช�ว่งคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 14 - 15 พื่ว่ก่ก่ษ�ตร�ย�ย&โรป็ได้�พื่ยายามสร�างอ�านาจของตนให�มาก่ข-�น และพื่ยายามที่��จะรว่มอ�านาจในก่ารป็ก่คืรองด้�นแด้นที่��ก่ว่�างใหญ่� ซึ่-�งน��เป็ นจ&ด้เร��มต�นของก่ารสร�างคืว่ามเป็ นร�ฐ แต�อย�างไรก่8ตาม ในย&โรป็ ร�ป็แบบของร�ฐก่8ย�งไม�เก่�ด้ข-�นจนก่ระที่��งต�นคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 19

ในช�ว่งระยะแรก่ของก่ารสร�างคืว่ามเป็ นร�ฐในย&โรป็ ป็ระชาชนก่8ย�งไม�ม�คืว่ามร� �ส-ก่แตก่ต�างว่�าเขาเป็ นคืนของร�ฐใด้ เพื่ราะบางคืร��งด้�นแด้นที่��อาศ�ยก่8ถึ�ก่ยก่ให�ร�ฐอ��นด้�ว่ยเง��อนไขของก่ารแต�งงาน ก่ารสงคืราม หร�อก่ารชด้ใช�หน�� ที่�าให�ป็ระชาชนย�งเป็ นเพื่�ยงที่ร�พื่ย�สมบ�ต�ที่��สามารถึโอนย�ายให�แก่�ผ��ป็ก่คืรองคืนอ��นได้�

ก่ารสร�างร�ฐสม�ยใหม�ในย&โรป็อาจจะก่ล�าว่ได้�ว่�าเก่�ด้ข-�นได้�โด้ย นโป็เล�ยน โบนาป็าร�ที่ (Napolean Bonaparte) ในช�ว่ง คื.ศ.1800-1815 ในป็ระเที่ศฝ่ร��งเศส เขาได้�สร�างคืว่ามเป็ นหน-�งจาก่ก่ารเก่�ด้คืว่ามต��นต�ว่และคืว่ามต�องก่ารในช�ว่งของก่ารป็ฏ�ว่�ต�ฝ่ร��งเศส (French Revolution)

ด้�ว่ยก่ารสร�างระบบราชก่ารและก่องที่�พื่ที่��ม�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่และม�คืว่ามต��นต�ว่ ผลของร�ฐที่��สร�างข-�นน��เก่�อบจะที่�าให�ย-ด้คืรองย&โรป็ไว่�ได้�ที่��งหมด้ และเป็ นผลที่�าให�คืนในป็ระเที่ศร� �ส-ก่ว่�าเขาไม�ได้�ส��เพื่�ยงเพื่��อต�ว่พื่ว่ก่เขาที่��งน��น แต�เพื่��อป็ระเที่ศของพื่ว่ก่เขา (ฝ่ร��งเศส)

ผลหล�งจาก่น�� ที่�าให�เก่�ด้ร�ฐสม�ยใหม�ที่��งในย&โรป็และอเมร�ก่าตอนเหน�อในช�ว่งต�นคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 19 แต�ป็ระชาชนส�ว่นมาก่ในโลก่ก่8ย�งอาศ�ยอย��ที่�ามก่ลางก่ารจ�ด้แจงโด้ยคืนอ��น เน��องจาก่ก่ารขยายต�ว่ของก่ารล�าอาณาน�คืมของย&โรป็ ในช�ว่งคืร�สต�ศตว่รรษที่�� 18 - 19 ได้�แบ�งส�ว่นอ��นๆ ของโลก่ออก่เป็ นอาณาน�คืมของป็ระเที่ศต�างๆ ในศตว่รรษที่�� 20 อ�านาจของย&โรป็ได้�หมด้ไป็เน��องด้�ว่ยผลของสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 2 อาณาน�คืมต�างๆ ได้�แยก่ต�ว่เองออก่เป็ นร�ฐอ�สระ พื่ว่ก่ผ��น�าของร�ฐเหล�าน��ต�างเป็ นผ��ที่��ได้�ร�บก่ารศ-ก่ษาในย&โรป็ที่��งส��น ได้�น�าร�ป็แบบ

Page 13: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ของร�ฐในย&โรป็มาจ�ด้องคื�ก่รที่างก่ารเม�องของป็ระเที่ศของตน และในที่��ส&ด้ร�ฐสม�ยใหม�ได้�เป็ นร�ป็แบบสาก่ลขององคื�ก่รที่างก่ารเม�อง

ก�าเนื้�ดของร�ฐก่ารก่�อก่�าเน�ด้ของร�ฐม�ก่ารต��งป็ระเด้8นว่�เคืราะห�ก่�นเป็ นอย�างมาก่ว่�าเก่�ด้ข-�นได้�อย�างไร

แต�ส��งหน-�งที่��เราร� �ก่8คื�อว่�า ร�ฐสม�ยใหม�พื่�ฒนาข-�นเน��องด้�ว่ยก่ารเข�ามาของอ&ตสาหก่รรมและธ&รก่�จ อ&ตสาหก่รรมขนาด้ใหญ่�ย�อมต�องก่ารแรงงานเป็ นจ�านว่นมาก่ และต�องก่ารแรงงานที่��อย��ในที่�องที่��เด้�ยว่ก่�นเพื่��อคืว่ามสะด้ว่ก่ในก่ารด้�าเน�นงาน และเพื่��อป็ระโยชน�ในก่�จก่รรมที่างเศรษฐก่�จ ในล�ก่ษณะมหภาคืแล�ว่ คืว่ามซึ่�บซึ่�อนในก่ารพื่�ฒนาคืว่ามร�ว่มม�อในที่างเศรษฐก่�จ ที่�าให�ร�ฐเข�ามาม�บที่บาที่อย�างมาก่

จาก่ก่ารพื่�ฒนาของร�ฐน��เอง พื่�อคื�าและน�ก่อ&ตสาหก่รรมจ-งสามารถึที่��จะสร�างก่ล&�มแรงงานขนาด้ใหญ่�ที่��ม�เอก่ภาพื่ได้� และย�งขายผล�ตภ�ณฑ์�ผ�านตลาด้ขนาด้ใหญ่�ภายใต�ก่ฎีหมายช&ด้เด้�ยว่ก่�น ส�นคื�าสามารถึขนส�งได้�อย�างสะด้ว่ก่ ป็ราศจาก่ก่ารถึ�ก่เก่8บภาษ�พื่�เศษที่��สามารถึผ�านจาก่ส�ว่นหน-�งของร�ฐเป็ นส��อ�ก่ส�ว่นหน-�งได้� ในล�ก่ษณะมหภาคืเช�นน�� โรงงานและเร�อขนาด้ใหญ่�สามารถึสร�างได้� อ&ตสาหก่รรมและธ&รก่�จจ-งได้�ร�บผลป็ระโยชน�จาก่พื่�ฒนาก่ารของร�ฐ

ในคืว่ามหมายล�ก่ษณะเช�นน�� จ-งสร&ป็ได้�ว่�า1. อ&ตสาหก่รรมและธ&รก่�จสม�ยใหม�ต�องก่ารบางส��งที่��เป็ นล�ก่ษณะเช�น ร�ฐ และ“ ”

ก่ารเข�ามาของก่ารรถึไฟิ รว่มที่��งก่ารส�งโที่รสารในศตว่รรษที่�� 19 ร�ฐบาลจ-งสามารถึตรว่จสอบได้�อย�างฉ�บไว่ถึ-งสถึานก่ารณ�ที่��เก่�ด้ข-�นในป็ระเที่ศ และสามารถึเข�าแก่�ป็%ญ่หาได้�อย�างที่�นที่�ว่งที่�

2. “ร�ฐ ต�องก่ารธ&รก่�จและอ&ตสาหก่รรมสม�ยใหม�เพื่�� อที่��จะเป็ นก่ารง�ายที่��จะ”

คืว่บคื&มป็ระชาชนและเก่8บภาษ�จาก่พื่ว่ก่เขา และจาก่ก่ารที่��ร �ฐม�พื่�ฒนาก่ารน�� ที่�าให�ร�ฐบาลสามารถึที่��จะขยายและก่ระจายอ�านาจได้�ก่ว่�างขว่างข-�น

องค�ประกอบของร�ฐสม�ยใหม1ร�ฐหน-�งๆ จะม�คืว่ามเป็ นร�ฐสม�ยใหม�ที่��สมบ�รณ�ได้� จะต�องม�องคื�ป็ระก่อบคืรบที่��ง 4

ป็ระก่าร คื�อ1. ประชั้าชั้นื้ เป็ นองคื�ป็ระก่อบที่��ส�าคื�ญ่ของร�ฐ ก่ล�าว่คื�อ ร�ฐที่&ก่ร�ฐจะต�องม�ป็ระชาชน

อาศ�ยอย��จ-งจะเป็ นร�ฐข-�นมาได้� คืว่ามเจร�ญ่ก่�าว่หน�าหร�อตก่ต��าเส��อมโที่รมของร�ฐน��นส�ว่นใหญ่�ข-�นอย��ก่�บป็ระชาชนของร�ฐน��นๆ น��นเอง ด้�งน��นที่ร�พื่ยาก่รมน&ษย�จ-งเป็ นส��งที่��ม�คื�า ก่ารที่��

Page 14: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ป็ระชาชนม�คื&ณภาพื่ส�ง คื�อ ส&ขภาพื่อนาม�ยด้� ม�คืว่ามร� �ส�ง ม�ระเบ�ยบว่�น�ยด้� ก่8จะสามารถึพื่�ฒนาป็ระเที่ศให�ก่�าว่ไป็ส��คืว่ามเจร�ญ่ก่�าว่หน�าได้�ถึ-งแม�ที่ร�พื่ยาก่รจะไม�คื�อยเอ��ออ�านว่ยก่8ตาม

ที่��งน��จ�านว่นป็ระชาก่รก่8เป็ นส�ว่นหน-�งที่��แสด้งถึ-งคืว่ามเป็ นมหาอ�านาจ เช�น สาธารณร�ฐป็ระชาชนจ�น ม�ป็ะชาก่รก่ว่�าพื่�นล�านคืน แต�บางคืร��งมหาอ�านาจก่8อาจจะม�ป็ระชาก่รจ�านว่นน�อย แต�ม�คื&ณภาพื่ส�ง และก่ารที่��เราจะว่างก่ฎีเก่ณฑ์�ที่��แน�นอนได้�ว่�าร�ฐหน-�งๆ คืว่รม�ป็ระชาส�ก่เที่�าไร คืงจะก่ระที่�าไม�ได้� เพื่�ยงแต�อน&มานไว่�ว่�าม�จ�านว่นป็ระชาก่รเพื่�ยงพื่อที่��สามารถึป็ก่คืรองต�ว่เองได้�ก่8เป็ นร�ฐได้�

ในที่างก่ฎีหมายน��น ป็ระชาชนของร�ฐใด้ก่8จะม�ส�ญ่ชาต� (Nationality) ของร�ฐน��น ส�ว่นชาว่ต�างชาต�ที่��มาอาศ�ยอย��ในร�ฐอ��นเร�ยก่ว่�าคืนต�างด้�าว่ (Alien) คืนต�างด้�าว่เหล�าน��ต�องป็ฏ�บ�ต�ตามก่ฎีหมายของร�ฐที่��ตนไป็อาศ�ยอย��ด้�ว่ย อน-�งม�ข�อส�งเก่ตในก่รณ�ที่��ราชอาณาจ�ก่รไที่ยม�ก่ารก่�าหนด้เร��องเช��อชาต� (Race) เก่��ยว่ก่�บป็ระชาชนชาว่ไที่ย หร�อที่��เร�ยก่ว่�าเช��อชาต�ไที่ย (Thai Race)

ที่��งที่��โด้ยที่��ว่ไป็คืว่ามหมายชองเช��อชาต� น��นเป็ นเก่ณฑ์�ในก่ารแบ�งมน&ษยชาต�ตามผ�ว่พื่รรณซึ่-�งม�ผ�ว่ขาว่ ผ�ว่เหล�อง ผ�ด้ด้�า หร�อแบ�งเก่ณฑ์�ตามเผ�าพื่�นธ&�เป็ นคือเคืซึ่อยด้� มองโก่ลอยด้� และน�ก่รอยด้�

2. ด�นื้แดนื้ท*+แนื้1นื้อนื้ เป็ นคืว่ามคื�ด้ใหม�เน��องจาก่ได้�ม�ก่ารป็ระด้�ษฐ�เคืร��องม�อในก่ารช��ง ตว่ง ว่�ด้ที่��ที่�นสม�ยข-�น และเป็ นสาเหต&ใหญ่�มาก่สาเหต&หน-�งของสงคืรามและก่ารป็ะที่ะก่�น ด้�นแด้นที่��แน�นอนน��ม�พื่��นด้�น น�านน��าที่��งอาณาเขตในแม�น��า ที่ะเลสาบ และอาณาเขตใต�ที่ะเล นอก่จาก่น��ย�งรว่มถึ-งขอบเขตของที่�องฟิAาที่��อย��เหน�ออาณาเขตของพื่��นด้�นและที่�องน��าที่��งหมด้อ�ก่ด้�ว่ย

อาณาเขตบนพื่��นด้�นน��นตามหล�ก่ก่ารสาก่ลแล�ว่ม�ก่ย-ด้เอาพื่รมแด้นธรรมชาต� เช�น เที่�อก่เขา แม�น��า เป็ นเก่ณฑ์� ส�าหร�บในที่��ราบก่8จะม�ก่ารป็%ก่เขตแด้นอย�างช�ด้เจน

ส�ว่นอาณาเขตในที่�องที่ะเลน��น เด้�มที่�ตามหล�ก่สาก่ลจะย-ด้ถึ�อเอาว่�าอาณาเขตของร�ฐที่��เร�ยก่ว่�าเขตอธ�ป็ไตยน��น น�บจาก่ชายฝ่%� งออก่ไป็ในที่ะเล 3 ไมล� ซึ่-�งจ�ด้ว่�าป็ลอด้ภ�ยจาก่ว่�ถึ�ของก่ระส&นป็Fนใหญ่�ของเร�อรบสม�ยก่�อน ต�อมาเน��องจาก่คืว่ามก่�าว่หน�าที่างเที่คืโนโลย�ที่��ม�ก่ารพื่�ฒนาอาว่&ธป็Fนใหญ่�ย�งได้�ไก่ลก่ว่�า 3 ไมล� ที่�าให�ม�ก่ารก่�าหนด้อาณาเขตที่างที่�องที่ะเลใหม�เป็ น 12 ไมล� แต�ป็%จจ&บ�นแที่บไม�ม�คืว่ามหมาย เพื่ราะเที่คืโนโลย�ที่างอาว่&ธป็ระเภที่ข�ป็นาว่&ธสามารถึย�งไป็ได้�ไก่ลมาก่ จ-งได้�เป็ล��ยนไป็พื่�จารณาที่างเศรษฐก่�จแที่น เน��องจาก่ที่�องที่ะเลน��นเป็ นแหล�งที่��ม� �งคื��งด้�ว่ยที่ร�พื่ยาก่รธรรมชาต� ไม�ว่�าจะเป็ นส�ตว่�น��า และแหล�งแร� อาที่� น��าม�น ที่องคื�า ย�เรเน�ยม

ต�อมาได้�ม�ก่ารตก่ลงก่�นที่�าอน&ส�ญ่ญ่า (Convention) พื่.ศ.2535 ในก่ารป็ระช&มนานาชาต� ที่��จ�ด้ข-�นโด้ยองคื�ก่ารสหป็ระชาชาต� แต�ก่ว่�าจะม�ผลบ�งคื�บใช� โด้ยก่ารที่��ม�ป็ระเที่ศให�ส�ตยาบ�นคืรบ 60 ป็ระเที่ศ ก่8เป็ นป็B พื่.ศ.2537 หล�ก่ก่ารส�าคื�ญ่ คื�อ ที่&ก่ป็ระเที่ศที่��ม�อาณาเขตต�ด้ต�อก่�บที่�องที่ะเลจะม�อาณาเขตที่��ม�อ�านาจอธ�ป็ไตยอย�างเต8มที่��น�บจาก่ชายฝ่%� งออก่ไป็ 12 ไมล�

Page 15: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ส�ว่นเขตเศรษฐก่�จจ�าเพื่าะ คื�อ เขตที่��ร�ฐเจ�าของจะม�ส�ที่ธ�อธ�ป็ไตยออก่ไป็ 200 ไมล� เร�ยก่ว่�า เขตเศรษฐก่�จจ�าเพื่าะ (Exclusive Economic Zone) ถึ�อเป็ นเขตแด้นที่��ร�ฐเจ�าของม�ส�ที่ธ�ในที่ร�พื่ยาก่รที่��งมว่ลในที่ะเล บรรด้าเร�อของร�ฐอ��นสามารถึที่��จะแล�นผ�านได้� แต�ต�องไม�ที่�าก่ารจ�บส�ตว่�น��าหร�อที่�าก่�จก่รรมที่างธ&รก่�จใด้ๆ ที่��งส��น แต�ในที่างป็ฏ�บ�ต�ก่ารว่�ด้พื่��นที่��แบบน�� ย�อมที่�า ให�ม�อาณาเขตที่��ที่�บก่�นอย��เป็ นส�ว่นใหญ่�

ที่��ต� �งและสภาพื่ภ�ม�อาก่าศก่8ม�คืว่ามส�าคื�ญ่ต�อป็ระเที่ศน��นๆ เช�น ป็ระเที่ศเยอม�นน��ที่��ไม�พื่รมแด้นธรรมชาต� ที่�าให�ก่ลายเป็ นป็ระเที่ศที่��น�ยมก่ารที่หาร รว่มถึ-งที่ร�พื่ยาก่รธรรมชาต�ก่8ม�คืว่ามส�าคื�ญ่ไม�แพื่�ก่�น

3. ร�ฐบาลั คื�อ องคื�ก่ารหร�อสถึาบ�นที่างก่ารเม�อง ที่��สามารถึจ�ด้ระเบ�ยบ ออก่ก่ฎีเก่ณฑ์�ต�างๆ และร�ก่ษาคืว่ามสงบในก่ารอย��ร�ว่มก่�นของป็ระชาชน ที่��งย�งเป็ นต�ว่แที่นของป็ระชาชน ที่�าก่ารที่&ก่อย�างในนามของป็ระชาชนก่ล&�มน��นในอาณาเขตน��นเอง

ก่ารที่��ม�ร�ฐบาลข-�นได้�น��น จ�าเป็ นจะต�องได้�ร�บคืว่ามย�นยอมจาก่ป็ระชาชน ร�ฐบาลจะย�นยงอย��ได้�ก่8ด้�ว่ยก่ารสนองคืว่ามต�องก่ารของป็ระชาชน สามารถึร�ก่ษาผลป็ระโยชน�ของป็ระชาชน ให�คืว่ามย&ต�ธรรมต�อป็ระชาชน ป็Aองก่�นก่ารร&ก่รานจาก่ป็ระเที่ศอ��น โด้ยป็ระชาชนม�หน�าที่��เส�ยภาษ�อาก่รและป็ฏ�บ�ต�ตามก่ฎีหมายของร�ฐบาลที่��บ�ญ่ญ่�ต�ออก่มา

4. อ�านื้าจัอธ�ปไติย เป็ นอ�านาจส�งส&ด้ในก่ารป็ก่คืรองป็ระเที่ศ ซึ่-�งก่8คื�อ ก่ารแสด้งออก่ซึ่-�งเอก่ราชของป็ระเที่ศหน-�งๆ ที่��สามารถึจะเป็ นต�ว่ของต�ว่เองในก่ารก่�าหนด้นโยบายของตนเองและน�านโยบายของตนออก่มาบ�งคื�บใช�ได้�เต8มที่�� โด้ยไม�ต�องตก่อย��ใต�คื�าบ�ญ่ชาของป็ระเที่ศอ��นใด้

อ�านาจอธ�ป็ไตยเป็ นแนว่คื�ด้ที่างก่ฎีหมาย ซึ่-�งอาจแบ�งออก่เป็ นอ�านาจอธ�ป็ไตยภายในและอ�านาจอธ�ป็ไตยภายนอก่ ก่ล�าว่คื�อ อ�านาจอธ�ป็ไตยภายในเป็ นอ�านาจที่��ออก่ก่ฎีหมายและร�ก่ษาก่ฎีหมาย ตลอด้จนบ�งคื�บให�ป็ระชาชนป็ฏ�บ�ต�ตามก่ฎีหมาย ส�ว่นอ�านาจอธ�ป็ไตยภายนอก่ คื�อ อ�านาจที่��ป็ระเที่ศจะด้�าเน�นคืว่ามส�มพื่�นธ�ก่�บป็ระเที่ศอ��นๆ รว่มที่��งอ�านาจที่��จะป็ระก่าศสงคืรามและที่�าสนธ�ส�ญ่ญ่าส�นต�ภาพื่ อาจก่ล�าว่อ�ก่น�ยหน-�งก่8ได้�ว่�า เอก่ราช ก่8คื�อ อ�านาจอธ�ป็ไตยภายนอก่น��นเอง

หาก่ถึามว่�า อ�านาจอธ�ป็ไตยเป็ นของใคืร ป็%จจ&บ�นด้�เหม�อนจะเห8นพื่�องต�องก่�นโด้ย“ ”

ที่��ว่ไป็ว่�า อ�านาจอธ�ป็ไตยเป็ นของป็ระชาชน ส�าหร�บป็ระเที่ศไที่ยน��น ร�ฐธรรมน�ญ่แห�งราชอาณาจ�ก่รไที่ย พื่.ศ.2540 ระบ&ไว่�ช�ด้เจนใน มาตรา 3 ว่�า อ�านาจอธ�ป็ไตยเป็ นของป็ว่งชนชาว่ไที่ย พื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ผ��ที่รงเป็ นป็ระม&ขที่รงใช�อ�านาจน��นที่างร�ฐสภา คืณะร�ฐมนตร� และศาล ม�ก่ารแบ�งแยก่องคื�ก่รที่��ใช�อ�านาจออก่เป็ น 3 หน�ว่ยงาน คื�อ

อ�านื้าจันื้�ติ�บ�ญญ�ติ� คื�อ อ�านาจในก่ารออก่ก่ฎีหมายไว่�ใช�ในก่ารป็ก่คืรองป็ระเที่ศ ตามหล�ก่โด้ยที่��ว่ไป็แล�ว่ คื�อ ร�ฐสภา ป็ระก่อบด้�ว่ยสภาผ��แที่นราษฎีร ซึ่-�งป็ระชาชนได้�เล�อก่ต��งเข�ามาที่�าหน�าที่��แที่นป็ระชาชนในก่ารออก่ก่ฎีหมายต�างๆ เพื่��อร�ก่ษาคืว่ามสงบเร�ยบร�อยภายใน และ

Page 16: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เพื่��อน�ามาซึ่-�งคืว่ามก่�นด้�อย��ด้�ของป็ระชาชนตลอด้จนคืว่ามม��นคืงของป็ระเที่ศ ป็ระก่อบก่�บม�ว่&ฒ�สภาคือยพื่�จารณาให�คืว่ามเห8นชอบ และให�คื�าแนะน�าในเร��องของก่ารออก่ก่ฎีหมายต�างๆ

อ�านื้าจับร�หาร คื�อ อ�านาจซึ่-�งคืณะร�ฐมนตร�และข�าราชก่ารที่��งหลายใช�ในก่ารบร�หาร ป็ก่คืรองป็ระเที่ศ ตามก่ฎีหมายซึ่-�งฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ได้�ตราออก่มา

อ�านื้าจัติ2ลัาการ หร�อ อ�านื้าจัศาลั ม�อ�านาจต�ด้ส�นคืด้�ข�ด้แย�งต�างๆ ระหว่�างบ&คืคืลก่�บบ&คืคืล หร�อบ&คืคืลก่�บร�ฐตามก่ฎีหมายที่��ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ได้�ตราออก่มาก่ หร�อในบางก่รณ�ของป็ระเที่ศ ย�งสามารถึพื่�จารณาได้�ด้�ว่ยว่�าก่ฎีหมายที่��ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ตราออก่มาข�ด้ก่�บก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่ ซึ่-�งเป็ นอ�านาจส�งส&ด้ของป็ระเที่ศหร�อไม�

สร&ป็คื�าจ�าก่�ด้คืว่ามของร�ฐสม�ยใหม� คื�อ ช&มชนของมน&ษย�จ�านว่นหน-�งที่��คืรอบคืรอง“

ด้�นแด้นที่��ม�อาณาเขตแน�นอน รว่มก่�นอย��ภายใต�ร�ฐบาลเด้�ยว่ก่�น ซึ่-�งร�ฐบาลม�ได้�อย��ในอ�านาจคืว่บคื&มของร�ฐอ��นๆ สามารถึที่��จะป็ก่คืรอง และด้�าเน�นก่�จก่ารภายในของร�ฐตลอด้จนที่�าก่ารต�ด้ต�อก่�บร�ฐอ��นๆ ได้�โด้ยอ�สระ”

การร�บรองร�ฐก่ารร�บรองร�ฐ (Recognition) เป็ นก่ารแสด้งออก่ให�เห8นว่�า ร�ฐอ��นได้�ให�คืว่ามเห8นชอบหร�อ

เห8นว่�าร�ฐม�คื&ณสมบ�ต�คืรบถึ�ว่น จ-งได้�ให�ก่ารร�บรอง และก่ารร�บรองแต�ละคืร��งเป็ นคืว่ามสม�คืรใจของร�ฐหน-�งที่��ได้�ให�แก่�ร�ฐหน-�งโด้ยป็ราศจาก่ก่ารบ�งคื�บ ในก่ารด้�าเน�นคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างป็ระเที่ศน��นถึ�อได้�ว่�า ก่ารร�บรองร�ฐที่�าให�ร�ฐม�สภาพื่เป็ นบ&คืคืลระหว่�างป็ระเที่ศ ก่ล�าว่คื�อ ขอให�สมมต�ว่�าส�งคืมของร�ฐเป็ นสมาคืมหน-�ง ซึ่-�งผ��ป็ระสงคื�จะเข�าเป็ นสมาช�ก่จะต�องได้�ร�บก่ารร�บรองจาก่สมาช�ก่เด้�มเส�ยก่�อน ฉะน��นร�ฐที่��ย�งไม�ได้�ร�บก่ารรองร�บจาก่ร�ฐใด้เลย ร�ฐย�อมไม�ถึ�อว่�าร�ฐน��นเป็ นบ&คืคืลระหว่�างป็ระเที่ศ และไม�ยอมต�ด้ต�อด้�ว่ย และไม�ถึ�อว่�าม�ส�ที่ธ�และหน�าที่��ตามก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศอย�างแที่�จร�ง ในก่รณ�ที่��เม��อม�ก่ารแต�งที่�ตไป็ก่8ไม�ม�ผ��ใด้ร�บรอง

ในป็%จจ&บ�นน��ได้�ม�ก่ารแบ�งร�บรองออก่เป็ น 2 ป็ระเภที่ คื�อ1. ก่ารร�บรองตามข�อเที่8จจร�ง (De facto Recognition)

2. ก่ารร�บรองตามก่ฎีหมาย (De Jure Recognition)

1. การร�บรองติามข.อเท<จัจัร�ง (De facto Recognition)

เป็ นก่ารร�บรองโด้ยพื่ฤต�น�ย ก่ารร�บรองในล�ก่ษณะน��เป็ นก่ารร�บรองช��ว่คืราว่ ก่ล�าว่คื�อ เม��อร�ฐสงส�ยว่�าหน�ว่ยก่ารเม�องใหม�ม�คืว่ามสามารถึเพื่�ยงพื่อที่��จะเป็ นร�ฐได้�หร�อไม�และป็ฏ�บ�ต�ตามพื่�นธะระหว่�างป็ระเที่ศหร�อไม� หร�อก่ล�าว่อ�ก่น�ยหน-�งได้�ว่�า ในฐานะที่��ร �ฐน��นได้�เก่�ด้ข-�นตามสภาพื่คืว่ามเป็ นจร�ง แต�ย�งไม�อาจให�ก่ารรองร�บในร�ป็ก่ฎีหมาย คื�อ ให�ส�ตยาบ�น ซึ่-�งหมายคืว่ามว่�า ร�ฐใหม�อาจจะเก่�ด้ข-�น แต�ร�ฐอ��นย�งสงส�ยในล�ก่ษณะบางป็ระก่ารของร�ฐใหม� จ-ง

Page 17: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เพื่�ยงแต�ให�คืว่ามย�นยอมหร�อร�บรองว่�าร�ฐน��นม�จร�ง เช�น ร�ฐในย&โรป็ตะว่�นตก่ได้�ให�ก่ารร�บรองข�อเที่8จจร�งก่�บร�ฐฟิ=นแลนด้� ซึ่-�งเก่�ด้ข-�นใหม�หล�งสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 1

2. การร�บรองติามกฎีหมาย (De Jure Recognition)

เป็ นก่ารร�บรองโด้ยน�ต�น�ยและม�ผลถึ�ก่ต�องตามก่ฎีหมาย เป็ นก่ารร�บรองต�อสภาพื่คืว่ามถึ�ก่ต�องของร�ฐ ซึ่-�งป็ระเที่ศที่��ให�ก่ารร�บรองจะต�องม�คืว่ามม��นใจว่�าป็ระเที่ศที่��เก่�ด้ใหม�ม�สภาพื่ที่��ถึ�ก่ต�องคืรบบร�บ�รณ� ก่ารร�บรองที่างน�ต�น�ยม�ล�ก่ษณะเป็ นที่างก่ารและถึาว่ร ม�คืว่ามส�มพื่�นธ�ที่างก่ารที่�ตและแลก่เป็ล��ยนผ��แที่นที่างก่ารที่�ตต�อก่�น

ร"ปของร�ฐ (Form of State)

ร�ป็ของร�ฐ ใช�เก่ณฑ์�ร�ป็ของร�ฐบาล แบ�งออก่เป็ น 2 ร�ป็แบบ คื�อ1. ร�ฐเด*+ยว (Unity State) ร�ฐส�ว่นใหญ่�ในโลก่เป็ นร�ฐเด้��ยว่ เช�น ไที่ย สว่�เด้น ญ่��ป็&Eน ฝ่ร��งเศส

จ�น สหราชอาณาจ�ก่ร (อ�งก่ฤษ) ฯลฯ ม�ร�ป็แบบที่��ร�ฐบาลก่ลางม�อ�านาจส�งส&ด้ ด้�าเน�นก่ารตามเจตนารมณ�และอ�านาจหน�าที่��ของร�ฐ ต�ว่แที่นในภ�ม�ภาคืต�องมาจาก่ร�ฐบาลก่ลาง เช�น ผ��ว่�าราชก่ารจ�งหว่�ด้ นายอ�าเภอ ต�ารว่จ ข�าราชก่ารในที่�องถึ��นต�างๆ พื่�จารณาด้�จาก่ป็ระว่�ต�ศาสตร�จะเห8นได้�ว่�าเด้�มป็ระเที่ศร�ฐเด้��ยว่จะม�ก่ารขยายอาณาเขตด้�ว่ยก่ารร&ก่ราน บ�งคื�บ แต�อาจจะม�ก่ารแบ�งอ�านาจในที่�องถึ��นป็ก่คืรองต�ว่เองได้�ตามที่��ร�ฐบาลเห8นสมคืว่ร

2. ร�ฐรวม (Composite State) เม��อพื่�จารณาจาก่ป็ระว่�ต�ศาสตร�น��น ร�ฐรว่มจะเก่�ด้จาก่ก่ารรว่มต�ว่ของแว่�นแคืว่�นต�างๆ เข�าด้�ว่ยก่�นโด้ยคืว่ามสม�คืรใจ ไม�ม�ก่ารบ�งคื�บข��เข8ญ่ ก่ารเข�ามาร�ว่มก่�นน��นเป็ นเร��องของผลป็ระโยชน�ร�ว่มก่�นอย�างช�ด้แจ�ง ที่��งน��อาจจะเก่�ด้จาก่ก่ารที่��ม�ก่ารเร�ยก่ร�องหร�อก่�อก่บฏของที่�องถึ��นต�างๆ ที่��ต�องก่ารป็ก่คืรองต�ว่เองในร�ฐเด้��ยว่ต�างๆ ก่8อาจจะม�ก่ารย�นยอมให�บางส�ว่นม�ส�ที่ธ�ในก่ารป็ก่คืรองต�ว่เอง จ�ด้ให�เป็ นเขตป็ก่คืรองตนเอง (Autonomous) โด้ยก่ารจ�ด้ให�ม�ร�ฐสภาได้�เป็ นเอก่เที่ศ เร�ยก่ว่�ธ�ก่ารน��ว่�า Devolution

ต�ว่อย�างที่��ด้�ส�าหร�บป็ระเที่ศที่��ม�ล�ก่ษณะเป็ นร�ฐรว่ม ได้�แก่� สหร�ฐอเมร�ก่า แคืนาด้า ออสเตรเล�ย ซึ่-�งม�ร�ฐบาลเป็ นสองระด้�บ คื�อ ร�ฐบาลก่ลางก่�บร�ฐบาลมลร�ฐ (หร�อ แคืว่�น,

มณฑ์ล ก่8ได้�ตามแต�จะเร�ยก่) คื�อ ให�ร�ฐบาลก่ลางม�อ�านาจอธ�ป็ไตยในส�ว่นที่��เป็ นก่�จก่ารเก่��ยว่เน��องก่�บป็ระโยชน�ของป็ระเที่ศเป็ นส�ว่นรว่ม เช�น ก่ารป็Aองก่�นป็ระเที่ศ ก่ารป็ระก่าศสงคืราม ที่�าสนธ�ส�ญ่ญ่าก่�บป็ระเที่ศอ��นๆ อ�านาจในก่ารด้�แลคืว่บคื&มเง�นตราของป็ระเที่ศ ก่ารต�ด้ต�อก่�บนานาป็ระเที่ศในก่ารแต�งต��งต�ว่แที่นของป็ระเที่ศในฐานะที่�ต ส�ว่นร�ฐบาลระด้�บมลร�ฐจะม�อ�านาจอธ�ป็ไตยภายในเขตแด้นมลร�ฐของตนเองอย�างเต8มที่�� ก่ล�าว่คื�อ ม�อ�านาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� อ�านาจบร�หาร และอ�านาจต&ลาก่ารโด้ยร�ฐบาลก่ลางจะย&�งเก่��ยว่หร�อแที่รก่แซึ่งไม�ได้� หน�าที่��ของ

Page 18: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ร�ฐบาลม�ก่จะเก่��ยว่ข�องก่�บ ก่ารศ-ก่ษา ก่ารเที่ศบาล ส�ว่นถึ�าเป็ นป็%ญ่หาระหว่�างมลร�ฐจะเป็ นอ�านาจของร�ฐบาลก่ลาง

ด้�งน��น ล�ก่ษณะที่��เป็ นร�ฐบาลัซ้.อนื้ (Dual Government) น�� ต�างเป็ นอ�สระไม�ข-�นต�อก่�น ม�ก่ารแบ�งแยก่อ�านาจอย�างช�ด้เจน และม�ก่ารก่�าหนด้ว่�าเร��องใด้เป็ นเร��องของร�ฐบาลที่�องถึ��น และเร��องใด้ม�ผลต�อส�ว่นรว่มหร�อที่��งป็ระเที่ศ ก่8จะเป็ นเร��องร�ฐบาลก่ลาง

ชั้าติ�นื้�ยมหร�อความเป:นื้ร�ฐชั้าติ� (Nationalism and Nation State)

ชั้าติ� (Nation) คื�อ ก่ล&�มคืนที่��ผ�ก่พื่�นเข�าด้�ว่ยก่�น และระล-ก่ถึ-งคืว่ามคืล�ายคืล-งก่�นที่�ามก่ลางก่ล&�มคืนเหล�าน��น ด้�ว่ยว่�ฒนธรรม และภาษาซึ่-�งด้�เหม�อนว่�าม�คืว่ามส�าคื�ญ่ในก่ารสร�างคืว่ามเป็ นชาต�

ร�ฐ (State) คื�อ องคื�ก่รที่างก่ารเม�อง ซึ่-�งม�อ�านาจอธ�ป็ไตยส�งส&ด้ ที่��จะต�องม�คืว่ามร�บผ�ด้ชอบอย�างเต8มที่��ในก่�จก่ารของตนเอง

ชั้าติ�นื้�ยม (Nationalism) หร�อคืว่ามเป็ น ร�ฐชั้าติ� (Nation State) จ-งเป็ นก่ระบว่นก่ารป็ล�ก่ฝ่%งคืว่ามร� �ส-ก่ เป็ นชาต� ลงในองคื�ป็ระก่อบของร�ฐสม�ยใหม� ซึ่-�งก่8คื�อ ป็ระชาชน โด้ยก่าร“ ” “ ”

สร�างคืว่ามร� �ส-ก่แน�นแฟิAนว่�าป็ระชาชนที่&ก่คืนในร�ฐน��นเป็ นพื่ว่ก่เด้�ยว่ก่�น ด้�ว่ยว่�ธ�ก่าร ได้�แก่� 1. ก่ารสร�างส�ญ่ล�ก่ษณ�ร�ว่มก่�น เช�น ก่ารใช�ธงชาต� ก่ารเด้�นขบว่นฉลองในว่�นชาต�

น�าป็ระว่�ต�ศาสตร�ของป็ระเที่ศบรรจ&ไว่�ในต�าราเร�ยน2. ก่ารม�ป็ระว่�ต�ศาสตร�ร�ว่มก่�น เช�น คืว่ามเป็ นมาของชาต�ไที่ยที่��มาจาก่ อาณาจ�ก่ร

ส&โขที่�ย อย&ธยา ธนบ&ร� และก่ร&งร�ตนโก่ส�นที่ร� ก่ารป็ฏ�ว่�ต�ฝ่ร��งเศสที่��ถึ�อเอาเป็ นก่ารก่�อเน�ด้ของร�ฐชาต�ในย&โรป็ เป็ นต�น

ด้�งน��น ร�ฐบาลจ-งคืว่รสน�บสน&นชาต�น�ยมหร�อคืว่ามเป็ นร�ฐชาต� ซึ่-�งไม�จ�าเป็ นต�องเป็ นคืว่ามเก่ล�ยด้ช�งร�ฐอ��นแต�อย�างใด้ เหม�อนสม�ยของนาซึ่� เยอรม�น แต�คืว่รเป็ นก่ารสร�างคืว่ามภาคืภ�ม�ใจในชาต�ของตน

Page 19: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

บทท*+ 3ทฤษฎี*แลัะปร�ชั้ญาทางการเม�อง

ความค�ด (Idea) คื�อ มโนภาพื่ที่��เราม�ต�อป็ราก่ฏก่ารณ�ใด้ๆ หร�อเร��องใด้เร��องหน-�ง ม� 2

ล�ก่ษณะ คื�อ1. ความค�ดค�านื้&ง (Thought) คื�อ คืว่ามคื�ด้ใคืร�คืรว่ญ่เก่��ยว่ก่�บเร��องใด้เร��องหน-�ง2. แนื้วความค�ด หร�อ มโนื้ท�ศนื้� (Concept) คื�อ ก่ารสร�างภาพื่เก่��ยว่ก่�บเร��องใด้

เร��องหน-�ง ส��งใด้ส��งหน-�ง ซึ่-�งเป็ นร�ป็ธรรมหร�อนามธรรมก่8ได้� และอาจจะม�อย��ในโลก่แห�งคืว่ามเป็ นจร�ง หร�อในโลก่แห�งจ�นตนาก่ารก่8ได้�

ทฤษฎี* (Theory) ราก่ศ�พื่ที่�ของคื�าน��ในภาษาตะว่�นตก่มาจาก่คื�าว่�า Theoros ซึ่-�งหมายถึ-ง ผ��ที่�� เด้�นที่างไป็ร�บฟิ%งคื�าพื่ยาก่รณ�จาก่ว่�หารแห�งเด้ลฟิB (Delphic Oracles) และสามารถึถึ�ายที่อด้คืว่ามร� �ที่��ล-ก่ซึ่-�งให�ผ��อ�� นได้�ที่ราบ ที่ฤษฎี�เป็ นแนว่ที่างน�าไป็ส��หนที่างในก่ารป็ฏ�บ�ต�

ลั�ทธ� ม�องคื�ป็ระก่อบของคืว่ามจร�ง และช�ก่น�าให�คืนเช��อ คื�าสอนแบบก่ร�ก่ จะม�ล�ก่ษณะของก่ารช��น�าให�เช��อและป็ระพื่ฤต�ตาม

อ2ดมการณ� (Ideology) ไม�เหม�อนคื�าว่�า อ&ด้มคืต� ซึ่-�งเป็ นคืว่ามหมายในเช�งบว่ก่ แต�“ ”

เป็ นแนว่คืว่ามคื�ด้ที่��โยงเข�าด้�ว่ยก่�นเช�งเหต&และผลอย�างหลว่มๆ เพื่��อน�าไป็ส��ก่ารบรรล&เป็Aาหมายที่��ต�องก่าร อาจเป็ นในเช�งบว่ก่หร�อลบก่8ได้� ส��งที่��เป็ นอ&ด้มก่ารณ�ต��งอย��บนพื่��นฐานของคืว่ามเช��อหร�อคื�าน�ยมเพื่��อที่��จะเป็ นหนที่างน�าไป็ส��เป็Aาหมาย

ล�ก่ษณะส�าคื�ญ่ :-1. คืว่ามคื�ด้ คืว่ามเช��อเช�งเหต&และผลอย�างไม�ล-ก่ซึ่-�ง โต�แย�งได้�ง�าย2. ม�เป็Aาหมายที่��จะต�องบรรล&อย�างเป็ นร�ป็ธรรม ซึ่-�งสะที่�อนด้�ว่ย

คื�าขว่�ญ่หร�อสโลแก่น3. ม&�งม��นที่��จะบรรล&เป็Aาหมายน��น แม�จะต�องใช�เว่ลานานเพื่�ยงใด้ก่8ตาม

ป็ระโยชน� :-1. สร�างคืว่ามชอบธรรมให�ก่�บระบบก่ารป็ก่คืรอง

คืว่ามคื�ด้ที่ฤษฎี�ล�ที่ธ�

อ&ด้มก่ารณ�ป็ร�ชญ่า

ป็ราก่ฏก่ารณ�ที่างก่ารเม�อง / เศรษฐก่�จ /

ส�งคืม

Page 20: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2. สร�างคืว่ามชอบธรรมให�ก่�บก่ล&�มผลป็ระโยชน�ในก่ารเร�ยก่ร�องหร�อป็ก่ป็Aองผลป็ระโยชน�ของตน

3. สร�างคืว่ามชอบธรรมในก่ารต�อส��ป็ลด้ป็ล�อยหร�อป็ลด้แอก่

ปร�ชั้ญา (Philosophy) คื�อ คืว่ามร�ก่ในป็%ญ่ญ่าและคืว่ามร� � (Love of Wisdom) และม&�งให�คื�ด้ศ-ก่ษา แสว่งหาคืว่ามแตก่ฉาน และคืว่ามรอบร� � ป็ร�ชญ่าจ-งม�คืว่ามล-ก่ซึ่-�ง ก่ว่�างขว่างก่ว่�าที่ฤษฎี� เก่��ยว่พื่�นก่�บหลายสาขาว่�ชา

ที่&ก่คื�าด้�งก่ล�าว่ข�างต�นเป็ นคื�าที่��ใช�ที่��เก่��ยว่ข�องก่�บก่ารเม�อง คื�อ ความค�ดทางการเม�อง / ทฤษฎี*ทางการเม�อง / ลั�ทธ�ทางการเม�อง / อ2ดมการณ�ทางการเม�อง / ปร�ชั้ญาทางการเม�อง ซึ่-�งบางคืร��งก่8น�ามาใช�แที่นก่�นได้� แต�ส��งที่��ส�าคื�ญ่ คื�อ คืว่รจะเข�าใจคืว่ามหมายของแต�ละคื�า เพื่��อที่��จะได้�เล�อก่คื�าที่��เหมาะสมมาใช�ในก่ารอธ�บาย

ปร�ชั้ญาการเม�องของกร*กป็ร�ชญ่าก่ารเม�อง คื�อ ก่ารศ-ก่ษา หร�อคืว่ามร� �เก่��ยว่ก่�บก่ารเม�องก่ารป็ก่คืรอง เพื่��อน�าไป็

ส��ร�ป็แบบก่ารเม�องก่ารป็ก่คืรองที่��ด้�ที่��ส&ด้ และน�าไป็ส��คืว่ามส&ขของป็ระชาชน โด้ยส�ว่นมาก่จะเน�นพื่ว่ก่ตะว่�นตก่มาก่ก่ว่�า ในที่��น��จะขอก่ล�าว่ถึ-ง น�ก่ป็ราชญ่�ก่ร�ก่ที่��ง 3 คื�อ Socrates, Plato, Aristotle

ผ��ซึ่-�งว่างราก่ฐานป็ร�ชญ่าก่ารเม�องไว่�

Socrates (469 – 399 B.C) เป็ นชาว่นคืรร�ฐเอเธนส� (Athens)

- แสว่งหาคืว่ามร� �ที่��ถึ�ก่ต�องที่��เป็ นคืว่ามร� �สาก่ล- ใช�ว่�ธ� Dialectic ต��งคื�าถึามให�ผ��อ��นตอบ เม��ออ�ก่ฝ่Eายหน-�งตอบ ก่8ต� �งคื�าถึามโต�

แย�ง จนอ�ก่ฝ่Eายหน-�งจนแต�ม โด้ยจะต�องใช�เหต&ผล และหล�ก่ที่างตรรก่ว่�ที่ยา- แสว่งหาคืว่ามจร�ง คืว่ามร� � คืว่ามย&ต�ธรรม- ไม�เช��อในคืว่ามเที่�าเที่�ยมก่�นของคืน- ผ��ป็ก่คืรองที่��ด้�คืว่รต�องม�คืว่ามร� � และสต�ป็%ญ่ญ่า- ไม�เห8นด้�ว่ยก่�บก่ารป็ก่คืรองแบบป็ระชาธ�ป็ไตยของก่ร�ก่ เน��องจาก่

1. ก่ารใช�เส�ยงข�างมาก่เป็ นส��งที่��ไม�ถึ�ก่ต�อง เพื่ราะคืนส�ว่นใหญ่�ไม�ม�เว่ลา และไม�ม�คืว่ามฉลาด้

2. ผ��น�าที่างก่ารเม�องจะมาจาก่ก่ารเล�อก่ต��ง สน�บสน&นของคืนส�ว่นใหญ่� ที่�าให�ได้�ผ��ป็ก่คืรองที่��ไม�ม�คืว่ามร� � แต�เป็ นผ��ป็ก่คืรองที่��ได้�ร�บคืว่ามน�ยม

- ก่ารย-คืป็ร�ชญ่าที่��อาศ�ย คื&ณธรรม คื�อ คืว่ามร� � “ ” (Virtue is Knowledge) เป็ นฐานก่�ด้ก่ร�อนข�ออ�างของระบอบป็ระชาธ�ป็ไตยในเร��องก่ารม�ว่�ธ�ก่ารป็ก่คืรองที่��ม�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่ และคืว่ามย&ต�ธรรม ที่�าให�เสร�ภาพื่ในก่ารอภ�ป็รายหมด้คื&ณคื�า

- ว่�จารณ�เสร�ภาพื่ของชาว่เอเธนส�ด้�ว่ยคืว่ามขมข��น

Page 21: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

- ส��งที่��น�ก่ก่ารเม�องผล�ต คื�อ ขยะ- ว่�ธ� Dialectic ที่�าให�คืนส�ว่นหน-�งเก่�ด้คืว่ามร�าคืาญ่ เพื่ราะ Socrates โต�แย�ง

และสอนให�คืนสงส�ยในที่&ก่ส��ง- ก่ารสอนไม�ให�เช��อ ไม�ยอมร�บเที่พื่เจ�าที่��คืนในนคืรร�ฐเช��อถึ�อก่�น

ข�อก่ล�าว่หาว่�า Socrates สร�างเที่พื่เจ�าองคื�ใหม� ข�อหาบ�อนที่�าลายและมอมเมาเยาว่ชน ถึ�ก่คืณะล�ก่ข&นต�ด้ส�นให�

ด้��มยาพื่�ษ Hemlock ส��นช�ว่�ต- ไม�ม�ใคืรร� �เก่��ยว่ก่�บช�ว่�ตส�ว่นต�ว่ของ Socrates ส�ว่นมาก่จะร� �มาจาก่คื�าบอก่เล�า

ของ Plato และก่ารต�คืว่ามของน�ก่คื�ด้ในย&คืต�อๆ มา- ถึ-งแม�ว่�า Socrates จะไม�เห8นด้�ว่ยก่�บระบอบป็ระชาธ�ป็ไตยแบบก่ร�ก่ แต�เขาก่8

เคืารพื่ในก่ฎีหมายของร�ฐ

Plato (427 – 347 B.C) เป็ นล�ก่ศ�ษย�ของ Socrates

- คืว่ามร� �ที่��แที่�จร�ง คื�อ คื&ณธรรมและเหต&ผล- ไม�เช��อในเร��องของคืว่ามเที่�าเที่�ยมก่�น เพื่ราะคืนเราม�คืว่ามสามารถึและคืว่าม

ถึน�ด้แตก่ต�างก่�น- เข�ยนหน�งส�อเล�มหน-�ง ช��อ The Republic (อ&ตมร�ฐ) เสนอร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรอง

ของร�ฐที่��ด้�เล�ศในอ&ด้มคืต� แบ�งคืนออก่เป็ น 3 ชนช��น ตามคืว่ามสามารถึ โด้ยใช�ก่ารศ-ก่ษาเป็ นต�ว่จ�าแนก่ ได้�แก่�

1. ชนช��นต��า – ชาว่นา ช�าง พื่�อคื�า2. ชนช��นก่ลาง – น�ก่รบ ที่หาร ป็Aองก่�นนคืรร�ฐจาก่ศ�ตร�3. ชนช��นส�ง – เป็ นผ��ป็ก่คืรอง ม�เหต&ผลและสต�ป็%ญ่ญ่าส�งส&ด้

ผ��ป็ก่คืรอง ก่8คื�อ ราชาป็ราชญ่� (Philosopher King) ฉลาด้เล�ศล��าโด้ยก่�าเน�ด้ ได้�ร�บก่ารฝ่Gก่อบรมให�เป็ นผ��ป็ก่คืรอง

- คืว่ามย&ต�ธรรมเป็ นคื&ณธรรมส�งส&ด้ ร�ฐที่��ด้�ที่��ส&ด้ คื�อ ร�ฐที่��ให�คืว่ามย&ต�ธรรมแก่�ป็ระชาชนอย�างเที่�าเที่�ยมก่�น

- เข�ยนหน�งส�อก่ารเม�องอ�ก่หลายเล�ม ในร�ป็แบบก่ารสนที่นาตอบโต�- เป็ นบ�ด้าว่�ชาป็ร�ชญ่าที่างก่ารเม�อง- ไม�เห8นด้�ว่ยก่�บป็ระชาธ�ป็ไตยแบบก่ร�ก่ โด้ยเฉพื่าะป็ระชาธ�ป็ไตยแบบเส�ยง

ข�างมาก่ที่��ได้�ต�ด้ส�นป็ระหารช�ว่�ต Socrates

Aristotle (384 – 322 B.C) เป็ นล�ก่ศ�ษย�ของ Plato

- เร�ยนที่�� Academy 19 ป็B ก่�บ Plato

- เป็ นอาจารย�ผ��สอนที่�� Academy

Page 22: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

- ไป็สอนหน�งส�อ Alexander the Great แห�ง Mecedonia ได้�เอาร�ฐธรรมน�ญ่ก่ว่�า 158

ฉบ�บจาก่เม�องที่��ต�ได้�ให� Aristotle ศ-ก่ษา- ต�อมาได้�ก่ล�บมาย�งก่ร&งเอเธนส�ได้�ต� �งโรงเร�ยน Lyceum ข-�นใก่ล�ก่ร&งเอเธนส�- ก่ารศ-ก่ษาเป็ร�ยบเที่�ยบของ Aristotle ได้�จ�าแนก่ร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรอง ออก่

เป็ น 6 ร�ป็แบบ โด้ยใช�เก่ณฑ์� จ�านว่นผ��ป็ก่คืรอง ก่�บ คืว่ามม�จร�ยธรรมของผ��ป็ก่คืรอง ด้�งน��

Who rules?

One person The few The many

Who benefits?

Rulers Tyranny Oligarchy Democracy

All Monarchy Aristocracy Polity

Figure: Aristotle’s six forms of government

1. ราชั้าธ�ปไติย (Monarchy) โด้ย ก่ษ�ตร�ย� (king/monarch) ม�ล�ก่ษณะส�าคื�ญ่ คื�อ เป็ นระบอบก่ารป็ก่คืรองที่��ม�ก่ารส�บสายโลห�ต ส�บส�นตต�ว่งศ� โด้ยผ��ป็ก่คืรองตระก่�ลหน-�ง ซึ่-�งอาจเป็ นก่ารน�บสายโลห�ตที่างพื่�อ หร�อที่างแม�ก่8ได้� แล�ว่แต�ป็ระเพื่ณ�ระบอบก่ารเม�องน��นๆ ก่ารส�บสายโลห�ตที่��ว่�าน�� จะม�ก่ารจ�ด้ตามล�าด้�บของเจ�านายในว่งศ�ตระก่�ลน��น

Plato และ Aristotle ต�างมองว่�าราชาธ�ป็ไตยในที่��น��คืว่รจะป็ก่คืรองโด้ยราชาป็ราชญ่� (Philosopher King) ซึ่-�งเป็ นก่ารป็ก่คืรองที่��ด้�ในอ&ด้มคืต� คื&ณธรรมของผ��ป็ก่คืรองน��จะที่�า ให�เป็ นก่ารป็ก่คืรองที่��ด้�ไม�คื�าน-งถึ-งป็ระโยชน�เฉพื่าะของผ��ป็ก่คืรองเองเป็ นที่��ต� �ง แต�จะคื�าน-งถึ-งป็ระโยชน�ของนคืรร�ฐและคืนที่&ก่ก่ล&�มเป็ นที่��ต� �ง

ระบอบน��ม�คืว่ามอ&ด้มคืต�ส�ง และเป็ นไป็ได้�ยาก่ เพื่ราะ1) จะหาคืนที่��ด้�เล�ศที่��งคืว่ามร� � และคื&ณธรรมได้�จาก่ไหน2) ถึ�าม�คืนผ��น��อย��จร�งก่8คืงไม�ยอมลด้ต�ว่มาเป็ นผ��ป็ก่คืรอง เพื่ราะเต8มไป็ด้�ว่ย

ภาระและป็%ญ่หา

ในคืว่ามเป็ นจร�งม�แนว่โน�มว่�าจะได้�ผ��น�าที่��ด้�อยคืว่ามสามารถึ และอาจก่ลายเป็ นที่รราช

2. ทรราชั้ย� (Tyranny) คื�อ ก่ารป็ก่คืรองโด้ยคืนคืนเด้�ยว่ที่��ม�อ�านาจ ไม�ม�ก่ารส�บสายโลห�ต ใช�อ�านาจเป็ นไป็ตามอ�าเภอใจ (Arbitrary) ไม�ม�ก่ฎีเก่ณฑ์� ไม�ม�คืว่ามแน�นอน ส��งก่ารแต�ผ��เด้�ยว่ ม�ก่เป็ นก่ารป็ก่คืรองโด้ยใช�ก่�าล�งบ�งคื�บ

3. อภู�ชั้นื้าธ�ปไติย (Aristocracy) คื�าว่�า Aristocracy มาจาก่คื�าว่�า aristoi เป็ นภาษาก่ร�ก่ แป็ลว่�า คืว่ามฉลาด้ คืว่ามสามารถึพื่�เศษ + kratos แป็ลว่�า ก่ารป็ก่คืรอง รว่มก่�นคื�อ ก่ารป็ก่คืรอง

Page 23: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

โด้ยคืณะ / ก่ล&�มคืนส�ว่นน�อยที่��ม�คืว่ามสามารถึ ม�คืว่ามร� � ม�ก่ารศ-ก่ษา และเป็ นชนช��นส�ง ที่��ม&�งป็ระโยชน�ส�ว่นรว่ม จ&ด้อ�อนก่8คื�อ ม�แนว่โน�มที่��จะก่ลายเป็ น คืณาธ�ป็ไตย

4. คณาธ�ปไติย (Oligarchy) เป็ นก่ารป็ก่คืรองโด้ยก่ล&�มบ&คืคืล แต�เป็ นก่ล&�มซึ่-�งรว่มต�ว่ก่�นเพื่��อว่�ตถึ&ป็ระสงคื�ที่างก่ารเม�องโด้ยเฉพื่าะ อาจจะมาจาก่หลายชนช��น หร�อม�ก่ารศ-ก่ษาหร�อว่�ชาช�พื่ร�ว่มก่�นก่8ได้� เช�น ที่หาร ต�ารว่จ น�ก่ก่ารเม�อง ก่ล&�มคืนม�เง�น ที่��เร�ยก่ว่�า ธนาธ�ป็ไตย (Plutocracy) โด้ยเอ��อผลป็ระโยชน�แก่�ก่ล&�มของตน

5. ประชั้าธ�ปไติยแบบมวลัชั้นื้ (ที่างตรง) (Democracy) หร�อที่��เร�ยก่ก่�นว่�า มว่ลชนาธ�ป็ไตย แบบนคืรร�ฐก่ร�ก่ ม�ข�อเส�ยอย�� 5 ป็ระก่าร คื�อ

1) คืนส�ว่นใหญ่�ไม�ได้�ม�คืว่ามร� �และคื&ณธรรม แม�จะม�คืว่ามเห8น ก่8เป็ นคืว่ามเห8นที่��ไม�ม�คืว่ามร� �

2) คืนส�ว่นใหญ่�ม�ฐานะที่างเศรษฐก่�จต��า ที่�าให�เก่�ด้ก่ารป็ก่คืรองที่��ไม�ด้�3) คืนส�ว่นใหญ่�ม�แนว่โน�มใช�คืว่ามร� �ส-ก่และอารมณ�ในก่ารต�ด้ส�นใจ4) คืนส�ว่นใหญ่�จะที่�าให�เก่�ด้คืว่ามย&�งเหย�ง โก่ลาหล ว่& �นว่าย5) ป็ระชาธ�ป็ไตยม�สมมต�ฐานที่��ผ�ด้พื่ลาด้ ในเร��องคืว่ามเที่�าเที่�ยมก่�นในที่&ก่เร��อง

6. ประชั้าธ�ปไติยแบบผู้สม (Polity) ม�ผ��ป็ก่คืรองก่ล&�มเล8ก่ที่��ม�คื&ณสมบ�ต�เหมาะสม แต�ม�ที่��มาจาก่คืนก่ล&�มใหญ่�ที่��เป็ นชนช��นก่ลางซึ่-�งม�จ�านว่นมาก่ก่ว่�าคืร-�งหน-�ง ที่��ม�ก่ารศ-ก่ษา ม�ฐานะที่างเศรษฐก่�จป็านก่ลาง ระบบ Polity สอด้คืล�องก่�บก่ารป็ก่คืรองป็ระชาธ�ป็ไตยในป็%จจ&บ�น คืนที่��รว่ยมาก่ ม�ก่จะฟิ& AงเฟิAอ เห�อเห�มไม�เห8นห�ว่คืนอ��น ส�ว่นคืนจนก่8ไม�ม�เหต&ผล

ปร�ชั้ญาการเม�องสนื้�บสนื้2นื้อ�านื้าจัเด<ดขาด (Absolutism)

ม�น�ก่คื�ด้ 3 ที่�าน ที่��สน�บสน&นอ�านาจเด้8ด้ขาด้ คื�อ1. Niccolo Machiavelli (1469-1527)2. Jean Bodin (1530-1596)3. Thomas Hobbes (1588-1679)

เหต&ที่��น�ก่คื�ด้ที่��ง 3 สน�บสน&นคืว่ามคื�ด้และบ&คืคืลคืนเด้�ยว่ป็ก่คืรอง เพื่ราะ- บ�านเม�องเต8มไป็ด้�ว่ยสงคืราม- สม�ยน��นศาสนาคืร�สต�คืรอบง�าก่ารเม�อง ก่ารป็ก่คืรอง ซึ่-�งเน�นบ&คืล�ก่ภาพื่

อ�สระของมน&ษย� ที่�าให�เป็ นอ&ป็สรรคืต�อก่ารป็ก่คืรองด้�ว่ยอ�านาจเด้8ด้ขาด้- ระบบศ�ก่ด้�นาสม�ยก่ลาง ข&นนางม�อ�านาจมาก่ ก่ษ�ตร�ย�ไม�คื�อยม�อ�านาจ

ที่��ง 3 ที่�าน แสว่งหาคืว่ามชอบธรรมให�ระบบก่ษ�ตร�ย� โด้ยม�ว่�ธ�ที่��ต�างก่�น คื�อMachiavelli แยก่ศ�ลธรรมออก่จาก่ก่ารเม�องBodin บ&ก่เบ�ก่แนว่คืว่ามคื�ด้ ร�ฐาธ�ป็ไตย (ร�ฐ + อธ�ป็ไตย)

Hobbes ใช�หล�ก่เหต&ผลว่�าด้�ว่ยธรรมชาต�ของมน&ษย�

Page 24: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1. Niccolo Machiavelli (1469-1527)- คืล��งไคืล�ในหน�งส�อ และอ�านาจ- ชอบคืว่ามสว่ยงาม โด้ยเฉพื่าะผ��หญ่�ง- ชอบคืว่ามสน&ก่สนาน และอาหารช��นด้�- คืว่ามคื�ด้ก่ารเม�องของเขา เป็ นในเช�งขาด้ศ�ลธรรม ตรงก่�บคืว่ามป็ระพื่ฤต�

ส�ว่นต�ว่ของเขา- เข�ยนหน�งส�อ The Prince

1 เพื่��อให�ต�ว่เองได้�ร�บก่ารสน�บสน&น“The Prince” (1531)

- แสว่งหาและร�ก่ษาไว่�ซึ่-�งอ�านาจที่างก่ารป็ก่คืรอง โด้ยไม�คื�าน-งถึ-งศ�ลธรรม- คืว่ามคื�ด้ที่างก่ารเม�องอย��บนสมมต�ฐานในก่ารมองมน&ษย� ว่�าม�ธรรมชาต�

อย�างไร ซึ่-�งตามม&มมองในหน�งส�อเล�มน��มองว่�า มน&ษย�อก่ต�ญ่ญู� โลเล ซึ่�อนเร�น โลภโมโที่ส�น ก่ล�ว่คืว่ามตาย ฯลฯ

- ผ��ป็ก่คืรองคืว่รม�คื&ณสมบ�ต� ด้�งน��1) มองโลก่ตามคืว่ามเป็ นจร�ง2) คื&ณสมบ�ต�ผสมก่�นระหว่�างส�งโตก่�บส&น�ขจ��งจอก่ คื�อ เป็ นหล�ก่ในที่&ก่

ส��ง เป็ นศ�นย�ก่ลางของอ�านาจ เข�มแข8ง เห8นแก่�ต�ว่ อย��เหน�อคืนอ��นที่��งคืว่ามคื�ด้ และจ�ตใจ ไม�ใช�คืว่ามก่ร&ณาในที่างที่��ผ�ด้ ต�องพื่ร�อมที่��ใช�คืว่ามโหด้ร�าย ก่ล�าว่คื�อ ใช�อ�านาจเด้8ด้ขาด้ เพื่��อที่��จะร�ก่ษาคืว่ามสงบเร�ยบร�อย คืว่ามโหด้ร�ายเด้8ด้ขาด้ที่�าร�ายเพื่�ยงคืนบางคืน แต�ก่ารป็ก่ป็Aองส�งคืมถึ�อเป็ นส��งส�าคื�ญ่

3) ต�องที่�าให�ผ��อ�� นที่��งร�ก่ที่��งก่ล�ว่ แต�ถึ�าที่�าใด้เพื่�ยงอย�างใด้อย�างหน-�ง ต�องที่�าให�ก่ล�ว่ เพื่ราะ

3.1) ธรรมชาต�ของมน&ษย� “...เขาจะอย�� ก่�บที่� าน ป็ระก่าศว่� าจ ะสละช�ว่�ต

ที่ร�พื่ย�ส�น ล�ก่เต�าให�แก่�ที่�าน ตราบเที่�าที่��ที่�านย�งเป็ นป็ระโยชน� และอ�นตรายย�งอย��ไก่ล แต�เม��ออ�นตรายเข�ามาใก่ล� เขาจะไม�เป็ นพื่ว่ก่ที่�านอ�ก่ต�อไป็...”

3.2) มน&ษย�โด้ยธรรมชาต�ก่ล�าล�ว่งเก่�นคืนที่��ตนร�ก่ได้�มาก่ก่ว่�าคืนที่��ตนก่ล�ว่

1 สามารถึอ�านเพื่��มเต�มได้�จาก่ เจ�าผ��ป็ก่คืรอง“ ” (The Prince) สมบ�ต� จ�นที่รว่งศ� (แป็ล) ก่ร&งเที่พื่: ส�าน�ก่พื่�มพื่�

คืบไฟิ, 2542

Page 25: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

“สายใยแห�งคืว่ามร�ก่มน&ษย�ต�ด้ม�นได้� ถึ�าม�ผลป็ระโยชน�

สายใยแห�งคืว่ามก่ล�ว่จะม�อย�� ยาก่ที่��จะล�มเล�อน”

3.3) ก่ารที่�าให�คืนร�ก่ข-�นอย��ก่�บจ�ตใจของคืนผ��น� �น ก่ารที่�าให�ก่ล�ว่ข-�นอย��ก่�บต�ว่บ&คืคืลเอง

แต�ก่ารสร�างคืว่ามก่ล�ว่ต�องไม�ที่�าให�เก่�ด้คืว่ามเก่ล�ยด้ช�ง โก่รธแคื�น เพื่ราะจะน�าไป็ส��ก่ารส�องส&มคื�ด้ร�ายต�อผ��ป็ก่คืรอง ด้�งน��น จ-งม�ว่�ธ�ก่ารป็Aองก่�นไม�ให�คืนอ��นโก่รธ คื�อ ก่ารละเม�ด้ที่ร�พื่ย�ส�นของราษฎีรและคืนอ��น และก่ารไม�ล�ว่งเก่�นเก่�ยรต�ยศและล�ก่เม�ยของคืนอ��น“คืนเราพื่�อตายไม�นานก่8ล�ม แต�ใคืรมาละเม�ด้ ล�ว่งเก่�นเรา ไม�ม�ว่�นที่��

จะล�ม”

สร2ปความค�ด ก่ารเม�อง เป็ นศ�ลป็ะของก่ารร�ก่ษาอ�านาจ สร�างเอก่ภาพื่ที่างก่ารเม�อง สร�างคืว่ามม��นคืงในก่ารป็ก่คืรอง ม�คืว่ามสงบเร�ยบเร�ยบ ต�องแยก่ศ�ลธรรมออก่จาก่ก่ารเม�อง เพื่ราะอ�านาจแสด้งถึ-งคืว่ามชอบธรรมของว่�ธ�ก่าร จะใช�ว่�ธ�ไหนๆ ก่8ได้� ไม�ต�องคื�าน-งถึ-งศ�ลธรรม

2. Jean Bodin (1530-1596)- เป็ นอาจารย�สอนก่ฎีหมาย และเป็ นต&ลาก่าร- ม�คืว่ามคื�ด้เห8นว่�า ก่ารเม�อง คื�อ ก่ารป็ก่คืรองด้�ว่ยคืว่ามย&ต�ธรรมและศ�ล

ธรรม “6 บรรพิว1าด.วยสาธารณร�ฐ” (The Six Books of the Commonwealth) (1576)

สาธารณร�ฐ คื�อ ป็ระชาคืมมน&ษย�ที่��ม�ก่ารป็ก่คืรองอย�างม�ศ�ลธรรม ม�ใช�ที่าสหร�อคืนร�บใช� แต�เป็ นราษฎีร ซึ่-�งจะไม�ม�ส�ที่ธ�ต�อต�านอ�านาจร�ฐ ต�องเคืารพื่ก่ฎีหมาย ในป็ระชาคืมมน&ษย�ม�อ�านาจเด้8ด้ขาด้ส�งส&ด้ถึาว่ร คื�อ อ�านาจที่��เก่�ด้มาพื่ร�อมก่�บก่ารม�ร�ฐ สนองเพื่��อให�ม�ร�ฐ อ�านาจน��ไม�ถึ�ก่จ�าก่�ด้โด้ยระยะเว่ลา หร�อก่ฎีหมาย ที่��งน��ม�ใช�เพื่ราะไม�ม�ก่ฎีหมาย แต�เพื่ราะอ�า นาจน�� เป็ นผ��ออก่ก่ฎีหมาย ซึ่-�งในป็%จจ&บ�น ก่8คื�อ อ�า นื้าจันื้�ติ�บ�ญญ�ติ� Bodin ได้�เร�ยก่อ�านาจน��ว่�า อ�านื้าจัอธ�ปไติย ที่��สามารถึที่��จะออก่ก่ฎี และยก่เล�ก่ก่ฎีได้�

ร�ฐก่�บอ�านาจอธ�ป็ไตยเป็ นของคื��ก่�น ที่�าให�เก่�ด้เป็ นพื่��นฐานในก่ารจ�ด้ร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรอง 3 ร�ป็แบบ ใช�เก่ณฑ์�ของอ�านาจอธ�ป็ไตยเป็ นต�ว่แบ�ง คื�อ

Page 26: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1) ระบอบก่ษ�ตร�ย� อ�านาจอธ�ป็ไตยอย��ที่��คืนเพื่�ยงคืนเด้�ยว่2) อภ�ชนาธ�ป็ไตย อ�านาจอธ�ป็ไตยอย��ที่��คืนก่ล&�มน�อย3) ป็ระชาธ�ป็ไตย ป็ระชาชนม�ส�ว่นรว่มในก่ารใช�อ�านาจอธ�ป็ไตย

ในที่�ศนะของ Bodin เห8นว่�า ระบอบกษ�ติร�ย� เป็ นก่ารป็ก่คืรองที่��ด้�ที่��ส&ด้ เพื่ราะ1) สอด้คืล�องก่�บธรรมชาต� เช�น คืรอบคืร�ว่ม�ห�ว่หน�าคืรอบคืร�ว่ คื�อ พื่�อ

โลก่ม�พื่ระเจ�าเพื่�ยง 1 องคื�2) ระบอบก่ษ�ตร�ย� หร�อก่ารป็ก่คืรองเพื่�ยง 1 คืน จะม�หล�ก่ป็ระก่�นเอก่ภาพื่

แห�งอ�านาจที่��ม� �นคืง องคื�อธ�ป็%ตย�จะม�ได้�เพื่�ยงหน-�งเที่�าน��น หาก่ม�มาก่ก่ว่�าน��จะไม�ม�ใคืรออก่คื�าส��งร�บคื�าส��งขององคื�อธ�ป็%ตย�หลายองคื�ได้�

3) ระบอบก่ษ�ตร�ย�จะสามารถึเล�อก่คืนฉลาด้ เข�าใจก่�จก่รรมบ�านเม�องได้�ด้�ก่ว่�า

อภ�ชนาธ�ป็ไตยก่�บป็ระชาธ�ป็ไตย เป็ นระบอบก่ารเม�องที่��ต�องม�สภา ซึ่-�งป็ระก่อบด้�ว่ยคืนด้�และคืนบ�า ส�ว่นระบอบก่ษ�ตร�ย�ในที่�ศนะของ Bodin จะไม�เป็ นที่รราช เพื่ราะระบอบที่รราชย�จะป็ก่คืรองราษฎีรเย��ยงที่าส แต�ระบอบก่ษ�ตร�ย�น�� ราษฎีรเคืารพื่ก่ฎีหมาย ส�ว่นก่ษ�ตร�ย�เคืารพื่ก่ฎีธรรมชาต�สอด้คืล�องก่�บหล�ก่ศ�ลธรรม เสร�ภาพื่และก่รรมส�ที่ธ�ของพื่ลเม�องจ-งย�งม�อย�� อ�านาจอธ�ป็ไตยแม�ว่�าจะส�งส&ด้เด้8ด้ขาด้ ก่8แบ�งแยก่ไม�ได้� และม�ขอบเขตก่ารใช�ซึ่-�งถึ�ก่จ�าก่�ด้ด้�ว่ยศ�ลธรรม

3. Thomas Hobbes (1588-1679)- อย��ในย&คืที่��ก่ษ�ตร�ย�ม�อ�านาจเด้8ด้ขาด้ในย&โรป็ ถึ�ก่คื&ก่คืามอย�างหน�ก่ ม�ก่ารส��

รบฆ่�าฟิ%น เขาจ-งหน�ไป็อย��ที่�� Paris เป็ นอาจารย�สอนคืณ�ตศาสตร�แก่�ผ��ที่��จะเป็ นก่ษ�ตร�ย�ในอนาคืตของอ�งก่ฤษ ในราชว่งศ� Stuart ซึ่-�งม�คืว่ามข�ด้แย�งที่างศาสนา

- ในป็B 1642 พื่ระเจ�า Charles I เก่�ด้คืว่ามข�ด้แย�งก่�บร�ฐสภา ภายใต�ก่ารน�าของ Oliver Cromwell เหต&ก่ารณ�จบลงด้�ว่ยช�ยชนะของ Cromwell

ในป็B 1651 และได้�ป็ก่คืรองป็ระเที่ศอ�งก่ฤษในช�ว่งน��น “Leviathan” (1651)

Leviathan คื�อ ส��งม�ช�ว่�ตที่��ม�พื่ลาน&ภาพื่ส�งส&ด้หน�งส�อเล�มน��สะที่�อนแก่�นป็ร�ชญ่าก่ารเม�องของ Hobbes ซึ่-�งเขาเข�ยนข-�นด้�ว่ย

คืว่ามก่ล�ว่สภาพื่ที่��ไม�สงบเร�ยบร�อยและคืว่ามก่ระหายที่��จะเห8นส�นต�ภาพื่ ป็ร�ชญ่าคืว่ามคื�ด้ในหน�งส�อเล�มน�� ม�ด้�งน��

1) ฐานื้คติ�การมองมนื้2ษย� : มน&ษย�ในธรรมชาต�ม�คืว่ามเห8นแก่�ต�ว่ ก่ระหายและร�ก่ต�ว่ก่ล�ว่ตาย ม�เหต&ผลเหน�อส�ตว่� สามารถึคื�าน-งถึ-งผลป็ระโยชน�ที่��จะได้�ร�บ และม�

Page 27: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คืว่ามเที่�าเที่�ยมก่�นในก่ารม�คืว่ามหว่�ง เพื่��อบรรล&ส��งที่��ต�องก่าร ที่��งย�งม�คืว่ามเที่�าเที่�ยมก่�นในป็%ญ่ญ่าคืว่ามคื�ด้ หร�อเล�ห�ก่ลที่��จะเข�าถึ-งเป็Aาหมายได้�

2) มนื้2ษย�ในื้สภูาวะธรรมชั้าติ� : มน&ษย�ที่&ก่คืนเป็ นศ�ตร�หร�อคื��แข�งก่�น มน&ษย�เป็ นส&น�ขป็Eาส�าหร�บมน&ษย�ด้�ว่ยก่�น แต�จะเข�าร�ว่มก่�นเพื่��อป็Aองก่�นอ�นตรายอย�างเด้�ยว่ก่�น ส�งคืมมน&ษย�จ-งไม�ม�คืว่ามสงบส&ข ม�แต�ก่ารต�อส�� แก่�งแย�ง จนก่ลายเป็ นสงคืราม มน&ษย�จะอย��ในสภาว่ะหว่าด้ก่ล�ว่ ต�องเผช�ญ่อ�นตรายตลอด้เว่ลา ในสภาว่ะธรรมชาต� มน&ษย�ไม�ม�ก่รรมส�ที่ธ�ในที่ร�พื่ย�ส�น แต�ละคืนเป็ นเจ�าของในส��งที่��สามารถึแย�งมาได้� และเป็ นเจ�าของตราบเที่�าที่��ย�งแข8งแรงพื่อและร�ก่ษาไว่�ได้� มน&ษย�จะต�องออก่จาก่สภาว่ะน�� ม�เช�นน��นจะถึ�ก่ที่�าลายก่�นที่��งหมด้

3) ทางออกส"1ส�นื้ติ� : คื�อ ก่ารม�ร�ฐที่��ม�อ�านาจเด้8ด้ขาด้ คืว่ามร�ก่ต�ว่ก่ล�ว่ตายที่�า ให�มน&ษย�ย�นยอมละที่��งสภาว่ะธรรมชาต� คืว่ามม�เหต&ม�ผลที่�า ให�มน&ษย�คื�ด้ถึ-งบที่บ�ญ่ญ่�ต�แห�งส�นต�ภาพื่ (ก่ฎีธรรมชาต�)

สร2ปได.ว1า อย�าที่�าก่�บผ��อ�� นในส��งที่��ที่�านไม�ป็ระสงคื�ให�ผ��อ�� นที่�าต�อที่�าน ด้�งเช�นก่ารน�าไป็ส��ก่ารย�นยอมสละสภาว่ะของตน โด้ยม�พื่ล�งอ�านาจที่��ไม�อาจต�านที่านได้�มาบ�งคื�บให�ป็ฏ�บ�ต�ตามพื่�นธะ

ใครเป:นื้ผู้".จั�ดติ�งร�ฐ : ป็ระชาชนที่�าส�ญ่ญ่าจ�ด้ต��งร�ฐเพื่��อคื&�มคืรองส�ว่นรว่ม และยอมสละส�ที่ธ�ที่��จะต�ด้ว่�าอะไรด้� อะไรช��ว่ หร�อส��งใด้เป็ นคืว่ามย&ต�ธรรม แต�จะผ�ก่ม�ด้ตนเองก่�บส��งที่��ด้� หร�อย&ต�ธรรม ตามที่��องคื�อธ�ป็%ตย�บ�ญ่ชา

องคื�อธ�ป็%ตย�ม�อ�านาจส�งส&ด้ ป็ระชาชนต�องป็ฏ�บ�ต�ตาม จะเร�ยก่ร�อง ฟิAองร�องไม�ได้� องคื�อธ�ป็%ตย�จะม�อ�านาจส�งส&ด้เด้8ด้ขาด้ และม�หน�าที่��ให�คืว่ามสงบส&ขและส�นต�ภาพื่แก่�ราษฎีร ตามเจตจ�านงที่��จะม&�งให�เก่�ด้ส�นต�ภาพื่

อ�านาจที่��ให�แก่�องคื�อธ�ป็%ตย�น��จะเร�ยก่คื�นจาก่ร�ฐไม�ได้� ยก่เว่�นว่�า องคื�อธ�ป็%ตย�อ�อนแอลงจนคื&�มคืรองราษฎีรไม�ได้� ป็ระชาชนก่8จะรอด้พื่�นจาก่พื่�นธะ และสามารถึป็ก่คืรองตนเอง แล�ว่จ-งจะเล�อก่องคื�อธ�ป็%ตย�องคื�ใหม�

ปร�ชั้ญาการเม�องแบบเสร*นื้�ยม (Liberalism)

- ส�งคืมในศตว่รรษที่�� 18

ก่ารป็ฏ�ว่�ต�อ&ตสาหก่รรม เร��มต�นที่��ป็ระเที่ศอ�งก่ฤษ ซึ่-�งก่8คื�อ อ&ตสาหก่รรมที่อผ�า

ก่ารคื�าและเศรษฐก่�จตามเม�องที่�า เก่�ด้ข-�นมาก่มาย- ก่ารเต�บโตของชนช��นก่ลางหร�อชนช��นก่ฎุKมพื่� (Bourgeois)

เสร�ภาพื่ คืว่ามส&ข คืว่ามก่�าว่หน�า คื&ณธรรม หล�ก่เหต&ผล

Page 28: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ม�อ�านาจเศรษฐก่�จ / แสว่งหาอ�านาจที่างก่ารเม�อง- ว่�ฎีจ�ก่รคืว่ามก่�าว่หน�า

กฎีหมาย (Law) คื�อ ข�อบ�ญ่ญ่�ต�ที่��อาศ�ยหล�ก่เหต&ผล ที่��ม�พื่��นฐานของคืว่ามจร�ง และส�งผลให�เก่�ด้คืว่ามส&ข ที่��งย�งที่�าลายอคืต� คืว่ามเช��อเก่�าๆ และน�าไป็ส��คืว่ามเจร�ญ่ก่�าว่หน�าอย�างไม�ส��นส&ด้

ม�น�ก่คื�ด้ที่��ส�าคื�ญ่ 3 ที่�าน คื�อ1. John Locke (1632-1704)2. Charles-Louis de Secondat Montesquieu (1689-1755)3. Jean Jacques Rousseau (1712-1778)

1. John Locke (1632-1704)- บ�ด้าของ Locke เป็ นพื่ว่ก่สน�บสน&นร�ฐสภาให�ที่�าสงคืรามก่ลางเม�อง แล�ว่ย�ง

เป็ นพื่ว่ก่ Puritant ต�อต�านน�ก่าย Church of England ในป็ระเที่ศอ�งก่ฤษ จ-งหน�ไป็อเมร�ก่า

- จบก่ารศ-ก่ษาจาก่ Westminster และ Oxford

- เต�บโตที่�ามก่ลางคืว่ามป็%� นป็Eว่นของคืว่ามคื�ด้ที่างส�งคืม ก่ารเม�อง ป็ร�ชญ่า และก่ารต�อส��ระหว่�างก่ษ�ตร�ย�ก่�บร�ฐสภา

- Locke เป็ นฝ่Eายสน�บสน&นร�ฐสภา“Two treatises of Government” (1690)

- ตอบโต�ระบบอ�านาจเด้8ด้ขาด้ (Absolutism)

- อธ�บายเก่��ยว่ก่�บสภาว่ะธรรมชาต� ด้�งน��1) มน&ษย�ในสภาว่ะธรรมชาต� ด้�งาม ม�น��าใจ ชอบช�ว่ยเหล�อก่�น2) ม�ส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ที่��สมบ�รณ� ม�คืว่ามเสมอภาคืระหว่�างมน&ษย� และจะไม�

ที่�าอะไรตามใจชอบ เพื่ราะ3.1) ม�ก่ฎีหร�อเหต&ผลธรรมชาต�สอนให�ร� �ว่�า ต�องไม�ร&ก่ล��าส�ที่ธ�

เสร�ภาพื่ของคืนอ��น = ส�ที่ธ�ข��นพื่��นฐาน

เสร�ภาพื่ = คืว่ามก่�าว่หน�า

Page 29: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

3.2) หาก่ม�ก่ารร&ก่ล��าส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ของคืนอ��น จะม�ก่ารเข�ามาป็ก่ป็Aอง ช�ว่ยเหล�อผ��บร�ส&ที่ธ�L ลงโที่ษผ��ละเม�ด้ = ส�ที่ธ�ธรรมชาต�ที่��จะลงโที่ษ

แลั.วท�าไมมนื้2ษย�ติ.องสลัะสภูาวะธรรมชั้าติ�มาอย"1ร1วมก�นื้?

เพื่ราะในสภาว่ะธรรมชาต� ไม�ม�ก่ฎีหมาย ไม�ม�ผ��พื่�พื่าก่ษาที่��จะต�ด้ส�นข�อพื่�พื่าที่ ไม�ม�อ�านาจบ�งคื�บที่&ก่คืนเป็ นใหญ่�เที่�าเที่�ยมก่�นหมด้ในก่ารต�ด้ส�นเร��องราว่เก่��ยว่ก่�บตนเอง ด้�งน��นอาจเก่�ด้ป็%ญ่หา ก่ล�าว่คื�อ

1) มน&ษย�ม�ก่เข�าข�างตนเอง พื่ว่ก่พื่�อง น�าไป็ส��คืว่ามไม�ย&ต�ธรรม2) ม�แนว่โน�มที่��จะลงโที่ษด้�ว่ยอารมณ� และชอบแก่�แคื�น

ด้�งน��น มน&ษย�จ-งต�องสละที่��งสภาว่ะธรรมชาต�ไป็ส��สภาว่ะส�งคืม เพื่��อช�ว่�ตที่��ด้�ก่ว่�า เพื่ราะก่ฎีหมาย ศาล และผ��บ�งคื�บให�เป็ นไป็ตามก่ฎีหมาย ที่�าให�เก่�ด้หล�ก่ป็ระก่�นส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ที่��แน�นอน จ-งเก่�ด้ร�ฐหร�อร�ฐบาล ซึ่-�งร�ฐที่��ด้�จะต�องป็ก่ป็Aองส�ที่ธ� เสร�ภาพื่ของป็ระชาชน

ก่ารเข�าส��สภาว่ธรรมชาต�เก่�ด้จาก่คืว่ามย�นยอม ที่�าให�มน&ษย�อย��ร �ว่มก่�นเป็ นส�งคืม ธ�ารงคืว่ามสงบส&ข ป็ลอด้ภ�ย สามารถึเสว่ยส&ขจาก่ที่ร�พื่ย�ส�น รอด้พื่�นจาก่ก่ารร&ก่รานของผ��อ��น

ข.อโจัมติ*ระบบอ�านื้าจัเด<ดขาด (Absolutism)

ระบบอ�านาจเด้8ด้ขาด้เป็ นระบอบที่��ไม�ชอบธรรม ไร�เหต&ผล ด้�งเหต&ผลต�อไป็น��1) เป็ นก่ารละที่��งสภาว่ะธรรมชาต�ที่��ด้�ไป็ส��สภาว่ะที่��เลว่ร�ายก่ว่�า2) ไม�ย&ต�ธรรม เพื่ราะอย��เหน�อก่ฎีหมาย ถึ�ออภ�ส�ที่ธ�L ย-ด้คืรองเสร�ภาพื่

ที่&ก่อย�างแห�งสภาว่ะธรรมชาต�ไว่�3) จาก่ป็ระว่�ต�ศาสตร� ระบอบน��ไม�อาจยก่ระด้�บธรรมชาต�ของมน&ษย�ให�ด้�

ข-�นได้�

ความค�ด: จั�าแนื้กอ�านื้าจัร�ฐหร�อส�งคืมม�อ�านาจ 2 อย�าง

1) น�ต�บ�ญ่ญ่�ต� ออก่ก่ฎีเก่ณฑ์�2) บร�หาร ก่�าหนด้ให�เป็ นไป็ตามก่ฎีหมาย

อ�านาจที่��งสองอย�างต�องไม�อย��ในคืนหร�องคื�ก่รเด้�ยว่ก่�น เพื่ราะบ&คืคืลหร�อองคื�ก่รใด้ก่8ตามที่��ม�อ�านาจที่��งสอง ม�แนว่โน�มที่��จะล&แก่�อ�านาจ

Page 30: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

อ�า นาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�อย�� เหน�ออ�า นาจบร�หาร แต�ม�ขอบเขตจ�า ก่�ด้โด้ยส�ที่ธ�ธรรมชาต� และจะไม�เป็ นอ�านาจเด้8ด้ขาด้ที่��อย��เหน�อช�ว่�ตที่ร�พื่ย�ส�นของราษฎีร อ�านาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ถึ�อเป็ นอ�านาจส�งส&ด้ เพื่ราะเป็ นอ�านาจจ�ด้ต��งส�งคืม ร�ก่ษาส�งคืมให�ธ�ารงไว่� และเป็ นอ�านาจต�ด้ส�นใจส�งส&ด้ แต�ต�องออก่ก่ฎีหมายภายในขอบเขต ร�ก่ษาส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ของราษฎีร ไม�ที่�าให�ราษฎีรตก่เป็ นที่าสหร�อเลว่ร�ายลง ส�ว่นอ�านาจบร�หารก่8ม�ก่ารใช�ด้&ลพื่�น�จในบางเร��อง

ป็ระชาชนม�ส�ที่ธ�ล&ก่ข-�นต�อต�านอ�านาจร�ฐ ถึ�าผ��ป็ก่คืรองใช�อ�านาจเก่�นขอบเขตผ�ด้ว่�ตถึ&ป็ระสงคื�ในก่ารอย��ร�ว่มก่�นเป็ นร�ฐ ป็ระชาชนสามารถึถึอด้ถึอนคืว่ามไว่�ว่างใจ และเร�ยก่อ�านาจแต�ด้��งเด้�มคื�นได้� แล�ว่จ-งมอบหมายให�ผ��ที่��เห8นสมคืว่ร

ป็ระชาชนสามารถึก่ระที่�าด้�งที่��ก่ล�าว่มาแล�ว่ได้� เพื่ราะเป็ นเจ�าของอ�านาจส�งส&ด้ เพื่�ยงแต�มอบอ�านาจให� หาก่ใช�อ�านาจผ�ด้เง��อนไข ป็ระชาชนก่8สามารถึใช�ก่�าล�งต�อต�านได้�

อ�ทธ�พิลัทางความค�ด - ส�ที่ธ�มน&ษยชนของฝ่ร��งเศส ก่รมมส�ที่ธ�ที่��ด้�น- คื�าป็ระก่าศอ�สรภาพื่ของอเมร�ก่า- ว่างราก่ฐานเสร�น�ยม โด้ยเฉพื่าะที่ฤษฎี�แบ�งแยก่อ�านาจ

และก่ารจ�าก่�ด้อ�านาจของผ��ป็ก่คืรอง โด้ยที่��ป็ระชาชนม�ส�ที่ธ�ต�อต�านอ�านาจร�ฐ

- คืรอบง�า คืว่ามคื�ด้ใน ศตว่รรษที่�� 19-20 ม&�งก่ารป็ก่คืรองที่�ม�เสร�ภาพื่

2. Charles-Louis de Secondat Montesquieu (1689-1755)- เก่�ด้ในตระก่�ลข&นนางเก่�าแห�ง Bordeaux

- จบก่ฎีหมาย เป็ นผ��พื่�พื่าก่ษา ชอบที่�องเที่��ยว่ เข�ยนหน�งส�อ“เจัตินื้ารมณ�แห1งกฎีหมาย” (The Spirit of the Laws) (1748)

ส�ว่นที่�� 1 ที่ฤษฎี�ว่�าด้�ว่ยร�ฐบาล และระบอบก่ารป็ก่คืรองร�ป็ที่�� 1 สาธารณร�ฐป็ระชาธ�ป็ไตยร�ป็ที่�� 2 สาธารณร�ฐอภ�ชนาธ�ป็ไตยร�ป็ที่�� 3 ระบอบก่ษ�ตร�ย�

ในระบอบสาธารณร�ฐป็ระชาธ�ป็ไตย ป็ระชาชนม� 2 บที่บาที่ ที่��ตรงก่�นข�างมก่�น แต�ส�งเสร�มก่�น

1) เป็ นผ��ป็ก่คืรองโด้ยใช�ส�ที่ธ�ก่ารเล�อก่ต��ง2) เป็ นผ��อย��ใต�ป็ก่คืรอง เคืารพื่และเช��อฟิ%งก่ฎีหมาย

Page 31: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เช��อว่�า ป็ระชาชนไม�สามารถึบร�หารงานด้�ว่ยตนเอง เพื่ราะป็ระชาชนม�จ�านว่นมาก่ ซึ่-�งจะที่�าให�ก่ารป็ก่คืรอง บร�หารช�าไป็หร�อเร8ว่ไป็

หลั�กการท*+จัะท�าให.เป:นื้ระบอบสาธารณร�ฐประชั้าธ�ปไติยMontesquieu เช��อเหม�อน Aristotle ตรงที่��ว่�า คื&ณธรรมที่างก่ารเม�อง คื�อ เส�ยสละ ไม�

เห8นแก่�ต�ว่ ลด้คืว่ามก่ระหายในส��งต�างๆ Montesquieu คื�ด้ว่�าระบอบสาธารณร�ฐป็ระชาธ�ป็ไตย คื&ณธรรมจะหมด้ไป็ไม�ได้�ด้�ว่ยเหต&ผลด้�านก่ารศ-ก่ษาม�คืว่ามส�าคื�ญ่ส�าหร�บก่ารป็ล�ก่ฝ่%งคืว่ามร� �ส-ก่ของเด้8ก่ๆ ในเร��องก่ารเส�ยสละ ร�ก่ในก่ฎีหมาย ร�ก่บ�านเก่�ด้เม�องนอน

สาธารณร�ฐอภู�ชั้นื้าธ�ปไติยอ�านาจส�งส&ด้อย��ที่��บ&คืคืลจ�านว่นเล8ก่ๆ ที่��ม�คื&ณภาพื่ ม�ชาต�ก่�าเน�ด้ ได้�ร�บก่ารตระ

เตร�ยมด้�านก่ารศ-ก่ษา ก่ารที่��จะที่�าให�ระบอบน��อย��ได้�น��น ไม�ใช�ก่ารเส�ยสละ แต�เป็ นคืว่ามร� �จ�ก่พื่อด้�ในหม��ผ��ป็ก่คืรอง ไม�ม&�งผลป็ระโยชน�ส�ว่นตน ก่ด้ข��ป็ระชาชน คืว่ามพื่อด้�ลด้คืว่ามต-งเคืร�ยด้ของระบบน��เก่��ยว่ก่�บคืว่ามแตก่ต�างด้�านชนช��น

ระบอบกษ�ติร�ย�ป็ก่คืรองโด้ยคืนเพื่�ยงคืนเด้�ยว่ ป็ก่คืรองด้�ว่ยก่ฎีหมาย คืว่ามแน�นอนของ

ก่ฎีหมายจะข�ด้ขว่างเจตจ�านงของก่ษ�ตร�ย� ระบอบก่ษ�ตร�ย�น��จะเก่�ด้ก่ารถึ�ว่งด้&ลโด้ยองคื�ก่รต�างๆ ได้�แก่� ข&นนาง พื่ระ ส�ที่ธ�หร�ออภ�ส�ที่ธ�Lของเม�องต�างๆ (ก่ารก่ระจายอ�านาจ) คืณะผ��พื่�พื่าก่ษา ระบอบก่ษ�ตร�ย�จะไม�เป็ นที่รราช เพื่ราะระบบที่��ข�ด้แย�ง ถึ�ว่งด้&ลของสถึาบ�นต�างๆ ที่�าให�ระบอบย�งคืงอย�� หล�ก่ก่ารหร�อเง��อนไขของก่ารป็ก่คืรอง ไม�ใช�คื&ณธรรม แต�อย��บนพื่��นฐานของคืว่ามแตก่ต�าง ยศบรรด้าศ�ก่ด้�L อภ�ส�ที่ธ� ช��น ว่รรณะ สถึานภาพื่ คืว่ามแตก่ต�างเหล�าน�� ยาก่ที่��จะที่�าให�ชนช��นต�างๆ ได้�เป็ร�ยบ และเส�ยสละ เก่�ยรต�ยศของก่ษ�ตร�ย�ก่�บคืว่ามหย��งในเก่�ยรต�ยศของชนช��นส�ง จะที่�าให�บ&คืคืลเหล�าน��ป็ฏ�บ�ต� ที่�าเพื่��อร�ฐ เพื่��อเส�ยงแซึ่�ซึ่�อง สรรเสร�ญ่

ระบอบทรราชั้ย�เป็ นระบอบที่��เหย�ยด้หยามธรรมชาต�ของมน&ษย� อ�านาจอย��ที่��คืนเพื่�ยงคืนเด้�ยว่

หร�อไม�ก่��คืน ที่�าเพื่��อตนเองและก่ด้ข��คืนส�ว่ยใหญ่� หล�ก่ก่ารของระบอบน�� คื�อ ก่ารสร�างคืว่ามก่ล�ว่ ที่�าให�เช��อฟิ%งอย�างไม�ม�เง��อนไข

ทฤษฎี*ว1าด.วยเสร*ภูาพิของการเม�อง

Page 32: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คืนที่��ว่ไป็เข�าใจว่�า เสร�ภาพื่ คื�อ ที่�าอะไรก่8ได้�ตามใจชอบ แต�ถึ�าเราที่�าตามใจชอบ คืนอ��นก่8สามารถึที่�าได้�เช�นก่�น ก่8จะไม�ม�เสร�ภาพื่เช�นก่�น ด้�งน��น จ-งม�ก่ารอธ�บายเสร�ภาพื่ที่างก่ารเม�องที่�แที่�จร�ง ด้�งน��

1) เสร*ภูาพิ คื�อ ส�ที่ธ�ที่��จะที่�าในส��งที่��ต�องก่ารและไม�ถึ�ก่บ�งคื�บให�ที่�าในส��งที่��ไม�ต�องก่าร โด้ยส��งที่��ก่�าหนด้เสร�ภาพื่ คื�อ ก่ฎีหมาย เสร�ภาพื่จ-งเป็ นอ�านาจของก่ฎีหมาย เสร�ภาพื่ คื�อ ส�ที่ธ�อ�านาจอ�นชอบธรรมที่��ก่ฎีหมายอน&ญ่าต

2) เสร*ภูาพิ คื�อ คืว่ามสงบที่างจ�ตใจของป็ระชาชนคืนหน-�งที่��จะไม�เก่รงก่ล�ว่ป็ระชาชนอ�ก่คืนหน-�ง ก่ล�าว่คื�อ ม�หล�ก่ป็ระก่�นในคืว่ามป็ลอด้ภ�ยในช�ว่�ต ร�างก่าย ที่ร�พื่ย�ส�น คืว่ามม��นคืง

นอก่จาก่น��ในส�ว่นที่��เก่��ยว่ก่�บที่ฤษฎี�น�� ย�งม�ก่ารพื่�ด้ถึ-ง การถ1วงด2ลัอ�านื้าจั ด้�งน��เสร�ภาพื่ของป็ระชาชนจะไม�สามารถึม�ได้� หาก่ผ��ป็ก่คืรองล&แก่�อ�านาจ

มน&ษย�ที่&ก่คืนที่��ม�อ�านาจ ม�ก่ล&แก่�อ�านาจ ใช�ไม�ไม�หย&ด้ย��งจนก่ว่�าจะพื่บขอบเขตจ�าก่�ด้ แต�ก่8ไม�ร� �ว่�าขอบเขตอย��ไหน

ก่ารล&แก่�อ�านาจจะหย&ด้ย��งได้� โด้ยจ�ด้ให�อ�านาจย�บย��งอ�านาจ คื�อ ไม�ให�อ�านาจรว่มอย��ในองคื�ก่รเด้�ยว่ก่�น ม�เช�นน��นที่&ก่ส��งอย�างจะส�ญ่เส�ย หาก่ผ��ป็ก่คืรองเป็ นผ��ใช�อ�านาจที่��ง 3 ที่าง

อ�ทธ�พิลัทางความค�ด คื�อ ป็ฏ�ญ่ญ่าสาก่ลว่�าด้�ว่ยส�ที่ธ�มน&ษยชน ร�ฐสภา ป็ระธานาธ�บด้� ระบบต&ลาก่าร

3. Jean Jacques Rousseau (1712-1778)- ต�นตระก่�ลเป็ นชาว่ฝ่ร��งเศส เขาเก่�ด้ที่�� Geneva ที่ว่ด้ของเขาที่��งมรด้ก่ให�ไว่�เป็ น

จ�านว่นมาก่ แต�พื่อของเขาก่8ผลาญ่จนหมด้ส��น ก่ลายเป็ นชนช��นก่ฎุKมพื่�ที่��ตก่ก่ระป็Mอง ก่�าพื่ร�าแม� ป็Aาก่�บน�าด้�แลเขา เยาว่�ว่�ยตก่ระก่�าล�าบาก่ เคืยที่�างานเป็ นช�างแก่ะสล�ก่ แล�ว่ต�องตก่ต��า ไป็เป็ นคืนร�บใช� ขโมยของเขาก่�น แต�อย�างไรก่8ตามเขาก่8สนใจศ-ก่ษาคื�นคืว่ามหาคืว่ามร� �ด้�ว่ยตนเอง

- ชนะก่ารป็ระก่ว่ด้เร�ยงในห�ว่ข�องาน คืว่ามก่�าว่หน�าของศ�ลป็ะและศาสตร�“

ต�างๆ ที่�าให�ช�ว่�ตมน&ษย�ด้�ข-�น แต� ” Rousseau ก่�บสว่นก่ระแสโด้ยเข�ยนเร�ยงคืว่าม ม�สาระที่�านองว่�า อารยธรรมที่�าให�มน&ษย�เส��อมที่รามลง มน&ษย�ที่��ด้�“ คื�อ มน&ษย�ที่��อย��ใก่ล�เคื�ยงก่�บธรรมชาต� ”

“ติ.นื้ก�า เนื้�ดแห1งความไม1เสมอภูาคของมนื้2ษย� ” (Origin of Inequality) จ�าแนก่ไว่� 2

ป็ระเภที่1) ตามธรรมชาต� - สมอง ร�างก่าย = ช�ว่ว่�ที่ยา

Page 33: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2) ที่��ไม�เป็ นตามธรรมชาต� ได้�แก่� คืว่ามแตก่ต�างที่��เก่�ด้จาก่สภาว่ะที่างส�งคืม เช�น ชาว่นาญ่��ป็&Eนรว่ย ชาว่นาไที่ยจน

ค�าอธ�บาย มน&ษย�ในสภาว่ะธรรมชาต� สต�ป็%ญ่ญ่าย�งไม�พื่�ฒนา จ�ตใจด้�และม�ศ�ลธรรม อ�อนไหว่ต�อคืว่ามที่&ก่ข�ที่รมานของคืนอ��น เพื่ราะว่�ามน&ษย�ย�งอย��ในฐานะต�างคืนต�างอย�� โอก่าสที่��จะเก่�ด้คืว่ามอยาก่ คืว่ามโลภ ก่ารต�อส��ย�งไม�ม� แต�เม��ออย��รว่มก่�นเป็ นส�งคืม น�ส�ยมน&ษย�คื�อยๆ เป็ล��ยนไป็ในที่างเลว่ลง เช�น มน&ษย�อย��ก่�นเป็ นคืรอบคืร�ว่ พื่�อ-แม�-ล�ก่ ม�คืว่ามคื�ด้ในก่ารสะสม แก่�งแย�ง ต�อส��ระหว่�างก่�นในคืรอบคืร�ว่ มน&ษย�ที่��ม�ป็%ญ่ญ่า ม�คืว่ามฉลาด้ ก่8เร��มต�นเอาไม�มาป็%ก่ล�อมร��ว่ แล�ว่ก่ล�าว่ว่�า น��คื�อที่��ของฉ�น เพื่��อให�ที่ร�พื่ย�สมบ�ต� ที่��ด้�นม�หล�ก่ป็ระก่�น แล�ว่ก่8สถึาป็นาส�งคืมหร�อร�ฐข-�นมาคื&�มคืรองที่ร�พื่ย�ส�นของตน โด้ยหลอก่ลว่งผ��อ�� นว่�า ภายใต�ก่ฎีหมายและร�ฐจะเก่�ด้หล�ก่ป็ระก่�นในส�งคืม น��คื�อ แหล�งที่��มาของส�งคืมและก่ฎีหมาย

เพิราะฉะนื้�นื้ Rousseau มองส�งคืมก่�บร�ฐในที่างที่��ไม�ด้�“มน&ษย�เก่�ด้มาอย�างอ�สระหร�อเสร� แต�ที่&ก่หนที่&ก่แห�งต�องอย��ใต�

พื่�นธนาก่าร”“ก่ฎีหมายก่�บร�ฐสร�างเคืร��องพื่�นธนาก่ารแก่�ผ��อ�อนแอ แต�เสร�ม

สร�างพื่ล�งแก่�ผ��ม�อ�านาจ”

ป็ร�ชญ่าของ Rousseau ที่��งเช�� อส�งคืมน�ยม เป็ นพื่�� นฐานหร�อราก่เหง�าล�ที่ธ�ที่��ต�องก่ารให�ที่ร�พื่ย�ส�นเป็ นของส�ว่นรว่ม ล�มล�างที่ร�พื่ย�ส�นส�ว่นบ&คืคืล ป็%จจ�ยก่ารผล�ต ที่�าลายคืว่ามแตก่ต�างที่างชนช��น

“ส�ญญาประชั้าคม” (The Social Contract) (1762)

ส�ว่นที่�� 1: คืว่ามชอบธรรมแห�งอ�านาจ “คืนที่��แข8งแรงที่��ส&ด้ ก่8ไม�อาจแข8งแรงพื่อเป็ นนายได้�คืลอด้ไป็ ถึ�าไม�เป็ล��ยนก่�าล�งมา

เป็ นส�ที่ธ� ก่ารเช��อฟิ%งเป็ นหน�าที่��”แต�เป็ นเพื่ราะป็ระชาชนเช��อว่�า ผ��ป็ก่คืรองม�ส�ที่ธ�ที่��จะป็ก่คืรอง และป็ก่คืรองได้�

เพื่ราะป็ระชาชนเช��อฟิ%งอ�านาจ ม�คืว่ามร� �ส-ก่ว่�าม�หน�าที่��ที่��จะที่�าตาม เช�น เล�อก่ต��ง

Page 34: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Rousseau อธ�บายว่�าพื่�นธะส�งคืมไม�ได้�อย��บนพื่��นฐานของคื�าส��ง หร�อส�ที่ธ�ของผ��แข8งแรงส&ด้ เพื่ราะพื่�นธะจะสลายไป็พื่ร�อมก่�บก่�าล�ง ถึ�าต�องเช��อฟิ%ง เราก่8ไม�ต�องเช��อฟิ%งโด้ยหน�าที่��

ส�ว่นที่�� 2: ที่��มาของคืว่ามชอบธรรมแห�งอ�านาจ คืว่ามชอบธรรมแห�งอ�านาจไม�ได้�เก่�ด้จาก่พื่�อแม� แต�มาจาก่ส�ญ่ญ่าป็ระชาคืม

ซึ่-�งเก่�ด้จาก่เจตจ�านงอ�สระของบ&คืคืลที่��รว่มต�ว่ก่�นเข�าเป็ นส�งคืม ที่�าส�ญ่ญ่าเบ8ด้เสร8จ แต�ละคืนมอบส�ที่ธ�ตามธรรมชาต�แก่�ส�งคืมเหม�อนก่�นหมด้ ที่�าให�เก่�ด้องคื�อธ�ป็%ตย�หร�อมว่ลชน องคื�อธ�ป็%ตย�จะป็ฏ�บ�ต�ในนามของที่&ก่คืน ส��งที่��ก่ระที่�าไป็ถึ�อเป็ นเจตจ�านงของป็ระชาชน

เจตจ�านงที่��ว่ไป็แสด้งออก่โด้ยเส�ยงข�างมาก่ แต�ที่ฤษฎี�ของ Rousseau ก่8เป็ นเสม�อนด้าบ 2 คืม ก่ล�าว่คื�อ ป็ระชาธ�ป็ไตยที่างตรงอาจน�าไป็ส��เผด้8จก่ารเส�ยงข�างมาก่ และเส�ยงข�างมาก่ที่��ถึ�อว่�าเป็ นเจตจ�านงที่��ว่ไป็ ที่�าให�เส�ยงข�างน�อยเป็ นคืว่ามคื�ด้ที่��ผ�ด้

แม� Rousseau จะถึ�อเส�ยงข�างมาก่ แต�เขาก่8ไม�ต�องก่ารก่�ด้ก่�นคืนออก่เส�ยง เพื่ราะส�ที่ธ�ออก่เส�ยง = ส�ที่ธ�โด้ยที่��ว่ไป็

- ค2ณลั�กษณะของอ�านื้าจัอธ�ปไติย คื�อ เจตจ�านงที่��ว่ไป็ เก่�ด้จาก่ส�ญ่ญ่าป็ระชาคืม

1) ไม�อาจโอนหร�อมอบหมายให�แก่�ก่�นได้�2) อ�านาจอธ�ป็ไตยไม�อาจแบ�งแยก่ได้�3) ผ�ด้พื่ลาด้ไม�ได้� เจตจ�า นงที่��ว่ไป็ต�องถึ�ก่ต�องเสมอ โน�มไป็ที่าง

ป็ระโยชน�สาธารณะ4) เป็ นอ�านาจเด้8ด้ขาด้

- ความค�ดทางส�งคมRousseau ต�องก่ารสร�างคืว่ามย&ต�ธรรมในส�งคืม ลด้ช�องว่�าง คืนรว่ย-

คืนจน ต�องก่ารให�ร�ฐม��นคืง ม�เสถึ�ยรภาพื่ ป็ร�บฐานะคืนรว่ย-คืนจน ให�ใก่ล�เคื�ยงก่�นมาก่ที่��ส&ด้ คืนรว่ยก่�บคืนจนย��งแตก่ต�างก่�นมาก่เที่�าไร ส�งคืมก่8จะม�แต�คืว่ามที่&ก่ข�ที่รมาน

เศรษฐ� เป็ นที่��มาของ ก่�เลศ ต�ณหา ก่ด้ข��ยาจก่ เป็ นที่��มาของ ป็%ญ่หา ภาระต�างๆ ไม�จบส��น

ส�งคืมที่��แตก่ต�างก่�นมาก่เช�นน�� จะเก่�ด้คืว่ามหายนะต�อผลป็ระโยชน�ส�ว่นรว่ม ก่ลายเป็ นที่รราชย� เศรษฐ�ก่ล�ว่ยาจก่ต�องก่ด้ข�� เพื่��อร�ก่ษาฐานะ เพื่ราะยาจก่อาจล&ก่ฮื�อ ลบล�างที่ร�พื่ย�ส�นของเศรษฐ� ระหว่�างที่��งสองชนช��นจะม�ก่ารขายเสร�ภาพื่สาธารณะ

Page 35: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เพื่ราะฉะน��นต�องม�แนว่ที่างสายก่ลาง ว่างราก่ฐานคืว่ามเที่�าเที่�ยมก่�นที่างส�งคืม สร�างก่ฎีหมายที่��ย&ต�ธรรม

แนื้วความค�ดในื้ภูาคปฏิ�บ�ติ�1) ต�องสร�างส�งคืมที่��ที่&ก่คืนม�ช�ว่�ตอย��ได้� ไม�ม�ใคืรแสว่งหาคืว่ามม��งคื��งได้�เพื่�ยงผ��

เด้�ยว่ และม�ก่ารจ�าก่�ด้ขอบเขตที่ร�พื่ย�ส�นส�ว่นรว่ม เป็ นก่ารว่างราก่ฐานเร��องส�ที่ธ�ในที่ร�พื่ย�ส�นเป็ นส��งที่��จ�าก่�ด้ ไม�ได้�ต�ด้มาก่�บต�ว่ ซึ่-�งในป็%จจ&บ�นส�ที่ธ�ในที่ร�พื่ย�ส�นเป็ นธรรมชาต� ร�ฐจ�าก่�ด้ได้�เพื่��อป็ระโยชน�ส�ว่นรว่ม

2) ก่�อนก่ารป็ฏ�ร�ป็ระบอบก่ารป็ก่คืรอง ต�องป็ฏ�ร�ป็จ�ตใจคืนก่�อนจะต�องสร�างสาธารณะ (ส�งคืมหร�อร�ฐเป็ นส�ว่นก่ลาง) เข�าไป็ในจ�ตใจ ก่�อนที่��จะป็ลด้ป็ล�อยที่าส ต�องสร�างภาพื่ให�คื��คืว่รแก่�เสร�ภาพื่เส�ยก่�อน

คืว่ามพื่อด้�ของอ�านาจเง�น Rousseau เห8นว่�าเง�นเป็ นก่ลไก่ที่��ไร�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่ที่��ส&ด้ที่��จะที่�าให�ก่ารเม�องบรรล&เป็Aาหมาย แต�เง�นเป็ นก่ลไก่ที่��แข8งแก่ร�งที่��ส&ด้ แน�นอน ที่�าให�ก่ระบว่นก่ารที่างก่ารเม�องห�นเหไป็จาก่เป็Aาหมาย เง�นที่�าลายจ�ตใจและคืว่ามร� �ส-ก่น-ก่คื�ด้ของคืน เง�นเป็ นจ&ด้อ�อนของป็ระชาธ�ป็ไตย

Page 36: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

บทท*+ 4อ2ดมการณ�แลัะระบอบการเม�อง

อ2ดมการณ�เสร*นื้�ยมคลัาสส�ค (Classical Liberalism)

o Rational Manมองว่�า มน&ษย�ม�เหต&ม�ผลในก่ารแก่�ป็%ญ่หา ซึ่-�งจะน�าไป็ส��คืว่ามเจร�ญ่ได้�

o Individualismป็%จเจก่ชนน�ยม เน�นต�ว่บ&คืคืล ไม�ก่�าว่ก่�ายเร��องคืนอ��น ม�คืว่ามเป็ นต�ว่ของต�ว่เองส�ง หาก่คืนอ��นเด้�อนร�อนจะป็ล�อยให�เขาช�ว่ยต�ว่เองก่�อน หร�อรอจนก่ว่�าเขาจะได้�ร�บคืว่ามที่&ก่ข�แล�ว่จ-งจะช�ว่ย

o Rights to life, liberty, propertyส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ในช�ว่�ต ที่ร�พื่ย�ส�น ร�างก่าย

o Negative freedom / Tolerationเสร�ภาพื่ในเช�งลบ (Negative Freedom) หมายถึ-งสภาว่ะที่��ต�ว่เราป็ลอด้จาก่ก่ารคื&ก่คืามใด้ๆ จาก่ภายนอก่หร�อผ��อ��น ก่ล�าว่อย�างอ�ก่น�ยหน-�ง ก่8คื�อ ก่ารที่��ไม�ม�ใคืรมาย&�งหร�อบงก่ารเราได้� ส�ว่นข�นต�ธรรม (Toleration) คื�อ คืว่ามใจก่ว่�างอด้ที่นต�อคืว่ามคื�ด้เห8นของผ��อ��น ซึ่-�งแตก่ต�างไป็จาก่ของตน

o Equalityคืว่ามเสมอภาคื เก่�ด้มาเที่�าเที่�ยมก่�น ที่��งส�ที่ธ�และโอก่าส

o Government by consent / Contractual theory of the stateระบบก่ารป็ก่คืรองโด้ยคืว่ามย�นยอม (ฉ�นที่าน&ม�ต�) = ก่ารเล�อก่ต��ง / ม�พื่��นฐานจาก่ที่ฤษฎี�ส�ญ่ญ่าป็ระชาคืม (Leviathan) ของ Locke เก่��ยว่ก่�บร�ฐ

o Limited Government : the best government is the least government

Page 37: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ระบอบก่ารป็ก่คืรองที่��ม�อ�านาจจ�าก่�ด้: ร�ฐบาลที่��ด้�ที่��ส&ด้ คื�อ ร�ฐบาลที่��ป็ก่คืรองน�อยที่��ส&ด้

หนื้.าท*+ของร�ฐในื้แนื้วค�ดเสร*นื้�ยมคลัาสส�ค- ป็Aองก่�นป็ระเที่ศ- ให�คืว่ามย&ต�ธรรมแก่�สมาช�ก่ เม��อเก่�ด้คืว่ามข�ด้แย�ง- จ�ด้ก่�จก่ารสาธารณะบางอย�าง- ไม�เข�าแที่รก่แซึ่งในก่�จก่ารที่างเศรษฐก่�จ

อ2ดมการณ�เสร*นื้�ยมสม�ยใหม1 (Modern Liberalism)

o Rational Man / Individualism / Rights to life, liberty, property / Equality

มน&ษย�ม�เหต&ม�ผล / ป็%จเจก่ชนน�ยม / ส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ในช�ว่�ต ที่ร�พื่ย�ส�น ร�างก่าย / คืว่ามเสมอภาคื

o Government by consentระบบก่ารป็ก่คืรองโด้ยคืว่ามย�นยอม (ฉ�นที่าน&ม�ต�) = ก่ารเล�อก่ต��ง

o Positive Freedomเสร�ภาพื่ในเช�งบว่ก่ (Positive Freedom) หมายถึ-ง สภาว่ะที่��ป็%จเจก่บ&คืคืลคืว่รจะที่�าอะไรหร�อเร�ยก่ร�องอะไรได้�บ�างจาก่ส�งคืมหร�อโลก่ที่��แว่ด้ล�อมตนอย��

o Positive / Active Stateร�ฐข�ามาแที่รก่แซึ่งบางเร��องที่��ม�คืว่ามจ�าเป็ นในก่ารเข�าแที่รก่แซึ่งที่างเศรษฐก่�จ ม�บที่บาที่มาก่ข-�น เพื่��อให�เก่�ด้คืว่ามสมด้&ลในส�งคืม และแก่�ป็%ญ่หาคืว่ามแตก่ต�างที่างชนช��น

o Common Good / Public welfareจ�ด้ให�ม�ส�นคื�าบร�ก่ารสาธารณะ เช�น น��าด้��มฟิร�ตามที่�องถึนน และสว่�สด้�ก่ารส�งคืม เช�น ป็ระก่�นส&ขภาพื่

น�ก่คื�ด้ที่��ส�าคื�ญ่ที่�านหน-�ง คื�อ Adam Smith ได้�ว่างราก่ฐานระบบ เศรษฐก่�จที่&นน�ยมเสร�“ ”

Capitalism / Market Economic

Individualismป็%จเจก่ชนน�ยม บ&คืคืลแต�ละคืนสามารถึที่�าได้�ตามแต�คืว่ามสามารถึของแต�ละคืนที่��ม�

Private Ownership

Page 38: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่รรมส�ที่ธ�Lส�ว่นบ&คืคืล และคืว่ามสามารถึที่��จะป็ก่ป็Aองที่ร�พื่ย�ส�นของตน เสร�ภาพื่ในก่ารป็ระก่อบก่าร ก่ารแข�งข�นเสร� ก่ลไก่ตลาด้ ก่ลไก่ราคืา ก่�าไรเป็ นส��งจ�งใจ ร�ฐม�บที่บาที่จ�าก่�ด้ไม�เข�าแที่รก่แซึ่ง

อ2ดมการณ�อนื้2ร�กษ�นื้�ยม (Conservatism)

o Human limitation / Imperfect / Irrational / Ignorant / Violent / Victim of passion

มน&ษย�ม�ข�อจ�าก่�ด้ / ไม�สมบ�รณ� / ไม�ม�เหต&ผล / เพื่�ก่เฉย / ร&นแรง / เป็ นเหย��อของคืว่ามร� �ส-ก่และอารมณ�ต�างๆ

o Evolutionary view of social progress / Wisdom of the pastชอบให�ส�งคืมคื�อยๆ เป็ล��ยนแป็ลง / คืว่ามร� �ส� �งสมจาก่อด้�ต

o Hierarchy / Order community / Common values / Law / Tradition

ที่��ต��าที่��ส�ง แบ�งชนช��นว่รรณะ / ส�งคืมที่��ม�ล�า ด้�บช��น / ย-ด้ต�ด้ก่�บคื�าน�ยม / ก่ฎีหมาย / ป็ระเพื่ณ� (เน�นคื&ณคื�าของคืรอบคืร�ว่ ศาสนา ช&มชน)

น�ก่คื�ด้ที่��ส�าคื�ญ่ คื�อ Edmund Burk (1729-1797)

- เก่�ด้ที่�� Dublin ป็ระเที่ศ Ireland

- เป็ นสมาช�ก่ฝ่Eาย Whig (ฝ่Eายร�ฐสภา) ม&�งเพื่��อเสร�ภาพื่ที่างก่ารเม�อง- ต�อต�านคืว่ามคื�ด้ของ Rousseau ที่��ที่�าให�เก่�ด้ก่ารป็ฏ�ว่�ต�ฝ่ร��งเศส- เข�ยนหน�งส�อ “Reflections on the Revolution in France” (1790) สะที่�อนถึ-งผลก่ระ

ที่บของก่ารป็ฏ�ว่�ต�ที่��อาจม�ต�อป็ระเที่ศต�างๆ ซึ่-�งเขาต�องก่ารป็ก่ป็Aองป็ระเที่ศอ�งก่ฤษ ไม�ให�เป็ นแบบป็ระเที่ศฝ่ร��งเศส ที่��ม�ก่ารล�มล�างสถึาบ�นก่ษ�ตร�ย�

- ต�อต�านเสร�น�ยม / คืว่ามคื�ด้เช�งป็ฏ�ว่�ต�- โจมต�แนว่คืว่ามคื�ด้เก่��ยว่ก่�บธรรมชาต�ชองมน&ษย� (ของอ&ด้มก่ารณ�

เสร�น�ยม)

ธรรมชั้าติ� คื�อ พื่�ฒนาก่ารของป็ระว่�ต�ศาสตร� ซึ่-�งก่8คื�อ ส��งที่��ส�งคืมส��งสม ตก่ที่อด้มา ส��งต�างๆ จะป็ร�บต�ว่ของม�นเอง ไม�ต�องแที่รก่แซึ่ง ไม�ต�องย&�งก่�บม�น แล�ว่จะด้�เอง เช�น ระบอบก่ษ�ตร�ย�ของป็ระเที่ศอ�งก่ฤษ จาก่ก่ล&�มข&นนางก่8ก่ลายเป็ น สภาข&นนาง ส�ว่นป็ระชาชนก่8เข�ามาม�ส�ว่นร�ว่มก่ลายเป็ น สภาผ��แที่น แสด้งถึ-งล�ก่ษณะที่��คื�อยๆ เป็ล��ยนแป็ลง

Page 39: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

- ยก่ย�องเที่�ด้ที่�นคืว่ามเคืยช�นเก่�าๆ ได้�แก่� ชนช��น (ป็ฏ�บ�ต�ตามหน�าที่��) มรด้ก่ตก่ที่อด้ อคืต�

ค2ณค1าของอคติ� - ธรรมชาต� ได้�แก่� ชาต�ก่�าเน�ด้ และชนช��น- คืว่ามภ�ม�ใจในชนช��น และชาต� ที่�าให�เก่�ด้คืว่ามพื่ยายาม

ของแต�ละบ&คืคืล ที่��จะป็ก่ป็Aองก่รรมส�ที่ธ�L ที่ร�พื่ย�ส�น เก่�ยรต�ยศ ช��อเส�ยง ที่��ได้�มาของว่งศ�ตระก่�ลและต�ว่เอง

ไม�ม�อะไรเป็ นธรรมชาต�ไป็มาก่ก่ว่�า ส�ญ่ชาตญ่าณ ที่�าให�เก่�ด้ก่ารต�อต�านคืว่ามไม�ย&ต�ธรรม ส�งผลให�ม&�งร�ก่ษาเสร�ภาพื่ของส�งคืม

- โจมต�เร��องคืว่ามเสมอภาคืคืว่ามเสมอภาคืไม�ม�อย��จร�ง สมมต�ก่�นเอง ส�งคืมต�องป็ระก่อบด้�ว่ยชนช��น หล�ก่เล��ยงไม�ได้� ต�องม�ชนช��นหน-� งเหน�ออ�ก่ชนช��นหน-� ง ธรรมชาต�เป็ นเพื่�ยงส��งเด้�ยว่ที่��ได้�บอก่ว่�าอะไรอย��ต��า อะไรอย��ส�ง

- โจมต�เร��องเจตจ�านงเสร�เส�ยงข�างมาก่ไม�จ�า เป็ นต�องถึ�ก่เสมอไป็ เจตจ�านงไม�จ�า เป็ นต�องสอด้คืล�องก่�บผลป็ระโยชน�ของคืนส�ว่นใหญ่� โจมต�เร��องก่ฎีของจ�านว่น (Law of Number) ว่�าไม�ถึ�ก่ต�อง เพื่ราะว่�าร�ฐธรรมน�ญ่ไม�ได้�เป็ นป็%ญ่หาที่างคืณ�ตศาสตร�

- โจมต�คืว่ามคื�ด้ที่�าลายล�างแล�ว่สร�างใหม� ถึ�อว่�าเป็ นก่ารเย�ยหย�นธรรมชาต�ที่��น�าอด้ส�

- ยก่ย�อง ร�ฐบ&ร&ษ ซึ่-�งม�ล�ก่ษณะด้�งน��“ ”

1) ม�แนว่โน�มร�ก่ษาส��งต�างๆ ไว่�2) ม�พื่รสว่รรคื�ที่��จะป็ร�บป็ร&งส��งต�างๆ ให�ด้�ข-�น

- โจมต�หล�ก่เหต&ผลที่��ว่ไป็ ถึ�อว่�าระบบใด้อ�งเหต&ผล บ&คืคืลจะไร�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่ ในภาว่ะว่�ก่ฤต� ต�องป็ล&ก่อคืต� และคืว่ามเป็ นชาต�

อ2ดมการณ�ส�งคมนื้�ยมแลัะการปฏิ�ว�ติ�ส�งคม (Socialism)

น�ก่คื�ด้ที่��ส�าคื�ญ่ส�งคืมน�ยมก่�อน Marx (เป็ นส�งคืมน�ยมป็ฏ�ร�ป็ ไม�ต�องก่ารป็ฏ�ว่�ต� แก่�ป็%ญ่หาเป็ น

ป็ระเด้8นไป็)- Babeuf (1760-1797)- ส�งคืมน�ยมอ�งก่ฤษ Robert Owen (1771-1858)

- ส�งคืมน�ยมฝ่ร��งเศส ถึ�อว่�าก่ารป็ฏ�ร�ป็เศรษฐก่�จต�องมาก่�อนส��งอ��นๆ

Saint Simon Charles Fourier (1773-1817)

Page 40: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Pierre Joseph Proudhon (1809-1865)

ไม�แยก่ก่ารป็ฏ�ร�ป็เศรษฐก่�จ ส�งคืม ออก่จาก่ป็ระชาธ�ป็ไตยก่ารเม�อง

Louis Blounc

ส�งคืมน�ยมเศรษฐก่�จ ส�งคืมและก่ารเม�อง- Karl Marx (1818-1883) / Friedrich Engels (1820-1895)- Vladimir Ilyich Lenin (1870-1924) (Leninism) Joseph Stalin (1879-

1953) (Stalinism)

- Mao Zedong (Mao Tse-Tung) (1893-1976) (Maoism)

ภายหล�งก่ารป็ฏ�ว่�ต�ฝ่ร��งเศส (French Revolution) คื.ศ.1789 ฝ่Eายเสร�น�ยมเห8นว่�าเป็ นก่ารส��นส&ด้ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงแล�ว่ แต�ผลของอ&ด้มก่ารณ�เสร�น�ยมที่��อาศ�ยที่&นน�ยมเป็ นก่ารจ�ด้ระเบ�ยบที่างเศรษฐก่�จ และใช�ป็ระชาธ�ป็ไตยในก่ารป็ก่คืรอง ที่�าให�เก่�ด้คืว่ามไม�เที่�าเที่�ยมก่�น (นายที่&น-ก่รรมก่ร) เก่�ด้ขบว่นก่ารส�งคืมน�ยมก่ล&�มต�างๆ ในย&โรป็ เก่�ด้ก่ารป็ฏ�ว่�ต�เพื่��มเต�ม

Bebeuf ได้�ก่ล�าว่ว่�า ย&ต�ได้�แล�ว่ที่��คืนไม�ถึ-ง “ 1 ล�านคืน ถึ�อก่รรมส�ที่ธ�Lของคืนก่ว่�า 20

ล�านคืน คืว่ามแตก่ต�างระหว่�างมน&ษย�ขอให�ม�เพื่�ยงอาย&และเพื่ศ ส��งที่��มน&ษย�ต�องก่าร คื�อ สมรรถึภาพื่ ม�ก่ารศ-ก่ษาอย�างเด้�ยว่ก่�น อาหาร มน&ษย�พื่อใจก่�บด้ว่งอาที่�ตย�ด้ว่งหน-�งที่��ให�แสงสว่�างแก่�ที่&ก่คืน พื่อใจก่�บอาก่าศที่��ที่&ก่คืนสามารถึหายใจได้� แต�ที่�าไมจ�านว่นอาหารอย�างเด้�ยว่ก่�นจ-งไม�พื่อส�าหร�บมน&ษย�ที่&ก่คืน”

Robert Owen นายที่&นผ��ใจบ&ญ่- ไม�ได้�เสนอให�ยก่เล�ก่ก่รรมส�ที่ธ�Lในที่ร�พื่ย�ส�น แต�เสนอให�ต� �งสหก่รณ� เพื่��อส�ง

เสร�มป็%จจ�ยก่ารผล�ตร�ว่มก่�น- เห8นว่�าคืว่รยก่เล�ก่ก่ารแข�งข�น เอาร�ด้เอาเป็ร�ยบ คืว่รจะห�นมาร�ว่มม�อก่�น

อย�างเต8มต�ว่- โจมต�คืว่ามไม�เที่�าเที่�ยมก่�นเก่��ยว่ก่�บรายได้�และที่ร�พื่ย�ส�น- มองเห8นคืว่ามที่&ก่ข�ยาก่ของคืนงาน จ-งต�องก่ารเป็ล��ยนแป็ลงคืว่ามเป็ นอย��

ของก่รรมก่ร โด้ยม�แนว่คื�ด้ที่��ส�าคื�ญ่ 4 ข�อ คื�อ1) ร�ฐต�องหาคืว่ามคื&�มคืรองให�ก่รรมก่ร เง��อนไขเก่��ยว่ก่�บช�ว่�ตเหมาะสม

คื�าตอบแที่นย&ต�ธรรม ม�ส&ขล�ก่ษณะที่��ด้�2) คืนงานม�ส�ที่ธ�พื่�ฒนาบ&คืล�ก่ภาพื่เฉพื่าะตนและก่ารศ-ก่ษา3) จ�ด้ต��งชนช��นสหก่รณ� สมาช�ก่สามารถึแลก่เป็ล��ยนผลผล�ตก่�น

สมาช�ก่แต�ละคืนต��งคื�าผล�ตผล เป็ นช��ว่โมงแรงงานในก่ารผล�ต

Page 41: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

4) เสนอจ�ด้ต��งชนช��นที่ร�พื่ย�ส�นในร�ป็สหก่รณ� สมาช�ก่เป็ นที่��งก่รรมก่รและก่ส�ก่รใช�ก่รรมส�ที่ธ�Lร �ว่มก่�น

Saint Simon ม�แนว่คืว่ามคื�ด้ที่างส�งคืมน�ยม 2 ป็ระก่าร คื�อ1. ป็%จจ�ยที่างเศรษฐก่�จก่�าหนด้ส�งคืมและก่ารป็ก่คืรอง เป็ล��ยนแป็ลงก่าร

คืว่บคื&มที่ร�พื่ยาก่รของร�ฐ2. ว่�เคืราะห�โคืรงสร�างชนช��น สงคืราม ข&นนาง ที่หาร เป็ นอภ�ส�ที่ธ�Lชนเอา

เป็ร�ยบชาว่นาและผ��ผล�ต ส�งคืมอ&ตสาหก่รรมที่�าให�เก่�ด้ส�งคืมของคืนที่�างาน จ-งถึ-งเว่ลาที่��เหล�านายจ�าง ข&นนาง ที่หารและพื่ว่ก่ที่��ไม�ที่�างานจะหมด้ไป็เส�ยที่�

Charles Fourier ม�ช�ว่�ตในระบบอ&ตสาหก่รรมในเม�อง Lyon ป็ระเที่ศฝ่ร��งเศส เห8นคืว่ามที่&ก่ข�ยาก่ของคืนใก่ล�ช�ด้ ได้�โจมต�ระบบที่&นน�ยม 2 ข�อ คื�อ

1. ระบบอ&ตสาหก่รรมเจร�ญ่ข-�นมาได้�ด้�ว่ยคืว่ามยาก่จนของก่รรมก่ร จ-งเก่ล�ยด้ช�งพื่�อคื�า และก่ารเอาเป็ร�ยบของพื่�อคื�าที่��ชอบซึ่��อถึ�ก่ ขายแพื่ง

2. เสร�น�ยมที่างเศรษฐก่�จที่�าให�เก่�ด้ภาว่ะต�ว่ใคืรต�ว่ม�น ส�งคืมต�องที่&ก่ข�ยาก่ จ�ก่ต�องป็ฏ�ร�ป็ส�งคืมด้�ว่ยก่ารสร�างส�งคืมเล8ก่ๆ ที่��ด้�พื่ร�อมเส�ยก่�อน

Pierre Joseph Proudhon ป็%จจ�ยพื่��นฐาน คื�อ เศรษฐก่�จ ก่ารแก่�ป็%ญ่หาส�งคืม คื�อ ก่ารป็ฏ�ว่�ต�เศรษฐก่�จ โจมต�อ�านาจที่&ก่อ�านาจ ซึ่-�งเป็ นเจตจ�านงของพื่ว่ก่ราชก่าร อาณาจ�ก่ร ศาสนจ�ก่ร เน�นคืว่ามเสมอภาคื เสร�ภาพื่ อ�นจะที่�าให�เก่�ด้ ภราด้รภาพื่ (ร�ก่ใคืร�ก่�นฉ�นพื่��น�อง) เป็ นก่ารน�าไป็ส��คืว่ามสมด้&ลของที่��งสามส��ง

Louis Blounc ม�คืว่ามคื�ด้ส�งคืมน�ยมป็ฏ�ร�ป็ คื�อ เล�ก่ล�มก่ารแข�งข�น แล�ว่ห�นมาสร�างโรงงานส�งคืมก่รรมก่รจะเป็ นเจ�าของเคืร��องม�อก่ารผล�ต ให�ก่รรมก่รที่��ม�ก่ารศ-ก่ษาเป็ นเจ�าของก่�อน ระยะแรก่ โรงงานน��ได้�ที่&นจาก่ร�ฐและนายที่&น ให�โรงงานส�งคืมผล�ตแข�งข�นก่�บร�ฐว่�สาหก่�จ แล�ว่ส&ด้ที่�ายก่8จะชนะ โรงงานส�งคืมจะเก่�ด้ข-�นมาก่มายคืรอบคืล&มเศรษฐก่�จที่��งหมด้ และเป็ นก่ารย&ต�ก่ารแข�งข�น

Karl Marx - เป็ นชาว่เยอรม�น เช��อสายย�ว่- เป็ นน�ก่ป็ระว่�ต�ศาสตร� ก่ฎีหมาย ป็ร�ชญ่า แต�ยาก่จน - เร��มต�นเป็ นน�ก่หน�งส�อพื่�มพื่�ห�ว่ก่�าว่หน�า - ในป็B 1843 อย��ที่�� Paris ได้�พื่บล�ก่ษณะม�ลฐานที่างเศรษฐก่�จ

Page 42: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

- ป็B 1845 ถึ�ก่ข�บไล�ออก่จาก่ฝ่ร��งเศส ไป็ย�งก่ร&ง Brussel ร�ว่มม�อก่�บ Friedrich

Engels คืนตระก่�ลร��ารว่ยไป็ต��งหล�ก่ที่��ป็ระเที่ศอ�งก่ฤษ- Marxism ม�แก่นคืว่ามคื�ด้ที่��ส�าคื�ญ่ 2 ต�ว่ คื�อ

1) ว่�ภาษว่�ธ�ว่�ตถึ&น�ยม (Dialectical Materialism)

2) ป็ระว่�ต�ศาสตร�ว่�ตถึ&น�ยม (Historical Materialism)

ใช�หล�ก่ว่�เคืราะห�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงส�งคืม ว่�ธ�คื�ด้ของ Marx อาจเร�ยก่ได้�ว่�าเป็ น ส�งคืมน�ยมว่�ที่ยาศาสตร� ซึ่-งก่�อนหน�าน��นล�ว่นเป็ นส�งคืมน�ยมแบบอ&ด้มคืต�ที่��งส��น

สาระส�าค�ญของว�ติถ2นื้�ยม ว�ติถ2นื้�ยม หมายถึ-ง โลก่ที่างว่�ตถึ&เที่�าน��นที่��เป็ นจร�ง และเป็ นป็%จจ�ย

ก่�าหนด้ส��งต�างๆ แม�แต�มโนธรรม ศ�ลธรรม อ&ด้มก่ารณ� ก่8เป็ นผล�ตผลของสมองซึ่-�งเป็ นว่�ตถึ&

ทฤษฎี*แห1งร�ฐของมาร�กซ้�สติ� (The Marxist Theory of the State)

Marx คื�ด้ว่�าส�งคืมสม�ยใหม�ป็ระก่อบด้�ว่ยชนช��นหน-�ง (นายที่&น) อย��เหน�ออ�ก่ชนช��นหน-�ง (คืนที่�างาน) เหต&ที่��คืว่ามต-งเคืร�ยด้ซึ่-�งสร�างข-�นโด้ยก่ารม�อ�านาจเหน�อก่ว่�า ที่�าให�คืนที่�างานต�องถึ�ก่คืว่บคื&ม และน��คื�อเหต&ผลว่�าร�ฐจ-งเป็ นส��งที่��ต�องก่าร ร�ฐจะคือยคืว่บคื&มคืนที่�างานให�อย��ภายใต�ก่ารคืว่บคื&มบางส�ว่นด้�ว่ยก่�าล�ง (ต�ารว่จ) และบางส�ว่นด้�ว่ยจ�งใจให�เข�าก่�บระบบที่��เป็ นอย��ในโรงเร�ยน และอ��นๆ ซึ่-�งสถึานก่ารณ�ขณะน��ย�งด้�อย��

แต�แล�ว่ในที่��ส&ด้คืนที่�างานจะป็ฏ�ว่�ต� และต��งระบบส�งคืมน�ยม ซึ่-�งชนช��นหน-�งจะไม�ม�อ�านาจเหน�อชนช��นหน-�ง และในที่��ส&ด้ร�ฐจะไม�ม�คืว่ามจ�าเป็ นอ�ก่ต�อไป็และสลายต�ว่ไป็เอง

แ ร ง ง า น ถึ� ก่ ก่ ด้ ข�� ต�องก่ารเร�ยก่ร�องคืว่ามเที่� า เที่�ยมก่�น อยาก่ม�

ก่ลายเป็ นย&คืที่&นน�ยม พื่ ว่ ก่ น า ย จ� า ง ห ร� อนายที่&นม�อ�านาจมาก่

ไ พื่ ร�ต� ด้ ที่�� ด้� น เ ร��มก่ ล า ย เ ป็ น ช น ช�� นก่ฎุKมพื่� รว่มที่��งพื่ว่ก่พื่�อคื� า ต� องก่าร ม�อ�านาจที่างก่ารเม�อง

ส� ง คื ม ที่�� ข& น น า ง หร�ออ�ศว่�นอ�านาจเป็ นเจ�าของที่��ด้�นในย&คื Feudalism Anti-Thesis 2Conflict

Conflict

Synthesis 2(Thesis 3)

Synthesis(Thesis 2)

Anti-ThesisThesis

เก่�ด้ก่ารป็ฏ� ว่�ต� ชน ช��นก่รรมาช�พื่ และก่�าว่ส��ย&คืคือมม�ว่น�สต�

ว�ภูาษว�ธ* คื�อ ที่ฤษฎี� / Model / ก่ระบว่นก่าร ที่��อธ�บายโลก่ว่�ตถึ&ว่�า

Marxism: Dialectical Materialism

Page 43: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คืนในระบบ

ชนช��นก่รรมาช�พื่ม�อ�านาจก่ารผล�ต อ�านาจก่ารเม�อง เป็ นเจ�าของป็%จจ�ย ข-�นมาเป็ นชนช��นป็ก่คืรองในระยะแรก่ ใช�ก่�าล�งย-ด้ก่ารผล�ตของนายที่&นมาเป็ นของร�ฐ เพื่��มก่ารผล�ตเร8ว่ที่��ส&ด้ แจก่จ�ายตามคืว่ามจ�าเป็ นแต�ระบบน��ข�ด้แย�งก่�บธรรมชาต�ของมน&ษย�ที่��ต�องม�แรงจ�งใจ คื�อ ที่�ามาก่

เก่�ด้คืว่ามข�ด้แย�ง นายที่&น ก่รรมก่ร–

นายที่&น ก่รรมก่ร ถึ�ก่ก่ด้ข��คื�าแรง และสว่�สด้�ก่ารต��งต�ว่ไม�ได้� และ–

เร��มคื�ด้หาเคืร��องที่&นแรง เก่�ด้ระบบก่ารคื�าเสร�

ห�ตถึก่รรม

ที่าสอยาก่เป็ นไที่ เร��มม�เที่คืโนโลย� แรงงาน แรงลม ใน

เป็ นส�งคืมโบราณ ย�งไม�ม�ระบบคืรอบคืร�ว่ หาอะไรมาได้�ก่8

เผด้8จก่ารชนช��น

ที่&นน�ยม

ศ�ก่ด้�นา

ที่าส

บรรพื่ก่าล

โครงสร.างส1วนื้บนื้

ว�ว�ฒินื้การของส�งคม

โครงสร.างพิ�นื้ฐานื้

ว�ภูาษว�ธ* คื�อ ที่ฤษฎี� / Model / ก่ระบว่นก่าร ที่��อธ�บายโลก่ว่�ตถึ&ว่�า

Page 44: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

แต�ในที่��ส&ด้ เผด้8จก่ารส�งคืมน�ยมเส�� อมถึอยลง ไม�สามารถึไป็ส��ส�งคืมคือมม�ว่น�สต�ได้� เพื่ราะ

1. ร�ฐเผด้8จก่ารชนช��นก่รรมาช�พื่ต�องสร�างคืว่ามเป็ นร�ฐที่��แข8งแก่ร�งต�อส��ส�งคืมน�ยม และส�งคืมอ��น จนก่ลายเป็ น สงคืรามเย8น“ ”

2. ส�งคืมแบบน��ม�ร�ฐบาลเป็ นระบบราชก่ารขนาด้ใหญ่� ผ��น�าของป็ระเที่ศเหล�าน��เม��อถึ-งจ&ด้หน-�งก่8ก่ลายเป็ นพื่ว่ก่อน&ร�ก่ษ�น�ยม ร�ก่ษาอ�านาจของตนเอง

3. ก่ว่�าจะบรรล&เป็ นส�งคืมคือมม�ว่น�สต� ก่ารผล�ตต�องม�มาก่พื่อ

สร2ปหลั�กอ2ดมการณ�ส�งคมนื้�ยม- คืว่ามเสมอภาคื / มน&ษย�น�ยม (ก่ารคื�าน-งถึ-งศ�ก่ยภาพื่ตามธรรมชาต�ของ

มน&ษย� ศ�ก่ด้�Lศร�ของคืน)

- Collectivism ที่ร�พื่ย�ส�นเป็ นของส�ว่นรว่ม- Active / Interventionist Government ร�ฐบาลเช�งร&ก่และเข�า

แที่รก่แซึ่งเศรษฐก่�จและก่ารผล�ตMarxist Socialism

- ก่ารก่ด้ข��เอาร�ด้เอาเป็ร�ยบระหว่�างชนช��น / คืว่ามข�ด้แย�งที่างชนช��นในระบบที่&นน�ยม

- ร�ฐเป็ นเคืร��องม�อที่างชนช��น (Marxism ต�อต�านอ�านาจร�ฐ)

- ก่ารป็ฏ�ว่�ต�โด้ยชนช��นก่รรมาช�พื่- The state will wither away ร�ฐจะสลายต�ว่ไป็ เม��อเป็ นส�งคืม

คือมม�ว่น�สต�

ระบบเศรษฐก�จัส�งคมนื้�ยม (Social Economic)

- Collective Ownership: ป็%จจ�ยก่ารผล�ตเป็ นของส�ว่นรว่ม

คืนในระบบ

Page 45: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

- Central Planning: ใช�ระบบก่ารว่างแผนจาก่ส�ว่นก่ลางในก่ารผล�ต แจก่จ�ายส�นคื�า แที่นก่ลไก่ราคืา ก่ลไก่ตลาด้

เผู้ด<จัการชั้าติ�นื้�ยม (Fascism & Nazism)

- เป็ นล�ที่ธ�ก่ารเม�องของพื่ว่ก่เผด้8จก่าร (ฝ่Eายขว่า)- เก่�ด้จาก่จ�ตว่�ที่ยาของผ��แพื่� / ป็%ญ่หาส�งคืม- สร�างคืว่ามหลงใหลในชาต� / ผ��น�า- ไม�ม�สาระ / พื่ว่ก่ฉว่ยโอก่าส (อาศ�ยป็%ญ่หาส�งคืมเป็ นเคืร��องม�อ)

- ต�อต�านที่&ก่ระบอบโด้ยเฉพื่าะ Communism (และอ�างว่�าพื่ร�อมที่��จะเป็ นก่ารป็ก่คืรองที่&ก่ร�ป็แบบ)

- ที่ฤษฎี�ชนช��นน�า ถึ�อว่�าส�งคืมที่&ก่ส�งคืม ต�องม� ผ��น�า “ ” (ชนก่ล&�มน�อย แต�ม�คื&ณสมบ�ต�ที่��ด้�ก่ว่�า เป็ นผ��ป็ก่คืรอง– ) ก่�บ ผ��ตาม “ ” (มว่ลชน)

- Fascism (Italy) – Benito Mussolini (1883-1945)- Nazism (Germany) – Adolf Hitler (1889-1945)

ลั�ทธ�ฟูาสซ้�สติ� (Fascism)

- สนใจสร�างร�ฐให�ม�อ�านาจแข8งแก่ร�ง ที่&ก่ชนช��นเป็ นหน-�งเด้�ยว่ก่�น- ขบว่นก่ารที่างจ�ตใจที่��ข�ด้ก่�บ Marxism (ย-ด้ต�ด้อย��ก่�บก่ารต�อส��ระหว่�างชนช��น ไม�

สนใจเอก่ภาพื่ของร�ฐ)

- ไม�ใช�ล�ที่ธ�แห�งเหต&ผล:

คืรอบคืร�ว่ / ชาต� / ป็ระเพื่ณ� ระเบ�ยบว่�น�ย เยาว่ชน / คืว่ามแข8งแก่ร�งของร�างก่าย / เที่�ด้ที่�นว่�รบ&ร&ษ ส�ญ่ล�ก่ษณ� / ก่ารป็ระด้�บป็ระด้า เช��อผ��น�าอย�างหลงใหล(ส��งเหล�าน��ป็ล&ก่เร�าอคืต� ที่�าให�เก่�ด้ก่ารเป็ นชาต�)

- ป็ฏ�เสธคืว่ามเสมอภาคื (ถึ�อว่�าคืว่ามไม�เสมอภาคื เป็ นส��งที่��แก่�ไขไม�ได้� และเป็ นป็ระโยชน�ต�อมน&ษยชาต�)

คืว่ามอย��เหน�อของผ��ป็ก่คืรอง- เที่�ด้ที่�นร�ฐ ร�ฐคืรอบคืล&มที่&ก่ส��งที่&ก่อย�าง ร�ฐเป็ นเคืร��องม�อของคืว่ามแข8งแรง

หล�ก่ป็ระก่�นเป็ นส��งที่��อ�อนแอลั�ทธ�นื้าซ้* (Nazism)

- อาจเร�ยก่ว่�า National Socialism

- ล�ที่ธ�เช��อชาต�น�ยม (Racism) / ต�อต�านคืนย�ว่- Hitler: ก่ารต�อส�� เช��อชาต� คืว่ามไม�เสมอภาคื

Page 46: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Hitler เช��อว่�า อารย�นเป็ นเช��อชาต�ส�งส&ด้อย��เหน�อเช��อชาต�อ��นๆ ต�องร�ก่ษาคืว่ามบร�ส&ที่ธ�L คืว่ามเส��อมของอารย�นเก่�ด้จาก่ก่ารไป็ผสมเล�อด้ก่�บเช��อชาต�ที่��อ�อนแอก่ว่�า

- ร�ฐเป็ นเคืร��องม�อแห�งผ��น�า / เช��อชาต�ส�าคื�ญ่ที่��ส&ด้ (ข�ด้ก่�บหล�ก่ส�นต�ภาพื่ หล�ก่สาก่ลน�ยม ป็ระชาธ�ป็ไตย)

ธ�ารงร�ก่ษา / ป็ร�บป็ร&งเช��อชาต� ก่ารขยายอาณาจ�ก่ร ก่ารคืรอบง�าของเช��อชาต�อารย�น–

ร�ฐต��งอย��บนพื่�� นฐานของคืว่ามศร�ที่ธาต�อผ��น�า ร�ฐไม� ได้�ม�เก่�ยรต�คื&ณ แต�เป็ นเพื่�ยงก่ารร�ก่ษาคืว่ามบร�ส&ที่ธ�L และเอก่ภาพื่ของเช��อชาต�

ลั�กษณะส�าค�ญของระบบการเม�อง

ระบบการปกครอง

อ�านาจน�ยม

เบ8ด้เสร8จซึ่�าย:

เผด้8จก่ารที่หาร

เผด้8จก่าร

อ�านาจ (ร�ฐ) น�ยม เสร�ภาพื่ (บ&คืคืล)

ป็ระชาธ�ป็ไตย

แบบแบบผสมแบบร�ฐสภาอ�านาจ อ�านาจ

เผด้8จก่าร

ระบบก่ารเม�อง

ระบบก่ารเม�อง

เป็Aาหมายอ&ด้มก่ารณ�

หล�ก่ก่ารส�าคื�ญ่ (Principal)

องคื�ก่าร (Organization)

ร�ป็แบบโคืรงสร�าง

Page 47: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ระบอบอ�านื้าจันื้�ยม (Authoritarianism)

- ผ��ป็ก่คืรองม�อ�านาจเหน�อผ��อย��ใต�ก่ารป็ก่คืรอง- ก่ารใช�อ�านาจของผ��ป็ก่คืรองเป็ นไป็โด้ยอ�าเภอใจ ไม�ม�ขอบเขตหร�อก่ารคืว่บคื&มจาก่

ภายนอก่ (ไม�ม�สถึาบ�นใด้คืว่บคื&มได้�)- ผ��ป็ก่คืรอง ร�ฐ ก่ลไก่ร�ฐ ก่ารคืว่บคื&มบ&คืคืล ก่ล&�ม และส�งคืม- จ�าก่�ด้เสร�ภาพื่ / ก่ารม�ส�ว่นร�ว่มที่างก่ารเม�อง เน�นก่ารเช�� อฟิ%งและคืว่ามสงบ

เร�ยบร�อย- ใช�ก่ระบว่นก่ารที่างก่ารก่ฎีหมายอย��บ�าง

ระบอบเผู้ด<จัการเบ<ดเสร<จั (Totalitarianism)

- อ�านาจส�งส&ด้เด้8ด้ขาด้อย��ที่��พื่รรคื / ผ��น�า / องคื�ก่รน�า- ม�ก่ารป็ล�ก่ฝ่%งอ&ด้มก่ารณ�ของร�ฐ- คืว่บคื&มส�งคืม เศรษฐก่�จ ก่ารเม�อง ว่�ถึ�ช�ว่�ตที่&ก่ด้�าน- ม�ก่ารระด้มพื่ล�งป็ระชาชนเป็ นระยะๆ- ไม�เป็=ด้โอก่าสให�ม�อ&ด้มก่ารณ�อ��นใด้- เช��ออย�างคืล��งไคืล� / ผ�ก่พื่�นที่างจ�ตใจ

ความแติกติ1างระหว1างเผู้ด<จัการ 2 แบบ

ป็ระธานาธ�

แบบผสม

ร�ฐสภา

ป็ระชาธ�ป็ไตยแบบส�งคืมน�ยม / ป็ระชาธ�ป็ไตย

ป็ระชาธ�ป็ไ

Page 48: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Authoritarianism Totalitarianism

1. คืว่บคื&มเฉพื่าะที่างก่ารเม�อง2. เสร�ภาพื่ที่างศาสนา ธ&รก่�จ ก่ารรว่มต�ว่

ก่�นเป็ นสมาคืม3. ใช�ก่ฎีหมายและก่ระบว่นก่ารย&ต�ธรรม

บางส�ว่น4. ไม�เป็ นป็ฏ�ป็%ก่ษ�ก่�บร�ฐ

1. คืว่บคื&มที่��งก่ารเม�อง เศรษฐก่�จ และส�งคืม

2. คืว่บคื&มสถึาบ�นที่างศาสนา ธ&รก่�จและสมาคืม

3. ร�ฐ / ผ��น�า / อ&ด้มก่ารณ� ส�าคื�ญ่ก่ว่�าก่ฎีหมาย

4. ป็ฏ�บ�ต�ตามคื�าส��ง / แสด้งคืว่ามจงร�ก่ภ�ก่ด้� ที่��งก่ารก่ระที่�าและจ�ตใจ

Page 49: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

บทท*+ 5การเม�องการปกครองเปร*ยบเท*ยบ

ในบที่น�� เราจะศ-ก่ษาล�ก่ษณะก่ารป็ก่คืรองของป็ระเที่ศอ�งก่ฤษ สหร�ฐอเมร�ก่า และฝ่ร��งเศส เพื่��อเป็ นแนว่ที่างที่�าคืว่ามเข�าใจเก่��ยว่ก่�บล�ก่ษณะก่ารป็ก่คืรองของป็ระเที่ศไที่ยในป็%จจ&บ�นที่��น�าล�ก่ษณะก่ารป็ก่คืรองของป็ระเที่ศต�างๆ เข�ามาป็ร�บป็ร&งในก่ารร�างร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�น (พื่.ศ.2540)

การปกครองประเทศอ�งกฤษ : ระบบร�ฐสภูาร�ฐธรรมน�ญ่อ�งก่ฤษเป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ไม�ม�ลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษร แต�ก่ระจ�ด้ก่ระจายอย��ใน

ร�ป็แบบต�างๆ ก่�นในร�ป็ของพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ต�างๆ บ�าง เช�น พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ว่�าด้�ว่ยส�ที่ธ�มน&ษยชน ป็B คื.ศ.1689 พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ส�บส�นตต�ว่งศ� ป็B 1701 เป็ นต�น หร�อในร�ป็ของข�อตก่ลงและขนบธรรมเน�ยม เช�น ก่ารจ�ด้ต��งคืณะร�ฐมนตร�ไม�ม�ก่ฎีหมายฉบ�บไหนบ�งบอก่ให�ม�ก่ารจ�ด้ต��ง แต�คืณะร�ฐมนตร�ว่�ว่�ฒนาก่ารจาก่ภาคืป็ฏ�บ�ต�จนก่ลายเป็ นขนบธรรมเน�ยมที่��ยอมร�บก่ก่�นมาเก่�อบ 300 ป็Bแล�ว่

ร�ฐธรรมน�ญ่ของอ�งก่ฤษ จ-งเป็ นเร��องราว่ของว่�ว่�ฒนาก่ารของป็ระว่�ต�ศาสตร�ก่ารเม�อง เก่�ด้ข-�นหร�อเป็ นผลล�พื่ธ�ของก่ระบว่นก่ารร�ว่มม�อ และก่ารข�ด้แย�งระหว่�างพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�และข&นนาง และก่ว่�าจะเข�าร�ป็เข�ารอยด้�งเช�นป็%จจ&บ�นก่8ต�องผ�านสงคืรามป็ฏ�ว่�ต�ถึ-ง 2

คืร��งใหญ่�ในศตว่รรษที่�� 17 และย�งจะต�องม�ก่ารป็ฏ�ร�ป็ก่�นขนานใหญ่�ในศตว่รรษที่�� 19 และ 20 ถึ-งจะป็ระก่ฎีในร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรองแบบป็ระชาธ�ป็ไตยด้�งที่��ป็ราก่ฏ ก่ารต�อส��ด้��นรนระหว่�างข&นนางอ�งก่ฤษและมหาก่ษ�ตร�ย�ในอด้�ต เป็ นก่ารต�อส��เพื่��อป็ก่ป็Aองผลป็ระโยชน�ของก่ล&�มชนช��นของตนเองและตามแนว่คืว่ามคื�ด้เช��อถึ�อตามล�ที่ธ�ศาสนา แต�ผลของก่ารต�อส��เร��องน��ช�ก่น�า ให�เก่�ด้ระบบก่ารป็ก่คืรองที่��ก่ลายเป็ นพื่�� นฐานของระบบก่ารป็ก่คืรองป็ระชาธ�ป็ไตยในสม�ยต�อมา

ก่ารป็ก่คืรองของอ�งก่ฤษม�ได้�ม�ก่ารแบ�งแยก่อ�า นาจอธ�ป็ไตยออก่เป็ น อ�า นาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� อ�านาจบร�หาร และอ�านาจต&ลาก่าร ในล�ก่ษณะที่��ช�ด้เจน

หลั�กการปกครองโดยกฎีหมาย (Rule of Law)

หล�ก่ก่ารป็ก่คืรองโด้ยก่ฎีหมายของอ�งก่ฤษ เป็ นหล�ก่ที่��ม�คืว่ามหมาย 3 ป็ระก่าร คื�อ1. ต�องไม�ใช�ก่�าล�งป็ก่คืรอง ต�องใช�ก่ฎีหมายป็ก่คืรอง ป็ระชาชนต�องเคืารพื่

ก่ฎีหมาย

Page 50: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2. คืนอ�งก่ฤษถึ�ก่ป็ก่คืรองโด้ยก่ฎีหมายและโด้ยก่ฎีหมายเที่�าน��น ก่ารจะลงโที่ษหร�อจ�บก่&มคืนอ�งก่ฤษโด้ยป็ราศจาก่ก่ารไต�สว่นตามก่ระบว่นก่ารของก่ฎีหมายและโด้ยไม�ม�คืว่ามผ�ด้ตามที่��ระบ&ไว่�ในก่ฎีหมายจะก่ระที่�าม�ได้�

3. อ�านาจของพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�และร�ฐมนตร�น��นม�ต�นก่�า เน�ด้มาจาก่พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ของร�ฐสภา

ที่��งน�� ป็ระเที่ศอ�งก่ฤษย�งม�หล�ก่ก่ารจ�าก่�ด้อ�านาจของก่ษ�ตร�ย� หร�อผ��ป็ก่คืรองน��ก่�บหล�ก่ส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ส�ว่นบ&คืคืล เป็ นหล�ก่ป็ระก่�นให�เก่�ด้ระบบเผด้8จก่าร ซึ่-�งมาจาก่ก่ารป็ฏ�ว่�ต�ที่��ร& �งโรจน� ป็B คื.ศ.1688 โด้ยได้�ก่�าหนด้ไว่�ในพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ว่�าด้�ว่ยส�ที่ธ�มน&ษยชน (The Bill of Rights) ป็B คื.ศ.1689 และพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�น��ได้�ก่�าหนด้ข�อจ�าก่�ด้ของอ�านาจพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่��จะก่ระที่�าก่ารใด้ๆ โด้ยไม�ป็ร-ก่ษาร�ฐสภาไม�ได้�

หลั�กอ�านื้าจัส"งส2ดของร�ฐสภูา (Supremacy of Parliament)

อ�านาจส�งส&ด้หร�ออธ�ป็ไตยเป็ นของร�ฐสภา หมายคืว่ามว่�า ร�ฐสภาม�ส�ที่ธ�ที่��จะออก่ก่ฎีหมาย หร�อยก่เล�ก่ก่ฎีหมายใด้ๆ ก่8ได้� และไม�ม�ผ��ใด้ในอ�งก่ฤษที่��จะเพื่�ก่เฉย หร�อละเม�ด้ต�อก่ฎีหมายของร�ฐสภา หล�ก่ของอ�านาจส�งส&ด้ของร�ฐสภาน��หมายคืว่ามว่�า ในระบบก่ารป็ก่คืรองของอ�งก่ฤษ อธ�ป็ไตยอย��ที่��องคื�ก่รร�ฐสภาอ�นป็ระก่อบด้�ว่ย สภาข&นนาง สภาผ��แที่น และพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย� ฉะน��น แม�ว่�าจะม�ก่ารแบ�งหน�าที่��ก่�นที่�า คื�อ คืณะร�ฐมนตร�ในฐานะเป็ นคืณะร�ฐบาลของพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่�าหน�าที่��บร�หาร แต�อ�านาจส�งส&ด้อย��ที่��ร �ฐสภา ซึ่-�งสามารถึคืว่บคื&มก่ารป็ฏ�บ�ต�งานของคืณะร�ฐมนตร� ตลอด้จนสามารถึที่�าหน�าที่��เป็ นศาลส�งส&ด้ด้�ว่ย ก่ารที่�าหน�าที่��เป็ นศาลส�งน��นเป็ นบที่บาที่ในส�ว่นของสภาข&นนาง (House of Lords)

ร�ฐธรรมน�ญ่อ�งก่ฤษน��นจ-งไม�ได้�แบ�งแยก่อ�านาจอธ�ป็ไตย แต�เป็ นก่ารแบ�งบที่บาที่หน�าที่�� ฉะน��นจ-งม�ก่ระบว่นก่าร รวมอ�านื้าจัไว.ท*+ร�ฐสภูา (Fusion of Power) แต�ก่8ม�สายส�มพื่�นธ�เช��อมโยงก่�นที่��เร�ยก่ว่�า Organic Link โด้ยสถึาบ�นร�ฐสภา

ก่ารที่��ร �ฐสภาอ�งก่ฤษว่�ว่�ฒนาก่ารในร�ป็น�� เป็ นเร��องของเหต&ก่ารณ�ในป็ระว่�ต�ศาสตร�ม�ได้�ม�คืว่ามจงใจจะให�เก่�ด้ระบอบป็ระชาธ�ป็ไตยแต�อย�างใด้ อ�านาจของร�ฐสภาม�เพื่��มข-�นจาก่เด้�มเป็ นเพื่�ยงให�คืว่ามร�ว่มม�อในก่ารเพื่��มภาษ�ของพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย� ต�อมาก่ลายเป็ นผ��ให�คืว่ามเห8นชอบ ต�อมาอ�ก่ร�ฐสภาก่8เร��มม�อ�านาจในด้�านออก่ก่ฎีหมาย ซึ่-�งเร��มต�นเป็ นก่ารตราก่ฎีหมาย เพื่��อแก่�ไขขจ�ด้ข�อเด้�อด้ร�อนของป็ระชาชนเที่�าน��น ต�อมาขยายไป็เป็ นอ�านาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ที่��ว่ไป็

ส�ว่นต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร� มาจาก่ารที่��พื่ระเจ�ายอร�จที่�� 1 (George I) แห�งราชว่งศ� Hannover ซึ่-�งที่รงได้�ร�บก่ารเช�ญ่ให�มาป็ก่คืรองป็ระเที่ศอ�งก่ฤษในช�ว่ง คื.ศ.1715 ซึ่-�งราชว่งศ�น��มาจาก่เยอรม�นน� พื่ระองคื�จ-งที่รงไม�เข�าใจภาษาอ�งก่ฤษ ได้�ที่รงมอบหมายงานก่ารป็ระช&มสภาเสนาบด้�ให�แก่� เซึ่อร�โรเบ�ร�ต ว่อลโป็ล ที่�าหน�าที่��เป็ นป็ระธาน น��คื�อจ&ด้ก่�าเน�ด้ของต�าแหน�ง นื้ายกร�ฐมนื้ติร* ซึ่-�งตอนน��น เซึ่อร�โรเบ�ร�ต ว่อลโป็ล ได้�ร�บสมญ่านามภายหล�งว่�า “Primus Inter

Page 51: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Pares” หร�อ First among Equals คื�อ ผ��อ�นด้�บ 1 ในจ�านว่นผ��ที่��เที่�าก่�น น��นคื�อต�าแหน�ง Prime Minister

ซึ่-�งเป็ นช��อเร�ยก่สม�ยต�อมา ในก่ารคื�ด้เล�อก่ร�ฐมนตร�ก่8คื�ด้เล�อก่จาก่บ&คืคืลที่��จะได้�ร�บเส�ยงสน�บส�ว่นใหญ่�จาก่ร�ฐสภา น��คื�อจ&ด้เร��มต�นระบบคืณะร�ฐมนตร� ซึ่-�งเป็ร�ยบเสม�อนคืณะก่รรมก่ารของร�ฐสภาที่��สมาช�ก่เล�อก่ข-�นมา เพื่��อที่�ลเก่ล�า ให�พื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�แต�งต��ง

ผลของก่ารป็ฏ�บ�ต�ด้�งก่ล�าว่ ได้�ก่ลายเป็ นธรรมเน�ยมป็ฏ�บ�ต�ในสม�ยต�อๆ มา สม�ยน��ธรรมเน�ยมป็ฏ�บ�ต�จะก่�าหนด้ให�พื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�แต�งต��งบ&คืคืลที่��เป็ นห�ว่หน�าพื่รรคืที่��ได้�ร�บเส�ยงข�างมาก่ในร�ฐสภา และเม��อนายก่ร�ฐมนตร�คืนไหนไม�ได้�ร�บคืว่ามไว่�ว่างใจจาก่ร�ฐสภา ก่8จะต�องเช�ญ่ห�ว่หน�า ฝ่Aายค.านื้ ซึ่-�งได้�ร�บเส�ยงส�ว่นมาก่เข�าจ�ด้ต��งร�ฐบาลแที่น และร�ฐบาลต�องร�บผ�ด้ชอบร�ว่มก่�นต�อนโยบาย หาก่ผ��ใด้ไม�เห8นชอบด้�ว่ยก่�บนโยบาย ติ.องลัาออก ขณะเด้�ยว่ก่�นก่8ว่�พื่าก่ษ�ว่�จารณ�นโยบายของคืณะร�ฐมนตร�ไม�ได้� ขนบธรรมเน�ยมน��คื�อยๆ ว่�ว่�ฒนาก่ารมาจาก่ภาคืป็ฏ�บ�ต� ซึ่-�งเม��อม�ร�ฐมนตร�ที่�านหน-�งย-ด้ถึ�อป็ฏ�บ�ต� ที่�านอ��นๆ ในภายหล�งก่8ป็ฏ�บ�ต�ตาม

การขยายส�ทธ�การเลั�อกติ�งให.แก1ประชั้าชั้นื้ท�+วไปในศตว่รรษที่�� 18 ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บที่��ร �างออก่มาย�งเร�ยก่ว่�าป็ระชาธ�ป็ไตยไม�ได้� เพื่ราะ

ผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��งย�งคืงเป็ นชนช��นผ��ม�ที่ร�พื่ย�สมบ�ต� ในป็ลายศตว่รรษที่�� 18 ได้�เร��มเก่�ด้ขบว่นก่ารป็ฏ�ร�ป็ร�ฐสภา และขบว่นก่ารของพื่ว่ก่ Radlicals ซึ่-�งต�องก่ารเป็ล��ยนแป็ลงส�งคืมตามแผนก่ารป็ฏ�ว่�ต�ฝ่ร��งเศส แต�สงคืรามนโป็เล�ยนที่��ย�ด้ยาว่ ที่�า ให�ขบว่นก่ารป็ฏ�ร�ป็พื่บก่�บอ& ป็สรรคืและแรงต�านที่านจาก่ชนช��นต� างๆ จนก่ระที่��ง คื .ศ .1830 เหต&ก่ารณ�จ-งเป็ล��ยนแป็ลงไป็ และร�ฐสภาได้�ยอมร�บแนว่คื�ด้ก่ารป็ฏ�ร�ป็โด้ยผ�าน พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ป็ฏ�ร�ป็ คื.ศ.1832 (Great Reform Act) ซึ่-�งขยายส�ที่ธ�ก่ารเล�อก่ต��งให�แก่�ชนช��นก่ลางระด้�บส�ง และได้�ป็ร�บเขตก่ารเล�อก่ต��งให�เม�องอ&ตสาหก่รรมใหม�ได้�ม�ผ��แที่น ต�อมาในป็B คื.ศ.1867 ได้�ม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงอ�ก่ โด้ยให�ส�ที่ธ�ก่ารเล�อก่ต��งแก่�ก่รรมก่รในเม�องอ�ก่หน-�งล�านคืน ใน คื.ศ.1884 ได้�ให�ส�ที่ธ�Lแก่�ก่รรมก่รในเขตชนบที่ คื.ศ.1918 ชายที่&ก่คืนอาย& 21 ป็Bข-�นไป็ ม�ส�ที่ธ�L และสตร�อาย& 30 ป็Bข-�นไป็ ป็B คื.ศ.1928 สตร�อาย& 21 ป็Bข-�นไป็จ-งม�ส�ที่ธ�L

ต�องใช�เว่ลาป็ระมาณ 100 ป็B ป็ระชาชนผ��ม�อาย& 21 ป็Bข-�นไป็ ที่&ก่คืนจะม�ส�ที่ธ�L ป็ระชาธ�ป็ไคืยอ�งก่ฤษใช�เว่ลานานมาก่ในก่ารย�างก่�าว่ไป็ส��ก่ารบรรล&น�ต�ภาว่ะ จาก่ก่ารที่��ขยายส�ที่ธ�ที่างก่ารเม�องอย�างช�าๆ เช�นน�� ม�ผลอย�างหน-�ง คื�อ ที่�าให�ผ��ที่��จะได้�ส�ที่ธ�Lต�องด้��นรนต�อส��เพื่��อให�ได้�มาซึ่-�งส�ที่ธ�Lที่&ก่ๆ ข��นตอน และเม��อได้�มาแล�ว่ก่8ร� �จ�ก่ใช�ส�ที่ธ�Lอย�างผ��ร �บผ�ด้ชอบ ฉะน��น ในช�ว่งหล�งของศตว่รรษที่�� 19 จะไม�เคืยได้�ย�นได้�ฟิ%งป็%ญ่หาของก่ารซึ่��อเส�ยงอ�ก่เลย

ความส�มพิ�นื้ธ�ระหว1างสภูาข2นื้นื้าง แลัะสภูาสาม�ญภายหล�งก่ารป็ฏ�ว่�ต�ร�ฐสภา ป็B คื.ศ.1688 สภาข&นนางเป็ นสภาที่��ม�อ�ที่ธ�พื่ลส�งส&ด้ ซึ่-�ง

คืว่บคื&มก่ารด้�าเน�นก่ารที่างก่ารเม�องของสภาสาม�ญ่ ผ��แที่นฯ ในสภาสาม�ญ่ส�ว่นใหญ่� ก่8คื�อ ญ่าต�พื่��น�อง หร�อผ��ใก่ล�ช�ด้ของข&นนางส�ว่นมาก่ และต�ว่นายก่ร�ฐมนตร� และร�ฐมนตร�ส�ว่นหน-�ง

Page 52: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่8มาจาก่สภาข&นนาง ต�อมาเม��อเก่�ด้ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงผ��ม�คื&ณสมบ�ต�เล�อก่ต��ง ขยายส�ที่ธ�ให�แก่�ป็ระชาชนส�ว่นใหญ่� และชนช��นก่ลางจาก่เม�องอ&ตสาหก่รรมเร��มเข�ามาม�เส�ยงในสภาสาม�ญ่ อ�ที่ธ�พื่ลของสภาสาม�ญ่เร��มส�งมาก่ข-�น จนในที่��ส&ด้อ�านาจในสภาข&นนางในก่ารที่��จะย�บย��งก่ฎีหมาย และพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ก่ารเง�นได้�เร��มลด้ลง ใน คื.ศ.1911 ได้�ม�พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ลด้อ�านาจส�ที่ธ�ก่ารย�บย��ง ของสภาข&นนางไว่�อย�างช�ด้เจน

น�บต��งแต�น��นมา ผ��ที่��จะมาเป็ นนายก่ร�ฐมนตร� จ-งมาจาก่สภาสาม�ญ่ศ�นย�ก่ลางของก่ารเม�องจ-งอย��ที่��สภาสาม�ญ่ (House of Commons)

ระบอบประชั้าธ�ปไติยแบบร�ฐสภูาร�ฐสภาเป็ นศ�นย�ก่ลางของก่ารป็ก่คืรอง อ�านาจอธ�ป็ไตยอย��ที่��สถึาบ�นน��ในเว่ลาป็ก่ต�ที่��

ไม�ม�ก่ารเล�อก่ต��ง ไม�ม�ก่ารแบ�งแยก่อ�านาจออก่เป็ น 3 ส�ว่นอย�างเด้8ด้ขาด้ ก่ารแบ�งแยก่เป็ นบที่บาที่และหน�าที่��มาก่ก่ว่�า เม��อร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรองม�ล�ก่ษณะด้�งก่ล�าว่ป็ระเด้8นคื�าถึามที่��ตามมา ก่8คื�อ จัะปBองก�นื้ม�ได.เก�ดเผู้ด<จัการทางร�ฐสภูาได.หร�อไม1

คื�าตอบก่8คืงจะเป็ นว่�า เผด้8จก่ารที่างร�ฐสภาคืงไม�เก่�ด้ข-�น แต�ร�ป็แบบน��ช�ว่ยส�งเสร�มให�ร�ฐบาลที่��คื&มเส�ยงข�างมาก่ในร�ฐสภาบร�หารงานตามเป็Aาหมายได้�สะด้ว่ก่ย��งข-�น แต�จะบร�หารงานอย�างราบร��น ม�คืว่ามม��นคืงและม�เสถึ�ยรภาพื่แคื�ไหน ก่8ข-�นอย��ก่�บพื่รรคืก่ารเม�องซึ่-�งบ�งเอ�ญ่ของอ�งก่ฤษเป็ น ระบบสองพื่รรคื คื�อม�พื่รรคืใหญ่�ๆ 2 พื่รรคื

เม��อพื่รรคืหน-�งเป็ นร�ฐบาล อ�ก่พื่รรคืหน-�งก่8เป็ นฝ่Eายคื�านฉะน��น จ-งม�ก่ก่ล�าว่ก่�นว่�า นายก่ร�ฐมนตร�อ�งก่ฤษน��น เม��อได้�ร�บเส�ยงสน�บสน&นจาก่

พื่รรคืก่ารเม�องของตนซึ่-�งคื&มเส�ยงส�ว่นใหญ่�ในร�ฐสภาแล�ว่ จะม�อ�านาจบร�หารได้�อย�างม�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่มาก่ก่ว่�าป็ระธานาธ�บด้�ของสหร�ฐเส�ยอ�ก่

แต�อ�านาจของฝ่Eายบร�หารซึ่-�งด้�จะม�มาก่ตามระบบน�� ก่8ย�งม�ใช�อ�านาจเผด้8จก่าร ที่��งน�� เพื่ราะขนบธรรมเน�ยมได้�ยอมร�บให�ม�ฝ่Eายคื�านในร�ฐสภา โด้ยห�ว่หน�าพื่รรคืของฝ่Eายคื�านจะได้�ร�บก่ารยอมร�บว่�าเป็ น นื้ายกร�ฐมนื้ติร*เงา ได้�ร�บเง�นเด้�อนมาเป็ นพื่�เศษส�งก่ว่�าผ��แที่นราษฎีร

พื่รรคืฝ่Eายคื�านน��จะที่�าหน�าที่��ย�บย��งม�ให�ฝ่Eายร�ฐบาลสามารถึด้�าเน�นก่ารใด้ๆ ที่��ข�ด้ต�อผลป็ระโยชน�ของส�ว่นรว่ม เพื่ราะในที่��ส&ด้ป็ระชาชนจะเป็ นผ��ต�ด้ส�นว่�าใคืรผ�ด้ใคืรถึ�ก่ โด้ยเฉพื่าะในสม�ยเล�อก่ต��งซึ่-�งจะต�องม�ข-�นที่&ก่ๆ 5 ป็B หร�อภายในเว่ลา 5 ป็B ฝ่Eายคื�านจ-งเป็ นก่ลไก่ของก่ารถึ�ว่งด้&ลอ�านาจของฝ่Eายร�ฐบาล

ร�ฐธรรมน�ญ่อ�งก่ฤษเป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บเด้�ยว่ในโลก่ที่��ว่�ว่�ฒนาก่ารตามเหต&ก่ารณ�ในป็ระว่�ต�ศาสตร�อ�งก่ฤษ แต�ผ��ที่��เก่��ยว่ข�องไม�ได้�คื�ด้ถึ-งส�ที่ธ�หร�ออ&ด้มก่ารณ�จะเป็ นป็ระชาธ�ป็ไตยโด้ยตรง แต�ต�อส��ด้��นรนเพื่��ออ�านาจและป็ระโยชน�ของชนช��นของตนเอง

การปกครองประเทศสหร�ฐอเมร�กา : ระบบประธานื้าธ�บด*

Page 53: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ร�ฐธรรมน�ญ่ของสหร�ฐอเมร�ก่าเป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษรฉบ�บที่��เก่�าแก่�ที่��ส&ด้ในโลก่ป็%จจ&บ�น โด้ยเร��มต�นจาก่ก่ารที่��ผ��แที่นของร�ฐต�างๆ 12 ร�ฐที่��มาป็ระช&มก่�นที่��เม�องฟิ=ลาเด้ลเฟิBย ป็B คื.ศ.1787 น��นโด้ยเจตนาจะมาเพื่�� อแก่�ไขมาตราของร�ฐธรรมน�ญ่ของสมาพื่�นธร�ฐเด้�ม แต�เม��อมาถึ-งแล�ว่ก่ล�บก่ลายมาเป็ นผ��ร �างร�ฐธรรมน�ญ่ใหม� โด้ยที่��ง 55 คืนที่��ร�างร�ฐธรรมน�ญ่ใหม�น��ส�ว่นมาก่ม�พื่��นเพื่จาก่ชนช��นที่��ม�ที่ร�พื่ย� ส�ว่นมาก่จะเอ�ยงไป็ที่างอน&ร�ก่ษ�น�ยม ม�คืว่ามเก่รงก่ล�ว่เร��องผลของคืว่ามร&นแรงจาก่พื่ล�งป็ระชาธ�ป็ไตย อ�นที่��จร�งเขาเหล�าน��พื่��นเพื่เด้�ม คื�อ ม�บรรพื่บ&ร&ษที่��อพื่ยพื่มาจาก่อ�งก่ฤษ จ-งได้�ร�บก่ารศ-ก่ษาแบบอ�งก่ฤษ คืว่ามคื�ด้ที่างก่ารเม�องของน�ก่ป็ร�ชญ่า เช�น จอห�น ล8อก่ และมองเตสก่�เออร� ม�อ�ที่ธ�พื่ลต�อก่ล&�มผ��น�าเหล�าน��มาก่ นอก่จาก่น�� ก่ล&�มผ��น�าเหล�าน��ย�งได้�ผ�านสงคืรามก่��อ�สรภาพื่ป็ลด้แอก่จาก่อ�งก่ฤษ ฉะน��น จ-งร� �คื&ณคื�าของอ�สรภาพื่เป็ นอย�างด้� และซึ่าบซึ่-�งว่�าก่ารป็ก่คืรองม�ใช�เร��องก่ารให�เสร�ภาพื่แต�เพื่�ยงอย�างเด้�ยว่ แต�เป็ นเร��องของก่ารจ�ด้ต��งร�ฐบาลที่��เข�มแข8งเพื่��อจะบร�หารป็ระเที่ศได้� ร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรองแบบสมาพื่�นธร�ฐขณะน��น ไม�ม�ก่ารจ�ด้ต��งร�ฐบาลก่ลางเลยม�แต�สภาคืองเก่รส ซึ่-�งสภาคืองเก่รสจะผ�านพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ใด้ๆ ได้� ก่8ต�อเม��อได้�ร�บเส�ยงสน�บสน&น 9 จาก่ 13 เส�ยง และถึ�าหาก่จะแก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บน��ก่8ต�องได้�ร�บคืว่ามเห8นชอบเป็ นเอก่ฉ�นที่�จาก่ที่&ก่ร�ฐ

ในเม��อระด้�บป็ระเที่ศไม�ม�ร�ฐบาลก่ลางที่��จะมาจ�ด้เก่8บภาษ� และไม�ม�ก่องที่�พื่ของชาต�ที่��จะป็ก่ป็Aองป็ระเที่ศ สหร�ฐจ-งป็ระสบป็%ญ่หาในก่ารบร�หารมาก่มาย เช�น ป็%ญ่หาของก่ารใช�หน��สงคืรามที่��ผ�านไป็ ป็%ญ่หาต�างป็ระเที่ศ ป็%ญ่หาก่ารป็Aองก่�นป็ระเที่ศ ป็%ญ่หาภ�ยจาก่เผ�าอ�นเด้�ยนแด้ง ป็%ญ่หาของก่ารร�ก่ษาคืว่ามสงบเร�ยบร�อยภายในป็ระเที่ศ เป็ นต�น

ฉะน��น ก่ล&�มผ��น�าจาก่ 12 ร�ฐ ที่��มาป็ระช&ม (ขาด้ผ��แที่นร�ฐโรด้ ไอซึ่�แลนด้� 1 ร�ฐ) จ-งเป็ นผ��ม�อ&ด้มคืต�และม�ป็ระสบก่ารณ�ที่��คื�อนข�างลบจาก่ร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรองสมาพื่�นธร�ฐ เขาเหล�าน��นจ-งเป็ล��ยนใจจาก่เด้�มที่��ม�เจตนามณ�จะมาแก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่เด้�ม ก่8ก่ลายเป็ นผ��ร �างร�ฐธรรมน�ญ่ใหม� ในบรรด้าผ��น�า 55 คืนน�� ม�น�ก่คื�ด้ น�ก่ป็ร�ชญ่า และร�ฐบ&ร&ษในอด้�ตและอนาคืตหลายที่�าน เช�น ยอร�จ ว่อช�งต�น เบนจาม�น แฟิรงคืล�น และเจมส� เมด้�ส�น

เมด้�ส�นน��นถึ�อก่�นว่�า เป็ นผ��สะที่�อนคืว่ามคื�ด้ของคืนสม�ยน��นมาก่ที่��ส&ด้ จาก่ก่ารที่��เขาม�แนว่คืว่ามคื�ด้ก่�าว่หน�า ขณะเด้�ยว่ก่�นก่8ไม�หลงใหลหร�อหลงละเมอก่�บคื�าว่�า เส*ยงของ“

ประชั้าชั้นื้” เสมอไป็ เขาคื�ด้ว่�า มน&ษย�เราม�ก่เข�าข�างตนเอง สามารถึที่�าคืว่ามช��ว่ได้�เสมอ ฉะน��น จ�าเป็ นต�องหาว่�ธ�ก่ารที่��จะเป็ นสองอย�างคืว่บคื��ก่�นไป็ คื�อ ป็ระก่ารแรก่ จะต�องหาว่�ธ�ก่ารสร�างร�ฐบาลก่ลางให�เข8มแข8งพื่อที่��จะป็ก่คืรองคืนได้� และป็ระก่ารที่��สอง จะต�องหาว่�ธ�ก่ารที่��จะสร�างก่ลไก่เพื่��อให�ร�ฐบาลคืว่บคื&มตนเอง ในก่ารสร�างร�ฐบาลเพื่��อให�มน&ษย�ป็ก่คืรองมน&ษย�ก่�นเอง คืว่ามยาก่ล�าบาก่จ-งอย��ที่��ว่�า ป็ระก่ารแรก่ จะต�องให�อ�านาจแก่�ร�ฐบาลก่ลางเพื่��อที่��จะสามารถึคืว่บคื&มผ��อย��ใต�ป็ก่คืรองได้� ก่�าหนด้ให�ร�ฐบาลสามารถึคืว่บคื&มตนเองได้� และจ�าเป็ นจะต�องม�มาตรก่ารที่��จ�าเป็ นไว่�เพื่��อป็Aองก่�นผลเส�ยหาย

Page 54: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เสร�ภาพื่และเสถึ�ยรภาพื่ม��นคืงระหว่�างก่ารสร�างร�ฐบาลชาต�ให�ม�อ�านาจป็ก่คืรองป็ระเที่ศได้� ขณะเด้�ยว่ก่�นธ�ารงร�ก่ษาส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ของมลร�ฐที่��จะป็ก่คืรองตนเองในระด้�บหน-�ง

หลั�กการของร�ฐธรรมนื้"ญสหร�ฐอเมร�กา 1) ร�ฐธรรมนื้"ญสร.างระบบการปกครองแบบสมาพิ�นื้ธร�ฐ (Federation) เป็ นร�ป็แบบที่��

ม�ที่��งร�ฐบาลก่ลางและร�ฐบาลของมลร�ฐต�างๆ ป็ระเด้8นคื�อ จะแบบอ�านาจก่�นอย�างไรระหว่�างสองระด้�บน��

มาติรา 1 ส1วนื้ท*+ 8 ได้�ก่�าหนด้อ�านาจของสภาคืองเก่รสไว่�อย�างช�ด้เจน เช�น อ�านาจที่��จะจ�ด้เก่8บภาษ�อาก่ร ใช�หน��ร �ฐบาล จ�ด้ก่ารป็Aองก่�นป็ระเที่ศ ก่ารก่��ย�มหน��ส�น ก่ารออก่ระเบ�ยบก่ฎีเก่ณฑ์�เก่��ยว่ก่�บก่ารคื�าก่�บต�างป็ระเที่ศและระหว่�างมลร�ฐต�างๆ อ�านาจที่��จะผล�ตเง�นตราและก่�าหนด้คื�าของเง�นตรา จ�ด้ต��งก่องที่�พื่ ป็ระก่าศสงคืราม และออก่พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต� “ที่��จ�าเป็ นและเหมาะสม เพื่��อด้�าเน�นก่ารตามนโยบายและอ�านาจหน�าที่��ด้�งก่ล�าว่”

ในขณะเด้�ยว่ก่�นใน มาติรา 1 ส1วนื้ท*+ 10 ก่8ได้�จ�าก่�ด้อ�านาจของมลร�ฐในหลายๆ เร��อง เช�น ห�ามม�ให�มลร�ฐที่�าส�ญ่ญ่าก่�บต�างป็ระเที่ศ ห�ามผล�ตเง�นตรา เป็ นต�น

ต�อมาได้�แก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ ในมาตรา 10 ก่�าหนด้ว่�า อ�านาจที่��ม�ได้�ก่�าหนด้ให�เป็ นของสหร�ฐ และย�งม�ได้�เป็ นข�อห�ามส�าหร�บมลร�ฐให�เป็ นอ�านาจของมลร�ฐ น��คื�อหล�ก่ที่��เร�ยก่ก่�นว่�า อ�านาจที่��ย�งคืงเหล�อ ของร�ฐ “ ” (Residual Power)

ขณะเด้�ยว่ก่�นในมาตรา 6 ส�ว่นที่�� 2 ของร�ฐธรรมน�ญ่ก่8ก่�า หนด้ไว่�อ�ก่ว่� า ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บน��และก่ฎีหมายของร�ฐที่��จะออก่ภายใต�ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บน�� จะม�คืว่ามเป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ของป็ระเที่ศ ผ��พื่�พื่าก่ษาในที่&ก่ๆ มลร�ฐจะต�องย-ด้ถึ�อก่ฎีหมายเหล�าน��เป็ นแนว่ป็ฏ�บ�ต� เร�ยก่ก่�นว่�า หล�ก่ของก่ฎีหมายส�งส&ด้ (Supremacy Clause)

นอก่จาก่น��น ย�งม�ก่ารป็ระน�ป็ระนอมที่��ส�าคื�ญ่อ�ก่เร��องหน-�งระหว่�างมลร�ฐด้�ว่ยก่�นอง โด้ยก่�าหนด้ให�สภาคืองเก่รสป็ระก่อบด้�ว่ย 2 สภา คื�อ สภาผ��แที่นราษฎีร และว่&ฒ�สภา ส�าหร�บสภาผ��แที่นราษฎีรจะใช�หล�ก่ก่ารเล�อก่ต��งโด้ยตรง บนพื่��นฐานของจ�านว่นป็ระชาก่รผ��ม�ส�ที่ธ� ส�ว่นว่&ฒ�สภาก่�าหนด้ให�แต�ละร�ฐส�งสมาช�ก่ให�ร�ฐละ 2 คืน

2) ร�ฐธรรมนื้"ญสร.างระบบการแบ1งแยกอ�า นื้าจั (Separation of Powers) ผ�� ร�างร�ฐธรรมน�ญ่ย�งไม�พื่อใจเพื่�ยงก่ารแบ�งอ�านาจระหว่�างร�ฐบาลก่ลางก่�บร�ฐบาลมลร�ฐเที่�าน��น ย�งต�องแยก่อ�านาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� อ�านาจบร�หาร และอ�านาจต&ลาก่าร โด้ยก่�าหนด้ให�สภาคืองเก่รสม�อ�านาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� ป็ระธานาธ�บด้�อ�านาจบร�หาร และศาลม�อ�านาจต&ลาก่าร ตามหล�ก่ของมองเตสก่�เออร�

ในก่ารแบ�งแยก่อ�านาจน��ย�งได้�แยก่สถึาบ�นฝ่Eายบร�หารออก่จาก่สภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�คื�อนข�างจะเด้8ด้ขาด้ ก่ล�าว่คื�อ ที่��งสองสถึาบ�นม�ฐานอ�านาจแยก่ก่�น ป็ระธานาธ�บด้�ได้�ร�บก่ารเล�อก่ต��งจาก่ป็ระชาชน ม�ว่าระสม�ย 4 ป็B แต�งต��งคืณะร�ฐมนตร�ของที่�านเอง สภาคืองเก่รสไม�ม�อ�านาจจะล�มร�ฐบาล ส�ว่นสภาคืองเก่รสก่8เช�นก่�น ได้�ร�บก่ารเล�อก่ต��งมาจาก่ป็ระชาชน

Page 55: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร ม�ว่าระสม�ย 2 ป็B และ ส�า หร�บว่& ฒ�สภาม�ว่าระสม�ย 6 ป็B ป็ระธานาธ�บด้�ไม�สามารถึย&บสภาคืองเก่รสได้�

3) ร�ฐธรรมนื้"ญสร.างระบบติรวจัสอบแลัะคานื้อ�านื้าจั (Checks and Balance) นอก่จาก่จะแบ�งแยก่อ�านาจแล�ว่ ผ��ร �างร�ฐธรรมน�ญ่ย�งก่�าหนด้ให�ม�ก่ารตรว่จสอบหร�อคืนอ�านาจซึ่-�งก่�นและก่�นได้� เช�น สภาคืองเก่รสม�อ�านาจในก่ารออก่พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต� แต�ป็ระธานาธ�บด้�ม�ส�ที่ธ�ที่��จะย�บย��งได้� (Veto)

อย�างไรก่8ตาม เม��อป็ระธานาธ�บด้�ได้�ใช�ส�ที่ธ�ย�บย��งแล�ว่ หาก่ร�างพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�น��นได้�ผ�านก่ารพื่�จารณาของสภาคืองเก่รสเป็ นคืร��งที่��สอง โด้ยได้�ร�บเส�ยงสน�บสน&น 2 ใน 3 ก่8จะออก่เป็ นก่ฎีหมายได้�

ในที่างก่ล�บก่�นป็ระธานาธ�บด้�เป็ นผ��ม�อ�านาจ แต�งต��งผ��พื่�พื่าก่ษาในศาลส�งส&ด้และร�ฐมนตร� แต�ก่ารเสนอเพื่��อแต�งต��งน��จะต�องได้�ร�บคืว่ามเห8นชอบจาก่ว่&ฒ�สภาเส�ยก่�อน ผ��พื่�พื่าก่ษาน��นเม��อได้�ร�บแต�งต��งแล�ว่ แต�สภาคืองเก่รสก่8สามารถึที่��จะก่ล�าว่โที่ษผ��พื่�พื่าก่ษาได้�เม�� อม�เหต&หร�อมลที่�นม�ว่หมอง ในที่�านองเด้�ยว่ก่�นว่�าศาลส�งส&ด้ม�อ�านาจที่��จะป็ระก่าศว่�าก่ฎีหมายใด้ข�ด้ก่�บร�ฐธรรมน�ญ่

4) ร�ฐธรรมนื้"ญย&ดหลั�กของการจั�ดติ�งร�ฐบาลัท*+ได.ร�บการเลั�อกติ�งจัากประชั้าชั้นื้ หล�ก่ก่ารที่��เป็ นแม�บที่ก่ารป็ก่คืรองของร�ฐธรรมน�ญ่สหร�ฐ คื�อ หล�ก่ของก่ารป็ก่คืรองโด้ยคืว่ามย�นยอมเห8นชอบของป็ระชาชน หล�ก่ก่ารน��จะบรรล&เป็Aาหมายได้�ต�อเม��อจ�ด้ให�ม�ระบบก่ารเล�อก่ต��งในที่&ก่ต�าแหน�งที่��เก่��ยว่ข�องก่�บอ�านาจก่ารป็ก่คืรอง

ป็ระธานาธ�บด้�และรองป็ระธานาธ�บด้�ได้�ร�บก่ารเล�อก่ต��งโด้ยคืณะผ��เล�อก่ต��ง ซึ่-�งได้�ร�บอาณ�ต�จาก่ป็ระชาชนให�มาเล�อก่ป็ระธานาธ�บด้� ส�ว่นผ��แที่นราษฎีรในสภาล�างและว่&ฒ�สมาช�ก่ได้�ร�บก่ารเล�อก่ต��งเช�นก่�น ผ��พื่�พื่าก่ษาอาจจะไม�ได้�ร�บก่ารเล�อก่ต��ง แต�ป็ระธานาธ�บด้�เป็ นผ��แต�งต��งโด้ยคืว่ามเห8นชอบของว่&ฒ�สภา

ฉะน��น จะเห8นได้�ว่�าผ��ร �างร�ฐธรรมน�ญ่ม�ศร�ที่ธาต�อระบบก่ารเล�อก่ต��งมาก่ และเช��อม��นว่�า ร�ฐบาลที่��เป็ นต�ว่แที่นของป็ระชาชนน��จะเป็ นร�ฐบาลที่��เลว่น�อยที่��ส&ด้ เพื่ราะที่&ก่คืนที่��ได้�ร�บก่ารเล�อก่ต��งย�อมต�องมาร�บผ�ด้ชอบต�อผ��เล�อก่ตนในสม�ยก่ารเล�อก่ต��งคืร��งต�อไป็

5) หลั�กของส�ทธ�เสร*ภูาพิของมนื้2ษยชั้นื้ หล�ก่ของส�ที่ธ�เสร�ภาพื่เป็ นหล�ก่ข��นม�ลฐานที่��จะอ�านว่ยให�ระบบก่ารป็ก่คืรองแบบเล�อก่ต��งได้�เป็ นป็ระชาธ�ป็ไตยได้�สมบ�รณ�แบบ

โดยสร2ป ร�ป็แบบก่ารป็ก่คืรองของสหร�ฐ อาจจะเร�ยก่ได้�ว่�า ป็ระชาธ�ป็ไตยพื่ห&น�ยม (Pluralist Democracy) คื�อ อ�านาจก่ารป็ก่คืรองก่ระจ�ด้ก่ระจายอย��หลายข��ว่หลายศ�นย� นอก่จาก่น��นย�งม�ร�ป็แบบของระบบป็ระธานาธ�บด้�ซึ่-�งรว่มบที่บาที่ของป็ระม&ขและของนายก่ร�ฐมนตร�ไว่�ในคืนๆ เด้�ยว่ก่�น จ&ด้เด้�นของร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บน��ม�คื&ณสมบ�ต�ตรงที่��ม�คืว่ามเร�ยบง�าย (Simplicity)

Page 56: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ไม�ก่�าหนด้รายละเอ�ยด้มาก่มาย แต�เป็=ด้ที่างก่ว่�างๆ ไว่�เพื่�� อให�ม�ก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มตามสถึานก่ารณ�ที่��เป็ล��ยนแป็ลงในอนาคืต

การปกครองฝ่ร�+งเศส : ระบบสาธารณร�ฐท*+ 5จาก่ย&คืสม�ยก่ารป็ฏ�ว่�ต� คื.ศ.1789 ได้�ม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บใหม� ไม�

น�อยก่ว่�า 9 ฉบ�บ ในรอบ 200 ป็B เน��องด้�ว่ยอ&ป็น�ส�ยของชาว่ฝ่ร��งเศสที่��ชอบล�ที่ธ�อ&ด้มก่ารณ� และชอบคืว่ามแตก่ต�างระหว่�างบ&คืคืล ในสม�ยสาธารณร�ฐที่�� 4 ซึ่-�งใช�ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บหน-�ง เสถึ�ยรภาพื่ของคืณะร�ฐบาลม�ป็%ญ่หามาก่ที่�� ในช�ว่งเว่ลา 12 ป็B ของสาธารณร�ฐน�� (1946-

1958) ม�ร�ฐบาลถึ-ง 13 ช&ด้ แต�ในร�ฐธรรมน�ญ่ของสาธารณร�ฐที่�� 5 ร�ฐบาลแต�ละช&ด้อย��ได้�ย��งย�นมาก่ และน��ก่8ป็ก่คืรองก่�นมาถึ-ง 32 ป็B แล�ว่ย�งม�เถึ�ยรภาพื่ด้�อย��

ฉะน��น ที่��ว่โลก่จ-งสนใจร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บที่��นายพื่ลเด้อโก่ลได้�จ�ด้ต��งข-�นมาก่ว่�า ม�เคืล8ด้ล�บที่��ที่�าให�ชนชาต�ฝ่ร��งเศสที่��ม�อารมณ�ผ�นแป็รง�าย เด้�นขบว่นง�าย ก่บฏก่8ง�าย ป็ฏ�ว่�ต�ก่8ง�าย แต�บ�ด้น��ก่ล�บสงบเง�ยบ และย�งไม�ม�ที่�ที่�าอยาก่จะเป็ล��ยนไป็เป็ นระบบอ��น

ก่�อนอ��นขอที่บที่ว่นเหต&ก่ารณ�ในป็ระว่�ต�ศาสตร�ก่�อน ป็ระเที่ศฝ่ร��งเศสในสม�ยเร��มแรก่ก่8ม�ระบบก่ารป็ก่คืรองคืล�ายคืล-งก่�บของอ�งก่ฤษในสม�ยย&คืศ�ก่ด้�นา คื�อ อ�านาจก่ารป็ก่คืรองก่ระจ�ด้ก่ระจายไป็อย��ที่��ข&นนางต�างๆ ก่ษ�ตร�ย�ฝ่ร��งเศสในสม�ยก่ลางม�คืว่ามอ�อนแอก่ว่�าของอ�งก่ฤษมาก่ บางย&คืสม�ยป็ก่คืรองได้�เพื่�ยงคืร-�งหน-�งของป็ระเที่ศในป็%จจ&บ�น อาจจะเป็ นเพื่ราะสภาพื่ก่ารณ�เช�นน��น จ-งที่�าให�ก่ษ�ตร�ย�ฝ่ร��งเศสม&�งสร�างอ�านาจส�ว่นก่ลางมาก่

จนก่ระที่��งในสม�ยพื่ระเจ�าหล&ยส�ที่��14 ก่ษ�ตร�ย�ฝ่ร��งเศสที่��ชาว่ย&โรป็ถึ�อก่�นว่�าเป็ นต�ว่อย�างที่��ด้�ของผ��ป็ก่คืรอง คื�อ ม�อ�านาจมาก่ ได้�จ�ด้ระเบ�ยบก่ารคืล�ง ก่ารป็ก่คืรองที่�าให�ก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�นม�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่ส�ง ถึ�อก่�บที่รงก่ล�าว่เก่��ยว่ก่�บพื่ระองคื�เองว่�า ร�ฐค�อ“

ติ�วข.าพิเจั.า” หร�อ ติ�วข.าพิเจั.าค�อร�ฐ“ ” และเพื่ราะคืว่ามเข�มแข8งของพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย� คืว่ามเป็ นอย��ของข&นนางก่8เร��มเห�นห�างจาก่ป็ระชาชนในชนบที่

หล�งจาก่ในสม�ยพื่ระเจ�าหล&ยส�ที่�� 14 ก่8ไม�ม�ก่ษ�ตร�ย�ที่��ที่รงเข�มแข8งและอ�จฉร�ยะ และเก่�ด้ป็%ญ่หารายจ�ายส�งก่ว่�ารายได้� เพื่ราะก่ารสงคืรามนอก่ป็ระเที่ศ ระบบก่ารคืล�งเร��มล�มเหลว่ ขณะเด้�ยว่ก่�น ข&นนางไม�ได้�เอาใจใส�ต�อก่ารป็ร�บป็ร&งที่��ด้�นของตน คือยแต�จะร�ด้ภาษ�และส�ว่ยของราษฎีร ที่�าให�เก่�ด้ระบบก่ารก่ด้ข��และระบบอภ�ส�ที่ธ�Lมาก่มาย คืว่ามม��งคื��งที่างเศรษฐก่�จลด้น�อยลง ป็ระจว่บก่�บก่ารต��นต�ว่ที่างคืว่ามคื�ด้ น�ก่ป็ร�ชญ่าเมธ�เร��มเผยแพื่ร�ล�ที่ธ� และแนว่คื�ด้ใหม�ในเร��องส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ของป็ระชาชน แต�ระบบก่ารป็ก่คืรองก่8ไม�สามารถึจะป็ร�บต�ว่ให�ที่�นก่�บป็%ญ่หาและก่ารเป็ล��ยนแป็ลงเหล�าน��

ในที่��ส&ด้ได้�เก่�ด้ก่ารป็ฏ�ว่�ต�คืร��งย��งใหญ่�ในป็B คื.ศ.1789 และเก่�ด้ก่ารต�อส��และคืว่ามร&นแรงที่างคืว่ามคื�ด้ระหว่�างก่ล&�มก่ารเม�องต�างๆ ในช�ว่ง 1789-1795 ที่�าให�ชาว่ฝ่ร��งเศส

Page 57: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

แตก่แยก่ที่างคืว่ามคื�ด้ และด้�ว่ยคืว่ามเป็ นชนชาต�เช��อสายละต�นซึ่-�งม�อารมณ�ศร�ที่ธาในแนว่คื�ด้ของตนเองอย�างมาก่ จ-งไม�ม�ก่ารป็ระน�ป็ระนอมก่�น

คืว่ามข�ด้แย�งก่�นและป็%ญ่หาที่��เก่�ด้ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงร�ฐธรรมน�ญ่ จะข�อน�ามาเป็ นป็ระเด้8นในก่ารพื่�จารณา โด้ยจะเป็ร�ยบเที่�ยบร�างร�ฐธรรมน�ญ่ป็B 1946 ซึ่-�งพื่รรคืก่ารเม�องฝ่Eายซึ่�ายม�อ�ที่ธ�พื่ลในก่ารร�าง ก่�บร�ฐธรรมน�ญ่ ป็B คื.ศ.1958 ซึ่-�งนายพื่ลชาร�ล เด้อ โก่ล และน�ก่ก่ารเม�องฝ่Eายขว่าม�อ�ที่ธ�พื่ลในก่ารร�าง

ประการแรก คืว่รจะต��งเป็ นข�อส�งเก่ตเบ��องต�นว่�า เน��องจาก่ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บแรก่ของฝ่ร��งเศสเก่�ด้จาก่ก่ารป็ฏ�ว่�ต�คืร��งส�าคื�ญ่ที่��ส&ด้ในป็ระว่�ต�ศาสตร�อ&ด้มก่ารณ�ของน�ก่ป็ฏ�ว่�ต�จ-งม�อ�ที่ธ�พื่ลต�อร�ฐธรรมน�ญ่น�� และฉบ�บอ��นๆ ที่��ตามมา อ&ด้มก่ารณ�เหล�าน�� สร&ป็เป็ นคื�าขว่�ญ่ได้� 3

ว่ล� คื�อ คืว่ามเสมอภาคื เสร�ภาพื่ และภราด้รภาพื่ ซึ่-�งจะป็ราก่ฏอย��ในร�ฐธรรมน�ญ่ของสาธารณร�ฐที่�� 4 และที่�� 5 นอก่จาก่น��น ย�งก่ล�าว่ถึ-งหล�ก่อธ�ป็ไตยเป็ นของป็ว่งชนและเจตนาที่��จะสร�างระบบก่ารป็ก่คืรองแบบป็ระชาธ�ป็ไตย ซึ่-�งหมายถึ-ง ก่ารป็ก่คืรองของป็ระชาชน เพื่��อป็ระชาชน อ&ด้มก่ารณ�ที่างก่ารเม�องเหล�าน��ไม�ป็ราก่ฏในร�ฐธรรมน�ญ่อ�งก่ฤษหร�ออเมร�ก่า

ประการท*+สอง เน��องจาก่ฝ่ร��งเศสเร��มป็ระว่�ต�ศาสตร�สม�ยใหม�โด้ยก่ารล�มระบบก่ษ�ตร�ย� ฉะน��นระบบสาธารณร�ฐจ-งเป็ นที่างเล�อก่ที่��ต�องเล�อก่ ในระบบของฝ่ร��งเศส จะแยก่อ�านาจหน�าที่��ของป็ระธานาธ�บด้�ออก่จาก่อ�านาจหน�าที่��ของนายก่ร�ฐมนตร�

เม��อได้�แยก่บที่บาที่เป็ น 2 ส�ว่น คื�อ ส�ว่นของป็ระธานาธ�บด้�ซึ่-�งจะที่�าหน�าที่��คืล�ายๆ ก่ษ�ตร�ย�ภายใต�ร�ฐธรรมน�ญ่ และส�ว่นของนายก่ร�ฐมนตร�จ-งม�ป็ระเด้8นป็%ญ่หาเก่�ด้ข-�นในเร��องคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างป็ระธานาธ�บด้�ก่�บนายก่ร�ฐมนตร�

ก่าร�างร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บต�างๆ เพื่��อแบ�งแยก่บที่บาที่หน�าที่��และคืว่ามส�มพื่�นธ�ของสองต�าแหน�งน�� จ-งม�ป็%ญ่หาอย��เสมอในร�ฐธรรมน�ญ่ป็B 1946 ของสาธารณร�ฐที่�� 4 อ�านาจของป็ระธานาธ�บด้�จะน�อยก่ว่�าในร�ฐธรรมน�ญ่ป็B 1958 ของสาธารณร�ฐที่�� 5

ประการแรก ในฉบ�บ 1946 ร�ฐสภาเป็ นผ��เล�อก่ต��งป็ระธานาธ�บด้� แต�ในฉบ�บ 1958

ผ��เล�อก่ต��งคื�อ สมาช�ก่ของร�ฐสภา นายก่เที่ศมนตร� และสมาช�ก่สภาที่�องถึ��น ซึ่-�งที่�าให�ฐานอ�านาจของป็ระธานาธ�บด้�ของสาธารณร�ฐที่�� 5 ก่ว่�างก่ว่�าในสม�ยสาธารณร�ฐที่�� 4 ต�อมาในป็B คื.ศ.1962 ได้�ม�ก่ารแก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่ โด้ยให�ป็ระชาชนผ��ม�คื&ณสมบ�ต�เล�อก่ต��งเป็ นผ��เล�อก่ต��งป็ระธานาธ�บด้�โด้ยตรง ซึ่-�งที่�าให�ฐานอ�านาจของป็ระธานาธ�บด้�เป็ นอ�สระจาก่ร�ฐสภา

ประการท*+สอง ในร�ฐธรรมน�ญ่ 1946 ป็ระธานาธ�บด้�ม�อ�านาจเสนอต�ว่นายก่ร�ฐมนตร�เที่�าน��น แต�ก่ารแต�งต��งจะเก่�ด้ข-�นเม��อสมาช�ก่ร�ฐสภาเห8นชอบด้�ว่ยเส�ยก่�อน แต�ในร�ฐธรรมน�ญ่ 1958 ป็ระธานาธ�บด้�แต�งต��งนายก่ร�ฐมนตร�โด้ยตรง นอก่จาก่น��นป็ระธานาธ�บด้�จะม�บที่บาที่ที่��เด้�นช�ด้ในเร��องก่ารต�างป็ระเที่ศและม�อ�านาจป็ระก่าศสภาว่ะฉ&ก่เฉ�น อ�านาจที่��จะขอป็ระชามต�ที่��ว่ป็ระเที่ศในเร��องที่��ส�าคื�ญ่ของชาต� เร��องเก่��ยว่ก่�บป็ระชาคืมย&โรป็ สนธ�ส�ญ่ญ่าระหว่�างป็ระเที่ศ และก่ารแก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่

Page 58: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ประการท*+สาม คืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างฝ่E ายบร�หารก่�บฝ่E ายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� ในร�ฐธรรมน�ญ่ 1946 ย�งเป็ นคืว่ามส�มพื่�นธ�ที่��คืล�ายก่�บร�ฐธรรมน�ญ่อ�งก่ฤษ ก่ล�าว่คื�อ ร�ฐสภาจะเป็ นผ��เล�อก่ต��งป็ระธานาธ�บด้�และต�ว่ร�ฐมนตร�ก่8มาจาก่สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรหร�อว่&ฒ�สภา แต�ได้�ฉบ�บ 1958 ได้�แบ�งแยก่ฝ่Eายบร�หารออก่จาก่ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�คืล�ายก่�บของสหร�ฐ ซึ่-�งก่8คื�อ ผ��ที่��เป็ นร�ฐมนตร�ต�องลาออก่จาก่สมาช�ก่ภาพื่ของสภาผ��แที่นราษฎีรหร�อว่&ฒ�สภา ในฉบ�บป็B 1946 ให�อ�านาจสภาผ��แที่นราษฎีรเที่�าน��นที่��จะอภ�ป็รายไม�ไว่�ว่างใจได้� แต�ในฉบ�บ 1958 ได้�ให�อ�านาจที่��งสองสภาที่��จะอภ�ป็รายไม�ว่างใจ ที่��งน��ที่� �งสองฉบ�บก่�าหนด้ไว่�เหม�อนก่�นว่�าก่�อนลงคืะแนนเส�ยงต�องใช�เว่ลา 24 ช��ว่โมง หล�งจาก่ย&ต�ก่ารอภ�ป็รายไป็แล�ว่ เพื่��อให�สมาช�ก่ได้�ม�โอก่าสที่บที่ว่นคืว่ามร� �ส-ก่ต�างๆ

ในร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บ 1946 ได้�ให�อ�านาจแก่�นายก่ร�ฐมนตร�ที่��จะเสนอให�ป็ระธานาธ�บด้�ย&บสภาได้� แต�จะก่ระที่�าไม�ได้�ในช�ว่ง 18 เด้�อนแรก่ ยก่เว่�นแต�สภาผ��แที่นฯ ได้�เสนอญ่�ตต�อภ�ป็รายไม�ไว่�ว่างใจ 2 คืร��ง ในช�ว่ง 18 เด้�อนน�� แต�ในร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บใหม� ได้�ลด้ช�ว่งเว่ลา 18 เด้�อน เหล�อเพื่�ยง 1 ป็B

ประการท*+ส*+ ได้�ม�ก่ารแก่�ไขจาก่แต�เด้�มที่��ม�สภาเด้�ยว่ คื�อ สภาผ��แที่น ให�ม�สองสภา แต�ก่8ย�งก่�าหนด้ให�ว่&ฒ�สภาม�อ�านาจน�อยลงให�เป็ นเพื่�ยงก่ล��นก่รองงานเที่�าน��น

โดยสร2ป ร�ฐธรรมน�ญ่ที่��งสองฉบ�บของฝ่ร��งเศสแตก่ต�างก่�นในแง�ก่ารมอบอ�านาจให�แก่�ป็ระธานาธ�บด้�ซึ่-�งม�มาก่ข-�นในป็%จจ&บ�น เช�น อ�านาจในก่ารย&บสภา อ�านาจก่ารแต�งต��งนายก่ร�ฐมนตร� อ�านาจในก่ารป็ระก่าศสภาว่ะฉ&ก่เฉ�น และอ�านาจในก่ารคืว่บคื&มนโยบายก่ารต�างป็ระเที่ศและก่ารป็Aองก่�นป็ระเที่ศ ป็ระก่อบก่�บฐานอ�านาจของสาธารณร�ฐที่�� 5 ม�บที่บาที่ในฐานะผ��น�าของป็ระเที่ศเด้�นช�ด้มาก่ข-�น

คืว่ามแตก่ต�างที่��ส�า คื�ญ่อ�ก่อย�าง ก่8คื�อ ก่ารแบ�งแยก่อ�า นาจบร�หารก่�บอ�า นาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� ที่�าให�ร�ฐบาลเป็ นอ�สระจาก่แรงก่ด้ด้�นของร�ฐสภามาก่ข-�น ว่&ฒ�สภาก่8ม�คืว่ามเป็ นอ�สระจาก่สภาผ��แที่นฯ มาก่ข-�น (ซึ่-�งแต�เด้�ม สภาผ��แที่นฯ สามารถึเล�อก่สมาช�ก่ว่&ฒ�สภา 1 ใน 6 ของจ�านว่นที่��งหมด้) เพื่ราะม�ฐานอ�านาจจาก่ก่ารเล�อก่ต��งจาก่ภ�ม�ภาคื จ�งหว่�ด้ และเที่ศบาล

ก่ารก่�าหนด้ร�ฐธรรมน�ญ่ที่��เน�นอ�านาจบร�หารมาก่ข-�น และว่&ฒ�สภาก่8ถึ�ว่งด้&ลก่�บสภาผ��แที่นราษฎีรเช�นน��เป็ นผลงานของนายพื่ลเด้อ โก่ล และพื่รรคืก่ารเม�องฝ่Eายขว่า และฝ่Eายก่ลางซึ่-�งม�ส�ว่นส�าคื�ญ่ที่��ที่�า ให�ก่ารเม�องฝ่ร��งเศสม�เสถึ�ยรภาพื่มาก่ข-�นก่ว่�าคืร��งใด้ๆ ในป็ระว่�ต�ศาสตร�ฝ่ร��งเศส

ในสาธารณร�ฐที่�� 4 ใช�ระบบก่ารเล�อก่ต��งแบบอ�ตราส�ว่น ที่�าให�เก่�ด้พื่รรคืก่ารเม�องมาก่มาย แต�ในสาธารณร�ฐที่�� 5 ใช�ระบบแบ�งเขต เขตละ 1 คืน ให�ม�ก่ารลงคืะแนนเส�ยงได้� 2

คืร��ง ระบบน��ที่�าให�จ�านว่นพื่รรคืน�อยลง และย�งที่�าให�ระบบก่ารเม�องของฝ่ร��งเศสพื่�ฒนาข-�นไป็มาก่ก่ว่�าภายหล�งสงคืราม จ�านว่นพื่รรคืก่ารเม�องลด้ลงจาก่เด้�มในป็B คื.ศ.1956 ซึ่-�งม�พื่รรคืก่ารเม�อง 16 พื่รรคื ได้�ลด้ลงเหล�อ 5 พื่รรคื ใน คื.ศ.1967 จาก่แต�เด้�มที่��พื่รรคืม&�งหา

Page 59: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

อ�ที่ธ�พื่ลให�แก่�พื่รรคืตนเอง โด้ยไม�สามารถึจะจ�ด้ต��งร�ฐบาลได้� แต�ในระบบใหม�พื่รรคืเร��มรว่มต�ว่ก่�นเป็ นก่ล&�มใหญ่�ข-�น และม&�งจะจ�ด้ต��งร�ฐบาล

บทท*+ 6สถาบ�นื้การเม�อง

สถึาบ�น ม�คืว่ามหมายตามต�ว่ศ�พื่ที่�ว่�า ก่�อต��ง อธ�บายได้�ว่�า มน&ษย�เป็ นผ��ก่�อต��งระเบ�ยบป็ระเพื่ณ�ต�างๆ ข-�นมาจาก่ผลแห�งก่ารป็ฏ�บ�ต�ในส�งคืมซึ่-�งสมาช�ก่ส�ว่นใหญ่�ของส�งคืมยอมร�บน�บถึ�อและป็ฏ�บ�ต� สถึาบ�นที่างก่ารเม�อง (Political Institution) น�บเป็ นสถึาบ�นที่��เก่��ยว่ข�องก่�บก่ารป็ก่คืรองโด้ยตรงซึ่-�งม�มาก่มาย ในที่��น��จะขอก่ล�าว่ถึ-งสถึาบ�นร�ฐธรรมน�ญ่และสถึาบ�นก่ฎีหมายเที่�าน��น

ร�ฐธรรมนื้"ญ (Constitution)

ร�ฐธรรมนื้"ญ คื�อ ก่ฎีหมายส�งส&ด้ของร�ฐ เป็ นก่ฎีหมายแม�บที่ของก่ฎีหมายที่��งหลายในร�ฐ ก่ฎีหมายใด้ที่��ข�ด้แย�งก่�บร�ฐธรรมน�ญ่ต�องถึ�อเป็ นโมฆ่ะ ก่ฎีหมายที่��งหมด้ในร�ฐจ�าเป็ นต�องเป็ นไป็ตามแนว่ที่างของก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่

ก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่โด้ยที่��ว่ไป็บ�ญ่ญ่�ต�ว่�าด้�ว่ย ร�ป็ของร�ฐ ก่ารแย�งแยก่อ�านาจอธ�ป็ไตย ส�ที่ธ�และหน�าที่��ของป็ระชาชน ร�ป็ของร�ฐบาลระเบ�ยบแบบแผนของก่ารป็ก่คืรอง ฯลฯ ว่�ตถึ&ป็ระสงคื�ของคืว่ามจ�าเป็ นที่��ต�องม�ร�ฐธรรมน�ญ่ ก่8คื�อ ก่ารป็ก่คืรองร�ฐต�องเป็ นไป็โด้ยก่ฎีหมายม�ใช�โด้ยผ��ม�อ�านาจ

ร�ฐธรรมน�ญ่ของแต�ละร�ฐย�อมม�ล�ก่ษณะผ�ด้แผก่แตก่ต�างก่�นไป็ ซึ่-�งพื่อจะจ�าแนก่ได้�เป็ น 4 ป็ระเภที่ใหญ่�ๆ คื�อ

1. ร�ฐธรรมน�ญ่ลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษร (Written Constitution)

2. ร�ฐธรรมน�ญ่จาร�ตป็ระเพื่ณ� (Unwritten Constitution)

3. ร�ฐธรรมน�ญ่เด้��ยว่ และร�ฐธรรมน�ญ่ร�ฐรว่ม (Unitary Constitution and Federal Constitution)

4. ร�ฐธรรมน�ญ่สาธารณร�ฐ และร�ฐธรรมน�ญ่ก่ษ�ตร�ย� (Republican Constitution and Monarchical Constitution)

1. ร�ฐธรรมนื้"ญลัายลั�กษณ�อ�กษร (Written Constitution)

Page 60: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คื�อ ก่ฎีหมายส�งส&ด้ของร�ฐซึ่-�งได้�เข�ยนไว่�เป็ นลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษรรว่มไว่�ในฉบ�บเด้�ยว่ โด้ยที่��ว่ไป็แล�ว่เน��อหาในร�ฐธรรมน�ญ่ลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษรม�ก่จะข-�นต�นด้�ว่ยด้�ว่ย ว่�ตถึ&ป็ระสงคื�ของร�ฐธรรมน�ญ่ ซึ่-�งเก่��ยว่ก่�บก่ารอย��ด้�ก่�นด้�ของป็ระชาชน คืว่ามย&ต�ธรรม คืว่ามสงบ คืว่ามเจร�ญ่ก่�าว่หน�าของร�ฐ เป็ นต�น เม��อหมด้ว่�ตถึ&ป็ระสงคื�ของก่ารม�ร�ฐธรรมน�ญ่แล�ว่ ในข��นต�อมาก่8ม�ก่แบ�งอ�านาจอธ�ป็ไตย ซึ่-�งโด้ยที่��ว่ไป็ก่8แบ�งออก่เป็ น 3 สาขา คื�อ อ�านาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� อ�านาจบร�หาร และอ�านาจต&ลาก่าร ในส�ว่นน��ก่8ม�ก่จะม�บที่บ�ญ่ญ่�ต�โด้ยละเอ�ยด้ว่�า จะให�ใคืรมาใช�อ�านาจเหล�าน��โด้ยว่�ธ�ใด้ และพื่ร�อมที่��งบ�ญ่ญ่�ต�ร�ป็ของร�ฐบาลด้�ว่ยว่�าจะเป็ นไป็ในระบบใด้ แบบใด้

ร�ฐธรรมน�ญ่จะม�หล�ก่ก่ารที่��จะแก่�ไขบที่ป็%ญ่ญ่�ต�บางป็ระก่ารของก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่ให�เหมาะสมต�อก่าลสม�ย ว่�ธ�ก่ารน��ก่8ได้�บ�ญ่ญ่�ต�ไว่�ในร�ฐธรรมน�ญ่ด้�ว่ย ส�าหร�บส�ที่ธ�ของป็ระชาชนน��น ส�ว่นใหญ่�แล�ว่ก่8จะม�ก่ารร�บป็ระก่�นไว่�ในร�ฐธรรมน�ญ่ด้�ว่ย

ในก่ารที่��ม�ร�ฐธรรมน�ญ่ลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษรเป็ นบรรที่�ด้ฐานเช�นน��แล�ว่ ศาลส�งส&ด้ของร�ฐจ-งม�หน�าที่��ที่��จะว่�น�จฉ�ยช��ขาด้ไป็ได้�ว่�าก่ฎีหมายที่��ออก่โด้ยฝ่E ายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�น��นข�ด้ก่�บร�ฐธรรมน�ญ่หร�อไม� เม��อม�ผ��น�ามาฟิAองต�อศาลส�งส&ด้หร�อศาลฎี�ก่า ถึ�าศาลฎี�ก่าต�ด้ส�นว่�าก่ฎีหมายใด้ข�ด้ก่�บร�ฐธรรมน�ญ่ ก่ฎีหมายน��นก่8ถึ�อว่�าเป็ นโมฆ่ะ ในก่รณ�ของไที่ยก่�าหนด้ให�ม�ศาลร�ฐธรรมน�ญ่ที่�าหน�าที่��น��

2. ร�ฐธรรมนื้"ญจัาร*ติประเพิณ* (Unwritten Constitution)

หร�อจะเร�ยก่อ�ก่อย�างหน-�งว่�าร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ไม�เป็ นลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษรก่8ไม�ผ�ด้น�ก่ ป็ระเที่ศสหราชอาณาจ�ก่รน��นถึ�อได้�ว่�าเป็ นป็ระเที่ศเด้�ยว่ที่��ม�ร�ฐธรรมน�ญ่จาร�ตป็ระเพื่ณ�เป็ นล�ก่ษณะเด้�น

ร�ฐธรรมน�ญ่จาร�ตป็ระเพื่ณ�น��นอาศ�ยขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ�และว่�ธ�ก่ารที่��ป็ฏ�บ�ต�ส�บต�อก่�นมาเป็ นเว่ลานาน รว่มก่�นเข�าเป็ นบที่บ�ญ่ญ่�ต�ที่��ม�อ�านาจเป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ ก่�าหนด้เป็ นร�ป็ของก่ารป็ก่คืรองร�ฐ แต�ป็ระเที่ศสหราชอาณาจ�ก่รก่8ม�ก่ฎีหมายธรรมด้า ซึ่-�งออก่เป็ นลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษรโด้ยร�ฐสภาหลายฉบ�บ ซึ่-�งล�ว่นแต�ม�ล�ก่ษณะก่�าหนด้ร�ป็ก่ารป็ก่คืรองป็ระเที่ศที่��งส��น เช�น Habeus Corpus Act (1679), Bill of Rights (1689), Act of Settlement (1701), Great Reform

Act (1832), The Representation of the Peoples’ Act (1949) เป็ นต�นฉะน��น จ-งขอย��าว่�าร�ฐธรรมน�ญ่จาร�ตป็ระเพื่ณ�น��นแตก่ต�างก่�บร�ฐธรรมน�ญ่ลายล�ก่ษณ�

อ�ก่ษรตรงที่��ว่�า ร�ฐธรรมน�ญ่จาร�ตป็ระเพื่ณ�น��นไม�ได้�เป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ไว่�ในฉบ�บเด้�ยว่ก่�น และก่ารแก่�ไขเป็ล��ยนแป็ลงน��นโด้ยที่��ว่ไป็ง�ายก่ว่�าร�ฐธรรมน�ญ่ป็ระเภที่ลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษร เพื่ราะฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ออก่ก่ฎีหมายแก่�ไขให�เหมาะสมตามก่าลเว่ลาได้�โด้ยไม�ต�องผ�านก่ารอออก่เส�ยงป็ระชามต�ด้�งเช�นร�ฐธรรมน�ญ่ป็ระเภที่ลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษรส�ว่นใหญ่�ก่�าหนด้ไว่�

3. ร�ฐธรรมนื้"ญเด*+ยว แลัะร�ฐธรรมนื้"ญร�ฐรวม (Unitary Constitution and Federal Constitution)

Page 61: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ร�ฐเด*+ยว คื�อ ป็ระเที่ศไที่ย ป็ระเที่ฝ่ร��งเศส ญ่��ป็&Eน อ�นโด้น�เซึ่�ย ส�งคืโป็ร� เป็ นต�น ร�ฐเด้��ยว่ม�ล�ก่ษณะเป็ นร�ฐที่��ม�ระบบร�ฐบาลเด้��ยว่ ก่ล�าว่คื�อ ฝ่Eายบร�หาร ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� และฝ่Eายต&ลาก่ารน��นอย��ที่��ร �ฐบาลก่ลาง โด้ยแบ�งแยก่อ�านาจสาขาออก่ไป็ตามส�ว่นภ�ม�ภาคื พื่อสร&ป็ได้�ว่�าร�ฐเด้��ยว่น��นอ�านาจมาจาก่ส�ว่นก่ลางก่ระจายออก่ส��ส�ว่นภ�ม�ภาคื

ส�ว่น ร�ฐรวม คื�อ ร�ฐที่��ม�ระบบร�ฐบาลซึ่�อนก่�นสองระบบ ก่ล�าว่คื�อม� ฝ่Eายบร�หาร ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� และฝ่Eายต&ลาก่ารของร�ฐบาลก่ลางและร�ฐส�ว่นที่�องถึ��นต��งแต� 2 ช&ด้ข-�นไป็ เป็ นอ�สระไม�ข-�นต�อก่�น ร�ฐบาลก่ลางม�อ�านาจ 2 แบบ คื�อ

1) ร�ฐบาลก่ลางม�อ�านาจเที่�าที่��ร �ฐบาลที่�องถึ��นก่�าหนด้ให�เที่�าน��น จะป็ราก่ฏในร�ป็ของสหพื่�นธร�ฐ (Federation) เช�น สหร�ฐอเมร�ก่า ที่��มลร�ฐต�างๆ รว่มต�ว่ก่�นสร�างร�ฐบาลก่ลางร�ว่มก่�นข-�นมา หร�อในล�ก่ษณะของสหภาพื่ ย&โรป็

2) ร�ฐบาลที่�องถึ��นม�อ�านาจเที่�าที่��ร �ฐบาลก่ลางได้�ก่�าหนด้ให�เที่�าน��น เช�น อ�งก่ฤษและสก่Pอตแลนด้� ในส ม�ยนาย ก่ร�ฐมนต ร� Tony Blair ได้� จ� ด้ ให�ม� ป็ร ะชาม ต� (Referendum) ผลป็ราก่ฏว่�าสก่Pอตแลนด้�ได้�แยก่ต�ว่ออก่เป็ นเขตป็ก่คืรองตนเอง ม�ร�ฐสภาป็ก่คืรองตนเอง เที่�าที่��ร �ฐบาลก่ลางให�อ�านาจไว่� เป็ นก่ารแก่�ป็%ญ่หาคืว่ามร&นแรงระหว่�างด้�นแด้นต�างๆ ที่��พื่ยายามแยก่ต�ว่ออก่มาได้�โด้ยก่ารป็ระน�ป็ระนอม และไม�ม�ก่ารถึ�ว่งคืว่ามเจร�ญ่ของก่�นและก่�นซึ่-�งในก่ารป็ก่คืรองร�ป็แบบน��เป็ นก่ารป็ก่คืรองแบบแบ�งอ�านาจก่�นระหว่�างที่�องถึ��นต�างๆ ของร�ฐ ให�ม�อ�านาจออก่ก่ฎีหมายบ�งคื�บในเขตป็ก่คืรองของตนได้� ไม�ก่�าว่ก่�ายซึ่-�งก่�นและก่�น ส�ว่นร�ฐธรรมน�ญ่ของร�ฐม�ก่ม�ซึ่�อนก่�น 2 ร�ฐธรรมน�ญ่ ก่ล� าว่คื�อ ร�ฐธรรมน�ญ่ของสหร�ฐฉบ�บหน-�ง ก่�บร�ฐธรรมน�ญ่ของมลร�ฐอ�ก่มลร�ฐละ 1

ฉบ�บ ซึ่-�งที่��งร�ฐและมลร�ฐม�อ�านาจออก่ก่ฎีหมายบ�งคื�บในเขตก่ารป็ก่คืรองของตน แต�จะก่�าว่ก่�ายอ�านาจซึ่-�งก่�นและก่�นไม�ได้� ข�อส�งเก่ตก่8คื�อ ร�ฐธรรมน�ญ่ของของสหร�ฐหร�อร�ฐธรรมน�ญ่ของชาต�น��นเป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ของร�ฐ ถึ�าร�ฐธรรมน�ญ่ชองมลร�ฐช�ด้แย�งก่�บร�ฐธรรมน�ญ่ของสหร�ฐน�� ร�ฐธรรมน�ญ่ของมลร�ฐจะถึ�อเป็ นโมฆ่ะ แต�ถึ�าอ�านาจอ�นใด้ม�ได้�ร�บ&ไว่�ในร�ฐธรรมน�ญ่ของสหร�ฐ ร�ฐธรรมน�ญ่ของมลร�ฐก่8ม�ส�ที่ธ�ที่��ใช�อ�านาจน��นๆ ได้�

4. ร�ฐธรรมนื้"ญสาธารณร�ฐ แลัะร�ฐธรรมนื้"ญกษ�ติร�ย� (Republican Constitution and Monarchical

Constitution)

หล�ก่ของก่ารแบ�งร�ฐธรรมน�ญ่สองป็ระเภที่น��ถึ�อเอาป็ระม&ขของร�ฐเป็ นหล�ก่ ร�ฐธรรมน�ญ่ของร�ฐใด้ที่��บ�ญ่ญ่�ต�ว่�าป็ระม&ขของร�ฐเป็ นป็ระธานาธ�บด้� ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บน��ม�สภาพื่เป็ นร�ฐธรรมน�ญ่สาธารณร�ฐ แต�ถึ�าร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บใด้บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ป็ระม&ขของร�ฐเป็ นก่ษ�ตร�ย�หร�อเป็ นราช�น� ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บน��นก่8เป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ก่ษ�ตร�ย�

ส�าหร�บป็ระธานาธ�บด้�ในร�ฐธรรมน�ญ่สาธารณร�ฐม�อย�� 3 ป็ระเภที่ คื�อ

Page 62: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1) ประธานื้าธ�บด*ผู้".ท�าหนื้.าท*+เป:นื้ประม2ขของร�ฐเท1านื้�นื้ ก่ล�าว่คื�อ ป็ระธานาธ�บด้�ไม�ม�อ�านาจที่างก่ารบร�หารแต�อย�างใด้ เพื่�ยงแต�ที่�าหน�าที่��พื่�ธ�ก่าร เช�น เป็ นป็ระธานก่ารเป็=ด้งาน เป็=ด้ถึนน เป็=ด้สะพื่าน พื่�ด้ป็ราศร�ย เป็ นต�าแหน�งที่��ม�เก่�ยรต� แต�อ�านาจบร�หารตก่เป็ นของนายก่ร�ฐมนตร�และคืณะร�ฐมนตร� เช�น ป็ระธานาธ�บด้�ของอ�นเด้�ย สว่�ตเซึ่อร�แลนด้� เยอรมน� ฯลฯ

2) ประธานื้าธ�บด*ผู้".ท�าหนื้.าท*+เป:นื้ประม2ขของร�ฐแลัะเป:นื้ห�วหนื้.าฝ่Aายบร�หารของร�ฐด.วย ที่��งสองต�าแหน�ง หร�ออ�ก่ น�ยหน-�งป็ระธานาธ�บด้�คืนเด้�ยว่ ที่�าหน�าที่��เป็ นที่��งป็ระม&ขของร�ฐและนายก่ร�ฐมนตร�ในเว่ลาเด้�ยว่ก่�น เช�น ป็ระธานาธ�บด้�ของสหร�ฐอเมร�ก่า เป็ นป็ระม&ขของร�ฐและเป็ นห�ว่หน�าฝ่Eายบร�หารด้�ว่ย

3) ประธานื้าธ�บด*ผู้".ท�าหนื้.าท*+เป:นื้ประม2ขของร�ฐแลัะย�งเป:นื้ห�วหนื้.าฝ่Aายบร�หารอย1างไม1เป:นื้ทางการ ในก่รณ�ของป็ระเที่ศฝ่ร��งเศส ป็ระธานาธ�บด้�สามารถึใช�อ�านาจบร�หารบางส�ว่นโด้ยไม�ต�องให�นายก่ร�ฐมนตร�ร�บผ�ด้ชอบแที่น เช�น สามารถึย&บสภาผ��แที่นราษฎีรได้� ส�ว่นต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร�น��นป็ระธานาธ�บด้�เป็ นผ��แต�งต��งและป็ลด้ออก่ได้�ตามคืว่ามเห8นของป็ระธานาธ�บด้�เอง ซึ่-�งนายก่ร�ฐมนตร�เป็ นผ��ใช�อ�านาจบร�หารอย�างแที่�จร�ง

ร�ฐธรรมน�ญ่ที่��บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ระบอบก่ารป็ก่คืรองแบบม�ก่ษ�ตร�ย�เป็ นป็ระม&ขของร�ฐก่8แบ�งก่ษ�ตร�ย�ออก่เป็ น 2 ป็ระเภที่ คื�อ

1) กษ�ติร�ย�ท*+อย"1ใติ.ร�ฐธรรมนื้"ญ อ�นได้�แก่� ร�ฐธรรมน�ญ่ไที่ยที่&ก่ฉบ�บ ร�ฐธรรมน�ญ่ของมาเลเซึ่�ย สว่�เด้น ญ่��ป็&Eน เป็ นอาที่� ก่ษ�ตร�ย�ที่รงเป็ นแต�เพื่�ยงป็ระม&ขของร�ฐเที่�าน��น ม�หน�าที่��เช�นเด้�ยว่ก่�บป็ระธานาธ�บด้�ผ��ที่�าหน�าที่��เป็ นป็ระม&ขของร�ฐเที่�าน��น ไม�ได้�ที่รงที่�าก่ารบร�หารป็ระเที่ศ ก่ษ�ตร�ย� คื�อ ส�ญ่ล�ก่ษณ�แห�งคืว่ามสาม�คืคื� (Symbol of Unity) แห�งร�ฐ ฉะน��น ก่ษ�ตร�ย�ไม�ต�องร�บผ�ด้ชอบในก่ารบร�หาร อ�านาจที่างก่ารบร�หารจ-งตก่อย��ก่�บนายก่ร�ฐมนตร�และคืณะร�ฐมนตร�

2) กษ�ติร�ย�แบบสมบ"รณาญาส�ทธ�ราชั้ย� (Absolute Monarchy) ก่ษ�ตร�ย�อย��เหน�อก่ฎีหมายหร�อก่ษ�ตร�ย�คื�อก่ฎีหมาย ก่ารป็ก่คืรองระบอบน��ย�งม�อย��เช�นป็ระเที่ศโมร8อคืโคื ซึ่าอ&ด้�อาระเบ�ย จอร�แด้น เป็ นต�น ถึ-งแม�ว่�าป็ระเที่ศเหล�าน��จะม�ร�ฐธรรมน�ญ่ก่ษ�ตร�ย�และม�นายก่ร�ฐมนตร� และคืณะร�ฐมนตร�เป็ นผ��ร �บผ�ด้ชอบในก่ารบร�หารป็ระเที่ศ แต�ผ��ม�อ�านาจจร�งๆ แล�ว่ ก่8คื�อ ก่ษ�ตร�ย�น��นเอง

ความเป:นื้มาของร�ฐธรรมนื้"ญจาก่ป็ระว่�ต�ศาสตร� เราจะเห8นได้�ว่�าร�ฐต�างๆ ในโลก่น�� ได้�ร�ฐธรรมน�ญ่มาโด้ยว่�ธ�ก่าร 4

ว่�ธ� ด้�งน��1. โด้ยก่ารเป็ล��ยนแป็ลงอย�างคื�อยเป็ นคื�อยไป็ (Gradual Evolution)

Page 63: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2. โด้ยก่ารป็ฏ�ว่�ต� (Revolution) หร�อร�ฐป็ระหาร (Coup d’Etat)

3. โด้ยก่ารยก่ร�าง (Deliberate Creation)

4. โด้ยก่ษ�ตร�ย�พื่ระราชที่านให� (Grant)

1. โดยการเปลั*+ยนื้แปลังอย1างค1อยเป:นื้ค1อยไป (Gradual Evolution)

ส�าหร�บก่ารเป็ล��ยนแป็ลงอย�างคื�อยเป็ นคื�อยไป็ของร�ฐธรรมน�ญ่น��น ต�ว่อย�างที่��ด้�ที่��ส&ด้ คื�อ ร�ฐธรรมน�ญ่ของอ�งก่ฤษ ซึ่-�งเป็ นผลจาก่ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงที่�ละเล8ก่ที่�ละน�อย โด้ยเร��มจาก่ก่ารป็ก่คืรองระบอบก่ษ�ตร�ย�สมบ�รณาญ่าส�ที่ธ�ราชย� ต�อมา อ�านาจถึ�ก่เป็ล��ยนม�อจาก่ก่ษ�ตร�ย�ไป็ย�งก่ล&�มผ��แที่นของป็ระชาชนที่�ละเล8ก่ที่�ละน�อย โด้ยเร��มจาก่บที่บ�ญ่ญ่�ต� แมก่นา คืาร�ตา (Magna Carta) ซึ่-�งบรรด้าเจ�าข&นม�ลนายของอ�งก่ฤษร�ว่มก่�นที่�าเป็ นที่�านองบ�งคื�บพื่ระเจ�าจอห�น ให�น�อมร�บส�ที่ธ�Lบางอย�างของข&นนางและเอก่ชนในป็B คื.ศ.1215 ซึ่-�งชาว่อ�งก่ฤษถึ�อว่�าเป็ นจ&ด้เร��มต�นแห�งร�ฐธรรมน�ญ่ของตน

นอก่จาก่น��ย�งม�ช�ว่งเว่ลาส�าคื�ญ่ของป็ระว่�ต�ศาสตร�อ�งก่ฤษตอนหน-�ง ก่8คื�อ พื่ระเจ�าจอร�จที่�� 1 (George I) ซึ่-�งข-�นคืรองราชย�ในป็B คื.ศ.1714 เป็ นชาว่เยอรม�น จาก่แคืว่�น Hannover

(พื่ระเจ�าจอร�จที่�� 1 เป็ นต�นราชว่งศ� Windsor ที่��ย�งป็ก่คืรองป็ระเที่ศอ�งก่ฤษในป็%จจ&บ�น)

เน��องจาก่พื่ระเจ�าจอร�จที่�� 1 เป็ นชาว่เยอรม�น และไม�สามารถึตร�สภาษาอ�งก่ฤษได้� รว่มที่��งพื่ระองคื�ไม�สนพื่ระที่�ยก่�จก่ารบ�านเม�องของอ�งก่ฤษเที่�าไรเลย ที่�าให�อ�านาจในก่ารป็ก่คืรองต�างๆ ก่8เร��มเป็ล��ยนม�อไป็ส��คืณะร�ฐมนตร� ก่ารที่��ป็ฏ�บ�ต�เช�นน��ส�บมาเป็ นเว่ลานาน ที่�าให�อ�านาจที่างก่ารป็ก่คืรองที่��แที่�จร�งตก่มาอย��ก่�บผ��แที่นของป็ระชาชนในที่��ส&ด้ และอ�านาจน��ก่8ได้�ร�บก่ารร�บรองว่�าเป็ นอ�านาจที่��ชอบด้�ว่ยก่ฎีหมาย ซึ่-�งเป็ นส�ว่นหน-�งของร�ฐธรรมน�ญ่แบบจาร�ตป็ระเพื่ณ�ของอ�งก่ฤษน��นเอง ก่ารศ-ก่ษาป็ระว่�ต�ศาสตร�ที่�าให�สามารถึส�งเก่ตร�ฐธรรมน�ญ่แบบน��ได้�ช�ด้เจนข-�น

2. โดยการปฏิ�ว�ติ� (Revolution) หร�อร�ฐประหาร (Coup d’Etat)

การปฏิ�ว�ติ� (Revolution) คื�อ ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงอย�างขนานใหญ่� อย�างรว่ด้เร8ว่แที่บจะเร�ยก่ได้�ว่�าจาก่หน�าม�อเป็ นหล�งม�อ ก่ารป็ฏ�ว่�ต�เป็ นก่ารล�มล�างร�ฐบาลโด้ยก่ารใช�ก่�าล�งร&นแรงและป็ระชาชนเป็ นผ��ที่�าก่ารป็ฏ�ว่�ต�เป็ นส�ว่นรว่ม เช�น ก่ารป็ฏ�ว่�ต�คืร��งใหญ่�ของป็ระเที่ศฝ่ร��งเศส ใน คื.ศ.1781 และก่ารป็ฏ�ว่�ต� ในป็ระเที่ศร�สเซึ่�ย คื.ศ.1817 เป็ นต�ว่อย�างของก่ารเป็ล��ยนแป็ลงระบอบก่ารเม�องจาก่ระบบก่ษ�ตร�ย�ไป็ส��ระบอบอ��นในที่�นที่�ที่�นใด้ และม�ก่ารนองเล�อด้ในก่ารป็ฏ�ว่�ต�ที่��งสองน��

ส�ว่นก่ารร�ฐป็ระหาร (Coup d’Etat) คื�อ ก่ารย-ด้อ�านาจของก่ล&�มบ&คืคืล เช�น คืณะที่หาร เป็ นต�น ก่ารก่ระที่�าร�ฐป็ระหารน��นเป็ นก่ารล�มล�างร�ฐบาลซึ่-�งเพื่�งเล8งถึ-งต�ว่บ&คืคืลในคืณะร�ฐบาลเที่�าน��น เช�น ก่ารเป็

Page 64: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่ารป็ฏ�ว่�ต�อาจเก่�ด้ข-�นเม��อป็ระชาชนม�คืว่ามไม�พื่อใจร�ฐบาลที่��ป็ก่คืรองอย��อย�างร&นแรง และไม�สามารถึที่��จะเป็ล��ยนแป็ลงร�ฐบาลคืณะน��นได้�โด้ยว่�ธ�ก่ารที่��ชอบด้�ว่ยก่ฎีหมายตามระบอบก่ารป็ก่คืรองที่��ม�อย�� เม��อป็ระชาชนถึ�ก่บ�บบ�งคื�บหน�ก่เข�าและเห8นว่�าระบอบก่ารป็ก่คืรองคืว่รจะต�องเป็ล��ยนแป็ลงไป็ส��ก่ารป็ก่คืรองระบอบใหม�จ-งเก่�ด้ก่ารป็ฏ�ว่�ต�ข-�น เม��อม�ก่ารป็ฏ�ว่�ต�ก่8อาจจะเก่�ด้สงคืรามก่ลางเม�องหร�อเก่�ด้ก่ารจลาจลข-�นจนก่ว่�าจะม�ร�ฐบาลที่��ม� �นคืงที่�าก่ารป็ก่คืรองป็ระเที่ศ บางคืร��งผ��ที่��ม�อ�านาจอย��ระหว่�างป็ฏ�ว่�ต� ได้�จ�ด้ให�ม�ก่ารร�างร�ฐธรรมน�ญ่ออก่มาใช�บ�งคื�บ ซึ่-�งส�ว่นใหญ่�ม�ก่จะเป็ นก่ารเป็ล��ยนแป็ลงระบอบก่ารป็ก่คืรองของร�ฐจาก่อย�างหน-�งมาเป็ นอ�ก่อย�างหน-�ง

3. โดยการยกร1าง (Deliberate Creation)

ร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ม�ก่�าเน�ด้มาจาก่ก่ารยก่ร�างน��ส�ว่นมาก่ม�ก่เก่�ด้ข-�นหล�งจาก่ที่��ได้�ม�ร�ฐใหม�เก่�ด้ข-�น หล�งจาก่ที่��ร�ฐใด้ร�ฐหน-�งได้�ร�บเอก่ราชหล&ด้พื่�นจาก่สภาพื่ก่ารเป็ นอาณาน�คืมของร�ฐอ�ก่ร�ฐหน-�ง เช�น ป็ระเที่ศสหร�ฐอเมร�ก่าได้�เป็ นป็ระเที่ศเอก่ราชหล&ด้พื่�นจาก่ก่ารป็ก่คืรองของจ�ก่รว่รรด้�บร�ต�ช ในป็B คื.ศ.1676 ซึ่-�งต�อมาในป็B 1687 ก่8ได้�ม�ก่ารป็ระก่ารใช�ร�ฐธรรมน�ญ่ของป็ระเที่ศสหร�ฐอเมร�ก่าข-�น ในที่�านองเด้�ยว่ก่�นก่�บป็ระเที่ศอ�นเด้�ย พื่ม�า มาเลเซึ่�ย และบรรด้าป็ระเที่ศในที่ว่�ป็แอฟิร�ก่าที่��งหลาย

นอก่จาก่น�� บรรด้าร�ฐที่��เก่�ด้ข-�นใหม�ในที่ว่�ป็ย&โรป็ภายหล�งสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 1 อ�นส�บเน��องมาจาก่สนธ�ส�ญ่ญ่าระหว่�างป็ระเที่ศ เช�น ป็ระเที่ศย�โก่สลาเว่�ย โป็แลนด้� ฟิ=นแลนด้� เป็ นอาที่� ก่8ได้�ยก่ร�างร�ฐธรรมน�ญ่ข-�นหล�งจาก่ที่��ได้�ร�บก่ารร�บรองว่�าเป็ นป็ระเที่ศเอก่ราชจาก่บรรด้าป็ระเที่ศต�างๆ แล�ว่

4. โดยกษ�ติร�ย�พิระราชั้ทานื้ให. (Grant)

ร�ฐส�ว่นใหญ่�ในที่ว่�ป็เอเช�ยและย&โรป็ตามป็ระว่�ต�ศาสตร� ม�ก่จะม�ก่ารป็ก่คืรองแบบสมบ�รณาญ่าส�ที่ธ�ราชย� ก่ษ�ตร�ย�อย��เหน�อก่ฎีหมาย ก่ษ�ตร�ย�ม�อ�านาจอย�างไม�ม�ขอบเขตเป็ นเจ�าช�ว่�ต เป็ นเจ�าของที่&ก่ส��งที่&ก่อย�างในร�ฐ ต�อมาก่ษ�ตร�ย�อาจม�คืว่ามคื�ด้ว่�าคืว่รจะม�ก่�าหนด้อ�านาจของพื่ระองคื�และว่�ธ�ก่ารใช�อ�านาจอ�นให�เป็ นที่��แน�นอน อาจจะเป็ นเพื่ราะก่ษ�ตร�ย�เห8นว่�าม�ว่�ธ�ก่ารอ��นอ�นจะน�ามาซึ่-�งคืว่ามเจร�ญ่ของร�ฐ ก่ษ�ตร�ย�บางพื่ระองคื�ที่รงก่�าหนด้พื่ระราชอ�านาจเน��องจาก่ถึ�ก่บ�งคื�บ หร�อที่�าเพื่��อเป็ นก่ารต�อรองก่�บข&นนางและป็ระชาชน

ร�ฐธรรมน�ญ่ซึ่-�งถึ�อก่�าเน�ด้มาจาก่ก่ารที่��ก่ษ�ตร�ย�พื่ระราชที่านให� ม�ล�ก่ษณะที่��ก่ษ�ตร�ย�ที่รงย�นยอมจะใช�อ�านาจตามว่�ธ�ที่��ก่�าหนด้ไว่�หร�อผ�านองคื�ก่รที่��ก่�าหนด้ไว่� ร�ฐธรรมน�ญ่น��อาจถึ�ก่แก่�ไขเป็ล��ยนแป็ลงได้�ตามคืว่ามป็ระสงคื�ของก่ษ�ตร�ย� แต�ในบางก่รณ�ก่ษ�ตร�ย�จะเป็ล��ยนแป็ลงแก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่ในบางระบอบไม�ได้�นอก่จาก่จะได้�ร�บคืว่ามย�นยอมจาก่ป็ระชาชน

Page 65: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ลั�กษณะท*+ด*ของร�ฐธรรมนื้"ญร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ด้� คื�อ ร�ฐธรรมน�ญ่ที่��เหมาะสมก่�บสภาพื่อ�นแที่�จร�งของร�ฐ ก่ล�าว่คื�อ เพื่��อ

ผลป็ระโยชน�ต�อป็ระชาชนเป็ นส�ว่นรว่ม ช�ว่�ตคืว่ามเป็ นอย��ป็ระจ�าว่�นของเอก่ชนแต�ละบ&คืคืล ร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ด้�ม�ล�ก่ษณะส�าคื�ญ่ 5 ป็ระก่าร ด้�งน��คื�อ

1. ร�ฐธรรมนื้"ญท*+ด*ควรม*ข.อความท*+ชั้�ดเจันื้แนื้1นื้อนื้ เพื่��อจะให�เข�าใจได้�ง�าย ไม�ใช�คื�าที่��ก่�าก่ว่ม ซึ่-�งล�อแหลมต�อก่ารต�คืว่ามผ�ด้ๆ จะต�องใช�ถึ�อยคื�าที่��เล�อก่สรรมาแล�ว่ว่�าม�คืว่ามหมายที่��แน�นอนที่��ส&ด้ คื�าหร�อข�อคืว่ามที่��ม�คืว่ามหมายสองแง�สองม&มหร�อก่�าก่ว่ม ซึ่-�งอาจที่�าให�เข�าใจไป็ได้�หลายก่รณ�ไม�คืว่รน�ามาใช�ในก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่

2. ร�ฐธรรมนื้"ญท*+ด*ควรจัะม*การบ�ญญ�ติ�ส�ทธ�แลัะเสร*ภูาพิของประชั้าชั้นื้ไว.อย1างชั้�ดเจันื้แนื้1นื้อนื้ รว่มที่��งก่ารคื&�มคืรองส�ที่ธ�และเสร�ภาพื่ของป็ระชาชนอ�ก่ด้�ว่ย เพื่��อที่��จะเป็ นหล�ก่ป็ระก่�นส�ที่ธ�และเสร�ภาพื่ของป็ระชาชน ป็Aองก่�นม�ให�ร�ฐหร�อเอก่ชนมาก่ด้ข��บ�งคื�บได้� ซึ่-�งถึ�าร�ฐออก่ก่ฎีหมายใด้ที่��ล�ด้รอนส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ของป็ระชาชนแล�ว่ ก่ฎีหมายน��นก่8ข�ด้ก่�บร�ฐธรรมน�ญ่ซึ่-�งเป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ของชาต� และจะต�องถึ�อว่�าก่ฎีหมายน��นเป็ นโมฆ่ะไป็ ด้�งเช�น ส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ของป็ระชาชนซึ่-�งก่�าหนด้ไว่�ในร�ฐธรรมน�ญ่เร��องส�ที่ธ�ในที่ร�พื่ย�สมบ�ต�ของตน เสร�ภาพื่ในก่ารพื่�ด้ ก่ารเข�ยน เป็ นต�น ถึ�อว่�าเป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ซึ่-�งจะล�มล�างไม�ได้�

3. ร�ฐธรรมนื้"ญท*+ด*ติ.องครอบคลั2มบทบ�ญญ�ติ�เก*+ยวก�บการปกครองของร�ฐไว.อย1างครบถ.วนื้ ก่ล�าว่คื�อ ร�ฐธรรมน�ญ่คืว่รจะม�บที่บ�ญ่ญ่�ต�ถึ-งก่ารใช�อ�านาจอธ�ป็ไตย ก่ารแบ�งอ�านาจอธ�ป็ไตย คืว่ามส�มพื่�นธ�ขององคื�ก่ารที่��ใช�อ�านาจอธ�ป็ไตยและสถึาบ�นที่างก่ารเม�องของร�ฐ ก่ารก่�าหนด้ว่�ธ�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงร�ฐบาลตามว่�ถึ�ที่างของร�ฐธรรมน�ญ่

4. ร�ฐธรรมนื้"ญท*+ด*ไม1ควรยาวเก�นื้ไป เพื่ราะร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ด้�คืว่รจะม�บที่บ�ญ่ญ่�ต�หล�ก่ก่ารจ�ด้ร�ป็ก่ารป็ก่คืรองของร�ฐที่��ส�าคื�ญ่และจ�าเป็ นเที่�าน��น ร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ม�บที่บ�ญ่ญ่�ต�ย�ด้ยาว่และม�รายละเอ�ยด้มาก่เก่�นไป็จะที่�าให�ก่ารต�คืว่ามย&�งเหย�งมาก่ข-�นและจะไม�ได้�ร�บคืว่ามเคืารพื่เที่�าที่��คืว่ร เพื่ราะบที่บ�ญ่ญ่�ต�ซึ่-�งละเอ�ยด้ฟิ& EมเฟิFอยเก่�นไป็อาจไม�เหมาะสมก่�บสถึานก่ารณ�จะที่�าให�เก่�ด้ม�ก่ารแก่�ไขบ�อยจนเก่�นไป็ ส�าหร�บรายละเอ�ยด้ป็ล�ก่ย�อยของก่ารป็ก่คืรองป็ระเที่ศน��น คืว่รเป็ นหน�าที่��ขององคื�ก่รฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�จะออก่ก่ฎีหมายธรรมด้าออก่มา ม�ใช�เร��องที่��คืว่รบ�ญ่ญ่�ต�ไว่�ในร�ฐธรรมน�ญ่

บที่บ�ญ่ญ่�ต�ร�ฐธรรมน�ญ่น��น ข�อใหญ่�ใจคืว่ามคืว่รจะเป็ นก่ารจ�ด้ร�ป็ร�ฐบาล ก่ารบ�ญ่ญ่�ต�สภา ว่�ธ�ก่ารก่�อต��งและอ�านาจหน�าที่��ขององคื�ก่รต�างๆ ของร�ฐบาล ตลอด้จนว่�ธ�ก่ารที่��องคื�ก่ารเหล�าน��จะใช�อ�า นาจหน�าที่��ก่�าหนด้ไว่�ในบที่บ�ญ่ญ่�ต� เป็ นส��งที่��จะละเลยไม�ได้�ในก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่ที่��งน��ร �ฐธรรมน�ญ่จะต�องไม�ส��นจนเก่�นไป็จนไม�ม�บที่บ�ญ่ญ่�ต�เหล�าน��อย��

5. ร�ฐธรรมนื้"ญท*+ด*ควรม*ก�าหนื้ดว�ธ*การแก.ไขเพิ�+มเติ�มร�ฐธรรมนื้"ญติามกฎีหมายข&นื้ไว. เพื่ราะร�ฐธรรมน�ญ่ที่��ด้�ต�องม�คืว่ามย�ด้หย&�นเหมาะสมก่�บก่าลสม�ย ก่ารที่��ม�ว่�ธ�ก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ตามก่ฎีหมายน��นก่8เพื่��อป็Aองก่�นก่ารล�มล�างหร�อแก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่โด้ยก่ารใช�

Page 66: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่�าล�งอ�นเป็ นธรรมชาต�ของมน&ษย� เม��อไม�ม�ที่างออก่ก่8อาจเก่�ด้ก่ารป็ฏ�ว่�ต�หร�อร�ฐป็ระหารข-�นเพื่��อที่��จะแก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่

ส�าหร�บหล�ก่ก่ารในก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่น��น ต�องไม�ง�ายจนเก่�นไป็เพื่ราะจะที่�าให�ร�ฐธรรมน�ญ่ไม�ได้�ร�บคืว่ามเคืารพื่จาก่ป็ระชาชนเที่�าที่��คืว่ร และแก่�ไขเพื่��มเต�มคืว่รเป็ นก่ารถึาว่รพื่อสมคืว่รไม�ใช�เป็ นก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มช��ว่คืราว่

สร&ป็แล�ว่ร�ฐธรรมน�ญ่เป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ของร�ฐ แต�ร�ฐธรรมน�ญ่ก่8เป็ นก่ฎีหมายธรรมด้าที่��ว่ไป็ในแง�ที่��ว่�า ถึ�าไม�ม�ผ��ใด้ป็ฏ�บ�ต�ตามโด้ยเฉพื่าะอย�างย��งผ��ที่��ร �ก่ษาก่ฎีหมายละเม�ด้ก่ฎีหมายเส�ยเอง ร�ฐธรรมน�ญ่ก่8ม�คื�าเพื่�ยงแคื�เศษก่ระด้าษธรรมด้าเที่�าน��น

การแก.ไขเพิ�+มเติ�มร�ฐธรรมนื้"ญก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ของร�ฐต�างๆ ตามป็ระว่�ต�ศาสตร�ที่��ผ�านมาก่8พื่อจะแบ�ง

ออก่ได้�เป็ น 5 ป็ระก่ารด้�ว่ยก่�น คื�อ1. การแก.ไขเพิ�+มเติ�มร�ฐธรรมนื้"ญโดยฝ่Aายนื้�ติ�บ�ญญ�ติ� ก่ล�าว่คื�อ ถึ�อเอาเส�ยงข�างมาก่

ในฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ ป็ระเที่ศสหราชอาณาจ�ก่ร เป็ นต�ว่อย�างของก่ารแก่�ไขโด้ยว่�ธ�ก่ารง�ายๆ เช�นน�� แต�เราจะต�องระล-ก่ไว่�เสมอว่�า ร�ฐธรรมน�ญ่ของอาณาจ�ก่รเป็ นร�ฐธรรมน�ญ่จาร�ตป็ระเพื่ณ� ซึ่-�งเก่�ด้จาก่ก่ารรว่บรว่มก่ฎีหมายฉบ�บต�างๆ เข�าเป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ ม�ได้�เป็ นก่ฎีหมาย ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บเด้�ยว่เช�นเด้�ยว่ก่�นก่�บร�ฐธรรมน�ญ่แบบลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษร

ร�ฐธรรมน�ญ่แห�งราชอาณาจ�ก่รไที่ย พื่.ศ.2540 (หมว่ด้ 12) ได้�ม�ก่ารบ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มโด้ยว่�ธ�น��

2. การแก.ไขเพิ�+มเติ�มร�ฐธรรมนื้"ญโดยฝ่Aายนื้�ติ�บ�ญญ�ติ�แบบลังคะแนื้นื้เส*ยงพิ�เศษ โด้ยม�ว่�ธ�ก่ารพื่�เศษ คื�อ ต�องก่ารคืะแนนเส�ยงมาก่ก่ว่�าก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มหร�อยก่ร�างก่ฎีหมายธรรมด้า ก่ล�าว่คื�อ ไม�ใช�เพื่�ยงแต�เส�ยงข�างมาก่ 50+1% เที่�าน��น แต�ต�องเป็ นคืะแนนเส�ยงที่��มาก่ก่ว่�าน��น เช�น 2/3 หร�อ 3/4 ของสมาช�ก่ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� เป็ นต�น ป็ระเที่ศฝ่ร��งเศส ญ่��ป็&Eน นอร�เว่ย� ใช�ว่�ธ�ก่ารน��ในก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ของป็ระเที่ศ

3. การแก.ไขเพิ�+มเติ�มร�ฐธรรมนื้"ญโดยฝ่Aายนื้�ติ�บ�ญญ�ติ�แบบให.ม*การลังประชั้ามติ� เม��อฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ได้�แก่�ไขร�ฐธรรมน�ญ่แล�ว่จะต�องน�ามาให�ป็ระชาชนลงคืะแนนเส�ยงร�บรอง

Page 67: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เป็ นก่ารแสด้งป็ระชามต�ว่�าจะร�บหร�อไม�ร�บหล�ก่ก่าร เช�น ร�ฐธรรมน�ญ่ของฝ่ร��งเศส ป็B คื.ศ.1958 และร�ฐธรรมน�ญ่ไที่ยป็B พื่.ศ.2492 และ 2501

4. การแก.ไขเพิ�+มเติ�มร�ฐธรรมนื้"ญโดยให.ประชั้าชั้นื้ท�+วไป ผ��ม�ส�ที่ธ�ออก่เส�ยงเล�อก่ต��ง เป็ นผ��ม�ส�ที่ธ�ออก่เส�ยงป็ระชามต� (Referendum) หร�อป็ระชาชนม�ส�ที่ธ�ที่��จะเสนอข�อแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ได้�เองด้�ว่ย (Initiative) ว่�ธ�น��อย��ในป็ระเที่ศสว่�ตเซึ่อร�แลนด้� น�ก่ร�ฐศาสตร�หลายที่�านก่ล�าว่ก่�นว่�า ว่�ธ�น��เป็ นว่�ธ�ก่ารที่��ด้�ที่��ส&ด้ เพื่ราะป็ระชาชนต�างหาก่ไม�ใช�ร�ฐบาลคืว่รจะม�อ�านาจในก่ารร�างร�ฐธรรมน�ญ่ แต�ว่�ธ�ก่ารน��จะใช�ได้�ผลด้�ก่8ต�อเม��อป็ระชาชนร�ฐน��นม�ก่ารศ-ก่ษาด้� และม�คืว่ามร�บผ�ด้ชอบในส�ที่ธ�และหน�าที่��ของตนเป็ นอย�างด้�

5. การแก.ไขเพิ�+มเติ�มร�ฐธรรมนื้"ญโดยการจั�ดติ�งองค�การพิ�เศษ ซึ่-�งได้�ร�บเล�อก่ต��งโด้ยป็ระชาชนให�ม�หน�าที่��โด้ยเฉพื่าะในก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ องคื�ก่ารพื่�เศษน��เร�ยก่ว่�า สภาร�างร�ฐธรรมน�ญ่ (Constitutional Convention) เม��อแก่�ไขเพื่��มเต�มเร�ยบร�อยแล�ว่ ก่8น�ามาเสนอให�ป็ระชาชนลงคืะแนนเส�ยงก่�นอ�ก่ที่�หน-�ง ว่�ธ�ก่ารน��ใช�ก่�นมาก่ในสหร�ฐระด้�บมลร�ฐ ด้�งเช�น ก่ารแก่�ไขเพื่��มเต�มร�ฐธรรมน�ญ่ของมลร�ฐอ�ลล�นอยส� (Illinois) เม��อป็B คื.ศ.1970 เป็ นต�น

ไที่ยได้�น�าเอาร�ป็แบบสภาร�างร�ฐธรรมน�ญ่น��มาใช�ในก่ารยก่ร�างร�ฐธรรมน�ญ่ใหม�ที่��งฉบ�บ (ร�ฐธรรมน�ญ่แห�งราชอาณาจ�ก่รไที่ย พื่.ศ.2540) โด้ยม�ผ��แที่นจาก่จ�งหว่�ด้ต�างๆ สถึาบ�นอ&ด้มศ-ก่ษา ผ��เช��ยว่ชาญ่ด้�านก่ฎีหมาย ร�ฐศาสตร� และผ��ม�ป็ระสบก่ารณ�ด้�านก่ารเม�อง ม�ก่ารลงมต�ร�บรองจาก่ที่��ป็ระช&มร�ฐสภาก่ล��นก่รองจนได้�สมาช�ก่สภาร�างร�ฐธรรมน�ญ่ 99 คืน ใช�เว่ลาร�างร�ฐธรรมน�ญ่ 233 ว่�น แล�ว่เสนอร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บใหม�ให�ร�ฐสภาพื่�จารณาร�บรอง แล�ว่ที่�ลเก่ล�าฯ ถึว่ายให�ลงพื่ระป็รมาภ�ไธย

กฎีหมายแลัะความเป:นื้มาของกฎีหมายในองคื�ก่ารที่&ก่องคื�ก่ารจ�าเป็ นจะต�องม�ระเบ�ยบก่ฎีเก่ณฑ์�ของตนเองเพื่��อใช�ป็ก่คืรอง

สมาช�ก่ขององคื�ก่าร จ&ด้ม&�งหมายของก่ารม�ระเบ�ยบข�อบ�งคื�บก่8เพื่�� อคืว่ามเป็ นระเบ�ยบเร�ยบร�อย คืว่ามสงบและคืว่ามย&ต�ธรรมที่��งก่�จก่ารส�ว่นบ&คืคืลและก่�จก่ารสาธารณะ ร�ฐก่8คื�อองคื�ก่ารหน-�ง จ-งจ�าเป็ นต�องม�ก่ฎีเก่ณฑ์�ข�อบ�งคื�บต�างๆ เพื่��อคืว่ามสงบและคืว่ามเป็ นระเบ�ยบเร�ยบร�อยภายในร�ฐเช�นก่�น ก่ฎีเก่ณฑ์�ข�อบ�งคื�บเหล�าน��คื�อ ก่ฎีหมาย นอก่จาก่จะม�ว่�ตถึ&ป็ระสงคื�เพื่��อร�ก่ษาคืว่ามสงบและคืว่ามเป็ นระเบ�ยบเร�ยบร�อยของร�ฐแล�ว่ ย�งม�จ&ด้ม&�งหมายที่��จะร�ก่ษาส�ที่ธ�และเสร�ภาพื่ตลอด้จนผลป็ระโยชน�ของป็ระชาชน อ�ก่ที่��งร�ฐบาลก่8ต�องย-ด้

Page 68: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่ฎีหมายเป็ นหล�ก่ ก่ารป็ก่คืรองจะอย��ในก่รอบระเบ�ยบหล�ก่เก่ณฑ์�ของก่ฎีหมายเป็ นแนว่ที่างไป็ส��ป็ระโยชน�ส&ขส�ว่นรว่มของร�ฐ

ด้�งน��นเราพื่อจะได้�คืว่ามคื�ด้เก่��ยว่ก่�บคืว่ามเป็ นมาของก่ฎีหมาย ก่ล�าว่คื�อเก่�ด้จาก่ ก่ฎีหมายเป็ นส��งจ�าเป็ นของร�ฐ เพื่��อก่�อให�คืว่ามเป็ นระเบ�ยบเร�ยบร�อย คืว่ามสงบส&ข ตลอด้“

จนคืว่ามก่�าว่หน�าให�แก่�ร�ฐ”

ก่ฎีหมายได้�ถึ�ก่บ�ญ่ญ่�ต�ข-�นมาจาก่คืว่ามต�องก่ารที่��จะร�ก่ษาคืว่ามสงบเร�ยบร�อยในร�ฐ และเพื่��อที่��ป็ระชาชนจะได้�ร� �ส�ที่ธ�และหน�าที่��อ�นม�ขอบเขตแน�นอนเพื่��อที่��สะด้ว่ก่ต�อก่ารป็ฏ�บ�ต�ต�ว่ในส�งคืมของร�ฐ

ประเภูทของกฎีหมายโด้ยที่��ว่ไป็แล�ว่ก่ฎีหมายแบ�งออก่เป็ น 2 ป็ระเภที่ คื�อ

1. กฎีหมายสารบ�ญญ�ติ� (Substantive Law) คื�อ ก่ฎีหมายที่��บ�ญ่ญ่�ต�ข-�นเพื่�� อก่�าหนด้และร�บรองส�ที่ธ� ตลอด้จนป็ระโยชน�ของป็ระชาชน อาที่� ก่ฎีหมายที่��ด้�น ก่ฎีหมายอาญ่า ก่ฎีหมายแพื่�งและพื่าณ�ชย� ที่��ก่�าหนด้ว่�าก่ารที่�าเช�นใด้เป็ นก่ารละเม�ด้ก่ฎีหมาย ม�โที่ษใด้บ�าง ฯลฯ

2. กฎีหมายว�ธ*สบ�ญญ�ติ� (Procedual Law) คื�อ ก่ฎีหมายที่��แสด้งถึ-งว่�ธ�ก่ารพื่�จารณาคืว่ามในศาล ก่�าหนด้ว่�ธ�ก่ารคื&�มก่�นส�ที่ธ�และผลป็ระโยชน�ของป็ระชาชน

บ&คืคืลที่��ถึ�ก่ละเม�ด้ส�ที่ธ�หร�อผลป็ระโยชน�ที่��ร �บรองโด้ยก่ฎีหมายสารบ�ญ่ญ่�ต� เม��อน�าเร��องข-�นฟิAองร�องต�อศาลแล�ว่น��น เร�ยก่ว่�าโจัทก� (Plaintif) และผ��ที่��ถึ�ก่ก่ล�าว่หาว่�าเป็ นผ��ล�ว่งละเม�ด้ส�ที่ธ�น��น เร�ยก่ว่�า จั�าเลัย (Defendant) จะน�าก่ฎีหมายว่�ธ�สบ�ญ่ญ่�ต�มาใช�พื่�จารณาคืด้� ก่ฎีหมายว่�ธ�สบ�ญ่ญ่�ต�จะเป็ นก่ฎีหมายที่��ที่�าให�ก่ฎีหมายสารบ�ญ่ญ่�ต�ม�ผลบ�งคื�บใช�ได้� เช�น ก่ฎีหมายว่�ธ�พื่�จารณาคืว่ามอาญ่า ซึ่-�งเป็ นก่ฎีหมายว่�ธ�สบ�ญ่ญ่�ต�ของก่ฎีหมายอาญ่า ก่ฎีหมายว่�ธ�พื่�จารณาคืว่ามแพื่�ง ก่ฎีหมายล�ก่ษณะพื่ยาน เป็ นต�น

นอก่จาก่น�� เราย�งสามารถึแบ�งก่ฎีหมายตามขอบเขตที่��ใช�บ�งคื�บและตามคืว่ามม&�งหมายที่��จะคืว่บคื&มบ�งคื�บ ระหว่�างเอก่ชนต�อเอก่ชน ระหว่�างเอก่ชนต�อร�ฐ หร�อระหว่�างร�ฐก่�บร�ฐได้� โด้ยอาจจะแบ�งก่ฎีหมายออก่เป็ น 2 ป็ระเภที่ใหญ่�ๆ คื�อ

1. ก่ฎีหมายภายในป็ระเที่ศ (National Law)

2. ก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศ (International Law)

1. กฎีหมายภูายในื้ประเทศ (National Law) คื�อ ก่ฎีหมายที่��ใช�บ�งคื�บภายในร�ฐ ต�อบ&คืคืลที่&ก่คืนไม�ว่�าจะเป็ นป็ระชาชนของร�ฐน��นๆ หร�อคืนต�างด้�าว่ก่8ตาม หาก่บ&คืคืลน��นๆ ได้�อาศ�ยอย��ในร�ฐแล�ว่ก่8ย�อมอย��ภายใต�ก่ฎีหมายในป็ระเที่ศที่��งส��น ก่ฎีหมายภายในป็ระเที่ศเก่�ด้จาก่อ�านาจ

Page 69: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

อธ�ป็ไตยของร�ฐน��นๆ ให�อ�านาจร�ฐสามารถึบ�ญ่ญ่�ต�ก่ฎีหมายข-�นใช�บ�งคื�บในป็ระเที่ศได้� เป็ นก่ารแสด้งออก่อ�านาจอธ�ป็ไตยภายในร�ฐ

โด้ยที่��ว่ไป็แล�ว่ ก่ฎีหมายภายในป็ระเที่ศก่8แบ�งออก่เป็ น 2 ป็ระเภที่1.1 ก่ฎีหมายเอก่ชน (Private Law)

1.2 ก่ฎีหมายมหาชน (Public Law)

โด้ยใจคืว่ามก่ว่�างๆ แล�ว่ ก่ารก่ระที่�าผ�ด้ที่��ก่ระที่บก่ระเที่�อนต�อร�ฐ ต�อป็ระชาชนโด้ยส�ว่นรว่มถึ�อว่�าอย��ในข�ายของก่ฎีหมายมหาชน ส�ว่นก่ารก่ระที่�าผ�ด้ใด้ๆ ระหว่�างเอก่ชนธรรมด้าโด้ยไม�ก่ระที่บก่ระเที่�อนต�อร�ฐหร�อป็ระชาชนเป็ นส�ว่นรว่มแล�ว่ คืว่ามผ�ด้น��นก่8จะได้�ร�บก่ารพื่�จารณาโด้ยก่ฎีหมายเอก่ชน อธ�บายได้�ด้�งน��

1.1 กฎีหมายเอกชั้นื้ (Private Law) บางที่�เร�ยก่ว่�า ก่ฎีหมายแพื่�ง (Civil Law) อ�นเป็ นก่ฎีหมายที่��บ�ญ่ญ่�ต�คืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างบ&คืคืลก่�บบ&คืคืล บ&คืคืลก่�บน�ต�บ&คืคืล (น�ต�บ&คืคืล คื�อ บ&คืคืลตามก่ฎีหมาย ไม�ใช�บ&คืคืลจร�ง ต�ว่อย�างเช�น ธนาคืาร ห�างร�าน เป็ นต�น) หร�อระหว่�างเอก่ชนก่�บเอก่ชน และได้�ก่�าหนด้ว่�ธ�ก่ารต�างๆ เพื่��อให�เอก่ชนก่�บบ&คืคืลสามรถึร�ก่ษาและป็Aองก่�นส�ที่ธ�ของตนม�ให�ถึ�ก่ละเม�ด้หร�อไป็ละเม�ด้ผ��อ�� นได้� ในก่ฎีหมายเอก่ชนน��ร�ฐม�หน�าที่��เป็ นผ��ต�ด้ส�นโด้ยศาลย&ต�ธรรม

ก่ฎีหมายเอก่ชนที่��ส�าคื�ญ่ ได้�แก่� ก่ฎีหมายที่��เก่��ยว่ก่�บที่ร�พื่ย�ส�นที่��ด้�น ส�ญ่ญ่าต�างๆ เช�น ส�ญ่ญ่าก่��ย�ม ที่ะเบ�ยนสมรส ที่ร�พื่ย� มรด้ก่ น�ต�ก่รรม พื่�น�ยก่รรม บร�ษ�ที่จ�าก่�ด้ ห�างห&�นส�ว่นจ�าก่�ด้ ฯลฯ ซึ่-�งรว่มอย��ในป็ระมว่ลก่ฎีหมายแพื่�งและพื่าณ�ชย� และป็ระมว่ลก่ฎีหมายว่�ธ�พื่�จารณาคืว่ามแพื่�ง ซึ่-�งถึ�าม�ก่ารละเม�ด้ละเม�ด้ส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ในเร��องด้�งก่ล�าว่น��แล�ว่ จะไม�ส�งผลก่ระที่บไป็ถึ-งบ&คืคืลส�ว่นใหญ่� บที่ลงโที่ษในก่ฎีหมายแพื่�งจ-งเป็ นเพื่�ยงชด้ใช�คื�าเส�ยหายให�แก่�ก่�นเที่�าน��น

1.2 กฎีหมายมหาชั้นื้ (Public Law) ก่ฎีหมายมหาชนเป็ นก่ฎีหมายซึ่-�งร�ฐเป็ นคื��ก่รณ�ด้�ว่ย เป็ นก่ฎีหมายที่��ม�ขอบเขตก่ว่�าง บ�ญ่ญ่�ต�ถึ-งคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างร�ฐก่�บป็ระชาชน ก่ฎีหมายมหาชนแบ�งออก่เป็ น 3 ป็ระเภที่ คื�อ

1.2.1 กฎีหมายร�ฐธรรมนื้"ญ (Constitutional Law) ก่ฎีหมายภายในป็ระเที่ศอ��นใด้ข�ด้แย�งก่�บก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่ต�องถึ�อว่�าก่ฎีหมายน��นเป็ นโมฆ่ะ เพื่ราะร�ฐธรรมน�ญ่เป็ นก่ฎีหมายที่��ส�งส&ด้ ก่�าหนด้ร�ป็ของร�ฐ ว่�ธ�ก่ารป็ก่คืรอง โคืรงร�างและก่ระบว่นก่ารป็ก่คืรองอย�างก่ว่�างๆ ก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่น��ส�ว่นมาก่ได้�ก่�าหนด้ส�ที่ธ�ข��นพื่�� นฐานขอป็งระชาชนไว่�โด้ยช�ด้เจนพื่อสมคืว่ร โด้ยที่��ร�ฐก่�าว่ก่�ายไม�ได้�

ป็%ญ่หาของก่ารต�คืว่ามของก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่ ในบางร�ฐก่8เป็ นหน�าที่��ของสภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� บางร�ฐก่8เป็ นหน�าที่��ของศาลฎี�ก่า เช�น สหร�ฐอเมร�ก่า ส�ว่นไที่ยเป็ นศาลร�ฐธรรมน�ญ่ เป็ นต�น

Page 70: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1.2.2 กฎีหมายปกครอง (Administrative Law) คื�อ ก่ฎีหมายที่��ม�บ�ญ่ญ่�ต�อย�างละเอ�ยด้ถึ-งก่ารก่�าหนด้องคื�ก่ารของร�ฐ เจ�าหน�าที่��ผ��ม�อ�านาจในก่ารป็ฏ�บ�ต�ก่ารต�างๆ ตามก่ฎีหมายว่�ธ�ก่ารที่��ร �ฐบาลจะใช�อ�านาจที่��ก่�าหนด้ไว่�ในก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่ ตลอด้จนก่�าหนด้ถึ-งคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างองคื�ก่ารและเจ�าหน�าที่��ของร�ฐต�อป็ระชาชน อาจก่ล�าว่อ�ก่น�ยหน-�งว่�า ก่ฎีหมายป็ก่คืรองเป็ นก่ฎีหมายที่��ขยายคืว่ามให�ละเอ�ยด้จาก่ก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่

1.2.3 กฎีหมายอาญาแลัะกฎีหมายว�ธ*พิ�จัารณาความอาญา (Criminal Law and Procedure) ในก่ารร�ก่ษาคืว่ามสงบของร�ฐ ร�ฐจ�าต�องถึ�อคืว่ามผ�ด้บางอย�างที่��เก่��ยว่ข�องก่ระที่บก่ระเที่�อนต�อป็ระชาชนหร�อส�งคืมส�ว่นรว่ม และบ�อนที่�าลายคืว่ามม��นคืงของร�ฐ เป็ นก่ารที่�าผ�ด้ต�อร�ฐโด้ยตรง ร�ฐต�องที่�าหน�าที่��อ�ยก่ารฟิAองร�องให�ศาลต�ด้ส�นลงโที่ษตามก่ฎีหมายอาญ่า

ก่ารป็ระก่อบอาชญ่าก่รรม เช�น ก่ารฆ่�าคืนตาย ก่ารป็ล�นสะด้ม เป็ นต�น ถึ�อเป็ นก่ารก่ระที่�าที่��ก่ระที่บก่ระเที่�อนต�อป็ระชาชนที่��ว่ไป็และร�ฐด้�ว่ย ฉะน��นถึ-งแม�ว่�าเข�าที่&ก่ข�อาจจะไม�ต�องก่ารเอาเร��องเอาราว่ แต�ร�ฐจ�าเป็ นต�องที่�าก่ารด้�าเน�นคืด้�และเป็ นเจ�าที่&ก่ข�เส�ยเอง

ก่ารพื่�จารณาว่�าคืว่ามผ�ด้เช�นใด้เป็ นคืว่ามผ�ด้ที่างอาญ่า คืว่ามผ�ด้เช�นใด้เป็ นคืว่ามผ�ด้ที่างแพื่�งก่8แตก่ต�างก่�นในแต�ละร�ฐ เช�น คืด้�จ�ายเช8คืไม�ม�เง�นน��น ส�าหร�บป็ระเที่ศไที่ยถึ�อเป็ นคืว่ามผ�ด้ที่างอาญ่า แต�ในสหร�ฐอเมร�ก่าเป็ นคืว่ามผ�ด้ที่างแพื่�ง

ก่ฎีหมายอาญ่าน�� ได้�ก่�าหนด้โที่ษของก่ารก่ระที่�าผ�ด้ละเม�ด้ก่ฎีหมายเป็ นล�าด้�บแน�นอนลด้หล��นลงไป็ เร�ยงล�าด้�บได้�ด้�งน�� 1. ป็ระหารช�ว่�ต 2. จ�าคื&ก่ 3.

ก่�ก่ข�ง 4. ป็ร�บ 5. ร�บที่ร�พื่ย�ส�น ลงโที่ษตามระด้�บคืว่ามหน�ก่เบาของคืว่ามผ�ด้ที่��ก่ระที่�า เช�น โที่ษล�ก่ขโมยก่8ย�อมเบาก่ว่�าโที่ษฆ่�าคืนตาย ตลอด้จนก่ารก่�าหนด้องคื�ป็ระก่อบของคืว่ามผ�ด้ เช�น เป็ นผ��ที่��ส� �งให�ก่ระที่�าหร�อผ��ที่��ไม�ให�ก่ระที่�าหร�อก่ระที่�าผ�ด้เองโด้ยเจตนาหร�อป็ระมาที่ ไป็จนก่ระที่��งก่ารลด้หย�อนผ�อนโที่ษให�ในบางก่รณ� เพื่��อให�ก่ารใช�ก่ฎีหมายอาญ่าน��เป็ นไป็ตามระเบ�ยบแบบแผน ก่8ได้�ม�ก่ฎีหมายว่�ธ�พื่�จารณาคืว่ามอาญ่าก่�าหนด้ว่�ธ�ก่ารที่��องคื�ก่ารร�ฐจะน�าต�ว่ผ��ก่ระที่�าผ�ด้มาฟิAองร�องต�อศาล ก่ารก่�าหนด้เจ�าหน�าที่��ใช�อ�านาจ ว่�ธ�ใช� ตลอด้จนหล�ก่ป็ระก่�นต�อป็ระชาชนที่��ถึ�ก่ละเม�ด้ส�ที่ธ�เสร�ภาพื่ที่างอาญ่า

2. กฎีหมายระหว1างประเทศ (International Law) คื�อ ระเบ�ยบก่ฎีเก่ณฑ์�ต�างๆ ที่��บ�ญ่ญ่�ต�ถึ-งคืว่ามส�มพื่�นธ�ระหว่�างร�ฐก่�บร�ฐ ที่��มาของก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศน��ส�ว่นใหญ่� มาจาก่สนธ�ส�ญ่ญ่าระหว่�างป็ระเที่ศและขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ�ที่��เคืยป็ฏ�บ�ต�ก่�นมาในก่ารต�ด้ต�อระหว่�างก่�น

Page 71: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เม��อพื่�จารณาด้�แล�ว่ก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศน��น อาจเป็ นเพื่�ยงข�อตก่ลงส�ญ่ญ่าก่�นระหว่�างร�ฐมาก่ก่ว่�าก่ฎีหมายจร�งๆ เพื่ราะไม�ม�องคื�ก่รที่��เหน�อก่ว่�าร�ฐเป็ นผ��ออก่ก่ฎีหมายหร�อใช�อ�านาจบ�งคื�บลงโที่ษ เม��อม�ผ��ละเม�ด้ข�อตก่ลงก่8ไม�ม�องคื�ก่รใด้ที่��จะม�อ�านาจลงโที่ษผ��ละเม�ด้ได้� เหม�อนอย�างก่ฎีหมายภายในป็ระเที่ศ ร�ฐคื��ก่รณ�อาจจะใช�ว่�ธ�ไม�คืบคื�าสมาคืมที่างก่ารคื�าและที่างก่ารที่�ตก่�บร�ฐที่��ละเม�ด้ก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศ ในก่รณ�ที่��ร&นแรงสงคืรามก่8เป็ นเคืร��องม�อที่��จะร�ก่ษาหร�อละเม�ด้ก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศได้�

แต�ถึ�าจะพื่�จารณาด้�ในแง�ที่��ว่�าก่ฎีหมายเป็ นส��งจ�าเป็ นต�อองคื�ก่รเพื่��อก่�อให�เก่�ด้คืว่ามเป็ นระเบ�ยบและคืว่ามสงบส&ข ตลอด้จนคืว่ามก่�าว่หน�าให�แก่�องคื�ก่รแล�ว่ ในแง�น��ก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศก่8เป็ นก่ฎีหมายป็ระเภที่หน-�ง เพื่ราะก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศม�ก่ารตก่ลงก่�นในเร��องก่ารส�งผ��ร �ายข�ามแด้น ก่ารป็ระก่าศสงคืราม ก่ารที่�าส�ญ่ญ่าส�นต�ภาพื่ ก่ารก่�าหนด้ก่ฎีเก่ณฑ์�ต�างๆ ในที่�องที่ะเลหลว่ง ฯลฯ ก่ฎีเก่ณฑ์�เหล�าน��ช�ว่ยน�ามาซึ่-�งคืว่ามเป็ นระเบ�ยบเร�ยบร�อยต�อร�ฐต�างๆ พื่อสมคืว่ร ก่ารที่��ร �ฐต�างๆ เคืารพื่ก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศก่8อาจจะเพื่ราะเก่รงก่ล�ว่สงคืราม หร�อก่ล�ว่ว่�าจะส�ญ่เส�ยผลป็ระโยชน�ของตน ตลอด้จนที่��งก่ารได้�ร�บคืว่ามน�บหน�าถึ�อตาและคืว่ามเช��อถึ�อมาก่ก่ว่�าบ&คืคืลที่��ชอบเล�นอะไรนอก่ก่ต�ก่า

ท*+มาของกฎีหมายแหล�งที่��มาของก่ฎีหมายม�อย��มาก่มายหลายที่าง และม�ก่ารว่�ว่�ฒนาก่ารหร�อ

เป็ล��ยนแป็ลงมาโด้ยตลอด้ เพื่ราะเม��อม�ส�งคืมหร�อก่ล&�มชนก่8ย�อมต�องม�ก่ฎีหมาย ด้�งน��น เราพื่อจะแบ�งที่��มาของก่ฎีหมายได้�โด้ยล�ก่ษณะที่��ว่ไป็ 9 แหล�งด้�ว่ยก่�น คื�อ

1. ขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ� (Custom)

2. ก่ารออก่ก่ฎีหมายของสภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� (Legislation)

3. คื�าส��งและก่ฤษฎี�ก่าที่��ออก่โด้ยฝ่Eายบร�หาร (Executive Decree)

4. คื�าพื่�พื่าก่ษาของศาล (Judicial Decisions)

5. บที่คืว่ามที่างว่�ชาก่ารก่ฎีหมาย (Commentaries)

6. ร�ฐธรรมน�ญ่ (Constitution)

7. สนธ�ส�ญ่ญ่าต�างๆ (Treaties)

8. ป็ระมว่ลก่ฎีหมาย (Codification)

9. ป็ระชามต� (Referendum)

1. ขนื้บธรรมเนื้*ยมประเพิณ* (Custom) เป็ นที่��มาที่��ส�าคื�ญ่ที่��ส&ด้แหล�งหน-�งของก่ฎีหมาย ซึ่-�งต�นตอมาจาก่น�ส�ยของส�งคืม หร�อน�ส�ยที่างส�งคืม (Social Habit) อ�นเป็ นที่��มาของบรรด้าก่ฎีหมายพื่��นฐานของร�ฐหน-�งๆ ขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ�ม�ก่จะได้�ร�บอ�ที่ธ�พื่ลจาก่ที่างศาสนาด้�ว่ยเป็ นอ�นมาก่

Page 72: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่ารว่�ว่�ฒนาก่ารเร��มแรก่ของร�ฐสม�ยใหม�น��น ส�ว่นใหญ่�ก่8ม�พื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�เป็ นผ��ป็ก่คืรองป็ระเที่ศ และม�ก่ม�หล�ก่ป็ฏ�บ�ต�ว่�าขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ�ที่�องถึ��นบางป็ระก่าร จะน�ามาใช�เหม�อนหล�ก่แห�งก่ฎีหมายในป็ระเที่ศ จนก่ระที่��งได้�น�าเอาขนบธรรมเน�ยมป็ระเพื่ณ�บางอย�างมาใช�บ�งคื�บเป็ นก่ฎีหมายด้�ว่ย

2. การออกกฎีหมายของสภูานื้�ติ�บ�ญญ�ติ� (Legislation) ในร�ฐป็%จจ&บ�นส�ว่นใหญ่� สภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�เป็ นแหล�งก่�าเน�ด้ก่ฎีหมายแห�งแรก่ที่��ส&ด้และป็ระเที่ศป็ระชาธ�ป็ไตยส�ว่นใหญ่�ถึ�อว่�าก่ารออก่ก่ฎีหมายซึ่-�งน�ามาบ�งคื�บในป็ระเที่ศน��น ก่8เพื่��อคืว่ามสมบ�รณ�พื่�นส&ขของป็ระชาชาต� ซึ่-�งได้�เล�อก่ผ��แที่นของตนเพื่��อพื่�จารณายก่ร�างก่ฎีหมายอ�นจะเป็ นป็ระโยชน�ต�อป็ระชาชนส�ว่นมาก่น��นเอง

3. ค�าส�+งแลัะกฤษฎี*กาท*+ออกโดยฝ่Aายบร�หาร (Executive Decree) คื�อ ก่ฎีหมายที่��ฝ่Eาบร�หารเป็ นผ��ออก่มาบ�งคื�บใช� ร�ฐที่&ก่ร�ฐในป็%จจ&บ�นเห8นข�อเที่8จจร�งว่�าร�ฐบาลม�หน�าที่��มาก่และก่ว่�างขว่าง สภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ไม�อาจออก่ก่ฎีหมายได้�อย�างเพื่�ยงพื่อเต8มที่�� จ-งได้�มอบหมายอ�านาจก่ารออก่ก่ฎีหมายบางป็ระก่ารให�ก่�บคืณะบร�หาร เพื่��อที่��จะสามารถึแก่�ไขป็%ญ่หาได้�อย�างรว่ด้เร8ว่และสอด้คืล�องก่�บสถึานก่ารณ�ฉ&ก่เฉ�นหร�อคื�บข�นของร�ฐ แต�ข�อที่��จะต�องส�งเก่ต ก่8คื�อ คื�าส��งของฝ่Eายบร�หารจะเป็ นก่ฎีหมายได้�น��นก่8ต�อเม��อฝ่Eายบร�หารได้�ร�บมอบอ�านาจในเร��องน��นๆ จาก่ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�อย�างช�ด้เจน ระบ&ขอบเขตเอาไว่� หาก่ม�ได้�ร�บมอบก่8ถึ�อว่�าคื�าส��งของฝ่Eายบร�หารน��นไม�ได้�เป็ นผลที่างก่ฎีหมาย

ในก่รณ�ที่��เก่�ด้ก่ารป็ฏ�ว่�ต�หร�อร�ฐป็ระหารข-�นและสภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ถึ�ก่ย&บไป็ คื�าส��งของคืณะป็ฏ�ว่�ต�หร�อคืณะร�ฐป็ระหารก่8อน&โลมใช�เป็ นก่ฎีหมายได้�เช�นก่�น

4. ค�าพิ�พิากษาของศาลั (Judicial Decisions) ตามป็ก่ต�โด้ยที่��ว่ไป็แล�ว่มน&ษย�เราม�ก่จะม�น�ส�ยที่�าตามส��งที่��ก่ระที่�ามาก่�อนแล�ว่ (Creature of Habit) ก่ล�าว่คื�อ ผ��พื่�พื่าก่ษาเคืยต�ด้ส�นคืด้�เช�นน��มาก่�อน เม��อม�คืด้�ที่��คืล�ายคืล-งเก่�ด้ข-�น ผ��พื่�พื่าก่ษาก่8ย-ด้ถึ�อเอาคื�าต�ด้ส�นที่��แล�ว่มาเป็ นหล�ก่ (Judges make laws) ป็ระเที่ศอ�งก่ฤษเป็ นต�ว่อย�างที่��ด้�ที่��ใช�หล�ก่คื�าพื่�พื่าก่ษาของศาลเป็ นก่ฎีหมายและย�งคืงใช�อย��ตราบจนที่&ก่ว่�นน��

ในป็%จจ&บ�นป็ระเที่ศต�างๆ ม�ร�ฐธรรมน�ญ่ซึ่-�งเข�ยนเป็ นลายล�ก่ษณ�อ�ก่ษร ผ��พื่�พื่าก่ษาก่8ม�อ�ที่ธ�พื่ลในก่ารสร�าง เป็ล��ยนแป็ลงก่ฎีหมาย หร�อขยายคืว่าม ต�คืว่ามก่ฎีหมายออก่ไป็อ�ก่ เพื่ราะก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่ซึ่-�งเป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ของร�ฐ เม��อถึ�ก่ต�คืว่ามจาก่ผ��พื่�พื่าก่ษาก่8เป็ร�ยบเสม�อนก่�บก่ารออก่ก่ฎีหมายใหม�น��นเอง

5. บทความทางว�ชั้าการกฎีหมาย (Commentaries) คืว่ามเห8นของน�ก่ว่�ชาก่าร ตลอด้ที่��งก่ารว่�พื่าก่ษ� ว่�จารณ� และก่ารว่�เคืราะห�ในเร��องของก่ฎีหมาย ซึ่-�งเน�นถึ-งคืว่ามย&ต�ธรรม คืว่ามสะด้ว่ก่ คืว่ามเหมาะสม หร�อรว่มเร�ยก่ว่�า ที่�าอย�างไรจ-งจะเป็ นก่ฎีหมายที่��ด้�ได้�น��น น�ก่น�ต�ศาสตร�ที่��ม�ช��อเส�ยงของไที่ย เช�น นายป็ร�ด้� พื่นมยงคื� ก่8เป็ นผ��ที่��ม�อ�ที่ธ�พื่ลต�อแนว่คืว่ามคื�ด้

Page 73: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ของสภาน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�และคืณะต&ลาก่ารหร�อฝ่Eายบร�หารในก่ารน�า เอาคืว่ามคื�ด้เหล�าน��มาป็ร�บป็ร&งก่ฎีหมายเด้�มให�ด้�ย��งข-�น

6. ร�ฐธรรมนื้"ญ (Constitution) เป็ นก่ฎีหมายส�งส&ด้ของร�ฐ เป็ นแม�บที่ของก่ฎีหมายที่��งหลาย เพื่ราะไม�ว่�าก่ฎีหมายใด้ๆ ในร�ฐน��น ถึ�าข�ด้แย�งก่�บก่ฎีหมายร�ฐธรรมน�ญ่แล�ว่ ก่ฎีหมายน��นถึ�อเป็ นโมฆ่ะ ร�ฐธรรมน�ญ่ได้�ก่�าหนด้ว่�ตถึ&ป็ระสงคื�และก่ระบว่นก่ารออก่ก่ฎีหมายไว่�อย�างช�ด้เจน ฉะน��นก่ารยก่ร�างก่ฎีหมายใด้ๆ ต�องถึ�อเอาแนว่ที่างร�ฐธรรมน�ญ่เป็ นหล�ก่

7. สนื้ธ�ส�ญญาติ1างๆ (Treaties) คื�อ ข�อตก่ลงระหว่�างร�ฐต��งแต� 2 ร�ฐข-�นไป็ ซึ่-�งได้�ตก่ลงที่��จะม�ก่ารร�บผ�ด้ชอบในคืว่ามส�มพื่�นธ�ต�อก่�น เม��อม�สนธ�ส�ญ่ญ่าต�อก่�นแล�ว่ แต�ละร�ฐซึ่-�งเป็ นคื��ตก่ลงในส�ญ่ญ่าก่8อาจจะต�องออก่ก่ฎีหมายต�างๆ ภายในป็ระเที่ศ เพื่��อให�อด้คืล�องก่�บสนธ�ส�ญ่ญ่าน��นๆ ที่��ได้�ก่�าหนด้ข-�น ที่��งน��เพื่��อให�ก่ารป็ฏ�บ�ต�เป็ นไป็ได้�ตามสนธ�ส�ญ่ญ่าน��นๆ

นอก่จาก่น��สนธ�ส�ญ่ญ่าต�างๆ เหล�าน��ก่8ย�งเป็ นแหล�งที่��มาอ�นส�าคื�ญ่ที่��ส&ด้ของก่ฎีหมายระหว่�างป็ระเที่ศอ�ก่ด้�ว่ย

8. ประมวลักฎีหมาย (Codification) คื�อ ก่ารรว่บรว่มก่ฎีหมายต�างๆ มาจ�ด้เป็ นหมว่ด้หม�� ก่ฎีหมายคืราสามด้ว่งของไที่ยก่8อาจถึ�อเป็ นป็ระมว่ลก่ฎีหมายได้� ส�าหร�บก่ารจ�ด้ป็ระมว่ลก่ฎีหมายหลายป็ระเภที่ หลายชน�ด้ มาป็ร�บป็ร&งแก่�ไขตามาตรฐานที่��ต� �งไว่�น��น ป็ระมว่ลก่ฎีหมายที่��ม�ช��อเส�ยงเป็ นหล�ก่ของป็ระมว่ลก่ฎีหมายที่��ว่ไป็ คื�อ Napoleonic Code หร�อป็ระมว่ลก่ฎีหมายนโป็เล�ยนแห�งป็B คื.ศ.1804 ซึ่-�งได้�อาศ�ยก่ฎีหมายโรม�นน��นเอง ป็ระมว่ลก่ฎีหมายป็%จจ&บ�นของไที่ยก่8ได้�ร�บอ�ที่ธ�พื่ลจาก่ Napoleonic Code มาก่ที่�เด้�ยง

9. ประชั้ามติ� (Referendum) คื�อ ก่ฎีหมายที่��ป็ระชาชนร�ว่มก่�นเสนอร�างก่ฎีหมาย (Initiative)

และม�ส�ที่ธ�ออก่เส�ยงป็ระชามต� (Referendum) ว่�ธ�น��ในป็ระเที่ศฝ่ร��งเศส สหร�ฐอเมร�ก่า สว่�ตเซึ่อร�แลนด้� ย�งใช�ก่�นอย��เสมอ

ไที่ยได้�พื่ยายามร�เร��มให�ป็ระชาชนม�ส�ว่นในข�อน��มาก่ย��งข-�นในร�ฐธรรมน�ญ่แห�งราชอาณาจ�ก่รไที่ย พื่.ศ.2540

กฎีหมายก�บการร�กษากฎีหมาย (Law and Enforcement)

ก่ฎีหมายในร�ฐจะด้� จะย&ต�ธรรม ม�เหต&ผล หร�อไม�น��น ข-�นอย��ก่�บว่�จารณญ่าณของแต�ละบ&คืคืลซึ่-�งเป็ นป็%ญ่หาของคื�าน�ยม (Value Judgement) หร�อป็%ญ่หาของก่ารต�คืว่าม (Problem of

Interpretation) เพื่ราะฉะน��นเราจ-งคืว่รจะพื่�จารณาก่ฎีหมายในอ�ก่แง�หน-�ง ก่ารร�ก่ษาก่ฎีหมายป็ระเด้8นก่ารบ�งคื�บใช�ก่ฎีหมายจร�งจ-งส�าคื�ญ่เที่�าๆ ก่�บก่ารที่��ร �ฐต�องม�ก่ฎีหมายที่��ด้�

เพื่ราะหาก่ม�ก่ฎีหมายที่��ด้�แล�ว่ไม�ม�ก่ารบ�งคื�บใช�จร�ง ก่8ไม�ม�ป็ระโยชน� ไม�ที่�าให�เก่�ด้ร�ฐที่��ด้� ขณะเด้�ยว่ก่�นหาก่ม�ก่ารบ�งคื�บใช�ก่ฎีหมายจร�งแต�ก่ฎีหมายไม�ม�เหต&ผล ก่8ไม�ก่�อให�เก่�ด้ร�ฐที่��ด้�เช�นก่�น

Page 74: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่ารที่��ก่ฎีหมายจะบ�งคื�บใช�ได้�จร�งย�งข-�นอย��ก่�บป็ระชาชนในร�ฐน��นๆ ด้�ว่ย เราพื่อจะแยก่ป็ระเภที่ของก่ารละเม�ด้ก่ฎีหมายออก่เป็ น 2 ป็ระก่าร คื�อ

1. ละเม�ด้เพื่ราะไม�ร� �2. ละเม�ด้เพื่��อผลป็ระโยชน�

1. ลัะเม�ดเพิราะไม1ร". ข�อน��ตามหล�ก่ก่ฎีหมายแล�ว่ฟิ%งไม�ข-�น เพื่ราะคืนที่&ก่คืนจะอ�างว่�าไม�ร� �ก่ฎีหมายไม�ได้� แต�ตามหล�ก่คืว่ามจร�งแล�ว่ม�อย��มาก่ ในข�อน��เองที่��ก่ารศ-ก่ษาจะต�องเน�นถึ-งหน�าที่��ของป็ระชาชนที่��จะเป็ นต�องร� �ก่ฎีหมายตามสมคืว่ร

2. ลัะเม�ดเพิ�+อผู้ลัประโยชั้นื้� ก่ารละเม�ด้ก่ฎีหมายป็ระเภที่น��สามารถึช��ช�ด้ได้�ถึ-งก่ารได้�ร�บก่ารอบรมของพื่ลเม�องน��นๆ อาจจะบ�งถึ-งคืว่ามม�ก่ง�าย เอาคืว่ามสะด้ว่ก่ของตนเป็ นใหญ่� ก่ารม&�งหว่�งที่��จะก่อบโก่ยผลป็ระโยชน�เป็ นจ�านว่นมาก่ให�ต�ว่เอง โด้ยไม�คื�าน-งถึ-งส�ว่นรว่มหร�อก่ฎีหมายที่��งส��น ก่ารละเม�ด้ก่ฎีหมายป็ระเภที่น��เป็ นป็%ญ่หาในก่ารร�ก่ษาก่ฎีหมาย เน��องจาก่ผ��ละเม�ด้ม�ก่จะให�ส�นบนแก่�ผ��ร �ก่ษาก่ฎีหมายร�ว่มก่�นที่�าที่&จร�ต

ย�งม�ต�ว่อย�างอ�ก่มาก่มาย ซึ่-�งถึ�าป็ระชาชนไม�ก่ระต�อร�อร�นเพื่��อแก่�ไขป็%ญ่หา อ�นเป็ นผลป็ระโยชน�โด้ยตรงก่�บต�ว่เองแล�ว่ ก่ฎีหมายก่8ไม�ม�คืว่ามหมาย ฉะน��น ก่ารอบรมส��งสอนป็ระชาชนเพื่��อให�คืว่ามเคืารพื่ก่ฎีหมาย ร� �ก่ฎีหมาย ให�ใช�เป็ น ร� �ส�ที่ธ�ตนเอง จ-งเป็ นส�ว่นป็ระก่อบที่��ส�าคื�ญ่มาก่ที่��ส&ด้ส�าหร�บป็ระเที่ศป็ระชาธ�ป็ไตยที่��งหลาย

บทท*+ 7ประชั้าธ�ปไติยก�บการเม�องไทย

เหติ2การณ�หลั�งการเปลั*+ยนื้แปลังการปกครอง พิ.ศ.2475ป็ระเที่ศต�างจาก่ป็ระเที่ศอ��นๆ ในเอเช�ยตะว่�นออก่เฉ�ยงใต� คื�อ ไม�ได้�ตก่เป็ นอาณาน�คืม

ของป็ระเที่ศจ�ก่รว่รรด้�น�ยมตะว่�นตก่ เพื่�ยงแต�ต�องเส�ยด้�นแด้นบางส�ว่น เช�น มณฑ์ลบ�รพื่า

Page 75: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

(เขมรส�ว่นใน คื�อ พื่ระตะบอง เส�ยมราฐ และศร�โสภณ ให�แก่�ฝ่ร��งเศสในป็B พื่.ศ.2449 และเส�ยไที่รบ&ร� ป็ะล�ศ ก่ล�นต�น ตร�งก่าน� แก่�อ�งก่ฤษในป็B พื่ .ศ.2452) เพื่��อแลก่อ�านาจศาลคื�นมาจาก่ฝ่ร��งเศสและอ�งก่ฤษ และต�อมาในป็B พื่.ศ.2475 ได้�ม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงก่ารป็ก่คืรองจาก่ระบอบสมบ�รณาญ่าส�ที่ธ�ราชย�เป็ นระบอบป็ระชาธ�ป็ไตย

อย�างไรก่8ตาม ป็ระเที่ศไที่ยได้�ม�ก่ารป็ก่คืรองภายใต�ระบอบเผด้8จก่ารที่หารอย�างต�อเน�� องก่�นเป็ นเว่ลาหลายป็B น�บต��งแต�จอมพื่ลแป็ลก่ พื่�บ�ลสงคืราม ผ��ซึ่-�งเป็ นผ��หน-�งที่��ร �ว่มก่�อก่ารเป็ล��ยนแป็ลงก่ารป็ก่คืรองของไที่ยจาก่ระบอบสมบ�รณาญ่าส�ที่ธ�ราชย�มาเป็ นระบอบป็ระชาธ�ป็ไตยที่��ม�พื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�อย��ภายใต�ร�ฐธรรมน�ญ่ ในป็B พื่.ศ.2475 จอมพื่ลแป็ลก่ พื่�บ�ลสงคืราม ได้�น�าป็ระเที่ศไที่ยเข�าร�ว่มก่�บฝ่Eายอ�ก่ษะ คื�อ ญ่��ป็&Eน เยอรมน� และอ�ตาล� ในสงคืรามโลก่คืร��งที่�� 2 และเป็ นผ��ใช�อ�านาจที่างก่ารเม�องอย�างเด้8ด้ขาด้ระหว่�างป็B พื่.ศ.2481

– 2500 (แต�ระหว่�างป็B พื่.ศ.2488 – 2491 ไที่ยอย��ภายใต�ก่ารป็ก่คืรองของร�ฐบาลพื่ลเร�อน)

ในป็B พื่.ศ.2500 จอมพื่ลสฤษด้�L ธนะร�ชต� ที่�าก่ารป็ฏ�ว่�ต�ย-ด้อ�านาจจาก่ จอมพื่ลแป็ลก่ พื่�บ�ลสงคืราม และข-�นด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร�ในป็B พื่.ศ.2502 ได้�ใช�อ�านาจเด้8ด้ขาด้จนถึ-งแก่�อส�ญ่ก่รรมในป็B พื่.ศ.2506 และจอมพื่ลถึนอม ก่�ตต�ขจร ได้�ข-�นส�บต�ออ�านาจและได้�ย&บร�ฐสภาแล�ว่ป็ระก่าศก่ฎีอ�ยก่ารศ-ก่ โด้ยบร�หารป็ระเที่ศภายใต�คืณะก่รรมาธ�ก่ารบร�หารแห�งชาต� ในเด้�อนธ�นว่าคืม พื่.ศ.2515 จอมพื่ลถึนอม ก่�ตต�ขจร ป็ระก่าศใช�ร�ฐธรรมน�ญ่ป็ก่คืรองราชอาณาจ�ก่รที่��ที่�าให�ตนม�อ�านาจเด้8ด้ขาด้ และได้�แต�งต��งสมาช�ก่ธรรมน�ญ่แห�งชาต�ที่��เป็ นต�ารว่จและที่หารจ�านว่น 200 คืน จาก่จ�านว่นที่��งส��น 299 คืน ธรรมน�ญ่ก่ารป็ก่คืรองฉบ�บน��หล�งจาก่ จอมพื่ลถึนอม ก่�ตต�ขจร หมด้อ�านาจในป็B พื่.ศ.2516 แล�ว่ร�ฐบาลใหม�ที่��ม�นายส�ญ่ญ่า ธรรมศ�ก่ด้�L เป็ นนายก่ร�ฐมนตร�ได้�ใช�ต�อมาอ�ก่ 1 ป็B

ในว่�นที่�� 14 ต&ลาคืม พื่.ศ.2516 ร�ฐบาลที่หารของจอมพื่ลถึนอม ก่�ตต�ขจร และจอมพื่ลป็ระภาส จาร&เสถึ�ยร ได้�ถึ�ก่พื่ล�งป็ระชาชน น�ส�ต และน�ก่ศ-ก่ษาป็ลด้ออก่จาก่อ�านาจเผด้8จก่ารที่หาร (ซึ่-�งได้�บร�หารป็ระเที่ศมาต��งแต�ป็B พื่.ศ.2506) หล�งจาก่เก่�ด้เหต&ก่ารณ�ว่�นอาที่�ตย�นองเล�อด้ (Bloody Sunday) แล�ว่ร�ฐบาลพื่ลเร�อนของนายส�ญ่ญ่า ธรรมศ�ก่ด้�L ได้�ป็ก่คืรองป็ระเที่ศต�อมา

ในว่�นที่�� 6 ต&ลาคืม พื่.ศ.2519 ได้�เก่�ด้ก่ารจลาจลร�ายแรงซึ่-�งม�ผลให�ร�ฐบาลที่��ม�จาก่ก่ารเล�อก่ต��ง ซึ่-�งม� ม.ร.ว่.เสน�ย� ป็ราโมช เป็ นนายก่ร�ฐมนตร�ต�องล�มไป็ (ก่ารจลาจลด้�งก่ล�าว่เป็ นผลที่�าให�คืนไที่ยบางก่ล&�มแบ�งออก่เป็ น 2 ฝ่Eาย ที่�าก่ารรบราฆ่�าฟิ%นจนล�มตายเร��อยมาถึ-งป็B พื่.ศ.2525 จ-งได้�ย&ต�ก่ารส��รบต�อก่�น) และนายธาน�นที่ร� ก่ร�ยว่�เช�ยร ได้�เข�ามาด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร�เพื่�ยง 1 ป็B ก่8เก่�ด้ก่ารป็ฏ�ว่�ต�ข-�นอ�ก่คืร��ง ในคืร��งน�� พื่ลเอก่เก่ร�ยงศ�ก่ด้�L ชมะน�นที่� ได้�ด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร� และในป็B พื่.ศ.2522 พื่ลเอก่เก่ร�ยงศ�ก่ด้�L ได้�ป็ระก่าศย&บสภาแล�ว่จ�ด้ให�ม�ก่ารเล�อก่ต��งใหม�ในว่�นที่�� 22 เมษายน พื่.ศ.2522 ซึ่-�งป็ราก่ฏผลต�อมาว่�าได้�ร�ฐบาลใหม�ที่��ม�พื่ลเอก่เป็รม ต�ณส�ลานนที่� ผ��บ�ญ่ชาก่ารที่หารส�งส&ด้ เป็ นผ��ได้�ร�บก่ารเสนอช��อ

Page 76: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ให�ด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร� พื่ลเอก่เป็รม ต�ส�ณลานนที่� ได้�ถึ�ก่ก่ล&�มที่หารหน&�มที่��ม�ช��อว่�า “ย�งเต�ร�ก่ ที่�าก่ารร�ฐป็ระหารล�มร�ฐบาลถึ-ง ” 2 คืร��ง คื�อ คืร��งแรก่ในว่�นที่�� 1- 4 เมษายน พื่.ศ.2524 และคืร��งที่�� 2 ในว่�นที่�� 9 ก่�นยายน พื่.ศ.2528 น�าโด้ย พื่ลเอก่เสร�ม ณ นคืร แต�ไม�ส�าเร8จที่��งสองคืร��ง พื่ลเอก่เป็รม ต�ส�ณลานนที่� ได้�ด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร� บร�หารป็ระเที่ศถึ-ง 8 ป็B 5 เด้�อน และได้�ขอลาออก่จาก่ต�าแหน�งในเด้�อนก่รก่ฎีาคืม พื่.ศ.2531 เพื่��อเป็=ด้โอก่าสให�ม�ก่ารเล�อก่ต��งที่��ว่ไป็ จ-งได้�พื่ลเอก่ชาต�ชาย ช&ณหะว่�ณ ซึ่-�งเป็ นห�ว่หน�าพื่รรคืชาต�ไที่ยในขณะน��นเป็ นนายก่ร�ฐมนตร�จ�ด้ต��งร�ฐบาลผสมบร�หารป็ระเที่ศต�อไป็นานถึ-ง 2 ป็B 7

เด้�อน ส�ว่นพื่ลเอก่เป็รม ต�ส�ณลานนที่� ก่8ได้�ร�บพื่ระก่ร&ณาโป็รด้เก่ล�าฯ ให�ด้�ารงต�าแหน�งร�ฐบ&ร&ษและป็ระธานองคืมนตร�ในป็%จจ&บ�น (ส�บแที่นนายส�ญ่ญ่า ธรรมศ�ก่ด้�L ซึ่-�งม�ส&ขภาพื่ไม�ด้� และได้�ถึ-งแก่�อส�ญ่ก่รรมในป็B พื่.ศ.2544 อาย& 95 ป็B)

ต�อมาในว่�นที่�� 23 ก่&มภาพื่�นธ� พื่.ศ.2534 ได้�เก่�ด้ก่ารร�ฐป็ระหารของคืณะร�ก่ษาคืว่ามสงบเร�ยบร�อยแห�งชาต� (รสช.) น�าโด้ยพื่ลเอก่ส&นที่ร คืงสมพื่งษ� ได้�โคื�นล�มร�ฐบาลพื่ลเอก่ชาต�ชาย ช&ณหะว่�ณ และแต�งต��งนายก่ร�ฐมนตร�คืนที่�� 18 คื�อ นายอาน�นที่� ป็%นยารช&น ต�อมาได้�ม�ก่ารเล�อก่ต��งที่��ว่ไป็ ในว่�นที่�� 22 ม�นาคืม พื่.ศ.2535 ป็ราก่ฏว่�า นายณรงคื� ว่งศ�ว่รรณ ห�นหน�าพื่รรคืสาม�คืคื�ธรรมได้�คืะแนนส�งส&ด้พื่ร�อมที่��จะจ�ด้ต��งงร�ฐบาลได้� แต�นายณรงคื� ว่งศ�ว่รรณ ถึ�ก่ก่ล�าว่หาว่�าไป็พื่�ว่พื่�นก่�บก่ารคื�ายาเสพื่ต�ด้ จ-งที่�าให� พื่อเอก่ส&จ�นด้า คืราป็ระย�ร ซึ่-�งไม�ได้�มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��ง แต�อย��ในก่ล&�มคืณะร�ฐป็ระหาร รสช. ได้�เข�ามาเป็ นนายก่ร�ฐมนตร�คืนที่�� 19 แต�อย��ในต�าแหน�งได้�เพื่�ยง 2 เด้�อน ก่8เก่�ด้ก่ารเด้�นขบว่นป็ระที่�ว่งข�บไล� พื่ลเอก่ส&จ�นด้า คืราป็ระย�ร เหต&ก่ารณ�ล&ก่ลามเป็ นก่ารจลาจลนองเล�อด้ในเด้�อนพื่ฤษภาคืม พื่.ศ.2535

ที่�าให�นายอาน�นที่� ป็%นยารช&น ต�องก่ล�บมาเป็ นนายก่ร�ฐมนตร�คืนที่�� 20 ต�อมาได้�ม�ก่ารเล�อก่ต��งใหม�ในว่�นที่�� 13 ก่�นยายน พื่.ศ.2535 ป็ราก่ฏว่�า นายชว่น หล�ก่ภ�ย ห�ว่หน�าพื่รรคืป็ระชาธ�ป็%ตย� ข-�นด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร�ร�ว่มก่�บคืณะร�ฐบาลที่��มาจาก่หลายพื่รรคื แต�นายชว่น ต�องที่�าก่ารย&บสภาจาก่ก่รณ�อ��อฉาว่ สป็ก่.4-01 และจาก่ก่ารที่��พื่ลตร�จ�าลอง ศร�เม�อง ลาออก่จาก่ก่ารร�ว่มร�ฐบาล ต�อมาม�ก่ารเล�อก่ต��งที่��ว่ไป็ข-�นใหม�ในว่�นที่�� 2 ก่รก่ฎีาคืม พื่.ศ.2538 และเป็ นป็Bที่��ร �ฐธรรมน�ญ่ก่�าหนด้ให�บ&คืคืลที่��ม�อาย& 18 ป็Bบร�บ�รณ� ม�ส�ที่ธ�Lลงคืะแนนเส�ยงเล�อก่ต��งเป็ นคืร��งแรก่ ป็ราก่ฏว่�า นายบรรหาร ศ�ลป็อาชา ห�นหน�าพื่รรคืชาต�ไที่ย ได้�ด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร�คืนที่�� 21 ของไที่ย บร�หารป็ระเที่ศได้�เพื่�ยง 1 ป็B ก่8ต�องย&บสภาหล�งจาก่ถึ�ก่พื่รรคืป็ระชาธ�ป็%ตย�ซึ่-�งเป็ นฝ่Eายคื�านในขณะน��นก่ล�าว่โจมต�เร��องเช��อชาต�ของที่�านอย�างร&นแรง และถึ�ก่ก่ด้ด้�นจาก่พื่รรคืร�ว่มร�ฐบาล ที่�าให�ม�ก่ารเล�อก่ต��งที่��ว่ไป็ข-�นใหม� ในคืร��งน�� พื่ลเอก่ชว่ล�ต ยงใจย&ที่ธ ห�นหน�าพื่รรคืคืว่ามหว่�งใหม� ได้�คืะแนนเส�ยงเล�อก่ต��งเข�ามามาก่ก่ว่�าพื่รรคือ��นจ-งจ�ด้ต��งร�ฐบาลผสมข-�น โด้ยพื่ลเอก่ชว่ล�ต ยงใจย&ที่ธ ด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร�เพื่�ยง 9 เด้�อน จ-งได้�ขอลาออก่จาก่ต�าแหน�ง (เน��องจาก่ถึ�ก่ป็ระที่�ว่งข�บไล�รายว่�นจาก่ก่ารที่&�มคื�าเง�นบาที่ก่�บด้อลลาร�สหร�ฐฯ ป็ระจว่บก่�บเศรษฐก่�จฟิองสบ��ที่��เก่�ด้ข-�นมาต��งแต�

Page 77: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ร�ฐบาลพื่ลเอก่ชาต�ชาย ช&ณหะว่�ณ ได้�แตก่สลายลง ที่�าให�พื่ลเอก่ชว่ล�ต ยงใจย&ที่ธ ต�องป็ระก่าศให�คื�าเง�นบาที่ลอยต�ว่ (Managed Float) ข-�นในเด้�อนก่รก่ฎีาคืม พื่.ศ.2540 ร�ฐบาลไที่ยต�องไป็ขอคืว่ามช�ว่ยเหล�อและก่��เง�นจาก่ก่องที่&นก่ารเง�นระหว่�างป็ระเที่ศ (IMF) มาก่��เศรษฐก่�จที่��ระบบก่รเง�นก่ารธนาคืารของชาต�ที่��พื่�งพื่�นาศ) พื่รรคืป็ระชาธ�ป็%ตย�ภายใต�ก่ารน�าของห�ว่หน�าพื่รรคื คื�อ นายชว่น หล�ก่ภ�ย ได้�ช�งช�ยก่�บพื่รรคืร�ว่มร�ฐบาลเก่�าและได้�ช�ยชนะจาก่ก่ารแป็รพื่�ก่ตร�ของ 12 ส.ส. จาก่พื่รรคืป็ระชาก่รไที่ยที่��มาเข�าร�ว่มก่�บพื่รรคืป็ระชาธ�ป็%ตย�ด้�าเน�นก่ารจ�ด้ต��งร�ฐบาลผสม เป็ นนายก่ร�ฐมนตร�คืนที่�� 23 ในว่�นที่�� 9 พื่ฤศจ�ก่ายน พื่.ศ.2540 น�บว่�าเป็ นสม�ยที่�� 2 ของนายก่ร�ฐมนตร�นายชว่น หล�ก่ภ�ย ในเด้�อนม�นาคืม พื่.ศ.2543 ไที่ยได้�จ�ด้ให�ม�ก่ารเล�อก่ต��งว่&ฒ�สภาเป็ นคืร��งแรก่ ม�ก่�าหนด้ว่าระ 6 ป็B ซึ่-�งแต�ก่�อนว่&ฒ�สภามาจาก่ก่ารแต�งต��ง ร�ฐบาลของนายชว่น หล�ก่ภ�ยได้�บร�หารต�อไป็อ�ก่เก่�อบ 3 ป็B จ-งได้�ย&บร�ฐสภา จ�ด้ให�ม�ก่ารเล�อก่ต��งที่��ว่ไป็ในว่�นที่�� 6 มก่ราคืม พื่.ศ.2544 ป็ราก่ฏว่�า พื่.ต.ที่. ด้ร.ที่�ก่ษ�ณ ช�นว่�ตร ได้�เข�ามาด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร�คืนป็%จจ&บ�น ในสม�ยร�ฐบาลของนายก่ร�ฐมนตร� นายชว่น หล�ก่ภ�ย ไที่ยได้�เป็ นป็ระเที่ศเจ�าภาพื่จ�ด้ก่�ฬาเอเช�ยนเก่มส� คืร��งที่�� 13 ในเด้�อนธ�นว่าคืม พื่.ศ.2541 ที่��ก่ร&งเที่พื่ฯ ร�ฐบาลได้�เฉล�มฉลองถึว่ายพื่ระบาที่สมเด้8จพื่ระเจ�าอย��ห�ว่ภ�ม�พื่ลอด้&ลยเด้ช ม�พื่ระชนมาย&คืรบ 72 พื่รรษา ในเด้�อนธ�นว่าคืม พื่.ศ.2542 และเป็ นเจ�าภาพื่จ�ด้ป็ระช&ม UNTAD (องคื�ก่ารสหป็ระชาชาต�ว่�าด้�ว่ยก่ารคื�าและพื่�ฒนา ข-�นที่��ศ�นย�ก่ารป็ระช&มแห�งชาต�ส�ร�ก่�ต�Lในเด้�อนก่&มภาพื่�นธ� พื่.ศ.2543 แต�ร�ฐบาลป็%จจ&บ�นต�องมาเผช�ญ่ก่�บก่ารข-�นราคืาน��าม�นของก่ล&�ม OPEC อย�างขนานใหญ่� ส�งผลให�เศรษฐก่�จไที่ยที่��คืาด้ว่�าจะเต�บโตถึ-ง 4.5%

ต�องถึด้ถึอยลงมา โด้ยเขย�บข-�นไป็ไม�ถึ-งก่ารป็ระเม�นของส�าน�ก่งานพื่�ฒนาเศรษฐก่�จและส�งคืมแห�งชาต� (สภาพื่�ฒน�) ได้�ตามส�ต�ป็B พื่.ศ.2533 ไที่ยม�ป็ระชาก่ร 60 ล�านคืน โด้ยป็ระชาก่รร�อยละ 30.4 อาศ�ยอย��ในจ�งหว่�ด้ภาคืก่ลาง ร�อยละ 35.2 อย��ในภาคืตะว่�นออก่เฉ�ยงเหน�อ ร�อยละ 12.5 อย��ในจ�งหว่�ด้ภาคืใต� ร�อยละ 21.9 อย��ในจ�งหว่�ด้ภาคืเหน�อ ร�ฐบาลพื่ยายามที่�าให�ช�องว่�างระหว่�างคืนรว่ยในต�ว่เม�องใหญ่�และคืนจนตามชนบที่แคืบเข�ามาให�ได้� แต�ก่8ไม�ป็ระสบคืว่ามส�าเร8จ ป็ระก่อบก่�บม�ก่ารฉ�อราษฎีร�บ�งหลว่งอย�างมาก่มายในหน�ว่ยงานของร�ฐบาลและม�หน��ที่��ไม�ก่�อให�เก่�ด้รายได้� (NPL) ในหลายๆ ธนาคืารของร�ฐและเอก่ชนภายใต�นายก่ร�ฐมนตร� พื่.ต.ที่. ด้ร.ที่�ก่ษ�ณ ช�นว่�ตร ซึ่-�งเป็ นร�ฐบาลป็%จจ&บ�นก่8ได้�พื่ยายามแก่�ไข ซึ่-�งน�บว่�าเป็ นป็%ญ่หาหน�ก่หน�ว่งที่��ร �ฐบาลจะต�องด้�าเน�นก่ารแก่�ไขอย�างจร�งจ�ง เพื่��อให�เศรษฐก่�จก่ระเต��องข-�นมาให�จงได้�

กลัไกของร�ฐติามร�ฐธรรมนื้"ญฉบ�บใหม1

Page 78: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตามร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�น ซึ่-�งป็ระก่าศใช�เม��อว่�นที่�� 10 ต&ลาคืม พื่.ศ.2540 ม�บที่บ�ญ่ญ่�ต�ที่��เก่��ยว่ข�องก่�บ ก่ารป็ฏ�ร�ป็ อย��หลายป็ระก่าร โด้ยเฉพื่าะอย�างย��งก่ารป็ฏ�ร�ป็“ ”

ก่ารเม�องซึ่-�งเป็ นห�ว่ใจส�าคื�ญ่ของก่ารจ�ด้ที่�าร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บน��เราคืงป็ฏ�เสธไม�ได้�ว่�า เพื่�� อให�บรรล&ถึ-งก่ารป็ฏ�ร�ป็ที่างก่ารเม�องด้�งก่ล�าว่ข�างต�น

ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นได้�ก่�อให�เก่�ด้ผลก่ระที่บอย�างใหญ่�หลว่งต�อก่ลไก่ของร�ฐ ซึ่-�งในก่รณ�น��อาจแยก่พื่�จารณาได้�เป็ นส��ก่รณ�ด้�ว่ยก่�น คื�อ ก่ลไก่ของร�ฐในที่างน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� ก่ลไก่ของร�ฐที่างบร�หาร ก่ลไก่ของร�ฐในที่างต&ลาก่าร และองคื�ก่รอ��นๆ ตามร�ฐธรรมน�ญ่

1.กลัไกของร�ฐในื้ทางนื้�ติ�บ�ญญ�ติ�ก่ลไก่ของร�ฐในที่างน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ได้�ร�บก่ารเป็ล��ยนแป็ลงจาก่ร�ฐธรรมน�ญ่อย�� 2 ป็ระก่าร

ใหญ่�ๆ คื�อ ก่ารป็ฏ�ร�ป็ระบบผ��แที่นและก่ารป็ฏ�ร�ป็ก่ระบว่นก่ารน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�

1.1 การปฏิ�ร"ประบบผู้".แทนื้ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�น ย�งคืนย�นอย��บนหล�ก่ก่ารของก่ารป็ก่คืรองแบบร�ฐสภา

ที่��ฝ่Eายสภาและฝ่Eายบร�หารม�คืว่ามส�มพื่�นธ�ก่�นอย�างใก่ล�ช�ด้ ก่ล�าว่โด้ยเฉพื่าะฝ่Eายสภาน��น แม�จะม�ก่ารอภ�ป็รายถึก่เถึ�ยงก่�นเป็ นอย�างมาก่ในหม�� สสร. ว่�าคืว่รจะเป็ นแบบสภาเด้�ยว่หร�อสองสภา แต�ในที่�ายที่��ส&ด้สภาร�างร�ฐธรรมน�ญ่ก่8ย�งเล8งเห8นถึ-งคืว่ามส�าคื�ญ่ของก่ารม�ว่&ฒ�สภาในฐานะที่��เป็ นองคื�ก่รก่ล��นก่รองก่ฎีหมายและองคื�ก่รตรว่จสอบ

ก่�อนที่��จะก่ล�าว่ถึ-งองคื�ป็ระก่อบ ที่��มา และอ�านาจหน�าที่��ของสภาผ��แที่นราษฎีรและว่&ฒ�สภา คืว่รจะได้�ก่ล�าว่ถึ-งพื่รรคืก่ารเม�องในฐานะที่��เป็ นองคื�ก่รภาคืมหาชนองคื�ก่รหน-�งที่��จะม�ผลต�อก่ารป็ฏ�ร�ป็ระบบผ��แที่นอย�างแที่�จร�ง

1.1.1 การปฏิ�ร"ปพิรรคการเม�องม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงป็ร�บป็ร&งอย��หลายป็ระเด้8น ที่��งในเร��องก่ารจ�ด้ต��ง ก่าร

ที่�าให�พื่รรคืก่ารเม�องเป็ นป็ระชาธ�ป็ไตย ก่ารเสร�มสร�างระบบพื่รรคืก่ารเม�อง ก่ารให�เง�นอ&ด้หน&นแก่�พื่รรคืก่ารเม�อง และคืว่บคื&มตรว่จสอบพื่รรคืก่ารเม�องได้�แก่�

1) ก่ารให�จ�ด้ต��งพื่รรคืก่ารเม�องได้�ง�ายโด้ยบ&คืคืลอาย& 20 ป็Bบร�บ�รณ� เพื่�ยง 15 คืนข-�นไป็ และยก่เล�ก่ก่ารจัดทะเบ*ยนื้พื่รรคืก่ารเม�อง แต�เป็ล��ยนเป็ นก่ารจัดแจั.งก่ารจ�ด้ต��งพื่รรคืก่ารเม�องแที่น (มาตรา 328 อน& 1)

อย�างไรก่8ตาม ภายใน 180 ว่�น น�บแต�ว่�นที่��นายที่ะเบ�ยนร�บจด้แจ�งก่ารจ�ด้ต��งพื่รรคืก่ารเม�อง พื่รรคืก่ารเม�องต�องด้�า เน�นก่ารให�ม�สมาช�ก่ต��งแต� 5,000 คืนข-�นไป็ ซึ่-�งอย�างน�อยต�องป็ระก่อบด้�ว่ยสมาช�ซึ่-�งม�ที่��อย��ในแต�ละภาคืตามบ�ญ่ช�รายช��อภาคืและจ�งหว่�ด้ที่��นายที่ะเบ�ยนป็ระก่าศก่�าหนด้และม�

Page 79: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สาขาพื่รรคืก่ารเม�องอย�างน�อยภาคืละ 1 สาขา (มาตรา 29 พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ป็ระก่อบร�ฐธรรมน�ญ่ว่�าด้�ว่ยพื่รรคืก่ารเม�อง พื่.ศ.2541)

2) ก่ารจ�ด้องคื�ก่รภายใน ก่ารด้�า เน�นก่�จก่ารและข�อบ�งคื�บของพื่รรคืก่ารเม�องต�องสอด้คืล�องก่�บหล�ก่ก่ารพื่�� นฐานของก่ารป็ก่คืรองระบอบป็ระชาธ�ป็ไตยอ�นม�พื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่รงเป็ นป็ระม&ข (มาตรา 47

ว่รรคื 2)

3) ก่ารเป็=ด้โอก่าสให�สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร ซึ่-�งเป็ นสมาช�ก่พื่รรคืก่ารเม�องจ�านว่นไม�น�อยก่ว่�า 1 ใน 4 ของจ�านว่นสมาช�ก่ที่��เป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร ก่รรมก่ารบร�หารของพื่รรคืก่ารเม�องจ�านว่นไม�น�อยก่ว่�า 1 ใน 3 ของจ�านว่นก่รรมก่ารบร�หารพื่รรคืก่ารเม�อง หร�อสมาช�ก่พื่รรคืก่ารเม�องจ�านว่นไม�น�อยก่ว่�า 50 คืน (พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ป็ระก่อบร�ฐธรรมน�ญ่ว่�าด้�ว่ยพื่รรคืก่ารเม�อง พื่.ศ.2541 มาตรา 28) ซึ่-�งเห8นว่�ามต�หร�อข�อบ�งคื�บในเร��องใด้ของพื่รรคืก่ารเม�องที่��ตนเป็ นสมาช�ก่อย��น� �น จะข�ด้ต�อสถึานะและก่ารป็ฏ�บ�ต�หน�าที่��ของสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรตามร�ฐธรรมน�ญ่น�� หร�อข�ด้แย�งก่�บหล�ก่ก่ารพื่��นฐานแห�งก่ารป็ก่คืรองในระบอบป็ระชาธ�ป็ไตยอ�นม�พื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่รงเป็ นป็ระม&ข ม�ส�ที่ธ�ร�องขอให�ศาลร�ฐธรรมน�ญ่ว่�น�จฉ�ยว่�ามต�หร�อข�อบ�งคื�บด้�งก่ล�าว่เป็ นอ�นยก่เล�ก่ไป็หร�อไม� (มาตรา 47 ว่รรคื 3 และ 4

4) ก่ารบ�งคื�บให�ผ��สม�คืร ส.ส.ต�องส�งก่�ด้พื่รรคืก่ารเม�องและหาก่ ส.ส.

พื่รรคืใด้ขาด้สมาช�ก่ภาพื่พื่รรคืเม��อใด้ก่8ต�องขาด้จาก่ ส.ส. ไป็ด้�ว่ยเช�นก่�น เหต&ผลก่8เพื่��อร�ก่ษาเสถึ�ยรภาพื่และส�งเสร�มป็ระส�ที่ธ�ภาพื่ของระบบผ��แที่นไว่� (มาตรา 117 อน& 8)

5) ก่ารให�ผ��สม�คืรร�บเล�อก่ต��งเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร ต�องเป็ นสมาช�ก่พื่รรคืก่ารเม�องที่��ลงสม�คืรไม�น�อยก่ว่�า 90 ว่�น (มาตรา 107 อน& 4)

ซึ่-�งจะม�ผลที่�าให�อนาคืตจะม�ก่ารย�ายพื่รรคืได้�ยาก่ข-�นหร�อแที่บเป็ นไป็ไม�ได้�6) ก่ารให�ม�ก่ารสน�บสน&นที่างก่ารเง�นหร�อป็ระโยชน�อย�างอ�� นแก่�

พื่รรคืก่ารเม�องโด้ยร�ฐ (มาตรา 328 อน& 5) โด้ยในก่ารจ�ด้สรรเง�นสน�บสน&นจะต�องจ�ด้สรรเป็ นรายป็B และให�คื�าน-งถึ-งจ�านว่นสมาช�ก่ซึ่-�งด้�ารงต�าแหน�งเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรของพื่รรคืก่ารเม�อง จ�านว่นคืะแนนเส�ยงจาก่บ�ญ่ช�รายช��อของพื่รรคืก่ารเม�องที่��พื่รรคืก่ารเม�องได้�ร�บในก่ารเล�อก่ต��งที่��ว่ไป็คืร��งหล�งส&ด้ จ�านว่นสมาช�ก่ของพื่รรคืก่ารเม�องและจ�านว่นสาขาพื่รรคืก่ารเม�องตามล�าด้�บ (มาตรา 58 พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ป็ระก่อบร�ฐธรรมน�ญ่ว่�าด้�ว่ยพื่รรคืก่ารเม�อง พื่.ศ.2541)

Page 80: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

7) ก่ารสน�บสน&นก่ารจ�ด้ต��งและพื่�ฒนาสาขาพื่รรคืโด้ยร�ฐ (มาตรา 328

อน& 4)

8) ก่ารจ�าก่�ด้ว่งเง�นคื�าใช�จ�ายของพื่รรคืก่ารเม�องในก่ารเล�อก่ต��งและก่ารคืว่บคื&มก่ารร�บบร�จาคืเง�นของพื่รรคืก่ารเม�อง (มาตรา 328 อน& 5)

9) ก่ารตรว่จสอบสถึานะที่างก่ารเง�นของพื่รรคืก่ารเม�อง รว่มที่��งก่ารตรว่จสอบและก่าร เป็=ด้ เผยที่�� ม าของรายไ ด้� และก่าร ใช�จ� ายของพื่รรคืก่ารเม�อง (มาตรา 328 อน& 6)

10) ก่ารจ�ด้ที่�าบ�ญ่ช�แสด้งรายร�บและรายจ�ายของพื่รรคืก่ารเม�อง และบ�ญ่ช�แสด้งที่ร�พื่ย�ส�นและหน��ส�นของพื่รรคืก่ารเม�อง ซึ่-�งต�องแสด้งโด้ยเป็=ด้เผยซึ่-�งที่��มาของรายได้�และก่ารใช�จ�ายป็ระจ�าป็Bของพื่รรคืก่ารเม�องในที่&ก่รอบป็Bป็ฏ�ที่�น เพื่��อเสนอต�อคืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งเพื่��อตรว่จสอบและป็ระก่าศให�สาธารณชนที่ราบ (มาตรา 328 อน& 7)

1.1.2 การปฏิ�ร"ปสภูาผู้".แทนื้ราษฎีรม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงหลายป็ระเด้8นที่��งในเร��ององคื�ป็ระก่อบ ที่��มา อ�านาจ

หน�าที่�� ได้�แก่�1) สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรม�จ�านว่นที่��งส��น 500 คืน แยก่เป็ น 2

ป็ระเภที่ คื�อ ป็ระเภที่ที่��มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งแบบแบ�งเขตเล�อก่ต��ง จ�านว่น 400 คืน และป็ระเภที่ที่��มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งแบบบ�ญ่ช�รายช��อ จ�านว่น 100

คืน (มาตรา 98)

2) ระบบก่ารเล�อก่ต��งม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงใหม�จาก่ระบบที่�� ส.ส. มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งเขตละ 1 ถึ-ง 3 คืน มาเป็ นระบบก่ารเล�อก่ต��งแบบผสมระหว่�างเขตละ 1 คืน และระบบบ�ญ่ช�ซึ่-�งพื่รรคืก่ารเม�องเสนอ ซึ่-�งได้�แบบมาจาก่ป็ระเที่ศญ่��ป็&Eนและเยอรม�น (มาตรา 99 และมาตรา 102)

ก่ารม� ส.ส. เขตละ 1 คืน นอก่จาก่จะที่�าให�เก่�ด้คืว่ามเสมอภาคืในหม��ผ��ม�ส�ที่ธ�ออก่เส�ยงเล�อก่ต��งแล�ว่ ย�งเป็ นก่ารที่�า ให�คืนด้�ม�คืว่ามสามารถึ สามารถึต�อส��ก่�บผ��ที่��ใช�เง�นได้�เพื่ราะเขตเล�อก่ต��งไม�ใหม�น�ก่

ก่ารม� ส.ส. จาก่บ�ญ่ช�รายช��อก่8เป็ นอ�ก่มาตรก่ารหน-�งที่��ที่�าให�คืนด้�ม�คืว่ามสามารถึและไม�ต�องก่ารใช�เง�นในก่ารเล�อก่ต��ง สามารถึเข�าที่�างานในสภาผ��แที่นราษฎีรได้�

3) ก่�าหนด้ให�ก่ารเล�อก่ต��งเป็ นหน�าที่�� หาก่ผ��ใด้ไม�ไป็เล�อก่ต��งโด้ยไม�ม�เหต&อ�นคืว่ร จะเส�ยส�ที่ธ�หร�อผลป็ระโยชน�ตามที่��ก่ฎีหมายบ�ญ่ญ่�ต� (มาตรา 68)

ขณะเด้�ยว่ก่�น ร�ฐจะต�องอ�านว่ยคืว่ามสะด้ว่ก่ให�ผ��ม�ส�ที่ธ�ที่��อย��นอก่ภ�ม�ล�าเนาด้�ว่ย ว่�ธ�ก่ารน��ม�ข-�นเพื่��อที่�าให�ก่ารซึ่��อส�ที่ธ�ขายเส�ยงเป็ นไป็ได้�ยาก่เพื่ราะผ��ซึ่��อ

Page 81: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เส�ยงจะต�องซึ่��อเส�ยงเป็ นจ�านว่นมาก่และไม�แน�ว่�าจะได้�ร�บก่ารเล�อก่ต��ง นอก่จาก่น��ย�งก่�าหนด้ให�ร�ฐสน�บสน&นก่ารเล�อก่ต��งสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรในเร��องต�อไป็น��

(1) จ�ด้ที่��ป็=ด้ป็ระก่าศและที่��ต�ด้แผ�นป็Aายเก่��ยว่ก่�บก่ารเล�อก่ต��งในสาธารณสถึานซึ่-�งเป็ นของร�ฐ

(2) พื่�มพื่�และจ�ด้ส�งเอก่สารเก่��ยว่ก่�บก่ารเล�อก่ต��งไป็ให�ผ��ม�ส�ที่ธ�ออก่เส�ยงเล�อก่ต��ง

(3) จ�ด้หาสถึานที่��หาเส�ยงเล�อก่ต��งให�แก่�ผ��สม�คืรร�บเล�อก่ต��ง(4) จ�ด้สรรเว่ลาออก่อาก่าศที่างว่�ที่ย&ก่ระจายเส�ยงและว่�ที่ย&

โที่รที่�ศน�ให�แก่�พื่รรคืก่ารเม�อง4) ก่�าหนด้ให�ม�คืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งที่��เป็ นอ�สระ และเป็ นก่ลาง

เป็ นผ��จ�ด้ก่ารเล�อก่ต��งแที่นก่ระที่รว่งมหาด้ไที่ยและน�ก่ก่ารเม�อง (มาตรา 136-148)

5) สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรม�อ�านาจหน�าที่��ส�าคื�ญ่ คื�อ ก่ารตราก่ฎีหมาย (มาตรา 172-174) ซึ่-�งแยก่เป็ นก่ฎีหมายธรรมด้าและก่ฎีหมายป็ระก่อบร�ฐธรรมน�ญ่ (มาตรา 172) ก่ารอน&ม�ต�งบป็ระมาณ (มาตรา 179-180)

และยก่เล�ก่งบ ส.ส. (มาตรา 180 ว่รรคื 6) ที่��งน��เพื่ราะสภาผ��แที่นราษฎีรหร�อก่รรมาธ�ก่ารจะแป็รญ่�ตต�หร�อก่ระที่�าก่ารใด้ๆ ที่��ม�ผลให�สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร สมาช�ก่ว่&ฒ�สภาหร�อก่รรมาธ�ก่ารม�ส�ว่นไม�ว่�าโด้ยตรงหร�อโด้ยอ�อมในก่ารใช�งบป็ระมาณรายจ�ายจะก่ระที่�าไม�ได้� และก่ารคืว่บคื&มก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�น ได้�แก่� ก่ารต��งก่ระที่��ธรรมด้า (มาตรา 183) และก่ารต��งก่ระที่��สด้ (มาตรา 184) ยก่เล�ก่ก่ารให�เป็=ด้อภ�ป็รายคืณะร�ฐมนตร�ที่��งคืณะ แต�ให�ม�ก่ารเสนอญ่�ตต�ขอเป็=ด้อภ�ป็รายที่��ว่ไป็เพื่��อลงมต�ไม�ไว่�ว่างใจนายก่ร�ฐมนตร�แที่น (มาตรา 185) ก่ารเสนอญ่�ตต�ขอเป็=ด้อภ�ป็รายที่��ว่ไป็เพื่��อลงมต�ไม�ไว่�ว่างใจร�ฐมนตร�เป็ นรายบ&คืคืล (มาตรา 186) ก่ารต��งก่รรมาธ�ก่ารสาม�ญ่และว่�สาม�ญ่เพื่��อก่ระที่�าก่�จก่ารพื่�จารณาสอบสว่น หร�อศ-ก่ษาเร��องใด้ๆ อ�นอย��ในอ�านาจหน�าที่��ของสภาผ��แที่นราษฎีร (มาตรา 189) และในก่รณ�ที่��ร �างพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ใด้ม�สาระส�าคื�ญ่เก่��ยว่ก่�บเด้8ก่ สตร� และคืนชรา หร�อผ��พื่�ก่ารหร�อที่&พื่พื่ลภาพื่ สภาผ��แที่นราษฎีรจะต�องต��งคืณะก่รรมาธ�ก่ารว่�สาม�ญ่ข-�นป็ระก่อบด้�ว่ยผ��แที่นองคื�ก่ารเอก่ชนเก่��ยว่ก่�บบ&คืคืลป็ระเภที่น��น ม�จ�านว่นไม�น�อยก่ว่�า 1 ใน 3 ของจ�านว่นก่รรมาธ�ก่ารที่��งหมด้ (มาตรา 190)

สมาช�ก่ภาพื่ของสมาช�ก่

สภาผ��แที่นราษฎีร

อาย&ของสภาผ��แที่นราษฎีร

4 ป็B น�บแต�ว่�นเล�อก่

สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร

จ�านว่น 500 คืน

สภาผ��แที่น

Page 82: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่ารคื�านว่ณเก่ณฑ์�จ�านว่นราษฎีรต�อสมาช�ก่หน-�งคืน โด้ยคื�านว่ณจาก่จ�านว่นราษฎีรที่��งป็ระเที่ศตามหล�ก่ฐานก่ารที่ะเบ�ยนราษฎีรที่��ป็ระก่าศป็Bส&ด้ที่�ายก่�อนป็Bที่��ม�ก่ารเล�อก่ต��ง เฉล��ยด้�ว่ยจ�านว่นสมาช�ก่สภา ผ��แที่นราษฎีร 400 คืน

(มาตรา 102)

จ�านว่นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรแต�ละจ�งหว่�ด้มาจาก่เก่ณฑ์�จ�านว่นราษฎีรต�อสมาช�ก่หน-�งคืนมาเฉล��ยจ�านว่นราษฎีรในจ�งหว่�ด้น��น จ�งหว่�ด้ใด้ม�ราษฎีรไม� ถึ-งเก่ณฑ์�ให�ม�สมาช�ก่สภา ผ��แที่นราษฎีรได้�หน-�งคืน จ�งหว่�ด้ใด้ม�ราษฎีรเก่�นเก่ณฑ์�ให�ม�สมาช�ก่เพื่��มอ�ก่หน-�งคืนที่&ก่จ�านว่นราษฎีรที่��ถึ-งเก่ณฑ์�

(มาตรา 102)

จ�านว่นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรแต�ละจ�งหว่�ด้รว่มก่�นไม�คืรบ 400 คืน จ�งหว่�ด้ใด้ม�เศษเหล�อจาก่ก่ารคื�านว่ณมาก่ที่��ส&ด้ ให�จ�งหว่�ด้น��นม�สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรเพื่��มอ�ก่ 1

คืน โด้ยให�เพื่��มสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรตามว่�ธ�ก่ารน��แก่�จ�งหว่�ด้ที่��ม�เศษเหล�อในล�าด้�บรองลงมาจนคืรบ 400 คืน

(มาตรา 102)

จ�งหว่�ด้ใด้ม�ก่ารเล�อก่ต��งสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรไม�เก่�น 1 คืน ให�ถึ�อเขตจ�งหว่�ด้เป็ นเขตเล�อก่ต��ง จ�งหว่�ด้ใด้ม�ก่ารเล�อก่ต��งสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรเก่�น 1 คืน ให�แบ�งเขตจ�งหว่�ด้ออก่เป็ นเขตเล�อก่ต��งม�จ�านว่นเที่�าจ�านว่นสมาช�ก่ สภาผ��แที่นราษฎีรโด้ยให�แต�ละเขตเล�อก่ต��งม�จ�านว่นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร 1 คืน

(มาตรา 103)

จ�งหว่�ด้ใด้ม�ก่ารแบ�งเขตเล�อก่ต��งมาก่ก่ว่�าหน-�งเขตต�องแบ�งพื่��นที่��ของเขตเล�อก่ ต��งแต�ละเขตให�ต�ด้ต�อก่�นและต�องให�จ�านว่นราษฎีรในแต�ละเขตใก่ล�เคื�ยงก่�น

(มาตรา 103)

ย��นบ�ญ่ช�รายช��อผ��สม�คืรร�บเล�อก่ต��งต�อคืณะก่รรมก่าร

พื่รรคืก่ารเม�องจ�ด้ที่�าข-�นพื่รรคืละ 1 บ�ญ่ช� ไม�เก่�นบ�ญ่ช�

ก่ารเล�อก่ต��งสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรแบบบ�ญ่ช�รายช��อ

Page 83: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สภาผ��แที่นราษฎีร

ประเด<นื้ส�าค�ญร�ฐธรรมนื้"ญแห1งราชั้อาณาจั�กรไทย

พิ2ทธศ�กราชั้ 2534

ร�ฐธรรมนื้"ญแห1งราชั้อาณาจั�กรไทยพิ2ทธศ�กราชั้ 2540

จ�านว่น ส.ส.จ�านว่น ส.ส. ข-�นอย��ก่�บส�ด้ส�ว่นป็ระชาก่ร 150,000 คืน ต�อ ส.ส. 1 คืน

- ม�จ�านว่น 500 คืน- มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งแบบแบ�งเขตเล�อก่

ต��ง 400 คืน- มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งแบบบ�ญ่ช�รายช��อ

100 คืนคื&ณสมบ�ต�และล�ก่ษณะต�อง

ห�ามของผ��สม�คืรร�บเล�อก่

ต��ง

- ม�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารเก่�ด้ หาก่บ�ด้าเป็ นคืนต�างด้�าว่ต�องม�คื&ณสมบ�ต�ตามก่ฎีหมายเล�อก่ต��งด้�ว่ย

- ไม�จ�าก่�ด้ว่&ฒ�ก่ารศ-ก่ษา- ห�ามบ&คืคืลห�หนว่ก่และเป็ นใบ�

- ม�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารเก่�ด้- ว่&ฒ�ก่ารศ-ก่ษาป็ร�ญ่ญ่าตร�ข-�นไป็หร�อ

เที่�ยบเที่�า- ไม�ห�ามบ&คืคืลห�หนว่ก่และเป็ นใบ�

คื&ณสมบ�ต�ของผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��ง

- ได้�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารแป็ลงส�ญ่ชาต�มาแล�ว่ไม�น�อยก่ว่�า 10 ป็B

- ไม�ก่�าหนด้เว่ลาก่ารม�ช��ออย��ในที่ะเบ�ยนบ�านในเขตเล�อก่ต��ง

- ได้�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารแป็ลงส�ญ่ชาต�มาแล�ว่ไม�น�อยก่ว่�า 5 ป็B

- ต�องม�ช��ออย��ในที่ะเบ�ยนบ�านในเขตเล�อก่ต��งไม�น�อยก่ว่�า 90 ว่�น

ก่ารเล�อก่ต��ง

- คืะแนนของผ��สม�คืรที่��สอบตก่ไม�ม�คืว่ามหมาย

- ผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��งต�องลงคืะแนนในเขตเล�อก่ต��งเที่�าน��น

- พื่รรคืก่ารเม�องที่��ได้�ร �บเล�อก่ต��งแบบบ�ญ่ช�รายช��อไม�ถึ-ง 5% จ�านว่นคืะแนนเส�ยงรว่มที่��งป็ระเที่ศถึ�อว่�าไม�ม�ผ��ใด้ในบ�ญ่ช�น� �นได้�ร�บเล�อก่ต��ง

- ผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��งนอก่เขตเล�อก่ต��งม�ส�ที่ธ�ลงคืะแนนเล�อก่ต��ง

ก่ารน�บคืะแนนและป็ระก่าศผล

บ�ญ่ญ่�ต�ไว่�ในก่ฎีหมายเล�อก่ต��งว่�าต�องก่ระที่�า ณ ที่��เล�อก่ต��งน��น

ต�องน�บคืะแนนรว่มก่�นที่&ก่หน�ว่ยเล�อก่ต��งและป็ระก่าศ ณ สถึานที่��แห�งเด้�ยว่ในเขต

Page 84: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เล�อก่ต��งน��น

ก่ารส��นส&ด้สมาช�ก่ภาพื่

- ส .ส . เ ป็ น น า ย ก่ ร�ฐ ม น ต ร� ห ร�อร�ฐมนตร�ได้�ในขณะเด้�ยว่ ก่�นได้� 1 คืน

- สภาผ��แที่นราษฎีรหร�อคืณะต&ลาก่ารร�ฐธรรมน�ญ่ม�มต�ให�พื่�นจาก่สมาช�ก่ภาพื่

- ขาด้ป็ระช&มตลอด้สม�ยป็ระช&ม

- ส.ส. ที่�� ไป็เป็ นนายก่ร�ฐมนตร�หร�อร�ฐมนตร�ต�องพื่�นจาก่ก่ารเป็ น ส.ส.

- ว่&ฒ�สภาม�มต�ให�ถึอด้ถึอนออก่จาก่ต�า แ ห น� ง ห ร�อ ศ า ล ร�ฐ ธ ร ร ม น� ญ่ว่�น�จฉ�ยให�พื่�นจาก่สมาช�ก่ภาพื่

ต�าแหน�ง ส.ส.

ว่�างลงเล�อก่ต��งแที่นต�าแหน�งที่��ว่�าง

- หาก่ต�าแหน�งที่��ว่�างเป็ น ส.ส. ในบ�ญ่ช�รายช��อพื่รรคืใด้ ให�ผ��ม�ช��อในบ�ญ่ช�รายช��อของพื่รรคืน��น ในล�าด้�บถึ�ด้ไป็เล��อนข-�นมาเป็ นแที่น

- หาก่ต�าแหน�งที่��ว่�างเป็ น ส.ส. มาจาก่เขตก่ารเล�อก่ต��ง ให�ม�ก่ารเล�อก่ต��งแที่นต�าแหน�งที่��ว่�าง

1.1.3 การปฏิ�ร"ปว2ฒิ�สภูาม�ก่ารแก่�ไขเป็ล��ยนแป็ลงหลายป็ระก่ารที่��งในเร��ององคื�ป็ระก่อบ ที่��มาและอ�านาจหน�าที่��1) สมาช�ก่ว่&ฒ�สภาม�จ�านว่นที่��งส��น 200 คืน (มาตรา 121)

1) สมาช�ก่ว่&ฒ�สภามาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งโด้ยตรงของป็ระชาชน (มาตรา 121) ซึ่-�งเป็ นก่ารเป็ล��ยนแป็ลงที่��มาของว่&ฒ�สภา ก่ารเล�อก่ต��งว่&ฒ�สภาใช�เขตจ�งหว่�ด้เป็ นเขตเล�อก่ต��ง (มาตรา 122) แต�ไม�ว่�าจ�งหว่�ด้น��นจะม�สมาช�ก่ว่&ฒ�สภาก่��คืน ป็ระชาชนแต�ละคืนจะลงคืะแนนเส�ยงได้�เพื่�ยง 1 คืะแนน เที่�าน��น (มาตรา 123) ผ��สม�คืรว่&ฒ�สภาจะหาเส�ยงไม�ได้� ซึ่-�งจะที่�าให�คืนด้�ม�คืว่ามสามารถึและเป็ นที่��ร� �จ�ก่อย�างก่ว่�างขว่างในจ�งหว่�ด้น��นๆ เข�ามาเป็ นสมาช�ก่ว่&ฒ�สภาได้� ระบบน��ย�งป็Aองก่�นไม�ให�สมาช�ก่ว่&ฒ�สภาม�ล�ก่ษณะก่ระจ&ก่ต�ว่อย��แต�ในเฉพื่าะก่ร&งเที่พื่มหานคืร

2) ว่&ฒ�สภานอก่จาก่ตะม�อ�านาจในก่ารย�บย��งร�างก่ฎีหมายของสภาผ��แที่นราษฎีร ซึ่-�งเป็ นอ�านาจแต�เด้�มแล�ว่ (มาตรา 175) ว่&ฒ�สภาที่��มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งน��จะม�อ�านาจในฐานะที่��เป็ นองคื�ก่รตรว่จสอบด้�ว่ย

บทบาทในื้ฐานื้ะท*+เป:นื้องค�กรติรวจัสอบนื้�นื้ แสดงออกในื้ 2 ลั�กษณะป็ระก่ารแรก่ คื�อ เป็ นผ��ม�อ�านาจในก่ารแต�งต��งสมาช�ก่ขององคื�ก่ร

ต�างๆ ตามร�ฐธรรมน�ญ่ ได้�แก่� ก่ารต��งผ��ตรว่จก่ารแผ�นด้�นของร�ฐสภา จ�านว่นไม�เก่�น 3 คืน (มาตรา 196) ก่ารต��งคืณะก่รรมก่ารส�ที่ธ�มน&ษยชนแห�งชาต�จ�านว่น 11 คืน (มาตรา 199) ก่ารต��งต&ลาก่ารศาลร�ฐธรรมน�ญ่

Page 85: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จ�านว่น 15 คืน (มาตรา 255) ก่ารเล�อก่ผ��ที่รงคื&ณว่&ฒ�จ�านว่น 2 คืน ไป็เป็ นก่รรมก่ารต&ลาก่ารศาลย&ต�ธรรม (มาตรา 274 อน& 3) ก่ารให�คืว่ามเห8นชอบในก่ารแต�งต��งผ��ที่รงคื&ณว่&ฒ�เป็ นต&ลาก่ารศาลป็ก่คืรอง (มาตรา 279

อน& 3) ก่ารเล�อก่คืณะก่รรมก่ารป็Aองก่�นและป็ราบป็รามก่ารที่&จร�ตแห�งชาต�จ�านว่น 9 คืน (มาตรา 297)

ป็ระก่ารที่��สอง คื�อ ก่ารม�อ�านาจในก่ารถึอด้ถึอนบ&คืคืลต�างๆ ออก่จาก่ต�าแหน�งได้�แก่� ก่ารม�มต�ด้�ว่ยคืะแนนเส�ยงไม�น�อยก่ว่�า 3 ใน 4 ให�คืณะก่รรมก่ารป็Aองก่�นและป็ราบป็รามก่ารที่&จร�ตแห�งชาต�พื่�นจาก่ต�าแหน�ง (มาตรา 299) ก่ารถึอด้ถึอนผ��ด้�ารงต�าแหน�งนายก่ร�ฐมนตร� ร�ฐมนตร� สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร สมาช�ก่ว่&ฒ�สภา ป็ระธานศาลฎี�ก่า ป็ระธานศาลร�ฐธรรมน�ญ่ ต&ลาก่ารศาลร�ฐธรรมน�ญ่ ก่รรมก่ารตรว่จสอบเง�นแผ�นด้�น ผ��พื่�พื่าก่ษาหร�อต&ลาก่าร พื่น�ก่งานอ�ยก่ารหร�อผ��ด้�ารงต�าแหน�งระด้�บส�ง ตามก่ฎีหมายป็ระก่อบร�ฐธรรมน�ญ่ว่�าด้�ว่ยก่ารป็Aองก่�นและป็ราบป็รามก่ารที่&จร�ตออก่จาก่ต�าแหน�ง ในก่รณ�ที่��บ&คืคืลน��นม�พื่ฤต�ก่ารณ�ร��ารว่ยผ�ด้ป็ก่ต� ส�อไป็ในที่างที่&จร�ตต�อหน�าที่�� ส�อว่�าก่ระที่�าผ�ด้ต�อต�าแหน�งหน�าที่��ราชก่าร ส�อว่�าก่ระที่�าผ�ด้ต�อต�าแหน�งหน�าที่��ในก่ารย&ต�ธรรม หร�อส�อว่�าจงใจใช�อ�านาจหน�าที่��ข�ด้ต�อบที่บ�ญ่ญ่�ต�แห�งร�ฐธรรมน�ญ่หร�อก่ฎีหมาย

ว่&ฒ�สภา

ม�ก่�าหนด้คืราว่ละ 6 ป็B น�บแต�ว่�นเล�อก่ต��ง

1. ไม�เป็ นสมาช�ก่หร�อผ��ด้�ารงต�าแหน�งอ��นของพื่รรคืก่ารเม�อง

2. ไม�เป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรหร�อเคืยเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร และพื่�นจาก่ก่ารเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรมาแล�ว่ย�งไม�เก่�น 1 ป็B น�บถึ-งว่�นสม�คืรร�บเล�อก่ต��ง

3. ไม�เป็ นหร�อเคืยเป็ นสมาช�ก่ว่&ฒ�สภาตามบที่บ�ญ่ญ่�ต�แห�งร�ฐธรรมน�ญ่น�� ในอาย&ของว่&ฒ�สภาคืราว่ก่�อนก่ารสม�คืรร�บเล�อก่ต��ง

4. ไม�เป็ นบ&คืคืลต�องห�ามม�ให�ใช�ส�ที่ธ�สม�คืรร�บเล�อก่ต��ง ตามมาตรา

1. ม�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารเก่�ด้

2. ม�อาย&ไม�ต��าก่ว่�า 40 ป็Bบร�บ�รณ�ในว่�นเล�อก่ต��ง

3. ส�าเร8จก่ารศ-ก่ษาไม�ต��าก่ว่�าป็ร�ญ่ญ่าตร�หร�อเที่�ยบเที่�า

4. ม�ล�ก่ษณะอย�างใด้อย�างหน-�งตามมาตรา 107 (5)

มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งโด้ยตรง

ของป็ระชาชน

จ�านว่น 200

คืน

ที่��มา คื&ณสมบ�ต� ล�ก่ษณะต�องห�าม

ว่าระก่ารด้�ารงต�าแหน�ง

ว่&ฒ�สภา

Page 86: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ประเด<นื้ส�าค�ญร�ฐธรรมนื้"ญแห1งราชั้อาณาจั�กร

ไทยพิ2ทธศ�กราชั้ 2534

ร�ฐธรรมนื้"ญแห1งราชั้อาณาจั�กรไทย

พิ2ทธศ�กราชั้ 2540

จ�านว่นและที่��มาของ ส.ว่.

- ม�จ�านว่น 2/3 ของจ�านว่น ส.ส.

- มาจาก่ก่ารแต�งต��ง- ม�จ�านว่น 200 คืน- มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งโด้ยตรง

คื&ณสมบ�ต�และล�ก่ษณะต�อง

ห�ามของผ��ที่��จะเป็ น ส.ว่.

- ม�อาย&ต� �งแต� 35 ป็Bข-�นไป็- ไม�จ�าก่�ด้ว่&ฒ�ก่ารศ-ก่ษา- ห�ามบ&คืคืลห�หนว่ก่และเป็ นใบ�- ไม�ห�ามข�าราชก่ารป็ระจ�า

พื่น�ก่งานร�ฐว่�สาหก่�จ

- ม�อาย&ต� �งแต� 40 ป็Bข-�นไป็- ว่&ฒ�ก่ารศ-ก่ษาป็ร�ญ่ญ่าตร�ข-�นไป็

หร�อเที่�ยบเที่�า- ไม�ห�ามบ&คืคืลห�หนว่ก่และเป็ นใบ�- ห�ามข�าราชก่ารป็ระจ�า พื่น�ก่งาน

ร�ฐว่�สาหก่�จ

คื&ณสมบ�ต�ของผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่

ต��ง

- ได้�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารแป็ลงส�ญ่ชาต�มาแล�ว่ไม�น�อยก่ว่�า 10

ป็B- ไม�ก่�าหนด้เว่ลาก่ารม�ช��ออย��ใน

ที่ะเบ�ยนบ�านในเขตเล�อก่ต��ง

- ได้�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารแป็ลงส�ญ่ชาต�มาแล�ว่ไม�น�อยก่ว่�า 5 ป็B

- ต�องม�ช��ออย��ในที่ะเบ�ยนบ�านในเขตเล�อก่ต��งไม�น�อยก่ว่�า 90 ว่�น

ว่าระก่ารด้�ารงต�าแหน�ง

4 ป็B 6 ป็B

ก่ารด้�ารงต�าแหน�ง

ป็ระธานและรองป็ระธาน

ก่ารเล�อก่ที่&ก่ 2 ป็B อย��จนส��นอาย&สภา

อ�านาจหน�าที่�� ก่ล��นก่รองก่ฎีหมาย

- ก่ล��นก่รองก่ฎีหมาย- ให�คืว่ามเห8นชอบในก่ารแต�งต��ง

และถึอด้ถึอนผ��ด้�ารงต�าแหน�งในองคื�ก่รตามที่��ร�ฐธรรมน�ญ่บ�ญ่ญ่�ต� เช�น ป็.ป็.ช. , ศาลร�ฐธรรมน�ญ่

ก่ารส��นส&ด้สมาช�ก่ภาพื่

- ส.ว่. เป็ นร�ฐมนตร�ได้�ในขณะเด้�ยว่ก่�น

- ว่&ฒ�สภาหร�อคืณะต&ลาก่ารร�ฐธรรมน�ญ่ม�มต�ให�พื่�นจาก่สมาช�ก่ภาพื่

- ขาด้ป็ระช&มตลอด้สม�ยป็ระช&ม

- เม��อไป็เป็ นร�ฐมนตร� หร�อข�าราชก่ารเม�องอ��น

- ว่&ฒ�สภาม�มต�ถึอด้ถึอน หร�อศาลร�ฐธรรมน�ญ่ว่�น�จฉ�ยให�พื่�นจาก่สมาช�ก่ภาพื่

- ขาด้ป็ระช&มเก่�น 1 ส�ว่น 4 ของ

Page 87: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จ�านว่นว่�นป็ระช&มต�าแหน�ง ส.ว่.

ว่�างลงพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่รงแต�งต��งบ&คืคืลเป็ นสมาช�ก่แที่น

เล�อก่ต��งข-�นแที่นต�าแหน�งที่��ว่�าง

กระบวนื้การในื้การถอดถอนื้ออกจัากติ�าแหนื้1ง

1.2 การปฏิ�ร"ปกระบวนื้การนื้�ติ�บ�ญญ�ติ�ก่ารป็ร�บป็ร&งก่ระบว่นก่ารน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ป็ระส�ที่ธ�ภาพื่มาก่ข-�นด้�ว่ยก่ารก่�าหนด้ให�สม�ยป็ระช&มม� 2 สม�ย คื�อ สม�ยป็ระช&มที่��ว่ไป็ และสม�ยป็ระช&มสาม�ญ่

น�ต�บ�ญ่ญ่�ต� (มาตรา 159 ว่รรคื 2) ซึ่-�งจะที่�าให�สภาผ��แที่นราษฎีรสามารถึตราก่ฎีหมายได้�มาก่ข-�น

ขยายระยะเว่ลาสม�ยป็ระช&มเป็ นสม�ยละ 120 ว่�น (มาตรา 160)

ข�อก่ล�าว่หา

ศาลฎี�ก่าแผนก่อาญ่า

ผ��ถึ�ก่ถึอด้ถึอน

อ�ยก่ารว่&ฒ�สภาลง

ไม�ม�ม�ล ม�ม�ล

ป็.ป็.ช. ไต�สว่น

ป็ระชาชน 50,000 คืนร�องขอต�อ

สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร

ป็ระธาน

Page 88: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่�าหนด้ให�ก่ฎีหมายที่��ส�าคื�ญ่ม�ก่ระบว่นก่ารน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ที่��แตก่ต�างไป็โด้ยระบ&ว่�า ร�างก่ฎีหมายที่��คืณะร�ฐมนตร�ระบ&ไว่�ในนโยบายที่��แถึลงต�อร�ฐสภาว่�าจ�า เป็ นต�อก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�น หร�อร�างก่ฎีหมายป็ระก่อบร�ฐธรรมน�ญ่ใด้ หาก่สภาผ��แที่นราษฎีรม�มต�ไม�ให�คืว่ามเห8นชอบและคืะแนนเส�ยงที่��ไม�ให�คืว่ามเห8นชอบไม�ถึ-งก่-�งหน-�งของจ�านว่นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรที่��งหมด้เที่�าที่��ม�อย�� คืณะร�ฐมนตร�อาจขอให�ร�ฐสภาป็ระช&มร�ว่มก่�นเพื่��อม�มต�อ�ก่คืร��งหน-�ง หาก่ร�ฐสภาม�มต�ให�คืว่ามเห8นชอบก่8จะม�ก่ารต��งบ&คืคืลซึ่-�งเป็ นหร�อม�ได้�เป็ นสมาช�ก่ของแต�ละสภาม�จ�านว่นเที่�าก่�น ตามที่��คืณะร�ฐมนตร�เสนอป็ระก่อบก่�นเป็ นคืณะก่รรมาธ�ก่ารร�ว่มพื่�จารณาเสร8จแล�ว่ก่8ส�งให�ร�ฐสภาม�มต�ต�อไป็ (มาตรา 173)

ก่�าหนด้ให�ก่ฎีหมายที่��คื�างอย��ในสภา สามารถึถึ�ก่หย�บยก่ข-�นมาพื่�จารณาใหม�ได้�โด้ยไม�ต�องก่ล�บไป็เร��มต�นใหม� ในก่รณ�ที่��อาย&ของสภาผ��แที่นราษฎีรส��นส&ด้ลงหร�อม�ก่ารย&บสภา (มาตรา 178)

2.กลัไกของร�ฐในื้ทางบร�หารก่ลไก่ของร�ฐในที่างบร�หารม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงใน 2 แนว่ที่างด้�ว่ยก่�น แนว่ที่างแรก่ คื�อ

ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงที่��เก่��ยว่ข�องก่�บฝ่Eายบร�หารโด้ยตรง แนว่ที่างที่�� 2 คื�อ ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงที่��เก่��ยว่ข�องก่�บระบบราชก่าร ซึ่-�งเป็ นก่ลไก่ของฝ่Eายบร�หาร

1.1 การปฏิ�ร"ปฝ่Aายบร�หารร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นได้�ที่�าก่ารป็ฏ�ร�ป็ฝ่Eายบร�หาร หร�อร�ฐบาลในหลายก่รณ�ด้�ว่ยก่�นป็ระก่ารแรก่ คื�อ ก่ารลด้จ�านว่นคืณะร�ฐมนตร�ให�เหล�อเพื่�ยง 36 คืน จาก่เด้�มที่��ม�

อย��เก่�อบ 50 คืน สาเหต&ส�าคื�ญ่ที่��ม�ก่ารลด้จ�านว่นร�ฐมนตร�ให�เหล�อน�อยลงด้�งก่ล�าว่ ก่8เน��องมาจาก่ก่ารคื�าน-งถึ-งป็ระส�ที่ธ�ภาพื่ในก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�นของร�ฐบาล เพื่ราะอาจจะก่ล�าว่ได้�ว่�า ในอด้�ตที่��ผ�านมาจนถึ-งป็%จจ&บ�นน��น คืณะร�ฐมนตร�ของป็ระเที่ศไที่ยม�ขนาด้ใหญ่� เพื่ราะไม�ได้�ป็ระก่อบด้�ว่ยร�ฐมนตร�เที่�าน��น แต�ย�งม�ร�ฐมนตร�ช�ว่ยว่�าอ�ก่เป็ นจ�านว่นมาก่ นอก่จาก่น��ป็ระเพื่ณ�ก่ารแบ�งสรรอ�านาจของร�ฐมนตร�และร�ฐมนตร�ช�ว่ยว่�าก่ารก่8ม�ล�ก่ษณะที่��แบ�งแยก่ก่�นเด้8ด้ขาด้ ร�ฐมนตร�ไม�สามารถึเข�าไป็ก่�าว่ก่�ายหน�ว่ยงานที่��อย��ในคืว่ามด้�แลของร�ฐมนตร�ช�ว่ยว่�าก่าร คืว่ามเป็ นเอก่ภาพื่ของหน�ว่ยงานจ-งไม�เก่�ด้ข-�น ก่ารก่�าหนด้จ�านว่นคืณะร�ฐมนตร�มาก่เช�นน��เป็ นผลส�บเน��องมาจาก่ก่ารป็�นบ�าเหน8จที่างก่ารเม�องด้�ว่ย โด้ยไม�คื�าน-งถึ-งคืว่ามจ�าเป็ นในก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�นแต�อย�างใด้ จ�านว่นร�ฐมนตร�ม�ได้�ม�คืว่ามสอด้คืล�องก่�บก่ระที่รว่ง ที่บว่ง ก่รม ที่��ม�อย�� ก่ารลด้จ�านว่นร�ฐมนตร�ลงจะที่�าให�ก่ารป็�นบ�าเหน8จรางว่�ลเป็ นไป็ได้�ยาก่ข-�น ก่ารบร�หารงานจะม�คืว่ามเป็ นเอก่ภาพื่

Page 89: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

และคืณะร�ฐมนตร�จะสามารถึเป็ นศ�นย�รว่มของก่ารต�ด้ส�นใจป็%ญ่หาของป็ระเที่ศอย�างแที่�จร�ง

ป็ระก่ารที่��สอง คื�อ ก่ารป็ร�บป็ร&งให�ม�ก่ารให�คืว่ามเห8นชอบผ��ด้�ารงต�าแหน�งนาร�ฐมนตร�ในสภาผ��แที่นราษฎีร โด้ยก่�าหนด้ก่ลไก่ไว่�ในมาตรา 202 ว่�าจะต�องม�สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร ไม�น�อยก่ว่�า 1 ใน 5 ของจ�านว่นสมาช�ก่ที่��งหมด้เที่�าที่��ม�อย��ของสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร และมต�ของสภาผ��แที่นราษฎีรซึ่-�งต�องก่ระที่ด้โด้ยเป็=ด้เผยจะต�องม�คืะแนนเส�ยงมาก่ก่ว่�าก่-�งหน-�งของจ�านว่นสมาช�ก่เที่�าที่��ม�อย��ของสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร ก่ลไก่ตามาตราน��ม�ข-�นเพื่��อให�ก่ารสรรหานายก่ร�ฐมนตร�เป็ นอย�างโป็ร�งใส และเป็ นที่��ยอมร�บของที่&ก่ฝ่E าย หล�ก่เล��ยงก่ารด้�า เน�นก่ารของห�ว่หน�าพื่รรคืก่ารเม�องหร�อเลขาธ�ก่ารพื่รรคืก่ารเม�องที่��ม�ก่จะอาศ�ยก่ารตก่ลงภายในก่�บพื่รรคืก่ารเม�องอ�� น เพื่��อให�บ&คืคืลใด้บ&คืคืลหน-�งข-�นเป็ นนายก่ร�ฐมนตร�

ป็ระก่ารที่��สาม นายก่ร�ฐมนตร� และร�ฐมนตร�จะเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร หร�อว่&ฒ�สภาในขณะเด้�ยว่ก่�นไม�ได้� ป็ระเด้8นน��เป็ นที่��ม�คืว่ามข�ด้แย�งก่�นเป็ นอย�างส�งในสภาร�างร�ฐธรรมน�ญ่ เจตนารมณ�ของมาตรา 204 คื�อ ก่ารห�ามฝ่Eายบร�หารด้�ารงต�าแหน�งในฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในขณะเด้�ยว่ก่�น ซึ่-�งเป็ นเร��องที่��แตก่ต�างจาก่ ห�าม ส“ .ส. เป็ นร�ฐมนตร�” เพื่ราะในก่รณ�หล�งน��นที่�าให�ไขว่�เขว่ได้�ว่�า ผ��ร �างร�ฐธรรมน�ญ่ป็ระสงคื�ที่��จะให� คืนนอก่ ที่��ไม�“ ”

ได้�มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งมาเป็ นร�ฐมนตร� ซึ่-�งคืว่ามจร�งหาเป็ นเช�นน��นไม� เพื่ราะแม�จะม�เจตนาม�ให�ฝ่Eายบร�หารด้�ารงต�าแหน�งในฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในขณะเด้�ยว่ก่�น แต�ผ��ร �างร�ฐธรรมน�ญ่ก่8ป็ระสงคื�ที่��จะให�นายก่ร�ฐมนตร�และร�ฐมนตร�มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��ง หร�อเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรน��นเอง ด้�งจะเห8นได้�มาตรา 204 ว่รรคื 2 ที่��บ�ญ่ญ่�ต�ว่�า สมาช�ก่สภาผ��แที่น“

ราษฎีร ซึ่-�งได้�ร�บก่ารแต�งต��งเป็ นนายก่ร�ฐมนตร�หร�อร�ฐมนตร� ให�พื่�นจาก่ต�าแหน�งสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรในว่�นถึ�ด้จาก่ว่�นที่��คืรบ 30 ว่�น น�บแต�ว่�นที่��ม�พื่ระบรมราชโองก่ารแต�งต��ง”

ก่ารที่��ร �ฐธรรมน�ญ่ไม�ป็ระสงคื�ให�ฝ่Eายบร�หารเป็ นฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในขณะเด้�ยว่ก่�น ม�เหต&ผลที่��ส�าคื�ญ่ 3 ป็ระก่าร คื�อ

1) บที่บาที่ของฝ่Eายบร�หารและบที่บาที่ของฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� เป็ นบที่บาที่ที่��ข�ด้แย�งก่�นโด้ยส��นเช�ง ผ�ายบร�หารม�หน�าที่��ในก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�น ในขณะที่��ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ม�หน�าที่��ในก่ารคืว่บคื&มก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�น ด้�งน��น ในก่รณ�ที่��นายก่ร�ฐมนตร�และร�ฐมนตร�เป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรในขณะเด้�ยว่ก่�น ก่8เป็ นไป็ไม�ได้�เลยที่��บ&คืคืลด้�งก่ล�าว่จะที่�าหน�าที่��ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในฐานะที่��เป็ นผ��คืว่บคื&มก่ารบร�หารราชก่ารแผ�นด้�น

Page 90: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เฉพื่าะต�ว่ที่��งคืณะ

ก่ารส��นส&ด้คืว่ามเป็ นก่ารออก่เส�ยงป็ระชามต�โด้ย

คื&ณสมบ�ต�และล�ก่ษณะต�องห�าม

องคื�ป็ระก่อบ

1. ตาย2. ลาออก่3. ขาด้คื&ณสมบ�ต�

ห ร�อ ม� ล� ก่ ษ ณ ะต� อ ง ห� า ม ต า ม ม.306

4. ต�องคื�าพื่�พื่าก่ษาให�จ�าคื&ก่

5. ส ภ า ผ�� แ ที่ นราษฎีรม�มต�ไม�ไว่�ว่างใจตาม ม.185

หร�อ ม.186

6. ก่ ร ะ ที่�า ก่ า ร อ� นต� อ ง ห� า ม ต า ม ม.208 หร�อ ม.209

1. คื ว่ า ม เ ป็ นร�ฐมนตร�ของนายก่ร�ฐมนตร�ส��นส&ด้ลงตาม ม.216

2. อาย&สภาผ��แที่นราษ ฎีร ส�� น ส&ด้

ถึ�าหาก่คืณะร�ฐมนตร�เห8นว่�าก่�จก่ารในเร��องใด้อาจก่ระที่บถึ-งป็ระโยชน�ได้�เส�ยของป็ระเที่ศหร�อป็ระชาชนจะขอป็ร-ก่ษาคืว่ามเห8นของป็ระชาชนว่�าจะเห8นชอบหร�อไม�เห8นชอบในเร��องน��นๆ ออก่เส�ยงป็ระชามต� ซึ่-�งก่ารออก่เส�ยง

1. ม�ส�ญ่ชาต�ไที่ยโด้ยก่ารเก่�ด้2. ม�อาย&ไม�ต��าก่ว่�า 35 ป็Bบร�บ�รณ�3. ส�าเร8จก่ารศ-ก่ษาไม�ต��าก่ว่�าป็ร�ญ่ญ่าตร�หร�อ

เที่�ยบเที่�า4. ไม�ม�ล�ก่ษณะต�องห�ามตามมาตรา 109 (1-7) (12-14)

5. ไม�เคืยได้�ร�บต�องคื�าพื่�พื่าก่ษาให�จ�าคื&ก่ ต��งแต� 2

ป็Bข-�นไป็ โด้ยก่�อนได้�ร�บก่ารแต�งต��ง เว่�นแต�ในคืว่ามผ�ด้อ�นก่ระที่�าโด้ยป็ระมาที่

6. ไม�เป็ นสมาช�ก่ว่&ฒ�สภา หร�อเคืยเป็ นสมาช�ก่ภาพื่ส��นส&ด้ลงมาแล�ว่ย�งไม�เก่�น 1 ป็B น�บถึ-งว่�นที่��ได้�ร�บแต�งต��งเป็ นร�ฐมนตร�เว่�นแต�สมาช�ก่ภาพื่ส��นส&ด้ลงตามาตรา ม.133 (1)

7. ร�ฐมนตร�จะเป็ นข�าราชก่ารซึ่-�งม�ต�าแหน�งเง�นเด้�อนป็ระจ�านอก่จาก่ข�าราชก่ารก่ารเม�องม�ได้�

8. ร�ฐมนตร�จะด้�ารงต�าแหน�งหร�อก่ระที่�าก่ารใด้ก่8ตามที่��บ�ญ่ญ่�ต�ไว่�ใน ม.110 ม�ได้�

9. ร�ฐมนตร�จะต�องไม�เป็ นห&�นส�ว่นหร�อผ��ถึ�อห&�นในห�างห&�นส�ว่นหร�อไม�คืงไว่�ซึ่-�งว่ามเป็ นห&�นส�ว่นหร�อ

นายก่ร�ฐมนตร�หน-�งคืน และ

คืณะร�ฐมนตร�

Page 91: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2) เป็ นที่��ที่ราบก่�นด้�ว่�าฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในป็ระเที่ศไที่ยตราก่ฎีหมายได้�น�อยมาก่ในแต�ละป็B แม�จะม�สาเหต&หลายป็ระก่ารก่8ตาม แต�เหต&ผลหน-�งก่8คื�อ ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในป็ระเที่ศไที่ยไม�ได้�ให�คืว่ามสนใจต�อก่ารตราก่ฎีหมายเที่�าที่��คืว่ร ผ��ด้�ารงต�าแหน�งสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรม�ก่ให�คืว่ามสนใจก่�บก่ารตราก่ฎีหมายคื�อนข�างน�อย แต�เน�นหน�ก่คืว่ามสนใจของตนเองไป็ที่��ก่ารเป็ นฝ่Eายบร�หารมาก่ก่ว่�า ก่ารห�ามม�ให�ฝ่Eายบร�หารด้�ารงต�าแหน�งเป็ นฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ในขณะเด้�ยว่ก่�น จ-งเที่�าก่�บที่�าให�ที่��งฝ่Eายบร�หารและฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�สามารถึที่&�มเที่ก่ารที่�างานของตนได้�อย�างเต8มที่�� สอด้คืล�องก่�บหล�ก่ก่าร แยก่งานก่�น“

ที่�า เพื่��อให�เก่�ด้ป็ระโยชน�ส�งส&ด้ต�อป็ระเที่ศชาต�เป็ นส�ว่นรว่ม”

3) ก่ารให�ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ด้�ารงต�าแหน�งเป็ นฝ่Eายบร�หารได้� ย�งเป็ นช�องที่างให�ม�ก่ารแสว่งหาป็ระโยชน�จาก่ก่ารเป็ นร�ฐมนตร� เพื่ราะสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรที่��งหลายต�างก่8ม&�งหว่�งว่�าตนเองจะสามารถึรว่บรว่มคืะแนนเส�ยงได้�จ�านว่นหน-�ง เพื่��อไป็ด้�ารงต�าแหน�งร�ฐมนตร�ตามโคืว่ต�า ก่ารห�ามม�ให�ฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�ด้�ารงต�าแหน�งฝ่Eายบร�หารในขณะเด้�ยว่ก่�นจะที่�าให�สมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรตระหน�ก่ว่�าเม��อใด้ก่8แล�ว่แต�ที่��ไป็ด้�ารงต�าแหน�งร�ฐมนตร�จะต�องพื่�นจาก่ก่ารเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร และหาก่ม�ก่ารเป็ล��ยนแป็ลงคืณะร�ฐมนตร�ก่8จะก่ล�บมาเป็ นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรไม�ได้�จนก่ว่�าจะม�ก่ารเล�อก่ต��งใหม�

1.2 การปฏิ�ร"ประบบราชั้การ1.2.1 การปฏิ�ร"ปราชั้การส1วนื้กลัางแลัะภู"ม�ภูาค

1) ร�ฐธรรมน�ญ่มาตรา 230 ได้�เป็=ด้ช�องให�ม�ก่ารจ�ด้ต��ง รว่ม โอน หร�อย&บก่ระที่รว่ง ที่บว่ง ก่รม ได้� โด้ยก่ารตราพื่ระราชก่ฤษฎี�ก่าแที่นที่��จะเป็ นก่ารตราพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต� น��นก่8หมายคืว่ามว่�าร�ฐบาลจะม�คืว่ามคืล�องต�ว่ในก่ารป็ร�บป็ร&งก่ระที่รว่ง ที่บว่ง ก่รม มาก่ข-�น ก่ระที่รว่ง ที่บว่ง ก่รมใด้ที่��ร�ฐบาลเห8นว่�าไม�ม�คืว่ามจ�าเป็ นต�องด้�ารงอย��ต�อไป็ไม�ว่�าจะเป็ นเพื่ราะคืว่ามจ�าเป็ นของสถึานก่ารณ�ที่��หมด้ไป็ ไม�ว่�าจะเป็ นเพื่ราะร�ฐบาลโอนอ�านาจหน�าที่��ด้�งก่ล�าว่ไป็ให�หน�ว่ยงานอ��นที่��ม�ใช� ก่ระที่รว่ง ที่บว่ง ก่รม คืว่รจะไป็อย��รว่มก่�บก่ระที่รว่ง ที่บว่ง ก่รมอ��น ร�ฐบาลก่8สามารถึด้�าเน�นก่ารได้�เช�นเด้�ยว่ก่�น และโด้ยเฉพื่าะอย�างย��งในก่รณ�ที่��ร �ฐบาลป็ระสงคื�จะต��งหน�ว่ยงานใหม� เช�น ก่ระที่รว่งจราจร ก่ระที่รว่งส��งแว่ด้ล�อม ก่ระที่รว่งสตร�เด้8ก่และเยาว่ชน อ�นเป็ นนโยบายที่��ร�ฐบาล

Page 92: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ได้�แถึลงต�อร�ฐสภา ร�ฐบาลก่8สามารถึด้�าเน�นก่ารได้�อย�างที่�นที่�ว่งที่�สอด้คืล�องก่�บสถึานก่ารณ�และคืว่ามเป็ล��ยนแป็ลงต�างๆ ที่��เก่�ด้ข-�น

2) ร�ฐธรรมน�ญ่ย�งบ�ญ่ญ่�ต�ถึ-งเร��องอ��นๆ อ�ก่หลายเร��องอ�นม�ผลต�อก่ารป็ฏ�ร�ป็ระบบราชก่ารส�ว่นก่ลาง และส�ว่นภ�ม�ภาคื เช�น

มาตรา 40 บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ก่ารจ�ด้ต��ง องคื�ก่รของร�ฐที่��ม�คืว่าม“

เป็ นอ�สระ ที่�าหน�าที่��จ�ด้สรรคืล��นคืว่ามถึ��ที่��ใช�ในก่ารส�งว่�ที่ย&ก่ระจาย”

เส�ยง ว่�ที่ย&โที่รที่�ศน� และว่�ที่ย&โที่รคืมนาคืม อ�นจะม�ผลที่�าให�ต�องห�นก่ล�บมาที่บที่ว่น องคื�ก่รน�ต�บ&คืคืลมหาชน ในป็ระเที่ศไที่ยเส�ยใหม�“ ” จาก่แต�เด้�มที่��ม�ส�ว่นราชก่าร ไม�ว่�าจะเป็ นราชก่ารส�ว่นก่ลาง ราชก่ารส�ว่นภ�ม�ภาคื หร�อราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น และร�ฐว่�สาหก่�จเที่�าน��น

มาตรา 46 บ�ญ่ญ่�ต�ถึ-ง ช&มชนที่�องถึ��นด้�งเด้�ม ที่��ม�ส�ที่ธ�ในก่าร“ ”

อน&ร�ก่ษ� หร�อฟิF� นฟิ�จาร�ตป็ระเพื่ณ� ภ�ม�ป็%ญ่ญ่าที่�องถึ��น ศ�ลป็ะ หร�อว่�ฒนธรรมอ�นด้�ของที่��งถึ��น และของชาต� และม�ส�ว่นรว่มในก่ารจ�ด้ก่าร ก่ารบ�าร&งร�ก่ษา และก่ารใช�ป็ระโยชน�จาก่ที่ร�พื่ยาก่รธรรมชาต� และส��งแว่ด้ล�อมอย�างสมด้&ล และย��งย�นอ�านาจหน�าที่��ด้�งก่ล�าว่ เด้�มเป็ นของร�ฐหร�อหน�ว่ยงานของร�ฐ เม�� อมาตรา 46 บ�ญ่ญ่�ต�ไว่�เช�นน��หน�ว่ยราชก่ารต�างๆ ก่8จะต�องป็ร�บที่�ศนคืต�ในก่ารที่�างานเพื่��อให�ช&มชนที่�องถึ��นด้��งเด้�มม�ส�ว่นร�ว่มมาก่ข-�น หน�ว่ยราชก่ารต�างๆ ก่8จะต�องป็ร�บที่�ศนคืต�ในก่ารที่�างานเพื่��อให�ช&มชนที่�องถึ��นด้��งเด้�มม�ส�ว่นร�ว่มมาก่ข-�น หน�ว่ยราชก่ารต�างๆ จะต�องเร�ยนร� �ก่ารที่�างานร�ว่มก่�บเอก่ชน และป็ร�บว่�ธ�ก่ารที่�างานเส�ยใหม� จาก่ระบบ ช��น��ว่ส��งก่าร ผ��อ��นมาเป็ นระบบ “ ” “

ที่�างานร�ว่มก่�น ก่�บคืนอ��น”

มาตรา 58 ร�บรองส�ที่ธ�ของป็ระชาชนในก่ารเข�าถึ-ง และร�บที่ราบข�อม�ล หร�อข�าว่สารของที่างราชก่าร อ�นเป็ นก่ารก่ล�บหล�ก่เก่ณฑ์�เด้�มที่��ถึ�อว่�าข�อม�ลข�าว่สารของที่างราชก่ารน��น ก่ารป็=ด้ล�บเป็ นหล�ก่ ก่าร“

เป็=ด้เผยเป็ นข�อยก่เว่�น มาส��หล�ก่เก่ณฑ์� ก่ารเป็=ด้เผยเป็ นหล�ก่ ก่าร” “

ป็=ด้ล�บเป็ นข�อยก่เว่�น ก่ารร�บรองส�ที่ธ�ด้�งก่ล�าว่ข�างต�นเร�ยก่ร�องให�”

หน�ว่ยราชก่ารต�องป็ร�บต�ว่ในเร��องระบบข�าว่สารที่��งหมด้ ซึ่-�งม�รายละเอ�ยด้จะอย��ในพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ข�อม�ลข�าว่สารของที่างราชก่าร พื่.ศ.2540

มาตรา 59 บ�ญ่ญ่�ต�ร�บรองก่ารม�ส�ว่นรว่มของป็ระชาชนในก่ระบว่นก่ารป็ระชาพื่�จารณ� ซึ่-�งจะที่�าให�ก่ารด้�าเน�นก่ารโคืรงก่ารหร�อ

Page 93: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ก่�จก่รรมใด้ของหน�ว่ยราชก่ารที่��อาจม�ผลก่ระที่บต�อส&ขภาพื่ ส��งแว่ด้ล�อม ส&ขภาพื่อนาม�ย คื&ณภาพื่ช�ว่�ต หร�อส�ว่นได้�เส�ยอ�� นใด้ของป็ระชาชน หร�อช&มชนที่�องถึ��น จะต�องให�ป็ระชาชนม�ส�ที่ธ�ได้�ร�บข�อม�ล คื�าช�แจ�ง และเหต&ผล และม�ส�ที่ธ�ในก่ารแสด้งคืว่ามคื�ด้เห8นในเร��องด้�งก่ล�าว่ได้�

มาตรา 60 บ�ญ่ญ่�ต�ร�บรองก่ารม�ส�ว่นรว่มของป็ระชาชนในก่ารด้�าเน�นก่ารออก่คื�าส��งของหน�ว่ยงานและเจ�าหน�าที่��ของร�ฐ ซึ่-�งป็%จจ&บ�นม�พื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ว่�ธ�ป็ฏ�บ�ต�ราชก่ารป็ก่คืรอง พื่.ศ.2539 บ�ญ่ญ่�ต�ถึ-งเร��องน��ไว่�โด้ยตรง ฯลฯ

1.2.2 การปฏิ�ร"ปราชั้การส1วนื้ท.องถ�+นื้ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นได้�ที่�าก่ารป็ฏ�ร�ป็ราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น 6

ป็ระเด้8นด้�ว่ยเช�นก่�น1) โคืรงสร�าง มาตรา 258 บ�ญ่ญ่�ต�ให�

- ที่�องถึ��นที่��งหลายต�องม�องคื�ก่ร 2 องคื�ก่ร ได้�แก่� สภาที่�องถึ��น และฝ่E ายบร�หารที่�องถึ��นซึ่-�งม�ผลก่ระที่บต�อส&ขาภ�บาลที่��เด้�มม�องคื�ก่รพื่�ยงองคื�ก่รเด้�ยว่ คื�อ คืณะก่รรมก่ารส&ขาภ�บาล

- สมาช�ก่สภาที่�องถึ��นต�องมาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งโด้ยตรงเที่�าน��น ซึ่-�งม�ผลก่ระที่บต�อส&ขาภ�บาล องคื�ก่ารบร�หารส�ว่นต�าบล และเม�องพื่�ที่ยา

- ฝ่Eายบร�หารที่�องถึ��นต�องมาจาก่ก่ารเล�อก่ต��งหร�อคืว่ามเห8นชอบของสภาที่�องถึ��น ซึ่-�งม�ผลก่ระที่บต�อส&ขาภ�บาล และองคื�ก่ารบร�หารส�ว่นต�าบล

- ว่าระก่ารด้�ารงต�าแหน�งของสมาช�ก่สภาที่�องถึ��น และฝ่Eายบร�หารที่�องถึ��น ถึ�อ 4 ป็B ซึ่-�งม�ผลก่ระที่บต�อเที่ศบาล

2)อ�านาจหน�าที่�� มาตรา 284 บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ก่ารก่�าหนด้อ�านาจและหน�าที่��ในก่ารจ�ด้ระบบก่ารบร�ก่ารสาธารณะระหว่�างร�ฐก่�บองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��น และระหว่�างองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นด้�ว่ยก่�นเอง โด้ยจะต�องคื�าน-งถึ-งก่ารก่ระจายอ�านาจเพื่��มข-�นให�แก่�ที่�องถึ��นเป็ นส�าคื�ญ่นอก่จาก่น�� มาตรา 289 และ 290 ย�งบ�ญ่ญ่�ต�ให�องคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นม�หน�าที่��บ�า ร&งร�ก่ษาศ�ลป็ะ จาร�ตป็ระเพื่ณ� ภ�ม�ป็%ญ่ญ่าที่�องถึ��น หร�อว่�ฒนธรรมอ�นด้�ของที่�องถึ��น ก่ารจ�ด้ก่าร

Page 94: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ศ-ก่ษาอบรม และก่ารฝ่Gก่อาช�พื่ตามคืว่ามเหมาะสมและคืว่ามต�องก่ารภายในที่�องถึ��นน��น ส�งเสร�มและร�ก่ษาคื&ณภาพื่ส��งแว่ด้ล�อม

3)รายได้� มาตรา 284 บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ก่ารจ�ด้สรรส�ด้ส�ว่นภาษ� และอาก่รระหว่�างร�ฐก่�บองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��น โด้ยคื�าน-งถึ-งภาระหน�าที่��ของร�ฐก่�บองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��น และระหว่�างองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นด้�ว่ยก่�นเองเป็ นส�าคื�ญ่

4)ก่ารบร�หารงานบ&คืคืล มาตรา 288 บ�ญ่ญ่�ต� ให�ม�องคื�ก่รบร�หารงานบ&คืคืลที่�องถึ��นที่��ม�อย��ก่ระจ�ด้ก่ระจายเขาเป็ นองคื�ก่รเด้�ยว่ เร�ยก่ว่�า คืณะก่รรมก่ารพื่น�ก่งานส�ว่นที่�องถึ��น (ก่.ถึ.) ซึ่-�งเที่�าก่�บเป็ นก่ารยก่เล�ก่ ก่.ก่ ก่.ที่. ก่.จ. และ ก่.สภ. นอก่จาก่น��ย�งก่�าหนด้โคืรงสร�างของ ก่.ถึ. ว่�าจะต�องป็ระก่อบด้�ว่ย ผ��แที่นของหน�ว่ยราชก่ารที่��เก่��ยว่ข�อง ผ��แที่นขององคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��น และผ��ที่รงคื&ณว่&ฒ�จ�านว่นเที่�าๆ ก่�น

5)ก่ารให�ป็ระชาชนม�ส�ว่นรว่มในก่ารป็ก่คืรองที่�องถึ��นมาก่ข-�น ได้�แก่� ก่ารให�ป็ระชาชนถึอด้ถึอนสมาช�ก่สภาที่�องถึ��น และผ��บร�หารที่�องถึ��นได้� (มาตรา 286) และก่ารให�ป็ระชาชนสามารถึเสนอร�างก่ฎีหมายที่�องถึ��นได้� (มาตรา 287)

6)ก่ารก่�าก่�บด้�แล มาตรา 283 ว่รรคื 2 บ�ญ่ญ่�ต�เง��อนที่��ร �ฐจะไป็ก่�าก่�บด้�แลที่�องถึ��นให�เข�มงว่ด้มาก่ข-�น ก่ารก่�าก่�บด้�แลของร�ฐจะต�องม�เง��อนไขด้�งต�อไป็น��

- ต�องที่�าเที่�าที่��จ�าเป็ น- เพื่��อก่ารคื&�มคืรองป็ระโยชน�ของป็ระชาชนในที่�องถึ��น หร�อ

ป็ระโยชน�ของป็ระเที่ศเป็ นส�ว่นรว่ม- จะก่ระที่บถึ-งสาระส�าคื�ญ่แห�งหล�ก่ก่ารป็ก่คืรองตนเอง

ตามเจตนารมณ�ของป็ระชาชนในที่�องถึ��นไม�ได้�- จะก่�าก่�บด้�แลนอก่เหน�อจาก่ที่��ก่ฎีหมายบ�ญ่ญ่�ต�ไว่�ม�ได้�

คืณะผ��บร�หารที่�องถึ��นหร�อผ��บร�หารที่�องถึ��น

สมาช�ก่สภาที่�องถึ��น

ราษฎีรผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��งในองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นใด้ม�

ราษฎีรผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��งในองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นใด้ม�จ�านว่นไม�

1. ส�ที่ธ�ที่��จะจ�ด้ก่าร ศ-ก่ษาอบรมและก่ารฝ่Gก่อาช�พื่และ1. ต�อง 1. ให�มา

ก่ารออก่ข�อบ�ญ่ญ่�ต�ที่�องถึ��นโด้ยป็ระชาชน

ก่ารคืว่บคื&มสภาที่�องถึ��น

หร�อผ��บร�หารที่�อง

ส�ที่ธ�และอ�านาจหน�าที่��

ขององคื�ก่ร

ที่��มาของสมาช�ก่สภาที่�องถึ��นคืณะผ��บร�หารที่�องถึ��นหร�อผ��

บร�หารที่�องถึ��น

ก่ารป็ก่คืรองส�ว่น

Page 95: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2.กลัไกของร�ฐในื้ทางติ2ลัาการ2.1 การปฏิ�ร"ปโครงสร.างศาลั

เด้�มที่�น��นอาจจะก่ล�าว่ได้�ว่�า ป็ระเที่ศไที่ยม�ศาลเพื่�ยงศาลเด้�ยว่ คื�อ ศาลย&ต�ธรรมที่��ที่�าหน�าที่��พื่�จารณาพื่�พื่าก่ษาอรรคืด้� แม�จะม�ศาลที่หารแต�ก่8เป็ นศาลที่��ม�อ�านาจหน�าที่��อย�างจ�าก่�ด้ นอก่จาก่น�� ต&ลาก่ารร�ฐธรรมน�ญ่ก่8ย�งม�ใช�ศาลอย�างแที่�จร�ง ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นได้�จ�ด้ต��งศาลใหม�ข-� นอ�ก่ 2 ป็ระเภที่ ได้�แก่� ศาลร�ฐธรรมน�ญ่ และศาลป็ก่คืรอง คื��ขนานไป็ก่�บศาลย&ต�ธรรม

2.1.1 ศาลัร�ฐธรรมนื้"ญ1) องคื�ป็ระก่อบของศาลร�ฐธรรมน�ญ่ ตามาตรา 255 ม� 15 คืน

มาจาก่ผ��พื่�พื่าก่ษาศาลฎี�ก่า 5 คืน ต&ลาก่ารในศาลป็ก่คืรองส�งส&ด้ 2

คืน ผ��ที่รงคื&ณว่&ฒ�สาขาน�ต�ศาสตร� 5 คืน และผ��ที่รงคื&ณว่&ฒ�สาขาร�ฐศาสตร� 3 คืน อย�างไรก่8ตาม ในขณะที่��ย�งไม�ม�ศาลป็ก่คืรอง ศาลร�ฐธรรมน�ญ่จะป็ระก่อบด้�ว่ยต&ลาก่าร 13 คืน

2) อ�านาจหน�าที่��ของศาลร�ฐธรรมน�ญ่ คื�อ (1) มาตรา 47 ว่�น�จฉ�ยว่�ามต�หร�อข�อบ�งคื�บของพื่รรคื

ข�ด้ร�ฐธรรมน�ญ่(2) มาตรา 63 ว่�น�จฉ�ยก่รณ�บ&คืคืลหร�อพื่รรคืก่ารเม�อง

ล�มล�างระบอบป็ระชาธ�ป็ไตย อาจส��งย&บพื่รรคืได้�

ราษฎีรผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��งในองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นใด้ม�

ราษฎีรผ��ม�ส�ที่ธ�เล�อก่ต��งในองคื�ก่รป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นใด้ม�จ�านว่นไม�

1. ส�ที่ธ�ที่��จะจ�ด้ก่าร ศ-ก่ษาอบรมและก่ารฝ่Gก่อาช�พื่และ1. ต�อง 1. ให�มา

Page 96: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

(3) มาตรา 96 พื่�จารณาคื�าร�องจาก่ป็ระธานสภาฯ ว่�าสมาช�ก่ผ��ใด้ขาด้สมาช�ก่ภาพื่

(4) มาตรา 118 (8) พื่�จารณาคื�า ร�องอ&ที่ธรณ�จาก่ ส.ส. ที่��ถึ�ก่พื่รรคืม�มต�ให�พื่�นจาก่สมาช�ก่พื่รรคื

(5) มาตรา 142 พื่�จารณาคื�าร�องจาก่ป็ระธานร�ฐสภา ว่�าก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งขาด้คื&ณสมบ�ต�

(6) มาตรา 177 ว่�น�จฉ�ยก่รณ�เสนอร�างก่ฎีหมายที่��ม�หล�ก่ก่ารเด้�ยว่ก่�นเข�ามาในร�ฐสภาระหว่�างก่ารย�บย��ง

(7) มาตรา 180 ว่รรคื 6-7 ส.ส. และ ส.ว่. จ�านว่นไม�น�อยก่ว่�าร�อยละ 10 เสนอต�อศาลร�ฐธรรมน�ญ่ว่�า ส.ส. ส.ว่.

และก่รรมาธ�ก่ารม�ส�ว่นโด้ยอ�อม ในก่ารใช�งบป็ระมาณรายจ�ายหร�อไม�

(8) มาตรา 198 พื่�จารณาคืว่ามชอบด้�ว่ยร�ฐธรรมน�ญ่ของก่ฎีหมาย ตามที่��ผ��ตรว่จก่ารแผ�นด้�นของร�ฐสภาเสนอ

(9) ม า ต ร า 219 ว่� น� จ ฉ� ย ว่� า พื่ ร ะ ร า ช ก่�า ห น ด้ ข� ด้ร�ฐธรรมน�ญ่หร�อไม�

(10) มาตรา 262 ว่�น�จฉ�ยว่�าร�างก่ฎีหมายที่��ผ�านสภาแล�ว่ แต�ก่�อนลงพื่ระป็รมาภ�ไธยผ�ด้ร�ฐธรรมน�ญ่หร�อไม� ตามที่��สมาช�ก่ร�ฐสภาหร�อนายก่ร�ฐมนตร�เสนอ

(11) มาตรา 263 ว่�น�จฉ�ยว่�าร�างข�อบ�งคื�บก่ารป็ระช&มของสภาผ��แที่นราษฎีร ว่&ฒ�สภา และร�ฐสภา ข�ด้ร�ฐธรรมน�ญ่หร�อไม�

(12) ม า ต ร า 264 ว่� น� จ ฉ� ย ว่� า ก่ ฎี ห ม า ย ใ ด้ ข� ด้ ต� อร�ฐธรรมน�ญ่หร�อไม�ตามที่��ศาลส�งคืว่ามเห8นมา เม��อศาลเห8นเอง หร�อคื��คืว่ามยก่มาโต�แย�ง

(13) มาตรา 266 ว่�น�จฉ�ยคืว่ามเห8นที่�� องคื�ก่รหร�อป็ระธานร�ฐสภาส�งมาก่รณ�ที่��ม�ป็%ญ่หาเก่��ยว่ก่�บอ�านาจหน�าที่��ขององคื�ก่รต�างๆ ตามร�ฐธรรมน�ญ่

(14) มาตรา 315 พื่�จารณาคืว่ามชอบด้�ว่ยร�ฐธรรมน�ญ่ของระเบ�ยบของคืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งที่��ก่�าหนด้ข-�นใช�ก่�อนม�ก่ฎีหมายก่ารเล�อก่ต��ง ส.ส. โด้ยมาใช�บ�งคื�บก่�บก่ารเล�อก่ต��ง ส.ว่.

Page 97: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

(15) มาตรา 319 พื่�จารณาคืว่ามชอบด้�ว่ยร�ฐธรรมน�ญ่ของระเบ�ยบที่��คืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ ต��งก่�าหนด้ข-�นใช�ก่�อนม�ก่ฎีหมายคืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��ง

(16) มาตรา 321 พื่�จารณาคืว่ามชอบด้�ว่ยร�ฐธรรมน�ญ่ของระเบ�ยบ ป็.ป็.ป็. อ�นจ�า เป็ นต�อก่ารป็ฏ�บ�ต�หน�าที่��ของ ป็.ป็.ช. ก่�อนม�ก่ฎีหมาย ป็.ป็.ช

2.1.2 ศาลัปกครองร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นม�ใช�ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บแรก่ที่��บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ศาล

ป็ก่คืรอง เพื่ราะร�ฐธรรมน�ญ่ พื่.ศ.2517 และร�ฐธรรมน�ญ่ พื่.ศ.2534 ก่8ม�บที่บ�ญ่ญ่�ต�ในเร��องศาลป็ก่คืรองเช�นเด้�ยว่ก่�น แต�ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นเป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ที่��บ�ญ่ญ่�ต�เร��องศาลป็ก่คืรองในระบบ ศาลคื�� ซึ่-�งเป็ นระบบ“ ”

ที่��แยก่คืด้�ป็ก่คืรองออก่จาก่คืด้�แพื่�ง และคืด้�อาญ่าที่��ว่ไป็ คืด้�ป็ก่คืรองม�ศาลป็ก่คืรองที่�าหน�าที่��ว่�น�จฉ�ย คืด้�แพื่�งและคืด้�อาญ่าม�ศาลย&ต�ธรรมที่�าหน�าที่��ช��ขาด้ ศาลป็ก่คืรองและศาลย&ต�ธรรมต�างก่8ม�ศาล 3 ช��นเคื�ยงคื��ขนานก่�นไป็

ร�ฐธรรมน�ญ่มาตรา 276 บ�ญ่ญ่�ต�ให�ศาลป็ก่คืรองม�อ�านาจพื่�จารณาพื่�พื่าก่ษาคืด้�ที่��เป็ นคืด้�ข�อพื่�พื่าที่ระหว่�างหน�ว่ยราชก่าร หน�ว่ยงานของร�ฐ ร�ฐว่�สาหก่�จ หร�อราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น หร�อเจ�าหน�าที่��ของร�ฐที่��อย��ในบ�งคื�บบ�ญ่ชาหร�อในก่�าก่�บด้�แลของร�ฐบาลก่�บเอก่ชน หร�อระหว่�างหน�ว่ยราชก่าร

ศาลป็ก่คืรอง

ศาลป็ก่คืรองช��นอ&ที่ธรณ�

อ��นๆศาลภาษ�ศาลศาลอาญ่าศาลแพื่�ง

ศาลช��นต�น

ศาลอ&ที่ธรณ�

ศาลฎี�ก่าแผนก่คืด้�อาญ่าของน�ก่ก่ารเม�อง

ศาลป็ก่คืรองศาลฎี�ก่า

ศาลที่หารศาลป็ก่คืรองศาลย&ต�ธรรมศาล

ศาล

Page 98: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

หน�ว่ยงานของร�ฐ ร�ฐว่�สาหก่�จ หร�อราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น หร�อเจ�าหน�าที่��ของร�ฐที่��อย��ในบ�งคื�บบ�ญ่ชาหร�อในก่�าก่�บด้�แลของร�ฐบาลด้�ว่ยก่�น ซึ่-�งเป็ นข�อพื่�พื่าที่อ�นเน��องมาจาก่ก่ารก่ระที่�าหร�อก่ารละเว่�นก่ารก่ระที่�าที่��หน�ว่ยราชก่าร หน�ว่ยงานของร�ฐ ร�ฐว่�สาหก่�จ หร�อราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น หร�อเจ�าหน�าที่��ของร�ฐน��นต�องป็ฏ�บ�ต�ตามก่ฎีหมาย หร�อเน�� องจาก่ก่ารก่ระที่�าหร�อก่ารละเว่�นก่ารก่ระที่�าที่��หน�ว่ยราชก่ารของร�ฐ ร�ฐว่�สาหก่�จ หร�อราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น หร�อเจ�าหน�าที่��ของร�ฐน��น ต�องร�บผ�ด้ชอบในก่ารป็ฏ�บ�ต�หน�าที่��ตามก่ฎีหมาย

2.2 การปฏิ�ร"ปกระบวนื้การท�างานื้ของศาลั2.2.1 การนื้�+งพิ�จัารณาคด*

มาตรา 236 ของร�ฐธรรมน�ญ่บ�ญ่ญ่�ต�ว่�า ก่ารน��งพื่�จารณาคืด้�ของ“

ศาลจะต�องม�ผ��พื่�พื่าก่ษาหร�อต&ลาก่ารคืรบองคื�คืณะ และผ��พื่�พื่าก่ษาหร�อต&ลาก่ารซึ่-�งม�ได้�น��งพื่�จารณาคืด้�ใด้ จะที่�าคื�าพื่�พื่าก่ษาหร�อคื�าว่�น�จฉ�ยน��นม�ได้� เว่�นแต�ม�เหต&ส&ด้ว่�ส�ย หร�อม�เหต&จ�าเป็ นอ��นอ�นม�อาจก่�าว่ล�ว่งได้�”2.2.2 เพิ�+มความอ�สระในื้การพิ�จัารณาพิ�พิากษาอรรถคด*

มาตรา 249 ว่รรคื 2 บ�ญ่ญ่�ต�ว่�า ก่ารพื่�จารณาพื่�พื่าก่ษาอรรถึคืด้�“

ของผ��พื่�พื่าก่ษาและต&ลาก่ารไม�อย��ภายใต�ก่ารบ�งคื�บบ�ญ่ชาตามล�าด้�บข��น นอก่จาก่น�� มาตรา ” 249 ว่รรคื 5 ย�งบ�ญ่ญ่�ต�ว่�า ก่ารโยก่ย�ายผ��พื่�พื่าก่ษา“

และต&ลาก่าร โด้ยม�ได้�ร�บคืว่ามย�นยอมจาก่ผ��พื่�พื่าก่ษาและต&ลาก่ารน��นจะก่ระที่�าม�ได้� เว่�นแต�เป็ นก่ารโยก่ย�ายตามว่าระที่��ก่ฎีหมายบ�ญ่ญ่�ต� เป็ นก่ารเล��อนต�าแหน�งให�ส�งข-�น เป็ นก่รณ�ที่��อย��ในระหว่�างถึ�ก่ด้�าเน�นก่ารที่างว่�น�ย หร�อตก่เป็ นจ�าเลยในคืด้�อาญ่า

2.2.3 การจั1าย การเร*ยกค�นื้ แลัะการโอนื้ส�านื้วนื้คด*มาตรา 249 ว่รรคื 3 และ ว่รรคื 4 บ�ญ่ญ่�ต�ให� ก่ารจ�ายส�านว่นคืด้�

ต�องเป็ นไป็ตามหล�ก่เก่ณฑ์�ที่��ก่ฎีหมายบ�ญ่ญ่�ต�และก่ารเร�ยนคื�นส�านว่นคืด้�จะก่ระที่�าม�ได้� เว่�นแต�เป็ นก่รณ�ที่��จะก่ระที่บก่ระเที่�อนต�อคืว่ามย&ต�ธรรมในก่ารพื่�จารณาพื่�พื่าก่ษาอรรถึคืด้�

2.2.4 การให.ผู้".พิ�พิากษาท*+ครบเกษ*ยณอาย2ราชั้การสามารถด�ารงติ�าแหนื้1งผู้".พิ�พิากษาอาว2โสได.เป็ นที่��ที่ราบก่�นด้�ว่�าในป็%จจ&บ�นระบบศาลย&ต�ธรรมของเราน��น เป็ นระบบ

ที่��ม�ก่ารเล��อนต�าแหน�งไป็ตามอาย&ราชก่ารโด้ยระบบอาว่&โส ศาลช��นต�นจ-งแที่บ

Page 99: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ไม�ม�ผ��พื่�พื่าก่ษาอาว่& โสที่��ม�ป็ระสบก่ารณ�น��งพื่�จารณาพื่�พื่าก่ษาคืด้�เลย อ�นก่ระที่บต�อคื&ณภาพื่ของคื�า พื่�พื่าก่ษาของศาลช��นต�นเป็ นอย�างมาก่ ร�ฐธรรมน�ญ่มาตรา 334 (2) ได้�บ�ญ่ญ่�ต�ให�ม�ก่ารตราก่ฎีหมายก่�าหนด้หล�ก่เก่ณฑ์�ให�ผ��พื่�พื่าก่ษาศาลย&ต�ธรรมซึ่-�งจะม�อาย&คืรบ 60 ป็B บร�บ�รณ�ในป็Bงบป็ระมาณใด้ ไป็ด้�ารงต�าแหน�งผ��พื่�พื่าก่ษาอาว่& โส เพื่�� อน��งพื่�จารณาพื่�พื่าก่ษาคืด้�ในศาลช��นต�น ต��งแต�ว่�นถึ�ด้จาก่ว่�นส��นป็Bงบป็ระมาณที่��ม�อาย& 60

ป็Bบร�บ�รณ� จนถึ-งว่�นส��นป็Bงบป็ระมาณที่��ผ��พื่�พื่าก่ษาผ��น� �นอาย&คืรบ 60 ป็Bบร�บ�รณ� และหาก่ผ��พื่�พื่าก่ษาอาว่&โสใด้ผ�านก่ารป็ระเม�นตามที่��ก่ฎีหมายบ�ญ่ญ่�ต�ย�งม�สมรรถึภาพื่ในก่ารป็ฏ�บ�ต�หน�าที่�� ก่8ให�ด้�ารงต�าแหน�งต�อไป็จนถึ-งว่�นส��นป็Bงบป็ระมาณที่��ผ��พื่�พื่าก่ษาผ��น� �นม�อาย&คืรบ 70 ป็Bบร�บ�รณ�

2.2.5 การสร.างกลัไกในื้การชั้*ขาดข.อข�ดแย.งระหว1างศาลัติ1างๆเด้�มเร��องน��เป็ นอ�านาจหน�าที่��ของต&ลาก่ารร�ฐธรรมน�ญ่ อย�างไรก่8ตาม

ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นได้�เป็ล��ยน แป็ลงหล�ก่ก่ารด้�งก่ล�าว่ โด้ยบ�ญ่ญ่�ต�ให�เป็ นอ�านาจหน�าที่��ของคืณะก่รรมก่ารช&ด้หน-�ง มาตรา 248 บ�ญ่ญ่�ต�ว่�า ใน“

ก่รณ�ที่��ม�ป็%ญ่หาเก่��ยว่ก่�บอ�านาจหน�าที่��ระหว่�างศาลย&ต�ธรรม ศาลป็ก่คืรอง ศาลที่หาร หร�อศาลอ�� น ให�พื่�จารณาว่�น�จฉ�ยช��ขาด้โด้ยคืณะก่รรมก่ารคืณะหน-�ง ซึ่-�งป็ระก่อบด้�ว่ยป็ระธานศาลฎี�ก่าเป็ นป็ระธาน ป็ระธานศาลป็ก่คืรองส�งส&ด้ ป็ระธานศาลอ�� น และผ��ที่รงคื&ณว่&ฒ�อ�� นอ�ก่ไม�เก่�น 4 คืน ตามที่��ก่ฎีหมายบ�ญ่ญ่�ต�ไว่�เป็ นก่รรมก่าร

3.องค�กรอ�+นื้ๆ ติามร�ฐธรรมนื้"ญแนว่คืว่ามคื�ด้ที่��ถึ�อว่�าอ�านาจอธ�ป็ไตยแบ�งเป็ น 3 ป็ระเภที่ คื�อ อ�านาจน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�

อ�านาจบร�หาร และอ�านาจต&ลาก่ารน��น ก่ล�าว่ได้�ว่�าเป็ นแนว่คืว่ามคื�ด้ที่��ไม�ได้�ร�บก่ารยอมร�บในป็%จจ&บ�น ที่��งน��เพื่ราะม�อ�านาจอธ�ป็ไตยเพื่�ยงหน-�งเด้�ยว่ แต�แยก่ใช�โด้ยองคื�ก่รต�างๆ ตามร�ฐธรรมน�ญ่เที่�าน��น และในป็%จจ&บ�นร�ฐธรรมน�ญ่ไม�ได้�บ�ญ่ญ่�ต�ถึ-งองคื�ก่รน�ต�บ�ญ่ญ่�ต� องคื�ก่รบร�หาร และองคื�ก่รต&ลาก่ารเที่�าน��น องคื�ก่รหลายองคื�ก่รได้�ร�บก่ารจ�ด้ต��งข-�นตามร�ฐธรรมน�ญ่ และม�อ�านาจหน�าที่��แตก่ต�างก่�นเป็ นอย�างมาก่ จนน�าจะจ�ด้องคื�ก่รเหล�าน��ออก่มาอ�ก่ก่ล&�มต�างหาก่

ตามร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นม�องคื�ก่รที่��ได้�ร�บจ�ด้ต��งข-�นใหม�อย�� 6 องคื�ก่รด้�ว่ยก่�น

Page 100: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

3.1 สภูาท*+ปร&กษาเศรษฐก�จัแลัะส�งคมแห1งชั้าติ�สภาที่��ป็ร-ก่ษาเศรษฐก่�จและส�งคืมแห�งชาต�ม�หน�าที่��ที่��ส�าคื�ญ่ 2 ป็ระก่าร

(มาตรา 89) คื�อ(1) ให�คื�าป็ร-ก่ษา และข�อเสนอแนะต�อคืณะร�ฐมนตร�ใน

ป็%ญ่หาต�างๆ ที่��เก่��ยว่ก่�บเศรษฐก่�จและส�งคืม(2) ให�คืว่ามเห8นต�อแผนพื่�ฒนาเศรษฐก่�จและส�งคืมแห�ง

ชาต� หร�อแผ�นอ��นตามที่��ก่ฎีหมายก่�าหนด้

3.2 คณะกรรมการการเลั�อกติ�งคืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งป็ระก่อบด้�ว่ยป็ระธานก่รรมก่ารคืนหน-�งและ

ก่รรมก่ารอ�ก่ 4 คืน ซึ่-�งพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่รงแต�งต��งตามคื�าแนะน�าของว่&ฒ�สภา จาก่ผ��ซึ่-�งม�คืว่ามเป็ นก่ลางที่างก่ารเม�องและม�คืว่ามซึ่��อส�ตย�ส&จร�ตเป็ นที่��ป็ระจ�ก่ษ� (มาตรา 136)

คืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งม�อ�านาจหน�าที่��ด้�งต�อไป็น��(1) ออก่ป็ระก่าศก่�าหนด้ก่ารที่��งหลายอ�นจ�าเป็ นแก่�ก่ารป็ฏ�บ�ต�

ตามก่ฎีหมายตามมาคืรา 144 ว่รรคื 2(2) ม�ต�าส��งให�ข�าราชก่าร พื่น�ก่งาน หร�อล�ก่จ�างของหน�ว่ย

ราชก่าร หน�ว่ยงานของร�ฐ ร�ฐว่�สาหก่�จ หร�อราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น หร�อเจ�าหน�าที่��อ��นของร�ฐ ป็ฏ�บ�ต�ก่ารที่��งหลายอ�นจ�าเป็ นตามก่ฎีหมาย ตามมาตรา 144 ว่รรคื 2

(3) ส�บสว่นสอบสว่นเพื่��อหาข�อเที่8จจร�งและว่�น�จฉ�ยช��ขาด้ป็%ญ่หาหร�อข�อโต�แย�งที่��เก่�ด้ข-�นตามก่ฎีหมาย ตามมาตรา 144 ว่รรคื 2

(4) ส��งให�ม�ก่ารเล�อก่ต��งใหม�หร�ออก่เส�ยงป็ระชามต�ในหน�ว่ยเล�อก่ต��งใด้หน�ว่ยเล�อก่ต��งหน-�ง หร�อที่&ก่หน�ว่ยเล�อก่ต��ง เม��อม�หล�ก่ฐานอ�นคืว่รเช��อได้�ว่�าก่ารเล�อก่ต��งหร�อก่ารออก่เยงป็ระชามต�ในหน�ว่ยเล�อก่ต��งน��นๆ ม�ได้�เป็ นไป็โด้ยส&จร�ตและเที่��ยงธรรม

(5) ป็ระก่าศผลก่ารเล�อก่ต��งและก่ารออก่เส�ยงป็ระชามต�(6) ด้�าเน�นก่ารอ��น ตามที่��ก่ฎีหมายบ�ญ่ญ่�ต�

ในก่ารป็ฏ�บ�ต�หน�าที่�� คืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งม�อ�านาจเร�ยก่เอก่สารหร�อหล�ก่ฐานที่��เก่��ยว่ข�องจาก่บ&คืคืลใด้ หร�อเร�ยก่บ&คืคืลใด้มาให�ถึ�อยคื�า ตลอด้จนให�ศาล พื่น�ก่งานอ�ยก่าร พื่น�ก่งานสอบสว่น หน�ว่ยราชก่าร หน�ว่ยงานของร�ฐ ร�ฐว่�สาหก่�จ

Page 101: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

หร�อราชก่ารส�ว่นที่�องถึ��น ด้�าเน�นก่ารเพื่��อป็ระโยชน�แห�งก่ารป็ฏ�บ�ต�หน�าที่��ก่ารส�บสว่น สอบสว่น หร�อว่�น�จฉ�ยช��ขาด้

คืณะก่รรมก่ารก่ารเล�อก่ต��งม�อ�านาจแต�งต��งบ&คืคืล คืณะบ&คืคืล หร�อผ��แที่นองคื�ก่รเอก่ชน เพื่��อป็ฏ�บ�ต�หน�าที่��ตามที่��มอบหมาย (มาตรา 145)

3.3 ผู้".ติรวจัการแผู้1นื้ด�นื้ของร�ฐสภูาผ��ตรว่จก่ารแผ�นด้�นของร�ฐสภาม�จ�านว่นไม�เก่�น 3 คืน ซึ่-�งพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�

ที่รงแต�งต��งตามคื�าแนะน�าของว่&ฒ�สภา ม�อ�านาจหน�าที่��พื่�จารณา และสอบสว่นหาข�อเที่8จจร�งตามคื�าร�องเร�ยนและจ�ด้ที่�ารายงานพื่ร�อมที่��งคืว่ามเห8นและข�อเสนอแนะต�อร�ฐสภา

3.4 คณะกรรมการส�ทธ�มนื้2ษยชั้นื้คืณะก่รรมก่ารช&ด้น��ป็ระก่อบด้�ว่ยป็ระธานก่รรมก่ารคืนหน-�ง และก่รรมก่าร

อ��นอ�ก่ 10 คืน ซึ่-�งพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่รงแต�งต��งตามคื�าแนะน�าของว่&ฒ�สภา โด้ยคืณะก่รรมก่ารม�อ�านาจหน�าที่��อย�างก่ว่�างขว่างที่��งก่ารตรว่จสอบและรายงานก่ารละเม�ด้ส�ที่ธ�มน&ษยชน ก่ารเสนอแนะนโยบาย และก่ารป็ร�บป็ร&งก่ฎีหมาย ก่ารส�งเสร�มก่ารศ-ก่ษาและก่ารว่�จ�ย ก่ารส�งเสร�มคืว่ามร�ว่มม�อและป็ระสานงานระหว่�างองคื�ก่รต�างๆ จ�ด้ที่�ารายงานป็ระจ�าป็B เพื่��อเสนอต�อร�ฐสภา

3.5 คณะกรรมการติรวจัเง�นื้แผู้1นื้ด�นื้คืณะก่รรมก่ารช&ด้น��ป็ระก่อบด้�ว่ยป็ระธานก่รรมก่ารคืนหน-�ง และก่รรมก่าร

อ��นอ�ก่ 9 คืน ซึ่-�งพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่รงแต�งต��งตามคื�าแนะน�าของว่&ฒ�สภา ม�อ�านาจหน�าที่��ในก่ารตรว่จสอบบ�ญ่ช�ของหน�ว่ยงานต�างๆ

3.6 คืณะก่รรมก่ารป็Aองก่�นและป็ราบป็รามก่ารที่&จร�ตแห�งชาต� (ป็.ป็.ช.)

คืณะก่รรมก่ารช&ด้น��ป็ระก่อบด้�ว่ยป็ระธานคืณะก่รรมก่ารคืนหน-�ง และก่รรมก่ารผ��ที่รงคื&ณว่&ฒ�อ��นอ�ก่ 8 คืน ซึ่-�งพื่ระมหาก่ษ�ตร�ย�ที่รงแต�งต��งตามคื�าแนะน�าของว่&ฒ�สภาโด้ยม�อ�านาจหน�าที่��ที่��ส�าคื�ญ่ 4 ป็ระก่าร คื�อ

(1) ไต�สว่นข�อเที่8จจร�งและสร&ป็ส�านว่น พื่ร�อมที่��งคืว่ามเห8นเสนอต�อว่&ฒ�สภาว่�าผ��ด้�ารงต�าแหน�งที่างก่ารเม�อง และบ&คืคืลอ��นที่��มาตรา 303 บ�ญ่ญ่�ต�ไว่�ม�พื่ฤต�ก่ารณ�ร��ารว่ยผ�ด้ป็ก่ต� ส�อ

Page 102: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ไป็ในที่างที่&จร�ตต�อหน�าที่�� ส�อว่�าก่ระที่�าผ�ด้ต�อต�าแหน�งหน�าที่��ราชก่าร ส�อว่�าก่ระผ�ด้ต�อต�าแหน�งหน�าที่��ในก่ารย&ต�ธรรม หร�อส�อว่�าจงใจใช�อ�านาจหน�าที่��ข�ด้ต�อบที่บ�ญ่ญ่�ต�แห�งร�ฐธรรมน�ญ่ หร�อก่ฎีหมาย เพื่��อให�ว่&ฒ�สภาถึอด้ถึอนออก่จาก่ต�าแหน�ง

(2) ไต�สว่นข�อเที่8จจร�ง และสร&ป็ส�านว่นพื่ร�อมที่��งที่�าคืว่ามเห8นส�งไป็ย�งศาลฎี�ก่าแผนก่คืด้�อาญ่าของผ��ด้�ารงต�าแหน�งที่างก่ารเม�อง ในก่รณ�ที่��ผ��ด้�ารงต�าแหน�งที่างก่ารเม�องถึ�ก่ก่ล�าว่หาว่�าร��า รว่ยผ�ด้ป็ก่ต� ก่ระที่�าคืว่ามผ�ด้ต�อต�า แหน�งหน�าที่��ราชก่ารตามป็ระมว่ลก่ฎีหมายอาญ่า หร�อก่ระที่�าคืว่ามผ�ด้ต�อต�าแหน�งหน�าที่�� หร�อที่&จร�ตต�อหน�าที่��ตามก่ฎีหมายอ��น

(3) ไต�สว่นและว่�น�จฉ�ยว่�าเจ�าหน�าที่��ของร�ฐร��ารว่ยผ�ด้ป็ก่ต� ก่ระที่�าคืว่ามผ�ด้ฐานที่&จร�ตต�อหน�าที่��หร�อก่ระที่�าคืว่ามผ�ด้ต�อต�า แหน�งหน�าที่��ราชก่าร หร�อคืว่ามผ�ด้ต�อต�า แหน�งหน�าที่�� ในก่ารย&ต�ธรรม เพื่��อด้�าเน�นก่ารต�อไป็ ตามก่ฎีหมายป็ระก่อบร�ฐธรรมน�ญ่ว่�าด้�ว่ยก่ารป็Aองก่�นและป็ราบป็รามก่ารที่&จร�ต

(4) ตรว่จสอบคืว่ามถึ�ก่ต�องและคืว่ามม�อย��จร�ง รว่มที่��งคืว่ามเป็ล��ยนแป็ลงที่ร�พื่ย�ส�น และหน��ส�นของผ��ด้�ารงต�าแหน�งต�างๆ ตามบ�ญ่ช�และเอก่สารป็ระก่อบที่��ได้�ย��นไว่�

หลั�กการเข*ยนื้เร*ยงความ1. ลั�กษณะของย1อหนื้.าท*+ด*1.1 ม�เอก่ภาพื่ ม�ใจคืว่ามส�าคื�ญ่เพื่�ยงหน-�งเด้�ยว่เที่�าน��น ก่�าหนด้จ&ด้ม&�งหมายเป็ น

ป็ระโยคืใจคืว่ามส�าคื�ญ่เน��อหาสาระของข�อคืว่ามที่��น�ามาเข�ยนขยายน��นต�องม�ใจคืว่ามเป็ นเร��องเด้�ยว่ก่�นก่�บป็ระโยคืใจคืว่ามส�าคื�ญ่

Page 103: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1.2 ม�คืว่ามสมบ�รณ� ส�ว่นต�างๆ ป็ระสานเข�าหาก่�นไม�ม�ส�ว่นใด้ขาด้ตก่บก่พื่ร�อง ต�องเข�ยนอย�างม�จ&ด้ม&�งหมาย ม�เน��อหาสาระ ม�รายละเอ�ยด้ ส�ว่นขยายที่��ช�ด้เจนไม�ออก่นอก่เร��องได้�เน��อคืว่ามบร�บ�รณ�

1.3 ม�ส�มพื่�นธภาพื่ ข�อคืว่ามหร�อป็ระโยคืแต�ละป็ระโยคืที่��เร�ยงต�อก่�นน��นม�คืว่ามเก่��ยว่เน��องต�ด้ต�อเป็ นเร��องเด้�ยว่ก่�น จ�ด้ล�าด้�บคืว่ามคื�ด้ให�เป็ นป็ระโยคืต�อเน��องก่�นด้�ว่ยเน��อหา โด้ยอาจจ�ด้ล�าด้�บคืว่ามคื�ด้ตามเว่ลา (เหต&ก่ารณ�ก่�อนหล�ง) ตามพื่��นที่�� (ใก่ล�ไป็หาไก่ล/ข�างบนไป็หาข�างล�าง/ซึ่�ายไป็ขว่า/เหน�อไป็หาใต�) จาก่คื�าถึามไป็ส��คื�าตอบ (คื�าถึามไว่�เป็ นป็ระโยคืแรก่แล�ว่จ�ด้หาป็ระโยคืขยายตามล�าด้�บเพื่��อให�ได้�คื�าตอบเป็ นผลล�พื่ธ�ตอนที่�ายของย�อหน�า) จาก่รายละเอ�ยด้ไป็ส��ข�อสร&ป็ (หร�อจาก่ข�อสร&ป็ไป็ส��รายละเอ�ยด้) และจาก่เหต&ไป็ส��ผล

1.4 ม�สาร�ตถึภาพื่ ย��าเน�นใจคืว่ามส�าคื�ญ่เพื่��อให�ผ��อ�านที่ราบเจตนาโด้ยอาจว่างต�าแหน�งป็ระโยคืใจคืว่ามส�าคื�ญ่ในตอนต�นหร�อตอนที่�ายของย�อหน�า ก่ารย��าเน�นด้�ว่ยคื�าว่ล�หร�อป็ระโยคืซึ่��าๆ ก่�นบ�อยๆ ภายในย�อหน�า (ที่�าให�ผ��อ�านเข�าใจถึ-งจ&ด้ม&�งหมายหร�อคืว่ามคื�ด้ส�าคื�ญ่ที่��ผ��เข�ยนต�องก่ารส��อสารถึ-งผ��อ�าน) รว่มถึ-งก่ารย��าเน�นอย�างม�ส�ด้ส�ว่น

1.5 ใช�คื�าเช��อมได้�อย�างเหมาะสม (คื�าส�นธานหร�อว่ล�) ที่�าให�ข�อคืว่ามสละสลว่ย ไม�ใช�ซึ่��าซึ่าก่ ใช�ภาษาถึ�ก่ต�องตามแบบแผน ใช�ภาษาระด้�บเด้�ยว่ก่�น ไม�ใช�ส�านว่นภาษาต�างป็ระเที่ศ อ�านแล�ว่ไม�ต�ด้ข�ด้เหม�อนได้�อ�านเร�ยงคืว่ามส��นๆ หน-�งเร��อง

2. การเข*ยนื้ประโยคใจัความส�าค�ญเป:นื้ย1อหนื้.า2.1 ให�คื�าจ�าก่�ด้คืว่าม อธ�บายคื�าหร�อว่ล�ให�ผ��อ�านเข�าใจ2.2 ให�รายละเอ�ยด้ เพื่��อให�ได้�ย�อหน�าที่��เน��อหาสาระม�คืว่ามสมบ�รณ�2.3 ยก่ต�ว่อย�าง ที่�าให�เข�าใจคืว่ามคื�ด้ส�าคื�ญ่หร�อป็ระโยคืใจคืว่ามส�าคื�ญ่ได้�

ช�ด้เจนแจ�มแจ�ง2.4 เป็ร�ยบเที่�ยบ ก่ารเป็ร�ยบเที่�ยบส��งใด้ส��งหน-�งก่�บอ�ก่ส��งหน-�ง หร�ออาจจะเป็ น

ในล�ก่ษณะอ&ป็มาโว่หารหร�อยก่เป็ นอ&ที่าหรณ�2.5 แสด้งเหต&และผล เหมาะส�าหร�บงานเข�ยนที่��ต�องก่ารว่�เคืราะห�ว่�จารณ�หร�อ

แสด้งคืว่ามคื�ด้เห8น

3. การเข*ยนื้ค�านื้�า เนื้�อเร�+อง แลัะสร2ป3.1 คื�าน�า เป็ นส�ว่นแรก่ของงานเข�ยนที่��จะสร�างคืว่ามน�าสนใจ ด้-งด้�ด้และ

ที่�าที่ายให�ผ��อ�านอยาก่ร� �อยาก่อ�านข�อเที่8จจร�งและข�อคื�ด้เห8นต�างๆ ที่��ผ��เข�ยนรว่บรว่มมาเสนอในเน��อเร��อง เพื่ราะคื�าน�าที่��ด้�จะที่�าให�ผ��อ�านที่ราบได้�ต� �งแต�ต�นว่�าก่�าล�งจะได้�อ�านเก่��ยว่ก่�บอะไร ต�องม�คืว่ามระม�ด้ระว่�งเป็ นพื่�เศษในก่ารเข�ยนคื�าน�าให�เหมาะสมก่�บก่ล&�มผ��อ�าน

Page 104: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สอด้คืล�องก่�บจ&ด้ป็ระสงคื�ในก่ารเข�ยนและก่ารเสนอเน��อเร��อง ป็ระก่อบก่�บก่ารใช�ศ�ลป็ะก่ารเข�ยนเฉพื่าะตน

3.2 เน��อเร��อง เป็ นส�ว่นที่��ยาว่ที่��ส&ด้ของงานเข�ยน เน��องจาก่เป็ นส�ว่นที่��รว่บคืว่ามคื�ด้และข�อม�ลที่��งหมด้ที่��ผ��เข�ยนคื�นคืว่�ารว่บรว่มมาเสนออย�างม�ระเบ�ยบ ม�ระบบ และเป็ นข��นตอน ที่�าให�ผ��อ�านร�บร� �และเข�าใจสาระส�าคื�ญ่ที่��งหมด้ได้�อย�างแจ�มแจ�ง ก่อป็รไป็ด้�ว่ยเหต&ผลและข�อเที่8จจร�งที่��เช��อมโยงก่�นตลอด้

3.2.1 รว่บรว่มข�อม�ล คืว่ามคื�ด้ ป็ระสบก่ารณ� ข�อเที่8จจร�ง3.2.2 ว่างโคืรงเร��องให�สอด้คืล�องก่�บป็ระเด้8นที่��จะน�าเสนอ3.2.3 น�าห�ว่ข�อต�างๆ มาเข�ยนขยายคืว่ามให�เป็ นย�อหน�าที่��ด้�3.2.4 ม�ป็ระเด้8นมาก่พื่อให�ผ��อ�านสนใจ3.2.5 ต�องใช�ที่�ว่งที่�านองก่ารเข�ยนให�สอด้คืล�องก่�บล�ก่ษณะเน��อหา ตรงตาม

ว่�ยคืว่ามสนใจของผ��อ�าน3.3 ก่ารสร&ป็ เป็ นก่ารบอก่ให�ผ��อ�านที่ราบว่�าข�อม�ลที่��งหมด้ที่��เสนอมาได้�จบลง

แล�ว่ (ในย�อหน�าที่��ผ�านมา) จะเป็ นช�ว่ยย��าให�ผ��อ�านที่ราบว่�างานเข�ยนที่��ได้�อ�านม�จ&ด้ม&�งหมายอย�างไร ได้�ข�อคื�ด้หร�อแนว่ที่างอะไรเพื่��มเต�มจาก่ก่ารอ�านคืร��งน��บ�างที่��ส�าคื�ญ่คื�อก่ารสร&ป็จะต�องม�คืว่ามสอด้คืล�องก่�บเน��อเร��องตรงตามจ&ด้ป็ระสงคื�ของผ��เข�ยนจ-งจะที่�าให�ผ��อ�านเก่�ด้คืว่ามป็ระที่�บใจ

ก่ลว่�ธ�: แสด้งคืว่ามเห8นของผ��เข�ยน (เห8นด้�ว่ย ข�ด้แย�ง เสนอแนะ ช�ก่ชว่น ฯลฯ) / สด้&ด้�เก่�ยรต�คื&ณ คื&ณป็ระโยชน� / คื�าถึามที่��ชว่นให�ผ��อ�านคื�ด้หาคื�าตอบหร�อตอบคื�าถึามที่��ต� �งไว่�ในคื�าน�า / ก่ล�าว่ถึ-งข�อด้� ข�อบก่พื่ร�อง หร�อเสนอแนะให�เห8นป็ระโยชน� / ให�ก่�าล�งใจแก่�ผ��อ�าน / สาระส�าคื�ญ่ที่��ต�องก่ารให�ผ��อ�านที่ราบ / บที่ก่ลอน คื�าคืมส&ภาษ�ต ข�อคืว่าม หร�อคื�าพื่�ด้ของบ&คืคืลส�าคื�ญ่

ต�ด้ตอนและสร&ป็จาก่:

ราตร� ธ�นว่ารชร, “ก่ารเข�ยนย�อหน�า และ เจ�ยรน�ย ศ�ร�สว่�สด้�L” , “ก่ารเข�ยนคื�าน�า เน��อเร��อง และสร&ป็ ใน”

คืณาจารย�ภาคืว่�ชาภาษาไที่ย คืณะศ�ลป็ศาสตร� มหาว่�ที่ยาล�ยธรรมศาสตร�, ก่ารใช�ภาษาไที่ย 1. พื่�มพื่�คืร��งที่�� 4. ก่ร&งเที่พื่ฯ: ส�าน�ก่พื่�มพื่�มหาว่�ที่ยาล�ยธรรมศาสตร�, 2543. หน�า 80-92 และ 105-112

Page 105: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ว�ธ*การติอบข.อสอบอ�ตินื้�ย1. ข.อสอบท*+ม21งให.อธ�บายว�ติถ2ประสงค� ม21งให.อธ�บายว�ธ*การหร�ออธ�บาย

ความร".ในื้เร�+องติ1างๆล�ก่ษณะคื�าถึาม ให�คื�าจ�าก่�ด้คืว่าม / ให�รายละเอ�ยด้ที่��เป็ นข�อเที่8จจร�ง / ให�เป็ร�ยบ

เที่�ยบ : “คื�ออะไร ” / “ม�คืว่ามหมายว่�าอย�างไร ” / “จงอธ�บาย ” / “จงเป็ร�ยบเที่�ยบ”

- ข��นตอนก่ารตอบ1) พื่�จารณาล�ก่ษณะของคื�าถึามว่�าม&�งให�ตอบในป็ระเด้8นใด้2) รว่บรว่มคืว่ามร� �ที่��เป็ นข�อม�ลส�าคื�ญ่ซึ่-�งอาจได้�จาก่ก่ารอ�าน ก่ารฟิ%ง ก่ารส�งเก่ต

และก่ารศ-ก่ษาคื�นคืว่�า3) จ�ด้ระเบ�ยบคืว่ามร� �คืว่ามคื�ด้ให�เป็ นหมว่ด้หม��แล�ว่เร�ยบเร�ยงคืว่ามคื�ด้น��นตาม

ล�าด้�บ4) อาจม�ต�ว่อย�าง เหต&ผล หล�ก่ฐานอ�างอ�ง หร�อก่ารเป็ร�ยบเที่�ยบตามคืว่าม

จ�าเป็ น5) ต�องเร�ยบเร�ยงถึ�อยคื�าให�เข�าใจง�าย น�าสนใจ น�าอ�าน และล�าด้�บคืว่ามคื�ด้ให�

ต�อเน��องก่�น อย�าให�ว่ก่ว่น- แนว่ก่ารตอบ

Page 106: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1) ก่ารให�คื�าจ�าก่�ด้คืว่าม อธ�บายให�ส��นร�ด้ก่&มและช�ด้เจน2) ก่ารยก่ต�ว่อย�าง ช�ว่ยให�ก่ารอธ�บายช�ด้เจนและเข�าใจง�ายข-�น3) ก่ารเป็ร�ยบเที่�ยบ ล�ก่ษณะที่��เหม�อนก่�นหร�อล�ก่ษณะที่��แตก่ต�างก่�น บางคืร��ง

อาจต�องบอก่ข�อด้�ข�อเส�ยของส��งที่��น�ามาเป็ร�ยบก่�นเพื่��อให�คื�าตอบก่ระจ�างช�ด้ ในบางก่รณ�ส��งที่��อธ�บายน��นม�ล�ก่ษณะเข�าใจยาก่ ผ��ตอบอาจต�องเป็ร�ยบเที่�ยบก่�บส��งที่��เข�าใจได้�ง�าย

4) ก่ารแสด้งเหต&ผล แสด้งว่�าอะไรเป็ นสาเหต& อะไรเป็ นผล อาจตอบอธ�บายจาก่ผลไป็ส��สาเหต&หร�อจาก่สาเหต&ไป็ส��ผลก่8ได้�

5) ก่ารอธ�บายตามล�าด้�บข��น ถึามเก่��ยว่ก่�บก่รรมว่�ธ�หร�อก่ระบว่นก่ารที่��ม�ข� �นตอน2. ข.อสอบท*+ม21งให.แสดงความค�ดเห<นื้ว่�ตถึ&ป็ระสงคื� ต�องก่ารให�ผ��ตอบใช�เหต&ผลและหล�ก่ฐานอ�างอ�งป็ระก่อบ เพื่��อ

ให�ก่ารแสด้งคืว่ามคื�ด้เห8นของตนน�าเช��อถึ�อหร�อน�าน�าไป็ป็ฏ�บ�ต�ได้� ล�ก่ษณะคื�าถึาม เห8น“

ด้�ว่ยหร�อไม� ” / “จงแสด้งคืว่ามคื�ด้เห8น ” / “ที่�าไม”

- องคื�ป็ระก่อบของข�อสอบ1) เร��อง อ�านคื�าถึามให�เข�าใจ และพื่ยายามจ�บป็ระเด้8นว่�า ต�องเข�ยนแสด้งคืว่าม

คื�ด้เห8นเก่��ยว่ก่�บเร��องใด้ แต�ถึ�าล�ก่ษณะข�อสอบเป็ นก่ารต�ด้ตอนข�อคืว่ามหร�อหย�บยก่เร��องราว่มาป็ระก่อบคื�าถึาม เพื่��อให�อ�านและแสด้งคืว่ามคื�ด้เห8น ผ��ตอบต�องจ�บใจคืว่ามส�าคื�ญ่และต�คืว่ามเพื่��อจ�บป็ระเด้8นส�าคื�ญ่จาก่เร��องให�คืรบถึ�ว่นก่�อนแล�ว่จ-งตอบคื�าถึาม หร�อเสนอคืว่ามคื�ด้เห8นของตน

2) ข�อม�ลหร�อคืว่ามร� �ที่��จ�าเป็ น ต�องม�คืว่ามร� �คืว่ามเข�าในในเร��องที่��ตนเสนออย�างแจ�มแจ�ง และสามารถึเล�อก่ใช�ข�อม�ลได้�อย�างเหมาะสม อาจจะเป็ นได้�ที่��งข�อเที่8จจร�งที่��ได้�ร�บก่ารพื่�ส�จน�แล�ว่และข�อคื�ด้เห8นของผ��อ��นซึ่-�งผ��ตอบใช�อ�างอ�ง ส��งส�าคื�ญ่ก่8คื�อคืว่รเล�อก่แหล�งข�อม�ลที่��น�าเช��อได้� เพื่ราะข�อม�ลที่��จะน�ามาใช�ต�องถึ�ก่ต�องและช�ด้เจน

3) เหต&ผล ม&�งให�เก่�ด้คืว่ามคืล�อยตามและยอมร�บ เหต&ผลที่��อ�างอ�งอาจได้�จาก่ข�อเที่8จจร�งที่��ศ-ก่ษามาหร�อเป็ นป็ระสบก่ารณ�ก่8ได้� คืว่รจะม�น��าหน�ก่น�าเช��อถึ�อ ไม�คืว่รป็ล�อยให�อารมณ�หร�ออคืต�คืรอบง�า เพื่ราะจะที่�าให�ข�อเข�ยนขาด้คืว่ามเที่��ยงตรงได้�

4) หล�ก่ฐาน ม� 2 ป็ระเภที่ ได้�แก่� หล�ก่ฐานที่างตรง (ได้�จาก่ป็ระสบก่ารณ�ของผ��เข�ยนเองจ-งเป็ นหล�ก่ฐานที่��น�าเช��อถึ�อที่��ส&ด้) และหล�ก่ฐานที่างอ�อม (ได้�จาก่เอก่สารหร�อคื�าบอก่เล�าของผ��อ��น ซึ่-�งต�องอาศ�ยก่ารต�คืว่ามป็ระก่อบแต�ก่8เป็ นที่��น�ยมก่�นมาก่) อาจป็ราก่ฏในร�ป็ต�างๆ เช�น ข�อเที่8จจร�ง สถึ�ต� ต�ว่เลย ต�ว่อย�างเหต&ก่ารณ�

- ข��นตอนก่ารตอบ

Page 107: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1) ส�งเก่ตคื�าถึามและพื่ยายามจ�บป็ระเด้8นส�าคื�ญ่จาก่คื�าถึามว่�า ข�อสอบม&�งให�แสด้งคืว่ามคื�ด้เห8นเก่��ยว่ก่�บเร��องใด้ในแง�ม&มใด้บ�าง

2) ผ��ตอบต�องบอก่ได้�ว่�าตนม�คืว่ามคื�ด้เห8นเก่��ยว่ก่�บเร��องหร�อข�อคืว่ามที่��ได้�อ�านอย�างไร ต�องก่ารสน�บสน&น (คืว่รช��ให�เห8นคื&ณป็ระโยชน�หร�อผลด้�) หร�อโต�แย�ง (ต�องช��ข�อบก่พื่ร�องหร�อผลเส�ย) ก่8เข�ยนให�ช�ด้เจน หาก่ในข�อคืว่ามที่��อ�านม�ก่ารเสนอคืว่ามคื�ด้เห8นมาก่�อน ผ��ตอบต�องพื่ยายามสน�บสน&นหร�อห�ก่ล�างคืว่ามเห8นเหล�าน��นด้�ว่ยเหต&ผลและหล�ก่ฐานให�คืว่ามถึ�ว่นที่&ก่ป็ระเด้8น ก่รณ�ที่��ข�อคืว่ามน��นม�ป็ระเด้8นที่��น�าสนใจหลายป็ระเด้8น ผ��ตอบอาจจะเห8นคืล�อยตามคืว่ามคื�ด้เห8นบางป็ระเด้8นและข�ด้แย�งบางป็ระเด้8นก่8ได้� คืว่รเข�ยนเสนอให�ช�ด้เจนว่�าเห8นด้�ว่ยก่�บป็ระเด้8นใด้และไม�เห8นด้�ว่ยก่�บป็ระเด้8นใด้พื่ร�อมที่��งช��แจ�งเหต&ผลด้�ว่ย

3) เสนอคืว่ามคื�ด้เห8นใหม�ๆ ของผ��ตอบเอง เข�ยนได้�อย�างอ�สระ แต�ถึ�าเป็ นก่ารก่�าหนด้ข�อคืว่ามหร�อเร��องราว่มาแล�ว่ ส��งที่��ผ��ตอบพื่-งระว่�งก่8คื�ออย�าเสนอคืว่ามคื�ด้เห8นซึ่��าซึ่�อนก่�บคืว่ามคื�ด้ที่��ม�ป็ราก่ฏอย��แล�ว่ในคื�าถึามโด้ยไม�ได้�เสนอคืว่ามคื�ด้เห8นใหม�ๆ ที่��เป็ นของตนเพื่��มเต�ม ไม�เพื่�ยงแต�ต�องใช�เหต&ผลและหล�ก่ฐานอ�างอ�งเพื่��อเสร�มให�คืว่ามคื�ด้เห8นน��นน�าเช��อถึ�อเที่�าน��น แต�ต�องจ�ด้ล�าด้�บคืว่ามคื�ด้ เพื่ราะก่ารร� �จ�ด้จ�ด้ว่างข�อม�ล อ�างอ�งเหต&ผลและหล�ก่ฐานอย�างเป็ นระบบจะช�ว่ยให�ผ��อ�านเข�าใจและเก่�ด้คืว่ามเห8นคืล�อยตามได้�ง�าย

4) สร&ป็ป็ระเด้8นเก่��ยว่ก่�บคืว่ามคื�ด้เห8นที่��ส�าคื�ญ่ซึ่-�งต�องก่ารเสนอไว่�ตอนที่�ายเร��อง เพื่��อให�คื�าตอบสมบ�รณ�และย�งเป็ นก่ารย��าให�ผ��อ�านได้�น�าข�อคื�ด้ไป็พื่�จารณาใคืร�คืรว่ญ่ต�อไป็

5) ผ��ตอบสามารถึเล�อก่ตอบได้� 2 ล�ก่ษณะ คื�อ ล�ก่ษณะแรก่เป็ นก่ารเข�ยนคืว่ามเร�ยง (คื�าน�า ส�ว่นเน��อเร��องและส�ว่นสร&ป็) ใช�ในก่รณ�ที่��เป็ นก่ารเข�ยนเสนอคืว่ามคื�ด้เห8นที่��ม�หลายป็ระเด้8นต�องอ�างอ�งเหต&ผลหลายป็ระก่ารเพื่��อให�ผ��อ�านเก่�ด้คืว่ามเห8นคืล�อยตาม อ�ก่ล�ก่ษณะหน-�งคื�อ ก่ารเข�ยนแสด้งคืว่ามคื�ด้เห8นโด้ยตรง ม&�งตอบต�าถึามให�ตรงป็ระเด้8น เห8นด้�ว่ย หร�อ ไม�เห8นด้�ว่ย ต�องแสด้งคืว่ามเห8นให�ช�ด้เจนโด้ยไม�จ�าเป็ น“ ” “ ”

ต�องม�อาร�มภบที่ แต�คืว่รสร&ป็ในตอนที่�ายอ�ก่คืร��งเพื่��อย��าป็ระเด้8นส�าคื�ญ่

3. ข.อสอบท*+ม21งให.อภู�ปรายว่�ตถึ&ป็ระสงคื� ผ��ตอบต�องแยก่แยะป็ระเด้8นของเร��องที่��จะเข�ยนอภ�ป็รายได้�ช�ด้เจน

และว่�เคืราะห�ได้�คืรบถึ�ว่นที่&ก่ป็ระเด้8น ต�องช��ให�เห8นข�อด้�ข�อเส�ย สาเหต&และแนว่ที่างในก่ารแก่�ไขป็%ญ่หา ตลอด้จนข�อเสนอแนะอ�นเป็ นป็ระโยชน� ล�ก่ษณะคื�าถึาม จง“

อภ�ป็ราย”

- องคื�ป็ระก่อบของข�อสอบ

Page 108: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1) เร��อง ม� 2 ล�ก่ษณะ คื�อ ก่. เร��องที่��เป็ นข�อม�ลที่��ว่ๆ ไป็ เพื่��อให�ผ��ตอบได้�เสนอที่�ศนะและข�อม�ลเก่��ยว่ก่�บเร��อง

ด้�งก่ล�าว่หลายๆ ด้�านพื่ร�อมเหต&ป็ระก่อบ ขณะเด้�ยว่ก่�นก่ารได้�อ�านนานาที่�ศนะย�อมที่�าให�ผ��อ�านม�คืว่ามร� �และม�ที่�ศนะที่��ก่ว่�างขว่างย��งข-�น

ข. เร��องที่��เป็ นป็%ญ่หาในส�งคืม ซึ่-�งผ��ตอบต�องก่ารให�ผ��อ�านเป็ล��ยนที่�ศนะหร�อเป็ล��ยนนโยบายใหม� ม�ก่เป็ นป็%ญ่หาส�ว่นรว่มที่��ที่&ก่ฝ่Eายต�องร�ว่มม�อแก่�ไข ที่��งย�งม&�งพื่�จารณาป็%ญ่หาเร��องน��นๆ ที่&ก่ด้�านเพื่��อหาข�อสร&ป็ และแนว่ที่างป็ฏ�บ�ต�ที่��ก่�อให�เก่�ด้ผลด้�

2) ข�อม�ล หร�อคืว่ามร� �ที่��ได้�จาก่หล�ก่ฐานหร�อเหต&ก่ารณ�ที่��เก่�ด้ข-�นซึ่-�งเก่��ยว่ก่�บเร��องที่��อภ�ป็ราย

3) คืว่ามคื�ด้เห8นของผ��ตอบ คืว่รเสนอคืว่ามคื�ด้เห8นที่��แป็ลก่ใหม�นอก่เหน�อจาก่ข�อม�ลที่��ได้�จาก่คืว่ามคื�ด้เห8นของผ��อ��น

4) ข�อเสนอแนะ เสนอแนว่ที่างในก่ารป็ฏ�บ�ต� หร�อว่�ธ�แก่�ไขป็%ญ่หาที่��น�าสนใจและสามารถึน�าไป็ป็ฏ�บ�ต�ได้�

5) เหต&ผล ช�ว่ยเพื่��มน��าหน�ก่ที่�าให�คื�าตอบน�าสนใจย��งข-�น เหต&ผลที่��ใช�ในก่ารเข�ยนอภ�ป็รายจะม�ที่��งเหต&ผลป็ระก่อบคืว่ามคื�ด้เห8นและเหต&ผลป็ระก่อบข�อเสนอแนะ

6) หล�ก่ฐานอ�างอ�ง ใช�สน�บสน&นก่ารเสนอเหต&ผลเก่��ยว่ก่�บเร��องที่��อภ�ป็รายให�หน�ก่แน�นย��งข-�น

- ข��นตอนก่ารตอบ1) อาร�มภบที่ น�าเข�าส��เร��อง เน��อหาส�ว่นน��จะเก่��ยว่ก่�บคืว่ามร� �ที่� �ว่ไป็ คืว่ามส�าคื�ญ่

หร�อคืว่ามเป็ นมาของเร��องที่��จะเข�ยนอภ�ป็รายในก่รณ�ที่��เป็ นก่ารเข�ยนอภ�ป็รายป็%ญ่หาส�ว่นรว่มผ��ตอบอาจจะก่ล�าว่ถึ-งผลก่ระที่บจาก่ป็%ญ่หาน��น

2) เน��อเร��อง ในก่ารน�าเสนอผ��ตอบจ�าเป็ นต�องแยก่แยะป็ระเด้8นต�างๆ อย�างช�ด้เจน ถึ�าเป็ นก่ารเข�ยนอภ�ป็รายป็%ญ่หาส�ว่นรว่ม คืว่รเสนอสาเหต&ของป็%ญ่หา ว่�ธ�แก่�ไข รว่มที่��งข�อเสนอแนะต�างๆ ให�คืรบถึ�ว่น คืว่รพื่�จารณาป็%ญ่หาที่&ก่ด้�านอย�างรอบคือบ ก่ารเข�ยนอภ�ป็รายแต�ละป็ระเด้8นต�องละเอ�ยด้ม�เหต&ผลม�หล�ก่ฐานอ�างอ�งเพื่��อให�ผ��อ�านเข�าใจป็%ญ่หาและร� �จ�ก่ว่�ธ�แก่�ไขป็%ญ่หาได้�อย�างแที่�จร�ง ส�ว่นก่ารใช�ข�อม�ลป็ระก่อบอาจเข�ยนอ�างอ�งโด้ยก่ารให�รายละเอ�ยด้ ก่ารยก่ต�ว่อย�าง หร�อก่ารเป็ร�ยบเที่�ยบเพื่��อให�เก่�ด้คืว่ามคื�ด้เห8นคืล�อยตามได้�ง�าย

3) ข�อเสนอแนะในช�ว่งที่�ายของเน��อเร��อง อาจจะเป็ นข�อคื�ด้หร�อแนว่ที่างแก่�ไขป็%ญ่หาอ�นเป็ นป็ระโยชน�เพื่��มเต�มในก่ารเข�ยนอภ�ป็รายม�ก่ม�ป็ระเด้8นที่��ต�องก่ล�าว่ถึ-งมาก่มาย ด้�งน��นผ��ตอบจ-งคืว่รจ�ด้ล�าด้�บข�อคืว่ามให�เหมาะสมตามหล�ก่ก่ารใช�เหต&ผลและ

Page 109: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จ�ด้เป็ นป็ระเด้8นใหญ่�ป็ระเด้8นย�อยให�ช�ด้เจน ป็ระเด้8นใด้ม�คืว่ามส�าคื�ญ่คืว่รก่ล�าว่ถึ-งก่�อน ส�ว่นป็ระเด้8นที่��ส�าคื�ญ่รองลงมาก่8ก่ล�าว่ถึ-งในล�าด้�บถึ�ด้ไป็

ส�ว่นก่ารเข�ยนอภ�ป็รายเก่��ยว่ก่�บป็%ญ่หาส�ว่นรว่ม ม�ว่�ธ�จ�ด้ล�าด้�บป็ระเด้8นที่��น�าสนใจ 2 ว่�ธ� คื�อ ว่�ธ�แรก่ ก่ล�าว่ถึ-งสาเหต&ของป็%ญ่หาที่��งหมด้ ต�อจาก่น��นจ-งเสนอว่�ธ�แก่�ไขป็%ญ่หาน��นที่&ก่ป็%ญ่หา ส�ว่นว่�ธ�ที่��สองเป็ นก่ารเสนอสาเหต&ของป็%ญ่หาก่�บว่�ธ�แก่�ไขป็%ญ่หาเป็ นข�อๆ ไป็จนก่ระที่��งพื่�จารณาป็%ญ่หาได้�คืรบที่&ก่ข�อ ก่ารร� �จ�ก่ล�าด้�บป็ระเด้8นจะช�ว่ยให�ผ��อ�านไม�ส�บสนและสามารถึอ�านข�อเข�ยนได้�เข�าใจย��งข-�น

4) บที่สร&ป็ คืว่รย��าป็ระเด้8นส�าคื�ญ่ที่��ต�องก่ารเสนอหร�อช��ให�เห8นว่�า ถึ�าสามารถึป็ฏ�บ�ต�ตามแนว่ที่างที่��เสนอแนะได้�ย�อมก่�อให�เก่�ด้ผลด้�

5) ส��งส&ด้ที่�ายที่��ผ��ตอบคืว่รคื�าน-งก่8คื�อ ก่ารจ�ด้ส�ด้ส�ว่นของเน��อหาให�เหมาะสม ส�ว่นที่��เป็ นเน��อเร��องคื�องม�มาก่ก่ว่�าส�ว่นที่��เป็ นคื�าน�าและบที่สร&ป็

4. ข.อเสนื้อแนื้ะในื้การติอบข.อสอบอ�ตินื้�ย1) ก่�อนตอบข�อสอบที่&ก่คืร��ง จะต�องอ�านคื�าถึามแล�ว่ต�คืว่ามคื�าถึามน��นให�

ก่ระจ�างว่�า ถึามเร��องอะไร ม�ก่��ป็ระเด้8น ล�ก่ษณะคื�าถึามม&�งให�อธ�บาย แสด้งคืว่ามคื�ด้เห8น หร�ออภ�ป็ราย

2) ระด้มคืว่ามร� � คืว่ามคื�ด้ เหต&ผล เพื่��อตอบให�ตรงคื�าถึาม3) ว่างโคืรงเร��อง เพื่��อจ�ด้ระเบ�ยบเน��อเร��องเป็ นข��นตอนและเพื่��อให�คืรอบคืล&มที่&ก่

ป็ระเด้8นของคื�าถึาม4) เร�ยบเร�ยงและจ�ด้ล�าด้�บคืว่ามคื�ด้ในแต�ละย�อหน�าให�เหมาะสม5) คืว่รน�าเหต&ผล ต�ว่อย�าง หล�ก่ฐาน ข�อเที่8จจร�ง หร�อป็ระสบก่ารณ�คืว่ามร� �ที่��ได้�

ศ-ก่ษาคื�นคืว่�ามาป็ระมว่ลก่�นเข�าเพื่��อให�คื�าตอบน��นม�คืว่ามสมบ�รณ�มาก่ที่��ส&ด้6) ก่ารใช�ภาษา ในก่ารตอบข�อสอบต�องใช�ภาษาแบบแผนหร�อก่-�งแบบแผน ไม�

คืว่รใช�ภาษาป็าก่ อ�ก่ษรย�อหร�อต�ด้คื�า และต�องใช�คื�าที่��ส��อคืว่ามหมายตรง ส��น ก่ระช�บ แต�ได้�ใจคืว่าม นอก่จาก่น��ในก่ารตอบข�อสอบป็ระเภที่แสด้งคืว่ามคื�ด้เห8นและอภ�ป็รายคืว่รใช�ภาษาโน�มน�าว่ใจผ��อ�านให�คืล�ายคืว่ามคื�ด้ของผ��ตอบด้�ว่ย

7) คืว่รเข�ยนที่ว่นคื�าถึามเส�ยก่�อนแล�ว่จ-งตอบ ยก่เว่�นก่ารตอบข�อสอบที่��ม&�งให�อภ�ป็รายเป็ นคืว่ามเร�ยงคืว่รเข�ยนด้�ว่ยหม-ก่ส�เข�ม ใช�ลายม�อที่��อ�านง�าย ไม�คืว่รม�รอยข�ด้ ลบ ข�ด้ฆ่�า ถึ�าจ�าเป็ นก่8ที่�าอย�างเร�ยบร�อย

9) ต�องคื�าน-งถึ-งเว่ลาซึ่-�งม�จ�าก่�ด้ คืว่รแบ�งเว่ลาให�ถึ�ก่จะได้�ตอบคืรบที่&ก่ข�อ10) คืว่รตรว่จที่าน ถึ-งแม�จะว่างแผนก่ารเข�ยนตอบอย�างรอบคือบแล�ว่ก่8ตาม

แต�ก่ารตรว่จที่านจะช�ว่ยให�เพื่��มเต�มข�อคืว่ามหร�อแก่�ไขข�อบก่พื่ร�องที่��งด้�านเน��อหาและก่ารใช�ภาษาซึ่-�งรว่มที่��งเร��องต�ว่สะก่ด้ด้�ว่ย

Page 110: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ต�ด้ตอนและสร&ป็จาก่: นว่ลที่�พื่ย� เพื่��มเก่ษร และ ม.ล.คื�ายว่ง ว่ราส�ที่ธ�ช�ย, “ก่ารตอบข�อสอบอ�ตน�ย ใน คืณาจารย�ภาคืว่�ชาภาษาไที่ย คืณะศ�ลป็ศาสตร� มหาว่�ที่ยาล�ย”

ธรรมศาสตร�, ก่ารใช�ภาษาไที่ย 1. พื่�มพื่�คืร��งที่�� 4. ก่ร&งเที่พื่ฯ: ส�าน�ก่พื่�มพื่�มหาว่�ที่ยาล�ยธรรมศาสตร�, 2543. หน�า 116-129

ติ�วอย1างข.อสอบอ�ตินื้�ย แลัะเร*ยงความ1. ข.อสอบอ�ตินื้�ย น�ก่เร�ยนที่&ก่คืนจะต�องตอบข�อสอบด้�ว่ยก่ารฝ่นว่งก่ลมลงในก่ระด้าษคื�าตอบ

โด้ยข�อสอบจะม�ที่��งหมด้ 60 ข�อ แต�ละข�อจะม� 5 ต�ว่เล�อก่ ม�เว่ลา 1 ช��ว่โมงติ�วอย1างข.อสอบในื้ป) 2547

1. พื่รรคืไที่ยร�ก่ไที่ยม�ธ&รก่�จภาคืใด้สน�บสน&นมาก่ที่��ส&ด้ตอบ ก่ารส��อสารโที่รคืมนาคืม 2. ระยะเว่ลาของก่ารเล�อก่ต��งป็ระธานาธ�บด้�สหร�ฐตอบ 4 ป็Bต�อคืร��ง 3. จอร�จ ด้�บเบ�ลย� บ&ช (George W. Bush) อย��พื่รรคื ตอบ ร�พื่�บล�ก่�น (Republican)

4. ป็ระเที่ศไที่ยม�ที่��งหมด้ก่��ก่ระที่รว่ง ตอบ 20 ก่ระที่รว่ง5. ใคืรด้�ารงต�าแหน�งป็ระธานคืณะก่รรมก่ารส�ที่ธ�มน&ษยชนตอบ ศ.เสน�ห� จามร�ก่6. เลขาธ�ก่ารสหป็ระชาชาต�ชาว่เอเช�ยคืนแรก่ และคืนเด้�ยว่ คื�อ ตอบ อ�ถึ��น(U Thant)

7. ผ��น�าคืนใด้ลงจาก่ต�าแหน�งหล�งจาก่ก่ารป็ระช&ม APEC ที่��ก่ร&งเที่พื่ฯ ตอบ มหาเธร� (Mahathir)

8. APEC ที่��ก่ร&งเที่พื่ฯ เป็ นคืร��งที่��เที่�าไหร� ตอบ คืร��งที่�� 11

9. ป็ระเที่ศใด้เป็ นพื่�นธม�ตรนอก่ก่ล&�มนาโต�ป็ระเที่ศล�าส&ด้ ตอบ ป็ระเที่ศไที่ย

Page 111: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

10. ผ��น�าในภ�ม�ภาคืเอเช�ยคืนใด้ที่��ก่ล�าโต�แย�งสหร�ฐ ตอบ มหาเธร� (Mahathir)

11. สงคืรามใด้ถึ�อเป็ นสงคืรามฆ่�าล�างเผ�าพื่�นธ&�ในที่ศว่รรษ 1990

ตอบ โคืโซึ่โว่ (Kosovo)

12. ป็ระเที่ศใด้เพื่��งขอก่ล�บเข�าเป็ นสมาช�ก่ย�เนสโก่�ใหม� ตอบ จ�น13. ป็ระเที่ศใด้ที่��ไม�ใช�สมาช�ก่ถึาว่รคืณะมนตร�คืว่ามม��นคืงแห�งสหป็ระชาชาต� ตอบ ญ่��ป็&Eน14. อาเซึ่�ยน + 3 สามป็ระเที่ศที่��มาเพื่��มเต�มนอก่จาก่อาเซึ่�ยน คื�อป็ระเที่ศใด้

บ�างตอบ จ�น เก่าหล�ใต� ญ่��ป็&Eน 15. ผ��น�ามาเลเซึ่�ยหล�งจาก่ที่��มหาเธร�ลงจาก่ต�าแหน�ง คื�อใคืร ตอบ บาด้าว่� (Badawi)

16. ใคืรเป็ นจะเจ�าภาพื่จ�ด้ก่ารป็ระช&มเอเป็คืในป็B 2004

ตอบ ช�ล� 17. ศาลไที่ยม�ก่��ระบบ ตอบ 4 ระบบ18. จ�านว่นสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีรม�จ�านว่นเที่�าใด้ตอบ 500 คืน19. ศาลฎี�ก่าแผนก่คืด้�อาญ่าผ��ด้�ารงต�าแหน�งที่างก่ารเม�องอย��ในศาลใด้ตอบ ศาลย&ต�ธรรม20. ช��อใหม�ของ 14 ต&ลา คื�อตอบ 14 ต&ลาว่�นป็ระชาธ�ป็ไตย 21. ป็ระเที่ศไที่ยม�ก่ารเล�อก่ต��งคืร��งแรก่เม��อป็Bใด้ ตอบ ป็B 2516

22. ป็ระเที่ศไที่ยเร��มม�ก่ารป็ระช&มสภาเสนาบด้�สม��าเสมอเม��อใด้ตอบ ร�ชก่าลที่�� 523. ก่ารป็ก่คืรองส�ว่นที่�องถึ��นของไที่ยในป็%จจ&บ�นม�ก่��แบบ ตอบ 5 แบบ24. ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บแรก่ของไที่ยป็ระก่าศใช�ในว่�นที่��เที่�าไร ตอบ 27 ม�ถึ&นายน 2475

25. พื่�ธ�ฮื�ญ่จ�ป็ระก่อบที่��เม�องใด้

Page 112: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตอบ เมก่ก่ะ (Mecca)

26. ก่ล&�มอ�ก่ษะแห�งคืว่ามช��ว่ร�ายของสหร�ฐป็ระก่อบใด้ชาต�ใด้บ�าง ตอบ อ�หร�านและ เก่าหล�เหน�อ27. มหาเธร�เป็ นนายก่ร�ฐมนตร�ของป็ระเที่ศใด้ ตอบ มาเลเช�ย 28. ใคืรเป็ นนายก่ร�ฐมนตร�ที่��ไม�ได้�มาจาก่ก่ารเล�อก่ต��ง ตอบ ธาน�นที่� ก่ร�ยว่�เช�ยร ส�ญ่ญ่า ธรรมศ�ก่ด้�L และอาน�นที่� ป็%นยารช&น29. ผ��อ�านว่ยก่าร WTO คื�อใคืรตอบ ด้ร.ศ&ภช�ย พื่าน�ชภ�ก่ด้�L30. องคื�ก่ารเจรจาก่ารคื�าระหว่�างป็ระเที่ศอย��ส�งก่�ด้ก่ระที่รว่งใด้ตอบ ก่ระที่รว่งพื่าณ�ชย�31. “ธรรมาภ�บาล ภาษาอ�งก่ฤษ คื�อ ”

ตอบ Good Governance

32. ป็ระเที่ศที่��ร�ว่มก่�บสหร�ฐฯ รบก่�บอ�ร�ก่คื�อป็ระเที่ศใด้ตอบ อ�งก่ฤษ 33. ใคืร คื�อ ผ��ก่�อต��งองคื�ก่รส�นน�บาตชาต� ตอบ ว่�ด้โรว่� ว่�ลส�น (Woodrow Wilson)

34. ฉ�นที่ามต�ว่อช�งต�น (Washington Consensus) เก่��ยว่ข�องก่�บเร��องใด้ ตอบ เศรษฐก่�จ [ม�หล�ก่ก่าร 4 ข�อ คื�อ Liberalization, Privatization,

Deregulation, Regulatory]35. ป็ระเที่ศใด้เป็ นสมาช�ก่ของ WTO ล�าด้�บที่�� 147

ตอบ จ�น36. ป็ระเที่ศไที่ยใช�ระบบก่ารป็ก่คืรองแบบใด้ตอบ ร�ฐสภา 37. ป็ระเที่ศใด้ป็ก่คืรองแบบเผด้8จก่ารส�งคืมน�ยม ตอบ คื�ว่บา จ�น และเก่าหล� 38. ใคืร คื�อ ผ��ร �เร��มแนว่คื�ด้ล�ที่ธ�คือมม�ว่น�สต� ตอบ คืาร�ล มาร�ก่ (Karl Marx)

39. “เอ��ออาที่ร เร�ยก่อ�ก่อย�างว่�า ”

ตอบ ป็ระชาสงเคืราะห� 40. สมาช�ก่ว่&ฒ�สภา (ส.ว่.) ไม�ม�อ�านาจ และหน�าที่�ะไรตอบ อภ�ป็รายไม�ไว่�ว่างใจสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร (ส.ส.)

41. ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บที่�� 16 แตก่ต�างจาก่ฉบ�บอ��นย�งไง

Page 113: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตอบ เป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บแรก่ที่��เป็ นร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็ระชาชน42. ศาลร�ฐธรรมน�ญ่ม�หน�าที่��อะไรตอบ เป็ นองคื�ก่รอ�สระที่�าหน�าที่��ต�คืว่ามร�ฐธรรมน�ญ่เม��อเก่�ด้ป็%ญ่หาข�อข�ด้แย�ง

ระหว่�างองคื�ก่ร43. ต�าแหน�งข�าราชก่ารป็ระจ�าข�อใด้เป็ นต�าแหน�งส�งส&ด้ ตอบ ป็ล�ด้ก่ระที่รว่ง44. องคื�ป็ระก่อบของร�ฐตามที่��เร�ยนมา 3 อย�าง คื�อ ตอบ ป็ระชาชน ด้�นแด้น ร�ฐบาล [บางต�ารา: อย�างที่�� 4 คื�อ อ�านาจอธ�ป็ไตย]

45. ว่�นใด้ คื�อ ว่�นคืล�ายว่�นสถึาป็นาคืณะร�ฐศาสตร� มหาว่�ที่ยาล�ยธรรมศาสตร�ตอบ ว่�นที่��14 ม�ถึ&นายน

ติ�วอย1างข.อสอบในื้ป) 2548

1. ป็ฏ�ญ่ญ่าพื่&ก่ามม�ป็ระเที่ศใด้เข�าร�ว่มบ�างตอบ ไที่ย ก่�มพื่�ชา พื่ม�า ลาว่2. CITES เก่��ยว่ก่�บเร��องอะไร ตอบ พื่�นธ&�พื่�ช และส�ตว่�ป็Eาหายาก่3. NATO ม�สมาช�ก่ก่��ป็ระเที่ศตอบ 26 ป็ระเที่ศ4. ใคืร คื�อ นายก่ร�ฐมนตร�มาเลเซึ่�ยคืนป็%จจ&บ�น ตอบ บาด้าว่� (Badawi)

5. ก่ารป็ร�บคืณะร�ฐมนตร�คืร��งล�าส&ด้เป็ นคืร��งที่��เที่�าไหร� ตอบ คืร��งที่�� 10 [ณ เว่ลาที่��ที่�าข�อสอบ]

Page 114: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

6. สมาช�ก่อาเซึ่�ยน (ASEAN) ม�ที่��งหมด้ก่��ป็ระเที่ศตอบ 10 ป็ระเที่ศ7. BIMST-EC ม�สมาช�ก่ใหม� 2 ป็ระเที่ศล�าส&ด้ คื�อป็ระเที่ศใด้ตอบ เนป็าล ภ�ฏาน8. ส�ว่นป็ระก่อบของร�ฐม�อะไรบ�างตอบ ด้�นแด้น ป็ระชาก่ร ร�ฐบาล อ�านาจอธ�ป็ไตย9. ร�ฐเด้��ยว่จะม�ล�ก่ษณะใด้ตอบ รว่มศ�นย�ก่ารป็ก่คืรอง และม�ร�ฐบาลเพื่�ยงร�ฐบาลเด้�ยว่ คื�อ ร�ฐบาลก่ลางม�

อ�านาจส�งส&ด้10. ข�อใด้ไม�ใช�จ&ด้ป็ระสงคื�ของพื่รรคืก่ารเม�องตอบ [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

11. WTO ที่��ป็ระช&มก่�นรอบล�าส&ด้ เร�ยก่ว่�ารอบอะไร ตอบ รอบโด้ฮืา [เด้�อนพื่ฤศจ�ก่ายน ป็B 2001]

12. สนธ�ส�ญ่ญ่ามาสที่ร�ก่ช� (Maastricht Treaty) ก่�อให�เก่�ด้องคื�ก่ารใด้ตอบ สหภาพื่ย&โรป็ 13. อาเซึ่�ยน + 3 สามป็ระเที่ศที่��มาเพื่��มเต�มนอก่จาก่อาเซึ่�ยน คื�อป็ระเที่ศใด้

บ�างตอบ จ�น เก่าหล�ใต� ญ่��ป็&Eน 14. WTO ถึ�อก่�าเน�ด้ ณ ที่��ใด้ ตอบ โมรอคืโคื [ในเด้�อนเมษายนป็B 1994]

15. ป็ระเที่ศใด้ไม�ใช�สมาช�ก่ APEC

ตอบ อ&ร&ก่ว่�ย [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

16. ป็ระเที่ศใด้ที่��ไม�ได้�ก่�� IMF

ตอบ [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

17. NAFTA (North America Free Trade Agreement) ป็ระก่อบด้�ว่ยป็ระเที่ศใด้บ�าง

ตอบ สหร�ฐอเมร�ก่า แคืนาด้า เม8ก่ซึ่�โก่18. ก่ารป็ก่คืรองที่�องถึ��นคืร��งแรก่ของไที่ย คื�อตอบ ส&ขาภ�บาล19. ก่ารป็ระช&มเสนาบด้�อย�างสม��าเสมอเร��มข-�นเม��อใด้ตอบ ร�ชก่าลที่�� 520. One-Stop Service คื�ออะไร

Page 115: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตอบ เป็ นแนว่คื�ด้ที่��น�ามาจาก่ภาคืเอก่ชน ซึ่-�งในเช�งบร�หารร�ฐก่�จเร�ยก่ว่�า ก่าร“

จ�ด้ก่ารสาธารณะสม�ยใหม�”21. อมาตยธ�ป็ไตย คื�ออะไร ตอบ ก่ารป็ก่คืรองโด้ยม�ระบบข�าราชก่ารเป็ นผ��ก่�าหนด้นโยบายในก่ารบร�หาร

ป็ระเที่ศ22. ใคืร คื�อ บ&คืคืลส�าคื�ญ่ของมหาว่�ที่ยาล�ยธรรมศาสตร�ต� �งแต�อด้�ตจนถึ-ง

ป็%จจ&บ�นตอบ [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

23. “ที่�ก่ษ�ณาน&ว่�ตร น�ก่ว่�จารณ�คืนใด้เป็ นผ��เร��มใช�อย�างเป็ นที่างก่าร ”

ตอบ ธ�รย&ที่ธ บ&ญ่ม�24. ป็ระเที่ศไที่ยเสนอใคืรเข�าช�งต�าแหน�งเลขาธ�ก่ารสหป็ระชาชาต� (UN)

ตอบ ด้ร.ส&รเก่�ยรต�L เสถึ�ยรไที่ย25. ก่ารเล�อก่ต��งป็ระธานาธ�บด้�ของสหร�ฐฯ เป็ นแบบใด้ตอบ Electoral Vote

26. ป็ระชาส�งคืม (Civil Society) คื�ออะไรตอบ ล�ก่ษณะส�งคืมที่��ภาคืป็ระชาชนเข�ามาม�ส�ว่นร�ว่มในที่างก่ารเม�องอย�างก่ว่�าง

ขว่าง27. ข�อใด้ไม�ใช�องคื�ก่รอ�สระตามร�ฐธรรมน�ญ่ตอบ [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

28. สภาที่��ป็ระชาชนที่��ว่ไป็ 99 คืน ที่��ม�หน�าที่��ให�คื�าแนะน�าต�อร�ฐบาลคื�อ ตอบ สภาที่��ป็ร-ก่ษาเศรษฐก่�จและส�งคืมแห�งชาต�29. ข�อใด้ถึ�อเป็ นส�ที่ธ�ใหม�ตามร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�น ตอบ ป็ระชาชน 50,000 คืนสามารถึเข�าช��อถึอด้ถึอนข�าราชก่ารระด้�บส�งหร�อผ��

ด้�ารงต�าแหน�งที่างก่ารเม�อง30. ป็ระเที่ศใด้ป็ก่คืรองแบบก่-�งร�ฐสภาก่-�งป็ระธานาธ�บด้� ตอบ ฝ่ร��งเศส31. ก่ารที่&จร�ตใด้ที่��ป็ระชาชนเร�ยก่ร�องให�ตรว่จสอบแต�ได้�ระง�บก่ารด้�าเน�นงาน

ไป็แล�ว่ ตอบ ที่&จร�ตคืลองด้�าน32. ก่ร&งเที่พื่ฯ โพื่ลช�ว่งเด้�อนต&ลาคืม คื�อ เร��องใด้ ตอบ ก่ารเม�อง ก่ารเล�อก่ต��ง33. ก่ร&งเที่พื่ฯ โพื่ลส�ารว่จพื่บว่�า ว่�ยร& �นชอบพื่�ด้คื&ยเร��องใด้

Page 116: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตอบ ก่�น เที่��ยว่ ช8อป็ป็=� ง34. อาเซึ่�ยน (ASEAN) ก่�อต��งข-�นเม��อใด้ และม�สมาช�ก่ก่�อต��งก่��ป็ระเที่ศ ตอบ ก่�อต��งป็B 1967 ม�สมาช�ก่ก่�อต��ง 5 ป็ระเที่ศ คื�อ (อ�นโด้น�เซึ่�ย มาเลเซึ่�ย

ฟิ=ล�ป็ป็=นส� ส�งคืโป็ร� และไที่ย)

35. ป็%จจ&บ�นสหภาพื่ย&โรป็ (EU) ม�สมาช�ก่ก่��ป็ระเที่ศ ตอบ 25 ป็ระเที่ศ36. ว่�นที่�� 1 เมษายน ของที่&ก่ป็B เป็ นว่�นอะไรตอบ April’s fool day หร�อ All fool’s day แป็ลภาษาไที่ยว่�า ว่�นเมษา“

คืนโง�”37. ฉ�นที่ามต�ว่อช�งต�น (Washington Consensus) ไม�เก่��ยว่ก่�บอะไร ตอบ [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

38. ว่�ก่ฤตเศรษฐก่�จป็B 2540 ไม�ได้�เก่��ยว่ก่�บอะไรตอบ [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

39. อะไรที่��ไม�ม�ในพื่ระราชบ�ญ่ญ่�ต�ก่ารจ�ด้ระเบ�ยบก่ารป็ก่คืรองราชก่าร ตอบ ต�าบล หม��บ�าน40. สมาช�ก่ว่&ฒ�สภา (ส.ว่.) ในป็ระเที่ศไที่ยไม�ม�หน�าที่��ใด้ ตอบ อภ�ป็รายไม�ไว่�ว่างใจ41. ศาลไที่ยม�ก่��ระบบ ตอบ 4 ระบบ คื�อ ศาลย&ต�ธรรม ศาลป็ก่คืรอง ศาลที่หาร ศาลร�ฐธรรมน�ญ่42. ศาลฎี�ก่าของผ��ด้�ารงต�าแหน�งที่างก่ารเม�องอย��ส�งก่�ด้ศาลใด้ ตอบ ศาลย&ต�ธรรม43. ฝ่Eายบร�หารและฝ่Eายน�ต�บ�ญ่ญ่�ต�คืานอ�านาจก่�นตามร�ฐธรรมน�ญ่ไที่ยได้�

ยก่เว่�นข�อใด้ตอบ ร�ฐมนตร�ต�องไม�ด้�ารงต�าแหน�งสมาช�ก่สภาผ��แที่นราษฎีร [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่

ป็ระก่อบ]

44. พื่จนาน&ก่รมที่��บ�ญ่ญ่�ต�ศ�พื่ที่�ใหม�ๆ ของว่�ยร& �น เป็ นของส�าน�ก่พื่�มพื่�ใด้ ตอบ มต�ชน45. ป็ระเที่ศใด้ไม�ใช�สมาช�ก่ OPEC

ตอบ บร�ไน [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

46. ข�อใด้ไม�ใช�ที่บว่งช�านาญ่พื่�เศษของสหป็ระชาชาต� (UN)

ตอบ [ต�องด้�ต�ว่เล�อก่ป็ระก่อบ]

47. ราก่ศ�พื่ที่�ของคื�าว่�า ป็ระชาธ�ป็ไตย คื�ออะไร“ ”

Page 117: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตอบ มาจาก่คื�า 3 คื�า คื�อ Demos (ป็ว่งชน) + Kratein (ป็ก่คืรอง) หร�อ Kratos (อ�านาจ)

48. ป็ระเที่ศไที่ยและจ�นเร��มคืว่ามส�มพื่�นธ�ย&คืสม�ยใหม�ตอนไหน ตอบ ต��งแต� 1 ก่รก่ฎีาคืม 2518 โด้ย ม.ร.ว่. คื-ก่ฤที่ธ�L ป็ราโมช ได้�เด้�นที่างไป็

เย�อนสาธารณร�ฐป็ระชาชนจ�น49. เหต&ก่ารณ� 9/11 เก่�ด้ข-�นในป็Bใด้ ตอบ ป็B 2001

50. แผนพื่�ฒนาเศรษฐก่�จและส�งคืมแห�งชาต�ฉบ�บป็%จจ&บ�นเป็ นฉบ�บที่��เที่�าใด้ ตอบ ฉบ�บที่�� 9 (2545-2549)

56. จ�งหว่�ด้ใด้บ�างของไที่ยใช�ก่ฎีหมายอ�สลาม ตอบ ยะลา ป็%ตตาน� นราธ�ว่าส และสต�ล

2. ข.อสอบเร*ยงความ น�ก่เร�ยนที่&ก่คืนจะต�องเข�ยนตอบด้�ว่ยป็าก่ก่า โด้ยจะม�ก่ระด้าษขนาด้เอ 4 ให�

จ�านว่น 2 แผ�น ม�เว่ลา 1 ช��ว่โมงติ�วอย1างข.อสอบในื้ป) 2547

- สาขาก่ารเม�องก่ารป็ก่คืรอง1. ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นเป็ นฉบ�บที่��เที่�าไหร�? ป็ระก่าศใช�เม��อป็Bใด้? และม�

ที่��งหมด้ก่��มาตรา?2. น�ก่เร�ยนคื�ด้ว่�าเหต&ก่ารณ�คืว่ามร&นแรงที่��เก่�ด้ข-�น ณ อ.จะนะ ข�ด้ต�อ

ร�ฐธรรมน�ญ่หร�อไม�? เพื่ราะเหต&ใด้?

- สาขาก่ารระหว่�างป็ระเที่ศที่�านคื�ด้ว่�าสหร�ฐอเมร�ก่าจะที่�าก่ารบ&ก่อ�ร�ก่หร�อไม� ถึ�าบ&ก่แล�ว่ผลส&ด้ที่�ายจะเป็ น

อย�างไร และที่�านคื�ด้ว่�าสหร�ฐอเมร�ก่าม�เหต&ผลอะไรในก่ารที่�าสงคืราม จงแสด้งคืว่ามคื�ด้เห8น

- สาขาบร�หารร�ฐก่�จที่�านม�คืว่ามคื�ด้เห8นอย�างไรต�อโคืรงก่ารเอ��ออาที่รของร�ฐบาลช&ด้ป็%จจ&บ�น

ติ�วอย1างข.อสอบในื้ป) 2548

- สาขาก่ารเม�องก่ารป็ก่คืรอง1. ร�ฐธรรมน�ญ่ฉบ�บป็%จจ&บ�นเป็ นฉบ�บที่��เที่�าไหร�? ป็ระก่าศใช�เม��อป็Bใด้? และม�

ที่��งหมด้ก่��มาตรา?

Page 118: เอกสารเนื้อหาประกอบการติว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2. ก่ารที่��ม�พื่รรคืไที่ยร�ก่ไที่ยสามารถึคืรองเส�ยงข�างมาก่ในสภามาก่ก่ว่�า 400

เส�ยง ม�ส�าคื�ญ่หร�อไม�อย�างไร? และส�งผลก่ระที่บต�อก่ารเม�องไที่ยอย�างไร?

- สาขาก่ารระหว่�างป็ระเที่ศก่ารที่��สหร�ฐฯ บ&ก่อ�ร�ก่ถึ�อเป็ นก่ารร&ก่ล��าอธ�ป็ไตยอ�ร�ก่หร�อไม� และอ�านาจอธ�ป็ไตย

หมายถึ-งอะไร?

- สาขาบร�หารร�ฐก่�จจงเข�ยนเร��อง คืว่ามป็ระที่�บใจในก่ารบร�ก่ารของภาคืร�ฐ“ ”